Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิเคราะห์หลักสูตร-คณิต-ป2 ครูดุ๋ย2564

วิเคราะห์หลักสูตร-คณิต-ป2 ครูดุ๋ย2564

Published by cheerach30, 2022-08-30 13:33:03

Description: วิเคราะห์หลักสูตร-คณิต-ป2 ครูดุ๋ย2564

Search

Read the Text Version

บันทกึ ขอ้ ความ โรงเรียน บา้ นทา่ อาจ อาเภอแมส่ อด จังหวดั ตาก ที่ /2564 วันท่ี 1๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2564 เร่ือง การวิเคราะหห์ ลกั สูตร วิชาคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เรยี น ผู้อานวยการโรงเรยี นบ้านท่าอาจ ข้าพเจ้านางสาวจีรัชญ์ คฤหะมาน ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ ซ่ึงได้รับมอบหมาย ใหท้ าการวิเคราะหห์ ลกั สตู ร รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ นน้ั บดั นี้ ข้าพเจ้าไดท้ าการวิเคราะห์หลกั สูตร ดงั กล่าวเสรจ็ ส้นิ เปน็ ที่เรยี บรอ้ ยแล้ว จึงขอรายงานผล ดังรายละเอยี ดที่แนบมาพร้อมน้ี จงึ เรียนมาเพ่อื โปรดทราบ ลงช่อื ............................................................... ( นางสาวจรี ัชญ์ คฤหะมาน) ครูผู้สอน ลงชอื่ ............................................................... (นางสุภาพร จอมประเสริฐ) หัวหน้างานฝา่ ยบรหิ ารวิชาการ เสนอเพื่อโปรดพจิ ารณา . ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ ลงชอื่ ........................................................ ลงช่ือ................................................ (นางสาววรากร ทองทวี) (นายกชิ สณพนธ์ เฉลมิ วสิ ุตมก์ ุล) ผูอ้ านวยการโรงเรียนบ้านทา่ อาจ รองผอู้ านวยการโรงเรยี นบ้านท่าอาจ

หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ลักษณะของหลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นท่าอาจ พุทธศักราช 2563 หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านท่าอาจ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ปีการศึกษา 2563 เป็นหลักสูตรที่สถานศึกษาได้พัฒนาขึ้นเพื่อพัฒนา ผเู้ รียนในระดับประถมศึกษา โดยยึดองค์ประกอบหลักสาคัญ 3 ส่วน คือ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ท้องถ่ินและสาระสาคัญท่ีสถานศึกษาพัฒนาเพ่ิมเติม เป็นกรอบในการจัดทา รายละเอียดเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาข้ันพ้ืนฐานท่ีกาหนดเหมาะสมกับสภาพชุมชนและท้องถ่ินและ จุดเน้นของสถานศึกษา โดยหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านท่าอาจ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) ท่ี พฒั นาขึน้ มีลกั ษณะของหลักสตู ร ดังน้ี 1. เป็นหลักสูตรเฉพาะของสถานศึกษาโรงเรียนโรงเรียนบ้านท่าอาจ สาหรับจัดการศึกษาในหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐานจัดระดบั การศึกษาเปน็ 1 ระดบั คอื ระดบั ประถมศึกษา (ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1–6) 2. มีความเป็นเอกภาพ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านท่าอาจ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ปีการศึกษา 2563 เป็นหลักสูตรของสถานศึกษา สาหรับให้ครผู สู้ อนนาไปจดั การเรียนรไู้ ด้อย่างหลากหลาย โดยกาหนดให้ 2.1 มีสาระการเรียนรู้ที่สถานศึกษาใช้เป็นหลักเพื่อสร้างพ้ืนฐานการคิด การเรียนรู้และการ แกป้ ญั หา ประกอบด้วย - กลมุ่ สาระภาษาไทย - กลมุ่ สาระคณติ ศาสตร์ - กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - กลมุ่ สาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 2.2 มีสาระการเรียนรู้ท่ีเสริมสร้างความเป็นมนุษย์ ศักยภาพการคิดและการทางาน ประกอบดว้ ย - กลมุ่ สาระสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา - กลมุ่ สาระศิลปะ - กลุ่มสาระการงานอาชีพ - กลุ่มสาระภาษาตา่ งประเทศ 2.3 มีสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม โดยจัดทาเป็นรายวิชาเพ่ิมเติมตามความเหมาะสมและสอดคล้อง กับโครงสร้างเวลาเรยี น สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน ความตอ้ งการของผู้เรยี น และบริบทของสถานศึกษา 2.4 มีกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพ่ือพัฒนาผู้เรียนท้ังด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ และ สงั คม เสรมิ สรา้ งการเรยี นรนู้ อกจากสาระการเรยี นรู้ ๘ กลมุ่ และการพฒั นาตนตามศกั ยภาพ

2.5 มีการกาหนดมาตรฐานของสถานศึกษาท่ีสอดคล้องกับมาตรฐานระดับต่าง ๆ เพื่อเป็น เป้าหมายของการพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษา จัดทารายละเอยี ดสาระการเรียนรู้และจัดกระบวนการ เรียนร้ใู ห้สอดคลอ้ งกบั สภาพในชมุ ชน สงั คมและภูมปิ ัญญาท้องถิ่น 3. มีมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายสาคัญของการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียน บ้านท่าอาจ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ปกี ารศึกษา 2563 เปน็ หลักสูตรท่ีมีมาตรฐานเป็นตัวกาหนดเก่ียวกับคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน เพ่ือเป็น แนวทางในการประกันคุณภาพการศึกษา โดยมีการกาหนดมาตรฐานไวด้ งั น้ี 3.1 มาตรฐานหลักสูตร เป็นมาตรฐานด้านผู้เรียนหรือผลผลิตของหลักสูตรสถานศึกษา อันเกิด จากการได้รบั การอบรมสั่งสอนตามโครงสรา้ งของหลักสตู รท้งั หมดใช้เป็นแนวทางในการตรวจสอบคุณภาพโดยรวม ของการจดั การศกึ ษาตามหลกั สตู รในทุกระดบั และสถานศึกษาต้องใช้สาหรับการประเมินตนเองเพื่อจัดทารายงาน ประจาปีตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติการศึกษา นอกจากน้ียังเป็นแนวทางในการกาหนดแนวปฏิบัติใน การ สง่ เสรมิ กากบั ติดตาม ดแู ลและปรบั ปรงุ คณุ ภาพ เพ่อื ให้ได้ตามมาตรฐานทก่ี าหนด 3.2 มตี ัวช้ีวัดช้ันปีเป็นเป้าหมายระบุสิ่งท่ีนักเรียนพึงรู้และปฏิบัติได้ รวมทั้งคุณลักษณะของผู้เรียน ในแต่ละระดับช้ันซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มีความเฉพาะเจาะจงและมีความเป็นรูปธรรม นาไปใช้ในการ กาหนดเน้ือหา จัดทาหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนการสอนและเป็นเกณฑ์สาคัญสาหรับการวัดประเมินผลเพ่ือ ตรวจสอบคณุ ภาพผู้เรยี น ตรวจสอบพฒั นาการผู้เรียน ความรู้ ทักษะ กระบวนการ คณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยม อันพึงประสงค์ เป็นหลักในการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์จากการศึกษาในระบบ นอกระบบและตาม อัธยาศัย 3.3 มีความเป็นสากล ความเป็นสากลของหลักสูตรสถานศึกษา คือ มุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถในเร่ืองเทคโนโลยสี ารสนเทศ ภาษาอังกฤษ การจัดการสิง่ แวดล้อมภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ มีคุณลักษณะที่ จาเปน็ ในการอย่ใู นสังคม ไดแ้ ก่ ความซือ่ สตั ย์ ความรับผดิ ชอบ การตรงต่อเวลา การเสียสละ การเอ้ือเฟื้อ โดยอยู่ บนพ้ืนฐานของความพอดรี ะหวา่ งการเป็นผู้นาและผู้ตาม การทางานเป็นทีมและการทางานตามลาพัง การแข่งขัน การรู้จักพอและการร่วมมือกันเพ่ือสังคม วิทยาการสมัยใหม่และภูมิปัญญาท้องถิ่น การรับวัฒนธรรมต่างประเทศ และการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมไทยการฝกึ ฝนทักษะเฉพาะทาง การบรู ณาการในลักษณะทเ่ี ปน็ องคร์ วม 4. มีความยืดหยุ่น หลากหลาย หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านท่าอาจ เป็นหลักสูตรที่สถานศึกษา จัดทารายละเอียดต่าง ๆ ขึ้นเอง โดยยึดโครงสร้างหลักที่กาหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เป็นขอบข่ายในการจัดทา จึงทาให้หลักสูตรของสถานศึกษามีความยืดหยุ่น หลากหลาย สอดคลอ้ งกับสภาพปญั หาและความตอ้ งการของท้องถน่ิ โดยเฉพาะอย่างย่งิ มีความเหมาะสมกบั ตัวผู้เรียน 5. การวดั และประเมินผลเนน้ หลักการพน้ื ฐาน 2 ประการ คอื การประเมนิ เพ่ือพฒั นาผู้เรียนและเพอ่ื ตัดสิน ผลการเรยี น โดยผ้เู รียนต้องไดร้ บั การพัฒนาและประเมนิ ตามตวั ชี้วัดเพ่ือให้บรรลตุ ามมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อน

สมรรถนะสาคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผลการ เรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษาและระดับชาติ การวัด และประเมินผลการเรยี นรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและสารสนเทศ ท่ีแสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้าและความสาเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์ต่อการ ส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รียนเกดิ การพัฒนาและเรียนรู้อย่างเตม็ ตามศกั ยภาพ วิสัยทศั นห์ ลักสูตรสถานศกึ ษา หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านท่าอาจ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ปีการศึกษา 2563 เป็นหลักสูตรที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนเป็นบุคคลแห่ง การเรียนรสู้ ูม่ าตรฐานสากลและเปน็ มนุษยท์ ่ีมีความสมดลุ ทง้ั ร่างกาย ความรคู้ ู่คณุ ธรรม มีความเปน็ ผูน้ าของสังคมมี จิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลกโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงยึดม่ันในการปกครอง ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มีความรู้และทักษะพ้ืนฐานสามารถใช้นวัตกรรมและ เทคโนโลยรี วมทงั้ เจตคติท่ีจาเป็นต่อการศกึ ษาในการประกอบอาชีพและการศกึ ษาตลอดชีวิตโดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็น สาคญั บนพ้ืนฐานความเช่อื ว่าทกุ คนสามารถเรยี นรแู้ ละพฒั นาตนเองไดเ้ ต็มตามศักยภาพ หลกั การ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านท่าอาจ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ปีการศึกษา 2563 มีหลกั การที่สาคญั ดงั นี้ 1. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้เป็น เป้าหมายสาหรับพัฒนาเดก็ และเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติและคณุ ธรรมบนพน้ื ฐานของความเปน็ ไทยควบคู่ กบั ความเป็นสากล 2. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพอ่ื ปวงชน ทป่ี ระชาชนทกุ คนมีโอกาสได้รบั การศึกษาอยา่ งเสมอภาคและมคี ุณภาพ 3. เป็นหลักสูตรการศกึ ษาทส่ี นองการกระจายอานาจ ให้สังคมมีสว่ นร่วมในการจัดการศึกษาให้สอดคล้อง กบั สภาพและความตอ้ งการของทอ้ งถนิ่ 4. เป็นหลกั สตู รการศึกษาท่ีมโี ครงสรา้ งยดื หยุน่ ท้งั ด้านสาระการเรียนรู้ เวลาและการจัดการเรียนรู้ 5. เป็นหลักสตู รการศกึ ษาทีเ่ น้นผู้เรยี นเปน็ สาคญั 6. เป็นหลักสูตรการศึกษาสาหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบและตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุก กล่มุ เปา้ หมาย สามารถเทียบโอนผลการเรียนรแู้ ละประสบการณ์

จดุ หมาย หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านท่าอาจ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ปีการศึกษา 2563 มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มี ศักยภาพในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ จึงกาหนดเป็นจุดหมายเพ่ือให้เกิดกับผู้เรียน เม่ือจบการศึกษาตาม หลักสูตร ดงั นี้ 1. มีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมท่ีพึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตาม หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ ยึดหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. มคี วามรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคดิ การแกป้ ญั หา การใชเ้ ทคโนโลยแี ละมีทักษะชีวติ 3. มีสขุ ภาพกายและสุขภาพจติ ท่ดี ี มสี ขุ นิสยั และรักการออกกาลังกาย 4. มีความรักชาติ มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครองตาม ระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ 5. มีจิตสานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิต สาธารณะทีม่ ุ่งทาประโยชนแ์ ละสรา้ งสิ่งท่ดี ีงามในสงั คม อยรู่ ่วมกนั ในสังคมอยา่ งมคี วามสุข เป้าประสงคห์ ลักสูตร ( Corporate objective ) 1. เพื่อให้ผู้เรียนทุกคนได้รับการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีการพัฒนา เตม็ ตามศักยภาพ มีทักษะชีวิต มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี นาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาเปน็ แนวทางการดาเนนิ ชวี ิต เปน็ ผู้นาที่ดีของสงั คมและมคี วามสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการ เรยี นรแู้ ละการสอ่ื สารอยา่ งหลากหลาย ผเู้ รียนมีศักยภาพเป็นพลโลก ( World Citizen ) 2. เพื่อให้สถานศึกษามีระบบการบริหารและจัดการศึกษาด้วยระบบคุณภาพ ( Quality System Management) เพอ่ื รองรบั การกระจายอานาจอยา่ งท่ัวถึง 3. เพ่ือให้บุคลากรทุกคนมีทักษะวิชาชีพในการพัฒนาการเรียนการสอนและใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ ทันสมัยยกระดบั การจัดการเรียนการสอนเทยี บเคยี งมาตรฐานสากล ( World Class standard ) 4. เพ่อื ให้การใช้งบประมาณและทรพั ยากรของทกุ หนว่ ยงานเปน็ ไปตามเปา้ หมายได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ และประสทิ ธิผลสงู สุด วสิ ัยทศั น์โรงเรียน โรงเรยี นบ้านท่าอาจ ไดบ้ รหิ ารจัดการโดยใช้โรงเรียนเปน็ ฐานมุ่งพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเป็นมือ อาชพี ตลอดท้งั มุ่งเน้นใหผ้ ้เู รยี นทุกคนมีมาตรฐานการเรียนรู้เปน็ ไปตามเป้าหมายของหลักสูตร ซ่ึงชุมชนมีส่วนร่วม จัดการศกึ ษา มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้และพัฒนาท้ังด้านร่างกายและจิตใจ เพ่ือให้เด็กทุกคนมีสุขภาพกายและจิตใจที่สมบูรณ์ ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมุขและนอ้ มนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นการเรียนการสอน

พนั ธกจิ 1. จัดการศึกษาระดบั ปฐมวัยและระดบั ประถมศึกษา 2. จัดกจิ กรรมการเรียนรทู้ ่เี น้นผู้เรยี นเปน็ สาคญั และพฒั นาแหล่งเรยี นรูใ้ นสถานศกึ ษา 3. จัดภูมทิ ัศนใ์ นสถานศกึ ษา ให้มสี ภาพที่เอือ้ ต่อการเรียนรู้น่าดู น่าอยู่และนา่ เรยี น 4. ส่งเสริมภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่นและจัดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 5. จดั กจิ กรรมท่สี ง่ เสริมและสนบั สนนุ การพัฒนาคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องผู้เรยี น 6. จดั กจิ กรรมที่สง่ เสริมและปลกู จิตสานึกการอนรุ กั ษ์ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณไี ทย และท้องถนิ่ เปา้ ประสงค์ 1. นักเรยี นไดร้ ับบรกิ ารทางการศกึ ษาอยา่ งทว่ั ถึงและมีคุณภาพตามเกณฑม์ าตรฐาน 2. โรงเรียนมหี ลักสตู รสถานศกึ ษาท่มี ีคุณภาพได้มาตรฐาน 3. นกั เรียนมคี วามสามารถในการนาเทคโนโลยไี ปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั 4. บุคลากรไดร้ บั การพัฒนาสมู่ าตรฐานวิชาชพี 5. โรงเรียนมีภมู ทิ ัศน์สวยงามและแหลง่ เรียนรูต้ ามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งอยา่ งหลากหลาย 6. โรงเรียนได้รับความรว่ มมือจากชุมชนในการจดั การศึกษา สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น หลักสูตรโรงเรียนบ้านท่าอาจ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ข้ัน พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ปีการศึกษา 2563 มุง่ ให้ผูเ้ รียนเกิดสมรรถนะสาคัญ 5 ประการ ดังน้ี 1. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึกและทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลัก เหตผุ ลและความถกู ต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเอง และสังคม 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง สรา้ งสรรค์ การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ และการคิดเปน็ ระบบ เพ่อื นาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพ่ือ การตดั สินใจเก่ยี วกบั ตนเองและสังคมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ท่ีเผชิญได้อย่าง ถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ เปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา มี การตัดสนิ ใจทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพโดยคานึงถงึ ผลกระทบที่เกิดข้นึ ต่อตนเอง สังคมและสงิ่ แวดล้อม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดาเนิน ชวี ิตประจาวัน การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง การเรียนรูอ้ ยา่ งต่อเนื่อง การทางานและการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้าง

เสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทัน กับการเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเล่ียงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ท่ีส่งผลกระทบ ต่อตนเองและผู้อน่ื 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ มีทักษะ กระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทางาน การแก้ปัญหา อยา่ งสรา้ งสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสมและมีคุณธรรม คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ หลักสูตรโรงเรียนบ้านท่าอาจ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ปีการศึกษา 2563 มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือให้สามารถอยู่ รว่ มกบั ผู้อน่ื ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสขุ ในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ ธารงไว้ซึ่ง ความเปน็ ชาตไิ ทย ศรทั ธา ยดึ มน่ั ในศาสนาและเคารพเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติตนตามหลักศาสนาท่ี ตนนับถือและแสดงความจงรักภกั ดีตอ่ สถาบันพระมหากษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต ผู้เรียนมีคุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงการยึดม่ันในความถูกต้องประพฤติตรงตาม ความเป็นจริงต่อตนเองและผู้อื่นทั้งทางกาย วาจา ใจ ประพฤติตรงตามความเป็นจริงทั้งทางกาย วาจา ใจและยึด หลักความจรงิ ความถกู ต้องในการดาเนินชีวิต มคี วามละอายและเกรงกลวั ตอ่ การกระทาผิด 3) มีวินัย ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดม่ันในข้อตกลง กฎเกณฑ์และระเบียบข้อบังคับ ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม ปฏิบัติตนตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสงั คมเป็นปกติวิสัย ไม่ละเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ นื่ 4) ใฝเ่ รยี นรู้ เรยี นมีคณุ ลักษณะท่ีแสดงออกถงึ ความตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียน แสวงหาความรู้ จากแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน มีความต้ังใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียนอย่างสม่าเสมอด้วยการเลือกใช้สื่ออย่าง เหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอด เผยแพร่และนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวนั ได้ 5) อยู่อย่างพอเพียง ผู้เรียนมีคุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงการดาเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มคี ุณธรรม มีภูมิค้มุ กนั ในตวั ทีด่ ีและปรับตัวเพื่ออยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ดาเนินชีวิตอย่างประมาณ ตน มีเหตุผล รอบคอบ ระมัดระวัง อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนด้วยความรับผิดชอบ ไม่เบียดเบียนผู้อื่ น เห็นคุณค่าของ ทรัพยากรต่าง ๆ มกี ารวางแผนปอ้ งกนั ความเส่ยี งและพรอ้ มรบั การเปลย่ี นแปลง

6) มุ่งมั่นในการทางาน ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่แสดงออกถึงความต้ังใจและรับผิดชอบในการทา หน้าท่ีการงานด้วยความเพียรพยายาม อดทน เพ่ือให้งานสาเร็จตามเป้าหมายมีความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ท่ีได้รับ มอบหมายด้วยความเพียรพยายาม ทุ่มเทกาลังกาย กาลังใจ การปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ให้สาเร็จลุล่วงตาม เปา้ หมายทีก่ าหนดดว้ ยความรบั ผดิ ชอบและมคี วามภาคภูมิใจในผลงาน 7) รกั ความเปน็ ไทย ผเู้ รยี นมคี ณุ ลักษณะทแ่ี สดงออกถึงความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่า ร่วมอนุรักษ์ สืบ ทอดภมู ิปญั ญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ใช้ภาษาไทยในการส่ือสารได้อย่างถูกต้องและ เหมาะสม มีความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่า ช่ืนชม มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ สืบทอดเผยแพร่ภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรมไทย มีความกตัญญูกตเวที ใช้ภาษาไทยในการส่ือสารอย่างถูกต้อง เหมาะสม 8) มีจิตสาธารณะ ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือสถานการณ์ท่ี ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผ้อู ่ืน ชุมชนและสังคมด้วยความเต็มใจ กระตือรือร้น โดยไม่หวังผลตอบแทน มีลักษณะเป็น ผู้ให้ และช่วยเหลือผู้อ่ืน แบ่งปันความสุขส่วนตน เพ่ือทาประโยชน์แก่ส่วนรวม เข้าใจเห็นใจผู้ที่มีความเดือดร้อน อาสาชว่ ยเหลือสังคม อนรุ กั ษส์ ่งิ แวดล้อมด้วยแรงกาย สติปัญญา ลงมือปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาหรือร่วมสร้างสรรค์สิ่ง ทดี่ งี ามให้เกิดในชมุ ชน โดยไม่หวังสงิ่ ตอบแทน

กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ ทาไมต้องเรียนคณติ ศาสตร์ คณิตศาสตร์มีบทบาทสาคญั ยิ่งตอ่ ความสาเร็จในการเรียนรูใ้ นศตวรรษท่ี ๒๑ เนือ่ งจากคณิตศาสตร์ช่วยให้ มนุษย์มีความคิดริเร่มิ สร้างสรรค์ คิดอย่างมเี หตผุ ล เป็นระบบ มแี บบแผน สามารถวิเคราะห์ปญั หาหรอื สถานการณ์ ไดอ้ ย่างรอบคอบและถ่ถี ว้ น ช่วยใหค้ าดการณ์ วางแผน ตดั สินใจ แกป้ ัญหา ไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม และสามารถ นาไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากน้ี คณิตศาสตร์ยังเป็นเคร่ืองมือในการศึกษาทางด้าน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและศาสตร์อื่น ๆ อันเป็นรากฐานในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของชาติให้มีคุณภาพและพัฒนา เศรษฐกิจของประเทศให้ทัดเทียมกับนานาชาติ การศึกษาคณิตศาสตร์จึงจาเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ ทันสมัยและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคมและความรู้ทางวิทยาศาสตร์ละเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าอย่าง รวมเร็วในยุคโลกาภิวัตน์ ตวั ชีว้ ัดและสาระการเรียนร้แู กนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ( ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐ ) ฉบับนี้ จดั ทาขึ้นโดยคานึงถึงการส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ทักษะที่จาเป็นสาหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ เป็นสาคัญ น่ันคือ การเตรียมผู้เรียนให้มีทักษะด้านการคิด วิเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ การใช้เทคโนโลยี การส่ือสารและการ ร่วมมือ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้เรียนรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสภาพแวดล้อม สามารถแข่งขันและอยู่ร่วมกับประชาคมโลกได้ ทั้งน้ี การจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่ประสบความสาเร็จน้ัน จะตอ้ งเตรียมผ้เู รียนใหม้ คี วามพรอ้ มทีจ่ ะเรียนรสู้ ่งิ ตา่ ง ๆ พร้อมท่ีจะประกอบอาชีพเมื่อจบการศึกษา หรือสามารถ ศึกษาตอ่ ในระดบั ทส่ี ูงข้ึน ดงั นน้ั สถานศกึ ษาจดั การเรยี นร้ใู หเ้ หมาะสมตามศกั ยภาพของผูเ้ รยี น เรยี นรู้อะไรในคณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ จดั เป็น ๔ สาระได้แก่ จานวนและพชี คณิต การวดั และเรขาคณติ สถติ แิ ละ ความน่าจะเปน็ แคลคลู สั  จานวนและพีชคณิต ระบบจานวนจริง สมบัติเกี่ยวกับจานวนจริง อัตราส่วน ร้อยละ การประมาณค่า การแก้ปัญหาเก่ียวกับจานวน การใช้จานวนในชีวิตจริง แบบรูป ความสัมพันธ์ ัังก์ชัน เซตตรรกศาสตร์ นิพจน์ เอกนาม พหุนาม สมการ อสมการ กราั ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เมทริกซ์จานวนเชิงซ้อน ลาดบั และอนุกรม และการนาความรู้เก่ยี วกับจานวนและพีชคณิตไปใชใ้ นสถานการณ์ต่าง ๆ  การวัดและเรขาคณิต ความยาว ระยะทาง น้าหนัก พื้นที่ปริมาตรและความจุ เงินและเวลา หน่วยวัด ระบบตา่ ง ๆ การคาดคะเนเกยี่ วกบั การวัด อัตราส่วนตรีโกณมิติ รูปเรขาคณิตและสมบัติของรูปเรขาคณิต การนกึ ภาพแบบจาลองทางเรขาคณิต ทฤษฎีบททางเรขาคณิต การแปลงทางเรขาคณิตในเรื่องการเล่ือน ขนาน การสะท้อน การหมนุ เรขาคณติ วิเคราะห์ เวกเตอร์ในสามมิตแิ ละการนาความรู้เกย่ี วกับการวดั และ เรขาคณิตไปใชใ้ นสถานการณต์ ่าง ๆ  สถติ ิและความน่าจะเป็น การตัง้ คาถามทางสถติ ิ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู การคานวณค่าสถิติ การนาเสนอ และแปลผลสาหรับข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ หลักการนับเบ้ืองต้น ความน่าจะเป็น การแจกแจง ของตัวแปรสุ่ม การใช้ความรู้เกี่ยวกับสถิติและความน่าจะเป็นในการอธิบายเหตุการณ์ต่าง ๆ และช่วยใน การตัดสินใจ  แคลคูลัส ลิมิตและความต่อเน่ืองของัังก์ชัน อนุพันธ์ของัังก์ชันพีชคณิต ปริพันธ์ของัังก์ชันพีชคณิต และการนาความรู้เก่ียวกบั แคลคูลสั ไปใชใ้ นสถานการณ์ตา่ ง ๆ

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี ๑ จานวนและพีชคณติ มาตรฐาน ค ๑.๑ เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผล ทีเ่ กดิ ขึน้ จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนนิ การและนาไปใช้ มาตรฐาน ค ๑.๒ เขา้ ใจและวเิ คราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ังั กช์ ัน ลาดบั และอนุกรม และนาไปใช้ มาตรฐาน ค ๑.๓ ใช้นิพจน์ สมการ อสมการและเมทรกิ ซ์ อธิบายความสมั พนั ธห์ รือชว่ ยแก้ปัญหาทีก่ าหนดให้หมาย เหตุ : มาตรฐาน ค ๑.๓ สาหรับผู้เรยี นในระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ - ๖ สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณติ มาตรฐาน ค ๒.๑ เขา้ ใจพ้นื ฐานเก่ียวกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสิง่ ที่ตอ้ งการวดั และนาไปใช้ มาตรฐาน ค ๒.๒ เขา้ ใจและวเิ คราะห์รูปเรขาคณิต สมบตั ิของรูปเรขาคณติ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งรูป เรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนาไปใช้ มาตรฐาน ค ๒.๓ เขา้ ใจเรขาคณิตวิเคราะห์และนาไปใช้ มาตรฐาน ค ๒.๔ เข้าใจเวกเตอร์ การดาเนนิ การของเวกเตอรแ์ ละนาไปใช้ หมายเหตุ : ๑. มาตรฐาน ค ๒.๑ และ ค ๒.๒ สาหรับผ้เู รยี นในระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ ถงึ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ๒. มาตรฐาน ค ๒.๓ และ ค ๒.๔ สาหรบั ผู้เรยี นในระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ – ๖ ทีเ่ น้นวทิ ยาศาสตร์ สาระท่ี 3 สถติ แิ ละความน่าจะเปน็ มาตรฐาน ค ๓.๑ เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรทู้ างสถิตใิ นการแก้ปญั หา มาตรฐาน ค ๓.๒ เข้าใจหลักการนบั เบ้อื งต้น ความน่าจะเป็นและนาไปใช้ หมายเหตุ : มาตรฐาน ค ๓.๒ สาหรับผู้เรยี นในระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ - ๖ สาระที่ 4 แคลคลู สั มาตรฐาน ค ๔.๑ เข้าใจลมิ ิตและความตอ่ เน่ืองของังั ก์ชัน อนพุ นั ธ์ของังั ก์ชัน และปริพนั ธ์ของังั กช์ ัน และนาไปใช้ หมายเหตุ : มาตรฐาน ค ๔.๑ สาหรบั ผ้เู รียนในระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๔ – ๖ ทเ่ี นน้ วิทยาศาสตร์ คณุ ภาพผู้เรียน จบชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓  มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจและความรสู้ กึ เชิงจานวนเกีย่ วกับจานวนนับไม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ และการดาเนินการของจานวน สามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับการบวก การลบ การคูณ การหารและ นาไปใชใ้ นสถานการณต์ า่ ง ๆ ได้  มคี วามรสู้ กึ เชิงจานวนเกี่ยวกบั เศษสว่ นที่ไม่เกิน ๑ มที กั ษะการบวก การลบเศษส่วนท่ตี ัว ส่วน เทา่ กันและนาไปใช้ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ  คาดคะเนและวัดความยาวนา้ หนัก ปรมิ าตร ความจุ เลือกใชเ้ ครอ่ื งมือและหน่วยทเี่ หมาะสม บอกเวลา บอกจานวนเงินและนาไปใชใ้ นสถานการณต์ ่าง ๆ  จาแนกและบอกลกั ษณะของรูปหลายเหลี่ยม วงกลม วงรี ทรงสี่เหล่ยี มมมุ ฉาก ทรงกลม ทรงกระบอกและกรวย เขยี นรปู หลายเหล่ยี ม วงกลมและวงรโี ดยใช้แบบของรูป ระบุรูปเรขาคณิตท่ีมี แกนสมมาตรและจาแนกแกนสมมาตร และนาไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ  อา่ นและเขียนแผนภมู ริ ปู ภาพ ตารางทางเดียวและนาไปใช้ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ

จบชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖  อ่าน เขียนตัวเลข ตวั หนงั สอื แสดงจานวนนบั เศษส่วน ทศนยิ มไม่เกนิ ๓ ตาแหน่ง อัตราส่วนและ ร้อยละ มีความรู้สึกเชิงจานวน มีทักษะการบวก การลบ การคูณ การหาร ประมาณผลลัพธ์และ นาไปใชใ้ นสถานการณต์ า่ ง ๆ  อธิบายลักษณะและสมบัติของรูปเรขาคณิต หาความยาวรอบรูปและพ้ืนที่ของรูปเรขาคณิตสร้าง รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยมและวงกลม หาปริมาตรและความจุของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากและ นาไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ นาเสนอข้อมลู ในรปู แผนภมู ิแท่ง ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิแท่ง แผนภูมิ รูวงกลม ตารางสองทางและกราัเส้นในการอธิบายเหตุการณต์ ่าง ๆ และตัดสินใจ

ตวั ชวี้ ดั และสาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระที่ ๑ จานวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค. ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลทีเ่ กิดขึ้นจากการดาเนินการ สมบตั ิของการดาเนินการ และนาไปใช้ ชน้ั ตวั ชีว้ ัด / ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ป.๒ ๑. บอกจานวนของส่ิงต่าง ๆ แสดงสิ่งต่าง ๆ ตาม จานวนนบั ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐ จานวนท่กี าหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก - การนับทลี ะ ๒ ทีละ ๕ ทีละ ๑๐ และทีละ ๑๐๐ ตัวเลขไทย ตัวหนังสือแสดงจานวนนับไม่เกิน - การอ่านและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลข ๑,๐๐๐ และ ๐ ไทย และตวั หนังสือแสดงจานวน ๒. เปรียบเทยี บจานวนนบั ไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ โดย - จานวนคู่ จานวนค่ี ใชเ้ คร่อื งหมาย =  > < - หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลักและการเขียน ๓. เรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ ตวั เลขแสดงจานวนในรูปกระจาย ต้ังแต่ ๓ ถึง ๕ จานวนจากสถานการณต์ ่าง ๆ - การเปรียบเทียบและเรยี งลาดับจานวน ๔. หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ การบวก การลบ การคูณ การหารจานวนนับไม่เกิน แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบ ๑,๐๐๐ และ ๐ ของจานวนนบั ไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ - การบวกและการลบ ๕. หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์ - ความหมายของการคูณ ความหมายของการหาร แสดงการคูณของจานวน ๑ หลักกับจานวนไม่เกิน การหาผลคูณ การหาผลหารแ ละเศษและ ๒ หลัก ความสัมพนั ธ์ของการคณู และการหาร ๖. หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ - การบวก ลบ คูณ หารระคน แสดงการหารท่ตี ัวต้ังไมเ่ กิน ๒ หลัก ตัวหาร ๑ หลกั - การแก้โจทย์ปญั หาและการสร้างโจทย์ปัญหา โดยทีผ่ ลหารมี ๑ หลักท้งั หารลงตัวและหารไมล่ งตวั พรอ้ มท้ังหาคาตอบ ๗. หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับ ไม่เกนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ ๘. แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ขั้นตอน ของจานวนนบั ไม่เกนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ มาตรฐาน ค. ๑.๒ เขา้ ใจและวิเคราะห์แบบรปู ความสมั พันธ์ ฟงั กช์ นั ลาดบั และอนกุ รม และนาไปใช้ ชัน้ ตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ ป.๒ แบบรูป - - แบบรูปของจานวนท่เี พม่ิ ข้นึ หรอื ลดลงทลี ะ ๒ ทลี ะ ๕ และทลี ะ ๑๐๐ - แบบรูปซ้า

สาระที่ ๒ การวดั และเรขาคณติ มาตรฐาน ค. ๒.๑ เขา้ ใจพน้ื ฐานเก่ยี วกับการวัด วดั และคาดคะเนขนาดของสง่ิ ทต่ี อ้ งการวัด และนาไปใช้ ช้ัน ตัวชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ป.๒ ๑. แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับเวลา เวลา ทม่ี ีหนว่ ยเดี่ยวและเป็นหน่วยเดียวกนั - การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที (ชว่ ง ๕ นาท)ี - การบอกระยะเวลาเปน็ ชว่ั โมง เป็นนาที - การเปรียบเทียบระยะเวลาเป็นชว่ั โมง เปน็ นาที - การอา่ นปฏทิ นิ - การแกโ้ จทยป์ ัญหาเก่ียวกบั เวลา ๒. วัดและเปรยี บเทียบความยาวเปน็ เมตรและเซนติเมตร ความยาว ๓. แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาการบวก การลบ - การวัดความยาวเปน็ เมตรและเซนติเมตร เกยี่ วกบั ความยาวทีม่ ีหน่วยเปน็ เมตรและเซนติเมตร - การคาดคะเนความยาวเป็นเมตร - การเปรยี บเทยี บความยาวโดยใชค้ วามสัมพันธ์ระหว่าง เมตรกบั เซนตเิ มตร - การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวท่ีมีหน่วยเป็น เมตรและเซนตเิ มตร ๔. วัดและเปรียบเทียบน้าหนักเป็นกิโลกรัมและกรัม นา้ หนัก กิโลกรมั และขีด - การวัดน้าหนักเปน็ กโิ ลกรมั และกรมั กโิ ลกรมั และขดี ๕. แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก การลบ - การคาดคะเนน้าหนักเปน็ กโิ ลกรัม เก่ียวกับน้าหนักที่มีหน่วยเป็นกิโลกรัมและกรัม - การเปรยี บเทียบนา้ หนักโดยใชค้ วามสมั พนั ธ์ระหว่าง กิโลกรัมและขดี กิโลกรมั กับกรมั กิโลกรมั กับขีด - การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับน้าหนักท่ีมีหน่วยเป็น กิโลกรัมและกรัม กิโลกรมั และขดี ๖. วดั และเปรยี บเทียบปรมิ าตรและความจุเป็นลิตร ปริมาตรและความจุ - การวัดปรมิ าตรและความจโุ ดยใชห้ น่วยท่ีไม่ใช่ หนว่ ยมาตรฐาน - การวัดปริมาตรและความจุเป็นช้อนชา ช้อนโต๊ะ ถว้ ยตวง ลิตร - การเปรียบเทียบปริมาตรและความจุเป็นช้อนชา ช้อนโต๊ะ ถว้ ยตวง ลติ ร - การแก้โจทย์ปัญหาเก่ียวกับปริมาตรและความจุที่มี หน่วยเป็นชอ้ นชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวง ลติ ร มาตรฐาน ค. ๒.๒ เขา้ ใจและวิเคราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบตั ิของรปู เรขาคณิต ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งรูปเรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนาไปใช้ ชัน้ ตัวชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ป.๒ ๑. จาแนกและบอกลกั ษณะของรูปหลายเหล่ยี มและวงกลม รปู เรขาคณิตสองมิติ - ลักษณะของรูปหลายเหลี่ยม วงกลม และวงรี และ การเขยี นรปู เรขาคณิตสองมติ โิ ดยใชแ้ บบของรูป

สาระท่ี ๓ สถติ ิและความนา่ จะเป็น มาตรฐาน ค. ๓.๑ เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรทู้ างสถิตใิ นการแกป้ ัญหา ชนั้ ตวั ช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ ป.๒ ๑. ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของ การนาเสนอข้อมูล โจทย์ปัญหาเมื่อกาหนดรูป ๑ รูปแทน ๒ หน่วย - การอ่านแผนภมู ริ ูปภาพ ๕ หน่วย หรอื ๑๐ หน่วย

โครงสร้างหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านทา่ อาจ โครงสร้างเวลาเรยี น ระดบั ประถมศกึ ษา เวลาเรียน ( ชวั่ โมง / ปี ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้ / กจิ กรรม ระดับประถมศกึ ษา  กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ป. 1 ป. 2 ป. 3 ป. 4 ป. 5 ป. 6 ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ 200 200 200 160 160 160 วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 200 200 200 160 160 160 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 80 80 80 80 80 80 ประวตั ศิ าสตร์ 80 80 80 80 80 80 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 40 40 40 40 40 40 ศลิ ปะ 80 80 80 80 80 80 การงานอาชพี 40 40 40 80 80 80 ภาษาตา่ งประเทศ 40 40 40 80 80 80 รวมเวลาเรียน ( พนื้ ฐาน ) 80 80 80 80 80 80 840 840 840 840 840 840  รายวิชาเพิ่มเตมิ วิทยาการคานวณ 40 40 40 40 40 40 รวมเวลาเรียน ( เพมิ่ เติม ) 40 40 40 40 40 40  กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 40 40 40 40 40 40 กจิ กรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน กจิ กรรมลกู เสือ / ยวุ กาชาด 30 30 30 30 30 30 ชุมนมุ 40 40 40 40 40 40 กจิ กรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ 10 10 10 10 10 10 รวมเวลาเรยี นกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น 120 120 120 120 120 120 รวมเวลาเรยี นทงั้ หมด 1,000 ช่วั โมง / ปี จานวนช่วั โมงท่จี ดั ให้นักเรียนระดบั ประถมศกึ ษา ( ป.1 - ป.3 ) เรียนทัง้ ปี เทา่ กับ 1,000 ชั่วโมง ระดับช้ัน ประถมศึกษา ( ป. 4 -ป.6 ) เท่ากับ 1,000 ช่ัวโมง แผนการเรียนรู้ / จุดเน้นการพัฒนาผู้เรียนท่ีต้องการเน้นเป็น พิเศษ คอื กลมุ่ สาระการเรียนร้ทู ักษะภาษาไทย คณิตศาสตร์ เพือ่ พัฒนาการอ่านออก เขียนได้ ทกั ษะกระบวนการ ทางคณิตศาสตร์ คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ท่ีดี มีประโยชน์ มีความสนใจใฝ่รู้ใฝ่เรียน โดยจัดการ เรียนการสอนและวัดผลประเมินผลเปน็ รายปี

โครงสร้างหลกั สตู รสถานศกึ ษา ระดบั ชน้ั ประถมศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 รหสั วชิ า รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรียน ท 12101 (ช่วั โมง/ปี) (ชว่ั โมง/สัปดาห)์ ค 12101 รายวิชาพน้ื ฐาน ว 12101 ภาษาไทย 2 840 21 ส 12101 คณิตศาสตร์ 2 200 5 ส 12101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2 200 5 พ 12101 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 2 80 2 ศ 12101 ประวตั ศิ าสตร์ 2 80 2 ง 12101 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 2 40 1 อ 12101 ศลิ ปะ 2 80 2 รหสั วชิ า การงานอาชพี 2 40 1 ว 12101 ภาษาองั กฤษ 2 40 1 รหสั กจิ กรรม 80 2 รายวิชาเพมิ่ เตมิ 40 1 วทิ ยาการคานวน 2 40 1 120 3 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน 40 1  กิจกรรมแนะแนว (80) (2)  กิจกรรมนักเรียน 40 1 40 1  ลูกเสอื /ยวุ กาชาด (10) ผนวกในกจิ กรรม  ชมุ นมุ  กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ ลกู เสือ/ยวุ กาชาด 1,000 25 รวมเวลาเรียนทงั้ หมดตามโครงสรา้ งหลักสูตร

โครงสร้างเวลาเรียนกลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิชาคณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วชิ าคณติ ศาสตร์ เวลาเรียน หมายเหตุ วิชาพ้ืนฐาน 200 ระดบั ช้นั ประถมศกี ษาปีที่ 1 200 ระดับชั้นประถมศกี ษาปีที่ 2 200 ระดบั ช้ันประถมศกี ษาปีที่ 3 160 ระดบั ชั้นประถมศกี ษาปีที่ 4 160 ระดบั ชน้ั ประถมศีกษาปที ่ี 5 160 ระดบั ชั้นประถมศกี ษาปีที่ 6 1,080 รวมเวลาเรยี นวชิ าพื้นฐาน - วิชาเพม่ิ เตมิ

คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน รหสั วิชา ค ๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลาเรยี น ๒๐๐ ชวั่ โมง บอกจานวนของสิ่งต่าง ๆ แสดงส่ิงต่าง ๆ ตามจานวนที่กาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลข ไทย ตัวหนังสือแสดงจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ เปรียบเทียบจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ โดยใช้ เคร่อื งหมาย =  > < เรยี งลาดับจานวนนบั ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐ ตั้งแต่ ๓ ถงึ ๕ จานวนจากสถานการณต์ ่าง ๆ หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบของจานวนนับไม่ เกนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการคูณของจานวน ๑ หลักกับจานวนไม่ เกิน ๒ หลัก หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงการหารทต่ี วั ตงั้ ไม่เกนิ ๒ หลัก ตวั หาร ๑ หลัก โดย ที่ผลหารมี ๑ หลักท้ังหารลงตัวและหารไม่ลงตัว หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับ ไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลาที่มีหน่วยเดี่ยวและเป็นหน่วยเดียวกัน วัดและเปรียบเทียบ ความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบเกี่ยวกับความยาวท่ีมีหน่วย เป็นเมตรและเซนติเมตร วัดและเปรียบเทียบน้าหนักเป็นกิโลกรัมและกรัม กิโลกรัมและขีด แสดงวิธีหาคาตอบของ โจทย์ปัญหาการบวก การลบเก่ียวกับน้าหนักท่ีมีหน่วยเป็นกิโลกรัมและกรัม กิโลกรัมและขีด วัดและเปรียบเทียบ ปรมิ าตรและความจุเป็นลิตร จาแนกและบอกลกั ษณะของรูปหลายเหลี่ยมและวงกลม ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพ ในการหาคาตอบของโจทย์ปญั หาเมื่อกาหนดรูป ๑ รปู แทน ๒ หนว่ ย ๕ หนว่ ยหรือ ๑๐ หนว่ ย มาตรฐาน / ตัวช้วี ดั ค ๑.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔ , ป.๒/๕ , ป.๒/๖ , ป.๒/๗ , ป.๒/๘ ค ๒.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔ , ป.๒/๕ , ป.๒/๖ ค ๒.๒ ป.๒/๑ ค ๓.๑ ป.๒/๑ รวม ๔ มาตรฐาน ๑๖ ตวั ช้ีวัด

โครงสรา้ งรายวชิ าพน้ื ฐาน ค ๑๒๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ เวลา ๒๐๐ ชัว่ โมง คะแนนเตม็ ๑๐๐ คะแนน (๗๐ : ๓๐) ลาดับ ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลาเรยี น น้าหนกั ท่ี และตัวช้ีวดั (ชัว่ โมง) (คะแนน) 1 จานวนนับไมเ่ กนิ 1,000 ค 1.1 ป.2/1, 1. การเขียนและการอ่าน 20 ๑๐ ป.2/2, ตวั เลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย ป.2/3 และตวั หนังสือแสดงจานวนนับ ไมเ่ กนิ 1,000 2. จานวนคู่ จานวนคี่ 3. การเปรยี บเทยี บจานวนนับ สองจานวน 4. การเรยี งลาดบั จานวนนบั 5. แบบรปู ของจานวนนับ 2 การบวกและการลบจานวนนบั ค 1.1 ป.2/4 1. ตวั ไมท่ ราบค่าใน 16 ๘ ทีม่ ตี ัวตั้งและผลลพั ธ์ไม่เกนิ 100 ประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการบวกและ ประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการลบ 2. การบวกจานวนนับท่ีมผี ลบวก ไม่เกิน 100 3. การลบจานวนนบั ท่มี ตี วั ตั้ง ไม่เกิน 100 4. การตรวจคาตอบโดยใช้ ความสัมพันธข์ องการบวก และการลบ 5. โจทย์ปญั หา

ลาดบั ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระการเรียนรู้ เวลาเรยี น นา้ หนกั ท่ี เรยี นรู้ (ช่ัวโมง) (คะแนน) และตัวชี้วดั ๘ 3 การบวกและการลบจานวนนบั ค 1.1 ป.2/4 1. การบวกจานวนนบั ที่มีผลบวก 18 ๑๐ ไม่เกิน 1,000 ทีม่ ีตวั ตง้ั และผลลพั ธ์ 2. การลบจานวนนบั ที่มตี ัวตงั้ 14 ๑๐ ไมเ่ กิน 1,000 14 ๘ ไมเ่ กิน 1,000 3. ความสมั พันธ์ของการบวก 18 ๘ และการลบ 14 4 ความยาว ค 2.1 ป.2/2, ป. 4. โจทยป์ ญั หา 5 น้าหนัก 2/3 5. โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ 6 การคณู 7 เวลา ค 2.1 ป.2/4, ป. 1. การวดั ความยาวเปน็ เมตร 2/5 และเซนติเมตร 2. การคาดคะเนความยาว ค 1.1 ป.2/5 และความสงู 3. การเปรียบเทยี บความยาว ค 2.1 ป.2/1 4. โจทยป์ ญั หาเก่ยี วกบั ความยาว 1. การวดั นา้ หนักเปน็ กโิ ลกรมั และกรัม กโิ ลกรมั และขีด 2. การคาดคะเนนา้ หนกั 3. การเปรียบเทียบน้าหนกั 4. โจทย์ปญั หาเก่ียวกับนา้ หนัก 1. ความหมายของการคณู และการใช้เครือ่ งหมายคณู 2. การคูณจานวนหน่ึงหลกั กบั จานวนไม่เกินสองหลัก 3. โจทย์ปัญหา 1. การบอกเวลา 2. การอา่ นปฏิทนิ 3. การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั เวลา

ลาดับ ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลาเรยี น นา้ หนัก ท่ี และตวั ชว้ี ดั (ชัว่ โมง) (คะแนน) 8 การหาร ค 1.1 ป.2/5, ป. 1. ความหมายของการหาร 28 ๑๐ 9 ปริมาตรและความจุ 2/6 และการใช้เครอื่ งหมายหาร 18 2. ความสมั พันธข์ องการคณู ๑๐ 10 รปู เรขาคณิตสองมิติ ค 2.1 ป.2/6 และการหาร 14 3. การหารทตี่ วั หารและผลหาร 20 ๔ 11 การบวก ลบ คณู หาร ค 2.2 ป.2/1 มีหนง่ึ หลัก 6 ระคน 4. โจทย์ปัญหา ๒๐๐ ๑๐ ค 1.1 ป.2/4, ป. 12 แผนภูมิรูปภาพ 2/5, 1. ปริมาตรและความจุ ๔ ป.2/6, ป.2/7, ป. 2. การวดั ปริมาตรและความจุ ๑๐๐ 2/8 3. หนว่ ยการวดั ปริมาตรและ ค 3.1 ป.2/1 ความจุที่เปน็ มาตรฐาน 4. การเปรียบเทยี บปรมิ าตรของ สงิ่ ของและความจขุ องภาชนะ 5. โจทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั ปรมิ าตร และความจุ 1. รปู หลายเหล่ยี ม 2. วงกลม วงรี 3. รูปเรขาคณิตสองมติ ิ 4. การเขยี นรูปเรขาคณิตสองมติ ิ โดยใช้แบบของรูป 5. แบบรูป 1. ทบทวนการบวก การลบ การ คูณ และการหาร 2. การบวก ลบ คูณ หารระคน 3. ทบทวนโจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคณู และการหาร 4. โจทยป์ ญั หาการบวก ลบ คณู หารระคน การนาเสนอข้อมูล ดว้ ยแผนภูมิรปู ภาพ และการอา่ นแผนภมู ิรปู ภาพ รวม

การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพ้ืนฐานสองประการคือ การประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียนและเพ่ือตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบ ผลสาเร็จนัน้ ผเู้ รียนจะตอ้ งไดร้ ับการพัฒนาและประเมนิ ตามตวั ชวี้ ัดเพอื่ ให้บรรลตุ ามมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อน สมรรถนะสาคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซ่ึงเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผลการ เรียนรูใ้ นทกุ ระดับไม่วา่ จะเปน็ ระดับชั้นเรยี น ระดบั สถานศึกษา ระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษา และระดับชาติ การวัด และประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและสารสนเทศ ทแี่ สดงพัฒนาการ ความกา้ วหน้า และความสาเร็จทางการเรยี นของผู้เรยี น ตลอดจนขอ้ มูลทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อการ สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ การพัฒนาและเรียนร้อู ย่างเตม็ ตามศักยภาพ 4 1. การประเมินระดับช้ันเรียน เป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอน ดาเนินการเป็นปกติและสม่าเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น การ ซกั ถาม การสงั เกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน แฟ้มสะสมงาน การ ใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาส ให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพ่ือนประเมินเพ่ือน ผปู้ กครองรว่ มประเมิน ในกรณีทไ่ี มผ่ า่ นตัวชว้ี ัดให้มกี ารสอนซอ่ มเสริม การประเมนิ ระดบั ชนั้ เรียนเป็นการตรวจสอบวา่ ผู้เรยี นมพี ฒั นาการความกา้ วหน้าใน การเรยี นรู้ อนั เปน็ ผลมาจากการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากนอ้ ยเพยี งใด มสี ่งิ ทจ่ี ะต้องไดร้ บั การพัฒนา ปรบั ปรงุ และสง่ เสริมในด้านใด นอกจากนี้ยังเป็นขอ้ มลู ใหผ้ สู้ อนใชป้ รับปรุง การเรียนการสอนของตนดว้ ย ทงั้ น้โี ดย สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชีว้ ดั 2. การประเมินระดับสถานศึกษา เป็นการประเมินที่สถานศึกษาดาเนินการเพื่อตัดสินผลการเรียนของ ผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น นอกจากนเี้ พอ่ื ใหไ้ ด้ข้อมลู เกย่ี วกับการจัดการศึกษาของสถานศกึ ษา วา่ ส่งผลต่อการเรียนรู้ ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมท้ังสามารถนาผลการเรียนของผู้เรียน ใน สถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศเพ่ือ การปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทาแผนพัฒนา คณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษาตามแนวทางการประกันคณุ ภาพการศกึ ษาและการรายงานผลการจดั การศึกษา ต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ผู้ปกครองและชมุ ชน 3. การประเมินระดับเขตพืน้ ท่ีการศึกษา เป็นการประเมนิ คุณภาพผ้เู รยี นในระดับเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษา ตามมาตรฐานการเรยี นรตู้ ามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน เพื่อใชเ้ ป็นขอ้ มลู พ้ืนฐานในการพฒั นา คณุ ภาพการศกึ ษาของเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา ตามภาระความรบั ผดิ ชอบ สามารถดาเนินการโดยประเมินคณุ ภาพ ผลสมั ฤทธ์ิของผเู้ รียนด้วยข้อสอบมาตรฐานที่จดั ทาและดาเนินการโดยเขตพื้นที่การศึกษา หรอื ด้วยความรว่ มมือกบั หน่วยงานตน้ สงั กัด ในการดาเนนิ การจดั สอบ นอกจากนี้ยงั ไดจ้ ากการตรวจสอบทบทวนข้อมูลจากการประเมิน ระดับสถานศกึ ษาในเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษา

4. การประเมนิ ระดบั ชาติ เปน็ การประเมินคุณภาพผเู้ รยี นในระดับชาตติ ามมาตรฐาน การเรียนรู้ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน สถานศึกษาตอ้ งจัดให้ผเู้ รยี นทุกคนท่เี รยี นในชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 และช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 6 เขา้ รับการประเมนิ ผลจากการ ประเมินใชเ้ ป็นข้อมลู ในการเทียบเคยี งคณุ ภาพการศกึ ษาในระดบั ต่าง ๆ เพ่อื นาไปใชใ้ นการวางแผนยกระดับ คณุ ภาพการจัดการศกึ ษา ตลอดจนเปน็ ข้อมูลสนบั สนุนการตัดสินใจในระดับนโยบายของประเทศ ขอ้ มลู การประเมินในระดบั ตา่ ง ๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวน พัฒนาคุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาท่ีจะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุ ง แก้ไข สง่ เสริมสนับสนนุ เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นไดพ้ ฒั นาเตม็ ตามศักยภาพบนพื้นฐาน ความแตกต่างระหว่างบุคคลที่จาแนก ตามสภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนท่ัวไป กลุ่มผู้เรียนท่ีมีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนท่ีมี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่า กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน กลุ่ม ผู้เรยี นที่มปี ัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูลจากการประเมินจึง เป็นหัวใจของสถานศึกษาในการดาเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที ปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาและ ประสบความสาเร็จในการเรียน สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดทาระเบียบว่าด้วยการวัดและ ประเมินผลการเรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติท่ีเป็นข้อกาหนดของ หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน เพอ่ื ให้บคุ ลากรทเ่ี ก่ียวขอ้ งทุกฝ่ายถือปฏิบัตริ ่วมกัน เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผลการเรยี น 1. การตดั สิน การใหร้ ะดับและการรายงานผลการเรยี น 1.1 การตดั สินผลการเรยี น ในการตัดสินผลการเรียนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ อนั พึงประสงค์ และกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียนนั้น ผู้สอนต้องคานึงถงึ การพฒั นาผเู้ รยี นแตล่ ะคน เป็นหลัก และต้องเก็บข้อมูลของผู้เรียนทุกด้านอย่างสม่าเสมอและต่อเน่ืองในแต่ละภาคเรียน รวมทั้งสอนซ่อมเสริม ผ้เู รียนให้พฒั นาจนเตม็ ตามศักยภาพ ระดบั ประถมศึกษา (1) ผูเ้ รียนต้องมเี วลาเรียนไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรยี นทง้ั หมด (2) ผู้เรยี นตอ้ งไดร้ ับการประเมนิ ทกุ ตวั ชีว้ ดั และไดร้ บั การตัดสนิ ผา่ นทุกตัวชวี้ ัด (3) ผ้เู รียนต้องได้รับการตดั สนิ ผลการเรยี นทกุ รายวชิ า และมรี ะดบั ผลการเรยี นไมต่ ่ากว่า 1 (4) ผู้เรยี นตอ้ งไดร้ ับการประเมนิ และมีผลการประเมนิ ผ่านตามเกณฑ์ ผา่ น ดี หรอื ดีเยี่ยม ในการอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (5) ผู้เรยี นต้องได้รบั การประเมนิ และมผี ลการประเมนิ ตามเกณฑ์ ผา่ นในกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน การพจิ ารณาเลอื่ นชั้นทั้งระดับประถมศึกษา ถา้ ผเู้ รียนมขี อ้ บกพรอ่ งเพยี งเล็กน้อย และสถานศกึ ษา พจิ ารณาเหน็ ว่าสามารถพฒั นาและสอนซอ่ มเสรมิ ได้ ให้อยูใ่ นดลุ พนิ ิจของสถานศึกษาที่จะผ่อนผนั ใหเ้ ลอ่ื นช้ันได้ แตห่ ากผเู้ รียนไม่ผ่านรายวชิ าจานวนมาก และมแี นวโน้มว่าจะเป็นปัญหาตอ่ การเรยี นในระดบั ชั้นทสี่ ูงขนึ้

สถานศึกษาอาจตั้งคณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้าช้นั ได้ ท้ังน้ใี ห้คานงึ ถงึ วฒุ ิภาวะและความร้คู วามสามารถของ ผ้เู รียนเป็นสาคญั 1.2 การใหร้ ะดับผลการเรียน ระดบั ประถมศึกษา 1.ในการตัดสนิ เพือ่ ใหร้ ะดับผลการเรียนรายวชิ า กาหนดใหใ้ ช้ตวั เลขแสดงระดับผลการเรียนเป็น 8 ระดับ ตามมาตรฐาน คะแนนร้อยละ ระดับผลการเรียน ความหมายของผลการประเมิน 80-100 4 ดีเยีย่ ม 75-79 3.5 ดีมาก 70-74 3 ดี 65-69 2.5 คอ่ นขา้ งดี 60-64 2 ปานกลาง 55-59 1.5 พอใช้ 50-54 1 ผ่านเกณฑ์ขั้นตา่ 0-49 0 ตา่ กวา่ เกณฑ์ 2. การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี น และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคน์ ้ัน กาหนดใหม้ ี ระดบั ผลการประเมินเป็น “ดีเยี่ยม” “ด”ี และ “ผ่าน” ตามความหมายดงั ต่อไปน้ี การประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น ดีเยย่ี ม หมายถงึ สามารถจับใจความสาคัญได้ครบถ้วน เขียนวิพากษ์วิจารณ์ เขียนสร้างสรรค์ แสดงความคดิ เหน็ ประกอบอยา่ งมเี หตผุ ล ได้ถกู ต้องและสมบรู ณ์ ใช้ภาษาสภุ าพและเรยี บเรียงไดอ้ ย่างสละสลวย ดี หมายถึง สามารถจับใจความสาคัญได้ ครบถ้วน เขียนวิพากษ์วิจารณ์ เขียนสร้างสรรค์ โดยใช้ภาษาสุภาพ ผา่ น หมายถึง สามารถจับใจความสาคัญ และเขียนวพิ ากษ์วจิ ารณไ์ ดบ้ า้ ง การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดีเยี่ยม หมายถึง ผู้เรียนมีคุณลักษณะในการปฏิบัติจนเป็นนิสัย และนาไปใช้ ในชีวิตประจาวัน เพื่อ ประโยชน์สขุ ของตนเองและสังคม ดี หมายถึง ผูเ้ รยี นมีคณุ ลักษณะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑเ์ พื่อใหเ้ ปน็ ท่ยี อมรับของสงั คม ผา่ น หมายถึง ผเู้ รยี นรับรแู้ ละปฏบิ ตั ิตามกฎเกณฑแ์ ละเงือ่ นไขทกี่ าหนด

1.3 การรายงานผลการเรยี น การรายงานผลการเรียนเป็นการส่ือสารใหผ้ ู้ปกครองและผู้เรียนทราบความกา้ วหนา้ ในการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินและจัดทาเอกสารรายงานให้ผู้ปกครองทราบเป็น ระยะ ๆ หรอื อย่างนอ้ ยภาคเรยี นละ 1 ครั้ง ข้อมูลในการรายงานผลการเรยี น 1. ข้อมูลระดับช้ัน ประกอบด้วย ผลการประเมินความรู้ ความสามารถ พฤติกรรมการเรียน ความประพฤตแิ ละผลงานในการเรียนของผ้เู รียนเป็นขอ้ มูลสาหรบั รายงานใหผ้ มู้ ีส่วนเกี่ยวข้องไดแ้ ก่ ผู้เรียน ผสู้ อน และผู้ปกครอง ได้รับทราบความก้าวหน้า ความสาเร็จในการเรียนของผู้เรียน เพ่ือนาไปใช้ ในการวางแผน กาหนดเปา้ หมายและวธิ ีการในการพฒั นาผเู้ รยี น 2. ข้อมูลระดับสถานศึกษา ประกอบด้วย ผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน ของกลุ่ม สาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่มสาระ ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนรายปี / รายภาค ผลการประเมินความก้าวหน้าในการ เรียนรูร้ ายปี / รายภาคโดยรวมของสถานศึกษา เพ่ือใช้เป็นข้อมูลและสารสนเทศในการพัฒนาการเรียนการสอน และคุณภาพของผู้เรียนให้เป็นไปตามมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวัด การตัดสินการเล่ือนชั้น และการซ่อมเสริม ผเู้ รียนทีม่ ีข้อบกพร่องใหผ้ า่ นระดับชัน้ และเปน็ ข้อมูลในการออกเอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา 3. ขอ้ มลู ประเมินคุณภาพระดับเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษา ได้แก่ ผลการประเมินคุณภาพของผู้เรียน ด้วย แบบประเมินท่ีสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาจัดทาข้ึน ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สาคัญ ในระดับช้ัน ที่ นอกเหนือจากการประเมินคุณภาพระดับชาติ เป็นข้อมูลท่ีผู้เก่ียวข้องใช้วางแผนและดาเนินการพัฒนาคุณภาพ การศกึ ษาของสถานศกึ ษาในเขตพืน้ ที่การศึกษาเพ่ือใหเ้ กิดการยกระดบั คณุ ภาพและมาตรฐานการศึกษาของผู้เรยี น และสถานศกึ ษา 4. ข้อมูลผลการประเมินคุณภาพระดับชาติ ได้แก่ ผลการประเมินคุณภาพของผู้เรียน ด้วยแบบ ประเมินที่เป็นมาตรฐานระดับชาติ กลุ่มสาระการเรียน รู้ท่ีสาคัญในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งดาเนินการโดยหน่วยงานระดับชาติ เป็นข้อมูลท่ีผู้เกี่ยวข้องใช้วางแผนและดาเนินการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในส่วนที่เก่ียวข้อง เพ่ือให้เกิดการ ยกระดับคณุ ภาพและมาตรฐานการศึกษาของผเู้ รยี น สถานศึกษา ท้องถ่นิ เขตพ้ืนท่กี ารศึกษา และประเทศชาติ รวมทงั้ นาไปรายงานในเอกสารหลกั ฐานการศึกษาของผู้เรียน 5. ขอ้ มูลพฒั นาการของผู้เรยี นด้านอน่ื ๆ ประกอบด้วย ข้อมลู การพฒั นาการทางดา้ นร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและพฤติกรรมต่างๆ เป็นข้อมูลส่วนหน่ึงของการแนะแนวและจัดระบบการดูแลช่วยเหลือ เพ่ือ แจ้งให้ผู้เรียน ผู้สอน ผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบ โดยผู้มีหน้าท่ีรับผิดชอบแต่ละฝ่ายนาไปใช้ปรับปรุง แก้ไขและพัฒนาผู้เรียน ให้เกิดพัฒนาการอย่างถูกต้อง เหมาะสม รวมทั้งนาไปจัดทาเอกสารหลักฐานแสดง พัฒนาการของผู้เรียน

ตารางการวเิ คราะห์หลกั สูตร ก ชื่อรายวชิ า คณติ ศาสตร์ ร นางสาวจีรัช สาระท่ี 1 จานวนและพีชคณิต มาตรฐาน ตวั ชว้ี ดั สาระสาคัญ K มาตรฐาน ค 1.1 ค 1.1 ป.2/1 การแสดงคา่ ของ - นกั เรียนสา เข้าใจความ บอกจานวนของส่ิง จานวนไม่เกินหน่งึ พัน บอกจานวนข หลากหลายของการ ตา่ งๆ แสดงสิ่ง และศูนย์ สามารถแสดง ต่างๆ แสดงส แสดงจานวน ระบบ ตา่ งๆ ตามจานวน โดยการใช้สญั ลักษณ์ ตา่ งๆ ตามจา จานวนการ ที่กาหนด อ่านและ เป็นตวั เลขฮนิ ดอู ารบกิ ท่กี าหนดได้ ดาเนินการของ เขียนตัวเลขฮินดู ตัวเลขไทย และ - นกั เรยี นสา จานวน ผลท่เี กิดขึ้น อารบิก ตัวเลขไทย ตวั หนงั สือ อ่านและเขีย จากการดาเนินการ ตัวหนังสอื แสดง ตัวเลขฮินดอู สมบัติของการ จานวนนบั ไม่เกิน ตัวเลขไทย ดาเนินการ และ 1,000 และ 0 ตัวหนงั สอื แ นาไปใช้ จานวนนับไม 1,000 และ

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ระดบั ช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 2 ชญ์ คฤหะมาน P A สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง หมายเหตุ ามารถ นักเรียนมี สามารถใช้ - การนบั ทีละ 2 ทีละ 5 ที ของส่ิง ความต้งั ใจใน วธิ กี ารท่ี ละ 10 และทีละ 100 สิง่ การปฏบิ ัติ เหมาะสมใน - การอา่ นและการเขยี น านวน กิจกรรม การแกป้ ญั หา ตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลข และคานวณ ไทย และตัวหนงั สือแสดง ามารถ หาคาตอบได้ จานวน ยน - จานวนคู่ จานวนคี่ อารบกิ แสดง ม่เกนิ 0 ได้

มาตรฐาน ตวั ช้ีวัด สาระสาคญั ค 1.1 ป.2/2 จานวนสองจานวนอาจมี - นกั เรียน เปรียบเทยี บจานวน ค่าเท่ากัน มากกวา่ กนั ความสาม นบั ไมเ่ กิน 1,000 หรอื นอ้ ยกวา่ กันเพียงอยา่ ง เปรยี บเทยี และ 0 โดยใช้ เดยี วเทา่ น้ัน และ นบั ไม่เกนิ เคร่อื งหมาย = ≠ >< และ 0 โด เครอ่ื งหมา ค 1.1 ป.2/3 การเรยี งลาดับจานวน - นักเรยี น เรยี งลาดับจานวนนับ หลาย ๆ จานวน ทาไดโ้ ดย ความสาม ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0 การเปรยี บเทียบจานวนที เรยี งลาดบั ตัง้ แต่ 3 ถงึ 5 ละคู่ แลว้ เรยี งลาดับ ไมเ่ กิน 1,0 จานวนจาก จานวนจากน้อยไปมาก ต้ังแต่ 3 ถ สถานการณต์ า่ งๆ หรอื จากมากไปนอ้ ย จานวนจา สถานการ ค 1.1 ป.2/4 การหาผลบวกของจานวน - นักเรยี น หาค่าของตัวไมท่ ราบ สองจานวน ใหน้ าจานวนที่ คา่ ของตวั คา่ ในประโยค อยู่ในหลกั เดยี วกันมาบวก ประโยคสญั สญั ลกั ษณแ์ สดงการ กัน แสดงการบ บวกและประโยค การหาผลลบของจานวน ประโยคสัญ สัญลกั ษณแ์ สดงการ สองจานวน ให้นาจานวนท่ี แสดงการล ลบของจานวนนบั ไม่ อยู่ในหลักเดยี วมาลบกนั วนนบั ไม่เก เกนิ 1,000 และ 0 และ 0 ได

KP A สาระการเรยี นรู้ หมายเหตุ แกนกลาง นมี นักเรยี นมคี วาม สามารถใชว้ ิธีการท่ี มารถในการ ต้ังใจในการ เหมาะสมในการ - หลัก คา่ ของเลขโดดใน ยบจานวน ปฏบิ ตั ิกิจกรรม แก้ปัญหา และ แตล่ ะหลกั และการเขียน น 1,000 คานวณหาคาตอบ ตัวเลขแสดงจานวนในรปู ดยใช้ ได้ กระจาย าย = ≠ >< นมี นกั เรียนมีความ สามารถใชว้ ธิ ีการท่ี - การเปรียบเทียบและ มารถในการ ตงั้ ใจในการ เหมาะสมในการ เรยี งลาดับจานวน บจานวนนบั ปฏิบตั ิกจิ กรรม แกป้ ัญหา และ 000 และ 0 คานวณหาคาตอบ ถึง 5 ได้ าก รณต์ ่างๆได้ สามารถใชว้ ิธีการที่ - การบวกและการลบ นสามารถหา นกั เรียนมีความ เหมาะสมในการ วไมท่ ราบคา่ ตั้งใจในการ แก้ปญั หา และ ญลักษณ์ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม คานวณหาคาตอบ บวกและ ได้ ญลักษณ์ ลบของจาน กิน 1,000 ด้

มาตรฐาน ตวั ช้วี ัด สาระสาคญั K ค 1.1 ป.2/5 การบวกจานวนทเี่ ท่ากนั - นกั เรียนมี หาค่าของตวั ไม่ทราบ หลาย ๆ จานวนสามารถ ความสามารถ ค่าในประโยค เขยี นแสดงไดด้ ว้ ยการคณู หาค่าของตวั ไ สัญลกั ษณแ์ สดงการ จานวนสองจานวน คา่ ในประโยค คูณของจานวน 1 ลักษณแ์ สดงก หลกั กับจานวนไมเ่ กิน ของจานวน 1 2 หลัก จานวนไมเ่ กิน ค 1.1 ป.2/6 การหารลงตวั ตวั ตั้ง - นักเรียนมี หาค่าของตวั ไม่ทราบ ตัวหาร และผลหารมี ความสามารถ ค่าในประโยค ความสัมพันธก์ ันคือ ตวั ตง้ั หาค่าของตัวไ สัญลกั ษณแ์ สดงการ เทา่ กบั ตัวหารคณู ผลหาร ค่าในประโยค หารท่ีตวั ตั้งไมเ่ กิน 2 บวกเศษศูนย์ การหารไม่ สัญลกั ษณแ์ สด หลัก ตวั หาร 1 หลัก ลงตัว ตวั ต้งั ตัวหาร หารที่ตวั ต้งั ไม โดยทีผ่ ลหารมี 1 ผลหารและเศษ มี หลัก ตัวหาร 1 หลกั ทั้งหารลงตวั และ ความสมั พนั ธก์ นั คือ ตัวตงั้ โดยทผ่ี ลหารม หารไม่ลงตัว เท่ากับตวั หารคณู ผลหาร ทั้งหารลงตวั แ บวกเศษ ไมล่ งตัวได้ ค 1.1 ป.2/7 การตรวจคาตอบของการ - นักเรยี นมี หาผลลัพธ์การบวก บวกกบั การลบ ใช้การ ความสามารถ ลบ คณู หารระคน พจิ ารณาความสมั พนั ธ์ของ หาผลลัพธก์ าร ของจานวนนับไม่เกิน จานวนทีเ่ กิดข้ึนจากการ คูณ หารระคน 1,000 และ 0 บวกกบั การลบ การ จานวนนบั ไม่เ 1,000 และ 0

P A สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง หมาย เหตุ นกั เรยี นมีความ สามารถใช้ - ความหมายของการคณู ต้ังใจในการ ถในการ ปฏิบัติกิจกรรม วิธีการที่ - การหาผลคูณ ไม่ทราบ คสัญ นกั เรยี นมคี วาม เหมาะสมในการ การคณู ตง้ั ใจในการ 1 หลักกับ ปฏิบัติกิจกรรม แก้ปัญหา และ น 2 หลัก คานวณหา ถในการ ไมท่ ราบ คาตอบได้ ค ดงการ สามารถใช้ - ความหมายของการหาร ม่เกนิ 2 1 หลัก วธิ ีการที่ - การหาผลหาร มี 1 หลกั และหาร เหมาะสมในการ แก้ปญั หา และ คานวณหา คาตอบได้ ถในการ นกั เรียนมคี วาม สามารถใช้ - การบวก ลบ คณู หารระคน รบวก ลบ ต้ังใจในการ วธิ กี ารที่ นของ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม เหมาะสมในการ เกิน แกป้ ญั หา และ 0 ได้ คานวณหา คาตอบได้

มาตรฐาน ตวั ชีว้ ดั สาระสาคัญ K ตรวจสอบคาตอบของการ คณู และการหารใช้การ พิจารณาความสมั พนั ธ์ของ จานวนทเ่ี กดิ จากการคณู กบั การหาร ค 1.1 ป.2/8 ในการแกโ้ จทย์ปญั หาของ นักเรียนมี แสดงวิธหี าคาตอบ ของโจทยป์ ญั หา 2 จานวนนับไม่เกนิ หน่งึ พัน ความสามารถ ขั้นตอนของจานวน นบั ไม่เกิน 1,000 และศนู ย์ ตอ้ งใช้ความรู้ วิเคราะห์และแ และ 0 เรอื่ งการบวก การลบ การ โจทยป์ ัญหาก คูณ การหาร และ ลบ คูณ หาร ร กระบวนการแก้ปัญหา ได้

P A สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง หมาย เหตุ นกั เรยี นมคี วาม สามารถใช้ - การแกโ้ จทย์ปัญหาและการ ตั้งใจในการ ถในการ ปฏิบัติกิจกรรม วธิ กี ารที่ สรา้ งโจทย์ปัญหา พร้อมทง้ั หา แก้ การบวก เหมาะสมในการ คาตอบ ระคน แก้ปญั หา และ คานวณหา คาตอบได้

สาระที่ 2 การวดั และเรขาคณติ มาตรฐาน ตัวชวี้ ดั สาระสาคัญ K มาตรฐาน ค 2.1 ค 2.1 ป.2/1 นาฬิกาเป็นเคร่อื งมือ - นักเรียนมี เขา้ ใจพน้ื ฐาน แสดงวธิ หี าคาตอบ เกี่ยวกบั การวดั วดั ของโจทยป์ ญั หา มาตรฐานที่ใชบ้ อกเวลา ความสามารถ และคาดคะเนขนาด เกีย่ วกับเวลาทีม่ ี ของสง่ิ ท่ีตอ้ งการวดั หนว่ ยเดี่ยวและเป็น นาฬิกาโดยท่วั ไปมเี ข็มสัน้ แสดงวธิ หี าคา และนาไปใช้ หนว่ ยเดียวกนั เข็มยาว ตัวเลข บอกเวลา ของโจทยป์ ัญห เข็มสน้ั บอกเวลาเป็น เกี่ยวกบั เวลาท ชั่วโมง เข็มยาวบอกเวลา หน่วยเดี่ยวแล เปน็ นาที หนว่ ยเดยี วกนั ปฏทิ นิ เป็นสงิ่ ทใี่ ช้บอกดูวัน เดอื น และปี 1 ปี มี 12 เดอื น และ 365 วนั หรอื 366 วัน หนง่ึ เดอื นมี 30 วนั หรอื 31 วนั สงั เกตได้ จากคาลงท้ายของช่อื เดอื น ยกเว้นเดือนกุมภาพนั ธม์ ี 28 หรอื 29 วัน

P A สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หมายเหตุ นกั เรียนมคี วาม สามารถใช้ - การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและ ต้งั ใจในการ ถในการ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม วิธีการท่ี นาที (ช่วง 5 นาที) าตอบ หา เหมาะสมในการ - การบอกระยะเวลาเป็นชว่ั โมง ที่มี ละเป็น แก้ปญั หา และ เปน็ นาที นได้ คานวณหา - การเปรยี บเทียบระยะเวลา คาตอบได้ เปน็ ชวั่ โมง เป็นนาที - การอา่ นปฏทิ นิ - การแกโ้ จทย์ปัญหาเกี่ยวกับ เวลา

มาตรฐาน ตัวช้วี ัด สาระสาคัญ K ค 2.1 ป.2/2 เมตร เซนติเมตร เป็น - นักเรยี นมี วดั และเปรยี บเทียบ หน่วยมาตรฐานทใี่ ช้บอก ความสามารถ ความยาวเป็นเมตร ความยาว ความสูงและ วดั และเปรยี บ และเซนติเมตร ระยะทาง และการ ความยาวเป็น แกป้ ัญหาเกี่ยวกบั การวัด และเซนตเิ มต ค 2.1 ป.2/3 ความยาว สามารถทาได้ แสดงวิธีหาคาตอบ หลายวธิ ี - นกั เรยี นมี ของโจทยป์ ญั หาการ เมตร เซนตเิ มตร เป็น ความสามารถ บวก การลบเกยี่ วกบั หนว่ ยมาตรฐานทีใ่ ช้บอก แสดงวธิ หี าคา ความยาวที่มีหนว่ ย ความยาว ความสูงและ ของโจทยป์ ัญห เปน็ เมตรและ ระยะทาง และการ บวก การลบเก เซนตเิ มตร แก้ปัญหาเก่ียวกับการวัด ความยาวท่ีมหี ความยาว สามารถทาได้ เป็นเมตรและ ค 2.1 ป.2/4 หลายวิธี เซนติเมตรได้ วดั และเปรียบเทยี บ - นักเรียนมี นา้ หนักเป็นกโิ ลกรัม กโิ ลกรัม และขดี เป็น ความสามารถ และกรมั กโิ ลกรัม หน่วยมาตรฐานทใ่ี ชบ้ อก วัดและเปรียบ และขีด นา้ หนกั และการแกป้ ญั หา นา้ หนกั เป็นกโิ การช่ังสามารถทาได้หลาย และกรัม กิโลก วธิ ี และขดี ได้

P A สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หมายเหตุ นกั เรียนมีความ สามารถใช้ - การวดั ความยาวเปน็ เมตรและ ตง้ั ใจในการ ถในการ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม วธิ กี ารท่ี เซนตเิ มตร บเทียบ นเมตร เหมาะสมในการ - การคาดคะเนความยาวเปน็ ตรได้ แก้ปัญหา และ เมตร คานวณหา - การเปรยี บเทยี บความยาวโดย คาตอบได้ ใช้ความสัมพนั ธร์ ะหว่างเมตร กับเซนติเมตร นกั เรียนมีความ สามารถใช้ - การแกโ้ จทย์ปญั หาเก่ียวกบั ตั้งใจในการ ถในการ ปฏิบัตกิ จิ กรรม วธิ กี ารที่ ความยาวทม่ี หี น่วยเป็นเมตร าตอบ หาการ เหมาะสมในการ และเซนติเมตร กย่ี วกับ หนว่ ย แกป้ ัญหา และ คานวณหา คาตอบได้ นักเรยี นมีความ สามารถใช้ - การวดั น้าหนกั เป็นกโิ ลกรมั ต้งั ใจในการ ถในการ ปฏิบตั ิกิจกรรม วธิ กี ารที่ และกรัม กโิ ลกรมั และขีด บเทียบ โลกรมั เหมาะสมในการ - การคาดคะเนนา้ หนกั เปน็ กรมั แกป้ ญั หา และ กิโลกรมั คานวณหา - การเปรียบเทยี บน้าหนักโดย คาตอบได้ ใช้ความสัมพันธ์ ระหว่าง กิโลกรัมกับกรัม กโิ ลกรมั กับขีด

มาตรฐาน ตัวชีว้ ัด สาระสาคัญ K ค 2.1 ป.2/5 กโิ ลกรมั และขีด เป็น - นักเรยี นแสด แสดงวธิ ีหาคาตอบ หนว่ ยมาตรฐานท่ีใชบ้ อก คาตอบของโจ ของโจทย์ปัญหาการ นา้ หนกั และการแก้ปญั หา ปัญหาการบวก บวก การลบเกีย่ วกบั การช่ังสามารถทาได้หลาย ลบเก่ยี วกับน้า นา้ หนกั ทีม่ ีหนว่ ยเป็น วธิ ี มหี น่วยเป็นกโิ กิโลกรัม และกรัม และกรัม กโิ ลก กโิ ลกรมั และขีด และขดี ได้ ค 2.1 ป.2/6 ลติ รเป็นหนว่ ยมาตรฐานที่ - นักเรียนมี วัดและเปรยี บเทียบ ใชบ้ อกปรมิ าตรหรอื ความ ความสามารถ ปรมิ าตรและความจุ จุ วัดและเปรยี บ เปน็ ลติ ร ปริมาตรและค เป็นลิตรได้

P A สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หมายเหตุ ดงวิธีหา นกั เรียนมคี วาม สามารถใช้ - การแก้โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับ จทย์ ต้งั ใจในการ ก การ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม วิธีการท่ี นา้ หนักท่ีมี่หนว่ ยเป็นกโิ ลกรัม าหนกั ท่ี โลกรมั เหมาะสมในการ และกรัม กิโลกรมั และขดี กรัม แก้ปญั หา และ คานวณหา คาตอบได้ นกั เรียนมคี วาม สามารถใช้ - การวดั ปรมิ าตรและความจุ ตัง้ ใจในการ ถในการ ปฏิบัติกิจกรรม วธิ ีการท่ี โดยใช้หนว่ ยทไี่ ม่ใช่หนว่ ย บเทยี บ ความจุ เหมาะสมในการ มาตรฐาน แกป้ ัญหา และ - การวดั ปริมาตรและความจุ คานวณหา เปน็ ชอ้ นชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวง คาตอบได้ ลติ ร - การเปรียบเทียบปรมิ าตรและ ความจเุ ปน็ ช้อนชา ชอ้ นโต๊ะ ถ้วยตวง ลติ ร - การแก้โจทยป์ ญั หาเกี่ยวกับ ปรมิ าตรและความจุ ท่ีมหี น่วย เปน็ ชอ้ นชา ช้อนโตะ๊ ถว้ ยตวง ลติ ร

มาตรฐาน ตัวชีว้ ดั สาระสาคญั K มาตรฐาน ค 2.2 ค 2.2 ป.2/1 รปู เรขาคณิตสองมิติ และ - นักเรียนมี เขา้ ใจและวเิ คราะห์ จาแนกและบอก รูปเรขาคณิตสามมติ ิ ความสามารถ รูปเรขาคณิต สมบตั ิ ลักษณะของรปู หลาย ต่างกนั โดยรูปเรขาคณติ จาแนกและบอ ของรปู เรขาคณติ เหลีย่ มและวงกลม สามมติ มิ คี วามหนา ส่วน ลกั ษณะของรูป ความสัมพันธ์ระหวา่ ง รูปเรขาคณิตสองมติ เิ ป็น เหลยี่ มและวง รปู เรขาคณติ และ เพียงหนา้ หนึ่งของรูปเรขา ทฤษฎีบททาง สามมติ ิ สาหรับแบบรูป เรขาคณิต และนาไป ของรปู ตา่ ง ๆ สามารถ ใช้ บอกได้ หรอื หาได้โดยใช้ ความสมั พันธข์ องรปู รา่ ง ขนาดหรือสีเปน็ ตวั กาหนด

P A สาระการเรยี นร้แู กนกลาง หมายเหตุ นกั เรียนมคี วาม สามารถใช้ - ลักษณะของรูปหลายเหล่ยี ม ถในการ ต้ังใจในการ อก ปฏิบัตกิ จิ กรรม วิธกี ารท่ี วงกลม และวงรี และการเขียน ปหลาย งกลมได้ เหมาะสมในการ รปู เรขาคณิตสองมติ ิโดยใชแ้ บบ แก้ปัญหา และ ของรปู คานวณหา คาตอบได้

สาระท่ี 3 สถติ ิและความน่าจะเปน็ มาตรฐาน ตัวชีว้ ัด สาระสาคญั K มาตรฐาน ค 3.1 ค 3.1 ป.2/1 แผนภูมิรูปภาพเป็นการใช้ นักเรียนมี เขา้ ใจกระบวนการ ใชข้ อ้ มูลจากแผนภมู ิ รปู ภาพแสดงจานวนของ ความสามารถ ทางสถิติ และใช้ รูปภาพในการหาคา ส่ิงต่างๆ โดยรูปภาพที่ ใช้ขอ้ มลู จากแ ความรทู้ างสถติ ใิ น ตอบของโจทย์ปัญหา แทนส่งิ เดียวกนั ต้องเปน็ รปู ภาพในการ การแกป้ ญั หา เม่อื กาหนดรปู 1 รูป รปู ภาพทเ่ี หมอื นกันและมี ตอบของโจทย แทน 2 หน่วย 5 ขนาดเทา่ กนั และจานวน เมื่อกาหนดรูป หนว่ ย หรือ 10 รปู ภาพทอ่ี ยู่ในแผนภูมิ แทน 2 หนว่ ย หน่วย รปู ภาพนน้ั อาจไมใ่ ชจ่ าน หนว่ ย หรือ 1 วนทแ่ี ทจ้ รงิ ข้ึนอยู่กับ หน่วย ได้ ข้อกาหนดในแผนภมู ิ รปู ภาพซ่ึงอาจกาหนดให้ รปู 1 รูปแทน 1 หน่วย 2 หน่วย 5 หนว่ ยหรอื 10 หนว่ ย ลงช่อื …………… ( นางสาวจ

P A สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง หมายเหตุ นกั เรยี นมีความ สามารถใช้ - การอา่ นแผนภูมิรปู ภาพ ถในการ ต้ังใจในการ วิธกี ารที่ แผนภูมิ ปฏิบัติกจิ กรรม เหมาะสมในการ รหาคา แก้ปัญหา และ ยป์ ญั หา คานวณหา ป 1 รูป คาตอบได้ ย5 0 …………………………… จรี ชั ญ์ คฤหะมาน) ครผู ้สู อน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook