Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมบทความสาระความรู้ประเพณีสงกรานต์

รวมบทความสาระความรู้ประเพณีสงกรานต์

Published by ห้องสมุดดิจดทัล E-Book, 2020-04-12 23:58:41

Description: รวมบทความสาระความรู้ประเพณีสงกรานต์

Search

Read the Text Version

วารสารหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอลาลกู กา งานการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอลาลกู กา รวมบทความสาระความรปู้ ระเพณีสงกรานต์ และบทความวิธีดแู ลสขุ ภาพจากโรคCOVID -19 #อยบู่ า้ นหยดุ เช้ือเพ่ือชาติ #เราตอ้ งรอดไปดว้ ยกนั ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอลาลกู กา จงั หวดั ปทมุ ธานี

ประเพณสี งกรานต์ สงกรานต์ เปน็ ประเพณีของประเทศไทย กมั พูชา ลาว พมา่ ชนกล่มุ น้อยชาวไทแถบเวยี ดนาม และมณฑลยนู นานของจีน ศรลี ังกาและทางตะวันออกของประเทศอนิ เดยี สนั นษิ ฐานว่า สงกรานต์ ไดร้ บั อิทธิพลมาจากเทศกาลโฮลี ในอนิ เดีย แตเ่ ทศกาลโฮลจี ะใช้การสาดสแี ทน เร่ิมในทกุ วนั แรม 1 ค่าเดือน 4 คือ ในเดือนมนี าคม สงกรานตเ์ ป็นค่าสนั สกฤต หมายถึง \"การเคลือ่ นย้าย\" ซ่งึ เปน็ การอุปมาถงึ การเคล่ือนย้ายของ การประทับในจกั รราศี คอื การเคล่ือนขนึ้ ปใี หมใ่ นความเชือ่ ของไทยและบางประเทศในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ สงกรานต์สืบทอดมาแต่โบราณคกู่ ับตรุษ จึงเรยี กรวมกนั วา่ ประเพณตี รุษสงกรานต์ หมายถึง สง่ ท้ายปีเกา่ ต้อนรับปใี หม่ เดิมวันทจ่ี ดั เทศกาลกา่ หนดโดยการค่านวณทางดาราศาสตร์ แต่ปจั จุบนั ระบุ แน่นอนว่า 13 ถงึ 15 เมษายน วนั ขึน้ ปีใหมไ่ ทยเปน็ วันเริม่ ปปี ฏทิ ินของไทยจนถึง พ.ศ. 2431 จากนนั้ วนั ท่ี 1 เมษายน เปน็ วนั ข้ึนปใี หมจ่ นถงึ พ.ศ. 2483 พธิ ีสงกรานตเ์ ปน็ พธิ กี รรมท่ีเกดิ ข้นึ ในสมาชกิ ครอบครัวหรือชมุ ชนบ้านใกล้เรือนเคียง แตป่ ัจจุบันได้ เปล่ียนไปสูส่ ังคมวงกว้าง ชว่ งเวลาที่พระอาทิตยเ์ คลอ่ื นเขา้ สู่ราศเี มษเปน็ ช่วงฤดรู ้อน ประเพณีดง้ั เดิมจงึ

มกี ารใชน้ ่า้ เป็นองคป์ ระกอบหลกั ในพิธี ใชร้ ดให้แกก่ ันเพอื่ ความชมุ่ ชืน่ มีการสรงน่้าพระเพอื่ เปน็ สริ ิ มงคล ท่าบญุ ตักบาตรไหว้พระ และขอพรจากผ้ใู หญร่ า่ ลึกถงึ บรรพบุรษุ ทล่ี ว่ งลับ สงั คมไทยสมยั ใหม่เกิด ประเพณีกลบั บา้ นในเทศกาลสงกรานตแ์ ละนบั วันสงกรานต์เปน็ วนั ครอบครัว ปัจจบุ ันมีการ ประชาสัมพันธใ์ นเชงิ ทอ่ งเที่ยวว่าเปน็ Water Festival หรือ เทศกาลแหง่ น้า โดยไดต้ ัดข้อมูลในส่วนท่ี เป็นความเชือ่ ดั้งเดิมออกไป ปัจจบุ ันปฏิทนิ ไทยก่าหนดใหเ้ ทศกาลสงกรานต์ตรงกับวนั ที่ 13-15 เมษายนของทุกปี และเป็น วันหยุดราชการ อยา่ งไรกต็ าม ประกาศสงกรานต์อยา่ งเป็นทางการจะคา่ นวณตามหลกั เกณฑใ์ น คมั ภรี ส์ ุรยิ ยาตร์ ซึ่งแตโ่ บราณมา กา่ หนดใหว้ นั แรกของเทศกาลเปน็ วนั ทพ่ี ระอาทติ ยย์ า้ ยออกจากราศี มนี เขา้ สรู่ าศีเมษ เรยี กวา่ \"วนั มหาสงกรานต\"์ วันถดั มาเรยี กวา่ \"วันเนา\" (ภาษาเขมร แปลว่า \"อยู่ \") และวนั สดุ ทา้ ย เปน็ วันเปลีย่ นจลุ ศกั ราชและเร่มิ ใชก้ าลโยคประจ่าปใี หม่ เรียกวา่ \"วันเถลิงศก\"

ต้านานนางสงกรานต์ ตามจารกึ ทว่ี ัดพระเชตพุ นวิมลมังคลาราม กลา่ วตามพระบาลฝี ่ายรามัญว่า ครั้งหน่งึ นานมาแลว้ มีเศรษฐีคนหนง่ึ รวยทรพั ยแ์ ต่อาภพั บุตร ตง้ั บ้านอยใู่ กลก้ ับนักเลงสุราทม่ี บี ุตร สองคน วันหนึ่งนกั เลงสรุ าต่อวา่ เศรษฐจี นกระท่งั เศรษฐีนอ้ ยใจ จึงได้บวงสรวงพระ อาทิตย์ พระจนั ทร์ ตง้ั จติ อธิษฐานอย่กู ว่าสามปี กไ็ รว้ แี่ ววท่ีจะมีบตุ ร อยมู่ าวนั หนึ่งพอถงึ ช่วง ทพ่ี ระอาทิตย์ยกขน้ึ สู่ราศีเมษ เศรษฐีได้พาบรวิ ารไปยงั ต้นไทรรมิ น้า่ พอถงึ ก็ไดเ้ อาข้าวสารลง ลา้ งในน้่าเจ็ดครั้ง แล้วหุงบูชาอธษิ ฐานขอบุตรกบั รุกขเทวดาในต้นไทรนน้ั รกุ ขเทวดาเหน็ ใจ เศรษฐี จงึ เหาะไปเฝ้าพระอนิ ทร์ ไมช่ ้าพระอนิ ทร์ก็มีเมตตาประทานให้เทพบตุ รองคห์ น่งึ นาม \"ธรรมบาล\" ลงไปปฏิสนธใิ นครรภภ์ รรยาเศรษฐี ไมช่ า้ กค็ ลอดออกมา เศรษฐตี ้งั ชื่อใหก้ ุมาร น้อยน้ีวา่ ธรรมบาลกมุ าร และไดป้ ลูกปราสาทไวใ้ ตต้ ้นไทรให้กมุ ารน้ีอย่อู าศยั ตอ่ มาเมือ่ ธรรมบาลกมุ ารโตข้นึ กไ็ ด้เรียนรซู้ ง่ึ ภาษานก และเรียนไตรเภทจบเมื่ออายุได้ เจ็ดขวบ เขาไดเ้ ป็นอาจารยบ์ อกมงคลต่าง ๆ แกค่ นทงั้ หลาย อยูม่ าวันหนง่ึ ทา้ วกบิล พรหม ไดล้ งมาถามปญั หากบั ธรรมบาลกุมาร 3 ข้อ ถา้ ธรรมบาลกมุ ารตอบไดก้ จ็ ะตัดเศียร บูชา แต่ถ้าตอบไม่ไดจ้ ะตดั ศีรษะธรรมบาลกมุ ารเสยี ท้าวกบิลพรหมถามธรรมบาลกมุ าร ว่า ตอนเชา้ ศรีอยู่ทีไ่ หน ตอนเท่ียงศรีอยู่ทไี่ หน และตอนค่าศรอี ยทู่ ่ไี หน ทนั ใดน้นั ธรรมบาล กุมารจงึ ขอผัดผอ่ นกบั ท้าวกบิลพรหมเป็นเวลา 7 วัน ทางธรรมบาลกุมารกพ็ ยายามคดิ ค้นหาคา่ ตอบ ล่วงเข้าวันท่ี 6 ธรรมบาลกมุ ารกล็ งจาก ปราสาทมานอนอยูใ่ ตต้ ้นตาล เขาคดิ ว่า ขอตายในท่ลี ับยังดีกว่าไปตายด้วยอาญาทา้ วกบิล พรหม บงั เอิญบนต้นไมม้ นี กอินทรี 2 ตวั ผวั เมยี เกาะทา่ รังอยู่ นางนกอนิ ทรีถามสามีวา่ พรุ่งน้ี เราจะไปหาอาหารแหง่ ใด สามตี อบนางนกว่า เราจะไปกนิ ศพธรรมบาลกมุ าร ซึ่งท้าวกบลิ พรหมจะฆา่ เสยี ดว้ ยแกป้ ัญหาไมไ่ ด้ นางนกจึงถามวา่ ค่าถามท่ีทา้ วกบิลพรหมถามคอื อะไร สามีกเ็ ลา่ ให้ฟัง ซ่ึงนางนกก็ไมส่ ามารถตอบได้ สามีจึงเฉลยวา่ ตอนเช้า ศรีจะอยู่ทหี่ น้า คนจึง ต้องล้างหนา้ ทกุ ๆ เช้า ตอนเท่ยี ง ศรจี ะอยทู่ อ่ี ก คนจึงเอาเครอื่ งหอมประพรมทอี่ ก ส่วน ตอนเยน็ ศรจี ะอย่ทู เี่ ทา้ คนจงึ ต้องล้างเทา้ กอ่ นเขา้ นอน ธรรมบาลกมุ ารก็ได้ทราบเร่ืองทน่ี ก อนิ ทรคี ุยกันตลอด จึงจดจา่ ไว้

ครั้นรุ่งขนึ้ ทา้ วกบลิ พรหมก็มาตามสัญญาทีใ่ ห้ไวท้ ุกประการ ธรรมบาลกมุ ารจงึ น่า คา่ ตอบทไ่ี ดย้ นิ จากนกไปตอบกบั ท้าวกบิลพรหม ทา้ วกบลิ พรหมจงึ ตรสั เรียกธดิ าท้งั เจ็ดอนั เป็นบาทบาจาริกาพระอนิ ทร์มาประชมุ พรอ้ มกนั แลว้ บอกว่า เราจะตดั เศียรบชู าธรรมบาล กุมาร ถ้าจะต้งั ไว้ยงั แผ่นดิน ไฟก็จะไหมโ้ ลก ถ้าจะโยนขนึ้ ไปบนอากาศ ฝนก็จะแลง้ ถ้าจะทิ้ง ในมหาสมุทร นา้่ กจ็ ะแหง้ จึงให้ธดิ าทงั้ เจ็ดน่าพานมารองรบั แล้วก็ตดั เศยี รให้นางทงุ ษะ ผู้ เป็นธดิ าองค์โต จากนั้นนางทงุ ษะกอ็ ญั เชิญพระเศียรทา้ วกบิลพรหมเวยี นขวารอบเขาพระ สุเมรุ 60 นาที แลว้ เก็บรักษาไว้ในถ่า้ คนั ธุลี ในเขาไกรลาศ จากนนั้ มาทกุ ๆ 1 ปี ธิดาของท้าวกบลิ พรหมทงั้ 7 ก็จะผลดั เปล่ยี นหมุนเวียนมาทา่ หนา้ ท่อี ัญเชญิ พระเศียรทา้ วกบิลพรหมแห่ไปรอบเขาพระสเุ มรุ เปน็ เวลา 60 นาที แล้ว ประดิษฐานตามเดมิ ในแตล่ ะปีนางสงกรานต์แต่ละนางจะทา่ หนา้ ท่ผี ลัดเปลีย่ นกนั ตามวนั มหาสงกรานต์ ดังนี้

ประวตั ินางสงกรานตท์ ัง 7 วนั 1. ถ้าวันอาทิตย์เปน็ วนั มหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม ทงุ ษะเทวี ทรงพาหรุ ัดทัดดอก ทบั ทิม อาภรณแ์ กว้ ปัทมราช ภักษาหารอุทมุ พร (ผลมะเด่ือ) พระหตั ถ์ขวาทรงจักร พระ หัตถ์ซา้ ยทรงสงั ข์ เสดจ็ มาบนหลงั ครุฑ 2. ถา้ วนั จนั ทรเ์ ปน็ วันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม โคราคะเทวี ทรงพาหรุ ัดทัดดอก ปบี อาภรณ์แก้วมุกดา ภกั ษาหารเตลงั (น่า้ มนั ) พระหตั ถ์ขวาทรงขรรค์ พระหตั ถซ์ า้ ย ทรงไมเ้ ท้า เสดจ็ มาบนหลงั พยัคฆ์ (เสอื ) 3. ถ้าวนั อังคารเปน็ วนั มหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม รากษสเทวี ทรงพาหุรดั ทัด ดอกบัวหลวง อาภรณแ์ กว้ โมรา ภักษาหารโลหิต พระหัตถ์ขวาทรงตรศี ลู พระหัตถซ์ ้าย ทรงธนู เสด็จมาบนหลงั วราหะ (หมู) 4. ถา้ วนั พุธเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม มณฑาเทวี ทรงพาหรุ ดั ทัดดอก จ่าปา อาภรณ์แก้วไพฑูรย์ ภกั ษาหารนมเนย พระหตั ถ์ขวาทรงเข็ม พระหตั ถ์ซ้ายทรงไม้ เทา้ เสดจ็ มาบนหลงั คทั รภะ (ลา) 5. ถา้ วนั พฤหสั บดีเปน็ วันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม กริ ณิ ีเทวี ทรงพาหุรดั ทัด ดอกมณฑา อาภรณแ์ กว้ มรกต ภักษาหารถ่ัวงา พระหัตถข์ วาทรงขอชา้ ง พระหตั ถซ์ ้าย ทรงปืน เสดจ็ มาบนหลังคชสาร (ช้าง) 6. ถ้าวนั ศกุ ร์เปน็ วนั มหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม กิมทิ าเทวี ทรงพาหุรัดทดั ดอก จงกลนี อาภรณแ์ ก้วบษุ ราคัม ภกั ษาหารกลว้ ยน่้า พระหตั ถข์ วาทรงขรรค์ พระหัตถซ์ ้าย ทรงพณิ เสด็จมาบนหลงั มหิงสา (ควาย) 7. ถา้ วนั เสารเ์ ปน็ วันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม มโหธรเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอก สามหาว อาภรณ์แกว้ นิลรัตน์ ภกั ษาหารเนอ้ื ทราย พระหตั ถข์ วาทรงจกั ร พระหัตถซ์ า้ ย ทรงตรีศลู เสดจ็ มาบนหลงั มยุรา (นกยูง)

นางสงกรานตป์ ี2563 “นางโคราคะเทวี ฝ่ายโหรพราหมณ์ กองพระราชพธิ ี สา่ นักพระราชวัง มปี ระกาศ ปชี วด (เทวดา ผ้ชู าย ธาตุนา้่ ) โทศก จุลศักราช 1382 ทางจนั ทรคติ เป็น อธิกวาร ทางสุริยคติ เปน็ อธิกสุรทิน วนั ที่ 13 เมษายน เปน็ วนั มหาสงกรานต์ ทางจันทรคติตรงกบั วันจันทร์ แรม 6 ค่า เดือน 5 เวลา 20 นาฬกิ า 48 นาที ซึ่ง นางสงกรานต์ ปี 2563 ทรงนามว่า \"โค ราคะเทว\"ี ทรงพาหรุ ดั ทัดดอกปีบ อาภรณแ์ กว้ มุกดาหาร ภกั ษาหาร น่า้ มนั พระหัตถ์ ขวาทรงธนูหรือไม้เทา้ พระหัตถซ์ ้ายทรงพระขรรค์ เสด็จไสยาสนล์ มื เนตร มาเหนอื หลงั พยัคฆะ เปน็ พาหนะวนั ท่ี 16 เมษายน เวลา 09 นาฬิกา 24 นาที 36 วนิ าที เปลีย่ น จุลศกั ราชใหม่ เป็น 1382 ปีนี้ วนั พฤหสั บดี เป็น ธงชยั , วนั อาทติ ย์ เปน็ อธิบด,ี วนั พธุ เป็น อบุ าทว,์ วนั องั คาร เป็น โลกาวนิ าศ ปีน้ี วนั ศกุ ร์ เปน็ อธบิ ดีฝน บันดาลให้ฝนตก 500 หา่ ตกในโลกมนุษย์ 50 หา่ ตกในมหาสมุทร 120 หา่ ตกในปา่ หิมพานต์ 180 หา่ ตกในเขาจักรวาล 250 หา่ นาคให้น่า้ 1 ตัว เกณฑ์ธญั ญาหาร ได้เศษ 0 ช่อื ปาปะ ขา้ ว กล้าในภมู นิ าจะไดผ้ ล 1 ส่วน เสีย 9 สว่ น มหาชนร้อนใจด้วยอาหารแล เกณฑธ์ าราธคิ ุณ ตกราศวี าโย (ลม) น่้านอ้ ย

ประเพณสี งกรานต์ 4 ภาค ประเพณสี งกรานต์ ภาคเหนือ สงกรานตล์ า้ นนา หรอื \"ประเพณปี ๋ีใหมเ่ มือง\" เรมิ่ ตัง้ แตว่ นั ที่ ๑๓ เมษายน \"วนั สังขาร ลอ่ ง\" หมายความวา่ วันนี้สน้ิ สดุ ศักราชเกา่ ในวนั นจ้ี ะได้ยินเสียงยงิ ปนื จุดประทัดกนั แต่เช้าตรู่ โดยการยิงปืนและการจุดประทดั มีความเชื่อถอื กนั แตโ่ บราณวา่ เป็นการขบั ไล่เสนยี ดจัญไร ตา่ ง ๆ ใหล้ ่องไปพร้อมกับสังขาร จากนน้ั ชาวบ้านจะท่าการกวาดขยะมูลฝอยตามลานบา้ น และท่าความสะอาด ปัดกวาดบา้ นเรือนให้เรียบรอ้ ย ชา่ ระรา่ งกาย สระผมให้สะอาด และมี การแห่พระพทุ ธรปู สา่ คัญประจ่าเมือง เพอ่ื ความเปน็ สริ มิ งคล ถัดมาคือวันที่ ๑๔ เมษายน \"วนั เนา่ \" หรอื \"วนั เนา\" วันท่หี า้ มใครด่าทอว่าร้าย เพราะ จะท่าให้โชครา้ ยไปตลอดทงั้ ปี โดยในวันนต้ี ามประเพณีถอื ว่าเปน็ วนั สา่ คัญและเป็นมงคลแก่ ชีวติ จะไดป้ ระสบแต่ความดีงามตลอดปี จะไม่ทา่ อะไรท่ีไม่เปน็ มงคล จดั ซ้ืออาหารและขา้ ว ของมาท่าบญุ ขนทรายเข้าวัด เพ่ือก่อเจดีย์ทรายตามลานวัด เจดีย์ที่ก่อข้นึ จะตบแต่งดว้ ย

ธงทวิ สตี ่าง ๆ ธงสีนี้ชาวพ้นื เมืองเรียกวา่ \"ตุง\" ท่าดว้ ยกระดาษสตี ดั เป็นรปู สามเหลย่ี มชายธง และรปู รา่ งต่าง ๆ ตดิ ปลายไม้ การเลน่ รดน้่ากนั ผู้หญงิ จะแตง่ กายพื้นเมืองจะนงุ่ ผา้ ซิ่นสวม เส้ือแขนยาว ทัดดอกเอ้ืองท่มี วยผม สว่ นผู้ชายจะแต่งกายด้วยเสอ้ื ผา้ ชุดพ้ืนเมือง คล้องคอ ดว้ ยดอกมะลิ วนั ที่สาม วันที่ ๑๕ เมษายน \"วันพญาวัน\" หรือ \"วนั เถลงิ ศก\" ชาวบา้ นจะตนื่ แต่เช้า ทา่ บญุ ตักบาตร เขา้ วดั ฟงั ธรรม กอ่ นจะไป \"รดน้า่ ดา่ หวั \" ขอขมาญาติผูใ้ หญใ่ นช่วงบา่ ย ซึ่ง เปน็ ประเพณอี ยา่ งหน่งึ ของชาวเมืองเหนอื คือ การนา่ ลูกหลานญาตพิ นี่ ้องไปขอขมาลาโทษ ต่อผู้ใหญ่ (สมู าคารวะ) วนั ที่สวี่ นั ที่ ๑๖ เมษายน \"วันปากปี\" ชาวบา้ นจะพากันไปรดน้่าเจ้าอาวาสตามวดั ต่าง ๆ เพ่อื ขอขมาคารวะ จัดอาหารหวานคาวใส่ส่ารบั ไปถวายพระท่วี ดั เป็นการถวายภตั ตาหาร หรือที่เรียกกนั วา่ ทานขันข้าว เปน็ การถวายทานเพ่ืออุทศิ สว่ นกุศลถึงญาติพน่ี ้องทีล่ ่วงลบั รวมทง้ั ถวายเจดีย์ทราย ถวายจ่อตงุ เพราะถอื ว่าเปน็ อานสิ งส์ และวนั ทีห่ ้า วันท่ี ๑๗ เมษายน \"วันปากเดอื น\" เปน็ วนั ทช่ี าวบ้านสงเคราะห์ตา่ ง ๆ ออกไปจากตัว เพือ่ ปดิ ฉากประเพณี สงกรานต์ล้านนา ท้งั นี้ ประเพณดี า่ หัว ส่าหรบั ชาวลา้ นนาหมายถึง \"การสระผม\" เพ่ือเปน็ การชา่ ระ สะสางเอาสง่ิ อันเปน็ อัปมงคลในชวี ติ ใหว้ ิปลาสไป โดยการใชน้ ่้าขมน้ิ สม้ ปอ่ ยเป็นเคร่อื งชา่ ระ

ประเพณสี งกรานต์ภาคกลาง สงกรานต์ภาคกลางน้นั เร่มิ ขนึ้ ในวนั ท่ี ๑๓ เมษายน เปน็ วัน \"มหาสงกรานต\"์ วนั ท่ี ๑๔ เมษายน เปน็ \"วันกลาง\" หรอื \"วนั เนา\" วนั ที่ ๑๕ เมษายน เปน็ \"วันเถลงิ ศก\" ทัง้ สาม วันประชาชนจะประกอบพิธีทางศาสนา มีการทา่ บุญตกั บาตร ปลอ่ ยนกปลอ่ ยปลา การกรวดน้า่ อทุ ศิ สว่ นกุศลใหแ้ ก่ญาติผู้ล่วงลบั การสรงน้่าพระ การขนทรายเขา้ วดั กอ่ พระเจดีย์ทราย ในอดตี ยงั มธี รรมเนยี มหา้ มตกั น้่า ตา่ ข้าว ตดั ฟนื ในช่วงนี้ แตจ่ ะต้อง เตรยี มส่ารองไว้ล่วงหน้า เพอื่ ไม่ให้เป็นภาระในวันปีใหม่ ท้ังยังนิยมกวนกาละแมแจก จา่ ยกันอกี ด้วย วันสงกรานต์เปน็ เทศกาลสา่ คญั ทคี่ นไทยยังถือวา่ เป็นวันสิน้ ปี วนั สงกรานต์ คือวันขนึ้ ปใี หม่ จงึ ต้องเตรยี มงานเป็นการใหญ่จนมคี นพดู กนั \"ส่งทา้ ยปเี กา่ ตอ้ นรับปี ใหม่\" ส่งิ ทต่ี ระเตรียม ไดแ้ ก่

๑. เคร่ืองนุ่งห่มเพ่ือใสใ่ นโอกาสไปทา่ บุญท่วี ดั ตลอดจนเครอ่ื งประดับ ๒. ของท่าบญุ โดยเฉพาะข้าวเหนยี วแดงในวนั ตรษุ และขนมกวนหรือกา ละแมในวันสงกรานต์ ซงึ่ ส่งิ ของ ๒ อย่างนถ้ี อื ได้วา่ เปน็ สญั ลกั ษณข์ องการท่าบญุ วนั ตรษุ สงกรานต์ ๓. การท่าความสะอาดบา้ นเรอื นท่อี าศยั ตลอดจนบรเิ วณใกล้เคียง เพ่อื ให้ดู เรียบร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่บี ูชาพระและทีเ่ ก็บอฐั ิบรรพบรุ ษุ ๔. สถานท่ีทา่ บุญ วัดเปน็ สถานท่ีท่าบญุ สวดมนตเ์ ลี้ยงพระ และท่า ตอ่ เน่ืองกันหลายวนั มกี ารท่าความสะอาดกุฏิ ท่ีอาศยั หอสวดมนต์ โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรยี ญ ตลอดจนลานวดั เพอ่ื ให้ดรู ่มรนื่ ชน่ื ตาช่นื ใจของผ้มู าทา่ บญุ ในวนั สา่ คัญ กิจกรรมที่เกดิ ขนึ้ ได้แก่ การทา่ บญุ ตกั บาตร สวดมนต์ เลย้ี งพระ การฟงั เทศน์ การกอ่ เจดียท์ ราย สรงน่้าพระ บงั สกลุ อัฐิ การปลอ่ ย นกปลอ่ ยปลา และเปน็ สถานทรี่ นื่ เรงิ สนุกสนาน เช่น สาดน่า้ และมีการละเลน่ อ่นื ๆ อกี ดว้ ย

ประเพณสี งกรานตภ์ าคอสี าน ประเพณีสงกรานต์ภาคอสี าน นยิ มจดั กนั อยา่ งเรียบงา่ ย แต่มากไปด้วยความ อบอ่นุ โดยคนอสี านจะเรียกประเพณสี งกรานตว์ า่ \"บญุ เดอื นห้า\" หรอื \"ตรุษ สงกรานต\"์ และจะถอื ฤกษ์ ในวันขนึ้ ๑๕ ค่า เดือน ๕ โดยจะมีพิธีการท่าบญุ ตกั บาตร ทา่ บุญสรงน้า่ พระ และรดน่า้ ผูใ้ หญด่ ้วยการน่าเอานา้่ อบ นา่้ หอมไปสรงพระพทุ ธรูป พระภิกษสุ งฆ์ เพอื่ ขอใหม้ ีความเปน็ อยู่รม่ เย็นเปน็ สุข จะปรารถนาสงิ่ ใดขอให้ สมหวงั เช่น ขอน่้าขอฝน ขอให้ตกต้องตามฤดูกาล และใหข้ า้ ว น้า่ ปลาอดุ มสมบูรณ์ และในเดือนนถ้ี อื วา่ เปน็ วนั ขนึ้ ปใี หม่ของชาวอีสาน โดยถอื เอาวันข้ึน ๑๕ คา่ เดือน ๕ เปน็ วันเรม่ิ ตน้ ทา่ บญุ \"การทา่ บุญเดอื นหา้ \" จะเริ่มเวลาบ่าย ๓ โมง โดยพระสงฆจ์ ะตี กลองโฮมเปิดศักราช เพ่อื เปน็ สญั ญาณบอก จากนัน้ พระสงฆ์และชาวบา้ นกจ็ ะมา รว่ มกนั จัดนา่้ อบ นา้่ หอม ธปู เทยี น ดอกไม้ มาพรอ้ มกันแลว้ บูชาอธิษฐานขอใหฟ้ า้ ฝน ตกในบ้านเมือง อยู่ร่มเยน็ แล้วก็สรงน้า่ อบ น้า่ หอมใหแ้ กพ่ ระพุทธรูปทง้ั หมดท่มี ีอยู่ใน วัด จากนัน้ กส็ รงน้่าใหแ้ กพ่ ระสงฆ์ อนั เป็นเคารพสักการะบชู าของชาวบ้าน ซ่ึงถือว่า

เปน็ การเคารพทา่ นจะได้ให้ศลี ใหพ้ ร ใหเ้ รามีความสขุ ความเจรญิ และเปน็ การต่อ อายุของเราและหลังจากนนั้ จะมกี ารสรงน้่าให้คนเฒ่า คนแก่ ซ่งึ เป็นปู่ ย่า ตา ยาย หรอื ครบู า อาจารย์ ซ่งึ เปน็ ผู้หลกั ผู้ใหญ่ทอ่ี นั ควรในการเคารพสกั การะของเรา เอาน่า้ อบ น่า้ หอม ไปสรงท่าน ซึ่งเป็นการสกั การะนบั ถอื ถงึ บุญคณุ ของท่าน ต่อมาก็จะเลน่ สาดน่้ากันเปน็ ทสี่ นุกสนาน มีการก่อพระทรายที่ลานวดั ประดบั ประดาพระเจดีย์ ทราย ปล่อยสตั วเ์ พ่อื เปน็ บญุ กุศล ประเพณีสงกรานต์ภาคใต้ ตามความเช่อื ของประเพณีสงกรานต์แบบด้ังเดมิ ทีภ่ าคใต้ สงกรานต์เปน็ ช่วงเวลาของการผลัดเปลีย่ นเทวดาผ้รู กั ษาดวงชะตาบา้ นเมอื ง พวกเขาจึงถอื เอาวัน แรกของสงกรานต์ วันท่ี ๑๓ เมษายน เป็น \"วันสง่ เจา้ เมืองเกา่ \" หรือ \"วันเจ้าเมอื งเก่า\" โดยเชอ่ื กันวา่ ในวันน้ีเจา้ เมืองหรอื เทพยดาประจา่ ปผี ทู้ า่ หนา้ ที่รกั ษาดวงชะตาของ บา้ นเมืองจา่ เปน็ ต้องละทง้ิ บา้ นเมอื งทีต่ นรักษาไปชมุ นมุ กันบนสวรรค์ ในวันนชี้ าวบ้าน จงึ ท่าความสะอาดบา้ นเรอื น เคร่ืองใช้ เครือ่ งแต่งกาย เคร่อื งประดับและร่างกาย บาง ทกี ็ทา่ พธิ ีสะเดาะเคราะห์ โดยทา่ พธิ ลี อยเคราะห์ลงในแมน่ ้่า เพื่อฝากเคราะห์กรรมซึ่ง ตนประสบไปกบั เจ้าเมืองเก่า และอธษิ ฐานประสบโชคดตี ลอดปีใหม่ สว่ นวันที่ ๑๔

เมษายน หรือชาวบ้านเรียกวา่ \"วันวา่ ง\" จะไปท่าบญุ ตักบาตรท่ีวัด และสรงนา้่ พระพุทธรปู ทงั้ น้ี ทีเ่ รยี กว่า \"วันวา่ ง\" เพราะเช่ือกนั วา่ วนั นเ้ี จา้ เมืองกย็ งั สถติ อยู่บน สวรรค์ ในเมืองจึงไมม่ เี จ้าเมอื งประจา่ อยู่ กจิ การงานอาชีพทุกอยา่ งจึงตอ้ งหยดุ เพราะ เกรงว่าหากประกอบกจิ การจะก่อให้เกิดความเสียหายข้ึน เนอ่ื งจากไมม่ ีเจา้ เมืองคมุ้ ครองรักษา สิง่ ของเครอ่ื งใชต้ ่างๆ จงึ ถูกเก็บไว้ มไิ ดน้ ่ามาใช้เปน็ การชวั่ คราว ประชาชนส่วนใหญพ่ ากนั ไปทา่ บญุ เมอ่ื ทา่ บุญแล้วกน็ า่ อาหารและเครอ่ื งบชู า ไป เคารพผู้อาวุโส และพระสงฆท์ ่เี คารพ โดยถือโอกาสขอพรรดน้่า เพอื่ แสดงออกถึง ความเคารพและความกตัญญูด้วย จากนั้นเมือ่ ทา่ บุญทว่ี ดั และรดนา่้ ผอู้ าวุโสแล้ว ตา่ ง ก็มาชุมนมุ กนั โดยในการนไ้ี ดจ้ ัดให้มีการละเล่นต่าง ๆ อย่างสนกุ สนาน ซงึ่ มหรสพ และการละเล่นทีน่ ยิ มกนั มากคอื มโนราห์, หนงั ตะลงุ , มอญซอ่ นผา้ , อุบลกู ไก่,ชักเยอ่ื , สะบ้า, จระเขฟ้ าดหาง (หรือบางแห่งเรียกวา่ ฟาดทิง),ยับสาก, เตย, ปดิ ตา, ลักซ่อน, ววั ชนและเช้อื ยาหงส์ ฯลฯ โดยการละเลน่ ท้งั หลายนี้รวมเรยี กวา่ \"เล่นว่าง\" และวัน สดุ ทา้ ยเปน็ วัน \"เจ้าเมืองใหม่\" หรือ \"วนั รบั เจา้ เมืองใหม่\" วนั ที่ ๑๕ เมษายน เชอ่ื วา่ วนั น้ี เจา้ เมอื ง ซ่ึงได้รับมอบหมายใหเ้ ป็นผคู้ ้มุ ครองเมอื งตา่ ง ๆ อนั อาจจะไมใ่ ช่เมอื งท่ี ตนประจา่ อยแู่ ต่เดิมในปีทแี่ ล้ว จะลงมาประจ่าเมือง ซง่ึ ตนต้องรับหนา้ ท่คี ุ้มครอง ตลอดปใี หม่ ชาวเมอื งจึงเตรียมการต้อนรับเทวดาเจา้ เมืองคนใหม่ด้วยความยนิ ดี โดย ในวนั นี้คนก็จะแต่งการดว้ ยเสื้อผ้าชดุ ใหม่ เพือ่ น่าอาหารไปถวายพระทีว่ ัด จากนั้นก็ไป รดน้า่ ผ้อู าวโุ ส และเล่นน้่ากนั อยา่ งสนุกสนาน









#อยบู่ า้ นหยดุ เช้ือเพื่อชาติ #เราตอ้ งรอดไปดว้ ยกนั

หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอลาลกู กา #อยบู่ า้ นหยดุ เช้ือเพ่ือชาติ #เราตอ้ งรอดไปดว้ ยกนั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook