Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระอภัยมณี

พระอภัยมณี

Published by pannapat6205, 2020-04-15 03:37:17

Description: พระอภัยมณี

Search

Read the Text Version

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate เปา หมายการเรยี นรู (ยอจากฉบับนกั เรียน 20%) • สรุปเนื้อเรือ่ งยอ พระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผเี สื้อ • วิเคราะหค ุณคา ดานสงั คมและ วิถไี ทยในสมยั รัตนโกสนิ ทร ตอนตน • บอกคณุ คาดานวรรณศิลป • สรปุ ความรแู ละขอ คิดจากเร่ือง ทส่ี ามารถนาํ ไปปรับใชในชวี ิต ประจําวันได • ทองจําคําประพันธทไี่ พเราะ จากเรื่องได กระตนุ ความสนใจ òหนว ยท่ี ครใู หน กั เรยี นดภู าพหนาหนวย พระอภยั มณ ี ตอนพระอภัยมณีหนีนำงผีเสอ้ื โดยใชค ําถามกระตุนใหนักเรียน รว มกนั แสดงความคดิ เหน็ ตวั ชวี้ ดั นิทานคํากลอนเรื่องพระอภัยมณี • ในภาพหนาหนวยนม้ี ตี วั ละคร ■ สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมทอ งถน่ิ ในระดับทีย่ ากยง่ิ ใดบา ง ขึ้น (ท ๕.๑ ม.๓/๑) ■ วเิ คราะหวิถไี ทยและคณุ คาจากวรรณคดีและวรรณกรรมทอี่ า น เปนจินตนิยายท่ีมีแนวคิดแปลกใหม โดย • ภาพนี้ส่ืออารมณและความรสู ึก ไดประสมประสานเหตุการณในชีวิตจริง อยางไร (ท ๕.๑ ม.๓/๒) • ทาํ ไมพระอภยั มณจี ึงตองหนี นางผเี สอ้ื สมทุ ร • ถา นกั เรยี นเปน นางเงอื ก จะชว ย พระอภยั มณหี รอื ไม เพราะเหตใุ ด ■ สรุปความรูและขอคิดจากการอานเพ่อื นําไปประยกุ ตใชในชีวิตจริง และจินตนาการมาเรียงรอยเปนเร่ืองราวที่ (ท ๕.๑ ม.๓/๓) สนกุ สนาน ใหข อ คดิ คตธิ รรมในการดาํ เนนิ ชวี ติ นทิ านคาํ กลอนเรอ่ื งพระอภยั มณจี งึ เปน ผลงาน ■ ทองจาํ และบอกคุณคาบทอาขยานตามทีก่ ําหนด (ท ๕.๑ ม.๓/๔) อันยิ่งใหญท่ีผูอานควรอานอยางพินิจพิจารณา เพ่ือรับรูความงามทางภาษาและขอคิดที่สามารถ สาระการเรียนรแู กนกลาง นําไปประยุกตใชในชวี ติ ประจําวนั ของตนเอง ■ วรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมทองถิ่นเกี่ยวกับศาสนา ประเพณี พิธีกรรม สภุ าษติ คาํ สอน เหตกุ ารณ ในประวัตศิ าสตร บันเทงิ คดี ■ การวเิ คราะหว ถิ ีไทยและคณุ คา จากวรรณคดแี ละวรรณกรรม ■ บทอาขยานและบทรอ ยกรองทมี่ คี ุณคา 30 คูม อื ครู

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Engage Expand Evaluate ๑ ความเป็นมา สาํ รวจคนหา นิทานค�ากลอนเร่ืองพระอภัยมณีเป็นวรรณคดีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานที่ดีเด่น 1. ครูสนทนากบั นักเรียน “ใครมี เรื่องหน่ึงของสุนทรภู่ ด้วยเหตุท่ีวรรณคดีเร่ืองน้ีมีความแตกต่างจากวรรณคดีเรื่องอื่นๆ แม้ว่าเนื้อหา ความรเู ร่อื งพระอภัยมณบี า ง” ตอนตน้ ของเร่อื งจะยังคงรปู แบบตามขนบการแตง่ วรรณกรรมจักรๆ วงศๆ์ ทั่วไป กล่าวคอื เร่ืองจกั รๆ ขออาสาสมคั รมาเลาหนาช้ันเรียน วงศ์ๆ มักกล่าวถึงตัวละครเอกเป็นโอรสกษัตริย์ ต้องไปเรียนศิลปวิทยากับฤๅษีหรือพราหมณ์ ทิศาปาโมกข์แล้วจึงกลับบ้านเมือง ระหว่างน้ันตัวละครเอกหรือชายามักถูกยักษ์หรือโจรลักพาให้ 2. ใหนกั เรยี นสืบคน ขอมลู ความเปน พลดั พรากกนั ภายหลงั จงึ ตามหากนั จนพบ แตน่ ทิ านคา� กลอนเรอ่ื งพระอภยั มณขี องสนุ ทรภตู่ า่ งออกไป มาเรอื่ งพระอภยั มณี เหตใุ ดเรื่อง คือเป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นแนวคิดแปลกใหม่เกี่ยวกับตัวละคร ฉาก สถานท่ีและให้ความรู้ในเรื่อง พระอภยั มณจี งึ ไดร บั การยกยอ ง คติธรรมสอนใจในการด�าเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้พระอภัยมณียังถือว่าเป็น ตัวแทนโลกทัศน์ของ ใหเ ปนผลงานช้นิ เอกของสนุ ทรภู สนุ ทรภทู่ มี่ ตี อ่ ชาวตา่ งชาต ิ โดยชาวสยามในสมยั นนั้ สว่ นใหญม่ มี มุ มองดา้ นลบตอ่ ชาวตา่ งชาต ิ ดว้ ยมอง สาเหตุการเขา้ มาว่าเพอื่ แสวงหาและกอบโกยผลประโยชนท์ างทรพั ยากร แตส่ ุนทรภมู่ องในมุมกลับวา่ 3. จดั ทาํ รายงาน สยามกน็ า่ จะได้รับประโยชนจ์ ากชาวต่างชาตเิ ปน็ ต้นว่า วทิ ยาการดา้ นตา่ งๆ ที่ส�าคัญคือสุนทรภู่ยังแสดงโลกทัศน์เก่ียวกับสตรีที่แตกต่างจากโลกทัศน์ของคนในสังคม อธิบายความรู ร่วมสมัยเดียวกนั เช่น ยกย่องสตรีทมี่ ีปัญญาความรู้หรือสตรที มี่ ีภาวะผู้น�า โดยน�าเสนอผ่านพฤตกิ รรม ของตวั ละครสตรี ใหน ักเรียนนําเสนอการศกึ ษา คน ควา เรอ่ื ง พระอภยั มณี และเพอื่ นๆ ๒ ประวัตผิ ูแ้ ตง่ ในหองรวมกันอภิปรายการศึกษานัน้ พระสุนทรโวหาร (ภู)่ หรือสนุ ทรภูเ่ กดิ เม่อื วันที ่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๒๙ ตรงกับวนั จันทร์ นกั เรียนควรรู ขนึ้ ๑ คา่� เดอื น ๘ ปมี ะเมยี จลุ ศกั ราช ๑๑๔๘ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดา� รงราชานภุ าพ ทรงสนั นษิ ฐานวา่ บดิ าเปน็ ชาวเมอื งแกลง จงั หวดั ระยอง สว่ นมารดาเปน็ ชาวเมอื งอนื่ ตงั้ แตส่ นุ ทรภเู่ กดิ สนุ ทรภู มชี วี ติ อยใู นชว งสมยั รชั กาล บดิ ามารดาหยา่ กนั บดิ าออกบวชและไปจา� พรรษา ณ วดั บา้ นกรา�่ เมอื งแกลง สว่ นมารดาไดเ้ ขา้ ถวายตวั ที่ 1-4 แหงกรุงรัตนโกสนิ ทร และแตง เปน็ ขา้ หลวงทา� หนา้ ทเ่ี ปน็ นางนมพระธดิ าในกรมพระราชวงั หลงั สนุ ทรภอู่ าศยั อยใู่ นเรอื นแพกบั มารดา นิทานคํากลอนเร่ือง พระอภัยมณีข้ึน และไดถ้ วายตวั เปน็ ข้าในกรมพระราชวังหลังตงั้ แตเ่ ด็ก ในสมยั รชั กาลท่ี 2 ขณะตอ งโทษจาํ คกุ อาจกล่าวได้ว่าสนุ ทรภไู่ ดจ้ ารกึ ช่ือของทา่ นไวแ้ กบ่ ุคคลรนุ่ หลังดว้ ยผลงาน จนมผี ้กู ล่าวว่า “ถา้ เพราะถกู อทุ ธรณว า เมาสรุ าทาํ รา ยญาติ และจะลองให้เลอื กกวไี ทยบรรดาท่ีมีชือ่ เสยี งปรากฏมาในพงศาวดารคดั เอาแต่ท่วี เิ ศษสดุ เพียง ๕ คน ผูใหญ จึงแตงนิทานคํากลอนเรื่องนี้ ใครๆ เลอื กก็เห็นจะเอาช่อื สุนทรภู่ไวใ้ นกวี ๕ คนนน้ั ด้วย” หรือแม้กระทงั่ องคก์ ารยูเนสโกก็ยกยอ่ งให้ เพื่อขายฝปากเลี้ยงชีพเพียงไมก่ีตอน สุนทรภ่เู ป็นกวีเอกของโลกในฐานะผูม้ ีผลงานดีเด่นทางด้านวรรณกรรม แลว มาแตงตอ ในสมัยรชั กาลท่ี 3 สนุ ทรภคู่ อื ผทู้ ใ่ี ชช้ วี ติ อยา่ งแทจ้ รงิ ชวี ติ ของสนุ ทรภไู่ ดส้ ะทอ้ นใหเ้ หน็ สจั ธรรมทวี่ า่ “ไมม่ สี ง่ิ ใดจรี งั ยงั่ ยนื ยศอ�านาจวาสนาไดม้ าแลว้ เส่อื มสญู ไป” เม่ือแบง่ เวลาออกเปน็ ๔ ชว่ งรชั สมยั จะพบว่าจงั หวะ ชีวติ ของสุนทรภมู่ ีสงู สดุ และต่า� สุด ถงึ แม้ชวี ิตจะพบกับอุปสรรคแต่ท่าน กลับไมเ่ คยท้อถอย ยังคงสร้าง ผลงานท่ีเป็นมรดกทางวฒั นธรรมตกทอดมาใหอ้ นชุ นร่นุ หลังไดเ้ รยี นร ู้ และนา� ข้อคดิ ท่ีแฝงอยใู่ นผลงาน ไปปรับใชใ้ นชีวิตประจ�าวัน ซง่ึ ชีวประวตั แิ ละผลงานของสนุ ทรภ่สู ามารถเขยี นเปน็ เส้นเวลาได ้ ดงั นี้ 31 คูมือครู 31

32 คมู อื ครู แผนผังความคิดขา งตน ควรเปน จุดหกั เห การเขารับ NET ขอ สอบ ป 53 อธิบายความรู Engage กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา องคป ระกอบของเรอื่ งใด ในชวี ติ ราชการในสมยั รตั นโกสนิ ทร ขอ สอบออกเกย่ี วกับประวัติและ 1. ใหน กั เรยี นศึกษาเสน เวลา และ 1. ชีวประวตั ขิ องบคุ คลสาํ คัญ สนุ ทรภู ผลงานของสุนทรภู โดยโจทยกําหนด อธิบายผลงานตางๆ ของสุนทรภู 2. ชีวิตกวเี อก : สุนทรภู ตอนตน มหากวีสแ่ี ผน ดิน 3. บุคคลในประวัติศาสตรไ ทย 4. วรรณคดชี ้นิ เอกของสนุ ทรภู ผลงานสาํ คญั ประวตั ิ 2. ครสู มุ นักเรยี นมาอธิบาย Explore (วิเคราะหคําตอบ เม่ือพิจารณาจาก นริ าศพระบาท ความเปน มา หนาช้ันเรียน แผนผังความคิดท่ีโจทยกําหนดจะ พระอภัยมณี ในวัยเด็ก พบขอความที่ปรากฏในแผนผังเปน เรื่องเกี่ยวกับชีวิตของสุนทรภู เพราะ มีประวัติความเปนมาในวัยเด็ก การ เขารับราชการในสมัยรัตนโกสินทร ต อ น ต  น มี จุ ด หั ก เ ห ใ น ชี วิ ต ที่ ต  อ ง ติดคกุ และตกอับในสมยั รัชกาลท่ี 3 มี ผลงานกวีทสี่ าํ คัญ คือ นริ าศพระบาท พระอภัยมณี ซ่ึงเปนขอความท่ีบงชี้ วาเก่ียวกับความเปนมาของชีวิต กวเี อก : สุนทรภู ตอบขอ 2.) @ มมุ IT สุนทรภู มหากวีสีแ่ ผนดิน ๒๓๒๙ ๒๓๕๙ แพผ.ศน.ด๒นิ ๓รัช๕ก๒าล-๒ท่ี๓๒๖๗ แพผ.ศน.ด๒นิ ๓รัช๖ก๗าล-ท๒่ี ๓๓๙๔ แพผ.ศน .ด๒ิน๓รัช๙ก๔าล-๒ที่๔๔๑๑ อธบิ ายความรู แพผ.ศน .ด๒ิน๓รัช๒ก๕าล-๒ที่๓๑๕๒๒๓๔๙ ๒๓๗๒ ๒๓๖๙ ศึกษาเพม่ิ เตมิ เกย่ี วกับประวัตแิ ละผลงานของสนุ ทรภู ไดท่ี สุนทรภเู กิดในสมยั มีช่อื เสียงทางดา น สนุ ทรภอู อกบวช เม่ือลาสกิ ขาบท สุนทรภไู ด Explain http://www.rayong.go.th/redcross/data/history/history15.pdf รัชกาลท่ี ๑ เม่ือวันจนั ทร๒๓๕๐ ๒๓๙๔บทกลอน พระบาทสมเดจ็ -ในราว พ.ศ. ๒๓๖๙ รบั การอุปถมั ภจ าก http://hilight.kapook.com/view/24209 เดอื น ๘ ขน้ึ ๑ ค่าํ ปม ะเมีย พระพุทธเลิศหลา นภาลยั กรมขนุ อิศเรศรงั สรรค จลุ ศักราช ๑๑๔๘ หรือ โปรดใหร ับราชการ เปนพระอาจารยถ วาย ภายหลงั ไดส ถาปนาเปน ขยายความเขา ใจ ตรงกบั วันท่ี ๒๖ มถิ นุ ายน ในกรมพระอาลกั ษณ พระอกั ษรเจา ฟา ชายกลาง พระบาทสมเดจ็ พระปนเกลา ๒๓๒๙ ณ บริเวณดา นเหนือ ตาํ แหนง ขนุ สนุ ทรโวหาร และเจาฟา ชายปว เจา อยหู วั ดงั นน้ั สุนทรภูไ ดรับ ของพระราชวังหลงั เปน กวที ่ปี รึกษา พระโอรสในเจาฟา แตง ตงั้ เปน เจา กรมอาลักษณ (สถานีรถไฟบางกอกนอย พระราชทานบานพกั ให กุณฑลทิพยวดี ฝา ยพระราชวังบวร ในปจ จบุ นั ) ทท่ี า ชา ง เมอื่ พ.ศ. ๒๓๕๙ ในราว พ.ศ. ๒๓๗๒ มบี รรดาศักด์ิเปน เพลงยาวถวายโอวาท พระสนุ ทรโวหาร นิราศพระบาท ขนุ ชางขนุ แผน ราว พ.ศ. ๒๓๙๔ นริ าศเมืองแกลง ตอนกําเนดิ โคบตุ ร พลายงาม ไ มปรากฏ ป ่ีทแนชัด Expand ๒๓๗๓ ๒๓๐๐ ๒๓๕๐ ๒๓๖๔ ๒๔๐๐ ๒๔๕๐ ชวงวัยเด็กไดเ รียน สุนทรภลู อบรักกับแมจ นั สวัสดริ ักษา ๒๓๗๑ ๒๓๙๘ สนุ ทรภสู ิ้นชีวติ ขณะอายไุ ด ๖๙ ป Evaluate ตรวจสอบผล หนงั สือกับพระทวี่ ดั นางขาหลวงในวงั ๒๓๗๕ ในราวป พ.ศ. ๒๓๙๘ ชีปะขาว (ศรสี ดุ าราม) ท้ังสองจงึ ตองโทษจําคุก นิราศภูเขาทอง ๒๓๘๐-๒๓๘๓ ไ มปรากฏ ปท่ีแนชัด เหเร่ืองโคบตุ ร มคี วามรูพอเปน เสมยี น แตเ มื่อกรมพระราชวงั หลัง นริ าศวัดเจาฟา ๒๓๘๕ ๒๓๘๔ ๒๓๘๓-๒๓๘๕ ไ มปรากฏป ่ทีแ น ัชด เหเรือ่ งกากี แตภายหลังไดห ันหนา เสด็จทวิ งคตจึงไดรบั การ เหจ ับระบาํ เขา สูโลกของการประพนั ธ อภยั โทษในป พ.ศ. ๒๓๔๙ นริ าศอเิ หนา เหเร่ืองพระอภัยมณี สภุ าษิตสอนสตรี พระไชยสรุ ิยา มีเหตใุ หต อ งติดคุก นิราศสุพรรณ เสภาเรอ่ื งพระราชพงศาวดาร (ยอ จากฉบบั นกั เรียน 20%) เพราะดมื่ สุราและ อาละวาด แตสุดทา ย รําพนั พิลาป อภัยนรุ าช ๓ชว งแผนดินรชั กาลท่ี ไดร ับพระราชอภยั โทษ นิราศพระประธม เม่ือมีโอกาสไดถวาย ไมปรากฏ ปที่แ น ัชด ๒๓๘๘-๒๓๙๒ เสน สญั ลกั ษณ สนุ ทรภไู ดร บั ความลาํ บากมาก กลอนตอ งพระราชหฤทยั ลกั ษณวงศ ผลงานประพนั ธ สันนษิ ฐานวา อยูในสมณเพศ สิงหไกรภพ ขอมูลทั่วไป ถึงสองครงั้ กลา วคือ พระอภยั มณี นริ าศเมืองเพชร มีชวงเวลาหน่ึงทล่ี ะสมณเพศ ออกมาทาํ การคาขายเลก็ ๆ นอยๆ และขายฝปากเลี้ยงชีพ

กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate ผลงานของสนุ ทรภสู่ ามารถแบง่ ออกเป็นประเภทต่างๆ ได ้ ดังนี้ อธิบายความรู ประเภทนริ ำศ จากที่นักเรียนไดสืบคนขอมูล ประวัติและผลงานของสุนทรภูมา •• นนริริ าาศศเพมรอื ะงบแากทลง แลว ใหนักเรียนยกตัวอยางผลงาน ••••• นนนนนรริรริริิิ าาาาาศศศศศอวภสพัดพุิเูเรหขเะรจานปร้าทาณรฟอะ้างธม บทประพนั ธข องสนุ ทรภปู ระเภทนริ าศ • นิราศเมอื งเพชร ท่ีนาสนใจ มา 1 บท พรอมบอกท่ีมา ประเภทนทิ ำน และลักษณะเดนของบทประพันธ ตัวอย่างผลงานของสุนทรภู่ ประกอบดว ย เขยี นบทประพนั ธท เ่ี ลอื ก ••• โสลคิกังบหษุตไณกรรวภงศพ์ ลงในสมดุ • กาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ า • พระอภยั มณี (แนวตอบ ตวั อยา งเชน • บทละครเรอ่ื งอภยั นรุ าช “เจาของตาลรกั หวานข้นึ ปน ตน ประเภทเบด็ เตลด็ ระวังตนตนี มอื ระมดั มั่น เหมือนคบคนคาํ หวานราํ คาญครัน • สวัสดริ กั ษา ถา พล้งั พลันเจบ็ อกเหมอื นตกตาล” • เพลงยาวถวายโอวาท • รา� พันพิลาป (นักวชิ าการบางท่านจัดไวใ้ นนริ าศ) (นริ าศพระบาท) • เสภาเรอ่ื งขุนช้างขุนแผน ตอนก�าเนดิ พลายงาม • เสภาเรอื่ งพระราชพงศาวดาร “ถงึ บางพดู พูดดีเปนศรศี กั ดิ์ • บทเหก่ ล่อมพระบรรทม มีคนรักรสถอยอรอ ยจติ แมนพูดชั่วตวั ตายทําลายมติ ร ในบรรดาผลงานของสุนทรภู่ ผลงานประเภทนิราศเป็นผลงานท่ีแสดงตัวตนของสุนทรภู่ได้ จะชอบผดิ ในมนษุ ยเพราะพูดจา” อย่างแจ่มชัด วรรณคดีประเภทนิราศสะท้อนให้เห็นลักษณะนิสัยส่วนตัวของสุนทรภู่ท่ีละเอียดอ่อน เมือ่ พบเหน็ สถานทีต่ ่างๆ จะเกดิ แรงบนั ดาลใจถ่ายทอดออกมาเป็นผลงาน เมือ่ ผ้อู ่านไดอ้ า่ นนิราศของ (นริ าศภเู ขาทอง) สนุ ทรภู่แล้วอาจรู้สึกได้ว่า “นิราศคอื ชวี ติ ของสุนทรภู”่ ชวี ิตทีต่ อ้ งพลดั พรากจากสงิ่ อันเปน็ ท่ีรกั น�ามา ซ่ึงความทุกข์ระทม การเดนิ ทางของสุนทรภ่ทู ีท่ �าให้เกิดผลงานสามารถสรปุ เป็นแผนภาพได ้ ดังนี้ “กระแสชลวนเช่ยี วเรอื เลย้ี วลด ดคู อ มคดขอบคงุ คงคาไหล 33 แตสาชลเจียวยงั วนเปน วงไป นห่ี รอื ใจทีจ่ ะตรงอยา สงกา” @ มุม IT (นิราศเมอื งแกลง) ศกึ ษาเพมิ่ เตมิ เก่ียวกับวรรณคดีสโมสร ไดที่ http://www.identity.opm.go.th/doc/nis04441.PDF ลักษณะเดนของบทประพันธท่ี ยกตัวอยา งนี้ สามารถสื่อความและ ถา ยทอดความหมายไดอ ยางลึกซึง้ นาํ ไปใชใ นชวี ติ ประจาํ วันไดแ ละมี ความไพเราะในการเลนคาํ ) นักเรียนควรรู กาพยพ ระไชยสรุ ิยา เปน แบบเรียน ต้ังแตสมัยรัชกาลที่ 3 จนถึงรัชกาล ท่ี 5 ปจ จบุ นั เปน บทสวดโอเ อว หิ ารราย อยทู ีศ่ าลารายรอบพระอโุ บสถ วัดพระศรีรตั นศาสดาราม ในชว ง เขาพรรษา คูมือครู 33

กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate อธิบายความรู นิราศสุพรรณ ผ ง เดินท งลจากากนาร (ยอจากฉบบั นักเรียน 20%) 1. ใหน ักเรียนจดั กลุม แตล ะกลุม ‘ ’ใครทมี่ ีชชู ู ชว ยคํ้าคาํ โคลง า เลือกผลงานของสนุ ทรภูม ากลมุ ละ 1 เรอ่ื ง นิราศเรือ่ งน้เี กดิ ขึน้ เมื่อครัง้ สนุ ทรภู นิราศพระบาท เดินทางไปเมืองสุพรรณบุรี ซึ่งใน 2. สง ตวั แทนกลมุ มาอธิบายผลงาน ชวงเวลาน้ันรกรางและเปล่ียว ‘โออ าลัยใจหายไมว ายหวง...ตามเสด็จ ของสนุ ทรภู พรอ มยกตวั อยา ง มาก โดยออกเดินทางโดยเรือ ’โดยแดนแสนกนั ดาร นมสั การ บทประพนั ธทเ่ี ดนนําเสนอ จากวัดเทพธิดารามไปตามคลอง หนาชัน้ เรยี น มหานาค โดยมีนายพัดและนายตาบ รอยบาทพระศาสดา ซงึ่ เปน บตุ รชาย และผตู ดิ ตามรว มเดนิ ทาง สนุ ทรภูเ ดินทางไปสระบุรี เพราะ 3. นักเรยี นและครรู วมกันคัดเลอื ก ไปดว ย นริ าศเรอ่ื งนเี้ ปน นริ าศเรอ่ื งเดยี วของ ตามเสด็จพระองคเจาปฐมวงศ ผลงานมาจัดปายนิเทศ สนุ ทรภูที่แตง ดวยโคลงสีส่ ภุ าพ ไปนมัสการพระพุทธบาทเม่ือ พ.ศ. 2350 ในฐานะมหาดเลก็ นักเรยี นควรรู นิราศพระประธม สุพรรณบุรี สระบุรี นิราศเมืองแกลง นครปฐม อยุธยา นริ าศเมอื งแกลง เปน นริ าศเรอ่ื งแรก ‘ ’แมน เปน ไมใ หพ ่นี เ้ี ปนนก ‘ ’ชนนอี ยศู รอี ยธุ ยา บดิ ามาอา งวา งอยกู ลางไพร ของสุนทรภูสันนิษฐานวาแตงในสมัย เพชรบุรี ระยอง สุนทรภเู ดินทางไปเมอื งแกลง จงั หวดั ระยอง เพอื่ ไปเย่ยี ม รัชกาลที่ 1 ประมาณ พ.ศ. 2350 ใหไ ดก กก่งิ ไมอยูไพรสณั ฑ บดิ า และอกี สาเหตเุ พอื่ ไปทาํ กจิ ธรุ ะใหเ จา นาย โดยเดนิ ทาง เมอื่ ครง้ั ทสี่ นุ ทรภเู ดนิ ทางไปเยย่ี มบดิ า ไปพรอ มกบั บรวิ าร คอื นายนอ ยและนายพมุ โดยมนี ายแสง ที่เมอื งแกลง จังหวดั ระยอง สมเดจ็ ฯ กรมพระยาดาํ รงราชานภุ าพทรงอธบิ ายวา เปน คนนําทาง เดินทางโดยเรอื แจวแบบมปี ระทุนใชเ วลา สนุ ทรภแู ตง ขณะอยใู นอปุ การะของพระบาทสมเดจ็ - ไปกลับ 3 เดอื น บเศูรรณษาฐกกาจิ รพอเพียง พระปน เกลา เจาอยหู ัว นกั เรยี นคดิ วา หากนกั เรียนตอง นริ าศเมอื งเพชร นิราศภูเขาทอง เดนิ ทางไปจงั หวัดระยองเชนเดียวกบั สุนทรภู นกั เรียนจะเลือกเดินทาง ‘ ’สาํ นวนนอกนา้ํ เพชรแลว เขด็ เขา ‘ ’รบั กฐินภิญโญโมทนา ชุลลี าลงเรอื เหลืออาลยั โดยใชเสนทางใด จงึ จะประหยดั คา ใชจา ยมากท่สี ุด ใหนักเรียน สุนทรภูแตงนิราศเร่ืองน้ีเพ่ือไปทําธุระให สมเดจ็ ฯ กรมพระยาดํารงราชานภุ าพทรงสันนิษฐานวา สุนทรภูแ ตง ขณะบวชเปน ภกิ ษอุ ยูท ่ี เขียนวางแผนเสนทางการเดินทาง เจานายพระองคหนึ่ง และเปนนิราศเร่ือง วดั ราชบูรณะ และไดเดินทางไปอยธุ ยา ทีน่ กั เรียนเลอื ก พรอมใหเ หตผุ ล สดุ ทายของสนุ ทรภู ประกอบใหชดั เจน ‘อนั อนิ นทิรราียวศบิ วัตัดอิ เนจตั าตาฟทา่ีปาชา นแ่ี หละเหมือนกับเรือนตาย’ สนุ ทรภแู ตงนิราศเรือ่ งนีข้ ณะบวชเปน ภกิ ษแุ ละเดินทางไปวดั เจาฟาท่ีอยุธยา ‘นริ าศอิเหนา และรําพันพลิ าป ‘ ’໹š ÇÃó¤´·Õ íҹͧ¹ÔÃÒÈ ‘ ’รําพันพิลาป ·Õèᵡµ‹Ò§¨Ò¡¹ÔÃÒÈàÃè×ͧ͹è× æ ¢Í§ÊØ¹·ÃÀ‹Ù เมื่อยามฝนนนั้ วานกึ น่งั ตรึกตรอง à¾ÃÒÐÊ¹Ø ·ÃÀ‹ÙäÁ‹ä´àŒ ´Ô¹·Ò§ä»Âѧʶҹ·ãèÕ ´ เดือนหงายสองแสงสวา งดังกลางวัน ᵋ䴌㪌»ÃÐʺ¡Òó¡ ÒÃà´¹Ô ·Ò§ เรอื่ งนเ้ี ปน นริ าศทต่ี งั้ ชอ่ื ตา งจากนริ าศเรอื่ งอน่ื ๆ นริ าศ นิราศอิเหนา เรื่องน้สี ุนทรภูไ ดแ ตง ขึน้ ตามความฝนของทาน ขณะครองเพศ เปนสมณะจําพรรษา ณ วัดเทพธิดาราม ซ่ึงทําใหผูอานได จะสวดมนตตน ถูกถงึ ผูกปลาย ทราบถึงความเปน ไปในชีวิตของสนุ ทรภู กก็ ลบั กลายเรอ่ื งราวเปน กลา วกลอน 㹤ÃÑ§é ·Õ¼è ‹Ò¹ÁҢͧµ¹ÁÒãªãŒ ¹¡Òà แตง ขน้ึ ในสมยั ร.3 ซึ่งสนุ ทรภเู ปน ฆราวาส ’´Òí à¹¹Ô àÃ×èͧµÒÁẺ สมเดจ็ ฯ กรมพระยาดาํ รงราชานภุ าพทรงสนั นษิ ฐาน ©ººÑ ¹ÔÃÒÈ วา คงจะแตงถวายพระเจาบรมวงศเธอ พระองคเจา- ลักขณานุคุณ ซ่ึงสุนทรภูพึ่งพระบารมีอยู สุนทรภูนําเรื่อง อเิ หนาตอนตดิ ตามนางบุษบาเม่ือถกู ลมหอบหายไปมาแตงเปนนริ าศอิเหนา 34 คมู ือครู

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate สา� หรบั กลอนนิทานเรอื่ งพระอภัยมณีนอกจากจะไดร้ ับการแปลเป็นภาษาต่างๆ ไปทว่ั โลกแลว้ อธิบายความรู ยังน�าไปสร้างเป็นละครพันทาง ภาพยนตร์และภาพยนตร์การ์ตูน เน่ืองจากมีลีลากลอนที่ไพเราะ เนื้อหาสนุกสนานและให้ข้อคิดคติธรรม สุนทรภู่ได้รับการยกย่องว่าเป็นกวีท่ีมีความสามารถในการ 1. ใหนกั เรียนดแู ผนผงั ลกั ษณะ แต่งกลอน เพราะกลอนของท่านมีเอกลักษณ์เด่นด้วยสัมผัส ท่านจึงเป็นกวีเอกของไทยที่ได้รับการ คําประพนั ธกลอนสุภาพ ครแู ละ ยกยอ่ งวา่ เปน็ กวเี อกของโลกจากองคก์ ารศกึ ษา วทิ ยาศาสตรแ์ ละวฒั นธรรมแหง่ สหประชาชาต ิ (United นกั เรยี นรว มกันอธิบายลกั ษณะ Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) หรอื องค์การยูเนสโก (UNESCO) ฉนั ทลักษณของกลอนสุภาพ ใหเ้ ปน็ บคุ คลสา� คญั ของโลกดา้ นงานวรรณกรรม เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๒๙ ในโอกาสครบรอบ ๒๐๐ ป ี ชาตกาล ครูเสรมิ เพมิ่ เติมและใหน กั เรยี น จดบนั ทึกแผนผงั ลกั ษณะ ๓ ลกั ษณะคÓประพนั ธ์ คําประพันธล งในสมดุ แผนผงั กลอนสภุ าพ เรื่องพระอภัยมณีเป็นกลอนนิทานท่ีประพันธ์ด้วยกลอนสุภาพที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ของสุนทรภ่ ู คอื แต่ละวรรคจะมสี มั ผสั ใน ท้ังสัมผัสสระและสมั ผัสอักษร ทา� ใหค้ �ากลอนมคี วามไพเราะ 2. ใหน ักเรยี นแสดงความคดิ เห็น ดังบทประพันธ์ ท่ีเร่ืองพระอภยั มณีแตง ดวย กลอนสภุ าพ พวกผพี รายสายสมทุ รผุดข้นึ ส้ิน บ้างแลบลน้ิ เหลอื กตาถลาถลัน (แนวตอบ คาํ ตอบไมมถี กู หรอื ผดิ ครูควรแนะนาํ วา เหน็ ดว ยเพราะ เสยี งโครมครามตามคลื่นเปน็ หม่ืนพนั ทะเลลั่นดังจะล่มถลม่ ทลาย การใชก ลอนนทิ านหรอื กลอนสภุ าพ ในการเลา เรอ่ื งจะชว ยใหก ารดาํ เนนิ สัมผัสสระในวรรคแรก (วรรคสดับ) คือ พราย-สาย สมทุ ร-ผุด สมั ผสั อกั ษร คอื พวก-ผี-ผดุ เรื่องมีความกระชับ ใชคํานอยแต กินความหมายมาก และมีความ สาย-สมุทร ไพเราะดวยสัมผัสสระและสัมผัส อักษร) สมั ผสั สระในวรรคสอง (วรรครับ) คอื ตา-ถลา สัมผสั อักษร คอื แลบ-ลนิ้ -เหลอื ก ถลา-ถลัน ขยายความเขา ใจ สมั ผสั สระในวรรคสาม (วรรครอง) คือ คราม-ตาม คลนื่ -หมน่ื สมั ผัสอักษร คือ โครม-คราม ใหน กั เรยี นแตง กลอนสภุ าพเกยี่ วกบั สัมผัสสระในวรรคส ่ี (วรรคส่ง) คอื ลม่ -ถล่ม สมั ผสั อักษร คือ เล-ลัน่ -ลม่ ทะเล-ถลม่ -ทลาย โรงเรยี นของเรา หรอื ครอบครวั ของฉนั จํานวน 2 บท สงครูผูส อน จะเห็นว่ากลอนนิทานของสุนทรภู่แพรวพราวด้วยสัมผัสในทั้งสัมผัสสระและสัมผัสอักษร จึงทา� ใหก้ ลอนมคี วามไพเราะจบั ใจผู้อา่ น และมผี กู้ ล่าวไว้ว่า “ในกระบวนแต่งกลอนสภุ าพนน้ั แต่กอ่ น มาไมไ่ ดถ้ อื เอาสมั ผสั ในเปน็ สา� คญั สนุ ทรภเู่ ปน็ ผเู้ รม่ิ เลน่ สมั ผสั ในขนึ้ เปน็ สา� คญั ในกระบวนกลอน เลยถอื เปน็ แบบอยา่ งกนั มาจนทกุ วนั น้ี นบั วา่ สนุ ทรภเู่ ปน็ ผชู้ กั นา� ใหก้ ลอนสภุ าพเพราะพรง้ิ ยง่ิ ขน้ึ อกี อยา่ งหนงึ่ ... ในบรรดาหนงั สอื บทกลอนทสี่ นุ ทรภไู่ ดแ้ ตง่ ไว้ ถา้ จะลองใหช้ ขี้ าดวา่ เรอื่ งไหนเปน็ ดกี วา่ เพอ่ื น กน็ า่ จะยตุ ิ ตอ้ งกนั โดยมากวา่ เรอ่ื งพระอภยั มณเี ปน็ ดที ส่ี ดุ เพราะเปน็ หนงั สอื เรอ่ื งยาว แตง่ ดที งั้ กลอน ทงั้ ความคดิ ทผี่ กู เรอ่ื ง” 35 คูมอื ครู 35

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate อธิบายความรู (ยอ จากฉบบั นักเรยี น 20%) 1. ใหนักเรียนศกึ ษาเรื่องยอ ๔ เรื่องยอ่ มาลวงหนา ท้าวสุทศั นก์ ษตั ริย์แหง่ เมอื งรตั นา โปรดให้โอรสทงั้ สองพระองค ์ พระองคโ์ ต คอื พระอภยั มณี 2. นักเรียนเลา เรอื่ งยอตอ กนั เปน พระองค์เล็ก คือ ศรีสุวรรณไปเรียนวิชาเพ่ือกลับมาปกครองบ้านเมือง แต่พระอภัยมณีกลับเลือก ชวงๆ โดยครูเลาขึน้ ตนกอ น เรียนวิชาเป่าปี่ ส่วนศรีสุวรรณเรียนวิชากระบี่กระบอง เม่ือกลับมาถึงบ้านเมือง พระบิดาทรงกริ้ว ครูพจิ ารณาวา นกั เรยี นคนใด เพราะเหน็ ว่าวิชาทเ่ี รยี นไมส่ ามารถใช้ประโยชนใ์ นการปกครองบ้านเมืองได ้ พระโอรสทง้ั สองพระองค์ ไดเ ตรียมพรอ มอานมาบาง จึงทรงถูกขับไล่ออกจากเมือง ทรงถอดเคร่ืองทรงออกแล้วแต่งพระองค์เยี่ยงสามัญชน เสด็จไปพบ ครใู หเ ลาสั้นๆ ตอ เน่อื งกัน พราหมณ์สามคนคือ วิเชยี ร โมราและสานน พราหมณท์ ั้งสามไม่เชอ่ื ในอทิ ธิพลของเพลงป ี่ จึงทูลขอ ให้พระอภยั มณเี ป่าป่ใี หฟ้ ัง พระอภยั มณีทรงเปา่ ป่พี รรณนาประโยชนข์ องดนตรใี ห้พราหมณท์ งั้ สามคน 3. เม่อื เลา จบเรือ่ งแลว ครูจัดกลมุ ฟงั เสยี งเพลงปีไ่ พเราะจบั ใจมาก พราหมณ์ท้งั สามคนและศรีสุวรรณจึงเคลม้ิ หลับไป สรปุ เร่อื งยอใหชัดเจนมากขึ้น เสียงเพลงปี่ลอยตามลมไปไกลท�าให้นางผีเสื้อสมุทรซ่ึงหากินอยู่กลางทะเลได้ยิน และตาม โดยเขยี นเปน แผนผงั ความคิด เสยี งเพลงมาจงึ เหน็ เจา้ ชายหนมุ่ รปู งามทรงนง่ั เปา่ ปอ่ี ย ู่ นางผเี สอ้ื สมทุ รหลงรกั พระอภยั มณที นั ท ี จงึ จโู่ จม จบั ตวั พระอภยั มณแี ลว้ พาไปอยใู่ นถา้� ทเ่ี กาะกลางทะเลอนั เปน็ ทอ่ี ยขู่ องนาง พระอภยั มณตี กพระทยั สลบ ขยายความเขาใจ ไป เมอื่ ทรงฟน้ื ขนึ้ มากท็ รงรพู้ ระองคว์ า่ อยใู่ นถา้� พระอนชุ าและพระสหายทงั้ สามกห็ ายไป นางผเี สอ้ื สมทุ ร แปลงกายเปน็ หญงิ สาวสวยงามมาพดู จาเกย้ี วพระอภยั มณ ี ซง่ึ พระอภยั มณที รงรไู้ ดท้ นั ทวี า่ นางเปน็ ยกั ษ์ จากเรอ่ื งยอ ทน่ี กั เรยี นอา นและสรปุ แปลงกายมาเพราะดวงตาไมม่ แี ววและทรงรวู้ า่ หากขดั ขนื อาจสนิ้ พระชนม ์ จงึ ตอ้ งจา� พระทยั อยกู่ บั นาง เปนแผนผงั ความคดิ จนกระท่ังนางผีเส้อื สมุทรมีบตุ รกบั พระอภัยมณพี ระองคห์ นง่ึ ชอื่ สินสมทุ ร มหี นา้ ตาคลา้ ยพระอภัยมณ ี แต่มีเขี้ยว ตาแดงฉานและมีก�าลังมากเหมือนนางผีเส้ือสมุทร แต่รูปร่างเป็นมนุษย์ ร่างกายแข็งแรง • นกั เรียนคิดวาสุนทรภไู ดรับ วา่ ยนา�้ เกง่ พระอภยั มณที รงดแู ลเอาพระทยั ใสอ่ บรมและสง่ั สอนเพลงอาวธุ ตา่ งๆ และสอนวชิ าเปา่ ปใ่ี ห้ อทิ ธิพลใดบางทส่ี ง ผลตอ วันหน่ึงเม่ือนางผีเส้ือสมุทรออกไปหากิน นางน�าหินก้อนใหญ่ปิดปากประตูถ้�าไว้ เม่ือนาง การประพันธเ รอื่ งพระอภยั มณี ไปแล้วสินสมุทรเห็นพระบิดาหลับจึงผลักก้อนหินออกแล้วไปว่ายน�้าเล่น จับเงือกได้จึงน�ามาถวาย (แนวตอบ ตอบไดห ลากหลาย เชน พระอภัยมณีทอดพระเนตร เงือกนา้� อ้อนวอนขอชีวติ และขอรบั ใช ้ ถา้ ตอ้ งการสิ่งใดในน้�าจะน�ามาถวาย 1. จากประวัตศิ าสตรไ ทยและ พระอภัยมณีทรงขอให้เงือกพาหนีจากนางผีเสื้อสมุทร พ่อแม่เงือกและลูกสาวนัดหมายจะพาพระ- ตางประเทศ อภยั มณีหนไี ปอยทู่ เ่ี กาะแก้วพิสดาร โดยใหพ้ ระอภยั มณีทรงวางแผนลวงนางผีเส้อื สมุทร 2. จากจนิ ตนาการของกวีที่มัก คืนน้ันนางผีเส้ือสมุทรฝันว่าเทวดาท่ีรักษาเกาะมาท�าลายถ้�าของนาง เอาพะเนินมาทุบตีนาง คาดการณเรือ่ งตา งๆ แล้วควักดวงตาของนางไป คร้ันต่ืนข้ึนนางจึงเล่าความฝันให้พระอภัยมณีฟัง พระอภัยมณีทรงเห็นว่า ในอนาคต เปน็ โอกาสทจ่ี ะหน ี จงึ บอกวา่ นางมเี คราะหต์ อ้ งไปถอื ศลี อดอาหารอยคู่ นเดยี วทต่ี นี เขาเปน็ เวลาสามวนั 3. กวบี ันทกึ ความคิด ความเชอ่ื จึงจะพ้นเคราะห์ นางผีเสื้อสมุทรเชื่อและปฏิบัติตาม จากนั้นครอบครัวเงือกก็พาพระอภัยมณีและ ระเบียบ ประเพณีและ สินสมุทรหนีไปเกาะแก้วพิสดาร เม่ือนางผีเส้ือสมุทรกลับมาไม่พบสามีและบุตรจึงแน่ใจว่าทั้งสองหนี วัฒนธรรมไทยไวมากมาย ไปแล้ว จงึ ตดิ ตามไปด้วยความคัง่ แคน้ 4. เรื่องราวชวี ิตจรงิ ของกวเี อง) 36 36 คมู อื ครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate พระอภัยมณีทรงแน่พระทัยรู้ว่านางผีเส้ือสมุทรตามมา ทรงเกรงว่าผู้อื่นจะได้รับอันตราย กระตุนความสนใจ จึงบอกเงือกให้ปล่อยพระองค์ส้ินพระชนม์เพียงผู้เดียว แต่สินสมุทรบอกให้เงือกพาพระบิดาล่วงหน้า ไปก่อน แล้วจึงหลอกล่อนางผีเสื้อสมุทรให้ตามไปอีกทิศหน่ึง จากน้ันสินสมุทรจึงแอบว่ายน�้าตาม ครูกระตุน ความสนใจโดยให พระบดิ าไป ครั้นนางผีเส้ือสมุทรรู้ตัวจึงติดตามไปอยา่ งไมล่ ดละ พอ่ แมเ่ งอื กเหน็ ว่านางผีเสอื้ สมุทรจะ นักเรียนจนิ ตนาการตามบทประพันธ ตามมาทันจึงให้ลูกสาวพาพระอภัยมณีรบี หนีไปโดยเรว็ ส่วนพ่อแม่เงือกยอมสละชีวิตโดยทา� ทีอ่อนล้า ตอไปนี้ ยอมให้นางผีเสื้อสมุทรจับและหลอกลวงให้นางผีเสอื้ สมุทรไปอีกทางหนึ่ง นางผีเสอื้ สมทุ รโกรธมากจึง ...ไมค ลาดเคลอ่ื นเหมอื นองคพ ระทรงเดช ฆา่ พอ่ แมเ่ งอื กแลว้ ตดิ ตามไปอกี จนกระทงั่ เงอื กสาวพาพระอภยั มณแี ละสนิ สมทุ รมาถงึ เกาะแกว้ พสิ ดาร แตด วงเนตรแดงดูดงั สุริยฉาย พระฤๅษรี ไู้ ดด้ ว้ ยฌานวา่ จะมผี หู้ นนี างผเี สอื้ สมทุ รมาพงึ่ พา ทา่ นจงึ คอยรบั และรา่ ยมนตรป์ อ้ งกนั ทรงกาํ ลงั ดังพระยาคชาพลาย ไมใ่ หน้ างผเี สอ้ื สมทุ รเขา้ ใกลเ้ กาะ นางจงึ ออ้ นวอนใหพ้ ระอภยั มณกี ลบั มาอยกู่ บั นาง และดา่ วา่ เงอื กสาว มีเขย้ี วคลายชนนีมศี กั ดา ดว้ ยความหงึ หวง พระฤๅษเี ตอื นใหน้ างกลบั ไปอยทู่ ถ่ี า�้ ตามเดมิ ดว้ ยความโกรธนางผเี สอ้ื สมทุ รจงึ กา้ วรา้ ว กล่าวร้ายพระฤๅษี พระฤๅษีจึงเสกทรายขว้างไปท�าให้นางเจ็บปวดจ�าต้องหลบไป แต่ก็ยังวนเวียนอยู่ ครถู ามนักเรียนวา ไม่หา่ งจากเกาะ • บทประพนั ธน ก้ี อ ใหเ กดิ จนิ ตภาพ เนอ้ื หาทผ่ี เู้ รยี นจะไดเ้ รยี นตอ่ ไปนเ้ี ปน็ รายละเอยี ดของเนอ้ื เรอื่ งพระอภยั มณ ี ตอนพระอภยั มณี หนีนางผีเส้ือ เน้ือเรื่องมีความต่ืนเต้น มีบทโศกเศร้าคร�่าครวญ บทโกรธ บทพรรณนา บทหึงหวง อะไรบาง บทเกรยี้ วกราด ครบทุกรส เปน็ เรอื่ งราวทสี่ นุกสนานน่าตดิ ตามจากหนงั สือพระอภยั มณฉี บับสมบูรณ ์ • จากจนิ ตภาพนกั เรียนคดิ วา สว่ นที่ตัดตอนมาใหเ้ รียนเป็นเนือ้ หาตอนท่ี ๙ ดังตอ่ ไปนี ้ เปน ตวั ละครใดในเรอ่ื ง ๕ เนอ้ื เร่อื ง สาํ รวจคน หา จะกลา่ วกลบั จบั ความไปตามเรื่อง ถงึ บาทเบื้องปรเมศพระเชษฐา องคอ์ ภยั มณศี รีโสภา ตกยากอยคู่ ูหามาชา้ นาน ใหน ักเรียนศึกษาดวู ามีตวั ละคร กับดว้ ยนางอสรุ ีนีรมติ เปน็ คชู่ ดิ เชยชมสมสมาน ใดบางในเรอ่ื งพระอภัยมณี ต้องรักใคร่ไปตามยามกันดาร จนนางมารมบี ุตรบรุ ุษชาย ตอนพระอภยั มณีหนีนางผเี ส้ือ ไมค่ ลาดเคลือ่ นเหมอื นองคพ์ ระทรงเดช แต่ดวงเนตรแดงดูดังสุริยฉ์ าย ทรงก�าลงั ดงั พระยาคชาพลาย มเี ขีย้ วคลา้ ยชนนีมศี กั ดา อธิบายความรู พระบติ ุรงค์ทรงศกั ด์กิ ร็ ักใคร่ ดว้ ยเนือ้ ไขมไิ ดค้ ิดรษิ ยา เฝ้าเล้ยี งลกู ผกู เปลแล้วเหช่ ้า จนใหญก่ ล้าอายไุ ด้แปดปี 1. แบง นกั เรยี นเปนกลุม แตล ะกลมุ จึงให้นามตามอย่างข้างมนุษย ์ ชือ่ สินสมทุ รกมุ ารชาญชยั ศรี รวมกนั คดั เลือกตัวละครสําคญั ธา� มรงค์ทรงมาคา่ บรุ ี พระภูมถี อดผูกใหล้ ูกยา จากเร่อื งพระอภยั มณี ไดแก เจยี ระบาดคาดองค์กท็ รงเปลื้อง ให้เปน็ เคร่อื งนุ่งห่มโอรสา • พระอภยั มณี • นางผีเสอื้ สมุทร • นางเงอื ก • สนิ สมทุ ร • พระฤๅษี จากนนั้ สง ตวั แทนจบั สลากตวั ละคร 2. พิจารณารูปลักษณของตัวละครที่ จบั สลากได สงตัวแทนมานําเสนอ นักเรียนควรรู 37 นักเรียนควรรู บรุ ี เปน คาํ ในบทประพนั ธท มี่ คี วามหมายวา เมอื ง สุริย มีความหมายวา พระอาทิตย เชน คําวา ธานี ธานิน ธานนิ ทร นคร นคเรศ นครา เชน ตะวนั ภากร ภาสกร ภาณุ ไถง รวิ นัครา บุรนิ ทร บุระ บุรี พารา สรุก เปนตน รวี รพิ รพี รงั สมิ า สรุ ะ สรุ ยิ ะ สรุ ยี  สรุ ยิ ง สรุ ยิ า สุริยน สุรโิ ย อังศมุ าลี เปนตน คูม ือครู 37

กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate อธบิ ายความรู (ยอจากฉบบั นักเรยี น 20%) 1. ใหนักเรียนแบงกลุม แตละกลุม สอนใหเ้ จ้าเปา่ ป่มี วี ชิ า เพลงศาสตราสารพดั หัดช�านาญ อานบทประพันธท่ีสนใจตั้งแตหนา วันหนึง่ นางอสรุ ผี ีเสอื้ นา้� ออกจากถ�้าเทยี่ วหาภกั ษาหาร 38-40 และรวมกันทําความเขาใจ จบั กระโห้โลมากมุ ภาพาล กนิ สา� ราญร่นื เริงบนั เทิงใจ เพ่ือแลกเปล่ียนความคิดเห็นกันใน กลุม ฝา่ ยกุมารสนิ สมทุ รสุดสวาท ไม่ห่างบาทบดิ าอัชฌาสัย ความรักพอ่ ยง่ิ กว่าแม่มาแต่ไร ดว้ ยมิได้ขเู่ ขญ็ เช่นมารดา 2. สงตัวแทนแตละกลุมออกมารวม เหน็ ทรงธรรม์บรรทมสนทิ นิ่ง หนีไปวิ่งเลน่ อย่ใู นคูหา อภิปรายบทประพันธท่ีอาน สรุป โลดล�าพองลองเชิงละเลงิ มา เห็นแผน่ ผาพงิ ผนดิ ปิดหนทาง เปน เรื่องยอนําเสนอหนา ช้ันเรียน หนกั หรือเบาเยาว์อยไู่ มร่ จู้ กั เข้าลองผลักด้วยกา� ลงั ก็พังผาง เห็นหาดทรายพรายงามเปน็ เงนิ ราง ทะเลกวา้ งขา้ งขวาล้วนป่าดง เกร็ดแนะครู ไม่เคยเหน็ เป็นนา่ สนุกสนาน พระกมุ ารเพลนิ จติ พิศวง ออกว่งิ เตน้ เล่นทรายสบายองค์ แล้วโดดลงเล่นมหาชลาลัย คาํ ไวพจนเปนคาํ ทเ่ี ขียนตา งกนั ด้วยหนอ่ นาถชาตเิ ช้ือผเี สือ้ สมุทร ดา� ไม่ผุดเลยทัง้ วันก็กลนั้ ได้ แตม คี วามหมายเหมอื นกนั คาํ ไวพจน ย่ิงถูกน้�าก�าลังย่ิงเกรียงไกร เท่ียวเลีย้ วไล่ขี่ปลาในสาชล เปนภูมิปญญาทางภาษา เพ่ือใหมีคํา ระลอกซดั พลดั เข้าในปากฉลาม ลอดออกตามซกี เหงือกเสอื กสลน ใชม ากขน้ึ ในการแตง คาํ ประพนั ธ โดย เห็นฝูงเงอื กเกลือกกล้งิ มากลางชล คิดว่าคนมีหางเหมือนอยา่ งปลา ใหคําลงสัมผัสและส่ือความหมายได คร้ันถามไถไ่ มพ่ ูดกโ็ ผนจับ ดกู ลอกกลบั กลางนา้� ปลา�้ มัจฉา ตามท่ีตองการ คร้นั จับได้ให้ระแวงแคลงวญิ ญาณ ์ เช่นนี้ปลาหรอื อะไรจะใคร่รู้ ฉดุ กระชากลากหางขน้ึ กลางหาด แลประหลาดลักษณามีตาหู นกั เรยี นควรรู จะเอาไปใหพ้ ระบดิ าดู แล้วลากลเู่ ข้าในถา้� ด้วยกา� ลงั ถงึ หบุ หอ้ งร้องบอกบิตเุ รศ พระลืมเนตรเหลียวหาท้งั หน้าหลงั ภักษาหาร มาจาก ภกั ษ + อาหาร เห็นลกู ลากเงอื กน�้าแตล่ า� พงั จากบัลลงั กม์ าหา้ มแลว้ ถามไป เปน การสรา งคาํ สมาสอยางมีสนธิ เมื่อก้เี หน็ เลน่ อย่ใู นคหู า เงอื กนี้เจา้ เอามาแตข่ า้ งไหน พระลกู เล่าตามจริงทกุ ส่งิ ไป พระตกใจจงึ วา่ ด้วยปรานี นกั เรียนควรรู แมน้ แม่เจา้ เขาร้วู ่าแรงนัก กลัวจะลกั ลอบพาบิดาหนี จะโกรธเกร้ียวเค้ียวเล่นเปน็ ธุลี ไมพ่ อทีช่ วี นั จะบรรลัย ชลาลัย เปนคําท่ีมีความหมายวา แมน้ํา เชน คงคา ชล ชลาศัย ชลธาร สนิ สมุทรกมุ ารชาญฉลาด ฟังพระบาทบติ รุ งคใ์ หส้ งสยั ชลธี ชลธศิ ชโลทร ชลัมพุ ธาร ธารา จึงทลู ถามความจริงด้วยกร่ิงใจ เหตไุ ฉนจึงจะเปน็ ไปเชน่ นั้น นที วารี สาชล สาคร สนิ ธุ นรี ทก เนยี ร เปน ตน พระฟงั คา� น�้าเนตรลงพรากพราก คิดถึงยากยามวโิ ยคยง่ิ โศกศลั ย์ แถลงเลา่ ลกู ยาสารพัน จนพากนั มาบรรทมที่รม่ ไทร 38 38 คูมอื ครู

กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate แมข่ องเจา้ เขาเป็นเชื้อผีเส้อื สมทุ ร ขึ้นไปฉดุ ฉวยบดิ าลงมาได้ อธิบายความรู จึงกา� เนิดเกิดกายสายสุดใจ จนเจา้ ไดแ้ ปดปเี ขา้ นี่แล้ว ไปเปดิ ประตคู หู าถ้าเขาเหน็ ตายหรอื เปน็ ว่าไมถ่ กู เลยลูกแกว้ จากบทประพนั ธต อ ไปน้ี แมน้ สนิ สมุทรสดุ สวาทพ่อคลาดแคลว้ ไมร่ อดแล้วบติ ุรงค์กค็ งตาย “ฝายเงือกน้ําคํานับอภวิ าท พระโอรสรูแ้ จ้งไมแ่ คลงจติ รา� คาญคิดเสียใจมใิ ครห่ าย ขา พระบาททราบสน้ิ ทกุ ถิน่ ฐาน ด้วยแม่กลบั อัปลักษณเ์ ปน็ ยกั ษร์ า้ ย กฟ็ มู ฟายชลนาโศกาลยั อันนา้ํ น้ีมีนามตามบรุ าณ อโนมานเคยี งกันสที นั ดร” ฝ่ายเงอื กน�้านอนกลง้ิ นิ่งสดับ กิตติศพั ทส์ องแจ้งแถลงไข สะทอนใหเห็นคุณคา ดานสงั คม รภู้ าษามนุษยแ์ นใ่ นใจ จะกราบไหวว้ อนว่าใหป้ รานี และวิถไี ทยอยางไร ค่อยเขยื้อนเล่ือนลกุ ขน้ึ ทั้งเจบ็ ยงั มนึ เหน็บน้อมประณตบทศรี (แนวตอบสะทอ นใหเ หน็ ความสาํ คญั พระผ่านเกล้าเจ้าฟา้ ในธาตร ี ขา้ ขอชวี ติ ไวอ้ ยา่ ให้ตาย ของการไหว เปน คณุ คา ทางวฒั นธรรม พระราชบุตรฉดุ ลากลา� บากเหลือ ดังหนงั เนือ้ นี้จะแยกแตกสลาย ของไทยและเปนมรดกของชาติ) ทั้งลกู เต้าเผ่าพงศ์กพ็ ลดั พราย ยังแต่กายเกอื บจะดนิ้ สน้ิ ชีวนั พระองคเ์ ลา่ เขาก็พาเอามาไว้ เศร้าพระทยั ทกุ ขต์ รอมเหมอื นหม่อมฉัน เกร็ดแนะครู ขอพระองค์จงโปรดแกโ้ ทษทัณฑ ์ ชว่ ยผ่อนผันให้ตลอดรอดชวี า ซงึ่ ปากถ้า� ท�าลายลงเสยี หมด ใหโ้ อรสยกต้ังบงั คหู า ครูเพ่ิมเติมความรูความสําคัญของ ข้าเห็นอย่างนางมารจะนานมา จะอาสาเกล่ียทรายเสียใหด้ ี การมีสัมมาคารวะ การไหวที่มี หนึง่ พวกพ้องของขา้ คณาญาต ิ ขอรองบาทบงกชบทศรี เอกลกั ษณใ นลักษณะตา งๆ เชน การ แมน้ ประสงคส์ ่ิงไรในนท ี ท่สี ิง่ มจี ะเอามาสารพัน ไหวญาติผูใหญ การไหวพระ เปนตน โดยครูใหนักเรียนรวมกันสาธิตการ พระฟงั เงือกพดู ไดใ้ หส้ งสาร จงึ ว่าท่านคดิ นี้ดีขยนั ไหวแบบตางๆ รเู้ จรจาสารพัดนา่ อัศจรรย์ อย่พู ดู กนั อีกสักหนอ่ ยจึงค่อยไป เราตรองตรกึ นึกจะหนีนางผีเสอ้ื แตใ่ ต้เหนือไมร่ ู้แหง่ ต�าแหน่งไหน นักเรียนควรรู ท่านเจนทางกลางทะเลคะเนใจ ท�ากระไรจึงจะพน้ ทนทรมาน ธาตรี เปนคําท่ีมีความหมายวา ฝ่ายเงือกน�้าคา� นบั อภิวาท ข้าพระบาททราบสิ้นทุกถิน่ ฐาน แผน ดนิ เชน ธาษตรี ปฐพี ปฐวี ปถวี อันนา้� นี้มีนามตามบุราณ อโนมานเคียงกันสีทันดร ปถพี ไผท พสุธา ภพ ภูวดล วสุธา เปน็ เขตแคว้นแดนที่นางผีเส้ือ ข้างฝ่ายเหนือถึงมหงิ ษะสิงขร เมทินี เปนตน ข้างทิศใตไ้ ปจนเกาะแกว้ มังกร หนทางจรเจ็ดเดือนไมเ่ คลือ่ นคลา ไปกลางยา่ นบ้านเรอื นหามีไม ่ สมทุ รไทซ้งึ ซึกลึกนกั หนา นักเรียนควรรู แตส่ า� เภาชาวเกาะเมืองลังกา เขาแลน่ มามบี ้างอยลู่ างปี ถ้าเสยี เรอื เหลอื คนแล้วนางเงอื ก ขึ้นมาเลอื กเอาไปชมประสมศรี ลางป เปน คาํ โบราณมกั มปี รากฏใน บทประพันธ ปจจุบันใชคําวา “บางป” 39 คูม อื ครู 39

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate อธบิ ายความรู (ยอจากฉบับนกั เรียน 20%) ครแู ละนกั เรยี นอภปิ รายความหมาย เหมือนพวกพอ้ งของขา้ รพู้ าที ดว้ ยเดิมทปี ยู่ า่ เปน็ มานุษย์ ของคําราชาศัพท จากเรื่องพระอภัย- อายขุ า้ ห้ารอ้ ยแปดสบิ เศษ จงึ แจง้ เหตุแถวทางกลางสมุทร มณีตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเส้ือ แม้นจะหนีผีเสอ้ื ด้วยแรงรทุ ร เห็นไมส่ ดุ สน้ิ แดนดว้ ยแสนไกล เชน บิตุรงค บรรทม ตักษัย อาสัญ แตโ่ ยคีมมี นตร์อยตู่ นหนึ่ง อายุถงึ พันเศษถือเพทไสย พระโอรส นัดดา ภัสดา ชนก เนตร อยเู่ กาะแกว้ พิสดารสา� ราญใจ กินลูกไมเ้ ผอื กมันเป็นพรรณผลา เปนตน และใหนักเรียนเขียนความ พวกเรือแตกแขกฝรงั่ แลองั กฤษ ข้ึนเปน็ ศษิ ยอ์ ยสู่ า� นักนั้นหนักหนา หมายของคาํ ราชาศพั ทล งในสมุด ดว้ ยโยคมี มี นตรด์ ลวชิ า ปราบบรรดาภตู พรายไมก่ รายไป แม้นพระองคท์ รงฤทธิจ์ ะคดิ หนี ถงึ โยคเี ข้าสา� นกั ไมต่ กั ษัย นักเรียนควรรู เผื่อส�าเภาเขาซัดพลดั เข้าไป ก็จะได้โดยสารไปบา้ นเมอื ง แตท่ างไกลไม่น้อยถึงรอ้ ยโยชน์ ลว้ นเขาโขดคริ รี ตั น์ขนดั เนื่อง พฤกษาหาร มาจากคาํ วา กลางคงคาสารพัดจะขัดเคือง จงทราบเบือ้ งบงกชบทมาลย์ พฤกษ + อาหาร เปน การสรา งคาํ สมาส แม้นก�าลังดงั ข้าจะพาหนี เจ็ดราตรีเจยี วจึงจะถงึ สถาน อยางมีสนธิ อสรุ ีมกี า� ลังดงั ปลาวาฬ ตามประมาณสามวันจะทันตัว ถ้าแกไ้ ขให้นางไปคา้ งป่า ได้ล่วงหนา้ ไปเสียบ้างจะยงั ชั่ว จะอาสาพาไปมไิ ดก้ ลวั ชวี ติ ตวั บรรลัยไม่เสยี ดาย แต่พระองคท์ รงคดิ ใหร้ อบคอบ ถ้าเห็นชอบทว่ งทจี ะหนีหาย จงึ โปรดใช้ให้องค์พระลูกชาย ไปหาดทรายหาขา้ จะมาฟงั พระแจ้งความตามค�าเงือกน้�าเลา่ ค่อยบรรเทาทกุ ขส์ มอารมณ์หวัง จงึ วา่ พ่ีมคี ุณนอ้ งสกั ครั้ง ให้ไดด้ งั ถ้อยคา� ทรี่ า� พนั ซ่ึงลกู รักหกั หาญใหท้ า่ นโกรธ จงงดโทษทา� คุณอย่าหุนหัน ช่วยไปปิดปากถา้� ทีส่ �าคัญ จวนสายณั หย์ ักษม์ าจะวา่ เรา จึงบญั ชาว่าเจา้ สินสมทุ ร ไปช่วยฉดุ ศลิ าใหญข่ ึ้นให้เขา ขอสมาตาปอู่ ยา่ ดูเบา ช่วยอุ้มเอาแกออกไปใหส้ บาย กบั ลกู น้อยค่อยพยุงจูงเงือกนา้� มาปากถา�้ แลเหน็ วนชลสาย หวนรา� ลึกตรกึ ตรองถึงน้องชาย พระฟมู ฟายชลนาด้วยอาลัย แล้วให้ลกู เลิกศลิ าเข้ามาปิด เหน็ มิดชิดมนั่ คงไมส่ งสัย พระกลับมาตาเงือกเสอื กลงไป ลงทใ่ี นวังวนชลธาร ฝ่ายผีเสื้อเมอ่ื ขนึ้ จากฝ่งั น้�า จะมาถ�้าเท่ยี วหาพฤกษาหาร เก็บลูกไมใ้ ส่ห่อเห็นพอการ ทัง้ เปรีย้ วหวานสารพัดแลว้ ลดั มา 40 40 คูมอื ครู

กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate เหน็ หินปดิ เปิดประตคู ูหากว้าง นมิ ิตอยา่ งนางมนุษย์เสนหา อธิบายความรู วรพักตรน์ ารีศรโี สภา ลีลามาเขา้ ในห้องเหน็ สององค์ วางลูกไมใ้ นหอ่ ให้ลกู ผัว ทอ้ งของตวั เต็มท้องไม่ต้องประสงค์ ใหนักเรียนรวมกันอภปิ รายวา พระทรงเลือกลกู มะซางปรางมะยง ประทานองคโ์ อรสสอู้ ดออม • ทาํ ไมพระอภยั มณตี อ งหนนี างผเี สอื้ คร้ันพลบค่า� ทา� รักนางยกั ษร์ า้ ย ประคองกายกอดแอบแนบถนอม ชืน่ แต่หน้าอารมณ์นน้ั กรมกรอม แต่คดิ อา่ นหวา่ นลอ้ มจะลอ่ ลวง สมุทร โดยศึกษาตั้งแตหนา 37 ไมเ่ หน็ ชอ่ งตรองตรึกนึกวิตก ทกุ ข์ในอกนั้นสกั เท่าภเู ขาหลวง จนถงึ หนา 41 พระกอดลกู นอ้ ยประทับไว้กบั ทรวง ใหเ้ หงาง่วงงบี หลบั ระงบั ไป (แนวตอบ แสดงความคิดเห็นได หลากหลาย เชน นางผีเส้ือสมุทร ฝ่ายผีเสือ้ เมื่อจะจากพรากลกู ผวั แตพ่ ลิกตวั กล้งิ กลับไมห่ ลับใหล ลักพาตัวพระอภัยมณีมาอยูดวย ใหห้ มกมนุ่ ขนุ่ คลา้� ในนา�้ ใจ จนเสียงไก่แกว้ ขนั สนั่นเนนิ กักขังไวในถ้ํา และพระอภัยมณี พอม่อยหลบั กลับจติ นิมิตฝนั วา่ เทวญั อยูท่ ่เี กาะน้ันเหาะเหิน ก็รูวานางผีเส้ือสมุทรเปนยักษจึง มาสงั หารผลาญถ้า� ระยา� เยนิ แกว่งพะเนินทุบนางแทบวางวาย อยากหนีไป ท้ังน้ีความแตกตางใน แลว้ อารกั ษ์ควกั ลว้ งเอาดวงเนตร สา� แดงเดชเหาะกลบั ไปลับหาย ดานเช้ือพันธุและส่ิงแวดลอม การ ทัง้ กายสั่นพรนั่ ตัวด้วยกลัวตาย พอฟืน้ กายกพ็ อแจ้งแสงตะวัน ดํารงชีวิตก็มีสวนใหพระอภัยมณี จึงกม้ กราบบาทบงสพุ์ ระทรงศักด ิ์ แลว้ นางยักษเ์ ล่าตามเนือ้ ความฝัน ตอ งการหนไี ปจากนางผเี สอื้ สมทุ ร) ไม่เคยเหน็ เป็นวิบัตอิ ัศจรรย ์ เชญิ ทรงธรรมช์ ่วยทา� นายร้ายหรือดี เกรด็ แนะครู พระฟงั นางพลางนึกคะนึงหมาย ซ่งึ ฝันรา้ ยกเ็ พราะจิตเราคิดหนี เหน็ จะไปไดต้ ลอดรอดชวี ี แตน่ างผีเส้อื นน้ั จะอนั ตราย ครูชใี้ หน กั เรียนเหน็ คณุ คา ดาน พอได้ช่องลองลวงดตู ามเลห่ ์ สมคะเนจะไดไ้ ปดังใจหมาย สังคมและสะทอนวถิ ไี ทยเก่ยี วกบั จึงกลา่ วแกล้งแสร้งเสเพทุบาย เจ้าฝนั ร้ายนกั น้องต้องตา� รา ความเชอ่ื เร่ืองความฝนและโชคลาง อนั เทวัญน้นั คอื มัจจุราช จะหมายมาดเอาชีวิตริษยา โดยเชื่อวา ความฝน เปนนมิ ติ ทอี่ าจ แลว้ เสแสร้งแกล้งทา� บีบน�้าตา อนจิ จาใจหายเจยี วสายใจ จะบอกเหตุลวงหนา ได จากนิทาน แม้นส้นิ สญู บญุ นางในปางนี ้ ไมม่ ที พี่ งึ่ พาจะอาศยั คํากลอนเรอ่ื งพระอภยั มณี จะกอดศพซบหนา้ โศกาลยั ระก�าใจกว่าจะมว้ ยไปดว้ ยกนั ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเส้อื นึกจะใครส่ ะเดาะพระเคราะห์เจ้า พอบรรเทาโทษาท่อี าสัญ เหมือนงอนง้อขอชีวติ แก่เทวญั กลัวแตข่ วัญเนตรพ่จี ะมทิ �า นักเรียนควรรู นางผเี สอื้ เช่ือถือร้อื ประณต พระทรงยศจงช่วยชุบอปุ ถัมภ์ โสภา เปนคาํ ทีม่ ีความหมายวา ตามตา� ราสารพัดไม่ขดั คา� ช่วยแนะนา� อนุกลู อยา่ สญู ใจ งาม เชน โสภณ วิไล ไฉไล ลาวัณย พะงา อะเคอื้ สิงคล้ิง กลอ งแกลง แนงนอย 41 คมู อื ครู 41

กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Expand Engage Explore Explain Evaluate ขยายความเขาใจ (ยอจากฉบบั นักเรยี น 20%) 1. ใหนักเรยี นยกคาํ ประพนั ธจาก พระฟังคา� สา� ราญส�าเร็จคดิ จึงว่าผิดสายสมรหาสอนไม่ หนา 42 ทสี่ ะทอ นความเชอ่ื เรือ่ ง ต�าราน้ันแต่คร้ังต้งั เมรไุ กร วา่ ถ้าใครฝันรา้ ยจะวายปราณ ลางบอกเหตุ ใหไ้ ปอยผู่ ูเ้ ดียวทีต่ นี เขา แลว้ อดขา้ วอดปลากระยาหาร (แนวตอบ เชน “ตํารานั้นแตครั้งต้ัง ถว้ นสามคนื สามวนั จะบันดาล ให้ส�าราญรอดตายสบายใจ เมรุไกร วาถาใครฝนรายจะวาย ปราณ” จากบทประพันธที่ยกมา ฝ่ายว่านางผเี สอ้ื ก็เชอ่ื ถอื คดิ ว่าซอ่ื สจุ ริตพสิ มยั เปน บทพดู ของพระอภยั มณีที่กลา ว จึงตอบวา่ ถา้ กระนั้นฉันจะไป อยูเ่ ขาใหญ่ในป่าพนาวนั กับนางผีเส้ือสมุทร ซ่ึงนางผีเส้ือ พระโฉมยงจงอยใู่ นคูหา เลี้ยงรักษาลูกน้อยคอยหมอ่ มฉัน สมุทรมีความเช่ือในเร่ืองความฝน จะอดใจให้เหมือนค�าที่รา� พนั ถ้วนสามวันก็จะมาอยา่ อาวรณ์ ลางบอกเหตุมาก จนยอมทําตาม แลว้ วันทาลาองค์พระทรงโฉม ปลอบประโลมลกู แก้วแล้วส่งั สอน คําแนะนําของพระอภยั มณี) อย่าแขง็ นกั รกั ตวั กลวั บิดร แมน้ ไมน่ อนมารดามาจะตี 2. ครถู ามนกั เรียนเกยี่ วกับเรือ่ ง สนิ สมทุ รสดุ แสนสงสารแม่ ด้วยรู้แน่ว่าบิดาจะพาหนี ความเชื่อลางบอกเหตุ ใหห้ ่วงหลังกังวลดว้ ยชนนี เจ้าโศกีกราบก้มบงั คมคัล • นักเรียนมีประสบการณที่ บิดาดูรแู้ จ้งจงึ แกล้งห้าม จะวอนตามเขาไปไยในไพรสัณฑ์ เกี่ยวขอ งกับเรอ่ื งลางบอกเหตุ อยเู่ ปา่ ปี่ตีเกราะเสนาะครนั แลว้ รับขวญั ลูกน้อยกลอยฤทยั หรอื ไม อยางไร (แนวตอบ ตอบไดห ลากหลาย นางผีเสอื้ เม่อื แรกกแ็ ปลกจติ ครั้นทรงฤทธ์ิปลอบลูกชายหายสงสยั ขึน้ อยกู บั ประสบการณข อง จึงรีบออกนอกคหู าแลว้ คลาไคล ไปเขาใหญใ่ นป่าพนาวัน นกั เรยี น) ฝา่ ยองคพ์ ระอภยั วไิ ลโฉม ปลอบประโลมลกู ชายจะผายผนั นักเรยี นควรรู จงึ หยิบป่ที เ่ี ปา่ เมือ่ คราวนนั้ เอาผา้ พนั ผกู ดีแลว้ ลีลา ให้ลกู รักผลักแผ่นศิลาลม้ สมอารมณ์รีบออกนอกคูหา บิดร เปนคําในภาษาไทยมีคําที่มี เลยี บลีลาศหาดทรายชายคงคา แลชลาลว้ นคลน่ื เสียงครน้ื โครม ความหมายวา พอ หลายคํา เชน ชนก ชนกิ บดิ า ปต ุ บติ รุ งค บติ เุ รศ เปน ตน ฝ่ายเงอื กน้า� สา� หรับทะเลลกึ ไมว่ ายนึกถงึ องคพ์ ระทรงโฉม พอแจม่ แจ้งแสงทองผ่องโพยม ปลอบประโลมลกู เมียเข้าเคลยี คลอ นกั เรยี นควรรู จะไปลอยคอยองคท์ รงสวัสดิ ์ ให้สมนดั ซ่ึงสัญญาเธอมาหนอ แล้วออกจากวนวงั ไม่รง้ั รอ คอ่ ยเคลื่อนคลายวา่ ยคลอกนั ไคลคลา ชนนี คําวา แม มีคาํ ทม่ี ีความหมาย พอเหน็ องค์ทรงยศโอรสราช อยชู่ ายหาดพร้อมกันกห็ รรษา เหมือนกันหลายคํา เชน ชนนี ชนิกา จึงชวนลูกสาวนัน้ กับภรรยา คลานขึน้ มาชายฝงั่ แล้วบังคม มาตา มาตุ มาตเุ รศ มาดา เปน ตน พงศก์ ษตั ริยท์ ศั นานางเงอื กนอ้ ย ดแู ช่มช้อยโฉมเฉลาทั้งเผา้ ผม ประไพพกั ตร์ลกั ษณล์ ้า� ลว้ นขา� คม ทัง้ เนือ้ นมนวลเปลง่ ออกเต่งทรวง 42 42 คูม อื ครู

กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate ขนงเนตรเกศกรอ่อนสะอาด ดังสรุ างค์นางนาฏในวังหลวง อธบิ ายความรู พระเพลนิ พศิ คดิ หมายเสยี ดายดวง แล้วหนักหนว่ งนึกทีจ่ ะหนีไป จงึ ตรัสวา่ ตาเงือกมาคอยรบั ชา่ งสมกบั วาจาจะหาไหน ครูใหนักเรียนแบงกลุมวิเคราะห เราลอ่ ลวงนางผีเสอื้ ก็เชอื่ ใจ เดยี๋ วนีไ้ ปแรมทางกลางอรัญ บทประพันธหนา 43 โดยวิเคราะห ช่วยเมตตาพาตรงไปส่งท ่ี พระโยคีมีเวทวิเศษขยัน คุณคาบทประพันธดานสังคมและ กลางคงคาปลารา้ ยกห็ ลายพรรณ จะปอ้ งกันภยั พาลประการใด วรรณศิลป จากเรื่องพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ พรอม เงือกผ้เู ฒ่าเคารพอภวิ าท ขอรองบาทบริรกั ษจ์ นตกั ษัย ยกตัวอยางบทประพนั ธ เสดจ็ ข้ึนทรงบา่ จะพาไป พระหน่อไทให้ข่ภี ริยา อันอา� นาจชาตเิ ชอ้ื ผเี สือ้ น�า้ ปลาไม่กล�า้ กรายกลัวทวั่ ทศิ า (แนวตอบ ดว้ ยกลน่ิ อายคล้ายท่านผมู้ ารดา เมื่อจับขา้ ขา้ จึงออ่ นหยอ่ นก�าลัง • คุณคาดา นสังคม เชน คานยิ ม สัตวใ์ นน�า้ จ�าแพ้แกผ่ เี สอื้ เปรียบเหมอื นเนือ้ เหน็ พยคั ฆใ์ ห้ชักหลงั อยา่ เกรงภยั ในชลท่วี นวงั ขึ้นนัง่ ยังบ่าขา้ จะพาไป ความมสี มั มาคารวะ คา นิยม ความกตญั ูรูค ุณและการ พงศก์ ษัตรยิ ต์ รัสชวนสนิ สมทุ ร สอนให้บตุ รขอสมาอชั ฌาสยั ตอบแทนพระคุณ ดงั ปรากฏ พระทรงบา่ เงือกน้า� งามวิไล พระหน่อไทขอสมาขึ้นบ่านาง ในบทประพนั ธ เงือกประคองสององค์ลงจากฝงั่ มกี �าลังลีลาศค่อยวาดหาง คอ่ ยฟูฟ่องล่องน�้าไปทา่ มกลาง ลูกสาวนางเงอื กงามตามลีลา “เงือกผเู ฒา เคารพอภวิ าท ขอรองบาทบริรกั ษจนตักษยั พระโฉมยงองคอ์ ภยั มณนี าถ เพลนิ ประพาสพศิ ดูหม่มู ัจฉา เสดจ็ ขึน้ ทรงบาจะพาไป เหลา่ ฉลามล้วนฉลามตามกนั มา คอ่ ยเคลอ่ื นคลาคล้ายคล้ายในสายชล พระหนอ ไทใหข ภี่ รยิ า” ฉนากอย่คู ฉู่ นากไมจ่ ากค ู่ ข้ึนฟ่องฟพู น่ ฟองละอองฝน • คุณคาดา นวรรณศิลป เชน การ ฝูงพมิ พาพาฝูงเข้าแฝงวน บ้างผดุ พน่ ฟองนา�้ บา้ งด�าจร เลอื กใชคําประพนั ธไ ดเหมาะสม กระโหเ้ รียงเคยี งกระโห้ขึน้ โบกหาง ลอยสลา้ งกลางกระแสแลสลอน กบั เรอื่ งเลา การเลน คาํ ทาํ ให มังกรเกี่ยวเลย้ี วลอดกอดมังกร ประชุมซ่อนแฝงชลข้นึ วนเวียน เกดิ ความไพเราะ เปน ตน ฝูงมา้ น�้าทา� ทา่ เหมือนมา้ เผ่น ขึน้ ลอยเล่นเล้ยี วลัดฉวดั เฉวียน ดังปรากฏในบทประพันธ ตะเพยี นทองทอ่ งน้า� น�าตะเพยี น ดาษเดียรดเู พลินจนเกินมา เหน็ ละเมาะเกาะเขาเขยี วชอมุ่ โขดตะคมุ่ เคยี งเคยี งเรยี งรกุ ขา “ฉนากอยคู ูฉนากไมจ ากคู จะเหลียวซ้ายสายสมทุ รสดุ สายตา จะแลขวาควันคล้มุ กล้มุ โพยม ข้ึนฟองฟพู น ฟองละอองฝน จะเหลียวดูสุรยิ แ์ สงเข้าแฝงเมฆ ให้วเิ วกหวาดองค์พระทรงโฉม ฝูงพิมพาพาฝูงเขาแฝงวน ฟังส�าเนียงเสียงคลนื่ ดังครื้นโครม ยงิ่ ทกุ ขโ์ ทมนัสในฤทัยทวี บางผุดพน ฟองน้ําบางดาํ จร”) 43 เกรด็ แนะครู ครูควรเสริมความรูในเรื่องคําพอง เสยี ง โดยยกตวั อยา ง คาํ วา “ประพาส” “ประภาษ” “ประพาต” ซ่ึงท้ัง 3 คํา อานออกเสียงเหมือนกัน แตความ หมายตางกัน คือ ประพาส มีความ หมายวา เท่ียวไป ประภาษ มีความ หมายวา พดู ประพาต มีความหมาย วา พดั กระพอื คมู อื ครู 43

กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate อธบิ ายความรู (ยอจากฉบับนกั เรยี น 20%) ใหน ักเรียนทําความเขา ใจจาก พอเยน็ ย่�าค�่าพลบลงโพล้เพล ้ ทอ้ งทะเลมืดมัวทวั่ วถิ ี บทประพนั ธห นา 44 พระหา้ มเงอื กสองราด้วยปรานี ประเด๋ียวนีล้ มกลา้ สลาตนั เห็นละเมาะเกาะใหญ่ทไี่ หนกว้าง หยดุ เสียบ้างให้สบายจงึ ผายผนั • นางผเี สื้อสมทุ รมลี ักษณะนสิ ัย เราหนีนางมาไดก้ ไ็ กลครัน ตอ่ กลางวนั จงึ ค่อยไปให้ส�าราญ อยา งไร (แนวตอบ นางผเี สื้อสมุทรมีนิสัย ตาเงอื กน้�าซา้� สอนพระทรงศกั ด ิ์ ยงั ใกล้นกั อยา่ ประมาททา� อาจหาญ โหดราย รกั สามมี ากกวาลกู ของ นางร้คู วามตามมาไม่ช้านาน จะพบพานพากนั ตายวายชวี ัน ตนเอง) อันตาข้าถ้าค�่าเหน็ สวา่ ง ทง้ั เดนิ ทางเร่ียวแรงแขง็ ขยนั ถ้าแดดกลา้ ตามวั เปน็ หมอกควัน จะผายผนั ล่วงทางไปกลางคืน เกรด็ แนะครู แล้ววา่ ยแหวกแบกองค์พงศ์กษัตรยิ ์ พลางสะบัดโบกหางไปกลางคล่ืน สลาตันล่ันพิลึกเสียงครกึ คร้นื จนดึกดนื่ รีบรดุ ไม่หยดุ เลย ครคู วรอธบิ ายใหน กั เรยี นเหน็ ความ คร้ันรงุ่ เชา้ เขา้ เกาะเสาะลกู ไม้ พระลูกให้บติ รุ งคท์ รงเสวย สามารถของกวีในการเลือกใชคําเพ่ือ เงอื กก็หาอาหารกนิ ตามเคย แล้วรีบเลยล่วงไปในคงคา สรางสรรค เพ่ือสื่อความคิด ความ เขาใจ ความรูสึก อารมณไดอยาง ฝ่ายนางผเี ส้อื สมุทรท่สี ดุ โง ่ ไปนง่ั โซเซาอยู่รมิ ภูผา งดงาม เลือกคําโดยคํานึงถึงเสียง ใช ขอชีวิตพษิ ฐานตามตา� รา ต้องอดปลาอดนอนอ่อนก�าลัง คําเลียนเสียงธรรมชาติ ดังปรากฏใน ไดส้ ามวนั รนั ทดสลดจติ เจยี นชวี ติ จะเด็ดดบั ไม่กลับหลงั ขอความ อตุ สา่ ห์ยืนฝืนใจใหป้ ระทงั คอ่ ยเซซงั ซวนทรงไม่ตรงตวั เหน็ ลกู ไม้ในปา่ คว้าเข้าปาก กา� ลงั อยากยืนขยอกจนกลอกหัว “เสียนา้ํ ใจในอารมณไ มสมประดี ท่ีมดื หนา้ ตาลายค่อยหายมวั คิดถึงผวั เหยาะย่างมากลางไพร สองมอื ตอี กตมู ฟูมนํ้าตา ถงึ ประตคู ูหาเห็นเปดิ อย ู่ เอ๊ะอกกูเกดิ เข็ญเป็นไฉน ลงกล้งิ เกลอื กเสือกกายรอ งไหโ ร เข้าในห้องมองเขม้นไม่เห็นใคร ยิ่งตกใจเพียงจะดิ้นสน้ิ ชีวี เสียงโฮโฮดังกอ งหอ งคหู า” แลดูปท่ี ี่เป่าเลา่ ก็หาย นางยักษร์ า้ ยรู้ว่าพากันหนี ครูอาจจะใหนักเรียนคนควาบท เสยี นา�้ ใจในอารมณ์ไมส่ มประดี สองมอื ตอี กตูมฟมู น�้าตา ประพันธจากเร่อื งอืน่ เพิ่มเติม เชน ลงกล้งิ เกลอื กเสอื กกายร้องไห้โร่ เสียงโฮโฮดงั ก้องห้องคหู า “เปร้ียงเปรย้ี งดั่งเสยี งฟารอง พระรปู หลอ่ พ่อคุณของเมยี อา ควรหรอื มาทิง้ ขวา้ งหมองหมางเมยี กกึ กองทั่วทศทศิ า” (รามเกยี รติ์) ทัง้ ลกู นอ้ ยกลอยใจไปดว้ ยเลา่ เหมือนควกั เอาดวงใจน้องไปเสยี เปน ตน นอ้ งรอ้ นร่มุ กล้มุ ใจดงั ไฟเลยี ทนู หัวเมยี ช่างไมไ่ วอ้ าลัยเลย ถงึ แปดปีนี่แลว้ ไมแ่ คล้วคลาด เคยรว่ มอาสนอ์ กอุน่ พ่อคุณเอย๋ นกั เรยี นควรรู ตัง้ แตน่ ีน้ ้องจะได้ผใู้ ดเชย เหมือนพระเคยค่เู คยี งเมือ่ เทีย่ งคืน ไพร เปนคําท่ีมีความหมายวา ปา 44 เชน วน วนา พน พนา พนาดร พนาศรี วนาดร พง พงพี ไพรวัน ไพรสณฑ อรัญ พงไพร เปน ตน 44 คมู ือครู

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate เสยี แรงรักหนกั หนาอตุ สา่ หถ์ นอม สอู้ ดออมสารพดั ไม่ขัดขืน อธบิ ายความรู ช่างกระไรใจจืดไมย่ ดื ยืน นางสะอนื้ อ้าปากจนรากเรอ ดว้ ยแรงนอ้ ยถอยทบสลบหลับ แล้วก็กลบั พลิกฟ้ืนตนื่ เผยอ จากบทประพนั ธใ นหนา 45 นี้ รอ้ งเรยี กลกู ผวั เฟือนเหมอื นละเมอ ไมเ่ ห็นเธอทอดกายดังวายปราณ ใหนักเรียนอภิปรายรว มกันวา ระก�าอกหมกม่นุ หนุ พิโรธ ก�าลังโกรธกลบั แรงกา� แหงหาญ ประหลาดใจใครหนอมาก่อการ ช่างคดิ อา่ นเอาคู่ของกูไป • เหตุใดนางผีเส้ือสมทุ ร ศิลานีท้ มี่ นุษย์จะเปดิ นัน้ สักหมื่นพนั ก็ไม่อาจจะหวาดไหว จึงคลุมคลัง่ ยกั ขนิ ีผีสางหรืออยา่ งไร มาพาไปไม่เกรงข่มเหงกู (แนวตอบ เพราะนางผีเสื้อสมุทร พลางร�าพึงถึงจะไปไมไ่ กลนัก จะตามหักคอกนิ เหมือนชน้ิ หมู จําศีลอดอาหารหลายวัน ท้ัง โมโหหนุ ผลุนออกนอกประตู เทีย่ วตามดรู อยลงในคงคา เหนื่อยท้ังหิวโซ พอกลับไปถ้ําก็ กระโดดโครมโถมวา่ ยสายสมทุ ร อุตลดุ ด�าดน้ เท่ยี วคน้ หา พบวาสามีหนีไป จึงโกรธโมโห ไมเ่ หน็ ผัวควา้ ไปไดแ้ ตป่ ลา ควกั ลูกตาสบู เลอื ดดว้ ยเดอื ดดาล คลมุ คลัง่ ดรุ า ยอาละวาดไปทว่ั ) ค่อยมแี รงแผลงฤทธคิ์ �ารนร้อง ตะโกนก้องเรยี กหาโยธาหาญ ฝา่ ยปศี าจราชทูตภตู พรายพาล อลหม่านขนึ้ มาหาในสาชล เกร็ดแนะครู อสุรีผีเสอ้ื จงึ ซักถาม มึงอยตู่ ามเขตแขวงทุกแหง่ หน เหน็ มนุษย์นวลละอองทั้งสองคน มาในวนวงั บา้ งหรืออย่างไร ครูควรช้ีแนะความรเู รอื่ ง “การ สรา งคําซอ น” คาํ ซอนประกอบดวย ฝ่ายพวกผีที่อยู่ทศิ ทกั ษณิ ครน้ั ได้ยนิ จึงแจ้งแถลงไข คาํ มลู ตั้งแตสองคาํ ท่มี ีความหมาย เห็นเงอื กพามนุษย์รบี รดุ ไป ขา้ งทิศใต้แตเ่ ม่ือคืนวานซนื นี้ เหมือนกันหรอื ทํานองเดียวกนั ข้านึกรา้ ยหมายจะตามกข็ ามเดก็ ดว้ ยลกู เลก็ เหลือตวั ไมก่ ลัวผี คําซอ นสามารถแบง ได 2 ชนิด คือ เห็นจะไปไดค้ รนั จนวนั นี ้ ด้วยทว่ งทรี บี รอ้ นไมน่ อนใจ • คําซอ นเพื่อเสียง เชน เกะกะ นางผเี สื้อเหลอื โกรธโลดทะลึ่ง โตดงั หนึ่งยุคุนธร์ขนุ ไศล เดอื ดดาล แหง หน เงอะงะ ลุยทะเลโครมครามออกตามไป สมุทรไทแทบจะล่มถลม่ ทลาย เปนตน เหล่าละเมาะเกาะขวางหนทางยักษ ์ ภเู ขาหักหนิ หลดุ ทรดุ สลาย เสียงครึกครื้นคลืน่ คลมุ้ ขึ้นกล้มุ กาย ผีเสอื้ ร้ายรบี รดุ ไมห่ ยดุ ยนื • คาํ ซอนเพ่ือความหมาย เชน หนา ตา ปากคอ ทอ งเที่ยว ฝ่ายพระอภัยมณซี ึ่งหนียักษ์ กบั ลูกรักเงอื กน�า้ ไปตามคลนื่ เปนตน บรรลุทางกลางชลาไดห้ า้ คนื เห็นทะม่ืนมาข้างหลงั ดังสะเทือน จงึ ถามเงือกว่าไฉนจึงไหวหว่ัน สลาตนั ลมใหญ่กไ็ มเ่ หมอื น ไม่เห็นแสงสุรยิ ันตะวนั เดือน เปน็ คลน่ื เคล่อื นคลอนล่นั สนนั่ ดงั 45 คมู อื ครู 45

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Expand Engage Explore Explain Evaluate ขยายความเขา ใจ (ยอจากฉบับนักเรยี น 20%) ครูสนทนากับนักเรียนโดยถามวา ฝ่ายเงือกน้า� สา� เหนียกแนใ่ นจิต คือว่าฤทธยิ์ กั ษร์ ้ายมาภายหลัง จากเรื่องคานิยมท่เี รยี นมาแลว น้ัน ดว้ ยเดชนางยกั ษ์ขินีมกี า� ลงั ชีวติ ครั้งนี้เห็นไม่เป็นตน จึงทลู องคพ์ ระอภัยวา่ ใชอ่ ่นื เสียงครกึ ครน้ื มารนางมากลางหน • นักเรยี นคดิ วา บทประพันธ คงทันกันวนั นี้หนีไม่พ้น เหน็ สดุ จนจ�ามว้ ยลงด้วยกนั ในหนา 46 มคี านยิ มใดบา ง ยกตวั อยา งบทประพนั ธป ระกอบ พระอภยั ใจหายไม่วายเหลียว ใหเ้ ปล่าเปล่ียวนัยนาเพียงอาสญั (แนวตอบ ยงั มเี รอื่ งความเชอื่ แตม่ านะกษตั ริย์สู้กัดฟัน อุตส่าห์กลน้ั กลนื น�้าตาแล้วพาที ในเร่อื งเวรกรรม ดงั ตวั อยา ง จะไปไหนไม่พ้นผเี ส้ือน�า้ วิบากกรรมจะส้อู ยู่เป็นผี บทประพันธ ท่านสง่ เราเข้าที่เกาะละเมาะนี้ แล้วรบี หนีไปในนา�้ แต่ลา� พงั “จะไปไหนไมพ น ผเี ส้ือนํา้ แลว้ วา่ แกส่ ินสมุทรสุดทรี่ ัก แมน้ นางยักษจ์ ะมารบั จงกลับหลงั วบิ ากกรรมจะสูอ ยเู ปนผ”ี ) อันตัวพ่อขอตายวายชวี งั กนั แสงสง่ั ลกู ยาดว้ ยอาลัย • นกั เรยี นมคี วามเชอื่ เรอ่ื ง สนิ สมุทรมิไดก้ ลัวกลับหวั รอ่ ลูกไม่ขอจากพระองคอ์ ยา่ สงสยั เวรกรรมหรอื ไม เพราะเหตใุ ด แม้มารดามาตามจะห้ามไว ้ พระรบี ไปก่อนขา้ อย่าปรารมภ์ (แนวตอบ ไมมีคําตอบผิดถูก ครู ลกู จะคอ่ ยลอยตามแตห่ า่ งหา่ ง อยู่ต้นทางจะได้พบประสบสม ควรชี้แนะวา “ในเร่ืองความเช่ือ แลว้ เผน่ โผนโจนลงทะเลลม พระปรารมภ์เรยี กไวก้ ็ไม่ฟัง เรื่องเวรกรรมสงผลอยางไรบาง” เที่ยวด�าดน้ ค้นหามัจฉาใหญ ่ พอจับไดป้ ลาอินทรขี ้ึนข่หี ลงั ผูที่เชื่อเรื่องเวรกรรมจะเปนผู เสยี งโผงผางกลางน้า� แตล่ �าพงั คอ่ ยลอยรั้งรอมาในวารนิ เกรงกลัวตอบาป จะทําใหไม เบียดเบียนทําลายผูอื่น สวนผูท่ี ฝ่ายผเี สือ้ สมุทรไม่หยดุ หย่อน ครนั้ ลุยอ่อนอุตสา่ หว์ ่ายสายกระสนิ ธุ์ ไมเชื่อเร่ืองเวรกรรมอาจจะกอ ก�าลังน้อยถอยถดดว้ ยอดกิน เจียนจะส้นิ ชวี าในสาคร ความวนุ วาย ทาํ ลาย ทาํ รา ยผอู น่ื ได้สามวนั ทนั ผวั กับลูกน้อย เห็นเลอื่ นลอยลบิ ลบิ ย่งิ ถบี ถอน จนเกดิ การสญู เสยี และเดอื ดรอ น กระโจมโจนโผนโผชโลทร คล่นื กระฉ่อนฉาดฉานสะทา้ นมา ได) ฝ่ายเงอื กน้�ากา� ลงั กส็ น้ิ สดุ ครั้นจะหยดุ ยักษ์ไล่ใกล้นกั หนา นักเรยี นควรรู เรียกลกู สาวคราวนี้พ่อจะมรณา เจา้ ช่วยพาภวู ไนยไปใหพ้ ้น นางเงอื กนอ้ ยสร้อยเศรา้ เข้ามาผลดั แบกกษัตริย์วา่ ยเสือกเสลือกสลน พาที เปนคําที่มีความหมายวา พูด กา� ลังสาวคราวด่วนดว้ ยจวนจน ออกกลางชลโบกหางผางผางไป เชน ตรัส ดํารัส ประภาษ วาที วทะ เปนตน คําแตละคํามีระดับการใช สนิ สมุทรหยุดอยดู่ นู างยักษ ์ เห็นผิดพักตรม์ ารดาน่าสงสัย แตกตางกัน เชน คําวา “ตรัส” ใชกับ ด้วยเห็นแมแ่ ตร่ ูปนิมิตไว้ สงสัยใจออกขวางกลางคงคา พระมหากษัตริย สวนคําวา “พูด” ใช แลว้ รอ้ งถามตามประสาเป็นทารก นีส่ ตั วบ์ กหรือสัตว์น้�าดา� นักหนา กับคนทวั่ ไป เปนตน โจนกระโจมโครมครามตามเรามา จะเลน่ ข้าท่าไรจะใคร่รู้ 46 46 คูมือครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate ฝา่ ยนางอสรุ ผี ีเสือ้ น้�า ได้ยนิ ค�าโอรสนึกอดสู อธบิ ายความรู เปน็ หว่ งผวั มัวแลชะแงด้ ู ไม่เหน็ อยู่ด้วยกนั นีฉ่ นั ใด หรอื จวนตัวกลัวเมยี ไปเสยี ก่อน หรอื ซ่มุ ซอ่ นอยเู่ กาะละเมาะไหน ใหนักเรียนอานบทประพันธหนา จา� จะปลอบโดยดีแม้นมไิ ป จงึ จะได้จบั กุมตะลมุ บอน 47 และรวมกันแสดงความคิดเห็นใน จึงตอบโตโ้ ป้ปดโอรสราช มิใช่ชาตยิ ักษม์ ารชาญสมร พฤติกรรมของตัวละคร “สินสมุทร” เจา้ แปลกหรือคือนีแ่ ลมารดร เม่ือน่งั นอนอยู่ในถ�า้ ไม่จา� แลง ออกเดินทางอย่างนี้ตอ้ งนมิ ติ รูปจึงผดิ ไปกว่าเก่าเจา้ จึงแหนง (แนวตอบ สินสมุทรเปนตัวละครท่ี ไมป่ ดิ งา� อา� พรางอยา่ คลางแคลง แม่แกลง้ แปลงตัวตามเจ้างามมา ฉลาดมากแมอายุจะยังนอย ในขณะ ไหนพ่อเจ้าเล่าแม่ไม่แลเหน็ อย่าหลงเล่นจงไปอย่ใู นคหู า เดยี วกนั กเ็ ปน ตวั ละครทนี่ า เหน็ ใจมาก แตจ่ ากอกหกวนั แลว้ ขวญั ตา ขอมารดาอมุ้ หน่อยเถดิ กลอยใจ ที่ตองลวงแม เพื่อชวยพอใหหนีได สาํ เร็จ) สินสมทุ รฟงั เสียงสา� เนียงแน่ รู้วา่ แมม่ นั่ คงไมส่ งสัย ดรู ปู ร่างอยา่ งเปรตสมเพชใจ ช่างกระไรราศไี มม่ งี าม นักเรียนควรรู กระนีห้ รือพระบดิ ามนิ า่ หนี ท้ังทว่ งทไี ม่สภุ าพท�าหยาบหยาม จ�าจะบอกหลอกลวงหนว่ งเนื้อความ อย่าให้ตามเข้าไปชดิ พระบดิ า ฤทัย คําที่มีความหมายวา ใจ เชน จึงเสแสรง้ แกลง้ ว่าขา้ ไมเ่ ช่อื จะฉีกเนือ้ กนิ เลน่ เป็นภักษา กมล โกมล มน มาน มนสั มานสั มโน ถา้ เป็นแมแ่ นก่ ระน้นั จงกรุณา อย่าตามมามุง่ หมายให้วายปราณ หทัย หฤทยั ฤดี ดวงใจ เปน ตน ด้วยองคพ์ ระชนนีเปน็ ผีเสอื้ อนั ชาตเิ ชื้ออย่ถู �้าลา� ละหาน พระบิดรรอ้ นรนทนทรมาน เคยอยบู่ า้ นเมืองมนุษย์สุดสบาย คดิ ถึงวงศ์พงศาคณาญาต ิ จงึ สามารถมานีไ่ ม่หนีหาย เหน็ มารดาซอ่ นตวั ดว้ ยกลวั ตาย ลกู จึงว่ายน�้าอยแู่ ต่ผูเ้ ดียว ประทานโทษโปรดปล่อยไปหนอ่ ยเถิด ท่ลี ะเมิดแม่คุณอยา่ ฉุนเฉยี ว ลกู ขอลาฝ่าธุลสี ักปเี ดียว ไปท่องเทยี่ วหาประเทศเขตนคร แม้นพบอาย่าปู่อยู่เป็นสุข บรรเทาทกุ ข์ภิญโญสโมสร จงึ จะชวนบติ เุ รศเสด็จจร มาสถานมารดรไมน่ อนใจ อสุรีผีเสื้อไมเ่ ชือ่ ถ้อย นึกวา่ น้อยหรอื ตอแหลมาแกไ้ ข แกล้งดบั เดือดเงือดงดอดฤทยั ทา� ปราศรัยเสียงหวานดว้ ยมารยา ถา้ แมน้ แมแ่ ต่แรกรกู้ ระนี้ ชนนีกจ็ ะได้ไมเ่ ทย่ี วหา นีน่ ึกแหนงแคลงความจึงตามมา ไม่โกรธาทนู หัวอยา่ กลวั เลย จะไปไหนไมห่ ้ามจะตามสง่ ไหนทรงฤทธ์บิ ติ รุ งคเ์ ลา่ ลกู เอ๋ย แมข่ อพบพูดจาประสาเคย แล้วทรามเชยจงึ คอ่ ยพาบดิ าไป 47 คูม ือครู 47

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate อธิบายความรู (ยอ จากฉบบั นกั เรยี น 20%) ใหนักเรยี นอธบิ ายการใชโวหาร สนิ สมุทรสดุ ฉลาดไมอ่ าจบอก ยังซ�า้ หลอกลวงแม่พูดแกไ้ ข อตพิ จน ในบทประพนั ธท ี่วา มใิ ช่การมารดาจะคลาไคล ขอเชญิ ไปอยถู่ �้าใหส้ �าราญ ซึ่งจะใหไ้ ปบอกออกมาหา พระบิดาข้าขข้ี ลาดไม่อาจหาญ “อสรุ ผี ีเสอ้ื เหลอื จะอด พระแมอ่ ย่าทารกรรมให้ร�าคาญ ไม่ชา้ นานบิตุรงค์คงจะมา แคน โอรสราวกบั ไฟไหมมังสา” อสุรีผีเสือ้ เหลือจะอด แค้นโอรสราวกบั ไฟไหม้มงั สา • ทําไมกวีจงึ ใชโ วหารอตพิ จน ชา่ งหลอกหลอนผ่อนผันจ�านรรจา แม้นจะวา่ โดยดเี ห็นมฟิ งั ในการแตง บทประพันธข า งตน จะจบั ไว้ให้พาไปหาพ่อ แล้วหกั คอเสยี ใหต้ ายเม่อื ภายหลงั (แนวตอบ เพราะจะทาํ ใหผ อู าน โกรธตวาดผาดเสยี งสา� เนียงดัง น้อยหรอื ยงั โหยกเหยกเด็กเกเร เขา ถงึ อารมณข องตวั ละครไดด ี ช่างว่ากลา่ วราวกับกูไม่รูเ้ ทา่ มาพดู เอาเปรียบผู้ใหญ่ท�าไพล่เผล และจินตภาพไดช ดั เจนย่ิงขึน้ ) เอาบดิ รซอ่ นไว้ในทะเล ท�าโวเ้ ว้วา่ กลา่ วใหย้ าวความ ยิ่งปลอบโยนโอนออ่ นยิ่งหลอนหลอก แม้นไม่บอกโดยดจี ะตถี าม เกรด็ แนะครู พลางโผโผนโจนโจมเสียงโครมคราม เขา้ ไล่ตามคลกุ คลตี ีไปพลาง สนิ สมทุ รผลุดออกนอกรักแร้ แล้วลอ่ แม่ตบหัตถ์ผัดผางผาง ครูแนะเรื่องคําเสริมบทหรือคํา แกลง้ หลบลห้ี นีวนไปตน้ ทาง หมายใหห้ า่ งพระบิดาไดค้ ลาไคล อุทานเสรมิ บท เปน คาํ ที่มีความหมาย นางผีเส้อื เหลือแค้นแสนสาหสั แต่ฉวยพลดั แพลงคลื่นลื่นไถล หรือไมมีความหมายก็ได เพ่ือใชเพิ่ม อตุ ลุดผดุ ดา� ปล�า้ กันไป เหมือนเลน่ ไลต่ ามละเมาะทกุ เกาะเกียน เติมถอยคําหรือเสริมคําไมใหฟง ถึงเขาใหญ่ในน�า้ งา�้ ชะเงื้อม พระหลบเลอ่ื มเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน แลวหวน เชน ชิมเชิม ชแรชรา เขา้ หาดทรายชายต้นื ข้นึ บนเตียน เท่ียวว่งิ เวียนวนรอบขอบคิรี ทะมึนทึนเทิ่ง เปนตน คําอุทานเสริม เห็นมารดาลา่ ลับแลว้ ยบั ยงั้ แกล้งถอยหลงั ลงน้า� แลว้ ดา� หนี บทนี้ปรากฏอยูในเรื่องพระอภัยมณี ไม่พน่ ผดุ รุดไปในนท ี ต้งั ภกั ดีตามติดพระบดิ ร ตอนหนนี างผีเส้อื ดวยเชนกนั ฝ่ายผเี สื้อเมอื่ ลูกลอบลงน้า� พอจวนคา่� คิดว่าว่ิงขึน้ สงิ ขร ด้วยใจนางคดิ วา่ พาบิดร มาซุม่ ซอ่ นอยทู่ ี่นีจ่ ึงหนีมา เทยี่ วแลรอบขอบเขาเงาชะงุ้ม ยง่ิ มืดคลุ้มกย็ ่งิ คลง่ั ตงั้ แตห่ า เสียงคล่ืนโครมโถมตะครบุ กอ้ นศลิ า จนหนา้ ตาแตกยบั ลงสบั เงา แล้วลกุ ข้นึ ยนื ชะโงกโยกสิงขร จนโคลงคลอนเคล่อื นดงั ทัง้ ภูเขา ยง่ิ มดื คา�่ สา� เหนียกร้องเรียกเดา ไม่พ้นเราเรง่ มาหาโดยดี เหน็ ไมข่ านมารร้ายทลายซ�้า เขาระย�าย่อยยับดงั สบั สี ไมพ่ บเหน็ เป็นเพลาเข้าราตรี อสรุ ีเหลอื แค้นแนน่ อรุ า ช่างชาตชิ ัว่ หวั กระดูกลูกตอแหล ลวงให้แมห่ ลงกลเทย่ี วค้นหา เออกระนน้ั มันจงึ ทบตลบมา ใหบ้ ดิ าเลยไปเสียไกลแลว้ 48 48 คูม อื ครู

กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate ด�ารพิ ลางนางมารอ่านพระเวท ให้สองเนตรโชตชิ ่วงดังดวงแกว้ อธิบายความรู แลเขม้นเห็นไปไวแววแวว อยโู่ นน่ แลว้ ลุยตามโครมครามไป 1. ครูใหนักเรียนศึกษาบทประพันธ หนอ่ นรินทร์สินสมุทรไม่หยดุ ย้ัง รีบมาทั้งคืนค่�าในนา้� ไหล จากหนา 49-50 อธบิ ายลกั ษณะของ จนแจม่ แจง้ สรุ ิโยอโณทัย เห็นเงอื กใหญย่ ายตายงั ล้านัก เกาะแกวพิสดารตามบทประพันธ จงึ วา่ รบี ถีบถอนไปก่อนทา่ น โนน่ นางมารหมนุ ไลม่ าใกล้หนกั วา มีลกั ษณะอยา งไร แล้ววา่ ยรอคลอไปพอไดพ้ ัก พอนางยกั ษ์ทันโถมกระโจมมา พระลกู หลบพบเงือกจะเสือกหนี เหยียบขย้สี องแขนแน่นหนกั หนา 2. ครูขออาสาสมัคร 2-3 คนมานํา ตะคอกถามตามโมโหทีโ่ กรธา ไยมึงพาผวั พรากมาจากกู เสนอหนาช้นั เรยี น เดีย๋ วนี้องคพ์ ระอภยั อยไู่ หนเลา่ ไม่บอกเราหรือกระไรท�าไขหู จะควกั เอานัยนาออกมาดู ตะคอกข่คู กุ ถามคา� รามรน เกร็ดแนะครู ท้งั สองเงอื กเสอื กกายหมายไมร่ อด ถึงม้วยมอดมใิ หแ้ จง้ แหง่ นุสนธิ์ ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับเรือ่ ง “คาํ พอง” ทม่ี ใี นบทประพนั ธ คําพอง จึงกล่าวแกลง้ แสรง้ เสด้วยเล่ห์กล เธออยู่บนเขาขวางริมทางมา มี 2 ชนดิ คือ คําพอ งรปู และคําพอ ง เสียง ขา้ จะพาไปจับจงกลบั หลงั ให้ไดด้ งั มงุ่ มาดปรารถนา คาํ พองรปู คอื คําทม่ี ีรปู เหมอื นกัน ไมเ่ หมอื นคา� รา� พันทส่ี ญั ญา จงเข่นฆา่ ให้เราม้วยไปดว้ ยกัน แตอานตางกนั เชน อสุรผี เี สอื้ ก็เชอ่ื ถอื ยุดเอามือขวาซา้ ยให้ผายผนั • คาํ วา “เพลา” เงือกกพ็ ามาถงึ ไดค้ รึ่งวัน แกลง้ รา� พนั พดู ลอ่ ให้ต่อไป เพลา อานวา เพ-ลา นางผีเส้อื เบื่อหูร้เู ท่าถึง จงึ วา่ มึงตอแหลมาแกไ้ ข มีความหมายวา กาล คราว เวลา มาถึงนี่ชี้โน่นเนือ่ งกันไป แกลง้ จะใหห้ ่างผัวไม่กลัวกู เพลา อา นวา เพลา แลว้ นางยกั ษ์หกั ขาฉกี สองแขน ไมห่ ายแค้นเคี้ยวกนิ สนิ้ ท้งั คู่ มคี วามหมายวา แกนสาํ หรบั สอด แลว้ กลับตามข้ามทางทอ้ งสนิ ธ ู ออกวา่ ยวู่แหวกนา้� ด้วยกา� ลงั ในดมุ ใหล อ หมนุ เบาลงพอประมาณ ฝา่ ยกุมารสินสมุทรไมห่ ยดุ หย่อน ตามบิดรทันสมอารมณห์ วัง • คําวา “แหน” จึงเลา่ ความตามตดิ ไม่ปิดบัง พระทรงฟงั ลกู ชายค่อยคลายใจ พอเหน็ เงาเขาขวางอยู่กลางนา้� พิลกึ ล้า� กวา่ คริ ีที่ไหนไหน แหน อานวา แหฺน (ห-นาํ ) จงึ ถามนางเงือกนอ้ ยกลอยฤทัย เกาะอะไรแกว้ ตาตรงหน้าเรา มคี วามหมายวา พชื ชนิดหน่งึ แหน อา นวา แหนฺ ( น-สะกด) นางเงือกน้�าบอกส�าคญั ว่าน่นั แลว้ คือเกาะแกว้ พิสดารเปน็ ชานเขา มคี วามหมายวา หวง ลอม รกั ษา พระฟงั นางสรา่ งโศกค่อยบรรเทา จึงว่าเราเห็นจะรอดไมว่ อดวาย เปน ตน แลว้ พศิ ดูภูผาศิลาเล่ือม ชะโงกเงอื้ มน้�าวนชลสาย คําพองเสียง คือคําที่มีเสียงเหมือน แลลบิ ลิบหลังคาศาลาราย มเี สาหงสธ์ งปลายปลิวระยับ กันแตค วามหมายตางกัน เชน การ มคี วามหมายวา งาน, 49 เร่อื งทีท่ ํา นกั เรียนควรรู กาล มีความหมายวา เวลา กานต มีความหมายวา เปน ทีร่ กั หักขา นางยกั ษ “หกั ขา” เงือก จะผดิ จากความเขา ใจของคนทว่ั ไปและความในตอนอน่ื ท่วี า กานท มคี วามหมายวา บทกลอน “พระอภัยภูมนิ ทรก ับสนิ สมุทร ชว ยกนั ฉดุ นางเงือกเสือกเขา ฝง ” เขาใจวา สนุ ทรภอู าจเผลอไป กาน มีความหมายวา ตดั ฟน แตใ นตอนหลังพระอนิ ทรตดั หางใหและนางเงือกเดนิ ได แสดงวามีขาจรงิ ๆ กาญจน มคี วามหมายวา ทอง กาฬ มคี วามหมายวา รอยดํา เปนตน คมู อื ครู 49

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate อธบิ ายความรู (ยอ จากฉบับนกั เรียน 20%) นกั เรียนอานวรรณคดเี รือ่ ง พระยนิ ดีช้บี อกสินสมทุ ร โน่นแน่กุฎิม์ งุ กระเบอ้ื งเหลอื งสลบั พระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนี พระหนอ่ นอ้ ยค่อยเรียงเคยี งคา� นบั หมายประทับที่เสาหงสต์ รงเข้ามา นางผเี สอ้ื แลว ยกตวั อยา งบทประพนั ธ จ า ก เ ร่ื อ ง ที่ แ ส ด ง ใ ห  เ ห็ น ส ภ า พ ฝา่ ยโยคีทีอ่ ย่บู นภเู ขา กับคนเหลา่ เหลอื ตายหลายภาษา สังคมความเปนอยูของคนในสมัย ทงั้ จนี จามพราหมณ์แขกไทยชวา วลิ ันดาฝร่ังพร่ังพร้อมกนั รัตนโกสินทรตอนตนที่ผานมุมมอง เป็นร้อยคนปรนนบิ ัตอิ ยูเ่ ช้าค่า� บา้ งต้มนา้� เกบ็ ลกู ไม้มาใหฉ้ นั โลกทศั นข องสนุ ทรภู เป็นเหลา่ ล้อมพรอ้ มหนา้ เวลาน้นั บ้างนวดฟั้นปรนนบิ ัตนิ ัง่ พัดวี พอบ่ายเบย่ี งเสยี งคลืน่ ดังคร้ืนครึก อกึ ทึกมาข้างหน้าคริ ีศรี (แนวตอบ “ฝา ยโยคีท่ีอยูบนภเู ขา ครัน้ ดูลมกไ็ ม่พัดสงัดด ี พระโยคีจบั ยามตามต�ารา กบั คนเหลาเหลือตายหลายภาษา แลว้ บอกศษิ ยซ์ งึ่ น่งั อยูท่ ง้ั หลาย วนั นี้ชายมีศักดจิ์ กั มาหา ทัง้ จีนจามพราหมณแขกไทยชวา ผเี ส้อื น้า� ทา� ฤทธ์ิติดตามมา เสียงชลาเลอ่ื นล่นั สนน่ั ดัง วลิ นั ดาฝรัง่ พร่ังพรอ มกัน”) จา� จะไปคอยดูอยู่ท่ีหาด ชว่ ยตวาดขูข่ ับใหก้ ลับหลัง ฉวยไม้เทา้ กา้ วยา่ งจากบลั ลงั ก ์ แขกฝรงั่ พร่งั พรอ้ มลอ้ มลีลา ขยายความเขาใจ ถงึ หาดกวา้ งทางแลกระแสสมทุ ร เห็นมนุษย์ไรไรไกลหนกั หนา ผีเสื้อนา้� ทา� ฤทธิ์ติดตามมา เวทนาแลดูอยทู่ ุกคน ใหน ักเรยี นรวมกนั แสดงความ คดิ เห็นเก่ียวกบั มมุ มองโลกทัศน พระอภัยมณีเหน็ ผีเส้อื ความกลัวเหลือว่ายคว้างอยู่กลางหน ของสนุ ทรภูในยุคสมยั รัตนโกสนิ ทร ยกั ษ์กระโจมโถมจบั แทบอับจน พอเหน็ คนอยู่ที่หาดตวาดครนื ตอนตน เขา้ ถงึ ทผี่ เี ส้อื กถ็ ึงดว้ ย กระชัน้ ฉวยผดิ เสอื กเกลอื กเข้าต้ืน พอโยคีมีคาถาลงมายนื ผีเสือ้ ตืน่ ตัวสนั่ ขยั้นย้งั (แนวตอบ ตอบไดห ลากหลาย เชน พระอภยั ภูมินทร์กบั สินสมทุ ร ช่วยกันฉดุ นางเงือกเสอื กเข้าฝ่ัง • การใชศ ลิ ปะของการทตู มากกวา แล้วกราบกรานโยคีมกี า� ลงั แขกฝร่งั พรง่ั พรอ้ มลอ้ มพดู จา การใชความสามารถทางการรบ พระโยคมี ีจติ คดิ สงสาร จึงวา่ ทา่ นหนีตายหมายมาหา ในการแกป ญหาความขดั แยง เราลงมาคอยชว่ ยดว้ ยเมตตา แต่กจิ จาไมก่ ระจ่างยังคลางแคลง • การที่ชาวตา งชาตเิ ขามาใน ชวงน้ัน กอ ใหเกดิ ความสัมพนั ธ พระอภยั ได้สดับสนุ ทรถาม จงึ ยกความกอ่ นเกา่ เลา่ แถลง ระหวา งกัน สง ผลตอการนํา จะหนีนางกลางสมทุ รกส็ ดุ แรง รา� พันแจง้ ความจริงทกุ ส่งิ ไป ความรู สรรพวิชาตา งๆ มา แล้ววอนว่าขา้ กับโอรสราช จะรองบาทประดิพัทธ์จนตดั ษยั ประยกุ ตใชป ระโยชนด า นตา งๆ ขอพระองคท์ รงธรรม์ชว่ ยกนั ภยั แตพ่ อได้หยุดหย่อนผ่อนสบาย และยังไดแสดงออกทางดา น วรรณคดีอกี ดว ย พระโยคีมญี าณว่าหลานรัก จงส�านักอยใู่ ห้สมอารมณ์หมาย • การยกยอ งสตรีทีม่ ีปญ ญา อนั ยกั ษผี สี างสมุทรพราย มาถกู ทรายชายหาดก็ขาดใจ ความรหู รือสตรีท่มี สี ภาวะผูนํา ซ่งึ เปนความคดิ ทีแ่ ตกตางจาก บคุ คลในยุคนน้ั ) 50 นกั เรยี นควรรู นวดฟน เปนคําซอนเกิดจากการ สรา งคาํ โดยการนาํ คาํ ทมี่ คี วามหมาย เหมอื นกนั มารวมเพอื่ เนน ความหมาย ใหมีนํ้าหนักชัดเจนย่ิงข้ึน เชน พัดวี ดแู ล ขนุ มัว เปน ตน 50 คมู ือครู

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate เราลงเลขเสกทา� ไวส้ า� เร็จ ดงั เข่อื นเพชรภูตปศี าจไมอ่ าจใกล้ อธิบายความรู มันอยู่แต่ห่างห่างชา่ งเปน็ ไร ท�าไม่ได้นดั ดาเจา้ อยา่ กลัว ใหน ักเรียนยกตวั อยา งคาํ อุทาน ฝ่ายผเี ส้อื เหลือโกรธโลดทะลงึ่ เสยี งโผงผงึ เผ่นโผนตะโกนผวั เสรมิ บทจากวรรณคดเี รือ่ ง เหตไุ ฉนไปน่งั ก�าบงั ตัว เชิญทนู หวั เยยี่ มหนา้ มาหานอ้ ง พระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณี นจิ จาเอ๋ยเคยอยูเ่ ปน็ คู่ชน่ื ทกุ วันคนื คา�่ เชา้ ไม่เศร้าหมอง หนนี างผีเส้อื มีคาํ ใดบา ง จนมีลูกปลกู เลยี้ งเคยี งประคอง มิให้ขอ้ งเคอื งขดั พระอัชฌา อยู่ดีดหี นีเมยี มาเสียได ้ เสยี น้า� ใจนอ้ งรกั เป็นนกั หนา (แนวตอบ เชน คําวา เยน็ ย่ํา จึงอตุ สา่ หพ์ ยายามสตู้ ามมา ขอเป็นขา้ บาทบงสุ์พระทรงธรรม์ เผนโผน) พระเสดจ็ ไปไหนจะไปด้วย เป็นเพอื่ นมว้ ยภสั ดาจนอาสญั ประทานโทษโปรดเลี้ยงแต่เพียงนนั้ อย่าบากบ่นั ความรกั น้องนกั เลย ขยายความเขาใจ พระอภยั ใจอ่อนถอนสะอืน้ อตุ ส่าห์ฝนื พักตรว์ า่ นจิ จาเอ๋ย นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น แม่ผเี สื้อเมอื่ ไม่เหน็ ในใจเลย พ่ีไม่เคยอยู่ในถ้า� ใหร้ า� คาญ เกี่ยวกับคําอุทานเสริมบทที่ปรากฏ คดิ ถึงนอ้ งสองชนกทีป่ กเกลา้ จะสรอ้ ยเศรา้ โศกานา่ สงสาร ในบทประพันธเรื่องพระอภยั มณี ดว้ ยพลดั พรากจากมาเปน็ ชา้ นาน ไมแ่ จง้ การวา่ ข้างหลังเป็นอยา่ งไร จึงจา� ร้างหา่ งห้องใหน้ ้องโกรธ จงงดโทษพีย่ าอชั ฌาสยั • คําอุทานเสรมิ บทมคี วามสําคญั แมน้ ไปไดก้ ็จะพาแก้วตาไป นีจ่ นใจเสยี ดว้ ยนางต่างตระกูล ตอ คําประพนั ธอยา งไรบาง พี่มนุษยส์ ุดสวาทเปน็ ชาตยิ ักษ ์ จงคดิ หกั ความสวาทให้ขาดสญู (แนวตอบ เพอื่ ลดความหว นของ กลบั ไปอยคู่ ูหาอย่าอาดูร จงเพมิ่ พูนภาวนารักษาธรรม์ คําและเพ่ือใหสัมผัสคลองจอง อย่าฆ่าสัตว์ตัดชวี ติ พิษฐาน หมายวิมานเมืองแมนแดนสวรรค์ กัน) จะเกิดไหนขอให้พบประสบกนั อยา่ โศกศลั ยแ์ คลว้ คลาดเหมือนชาตินี้ พ่ีขอบตุ รสดุ ใจเอาไปด้วย เปน็ เพอ่ื นม้วยเหมือนสุดามารศรี นกั เรยี นควรรู ขอลาแก้วแววตาไปธานี อย่าราคขี ุ่นขอ้ งใหห้ มองมวั บากบน่ั ในบทน้หี มายความวา ผเี สื้อน�า้ ซ้�าวอนดว้ ยอ่อนหวาน ไม่โปรดปรานอนุกูลเลยทูนหัว “ตัดรอน” ถ้าท้งิ ไว้ไหนนอ้ งจะครองตัว ทงั้ จากผัวจากบุตรสุดอาลยั มิขออยู่สตู้ ายวายชีวิต ไมเ่ ห็นจติ น้องรกั จะตกั ษัย เชญิ พระองค์ลงมาชลาลัย เมยี จะใหม้ นตรเ์ วทวเิ ศษครนั แล้วร้องเรยี กลูกยามาด้วยพ่อ แม่จะขออ�าลาเจา้ อาสญั อย่าสงสยั ใจจรงิ ทุกส่ิงอัน ไมร่ า� พนั พูดลวงเจ้าดวงใจ 51 คูมือครู 51

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Expand Engage Explore Explain Evaluate ขยายความเขาใจ (ยอ จากฉบับนกั เรียน 20%) นกั เรยี นอานเรือ่ งพระอภยั มณี สนิ สมทุ รสดุ แสนสงสารแม ่ ช�าเลอื งแลดหู น้าน้�าตาไหล ทบทวนความรโู ดยการตอบคาํ ถาม จึงกราบกรานมารดาแลว้ วา่ ไป จะเขา้ ใกลท้ นู หัวลูกกลัวนัก แลว บนั ทึกความรูลงสมุด เมอ่ื วานนี้ตีขา้ นอ้ ยไปหรือ ระบมมือเหมือนกระดูกลกู จะหกั • นักเรยี นนาํ ขอคดิ จากเรอ่ื ง ซึ่งรกั ลูกลูกกร็ อู้ ยู่ว่ารกั มใิ ชจ่ กั ลมื คณุ กรุณา ถึงตวั ไปใจลกู ยงั ผูกคดิ พอปลดปลิดเรือ่ งธุระจะมาหา พระอภัยมณี ตอนพระอภยั มณี อยา่ กร้ิวโกรธโปรดปรานเถิดมารดา ไปไสยาอยใู่ นถ�า้ ใหส้ �าราญ หนนี างผีเส้ือ ไปประยกุ ตใชใน ชวี ติ จริงไดอยา งไร ฝ่ายโยคีมียศพจนารถ ใหโ้ อวาทนางยกั ษไ์ ม่หักหาญ (แนวตอบ ตอบไดหลากหลาย เชน จงตัดบว่ งหว่ งใยอาลยั ลาน อย่าปองผลาญลูกผัวของตัวเลย ความมีนํ้าใจและการเสยี สละเปน ทงั้ นีเ้ พราะเคราะห์กรรมท�าให้วุ่น จงึ ส้นิ บุญวาสนาสีกาเอ๋ย สง่ิ ทค่ี วรกระทํา คนในครอบครัว เหน็ มไิ ด้ไปอยูเ่ ป็นคเู่ ชย ดว้ ยสองเคยปลกู เลย้ี งกันเพียงน้นั เดียวกนั จะอยูกนั ไดดมี คี วามสขุ อย่าครวญคิดติดตามด้วยความโกรธ จะเป็นโทษกบั สีกาเม่อื อาสัญ ทกุ คนตองมคี วามเขาใจกนั ชว ย จงยับยัง้ ฟงั คา� รูปร�าพนั ไปสวรรค์นฤพานสา� ราญใจ เหลือซ่ึงกันและกัน เปน ตน) เกรด็ แนะครู นางผเี ส้อื เหลือโกรธพโิ รธรอ้ ง มาต้งั ซ่องศลี จะมอี ยู่ที่ไหน ช่างเฉโกโยคหี นีเขาใช ้ ไม่อยใู่ นศีลสัตยม์ าตัดรอน ครูสอดแทรกความรูเรื่องมารยาท เขาว่ากนั ผวั เมียกบั แม่ลกู ยืน่ จมูกเขา้ มาบ้างช่วยสงั่ สอน ไทย จากขอความในบทประพันธ แม้นคบค่กู ไู ว้มใิ หน้ อน จะราญรอนรบเรา้ เฝา้ ตอแย แล้วช้หี น้าดา่ อึงหงึ นางเงอื ก ท�าซบเสือกสอพลออตี อแหล “สินสมทุ รสุดแสนสงสารแม เห็นผัวรักยักคอท�าท้อแท้ พอ่ กบั แม่มงึ เข้าไปอยู่ในท้อง ชาํ เลอื งแลดูหนา นา้ํ ตาไหล ท�าปน้ั เจอ๋ เยอ่ หยิ่งมาชิงผัว ระวังตัวมึงใหด้ อี จี องหอง จงึ กราบกรานมารดาแลว วาไป พลางเข่นเข้ยี วเคีย้ วกรามค�ารามร้อง เสียงกึกกอ้ งโกลาลกู ตาโพลง จะเขา ใกลทนู หวั ลกู กลัวนกั ” เนนใหเห็นถึงความสําคัญของการ พระโยคีชี้หน้าวา่ อเุ หม่ ยังโว้เว้วนุ่ วายอตี ายโหง มีสัมมาคารวะ การไหวบุคคลระดับ เพราะหวงผัวมวั เมาเฝา้ ตะโกรง วา่ กโู กงมึงกต็ กนรกเอง ตางๆ โดยใหศึกษาคนควาจากวิชา อยี กั ษาตาโตโมโหมาก รูปกก็ ากปากกเ็ ปราะไม่เหมาะเหมง็ สังคมศึกษา รวมกันสาธิตการไหว นมสองข้างอยา่ งกระโปรงดูโตงเตง ผัวของเอง็ เขาระอาไม่น่าชม ลกั ษณะตา งๆ หนา ชน้ั เรยี น ครแู นะนาํ ในสวนทต่ี อ งปรบั ใหถ กู ตอ งเหมาะสม จงึ หนีมาอาศยั กใู หอ้ ยู่ มิใช่กูรู้เหน็ เท่าเส้นผม B พน้ื ฐานอาชพี มาตรชี าว่ากผู ดิ ในกิจกรม จะให้สมน้�าหนา้ สาแกใ่ จ แล้วเสกทรายปรายขว้างมากลางคลื่น ดังลูกปนื ยงิ ยักษใ์ หต้ ักษัย B ผีเสื้อกลัวตัวส่ันเพยี งบรรลยั กห็ ลบไปตามวนชลธาร ครคู วรชีแ้ นะการบูรณาการ เชื่อมโยงความรูและแนวคิดระหวาง วรรณคดีกับศิลปะวา การเขาใจใน 52 วรรณคดอี ยา งลกึ ซง้ึ เปน แรงบนั ดาลใจ ใหเกิดจินตนาการที่นําไปผสมผสาน กับความสามารถทางศิลปะแขนงตางๆ แลวเกิดผลงานที่สรางสรรคได เชน งานจิตรกรรมการวาดรูปตัวละคร ฉากเหตุการณตางๆ ในวรรณคดีไทย ซ่ึงจะเห็นไดจาก จักรพันธุ โปษยกฤตศิลปนแหงชาติ สาขาทัศนศิลป (จิตรกรรม) ท่ีสรางผลงานไดวิจิตรงดงามบงบอกถึงพื้นฐานความรูท่ีแตกฉานดานวรรณกรรม พระพุทธศาสนา ประวตั ิศาสตร ศลิ ปะไทยและสากล 52 คูมือครู

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคน หา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Engage Expand Evaluate ๖ คÓÈัพท์ ควำมหมำย สาํ รวจคนหา คำ� ศพั ท์ กระโจม หมายถึง โถมเข้าไป โจนหรอื กระโจน หมายถึง กระโดดพงุ่ เข้าไป ใหน ักเรยี นสรางเกม กระโจมโจน โดยเร็ว กระโจมโจน ใชค้ า� ท่ีมคี วามหมายคลา้ ยกนั มาซ้อนกัน หมายความวา่ ปริศนาอกั ษรไขว หรือเกมอืน่ ๆ โถมพงุ่ เข้าใสเ่ ตม็ ก�าลงั ตามความสนใจของนักเรียน โดยใช กระโห้ คําศัพทใ นบทเรยี น กรงิ่ ใจ ช่ือปลาน้�าจืดขนาดใหญ่ หัวโต เกล็ดใหญ่ ล�าตัว ปลากระโห้ นักเรยี นควรรู กล้ัน ด้านหลังสีเทาด�า หางและครีบสีแดงคล�้าหรือสีส้ม กำก มกั พบในแมน่ �้าขนาดใหญ่ กมุ ภา เปนศพั ทค าํ กลอนดงั บท ประพนั ธ “ตัวกหู ลงอยูด วยกุมภา กจิ กรม จะเสื่อมเสียวชิ าทีเ่ รียนร”ู จากเรือ่ ง ไกรทอง กิตติศัพท์ กุมภำ นึกแคลงใจ นึกระแวง นึกสงสัย เกำะเกียน ในทนี่ ห้ี มายถงึ กลนั้ ลมหายใจ ขนุ ไศล คล้ำยคลำ้ ย สง่ิ ทเ่ี หลอื เมอื่ คนั้ หรอื คดั เอาสงิ่ ทด่ี อี อกไปแลว้ รปู กก็ าก มคี วามหมายวา่ รปู รา่ ง เจ้ำฟำในธำษตรี ไม่เหลอื ส่งิ ท่ีดเี อาไว้เลย การงานรวบรวมไพรพ่ ลเพือ่ ประโยชน์ของบา้ นเมือง เช่น การระดมพลในเวลา เกดิ ศกึ สงครามจากเรอื่ ง นางผเี สอื้ สมทุ รกลา่ วหาพระฤๅษแี หง่ เกาะแกว้ พสิ ดาร ว่าทา� ผดิ กิจกรม มาซอ่ งสมุ ผคู้ น คอื ม่ัวสุมชมุ นุมกนั ลบั ๆ เพอ่ื ท�าสิ่งชัว่ ร้าย เสยี งเล่าลอื เสียงสรรเสรญิ เสยี งยกยอ่ ง จระเข้ เกาะ หมายถงึ สว่ นของแผน่ ดนิ ทม่ี นี า้� ลอ้ มรอบ เกยี น เปน็ ภาษาเขมร หมายถงึ อ่าว ทะเล เกาะเกียน หมายถงึ แผ่นดนิ ท่ีมอี ่าว มีน�้าทะเลลอ้ มรอบ ภเู ขาใหญ่ เคลอ่ื นไหวไปเร่อื ย พระเจา้ แผ่นดิน ในที่น้หี มายถงึ พระอภยั มณี ธาษตรี มาจากธาตรี หมายถงึ แผ่นดิน 53 คูมอื ครู 53

กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate อธิบายความรู (ยอจากฉบบั นกั เรยี น 20%) ครเู ลอื กคาํ ศพั ทจ ากเกมมาเขยี นไว คำ� ศพั ท์ ควำมหมำย บนกระดานใหนักเรียนยกมือแขงขัน เจียระบำด กนั อธบิ ายความหมายของคาํ ศพั ทน นั้ ผา้ คาดเอวชนดิ หน่งึ มีชายห้อยทห่ี น้าขา และจดบนั ทกึ คาํ ศพั ทท น่ี กั เรยี นสนใจ คนละ 10 คํา เกรด็ แนะครู ฉนำก เจียระบาด ครูทบทวนความรูเกี่ยวกับคําศัพท เฉโก ชอื่ ปลาทะเลขนาดใหญ ่ เปน็ ปลากระดกู ออ่ น มเี หงอื ก ๕ คอู่ ยใู่ ตส้ ว่ นหวั บรเิ วณ โดยการตั้งคําถาม เชน ชวี งั ปลายสดุ ของหวั มีแผ่นกระดกู ยื่นยาวมาก ซึก คนฉลาดแกมโกง • คําวา “ตกั ษัย” “บรรลยั ” ตรีชำ เป็นค�าแผลงมาจากคา� วา่ ชีวา เพือ่ ให้สัมผสั กบั ค�าว่า หลัง มีความหมายวา “ตาย” ตะโกรง แทรกอยู่ ซ้ึงเข้าไป และมีคาํ อะไรอกี บาง ตดั ษัย ติเตยี น ตา� หน ิ กลา่ วโทษ ถอื เพทไสย ทะเยอทะยาน อยากได้ ตะกละตะกลาม • คาํ ทเ่ี ปน คาํ ราชาศพั ทม คี าํ ใดบา ง มาจากคา� วา่ ตกั ษยั หมายถงึ ตาย เปน็ การแปลงคา� ใหส้ มั ผสั กบั คา� วา่ ประดพิ ทั ธ์ ใหนักเรยี นคน ควาและบันทึก ทะมืน่ มีความเชี่ยวชาญในเวทมนตร์คาถาอาคม ใช้เวทมนตร์คาถาท�าร้ายผู้อื่นหรือ ลงสมุด ป้องกันตนเอง ทณั ฑ์ ค�าเดยี วกับค�าวา่ ทะมนึ หมายถึง สงู ใหญ่ ด�ามดื น่ากลวั มกั ใชเ้ ปน็ ค�าซ้อนว่า ท�ำไขหู ดา� ทะมนึ ทำ� รัก การลงโทษ นำงมำรจะนำนมำ ทา� เปน็ ไมไ่ ด้ยนิ บรรลัย แสรง้ ทา� ทวี ่ารักมาก บลั ลังก์ กวา่ นางยกั ษจ์ ะกลับมากค็ งอีกนาน บำกบนั่ ตาย แทน่ หินท่ใี ช้เป็นทน่ี งั่ บำ่ ยเบ่ยี ง ในท่นี ห้ี มายถึง ตัดรอน ในความวา่ “ประทานโทษโปรดเลี้ยงแตเ่ พียงนั้น ปรำนี อย่าบากบ่นั ความรกั นอ้ งนักเลย” หลีกเลย่ี ง แต่ในท่นี ีห้ มายถึง เวลาบ่ายคลอ้ ย 54 เอน็ ด ู สงสาร 54 คมู ือครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate ค�ำศพั ท์ ควำมหมำย อธบิ ายความรู ปรำย ปล้�ำ ซัด หว่านให้กระจายออกไป ใหนักเรียนสังเกตคําศัพทในบท ปำกเปรำะ ต่อสดู้ ้วยการกอดรดั ฟัดเหวี่ยง เรียนวา คําศัพทในบทเรียนมีการ ผนิด พูดว่าคนโดยไมม่ ีการไตร่ตรอง แปลงเสยี งหรือไม อยา งไร พระธำ� มรงค์ มาจากคา� วา่ ผนึก คอื ปดิ ใหแ้ น่น แหวน ธ�ามรงค์ทรงมาคา่ บรุ ี หมายความวา่ แหวนทพ่ี ระอภยั มณสี วมมามคี า่ (แนวตอบ มกี ารแปลงเสียง เชน ยดื พะเนิน เทยี บเท่าเมืองเมอื งหน่ึง คําไทยทเี่ ปนเสียงสัน้ ใหเ ปน เสยี งยาว พมิ พำ ค้อนขนาดใหญ่ใช้ตเี หลก็ หรอื ทุบหนิ เพือ่ สมั ผัส เปน ตน วา มนษุ ย เปน ชอ่ื ปลาฉลามขนาดใหญช่ นดิ หนง่ึ มฟี ันใหญ่เปน็ รปู สามเหลยี่ ม ขอบจักเป็นฟนั มานุษย มรณะ เปน มรณา เปลีย่ น พษิ ฐำน เลื่อย พืน้ ลา� ตวั เปน็ ครีบสนี า�้ ตาลหมน่ ดุรา้ ยมาก เรยี กเสอื ทะเลหรือฉลามเสือ มาตราตวั สะกดเพ่อื สมั ผสั เปน ตน วา มาจากคา� วา่ อธษิ ฐาน คอื ขอรอ้ งออ้ นวอนตอ่ สง่ิ ศกั ดส์ิ ทิ ธ ิ์ ขอใหช้ ว่ ยดลบนั ดาล ตักษยั เปน ตดั ษัย) เพลงศำสตรำ ให้ประสบผลสา� เรจ็ สมดังปรารถนา ภกั ษำหำร ลีลาทา่ ทางการต่อสดู้ ว้ ยอาวธุ ต่างๆ เกรด็ แนะครู ภูเขำหลวง อาหารทก่ี นิ เป็นประจ�า มหำชลำลัย ภูเขาใหญ่ ครูเพ่ิมเติมความรูเก่ียวกับคําศัพท มะยง มหาสมทุ รอนั กวา้ งใหญ่ ในบทเรียน คําวา ภักษาหาร ชลาลัย มะซำง มะปรางพนั ธห์ุ นึง่ รสเปร้ียวๆ หวานๆ หรือเรียกวา่ มะยงชิด ท่ีเกิดจากการสรางคําสมาสอยางมี มังกร ผลไม้รสหวานเย็น มียางมาก สนธิ โดยครูยกคําอื่นๆ ท่ีมีวิธีการ มำนษุ ย์ ชอ่ื ปลาไหลทะเลชนิดหน่งึ ลา� ตวั ยาวทรงกระบอก สว่ นหวั แบน ปากกวา้ ง สรางคําอยางเดียวกันมาประกอบ ยักคอทำ� ท้อแท้ ยืดพยางค์จากคา� วา่ มนษุ ย์ ความเขาใจ เชน ยุคนุ ธร์ ทา� ท่าออดออ้ น โดยการเอียงคอซบอกทา� ท่าเหมอื นไม่มีแรง หรือยุคนธร เป็นชื่อเทือกเขาท่ีล้อมรอบเขาพระสุเมรุอันเป็นท่ีประทับของ ธน+อาคาร เปน ธนาคาร ระลอก พระศวิ ะ ซงึ่ มีทง้ั หมด ๗ เทือกเขา เรียกวา่ เขาสัตบริภณั ฑ ์ เทือกเขาท้งั เจ็ด วทิ ย+อาลยั เปน วิทยาลยั รทุ ร ได้แก ่ เขายคุ นุ ธรหรอื ยคุ นธร อิสนิ ธร กรวิก สุทัสนะ เนมินธร วนิ ตกะ อสั กณั คช+อนิ ทร เปน คเชนทร เขายุคุนธรเป็นเขาท่ีอยู่ใกล้เขาพระสุเมรุที่สุด มีความสูงครึ่งหนึ่งของเขา ราช+อุปโภค เปน ราชูปโภค พระสเุ มร ุ ซ่งึ สงู ถงึ ๘๔,๐๐๐ โยชน์ เปนตน คล่นื นา่ กลัวยิ่ง 55 คูม ือครู 55

กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา อธิบายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Expand Evaluate Engage Explore Explain ขยายความเขาใจ (ยอจากฉบบั นกั เรยี น 20%) 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั คัดเลือก ค�ำศัพท์ ควำมหมำย คาํ ศพั ทนารู และเขยี นคําศัพท ละเมำะ ลงกระดาษจัดทําเปน สลาก ลักษณำ พุม่ ไม้ ลุยอ่อน มาจากคา� วา่ ลักษณะ ยดื เสียงเพ่ือการสมั ผสั คา� 2. ครเู รยี กชือ่ นกั เรียนใหจับสลาก ลกู ไม้ ลุยน้า� จนอ่อนแรง คาํ ศพั ท และอธิบายความหมาย เลกิ ผลไม ้ ปัจจบุ นั นยิ มใช้เป็นคา� ซ้อนว่า ส้มสูกลูกไม้ หลงั จากนน้ั นกั เรยี นทจี่ บั สลากแลว โลมำ ยกหรือเปดิ สิง่ ท่ีปูลาด คลุม หรือปิดอยู่ เรยี กช่อื เพือ่ นคนตอ ไปจนครบ สตั วท์ ะเลชนดิ หนง่ึ ทเ่ี ลย้ี งลกู ดว้ ยนม หายใจดว้ ยปอด รปู รา่ งเหมอื นปลา บางที รวบรวมคาํ ศพั ทจ ดลงสมดุ โดย โว้เว้ เรยี กวา่ ปลาโลมา สามารถสอนให้แสดงตามคา� สง่ั ไดห้ ลายอย่าง เขียนเรยี งอกั ษรตามพจนานกุ รม สมุทรไท พูดจาเหลวไหล สลำตนั ทอ้ งทะเลอันกวา้ งใหญ่ 3. ใหนักเรียนนําคําศัพทมาแตงเรื่อง สำชล ลมพายุ ตามความสนใจ กําหนดความยาว ส�ำนกั มาจากคา� วา่ สายชล หมายถึง สายน�้า 10 บรรทดั หนเี ขำใช้ พักอยู่ ทพี่ กั หบุ ห้อง บวชเพราะต้องการหนีราชการ ตรวจสอบผล เห่ช้ำ ถ�้า แห่งนสุ นธ์ิ การเหก่ ลอ่ มลูกใหน้ อนดว้ ยท�านองเพลงช้าๆ นกั เรยี นแตงเรื่องจากคําศัพทท่ี โหยกเหยก ท่ีติดต่อ การติดต่อ รวบรวมได อนกุ ลู ไมอ่ ยู่กับร่องกบั รอย ไมแ่ น่นอน อย่ำดูเบำ ชว่ ยเหลือ นักเรยี นควรรู อย่ำสญู ใจ อยา่ ดูถูก อสุรผี ีเส้อื น้ำ� อย่าแลง้ น้�าใจ สาชล เปน การสรา งคาํ ศพั ทจ ากการ อสุรี หมายถึง ยกั ษ ์ ผเี ส้อื บางถ่ินว่า ผเี สื้อ คือผทู้ ลี่ ่วงลับไปแล้วมถี ิ่นทีอ่ ยู่ ใชหลักภาษาบาลี-สันสกฤตโดยวิธี อัชฌำสัย ในนา้� บางทเี รยี กวา่ นางผเี สอื้ ยกั ษ ์ นางอาศยั อยใู่ นถา้� บนเกาะกลางนา�้ เปน็ ใหญ่ สมาสแบบสหบพุ บท (ส + ชล) สาชล อปั ลักษณ์ ในบรรดาภตู ผปี ศี าจทัง้ ปวง รูปร่างโตเทา่ ช้าง กินอาหารคือสัตวน์ �า้ นานาชนิด ตามหลักประกอบคําแปลวา “มีน้ํา” สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ เมื่อตายแล้วเผาจะกลับฟื้นคืนชีวิตได้อีก ถ้า แตแปลเอาความก็จะหมายถึง ทะเล ไม่เผาจะกลายเปน็ หิน แมน ํ้า หรืออัชฌาศัย หมายถงึ มีกิรยิ าดี นิสยั ใจคอด ี รู้จกั ผ่อนปรน ลักษณะไมด่ ี ไม่สวย นา่ เกลยี ด 56 56 คูมอื ครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate ๗ บทวิเคราะห์ กระตนุ ความสนใจ ๗.๑ คณุ คา่ ดา้ นเนอื้ หา ครกู ระตนุ นักเรยี นโดยใชคําถาม • นักเรยี นคดิ วา ตวั ละครตัวใด นทิ านค�ากลอนเร่อื งพระอภัยมณี ตอนพระอภยั มณีหนีนางผเี ส้ือ นอกจากจะเป็นตอนทีผ่ อู้ ่าน นาเห็นใจทีส่ ุด ไดร้ บั ความสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ จากรสวรรณคด ี การใชถ้ อ้ ยคา� ภาษาในการบรรยายทง้ั รสของภาพและ • ครูถามนักเรยี นวาบทบาทของ รสของเสยี งแลว้ บทประพนั ธ์ยงั ได้แฝงคณุ ค่าด้านเนอ้ื หาให้ผอู้ า่ นไดพ้ จิ ารณาใครค่ รวญอย่างมีเหตผุ ล ตัวละครสามารถพบในชวี ติ จรงิ ไดหรอื ไม วิเคราะห์แก่นของเนื้อหาเป็นเร่ืองค�าสอนทางพุทธศาสนา การเห็นผิดเป็นชอบ การท�าอะไร ตามใจตนไมค่ �านงึ ถึงผลทีจ่ ะตามมา กวสี ื่อแนวคดิ นี้ผา่ นตัวละคร คือ นางผเี ส้อื สมทุ ร ซงึ่ เป็นตัวอยา่ ง สํารวจคน หา ของผู้ที่ถูกกิเลสตัณหาครอบง�า มีแต่ความโหดร้าย ความลุ่มหลง มัวเมาในความรัก ความหึงหวง ครูใหน ักเรียนหาวา เหตุการณต อน ไม่ได้สติ จนท�าใหผ้ ู้อน่ื เดอื ดรอ้ นเสยี หายไปดว้ ย เห็นไดจ้ ากท่พี อ่ แมเ่ งอื กสละชวี ติ ของตนเพือ่ ช่วยเหลอื ใดในเร่ืองทีม่ ีความโดดเดน พระอภัยมณี ท�าให้เงือกสาวสูญเสียครอบครัว สินสมุทรผู้เป็นลูกจ�าต้องหลอกล่อแม่ท้ังท่ีกลัว ส่วน • ดานเนือ้ หา • ดา นวรรณศิลป พระฤๅษีทพ่ี ยายามช้แี นะทางทีถ่ กู กลบั ถูกดา่ ให้เสียหาย ดงั บทประพันธ์ที่ว่า • ดา นสังคมและสะทอนวิถีไทย นางผีเส้อื เหลือโกรธพโิ รธร้อง มาต้งั ซอ่ งศลี จะมอี ยู่ทไ่ี หน อธบิ ายความรู ชา่ งเฉโกโยคหี นีเขาใช ้ ไม่อยใู่ นศลี สตั ย์มาตดั รอน เขาว่ากันผัวเมยี กับแมล่ ูก ยน่ื จมกู เขา้ มาบา้ งช่วยสัง่ สอน ครูใหน ักเรียนถอดคําประพนั ธ แม้นคบคู่กูไว้มิใหน้ อน จะราญรอนรบเรา้ เฝ้าตอแย บททน่ี กั เรยี นประทบั ใจทส่ี ดุ พรอ มทงั้ อธิบายบทประพันธท่ีมีคุณคาดาน จะเห็นว่านางผีเส้ือสมุทรปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกอยู่เหนือเหตุผล ระรานผู้ท่ีปรารถนาดี ตา งๆ ดงั ตอไปน้ี อย่างพระฤๅษีและว่าร้ายให้เงือกสาวเสียหาย ทั้งนี้เพราะนางผีเส้ือสมุทรไม่ยอมรับความจริงว่า พระอภยั มณไี มไ่ ดร้ กั ตน และความแตกตา่ งของทง้ั สองท�าใหพ้ ระอภยั มณไี มม่ คี วามสขุ แทนทน่ี างผเี สอ้ื - • ดานเนอื้ หา สมุทรจะยอมรบั กลับดนั ทรุ ัง เพอ่ื ให้เป็นไปตามความต้องการของตน เม่ือไม่สมหวงั ก็เป็นทกุ ข์ กวไี ด้ช้ี • ดา นวรรณศิลป ให้เหน็ ความทกุ ข์ทรมานเพราะไม่รู้จักปลอ่ ยวาง ลุ่มหลงมัวเมาในกเิ ลสตณั หา • ดานสังคมและสะทอนวถิ ไี ทย ตอนพระอภัยมณหี นีนางผเี สอ้ื น ้ี ผปู้ ระพันธ์ใช้ “การหลอกลวง” ในการด�าเนนิ เรอื่ งเริ่มตั้งแต่ ตอนทพ่ี ระอภยั มณที รงวางแผนหนนี างผเี ส้ือสมทุ ร กต็ อ้ งลวงให้นางไปจ�าศลี เมอื่ นางผเี สือ้ สมทุ รตาม มาพบสินสมุทร สินสมุทรก็พยายามถ่วงเวลาให้พระอภัยมณีทรงหนี ท้ังที่ตนก็ตกใจกลัวท่ีเห็นแม่ แปลงกายเป็นยักษ ์ นางผเี สื้อสมทุ รรู้ว่าลกู ตกใจกลัวจงึ แกต้ ่างไปว่า จึงตอบโต้โปป้ ดโอรสราช มใิ ชช่ าติยักษ์มารชาญสมร เจ้าแปลกหรือคอื นี่แลมารดร เมอ่ื นั่งนอนอยใู่ นถา�้ ไมจ่ า� แลง 57 คูมอื ครู 57

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate อธบิ ายความรู (ยอ จากฉบับนักเรยี น 20%) ใหน ักเรียนอธิบายกลวธิ กี าร แม้สินสมทุ รจะยังเล็ก แตใ่ นยามวกิ ฤตกเ็ อาตวั รอดโดยการหลอกแม่ว่าจะไปเย่ียมปยู่ า่ และอา ประพันธ เร่อื งพระอภยั มณี ตอนพระอภัยมณหี นีนางผีเส้ือ เท่ียวบ้านเมืองพ่อสักปีแล้วจะกลับมา นางผีเส้ือสมุทรไม่เชื่อแต่ก็ตอบโต้ด้วย “การหลอก” เช่นกัน เพราะนางคดิ วา่ หากพูดจาหว่านลอ้ มดๆี สินสมทุ รจะยอมบอกว่าพระอภัยมณอี ยู่ท่ไี หน • บทประพันธน้มี ีความสมจรงิ เปน เหตุเปนผลหรือไมอยางไร อสรุ ผี เี สอื้ ไมเ่ ชอ่ื ถอ้ ย นึกวา่ นอ้ ยหรือตอแหลมาแกไ้ ข แกลง้ ดับเดือดเงือดงดอดฤทยั ท�าปราศรยั เสยี งหวานดว้ ยมารยา (แนวตอบ ตอบไดหลากหลาย ครู ถ้าแม้นแม่แตแ่ รกรูก้ ระนี ้ ชนนีกจ็ ะได้ไมเ่ ทย่ี วหา ควรชแ้ี นะเพิ่มเตมิ วามีความสมจรงิ นีน่ ึกแหนงแคลงความจงึ ตามมา ไม่โกรธาทูนหัวอย่ากลวั เลย ในประเดน็ ตา งๆ เชน ผดิ หวังใน ความรักมาก ก็จะพาลใหเกดิ ความ เดอื ดรอ นแกตนเองและผูอ่นื ได) ขยายความเขาใจ เมื่อนางผีเสื้อสมุทรตามพ่อแม่เงือกมาทัน ท้ังสองรู้ว่าจะไม่รอด แต่เพ่ือช่วยพระอภัยมณีให้ สา� เร็จ จึงใช้ “การหลอก” ดงั ทวี่ ่า “จึงกลา่ วแกลง้ แสร้งเสดว้ ยเล่ห์กล เธออยู่บนเขาขวางริมทางมา” กลวิธีการประพันธเรื่องพระอภัย- ตวั ละครในเรื่องใช ้ “การหลอก” เป็นทางออกในการแกป้ ญั หา ซ่ึงทา� ให้เรื่องด�าเนินไปอย่าง มณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเส้ือ น่าต่ืนเต้นไม่ว่าจะหลอกส�าเร็จหรือไม่ก็ตาม แต่จะเห็นได้ว่าเม่ืออีกฝ่ายรู้ว่าถูกหลอกก็จะยิ่งโมโห ดําเนินเรื่องดวยปมปญหาความ ยิ่งเจ็บใจ ดังเช่นตอนท่ีนางผีเส้ือสมุทรรู้ว่าถูกพ่อแม่เงือกหลอกก็โมโหจนจับเงือกท้ังสองมาฉีกร่าง ขัดแยงระหวางพอกับลูกที่มีความคิด กนิ เป็นอาหาร เหน็ ไมตรงกัน และครูถามนกั เรยี นวา เน้ือหาตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเส้ือ กวีใช้จินตนาการถ่ายทอดเรื่องราวอย่างสร้างสรรค์ และเมอ่ื พนิ จิ แกน่ ของเรอื่ ง ผอู้ า่ นจะพบแนวคดิ ทางพทุ ธศาสนาเรอื่ งการเหน็ ผดิ เปน็ ชอบ การไมย่ อมรบั • ปญ หาความขดั แยง ของสงั คม ความจรงิ การไมร่ จู้ กั ปลอ่ ยวางนา� มาซงึ่ ความทกุ ข ์ และกลวธิ ที ที่ า� ใหเ้ รอ่ื งราวนา่ ตน่ื เตน้ ชวนตดิ ตามเปน็ ไทยในปจ จบุ นั มอี ะไรเกิดข้ึน ตอนทีม่ ีคณุ คา่ ด้านเนอ้ื หาอย่างยงิ่ บาง (แนวตอบ ในสงั คมปจจบุ ัน ๗.๒ คณุ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์ มปี ญ หาเกิดขนึ้ หลายปญหา ตวั อยา งเชน ๑) กำรใช้ถ้อยค�ำ นิทานค�ากลอนเร่ืองพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ • ปญ หาความคดิ เหน็ ตา งวัยกนั ผปู้ ระพนั ธม์ คี วามสามารถในการเลอื กใชค้ า� ทสี่ อ่ื อารมณ ์ ความรสู้ กึ ไดอ้ ยา่ งงดงาม เหมาะสมแกเ่ นอ้ื เรอ่ื ง ของคนภายในครอบครวั ซ่ึง และฐานะของตัวละครในเร่อื ง เช่น แตละครอบครวั ควรหันหนา เขาหากนั พดู คุยปรับความ ฝา่ ยนางผีเสือ้ สมทุ รทีส่ ดุ โง ่ ไปนั่งโซเซาอยู่ริมภผู า เขา ใจระหวางกัน ขอชีวติ พษิ ฐานตามต�ารา ต้องอดปลาอดนอนอ่อนกา� ลงั • ปญ หาความคดิ เหน็ ทแี่ ตกตา ง ไดส้ ามวนั รันทดสลดจิต เจียนชีวิตจะเด็ดดบั ไม่กลับหลงั กนั ในสังคม เชน การเรียกรอง อตุ ส่าห์ยืนฝนื ใจให้ประทงั ค่อยเซซงั ซวนทรงไมต่ รงตวั คาแรง การเรียกรองวันหยุด เหน็ ลูกไม้ในป่าควา้ เขา้ ปาก ก�าลงั อยากยืนขยอกจนกลอกหัว การประทว งคา ชดเชย เปน ตน ซ่ึงปญหาเหลานี้ทุกฝายควร ... หาทางแกรวมกนั ) 58 58 คูมอื ครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate จากบทประพันธ์ดังกล่าว กวีได้เลือกใช้ถ้อยค�าท่ีแสดงให้เห็นกิริยาอาการของนาง อธบิ ายความรู ผีเส้ือสมุทร “โซเซา” แสดงอาการอ่อนแรง อ่อนล้า ใช้ค�าว่า “เซซังซวนทรง” แสดงให้ผู้อ่านเกิด จนิ ตภาพอาการออ่ นล้าจนเซถลาแทบจะทรุดตัวลงของนางผเี สือ้ สมุทร ครแู บงกลมุ ใหนกั เรียนคนควา โวหารที่ไดจากเรอื่ งนี้ จากนั้น นางผีเสือ้ เหลอื โกรธโลดทะล่ึง โตดงั หนึ่งยคุ ุนธรข์ นุ ไศล ยกตวั อยางบทประพนั ธป ระกอบ ลยุ ทะเลโครมครามออกตามไป สมุทรไทแทบจะล่มถล่มทลาย และบอกวาเปน โวหารชนิดใด เหล่าละเมาะเกาะขวางหนทางยักษ์ ภเู ขาหักหินหลดุ ทรดุ สลาย เสยี งครกึ ครน้ื คลื่นคลุ้มขน้ึ กลุ้มกาย ผีเสอื้ รา้ ยรบี รุดไม่หยุดยนื (แนวตอบ ตัวอยางบทประพันธ • การใชโวหารอปุ มา เชน จากบทประพนั ธด์ งั กลา่ ว กวเี ลอื กใชค้ า� “รบี รดุ ไมห่ ยดุ ยนื ” เพอ่ื ทา� ใหผ้ อู้ า่ นเกดิ จนิ ตภาพ กริ ยิ าและการเคลือ่ นไหวของตวั ละครทร่ี บี เร่งติดตามไปดว้ ยความโมโห “ไมค ลาดเคลอื่ นเหมอื นองคพ ระทรงเดช ๒) กำรใช้โวหำร นิทานค�ากลอนเรื่องพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเส้ือ แตดวงเนตรแดงดดู ังสุริยฉ าย ผ้ปู ระพนั ธเ์ ลือกใชส้ �านวนโวหารท่ใี ห้ผอู้ ่านเกดิ จนิ ตภาพไดช้ ัดเจน เชน่ ทรงกําลังดงั พระยาคชาพลาย มเี ขีย้ วคลายชนนีมศี ักดา” พระบติ ุรงค์ทรงศักดก์ิ ็รักใคร่ ดว้ ยเนื้อไขมิได้คดิ ริษยา เฝ้าเล้ียงลกู ผกู เปลแลว้ เหช่ า้ จนใหญ่กล้าอายไุ ด้แปดปี บทประพันธนี้แสดงใหผ ูอา นเห็น จึงใหน้ ามตามอย่างขา้ งมนุษย์ ช่ือสนิ สมทุ รกมุ ารชาญชัยศรี ภาพของพระโอรสของพระอภัยมณี ธา� มรงคท์ รงมาคา่ บรุ ี พระภมู ีถอดผูกใหล้ ูกยา กบั นางผีเสือ้ สมทุ รท่มี ีตาสีแดง เจียระบาดคาดองคก์ ็ทรงเปลอื้ ง ให้เป็นเครื่องนุ่งห่มโอรสา เหมือนดงั่ พระอาทิตย มีพละกําลัง สอนให้เจา้ เปา่ ป่ีมวี ิชา เพลงศาสตราสารพดั หดั ชา� นาญ มากเหมือนชางสาร และมเี ขยี้ ว เหมือนนางผเี สือ้ สมุทร) จากบทประพนั ธ์ข้างตน้ กล่าวถงึ สินสมุทรมีอาย ุ ๘ ปี พระอภยั มณีทรงต้งั ชอ่ื พระโอรส ตามอย่างมนุษย์แม้สินสมุทรจะมีแม่เป็นยักษ์ สินสมุทรสวมแหวนท่ีพระบิดาพระราชทาน เรียนวิชา ขยายความเขาใจ เป่าปแี่ ละเพลงอาวุธจากพระบดิ า ใหนักเรียนพจิ ารณาการใชถอ ยคํา พระโฉมยงองคอ์ ภัยมณีนาถ เพลินประพาสพศิ ดหู มู่มจั ฉา ในคาํ ประพนั ธ เหลา่ ฉลามลว้ นฉลามตามกันมา คอ่ ยเคลอื่ นคลาคลา้ ยคลา้ ยในสายชล ฉนากอย่คู ู่ฉนากไมจ่ ากคู ่ ข้ึนฟอ่ งฟูพน่ ฟองละอองฝน • คาํ ทม่ี เี สยี งเสนาะทาํ ใหคํา ฝงู พิมพาพาฝงู เขา้ แฝงวน บ้างผุดพน่ ฟองน้า� บ้างด�าจร ประพนั ธเกดิ ความไพเราะ กระโห้เรยี งเคียงกระโห้ขึน้ โบกหาง ลอยสลา้ งกลางกระแสแลสลอน ไดอ ยา งไร พรอมยกตัวอยา ง มงั กรเกย่ี วเลย้ี วลอดกอดมงั กร ประชุมซ่อนแฝงชลข้ึนวนเวียน ประกอบ ฝงู ม้านา้� ท�าทา่ เหมอื นม้าเผน่ ขน้ึ ลอยเลน่ เลี้ยวลัดฉวัดเฉวยี น (แนวตอบ มกี ารเลอื กใชคําท่ีมี ตะเพียนทองทอ่ งน้า� น�าตะเพยี น ดาษเดียรดเู พลนิ จนเกินมา เสียงเสนาะ มสี มั ผัสนอกและ สมั ผัสในทม่ี ีทัง้ สัมผัสสระและ 59 สมั ผสั อักษร ทําใหค ําประพนั ธ ไพเราะ ผอู านเกิดความซาบซงึ้ ในคาํ กลอน และจากการใชค าํ ซาํ้ “ฉนากอยคู ฉู นากไมจากคู ข้นึ ฟองฟพู นฟองละอองฝน ฝงู พมิ พาพาฝงู เขาแฝงวน บางผุดพน ฟองนาํ้ บางดําจร กระโหเ รยี งเคยี งกระโหข น้ึ โบกหาง ลอยสลา งกลางกระแสแลสลอน มังกรเก่ียวเลยี้ วลอดกอดมังกร ประชุมซอนแฝงชลข้ึนวนเวยี น”) คูมอื ครู 59

กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate อธบิ ายความรู (ยอจากฉบบั นักเรยี น 20%) “พี่เปนมนุษยส ุดสวาทเปน ชาตยิ กั ษ จากข้อความดังกล่าว กวีได้เลือกใช้โวหารท่ีพรรณนาให้เกิดภาพพจน์หรือจินตภาพว่า จงคิดหกั ความสวาทใหข าดสญู พระอภัยมณีทรงช่ืนชมความงามของสัตว์น�้าประเภทปลามากมายหลายชนิดท่ีว่ายน�้าและเคล่ือนไหว กลับไปอยูคูหาอยาอาดรู ในน�้าอย่างอิสระ สวยงาม ท�าให้ผู้อ่านเกิดจินตภาพหมู่ปลาท่ีเคลื่อนไหวสวยงามและเกิดความ จงเพมิ่ พนู ภาวนารักษาธรรม” เพลิดเพลนิ จากบทประพนั ธข า งตน ใหน กั เรยี น สัตวใ์ นน�า้ จา� แพ้แกผ่ เี สอ้ื เปรยี บเหมือนเนื้อเห็นพยัคฆ์ใหช้ กั หลัง เขียนอธิบายการเลนเสยี งลงสมดุ อย่าเกรงภัยในชลท่ีวนวงั ขน้ึ นงั่ ยงั บ่าข้าจะพาไป (แนวตอบ เลน เสยี งสมั ผสั ใน บทประพันธ์ดังกล่าว กวีเลือกใช้โวหารเพ่ือให้ผู้อ่านเกิดจินตภาพจากความเปรียบที่ ท้งั สมั ผสั สระและสมั ผสั อกั ษร ผู้ประพนั ธน์ า� มาใช ้ คอื เปรยี บความกลวั ของสตั วน์ า�้ ที่มตี ่อนางผเี ส้อื สมุทรเหมอื นเน้อื เห็นเสอื สัมผสั สระ ไดแ ก มนษุ ย- สุด(สวาท), สวาท-ชาต,ิ สวาท-ขาด, อยู-คู(หา), นางเงอื กน้อยสร้อยเศร้าเขา้ มาผลดั แบกกษตั ริย์ว่ายเสอื กเสลอื กสลน ภาวนา-(รัก)ษา สัมผัสอกั ษร ไดแก ก�าลังสาวคราวดว่ นดว้ ยจวนจน ออกกลางชลโบกหางผางผางไป สดุ -สวาท, สวาท-สญู , อย-ู อยา, เพิม่ -พนู ) ขยายความเขาใจ จากบทประพนั ธด์ งั กลา่ ว กวเี ลอื กใชค้ า� เลยี นเสยี งธรรมชาตทิ า� ใหผ้ อู้ า่ นเกดิ ภาพขน้ึ ในใจ และเกิดความรู้สึกคล้อยตาม คือการว่ายน้�าโบกหางอย่างเร่งรีบของเงือกจนเกิดเสียงดังผางผางได้ ใหนักเรียนจับคูแตงคําประพันธ อย่างชัดเจน กลอนสภุ าพทมี่ กี ารเลน เสยี งสมั ผสั ใน ท้งั สมั ผสั สระและสมั ผัสอกั ษร คลู ะ ๓) กำรเลน่ เสียง นอกจากสัมผัสนอกซึ่งเป็นสัมผัสบังคบั แลว้ ทกุ วรรคของค�ากลอน 1 บท แลวมานําเสนอในหองเรยี น จะแพรวพราวดว้ ยสัมผัสใน อันไดแ้ ก ่ เสียงสมั ผสั สระและสัมผสั อักษร ดงั บทประพนั ธ์ เกร็ดแนะครู นางเงือกนอ้ ยสร้อยเศรา้ เข้ามาผลัด แบกกษตั รยิ ว์ ่ายเสือกเสลือกสลน ก�าลงั สาวคราวดว่ นดว้ ยจวนจน ออกกลางชลโบกหางผางผางไป ครคู วรเสริมสรางใหน ักเรยี น เกดิ จินตนาการ สรา งตัวละครใน กลาง-หาง–ผาง • สัมผัสสระ ได้แก่ น้อย-สร้อย เศร้า-เข้า เสือก-เสลือก สาว-คราว ด่วน-จวน จินตนาการของนกั เรียนเอง ถายทอด จวน-จน • สัมผสั อักษร ได้แก ่ นาง-นอ้ ย สร้อย-เศร้า กษัตริย์-เสอื ก เสลอื ก-สลน ด่วน-ดว้ ย ความคดิ โดยการเลา เกยี่ วกบั ตวั ละคร นน้ั หรอื วาดภาพตวั ละครเพอื่ นาํ เสนอ หนา ช้ันเรียน ๔) ลีลำกำรประพันธ์ กลอนนิทานตอนนปี้ รากฏลีลาการประพนั ธ ์ ดังนี้ เสาวรจนี คอื บทชมความงามของธรรมชาติ ดังบทประพันธ์ 60 60 คมู อื ครู

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate พงศก์ ษตั ริยท์ ัศนานางเงอื กน้อย ดแู ชม่ ชอ้ ยโฉมเฉลาทั้งเผา้ ผม อธบิ ายความรู ประไพพกั ตรล์ ักษณ์ล�้าล้วนข�าคม ทงั้ เนื้อนมนวลเปลง่ ออกเตง่ ทรวง ขนงเนตรเกศกรออ่ นสะอาด ดังสรุ างค์นางนาฏในวงั หลวง ครูใหนักเรียนอธิบายเร่ืองลีลาการ พระเพลินพิศคิดหมายเสยี ดายดวง แล้วหนักหนว่ งนึกท่จี ะหนีไป ประพนั ธ หรอื สนุ ทรยี ลลี าในวรรณคดี เร่ืองพระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณี นารีปราโมทย์ คือบทโอ้โลม เก้ียวพาราสีหรือบทปลอบใจ ตอนพระอภัยมณีหนีได้ หนีนางผเี สือ้ ปลอบใจนางผีเส้อื สมุทร ดงั บทประพนั ธ์ (แนวตอบพระอภยั มณี ตอนพระอภยั พีม่ นุษย์สดุ สวาทเปน็ ชาติยกั ษ ์ จงคดิ หักความสวาทใหข้ าดสญู มณีหนีนางผีเส้ือ เดนทางลีลาแสดง กลบั ไปอยคู่ หู าอย่าอาดูร จงเพมิ่ พนู ภาวนารกั ษาธรรม์ ความโกรธ คือ พโิ รธวาทัง ขณะท่ดี อย อยา่ ฆา่ สตั ว์ตัดชวี ิตพิษฐาน หมายวิมานเมอื งแมนแดนสวรรค์ ทางลีลาแสดงความรกั บทเกยี้ ว ทั้งน้ี จะเกดิ ไหนขอใหพ้ บประสบกัน อยา่ โศกศลั ยแ์ คล้วคลาดเหมือนชาตินี้ เพราะเปนตอนที่พระอภัยมณีหนีนาง ผเี สือ้ สมทุ ร) พิโรธวาทัง คือบทโกรธ ขัดเคือง ตัดพ้อ ต่อว่า ด่าทอ ตอนนางผีเส้ือสมุทรก้าวร้าว พระฤๅษแี ละหึงนางเงอื ก ดังบทประพันธ์ ขยายความเขา ใจ นางผีเสือ้ เหลอื โกรธพิโรธรอ้ ง มาตั้งซ่องศีลจะมอี ยู่ทไ่ี หน 1. ใหน ักเรียนยกตวั อยางบทประพนั ธ ช่างเฉโกโยคหี นีเขาใช ้ ไม่อย่ใู นศลี สัตยม์ าตัดรอน ทีม่ ลี ีลาการประพันธโ ดดเดน เขาว่ากนั ผัวเมยี กับแม่ลูก ย่ืนจมกู เขา้ มาบา้ งชว่ ยส่งั สอน นาประทบั ใจ จากวรรณคดหี รอื แมน้ คบคู่กูไว้มิให้นอน จะราญรอนรบเรา้ เฝา้ ตอแย วรรณกรรมไทยทีน่ กั เรยี นเคยอาน แล้วช้ีหนา้ ด่าอึงหงึ นางเงอื ก ท�าซบเสือกสอพลออตี อแหล มา 1 ตวั อยา ง เหน็ ผัวรักยักคอทา� ท้อแท ้ พ่อกับแมม่ งึ เข้าไปอยู่ในทอ้ ง (แนวตอบ ตัวอยางลีลาการประพันธ สัลลาปงคพสิ ัย สัลลาปังคพิสยั คอื บทว้าเหว่ เงียบเหงา โศกเศรา้ เสียใจ คร่า� ครวญ เชน่ ความเสียใจ “แตเชาเทาถึงเยน เมอ่ื นางผเี สื้อสมทุ รกลับจากจ�าศีลแลว้ พบวา่ พระอภยั มณีหนไี ป จงึ ครา่� ครวญรา�่ ไห้ ดงั บทประพนั ธ์ กลาํ้ กลนื เขญเปนอาจณิ ชายใดในแผนดนิ ถงึ ประตคู ูหาเห็นเปดิ อยู ่ เอ๊ะอกกูเกิดเข็ญเปน็ ไฉน ไมเหมือนพที่ ่ตี รอมใจ” เขา้ ในห้องมองเขม้นไม่เห็นใคร ย่ิงตกใจเพียงจะดนิ้ ส้นิ ชีวี แลดปู ที่ ีเ่ ป่าเล่าก็หาย นางยักษร์ า้ ยรู้ว่าพากนั หนี บทเหค รวญ: เจา ฟา ธรรมธเิ บศร) เสียน�า้ ใจในอารมณ์ไม่สมประด ี สองมอื ตีอกตมู ฟูมนา้� ตา 2. ครูสุมนักเรียน 4-5 คนมานําเสนอ ลงกลิ้งเกลือกเสอื กกายร้องไหโ้ ร ่ เสยี งโฮโฮดงั ก้องหอ้ งคูหา พระรูปหลอ่ พ่อคุณของเมยี อา ควรหรอื มาท้ิงขว้างหมองหมางเมีย หนาช้ันเรียน ครูแนะนักเรียนวา ตัวอยางที่นํามาเสนอน้ันถูกตอง หรือไม 61 คูมอื ครู 61

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate อธิบายความรู (ยอจากฉบับนักเรยี น 20%) จากบทประพนั ธ เรอื่ งพระอภยั มณี ๗.๓ คณุ คา่ ดา้ นสงั คมและสะทอ้ นวถิ ไี ทย ตอนพระอภยั มณีหนีนางผีเสือ้ ใหนักเรยี นชว ยกันวเิ คราะห ๑) ควำมเช่อื เรอ่ื งควำมฝนั และโชคลำง ความเชือ่ ในเร่ืองความฝนั ซึ่งเปน็ ความเชอื่ ท่ีผูกพันอยู่กับคนไทย ถ้าฝันดีก็จะเกิดความสบายใจ หากเป็นฝันร้ายก็จะต้องหาหนทางแก้ไข ซ่ึง • ตัวละครตวั ใดในเรอ่ื งท่ีมีความ ปรากฏในนิทานคา� กลอนเรอ่ื งพระอภยั มณ ี ตอนพระอภยั มณีหนีนางผีเสื้อ ดงั บทประพนั ธ์ เชอ่ื เร่ืองความฝนและโชคลาง สงผลอยางไร พอม่อยหลับกลบั จิตนมิ ติ ฝัน ว่าเทวัญอย่ทู ี่เกาะนั้นเหาะเหนิ (แนวตอบ นางผเี ส้ือสมุทรฝนวา มาสงั หารผลาญถา�้ ระย�าเยนิ แกว่งพะเนนิ ทุบนางแทบวางวาย มีคนเอาพะเนินทุบอกนางและ แล้วอารกั ษ์ควกั ล้วงเอาดวงเนตร สา� แดงเดชเหาะกลับไปลับหาย ควักเอาลูกตานาง พอเลาความ ท้งั กายสั่นพรนั่ ตัวด้วยกลวั ตาย พอฟื้นกายก็พอแจง้ แสงตะวัน ฝนใหพระอภัยมณีฟง พระอภัย- มณีก็ฉวยโอกาสท่ีนางเชื่อเร่ือง จากบทประพันธ์เมอื่ นางผเี ส้อื สมทุ รกลบั มาจากหาอาหารใหส้ ามแี ละบุตร ตกกลางคนื ความฝนลางรายออกอุบายให นางฝันวา่ มีเทวดามาควกั เอาดวงตาของนางและหายลบั ไป เมอื่ นางตื่นขน้ึ จากความฝันจึงเล่าความฝัน นางไปจาํ ศลี เพอ่ื ตวั เองจะไดห น)ี ใหพ้ ระอภัยมณีฟงั โดยนางเชอ่ื ว่าเปน็ ฝนั รา้ ย ขยายความเขาใจ ๒) ควำมเช่ือเรื่องกำรสะเดำะเครำะห์ คนไทยมีความเชื่อว่าหากมีส่ิงไม่ดีเกิดขึ้น กับตนเองและครอบครัว มักมีสาเหตุมาจากเคราะห์กรรมหรือโชคชะตา ซ่ึงการแก้ไขต้องอาศัย ใหน กั เรียนแบงกลมุ กันอภิปราย การสะเดาะเคราะห์ ซง่ึ ความเชอื่ น้ีได้ปรากฏในนิทานค�ากลอนเร่ืองพระอภยั มณี ดังบทประพันธ์ เรอื่ งความเชื่อและความฝน นึกจะใครส่ ะเดาะพระเคราะหเ์ จ้า พอบรรเทาโทษาทอี่ าสญั ครถู ามวา เหมอื นงอนง้อขอชวี ติ แกเ่ ทวัญ กลัวแตข่ วัญเนตรพี่จะมทิ �า • นกั เรียนเช่อื เรอื่ งความฝน ... ตา� รานั้นแต่คร้ังตัง้ เมรุไกร หรือไม อยางไร ให้ไปอย่ผู ้เู ดยี วที่ตีนเขา วา่ ถา้ ใครฝนั รา้ ยจะวายปราณ • นกั เรยี นเคยไดย นิ เรื่องเกี่ยวกับ ถว้ นสามคนื สามวันจะบันดาล แล้วอดข้าวอดปลากระยาหาร ให้ส�าราญรอดตายสบายใจ ความฝนและลางบอกเหตุ ... หรือไม อยา งไร (แนวตอบ ตอบไดหลากหลาย จากบทประพนั ธเ์ มอ่ื นางผเี สอ้ื สมทุ รเลา่ ความฝนั ของนางใหพ้ ระอภยั มณฟี งั พระอภยั มณี โดยครรู วบรวมความคดิ เหน็ และ ทรงลวงวา่ เปน็ ฝนั รา้ ยและทรงแนะนา� วา่ นางตอ้ งไปอดอาหารทตี่ นี เขาเปน็ เวลาสามวนั ซงึ่ พระอภยั มณี เหตุผล ไมจําเปนตองสรุปความ จะทรงใช้เวลาในชว่ งนห้ี นนี างผีเสอื้ สมทุ รไปพร้อมกบั สินสมุทรพระโอรส คิดเห็นเรื่องนี้ เพราะนักเรียนมี โอกาสพบเห็นแตกตางกัน ครูชี้ ๓) ควำมเชอื่ เรอ่ื งเทพยดำทส่ี งิ สถติ อยตู่ ำมสถำนทต่ี ำ่ งๆ ความเชอ่ื ทว่ี า่ ทกุ สถานท่ี แนะใหนักเรียนใชวิจารณญาณ จะมีส่ิงศักด์ิสิทธ์ิทั้งที่เป็นเทวดา ภูตผี ปีศาจสิงสถิตผูกพันอยู่กับวิถีชีวิตของคนไทยมายาวนาน เม่ือ ในการเชอื่ เรอ่ื งนอี้ ยางมีเหตผุ ล) เวลาจะไปพักค้างคืนยังสถานที่ต่างๆ ผู้ใหญ่มักจะสอนว่าให้ยกมือไหว้เพ่ือขอขมาทุกคร้ัง รวมถึงทาง เกรด็ แนะครู 62 ครใู หขอคิดเกี่ยวกับเรื่องการ สะเดาะเคราะห โดยการถาม-ตอบวา “นักเรียนคนใดเคยเหน็ การ สะเดาะเคราะหบ า ง นกั เรยี นเชื่อ หรอื ไม อยางไร” ครคู วรชแ้ี นะวา การสะเดาะเคราะห เปน ความเชอื่ สวนบคุ คล ตองใช วจิ ารณญาณประกอบการตัดสนิ 62 คูมอื ครู

กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Expand Engage Explore Explain Evaluate สามแพรง่ ท่ีคนไทยเชื่อวา่ จะมีบรรดาภูตผอี าศยั อยู่ จงึ มกั นา� เคร่ืองเซน่ ไปบูชา ซ่ึงความเชอื่ ประการน้ี ขยายความเขา ใจ ไดป้ รากฏในเรอ่ื ง ดังบทประพันธ์ 1. ใหน กั เรยี นแลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ ฝ่ายปศี าจราชทตู ภตู พรายพาล อลหมา่ นขึ้นมาหาในสาชล เกย่ี วกบั คา นยิ มของสงั คมไทยทเ่ี ดก็ อสรุ ผี เี ส้อื จึงซักถาม มึงอยู่ตามเขตแขวงทุกแห่งหน ตองเคารพผูใหญ เหน็ มนุษยน์ วลละอองทง้ั สองคน มาในวนวงั บ้างหรอื อยา่ งไร • ในฐานะทน่ี ักเรยี นเปน เดก็ ... รนุ ใหมค วรปฏิบตั ิตอ ผูใหญ อยางไรจึงจะเหมาะสม ๔) ค่ำนิยมของสังคมไทยที่เด็กต้องเคำรพผู้ใหญ่ สังคมไทยเป็นสังคมที่พ่ึงพา (แนวตอบ ไมมีผิดถูก แตครูควร อาศัยกัน มีความผูกพันกตัญญูรู้คุณและจะให้ความเคารพผู้ใหญ่ เมื่อได้กระท�าส่ิงใดท่ีถือว่าเป็นการ แนะใหน กั เรยี นเหน็ วา การเคารพ ล่วงเกนิ ควรที่จะกลา่ วขอโทษ ไมค่ วรกระท�าสงิ่ ใดทเี่ ป็นการลว่ งเกนิ ซ่ึงค่านิยมประการนไ้ี ดป้ รากฏใน ผูใหญเปนสิ่งที่ดี เชน ถาหาก เร่ือง ดงั บทประพันธ์ นักเรียนไมเห็นดวยในคําสอน ใหถ ามอยา งมมี ารยาท ผใู หญจ ะ พงศก์ ษตั รยิ ต์ รัสชวนสนิ สมทุ ร สอนใหบ้ ุตรขอสมาอัชฌาสัย เอ็นดูและตอบคําถามท่ีนักเรียน พระทรงบ่าเงอื กนา้� งามวไิ ล พระหน่อไทขอสมาขึ้นบา่ นาง ของใจ ซึ่งจะเปนประโยชนแก นกั เรยี นเอง) ๗.๔ ขอ้ คดิ ทส่ี ามารถนา� ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจา� วนั 2. ใหนักเรยี นยกสํานวนสุภาษติ ไทย นทิ านคา� กลอนเรอ่ื งพระอภยั มณ ี ตอนพระอภยั มณหี นนี างผเี สอ้ื เปน็ นทิ านคา� กลอนทส่ี นกุ สนาน เก่ยี วกบั เดก็ ควรเคารพผใู หญ ชวนใหต้ ิดตาม ในขณะทผ่ี ู้อ่านเพลิดเพลนิ กับเรื่องราว กวยี งั ได้สอดแทรกแนวคดิ หรือขอ้ คิดที่สามารถ พรอมอธบิ ายความหมายตาม น�าไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ชวี ิตประจ�าวันได ้ ดังนี้ ความเขาใจของนักเรยี น ๑) ควำมมนี ำ้� ใจและเสยี สละใหผ้ อู้ น่ื เปน็ สง่ิ ควรทำ� ตวั ละครในเรอื่ งตา่ งแสดงความ (แนวตอบ เชน เดนิ ตามหลงั ผูใหญ เออ้ื เฟอื้ เผอื่ แผ่ มนี ้า� ใจต่อกัน เหน็ ใจในความทุกขข์ องเพื่อนมนษุ ย์ ปรารถนาให้ผูอ้ ื่นมคี วามสขุ เชน่ หมาไมกดั อาบนาํ้ รอ นมากอ น พระอภัยมณีทรงมีพระด�าริท่ีจะเสียสละพระชนม์ชีพเพื่อให้ทุกคนรอด สินสมุทรเสี่ยงภัยล่อหลอก เปน ตน ) มารดาให้เขา้ ใจผดิ ว่าพระบิดายังอยกู่ บั ตน ให้มารดาพะวงค้นหาเพอ่ื ใหพ้ ระบดิ าหนีไป ส่วนครอบครัว เงือกยอมเสียสละชวี ิตเพื่อให้คนอ่ืนๆ รอด ทุกคนแสดงน�า้ ใจตอ่ กนั ชว่ ยเหลือกัน เกร็ดแนะครู ๒) ชวี ติ คทู่ ไี่ มไ่ ดเ้ กดิ จำกควำมรกั ไมไ่ ดเ้ กิดจำกควำมเตม็ ใจยอ่ มไมย่ งั่ ยืน นิทาน ค�ากลอนเรอ่ื งพระอภยั มณี ตอนพระอภยั มณหี นีนางผเี ส้อื ได้สะทอ้ นแนวคดิ ด้านความรัก คอื ชวี ิตค่ทู ่ี ครใู หแ นวคดิ เก่ียวกบั ความเชื่อ เกิดข้ึนจากความไม่เต็มใจย่อมไม่มีความยืนยาวหรือม่ันคง เหมือนดังท่ีพระอภัยมณีทรงไม่เคยรัก เร่อื งเทพยดาทีส่ งิ สถติ อยตู ามสถานท่ี นางผีเสื้อสมุทรเลย เพราะทรงถูกนางผีเสื้อสมุทรลักพาพระองค์มาไว้ท่ีถ�้า ท้ังนี้พระอภัยมณีทรงไม่มี ตา งๆ โดยนกั เรยี นรวมกันแสดง ทางเลอื กจงึ จา� พระทยั ยอมใช้ชีวติ กับนาง แตแ่ ล้วชวี ติ ค่กู ็มาถงึ จุดแตกหกั เม่ือพระอภยั มณีมีโอกาสหนี ความคดิ เหน็ วา ในปจ จบุ ันความเชอ่ื นางผีเสอ้ื สมทุ รพร้อมกบั พระโอรส โดยความชว่ ยเหลอื ของครอบครัวเงือก เรื่องเทพยดายังคงมีอยหู รอื ไม 63 ครคู วรช้แี นะใหเ ห็นเรือ่ งความเชอื่ น้ีอยางมเี หตมุ ผี ล เพอื่ ใหน ักเรียน เขาใจและรูจกั คดิ วเิ คราะหอ ยางมี วจิ ารณญาณ คมู อื ครู 63

กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Expand Evaluate Engage Explore Explain ขยายความเขาใจ (ยอจากฉบบั นักเรียน 20%) นักเรยี นพจิ ารณาขอ คดิ ท่ีสามารถ ๓) บิดำมำรดำคือตัวอย่ำงท่ีดีส�ำหรับบุตร กลอนนิทานเรื่องพระอภัยมณีสะท้อน นาํ ไปประยกุ ตใชใ นชวี ิตประจาํ วัน ให้เห็นว่าบิดามารดาคือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับบุตรมากที่สุด ทัศนคติ ความเคารพนับถือหรือความรัก ทยี่ กมาในเร่ืองน้ี ย่อมเกิดข้ึนในขณะใช้เวลาอยู่ร่วมกัน เหมือนดังท่ีสินสมุทรมีพระบิดาเป็นผู้อบรมสั่งสอนอย่างใกล้ชิด ดงั บทประพนั ธ์ • นกั เรียนคดิ วา มีขอ คิดเพ่ิมเติม เร่ืองใดอีกบา ง พระบิตรุ งคท์ รงศักด์กิ ร็ กั ใคร ่ ด้วยเนือ้ ไขมิไดค้ ดิ ริษยา (แนวตอบ การมสี มั มาคารวะ เฝ้าเล้ียงลกู ผกู เปลแลว้ เห่ชา้ จนใหญ่กลา้ อายไุ ด้แปดปี เพื่อใหเปน ทรี่ ักใครของคนทว่ั ไป จึงให้นามตามอย่างข้างมนุษย ์ ชื่อสนิ สมุทรกุมารชาญชยั ศรี การมคี วามกตญั ูรูคุณ) ธ�ามรงคท์ รงมาคา่ บุร ี พระภูมีถอดผกู ให้ลกู ยา เจียระบาดคาดองค์กท็ รงเปลอื้ ง ใหเ้ ปน็ เครอ่ื งนุ่มห่มโอรสา • นกั เรียนคดิ วา จะนําขอคดิ จาก สอนใหเ้ จ้าเปา่ ปี่มวี ชิ า เพลงศาสตราสารพัดหัดชา� นาญ เร่ืองน้ีไปใชในชวี ิตประจาํ วันได อยางไร ๔) กำรท�ำงำนร่วมกันต้องรับฟังควำมคิดเห็นของผู้อ่ืน เร่ืองพระอภัยมณีชี้ให้ (แนวตอบ การมีน้ําใจและความ เห็นว่า ในการทา� งานตอ้ งมกี ารวางแผนร่วมกนั ยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ซงึ่ กนั และกันและนา� ข้อมลู มา เสียสละใหผูอ่ืน เพราะวาการ ใช้ในการตัดสนิ ใจ การดา� เนินตามแผนควรประเมินกา� ลงั ของตน หากงานยงั ไมส่ า� เรจ็ จะชะล่าใจไม่ได้ อยูรวมกันในสังคมจําเปนตอง ให้ด�าเนินการอย่างเร่งรีบและหากมีปัญหาอุปสรรคต้องช่วยกันแก้ไข เช่น เม่ือพระอภัยมณีเห็นว่า มีการพ่ึงพาอาศัยซึ่งกันและกัน ครอบครัวเงอื กเหนือ่ ยลา้ มากและคา�่ มืดแล้วควรหยดุ พัก แต่พอ่ เงอื กเตอื นวา่ เราไมสามารถทําสิ่งหน่ึงสิ่งใด ไดคนเดียวทั้งหมด ตองรูจักรับ ตาเงอื กนา�้ ซา้� สอนพระทรงศกั ดิ ์ ยงั ใกล้นักอยา่ ประมาทท�าอาจหาญ ฟง ความคิดเหน็ ของผูอน่ื ดว ย) นางรูค้ วามตามมาไม่ช้านาน จะพบพานพากนั ตายวายชวี ัน ตรวจสอบผล เมื่อพ่อเงอื กเตอื นเชน่ นั้น พระอภยั มณกี ท็ รงเชือ่ จากนนั้ ทั้งหมดจึงออกเดินทางตอ่ ไป จนถึงเกาะแกว้ พิสดาร 1. นกั เรยี นเลา เรื่องยอ เร่อื ง พระอภยั มณี ตอนพระอภัยมณีหนี จะเห็นว่ากลอนนิทานเรื่องพระอภัยมณีมีความแปลกใหม่ในเน้ือหา โครงเร่ือง นางผเี สือ้ และเขียนลงสมุดหรอื สนกุ สนาน โดยเฉพาะตอนพระอภยั มณหี นนี างผเี สอื้ เปน็ ตอนทสี่ นกุ สนาน ตน่ื เตน้ เรา้ ใจ ชวยกันเลา ในชั้นเรยี น ชวนใหต้ ิดตาม มีความไพเราะดา้ นการใช้ถ้อยคÓ เสยี งเสนาะ รสของถอ้ ยคÓ มคี ุณคา่ ด้านสังคม คือสะท้อนให้เห็นสภาพชีวิต ความคิด ความเช่ือของคนในสังคม และช้ี 2. บทประพนั ธใ ดท่สี ะทอนวถิ ีไทย ให้เห็นสภาพความเป็นจริงของชีวิต ดังนั้นผู้อ่านจึงควรตั้งใจอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์ และแสดงใหเห็นคุณคาดานสังคม เพอ่ื นÓข้อคิดคตธิ รรมไปใช้ใหเ้ ป็นประโยชน์ในชวี ิตประจÓวัน และวรรณศลิ ป ยกตวั อยา งประกอบ 64 3. นักเรียนนําขอคดิ ทป่ี รากฏในเรอื่ ง พระอภัยมณี ตอนพระอภยั มณีหนี นางผีเส้ือไปใชใ นชีวิตประจาํ วนั ได 4. นกั เรียนทอ งจําบทอาขยานตามที่ กาํ หนด 5. นกั เรียนตอบคําถามประจาํ หนว ย การเรียนรู แลวรายงานหนา ชน้ั เกรด็ แนะครู ครชู แี้ นะการนาํ ขอ คิดจากเร่อื งไปใชใ นชีวิตประจาํ วนั โดยใหน ักเรยี นทีเ่ คยมีประสบการณ เหมอื นขอคดิ ในเร่ืองน้ีมาเลา ประสบการณ และใหเพอื่ นๆ ในหองชว ยกนั คิดวาจะนําขอคิด จากเร่อื งพระอภัยมณไี ปใชในชวี ิตใหเกิดประโยชนแกตวั เองอยางไร 64 คมู อื ครู


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook