หนังสือเฉลิมพระเกียรติ

สมเดจ็ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี

เนื่องในโอกาส ๒ เมษายน วนั คล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ ทรงพระเจรญิสยามบรมราชกมุ ารี งานการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอลาลกู กา ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอลาลกู กา จงั หวดั ปทมุ ธานี

หนงั สือเฉลิมพระเกยี รติสมเดจ็ พระกนิษฐาธริ าชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี เน่ืองในโอกาส ๒ เมษายน วันคลา้ ยวันพระราชสมภพ สมเดจ็ พระกนิษฐาธริ าชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “ทรงพระเจรญิ ” ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจา้ ผ้บู ริหาร ข้าราชการ และบุคลากร หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอลาลกู กา

วศิ ษิ ฎศลิ ปิน สมเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจา้ กรมพระเทพรัตนราชสดุ า สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเปน็ วศิ ษิ ฎศลิ ปนิ ผูม้ พี ระอจั ฉริยาภาพ หลายสาขา อาทิสาขาวรรณาศลิ ป์ สงั คีตศิลป์ และทศั นศลิ ปท์ รง มีผลงานดเี ดน่ เป็นทย่ี อมรับและประจกั ษข์ ัดในวงการศลิ ปะ ทรง เปน็ ปราชญท์ าง วิชาการบรหิ ารจัดการด้านวัฒนธรรมท่ีมี คณุ ปู การต่อปวงชนชาวไทย อกี ท้ังทรงเปน็ อัครอปุ ถมั ภก งาน ทางด้านศิลปวัฒนธรรมไทยสบื เนื่องมาโดยตลอด พระราชกรณยี กิจและพระราชจริยวัตรอนั งดงาม นบั เป็นพระมหากรุณาธิคณุ อยา่ งหาที่สุดมิได้ ท่ีพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย สมควร ไดร้ ับการเฉลิมพระเกียรตใิ ห้ปรากฏสบื ไป

(จาก คากราบบังคมทูลของนางอไุ รวรรณ เทยี นทอง รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงวัฒนธรรมเนื่องในวโรกาสทูลเกล้าทลู กระหมอ่ น ถวายโลพ่ ระสมญั ญา “วศิ ิษฎศลิ ปิน” เมื่อวนั ที่ 15 กนั ยายน 2556 ณ อาคารชยั พฒั นา สวนจิตรลดา)

สมเดจ็ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกมุ ารี องค์เอก อคั รราชปู ถัมภก มรดกวฒั นธรรมไทย ทรงกอปรด้วยพระ ปรชี าญาณเชีย่ วชาญในศิลปวทิ ยาการ หลายสาขา อาทิ อักษรศาสตร์ วรรณคดี ประวัติศาสตร์ โบราณคดี ดนตรีนาฏศิลป์ พระราชกรณียกิจนอ้ ยใหญท่ ีท่ รงปฏิบัติกอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์ใหญ่หลวงตอ่ แผน่ ดนิ นาความ เกษมโสมนสั มาสู่ปวงอาณาประชาราษฎร์ทกุ หมู่เหลา่ คณะรัฐมนตรีไดม้ ีมติ เมอ่ื วันท่ี 26 กุมภาพันธ์ 2528 เหน็ ชอบตามที่กระทรวงศกึ ษาธิการเสนอ กาหนดใหว้ นั ท่ี 2 เมษายน ของทกุ ปี ซงึ่ เป็นวันคล้าย วันพระราชสมภพในสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นวนั อนุรักษม์ รดกไทย

เพอ่ื เทดิ พระเกยี รติในฐานะทที่ รงพระ กรณุ าอุปถัมภบ์ ารุงกจิ กรรมและการ ดาเนนิ งานทเ่ี ก่ยี วเนื่องด้วยศิลปวัฒนธรรม ของชาตติ ลอดมา รวมทั้งเพื่อกระตนุ้ ให้ ประชาชนตระหนักในคุณคา่ ความสาคัญของ มรดกวัฒนธรรมของชาติ สร้างจติ สานึกให้มี สว่ นรว่ มในการทานบุ ารงุ จรรโลง พฒั นา สรา้ งสรรค์ สบื ทอดศิลปวฒั นธรรม ใหค้ งอยู่ เป็นเอกลกั ษณ์ของชาตสิ บื ไป เพือ่ ให้การดาเนนิ งานวนั อนรุ กั ษม์ รดกไทยเปน็ ไปด้วยความเรยี บร้อย คณะรัฐมนตรีจึงได้แต่งตั้ง คณะกรรมการอานวยการวันอนุรกั ษ์มรดกไทย โดยมี ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ กรม ศลิ ปากร ปฏบิ ตั ิหน้าทฝ่ี ่ายเลขานุการ การดาเนินงานเร่มิ ต้งั แตป่ ี 2528 เป็นต้นมา โดยปี 2528 - 2534 เปน็ การจดั กจิ กรรมเพอื่ อนุรกั ษ์มรดกไทยทั่วไปในรปู แบบตา่ งๆ



เจา้ ฟา้ นักอ่าน สมเดจ็ พระกนิษฐาธริ าชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพ รัตนราชสุดา สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเป็น “เจา้ ฟ้านัก” การศกึ ษาของ ปวงชนชาวไทย” ผู้ท่เี ต็มเปยี่ มไปดว้ ย องค์ความร้ตู า่ งๆ มากมายหลายด้าน ไมว่ า่ จะเป็นอกั ษร ศาสตร์ประวตั ิศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ธรรมชาติวิทยา ทรง เปน็ นักวทิ ยาศาสตร์ นักคณติ ศาสตร์ ศิลปนิ นักดนตรี นอกจากนยี้ งั ทรงเปน็ นักอ่าน นกั จดบนั ทกึ ทน่ี า่ ยกยอ่ ง อีกด้วย สมเดจ็ พระกนิษฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพ รตั นราชสุดาฯ ทรงให้ความสาคัญกับการศกึ ษาเป็นอย่าง มาก และด้วยพระจริยวัตรท่งี ดงาม

“เจา้ ฟา้ นกั อา่ น”



พระราชดารสั สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี

พระราชดารสั ในพิธเี ปิดการสัมมนา เรอื่ ง การ อนรุ กั ษ์ส่ิงแวดลอ้ มวัฒนธรรม หัวขอ้ แนวทางการอนรุ กั ษ์ เชิงบูรณาการเพอื่ นาไปสู่การพัฒนาที่ยัง่ ยนื จดั โดย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม ณ ศูนย์ประชมุ แห่งชาติสิรกิ ติ ์ิ ดังความตอนหนง่ึ ว่า วันที่ 9 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2548 ทรงใหเ้ หน็ ความสาคัญของการอนุรกั ษ์ สง่ิ แวดล้อมและวฒั นธรรม เพื่อชนร่นุ หลงั “.....ความเจริญก้าวหน้าทเี่ ปน็ ไปอย่างรวดเร็วในทุก ๆ ด้าน มีผลกระทบใหว้ ถิ ชี วี ติ ด้ังเดมิ ของคน และ สภาพแวดลอ้ มของชุมชนเปลยี่ นแปลงไป ชมุ ชนที่ยังคงรกั ษาวถิ ีชวี ติ ตามแบบอย่างที่มีมาแต่เดมิ ในปัจจบุ ันแทบไม่มี เหลือให้ชนรุน่ หลังไดซ้ มึ ซบั ความงามของวัฒนธรรมทีต่ กทอดมาแตอ่ ดตี ชุมชนเหลา่ นเี้ ป็นตัวอย่างทด่ี ขี องคาวา่ ความ พอเพยี ง คนในชมุ ชนพึ่งพาอาศยั กันได้ และอย่รู ่วมกันอย่างสงบสุข มขี นบประเพณอี ันดีงาม ภูมิปัญญาชาญฉลาด ชุมชนลกั ษณะน้ีมีคณุ คา่ ทางวฒั นธรรมและจิตใจ เปน็ ประโยชนด์ า้ นการศึกษาในแง่มมุ ต่าง ๆ ปจั จบุ ันมีใหเ้ ห็นเพียงไม่ก่ี แหง่ หากไมช่ ่วยกนั อนรุ กั ษ์ไวก้ จ็ ะสญู สลายไปอย่างนา่ เสียดาย....”

พระราชดารัสในงานเทศกาล พพิ ิธภณั ฑ์ ทอ้ งถ่นิ 2551 ณ หอประชุมศนู ย์มานษุ ยวทิ ยาสริ ินธร (องคก์ ารมหาชน) ดังความตอนหน่งึ ว่า วนั ท่ี 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ทรงให้ความเหน็ ความสาคญั ของ พพิ ธิ ภณั ฑ์ท้องถ่ิน “....พิพิธภณั ฑท์ อ้ งถิน่ เปน็ ท่เี ก็บรวบรวมวตั ถุสง่ิ ของ บนั ทึกเรอ่ื งราวความรูค้ วามเขา้ ใจเก่ยี วกับประวัติศาสตร์ ศลิ ปวัฒนธรรม การ ดาเนินชีวติ และความเปล่ียนแปลงของผคู้ นในทอ้ งถิน่ ตา่ ง ๆ การทพี่ ิพธิ ภณั ฑ์ทอ้ งถนิ่ จานวนมากจากท่ัวทุกภมู ภิ าคของประเทศมารว่ ม กิจกรรมกันในคร้งั น้ี เปน็ โอกาสอนั ดีทีผ่ ู้เข้าชมงานจะได้ศกึ ษาข้อมูลความร้เู บ้ืองตน้ ของพิพิธภณั ฑ์ทอ้ งถิ่นหลายแห่งได้ในคราวเดยี ว ขณะเดียวกนั ผูด้ าเนนิ งานพิพิธภัณฑ์ทอ้ งถนิ่ กจ็ ะไดเ้ รียนรู้ลกั ษณะความคลา้ ยคลงึ หรือแตกตา่ ง และแลกเปลย่ี นประสบการณซ์ ึ่งกันและกัน อนั จะนาไปส่คู วามร่วมมอื เพอ่ื พฒั นาพิพิธภัณฑ์ทอ้ งถิน่ ให้กา้ วหน้า สามารถทาหนา้ ท่ีเปน็ แหล่งเรยี นรู้ของคนทง้ั ในและนอกท้องถิ่นไดอ้ ย่าง เขม้ แขง็ ยงั่ ยนื ...”

พระราชดารัสในการประชมุ วชิ าการนานาชาติ ศึกษายางรักเพอ่ื อนรุ กั ษ์ภูมิปญั ญาไทย อัน เน่ืองมาจากพระราชดาริ สมเด็จพระเทพ รตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี “Study ณ ห้องประชุม โรงแรม อิมพีเรยี ล ควนี ส์ปารค์ ดังความตอนหนง่ึ วา่ วนั ท่ี 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ทรงใหอ้ นรุ ักษ์ภูมิปัญญาไทย “ยางรกั ” “....คนในซีกโลกตะวันออกหลายเช้อื ชาตริ ูจ้ ักนายางรักมาใชป้ ระโยชน์มานานนบั พัน ๆ ปี ทง้ั ในชวี ิตประจาวนั ไดแ้ ก่ การใชย้ างรกั เคลอื บพื้นไม้ใหส้ วยงามคงทน หรือภาชนะสานให้บรรจุของเหลวได้ และใช้ในงานศลิ ปะ คนไทยก็ใช้ยางรกั เป็นวสั ดสุ าคัญในการ สรา้ งสรรคง์ านประณตี ศิลปข์ นั้ สงู มาเปน็ เวลานาน งานลงรกั ปดิ ทอง เขียนลายรดนา้ งานช่างประดบั มุก ประดบั กระจก หรอื งานหตั ถกรรม ทั่วไป เชน่ การทาเครอื่ งเขิน ลว้ นตอ้ งใชย้ างรกั คุณภาพดเี ปน็ องค์ประกอบสาคญั ยางรกั ท่ีดคี วรเปน็ ยางรกั ธรรมชาติที่มีคณุ ภาพ ซ่ึงนบั วัน จะขาดแคลน เพราะไมร้ กั มนี อ้ ยลง เปน็ เหตใุ ห้มีการใช้สารเคมีเจือปน ทาให้ยางรกั มีคุณภาพตา่ ไมค่ งทน ใช้งานได้ไมด่ ี การวจิ ยั และ พฒั นาสายพนั ธ์ุรัก ส่งเสรมิ การปลกู ไม้รักสายพนั ธท์ุ ี่ให้ยางรกั คณุ ภาพสงู ในทอ้ งถนิ่ ที่มีภูมปิ ระเทศเหมาะสม จะเปน็ ประโยชน์อยา่ ง กว้างขวางหลายสถานในระยะยาว เปน็ การแกต้ ้นเหตุแห่งปญั หา อนั จะช่วยใหก้ ารอนุรักษ์สืบสานภมู ิปัญญาและศิลปะไทยเปน็ ไปอย่าง ย่ังยืน....”

พระราชดารัสในงานสัปดาห์หนงั สอื แห่งชาติ ครงั้ ท่ี 46 และสปั ดาหห์ นงั สือ นานาชาติ ครั้งที่ 16 ณ ห้องบอลรูม ศนู ย์ประชุมแห่งชาติ สริ ิกติ ์ิ กรุงเทพมหานคร วนั ท่ี 29 มนี าคม พ.ศ. 2561 ทรงใหค้ วามสาคัญเร่อื งการ ส่งเสริมการอ่านหนังสือ “....ขอแสดงความชนื่ ชมผจู้ ัดงานทีม่ คี วามตง้ั ใจแน่วแนใ่ นเรือ่ งส่งเสริมการอา่ นหนงั สอื เพื่อปลกู ฝังให้คนใน สังคมมคี วามใฝร่ ู้ ชอบที่จะแสวงหาความรจู้ ากการอา่ นหนังสือดี อันเป็นเครือ่ งชว่ ยขยายโลกทัศนแ์ ละทัศนคติให้ กวา้ งขวาง กอ่ ใหเ้ กิดปัญญาความรอบรู้ พาให้สามารถพฒั นาตนพัฒนาความคดิ และจติ ใจของผู้อา่ น การทค่ี นในสงั คม เห็นความสาคัญของหนงั สือ รกั การอ่านการแสวงหาความรู้ มีสติปญั ญา เปน็ ส่ิงสาคญั ข้อหน่งึ ทบ่ี ง่ บอกความเป็นอารยะ ประการหนึง่ ผู้ไมย่ อ่ หย่อนในการแสวงหาความรู้ เชือ่ ได้วา่ จะเปน็ ผู้สามารถนาพาความเจรญิ มาสู่ตนและสังคมได้ จงึ ควร ทีท่ กุ ภาคสว่ นจะช่วยกนั ทกุ ทางท่จี ะรณรงคส์ ่งเสริมใหน้ กั เรยี น นักศกึ ษา ตลอดจนประชาชนทวั่ ไปรักการอา่ นหนงั สอื และสนับสนนุ เกือ้ กลู ผู้ผลิตใหส้ ามารถผลิตหนังสอื ทด่ี ีทใี่ หค้ ณุ แก่ผูอ้ ่าน….”

พระราชดารสั ในการประชุมวิชาการวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยแี หง่ ประเทศไทย ครั้งท่ี ๔๒หัวข้อ “ ศาสตร์แห่งแผ่นดิน สนู่ วัตกรรม เพือ่ อนาคตทีย่ ่ังยืน“ ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซน็ ทรลั วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 ทรงให้ความสาคญั ดา้ นวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีในประเทศไทยเจริญพฒั นายิ่ง ๆ ข้ึน “....วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีเปน็ ปจั จยั สาคญั ในการพฒั นาประเทศทุก ๆ ดา้ น การพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ในประเทศของเราให้ก้าวหน้า ทันเหตกุ ารณ์ และทันโลกทมี่ คี วามเปลีย่ นแปลงเกดิ ขนึ้ ตลอดเวลา จึงเปน็ เรือ่ งทีต่ อ้ งทา อย่างต่อเนอ่ื ง และมปี ระสทิ ธภิ าพ ท้ังในด้านองค์ความรู้ การจัด การศกึ ษา ตลอดจนนวตั กรรม ทส่ี าคญั การพฒั นา วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะต้องสนองตอบความตอ้ งการของประเทศชาติ นวัตกรรมที่คดิ ค้นขึน้ ตอ้ งช่วยสรา้ งสรรค์ ความเจรญิ ร่งุ เรืองให้แกป่ ระเทศชาตอิ ยา่ งยงั่ ยืน ท้ังประชาชนสว่ นใหญ่ได้รบั สทิ ธปิ ระโยชน์ และมคี ุณภาพชวี ติ ทีด่ ีขึน้ จงึ จะถอื ไดว้ ่าการพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีในบ้านเมอื งของเราประสบผลสาเร็จ….”

วารสารหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอลาลกู กา งานการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอลาลกู กา ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอลาลกู กา จงั หวดั ปทมุ ธานี