Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1.2ออกแบบการจัดการเรียนรู้-pa คณิตศาสตร์ดุ่ย

1.2ออกแบบการจัดการเรียนรู้-pa คณิตศาสตร์ดุ่ย

Published by cheerach30, 2022-08-28 09:34:43

Description: 1.2ออกแบบการจัดการเรียนรู้-pa คณิตศาสตร์ดุ่ย

Search

Read the Text Version

บันทึกขอ้ ความ โรงเรียน บา้ นทา่ อาจ อาเภอแม่สอด จังหวัดตาก ที่ /2564 วนั ท่ี 1๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2564 เรอื่ ง การออกแบบการจัดการเรียนรู้ วิชาคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 2 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เรยี น ผูอ้ านวยการโรงเรยี นบ้านทา่ อาจ ข้าพเจ้านางสาวจีรัชญ์ คฤหะมาน ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ ซ่ึงได้รับมอบหมายให้ การออกแบบการจดั การเรียนรู้ รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ นัน้ บัดนี้ ข้าพเจ้าได้ทาการออกแบบการจัดการเรียนรู้ ดังกล่าวเสร็จสิ้นเป็นท่ีเรียบร้อยแล้ว จึงขอ รายงานผลดงั รายละเอียดที่แนบมาพร้อมน้ี จงึ เรยี นมาเพ่อื โปรดทราบ ลงช่อื ............................................................... ( นางสาวจรี ัชญ์ คฤหะมาน) ครูผสู้ อน ความคิดเหน็ ของผู้อานวยการสถานศึกษา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ................................................ (นายกชิ สณพนธ์ เฉลิมวสิ ตุ ม์กุล) ผูอ้ านวยการโรงเรยี นบา้ นท่าอาจ

กลยทุ ธ์วธิ สี อน/กระบวนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วธิ กี ารสอน จานวน ๑.การนับทีละ 2 ทลี ะ 5 ทลี ะ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ 10 และทีละ 100 กระบวนการจดั การเรียนรู้ ชวั่ โมง จานวนนบั ไม่เกนิ 1,000 2 เรื่อง การเขียนและการอา่ น 1.วิธีสอนแบบใช้สถานการณ์ 1 ตัวเลขฮนิ ดอู ารบกิ ตวั เลขไทย และตวั หนังสอื แสดงจานวนนบั 2.วธิ สี อนที่เนน้ ทักษะกระบวนการคดิ 10, 20, 30, ..., 100 (Thinking Based Learning) 3 เรอ่ื ง การเขียนและการอา่ น ตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตวั เลขไทย 3.การเรยี นรูจ้ ากสภาพจริง 300, ..., 1,000 4.การจดั การเรยี นรูแ้ บบใชค้ าถาม 4 เร่ือง การเขยี นและการอา่ น ตวั เลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย (Questioning Method) และตวั หนังสอื แสดงจานวนนับ 100-999 1.วิธีสอนแบบใช้สถานการณ์ 1 5 เร่อื ง หลกั และคา่ ของเลขโดด 2.วธิ ีสอนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคดิ ในแต่ละหลัก : 1 (Thinking Based Learning) 6 เร่อื ง หลกั และคา่ ของเลขโดด ในแต่ละหลกั : 2 3.การเรยี นรูจ้ ากสภาพจรงิ 4.การจดั การเรียนรูแ้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วธิ ีสอนแบบใช้สถานการณ์ 1 2.วธิ ีสอนแทลเ่ีะนต้นัวทหักนษังสะอืกแระสบดวงจนากนาวรนคนดิ บั 100, 200, (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้จากสภาพจริง 4.การจดั การเรยี นร้แู บบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วิธสี อนแบบใช้สถานการณ์ 1 2.วธิ ีสอนที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากสภาพจริง 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วิธสี อนแบบโดยใชภ้ าพ 1 2.วธิ สี อนทีเ่ น้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้จากสภาพจรงิ 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทัศนวสั ดุ 1 2.วิธีสอนที่เน้นทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากการสืบคน้ (inquiry- Based learning)

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วธิ กี ารสอน จานวน กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ชัว่ โมง 7 เร่อื ง การเขียนตวั เลขแสดง จานวนในรปู กระจาย 4.การจดั การเรียนรูแ้ บบใช้คาถาม 1 (Questioning Method) 8 เรือ่ ง จานวนคู่ จานวนค่ี 1 1.วิธีสอนแบบใช้โสตทศั นวัสดุ 1 9 เรอื่ ง การเปรียบเทยี บจานวน 2.วิธสี อนท่เี นน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ สองจานวน ท่มี ีจานวนหลักไม่ (Thinking Based Learning) 1 เท่ากัน 3.การเรยี นรจู้ ากการสืบค้น(inquiry- Based learning) 1 10 เรื่อง การเปรยี บเทยี บ 4.การจัดการเรียนรู้แบบใช้คาถาม จานวนสองจานวน ที่มจี านวน (Questioning Method) หลักเทา่ กนั : 1 1.วิธสี อนแบบโดยใชภ้ าพ 11 เร่ือง การเปรยี บเทียบ 2.วิธีสอนที่เน้นทักษะกระบวนการคดิ จานวนสองจานวน ที่มจี านวน (Thinking Based Learning) หลักเทา่ กัน : 2 3.การเรียนรู้จากสภาพจริง 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวัสดุ 2.วธิ ีสอนทีเ่ นน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้จากการสบื คน้ (inquiry- Based learning) 4.การจดั การเรยี นร้แู บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วธิ สี อนแบบรว่ มกนั คดิ พชิ ติ ปญั หา 2.วธิ ีสอนทเ่ี นน้ ทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรจู้ ากการสืบค้น(inquiry- Based learning) 4.การจดั การเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วธิ ีสอนแบบใชโ้ สตทศั นวัสดุ 2.วิธสี อนท่ีเนน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้จากการสืบคน้ (inquiry- Based learning) 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method)

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วธิ ีการสอน จานวน 12 เร่ือง การใช้เครอ่ื งหมาย = กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ชัว่ โมง ≠ > และ < แสดงการ เปรยี บเทียบจานวนสองจานวน 1.วธิ สี อนแบบการแก้ปญั หา 1 2.วิธีสอนท่เี น้นทักษะกระบวนการคดิ 13 เร่อื ง การเรียงลาดบั จานวน (Thinking Based Learning) 1 นบั 3.การเรยี นร้จู ากการสบื ค้น(inquiry- Based learning) 1 14 เร่อื ง แบบรูปของจานวนท่ี 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม เพ่ิมขึน้ ทีละ 2 (Questioning Method) 1 15 เร่อื ง แบบรูปของจานวนท่ี 1.วธิ ีสอนแบบใช้สถานการณ์ 1 เพ่ิมขึ้นทีละ 5 2.วธิ ีสอนที่เนน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 1 16 เรอ่ื ง แบบรปู ของจานวนท่ี 3.การเรยี นรู้จากสภาพจริง เพม่ิ ขน้ึ ทีละ 100 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 17 เรื่อง แบบรูปของจานวนที่ ลดลงทีละ 2 1.วิธีสอนแบบใช้สถานการณ์ 2.วิธีสอนที่เนน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรจู้ ากสภาพจริง 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วิธีสอนแบบใช้สถานการณ์ 2.วธิ สี อนที่เน้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนร้จู ากสภาพจรงิ 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วิธีสอนแบบใช้สถานการณ์ 2.วธิ ีสอนทเ่ี นน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรจู้ ากสภาพจริง 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วิธีสอนแบบใช้สถานการณ์ 2.วิธสี อนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้จากสภาพจรงิ 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method)

หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วธิ กี ารสอน จานวน ชว่ั โมง กระบวนการจัดการเรยี นรู้ 1 18 เรื่อง แบบรูปของจานวนท่ี 1.วิธีสอนแบบใช้สถานการณ์ 1 ลดลงทลี ะ 5 2.วธิ สี อนทเ่ี นน้ ทักษะกระบวนการคดิ 1 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรยี นรู้จากสภาพจรงิ 1 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม 1 (Questioning Method) 19 เร่ือง แบบรปู ของจานวนท่ี 1.วิธสี อนแบบใช้สถานการณ์ ลดลงทีละ 100 2.วธิ ีสอนที่เนน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรจู้ ากสภาพจริง 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 20 เร่ือง แบบรูปซา้ 1.วิธีสอนแบบใช้สถานการณ์ 2.วธิ สี อนที่เน้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรจู้ ากสภาพจรงิ 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ 1 เร่อื ง ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดง 1.วธิ ีสอนแบบโดยใชภ้ าพ การบวกและการลบ การบวกและประโยคสญั ลักษณ์ 2.วธิ สี อนที่เนน้ ทกั ษะกระบวนการคิด จานวนนบั ทม่ี ีตัวตั้งและ แสดงการลบ (Thinking Based Learning) ผลลพั ธไ์ ม่เกนิ 100 3.การเรียนร้จู ากสภาพจรงิ 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 2 เรอ่ื ง การหาคา่ ของตวั ไม่ 1.วธิ สี อนแบบโดยใชภ้ าพ ทราบคา่ และประโยคสญั ลักษณ์ 2.วิธีสอนทเี่ น้นทกั ษะกระบวนการคดิ แสดงการลบ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรูจ้ ากสภาพจรงิ 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 3 เร่ือง การบวกจานวนนบั ทีม่ ี 1.วธิ ีสอนแบบโดยใชภ้ าพ ผลบวกไม่เกนิ 100 ไมม่ กี ารทด : 2.วิธสี อนทเ่ี น้นทักษะกระบวนการคิด 1 (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรูจ้ ากสภาพจรงิ 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method)

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วธิ ีการสอน จานวน ชั่วโมง กระบวนการจัดการเรยี นรู้ 1 4 เรอ่ื ง การบวกจานวนนับที่มี 1.วธิ สี อนแบบโดยใชภ้ าพ 1 ผลบวกไม่เกิน 100 ไมม่ กี ารทด : 2.วิธีสอนท่ีเนน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ 1 2 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรยี นรจู้ ากสภาพจรงิ 1 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใช้คาถาม 1 (Questioning Method) 5 เรอ่ื ง การบวกจานวนนับท่มี ี 1.วิธสี อนแบบโดยใชภ้ าพ ผลบวกไม่เกนิ 100 มีการทด : 1 2.วิธสี อนท่เี น้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรจู้ ากสภาพจริง 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 6 เร่ือง การบวกจานวนนบั ทีม่ ี 1.วิธีสอนแบบโดยใชภ้ าพ ผลบวกไม่เกิน 100 มกี ารทด : 2 2.วิธสี อนทเ่ี น้นทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากสภาพจรงิ 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 7 เร่ือง การสลบั ทข่ี องการบวก 1.วิธีสอนแบบโดยใชภ้ าพ จานวนนบั สองจานวน 2.วธิ ีสอนทเ่ี นน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรจู้ ากสภาพจริง 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 8 เรอ่ื ง การบวกจานวนนับสาม 1.วธิ สี อนแบบโดยใชภ้ าพ จานวนทีม่ ผี ลบวกไม่เกนิ 100 2.วิธสี อนทเ่ี นน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้จากสภาพจรงิ 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 9 เรื่อง การลบจานวนนบั ทีม่ ตี วั ตง้ั 1.วิธสี อนแบบโดยใชภ้ าพ ไม่เกนิ 100 ไม่มกี ารกระจาย 2.วิธสี อนที่เนน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นร้จู ากสภาพจรงิ 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method)

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วิธีการสอน จานวน ชวั่ โมง กระบวนการจดั การเรียนรู้ 1 10 เรื่อง การลบจานวนนบั ทีม่ ี 1.วิธสี อนแบบโดยใชภ้ าพ 1 ตวั ตง้ั ไม่เกิน 100 มกี ารกระจาย 2.วิธสี อนทเ่ี นน้ ทักษะกระบวนการคดิ 1 : 1 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรียนรู้จากสภาพจรงิ 1 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม 1 (Questioning Method) 11 เรอื่ ง การลบจานวนนับทีม่ ี 1.วธิ สี อนแบบโดยใชภ้ าพ ตวั ตั้งไมเ่ กนิ 100 มกี ารกระจาย 2.วธิ ีสอนทเี่ น้นทกั ษะกระบวนการคดิ : 2 (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้จากสภาพจริง 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 12 เรื่อง การตรวจคาตอบโดยใช้ 1.วิธสี อนแบบโดยใชภ้ าพ ความสัมพันธ์ ของการบวกและการ 2.วิธสี อนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคดิ ลบ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากสภาพจริง 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 13 เรือ่ ง โจทย์ปญั หา : 1 1.วธิ ีสอนแบบโดยใชภ้ าพ 2.วธิ ีสอนที่เน้นทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้จากสภาพจรงิ 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 14 เร่อื ง โจทยป์ ญั หา : 2 1.วธิ สี อนแบบโดยใชภ้ าพ 2.วธิ สี อนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากสภาพจริง 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 15 เร่อื ง โจทยป์ ญั หา : 3 1.วิธสี อนแบบโดยใชภ้ าพ 2.วิธสี อนทีเ่ นน้ ทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้จากสภาพจริง 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method)

หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วธิ กี ารสอน จานวน ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๓ กระบวนการจดั การเรียนรู้ การบวกและการลบ 1 จานวนนับท่มี ีตวั ต้งั 16 เรอื่ ง การสรา้ งโจทยป์ ัญหา 1.วิธสี อนแบบโดยใชภ้ าพ และผลลัพธ์ 1 ไมเ่ กนิ 1,000 2.วิธสี อนที่เนน้ ทักษะกระบวนการคดิ 1 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรยี นรจู้ ากสภาพจริง 1 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม 1 (Questioning Method) 1 เร่ือง การบวกจานวนนับที่มี 1.วิธสี อนแบบใช้การเรียนรทู้ ี่หลากหลาย ผลบวกไมเ่ กนิ 1,000 ไมม่ กี าร 2.วธิ สี อนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคดิ ทด : 1 (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ข่งขัน 4.การจดั การเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 2 เรือ่ ง การบวกจานวนนบั ทมี่ ี 1.วิธีสอนแบบใช้การเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย ผลบวกไมเ่ กิน 1,000 2.วธิ สี อนไมท่มเี นีกน้ารททกั ดษะ: ก2ระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 3 เรอ่ื ง การบวกจานวนนับที่มี 1.วิธสี อนแบบใช้การเรียนร้ทู ่หี ลากหลาย ผลบวกไม่เกนิ 1,000 มกี ารทด : 2.วิธสี อนทีเ่ น้นทกั ษะกระบวนการคดิ 1 (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมสแ์ ข่งขัน 4.การจัดการเรียนร้แู บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 4 เรื่อง การบวกจานวนนับทม่ี ี 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรยี นรู้ที่หลากหลาย ผลบวกไม่เกิน 1,000 มีการทด : 2.วธิ ีสอนที่เนน้ ทักษะกระบวนการคดิ 2 (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 5 เรอ่ื ง การบวกจานวนนบั สาม 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย จานวนที่มีผลบวก ไม่เกนิ 1,000 2.วิธสี อนทเี่ นน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมส์แขง่ ขัน 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method)

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วธิ กี ารสอน จานวน ชว่ั โมง กระบวนการจัดการเรยี นรู้ 1 6 เรอ่ื ง การลบจานวนนับทม่ี ตี ัวตัง้ 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรียนรทู้ ่หี ลากหลาย 1 ไม่เกนิ 1,000 ไมม่ ีการกระจาย : 2.วิธีสอนทเ่ี น้นทักษะกระบวนการคิด 1 1 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 1 4.การจดั การเรียนรู้แบบใชค้ าถาม 1 (Questioning Method) 7 เรอื่ ง การลบจานวนนบั ทมี่ ีตวั ตง้ั 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรยี นรู้ที่หลากหลาย ไม่เกิน 1,000 ไม่มกี ารกระจาย : 2.วธิ สี อนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคิด 2 (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมส์แขง่ ขัน 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 8 เรอ่ื ง การลบจานวนนบั ทม่ี ตี ัว 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรยี นรทู้ ่หี ลากหลาย ตั้งไมเ่ กิน 1,000 มกี ารกระจาย 2.วธิ สี อนท่ีเนน้ ทกั ษะกระบวนการคิด : 1 (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมสแ์ ข่งขัน 4.การจัดการเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 9 เรอื่ ง การลบจานวนนบั ที่มีตวั 1.วิธสี อนแบบใช้การเรยี นรู้ที่หลากหลาย ตง้ั ไมเ่ กนิ 1,000 มกี ารกระจาย 2.วิธีสอนทเ่ี นน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ : 2 (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมส์แข่งขัน 4.การจดั การเรียนรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 10 เรอ่ื ง การลบจานวนนับทม่ี ี 1.วิธีสอนแบบใช้การเรยี นรู้ทหี่ ลากหลาย ตัวตง้ั ไม่เกนิ 1,000 มกี าร 2.วธิ สี อนทเ่ี นน้ ทกั ษะกระบวนการคิด กระจาย : 3 (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมส์แข่งขัน 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 11 เร่อื ง การตรวจคาตอบโดยใช้ 1.วิธีสอนแบบใช้การเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย ความสมั พันธ์ ของการบวกและการ 2.วธิ สี อนทเี่ น้นทักษะกระบวนการคดิ ลบ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมส์แขง่ ขัน 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method)

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วธิ ีการสอน จานวน ช่ัวโมง กระบวนการจัดการเรยี นรู้ 1 12 เรอ่ื ง การหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบ 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรยี นรทู้ ี่หลากหลาย 1 คา่ โดยใชค้ วามสัมพนั ธ์ ของการ 2.วธิ สี อนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคดิ 1 บวกหรอื การลบ (Thinking Based Learning) 1 3.การเรยี นรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 1 4.การจัดการเรียนรูแ้ บบใชค้ าถาม 1 (Questioning Method) 13 เรื่อง โจทยป์ ญั หาการบวก : 1.วิธีสอนแบบใช้การเรยี นรทู้ ี่หลากหลาย 1 2.วิธีสอนที่เน้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมส์แขง่ ขัน 4.การจัดการเรยี นรูแ้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 14 เร่อื ง โจทย์ปญั หาการบวก : 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรยี นรู้ที่หลากหลาย 2 2.วิธีสอนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 15 เรื่อง โจทย์ปัญหาการลบ : 1.วิธีสอนแบบใช้การเรียนรทู้ ห่ี ลากหลาย 1 2.วิธีสอนที่เนน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมส์แขง่ ขัน 4.การจดั การเรยี นรูแ้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 16 เรอื่ ง โจทยป์ ัญหาการลบ : 1.วธิ ีสอนแบบใช้การเรยี นรทู้ หี่ ลากหลาย 2 2.วธิ สี อนที่เนน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมส์แขง่ ขัน 4.การจัดการเรียนรูแ้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 17 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรียนรูท้ ห่ี ลากหลาย การลบ : 1 2.วิธสี อนท่ีเน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method)

หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิธกี ารสอน จานวน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชว่ั โมง 18 เรือ่ ง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ : 2 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรียนรทู้ ี่หลากหลาย 1 2.วิธสี อนทีเ่ น้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๔ 1 เร่ือง การวดั ความยาว ความสงู 1.วธิ สี อนแบบปฏบิ ัตจิ รงิ 1 ความยาว 1 และระยะทาง 2.วธิ สี อนที่เน้นทกั ษะกระบวนการคิด 1 1 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรียนรู้จากประสบการณ์ 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 2 เรอื่ ง เครอื่ งมือที่ใชว้ ดั ความ 1.วิธีสอนแบบปฏิบตั ิจรงิ ยาว 2.วธิ สี อนที่เน้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรจู้ ากประสบการณ์ 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 3 เร่อื ง การวดั ความยาวเป็น 1.วธิ ีสอนแบบปฏิบตั ิจรงิ เซนติเมตร : 1 2.วธิ ีสอนท่เี น้นทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นร้จู ากประสบการณ์ 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 4 เร่อื ง การวดั ความยาวเปน็ 1.วธิ ีสอนแบบปฏิบตั ิจริง เซนติเมตร : 2 2.วิธีสอนท่ีเนน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้จากประสบการณ์ 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 5 เร่อื ง การวดั ความยาวเปน็ 1.วิธสี อนแบบปฏิบตั จิ ริง เซนติเมตร : 3 2.วิธีสอนทีเ่ นน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้จากประสบการณ์ 4.การจดั การเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method)

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วธิ กี ารสอน จานวน ชว่ั โมง กระบวนการจัดการเรยี นรู้ 1 6 เรื่อง การวดั ความยาวเป็น 1.วธิ สี อนแบบปฏบิ ตั ิจริง 1 เมตร : 1 2.วธิ ีสอนทเี่ น้นทกั ษะกระบวนการคิด 1 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรียนรจู้ ากประสบการณ์ 1 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม 1 (Questioning Method) 7 เรื่อง การวดั ความยาวเป็น 1.วิธสี อนแบบปฏิบตั ิจริง เมตร : 2 2.วธิ สี อนที่เนน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นร้จู ากประสบการณ์ 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 8 เรือ่ ง การวดั ความยาวเป็น 1.วธิ ีสอนแบบปฏิบัติจรงิ เมตร : 3 2.วธิ สี อนที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากประสบการณ์ 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 9 เร่อื ง การคาดคะเนความยาว 1.วธิ ีสอนแบบปฏิบตั จิ รงิ และความสงู 2.วธิ สี อนทเ่ี นน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้จากประสบการณ์ 4.การจัดการเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 10 เรือ่ ง การเปรยี บเทยี บความ 1.วิธสี อนแบบปฏบิ ตั ิจริง ยาวหรือความสงู ในหน่วยเดยี วกัน : 2.วิธสี อนทเ่ี น้นทักษะกระบวนการคดิ 1 (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรจู้ ากประสบการณ์ 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 11 เรื่อง การเปรยี บเทยี บความ 1.วิธสี อนแบบปฏบิ ัตจิ ริง ยาวหรอื ความสงู ในหนว่ ยเดยี วกนั 2.วิธีสอนทเ่ี น้นทักษะกระบวนการคิด : 2 (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้จากประสบการณ์ 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method)

หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วิธกี ารสอน จานวน 12 เรื่อง การเปรียบเทยี บความ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชวั่ โมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๕ ยาวหรือความสงู เปน็ เมตรกบั น้าหนัก เซนติเมตร 1.วิธีสอนแบบปฏิบตั ิจริง 1 2.วธิ สี อนทเ่ี น้นทักษะกระบวนการคิด 13 เรอื่ ง โจทยป์ ัญหาเก่ียวกับ (Thinking Based Learning) 1 การวดั ความยาว : 1 3.การเรยี นรจู้ ากประสบการณ์ 4.การจัดการเรียนรู้แบบใชค้ าถาม 1 14 เรอื่ ง โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกับ (Questioning Method) การวัดความยาว : 2 1 1.วิธีสอนแบบปฏิบตั จิ ริง 1 เรอื่ ง เครือ่ งมือทใี่ ชใ้ นการวดั 2.วธิ ีสอนที่เนน้ ทักษะกระบวนการคดิ 1 นา้ หนัก (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรจู้ ากประสบการณ์ 1 2 เร่ือง การเลอื กเครอื่ งชัง่ และ 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใช้คาถาม หน่วยการชัง่ (Questioning Method) 3 เร่ือง การวดั น้าหนกั เป็น 1.วิธีสอนแบบปฏิบัติจริง กิโลกรัม 2.วธิ ีสอนที่เนน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้จากประสบการณ์ 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วธิ ีสอนแบบปฏิบตั จิ ริง 2.วิธสี อนทเ่ี นน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้จากประสบการณ์ 4.การจัดการเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วิธสี อนแบบปฏบิ ัติจริง 2.วิธสี อนที่เนน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากประสบการณ์ 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วธิ สี อนแบบปฏิบตั จิ รงิ 2.วิธีสอนที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากประสบการณ์ 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method)

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วธิ กี ารสอน จานวน ช่ัวโมง กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1 4 เร่ือง การชง่ั นา้ หนกั เปน็ 1.วิธีสอนแบบปฏบิ ัติจรงิ 1 กโิ ลกรมั และขีด : 1 2.วิธีสอนท่ีเน้นทักษะกระบวนการคิด 1 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรียนรู้จากประสบการณ์ 1 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม 1 (Questioning Method) 5 เรือ่ ง การชงั่ น้าหนักเป็น 1.วธิ ีสอนแบบปฏิบตั ิจรงิ กโิ ลกรมั และขดี : 2 2.วิธสี อนที่เนน้ ทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรจู้ ากประสบการณ์ 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 6 เรื่อง การชั่งนา้ หนักเปน็ 1.วธิ ีสอนแบบปฏิบัตจิ รงิ กิโลกรมั และกรัม : 1 2.วิธสี อนที่เน้นทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้จากประสบการณ์ 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 7 เรอ่ื ง การช่ังน้าหนกั เปน็ 1.วธิ ีสอนแบบปฏบิ ตั จิ ริง กโิ ลกรัมและกรมั : 2 2.วิธสี อนทเ่ี นน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้จากประสบการณ์ 4.การจดั การเรียนรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 8 เร่อื ง การคาดคะเนนา้ หนกั 1.วธิ ีสอนแบบปฏิบัติจริง 2.วธิ สี อนท่ีเนน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นร้จู ากประสบการณ์ 4.การจดั การเรียนรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 9 เรื่อง การเปรียบเทียบน้าหนกั : 1.วธิ สี อนแบบปฏบิ ตั จิ รงิ 1 2.วิธสี อนท่เี นน้ ทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากประสบการณ์ 4.การจดั การเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method)

หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วิธีการสอน จานวน ช่วั โมง หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๖ กระบวนการจัดการเรียนรู้ การคณู 1 10 เรอื่ ง การเปรียบเทยี บนา้ หนัก 1.วิธสี อนแบบปฏิบตั จิ รงิ 1 1 : 2 2.วธิ สี อนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคดิ 1 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรยี นรู้จากประสบการณ์ 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 11 เร่ือง การเปรยี บเทียบน้าหนกั 1.วธิ สี อนแบบปฏิบตั จิ ริง : 3 2.วิธีสอนทเี่ นน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้จากประสบการณ์ 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 12 เรอื่ ง การเรยี งลาดับน้าหนัก 1.วธิ ีสอนแบบปฏบิ ตั ิจรงิ จากนอ้ ยไปมากและจากมากไป 2.วิธสี อนที่เน้นทักษะกระบวนการคดิ นอ้ ย (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากประสบการณ์ 4.การจัดการเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 13 เร่อื ง โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั 1.วธิ สี อนแบบปฏบิ ัติจรงิ น้าหนกั : 1 2.วธิ ีสอนท่ีเน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้จากประสบการณ์ 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 14 เรื่อง โจทยป์ ัญหาเกีย่ วกบั 1.วธิ สี อนแบบปฏบิ ตั ิจรงิ นา้ หนกั : 2 2.วิธีสอนทเ่ี น้นทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้จากประสบการณ์ 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 1 เรอ่ื ง ความหมายของการคูณ 1.วิธีสอนแบบใช้การเรียนรทู้ ห่ี ลากหลาย และการใช้เคร่อื งหมายคณู : 1 2.วธิ ีสอนทเี่ น้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ข่งขัน 4.การจดั การเรียนรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method)

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วิธกี ารสอน จานวน ชวั่ โมง กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 1 2 เรื่อง ความหมายของการคณู 1.วิธสี อนแบบใช้การเรียนร้ทู ี่หลากหลาย 1 และการใช้เคร่ืองหมายคณู : 2 2.วธิ ีสอนทีเ่ น้นทกั ษะกระบวนการคดิ 1 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรยี นรู้เกมส์แขง่ ขัน 1 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม 1 (Questioning Method) 3 เรือ่ ง การคูณจานวนหน่ึงหลกั 1.วิธสี อนแบบใช้การเรยี นรู้ท่ีหลากหลาย กับจานวนหนงึ่ หลัก : 1 2.วธิ ีสอนทเ่ี นน้ ทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 4 เร่อื ง การคณู จานวนหน่งึ หลัก 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรียนรทู้ ี่หลากหลาย กับจานวนหน่ึงหลัก : 2 2.วธิ ีสอนทเ่ี น้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 5 เรอ่ื ง การสลบั ทข่ี องการคูณ 1.วิธสี อนแบบใช้การเรยี นรทู้ ีห่ ลากหลาย จานวนนับสองจานวน : 1 2.วธิ สี อนทเี่ น้นทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 6 เรอ่ื ง การสลับที่ของการคณู 1.วิธสี อนแบบใช้การเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย จานวนนบั สองจานวน : 2 2.วธิ สี อนที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมส์แขง่ ขัน 4.การจัดการเรียนรูแ้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 7 เรือ่ ง การคณู จานวนนบั สาม 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย จานวน 2.วธิ ีสอนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมส์แข่งขัน 4.การจัดการเรยี นร้แู บบใชค้ าถาม (Questioning Method)

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วธิ กี ารสอน จานวน ชั่วโมง กระบวนการจดั การเรียนรู้ 1 8 เร่ือง ศนู ย์และหนง่ึ กบั การคูณ 1.วธิ ีสอนแบบใช้การเรียนรูท้ ่หี ลากหลาย 1 : 1 2.วิธีสอนท่ีเนน้ ทกั ษะกระบวนการคิด 1 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรียนรู้เกมส์แข่งขัน 1 4.การจัดการเรียนรู้แบบใชค้ าถาม 1 (Questioning Method) 9 เรื่อง ศนู ยแ์ ละหนง่ึ กบั การคณู 1.วิธสี อนแบบใช้การเรียนรู้ท่หี ลากหลาย : 2 2.วิธีสอนทเ่ี นน้ ทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมส์แขง่ ขัน 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 10 เรื่อง การคูณจานวนหน่ึง 1.วิธีสอนแบบใช้การเรียนรทู้ ่หี ลากหลาย หลักกับ 10, 20, 30, ..., 90 2.วธิ สี อนทเ่ี น้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ข่งขัน 4.การจดั การเรียนร้แู บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 11 เรื่อง การคูณจานวนหนง่ึ หลัก 1.วธิ ีสอนแบบใช้การเรียนรู้ที่หลากหลาย กบั จานวนสองหลัก ไมม่ กี ารทด : 1 2.วธิ สี อนท่ีเนน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 12 เรื่อง การคณู จานวนหนึ่งหลกั 1.วิธสี อนแบบใช้การเรยี นรทู้ ี่หลากหลาย กับจานวนสองหลกั ไมม่ ีการทด : 2.วธิ สี อนที่เน้นทกั ษะกระบวนการคดิ 2 (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจัดการเรยี นร้แู บบใช้คาถาม (Questioning Method) 13 เรื่อง การคูณจานวนหนงึ่ หลกั 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย กับจานวนสองหลกั มกี ารทด : 1 2.วิธสี อนที่เนน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ข่งขัน 4.การจัดการเรยี นรูแ้ บบใช้คาถาม (Questioning Method)

หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วิธกี ารสอน จานวน หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๗ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชวั่ โมง เวลา 14 เร่อื ง การคูณจานวนหนึง่ หลัก 1.วิธสี อนแบบใช้การเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย 1 กับจานวนสองหลัก มกี ารทด : 2 2.วิธสี อนทเ่ี นน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมส์แข่งขัน 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 15 เร่ือง การคูณจานวนหน่งึ หลัก 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรยี นรู้ท่ีหลากหลาย 1 กบั จานวนสองหลกั มกี ารทด : 3 2.วิธสี อนที่เนน้ ทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมส์แขง่ ขัน 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 16 เร่ือง โจทย์ปญั หาการคณู : 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรียนรทู้ ห่ี ลากหลาย 1 1 2.วธิ สี อนทเ่ี นน้ ทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมส์แข่งขัน 4.การจดั การเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 17 เรอื่ ง โจทย์ปญั หาการคณู : 1.วิธสี อนแบบใช้การเรียนรทู้ ี่หลากหลาย 1 2 2.วิธสี อนท่เี นน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจัดการเรียนรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 18 เร่อื ง โจทย์ปัญหาการคณู : 1.วิธีสอนแบบใช้การเรียนรูท้ ี่หลากหลาย 1 3 2.วิธสี อนทีเ่ น้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 1 เร่ือง นาฬกิ า 1.วิธีสอนแบบใช้การเรยี นรู้ทีห่ ลากหลาย 1 2.วิธสี อนทีเ่ น้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้สรา้ งความคดิ รวบยอดโดยใช้ ภาพ 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) ๕. การเรยี นรู้จากการปฏิบัตจิ รงิ

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วิธกี ารสอน จานวน กระบวนการจดั การเรียนรู้ ช่วั โมง 2 เรือ่ ง ชวั่ โมงและนาที 1.วิธสี อนแบบใช้การเรียนรทู้ ห่ี ลากหลาย 1 2.วธิ ีสอนท่ีเนน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้สรา้ งความคิดรวบยอดโดยใช้ ภาพ 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) ๕. การเรียนรูจ้ ากการปฏบิ ตั จิ ริง 3 เรอ่ื ง การบอกเวลาเปน็ ชัว่ โมง 1.วิธสี อนแบบใช้การเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย 1 : 1 2.วิธสี อนทเ่ี นน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้สรา้ งความคดิ รวบยอดโดยใช้ ภาพ 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) ๕. การเรียนร้จู ากการปฏิบตั จิ รงิ 4 เรอื่ ง การบอกเวลาเปน็ ชั่วโมง 1.วิธีสอนแบบใช้การเรยี นรู้ทีห่ ลากหลาย 1 : 2 2.วิธสี อนทเ่ี น้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้สรา้ งความคิดรวบยอดโดยใช้ ภาพ 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) ๕. การเรยี นรจู้ ากการปฏิบัติจรงิ 5 เร่อื ง การบอกเวลาเปน็ ชั่วโมง 1.วิธีสอนแบบใช้การเรยี นรทู้ ีห่ ลากหลาย 1 : 3 2.วธิ สี อนท่เี น้นทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้สรา้ งความคดิ รวบยอดโดยใช้ ภาพ 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) ๕. การเรยี นรู้จากการปฏบิ ตั จิ ริง 6 เรอ่ื ง การบอกเวลาเปน็ ช่วั โมง 1.วิธีสอนแบบใช้การเรยี นรทู้ ี่หลากหลาย 1 กบั นาที (ชว่ ง 5 นาท)ี : 1 2.วธิ ีสอนทเ่ี น้นทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้สรา้ งความคิดรวบยอดโดยใช้ ภาพ 4.การจัดการเรียนร้แู บบใช้คาถาม

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วธิ ีการสอน จานวน กระบวนการจดั การเรียนรู้ ชั่วโมง (Questioning Method) ๕. การเรียนรู้จากการปฏบิ ัตจิ รงิ 7 เร่ือง การบอกเวลาเปน็ ชว่ั โมง 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรียนรู้ที่หลากหลาย 1 กบั นาที (ช่วง 5 นาท)ี : 2 2.วิธสี อนท่ีเนน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้สรา้ งความคิดรวบยอดโดยใช้ ภาพ 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) ๕. การเรียนรจู้ ากการปฏบิ ัตจิ รงิ 8 เรอื่ ง การบอกเวลาเป็นชัว่ โมง 1.วิธสี อนแบบใช้การเรยี นรทู้ ี่หลากหลาย 1 กับนาที (ชว่ ง 5 นาท)ี : 3 2.วิธีสอนท่ีเนน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้สรา้ งความคดิ รวบยอดโดยใช้ ภาพ 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) ๕. การเรยี นรูจ้ ากการปฏิบัตจิ รงิ 9 เร่ือง การบอกเวลาเปน็ ชัว่ โมง 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย 1 กบั นาที (ช่วง 5 นาที) : 4 2.วธิ ีสอนที่เน้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้สรา้ งความคิดรวบยอดโดยใช้ ภาพ 4.การจดั การเรยี นร้แู บบใชค้ าถาม (Questioning Method) ๕. การเรียนรูจ้ ากการปฏบิ ตั จิ ริง 10 เร่อื ง การเปรียบเทยี บ 1.วธิ ีสอนแบบใช้การเรยี นรู้ท่ีหลากหลาย 1 ระยะเวลาเปน็ ชัว่ โมง เปน็ นาที 2.วิธีสอนท่เี นน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้สรา้ งความคิดรวบยอดโดยใช้ ภาพ 4.การจดั การเรียนรูแ้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) ๕. การเรยี นรจู้ ากการปฏิบตั จิ ริง 11 เรอ่ื ง การอ่านปฏทิ นิ : 1 1.วิธสี อนแบบใช้การเรยี นรู้ทห่ี ลากหลาย 1 2.วธิ ีสอนที่เนน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้สรา้ งความคิดรวบยอดโดยใช้

หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิธกี ารสอน จานวน กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ช่ัวโมง ภาพ 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) ๕. การเรียนรูจ้ ากการปฏบิ ตั ิจรงิ 12 เรือ่ ง การอ่านปฏทิ นิ : 2 1.วิธีสอนแบบใช้การเรียนรทู้ ีห่ ลากหลาย 1 2.วธิ สี อนที่เน้นทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้สรา้ งความคดิ รวบยอดโดยใช้ ภาพ 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) ๕. การเรียนร้จู ากการปฏบิ ัตจิ รงิ 13 เรอ่ื ง การอา่ นปฏิทนิ : 3 1.วิธีสอนแบบใช้การเรียนรู้ที่หลากหลาย 1 2.วธิ ีสอนที่เน้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้สรา้ งความคิดรวบยอดโดยใช้ ภาพ 4.การจัดการเรียนรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) ๕. การเรยี นรู้จากการปฏิบตั จิ รงิ 14 เรื่อง โจทยป์ ญั หาเกยี่ วกับ 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย 1 เวลา 2.วิธสี อนทเ่ี นน้ ทกั ษะกระบวนการคิด หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๘ 1 เรอ่ื ง การนับลด : 1 การหาร (Thinking Based Learning) 2 เรอ่ื ง การนบั ลด : 2 3.การเรยี นรู้สรา้ งความคิดรวบยอดโดยใช้ ภาพ 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) ๕. การเรียนรจู้ ากการปฏิบัตจิ รงิ 1.วธิ ีสอนแบบใช้การเรียนรูท้ หี่ ลากหลาย 1 2.วิธีสอนที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมส์แขง่ ขัน 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วิธีสอนแบบใช้การเรียนรู้ที่หลากหลาย 1 2.วธิ สี อนท่เี น้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมส์แขง่ ขัน

