Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นวัตกรรมรับมือ COVID-19 (สวทช.)

นวัตกรรมรับมือ COVID-19 (สวทช.)

Published by 500bookchonlibrary, 2021-06-15 03:55:51

Description: นวัตกรรมรับมือ COVID-19 (สวทช.)

Search

Read the Text Version

สารบัญ หนา้ DDC-Care ระบบตดิ ตามและประเมนิ ผ้ทู ม่ี ีความเสี่ยงต่อการตดิ เชื้อกอ่ โรคโควิด-19 3 Traffy Fondue 4 NIEMS-Care ระบบจัดการสถานการณ์โควดิ -19 ในระดบั ชมุ ชน 5 Medical Devices Demand-Supply Matching 6 ระบบติดตามการกระจายหน้ากากอนามัย 7 หน้ากากอนามัย Safie Plus 8 หนา้ กากอนามยั N-Breeze 9 Face Shield from FabLab 10 หมวกแรงดนั ลบ Negative Pressure Helmet 11 Germ Saber UVC Sterilizer 12 MagikTuch ลฟิ ต์ไรส้ มั ผสั ขจัดโควดิ -19 13 Germ ZerO3 Sterilizer ต้อู บโอโซนเพ่ื อฆ่าเชือ้ โรค 14 MuTherm-FaceSense 15 การสกัด RNA โดยไมใ่ ช้ Commercial Kit 16 ชดุ ตรวจหาเชอ้ื ไวรสั SARS-CoV-2 ด้วยเทคนคิ แลมป์ (LAMP) 17 ชดุ ตรวจเชื้อไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 แบบรวดเรว็ ด้วยเทคนิค LFA 18 การคดั แยกผู้ป่วยด้วยลายพิ มพ์ เปปไทด์ (Peptide barcode) 19 วคั ซนี ปอ้ งกนั โรคโควิด-19 20 แบบจาํ ลองทางคณติ ศาสตร์ เพ่ื อรบั มือการระบาดของโควดิ -19 23 Fun Science @ Home by NSTDA 26 Research Gap Fund fights COVID-19 27 รวมงานวิจยั สวทช. สภู้ ยั โควดิ -19 28 นวัตกรรมรบั มือ COVID-19 สํานกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีแหง่ ชาติ (สวทช.)

นวตั กรรมรบั มือ COVID-19 สํานกั งานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ (สวทช.) DDC-Care ระบบติดตามและประเมนิ ผ้ทู มี่ ีความเสยี่ งต่อการติดเช้อื ก่อโรคโควดิ -19 DDC-Care คอื แอปพลิเคชันท่สี าํ นักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี แหง่ ชาติ รว่ มมอื กับกรมควบคุมโรคและหน่วยงานภาคใี นการพัฒนาขึ้น เพ่ือให้ประชาชน กลุ่มเสย่ี งที่อยู่ในชว่ งกกั ตัว 14 วัน ได้ใชแ้ อปพลเิ คชันในการประเมินอาการและความ เสี่ยงของตนเองในทุกวัน เพื่อให้เจ้าหน้าท่ีสามารถติดตามการควบคุมโรคได้โดยสะดวก และหากเกดิ เหตฉุ กุ เฉนิ ขน้ึ กจ็ ะสามารถเขา้ ชว่ ยเหลอื ไดอ้ ยา่ งทนั ทว่ งทีโดยแอปพลเิ คชนั นม้ี จี ุดแข็ง คอื สามารถส่อื สาร 2 ทางระหวา่ งผู้ปว่ ยกบั เจ้าหน้าทค่ี วบคุมโรคไดต้ ลอด เวลามี Dashboard รายงานผลตรงแก่เจา้ หน้าทีท่ ี่เกี่ยวข้อง และยงั ใหบ้ รกิ ารได้ถึง 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และจีน โดยผทู้ ่จี ะไดร้ ับคําแนะนําจากภาครฐั ให้ใชแ้ อปพลเิ คชัน DDC-Care แบ่งออกเปน็ 2 กรณี ไดแ้ ก่ 1) กรณกี ลมุ่ เสีย่ งต่อการตดิ เช้อื โควดิ -19 มาตรวจทีโ่ รงพยาบาล แล้วโรงพยาบาลพิจารณาว่าเปน็ ผู้ที่มคี วามเสยี่ ง แต่ผลตรวจการติดเชื้อออกมาเปน็ Negative (ยังตรวจไมพ่ บเชื้อ) เจ้าหนา้ ทจ่ี ะให้ผู้น้นั ติดต้งั แอปพลิเคชนั แล้วทําการกกั ตัวทีท่ ่ีพักอาศยั (Self-quarantine) เปน็ เวลา 14 วัน 2) กรณีผปู้ ว่ ยที่มาตรวจท่โี รงพยาบาลแล้วผลออกเปน็ Positive (พบเชื้อในร่างกาย) เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจะส่งขอ้ ความแจ้งเตอื น (SMS) ไปยงั มือถอื ของบคุ คลใกลช้ ดิ ผปู้ ว่ ยรายนั้น เช่น ผู้ที่อาศัยอยใู่ นบ้านเดยี วกัน เพ่ือใหก้ กั ตัวเองที่ที่พักอาศัยเปน็ ระยะเวลา 14 วัน และตดิ ตง้ั แอปพลิเคชัน สาํ หรบั ติดตามการกกั ตัว การทํางานของแอปพลิเคชนั ตดิ ต่อ: มิตทิ ี่ 1 สําหรับกล่มุ เสี่ยง : ผ้ใู ช้งานแอปพลเิ คชนั จะได้ทําแบบประเมนิ สขุ ภาพราย ดร.ณัฐนันท์ ทดั พิทกั ษ์กลุ วนั โดยจะมผี ลประเมนิ ตอบกลับว่ามีความเส่ยี งเพิ่มขึ้นหรือไม่ หากพบว่ามีความเส่ยี ง ทมี วจิ ยั เทคโนโลยีที่ทกุ คนเขา้ ถึงและสิง่ อาํ นวยความสะดวก เพิ่มขนึ้ เจา้ หน้าท่จี ากกรมควบคุมโรคจะโทรศัพท์ติดตอ่ มาให้คาํ แนะนาํ ในการดูแล ศนู ยว์ จิ ัยเทคโนโลยสี ง่ิ อํานวยความสะดวกและเครื่องมอื แพทย์ ตนเอง หรอื หากสุขภาพอยู่ในเกณฑท์ ี่ต้องเขา้ รบั การรกั ษาทีโ่ รงพยาบาล เจ้าหน้าทจ่ี ะ เบอร์โทรศพั ท:์ 02 564 6900 ต่อ 72232 ดาํ เนนิ การใหค้ วามช่วยเหลือตอ่ ไป E-mail: [email protected] โดยแอปพลิเคชนั จะส่งข้อมูลพิกัด (GPS) ของกลุ่มเส่ยี งแบบเรยี ลไทมไ์ ปยัง กรมควบคุมโรคทกุ 10 นาที หากระบบได้รบั การรายงานวา่ ผู้ที่กกั ตัวออกจากพิกดั ของ สถานทก่ี ักตัวเกนิ 50 เมตร ระบบจะแจ้งเตอื นการออกนอกพื้นที่ให้ทง้ั กลุ่มเส่ียงและ เจา้ หน้าทีก่ รมควบคุมโรครบั ทราบ เพ่ือจัดการรบั มือความเส่ยี ง มติ ิท่ี 2 เจา้ หนา้ ทีค่ วบคมุ โรค : เจา้ หน้าทจ่ี ะใช้ระบบ DDC-Care (Dashboard) ในการติดตามและตรวจสอบกลุ่มเส่ยี งทต่ี ้องกกั ตวั เพื่อลดภาระงานและความเสี่ยงใน การติดตาม (จากเดิมเจา้ หนา้ ทีจ่ ะตอ้ งตดิ ตามทีท่ ี่พักอาศัยของกล่มุ เสย่ี งรายบคุ คล) อกี ทงั้ ยังสามารถใช้ในการประเมนิ สถานการณ์ และเตรียมความพรอ้ มรองรบั ผู้ปว่ ยได้ อกี ดว้ ย ข้อมูลทัง้ หมดที่ประชาชนกรอกเข้าระบบ จะไดร้ บั การปกปอ้ งข้อมูล ดว้ ยระบบ ความปลอดภยั สูงสุด มีการจํากดั สิทธิข์ องผตู้ รวจสอบและจัดการข้อมูล เปน็ ระดับ โรงพยาบาล ระดบั จงั หวดั ระดับเขต และระดบั กรมควบคมุ โรค ปจั จบุ นั เรม่ิ มกี ารใช้งานจรงิ แล้ว เมือ่ วนั ที่ 31 มนี าคม 2563 โดยกรมควบคุมโรค นํามาใช้กบั กลมุ่ ท่มี คี วามเสย่ี งตอ่ การติดเชือ้ ที่สถาบนั บาํ ราศนราดรู และในส่วนภูมภิ าค สาํ นักงานปอ้ งกันควบคุมโรค (สคร.) ไดด้ ําเนนิ การในระดับพ้ืนที่จงั หวัดทร่ี ับผิดชอบ ไดแ้ ก่ สคร. 2 (พิษณโุ ลก เพชรบูรณ์ สุโขทยั ) และ สคร. 8 (อดุ รธานี บงึ กาฬ) 3

นวตั กรรมรับมอื COVID-19 สาํ นักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) Traffy Fondue ทราฟฟฟี องดูว์ (Traffy Fondue) เปน็ แอปพลิเคชันสาํ หรับ รับแจ้งเมื่อประชาชนพบคนที่เส่ียงต่อการติดเชื้อก่อโรคโควิด-19 กลบั ภูมลิ ําเนา โดยผูแ้ จ้งไมจ่ าํ เปน็ ต้องรูจ้ กั กบั เจ้าหนา้ ท่ี ไม่ต้อง กงั วลว่าจะแจง้ ใคร หรือทราบว่าใครเปน็ ผรู้ ับผิดชอบ ระบบ ออกแบบมาให้งา่ ยตอ่ การใช้งาน เพียงผแู้ จง้ สแกน QR Code (หรอื เพ่ิมเพื่อน LINE ID : @traffyfondue) ก็สามารถแจ้งได้ ทนั ที ทราฟฟฟี องดวู ์ถกู พัฒนามาจากแอปพลเิ คชนั แจง้ และตดิ ตามปญั หา ซ่งึ ประชาชนในพ้ืนทต่ี ่างๆ ทัว่ ประเทศ จะเปน็ ส่วนหนึง่ ในการปอ้ งกนั เมอื ง ท่จี ดั ทําขน้ึ สาํ หรับสื่อสารเรอื่ งปญั หาของเมือง ระหว่างประชาชนกับ การระบาดด้วยการแจ้งขอ้ มลู ผ่านไลนแ์ ชตบอต เพียงเพ่ิมเพื่อน @traffy- หนว่ ยงานทีร่ บั ผิดชอบ ประชาชนสามารถแจง้ ปญั หาท่พี บ เช่น ปญั หาความ fondue หากพบคนจากพ้ืนท่เี สี่ยงกลับภมู ิลําเนา เรม่ิ แจ้งขอ้ มูลด้วยการ สะอาด ปญั หาทางเท้า และติดตามสถานะการดําเนินการแกไั ขปญั หาของ พิมพ์ #โควิด ตามด้วยชอ่ื เลน่ เพศ ส่งข้อมลู ภาพลักษณะท่อี ยู่ หมู่บา้ น หนว่ ยงานที่รับผดิ ชอบได้ โดยหน่วยงานจะไดร้ บั แจ้งรายงานปญั หาทม่ี ี ชุมชน (ไม่ตอ้ งส่งภาพคน) มายังไลนแ์ ชตบอต เพื่อใหเ้ จา้ หน้าทฝ่ี า่ ยปกครอง ขอ้ มูลเพียงพอตอ่ การดําเนินการ เชน่ ภาพถา่ ย ตําแหนง่ บนแผนที่ และ ทอ้ งถิ่นลงพ้ืนท่ี ตรวจสอบ สอบสวน และคดั กรอง เพื่อปอ้ งกันการแพร่ สามารถให้ข้อมลู สถานะการแก้ไขปญั หาแก่ประชาชนได้ ระบาดของโรคในพื้นทต่ี า่ งๆ ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ อยา่ งไรกต็ าม จากการสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดในเกือบทกุ ปจั จบุ นั มกี ารแจง้ เบาะแสของผเู้ ขา้ ขา่ ยเดนิ ทางจากพ้ืนทเ่ี สย่ี งท่ี กลบั พ้ืนท่ี จงึ มกี ารประยุกตใ์ ชแ้ อปพลเิ คชันทราฟฟฟี องดูว์ ในแพลตฟอร์มไลน์ มายังภมู ลิ าํ เนาเขา้ มาในระบบแล้วจาํ นวนมาก เชน่ จงั หวัดมหาสารคาม แชตบอต ใหส้ อดคลอ้ งกับสถานการณ์ เพื่อใช้รายงานขอ้ มูลบุคคลเดนิ ทาง ราชบรุ ี นครพนม ยโสธร หนองคาย และยงั มีอกี หลายภูมภิ าคท่วั ประเทศ จากพ้ืนทเ่ี สีย่ งการระบาดโรคโควิด-19 และจากพื้นที่กรุงเทพมหานครเดิน ทราฟฟฟี องดูว์นับเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด ทางกลับภูมิลาํ เนา เนื่องจากกระทรวงมหาดไทย (มท.) ในฐานะหน่วยงาน ของโรค ผู้ใชข้ อ้ มลู ดังกลา่ ว ตอ้ งการทราบว่าคนทม่ี คี วามเสี่ยงต่อโรคโควดิ -19 กลับ มายังภมู ลิ ําเนามีอยทู่ ่ใี ดของประเทศบา้ ง เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ในการคัดกรอง ติดต่อ: คนทเี่ ดนิ ทางมาจากพื้นทเี่ สยี่ งใหม้ สี ว่ นรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมและปฏบิ ตั ติ วั ตาม มาตรการของกระทรวงสาธารณสขุ ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม ทีมวจิ ัยระบบขนสง่ และจราจรอจั ฉรยิ ะ กลุ่มวิจัยการส่อื สารและเครือข่าย ศูนยเ์ ทคโนโลยอี เิ ลก็ ทรอนกิ ส์และคอมพิวเตอรแ์ ห่งชาติ เบอร์โทรศพั ท:์ 02 564 6900 ต่อ 2528 E-mail: [email protected] 4

นวตั กรรมรับมอื COVID-19 สาํ นักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ (สวทช.) NIEMS-Care ระบบจดั การ สถานการณโ์ ควดิ -19 ในระดบั ชมุ ชน NIEMS-Care คือ แอปพลิเคชันท่ีใช้สาํ หรับเฝ้าระวังการระบาด ของเชอื้ กอ่ โรคโควดิ -19 ในระดบั ชมุ ชนเพื่อการตอบสนองอยา่ งรวดเรว็ โดยแตล่ ะครวั เรอื นจะมตี วั แทนทาํ หนา้ ทรี่ ายงานสถานะสขุ ภาพของสมาชกิ ในครวั เรือน เป็นประจําทุกวันผ่านแอปพลิเคชัน โดยมีผู้ใหญ่บ้านหรือ ผู้แทน และเจ้าหน้าท่ีจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจําตําบล (รพสต.) ทําหน้าที่ติดตามและเฝ้าระวังผ่านทางหน้าสรุปข้อมูล (Dashboard) ของแอปพลเิ คชัน หากพบประชาชนทด่ี แู ลอยมู่ คี วามเสย่ี งตอ่ การตดิ เชอ้ื กอ่ โรคโควดิ -19 หรอื มอี าการปว่ ยโควดิ –19 อบต. หรอื เทศบาล จะตอ้ งรายงานศนู ยน์ เรนทร หรอื สถาบนั การแพทยฉ์ กุ เฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เพื่อเดินเรือ่ งการดูแล ให้ความช่วยเหลอื และทําการปอ้ งกันโรคตอ่ ไดอ้ ย่างทันทว่ งที โดยในเดอื นเมษายน 2563 มกี ารนําร่องใชง้ านแอปพลิเคชนั แล้วใน 11 พื้นทีจ่ าก 11 จงั หวัด จํานวนครวั เรือนทล่ี งทะเบียน 600 ครวั เรือน และกาํ ลงั จะขยาย ผลไปใช้งานในพ้ืนที่การดูแลของ อบต. หรือเทศบาลอ่นื ๆ ท่ัวประเทศในเดือนพฤษภาคมน้ี การพัฒนาและขยายผลการใช้งานแอปพลิเคชันน้มี ีหน่วยงานพันธมิตร คอื สพฉ. และ อบต./เทศบาล 11 แห่ง ตดิ ต่อ: ดร.กิตติ วงค์ถาวราวัฒน์ ศูนยว์ จิ ัยเทคโนโลยสี ่งิ อาํ นวยความสะดวกและเครอ่ื งมอื แพทย์ (A-MED) เบอร์โทรศัพท:์ 02 564 6900 ต่อ 2522 E-mail: [email protected] 5

นวัตกรรมรบั มอื COVID-19 สาํ นกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) Medical Devices Demand-Supply Matching Medical Devices Demand-Supply Matching คือ แพลตฟอรม์ สาํ หรับจับคคู่ วามต้องการระหว่างผบู้ ริจาค และผูร้ ับบริจาคอปุ กรณ์และเครอ่ื งมือทางการแพทย์ เพื่อ ใหเ้ กดิ การชว่ ยเหลอื ทต่ี รงความตอ้ งการอยา่ งแทจ้ รงิ และ สามารถตดิ ตามสถานะในการจัดสง่ ของได้ แพลตฟอร์มน้เี ปน็ ความรว่ มมอื ในการพัฒนาระหว่าง NETbay, ตดิ ตอ่ : UHosNet และ สวทช. เพ่ือเชอ่ื มโยง (Matching) ความต้องการ ระหว่างผู้บริจาคและผู้รบั บริจาค โดยทั้งสองฝา่ ยสามารถระบคุ วาม นายชยั วฒุ ิ สีทา ตอ้ งการได้ทางออนไลน์ ปจั จบุ นั อยใู่ นระหวา่ งการประชาสัมพันธ์ ฝ่ายบรกิ ารความรูท้ างวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (STKS) แพลตฟอร์มใหเ้ ปน็ ทร่ี จู้ กั ในวงกวา้ ง รวมถงึ ไดช้ ่วยดําเนินการ เบอรโ์ ทรศัพท:์ 02 564 7000 ต่อ 1260 ประสานงานกบั กระทรวงสาธารณสขุ และสภากาชาดไทย เพ่ือรว่ ม E-mail: [email protected] บูรณาการขอ้ มลู โรงพยาบาลให้ดยี ่งิ ขึน้ สามารถนําขอ้ มูลมาใช้พัฒนา การทาํ งานในอนาคตต่อไป ผู้ท่สี นใจสามารถเข้าใช้งานได้ท่ี https:// www.mds4covid19.in.th 6

นวตั กรรมรบั มือ COVID-19 สํานักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) ระบบตดิ ตาม การกระจาย หน้ากากอนามัย ระบบติดตามการกระจายหนา้ กากอนามยั ของกระทรวงมหาดไทย ติดต่อ: เป็นระบบท่ีใช้ในการติดตามการแจกจ่ายของกระทรวงแบบรายวัน (วันละ 1 ล้านชิน้ ) ทัว่ ประเทศ โดยจะทําการบันทึก ตรวจรบั /แจกจา่ ย ดร.กรชิ นาสงิ หข์ นั ธ์ุ หนา้ กากอนามัยพรอ้ มกบั แสดงรายงานการตรวจรบั และแจกจ่ายของ งานยกระดับความพร้อมทางเทคโนโลยี แต่ละหนว่ ยงานแยกตามพื้นท่ี จากระดบั จังหวัด อําเภอ ตาํ บล หม่บู ้าน ฝา่ ยสนับสนุนบริการทางวิศวกรรมและเทคโนโลยี กลมุ่ ผูใ้ ชง้ านแบบรายวัน เพื่อเปน็ การแก้ปญั หาการบรหิ ารจัดการ ศูนย์เทคโนโลยอี เิ ล็กทรอนกิ สแ์ ละคอมพิวเตอรแ์ หง่ ชาติ หนา้ กากอนามยั ของกระทรวงมหาดไทย เบอรโ์ ทรศัพท์: 02 564 6900 ต่อ 2432 E-mail: [email protected] ปจั จุบนั กําลังเตรยี มการทดสอบใช้งานใน กทม. และนนทบรุ ี และ ขยายการใช้งานให้ครอบคลมุ ฝา่ ยปกครองทั่วประเทศ (77 จงั หวัด ประมาณ 1,800 คน) ต่อไป ทงั้ น้ีการพัฒนาภายใตค้ วามรว่ มมอื ของกระทรวงมหาดไทยกบั งาน ยกระดบั ความพรอ้ มทางเทคโนโลยี ฝา่ ยสนับสนนุ บรกิ ารทางวิศวกรรม และเทคโนโลยี ศูนย์เทคโนโลยีอเิ ล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สํานกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ชาติ 7

นวัตกรรมรับมอื COVID-19 สาํ นักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ (สวทช.) หน้ากากอนามยั Safie Plus จากปญั หาฝุ่น PM2.5 ทีม่ ีคา่ เกนิ เกณฑม์ าตรฐาน อยใู่ นระดับทีม่ ี ผลกระทบต่อสขุ ภาพของประชาชน สํานักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติจึงมุ่งพั ฒนาหน้ากากอนามัยทีป้องกัน ฝุ่นขนาดเล็กและเช้อื โรค ซ่งึ เมอ่ื เกดิ การระบาดของโรคโควิด-19 สามารถนาํ มาใชเ้ ปน็ อปุ กรณป์ อ้ งกนั การตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนาโดย เฉพาะในกลุ่มบคุ ลากรทางการแพทย์ หนา้ กากอนามยั Safie Plus ปจั จุบัน หน้ากากอนามยั เซฟพี ลสั ผา่ นการทดสอบประสิทธภิ าพการ กรองฝุ่น PM2.5 ได้ 99% ตามมาตรฐาน ASTM F2299 จาก TÜV SÜD เซฟพี ลัส (Safie Plus) คอื หนา้ กากอนามัยประสทิ ธภิ าพสงู ผลิตโดย ประเทศสิงคโปร์ และผ่านการทดสอบประสทิ ธิภาพการกรองไวรัส (Viral ศนู ยว์ ิจัยเทคโนโลยสี ่งิ อาํ นวยความสะดวกและเคร่อื งมือแพทย์ ร่วมกบั filtration efficiency: VFE) ได้ 99% จาก Nelson Laboratory ศนู ยเ์ ทคโนโลยโี ลหะและวสั ดุแห่งชาติ โดยหนา้ กากมคี วามหนา 4 ชั้น สหรัฐอเมรกิ า อีกทง้ั ยังผา่ นการทดสอบประสทิ ธิภาพการฆา่ เช้ือไวรสั แผ่นชั้นกรองพั ฒนาด้วยเทคโนโลยีการเคลือบสารไฮดรอกซีอาปาไทต์และ H1N1 (Influenza A Virus) โดยมหาวทิ ยาลยั มหดิ ล ไทเทเนียมบนเสน้ ใยธรรมชาติ ซ่งึ มคี ณุ สมบัตใิ นการดกั จบั ฝนุ่ ละอองทีม่ ี อนุภาคขนาดเลก็ และจลุ ินทรีย์ จึงช่วยปอ้ งกันฝนุ่ PM2.5 และกาํ จัดเช้อื สาํ หรับการนําไปใช้งานขณะนี้อยู่ระหว่างดาํ เนินการขออนุมัติจาก จลุ ินทรยี ์ได้ท้งั ไวรสั และแบคทเี รียเมอ่ื ถกู แสงแดด ที่สาํ คัญเซฟพี ลสั ยัง คณะกรรมการเฉพาะกจิ เกย่ี วกบั การบรหิ ารจดั การพัสดสุ าํ หรบั การปอ้ งกนั ถกู ออกแบบให้มีความกระชับกบั ใบหนา้ แต่ยังหายใจได้สะดวก ไมอ่ ดึ อัด ควบคมุ หรือรักษาโรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 เพ่ือผลติ หนา้ กาก ทําให้สวมใสไ่ ดเ้ ปน็ เวลานาน นอกเหนอื การควบคมุ สําหรับแจกจา่ ยใหแ้ กบ่ ุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ได้ประสานขอตัวอย่าง หนา้ กากอนามยั เซฟพี ลสั เพ่ือออกแบบหนา้ กากอนามยั รปู แบบใหม่ นอกจากน้ยี งั มคี วามรว่ มมอื กบั ผผู้ ลติ เอกชนทไ่ี ดร้ บั รองมาตรฐานการ ผลติ ตามมาตรฐาน ISO 13485 ในการผลิต Safie Plus หน้ากากอนามยั นวัตกรรมแผ่นกรอง 4 ช้นั ตดิ ตอ่ : ดร.นฤภร มนต์มธรุ พจน์ ทมี วจิ ัยเทคโนโลยเี ครื่องมือแพทยฝ์ งั ใน ศนู ยว์ จิ ยั เทคโนโลยสี ่ิงอํานวยความสะดวกและเคร่ืองมือแพทย์ เบอรโ์ ทรศัพท์: 02 564 6500 ต่อ 4437 E-mail: [email protected] 8

นวัตกรรมรับมือ COVID-19 สํานกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) หนา้ กากอนามัย N-Breeze จากปญั หาฝุ่น PM2.5 ที่มคี ่าเกนิ เกณฑม์ าตรฐาน อยูใ่ นระดับที่มี ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพของประชาชน สาํ นกั งานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติจึงมุ่งพั ฒนาหน้ากากอนามัยที่ป้องกัน ฝุ่นขนาดเล็ก สารพิษ และเช้อื โรค ซง่ึ เมือ่ เกดิ การระบาดของโรค โควดิ -19 ยงั สามารถนาํ มาใช้เปน็ อุปกรณป์ อ้ งกนั การติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา โดยเฉพาะในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ หน้ากากอนามยั N-Breeze ปัจจุบันมีการนําเอ็นบรีซมาประยุกต์ใช้ผลิตหน้ากากอนามัยท่ีมี รูปแบบใช้งานสะดวก เช่น รนุ่ N-Breeze M01 โดยมีการออกแบบเพ่ิม เอน็ บรีซ (N-Breeze) คอื แผ่นกรองจากเส้นใยขนาดเล็ก ผลติ โดย พ้ืนทีห่ ายใจใหก้ วา้ งกว่าหนา้ กากอนามยั แบบธรรมดา กระชบั ใบหน้าแตไ่ ม่ ศนู ย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ซึ่งพัฒนาจากเทคโนโลยีการขน้ึ รปู เสน้ ใย ปดิ แน่น (Semi-facial fit) ทาํ ให้หายใจสะดวกมากขึ้น และมีสายคล้องหู นาโน ด้วยองค์ประกอบเฉพาะร่วมกบั เทคนิคอิเล็กโทรสปนิ นงิ และเทคโน ท่มี ผี ิวสัมผัสนุม่ จึงรู้สึกเบาสบายขณะสวมใส่ มีประสิทธภิ าพการกรอง โลยแี ผน่ เสน้ ใยไมโครไฟเบอร์ทาํ ใหไ้ ดแ้ ผน่ เสน้ ใยแบบไมถ่ กั ไมท่ อทมี่ ลี กั ษณะ ท้งั อนุภาคและละอองของเหลวท่ดี ีมาก (VFE > 99%, BFE > 99%, PFE เปน็ รพู รุนขนาดเลก็ จํานวนมาก ซึง่ สามารถคัดกรองอนภุ าคขนาดเล็ก (ASTM F2299) 0.1 > 99%, 0.3 > 99%, 0.5 um > 99%) สามารถนํา แตย่ อมใหอ้ ากาศผา่ นได้ จงึ มีคุณสมบตั พิ ิเศษตา่ งจากแผน่ กรองทัว่ ไป ไปใชเ้ ปน็ อปุ กรณป์ อ้ งกนั สว่ นบคุ คลเพ่ือลดการแพรก่ ระจายเชอ้ื โรคสาํ หรบั สามารถดกั จับอนภุ าคฝุ่นละอองในอากาศขนาด 0.3-2.5 ไมครอน เหมาะ บคุ ลากรทางการแพทย์และประชาชนท่วั ไป เชน่ ในสถานการณก์ ารระบาด สําหรับการกรองฝุน่ PM2.5 ปอ้ งกนั ละอองของเหลวทีอ่ าจปนเป้ อื นเช้อื ของโรคโควดิ -19 โดยเอน็ บรซี และต้นแบบดงั กล่าวนับเปน็ เทคโนโลยี สิ่ง โรคและต้านแบคทีเรีย โดยตัวแผ่นกรองยังมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น ทอสมยั ใหม่ทตี่ อบโจทยเ์ รอ่ื งมลภาวะและโรคตดิ ตอ่ ในระบบทางเดนิ หายใจ นาํ้ หนักเบา ทนตอ่ แรงดงึ ไดด้ ี นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบเอ็นบรีซ ท่ที วั่ โลกกาํ ลงั เผชิญ ใหม้ คี ุณสมบตั ิทห่ี ลากหลายเพิ่มเติมเขา้ มาได้ดว้ ย เช่น ทําความสะอาดตวั เอง สะทอ้ นนํ้า และทนตอ่ แสงแดด ทาํ ให้นําไปประยุกตใ์ ช้ไดใ้ นหลากหลาย ติดตอ่ : อตุ สาหกรรม เชน่ อุตสาหกรรมการแพทย์ อุตสาหกรรมเครื่องปรับ อากาศ อุตสาหกรรมยานยนต์ และนําไปใชท้ ดแทนแผน่ กรองอากาศที่มี ดร.วรล อนิ ทะสันตา ราคาสงู ในทอ้ งตลาดได้ กลุม่ วิจัยวสั ดุผสมและการเคลือบนาโน ศูนยน์ าโนเทคโนโลยีแหง่ ชาติ เบอรโ์ ทรศัพท:์ 02 564 7100 ตอ่ 6580 แผน่ กรองจากเสน้ ใยเอน็ บรซี ผา่ นการทดสอบประสทิ ธภิ าพการกรอง E-mail: [email protected] ฝุ่นละอองขนาดเลก็ อา้ งองิ ตามมาตรฐานยุโรปและสหรฐั อเมรกิ า เชน่ EN149 FFP1, EN149 FFP2, EN149 FFP3, ASTM F2299 และ NIOSH N95 รวมถงึ การทดสอบประสิทธภิ าพการกรองละอองของ เหลวทม่ี เี ชือ้ โรค เช่น Viral filtration efficiency (VFE), Bacterial filtration efficiency (BFE) ไดย้ ืน่ จดทรพั ยส์ ินทางปญั ญาหลายฉบับ และอยู่ระหวา่ งการถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ภู่ าคธรุ กิจ 8

นวัตกรรมรบั มอื COVID-19 สาํ นักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) Face Shield from FabLab ท่ามกลางสถานการณก์ ารระบาดของโรคโควดิ -19 ซ่งึ ทัว่ โลก กาํ ลังเผชญิ อยใู่ นปจั จบุ ัน Face Shield หรือหน้ากากชนิดบัง ใบหน้า คอื อุปกรณ์สาํ คัญท่จี ะชว่ ยเปน็ เกราะปอ้ งกันการฟุง้ กระจาย ของสารคัดหลั่งจากผปู้ ว่ ยโควดิ -19 ไม่ให้มาสมั ผัส กบั บคุ ลการทางการแพทยแ์ ละผทู้ ่เี กีย่ วข้อง สวทช. โดยโครงการโรงประลองต้นแบบทางวศิ วกรรม (Fabri- ปจั จุบนั FabLab ไดส้ ่งมอบ Face Shield ให้แก่บคุ ลากรทาง cation Lab) เพ่ือพัฒนาทักษะความเปน็ นวตั กรแกเ่ ดก็ และเยาวชนไทย การแพทย์ท่วั ประเทศแลว้ กวา่ 6,413 ชดุ และยงั ไดอ้ ัปโหลดไฟลต์ ้นแบบ หรอื FabLab ซ่งึ มบี ้านวทิ ยาศาสตรส์ ริ นิ ธรเปน็ สว่ นกลาง และเครือขา่ ย โมเดล 3 มิติ ไว้ที่ www.thingiverse.com/thing:4260273 เพื่อเปดิ FabLab ในภูมิภาค รว่ มกับเครอื ขา่ ยนักประดิษฐ์ (Maker) นาํ “เทคโน โอกาสใหเ้ ครือข่าย FabLab และหนว่ ยงานทส่ี นใจสามารถดาวนโ์ หลด โลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติ หรอื 3D Printing“ มาผลติ Face Shield โดย สําหรับร่วมผลติ ซึง่ ต้งั แต่อปั โหลดไฟลด์ งั กล่าวเมือ่ วนั ที่ 6 มนี าคม ตอ่ ยอดแบบการขน้ึ รูปจากเมกเกอร์ Prusa Protective Face Shield จนถึงปจั จบุ ันมีผูด้ าวนโ์ หลดแลว้ มากกว่า 300 ครั้ง นอกจากนีย้ ังมี Model : RC3 และพิมพ์ขน้ึ รปู ด้วยวธิ ีการฉีดเส้นพลาสตกิ ที่เรียกวา่ ภาคเอกชนรว่ มสนบั สนนุ อุปกรณใ์ นการผลติ Face Shield ไดแ้ ก่ FDM หรอื Fused Deposition Model เนอ่ื งจากมตี ้นทนุ การพิมพ์ทีไ่ ม่ บริษัท เอก็ ซว์ ายแซดพริน้ ตงิ้ (ประเทศไทย) จาํ กัด มอบเครือ่ งพิมพ์สาม สงู มากนัก แตม่ ีความแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้นาน มติ ิ บริษทั เมโทรซสิ เตม็ สค์ อรป์ อเรชั่น จาํ กดั (มหาชน) สนับสนุน โปรแกรมออกแบบ SolidWorks Education version Face Shield มีส่วนประกอบหลัก 3 สว่ น คือ กระบังดา้ นหน้า (Visor) แผ่นพลาสตกิ ใส (Clear plastic sheet) และสายรดั ศรี ษะ อย่างไรก็ดี FabLab ยงั ไดร้ ่วมกบั เครือข่ายในสถานศกึ ษา และ (Elastic head band) ซ่งึ FabLab จะเน้นการผลติ ช้นิ ส่วนกระบงั ด้าน มหาวิทยาลยั พี่เลีย้ ง ออกแบบจดั ทําอุปกรณท์ ่จี าํ เปน็ อ่นื ๆ เพ่ือสง่ มอบ หนา้ เน่อื งจากเปน็ ช้นิ สว่ นทีไ่ ม่สามารถหาซือ้ ได้ทัว่ ไป และเปน็ สว่ นท่ตี ้อง ให้แกบ่ ุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ได้แก่ กล่องปอ้ งกันการ สมั ผสั กบั ผ้ใู ช้โดยตรงเปน็ เวลานาน จึงตอ้ งมีความแขง็ แรง ยดื หย่นุ และ ฟุง้ กระจาย (Aerosol) แบบครอบเตยี ง 115 กลอ่ ง แบบตง้ั โต๊ะ 20 กลอ่ ง ปรับเข้ากับศรี ษะของผสู้ วมใส่ไดด้ ี นอกจากน้กี ระบังดา้ นหนา้ ที่ FabLab เครอื่ งกดเจลล้างมืออตั โนมัติ 55 เครอ่ื ง เครอ่ื งจ่ายเจลแอลกอฮอล์ ผลิตขน้ึ ยงั มกี ารคํานวณระยะห่างระหวา่ งแผ่นใสกบั ใบหนา้ เพ่ือให้เหมาะสม อตั โนมตั โิ ดยการเหยยี บ 10 เคร่อื ง และทค่ี ลอ้ งหน้ากากอนามยั 100 ช้นิ กับบคุ ลากรทางการแพทย์ทีต่ อ้ งสวมใสแ่ วน่ ตาทางการแพทย์ ทส่ี าํ คญั Face Shield ทีผ่ ลิตข้ึน ยังสามารถถอดเปลีย่ นแผน่ พลาสตกิ ใส เพื่อ ทาํ ความสะอาดหรอื เปล่ยี นแผน่ ใหมไ่ ด้สะดวกอีกด้วย ติดต่อ: โครงการโรงประลองต้นแบบทางวศิ วกรรม (Fabrication Lab) เบอรโ์ ทรศัพท:์ 02 564 7000 ตอ่ 77224, 77800 Website: https://FabLabthailand.com/ 9

นวตั กรรมรับมือ COVID-19 สํานกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) หมวกแรงดันลบ Negative Pressure Helmet หมวกแรงดันลบเป็นนวัตกรรมเพ่ื อลดการแพร่กระจายเช้ือ จากกลุ่มเฝ้าระวงั ด้วยแนวคิดประกอบงา่ ย ผลติ เร็ว ราคาถูก โดยประชาชนสามารถใชพ้ ิมพ์เขยี วในการดแู บบเพ่ือประกอบ ด้วยตัวเองไดโ้ ดยงา่ ย จงึ เปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งมากต่อการ กระจายการใช้งานไปในวงกวา้ ง ลดการขาดแคลนอปุ กรณ์ ปอ้ งกนั การแพร่กระจายเชอ้ื โรค หมวกแรงดันลบ ประกอบดว้ ย 3 ส่วนหลกั คือ นวตั กรรมนตี้ อบโจทยค์ วามตอ้ งการทเ่ี รง่ ดว่ นในสถานการณว์ กิ ฤต ด้วยปรชั ญาการออกแบบท่คี ํานงึ ถึง Speed & Scale เปน็ อันดบั แรก 1) ตัวหมวก ใชก้ ารพับกระดาษแขง็ หรือแผน่ พลาสติกใหข้ ึน้ รูปเปน็ รูป ทาํ ใหห้ นว่ ยงานทางดา้ นสาธารณสุข หนว่ ยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึง ทรงโดยไมต่ ้องใชก้ าว (ใชห้ ลกั การพับแบบ Origami) ตวั หมวกท่ี ประชาชนทั่วไป สามารถนําแบบและอุปกรณ์ไปผลติ หมวกแรงดนั ลบได้ พับเสร็จจะมีความดันอากาศตํ่ากวา่ ภายนอกอยา่ งน้อย2.5Paด้วย ดว้ ยตัวเอง นอกจากนน้ั ด้วยตัวระบบกําจัดเชอ้ื และระบบควบคุมการ การควบคมุ อตั ราการไหลเวยี นของอากาศทผี่ า่ นเขา้ ชอ่ งและรตู า่ งๆ ทํางานทม่ี ตี น้ ทนุ ในการผลิตไม่สงู นัก และใช้อุปกรณท์ ่สี ามารถผลิตได้ใน ปริมาณมาก แม้จะผ่านสถานการณโ์ ควดิ -19 ไปเรยี บรอ้ ยแลว้ ก็ยังนาํ 2) ระบบกําจัดเช้อื ณ ขาออก ใชก้ ารติดต้งั แผน่ กรอง HEPA เพื่อกําจดั หมวกแรงดันลบไปใช้ประโยชน์ในการควบคุมโรคติดต่อจากสารคัดหลั่ง ละอองท่มี ีอนุภาคขนาดใหญก่ วา่ 300 nm และใช้ UVC/Ozone ใน อื่นๆ และต่อยอดในเชงิ พาณิชย์ได้ การฆ่าเชื้อ โดยแผน่ กรองน้ผี ่านการออกแบบใหไ้ ม่มีสว่ นสมั ผสั กับ ผู้ใช้ เพื่อให้มปี ระสิทธภิ าพในการใช้งานสูงสุด ติดต่อ: 3) วงจรประมวลผลและบรหิ ารจดั การ มีเซนเซอร์ตรวจวัดความดนั ดร.ไพศาล ขนั ชัยทศิ และทีมวจิ ัยหอ้ งปฏบิ ตั ิการทีมวิจยั เข็มระดบั นาโน ลาํ โพง และไฟบอกสถานะทีผ่ ้ใู ช้สามารถมองเห็นได้ง่าย มแี หล่งกัก กลุ่มวจิ ัยวัสดุตอบสนองและเซ็นเซอรร์ ะดบั นาโน เก็บพลังงานในตวั สามารถชาร์จไดผ้ า่ นพอรต์ USB โดยใชไ้ ฟฟา้ ศูนยน์ าโนเทคโนโลยีแห่งชาติ กระแสตรงศักย์ตา่ํ จึงมีความปลอดภยั ในการใชง้ านสูง เบอร์โทรศพั ท:์ 02 564 7100 E-mail: [email protected] 10

นวตั กรรมรบั มือ COVID-19 สํานักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ (สวทช.) ผลติ ภณั ฑ์กําจดั เช้อื โรค ดว้ ยวธิ ีการฉายแสงยูวีซี: Germ Saber UVC Sterilizer จากปญั หาการขาดแคลนอปุ กรณท์ างการแพทย์ทง้ั หนา้ กากอนามยั แอลกอฮอล์ฆ่าเชือ้ และน้าํ ยาฆา่ เชื้อโรคต่างๆ ท่ามกลางสถานการณ์ การระบาดของโรคโควิด-19 ศนู ยเ์ ทคโนโลยีเพื่ อความมน่ั คงของ ประเทศและการประยกุ ตเ์ ชงิ พาณชิ ย์สํานกั งานพั ฒนาวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแหง่ ชาติ ไดเ้ รง่ พั ฒนาผลติ ภัณฑ์กําจัดเช้อื โรคดว้ ย วธิ ีการฉายแสงยวู ีซ:ี Germ Saber UVC Sterilizer เพ่ื อช่วยลด การใช้นา้ํ ยาพ่ นฆ่าเช้ือและไม่ทําให้เกิดสารตกค้างจากการปนเป้ ือน ของสารเคมีสําหรบั ใชเ้ ปน็ เครอื่ งมอื กําจดั เชอื้ โรคในโรงพยาบาลและ สถานทเ่ี สย่ี งตา่ งๆ ในเวลาท่ีจํากดั ปจั จบุ นั ทมี วจิ ยั ไดพ้ ัฒนาผลติ ภณั ฑก์ าํ จดั เชอื้ โรคดว้ ยวธิ กี ารฉายแสง ยวู ีซี จํานวน 2 รนุ่ ได้แก่ Germ Saber Station เปน็ อปุ กรณท์ เ่ี คลอื่ นท่ี ด้วยการเข็นไปยงั จดุ ต่างๆ และ Germ Saber Robot หุน่ ยนต์ฆา่ เช้อื โรค ดว้ ยแสงยวู ซี ง่ึ เคลอ่ื นทไ่ี ดอ้ ตั โนมตั ดิ ว้ ยระบบมอเตอรไ์ ฟฟา้ ผา่ นการควบคมุ ระยะไกลดว้ ยรโี มตคอนโทรลคล่ืนวทิ ยุ เหมาะสําหรบั ใช้งานในพ้ืนท่ตี ่างๆ ในชว่ งเวลาทไ่ี ม่มคี นอยู่ เพ่ือฆ่าเช้อื โรคตามจดุ ตา่ งๆ เฉลีย่ จุดละ 30 นาที ขน้ึ ไป สาํ หรับจดุ เด่นของ Germ Saber ทง้ั 2 รุ่น คอื ฆ่าเชอ้ื ไวรัสก่อโรค โควิด-19 ด้วยรงั สีอลั ตราไวโอเลตทีม่ คี วามยาวคลืน่ อยู่ในย่านความถ่ี ประมาณ 250 นาโนเมตร เปน็ ช่วงคล่นื ทม่ี ปี ระสิทธภิ าพสงู ในการกําจดั และ หยดุ ยง้ั การแพรพ่ ันธุข์ องเชือ้ รา แบคทเี รีย และเชือ้ โรคตา่ งๆ บนพ้ืนผวิ เครือ่ งมอื อุปกรณ์ เคร่อื งมอื ทางการแพทย์ และอปุ กรณอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ รวมถึงเช้อื ไวรสั ท่ีอยู่ในฝอยละอองทล่ี อยในอากาศได้ จงึ นาํ มาใช้ทดแทน หรอื เสรมิ การฉดี พ่นนํา้ ยาฆา่ เชอื้ โรคไดเ้ ปน็ อยา่ งดีชว่ ยลดระยะเวลาการ ทาํ ความสะอาด และความเสย่ี งในการได้รบั เช้อื โรคของผปู้ ฏบิ ัติหนา้ ท่ี ทัง้ นไี้ ด้นําต้นแบบ Germ Saber ไปทดสอบการใชง้ านท่โี รงพยาบาล จฬุ าลงกรณ์ ซึ่งจากการทดสอบเปดิ Germ Saber ในลฟิ ต์เปน็ เวลา 15 นาที ผลปรากฏวา่ เชอ้ื โรคท่พี บบรเิ วณปมุ่ กดลฟิ ต์ถูกกําจดั ได้หมด ซึง่ จะมี การขยายผลในเชิงพาณิชย์ตอ่ ไปในอนาคต นอกจากนี้ หน่วยงานพันธมิตรที่ร่วมวจิ ัยพัฒนา Germ Saber UVC Sterilizer ได้แก่ สถาบันวิจัยเทคโนโลยชี วี ภาพและวศิ วกรรมพันธ-ุ ศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย ยังไดพ้ ัฒนารปู แบบเคร่อื งมือ/อปุ กรณ์ ฆา่ เชือ้ โรคให้เหมาะสมตอ่ การใช้งานด้านต่างๆ เพ่ิมเติม ให้สามารถใช้งาน ในพื้นทีแ่ บบเปดิ ได้ รวมทั้งการฆ่าเช้ือโรคในรถยนตส์ าธารณะ ติดตอ่ : ดร.ศิวรกั ษ์ ศวิ โมกษธรรม ศนู ยเ์ ทคโนโลยีเพ่ือความมั่นคงของประเทศและการประยกุ ตเ์ ชิงพาณชิ ย์ เบอรโ์ ทรศัพท์: 02 564 6900 ต่อ 2521 E-mail: [email protected] 12

นวตั กรรมรบั มอื COVID-19 สํานกั งานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแหง่ ชาติ (สวทช.) MagikTuch ลิฟต์ไร้สัมผสั ขจัดโควิด-19 “นวตั กรรมเพ่ื อคนร่นุ ใหม่ ใสใ่ จสขุ ภาพ ห่างไกลเชอ้ื โรค” ปจั จุบันมีโรคระบาดเกิดขึ้นจาํ นวนมาก และหลายโรคสามารถ ติดต่อกันผ่านพ้ื นท่ที ี่มีคนใชง้ านโดยการสัมผัสร่วมกนั เชน่ ทจ่ี ับประตู และปุ่มกดลฟิ ต์โดยสาร ดังนั้นการลดการสัมผัส ทบี่ รเิ วณจดุ เสย่ี งจงึ สามารถชว่ ยลดโอกาสทจ่ี ะไดร้ บั เชอ้ื โรค และลดการแพรก่ ระจายของโรคตดิ ต่อเหล่านไ้ี ด้ สาํ นักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแหง่ ชาติ โดยศูนย์ 1 เทคโนโลยีเพ่ื อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพาณิชย์ (NSD) ไดพ้ ัฒนานวัตกรรม ‘MagikTuch’ ลฟิ ต์ไรส้ มั ผสั เพ่ือชว่ ยลด MagikTuch การเปน็ แหลง่ สะสมของเชื้อโรค การส่ังการแบบไร้สมั ผัสด้วยระบบเซนเซอร์ ความโดดเด่น 3 ประการของ MagikTuch คือ ติดตอ่ : Touchless • ส่งั การดว้ ยระบบเซนเซอร์ เพียงใช้หลงั มอื บังหนา้ ปมุ่ เลข ดร.ศวิ รักษ์ ศิวโมกษธรรม ศูนย์เทคโนโลยีเพ่ือความม่ันคงของประเทศและการประยกุ ต์เชิงพาณิชย์ ชน้ั ทต่ี ้องการในระยะหา่ ง 2-3 เซนติเมตร เซนเซอรจ์ ะตรวจจับ เบอร์โทรศพั ท์: 02 564 6900 ต่อ 2521 ข้อมูลช้นั ทีต่ อ้ งการเลือกและสัง่ การลิฟต์ใหโ้ ดยอัตโนมัติ E-mail: [email protected] • ระบบมีการออกแบบให้สามารถป้องกันความผิดพลาดใน การส่งั การ โดยเซนเซอร์จะตรวจจับเมอ่ื วางมอื ไวท้ ต่ี ําแหนง่ ปมุ่ เลขชัน้ ปมุ่ เดียวเทา่ นัน้ จึงมั่นใจไดว้ ่าระบบจะสง่ั การได้ อยา่ งแมน่ ยํา ลดการสิ้นเปลอื งพลังงานจากการส่งั การท่ี ผิดพลาด Safe from Infection • ดว้ ยระบบทอ่ี อกแบบใหไ้ มต่ อ้ งมกี ารสมั ผสั ปมุ่ กดลฟิ ต์ จงึ ชว่ ยเพ่ิมความเชอ่ื มนั่ ดา้ นความปลอดภยั ในการใชง้ าน ลด การแพรก่ ระจายและสะสมเชื้อโรคภายในลิฟต์ Easy Installation • ชดุ อุปกรณ์ MagikTuch เปน็ อปุ กรณ์สาํ หรบั ดดั แปลง ปมุ่ กดลิฟตใ์ ห้เปน็ ระบบไรส้ ัมผัส ซง่ึ สามารถติดตั้งเข้าไป บนลฟิ ตต์ วั เดมิ โดยไมต่ อ้ งเจาะตวั ลฟิ ต์จงึ ไมส่ ง่ ผลกระทบ ต่อสถานะของระบบประกันจากบริษัทผู้ติดตั้งและผู้ดูแล ลิฟต์ • สามารถออกแบบให้รองรับจํานวนชั้นที่แตกต่างกันตาม สถานทท่ี ีต่ ิดตงั้ • รองรบั การทํางานด้วยระบบไฟฟา้ ท้งั AC และ DC 13

นวตั กรรมรบั มอื COVID-19 สํานกั งานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) GSteerrmilizZeerrO3 ตู้อบโอโซน เพ่ื อฆ่าเช้อื โรค ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรคโควดิ -19 การดแู ล รักษาความสะอาดของสถานที่และส่งิ ของเครอ่ื งใช้ตา่ งๆ ให้ ปราศจากเช้อื โรค คือสง่ิ สาํ คญั ที่จะช่วยลดการแพรก่ ระจาย ของเชอื้ โรคได้ซงึ่ การฆา่ เชอื้ โรคดว้ ยโอโซน(O3)เปน็ วธิ ี หนงึ่ ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพและนยิ มใช้กันมานาน โดยเฉพาะในยาม ท่ี ขาดแคลนแอลกอฮอล์หรอื น้าํ ยาฆ่าเชื้อโรค ศูนย์เทคโนโลยีเพื่ อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิง พาณชิ ย์ สํานกั งานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ ร่วมกับ สถาบันวิจยั เทคโนโลยีชวี ภาพและวศิ วกรรมพันธุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั ไดพ้ ัฒนาเคร่อื ง Germ ZerO3 Sterilizer หรอื ต้อู บโอโซน เพื่อฆ่าเชื้อโรค เพื่อใชใ้ นการกําจัดเชือ้ โรคบนอุปกรณท์ ใ่ี ช้ในชีวติ ประจาํ วนั เช่น โทรศพั ท์ ธนบัตร กระเปา๋ สตางค์ เพ่ือลดการสมั ผัสเช้อื โรคทอี่ าจกอ่ ให้ เกดิ โรค โดยนําส่งิ ของท่ตี ้องการฆ่าเช้อื โรคใสเ่ ขา้ ไปในเคร่อื ง Germ ZerO3 Sterilizerและเปดิ เครอ่ื งเพื่อเรมิ่ ทํางานเครอ่ื งจะจา่ ยไฟฟา้ แรงสงู เพ่ือผลติ โอโซนในปริมาณความเข้มขน้ 25-50 ppm เปน็ เวลา 30 นาที ซึง่ จะแสดง สถานะทํางานเปน็ ไฟสแี ดง เม่อื สิน้ สดุ กระบวนการกาํ จัดเชอ้ื โรคแล้ว จะเข้า สูก่ ระบวนการสลายโอโซน เพื่อใหป้ ริมาณโอโซนลดความเข้มข้นให้อยใู่ น ระดับที่ปลอดภัยกับมนุษย์ และจะแสดงสถานะเปน็ ไฟสเี ขยี ว เพ่ือแสดงว่า ปลอดภยั และสามารถเปดิ บานประตูเพื่อนาํ ส่งิ ของในตอู้ อกมาได้ ซึ่งจาก การทดสอบการกาํ จัดเช้ือโรคของเคร่อื ง Germ ZerO3 Sterilizer พบวา่ สามารถกาํ จดั เชอื้ โรคบนอุปกรณ์ที่นํามาใชท้ ดสอบได้เปน็ อยา่ งดี การฆ่าเชอื้ ธนบัตรด้วยโอโซนโดยเครือ่ ง Germ ZerO3 ตดิ ต่อ: ดร.ศวิ รักษ์ ศิวโมกษธรรม ศนู ย์เทคโนโลยเี พ่ือความม่ันคงของประเทศและการประยกุ ตเ์ ชงิ พาณชิ ย์ เบอร์โทรศพั ท:์ 02 564 6900 ต่อ 2521 E-mail: [email protected] 14

นวตั กรรมรบั มือ COVID-19 สาํ นักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ (สวทช.) MuTherm- FaceSense เคร่ืองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเป็นอุปกรณ์หนึ่งท่ีมีความจําเป็นในปัจจุบัน ติดต่อ: เนอื่ งจากการแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ -19 ซง่ึ อณุ หภมู ริ า่ งกายทส่ี งู กวา่ ปกตนิ นั้ เปน็ หนงึ่ ใน อาการบ่งช้ีสําคัญของผู้ท่ีมีความเส่ียงต่อการติดเช้ือไวรัสสาเหตุของโรคโควิด-19 ดร.ศรณั ย์ สัมฤทธิเ์ ดชขจร ดังนั้นการตรวจวัดอุณหภูมิจึงเปรียบเสมือนด่านแรกในการคัดกรองบุคคลก่อนเข้า ศูนย์เทคโนโลยอี ิเล็กทรอนกิ ส์และคอมพิวเตอรแ์ ห่งชาติ สถานทตี่ า่ งๆ ปจั จบุ นั เครอ่ื งตรวจวดั อณุ หภมู ริ า่ งกายมดี ว้ ยกนั หลายรปู แบบ ทง้ั เครอื่ ง อนิ ฟราเรดเทอรโ์ มมเิ ตอรแ์ บบยงิ หนา้ ผากทหี่ ลายสถานทนี่ ยิ มใชก้ นั แตก่ ม็ ขี อ้ จาํ กดั ทสี่ ามารถ เบอรโ์ ทรศัพท:์ 02 564 6900 ตอ่ 2306 ตรวจวดั ไดท้ ลี ะคน และกลอ้ งถา่ ยภาพความรอ้ น (Thermal imaging camera) ทใ่ี ช้ ในทา่ อากาศยาน และหา้ งสรรพสนิ คา้ ตา่ งๆ ซงึ่ สามารถวดั ไดห้ ลายคนพรอ้ มกนั แตก่ ม็ รี าคาสงู E-mail: [email protected] ด้วยเหตุน้ี ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิ วเตอร์แห่งชาติ สํานักงานพั ฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จึงได้พั ฒนาต่อยอด MuTherm-FaceSense หรือกล้องตรวจวัดไข้หลายคนพร้อมกันโดยไม่สัมผัส ซึ่งเป็นการผนวกเทคโนโลยีระบบคัดกรองอุณหภูมิบุคคลโดยไม่สัมผัสที่สามารถจับ ตาํ แหนง่ ของบคุ คลแบบอตั โนมตั ิ (Automatic human detection) เพ่ือตรวจจบั ใบหนา้ และอณุ หภมู สิ งู สดุ บนใบหนา้ ทาํ ใหส้ ามารถระบอุ ณุ หภมู ขิ องแตล่ ะบคุ คลไดอ้ ยา่ งแมน่ ยาํ และตรวจวัดได้หลายคนในเวลาเดียวกัน โดยรู้ผลได้ภายใน 0.1 วินาที จากระยะห่าง 0.5-1.5 เมตร ซึ่งตัวเลขอุณหภูมิจะแสดงขึ้นบนจอ หากบุคคลใดมีอุณหภูมิเกินค่า ทก่ี าํ หนดตวั เลขจะเปลย่ี นสจี ากสเี ขยี วเปน็ สแี ดง และสง่ เสยี งเตอื น สาํ หรบั การตดิ ตง้ั นน้ั มีข้ันตอนที่ไมย่ ุ่งยาก เพียงนาํ เครื่องไปต่อกับจอแสดงผลผ่านทาง HDMI นอกจากน้ี MuTherm-FaceSense ยงั มรี ะบบบนั ทกึ ขอ้ มลู วเิ คราะหแ์ ละประมวลผลภายในตวั เครอื่ ง อกี ท้งั ยงั เชื่อมตอ่ และสง่ ข้อมูลผา่ นระบบอนิ เทอรเ์ นต็ ทัง้ LAN เครอื ข่าย 3G/4G และ Wi-Fi ในอนาคตจะมีการพัฒนา MuTherm-FaceSense ให้สามารถบันทึกอุณหภูมิ และใบหนา้ แลว้ จดั เกบ็ ไวใ้ นเซริ ฟ์ เวอรข์ องเจา้ ของสถานทน่ี น้ั ๆ เพื่อประโยชนใ์ นการตดิ ตาม ป้องกันการแพร่ระบาด และใช้เป็นฐานข้อมูลอ้างอิง เพื่อเฝ้าระวังและนําไปศึกษาวิจัย ด้านระบาดวิทยาตอ่ ไป ทั้งน้ี MuTherm-FaceSense ได้รับการสนับสนุนในการต่อยอดงานวิจัย จากกองทนุ วจิ ยั และพัฒนากจิ การกระจายเสยี ง กจิ การโทรทศั น์ และกจิ การโทรคมนาคม เพ่ื อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ซ่ึงปัจจุบันได้ถูกนําไปใช้ทดสอบการคัดกรอง เบ้ืองต้นกับผู้มาติดต่อ ณ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติแล้ว อีกท้ังยังอยู่ในข้ันตอนการทดสอบเพิ่ มเติมตามเกณฑ์การทดสอบข้ันพื้ นฐาน ทั้งจากศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และสถาบันไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ก่อนนําไปใช้จริงกับหน่วยงานต่างๆ เช่น เรือนจํา โรงพยาบาล หน่วยบริการโลหิต และสํานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกจิ การโทรคมนาคมแหง่ ชาติ อกี ทัง้ ยงั มผี ปู้ ระกอบการภาคเอกชนสนใจเขา้ มาลงทนุ เพ่ือตอ่ ยอดงานวจิ ยั ดงั กลา่ ว 15

นวตั กรรมรับมือ COVID-19 สํานักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) การสกัด RNA โดยไม่ใช้ Commercial Kit การตรวจผู้ป่วยโรคโควิด-19 ด้วยเทคนิค Real-time RT-PCR เป็นการตรวจ มาตรฐานสูงสุด (Gold standard test) หรือการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ท่ีดีท่ีสุดภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม แต่ในการสกัดสารพั นธุกรรม หรืออาร์เอ็นเอ ( R i bo n u c l e i c ac i d , R N A ) ข อ ง ไ ว รั ส SA R S - CoV - 2 มี ข้ อ จํ า กั ด คื อ ต้องใช้เคร่ืองสกัดสารพั นธุกรรมอัตโนมัติ (Automated) และใช้น้ํายาสกัด สารพันธุกรรมที่ต้องนําเข้าจากต่างประเทศ ซ่ึงมีราคาตั้งแต่ 120-300 บาท การวิจัยและพัฒนาวิธีการสกัดอาร์เอ็นเอท่ีไม่จําเป็นต้องใช้เคร่ืองสกัดสารพันธุกรรมอัตโนมัติและน้ํายาสกัดจากต่างประเทศ นอกจากจะช่วยลดต้นทุน ในการตรวจตัวอย่างแลว้ ยงั ไมต่ ้องกงั วลเก่ยี วกับการขาดแคลนน้าํ ยาสกัดทตี่ ้องส่งั ซือ้ จากตา่ งประเทศอีกดว้ ย ทีมวิจัยจากศูนย์โอมิกส์แห่งชาติ หรือ National Omics Center (NOC) หน่วยงานภายใต้ศูนย์พั นธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สาํ นกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ ดาํ เนนิ การวจิ ยั และพัฒนาการสกดั อารเ์ อน็ เอดว้ ย Magnetic bead ทผ่ี ลติ ในไทย ซง่ึ มตี น้ ทนุ การสกดั ประมาณ 50 บาท/ตัวอย่าง โดยได้มอบนํ้ายาที่พั ฒนาขึ้น 20 ชุดให้คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นําไปทดสอบเปรียบเทียบในเบื้องต้น พบว่าได้ผลดแี ละมคี ณุ สมบัติใกลเ้ คียงกับชดุ นํ้ายาสกัดอารเ์ อ็นเอทีซ่ ้ือจากตา่ งประเทศ ปัจจุบันศูนย์ฯ ได้ดําเนินการขอรับทุนสนับสนุนการวิจัย โดยมีเป้าหมาย ตดิ ต่อ: พั ฒนาวิธีการสกัดอาร์เอ็นเอโดยใช้สารเคมีในประเทศเปรียบเทียบกับชุดสกัดนําเข้า ดร.สิทธิโชค ตงั้ ภัสสรเรือง และผลิตชุดสกัดที่พัฒนาขึ้น 100,000 ชุด ให้เครือข่ายโรงพยาบาลต่างๆ นําไปใช้ ศูนยโ์ อมิกส์แหง่ ชาติ คาดวา่ ภายในเดอื นพฤษภาคม 2563 จะพัฒนากระบวนการสกดั และผลติ ได้ 200 ชดุ ศูนย์พันธวุ ศิ วกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแหง่ ชาติ เพื่อใหค้ ณะเวชศาสตรฯ์ ทดสอบเพิ่มเตมิ พรอ้ มจดั เตรยี มคมู่ อื (Procedure) ในการผลติ และใช้น้ํายากับเคร่ือง RT-PCR ตลอดจนเตรียมหารือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เบอรโ์ ทรศพั ท์: 02 564 6700 ต่อ 3537, 3531 และพันธมิตรเพ่ือการขยายผลภายในเดอื นกรกฎาคม 2563 น้ี E-mail: [email protected] 16

นวัตกรรมรบั มือ COVID-19 สํานักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ชุดตรวจหาเช้ือไวรัส SARS-CoV-2 ดว้ ยเทคนิคแลมป์ (LAMP) เทคนคิ แลมป์ หรือ Loop-mediated isothermal amplification (LAMP) ชุดตรวจ LAMP COVID-19 คอื เทคนคิ ทส่ี ามารถเพ่ิมปรมิ าณสารพันธุกรรมทั้ง DNA และ RNA ทอ่ี ณุ หภูมใิ นชว่ ง 60-65 องศาเซลเซยี ส ไดถ้ ึง 1,000 ล้าน (10 ยกกําลัง 9) เท่า ภายในเวลา 1 ชว่ั โมง ใช้ประโยชน์ในการตรวจหาสารพันธุกรรมของตัวเช้ือเช่นเดียวกับเทคนิค PCR และ Real time PCR แต่มีจดุ เดน่ คือ มคี วามไวในการตรวจวดั (Sensitivity) สูงกว่า PCR และอาจเทียบเท่า Real time PCR มีความจําเพาะ (Specificity) กับตัวเช้ือสูง มขี น้ั ตอนการตรวจไม่ยุ่งยาก ใชง้ านง่าย และใช้เคร่ืองมอื ราคาไม่แพง ทีมวิจัยเทคโนโลยีวิศวกรรมชีวภาพและการตรวจวัด ภายใต้ศูนย์พั นธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สํานักงานพั ฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ พั ฒนาชุดตรวจหาเช้ือไวรัส SARS-CoV-2 ที่เป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 โดยใช้เทคนิคแลมป์เปล่ียนสีแบบง่ายในข้ันตอนเดียว (Colorimetric LAMP-XO) ให้ผลการทดสอบภายใน 1 ช่ัวโมง สามารถอ่านผลได้ด้วยตาเปล่าโดยไม่ต้องใช้ผู้เช่ียวชาญ โดยถ้าสีของสารละลาย เปล่ยี นจากสมี ว่ งเปน็ สีเหลืองแสดงว่ามีการติดเชือ้ ไวรัส SARS-CoV-2 แตถ่ า้ สีของสารละลายยังคงเปน็ สีม่วงแสดงว่าไมม่ ีการตดิ เช้อื ปั จ จุ บั น ที ม วิ จั ย ร่ ว ม กั บ ค ณ ะ เ ว ช ศ า ส ต ร์ เ ข ต ร้ อ น การอา่ นผลด้วยตาเปล่า หากสขี องสารละลายเปลีย่ นจากสมี ่วงเป็นสีเหลือง มหาวิทยาลัยมหิดล พั ฒนาต้นแบบชุดตรวจ LAMP COVID-19 แสดงวา่ มีการตดิ เชือ้ ไวรัส SARS-COV-2 แต่หากสยี งั คงเป็นสีม่วง ระดับห้องปฏิบัติการ โดยอยู่ในขั้นตอนของการทดสอบไพรเมอร์ แสดงว่าไมม่ ีการติดเชอื้ (Primer) ที่ออกแบบไว้กับตัวอย่างจากผู้ป่วยในจํานวนที่มากขึ้น รวมท้ังกําลังเตรียมพั ฒนาข้อเสนอโครงการวิจัยเพ่ื อทดสอบ ความแม่นยํา (Accuracy), ความไว (Sensitivity), ความจําเพาะ (Specificity) และ Cross Reaction ของผลิตภัณฑ์ LAMP COVID-19 เพ่ื อขยายผลไปสู่การผลิตในระดับอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะพร้อมหารือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และ สาํ นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในเดอื นมถิ นุ ายน 2563 ทีมวจิ ยั เทคโนโลยีวศิ วกรรมชีวภาพและการตรวจวัด ตดิ ตอ่ : ไบโอเทค สวทช. วรรณสกิ า เกียรติปฐมชยั ทมี วจิ ัยเทคโนโลยีวิศวกรรมชีวภาพและการตรวจวัด ศนู ย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยชี วี ภาพแห่งชาติ E-mail: [email protected] 17

นวตั กรรมรับมอื COVID-19 สํานกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) ชดุ ตรวจเชอื้ ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 แบบรวดเรว็ ดว้ ยเทคนิค LFA โดยท่ัวไปชุดตรวจเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 แบบรวดเร็วอาศัยหลักการการจับ แบบจําเพาะของโมเลกุลชีวภาพท่ีจับได้ดีและจําเพาะกับโปรตีนเป้าหมายของเช้ือไวรัส ก่อโรคโควิด-19 สําหรับชุดตรวจนี้อาศัยหลักการการตรวจหาโมเลกุลเป้าหมาย อยา่ งจาํ เพาะและรวดเรว็ ดว้ ยเทคนคิ อมิ มโู นโครมาโตกราฟชี นดิ ไหลในแนวราบ (Lateral flow immunochromatographic assay: LFA) ซงึ่ สามารถใชต้ รวจหาแอนตเิ จนของ เชอ้ื ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 ได้ จงึ นาํ มาใชต้ รวจคดั กรองการตดิ เชอ้ื ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 โดยในข้ันตอนการตรวจนั้นจะต้องมีการติดฉลากโมเลกุลชีวภาพท่ีจําเพาะ กบั โปรตนี ของไวรสั ดว้ ยวสั ดเุ ลก็ พิเศษระดบั นาโน ซง่ึ สามารถใหส้ ญั ญาณตอบสนองได้ หากตรวจพบโปรตีนของไวรัส ท้ังน้ีอาศัยการปรับสภาพและคัดเลือกองค์ประกอบ ท่ีเหมาะสมของชดุ ตรวจ ในการทาํ ใหช้ ดุ ตรวจสามารถใหส้ ัญญาณหรือขยายสญั ญาณ ไดใ้ นเวลาอันรวดเรว็ (5-10 นาท)ี ปัจจุบันได้นําท้ังต้นแบบชุดตรวจนิวคลิโอแคปสิด (Nucleocapsid) ที่เป็นโปรตีนที่ห่อหุ้มสารพั นธุกรรมของไวรัส และต้นเเบบชุดตรวจสไปก์ (Spike) ซึ่งเป็นโปรตีนบริเวณเปลือกหุ้มไวรัส ไปทดสอบกับตัวอย่างจริงที่โรงพยาบาล เวชศาสตรเ์ ขตรอ้ น และกาํ ลงั นาํ ผลการทดสอบมาปรบั สภาวะเพ่ิมเตมิ เพ่ือเพิ่มสญั ญาณ ให้ดขี ึ้นต่อไป นอกจากน้ี ยังอยู่ระหว่างการสร้างยีนที่ใช้สร้างโปรตีนนิวคลีโอแคปซิด และโปรตนี สไปก์ (Spike) ซง่ึ เปน็ สว่ นท่ยี ื่นออกมาจากผิวของไวรัส และใชจ้ บั กบั ตัวรบั ของเซลล์ โดยมีการดัดแปลงโคดอน (Codon) หรือชุดรหัสพันธุกรรมให้เข้ากันได้ กับ แบคทีเรียที่จะใช้ผลิตโปรตีนทั้งสองชนิดนี้ (ซ่ึงเป็นขั้นตอนที่จําเป็น) โดยมี พั นธมิตรที่สําคัญคือ ศูนย์พั นธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาล เวชศาสตร์เขตรอ้ น ตดิ ตอ่ : ดร.เดือนเพ็ญ จาปรุง และ ดร.ณฐั ปภัสร วิรยิ ะชัยพร กลมุ่ วจิ ัยวสั ดตุ อบสนองและเซ็นเซอรร์ ะดับนาโน ศูนย์นาโนเทคโนโลยแี ห่งชาติ เบอรโ์ ทรศัพท:์ 02 564 7100 ต่อ 6665, 76106 E-mail: [email protected], [email protected] 18

นวัตกรรมรบั มอื COVID-19 สํานกั งานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) การคดั แยกผปู้ ว่ ย ดว้ ยลายพิ มพ์ เปปไทด์ (Peptide barcode) การวิเคราะห์ลายพิ มพ์ เปปไทด์ (Peptide barcode) ด้วยเคร่ืองวัดมวล MALDI-TOF (Matrix-Assisted Laser Desorption/Ionization-Time of flight) ใชจ้ าํ แนกเชอ้ื จลุ นิ ทรยี ์ เชน่ แบคทเี รยี ยสี ต์ และรา อาศยั การยงิ แสงเลเซอรไ์ ปยงั ตวั อยา่ ง ท่ีต้องการตรวจสอบจนเปปไทด์เกิดการแตกตัวเป็นไอออน (อนุภาคที่มีประจุ) ก่อนเดินทางไปยังตัวจับสัญญาณ (Detector) ได้ผลการตรวจสอบเป็นกลุ่มมวล เปปไทด์เรียงลําดับจากมวลขนาดเล็กไปหามวลขนาดใหญ่ ซ่ึงจุลินทรีย์จะมี ลายพิ มพ์ เปปไทด์ท่ีจําเพาะเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละสายพั นธ์ุ นอกจากน้ียังพบว่า ลายพิมพ์มวลเปปไทดย์ ังสามารถใช้แยกสายพันธไ์ุ วรัสได้อกี ดว้ ย ศนู ยพ์ ันธวุ ศิ วกรรมและเทคโนโลยชี วี ภาพแหง่ ชาติ สาํ นกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ รว่ มกบั คณะเวชศาสตรเ์ ขตรอ้ น มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล พัฒนาวธิ ีการคดั แยกผปู้ ่วยโควิด-19 ด้วยลายพิมพ์เปปไทด์ โดยใชเ้ คร่อื ง MALDI-TOF ซึง่ มจี ุดเดน่ คอื ไม่จําเปน็ ตอ้ งสกดั RNA ท่เี ป็นสารพันธกุ รรมของไวรัส เพี ยงสกัดเปปไทด์จากส่ิงส่งตรวจไม้ป้ายจมูกและ/หรือลําคอ มาผสมกับสารละลาย Matrix แล้วนําเข้าเคร่ือง MALDI-TOF เพ่ื อวิเคราะห์ผล จากการวิจัยพบว่าผลการจําแนกด้วยลายพิ มพ์ เปปไทด์สอดคล้องกับวิธีมาตรฐาน Real-time RT-PCR สามารถใช้แยกผู้ป่วยท่ีตรวจพบเช้ือไวรัส ออกจากผ้ไู ม่ตดิ เชื้อไดถ้ ูกต้อง โดยใชป้ ริมาณตวั อยา่ งเพียง 10 ไมโครลติ ร มขี ัน้ ตอนที่ไม่ยงุ่ ยาก ทราบผลเร็วเพียง 45 นาทตี อ่ ตวั อยา่ ง เหมาะกบั หน่วยงานท่ีมี เครื่อง MALDI-TOF อยู่แล้ว โดยมีต้นทุนการทดสอบเพี ยง 50-60 บาทต่อตัวอย่าง ให้ผลการวิเคราะห์ท่ีเที่ยงตรง ปัจจุบันมีเคร่ือง MALDI-TOF ทวั่ ประเทศรวมกนั มากกวา่ 50 เครอ่ื ง แตล่ ะเครอ่ื งทดสอบไดป้ ระมาณ 1,500 ตวั อยา่ งตอ่ วนั วธิ กี ารนจ้ี ะชว่ ยใหค้ ดั แยกผปู้ ว่ ยโควดิ -19 ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และทว่ั ถงึ มากขน้ึ จากผลการทดสอบเบื้องต้น (Preliminary Test) พบว่า สามารถใช้ ตดิ ตอ่ : ลายพิ มพ์ เปปไทด์จําแนกผู้ป่วยโควิด-19 ออกจากผู้มีสุขภาพดีได้ ท้ังจาก ดร.สิทธิรกั ษ์ รอยตระกลู การใช้ไม้ป้ายจมูก ลําคอ และจากซีรั่ม (ส่วนที่เป็นสารละลายของเลือด) กลุ่มวิจัยสว่ นผสมฟงั ก์ชัน่ และนวัตกรรมอาหาร ขณะน้ีอยู่ระหว่างการทดสอบตัวอย่างเพ่ิ มเติม พร้อมขยายผลการทดสอบ ศนู ยพ์ ันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยชี วี ภาพแหง่ ชาติ ความถูกตอ้ งของวธิ ีวิเคราะห์ (Validation) และปรับกระบวนการตรวจวดั ใหแ้ มน่ ยําขน้ึ เบอร์โทรศัพท:์ 02 564 6700 ต่อ 3231 โดยคาดวา่ จะสามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีการทดสอบนไ้ี ดภ้ ายในเดอื นมิถุนายน 2563 E-mail: [email protected] 19

นวตั กรรมรับมอื COVID-19 สาํ นกั งานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) วคั ซนี ปอ้ งกนั โรคโควดิ -19 นกั วทิ ยาศาสตรท์ วั่ โลกศกึ ษาคน้ ควา้ โดยการถอดลาํ ดบั จโี นม ไบโอเทค สวทช. เดนิ หน้าวิจัย พบว่า ไวรัสโคโรนา หรือ SAR-CoV-2 ที่ทําให้เกิดโรคโควิด-19 สามารถตดิ ตอ่ จากคนสคู่ นอยา่ งรวดเรว็ เพราะไวรสั นม้ี โี ปรตนี สไปก์ ‘ต้นแบบวัคซนี OVID-19’ (ส่วนที่ย่ืนออกมาจากอนุภาคคล้ายหนาม) อยู่บนผิว ซึ่งทําให้ ไวรสั สามารถจบั กบั ตวั รบั ทชี่ อ่ื ACE2 Receptor ในเซลลข์ องมนษุ ย์ ได้มาก ทําให้เช้ือไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้ดีและแพร่จากคนสู่คนได้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ นอกจากนย้ี งั พบการกลายพันธขุ์ องตวั ไวรสั ในตาํ แหนง่ โปรตนี สไปกซ์ ง่ึ เปน็ สว่ นทจ่ี ะตอ้ งถกู เอนไซมต์ ดั กอ่ นเขา้ สเู่ ซลลม์ นษุ ย์ โดยไวรสั ตวั นม้ี กี ารกลายพันธ์ุ คือมีกรดอะมิโนเพ่ิ มเข้ามาอีก 5 ตัว ทําให้โปรตีนสไปก์ของ SAR-CoV-2 ถูกตัดด้วยเอนไซม์ในร่างกายมนุษย์ได้ง่ายข้ึน จึงทําให้ไวรัสสามารถ กระจายไปในอวัยวะส่วนต่างๆ ของมนุษย์ เช่น ปอด ไต ทางเดินอาหาร สมอง ท้ังนี้ส่วนท่ีเป็นโปรตีนสไปก์ของไวรัสน้ันไม่ได้ทําให้ร่างกายป่วยไข้ ดังน้ัน นักวิจัยจึงมุ่งเป้าการหายารักษา และวัคซีนป้องกันไปที่ ACE2 Antibody โดยใช้โปรตีนสไปก์จับ ACE2 Receptor เพื่ อเข้าสู่เซลล์มนุษย์ แล้วกระตุ้น ใหร้ า่ งกายสรา้ งระบบภูมิคมุ้ กนั ซ่งึ เป็นงานวจิ ัยท่กี าํ ลงั ดาํ เนนิ การอยใู่ นหลายแห่งท่วั โลก ศูนย์พั นธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และศูนย์นาโน เทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ได้ทําวิจัยค้นคว้าหา ‘วคั ซนี ป้องกันโรค โควิด-19’ โดยนําพันธวุ ิศวกรรม หรือการตัดต่อ พันธกุ รรมมาใช้ในการพัฒนาวคั ซีน 5 ประเภท ดงั นี้ 1. วัคซีนรีคอมบิแนนต์ซับยูนิต (Recombinant subunit vaccines) เปน็ การตดั สว่ นทเี่ ปน็ โปรตนี สไปกข์ องยนี SAR-CoV-2 ออกเปน็ ชนิ้ ยอ่ ย แลว้ นาํ เขา้ สเู่ ซลล์ เพ่ือให้ร่างกายสรา้ งภมู ติ ้านทาน 2. วคั ซนี โควดิ -19 ทฝ่ี ากไว้กับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza A virus-based vaccines) เปน็ การนาํ โปรตีนสไปกข์ องยนี SAR-CoV-2 ไปฝากไว้กบั วคั ซีนไขห้ วัดใหญ่ เพ่ือสร้างภูมคิ ุ้มกันโรคโควดิ -19 ไปพรอ้ มกบั ไข้หวัดใหญ่ 3. วัคซีน DNA หรือ RNA (Nucleic acid-based vaccines) โดยการ ส่งข้อมูลของยีน SAR-CoV-2 ผ่าน mRNA เพ่ือไปใช้สร้างโปรตีนสไปก์ โดยทําเป็น ลพิ ิดอนุภาคนาโนนําส่งเข้าสู่เซลล์ เพ่ือกระตนุ้ ให้ร่างกายสร้างภูมิคมุ้ กัน 4. วคั ซีนทเ่ี ป็นอนุภาคเสมือนไวรัส (Virus-like particles) เปน็ การสรา้ งโปรตีน เลียนแบบไวรัสแต่ไม่มีสารพั นธุกรรมท่ีทําให้เกิดโรคโควิด-19 เพ่ือกระตุ้นให้ร่างกาย สร้างภมู คิ ุ้มกนั 5. วัคซีนไวรัลรีคอมบิแนนต์ (Recombinant viral vector vaccines) เป็นการเอายีนท่ีถูกตัดต่อของไวรัส SAR-CoV-2 ไปใส่ในไวรัสตัวอ่ืนท่ีไม่เป็นอันตราย เพ่ื อให้สร้างโปรตีนสไปก์แล้วฉีดเข้าสู่ร่างกาย เพื่ อหลอกร่างกายว่าติดเชื้อและ สรา้ งภมู ติ ้านทานเป็นภมู คิ ุม้ กัน Animal Testing Facility 20

นวตั กรรมรบั มอื COVID-19 สํานักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ (สวทช.) GMP Cleanroom Vaccine efficacy assessment Facility BSL2+ Facility ปจั จบุ ัน สวทช. อยรู่ ะหว่างการนําตน้ แบบวคั ซนี 3 ประเภท ได้แก่ วคั ซนี รีคอมบแิ นนต์ซับยูนติ วัคซีนโควิด-19 ที่ฝากไว้กับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีน DNA ไปทดสอบภูมิคุ้มกันในหนู ซ่ึงจะได้ผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันของวัคซีน 2 ประเภทแรกในเดือนพฤษภาคม 2563 หากผลการทดสอบ ภูมิคุ้มกันในหนูประสบความสําเร็จ สวทช. จะต้องหาทุนสนับสนุนเพ่ิ มเติมและหาพั นธมิตร เพื่อศึกษาการนําเช้อื เข้าสู่มนุษย์ การทดสอบความปลอดภัย และการทดลองในมนุษยต์ ามลาํ ดับ นาโนเทคโดยทีมวิจัยเวชศาสตร์นาโน พัฒนาระบบนําส่ง นาโนสําหรับการนําส่งวัคซีน Nucleic acid (DNA/mRNA) ซึ่งจะช่วยป้องกันการย่อยสลาย DNA/mRNA จากเอนไซม์ ในเซลล์ทําให้วัคซีนทํางานได้มีประสิทธิภาพมากข้ึน โดยใช้การ ออกแบบอนภุ าคในรปู แบบ Lipopolyplex, Lipid nanoparticle (LNP) และ Polymer-lipid nanoparticle (PLN) เพ่ือทดสอบ การนําส่งในเซลล์เพาะเลี้ยง และนํามาคัดเลือกระบบที่สามารถ ให้ค่าการแสดงออกของ DNA/mRNA ดีท่ีสุดและไม่เป็นพิ ษ ต่อเซลล์ โดยผลท่ีได้จะถูกนําไปทดสอบในสัตว์ทดลองร่วมกับ ไบโอเทคและจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัยในลําดับต่อไป ตดิ ต่อ: ดร.อนนั ต์ จงแกว้ วัฒนา กลุ่มวิจยั นวัตกรรมสุขภาพสตั ว์และการจัดการ ศูนยพ์ ันธวุ ศิ วกรรมและเทคโนโลยชี วี ภาพแหง่ ชาติ เบอรโ์ ทรศัพท:์ 02 564 6700 ต่อ 3360 E-mail: [email protected] 2171

นวัตกรรมรับมือ COVID-19 สาํ นกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ (สวทช.) ภาพอนิ โฟกราฟกิ : ไบโอเทค สวทช. เดินหนา้ วิจยั ‘ตน้ แบบวคั ซีน OVID-19’ ทีมวิจัยไวรสั วิทยาและเซลล์เทคโนโลยี กลุม่ วิจยั นวัตกรรม วคั ซีนจากอนุภาคไวรัสเสมอื น วัคซนี จากดเี อ็นเอหรอื อาร์เอ็นเอ สุขภาพสัตว์และการจัดการ ไบโอเทค สวทช. วจิ ยั สังเคราะห์ DNA or RNA vaccines Virus-like particle vaccines (VLPs) ยนี ท่กี าํ หนดการสรา้ งโปรตีนสไปก์ (Spike) ใช้ยีนทสี่ ังเคราะหข์ ้ึนโคลนเขา้ สู่พลาสมิดดีเอน็ เอ เพื่ อใชพ้ ั ฒนา “5 วัคซีนต้นแบบ” โครงสรา้ งคล้ายคลึงกบั อนภุ าคไวรัส SARS-CoV-2 เพ่ือใชเ้ ป็นวัคซีน หรอื สร้ างอารเ์ อน็ เอจากพลาสมดิ แต่ไม่มีสารพันธกุ รรมอยภู่ ายใน ปลอดภัยตอ่ การใช้ เปน็ วคั ซีน โดยดีเอ็นเอหรอื อาร์เอ็นเอจะสรา้ งแอนติเจน วัคซีนจากอนภุ าค ท่กี ระตุ้นการสรา้ งภูมิคมุ้ กนั ตอ่ ไวรัสก่อโรค COVID-19 ไวรสั เสมอื น เพราะเพ่ิ มจํานวนในเซลล์ไม่ได้ วคั ซีนจากดีเอน็ เอ ยนี ที่ พลาสมิด หรอื อารเ์ อ็นเอ สังเคราะห์ข้ึน ดเี อ็นเอที่ ถกู สร้างใหม่ วัคซนี แบบรคี อม- บิแนนต์ซบั ยูนิต อนภุ าค ไวรสั เสมือน พลาสมิด (ส่วนทยี่ ืน่ ออกมา วคั ซนี จากไวรสั ไขห้ วดั ใหญ่ ไวรัส จากอนภุ าคคล้ายหนาม) ท่ตี ิดเซลล์ไดค้ รงั้ เดียว ท่พี บในธรรมชาติ วัคซีนจากไวรสั ทีส่ ามารถเพ่มิ ตวั เอง ไดป้ รมิ าณมาก วัคซนี แบบรีคอมบแิ นนตซ์ ับยูนติ ไวรสั ไข้หวัดใหญ่ทีต่ ิดเซลล์ได้ครั้งเดียว วคั ซีนจากไวรสั ที่สามารถ Recombinant subunit vaccines Influenza A virus-based vaccines เพ่ิ มตวั เองได้ในปรมิ าณมาก ยีนของสไปก์ขนาดต่างๆ จะถูกแสดงออก Recombinant viral vector vaccines เป็นโปรตนี ในเซลล์ และโปรตนี เหลา่ นั้น ยนี ของสไปกใ์ นขนาดต่างๆ จะถูกนําไปแทนที่ ยีนสไปกใ์ นรูปแบบต่างๆ จะถกู ฝากไว้กบั จโี นม จะนาํ มาใช้เป็นวัคซนี เพ่ือกระตุ้นภมู คิ ุม้ กัน ยีนฮแี มกกลตู ินนิ (HA) ของไวรสั ไข้หวดั ใหญ่ ของไวรัสทเ่ี่ จรญิ เตบิ โตไดด้ ี เพ่ือเพ่ิมปริมาณไดม้ าก และนาํ ไปใชเ้ ป็นวัคซีนเชื้อตาย Recsvouambccubinninietant เม่อื ไดร้ บั ไวรสั ดังกลา่ วเขา้ สู่ร่างกาย จะสามารถมองเห็นและสร้างภมู คิ ุม้ กันต่อสไปก์ได้ ยีนของสไปก์ HA Influenza A SARS-C0V-2 virus-based vaccines ไวรสั ไขห้ วดั ใหญ่สายพนั ธ์ุ A (Influenza A) ไวรสั ไข้หวดั ใหญ่สายพนั ธุ์ A+C Rveivcraaocml cvbienicnetsaonrt (Influenza A+C) ยีนของสไปก์ การทดสอบวัคซีน วคั ซีนตน้ แบบท่พี ัฒนาขน้ึ จะถูกทดสอบความสามารถ ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกนั ในสัตวท์ ดลองและอาสาสมัครต่อไป หอ้ ง Animal Biosafety Level 3 (ABSL3) ความร่วมมอื ระหวา่ ง สวทช. กบั คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 2172

นวัตกรรมรบั มือ COVID-19 สํานักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) แบบจาํ ลอง ทางคณติ ศาสตร์ เพ่ื อรบั มอื การระบาด ของโควดิ -19 สํานักงานพั ฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ร่วมกับกรมควบคุมโรค มุ่งประยุกต์ใช้งานวิจัยแบบจําลอง ทางคณิตศาสตร์ในการตอบโจทย์และเสนอแนะแนวทางในการ กาํ หนดนโยบายตา่ งๆ สาํ หรบั การเฝา้ ระวงั และควบคมุ โรคโควดิ -19 ดงั นี้ 1. ผู้ตดิ เชอ้ื ไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 ท่แี ทจ้ รงิ มจี ํานวนเทา่ ใด (ทง้ั กล่มุ ท่แี สดงอาการรุนแรง มีอาการไม่ชดั เจน และไมแ่ สดงอาการ) ในช่วงแรกที่มกี ารระบาด ของโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศไทยได้มีการตรวจคัดกรองนักท่องเท่ียวที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮ่ัน ทําให้ประเทศไทยมีข้อมูลผู้ติดเช้ือจากอู่ฮ่ันท่ียังไม่แสดง อาการชดั เจน จงึ ไดป้ ระมาณการจาํ นวนผตู้ ดิ เชือ้ ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 ทงั้ หมดในอฮู่ นั่ เพื่อวเิ คราะหจ์ าํ นวนผปู้ ว่ ยโควดิ -19 ทอี่ าจมอี าการไมร่ นุ แรงหรอื ไมแ่ สดงอาการ และมอี าการรนุ แรง/ชดั เจนดว้ ยแบบจาํ ลองทางคณติ ศาสตร์ ดว้ ยการวเิ คราะหข์ อ้ มลู นกั ทอ่ งเทีย่ วจากเมอื งอฮู่ นั่ ทเ่ี ดนิ ทางเขา้ สปู่ ระเทศไทย โดยใหจ้ าํ นวนนกั ทอ่ งเทยี่ ว ทั้งหมดจากเมืองดังกล่าวเป็นตัวแทนประชากรในเมืองอู่ฮั่น จากการวิเคราะห์อัตราส่วนนักท่องเที่ยวเมืองอู่ฮั่นท่ีติดเช้ือเทียบกับจํานวนนักท่องเที่ยวจาก เมืองอู่ฮ่ันท้ังหมด แล้วนํามาวิเคราะห์ทําแบบจําลอง (Modeling) เพ่ื อประเมินกลับไปเป็นจํานวนผู้ติดเช้ือในเมืองอู่ฮ่ันท้ังหมด ผลการวิเคราะห์พบว่า จาํ นวนผตู้ ดิ เชอ้ื ทง้ั หมด รวมทง้ั ผตู้ ดิ เชอ้ื ทมี่ อี าการนอ้ ยไมช่ ดั เจน หรอื ไมแ่ สดงอาการใดๆ มจี าํ นวนรวมแลว้ เทา่ กบั ประมาณ 20 เทา่ ของผตู้ ดิ เชอ้ื ทมี่ อี าการชดั เจน (อา้ งอิงตามรายงานโดย WHO) จึงมขี อ้ เสนอแนะใหป้ ระเทศไทยเตรยี มมาตรการต่างๆ เพื่อเฝ้าระวงั และรับมอื การตดิ เชือ้ ภายในประเทศ การวิเคราะหจ์ ํานวนผตู้ ิดเชอ้ื ไวรัสกอ่ โรคโควิด-19 ที่แท้จริง 23

นวตั กรรมรับมือ COVID-19 สํานกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) 2. ควรมีเทศกาลสงกรานต์หรือไม่ หรือควรมีมาตรการใดรองรับการจัดเทศกาลสงกรานต์ จากการวิเคราะห์พบว่า การมีเทศกาลสงกรานต์อาจทําให้มีผู้ติดเช้ือ ณ วันท่ี 18 เมษายน 2563 เพิ่ มมากขึ้นได้ประมาณ 1.3–100 เท่า เม่ือเทียบกับจํานวนผู้ติดเช้ือในกรณีท่ีไม่มีเทศกาลสงกรานต์ ท้ังนี้ตัวเลขจํานวนผู้ติดเช้ือท่ีเพิ่ มข้ึนจะขึ้นอยู่กับอัตราการสัมผัส อัตราการแพร่เช้ือที่เพ่ิ มข้ึน และช่วงเวลาของการละเล่นต่างๆ ในเทศกาลสงกรานต์ จึงมีข้อเสนอแนะให้มีมาตรการยกเลิก เทศกาลสงกรานต์ และงานท่ีจะมีคนมารวมตัวกันเป็นจํานวนมาก รวมท้ังกิจกรรมท่ีใกล้ชิดผู้สูงอายุ แต่หากมีการจัดงานสงกรานต์ต้องพิ จารณาการเคล่ือนย้ายของประชากรท่ีจะไปยังพ้ื นที่ต่างจังหวัด รวมท้งั มาตรการในการปฏบิ ตั ิตนเพ่ือลดโอกาสสมั ผสั กนั มากข้นึ 3. ผลของการใช้มาตรการ Social distancing นาน 1 สัปดาห์ จะเป็นเช่นไร และระยะเวลา การวิเคราะห์กรณที ี่ไมเ่ ลื่อนสงกรานต์ ท่ีประกาศใช้ถึงวันท่ี 30 เมษายน เพี ยงพอหรือไม่ จากการถอดบทเรียนมาตรการในการควบคุม จะเส่ียงติดโรคโควิด-19 เพิ่มขน้ึ การระบาดของโควดิ -19 ในประเทศทค่ี วบคมุ โรคได้ พบวา่ ประเทศกลมุ่ ดงั กลา่ วมมี าตรการหลายอยา่ งรว่ มกนั เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) การค้นหาผู้ติดเช้ือที่แท้จริงให้ได้มากท่ีสุด และการแยกโรคท่ีมีประสิทธิภาพ สําหรับประเทศไทยนั้นได้เริ่มมาตรการ Social distancing ในวันที่ 22 มนี าคม 2563 และได้ประเมนิ ประสทิ ธภิ าพของมาตรการดังกลา่ ว โดยสรุปได้ดังน้ี ในช่วงแรก หลังการใชม้ าตรการ Social distancing การประมาณค่าอัตราการระบาดและจาํ นวนผูต้ ิดเชอ้ื ในแต่ละช่วงเวลา ได้ 5 วนั พบวา่ มาตรการดงั กลา่ ว สามารถลดอตั ราการระบาด (Rt) ลงได้ (จาก 2.0 เหลือ 1.5) แต่ยังไม่เพี ยงพอที่จะ ลดใหอ้ ยใู่ นระดบั ทค่ี วบคมุ ได้ อาจสง่ ผลใหใ้ นวนั ท่ี 30 เมษายน 2563 ยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 2,100 คน และต้องเข้ารับ การรกั ษาในโรงพยาบาลมากถงึ 8,000 คน ดงั นนั้ จงึ ยงั ควร คงมาตรการตอ่ ไป พร้อมท้ังเสนอแนะให้เพ่ิ มความเข้มข้นของมาตรการ Social distancing และเพ่ิ มความครอบคลุมของการ ตรวจวินิจฉัยและแยกโรค เน้นการควบคุมการระบาด ภายในประเทศให้อยู่ในระดับท่ีแพทย์สามารถรับมือได้ โดยสง่ ผลกระทบทางสงั คมและเศรษฐกจิ ในระดบั ทย่ี อมรบั ได้ 4. มาตรการ Social distancing นาน 2 สัปดาห์ มีประสิทธิภาพเพี ยงพอหรือไม่ และสามารถผ่อนปรนได้หรือไม่ หลังจากได้มีการใช้มาตรการ Social distancing มาเปน็ เวลา 2 สปั ดาห์ พบวา่ มาตรการดงั กลา่ วยงั สามารถลดอตั ราการระบาด (Rt) ลงได้ จาก 2.0 เหลือ 1.1 แตห่ ากดาํ เนนิ ต่อไปดว้ ยอตั ราน้จี นถึง สิ้นเดือนเมษายน 2563 อาจมีจํานวนผู้ติดเชื้อรายวัน 130 ราย/วัน และเมื่อสิ้นปี 2563 ผู้ติดเชื้อสะสมที่ตรวจพบได้ 150,000 ราย มีผู้ป่วยรายใหม่วันละ 1,700 ราย จากรายงานตีพิ มพ์ ของออสเตรเลียระบุว่า การท่ีจะ สามารถควบคุมการระบาดไม่ให้ขยายตัวรุนแรงได้ต้องทํา Social distancing ใหไ้ ดร้ ะดบั รอ้ ยละ 70 รว่ มกบั การตรวจหา ผู้ติดเช้ืออย่างกว้างขวาง (Active case finding) ครอบคลุมอย่างน้อยร้อยละ 70 และต้องมีวิธีการคัดแยก ผ้ตู ดิ เช้อื ที่มีประสทิ ธิภาพ โดยหากทําได้ร้อยละ 90 จะสามารถ ควบคุมการระบาดได้เตม็ ท่ี การประมาณคา่ อัตราการระบาดและจาํ นวนผู้ตดิ เชื้อในแตล่ ะชว่ งเวลา ข้อมูลในประเทศไทยซ่ึงประมวลจากแบบสอบถามของ กรมควบคมุ โรคพบวา่ การทํา Social distancing ในประเทศ ครอบคลมุ เพียงรอ้ ยละ 70-80 และจากการตดิ ตามการเคลอื่ นท่ี ผา่ นสมารต์ โฟน พบวา่ ประชากรเคลอื่ นทล่ี ดลงจากปกตริ อ้ ยละ 50-60 ซึ่งบ่งชี้ว่า การตอบสนองต่อมาตรการใประเทศไทย มีความครอบคลมุ ตํ่ากวา่ เปา้ หมาย จึงยังไม่สามารถผ่อนปรน มาตรการ Social distancing ได้ 24

นวัตกรรมรับมือ COVID-19 สํานักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) 5. ควรมีมาตรการใดที่จะช่วยเพิ่ มประสิทธิภาพในการควบคุมโรค และควรมีเป้าหมายอย่างไร ในการหาผู้ติดเช้ือให้พบได้มากท่ีสุด ต้องแยกผู้ติดเช้ือ ไม่ใหแ้ พร่เชอ้ื ได้ และมกี ารติดตามผู้สัมผัสทุกรายให้แยกตวั เพ่ือกักโรค (Quarantine) ซง่ึ เป็นกระบวนการหลักของการควบคุมการระบาด หากทาํ ไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ ก็จะสามารถหยุดการระบาดได้ จากการวเิ คราะหข์ อ้ มลู รายงานจากตา่ งประเทศพบวา่ มผี ตู้ ดิ เชอ้ื ทไ่ี มแ่ สดงอาการหรอื แสดงอาการนอ้ ยคดิ เปน็ ประมาณ 10-20 เทา่ ของผทู้ ม่ี อี าการทม่ี รี ายงาน ดังน้ันจะมีผู้ติดเช้ือท่ียังไม่ถูกตรวจพบด้วยระบบในปัจจุบันอีกจํานวนมาก ข้อมูลจากการตรวจวินิจฉัยของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีพบว่า มีผู้ติดเช้ือท่ีระบบยังไม่ทราบ และไม่อยู่ในกลุ่มเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (Patient under investigation: PUI) ท่ีจะได้รับการตรวจ (ผู้ท่ีมีประวัติเดินทาง ต่างประเทศ/สัมผัสกับผู้ติดเช้ือ) ประมาณร้อยละ 1 ซึ่งหากกลุ่มนี้ไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยหรือกักโรคไม่ดีเพี ยงพอ จะทําให้การควบคุมการระบาด ไมม่ ปี ระสิทธิภาพเพียงพอ จึงมีข้อเสนอแนะว่า ควรขยายเกณฑ์การตรวจ ให้มีความครอบคลุมมากข้ึน เช่น ครอบคลุมผู้ท่ีสัมผัสกับ คนจํานวนมาก และเพิ่ มความสามารถในการตรวจวินิจฉัย โดยหากตรวจพบผู้ติดเชื้อซ่ึงเดิมตรวจไม่พบเพิ่ มขึ้น จ น ค ร อ บ ค ลุ ม ร้ อ ย ล ะ 2 0 ( จ ะ ต้ อ ง ต ร ว จ ป ร ะ ม า ณ 5,000-10,000 ตัวอย่าง/วัน) จะทําให้เมื่อสิ้นปลายเดือน พฤษภาคม 2563 จํานวนผู้ติดเช้ือใหม่รายวันจะไม่เพ่ิ มข้ึน และหากครอบคลุมได้ถึงร้อยละ 40 (จะต้องตรวจประมาณ 20,000-40,000 ตัวอย่าง/วัน) จะทําให้จํานวนผู้ป่วยใหม่ รายวันลดลงเหลือเพี ยงหลักสิบรายต่อวนั ดังน้ันเสนอให้ตรวจการติดเช้ือให้ได้ประมาณ 10,000 สัดส่วนการตรวจพบผตู้ ดิ เชอ้ื เดมิ ท่ตี รวจไม่พบและจํานวนผ้ปู ่วยรายใหม่ ตวั อยา่ ง/วนั ควบคไู่ ปกบั การแยกผตู้ ดิ เชอ้ื อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รวมไปถงึ การสรา้ งระบบตดิ ตามผตู้ ดิ เชอ้ื ตอ่ ไป การประมาณคา่ อตั ราการระบาดและจํานวนผู้ติดเชอ้ื ในแต่ละชว่ งเวลา 6. มาตรการ Social distancing รว่ มกบั มาตรการอืน่ ๆ ในปัจจุบัน (นาน 3 สัปดาห์) มีประสิทธิภาพเพี ยงพอหรือไม่ การทําแบบจําลองทางคณิตศาสตร์ (Mathematical Modeling) และสามารถผอ่ นปรนไดห้ รอื ไม่ ซง่ึ หลงั จากไดม้ กี ารใชม้ าตรการ เพื่อรับมือการระบาดของโควิด–19 เกิดข้ึนจากการต้ังโจทย์จากคณะกรรมการ Social distancing มาเปน็ เวลา 3 สัปดาห์ พบว่า มาตรการ เทคโนโลยีเพื่ อเตรียมพร้อมป้องกันโรคติดเชื้ออุบัติใหม่อุบัติซํ้า สวทช. ดังกลา่ วยังสามารถลดอัตราการระบาด (Rt) ลงได้ (จาก 2.0 เพ่ือนาํ ข้อมูลไปหารอื กับกรมควบคมุ โรค และเสนอแนะเพ่ือเตรยี มมาตรการต่างๆ เหลือ 0.77) จึงมีข้อเสนอแนะว่าในกรณีท่ีรัฐบาลลดระดับ ซึ่งการวิเคราะห์ทําแบบจําลองทางคณิตศาสตร์ท้ังหมดน้ี ได้จัดทําขึ้นจาก มาตรการ Social distancing ลง และเปิดให้ทํากิจกรรรม ความร่วมมือของทีมวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล บางประเภทเพ่ิ มเติมในบางพ้ื นที่ในระยะแรกจําเป็นต้องมีการ ทีมวิจัยจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และคณะแพทยศาสตร์ ตรวจเชิงรุกหรือตรวจหาผู้ติดเช้ืออย่างเข้มข้นมากข้ึน ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ซ่ึงได้รับงบประมาณการสนับสนุนจาก และควรคงมาตรการ Social distancing บางส่วนไว้ เช่น โ ป ร แ ก ร ม เ ท ค โ น โ ล ยี เ พ่ื อ เ ต รี ย ม พ ร้ อ ม ป้ อ ง กั น โ ร ค อุ บั ติ ใ ห ม่ อุ บั ติ ซ้ํ า , ระยะห่างในการจัดโต๊ะ การต่อแถวเข้าคิว รวมทั้งการใส่ ส า ย ง า น บ ริ ห า ร ก า ร วิ จั ย แ ล ะ พั ฒ น า สํ า นั ก ง า น พั ฒ น า วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และพิจารณาการใช้มาตรการ และเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) ให้เหมาะสมกับแต่ละพื้ นที่ โดยพิ จารณาจากความจําเป็น ทางเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับการประเมินศักยภาพ ทางสาธารณสุขของพ้ืนทีน่ นั้ ๆ ติดตอ่ : คุณวรรณพิ า ทองสมิ า ฝ่ายบรหิ ารวิจยั เพื่อสนบั สนุนยุทธศาสตรช์ าติ เบอร์โทรศัพท์: 02 117 6480 E-mail: [email protected] 25

นวัตกรรมรบั มือ COVID-19 สาํ นกั งานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) Fun Science @ Home by NSTDA สนกุ วทิ ยฯ์ ผา่ นคลปิ การทดลอง ในยามทตี่ อ้ งรว่ มกนั ‘หยดุ เชอื้ เพ่ือชาต’ิ ลดการระบาดโควดิ -19 กไ็ มอ่ าจ ปิดกั้นการเรียนรู้ได้ เมื่อ สวทช. โดยฝ่ายวิชาการและกิจกรรมพั ฒนา เยาวชนวิทยาศาสตร์ สายงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพ่ื อสังคม ศนู ยพ์ ัฒนากาํ ลงั คน จดั ทาํ กจิ กรรมเรยี นรอู้ อนไลน์ Fun Science @ Home by NSTDA เสิร์ฟความรู้และการทดลองวิทยาศาสตร์แสนสนกุ ถึงบา้ น ผา่ นเฟซบกุ๊ https://www.facebook.com/sciencecamp.fanpage/ Fun Science @ Home by NSTDA คือ กิจกรรม การเดินทางของลกู ยาง จลุ นิ ทรยี ก์ นิ ได้ โยเกริ ต์ ทาํ เอง พื ชดูดนา้ํ ส่งเสริมความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ผ่านการ ทดลองสนุกๆ ท่ีทําได้ไม่ยาก ใช้วัสดุอุปกรณ์ท่ีมีอยู่รอบตัว หมายเหตุ : ทมี งานได้ถา่ ยทําวดิ ีโอก่อนเกิดเหตุการณ์การระบาดโควิด-19 (ปี พ.ศ. 2561-2562) หากเด็กๆ จะทาํ กจิ กรรมดังกลา่ ว ราคาไม่แพง และทําได้เองที่บ้าน เพื่อให้เด็กระดับอนุบาลถึง แนะนําใหอ้ ยู่หา่ งกนั มากกว่า 2 เมตร และหากจาํ เป็นตอ้ งใกลก้ ัน ควรสวมหนา้ กากป้องกนั ตามหลักการ Social distancing มัธยมศึกษาตอนต้นใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในช่วงการ ระบาดของโควิด-19 และในช่วงของการปิดภาคเรียน สําหรับเนื้อหากิจกรรมได้รวบรวมการทดลองทางวิทยาศาสตร์สําหรับเยาวชน โดยเน้น (สําหรับเด็กอนุบาลต้องมีผู้ปกครองช่วยให้คําแนะนําและดูแล กิจกรรมจากโครงการมหาวิทยาลัยเด็กประเทศไทย ซ่ึงอาจารย์มหาวิทยาลัยจาก 21 สถาบัน ระหว่างทาํ กจิ กรรม) และนกั วชิ าการจากสาํ นกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) และสถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดร้ ว่ มกนั พัฒนาขน้ึ ทงั้ น้ี สวทช. ไดเ้ รม่ิ นาํ คลปิ วดิ โี อการทดลอง ตัวอยา่ งหลกั สตู รออนไลน์ โพสต์ลงเพจเฟซบุ๊กต้ังแต่วันท่ี 1 เมษายน 2563 และทยอยนําเน้ือหาข้ึนเป็นประจําทุกวัน โดยมีการจัดทําวีดิทัศน์จํานวน 15–20 เรื่องต่อเดือน เพื่อประชาสัมพันธ์ ไปยังกลุ่มเป้าหมาย หลักสูตรจัดการเรียนการสอน หลกั สูตรเกมและกจิ กรรม หลากหลายช่องทาง พร้อมทั้งมีการจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นความสนใจให้แก่เด็กและผู้ปกครอง วิทยาการคํานวณระดับปฐมวัย เพ่ือเรยี นรู้วทิ ยาการคํานวณ ให้เข้ามาชมคลิปการทดลอง โดยต้ังเป้าหมายให้มีผู้เข้าชมประมาณ 10,000 คร้ัง ต่อเดือน ผา่ นเกมและกิจกรรมแสนสนุก ผ่านปรากฏการณ์โควิด-19 ซึ่งขอ้ มลู ในเดอื นเมษายน 2563 มีผูเ้ ขา้ ชมจํานวน 6,688 ครัง้ จากวดี ทิ ศั น์ ทร่ี วบรวมไวท้ ง้ั หมด ระดบั ประถมศกึ ษาและมธั ยมศึกษา 18 เรือ่ ง นอกจากน้ียังได้จัดอบรมออนไลน์ให้แก่ครูและนักเรียน ตลอดจนการนําเอาไปใช้ ในกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เช่น ครูและนักเรียนในพ้ื นที่อําเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี วิทยากรเครือขา่ ยทอ้ งถิ่นในโครงการ ซง่ึ เป็นความร่วมมอื ของ สวทช. กับหนว่ ยงานที่เกย่ี วขอ้ ง ทั้งนี้ในการนําเสนอส่วนหน่ึงเป็นเน้ือหาที่เกิดจากโครงการท่ี สวทช. ได้ดําเนินการ ร่วมกับพันธมิตรในช่วงปี 2553 จนถึงปัจจุบัน รวมจํานวน 26 หน่วยงาน ได้แก่ เครือข่าย มหาวิทยาลัย 19 แห่ง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สถาบันส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี องค์การพิ พิ ธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ศูนย์วิทยาศาสตร์ เพ่ือการศึกษา มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา มูลนิธิศักดิ์พรทรัพย์ สํานักงานเขตพื้นท่ี การศกึ ษาประถมศึกษาปทุมธานี หลักสูตรเลา่ นิทานผา่ นโคด้ ดิ้ง หลกั สูตรการนําเทคโนโลยี ตดิ ตอ่ : คุณฤทัย จงสฤษดิ์ ระดบั ประถมศกึ ษา ดิจทิ ัลมาปรบั ใช้กบั การสอน ฝ่ายวชิ าการ หลักสูตร และส่อื การเรยี น ออนไลน์ ระดับประถมศกึ ษา เบอรโ์ ทรศพั ท์: 02 529 7100 ตอ่ 77223 E-mail: [email protected] 26

นวัตกรรมรบั มอื COVID-19 สาํ นักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) กจิ กรรมสนบั สนนุ เพื่อเรง่ การนาํ ผลงานวจิ ยั มาใช้ ในสถานการณฉ์ กุ เฉนิ ตา้ นภยั ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 (Research Gap Fund fights COVID-19) สํานักงานพั ฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติสนับสนุนผู้ประกอบการ ในรปู แบบนติ บิ คุ คลเขา้ รว่ มโครงการ “กจิ กรรมสนบั สนนุ เพื่อเรง่ การนาํ ผลงานวจิ ยั มาใช้ ในสถานการณ์ฉกุ เฉินต้านภยั ไวรัสกอ่ โรคโควิด-19 (Research Gap Fund fights COVID-19)” เปดิ รบั ขอ้ เสนอโครงการทร่ี บั ถา่ ยทอดผลงานวจิ ยั หรอื ทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา ของมหาวิทยาลัยของรัฐหรือสถาบันวิจัยของรัฐท่ีมีต้นแบบในระดับภาคสนามแล้วมา ต่อยอด เพ่ือพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบสําหรับผลิตใช้ในการป้องกันหรือแก้ไขปัญหา ในสถานการณ์ฉกุ เฉินไวรสั ก่อโรคโควดิ -19 โดยผ่านกระบวนการออกแบบและพัฒนา ตน้ แบบเพ่ือใหไ้ ดต้ ามมาตรฐานของผลติ ภณั ฑ์ ดาํ เนนิ การวเิ คราะหท์ ดสอบจากหนว่ ยงาน วิเคราะห์ทดสอบที่น่าเชื่อถือ รวมถึงสามารถดําเนินการได้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน นับจากวันหลังลงนามในสัญญารับทุน โดยโครงการจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายไม่เกินหรือ เทา่ กบั 75% ตอ่ โครงการ (ไมเ่ กนิ หรือเท่ากับ 1,000,000 บาทต่อโครงการ) ปัจจุบันมีโครงการท่ียื่นข้อเสนอท้ังหมด 51 โครงการ มีโครงการท่ีผ่าน 13) เครอื่ งผลติ กรดไฮโปคลอรสั สาํ หรบั ฆา่ เชอ้ื โรคแบบใชใ้ นครวั เรอื น โดย การคัดเลือก (อยู่ระหว่างดําเนินการแจ้งผล/ทําสัญญา) จํานวน 21 โครงการ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ ประกอบดว้ ย 14) การพั ฒนาระบบเฝ้าระวังผู้ป่วยระยะไกล โดยใช้อาการของโรค 1) แถบตรวจสารพันธกุ รรมแบบอา่ นผลดว้ ยตาเปลา่ อยา่ งรวดเรว็ สาํ หรบั โควิด-19 ร่วมในการประมวลแบบ Deep-learning โดย สถาบันเทคโนโลยี วินิจฉัยโรคโควิด-19 ด้วยปฏิกิริยาภายใต้อุณหภูมิเดียวแบบ Multiplex- พระจอมเกลา้ เจ้าคุณทหารลาดกระบงั recombinase polymerase amplification โดย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 15) นวัตกรรมคัดกรองบุคคลด้วย AI ป้องกันการแพร่ของโรคระบาด 2) เคร่ืองผลิตละอองไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สําหรับฆ่าเช้ือ โดย แบบเคลือ่ นทีไ่ ด้ โดย สถาบันเทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ เจ้าคุณทหารลาดกระบงั จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย 16) หูฟงั ทางการแพทย์แบบชาญฉลาดชนิดไร้สายสู้ภัยโควิด 19 โดย 3) เคร่ืองพ่ นโอโซนระบบ Ozone converter แบบอัตโนมัติ โดย สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ เจ้าคณุ ทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 17) อุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมระบบบันทึกใบหน้าโดยใช้ 4) แ อ ก ที ฟ เ ฟ ซ ชิ ล ด์ ต้ า น ท า น เ ชื้ อ ไ ว รั ส โ ค โ ร น า บ น พ้ื น ผิ ว โ ด ย Machine learning โดย สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ เจา้ คณุ ทหารลาดกระบงั มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ 18) การพัฒนาหนา้ กากอนามัยทางการแพทย์ทีท่ าํ จากซิลโิ คน ชนดิ N99 5) การสรา้ งตน้ แบบจดุ ตรวจโรคโควดิ -19 สาํ หรบั ตดิ ตงั้ ภายนอกอาคาร (N99 respirator) เพื่อรับมือสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของเชื้อไวรสั โคโรนา (แบบครบวงจร) โดย มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบรุ ี 2019 โดย มหาวทิ ยาลยั นวมินทราธิราช 6) หุ่นยนต์เคลื่อนที่แบบหลายแกน ประยุกต์ฆ่าเชื้อด้วยแสง UVC 19) ตู้พ่ นฆ่าเชื้อสําหรับบุคลากรทางการแพทย์แบบอัตโนมัติ โดย แบบบังคับขับเคล่ือนล้อแมกคานัม โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า มหาวิทยาลัยนวมินทราธริ าช พระนครเหนอื 20) หมวกอัดอากาศแรงดันบวก (PAPR) ต้นทุนต่ํา โดย มหาวิทยาลัย 7) ชุดวดั สญั ญาณชพี แบบพกพา โดย มหาวิทยาลยั เทคโนโลยสี ุรนารี นวมินทราธริ าช 8) การเพิ่มมูลค่าเส้นใยปอสาเพ่ือผลิตหน้ากากอนามัยชนิด 3 ช้ัน โดย 21) การพัฒนาแคปซูลแรงดันอากาศลบสําหรับป้องการการแพร่เชื้อโรค มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ท่ตี ดิ ตอ่ ได้ทางระบบทางเดนิ หายใจ โดย สวทช. ศนู ย์วจิ ยั เทคโนโลยสี ่งิ อํานวย ความสะดวกและเครือ่ งมือแพทย์ 9) ตํารับยาแผนโบราณเพื่ อสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันไวรัสก่อโรค โควิด-19 โดย มหาวทิ ยาลัยแมโ่ จ้ ติดต่อ: 10) การผลิตซีลยางรอบคอเพ่ื อใช้ในชุดป้องกันการแพร่กระจายเช้ือ คุณชนรรถ พุ ทธานนท์ สําหรบั ผปู้ ่วยโควดิ -19 โดย มหาวิทยาลยั แม่โจ้ ฝ่ายบรกิ ารทางการเงินเพื่อนวัตกรรม เบอรโ์ ทรศัพท์ 02 564 7000 ตอ่ 71687 11) การพั ฒนาและผลิตชุดตรวจเช้ือไวรัสก่อโรคโควิด-19 สําหรับ E-mail: [email protected] การผลติ ในเชงิ อตุ สาหกรรม โดย มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครินทรวิโรฒ 12) ตน้ แบบเชงิ พาณชิ ยข์ องเครอื่ งชว่ ยหายใจความดนั บวกแบบสองระดบั โดยใช้อากาศบรสิ ุทธิ์จากตู้ความดนั ลบ โดย มหาวทิ ยาลัยศรีนครนิ ทรวโิ รฒ 27

นวตั กรรมรับมือ COVID-19 สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) รวมงานวจิ ัย สวทช. สูภ้ ัยโควิด-19 ตดิ ตามข้อมลู งานวจิ ัย คลิปวดิ ีโอ ขา่ วประชาสัมพั นธ์ และสือ่ ความรู้สภู้ ัยโควิด-19 ของ สวทช. ไดท้ ่นี ่ี >> คลกิ (https://www.nstda.or.th/th/news/13099- ght-covid19-nstda) 28


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook