วสั ดใุ นชวี ติ ประจาํ วนั จดั ทําโดย ด.ช. พรี ะศักดิ เหล่ามา ชนั ม. 2/1 เลขที 10 เสนอ คณุ ครู ภัทราวรรณ อุทธสงิ ห์
คํานาํ รายงานเล่มนเี ปนสว่ นหนงึ ขอรายวชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี ว22103 หากผดิ พลาดประการใดก็ขออภัย ไว้ ณ ทีนีด้วย
สารบญั ไม้ 4 โลหะ 7 พลาสติก 10 ยาง 13 อ้างอิง 16
วสั ดใุ นชวี ติ ประจาํ วนั สงิ ของเครอื งใชต้ ่างๆ สรา้ งขนึ จาก วสั ดหุ ลายประเภท วสั ดแุ ต่ละประเภท มสี มบตั ิและลักษณะทีแตกต่างกัน การเลือกใชว้ สั ดใุ หถ็ กู ต้องและเหมาะ สมจงึ มคี วามสาํ คัญต่อการออกแบบ และสงิ ของเครอื งใช้ วสั ดทุ ีนาํ มาทําสงิ ของเครอื งใชท้ ีเรา พบเจอ เชน่ ไม้ โลหะ พลาสติก ยาง มสี มบตั ิและการใชง้ านทีแตกต่างกัน ดงั นี 3
ไม้ ( wood ) ไม้ คือ วสั ดธุ รรมชาติทีไดม้ าจากลําต้น ของต้นไม้ ซงึ สว่ นใหญเ่ ปนไมย้ นื ต้น ไมม้ คี วามแขง็ แรง ต้านทานไฟฟา ไม่ เปนสนมิ มรี ปู รา่ งคงตัว ผวิ เรยี บ มี กลิน และมลี วดลาย ถ้าไดร้ บั ความชนื เปนเวลานานอาจจะผไุ ด้ ไมแ้ บง่ ออก เปน2ประเภท คือ 4
ไมจ้ รงิ หรอื ไมธ้ รรมชาติ คือ ไมท้ ีไดม้ าจากลําต้นของต้นไม้ โดยตรง แบง่ ไดเ้ ปน 2 ประเภท คือ ไมเ้ นอื แขง็ และไมเ้ นอื อ่อน 5
ไมป้ ระกอบ คือ ไมท้ ีไดม้ าจากการนาํ ชนิ สว่ นของไม้ มาต่อรว่ มกันดว้ ยกระบวนการต่างๆ ไม้ ประกอบมหี ลายประเภท เชน่ ไมอ้ ัด ไมป้ ารต์ ิเคิลบอรด์ 6
โลหะ ( metals ) โลหะ คือ วสั ดทุ ีไดจ้ ากการถลงุ สนิ แรต่ ่างๆ โลหะทีนาํ มาใชง้ านสว่ นใหญจ่ ะผา่ นการ ปรบั ปรงุ สมบตั ิใหด้ ขี นึ ก่อนนาํ มาใชง้ าน โลหะเปนตัวนาํ ความรอ้ นและไฟฟา มคี วาม แขง็ แรงสงู มคี วามทนถาวร เปนวสั ดทุ ึบ แสง ทาทานต่อการกัดกรอ่ น โลหะแบง่ เปน 2 ประเภทคืออ 7
โลหะกล่มุ เหล็ก คือ โลหะทีมเี หล็กเปนสว่ นประกอบหลัก แบง่ ออกเปนเหล็กกล้า และเหล็กหล่อ ซงึ มธี าตคุ ารบ์ อนผสมอยูใ่ นปรมิ าณที ต่างกันตังแต่ 0.1% ไปจนถึง 4.0% คารบ์ อนทีผสมลงในเหล็กมผี ลต่อความ แขง็ และเปราะขอองเหล็ก โดยทัวไปโลหะ กล่มุ เหล็กจะเกิดสนมิ และมสี มบตั ิดดู ติด กับแมเ่ หล็กได 8
โลหะนอกกล่มุ เหล็ก คือ โลหะทีไมม่ เี หล็กเปนสว่ นประกอบ ดงั นนั โหะประเภทนจี ะไมเ่ กิดสนมิ และไม่ ดดู ติดกับเเมเ่ หล็ก เชน่ อะลมู เิ นยี ม ทองเเดง สงั กะสี ทองเหลือง 9
พลาสติก ( plastis ) พลาสติก คือ วสั ดสุ งั เคราะหท์ ีมนษุ ย์ สรา้ งขนึ สว่ นใหญเ่ ปนผลผลิตทีไดจ้ า การกลันนาํ มนั ดบิ ปจจุบนั พลาสติกนาํ มาใชส้ รา้ งสงิ ของเครอื งใชม้ ากมายและ มบี ทบาทอยา่ งยงิ ต่อการดาํ เนนิ ชวี ติ ประจาํ วนั พลาสติกแบง่ ออกเปน 2 ประเภทคือ 10
เทอรโ์ มพลาสติก จะอ่อนตัวและหลอมเหลวเมอื ไดร้ บั ความรอ้ นและจะแขง็ ตัวเมอื ทําใหเ้ ยน็ ลง พลาสติกทีแขง็ ตัวแล้วสามารถนาํ มาหลอมซาํ ไดด้ ว้ ยความรอ้ น 11
เทอรโ์ มเซตติงพลาสติก เปนพลาสติกทีมสี มบตั ิพเิ ศษ คือ ทนทานต่อการเปลียนแปลงอุณหภมู ิ และทนปฏิกิรยิ าเคมไี ดด้ ี 12
ยาง (rubber ) ยาง คือ วสั ดทุ ีมคี วามยดื หยุน่ ถกู นาํ ไป แปรรปู เพอื ใชป้ ระโยชนใ์ นการสรา้ ง สงิ ของเครอื งใชห้ ลายชนดิ สามารถ แบง่ ออกไดเ้ ปน 2 ประเภท คือ 13
ยางธรรมชาติ คือ ผลผลิตทีไดจ้ ากต้นยาง เมอื ยางอยู่ ในสภาวะอุณหภมู ติ ําจะแขง็ กระดา้ ง เมอื ยางอยูใ่ นสภาวะอุณหภมู สิ งู จะอ่อน นมิ มคี วามยดื หยุน่ สงุ ทนต่อการ สกึ หรอ แต่ไมท่ นต่อตัวทําละลายพวก นาํ มนั ปโตเลียม 14
ยายสงั เคราะห์ คือ ยางทีไดจ้ ากการสงั เคราะหท์ างเคมี เพอื เลียนแบบยางธรรมชาติ ขอ้ ดคี ือ สามารถปรบั ปรงุ สมบตั ิต่างๆ ได้ 15
อ้างอิง จากเวป็ https:// www.wazzadu.com /article/1142 16
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: