รส วรรณ คดี
รสวรรณคดไี ทย
จนยี ์ วร เสา บทชมโฉม ค อื การเล่าชมความงามของตวั ละครในเรื่อง อาจเปน็ ตวั ละครทเ่ี ปน็ มนุษย์ อมนุษย์ หรือสตั ว์ ซึ่งการชมนอี้ าจจะ เปน็ การชมความเก่งกล้าของกษตั ริย์ ความงามของ ปราสาทราชวังหรือความเจรญิ รงุ่ เรอื งของ บ้านเมือง เชน่ บทชมนางเงือก ซ่ึงติดตามพ่อแม่มาเพือ่ พาพระอภัยมณหี นีนางผเี ส้ือสมุทร จากเร่ือง พระอภัยมณี หน่อกษัตริย์ทัศนานางเงือกนอ้ ย ดแู ช่มชอ้ ยโฉมเฉลาทัง้ เผ้าผม ป ระไพพักตร์ลักษณ์ลา้ ลว้ นขาคม ทงั้ เน้อื นมนวลเปล่งออกเต่งทรวง ข นงเนตรเกศกรออ่ นสะอาด ดังสรุ างค์นางนาฏในวังหลวง พ ระเพลนิ พิศคดิ หมายเสียดายดวง แ ลว้ หนกั หนว่ งนึกที่จะหนไี ป ( พระอภยั มณี : สุนทรภ)ู่
นารี ปรา บทเกีย้ ว โอโ้ ลม โมทย์ คอื การกลา่ วข้อความแสดงความรัก ทั้งทีเ่ ปน็ การพบกนั ในระยะแรกๆ และใน โอโ้ ลมปฏิโลมก่อนจะถงึ บทสงั วาสนัน้ ดว้ ย ถึงมว้ ยดินส้นิ ฟ้ามหาสมุทร ไมส่ ิ้นสุดความรกั สมคั รสมาน แม้นเกิดในใตฟ้ ้าสุธาธาร ขอพบพานพิศวาสไมค่ ลาดคลา แมน้ เนอื้ เย็นเปน็ ห้วงมหรรณพ พ่ขี อพบศรีสวัสดเ์ิ ป็นมัจฉา แม้นเปน็ บัวตวั พีเ่ ปน็ ภมุ รา เชยผกาโกสมุ ปทุมทอง เจ้าเปน็ ถา้ อาไพขอให้พี่ เป็นราชสีห์สมสเู่ ปน็ คสู อง จ ะติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคูค่ รองพศิ วาสทกุ ชาตไิ ป (พระอภัยมณี : สนุ ทรภู่)
พิ โรธ วาทงั บทตดั พ้อ คือการกลา่ วข้อความแสดงอารมณ์ไม่พอใจ ต้ังแต่ เรอื่ งเล็กนอ้ ยไปจนถึงเรือ่ งใหญ่ ตั้งแต่ ไมพ่ อใจ โกรธ ตัดพ้อ ประชดประชนั กระทบกระเทยี บเปรียบเปรย เสยี ดสี และด่าวา่ อย่างรุนแรง เช่น ครง้ั นเี้ สยี รักกไ็ ดร้ ู้ ถึงเสียรกู้ ็ไดเ้ ชาวน์ทีเ่ ฉาฉงน เป็นชายหมน่ิ ชายต้องอายคน จาํ จนจําจากอาลยั ลาน (เจา้ พระยาพระคลงั (หน)) บทตดั พ้อทีแ่ สดงทั้งอารมณ์รกั และแค้นของ องั คาร กลั ยาณพงศ์ จากบทกวี “เสยี เจ้า” จ ะเจ็บจาํ ไปถงึ ปรโลก ฤๅรอยโศกร้รู ้างจางหาย จ ะเกดิ กฟ่ี า้ มาตรมตาย อย่าหมายวา่ จะให้หวั ใจ (อังคาร กัลยาณพงศ์)
ลาปังค สลั พไิ สย บทโศก คอื การกลา่ วข้อความแสดงอารมณโ์ ศกเศร้า อาลัยรกั เช่นบท โศกของนางวนั ทอง จากเรอื่ งขุนชา้ งขุนแผน ตอนขุนแผนพา นางวนั ทองหนี ซงึ่ คร่าครวญอาลัยรักต้นไม้ในบา้ นขุนชา้ ง อัน แสดงให้เห็นวา่ นางไมต่ อ้ งการตามขุนแผนไป แต่ที่ตอ้ งไปเพราะ ขนุ แผนรา่ ยมนต์สะกด กอ่ นลาจากไป นางไดร้ ่าลาต้นไมก้ อ่ น ลาํ ดวนเอย๋ จะดว่ นไปกอ่ นแลว้ ทัง้ เกดแก้วพิกุลย่ีสุน่ สี จ ะโรยรา้ งหา่ งกล่ินมาลี จําปีเอ๋ยกีป่ จี ะมาพบ (พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หลา้ นภาลยั )
รสวรรณคดีสนั สกฤต
๑.ศฤงคารรส (รสแหง่ ความรกั ) เปน็ การพรรณนาความรักระหวา่ งหนมุ่ สาว ระหว่างสามี ภรรยา ระหว่างผใู้ หญ่กับผนู้ ้อย บดิ ามารดากับบุตร ญาตกิ ับญาติ ฯลฯ สามารถ ทําใหผ้ อู้ ่าน พอใจรกั เหน็ คุณค่าของความรัก นึกอยากรักกับเขาบา้ งเช่น รักฉันชสู้ าว รักหมู่ คณะ รกั ประเทศชาติ เป็นตน้ อยา่ งเช่น เร่ืองลิ ลติ พระลอ เต็มไปด้วยรสรัก(บาลี เรยี กรสนีว้ า่ รติรส) ดวงเอยดวงยหิ วา อุย่ หนา่ อย่าหักมอื พี่ รักนางจึงทาํ อย่างนี้ มารศรีควรหรือมาถือใจ ก่นแตโ่ กรธขงึ้ ขึงขัด จะสะบิ้งสะบัดไปถงึ ไหน เม่อื ได้แนบเนอ้ื แนมใน จงหยดุ ยัง้ ชั่งใจกลั ยา (อิเหนา : รัชกาลท่ี 2)
๒) หาสยรส (รสแห่งความขบขนั ) เป็นการพรรณนาทท่ี ําใหเ้ กิดความร่าเรงิ สดชน่ื เสนาะ ขบขัน อาจทาํ ให้ผอู้ ่าน ผู้ดูย้มิ กับหนังสอื ยม้ิ กับภาพทเ่ี หน็ ถงึ กับลืมทกุ ข์ ดับกล้มุ ไปชว่ั ขณะ เชน่ เร่อื งระเดน่ ลันได เปน็ ตน้ (บาลีเรียกรสนวี้ ่า หาสะรส) บ้างบ่าวเขา้ คนละบา่ พานายวิ่ง ประเจยี ดเครื่องเปลื้องทิ้งไว้เกลอ่ื นกล่น บ้างหนามเกย่ี วหัวหไู มร่ ตู้ น ซุกซนดน้ ไปแต่ลําพงั บ้างเทท้งิ ไถข้ ้าวเขนงปืน ร้อื ต่ืนเสียงเพื่อนกนั ข้างหลัง ท่ถี ูกปืนป่วยขาละลา้ ละลงั อตุ ส่าห์คลานเซซังซกุ ไปฯ กวตี ้งั ใจจะให้ดแู ลว้ ตลกขบขนั แม้ว่าเราอาจจะอ่านแลว้ ร้สู ึกเฉยๆ ไมข่ าํ สกั เทา่ ไหร่ คือเมอ่ื ทา้ วกะหมังกุหนิงถกู กริชแล้ว โดยปกติเม่ือแม่ทพั ตาย ใครเล่าจะยังอยูร่ บ ตอ่ กไ็ ดแ้ ต่แตกกระเจิงหนกี นั หวั ซกุ หวั ซนุ บ้างกว็ ่ิงกนั ผ้าผ่อนหลดุ ลยุ่ หนามท่งิ แทง เก่ยี วไปเกย่ี วมา บา้ งวิ่งบา้ งคลาน เหน็ ถึงความ ชุลมนุ วนุ่ วายไปหมด
๓) กรณุ ารส (รสแห่งความเมตตากรุณาท่ี เกิดภายหลงั ความเศรา้ โศก) เปน็ บทพรรณนาทท่ี ําให้ผู้อา่ นหดหู่เหย่ี วแหง้ เกดิ ความ เห็นใจถึงกบั นา้ํ ตาไหล พลอยเปน็ ทกุ ข์ เอาใจช่วยตัว ละคร เช่น เห็นใจนางสดี า เหน็ ใจจรกา และเหน็ ใจนางวนั ทอง เป็นตน้ (บาลีเรียกรสนวี้ า่ โสกะรส) แต่การศกึ ครัง้ นไ้ี ม่ควรเป็น เกดิ เข็ญเพราะลูกอปั ลกั ษณ์ จะมีค่ผู ชู้ ายกไ็ มร่ กั จงึ หกั ให้สาสมใจ เม่ืออ่านตรงชว่ งนี้แลว้ เราจะร้สู กึ สงสารทา้ วดาหาขึ้นมาจบั ใจ เพราะ ท้าวดาหาได้แตต่ ัดพ้อต่อวา่ นอ้ ยใจ วา่ ศึกสงครามนน้ั มนั ไม่น่าเกิดข้นึ หรอก ถ้าไมใ่ ช่เพราะวา่ ลูกของตนนั้นหนา้ ตาอัปลกั ษณ์ ดูสิ ขนาดวา่ จะแตง่ งานทง้ั ที ผชู้ ายเขายงั ไมร่ ักเลย ซงึ่ เป็นการ กล่าวประชดประชัน เพราะทา้ วดาหานั้น กาํ ลังนอ้ ยใจอเิ หนา
๔) รทุ รรส/เราทรรส (รสแห่งความโกรธเคือง) บทบรรยายหรือพรรณนาทีท่ ําใหผ้ ูด้ ผู อู้ า่ นขัดใจ ฉุนเฉียว ขดั เคอื งบุคคลบางคนในเรือ่ ง บางทีถงึ กับ ขวา้ งหนังสือท้งิ หรอื ฉกี ตอนนั้นกม็ ี เช่น โกรธขนุ ช้าง โกรธชชู ก(บาลีเรยี กรสนี้วา่ โกธะ) รสน้ี เทียบไดก้ บั รส วรรณคดไี ทยคือ พิโรธวาทัง เม่อื น้นั ท้าวกะหมังกุหนิงนเรนทร์สรู ได้ฟงั ทั้งสองทตู ทลู ให้อาดรู เดอื ดใจดั่งไฟฟ้า จึงบัญชาตรสั ดว้ ยขัดเคือง ดดู เู๋ จ้าเมอื งดาหา เราออ่ นง้อขอไปในสารา แต่จะวา่ รับไว้กไ็ ม่มี เปน็ ตอนทที่ ้าวกะหมังกุหนิงก็กาํ ลงั โกรธยิ่งนัก เพราะตนน้นั ยอมออ่ นขอ้ สง่ คนไปขอเจรจา แตท่ า้ วดาหานน้ั หาได้จะรบั ไว้แมแ้ ต่นดิ เดียวเลย คดิ แล้วก็น่าแค้น ใจนัก
๕) วรี รส (รสแห่งความกลา้ หาญ) บทบรรยายหรอื พรรณาที่ทําใหผ้ ้อู ่าน ผดู้ ู ผู้ฟงั พอใจผลงาน และหนา้ ท่ี ไม่ดูหม่ินงาน อยากเปน็ ใหญ่ อยากรํ่ารวย อยาก มชี ือ่ เสียง เลียนแบบสมเด็จพระนเรศวร ชอบความมีขตั ติ มานะของพระมหาอุปราชา จากเรอ่ื งลลิ ิตตะเลงพ่าย (บาลี เรียกรสน้วี ่า อตุ สาหะรส) จะตั้งหนา้ อาสาชิงชยั มไิ ด้ย่อท้อถอยหลัง สู้ตายไม่เสียดายชวี งั กว่าจะสนิ้ ชวี งั ของขา้ น้ีฯ เม่อื ไดอ้ ่านบทน้แี ลว้ บางคนอาจจะเลือดรักชาติพลุง่ พล่านเลยเทียว บนขา้ งต้นนี้เปน็ ตอนทีเ่ จ้าเมืองในปกครองของ ทา้ วกะหมังกุหนิง นั้นรบั ปากเป็นมัน่ เปน็ เหมาะอย่างดีวา่ ตนยนิ ดี รว่ มรบรว่ มต่อสู้อย่างสุดกําลัง พรอ้ มจะสู้แม้ตวั จะตายก็ยอม
๖) ภยานกรส (รสแห่งความกลวั ตื่นเตน้ ตกใจ) บทบรรยายหรือพรรณาท่ที ําใหผ้ ู้อา่ นผู้ฟงั ผู้ดู มอง เห็นทุกข์ เหน็ โทษ เหน็ ภัยในบาปกรรมทจุ รติ เกดิ ความ สะดงุ้ กลัวโรคภยั สตั ว์รา้ ย ภตู ผีปีศาจ บางครัง้ ตอ้ ง หยุดอ่าน รสู้ ึกขนลุกซู่ อ่านเรอื่ ง ผตี ่างๆ เห็นระตูถอยเทา้ กา้ วผิด พระกรายกรชิ แทงอกตลอดหลงั ลม้ ลงดา่ วดิน้ ส้นิ กําลัง มอดมว้ ยชวี งั ปลดปลงฯ เมื่ออ่านแล้วคงร้สู กึ อ้ึง เสียวสันหลงั ไปช่ัวขณะ เราคงจะรู้สกึ วา่ โลกนี้ น้นั ลว้ นเปน็ อนจิ จงั จริงๆ เพราะเราไดเ้ หน็ บทสรปุ ของการไมร่ ูจ้ กั ทตี่ ่ําที่สูง บท สรุปของการลาํ พองตน ตนเองน้ันเปน็ ดัง่ แสงหง่ิ ห้อย จะไปแข่งกบั แสงอาทติ ย์ ไดเ้ ชน่ ไร บทขา้ งตน้ นบ้ี รรยายไห้เห็นภาพไดอ้ ยา่ งชัดเจน ว่าทา้ วกะหมังกหุ นงิ นั้น เพียงแคก่ า้ วเทา้ ผดิ เพียงกา้ วเดยี ว ก็ถูกอิเหนาแทงกริชจากอกทะลุไปถึง หลงั ล้มลงนอนด้ินลงไปเลยทีเดียว นึกแล้วคง สยดสยองมิใชน่ อ้ ย
๗) พภี ตั สรส (รสแห่งความชงั ความรงั เกียจ) บทบรรยายหรอื พรรณนาทท่ี ําใหผ้ อู้ ่านผดู้ ู ผู้ฟงั ชงั น้าํ หน้าตัวละครบ้างตวั เพราะจิต(ของตัวละคร) บา้ ง เพราะความโหดรา้ ยของตัวละครบา้ งเชน่ เกลียดนาง ผเี ส้ือสมทุ ร ในเร่ืองพระอภยั มณที ฆี่ ่าพอ่ เงือก เปน็ ต้น (บาลีเรยี กรสนีว้ ่า ชิคุจฉะรส) เมื่อนั้น ทศเศยี รสุริย์วงศร์ งั สรรค์ เหน็ นางสดี าวลิ าวณั ย์ ตวั สนั่ ว่ิงร้องไม่สมประดี พญามารแยม้ ยม้ิ พร้ิมพราย ตาหมายจะจับนางโฉมศรี ไล่ลัดสกดั ทนั ที อสรุ ีคว้าไขวไ่ ปมา ฯ (รามเกยี รต์ิ : รชั กาลท่ี 1)
๘) อัพภตู รส (รสแหง่ ความพิศวงประหลาดใจ) บทบรรยายหรือพรรณนาท่ีทําให้นึกแปลกใจ เอะใจ อยา่ งหนกั ตื่นเตน้ นกึ ไม่ถึงว่า เป็นไปได้ เชน่ นั้น หรือ อัศจรรยค์ าดไม่ถึงในความสามารถ ใน ความคมคายของคารม ในอบุ ายหรอื ในศลิ ปวทิ ยาคณุ แปลกใจในสุปฎิบัติ (ความประพฤตทิ ี่ดีงาม) แห่งขนั ติ เมตตา กตัญญู อันยากย่ิงที่คน ธรรมดาจะทาํ ได้ (รสนบ้ี าลีเรียก วมิ หะยะรส) รพ้ี ลใหก้ ลายเปน็ โยธา ไอยราแปลงเป็นคชสาร พาชแี ปลงเปน็ อาชาชาญ พระพรหมานแปลงเปน็ ทา้ วธาดา สกุณชาติใหแ้ ปลงเป็นปักษา ไกรสรใหแ้ ปลงเปน็ สิงหราช พยัคฆาแปลงเป็นพยัคฆี พระราเมศแปลงเพศเปน็ รามา (อณุ รุทร้อยเรอ่ื ง : คณุ สวุ รรณ)
๙) ศานตริ ส (รสแหง่ ความสงบ) อนั เปน็ อุดมคติของเรอื่ ง เช่น ความสงบสขุ ในแดน สุขาวดี ในเร่อื ง วาสฏิ ฐี อนั เป็นผลมงุ่ หมายทางโลก และทางธรรม เป็นผลให้ผ้อู ่าน ผดู้ ู ผ้ฟู งั เกิดความสขุ สงบ ในขณะได้เหน็ ได้ฟัง ตอนนนั้ ดว้ ย (บาลเี รียกรสนี้ วา่ สมะรส) คอื รูปรสกล่นิ เสยี งไมเ่ ท่ยี งแท้ ยอ่ มเฒา่ แกเ่ กดิ โรคโศกสงสาร ความตายหนึง่ พึงใหเ้ หน็ เป็นประธาน หวังนิพพานพ้นทุกข์สนกุ สบาย (พระอภัยมณี : พระสุนทรโวหาร (ภู่))
รายชื่อสมาชิก นางสาวณฐั รีกานต์ พลายแกว้ เลขท1่ี 3 นางสาวสิรินทพิ ย์ สาระวงษ์ เลขที่25 นางสาวธารารตั น์ ฉวิ เฉื่อย เลขท2ี่ 7 นางสาวพัชพี ร ทรพั ยป์ ระเสรฐิ เลขท่ี33 ช้ันม.6/8
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: