Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดประสบการณ์ หน่วยการเรียนรู้พิเศษ ปีการศึกษา2563

แผนการจัดประสบการณ์ หน่วยการเรียนรู้พิเศษ ปีการศึกษา2563

Published by pariyapat2279, 2021-09-25 04:33:33

Description: แผนการจัดประสบการณ์ หน่วยการเรียนรู้พิเศษ ปีการศึกษา2563
ในช่วงสถานการณ์โควิด - 19

Search

Read the Text Version

แผนการจดั ประสบการณ์ หนว่ ยการเรยี นรพู้ เิ ศษ (เนือ่ งจากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา่ ๒๐๑๙) ชน้ั อนบุ าล 3 นางสาวปรยิ าภทั ร สายสนนั่ โรงเรยี นวดั พชื นมิ ติ (คาสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ารงุ ) อาเภอคลองหลวง จงั หวดั ปทมุ ธานี สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาปทมุ ธานี เขต ๑

แผนการจดั ประสบการณ์ หนว่ ยการเรียนรู้พเิ ศษ (เนอื่ งจากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา่ 2019) โรงเรยี นวดั พืชนิมติ (คาสวสั ด์ิราษฎร์บารุง) กจิ กรรมสรา้ งสรรค์ (พบั กระดาษรูปสุนขั จิ้งจอก) วนั ที่สอน วนั จนั ทร์ ท่ี 4 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 วตั ถุประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ส่อื / อุปกรณ์ การประเมนิ 1.เดก็ สามารใช้กลา้ มเน้อื มัด สาระทีค่ วรรู้ ประสบการณส์ าคัญ สงั เกต เล็กในการพับกระดาษได้ 1.สังเกตการใช้กล้ามเน้อื มดั ๒.เด็กสามารถระบายสีให้ (๒)การฟงั และการปฏิบัติ 1. ครูและเดก็ ชว่ ยกันเตรียม -กระดาษขนาด A4 เล็กในการทากจิ กรรมพบั สวยงามได้ กระดาษ ๓.เด็กสามารถปฏิบัตติ าม ตามคาแนะนา อุปกรณก์ จิ กรรมพบั กระดาษ หรือกระดาษขนาด ๒.สังเกตการระบายสี ข้อตกลงได้ ๓.สังเกตการปฏบิ ัตติ าม (๕)การทากจิ กรรมศิลปะ จากน้ันครูสาธติ การพับกระดาษ 21*21 ซม. ข้อตกลงในการทากิจกรรม โดยมขี ้นั ตอนการทาดังต่อไปนี้ (สเี่ หล่ียมจัตรุ สั ) ต่าง ๆ -พับกระดาษเปน็ รูปสามเหลี่ยม -สีไม้ / สีเทยี น -พบั และใส่กลบั ไปในทิศทศิ ทางของ ลูกศร -พบั กระดาษตามแนวเสน้ ประตาม ทิศทางของลกู ศร -พบั กระดาษตามแนวเสน้ ประตาม ทิศทางของลกู ศร -พลกิ กระดาษ วาดดวงตาและจมกู ให้สมบูรณ์ 2.เดก็ ปฏิบัติกจิ กรรมโดยให้ ผูป้ กครองคอยให้ความชว่ ยเหลือ 4. เดก็ เก็บอุปกรณแ์ ละสง่ ผลงาน 1

บนั ทึกหลังสอน ร่างกาย:เด็กจะไดพ้ ัฒนารา่ งกายในสว่ นหลัก ๆ คือ การทางานประสานสมั พนั ธ์ระหว่างมือกบั ตา กล้ามเนอื้ มัดเลก็ อารมณแ์ ละจิตใจ:การไดช้ นื่ ชมและสร้างสรรคส์ งิ่ ท่ีสวยงาม สงั คม:การมีปฏสิ ัมพันธ์ การทาตามขอ้ ตกลง สติปัญญา:การเรยี นรเู้ กีย่ วกบั รูปร่าง ลกั ษณะ รูปทรง ความกวา้ ง ความยาว ความสูง ขนาด (เล็ก-ใหญ)่ พ้นื ผวิ (เรียบ-ขรขุ ระ-หยาบ) ปญั หาและอุปสรรค เดก็ ๆ บางคนไม่สามารถเข้าถงึ เทคโนโลยีไดเ้ วลาส่งงาน วิธีการแก้ไข ผปู้ กครองชว่ ยเหลอื เด็กในการใช้เทคโนโลยี และคุณครูโทรตามให้เอางานมาส่ง ลงชือ่ …………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………… ( นางสาวปริยาภทั ร สายสน่ัน) ( นางสาวกันยาภทั ร ภทั รโสตถิ ) ครูประจาชนั้ ผ้อู านวยการโรงเรียน 2

แผนการจัดประสบการณ์ หนว่ ยการเรยี นรู้พเิ ศษ (เนอ่ื งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรน่า 2019) โรงเรยี นวดั พชื นมิ ิต (คาสวัสดิ์ราษฎรบ์ ารุง) กิจกรรมสรา้ งสรรค(์ ประดษิ ฐ์กล่องใสด่ นิ สอ) วนั ท่สี อน วนั องั คาร ท่ี ๕ เดอื น มกราคม พ.ศ.2564 วตั ถปุ ระสงค์ สาระการเรยี นรู้ ขัน้ ตอนการจัดกิจกรรม สอ่ื / อุปกรณ์ การประเมิน 1.เดก็ สามารใช้กรรไกรตดั สาระทคี่ วรรู้ ประสบการณส์ าคัญ ขวดนา้ เม่ือมีผชู้ แี้ นะได้ ๒.เดก็ สามารถใช้ของตกแตง่ (๒)การฟงั และการปฏิบัติ 1. ครูและเดก็ ชว่ ยกันเตรยี ม - ขวดนา้ พลาสตกิ สังเกต กล่องใส่ดินสอได้ ๓.เดก็ สามารถปฏบิ ัตติ าม ตามคาแนะนา อปุ กรณก์ จิ กรรมประดิษฐ์กลอ่ งใส่ - กรรไกร 1.สงั เกตการใชก้ รรไกรตดั ข้อตกลงได้ (๕)การทากิจกรรมศลิ ปะ ดินสอ จากนั้นครูสาธิตการ - เทปกาว / กาว ขวดน้าเม่อื มผี ชู้ ี้แนะ ต่าง ๆ ประดิษฐก์ ล่องใสด่ ินสอ โดยมี - อปุ กรณ์ตกแต่ง ๒.สงั เกตการใช้ขอตกแต่ง ขน้ั ตอนการทาดังตอ่ ไปน้ี - ไมไ้ อศกรีม กล่องใสด่ นิ สอ เลือกขนาดขวดน้าท่ีตนเองต้องการ - ไหมพรม ๓.สังเกตการปฏิบตั ติ าม - ตดั ก่งึ กลางของขวดหรอื ตาม ขนาดที่ตนเองตอ้ งการ จานวน 3 - สตกิ เกอร์รูปต่าง ๆ ข้อตกลงในการทากิจกรรม ขวด - เตรียมขวดทต่ี ดั เรียบรอ้ ยแล้ว - เศษวัสดุเหลอื ใช้ จานวน 3 ขวด คละขนาดกัน - นาขวดท้ัง 3 ขวดมาตดิ กันโดยใช้ อืน่ ๆ กาว หรอื เทปกาว - จากนน้ั ตกแต่งกล่องดนิ สอของ ตนเองให้สวยงาม 2.เดก็ ปฏบิ ตั ิกิจกรรมโดยให้ ผู้ปกครองคอยให้ความช่วยเหลือ 4. เด็กเกบ็ อุปกรณแ์ ละสง่ ผลงาน 2

บนั ทึกหลงั สอน รา่ งกาย:เดก็ ไดพ้ ฒั นากล้ามเน้ือมดั เลก็ จากการใช้มือหยบิ จบั สิ่งของ และการไดใ้ ชก้ รรไกร การได้ใชก้ ลา้ มเนือ้ มือให้ประสานสมั พนั ธ์กับตาไดอ้ ยา่ งคล่องแคลว่ มากขึน้ อารมณ์และจิตใจ:เด็กเกิดความสขุ ในการทางาน และเกดิ ความภาคภูมิใจในผลงานตนเอง สังคม:การมีปฎิสมั พนั ธ์ การรอคอยในการทากิจกรรม การทาตามขอ้ ตกลงได้ สติปญั ญา:เด็กเกดิ ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงานของตนเอง อีกทง้ั ยงั ได้เกดิ ความคิดในการแก้ปญั หาเมื่อเจอปัญหาในการทากิจกรรม ปญั หาและอปุ สรรค เดก็ บางคนยงั ใช้กรรไกรตัดขวดนา้ ไมไ่ ด้ วิธกี ารแก้ไข ฝึกการใช้กรรไกรตดั กระดาษบอ่ ย ๆ แล้วถงึ จะเริม่ ฝกึ การตัดขวดนา้ ได้ ลงชื่อ…………………………………………………… ลงชอื่ ………………………………………………… ( นางสาวปรยิ าภัทร สายสนน่ั ) ( นางสาวกันยาภทั ร ภัทรโสตถิ ) ครปู ระจาชน้ั ผอู้ านวยการโรงเรยี น 2

แผนการจดั ประสบการณ์ หน่วยการเรียนรพู้ เิ ศษ (เนอ่ื งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรน่า 2019) โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คาสวัสด์ิราษฎร์บารงุ ) กจิ กรรมวิทยาศาสตร์(กกั น้าไวไ้ ด)้ วนั ท่สี อน วนั พุธ ท่ี ๖ เดือน มกราคม พ.ศ.2564 วัตถุประสงค์ สาระการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการจัดกิจกรรม ส่อื / อุปกรณ์ การประเมนิ 1.เพ่ือให้เด็กมีทักษะการ สาระทีค่ วรรู้ ประสบการณส์ าคญั สังเกต สังเกต 1.สงั เกตการสังเกตในการ ๒.เพอ่ื ใหเ้ ด็กได้เรยี นรูเ้ รื่อง ทกั ษะการสงั เกต 1. ครแู ละเด็กช่วยกันเตรยี ม 1.แก้วน้า (ขนาดท่ี ทดลอง แรงอากาศได้ ๒.สังเกตตอบคาถาม ๓.เดก็ สามารถปฏิบตั ิการ การเปรยี บเทยี บความ อปุ กรณก์ ิจกรรมวิทยาศาสตร์(กัก พอดีกับมือเด็ก) ๓.สงั เกตการปฏบิ ตั กิ าร ทดลองเพือ่ พิสจู น์สมมุติฐาน ทดลองกิจกรรม กกั นา้ ไว้ได้ ท่ตี ัง้ ไว้ได้ เหมอื นความแตกต่าง น้าไว้ได)้ จากน้นั ครูทดลอง โดยมี 2.กระดาษแข็งรปู ขัน้ ตอนการทาดงั ตอ่ ไปน้ี สเี่ หลี่ยม เทนา้ ใส่ใหเ้ ตม็ แกว้ ทเ่ี ตรยี มไว้ 3.น้า หรอื น้าผสมสี - นากระดาษทีเ่ ตรียมไว้ปดิ ปากแก้ว ใหส้ นทิ ใชม้ อื กดกระดาษให้ปดิ ปาก แกว้ ให้แน่น - คว่าแก้วลงช้า ๆให้แก้วตง้ั อยูบ่ น ปลายมือ - สนทนากับเด็ก ว่าเกิดอะไรข้ึน เมอ่ื ค่อย ๆดงึ แก้วขึ้นด้านบน - ใหเ้ ดก็ สังเกตวา่ มนี า้ ออกมาจาก แก้วหรือไม่ 2.เดก็ ทดลองกิจกรรมวิทยาศาสตร์ โดยให้ผปู้ กครองคอยใหค้ วาม ชว่ ยเหลือ 4. เด็กเก็บอุปกรณ์และส่งผลงาน 2

บนั ทกึ หลงั สอน ดา้ นการเรียนร/ู้ ด้านภาษา สติปัญญา ด้านการเรียนรู้ นา้ ในแกว้ ถูกกักเกบ็ ไวใ้ นแก้วโดยไมไ่ หลออกมา เพราะแรงดนั อากาศภายนอกแกว้ ออกแรงดนั กับกระดาษที่ปิดปากแก้วอยู่ตลอดเวลา ด้านภาษา การฟัง เดก็ ใชท้ กั ษะการฟงั จากส่ิงทเี่ พ่ือนหรือผปู้ กครองสนทนา ซักถาม โตต้ อบ การพดู ตอบคาถาม บอกเหตจุ ากสง่ิ ทต่ี นเองคิด อธบิ ายสิง่ ท่ีพบเห็น การอา่ น อ่านตามใบกิจกรรมท่ีครูอ่านใหฟ้ งั การเขียน เดก็ สว่ นใหญ่วาดภาพสอ่ื สารสง่ิ ทไ่ี ดเ้ รียนรจู้ ากกิจกรรม อารมณ์และจิตใจ:แสดงออกทางสหี น้า ยมิ้ แยม้ แจ่มใส สนุกสนาน ดีใจ ตืน่ เตน้ สังคม: เดก็ ๆ ได้ทากิจกรรมร่วมกับผูป้ กครอง รู้จกั มารยาทในการฟัง การพดู การควบคมุ ตนเอง ปฏิบัติตามข้อตกลงรว่ มกนั สติปัญญา:การเรยี นรูเ้ ก่ียวกับรูปร่าง ลกั ษณะ รปู ทรง ความกว้าง ความยาว ความสูง ขนาด (เลก็ -ใหญ)่ พนื้ ผิว (เรยี บ-ขรขุ ระ-หยาบ) การเคล่อื นไหว:เด็กไดใ้ ช้กลา้ มเนอื้ เลก็ -ใหญ่ ในการทากิจกรรมไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคล่ว เชน่ ใช้มอื หยิบจบั อุปกรณ์การทดลอง เป็นต้น ปญั หาและอุปสรรค เดก็ บางคนยังไมเ่ ข้าใจคาวา่ วทิ ยาศาสตร์ การทดลองคอื อะไร วธิ ีการแก้ไข ผูป้ กครองและคณุ ครูชว่ ยอธบิ าย พร้อมทั้งพาเดก็ ๆ ทากิจกรรม ลงชื่อ…………………………………………………… ลงชอ่ื ………………………………………………… ( นางสาวปรยิ าภัทร สายสน่นั ) ( นางสาวกนั ยาภัทร ภัทรโสตถิ ) ครูประจาชั้น ผูอ้ านวยการโรงเรยี น 2

แผนการจดั ประสบการณ์ หนว่ ยการเรยี นรพู้ เิ ศษ (เนอื่ งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรน่า 2019) โรงเรียนวดั พชื นิมติ (คาสวัสด์ิราษฎร์บารุง) กจิ กรรมสร้างสรรค์ (ฉกี ปะ จากใบไม้) วันทส่ี อน วัน พฤหัสบดี ท่ี ๗ เดอื น มกราคม พ.ศ.2564 วตั ถปุ ระสงค์ สาระการเรยี นรู้ ขนั้ ตอนการจัดกิจกรรม ส่ือ / อุปกรณ์ การประเมนิ 1.เดก็ สามารใช้กลา้ มเนอื้ มัด สาระทคี่ วรรู้ ประสบการณ์สาคัญ สงั เกต เลก็ (มอื )ฉกี ใบไม้ได้ 1.สังการการใช้กล้ามเน้ือมัด ๒.เดก็ สามารถปฏิบตั ิตาม (๒)การฟงั และการปฏิบัติ 1. ครูและเด็กช่วยกันเตรียม 1.กระดาษ A4 เลก็ ในการทากจิ กรรมฉกี ขอ้ ตกลงได้ ปะ ๓.เดก็ สามารถทางาน ตามคาแนะนา อปุ กรณ์กจิ กรรมฉีก ปะ จากน้ันครู 2. กาว ๒.สังเกตการปฏิบัตติ าม รว่ มกับพ่อ แม่ ได้ ข้อตกลง (๔) การหยบิ จบั สาธิตการทากิจกรรม โดยมีขน้ั ตอน 3. ดนิ สอ ๓.สังเกตการทางานร่วมกับ การทาดงั ตอ่ ไปนี้ 4.ใบไม้ พอ่ แม่ การใชก้ รรไกร การ ฉกี การตดั การปะ -นากระดาษ A4 มาวาดภาพตาม และการรอ้ ยวสั ดุ จินตนาการ (๕)การทากจิ กรรมศิลปะ - นาใบไม้ชนดิ ตา่ ง ๆมาฉกี เป็นชิน้ ตา่ ง ๆ เล็ก - ทากาวบริเวณภาพที่วาดไว้ - นาใบไมท้ ่ฉี กี ไว้มาติดบนภาพที่เรา ทากาวไว้ - ตดิ ใบไมจ้ นเต็มภาพ เสรจ็ สมบูรณ์ 2.เด็กปฏิบัตกิ ิจกรรมโดยให้ ผู้ปกครองคอยให้ความช่วยเหลือ 4. เด็กเก็บอปุ กรณ์และสง่ ผลงาน 2

บันทกึ หลังสอน รา่ งกาย : เด็กได้ใชก้ ลา้ มเนื้อมดั เลก็ ใชม้ ือ-ตาประสานสัมพนั ธก์ นั อารมณแ์ ละจติ ใจ : เด็กมคี วามสขุ ไดแ้ สดงออกผ่านกจิ กรรมทท่ี า และมคี วามภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง สังคม : เด็กร้จู ักการอดทน รอคอย และปฏบิ ัติตามข้อตกลงในการทากจิ กรรม สติปัญญา : เด็กไดส้ ร้างผลงานศิลปะเพือ่ สื่อสารความคดิ ความรู้สกึ ของตนเอง ปญั หาและอุปสรรค เด็ก บางคนยังไม่สามารถใชม้ ือฉีกปะได้ วธิ กี ารแก้ไข ฝกึ ฝนบ่อย ๆ ในการทากจิ กรรมฉีกปะ ลงชอื่ …………………………………………………… ลงชือ่ ………………………………………………… ( นางสาวปรยิ าภัทร สายสนน่ั ) ( นางสาวกันยาภทั ร ภทั รโสตถิ ) ครปู ระจาช้ัน ผู้อานวยการโรงเรยี น 2

แผนการจดั ประสบการณ์ หนว่ ยการเรยี นรพู้ เิ ศษ (เนอื่ งจากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรน่า 2019) โรงเรยี นวัดพืชนมิ ติ (คาสวสั ดิร์ าษฎรบ์ ารุง) กิจกรรมสร้างสรรค์ (ปั้น ป้นั ปั้น ปลาหมึก) วันทสี่ อน วนั ศุกร์ ท่ี ๘ เดือน มกราคม พ.ศ.2564 วตั ถปุ ระสงค์ สาระการเรียนรู้ ข้นั ตอนการจัดกิจกรรม สื่อ / อปุ กรณ์ การประเมิน 1.เดก็ สามารถนวด คลึง ปน้ั สาระท่คี วรรู้ ประสบการณ์สาคญั สงั เกต ดนิ นา้ มันได้ 1.สงั เกตการ นวก คลึง ดนิ ๒.เดก็ สามารถตอบคาถาม (๒)การฟังและการปฏิบตั ิ 1. ครูและเดก็ ช่วยกนั เตรียมอุปกรณ์ 1.ดนิ นา้ มัน นา้ มนั ได้ ๒.สงั เกตการตอบคาถาม ๓.เดก็ สามารถปฏิบตั ติ าม ตามคาแนะนา กิจกรรมปัน้ ป้นั ป้ัน จากน้ันครูสาธิต ๓.สงั เกตการปฏิบตั ิตาม ข้อตกลงได้ ขอ้ ตกลงในการทากจิ กรรม (๓)การป้นั การป้ันดนิ น้ามัน โดยมีข้ันตอนการทา (๕)การทากจิ กรรมศิลปะ ดังต่อไปนี้ ตา่ ง ๆ - นวดดินน้ามันใหน้ ิม่ โดยการขยาเป็น ก้อนกลม ๆ จากนัน้ คลงึ ดินน้ามนั ให้เป็น รูปวงรเี ลก็ นอ้ ย - แบง่ ดนิ นา้ มันเปน็ ก้อนเล็ก ๆคลงึ ให้ เป็นเสน้ ปลายแหลม และนาดนิ น้ามนั ทัง้ 6 เสน้ มาเชือ่ มต่อกัน เป็นหนวด ปลาหมกึ - ป้ันดนิ นา้ มันก้อนเลก็ ๆ และกดให้แบน จากน้ันวางปิดทับบนรอยต่อ - นาดินน้ามนั ส่วนหัวและหนวดมาติดกัน และใช้ดนิ นา้ มนั สีตา่ ง ๆตกแต่งลวดลาย ตา ปาก ของปลาหมกึ 2.เด็กปฏิบตั กิ จิ กรรมโดยใหผ้ ู้ปกครอง คอยใหค้ วามชว่ ยเหลอื ๓. เด็กเก็บอปุ กรณ์และสง่ ผลงาน

บนั ทึกหลังสอน ร่างกาย:สง่ เสริมพฒั นาการกล้ามเนอื้ มือ กลา้ มเนอื้ มดั เล็กและนิ้วมือในการนวด คลงื และปนั้ อารมณ์และจติ ใจ:เสริมสรา้ งความภูมใิ จในตวั เองและพึงพอใจในผลงาน รู้สกึ ผอ่ นคลาย และฝกึ สมาธิ สงั คม:เด็กสามารถเล่นร่วมกับเพอ่ื น พ่นี อ้ ง พ่อแม่ ผปู้ กครอง และญาติผู้ใหญ่ได้ สติปญั ญา:พฒั นาความคิดสร้างสรรคแ์ ละเสรมิ สร้างจนิ ตนาการ ปัญหาและอุปสรรค - วิธีการแกไ้ ข - ลงช่อื …………………………………………………… ลงช่ือ………………………………………………… ( นางสาวปรยิ าภทั ร สายสน่ัน) ( นางสาวกนั ยาภัทร ภทั รโสตถิ ) ครปู ระจาชน้ั ผ้อู านวยการโรงเรยี น 2

แผนการจัดประสบการณ์ หนว่ ยการเรียนรูพ้ ิเศษ (เนอื่ งจากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา่ 2019) โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คาสวัสดริ์ าษฎร์บารงุ ) กจิ กรรมสร้างสรรค์ (พบั กระดาษสุนัขของฉัน)วันที่สอน วนั องั คาร ที่ 11 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 วตั ถุประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ส่อื / อุปกรณ์ การประเมนิ 1.เพื่อใหเ้ ด็กได้พฒั นา สาระทคี่ วรรู้ ประสบการณ์สาคัญ สังเกต กลา้ มเนอ้ื มัดเล็กในการพับ 1.สังเกตการใชก้ ล้าทเนือ้ มดั กระดาษ (๒)การฟังและการปฏบิ ัติ 1. ครูและเด็กช่วยกนั เตรียม 1. กระดาษ เล็กในการพบั กระดาษ ๒.เพ่ือใหเ้ ดก็ ไดม้ สี ่วนรว่ มใน อปุ กรณ์กจิ กรรมพับกระดาษ 2. ปากกาเคมี ๒.สังเกตการมสี ว่ นร่วมใน การทากิจกรรม ตามคาแนะนา จากนน้ั ครูสาธติ การพบั กระดาษ การทากจิ กรรม ๓.เพอ่ื ใหเ้ ด็กไดช้ ื่นชม 3. สไี ม้ ๓.สังเกตการชื่นชมผลงาน ผลงานของตนเอง (๕)การทากิจกรรมศิลปะ ของเดก็ ตา่ ง ๆ โดยมีขั้นตอนการทาดงั ตอ่ ไปน้ี 1.พบั กระดาษตามแนวเสน้ ประตาม ทศิ ทางของลกู ศร 2.พบั กระดาษตามแนวเสน้ ประตาม ทิศทางของลกู ศร 3.พบั ไปข้างหลงั ตามเสน้ ประ 4.วาดบนดวงตาและจมูกดว้ ย เคร่อื งหมายมันเสรจ็ สมบูรณ์ 5.เดก็ ปฏิบัติกิจกรรมโดยให้ ผู้ปกครองคอยให้ความช่วยเหลอื 6. เด็กเกบ็ อปุ กรณแ์ ละสง่ ผลงาน 2

บันทกึ หลังสอน รา่ งกาย: เดก็ จะได้พฒั นารา่ งกายในส่วนหลกั ๆ คือ การทางานประสานสมั พันธ์ระหว่างมอื กบั ตา กล้ามเน้ือมัดเล็ก อารมณแ์ ละจิตใจ:การได้ช่นื ชมและสรา้ งสรรคส์ ง่ิ ทีส่ วยงาม สงั คม:การมีปฏิสัมพันธ์ การทาตามข้อตกลง สตปิ ญั ญา:การเรยี นรเู้ กี่ยวกบั รูปรา่ ง ลกั ษณะ รปู ทรง ความกว้าง ความยาว ปญั หาและอปุ สรรค ผปู้ กครองบางคนยังเขา้ ไม่ถึงเทคโนโลยี เช่น ไมไ่ ด้เลน่ ไลน์ เฟสบุค๊ ในการตดิ ต่อส่ือสาร วิธีการแก้ไข คุณครใู ช้วิธีในการโทรติดตอ่ สอื่ สารกบั ผู้ปกครองโดยเบอร์โทร และมอบหมายงานใหไ้ ปทาทีบ่ ้าน ลงช่อื …………………………………………………… ลงช่ือ………………………………………………… ( นางสาวปริยาภทั ร สายสนั่น) ( นางสาวกนั ยาภทั ร ภทั รโสตถิ ) ครปู ระจาชั้น ผ้อู านวยการโรงเรียน 2

แผนการจดั ประสบการณ์ หน่วยการเรยี นรพู้ เิ ศษ (เนอ่ื งจากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรน่า 2019) โรงเรียนวดั พืชนมิ ิต (คาสวัสด์ิราษฎร์บารุง) กิจกรรมวิทยาศาสตร์(สนกุ กบั ฟองสบ)ู่ วนั ทส่ี อน วัน อังคาร ท่ี 12 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 วตั ถุประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ข้นั ตอนการจดั กจิ กรรม ส่ือ / อุปกรณ์ การประเมนิ 1.เพือ่ ฝกึ ทกั ษะการสังเกต สาระทค่ี วรรู้ ประสบการณ์สาคญั สังเกต เรอ่ื งแรงตึงผิว 1.สงั เกตการสงั เกตในการ ๒.เพ่ือใหเ้ ด็กไดเ้ รยี นรูเ้ รือ่ ง ทกั ษะการสงั เกต 1. ครแู ละเด็กชว่ ยกันเตรยี ม ๑. ถ้วยโฟม ๒ ใบ ทดลอง แรงตงึ ผิวได้ ๒.สงั เกตตอบคาถาม ๓.เพือ่ ใหเ้ ด็กเดก็ ไดเ้ รียนรูว้ ่า การเปรยี บเทยี บความ อุปกรณ์กจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์(สนุก ๒. สาลกี ้อน ๓.สงั เกตการปฏบิ ตั กิ าร ทาไมผิวฟองสบจู่ งึ มหี ลายสี ทดลองกิจกรรม กกั น้าไว้ได้ เหมอื นความแตกตา่ ง กับฟองสบ)ู่ จากน้นั ครทู ดลอง โดยมี ๓. น้ายาลา้ งจาน ข้ันตอนการทาดังต่อไปน้ี ๔. น้า ๑.ครแู ละเดก็ ร่วมสนทนาเก่ยี วกับ ๕. หลอด ประสบการณเ์ ดิม ทเ่ี ด็กเคยเหน็ เวลาทชว่ ยคุณแม่ลา้ งจาน ซักผ้า ฟองสบู่มีรูปร่างอยา่ งไร สอี ะไร ๒.ให้เดก็ ทดลองเปา่ ลมโดยใชหลอด เป่าสาลี และดูดสาลี ครสู นทนากับ เดก็ ในการทดลดงครง้ั นี้ จะใชว้ ธิ เี ป่า เท่าน้นั ๓. เทน้าเปลา่ ใสถ่ ้วยโฟม และให้ เดก็ ทดลองเป่า สงั เกตผลการ ทดลอง ๔. เทนา้ ผสมน้ายาล้างจานใสถ่ ว้ ย โฟม และใหเ้ ดก็ ทดลองเป่า สงั เกต ผลการทดลอง ๕. เด็กจ่มุ ปลายหลอดลงในนา้ ผสม น้ายาลา้ งจาน แล้วลองเปา่ ใน อากาศ สงั เกตุผลทีไ่ ด้ 2

๖.เดก็ และครรู ่วมกนั สรุป ว่าน้า ประกอบด้วยโมเลกลุ เลก็ ๆ จานวน มากซ้อนทบั กนั ยึดเหน่ยี วจบั ตวั กัน เปน็ ผวิ นา้ เมอ่ื หยุดเปา่ ฟองกจ็ ะ หายไป เม่ือใสน่ า้ ยาลา้ งจานซง่ึ เปน็ สาร ลดแรงตงึ ผิวจะทาให้ผิวนา้ ยืดหยุ่น เมื่อเป่าอากาศเขา้ ไปจึง เปน็ ฟองโดยไมแ่ ตก และจะเห็น ฟองมสี ีเหมือนสีร้งุ เพราะเกดิ การ หกั เหของแสงและสะทอ้ นกบั ผวิ ฟองสบู่จงึ เห็นเป็นสหี ลายสี ๗.เดก็ ทดลองกจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์ โดยให้ผู้ปกครองคอยให้ความ ชว่ ยเหลอื ๘. เด็กเก็บอุปกรณ์และส่งผลงาน 2

บนั ทกึ หลงั สอน สังคม: เด็ก ๆ ได้ทากิจกรรมร่วมกบั ผูป้ กครอง รู้จกั มารยาทในการฟัง การพูด การควบคุมตนเอง ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลงรว่ มกนั เอ้ือเฟ้อื เผ่ือแผ่ แบง่ ปัน รจู้ ักการรอคอย รบั ฟังความคิดเห็น ขอผู้อ่นื อารมณ์-จิตใจ: แสดงออกมางสีหนา้ ยิ้มแยม้ แจ่มใส สนุกสนาน ดใี จ ตน่ื เต้น การเคล่ือนไหว:เดก็ ได้ใชก้ ลา้ มเน้ือเล็ก-ใหญ่ ในการทากจิ กรรมไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคลว่ เช่น ใชม้ ือหยิบจับอปุ กรณก์ ารทดลอง เป็นตน้ สติปญั ญา : ส่งเสรมิ ให้เด็กมีการสงั เกต การเปรยี บเทียบ การสอ่ื สาร ปญั หาและอุปสรรค เดก็ ๆ บางคนมีอุปกรณไ์ มค่ รบในการทากิจกรรมหรอื ไม่มเี หมือนตัวอย่างการทดลอง วธิ กี ารแกไ้ ข ผู้ปกครองหาอุปกรณ์การทดลองที่หาได้งา่ ย ๆ เช่น ไมม่ ีถว้ ยโฟม สามารถนาแก้วมาใช้แทนได้ ลงช่อื …………………………………………………… ลงชอื่ ………………………………………………… ( นางสาวปริยาภทั ร สายสนน่ั ) ( นางสาวกนั ยาภทั ร ภทั รโสตถิ ) ครปู ระจาช้นั ผอู้ านวยการโรงเรยี น 2

แผนการจัดประสบการณ์ หน่วยการเรยี นรู้พเิ ศษ (เนอื่ งจากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา่ 2019) โรงเรยี นวัดพชื นิมติ (คาสวัสดร์ิ าษฎร์บารงุ ) กจิ กรรมสรา้ งสรรค์ (นิทานแสนสนุก อิโล้งโช้งเชง้ )วนั ทีส่ อน วัน พธุ ที่ 13 เดอื น มกราคม พ.ศ.2564 วัตถปุ ระสงค์ สาระการเรียนรู้ ข้ันตอนการจัดกิจกรรม สือ่ / อปุ กรณ์ การประเมิน 1.เดก็ สามารถฟงั ผปู้ กครอง สาระทค่ี วรรู้ ประสบการณส์ าคัญ สังเกต เล่านิทานได้ 1.สงั เกตการใช้กล้าทเน้อื มัด ๒.เดก็ สามารถบอกตัวละคร (2) การฟังและปฏบิ ตั ติ าม 1.แนะนาหนงั สือนิทาน 1. หนงั สือนิทานอิ เลก็ ในการพบั กระดาษ ในเร่ืองได้ ๒.สงั เกตการมีสว่ นร่วมใน ๓.เดก็ สามารถปฏิบัติตาม คาแนะนา - ชื่อเรื่อง โลง้ โช้งเช้ง การทากจิ กรรม ขอ้ ตกลงได้ ๓.สังเกตการชนื่ ชมผลงาน (3) การฟังเพลง นิทาน - ผู้แต่ง ๒.กระดาษเอสี่ ของเดก็ (4) การพูดแสดงความคดิ - องคป์ ระกอบของหนงั สอื นิทาน ๓.สี ความรสู้ กึ และความ 2.สรา้ งขอ้ ตกลงในการฟงั นิทาน ตอ้ งการ เช่น ตง้ั ใจฟังนิทาน ฟังนทิ านจบ (10) การอ่านหนงั สอื ภาพ แล้วจะได้ไปเลน่ นทิ าน 3.เล่านิทานให้เด็กฟงั 4.รว่ มสนทนากบั เด็กเกย่ี วกับนทิ าน โดยใช้คาถาม - ในนิทานเรือ่ งน้ีมตี วั ละคร อะไรบ้าง - เกิดอะไรขึ้นในนทิ านเร่ืองนี้ - เพราะอะไรทาไมจงึ เกิดเหตุการณ์ แบบนี้ 2

บันทึกหลังสอน ภาษา : ทาให้เดก็ เรียนรูภ้ าษาไดเ้ ร็วขึ้น เพราะการเล่านทิ านเปรยี บเสมือนเปน็ การสอนภาษาไปในตัว เม่อื เด็กได้ยนิ ไดฟ้ งั รปู ประโยค หรือการใช้ภาษา กจ็ ะทาให้เด็กเกิดทัศนคตทิ ี่ดีต่อการ เรียนภาษามากขึ้น อารมณแ์ ละจติ ใจ : เดก็ เกิดความสนกุ สนานในการฟงั นทิ าน สังคม : เด็กสามารถปฏิบัติตามขอ้ ตกลงได้ สามารถรอคอยได้ สติปญั ญา : ทาให้เด็กเปน็ คนช่างคิด ชา่ งถามและช่างสงั เกต มีความม่ันใจ ฉลาด กลา้ แสดงความคิดเห็น อักทงั้ ยังเปน็ การฝกึ สมาธจิ ดจอ่ ในการตงั้ ใจฟังนทิ าน ปญั หาและอุปสรรค เด็ก ๆ บางคนยังไม่มีสมาธิท่ีจะฟงั นิทาน วธิ ีการแกไ้ ข ควรหากิจกรรมแทรกระหว่างการเลา่ นทิ าน เชน่ ถามตวั ละครในเรอื่ ง รอ้ งเพลงประกอบกบั นทิ าน ลงชือ่ …………………………………………………… ลงช่อื ………………………………………………… ( นางสาวปรยิ าภัทร สายสน่ัน) ( นางสาวกนั ยาภัทร ภัทรโสตถิ ) ครปู ระจาชัน้ ผู้อานวยการโรงเรียน 2

แผนการจดั ประสบการณ์ หนว่ ยการเรียนร้พู เิ ศษ (เนอ่ื งจากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา่ 2019) โรงเรียนวัดพืชนมิ ติ (คาสวสั ดิร์ าษฎร์บารุง) กิจกรรมสรา้ งสรรค(์ ประดิษฐเ์ คร่อื งดนตรี “แกว้ ซ่อนเสยี ง”)วันทีส่ อน วัน พฤหัสบดี ท่ี 14 เดอื น มกราคม พ.ศ.2564 วัตถุประสงค์ สาระการเรียนรู้ ขนั้ ตอนการจดั กจิ กรรม สอ่ื / อุปกรณ์ การประเมิน 1.เด็กสามารถปฏิบัตติ าม สาระท่ีควรรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1. ครแู ละเดก็ ช่วยกันเตรยี ม 1.เมลด็ พืชถว่ั เขียว สงั เกต ข้อตกลงได้ หรอื ก้อนหิน 1.สงั เกตการปฏบิ ัตติ าม 2.เด็กสามารถประดษิ ฐ์ (๒)การฟงั และการปฏิบัติ อุปกรณก์ จิ กรรมประดิษฐ์แกว้ ซ่อน ๒.ถ้วยกระดาษ ขอ้ ตกลงในการทากิจกรรม แกว้ ซ่อนเสยี ง ด้วยตนเองได้ ๓.เทปกาวสาหรับ 2.สงั เกตการประดิษฐ์ แกว้ ตามคาแนะนา เสยี ง จากนน้ั ครูสาธติ การ พัน ซ่อนเสียงด้วยตนเอง ๔.กรรไกร กาว (๔) การหยบิ จบั ประดิษฐ์แกว้ ซ่อนเสียง โดยมี ๕.กระดาษสสี าหรับ ตกแต่ง การใชก้ รรไกร การ ข้ันตอนการทาดังตอ่ ไปนี้ ฉกี การตดั การปะ นาเมลด็ ถว่ั หรอื กอ้ นหินใส่ใน ถ้วยกระดาษ และการรอ้ ยวสั ดุ จากนน้ั ถ้วยกระดาษอกี 1 ใบ (๕)การทากจิ กรรมศิลปะ นามาประกบกนั ให้สนิท ตา่ ง ๆ นาเทปกาวมาพนั ติดรอบถ้วย กระดาษใหส้ นิท แลว้ ตกแตง่ ให้สวยงาม 2.เดก็ ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมโดยให้ ผปู้ กครองคอยให้ความช่วยเหลือ 4. เด็กเก็บอปุ กรณ์และสง่ ผลงาน 2

บนั ทึกหลังสอน ร่างกาย : เด็กได้ใช้กลา้ มเน้ือมดั เลก็ ใชม้ ือ-ตาประสานสมั พันธก์ ัน อารมณแ์ ละจิตใจ : เดก็ มีความสุข ไดแ้ สดงออกผ่านกจิ กรรมทีท่ าและมคี วามภาคภูมใิ จในผลงานของตนเอง สังคม : เดก็ รจู้ กั การอดทน รอคอย และปฏบิ ตั ิตาม ขอ้ ตกลงในการทากจิ กรรมและได้ทางานรว่ มกบั ผู้อ่นื ได้อย่างมีความสขุ สตปิ ญั ญา : เดก็ ไดส้ รา้ งผลงานศิลปะเพ่ือสอื่ สารความคดิ ความรู้สกึ ของตนเอง ปัญหาและอุปสรรค - วิธีการแก้ไข - ลงชื่อ…………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………… ( นางสาวปริยาภทั ร สายสน่นั ) ( นางสาวกนั ยาภทั ร ภัทรโสตถิ ) ครูประจาชั้น ผู้อานวยการโรงเรยี น 2

แผนการจัดประสบการณ์ หนว่ ยการเรยี นรู้พิเศษ (เนอื่ งจากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรน่า 2019) โรงเรยี นวดั พืชนมิ ติ (คาสวัสดร์ิ าษฎร์บารงุ ) กิจกรรม Cooking (ข้าวผดั สี่สหาย) วันท่สี อน วัน ศุกร์ ท่ี 15 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 วตั ถุประสงค์ สาระการเรียนรู้ ขัน้ ตอนการจดั กจิ กรรม สื่อ / อปุ กรณ์ การประเมิน 1.เดก็ สามารถชว่ ยเหลือ สาระทค่ี วรรู้ ประสบการณส์ าคัญ วตั ถุดิบ สงั เกต ตนเองได้ 1.ขา้ วสวย 1.สังเกตการช่วยเหลือ 2.เด็กสามารถทาข้าวผดั ส่ี (1) การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 1.หัน่ วตั ถุดิบท่ีเตรียมไว้เป็นชนิ้ เล็ก 2.ไสก้ รอก ตนเองในการทากจิ กรรม สหายได้ ต่าง ๆ ตามความสามารถ ๆ เทน้ามนั ลงกระทะเลก็ น้อย 3.แครอท 2.สงั เกตทาขา้ วผดั สีส่ หาย นา้ มันเดอื ดแล้วใส่กระเทียมสับลง 4.มะเขอื เทศ ด้วยตนเอง ของตนเอง ไปผัดใหห้ อม 5.ขา้ วโพดอ่อน (2) การฟังและปฏบิ ตั ติ าม 6.เหด็ คาแนะนา ใส่ไสก้ รอกและไขล่ งไปผัดให้สุก 7.ไขไ่ ก่ ใส่สี่สหาย คอื แครอท เห็ด 8.กระเทยี ม เคร่อื งปรุง ขา้ วโพดออ่ น มะเขือเทศ ลงไปผดั 1.ซอสปรุงรส 2.นา้ ตาล ใหส้ กุ 3.เกลือ 4.นา้ มันพชื (ใช้ ใสข่ า้ วสวยทเี่ ตรียมไวล้ งไปผัด สาหรับผัด) และปรุงรสตามใจชอบ ใส้ตน้ หอมท่ีหนั ไวเ้ พ่อื เพ่ิมสสี ัน ขา้ วผดั สี่สหายเปน็ อนั เสร็จ เรยี บร้อย 2.เด็กปฏบิ ัตกิ จิ กรรมโดยให้ ผปู้ กครองคอยให้ความช่วยเหลอื 3. เดก็ เกบ็ อุปกรณแ์ ละส่งผลงาน 2

บนั ทกึ หลงั สอน รา่ งกาย : เดก็ ได้ใชก้ ลา้ มเนือ้ มัดเลก็ ใชม้ อื -ตาประสานสมั พนั ธ์กัน อารมณ์และจติ ใจ : เดก็ จะได้ฝึกการควบคมุ อารมณข์ องตนเอง และไดฝ้ ึกการรอคอยในระหวา่ งที่ทากจิ กรรม สังคม : เด็กรูจ้ ักการวางแผนในการทากิจกรรมการปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลงในการทากิจกรรม และสามารถทางานร่วมกบั ผู้อนื่ ได้อยา่ งมคี วามสขุ สตปิ ญั ญา : เดก็ ไดเ้ รยี นร้คู าศัพท์ใหมๆ่ เพิ่มเตมิ ได้ฝกึ การพูดและการฟงั สังเกต จาแนก เปรยี บเทียบวัตถดุ บิ และเครอื่ งปรงุ ตา่ งๆ การจัดจานอาหารยังช่วยฝึกจนิ ตนาการความคดิ สร้างสรรคอ์ ีกด้วย ปัญหาและอปุ สรรค เวลาทาการบ้านของเด็กและเวลาของผู้ปกครองไมต่ รงกนั ไมต่ รงกัน เดก็ ๆ สง่ งานไม่ตรงเวลา และทาได้ไม่ครบทกุ กจิ กรรม วิธีการแก้ไข ผปู้ กครองและเดก็ ๆจะทาการบ้านและทากจิ กรรมยอ้ นหลงั วันเสาร์และวนั อาทิตย์ แลว้ นามาสง่ ยอ้ นหลัง ลงชอ่ื …………………………………………………… ลงชือ่ ………………………………………………… ( นางสาวปริยาภทั ร สายสนั่น) ( นางสาวกันยาภทั ร ภัทรโสตถิ ) ครปู ระจาช้ัน ผู้อานวยการโรงเรียน 2

แผนการจดั ประสบการณ์ หน่วยการเรียนรูพ้ เิ ศษ (เนอ่ื งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019) โรงเรียนวดั พืชนิมติ (คาสวัสดิร์ าษฎร์บารุง) กิจกรรมสร้างสรรค์ (ป้ัน ปัน้ ปั้น กุก๊ ไก)่ วันทส่ี อน วัน จนั ทร์ ท่ี 18 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 วตั ถุประสงค์ สาระการเรียนรู้ ขน้ั ตอนการจดั กจิ กรรม สือ่ / อุปกรณ์ การประเมนิ 1.เด็กสามารถใช้กลา้ มเนอ้ื มัด สาระท่ีควรรู้ ประสบการณ์สาคญั เล็กดนิ น้ามันได้ ๒.เดก็ สามารถปฏบิ ัติตาม (๒)การฟังและการปฏบิ ัตติ าม 1. ครแู ละเด็กช่วยกนั เตรยี มอปุ กรณ์ ดนิ นา้ มัน สังเกต ข้อตกลงได้ คาแนะนา กจิ กรรมป้นั ป้นั ปน้ั จากน้ันครูสาธติ - สีขาว 1.สงั เกตการใช้กลา้ มเนอ้ื มัดเลก็ (๓)การปนั้ การป้นั ดินนา้ มัน โดยมีขัน้ ตอนการทา - สีแดง ปน้ั ดินนา้ มนั (๕)การทากจิ กรรมศิลปะตา่ ง ๆ ดังตอ่ ไปน้ี - สเี หลือง ๒.สงั เกตการปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง - ส้ม 1.เตรียมดนิ นา้ มันสขี าว สีแดง สเี หลือง สี - สดี า สม้ และสดี า *ดนิ น้ามันสามารถ 2.นวดดินน้ามันใหน้ ิ่มโดยการขยาเปน็ ก้อน เปล่ยี นสีได้ ตามที่เดก็ กลม ๆ ทั้ง 5 สี ๆ ชอบเลยนะคะ 3.ปน้ั ดินน้ามันสขี าวเปน็ กอ้ นกลมใหญ่ 1 กอ้ น เป็นกอ้ นกลมเล็ก 2 กอ้ น เปน็ สว่ นตัวและปีกของก๊กุ ไก่ จากน้ันนามา ประกอบกนั 4.นาสแี ดงมาปนั้ เป็นสามเหลี่ยมเล็ก ๆ ทา ใหแ้ บนเล็กน้อย ตดิ ด้านบนเปน็ หงอนไก่ 5.นาสีเหลืองมาปั้นสามเหลีย่ ม 2 ช้นิ มา ประกบกันเป็นปาก 6.นาสีสม้ มาป้ัน และคลึงเปน็ วงรี 3 เส้น และนามาประกอบกนั เป็นเท้าของกุ๊กไก่ ทาแบบนท้ี ั้ง 2 ขา้ ง 7.ปั้นดินนา้ มันสีดาเป็นก้อนเล็ก ๆ 2 กอ้ น มาตดิ ตาของกกุ๊ ไก่ 8.เด็กปฏิบตั กิ ิจกรรมโดยใหผ้ ู้ปกครองคอย ใหค้ วามชว่ ยเหลือ 9. เด็กเกบ็ อปุ กรณ์และส่งผลงาน

บันทกึ หลงั สอน รา่ งกาย : พฒั นากลา้ มเน้ือมอื กล้ามเนื้อมดั เล็ก มือและน้วิ มอื ในการนวด นวด คลึง และป้ัน พัฒนาประสาทสมั พนั ธ์ สอดคล้องระหวา่ งตากับมือ ระหว่างท่ปี ั้น อารมณ์และจิตใจ : เสริมสรา้ งความภูมิใจในตวั เอง พงึ พอใจในผลงานของตน สงั คม : การมีปฏิสัมพันธ์กับผ้ปู กครอง สรา้ งระเบียบวนิ ยั ฝึกนิสยั การเก็บของเลน่ ใหเ้ ปน็ ท่ี การรักษาของ เพราะหลงั จากเลน่ เสร็จแลว้ ต้องเก็บ สติปญั ญา : พฒั นาความคดิ สร้างสรรค์และเสรมิ สร้างจินตนาการ ภาษา : การเรยี นรูเ้ ร่อื งสเี ปน็ ภาษาองั กฤษและภาษาไทย ปัญหาและอุปสรรค เดก็ บางคนไม่มีเทคโนโลยเี ขา้ ถงึ การเรียนรู้ วิธกี ารแกไ้ ข เด็กทาแบบฝกึ หดั ในเอกสาร แลว้ ครกู โ็ ทรติดตอ่ กบั ผู้ปกครอง ถามเรื่อความคบื หน้าในการทาแบบฝึกหัด ลงชอ่ื …………………………………………………… ลงชอ่ื ………………………………………………… ( นางสาวปรยิ าภทั ร สายสนนั่ ) ( นางสาวกันยาภทั ร ภัทรโสตถิ ) ครูประจาช้ัน ผูอ้ านวยการโรงเรียน 2

แผนการจดั ประสบการณ์ หนว่ ยการเรียนรูพ้ เิ ศษ (เนอ่ื งจากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรน่า 2019) โรงเรยี นวดั พืชนมิ ิต (คาสวสั ด์ิราษฎร์บารงุ ) กจิ กรรมสร้างสรรค์ (นิทานแสนสนกุ มดขยันกบั จัก๊ จน่ั เสียงใส)วันทีส่ อน วัน อังคาร ท่ี 19 เดอื น มกราคม พ.ศ.2564 วตั ถปุ ระสงค์ สาระการเรียนรู้ ขนั้ ตอนการจดั กิจกรรม สอ่ื / อปุ กรณ์ การประเมนิ 1.เดก็ สามารถบอกตวั ละคร สาระท่ีควรรู้ ประสบการณส์ าคัญ สังเกต ในนิทานได้ 1.สังเกตการบอกตวั ละคร ๓.เด็กสามารถตอบคาถาม (2) การฟังและปฏบิ ตั ติ าม 1. ครูแนะนาหนังสือนทิ าน “มด อุปกรณ์ ในเร่ือง ได้ ๒.สงั เกตการตอบคาถาม คาแนะนา ขยนั กับจ๊ักจ่ันเสยี งใส” 1.หนังสือนทิ าน (3) การฟังเพลง นิทาน 2. ครเู ล่านิทานโดยใช้หนังสอื นิทาน “มดขยนั กบั จ๊ักจ่นั (4) การพูดแสดงความคดิ “มดขยันกบั จักจั่นเสียงใส” เสียงใส” ความรสู้ กึ และความ ประกอบ 2.กลอ่ งนิทาน ตอ้ งการ 3. ครเู ลา่ นิทานโดยโดยใช้อุปกรณ์ (10) การอ่านหนงั สอื ภาพ ประกอบ นิทาน 4.เด็กและครรู ว่ มกนั สรปุ สิ่งทไ่ี ด้ จากนทิ าน “มดขยนั กับจ๊ักจั่นเสียง ใส” 2

บนั ทึกหลังสอน ร่างกาย : เปิดโอกาสใหเ้ ดก็ มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมการเล่านิทาน เดก็ ไดเ้ คล่ือนไหวร่างกายส่วนต่างๆ ของรา่ งกาย เป็นการพัฒนากล้ามเน้อื มัดใหญ่ อารมณแ์ ละจติ ใจ : เด็กมคี วามสนุกสนานเพลดิ เพลิน มีความสงบ สุขุม มีสมาธสิ ร้างความสนใจให้ยาวนาน สังคม : ส่งเสรมิ ความมีวนิ ยั จากการเลา่ นิทาน สติปัญญา : ส่งเสริมให้เดก็ มีการพัฒนาการด้านภาษา การฟัง การพูด การจดจาคาศัพท์ ปัญหาและอปุ สรรค เดก็ ๆ บางคนยังไมม่ ีสมาธทิ ี่จะฟงั นิทาน วิธกี ารแก้ไข ควรหากจิ กรรมแทรกระหวา่ งการเล่านทิ าน เช่น ถามตัวละครในเร่อื ง ร้องเพลงประกอบกบั นทิ าน ลงชื่อ…………………………………………………… ลงช่ือ………………………………………………… ( นางสาวปริยาภัทร สายสน่ัน) ( นางสาวกันยาภทั ร ภัทรโสตถิ ) ครูประจาช้นั ผู้อานวยการโรงเรยี น 2

แผนการจดั ประสบการณ์ หน่วยการเรยี นร้พู เิ ศษ (เนอ่ื งจากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา่ 2019) โรงเรยี นวดั พืชนมิ ติ (คาสวสั ด์ิราษฎรบ์ ารงุ ) กิจกรรมวทิ ยาศาสตร(์ ไขไ่ ดโนเสาร์) วันที่สอน วนั พุธ ท่ี 20 เดอื น มกราคม พ.ศ.2564 วัตถปุ ระสงค์ สาระการเรยี นรู้ ข้ันตอนการจัดกิจกรรม สอื่ / อุปกรณ์ การประเมิน 1.เดก็ สามารถรูจ้ กั การ สาระทคี่ วรรู้ ประสบการณ์สาคญั สงั เกต สงั เกต เปรยี บเทียบ ความ 1.สังเกตการสังเกต แตกต่างของไขไ่ ด้ ทกั ษะการสงั เกต 1. ครูและเด็กช่วยกันเตรยี ม 1. ไข่ (ไขไ่ กต่ ม้ ) เปรียบเทยี บ ความแตกต่าง ๒.เด็กสามารถช่วยออกแบบ ของไข่ และลงมือปฏบิ ตั กิ ารทดลอง การเปรยี บเทยี บความ อุปกรณ์กิจกรรมวิทยาศาสตร(์ ไข่ 2. ถงุ พลาสติก ๒.สังเกตการลงมือ ดว้ ยตนเองได้ ปฏบิ ัติการทดลองด้วย ๓.เด็กไดเ้ รยี นรู้การ เหมอื นความแตกต่าง ไดโนเสาร์)จากนนั้ ครทู ดลอง โดยมี 3. สผี สมอาหาร ตนเอง เปลยี่ นแปลงของไข่ได้ ๓.สังเกตเปล่ยี นแปลงของไข่ ขน้ั ตอนการทาดังต่อไปนี้ 1.เร่ิมจาการนาไขใ่ หส้ ุก ใช้เวลา ประมาณ 15-20 นาที 2.เม่อื ไข่สกุ แลว้ นามาทุบๆ พอให้มี รอยรา้ ว ให้ท่ัวทง้ั ฟอง อย่าให้ เปลอื กไข่หลดุ ออกมานะคะ 3.นาไข่ ใส่ในถงุ พลาสติก และทา การหยดสผี สมอาหาร ใส่ลงในรอย รา้ ว ใหท้ ั่วท้งั ฟอง 4.ปดิ ปากถงุ ให้สนิท และท้ิงไขไ่ ว้ ใหด้ สู ีสักพัก ประมาณ 5-10 นาที 5.น้าไข่ ไปลา้ งด้วยนา้ สะอาด 6.เด็กทดลองกจิ กรรมวิทยาศาสตร์ โดยใหผ้ ู้ปกครองคอยให้ความ ชว่ ยเหลือ 7. เด็กเกบ็ อุปกรณ์และสง่ ผลงาน 2

บันทึกหลังสอน ลงชื่อ………………………………………………… รา่ งกาย : พฒั นากลา้ มเนอื้ มัดเลก็ กลา้ มเนอ้ื มดั ใหญ่ ( นางสาวกันยาภัทร ภัทรโสตถิ ) อารมณ์และจิตใจ : ส่งเสริมจนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ ผูอ้ านวยการโรงเรยี น สงั คม : ฝึกการปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง และทากิจกรรมร่วมกับผปู้ กครองได้ สตปิ ัญญา : สง่ เสรมิ ให้เดก็ มกี ารสงั เกต และ เสริมสรา้ งใหเ้ ดก็ มจี ิตนาการ ปัญหาและอปุ สรรค เดก็ อนุบาล 1 บางคนไม่สามารถทากิจกรรมดว้ ยตนเองได้ วิธกี ารแก้ไข ผู้ปกครองชว่ ยชแี้ นะในการทากจิ กรรมในครั้งน้ี ลงชื่อ…………………………………………………… ( นางสาวปริยาภทั ร สายสน่นั ) ครูประจาช้ัน 2

แผนการจดั ประสบการณ์ หนว่ ยการเรียนรพู้ ิเศษ (เนอ่ื งจากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา่ 2019) โรงเรยี นวดั พชื นมิ ติ (คาสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ารงุ ) กิจกรรมสรา้ งสรรค(์ ประดษิ ฐ์ “เขาวงกต”)วนั ท่ีสอน วัน พฤหสั บดี ท่ี 21 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 วัตถุประสงค์ สาระการเรียนรู้ ขน้ั ตอนการจดั กิจกรรม สอ่ื / อปุ กรณ์ การประเมิน 1.เดก็ สามารถปฏิบัตติ าม สาระท่ีควรรู้ ประสบการณ์สาคญั สังเกต ข้อตกลงได้ 1.สังเกตการปฏบิ ัติตาม 2.เดก็ สามารถประดิษฐ์เขา (๒)การฟังและการปฏิบตั ิ 1. ครแู ละเดก็ ช่วยกันเตรียม 1.กล่องหรอื ลงั ข้อตกลงในการทากิจกรรม วงกตได้ กระดาษ 2.สงั เกตการประดษิ ฐ์ เขา ตามคาแนะนา อุปกรณก์ ิจกรรมประดิษฐ์เขาวงกต วงกตด้วยตนเอง 2.หลอด (๔) การหยบิ จบั จากน้ันครสู าธติ การประดษิ ฐ์เขา 3.กาว การใชก้ รรไกร การ วงกต โดยมขี ั้นตอนการทา 4.ลูกแกว้ หรอื ดิน นา้ มัน ฉกี การตดั การปะ ดังตอ่ ไปน้ี และการรอ้ ยวสั ดุ เตรียมกลอ่ งหรอื ลงั กระดาษ ตดั แบง่ ครง่ึ ใหเ้ ปน็ ลักษณะถาด (๕)การทากิจกรรมศิลปะ นาหลอดมาตัดเป็นขนาดต่าง ตา่ ง ๆ ๆ แล้วทากาวตดิ ลงบนกล่อง กระดาษทีเ่ ตรียมไวใ้ ห้เปน็ ลักษณะ เขาวงกต รอจนกาวแห้ง แล้วลองนา ลกู แกว้ ดินน้ามนั ท่ปี น้ั เป็นก้อน กลมๆ หรอื วสั ดุทมี่ ีลักษณะกลมๆ มากล้งิ ลงบนเขาวงกตถอื ว่าเสรจ็ สมบรู ณ์ 2.เด็กปฏบิ ัตกิ จิ กรรมโดยให้ ผู้ปกครองคอยให้ความชว่ ยเหลือ 3. เด็กเกบ็ อุปกรณแ์ ละส่งผลงาน 2

บนั ทึกหลังสอน ร่างกาย เด็กไดใ้ ชก้ ล้ามเนื้อมดั เลก็ มัดใหญ่ ใชม้ อื -ตาประสานสัมพนั ธ์กัน อารมณ์และจติ ใจ เด็กมีความภาคภมู ใิ จในผลงานของตนเอง และมีความสขุ ในการทากิจกรรม ไดฝ้ กึ การดูแลรกั ษาธรรม๙ตแิ ละสิง่ แวดล้อมจากการนาวสั ดุเหลอื ใช้มาใช้ สงั คม เด็กร้จู ักการอดทน รอคอยในการทากจิ กรรม สตปิ ัญญา เดก็ ได้สร้างผลงานเพ่ือสื่อสารความคิด ความรสู้ ึกผ่านกจิ กรรมทท่ี า ฝึกการคาดเดาและคาดคะเนกบั สิ่งทีจ่ ะเกิดขนึ้ ปญั หาและอุปสรรค - วิธีการแกไ้ ข - ลงชอ่ื …………………………………………………… ลงชอ่ื ………………………………………………… ( นางสาวปรยิ าภทั ร สายสน่ัน) ( นางสาวกันยาภัทร ภัทรโสตถิ ) ครปู ระจาชัน้ ผอู้ านวยการโรงเรยี น 2

แผนการจัดประสบการณ์ หนว่ ยการเรยี นรู้พเิ ศษ (เนอื่ งจากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรน่า 2019) โรงเรยี นวดั พชื นมิ ิต (คาสวสั ดร์ิ าษฎร์บารงุ ) กิจกรรมเคลอื่ นไหวและจังหวะ(เตน้ ประกอบเพลง) วนั ท่ีสอน วนั ศกุ ร์ ท่ี 22 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 วตั ถุประสงค์ สาระการเรียนรู้ ขน้ั ตอนการจดั กิจกรรม สอื่ / อปุ กรณ์ การประเมิน 1.เดก็ สามารถเต้นประกอบ สาระทค่ี วรรู้ ประสบการณ์สาคัญ ๑.เด็กและคณุ ครหู าพนื้ ทใี่ นการทา 1.เพลง ล้างมือ 7 สังเกต เพลงได้ กจิ กรรม โดยใช้พนื้ ท่ีกวา้ ง ๆ ขัน้ ตอน 1.สงั เกตการเตน้ ประกอบ 2.เดก็ สามารถรอ้ งเพลงได้ 1.2.4 การแสดงออกทาง ๒.คุณครเู คล่ือนไหวสรา้ งสรรค์ เพลง ประกอบเพลงล้างมอื 7 ข้นั ตอน 2.สังเกตการรอ้ งเพลง อารมณ์ โดยท่ีคุณครูจะเตน้ ประกอบเพลง แลว้ เด็ก ๆ เตน้ ตามคุณครูจนจบ (3) การเคลอ่ื นไหวตาม เพลง ๓. เด็ก และคุณครรู ่วมกันผ่อน เสยี งเพลง/ดนตรี คลายรา่ งกายเม่อื ทากจิ กรรมเสร็จ 4.เด็กปฏบิ ตั กิ จิ กรรมโดยให้ ผ้ปู กครองคอยให้ความช่วยเหลอื 5. เด็กอบอ่นุ ร่างกายสง่ ผลงาน 2

บันทึกหลังสอน รา่ งกาย : เดก็ ไดพ้ ัฒนากลา้ มเน้อื มัดเลก็ กล้ามเนอื้ มัดใหญ่ อารมณแ์ ละจติ ใจ : เด็กได้มีอารมณ์แจ่มใส รา่ เริง มคี วามสุขท่ไี ดท้ ากิจกรรม สงั คม : ช่วยใหเ้ ด็กเกิดความรู้สกึ อบอุ่น มีความไว้วางใจในสิง่ แวดล้อมใหม่ มีความสุขในการเรียน การทางาน และสามารถท่ีจะปรับตัวในลักษณะท่เี หมาะสม เม่อื อย่รู ่วมกับผู้อนื่ สตปิ ญั ญา : ให้เด็กรู้จกั ฟงั และแยกความแตกต่างของระดับเสยี ง สูง-ต่า ดงั -ค่อย หนัก-เบา แหลม-ทุม้ ร้จู ักแยกอตั ราจงั หวะ ช้า-ปานกลาง-เร็ว ปญั หาและอปุ สรรค เดก็ ๆไมส่ ามารเปดิ เพลงและทากิจกรรมได้คนเดยี ว วิธกี ารแกไ้ ข ต้องรอผูป้ กครองเลกิ งาน เด็กถงึ จะทากิจกรรมเคลือ่ นไหวได้ ลงชอื่ …………………………………………………… ลงชอ่ื ………………………………………………… ( นางสาวปริยาภทั ร สายสน่นั ) ( นางสาวกันยาภทั ร ภัทรโสตถิ ) ครปู ระจาชัน้ ผู้อานวยการโรงเรยี น 2

แผนการจดั ประสบการณ์ หน่วยการเรียนร้พู เิ ศษ (เนอื่ งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรน่า 2019) โรงเรยี นวดั พืชนมิ ิต (คาสวสั ดิ์ราษฎร์บารุง) กจิ กรรมสร้างสรรค(์ กิจกรรมติดปะจากเปลอื กสีเหลอื ใช)้ วันท่ีสอน วัน จนั ทร์ ท่ี 25 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 วัตถปุ ระสงค์ สาระการเรยี นรู้ ขัน้ ตอนการจัดกจิ กรรม สื่อ / อปุ กรณ์ การประเมิน 1. เดก็ สามารถปฏบิ ัติ สาระที่ควรรู้ ประสบการณ์สาคัญ สังเกต กจิ กรรมตดิ ปะจากเปลือกสี 1.สงั เกตการปฏิบตั ติ าม เหลอื ใช้ตามจนิ ตนาการได้ (๒)การฟงั และการปฏิบัติ 1. ครูและเด็กช่วยกนั เตรยี ม 1.กระดาษ A4 กจิ กรรมติดปะจากเปลอื กสี 2. เดก็ สามารถหยิบจับวสั ดุ เหลือใช้ตามจินตนาการ อปุ กรณ์ไดอ้ ย่างมนั่ คง ตามคาแนะนา อุปกรณก์ จิ กรรมประดิษฐ์ตดิ ปะ 2.กาว 2.สังเกตการหยบิ จับวัสดุ อปุ กรณ์ (๔) การหยบิ จบั จากเปลือกสีเหลอื ใช้ จากนั้นครู 3.ดินสอ สาธติ การประดษิ ฐ์ติดปะจากเปลอื ก 4.เปลอื กสี การใชก้ รรไกร การ ฉกี การตดั การปะ สเี หลือใช้ โดยมีขน้ั ตอนการทา และการรอ้ ยวสั ดุ ดังตอ่ ไปน้ี (๕)การทากจิ กรรมศลิ ปะ นากระดาษ A4 มาวาดภาพ ตามจนิ ตนาการ ตา่ ง ๆ เตรียมเปลอื กสีที่ไดจ้ ากการ เหลาสีต่าง ๆ ทากาวบริเวณภาพท่ีวาดไว้ นาเปลือกสีที่เตรียมไว้มาตดิ บนภาพทีเ่ ราทากาวไว้ ตดิ เปลือกสีจนเตม็ ภาพ เสรจ็ สมบูรณ์ 2.เด็กปฏิบตั ิกจิ กรรมโดยให้ ผปู้ กครองคอยให้ความช่วยเหลอื 3. เดก็ เกบ็ อปุ กรณ์และส่งผลงาน 2

บันทกึ หลังสอน รา่ งกาย เด็กไดใ้ ชก้ ล้ามเน้อื มดั เล็ก ใช้มือ-ตาประสานสมั พันธก์ นั อารมณแ์ ละจิตใจ เด็กมคี วามสุข ไดแ้ สดงออกผ่านกิจกรรมทที่ า และมีความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง สงั คม เด็กร้จู กั การอดทน รอคอย และปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลงในการทากิจกรรม สตปิ ญั ญา เดก็ ไดส้ ร้างผลงานศิลปะเพอ่ื สอื่ สารความคิด ความรู้สึกของตนเอง ปญั หาและอปุ สรรค เดก็ อนบุ าล 1 บางคนยังไมส่ ามารถทากิจกรรมนีไ้ ด้ เพราะกลา้ มเนอ้ื เลก็ (มือ)ยงั ไม่พร้อม ผูป้ กครองตอ้ งคอยช่วยเหลอื เปน็ บางสว่ น วิธกี ารแก้ไข ฝึกฝนการทากิจกรรมบอ่ ย ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อเล็กแขง็ แรง คล่องแคลว่ ลงชอื่ …………………………………………………… ลงชอ่ื ………………………………………………… ( นางสาวปริยาภทั ร สายสน่นั ) ( นางสาวกนั ยาภัทร ภัทรโสตถิ ) ครูประจาช้ัน ผอู้ านวยการโรงเรยี น 2

แผนการจดั ประสบการณ์ หนว่ ยการเรยี นรู้พิเศษ (เนอื่ งจากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรน่า 2019) โรงเรยี นวดั พืชนมิ ิต (คาสวัสดริ์ าษฎรบ์ ารุง) กิจกรรมวิทยาศาสตร(์ ผักเปลี่ยนส)ี วันทสี่ อน วนั พุธ ท่ี 26 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 วตั ถุประสงค์ สาระการเรียนรู้ ข้ันตอนการจัดกิจกรรม ส่ือ / อปุ กรณ์ การประเมนิ 1.เดก็ สามารถรู้จกั การ สาระทคี่ วรรู้ ประสบการณ์สาคัญ สงั เกต สงั เกต เปรียบเทียบ ความ 1.สังเกตการสงั เกต แตกตา่ งของผักได้ ทกั ษะการสงั เกต 1. ครูและเด็กชว่ ยกันเตรยี ม สีผสมอาหาร เปรยี บเทียบ ความแตกตา่ ง ๒.เดก็ สามารถชว่ ยออกแบบ ของผกั และลงมือปฏบิ ตั กิ ารทดลอง การเปรยี บเทยี บความ อปุ กรณก์ ิจกรรมวิทยาศาสตร(์ ผัก ผักกาดขาว ๒.สงั เกตการลงมือ ดว้ ยตนเองได้ ปฏิบัตกิ ารทดลองดว้ ย ๓.เด็กได้เรยี นรกู้ าร เหมอื นความแตกตา่ ง เปลยี่ นสี)จากนน้ั ครูทดลอง โดยมี แกว้ พลาสตกิ ตนเอง เปลย่ี นแปลงของผักได้ ๓.สงั เกตเปลยี่ นแปลงของ ข้นั ตอนการทาดงั ตอ่ ไปน้ี น้าเปลา่ ผกั 1.ครูนาผักกาดขาวมาให้เดก็ ดู และถามเด็ก ๆ ว่าคอื ผักอะไร ๒.จากนั้นครไู ดถ้ ามเด็ก ๆ ว่า ผกั กาดขาวมีรูปรา่ งลักษณะอย่าง ไร 3. ครูบอกประโยชน์ของ ผักกาดขาว ได้ถามเด็ก ๆ ว่า ผกั กาดขาวสามารถนามาทาอาหาร อะไรได้บ้าง ๔. ครูสนทนาสอบถาม เกย่ี วกับผกั กาดขาวว่าเด็ก ๆ เคย เหน็ ผักกาดขาวสหี รือไม่และคณุ ครู เอามาทาอะไรน๊า ๕. ครเู ตรยี มนาใส่แกว้ จากนน้ั ครกู ็นา้ สีผสมอาหารมาผสมแล้วใส่ ลงในแกว้ นา้ ทีเ่ ตรียมไว้ 6.ครูแกะก้านผกั กาดขาว จากน้ันครูนาผักกาดขาวมาจมุ่ ลงไป 2

ในแก้วน้าสแี ละจานสีที่ทาการ ทดลองประมาณ 1-2 ช่วั โมง 2.เด็กทดลองกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ โดยให้ผู้ปกครองคอยให้ความ ชว่ ยเหลือ 3. เดก็ เก็บอุปกรณแ์ ละสง่ ผลงาน บนั ทึกหลงั สอน ร่างกาย : เด็กได้ใชก้ ลา้ มเนอ้ื มดั เล็ก ใช้มือ-ตาประสานสมั พันธก์ นั อารมณ์และจิตใจ : เดก็ มคี วามสุข ไดแ้ สดงออกผ่านกจิ กรรมที่ทา และมคี วามภาคภมู ิใจในผลงานของตนเอง สงั คม : เดก็ รู้จักการอดทน รอคอย และปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลงในการทากิจกรรม สตปิ ัญญา : สง่ เสรมิ ให้เด็กมีการสังเกต การเปรียบเทียบ การส่ือสาร ปัญหาและอุปสรรค เด็กอนุบาล 1 บางคนไมส่ ามารถทากจิ กรรมดว้ ยตนเองได้ วธิ ีการแกไ้ ข ผปู้ กครองช่วยชี้แนะในการทากิจกรรมในครั้งนี้ ลงช่ือ…………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………… ( นางสาวปรยิ าภทั ร สายสนัน่ ) ( นางสาวกันยาภัทร ภทั รโสตถิ ) ครปู ระจาช้ัน ผู้อานวยการโรงเรยี น 2

แผนการจดั ประสบการณ์ หนว่ ยการเรยี นรู้พเิ ศษ (เนอื่ งจากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา่ 2019) โรงเรียนวัดพชื นิมิต (คาสวสั ด์ิราษฎร์บารงุ ) กิจกรรมสร้างสรรค์ (นทิ านแสนสนุก ลูกหมูสามตัว)วนั ที่สอน วัน พุธ ที่ 27 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 วตั ถุประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ขนั้ ตอนการจดั กจิ กรรม ส่อื / อปุ กรณ์ การประเมนิ 1.เดก็ สามารถฟงั ผู้ปกครอง สาระทค่ี วรรู้ ประสบการณส์ าคญั สังเกต เล่านิทานได้ 1.สงั เกตการใช้กล้าทเนือ้ มดั ๒.เด็กสามารถบอกตวั ละคร (2) การฟังและปฏบิ ตั ติ าม 1. ครแู นะนาหนังสือนทิ าน “ลูก 1. หนงั สือนิทานลูก เลก็ ในการพบั กระดาษ ในเรื่องได้ ๒.สงั เกตการมสี ่วนร่วมใน ๓.เด็กสามารถปฏบิ ัติตาม คาแนะนา หมูสามตวั ” หมสู ามตวั การทากิจกรรม ข้อตกลงได้ ๓.สงั เกตการชื่นชมผลงาน (3) การฟังเพลง นิทาน 2. ครูเลา่ นิทานโดยใช้หนังสอื นิทาน ๒.กระดาษเอส่ี ของเดก็ (4) การพูดแสดงความคดิ “ลูกหมูสามตัว” ๓.สี ความรสู้ กึ และความ ๓. ครูเล่านทิ านโดยโดยใช้อปุ กรณ์ ตอ้ งการ ประกอบ (10) การอ่านหนงั สอื ภาพ ๔. เด็กและครูรว่ มกนั สรปุ สง่ิ ที่ได้ นิทาน จากนิทาน “ลูกหมูสามตวั ” 2

บนั ทึกหลังสอน ร่างกาย : เปิดโอกาสใหเ้ ด็กมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเล่านิทาน เดก็ ได้เคล่ือนไหวรา่ งกายสว่ นต่าง ๆ เป็นการพัฒนากลา้ มเนอื้ มัดใหญ่ อารมณ์และจิตใจ : เดก็ มคี วามสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ มสี มาธสิ รา้ งความสนใจไดย้ าวนาน สังคม : สง่ เสริมความมีวินยั จากการเล่านิทาน สตปิ ญั ญา : ส่งเสรมิ ใหเ้ ดก็ มีการพฒั นาการด้านภาษา การฟัง การพดู การจดจาคาศพั ท์ ปญั หาและอุปสรรค เดก็ ๆ บางคนยังไมม่ ีสมาธิที่จะฟงั นทิ าน วิธกี ารแก้ไข ควรหากจิ กรรมแทรกระหวา่ งการเลา่ นทิ าน เช่น ถามตวั ละครในเรอ่ื ง ร้องเพลงประกอบกบั นทิ าน ลงชื่อ…………………………………………………… ลงช่ือ………………………………………………… ( นางสาวปริยาภัทร สายสน่นั ) ( นางสาวกนั ยาภัทร ภทั รโสตถิ ) ครปู ระจาช้ัน ผูอ้ านวยการโรงเรยี น 2

แผนการจดั ประสบการณ์ หน่วยการเรยี นรพู้ ิเศษ (เนอื่ งจากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรน่า 2019) โรงเรยี นวัดพืชนมิ ิต (คาสวสั ดริ์ าษฎร์บารุง) กิจกรรมสรา้ งสรรค(์ ประดิษฐ์“กระปกุ ออมสนิ ”)วันทส่ี อน วัน พฤหสั บดี ท่ี 28 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 วตั ถปุ ระสงค์ สาระการเรียนรู้ ขนั้ ตอนการจัดกจิ กรรม สอื่ / อปุ กรณ์ การประเมนิ 1.เด็กสามารถปฏิบัตติ าม สาระทีค่ วรรู้ ประสบการณ์สาคญั 1. ครแู ละเด็กชว่ ยกนั เตรียม ๑. ขวดน้าพลาสตกิ สงั เกต ขอ้ ตกลงได้ แบบใส อ้วน กลม 1.สังเกตการปฏิบตั ิตาม 2.เดก็ สามารถประดษิ ฐ์ (๒)การฟังและการปฏิบัติ อุปกรณ์กิจกรรมประดิษฐ์ กระปกุ ๒. รังไข่พาสตกิ ขอ้ ตกลงในการทากิจกรรม กระปกุ ออมสิน โดยมี หรอื ฝาขวดน้า 2.สงั เกตการประดิษฐ์ ผู้ปกครองช้แี นะได้ ตามคาแนะนา ออมสนิ จากนน้ั ครสู าธิตการ ๓. คตั เตอร์ กระปุกออมสิน โดยมี ๔. กระดาษ ผูป้ กครองช้ีแนะ (๔) การหยบิ จบั ประดษิ ฐ์กระปกุ ออมสินโดยมี ๕. กรรไกร ๕.กาว การใชก้ รรไกร การ ข้ันตอนการทาดงั ต่อไปนี้ ฉีก การตดั การปะ เจาะรูขวดน้าดา้ นบน ทาเปน็ รู ใส่เหรยี ญ และการรอ้ ยวสั ดุ ติดขาหมูดว้ ย รังไข่พลาสตกิ (๕)การทากจิ กรรมศลิ ปะ หรอื ฝาขวดน้า ต่าง ๆ ตดั กระดาษ ตกแตง่ ประดบั เปน็ หหู มู หางหมู ตา และจมกู หมู นาไปหยอดเหรียญ 2.เด็กปฏบิ ัตกิ ิจกรรมโดยให้ ผปู้ กครองคอยให้ความชว่ ยเหลอื 4. เด็กเกบ็ อุปกรณ์และส่งผลงาน 2

บันทึกหลังสอน ร่างกาย : พัฒนากล้ามเนอ้ื มัดเล็ก กล้ามเนือ้ มัดใหญ่ อารมณ์และจิตใจ : สง่ เสรมิ ให้เด็กมีความภาคภูมใิ จในผลงาน สงั คม : ฝึกการปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง ทางานร่วมกบั พน่ี ้อง พอ่ แม่ ผปู้ กครอง สตปิ ัญญา : ส่งเสริมจนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ปัญหาและอปุ สรรค เด็ก ๆ บางคนยงั ไมส่ ามารถประดิษฐ์ กระปุกออมสนิ ไดด้ ว้ ยตนเอง เพราะกล้ามเนื้อเล็กในการจับยงั ไม่ม่นั คง วธิ กี ารแก้ไข ฝึกทากิจกรรมทใ่ี ช้กล้ามเนือ้ เล็กบอ่ ย ๆ เช่น กิจกรรมรอ้ ยหลอด ปัน้ ดินนา้ มนั เปน็ ต้น ลงชอื่ …………………………………………………… ลงชือ่ ………………………………………………… ( นางสาวปรยิ าภทั ร สายสน่ัน) ( นางสาวกันยาภัทร ภัทรโสตถิ ) ครูประจาช้นั ผู้อานวยการโรงเรยี น 81

แผนการจัดประสบการณ์ หน่วยการเรยี นรู้พิเศษ (เนอ่ื งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019) โรงเรยี นวดั พชื นิมิต (คาสวสั ดิ์ราษฎร์บารงุ ) กิจกรรมเคลอื่ นไหวและจงั หวะ(โยคะพาเพลนิ ) วนั ทสี่ อน วัน ศกุ ร์ ท่ี 29 เดอื น มกราคม พ.ศ.2564 วัตถุประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ขน้ั ตอนการจดั กจิ กรรม ส่ือ / อปุ กรณ์ การประเมิน 1.เด็กสามารถทาท่าโยคะได้ สาระทค่ี วรรู้ ประสบการณ์สาคญั 2.เดก็ สามารถปฏบิ ัติตาม ขอ้ ตกลงได้ 1.2.4 การแสดงออกทาง ๑.เด็กและคุณครหู าพ้ืนท่ีในการทา สังเกต กจิ กรรม โดยใชพ้ นื้ ท่กี ว้าง ๆ 1.สังเกตการเตน้ ประกอบ อารมณ์ 2เดก็ และครูร่วมกบั ทาท่าโยคะ ดงั น้ี เพลง (3) การเคลอ่ื นไหวตาม ทา่ โยคะ 2.สงั เกตการรอ้ งเพลง เสยี งเพลง/ดนตรี 1.ท่าดอกบวั : เป็นทา่ ทใ่ี ช้รวบรวมสมาธิ และฝึกการหายใจเข้า-หายใจออก เพื่อ รวบรวมจิตของเดก็ ใหพ้ ร้อม ก่อนจะเร่ิม ฝึกโยคะ -น่ังขัดสมาธิ ยดื หลงั และลาตวั ใหต้ รง หนา้ มองตรงไปขา้ งหน้า -หงายมอื ทั้งสองข้างขึ้นวางไว้บนหนา้ ขา ปลอ่ ยไหล่ให้ผ่อนคลาย โดยไม่ตอ้ งเกร็ง -ค่อย ๆ หลับตา หายใจเขา้ ลกึ ๆ และ หายใจออกช้า ๆ อยา่ งเป็นจังหวะ ทา ประมาณ 5 คร้ัง 2.ทา่ ผีเสอ้ื : ท่านี้จะช่วยยืดกระดูกสนั หลังส่วนล่างและเส้นใต้ขา ส่วนการก้ม ตวั จะช่วยยดื ในสว่ นบริเวณตน้ คอ - นงั่ หลงั ตรง หันฝ่าเท้าชนกันท้ังสองข้าง จากน้ันใช้มือจับท่ีเทา้ แลว้ ค่อย ๆ ดึงเทา้ ท้งั สองข้างเขา้ ชดิ ลาตวั 85

- คอ่ ย ๆ หลบั ตาแล้วหายใจเข้าลึก ๆ จากนนั้ หายใจออกพร้อมกม้ ตัวใหศ้ รี ษะ จรดเทา้ คา้ งไว้ แลว้ ควบคุมลมหายใจเขา้ และหายใจออกช้า ๆ ทาประมาณ 5 คร้งั 3.ท่าพระจนั ทร์คร่ึงเสีย้ ว : ท่านจ้ี ะช่วย เพ่ิมความยดื หยุน่ กับความแข็งแรงของ กลา้ มเนอื้ ดา้ นข้างลาตัว และการหายใจ เขา้ ลึก ๆ ไปยงั ปอด จะชว่ ยให้กล้ามเนื้อ ข้างลาตัวยืดหยุ่นไดม้ ากขนึ้ - ยนื ตัวตรง แยกขาใหเ้ ทา่ ชว่ งหวั ไหล่ จากนัน้ หายใจเข้าลกึ ๆ พรอ้ มยกแขนทงั้ สองขา้ งข้ีนเหนือศีรษะ ประกบมอื ทัง้ สองขา้ งเข้าหากันค้างไว้ แลว้ หายใจออก ช้า ๆ - จากนั้นหายใจเข้าลึก ๆ พรอ้ มเอียงตวั ไปขา้ งซ้าย แลว้ หายใจออกพรอ้ มดงึ ตัว กลับมาตรงกลาง ตอ่ ไปหายใจเขา้ ลกึ ๆ พร้อมเอยี งตวั ไปทางขวา แล้วหายใจออก พร้อมดงึ ตัวกลบั มาตรงกลาง -ทาซ้าขนั้ ที่ 2 ให้ต่อเนอื่ งกัน ประมาณ 5 ครงั้ 4.ทา่ เด็ก : ท่านช้ี ่วยยืดเหยยี ดกล้ามเน้อื บรเิ วณ ลาตวั สะโพก ต้นขา และข้อตอ่ ตา่ ง ๆ ในรา่ งกายรวมถึงขอ้ เทา้ ขอ้ เขา่ ข้อมือ แล้วยังช่วยกระตุ้นระบบย่อย อาหารดว้ ยคะ่ 86

- นงั่ คุกเขา่ ปลายเทา้ ราบกบั พนื้ แลว้ นง่ั ทบั บนสน้ เทา้ พรอ้ มยืดลาตัวใหต้ รง ใบหนา้ มองตรงไปข้างหน้า - จากนัน้ หายใจเขา้ ลึก ๆ พรอ้ มเหยยี ด แขนทงั้ สองขา้ งขึ้นไปเหนอื ศรี ษะใหไ้ ด้ มากท่ีสดุ แล้วหายใจออกพรอ้ มกม้ ตัวลง ให้หนา้ ผาติดพื้น ก้นยงั อยบู่ นส้นเทา้ นะ คะ (หากกม้ ไมไ่ ดใ้ หย้ กกน้ เล็กน้อยไดค้ ะ่ ) คา้ งท่าไว้ ควบคมุ การหายใจเขา้ และ หายใจออกช้า ๆ ประมาณ 5 คร้งั แลว้ คอ่ ยเงยหนา้ ขึ้น 5.ท่างู : ท่านจ้ี ะช่วยสร้างความยืดหยุ่น ให้กบั กระดกู สนั หลัง ช่วยให้ระบบยอ่ ย อาหารดขี น้ึ และทาให้ระบบขับถา่ ย ทางานได้ดี - ใหเ้ ดก็ นอนควา่ วางมือไว้ข้างลาตวั ตงั้ ข้อศอกขึ้น แล้วค่อย ๆ หลับตา จากน้ัน หายใจเข้าลกึ ๆ พรอ้ มดนั ข้อศอกข้ึน แลว้ ดันตวั ขึ้นช่วงบนขนึ้ เงยหนา้ ข้ึนให้ มากทีส่ ุด แล้วหายใจออกช้า ๆ - คา้ งท่าไว้ แล้วควบคมุ ลมหายใจเขา้ - หายใจออก ประมาณ 5 ครง้ั แลว้ ลด ลาตวั ลงกลับมาสู่ท่านอนคว่า 5. เดก็ อบอุน่ รา่ งกายสง่ ผลงาน 87

บนั ทกึ หลังสอน ร่างกาย : เสริมสรา้ งความแขง็ แรงและความยดื หยุน่ ของกล้ามเน้อื อกี ทั้งยังช่วยใหเ้ ด็กสามารถควบคุมและจัดระเบยี บรา่ งกายของตนเองได้ดขี ้ึน อารมณแ์ ละจิตใจ : เป็นการฝึกสมาธิ ชว่ ยให้เด็กจดจอ่ และมีสตอิ ย่กู ับส่งิ ทก่ี าลังทา ซงึ่ สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการเรียนและการทากจิ กรรมอื่น ๆ เพ่ือเป็นการเพิ่มประสทิ ธภิ าพในการ ดาเนินกจิ กรรมนั้น ๆ สงั คม : ชว่ ยให้เด็กสามารถควบคมุ อารมณ์ตนเองได้ รู้จกั การรอคอย สตปิ ัญญา : เดก็ ไดจ้ ดจาท่าทางในการเลน่ โยคะ รู้จักการลาดบั ทา่ ทางข้ันตอนการเล่นโยคะ ปญั หาและอปุ สรรค เด็ก ๆ บางคนไม่สามารถทาท่าโยคะไดด้ ว้ ยตนเองได้ เนอื่ งจากกล้ามเนื้อใหญย่ งั ไมแ่ ข็งแรง วธิ กี ารแก้ไข ผู้ปกครองต้องฝกึ ใหเ้ ดก็ ๆ ทาทา่ โยคะบอ่ ย ๆ เพื่อให้เด็กชนิ และสามารถทาทา่ โยคะไดด้ ว้ ยตนเอง ลงชือ่ …………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………… ( นางสาวปรยิ าภทั ร สายสนั่น) ( นางสาวกนั ยาภทั ร ภัทรโสตถิ ) ครูประจาช้นั ผ้อู านวยการโรงเรียน 88