Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณสำหรับเด็กปฐมวัย

การพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณสำหรับเด็กปฐมวัย

Published by kataynarak_12, 2022-01-31 17:42:23

Description: การพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณสำหรับเด็กปฐมวัย

Search

Read the Text Version

ความหมาย การคิดวิจารณญาณ การคิดวิจารณญาณ หมายถึง ความสามารถในการคิดโดยการพิจารณาไตร่ตรองด้วยเหตุผลตามข้อมูล ที่ได้จากประสบการณ์จริง มาประกอบ การวิเคราะห์ สังเคราะห์ ตัดสินใจ แก้ปัญหา อย่างรอบคอบระมัดระวัง มีการตรวจสอบความคิดและประเมินความคิดของตนเอง ความสามารถในการคิดที่ปรากฏจะแสดงออกด้วยการตั้งคำถามตามความสนใจใฝ่รู้ ต้องการหาคำตอบจากการตรวจสอบข้อมูลจากการพิสูจน์ และการใช้เหตุผลจากการ ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองโดยรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนโดยไม่ใช้อารมณ์ ยอมรับ การเปลี่ยนแปลงทางความคิดเมื่อพบเหตุผลที่ดีกว่า และการหาข้อสรุปบนพื้นฐาน ของข้อเท็จจริงเพื่ อใช้ในการตัดสินใจ การคิดวิจารณญาณจึงมีความสัมพั นธ์กับ การคิดแก้ปัญหาโดยการคิดวิจารณญาณ เป็นทักษะสำคัญของการแก้ปัญหา และการ แก้ปัญหาส่วนใหญ่ต้องใช้การคิด วิจารณญาณ ดังนั้นการคิดวิจารณญาณ จึงมีความสำคัญสำหรับครูปฐมวัยในการ เป็นแบบอย่างทางความคิดและจัดกิจกรรม ส่งเสริมเด็กปฐมวัยด้านการคิด วิจารณญาณ

ความสำคัญ ของการคิดวิจารณญาณ ครูในระดับปฐมวัยเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการ วางรากฐานการเรียนรู้ให้กับเด็กเพื่ อพั ฒนาทักษะ และความรู้พื้นฐานที่จำเป็น ให้มีความพร้อมไปสู่ การเรียนรู้และการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ใน อนาคตครู ต้องยึดหลักสอนน้อยเรียนมาก โดย เรียนไปพร้อมกับเด็ก เปลี่ยนบทบาท จาก “ผู้สอน” (teacher) มาเป็น “ครูฝึก” (coach) ทำหน้าที่ในการอำนวยความสะดวก ช่วยเหลือ สนับสนุนแนะนำ ร่วมกันออกแบบ การเรียนรู้กับ เด็ก ปรับกระบวนการเรียนการสอนให้เด็กได้ ปฏิบัติ การเรียนรู้จากชีวิตจริง สร้างองค์ความรู้ ได้ด้วยตนเองได้ลองผิดลองถูก คิดวิเคราะห์คิด แก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ ที่ต้องเผชิญ เด็กในช่วงปฐมวัยเป็นวัยที่มีความสำคัญต่อการ เจริญเติบโตอย่าง รวดเร็วทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคมและสติ ปัญญา เด็กในวัยนี้จะมีลักษณะธรรมชาติ ความต้องการ ความสนใจที่แตกต่างจากวัยอื่น เด็กจะมีความสนใจสิ่งต่างๆ รอบตัว ความอยาก รู้ อยากเห็น ชอบเล่นและทำกิจกรรมโดยยึด ตนเองเป็นศูนย์กลาง เด็กให้ความสนใจกับสื่อ อุปกรณ์ที่เล่นอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อเกิดข้อสงสัย เด็กมักจะมีคำถามว่า “อะไร ทำไม อย่างไร” การ ใช้คำถามจึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงพั ฒนาการ อย่างชัดเจน เด็กจะเริ่มมีความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มีความกล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าทำ ชอบการเล่นสมมติ

แนวคิดทฤษฎีที่แสดงถึง การคิดวิจารณญาณ เพียเจต์ (Piaget) ได้ศึกษาการ ปฏิบัติงานของโครงสร้างทางสติ ปัญญาระหว่างการมีปฏิสัมพั นธ์กับ สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้พัฒนาการ ทางสติปัญญามีลักษณะ 2 ประการ ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้าง คือ เนื้อหา (Content) และหน้าที่ (Function) เนื้อหา หมายถึง ลักษณะของพฤติกรรมในการตอบ สนองแต่ละสถานการณ์ส่วนหน้าที่ หมายถึง การปฏิบัติงานของกลไก ในการพั ฒนาสติปัญญา พั ฒนาการของความสามารถทาง สมองของมนุษย์เริ่มตั้งแต่แรกไป จนถึงขีดสุดในช่วงอายุประมาณ 15 ปีซึ่งแบ่งลำดับของพัฒนาการ เป็น 4 ขั้น แต่ในที่นี้จะขอกล่าวเพียง 2 ขั้นแรกซึ่งมีความสำคัญที่ เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัยดังนี้

แนวคิดทฤษฎีที่แสดงถึง การคิดวิจารณญาณ 1.ขั้นประสาทสัมผัสการเคลื่อนไหว (Sensori - Motor Stage) ขั้นนี้เริ่มตั้งแต่แรก เกิดจนถึง 2 ปีพฤติกรรมของเด็กวัยนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวเป็นส่วนใหญ่ เช่น การไขว่คว้า การเคลื่อนไหว การมอง การดูด ในวัยนี้เด็กแสดงให้เห็นว่ามีสติปัญญา ด้วยการกระทำ เด็กสามารถแก้ปัญหาได้แม้จะไม่สามารถอธิบายด้วยคำพู ด เด็กจะ ต้องมีโอกาสที่จะปฏิสัมพั นธ์กับสิ่งแวดล้อมด้วยตนเองซึ่งถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ พั ฒนาการด้านสติปัญญาและความคิดในขั้นนี้ความคิดความเข้าใจของเด็กจะ ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เช่น สามารถประสานงานระหว่างกล้ามเนื้อและสายตาเด็กใน วัยนี้มักจะทำอะไรซ้ำๆ บ่อยๆ เป็นการเลียนแบบ พยายามแก้ปัญหาแบบลองผิดลอง ถูกเมื่อสิ้นสุดระยะนี้เด็กจะมีการแสดงออกของพฤติกรรมอย่างมีจุดหมายและ สามารถแก้ปัญหาโดยการเปลี่ยนวิธีการต่างๆเพื่ อให้ได้สิ่งที่ต้องการแต่การคิดของ เด็กวัยนี้ส่วนใหญ่ยังคงอยู่เฉพาะสิ่งที่สามารถสัมผัสได้เท่านั้น

แนวคิดทฤษฎีที่แสดงถึง การคิดวิจารณญาณ 2.ขั้นก่อนปฏิบัติการคิด (Preoperation Stage) ขั้นนี้เริ่มตันตั้งแต่อายุ 2-7 ปี ซึ่งแบ่งเป็นขั้นย่อยอีก 2 ขั้น คือ 2.1 ขั้นก่อนสังกัป (Preconceptual Though) เป็นขั้นพัฒนาการของเด็ก อายุ 2-4 ปี เด็กวัยนี้มีความคิดรวบยอด (Concept) ในเรื่องต่างๆ แล้วเพียงแต่ ยังไม่สมบูรณ์หรือมากกว่ามาเป็นเหตุเป็นผลเกี่ยวโยงซึ่งกันและกันแต่เหตุผลของ เด็กวัยนี้ยังมีขอบเขตจำกัดเพราะ เด็กยังคงยึดตนเองเป็นศูนย์กลางความคิด เด็กสามารถใช้ภาษาและเข้าใจความหมายของสัญลักษณ์ การใช้ภาษายังเป็นภาษาที่ เกี่ยวข้องกับตนเอง ความคิดความเข้าใจของ เด็กในวัยนี้ขึ้นอยู่กับการรับรู้เป็น ส่วนใหญ่ 2.2 ขั้นการคิดแบบสหัชญาณ (Intuitive Thought) เป็นขั้นพัฒนาการของ เด็กอายุ 4 - 7 ปี ในขั้นนี้เด็กจะเกิดความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆรอบตัวดีขึ้น รู้จักแยกประเภทของชิ้นส่วนวัตถุ เข้าใจความหมายของจำนวนเลข เริ่มมีพัฒนาการ เกี่ยวกับการอนุรักษ์แต่ไม่แจ่มชัดนักสามารถแก้ปัญหาได้โดยไม่คิดเตรียมการล่วง หน้าไว้ก่อนรู้จักใช้ความรู้ในสิ่งหนึ่งไปอธิบายหรือแก้ปัญหาอีกสิ่งหนึ่งและสามารถใช้ เหตุผลทั่วๆ ไปมาสรุปแก้ปัญหา การคิดของเด็กมีเหตุผลขึ้นแต่การคิดออกมาในสิ่งที่ เขารับรู้หรือสัมผัสจากภายนอก จากทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์ สรุปได้ว่า กระบวนการดังกล่าว สามารถทำให้บุดคลสามารถพั ฒนาความสามารถในการคิดซึ่งเป็นความสามารถของ สมองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือเรียกว่าขั้นพั ฒนาการจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและมี ความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอมีการปรับโครงสร้างเพื่ อให้เกิดความสมดุลทำให้บุคคลมี ความสามารถในการคิดซับซ้อนมากขึ้น

แนวคิดทฤษฎีที่แสดงถึง การคิดวิจารณญาณ บรูเนอร์ ได้แบ่งพัฒนาการทาง สติปัญญาและการคิดของมนุษย์ ออกเป็น 3 ขั้น คือ 1.ขั้นแสดงออกด้วยการกระทำ (Enactive Stage) ขั้นนี้เปรียบ เทียบได้กับขั้นประสาทสัมผัสและการ เคลื่อนไหว (Sensori - Motor Stage) ของเพียเจต์เป็นที่เด็กเรียน รู้จากการกระทำ (Learning by Doing) 2. ขั้นสร้างภาพแทนใจ (Iconic Stage) ขั้นเปรียบเทียบได้กับขั้นก่อนปฏิบัติการ คิด (Preperation Stage) ของเพียเจต์ซึ่งจะครอบคลุมขั้นก่อนปฏิบัติการคิดใน วัยนี้เกี่ยวข้องกับความจริงมากขึ้นเขาจะเกิดดวามคิดจากการรับรู้เป็นส่วนใหญ่ อาจมีจินตนาการบ้างแต่ยังไม่สามารถคิดได้ลึกซึ้งมากนักเหมือนขั้นปฏิบัติการคิด ด้วยรูปธรรมของเพี ยเจต์ 3. ขั้นใช้สัญลักษณ์ (Symbolic Stage) เป็นพัฒนาการขั้นสูงสุดของบรูเนอร์ เปรียบได้กับขั้นพัฒนาการขั้นปฏิบัติการรูปธรรม (Concerte Operation) ของเพี ยเจต์ในขั้นนี้เด็กจะเข้าใจความสัมพั นธ์ของสิ่งของสามารถเกิดความคิด รวบยอดหรือสังกัปในสิ่งต่างๆ ที่ซับซ้อนได้มากขึ้น

การพัฒนาทักษะการคิด อย่างมีวิจารณญาณ สำหรับเด็กปฐมวัย ครูปฐมวัยควรส่งเสริม สนับสนุนให้เด็กได้รับรู้และเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวผ่าน การมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม บุคคลและสื่อต่างๆ ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่ หลากหลาย เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กมีพัฒนาการ การใช้ภาษา จิตนาการความคิด สร้างสรรค์ การแก้ปัญหา การคิดเชิงเหตุผล และการคิดรวบยอดเกี่ยวกับ สิ่งต่างๆ รอบตัวและมีความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานของการ เรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้นต่อไป เมื่อครูส่งเสริมและดูแลเด็กถูกต้อง จัดการเรียนรู้ที่ สอดคล้องกับหลักการพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างรอบด้าน ตามวัยก็จะส่งผลให้เด็ก มีคุณลักษณะของคนไทยในอนาคตที่ต้องการ คือ มีร่างกายแข็งแรง มีจิตใจ เข้มแข็ง เบิกบาน รู้จักคิดวิเคราะห์ มีสัมพันธภาพกับผู้อื่น มีความรู้ คิดเป็นเหตุ เป็นผลอย่างสร้างสรรค์ สามารถปรับเปลี่ยนความคิดและยืดหยุ่นได้ทุก สถานการณ์ รู้จักการประเมินตนเอง การดูแลเด็กปฐมวัยจึงต้องให้ ความสำคัญและมีความเข้าใจว่าใน การพั ฒนาเด็กไทยให้มีคุณลักษณะ ดังกล่าวข้างต้น เพื่อให้อยู่บนโลก แห่งการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมี ความสุขนั้นต้องเริ่มจากการ จัดการศึกษาในระดับปฐมวัย ที่เป็น รากฐานในการพั ฒนาการศึกษาใน ระดับต่อๆ ไป

เป้าหมายในการพัฒนาเด็กให้มี การคิดอย่างวิจารณญาณ ควรส่งเสริมให้เด็กมีพั ฒนาการเต็มตาม ศักยภาพเพื่ อให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ทำประโยชน์ต่อสังคม มีความสามารถในการ ดำรงชีวิต รอบคอบทางความคิด กล้าตัดสินใจ แก้ปัญหาได้ มีความคิด สร้างสรรค์ ไม่ยอมแพ้ ต่ออุปสรรค มีการวางแผนในการทำงานอย่างมี ประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการพัฒนา ตนเองให้อยู่ร่วมกันกับผู้อื่นในสังคมและเป็น กำลังสำคัญในการพั ฒนาประเทศไปในทิศทางที่ เหมาะสมต่อไป การพั ฒนาเด็กปฐมวัยเพื่ อให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความ สมบูรณ์รอบด้านดังกล่าวข้างต้น จึงถือเป็นหน้าที่ของผู้ที่ เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัยโดยตรง คือ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และครูปฐมวัย ซึ่งบุคคลเหล่านี้เป็นผู้ที่มีความสำคัญต่อการ พั ฒนาเด็กปฐมวัยทั้งในด้านการอบรมเลี้ยงดูอย่างถูกวิธี การปรับเปลี่ยนแนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้อันเป็น บทบาทสำคัญของครูปฐมวัย ที่ต้องเปิดโอกาสให้เด็กมี บทบาทในการดำเนินกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเอง ครูปฐมวัยจำเป็นต้องพัฒนาตนเองให้ครบทุกด้าน โดยเฉพาะการคิด วิจารณญาณ เพื่อใช้ในการไตร่ตรองและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวข้องกับตัวเด็ก ครูปฐมวัยต้องมีความรู้ ความเข้าใจกระบวนการจัดการเรียนรู้ พัฒนาการ คุณลักษณะตามวัยและธรรมชาติ การเรียนรู้ของเด็ก ในแต่ละช่วงวัยเพื่อจะนำมาเป็นข้อมูลในการจัดประสบการณ์ให้กับ เด็กได้อย่างเหมาะสมและ สอดคล้องกับพัฒนาการ

เป้าหมายในการพัฒนาเด็กให้มี การคิดอย่างวิจารณญาณ นอกจากนี้ในช่วงปฐมวัยอายุประมาณ 0 - 6 ปี เป็นช่วงที่เด็กยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง ครูจึงต้องใช้การคิดอย่างเหมาะสมในการแก้ไขปัญหาเมื่อเด็กใช้ความรุนแรงอันเกิดจาก การเล่น การทำกิจกรรมต่างๆ ในห้องเรียนร่วมกัน การยึดตนเองของเด็กมักจะเป็น พฤติกรรม การหวงของเล่น ไม่ยอมแบ่งของเล่นให้ใคร เมื่อมีเพื่อนมาหยิบของเล่นของ ตน เด็กจะหวงของ อาจถึงขั้นทำร้ายร่างกายเพื่อน การอยากได้สิ่งของของผู้อื่นโดย การคว้าและแย่งมาเป็นของตน พฤติกรรมของเด็กปฐมวัยดังกล่าวถือเป็นบทบาทหน้าที่ สำคัญของครูปฐมวัยที่ต้องหาวิธีการแก้ไข ปัญหาความรุนแรงอันมักจะเกิดขึ้นใน ห้องเรียนปฐมวัยให้มีความเหมาะสมโดยครูจะต้องเป็น แบบอย่างในการจัดการกับปัญหา อย่างมีวิจารณญาณ ไม่ใช้ความรุนแรง ครูปฐมวัยส่วนใหญ่มักใช้ วิธีการแก้ปัญหา พฤติกรรมความรุนแรงของเด็กโดยการด่วนสรุปหรือด่วนตัดสินใจโดยไม่สอบถามหรือ รวบรวมข้อมูลก่อน จึงทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้น เช่น เมื่อมีเด็กมาฟ้องครูว่า โดนเพื่อนแกล้ง ครูมักจะพู ดเตือนทันที ว่าอย่าแกล้งเพื่อน ถ้าแกล้งเพื่อนจะเป็นเด็กไม่ดี หรือ ตัดสินโดยให้คนที่เป็นผู้กระทำมาขอโทษเพื่อน ในบางครั้งเมื่อครูระงับความโกรธไม่ ได้จะใช้วิธีการลงโทษ ซึ่งการปฏิบัติของครูในลักษณะเช่นนี้เป็นการตัดสินปัญหาโดยครู ไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

เป้าหมายในการพัฒนาเด็กให้มี การคิดอย่างวิจารณญาณ ดังนั้นในการแก้ไข ปัญหาอย่างเหมาะสมครูจึงควร รวบรวมข้อมูลจากปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนเพื่ อนำไปสู่การ แก้ปัญหา อย่างสร้างสรรค์และทำให้เด็กเห็นแบบอย่าง ของการรวบรวมข้อมูลก่อนสรุป ครูจึงต้องระมัดระวัง และควบคุมตนเองให้มีสติและหาวิธีการแก้ปัญหาโดย ไม่ใช้การลงโทษหรือดุว่าเด็กอย่างรุนแรง หลังจากที่ ครูใช้วิธีการแก้ปัญหาที่ได้มาจากข้อมูลที่ถูกต้องแล้ว ครูสามารถใช้คำพู ดสั้นๆ เท่าที่จำเป็น เพื่อชี้ให้เด็กเห็น ผลของการกระทำ ครูไม่ควรใช้คำพู ดรุนแรงหรือ เสียดสี จนทำให้เด็กเกิดความหวาดกลัว หรือสูญเสีย ความมั่นใจ การคิดวิจารณญาณจึงมีความสำคัญและ จำเป็นสำหรับครูปฐมวัยทุกคน เพราะอยู่ใน ยุคสมัยที่สภาพสังคมมีการเปลี่ยนแปลงส่ง ผลต่อการอบรมเลี้ยงดูเด็กในครอบครัว ทำให้เด็กมีพฤติกรรมแตกต่างกัน ดังนั้น จึงถือเป็นหน้าที่ของครูปฐมวัยในการจัดการ เรียนรู้ให้เด็กปฐมวัยเติบโตอย่างสมบูรณ์ มีภูมิคุ้มกัน โดยใช้การคิดวิจารณญาณที่จะ ช่วยให้ครูปฐมวัยเป็นผู้นำทางความคิด มีการคิดพิจารณา ไตร่ตรองสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็ก พัฒนาการธรรมชาติ การเรียนรู้ของเด็ก แต่ละคนเพื่ อนำมาจัดกระบวนการจัดการ เรียนรู้ที่ส่งเสริมการคิดอย่างเหมาะสม

ลักษณะของครูปฐมวัยที่มี การคิดวิจารณญาณ คิดอย่างอิสระ ครูปฐมวัยต้องมีอิสระทางการคิด ไม่ยอมให้สิ่งรอบตัวมาครอบงำจน ทำให้ไม่กล้าคิด การคิดอิสระของครูสามารถคิดได้อย่างหลากหลายแต่ต้องหาข้อสรุป ในสิ่งที่คิดอย่างสร้างสรรค์เพื่อ สิ่งที่คิดมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในวิชาชีพและ การดำรงชีวิต ใส่ใจในความคิดของผู้อื่น การให้ความสำคัญและใส่ใจในความคิดของเด็ก เพื่อน ร่วมงาน ผู้ปกครองรวมทั้งคนรอบข้างอื่นๆ ครูปฐมวัยที่มีการคิดวิจารณญาณจะ นำความคิดของผู้อื่น มาประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนาตนเอง และยอมรับฟังคำวิพากษ์ วิจารณ์ยอมรับในเหตุผลและข้อมูลของผู้อื่นที่ดีกว่า ซึ่งความคิดของบุคคลเหล่านั้น อาจเป็นการบั่นทอนกำลังใจแต่ผู้ที่มีการคิดวิจารณญาณจะนำความคิดเหล่านั้นมา ไตร่ตรอง เลือกสรรนำมาเป็นแนวทางการปรับปรุงแก้ไขหรือถ้าความคิดนั้นไม่เกิด ประโยชน์ใดๆ จะปฏิบัติตนเป็นผู้รับฟังที่ดีและเป็นการเรียนรู้ความคิดของผู้อื่นอย่าง สร้างสรรค์ รู้ข้อจำกัดในการคิดของตน มีความเข้าใจถึงข้อจำกัดในความสามารถทางการคิดของ ตนเองไม่มองว่าเป็นปมด้อย แต่จะพยายามฝึกฝนทักษะการคิดพยายามเรียนรู้เพื่อให้ เกิดการคิดอย่างสม่ำเสมอ กล้าทางปัญญา เป็นผู้ที่มีความรู้อย่างชัดเจนในเรื่องใดเรื่องหนึ่งและสามารถใช้ความ รู้นั้นนำมาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีเหตุผล กล้าที่จะแสดงความคิดของตนโดยใช้ ปัญญาเพื่ อให้เกิดประโยชน์

ลักษณะของครูปฐมวัยที่มี การคิดวิจารณญาณ ซื่อสัตย์ ความซื่อสัตย์เป็นคุณธรรมพื้นฐานที่ผู้ประกอบวิชาชีพครูต้องมีคือความ จริงใจ ตรงไปตรงมา งดเว้นการโกหก การคดโกงหรือการลักขโมย ครูปฐมวัยต้อง มีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ซื่อสัตย์ต่อครอบครัว ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ซื่อสัตย์ต่อเพื่อน ร่วมงานและมีความซื่อสัตย์ต่อประเทศชาติ มีความเพียร ไม่ท้อถอยในการทำงาน มีความเพียรพยายามมุมานะเมื่อมีอุปสรรค หรือความล้มเหลวจะไม่ท้อถอย มีความพยายามในการแก้ปัญหาแม้จะต้องใช้เวลา นานเมื่อพยายามแก้ไขอาจจะยังไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะมุ่งมั่นตั้งใจจนสัมฤทธิ์ผล ผู้ที่มีทักษะการคิดวิจารณญาณจะมีทัศนคติที่ดีและมองเห็นคุณค่าของความเพี ยร เป็นแรงผลักดันให้ประสบความสำเร็จ ใช้เหตุผล ครูปฐมวัยที่มีการคิดวิจารณญาณต้องเป็นคนมีเหตุผล ไม่อคติและใช้ อารมณ์ ในการตัดสินใจ ไม่หลงประเด็นและทำให้ประเด็นชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเป็นแบบอย่างในการใช้เหตุผลกับเด็กปฐมวัย การตัดสินใจของครูเมื่อเกิด เหตุการณ์ต่างๆ ในชั้นเรียนครูต้องไม่ด่วนตัดสินใจต้องพยายามหาข้อมูลอย่างเพียง ก่อนที่จะสรุปผลหรือตัดสินใจ อยากรู้อยากเห็น ต้องเป็นผู้ที่มีความอยากรู้อยากเห็น ช่างสงสัยชอบทดสอบค้นคว้า โดยสามารถเลือกแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ชอบสนทนา ชอบฟัง ชอบอ่าน เพื่อให้มี ความรู้เพิ่ มมากขึ้นจะยินดีเมื่อค้นพบความรู้ใหม่และกระตือรือร้นในการค้นหาความรู้ ใหม่อย่างสม่ำเสมอ

ลักษณะของครูปฐมวัยที่มี การคิดวิจารณญาณ มีคุณธรรม คุณธรรมคือสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกคน ผู้ที่ประกอบวิชาชีพครูทุกระดับชั้น ต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรม ยึดมั่นในการทำความดีละเว้นความชั่วทั้งปวง ในบางครั้งอาจ เข้าไปอยู่ในกลุ่มคนที่ประพฤติไม่ดีมีความคดโกง ไม่ซื่อสัตย์ ก็สามารถใช้คุณธรรม เพื่อป้องกันตนเองจากสิ่งชั่วร้ายได้ และใช้หลักคุณธรรมมาเป็นแนวทางในการดำเนิน ชีวิตด้วยความไม่ประมาท รับผิดชอบ ผู้ที่มีการคิดวิจารณญาณที่ดีต้องเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูง ทุกอย่างที่ กระทำจะต้องใส่ใจและรับผิดชอบทั้งต่อตนเองต่อการทำงานและต่อผู้อื่น ครูปฐมวัยจะ ต้องใช้ความรับผิดชอบอย่างมากในการทำงานกับเด็กปฐมวัย เพื่อป้องกันความผิด พลาดที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งต้องมีความรับผิดชอบในการอบรม ดูแลเพื่อให้เด็ก ปฐมวัยมีความพร้อมอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับพัฒนาการเพื่อเป็นรากฐานสำคัญ ในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพในอนาคต

ประโยชน์ของการคิดอย่างมี วิจารณญาณ 1. มีความมั่นใจในการเผชิญต่อปัญหาต่างๆ และแก้ไขปัญหานั้นๆ ได้ถูกทาง 2. สามารถตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและมีเหตุผล 3. มีบุคลิกภาพดี เป็นคนสุขุมรอบคอบ ละเอียดลออ ก่อนตัดสินใจในเรื่องใดจะต้องมี ข้อมูลหลักฐานประกอบแล้ววิเคราะห์ด้วยเหตุผลก่อนตัดสินใจ 4. ทำกิจการงานต่างๆ ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดอย่างมีคุณภาพ เนื่องจากมีระบบความคิดอย่างเป็นขั้นตอน 5. มีทักษะในการสื่อสารกับผู้อื่นได้ดี ทั้งด้านการอ่าน เขียน ฟัง พู ด 6. การพัฒนาวิธีคิดอย่างมีวิจารณญาณอยู่เสมอ ส่งผลให้สติปัญญาเฉียบแหลม พั ฒนาความสามารถในการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างต่อเนื่องในสถานการณ์ของโลก ที่มีการเปลี่ยนแปลง 7. เป็นผู้มีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย 8. เป็นผู้ปฏิบัติงานอยู่บนหลักการและเหตุผล ส่งผลให้งานสำเร็จอย่างมีคุณภาพ

สรุปการพัฒนาทักษะการคิด อย่างมีวิจารณญาณ สำหรับเด็กปฐมวัย การคิดอย่างมีวิจารณญาณเป็นทักษะที่มีความสำคัญสำหรับครูปฐมวัย การจัดการ เรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้เท่าทันสามารถดำรงชีวิตอยู่ในโลกแห่งการ เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีความสุขนั้นต้องอาศัยการคิดวิจารณญาณที่เป็นกระบวนการ คิดอย่างเป็นระบบ มีการพิจารณาไตร่ตรองอย่างมีเหตุผลเพื่อตัดสินใจว่าสิ่งใดควร เชื่อสิ่งใดไม่ควรเชื่อ สิ่งใดควรทำสิ่งใดไม่ควรทำ เพื่อตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง เป็นผู้อำนวยความสะดวก ช่วยเหลือสนับสนุนและนำเรียนรู้ร่วมกับ เด็ก ปรับกระบวนการเรียนการสอนผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงผ่านการใช้ประสาท สัมผัสทั้งห้าและการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลและสิ่งต่างๆ รอบตัว และการส่งเสริมให้ เด็กได้แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่และมีเจตคติที่ดีต่อการ เรียนรู้