การลำเลียงของพืช

การปลกู พืชแบบไฮโดรโพนกิ ส์ มีการปั๊มอากาศเติมลงในสารละลายธาตุอาหารในการปลูกพืชไฮโดรพอ นิกส์เป็นการให้ออกซิเจนแก่รากพืช เพื่อน้าไปใช้ในกระบวนการหายใจระดับเซลล์ เพราะหากรากพชื ไมไ่ ดร้ ับออกซเิ จนเป็นเวลานาน พชื อาจจะตายได้ ในการปลกู พชื ไฮโดรพอนิกส์ ปจั จัยท่ีมีผลต่อการนา้ ธาตุอาหารเข้าสู่รากพืช ในรปู ของธาตอุ าหาร pH ของสารละลาย ออกซิเจน



การลาเลยี งอาหาร มาร์เซลโล มัลพิจิ (Marcello malpighi) ไดค้ วัน่ เปลือกรอบล้าต้นของ พืชใบเลยี งคู่ โดยใหร้ อยควนั่ ห่างกนั ประมาณ 2 เซนตเิ มตร เมอ่ื ปล่อยให้พชื เจริญ ระยะหนงึ่ พบวา่ เปลือกของตน้ ไมเ้ หนอื รอยควนั่ ตอนบนจะขยายพองออก

จากความรู้นี สามารถนา้ เอาไปใช้ในการตอนก่ิงพชื คอื เมื่อมีอาหารสะสม เหนอื บรเิ วณรอยคว่ันและมสี ภาวะแวดล้อมทเ่ี หมาะสม เช่น มีความชืนเพยี งพอ พืชก็ จะสามารถงอกรากพิเศษออกมาได้

ต่อมาไดม้ ผี ้ศู กึ ษาเพ่มิ เติมเกี่ยวกบั การล้าเลียงนา้ ตาลในพืช โดยใช้ธาตุ กมั มันตรงั สีที่เป็นองคป์ ระกอบของคาร์บอนไดออกไซด์ 14C และให้อยใู่ นรปู ของ สารละลาย ทา้ ให้แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ระเหยออกมา ซึ่งพชื สามารถดูดนา้ ไปใช้ ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงจากนันจงึ ใหพ้ ืชได้รับแสงเป็นเวลา 35 นาที แลว้ น้าเนือเยื่อต่าง ๆ มาทา้ ให้แหง้ โดยการแชแ่ ข็ง และตัดเป็นแผ่นบาง ๆ นา้ ไป วางบนแผน่ ฟลิ ม์ ถ่ายรูปและใหอ้ ยใู่ นหอ้ งมืด เพื่อตรวจสอบน้าตาลทม่ี ีธาตุ กัมมนั ตรงั สี 14C ดังสมการ 14CO2 + H2O 14C6H12O6 + O2 + H2O



การลา้ เลียงจะมี 2 ทิศทาง คอื ขนึ ไปสว่ นบนและลงล่าง ซ่ึงแตกตา่ งจาก การลา้ เลียงน้าและสารอาหารที่ลา้ เลียงทางไซเลม็ และมีทิศทางลา้ เลยี งจากรากไปสู่ ยอดใบ

กระบวนการลาเลียงอาหาร อาหารท่พี ชื สร้างขึนไดแ้ ก่ น้าตาล หรอื สารประกอบอน่ื ๆ ทีถ่ กู เปลี่ยนไป จากนนั ถูกล้าเลยี งไปตามเนอื เยือ่ โฟลเอ็ม ลักษณะของเนอื เยือ่ โฟลเอม็ จึงมคี ุณลกั ษณะท่ี ตา่ งจากเนอื เยือ่ ไซเล็มดงั นี 1. ซฟี ทวิ บเ์ มมเบอร์ของโฟลเอ็มต้องเปน็ เซลลท์ ม่ี ชี ีวติ อยู่ การลา้ เลียงจึงจะ เกดิ ขึนได้ ถ้าเซลลต์ ายการล้าเลยี งจะหยุดทันที ซ่งึ ตา่ งจากไซเลม็ เซลลท์ ี่ท้าหนา้ ที่ ล้าเลียงเปน็ เซลลท์ ่ีไม่มีชวี ิต

2. อัตราการลา้ เลียงในโฟลเอม็ เกิดได้ชา้ กว่าการลา้ เลยี งน้าและ สารอาหารในไซเล็มมาก ซง่ึ มักไมเ่ กิน 1 ใน 10 ของการล้าเลยี งในไซเลม็ และมี ค่าอยปู่ ระมาณ 100 เซนตเิ มตรตอ่ ชวั่ โมง 3. ทศิ ทางการล้าเลยี งในโฟลเอ็มเกดิ ได้ทังแนวขึนและลงในเวลาเดยี วกัน (translocation) ซ่งึ ต่างจากการลา้ เลยี งในไซเลม็ ที่มีการล้าเลยี งในแนวขึนเพยี ง ทิศทางเดียว