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วิธกี ารสอน จานวน ชวั่ โมง กระบวนการจัดการเรยี นรู้ 1 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม 1 (Questioning Method) 1 3 เรื่อง การนบั ลด : 3 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรยี นรทู้ ี่หลากหลาย 1 2.วธิ สี อนทเ่ี นน้ ทักษะกระบวนการคิด 1 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรยี นรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจัดการเรียนร้แู บบใช้คาถาม (Questioning Method) 4 เรอ่ื ง การนบั ลดและการหาร : 1.วิธสี อนแบบใช้การเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย 1 2.วธิ สี อนท่ีเน้นทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมส์แขง่ ขัน 4.การจัดการเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 5 เร่อื ง การนับลดและการหาร : 1.วิธีสอนแบบใช้การเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย 2 2.วิธสี อนที่เนน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมส์แขง่ ขัน 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 6 เรื่อง การหาร : 1 1.วิธสี อนแบบใช้การเรียนรู้ที่หลากหลาย 2.วธิ ีสอนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 7 เรอ่ื ง การหาร : 2 1.วธิ ีสอนแบบใช้การเรียนรู้ที่หลากหลาย 2.วิธสี อนทเ่ี นน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ข่งขัน 4.การจัดการเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 8 เร่อื ง การหาร : 3 1.วิธสี อนแบบใช้การเรยี นรู้ทห่ี ลากหลาย 2.วิธีสอนที่เน้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วธิ กี ารสอน จานวน 9 เรอื่ ง การหาร : 4 กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชั่วโมง 10 เรื่อง ความสมั พนั ธข์ องการ (Questioning Method) 1 คูณและการหาร : 1 1.วธิ ีสอนแบบใช้การเรยี นรูท้ ่ีหลากหลาย 1 11 เร่ือง ความสมั พันธข์ องการ 2.วธิ ีสอนทเี่ นน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ คณู และการหาร : 2 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรยี นรู้เกมส์แข่งขัน 12 เรื่อง การหาผลหาร : 1 4.การจดั การเรียนรู้แบบใชค้ าถาม 1 (Questioning Method) 13 เร่อื ง การหาผลหาร : 2 1 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรยี นรูท้ ห่ี ลากหลาย 14 เรอื่ ง การหาผลหาร : 3 2.วิธสี อนทเ่ี นน้ ทกั ษะกระบวนการคิด 1 (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมส์แข่งขัน 4.การจัดการเรียนรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วิธีสอนแบบใช้การเรียนรูท้ ห่ี ลากหลาย 2.วธิ ีสอนที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมส์แข่งขัน 4.การจดั การเรียนรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรียนร้ทู หี่ ลากหลาย 2.วิธสี อนท่ีเนน้ ทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมส์แขง่ ขัน 4.การจัดการเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วธิ ีสอนแบบใช้การเรยี นรู้ทีห่ ลากหลาย 2.วธิ ีสอนท่เี น้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ข่งขัน 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วิธีสอนแบบใช้การเรยี นรทู้ หี่ ลากหลาย 2.วธิ สี อนทีเ่ น้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมส์แขง่ ขัน 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method)

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วิธีการสอน จานวน กระบวนการจดั การเรียนรู้ ชว่ั โมง 15 เร่อื ง การหารลงตัว : 1 1.วิธสี อนแบบใช้การเรยี นรู้ทีห่ ลากหลาย 1 16 เรอ่ื ง การหารลงตัว : 2 2.วธิ ีสอนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 1 17 เรอ่ื ง การหารลงตวั : 3 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม 1 18 เร่อื ง การหารลงตัว : 4 (Questioning Method) 1 19 เรอื่ ง การหารมเี ศษ : 1 1.วิธสี อนแบบใช้การเรยี นร้ทู ี่หลากหลาย 2.วิธสี อนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคิด 1 20 เรื่อง การหารมเี ศษ : 2 (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 1 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วิธสี อนแบบใช้การเรยี นรทู้ ี่หลากหลาย 2.วิธสี อนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ข่งขัน 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วิธีสอนแบบใช้การเรยี นรู้ทีห่ ลากหลาย 2.วธิ ีสอนที่เนน้ ทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมสแ์ ข่งขัน 4.การจดั การเรียนรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วธิ ีสอนแบบใช้การเรยี นรู้ท่ีหลากหลาย 2.วิธีสอนทีเ่ นน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ขง่ ขัน 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย 2.วิธสี อนท่ีเนน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมส์แข่งขัน 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method)

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วิธกี ารสอน จานวน 21 เรอ่ื ง การหารมีเศษ : 3 กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชั่วโมง 22 เร่อื ง การหารมีเศษ : 4 1.วธิ ีสอนแบบใช้การเรียนรทู้ ี่หลากหลาย 1 2.วิธีสอนที่เน้นทกั ษะกระบวนการคิด 23 เร่อื ง การตรวจผลหาร : 1 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรยี นรู้เกมส์แขง่ ขัน 24 เรื่อง การตรวจผลหาร : 2 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม 1 (Questioning Method) 25 เรอ่ื ง การตรวจผลหาร : 3 1 1.วิธีสอนแบบใช้การเรียนรทู้ ห่ี ลากหลาย 26 เร่อื ง โจทยป์ ัญหาการหาร : 2.วธิ สี อนท่ีเน้นทักษะกระบวนการคดิ 1 1 (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมส์แขง่ ขัน 1 4.การจดั การเรียนรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วิธสี อนแบบใช้การเรยี นรู้ที่หลากหลาย 2.วิธสี อนทเ่ี นน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมส์แข่งขัน 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วธิ ีสอนแบบใช้การเรียนรทู้ ีห่ ลากหลาย 2.วธิ ีสอนที่เนน้ ทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมส์แขง่ ขัน 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วิธีสอนแบบใช้การเรียนรทู้ ี่หลากหลาย 2.วิธสี อนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมส์แขง่ ขัน 4.การจดั การเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรียนรู้ท่ีหลากหลาย 2.วธิ ีสอนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้เกมสแ์ ข่งขัน 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method)

หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วธิ ีการสอน จานวน 27 เรอ่ื ง โจทย์ปญั หาการหาร : กระบวนการจดั การเรียนรู้ ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๙ 2 ปริมาตรและความจุ 1.วธิ ีสอนแบบใช้การเรยี นรู้ทหี่ ลากหลาย 1 28 เร่ือง โจทยป์ ัญหาการหาร : 2.วิธสี อนทเี่ นน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ 3 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรยี นรู้เกมส์แขง่ ขัน 1 เรือ่ ง ปริมาตรและความจุ : 1 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม 1 (Questioning Method) 2 เร่อื ง ปริมาตรและความจุ : 2 1 1.วธิ สี อนแบบใช้การเรยี นรทู้ ่ีหลากหลาย 3 เรือ่ ง การวดั ปรมิ าตรและ 2.วธิ ีสอนทเี่ น้นทักษะกระบวนการคดิ 1 ความจุ : 1 (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้เกมสแ์ ข่งขัน 1 4 เรื่อง การวดั ปรมิ าตรและ 4.การจัดการเรียนรูแ้ บบใชค้ าถาม ความจุ : 2 (Questioning Method) 1.วธิ ีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ ริง 2.วิธสี อนท่ีเน้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นร้จู ากการแสวงหาความรดู้ ว้ ย ตวั เอง 4.การจัดการเรียนร้แู บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วิธีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ 2.วธิ สี อนทเ่ี นน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรจู้ ากการแสวงหาความรดู้ ว้ ย ตวั เอง 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วธิ ีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ 2.วิธีสอนทเ่ี นน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนร้จู ากการแสวงหาความรู้ดว้ ย ตวั เอง 4.การจัดการเรยี นรูแ้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วธิ ีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ ริง 2.วิธสี อนที่เนน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากการแสวงหาความรดู้ ว้ ย ตวั เอง

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิธกี ารสอน จานวน กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ชัว่ โมง 5 เรื่อง การวดั ปริมาตรและ ความจุ : 3 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม 1 (Questioning Method) 6 เรือ่ ง การตวงสิง่ ของให้มี 1 ปริมาตร 1 ลติ ร : 1 1.วธิ สี อนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ 2.วิธีสอนที่เน้นทักษะกระบวนการคิด 1 7 เรอื่ ง การตวงสิ่งของให้มี (Thinking Based Learning) ปรมิ าตร 1 ลติ ร : 2 3.การเรียนรู้จากการแสวงหาความรดู้ ว้ ย 1 ตัวเอง 8 เรอ่ื ง การตวงสิ่งของให้มี 4.การจดั การเรยี นร้แู บบใช้คาถาม 1 ปรมิ าตร 1 ลติ ร : 3 (Questioning Method) 9 เรอ่ื ง ความจุ : 1 1.วิธีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ ริง 2.วธิ สี อนท่ีเน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้จากการแสวงหาความรู้ดว้ ย ตวั เอง 4.การจัดการเรียนรูแ้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วิธสี อนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ 2.วธิ สี อนท่เี น้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้จากการแสวงหาความรู้ดว้ ย ตวั เอง 4.การจัดการเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วิธีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ ริง 2.วธิ ีสอนที่เนน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนร้จู ากการแสวงหาความรู้ดว้ ย ตวั เอง 4.การจดั การเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วธิ สี อนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ 2.วิธสี อนทเี่ นน้ ทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากการแสวงหาความรดู้ ว้ ย ตวั เอง 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method)

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วิธกี ารสอน จานวน 10 เรื่อง ความจุ : 2 กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ชว่ั โมง 11 เร่ือง การเปรียบเทียบ 1.วิธสี อนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ 1 ปรมิ าตรของส่ิงของ : 1 2.วธิ ีสอนทเี่ นน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 1 12 เรื่อง การเปรียบเทยี บ 3.การเรียนร้จู ากการแสวงหาความรู้ดว้ ย ปรมิ าตรของส่งิ ของ : 2 ตัวเอง 1 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม 13 เรอ่ื ง การเปรียบเทยี บ (Questioning Method) 1 ปริมาตรของสงิ่ ของ : 3 1.วธิ สี อนแบบใช้ประสบการณจ์ ริง 1 14 เร่ือง การเปรียบเทียบความ 2.วิธีสอนที่เนน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ จุของภาชนะ : 1 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรยี นรูจ้ ากการแสวงหาความรู้ดว้ ย 15 เรื่อง การเปรียบเทียบความ ตัวเอง จุของภาชนะ : 2 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วธิ สี อนแบบใช้ประสบการณจ์ ริง 2.วธิ ีสอนทีเ่ นน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรูจ้ ากการแสวงหาความรู้ดว้ ย ตัวเอง 4.การจดั การเรยี นรูแ้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วิธีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ 2.วธิ ีสอนที่เน้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากการแสวงหาความรดู้ ว้ ย ตัวเอง 4.การจัดการเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วธิ ีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ ริง 2.วธิ ีสอนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้จากการแสวงหาความรู้ดว้ ย ตัวเอง 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วธิ ีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ 2.วธิ ีสอนที่เน้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning)

หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วธิ ีการสอน จานวน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ช่วั โมง 16 เร่อื ง การเปรยี บเทียบความ จุของภาชนะ : 3 3.การเรยี นรูจ้ ากการแสวงหาความรดู้ ว้ ย 1 ตวั เอง 17 เรื่อง โจทย์ปญั หาเก่ยี วกบั 4.การจดั การเรยี นรูแ้ บบใช้คาถาม 1 ปริมาตรและความจุ : 1 (Questioning Method) 1 18 เรอื่ ง โจทย์ปญั หาเกี่ยวกบั 1.วธิ สี อนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ ปริมาตรและความจุ : 2 2.วิธีสอนท่เี น้นทักษะกระบวนการคิด 1 (Thinking Based Learning) หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๑๐ 1 เรอื่ ง รูปปดิ : 1 3.การเรยี นรู้จากการแสวงหาความรู้ดว้ ย 1 ตวั เอง รูปเรขาคณติ สองมติ ิ 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 2 เรื่อง รูปปดิ : 2 1.วธิ ีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ 2.วิธีสอนท่เี น้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากการแสวงหาความรู้ดว้ ย ตวั เอง 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วธิ ีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ 2.วิธสี อนทเ่ี น้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้จากการแสวงหาความรู้ดว้ ย ตัวเอง 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วิธีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ 2.วธิ สี อนทเ่ี นน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นร้จู ากการแสวงหาความรู้ดว้ ย ตัวเอง 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วธิ สี อนแบบใช้ประสบการณจ์ ริง 2.วธิ ีสอนทเ่ี นน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนร้จู ากการแสวงหาความรู้ดว้ ย ตวั เอง 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใช้คาถาม

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วธิ ีการสอน จานวน ชั่วโมง กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1 (Questioning Method) 1 3 เร่อื ง รปู หลายเหลย่ี ม : 1 1.วิธีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ ริง 1 2.วิธีสอนทเี่ นน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนร้จู ากการแสวงหาความรูด้ ว้ ย ตัวเอง 4.การจดั การเรียนร้แู บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 4 เรือ่ ง รูปหลายเหล่ยี ม : 2 1.วิธสี อนแบบใช้ประสบการณจ์ ริง 2.วธิ ีสอนทเี่ นน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากการแสวงหาความรดู้ ว้ ย ตัวเอง 4.การจัดการเรยี นร้แู บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 5 เรอ่ื ง วงกลม 1.วิธีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ ริง 2.วธิ ีสอนท่ีเน้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากการแสวงหาความรู้ดว้ ย ตัวเอง 4.การจดั การเรียนรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 6 เรอ่ื ง วงรี 1.วธิ ีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ ริง 2.วิธสี อนทีเ่ นน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากการแสวงหาความรู้ดว้ ย ตวั เอง 4.การจัดการเรยี นรูแ้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 7 เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติ : 1 1.วธิ สี อนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ 2.วิธสี อนที่เนน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้จากการแสวงหาความรู้ดว้ ย ตวั เอง 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method)

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วธิ กี ารสอน จานวน ชวั่ โมง กระบวนการจัดการเรียนรู้ 8 เรอื่ ง รูปเรขาคณิตสองมิติ : 2 1.วธิ สี อนแบบใช้ประสบการณจ์ ริง 2.วธิ สี อนท่เี นน้ ทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้จากการแสวงหาความรดู้ ว้ ย ตัวเอง 4.การจดั การเรียนรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 9 เร่อื ง รปู เรขาคณติ สองมิติ : 3 1.วธิ ีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ ริง 2.วธิ ีสอนท่ีเนน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากการแสวงหาความรดู้ ว้ ย ตวั เอง 4.การจัดการเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 10 เรอ่ื ง การเขียนรปู เรขาคณิต 1.วธิ สี อนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ สองมติ โิ ดยใช้แบบของรูป : 1 2.วิธีสอนที่เนน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรจู้ ากการแสวงหาความรู้ดว้ ย ตวั เอง 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 11 เรื่อง การเขียนรปู เรขาคณิต 1.วิธีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ ริง สองมติ ิโดยใชแ้ บบของรูป : 2 2.วธิ ีสอนทเ่ี นน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้จากการแสวงหาความรู้ดว้ ย ตัวเอง 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 12 เรอ่ื ง แบบรปู : 1 1.วิธสี อนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ 2.วิธีสอนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรูจ้ ากการแสวงหาความรดู้ ว้ ย ตวั เอง 4.การจดั การเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 13 เรอื่ ง แบบรปู : 2 1.วธิ สี อนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ 2.วธิ ีสอนที่เน้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning)

หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วธิ กี ารสอน จานวน กระบวนการจดั การเรียนรู้ ชั่วโมง 14 เรื่อง แบบรูป : 3 3.การเรียนรู้จากการแสวงหาความร้ดู ว้ ย 1 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๑๑ 1 เรือ่ ง ทบทวนการบวก ตัวเอง การบวก ลบ คูณ หาร 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม 1 ระคน (Questioning Method) 1 1 2 เร่อื ง ทบทวนการลบ 1.วิธีสอนแบบใช้ประสบการณจ์ รงิ 1 2.วิธสี อนท่ีเน้นทักษะกระบวนการคิด 3 เรอื่ ง ทบทวนการคณู (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้จากการแสวงหาความรู้ดว้ ย 4 เรอ่ื ง ทบทวนการหาร ตัวเอง 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม 5 เรื่อง การบวก การลบ การ (Questioning Method) คูณ และการหาร 1.วิธีสอนแบบการเรยี นรทู้ ีห่ ลากหลาย 2.วิธสี อนทเี่ นน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้การแกโ้ จทย์ปญั หา 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วธิ สี อนแบบการเรียนรทู้ ี่หลากหลาย 2.วิธสี อนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้การแก้โจทย์ปัญหา 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วิธสี อนแบบการเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย 2.วธิ ีสอนท่ีเนน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้การแกโ้ จทย์ปัญหา 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วิธีสอนแบบการเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย 2.วธิ สี อนที่เนน้ ทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้การแก้โจทยป์ ญั หา 4.การจัดการเรยี นรูแ้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วธิ ีสอนแบบการเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย 2.วิธสี อนที่เนน้ ทกั ษะกระบวนการคิด

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วิธกี ารสอน จานวน กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ชัว่ โมง 6 เร่ือง การบวก ลบ คณู หาร ระคน : 1 (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้การแก้โจทยป์ ัญหา 7 เรอ่ื ง การบวก ลบ คณู หาร 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม ระคน : 2 (Questioning Method) 8 เรือ่ ง การบวก ลบ คณู หาร 1.วิธีสอนแบบการเรียนรทู้ ี่หลากหลาย ระคน : 3 2.วธิ สี อนที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 9 เรื่อง การบวก ลบ คณู หาร 3.การเรียนรู้การแก้โจทยป์ ัญหา ระคน : 4 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 10 เรอื่ ง การบวก ลบ คณู หาร ระคน : 5 1.วิธีสอนแบบการเรยี นรทู้ ่ีหลากหลาย 2.วธิ ีสอนทเ่ี นน้ ทักษะกระบวนการคดิ 11 เรอ่ื ง ทบทวนโจทยป์ ัญหา (Thinking Based Learning) การบวก 3.การเรยี นรู้การแก้โจทยป์ ัญหา 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วิธีสอนแบบการเรียนรทู้ ห่ี ลากหลาย 2.วิธีสอนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้การแก้โจทยป์ ญั หา 4.การจดั การเรียนรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วิธสี อนแบบการเรยี นรทู้ ี่หลากหลาย 2.วธิ สี อนทเี่ น้นทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้การแกโ้ จทย์ปญั หา 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วธิ สี อนแบบการเรียนรทู้ ี่หลากหลาย 2.วิธีสอนท่เี น้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้การแกโ้ จทยป์ ญั หา 4.การจดั การเรียนรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วิธสี อนแบบการเรยี นรทู้ ี่หลากหลาย 2.วิธีสอนทเ่ี นน้ ทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning)

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วิธกี ารสอน จานวน กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ช่ัวโมง 12 เรอ่ื ง ทบทวนโจทยป์ ญั หา การลบ 3.การเรียนรู้การแกโ้ จทยป์ ญั หา 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม 13 เรอื่ ง ทบทวนโจทยป์ ัญหา (Questioning Method) การคูณ 1.วิธสี อนแบบการเรยี นรทู้ ี่หลากหลาย 14 เรอื่ ง ทบทวนโจทยป์ ญั หา 2.วิธสี อนท่ีเนน้ ทักษะกระบวนการคิด การหาร (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้การแกโ้ จทย์ปญั หา 15 เร่ือง โจทย์ปญั หาการบวก 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม การลบ การคณู และการหาร : (Questioning Method) 1 1.วธิ ีสอนแบบการเรียนรทู้ ห่ี ลากหลาย 16 เร่ือง โจทยป์ ัญหาการบวก 2.วธิ ีสอนทีเ่ น้นทกั ษะกระบวนการคดิ การลบ การคณู และการหาร : (Thinking Based Learning) 2 3.การเรียนรู้การแก้โจทยป์ ญั หา 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม 17 เร่ือง โจทย์ปญั หาการบวก (Questioning Method) ลบ คูณ หารระคน : 1 1.วิธสี อนแบบการเรยี นรทู้ ี่หลากหลาย 2.วธิ สี อนท่ีเน้นทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้การแกโ้ จทยป์ ญั หา 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วธิ สี อนแบบการเรียนรทู้ หี่ ลากหลาย 2.วิธีสอนที่เน้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้การแก้โจทยป์ ญั หา 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วธิ สี อนแบบการเรียนรทู้ ห่ี ลากหลาย 2.วธิ ีสอนทเี่ น้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้การแก้โจทยป์ ญั หา 4.การจัดการเรียนรูแ้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วิธสี อนแบบการเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย 2.วธิ ีสอนที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้การแกโ้ จทยป์ ญั หา

หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิธกี ารสอน จานวน กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ชัว่ โมง 18 เร่อื ง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน : 2 4.การจัดการเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม 1 (Questioning Method) 1 19 เรื่อง โจทยป์ ญั หาการบวก 1 ลบ คูณ หารระคน : 3 1.วธิ สี อนแบบการเรียนรทู้ ห่ี ลากหลาย 1 2.วธิ ีสอนท่เี นน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ 20 เรอื่ ง โจทยป์ ัญหาการบวก (Thinking Based Learning) ลบ คณู หารระคน : 4 3.การเรยี นรู้การแก้โจทยป์ ัญหา 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 12 1 เร่ือง การนาเสนอขอ้ มูลดว้ ย (Questioning Method) แผนภมู ิรปู ภาพ แผนภูมิรปู ภาพ : 1 1.วธิ ีสอนแบบการเรียนรทู้ ่ีหลากหลาย 2.วธิ สี อนทเี่ นน้ ทักษะกระบวนการคิด 2 เรือ่ ง การนาเสนอขอ้ มูลดว้ ย (Thinking Based Learning) แผนภูมิรูปภาพ : 2 3.การเรยี นรู้การแกโ้ จทย์ปัญหา 4.การจัดการเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม 3 เรื่อง การนาเสนอขอ้ มูลด้วย (Questioning Method) แผนภูมิรูปภาพ : 3 1.วิธสี อนแบบการเรยี นรทู้ หี่ ลากหลาย 2.วธิ ีสอนท่เี นน้ ทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้การแก้โจทย์ปญั หา 4.การจดั การเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วิธสี อนแบบใช้ภาพประกอบ 2.วิธสี อนท่เี นน้ ทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้ที่หลากหลาย 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วธิ สี อนแบบใช้ภาพประกอบ 2.วธิ สี อนท่ีเน้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย 4.การจัดการเรียนร้แู บบใชค้ าถาม (Questioning Method) 1.วิธีสอนแบบใช้ภาพประกอบ 2.วธิ สี อนทีเ่ น้นทกั ษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้ท่ีหลากหลาย 4.การจัดการเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วิธกี ารสอน จานวน 4 เร่อื ง การนาเสนอข้อมูลดว้ ย กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ชวั่ โมง แผนภมู ิรปู ภาพ : 4 1.วธิ ีสอนแบบใช้ภาพประกอบ 1 5 เรื่อง การอ่านแผนภมู ิรปู ภาพ 2.วิธสี อนทเี่ นน้ ทักษะกระบวนการคดิ :1 (Thinking Based Learning) 1 3.การเรียนรู้ทีห่ ลากหลาย 6 เร่ือง การอ่านแผนภมู ิรปู ภาพ 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม 1 :2 (Questioning Method) 1.วธิ สี อนแบบใช้ภาพประกอบ 2.วิธสี อนทเี่ น้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้ทห่ี ลากหลาย 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) 1.วิธสี อนแบบใช้ภาพประกอบ 2.วธิ สี อนทเี่ น้นทักษะกระบวนการคดิ (Thinking Based Learning) 3.การเรยี นรู้ท่ีหลากหลาย 4.การจดั การเรียนรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook