Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โลกและสัณฐาน

โลกและสัณฐาน

Published by พิภพภัทร์ มัดฉิมา, 2021-11-22 14:26:43

Description: เล่มที่ 1

Search

Read the Text Version

ก คำ�น�ำ เอกสารประกอบการเรียนท่ีท่านกำ� ลงั ศึกษาอยู่น้ีเป็ นเล่มที่ 1 เรื่องโลกและ สัณฐาน ส�ำหรับนักเรียนโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย อำ� เภอเมือง จังหวดั ลำ� ปาง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ โลก สัณฐานของโลก องค์ประกอบและ การเปล่ียนแปลงของโลกผ่านกระบวนการแปรสัณฐานในรูปแบบต่างๆ จนส่งผลต่อ การเกิดภูมิประเทศบริเวณพ้ืนผวิ โลก โดยผจู้ ดั ทำ� หวงั วา่ จะช่วยพฒั นาการเรียนรู้ของนกั เรียนใหม้ ีประสิทธิภาพสอดคลอ้ ง กบั หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พ.ศ. 2551 และหลกั สูตรภูมิศาสตร์โอลิมปิ ก ของ มูลนิธิส่งเสริ มโอลิมปิ กวิชาการ และพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา ในพระอุปถมั ภส์ มเด็จพระเจา้ พ่ีนางเธอ เจา้ ฟ้ากลั ยาณิวฒั นา กรมหลวงนราธิวาสราช นครินทร์ ช่วยส่งเสริมการเรียนการสอนของครูใหส้ มั ฤทธ์ิผลมากยงิ่ ข้นึ สอดคลอ้ ง กบั ปรัชญาการเรียนรู้ท่ีใหน้ กั เรียนสามารถเรียนรู้ไดต้ ลอดชีวิต และเพ่ิมประสิทธิภาพ ของนกั เรียนใหม้ ีศกั ยภาพในระดบั ชาติและระดบั นานาชาติสืบไป นายพิภพภทั ร์ มดั ฉิมา ตำ� แหน่งครู วทิ ยฐานะ ชำ� นาญการ โรงเรียนบุญวาทยว์ ทิ ยาลยั อำ� เภอเมือง จงั หวดั ลำ� ปาง

ข สารบญั เรื่อง หนา้ คำ� นำ� ก สารบญั ข สารบญั ภาพ ค คำ� แนะนำ� สำ� หรบั ครู ง คำ� แนะนำ� สำ� หรบั นกั เรียน จ โครงสรา้ งเอกสารประกอบการเรียน ฉ คำ� ช้ีแจงการใชเ้ อกสารประกอบการเรียน ช แผนผงั แสดงข้นั ตอนการเรียนโดยใชเ้ อกสารประกอบการเรียน ซ แบบทดสอบกอ่ นเรียน ฌ เลม่ ที่ 1 เร่ืองโลกและสณั ฐาน 1 บทนำ� 2 สณั ฐานของโลก 7 องคป์ ระกอบของเปลอื กโลก 10 กระบวนการแปรสณั ฐานกบั การเคลอ่ื นทข่ี องเปลอื กโลก 17 แบบฝึกหดั ที่ 1.1 24 แบบฝึกหดั ท่ี 1.2 25 แบบฝึกหดั ที่ 1.3 26 แบบทดสอบหลงั เรียน 27 แบบบนั ทกึ คะแนน 30 ภาคผนวก 32 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน 34 เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี 1.1 35 เฉลยแบบฝึกหดั ที่ 1.2 36 เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี 1.3 36 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 37 บรรณานกุ รม 38 ประวตั ผิ เู้ขยี น 40

ค สารบญั ภาพ ภาพ หนา้ ภาพท่ี 1 แผนทแี่ นวรอยเลอื่ น 3 ภาพท่ี 2 คลน่ื ปฐมภมู แิ ละทตุ ยิ ภมู ิ 4 ภาพที่ 3 คลนื่ เลฟิ 5 ภาพที่ 4 คลนื่ เรยล์ ี 5 ภาพท่ี 5 การศกึ ษาโครงสรา้ งของโลกโดยใชค้ ลนื่ 6 ภาพที่ 6 โครงสรา้ งของโลก 6 ภาพที่ 7 โครงสรา้ งของเปลอื กโลก 9 ภาพท่ี 8 แผนทแ่ี ร่บนโลก 11 ภาพท่ี 9 กระบวนการเกดิ หิน 13 ภาพท่ี 10 กระบวนการเกดิ หิน 11 ภาพที่ 10 ตวั อยา่ งหินอคั นีแทรกซอน 14 ภาพท่ี 11 ตวั อยา่ งหินอคั นพี ุ 14 ภาพท่ี 12 ตวั อยา่ งหินตะกอนเคมี 15 ภาพที่ 13 ตวั อยา่ งหินตะกอนกลศาสตร์ 15 ภาพที่ 14 ตวั อยา่ งหินแปรริ้วลาย 16 ภาพท่ี 15 ตวั อยา่ งหินแปรไรร้ ิ้วลาย 16 ภาพที่ 16 แผน่ ธรณีภาค 17 ภาพที่ 17 การเคลอื่ นทแี่ ยกออกจากกนั ของเปลอื กโลก 18 ภาพที่ 18 การเคลอ่ื นทเี่ ขา้ หากนั ระหวา่ งแผน่ มหาสมทุ ร 19 ภาพที่ 19 การเคลอ่ื นทชี่ นกนั ระหวา่ งแผน่ มหาสมทุ รกบั แผน่ ทวปี 20 ภาพท่ี 20 การเคลอ่ื นทชี่ นกนั ระหวา่ งแผน่ ทวปี 20 ภาพท่ี 21 การเคลอ่ื นทเ่ี ฉียดขา้ งกนั 21 ภาพที่ 23 แผนทแ่ี นวรอยเลอ่ื น 23 ภาพที่ 24 ตวั อยา่ งกระบวนการเกดิ หิน 26

ง ค�ำแนะน�ำส�ำหรับครู สส ณั�ำหฐราันบ กม ในาชีจักรุดป้ ใเมรรชีะุ่งยเ้ อหกน กอมชสบา้ันายแรมเผพปธั น ื่อรยจะใมดกัหศกอก้ ึกาบารษ รกเดราาีรยปำ� เเนี รทนีรย่ีินู้ทน5 กี่ เ1ิจรเอ่ืกอเวกงรลสรบา มาเา้ รรกนียปาขนรรอจเะรงำ�ีฉ ยกนนนัอวไบนโดลก1บ้ กา รชขรรวอั่เรลโงียุตมเรนางามท รม่ีาย1าตวเชิรรฐาื่อสางนงั โคลตมกวัศแชึก้ีลวษดัะา และจุดมุ่งหมายของการเรียนและมีประสิทธิภาพ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เพ่ือให้นกั เรียนไดศ้ ึกษาและทำ� กิจกรรม เพื่อตรวจสอบความกา้ วหนา้ ของนกั เรียนโดย ผสู้ อนควรเตรียมความพร้อมและปฏิบตั ิตามคำ� แนะนำ� ดงั ต่อไปน้ี 1. ศึกษารายละเอียดเก่ียวกบั แผนจดั การเรียนรู้ เน้ือหาที่สอน เอกสารประกอบ การเรียน และคำ� ช้ีแจงต่างๆ ใหเ้ ขา้ ใจก่อนดำ� เนินกิจกรรมการเรียนรู้ 2. เตรียมเอกสารประกอบการเรียนใหพ้ ร้อมและครบจำ� นวนนกั เรียนในช้นั เรียน 3. ก่อนจดั กิจกรรมการเรียนรู้ครูควรช้ีแจงให้นกั เรียนเขา้ ใจบทบาทของตนเอง แนะนำ� ข้นั ตอนการใชเ้ อกสารประกอบการเรียนแนวปฏิบตั ิในระหวา่ งการดำ� เนินกิจกรรม การเรียนรู้แลว้ จึงใหท้ ำ� แบบทดสอบก่อนเรียน 4. ขณะที่นกั เรียนศึกษาเอกสารประกอบการเรียนครูคอยใหค้ วามช่วยเหลือ แนะนำ� กระตุน้ ให้ศึกษาเอกสารประกอบการเรียนอย่างกระตือรือร้นและตอบขอ้ สงสัยต่าง ๆ ระหวา่ งเรียน พร้อมท้งั สงั เกต และประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ของนกั เรียน 5. เมื่อนกั เรียนศึกษาเอกสารประกอบการเรียนครบถว้ นใหน้ กั เรียนทำ� แบบทดสอบ หลงั เรียนแลว้ นำ� ผลการทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียนแจง้ ใหน้ กั เรียนทราบความกา้ วหนา้ ทางการเรียน พร้อมท้งั เฉลยและอธิบายสรุปความรู้ 6. การวดั และประเมินผลประเมินจากแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ และประเมินผลการทำ� แบบฝึกหดั 7. เม่ือสิ้นสุดการปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ผูส้ อนให้ผูเ้ รียนร่วมตรวจสอบและ เกบ็ เอกสารประกอบการเรียนใหเ้ รียบร้อยเพ่อื สะดวกในการนำ� ไปใชค้ ร้ังต่อไป

จ ค�ำแนะน�ำส�ำหรับนกั เรียน เอกสารประกอบการเรียนฉบบั น้่ีประกอบดว้ ยคำ� แนะนำ� ส�ำหรับครู,คำ� แนะนำ� สำ� หรับนกั เรียน,โครงสร้างเอกสารประกอบการเรียน,คำ� ช้ีแจงในการศึกษา,แผนผงั ของ เอกสารประกอบการเรียน,แบบทดสอบก่อนเรียน,เน้ือหา, แบบฝึกหดั และแบบทดสอบ หลงั เรียนใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิตามคำ� แนะนำ� ดงั ต่อไปน้ี ค�ำแนะน�ำส�ำหรับหัวหน้ากล่มุ 1. เป็นผนู้ ำ� ในการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยนำ� เอกสารประกอบการเรียนใหส้ มาชิกทุก คนปฏิบตั ิตามคำ� แนะนำ� ใหเ้ ป็นไปตามข้นั ตอน 2. ควบคุมดูแลการทำ� งานของสมาชิกใหเ้ รียบร้อยไม่ส่งเสียงดงั รบกวนกลุ่มอ่ืน 3. ติดต่อประสานงานกบั ครูผสู้ อนเม่ือพบปัญหาภายในกลุ่ม 4. เป็นผเู้ ฉลยกิจกรรมและตรวจคำ� ตอบ ค�ำแนะน�ำส�ำหรับเลขานุการกล่มุ 1. เป็นผชู้ ่วยหวั หนา้ กลุ่มในการดำ� เนินกิจกรรม 2. เป็นผดู้ ำ� เนินการแทนหวั หนา้ กลุ่มหากหวั หนา้ กลุ่มมีภาระกิจอ่ืน ค�ำแนะน�ำส�ำหรับสมาชิก 1. อ่านคำ� ช้ีแจง คำ� แนะนำ� การใชเ้ อกสารประกอบการเรียน ข้นั ตอนการเรียนโดย ใชเ้ อกสารประกอบการเรียนใหเ้ ขา้ ใจก่อนลงมือศึกษาเอกสารประกอบการเรียน 2. ศึกษาขอ้ มลู พน้ื ฐานประกอบดว้ ยมาตรฐานการเรียนรู,้ ตวั ช้วี ดั จดุ ประสงคก์ ารเรียน รู้ สาระการเรียนรู้ และสาระสำ� คญั 3. ทำ� แบบทดสอบก่อนเรียนที่กำ� หนดไว้ จำ� นวน 10 ขอ้ เพอื่ ตรวจสอบความรู้พ้นื ฐาน 4. ศึกษาส่วนเน้ือหาไวต้ ามลำ� ดบั ที่กำ� หนดไวใ้ นเอกสารประกอบการเรียน 5. เม่ือศึกษาเอกสารประกอบการเรียนเสร็จเรียบร้อยแลว้ ใหท้ ำ� แบบฝึ กหดั แลว้ ตรวจสอบคำ� ตอบไดจ้ ากเฉลยทา้ ยภาคผนวก 6. ทำ� แบบทดสอบหลงั เรียนจำ� นวน 10 ขอ้ 7. ตรวจคำ� ตอบจากเฉลยแบบทดสอบหลงั เรียนในทา้ ยภาคผนวก พร้อมบนั ทึก ผลคะแนนลงแบบบนั ทึกคะแนนเพ่ือตรวจสอบความกา้ วหนา้ ทางการเรียน หากไม่ผา่ น เกณฑท์ ี่กำ� หนดใหท้ บทวนเน้ือหาแลว้ ใหท้ ำ� แบบทดสอบหลงั เรียนอีกคร้ังหากผา่ นเกณฑ์ การประเมินใหศ้ ึกษาเอกสารประกอบการเรียน เล่มท่ี 2 สณั ฐานและภูมิประเทศ 8. หากมีขอ้ สงสยั ใหข้ อคำ� อธิบายหรือถามครูผสู้ อนเพอ่ื ร่วมกนั สรุปขอ้ สงสยั น้นั ๆ

ฉ โครงสร้างของเอกสารประกอบการเรียน มขป ทปอัาจราตะจงงรสยสัภฐทิทูรมาารมตธินศงพิวาภั ภากตชาสสูมาร้พีว่ิรงิศฐตดั เซ าารร ท่ึส นงีย์ ใ่ี มตสกน น ี ผราร 5กร ์ใ้ลู .ส เน1า รต าีร ปยม่อ ร นคร กะ 4ะ ้รนท นั-ู ้ทเ6 ทหี่ 5/่ี สแ3 ศา ภ ลไวว 5 ูมทะิ เ.ิเ1 คคิศ กย รเ ารแนขั าส ลา า้ะใ ตใ ะะหน จ รทห ์กรล ์ ว์ะ ากั ปีรส บษ เ ตป รบณ ่าุ ปล ขงะ ี่ยๆแอข น อลง แธง ะ ปโร ใ ล รลช กมง ้ข ทข ช ้อ อาา ง มงต ก พ ูิ ล า ้ืน ยภใ ภทชู ม า ี่แ้ิ ซสพ ผ ่ึง า นแไ ร ดล ทส ะร้ ่ีแน ับค ล ว เอ ะท าิท เม ศค ธ ส อริพ มั่ือ ยล พ ่งา จ มนงั า ืมกอธ ี ์ จ ุดประสดเมงา้ ่ือคนน์กคกัาวรเารเมรียีรยนู้นปรฏู้ ิบตั ิกิจกรรมตามเอกสารประกอบการเรียนน้ีแลว้ นกั เรียนสามารถ ด ด าา้้---นน ใ อกทคชธรุณแก้ั ะิบผษลตานะกัือยภษโรืาคอณพรระงใ้นอนสในั รกนพ้าากงรึงาศปจรึกำ�ทรแษะำ� นสางกากงนาอครง์ เคปป์ลร่ียะนกแอปบลกงาทราเงคกลาื่อยนภทาพ่ีขไอดงเ้ ปลือกโลกได้ สมรรถน ะ1ผ. ้คูเรวียานมสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ทกั ษะการใชช้ ีวติ ค ุณ ล กั ษ ณ 132ะ...อ ม ในัคฝีววพ่ เนิ รางึีมยยั ปนใมรนรุ่งะูก้ มส านั่ งรใคทน์ ำ� กงาานรทำ� งาน ส าระกา ร เ1ร.ียสนณั รู้ฐานของโลก 32.. กองารคเป์ครละื่อกนอทบ่ีขขอองงเปเปลลือือกกโโลลกก โ ขกสล้ึานารกรเะปไเคส็ดน�ลเ้ำโปขค่ือล็อนญั นกง3ทแเปชขี่ต็น้นั็งลดทคอา่ีือมวดีสเแเค่วกวรลน่นาะาโปโหลรดก์ดะยวกเนองอท้ือาบี่ศโ3ขลัยใอกพนงแรลธละังาะบตงเปบาุ แนลสรือุจร่แิยกาลจกโกัะลภรหกาวินยโาใดลชนยนสสโิดา่วลมตนกา่ารขงปถอๆรจงาำ�เเปแกปนลฏลือกือใกโนกโคโลร3ลงกกสปลนรรัก้้าันะษงกจขณอะอบมะงี คือ การเคลื่อนท่ีเขา้ หากนั การเคล่ือนที่ออกจากกนั และการเคล่ือนที่ผา่ นกนั

ช ค�ำชีแ้ จงการใช้เอกสารประกอบการเรียน 1. เอกสารประกอบการเรียน เร่ือง “บา้ นของฉนั โลกของเรา” เลม่ ที่ 1 เร่ือง โลกและ การเปลย่ี นแปลงใชเ้ วลาเรียน 1 ชวั่ โมง มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ใชเ้ ป็นเอกสารประกอบการเรียนท่ี เสนอน้ ดใคหลน้ อ้ กังกเรบัียแนผไดนศ้จึดกั กษาารแเลรียะนทรำ� ใู้กนิจแกตรล่ ระมแทผา้ นยจเนดั ้ือกหาราเนรีย้นั นรซูแ้ ่ึงลมะีเยนงั้ือใชหเ้าปอ็นยส่าง่ือลปะรเะอกียอดบมกีหาวัรขจดอ้ั กระบวนการเรียนรู้ เอกสารประกอบการเรียนรูเ้ ลม่ น้ปี ระกอบดว้ ยเน้ือหาโครงสรา้ งของโลกมี เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง 2. ส่วนประกอบของเอกสารประกอบการเรียน ประกอบดว้ ย 2.1 ส่วนนำ� ของเอกสารประกอบการเรียน คำ� นำ� สารบญั คำ� แนะนำ� สำ� หรับ ครู คำ� แนะนำ� สำ� หรับนกั เรียนมาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สมรรถนะ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค ์ สาระการเรียนรู้ สาระสำ� คญั และแบบทดสอบก่อนเรียน 2.2 ขอ้ มูลพ้ืนฐาน ประกอบดว้ ยมาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั และจุด ประสงคก์ ารเรียนรู้ท้งั ดา้ นความรู้ ทกั ษะ และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 2.3 แบบทดสอบก่อนเรียน 2.4 ส่วนเน้ือหา 2.5 แบบฝึกหดั ประจำ� บท 2.6 แบบทดสอบหลงั เรียน 2.7 เกณฑก์ ารประเมิน 2.8 ภาคผนวก ประกอบดว้ ยเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน เฉลยแบบทดสอบ หลงั เรียนและเฉลยแบบฝึกหดั 2.9 บรรณานุกรม 3. ผใู้ ชเ้ อกสารประกอบการเรียนรู้น้ีควรศึกษาคำ� แนะนำ� ในการใชเ้ อกสารประกอบ การเรียนก่อนใชอ้ ยา่ งละเอียด



ฌ แบบทดสอบกอ่ นเรียน เร่ือง โลกและสณั ฐาน รายวชิ า สงั คมศกึ ษาฯ ส 32101 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 จำ� นวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน คำ� ช้ีแจง ให้นกั เรียนเลือกคำ� ตอบที่ถูกตอ้ งที่สุดเพียงคำ� ตอบเดียวโดยทำ� เคร่ืองหมาย กากบาท (x) ลงในกระดาษคำ� ตอบ 1. ปฏิสมั พนั ธ์ทางภูมิศาสตร์ของโลกประกอบดว้ ยส่วนใดบา้ ง 1. ดิน น้ำ� ลม ไฟ 2. ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ภูมิชีวติ ภูมิสงั คม 3. ธรณีภาค บรรยากาศภาค อุทกภาค ชีวภาค 4. โลก ดวงจนั ทร์ ดวงอาทิตย ์ ดาราจกั ร 2. ภูมิประเทศประเภทใดที่มกั เกิดจากการแยกตวั ของเปลือกโลก 1. เกาะวงโคง้ ภูเขาไฟ 2. สนั เขากลางมหาสมุทร 3. เทือกเขาที่เกิดจากการโก่งตวั 4. ร่องลึกกลางมหาสมุทร 3. จากตวั เลือกเรียงลำ� ดบั ธาตุประกอบเปลือกโลกไดถ้ ูกตอ้ ง 1. ออกซิเจน ซิลิคอน อลูมิเนียม เหลก็ 2. ซิลิคอน อลูมิเนียม ออกซิเจน เหลก็ 3. เหลก็ อลูมิเนียม ซิลิคอน แมกนีเซียม 4. แคลเซียม โซดียม ซิลิคอน ออกซิเจน 4. แร่ประเภทใด ไม่จดั เป็นแร่ปฐมภูมิ 1. ไมกา้ 2. ดินเหนียว 3. เฟลสปาร์ 4. ควอซ์ต 5. หินประเภทใดเกิดจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงโดยใชค้ วามร้อนและความดนั 1. หินแกรนิต 2. หินควอไซต์ 3. หินดินดาน 4. หินไดออไรต์

ญ 6. ขอ้ ใดไม่ถูกตอ้ งเก่ียวกบั โครงสร้างของโลก 1. แก่นโลกประกอบดว้ ยโลหะจำ� พวกเหลก็ และนิเกิล 2. เน้ือโลกมีสถานะเป็นหินหนืดหลอมละลายโดยเฉพาะส่วนบนที่มีสีเขม้ 3. เปลือกโลกช้นั ซิแอล ประกอบดว้ ยธาตจุ ำ� พวกเหลก็ และออกซิเจน มีความหนาแน่น นอ้ ยมีสีจาง 4. เปลือกโลกช้นั ซิมา ประกอบดว้ ยธาตุจำ� พวกซิลิกากบั แมกนิเซียม มีความหนาแน่น สูงมีสีเขม้ 7. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง 1.คลื่นตวั กลาง ประเภทปฐมภูมิมีลกั ษณะเป็นคล่ืนตามขวางมีลกั ษณะแบบอดั -ขยาย ผา่ นตวั กลางไดเ้ ฉพาะของแขง็ 2. คลื่นตวั กลาง ประเภททุติยภูมิมีลกั ษณะเป็นคล่ืนตามยาว ผา่ นตวั กลางในลกั ษณะ ต้งั ฉากเคลื่อนท่ีไดท้ ุกตวั กลาง 3. คลื่นเรยล์ ี เป็นคลื่นท่ีทำ� ใหอ้ นุภาคตวั กลางสน่ั เป็นรูปวงกลม ในทิศทางการเคลื่อนท่ี ของคล่ืน เป็นเหตุใหพ้ ้ืนผวิ โลกมีการสน่ั ข้ึน-ลง 4. คลื่นเลิฟ เป็นคลื่นท่ีทำ� ใหอ้ นุภาคตวั กลางสนั่ ในแนวราบ โดยมีทิศทางต้งั ฉากกบั ทิศทางการเคลื่อนท่ีของคล่ืนท่ีสร้างความเสียหายกบั ปลูกสร้างต่างๆได้ 8. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง 1. การเคลื่อนที่แบบแยกออกจากกนั : เทือกเขาของทวปี อเมริกา 2. การเคล่ือนท่ีชนกนั ของแผน่ มหาสมุทรท้งั 2 : สนั เขากกลางสมุทร 3. การเคลื่อนท่ีชนกนั ของแผน่ ทวปี ท้งั 2 : ภูเขาโก่งตวั 4. การเคล่ือนท่ีผา่ นกนั : ร่องลึกมาเรียนา 9. ขอ้ ใดจบั คู่ไม่ถูกตอ้ ง 1. กินอคั นีแทรกซอน : แกรนิต 2. หินตะกอนกายภาพ : หินปูน 3. หินอคั นีภูเขาไฟ : หินบะซอลต ์ 4. หินแปรริ้วลาย : หินควอไซต์ 10. สินแร่ประเภทใดที่มีความสำ� คญั ต่อุตสาหกรรมการผลิตสินคา้ เกษตรมากที่สุด 1. พรวง 2. ดีบุก 3. ฟอสฟอรัส 4. ตะกว่ั

ฎ กระดาษค�ำตอบทดสอบก่อนเรียน เล่มท่ี 1 เร่ือง โลกและสัณฐาน ชื่อ-สกลุ .............................................................................ช้นั ................เลขท่ี................. คำ� ช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเลือกคำ� ตอบที่ถูกตอ้ งที่สุดเพียงคำ� ตอบเดียว โดยทำ� เครื่องหมาย กากบาท X ลงในช่องวา่ งตวั เลือกคำ� ตอบที่ถูกตอ้ ง ขอ้ ท่ี 1 2 3 4 คะแนนเตม็ ........................... 1 คะแนนทไ่ี ด ้ ........................... ผลการประเมนิ 2 ........... ดมี าก 3 ........... ดี 4 ........... พอใช้ 5 ........... ควรปรบั ปรุง ลงชื่อ.................................ผปู้ ระเมนิ 6 (.............................................................) 7 8 9 10 สรุปคะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนนระหวา่ ง 8- 10 ระดบั เกณฑด์ มี าก คะแนนระหวา่ ง 6-7 ระดบั เกณฑด์ ี คะแนนระหวา่ ง 4-5 ระดบั เกณฑพ์ อใช้ คะแนนระหวา่ ง 0-3 ระดบั เกณฑค์ วรปรบั ปรุง



เล่มที่ 1 เรื่อง โลกและสัณฐาน มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 5 ภูมิศาสตร์ มาตรฐานการเรียนรู้ที่ ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธ์ ของสรรพส่ิงซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ในระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่ีและเครื่องมือ ทางภูมิศาสตร์ในการค้นหาวิเคราะห์ สรุ ปและใช้ข้อมูลภูมิสารสนเทศอย่างมี ประสิทธิภาพ ตวั ช้ีวดั ที่ ส 5.1 ม 4-6/3 วเิ คราะห์การเปลี่ยนแปลงของพ้นื ที่ ซ่ึงไดร้ ับอิทธิพลจาก ปจุดัจปจยัรทะสางงภคูม์กิศาราสเรตียรน์ใรนู้ ประเทศไทยและทวปี ต่างๆ เม่ือนกั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรมตามเอกสารประกอบการเรียนน้ีแลว้ นกั เรียนสามารถ ดา้ นความรู้ - อธิบายโครงสร้าง จำ� แนกองคป์ ระกอบการเคล่ือนที่ของเปลือกโลกได้ ดา้ นทกั ษะ - ใชแ้ ผนภาพในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพได้

1 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - กระตือรือร้นในการทำ� งาน สมรรถนะผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ทกั ษะการใชช้ ีวติ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั ในการทำ� งาน 2. ใฝ่ เรียนรู้ สาระการเร3ีย. นครวู้ ามมุ่งมนั่ ในการทำ� งาน 1. สณั ฐานของโลก 2. องคป์ ระกอบของเปลือกโลก 3. การเคล่ือนท่ีของเปลือกโลก สาระส�ำคญั โลก เป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 3 ในระบบสุริยจกั รวาล สามารถจำ� แนกโครงสร้างของ โลกไดเ้ ป็น 3 ช้นั คือ แก่นโลก เน้ือโลกและเปลือกโลก โดยส่วนของเปลือกโลกประกอบ ข้ึนเป็ นของแข็งที่มีส่วนประกอบของธาตุ แร่และหินชนิดต่างๆ เปลือกโลกน้ันจะมี การเคลื่อนท่ีตลอดเวลาโดยอาศัยพลังงานจากภายในโลกปรากฏใน 3 ลักษณะ คือ การเคลื่อนที่เขา้ หากนั การเคลื่อนที่ออกจากกนั และการเคล่ือนท่ีผา่ นกนั

2 บทนำ� มโนทศั น์ในการศึกษาภูมิศาสตร์จึงให้ความสำ� คญั กบั การศึกษาพ้ืนที่และความ สมั พนั ธต์ า่ งๆ ที่เกิดจากพ้นื ท่ีดงั กลา่ วซ่ึงอาจเกิดข้นึ ตามธรรมชาติหรือเป็นสิ่งที่มนุษยส์ ร้าง ข้ึนมา ซ่ึงความสมั พนั ธด์ งั กลา่ วส่งผลใหเ้ กิดการตดั สินใจใน การดำ� เนินกิจกรรมตา่ งๆ ของ มนุษยบ์ นพ้ืนโลก การศึกษาภูมิศาสตร์สามารถจำ� แนกไดเ้ ป็ น 4 ส่วนตามการจำ� แนกของ Strahler and Strahler อา้ งในภูมิศาสตร์กายภาพของ รศ.พวงเพชร์ ธนสิน ไดใ้ หค้ ำ� นิยาม การศึกษา ภูมิศาสตร์ท้งั 4 ภาคไวด้ งั น้ี คือ ธรณีภาค เป็นส่วนที่เป็นของแขง็ ของโลก เป็นพ้นื ท่ีทำ� หนา้ ที่รองรับส่ิงมีชีวติ บน โลก หินจะเป็นตน้ กำ� เนิดดิน และแหล่งธาตุอาหารซ่ึงจำ� เป็นต่อสิ่งมีชีวติ ธรณีภาคจะถูก ธรรมชาติสร้างสรรคใ์ หเ้ กิดลกั ษณะภูมิประเทศแบบต่างๆ เช่น ภูเขา เนินเขา ท่ีราบ ซ่ึง กลายเป็นท่ีอยอู่ าศยั ของส่ิงมีชีวติ เป็นตน้ บรรยากาศภาค เป็นส่วนของก๊าซท่ีห่อหุม้ โลก ซ่ึงไดร้ ับความร้อน ความช้ืนจาก พ้ืนผวิ โลกจะกระจาย และส่งกลบั ความร้อนบางส่วน และความช้ืนมายงั พ้ืนผวิ โลก ช้นั บรรยากาศ ยงั ใหธ้ าตุท่ีสำ� คญั คือคาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจนและไนโตรเจน ซ่ึงมีความ สำ� คญั ต่อส่ิงมีชีวติ บนโลก อุทกภาค เป็ นส่วนของน้ำ� ทุกรูปแบบท่ีพบบนโลก ปริมาณน้ำ� ส่วนใหญ่ที่พบ บนโลกพบอยใู่ นรูปมหาสมุทร ในบรรยากาศยงั พบเป็ นไอน้ำ� หยดน้ำ� และผลึกน้ำ� แขง็ ในธรณีภาคมีการพบน้ำ� ในบริเวณช้นั บนของแผน่ ดินในรูปของ น้ำ� ใตด้ ิน ทะเลสาบ และ แม่น้ำ� ลำ� ธาร น้ำ� มีความสำ� คญั ต่อส่ิงมีชีวติ บนโลก ชีวภาค เป็นสิ่งมีชีวติ ทกุ ชนิดท่ีพบบนโลก สิ่งมีชีวติ ไดใ้ ชก้ า๊ ซในบรรยากาศ น้ำ� จาก อทุ กภาคและธาตอุ าหารจากธรณีภาค จะเห็นไดว้ า่ ชีวภาคจะตอ้ งพ่งึ พาอาศยั อีกท้งั สามภาค ภูมิศาสตร์ท้งั 4 ภาคมีความสัมพนั ธ์และเกี่ยวขอ้ งกนั ซ่ึงนกั เรียนจะไดศ้ ึกษาราย ละเอียดจากเอกสารประกอบการเรียนท้งั 6 เล่มตามลำ� ดบั สำ� หรับเอกสารประกอบการเรียนฉบบั น้ีจะนำ� เสนอเกี่ยวกบั โลกและโครงสร้าง ของโลกซ่ึงเป็นพ้ืนฐานของการศึกษาท้งั 4 ภาคต่อไป (พวงเพชร์ ธนสิน,2554, น. 5)

3 ภาพประกอบท่ี 1 : แผนที่แนวรอยเล่ือน (Globetrot.,n.d.)

4 โลก เป็ นดาวเคราะห์ดวงเดียวในระบบสุริยะจกั รวาล ที่มีสภาวะแวดลอ้ มเอ้ือ อำ� นวยต่อการดำ� รงชีวติ ของสิ่งมีชีวติ โลกอยหู่ ่างจากดวงอาทิตยเ์ ป็นลำ� ดบั ที่ 3 และมีขนาด ใหญเ่ ป็นอนั ดบั ท่ี 5 โดยการศึกษาลกั ษณะโครงสร้างของโลกในปัจจุบนั สามารถศึกษาผา่ น คล่ืนสน่ั สะเทือนท่ีเกิดข้ึนภายในโลก มี 2 แบบคือ คลื่นตวั กลางและคลื่นพ้ืนผวิ ดงั น้ี คล่ืนตัวกลาง เป็ นคลื่นที่เคลื่อนท่ีแผ่กระจายทุกทิศทางและเดินทางอย่ภู ายใน ตวั กลาง ซ่ึงกค็ ือ ดินหรือหินที่อยบู่ ริเวณเปลือกโลกและเน้ือโลก แบ่งออกไดเ้ ป็น 2 ชนิด ตามลกั ษณะการเคล่ือนท่ีของตวั กลางซ่ึงประกอบดว้ ย - คล่ืนปฐมภูมิ หรือ P-Wave เป็ นคล่ืนตามยาวหรือคลื่นแบบอดั (Compres- sion) ในขณะท่ีคล่ืนเดินทางผา่ นตวั กลาง จะทำ� ใหต้ วั กลางเกิดการบีบอดั และขยายตวั ตาม ทิศทางที่คลื่นเดินทางทำ� ใหค้ ล่ืนประเภทน้ีสามารถผา่ นตวั กลางไดท้ ุกประเภทท้งั ของแขง็ ของเหลวและแก๊ส ภาพคล่ืนปฐมภูมแิ ละทุตยิ ภูมิ ภาพประกอบที่ 2 ภาพคล่ืนปฐมภูมิและทุติยภูมิ (ศูนยก์ ารเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์,2554) - คลื่นทุติยภูมิ หรือ S-Wave เป็นคลื่นชนิดท่ี 2 ที่เดินทางถึงสถานีตรวจวดั เป็น คลื่นตามขวางหรือคลื่นแบบเฉือน ในขณะท่ีคล่ืนเดินทางผา่ นตวั กลาง จะทำ� ใหต้ วั กลาง เกิดการสน่ั ในทิศทางต้งั ฉากกบั ทิศทางการเคล่ือนท่ีของคลื่น จึงเกิดข้ึนไดเ้ ฉพาะตวั กลาง ที่เป็นของแขง็ เท่าน้นั

5 คล่ืนพืน้ ผวิ เป็นคล่ืนที่เคลื่อนท่ีบนผวิ โลกหรือใตผ้ วิ โลก ประกอบดว้ ย คล่ืนเลิฟ เป็นคลื่นท่ีทำ� ใหอ้ นุภาคตวั กลางสนั่ ในแนวราบ โดยมีทิศทางต้งั ฉาก กบั ทิศทางการเคลื่อนที่ของคล่ืนส่งผลใหส้ ร้างความเสียหายกบั ส่ิงปลูกสร้างต่างๆได้ ภาพคล่ืนเลฟิ ภาพประกอบท่ี 3 : ภาพคล่ืนเลิฟ (ศูนยก์ ารเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์,2554) ภาพคล่ืนเรย์ลี คล่ืนเรยล์ ี เป็นคล่ืนที่ทำ� ใหอ้ นุภาคตวั กลางสนั่ เป็นรูปวงรี ในทิศทางการเคล่ือนท่ี ของคลื่นเป็นเหตุใหพ้ ้ืนผวิ โลกมีการสน่ั ข้ึน-ลง ภาพประกอบท่ี 4 : ภาพคล่ืนเรยล์ ี (ศูนยก์ ารเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์,2554)

6 ภาพประกอบที่ 5 : การศึกษาโครงสร้างของโลกโดยใชค้ ล่ืน (ศูนยก์ ารเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์,2554) ภาพประกอบท่ี 6 : โครงสร้างของโลก (ภูมิพฒั น์ บุญมาปลูก,2559)

7 1. สัณฐานของโลก แโ สผลลวิ่วกภะนใแามนยลสี นนะโ่วอ้ำลพ�นกแก้นืปล(เรผบปะะวิ็ใรนกโนรขอดยอบอยาาจกงทกาแาาากศศงขก)เส็งคปา่วมร(รนเีศหปะปึกิน็กนษรอ)ธะาบาทโกตดคอี่มตุว้รบีนา่ยงงข้สำ�สๆอปิ่งรงโมก้าโลงีชคลขกีวลกยอติ ุมแงัง(คอบโชงลย่งีวมกู่อภ(กี โออาาดกคุทรยเ)เปกปใอ็ชนภลยค้ายี่กอู่ คลนาาย่ืน)ศแภยปพัแาบลบลพรงะวิเตแามว่ ลจลณีออะะาพทดชก้ืนเำีว�วาใผภศลหวิาาหน้พทท่อกั้้งงัั ทหภบเร้งุั้มานียสยพนบใอ้ืนนมกงี ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ส่วนประกอบท่ีเชื่อมโยงกนั ใหโ้ ลกมีลกั ษณะทรงกลมแป้น (Ellipsoid ลofงrเลevก็ oนluอ้ tยionเ)สมน้ ีลผกั า่ ษนณศูนะเยปก์็นลราูปงขทอรงงโกลลกมตทาี่ปม่ อแงนบวรเสิเวน้ ณศแูนนยวส์ เสูตน้รยศาูนวย1ส์ 2ูต,7ร5ท7่ีขก้วั ิโโลลเกมทต้รงั 2 ยบุ หาก วปดัรเะสกน้ อผบา่ ดนว้ ศยนู ยก์ ลางระหวา่ งข้วั โลกเหนือและใตย้ าว 12,714 กิโลเมตรโครงสร้างของโลก เห ล็กแล1ะ.1นิแกกเก่นิลโมลีรกัศม(Cีปoรrะe)มเาปณ็นส3,่ว5น00ที่มกีนิโ้ลำ� หเมนตกั รแลมะีอคุณวาหมภแูมนิส่นูงมปารกะทมี่สาุดณป6ร,ะ00ก0อบอดงวศ้ ยา เซลเซียส สามารถแบ่ง แกนโลกตามลกั ษณะโครงสร้างออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.1.1 กแิโกล่นเมโลตกรชม้นัีอใณุ นหอภยมู รู่ ิสะูงดปบั รคะวมาามณล6ึก,น00บั 0จอางกศกา่ึงเซกลลาเซงโียลสกมอีสอภกามพาเทป็่ีคนวขาอมงหแนขง็า ประมาณ 1,216 ประกอบดว้ ยเหลก็ กบั นิกเกิลเป็นส่วนใหญ่ เรียกวา่ หินไนฟ์ (nife) ส 2,ถ2า7น0ะกเปิโ็ลน1เข.ม1อต.2งรเหแมกลีค่นววเโราลียมกกหชวน้นา่ั านหแอินนก่นหสนอูืยงดถู่ ป(ดั Mรจะaากgกmอแบกa)่นดแโว้ ลลยโะกลนชห้อนั กะใคนจาลอกา้อนยก้กียมงบัั าปแมรกีคะนวกาโอมลบหกดนชว้ ้นัายปใซรนลั ะเมแฟตาอณ่มร์ี แdiลsะcoซnิลtiิคnอuนityอีกหดรืว้อยBโดulยleแnก่dนiโscลoกnทti้งัnu2iชty้นั แบ่งตามแนวรอยไม่ต่อเนื่องที่เรียกวา่ Lehmann

8 1.2 เน้ือโลก (mantle) เน้ือโลกเป็นส่วนท่ีถดั ข้นั มาจากบริเวณแก่นโลกมีความลึก ประมาณ 2,900 กิโลเมตรแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญๆ่ คือเน้ือโลกส่วนล่างและเน้ือโลกส่วน บน 1.2.1 เน้ือโลกส่วนล่างอยบู่ ริเวณแนวรอยต่อไม่ต่อเนื่องมีสถานะเป็นของแขง็ ส่วนประกอบสม่ำ� เสมอมีธาตุประกอบหลกั เช่น ซิลิกอน,ออกซิเจน,แมกนีเซียมและ นอกจากน้ียงั ประกอบดว้ ยเหลก็ ,แคลเซียม,และอลูมิเนียมอีกดว้ ย 1.2.2 เน้ือโลกส่วนบนเป็นบริเวณท่ีติดกบั เปลือกโลกส่วนบนสุดของเน้ือโลก ส่วนบนเป็นหินแขง็ เป็นส่วนของธรณีภาค (Lithosphere) และถดั ลงมาเป็นส่วนรองรับ หินแขง็ มีสถานะคลา้ ยพลาสติกเรียกวา่ ฐานธรณีภาค (Asthenosphere) มีความแปรปรวน ไม่สม่ำ� เสมอ โดยธาตุประกอบหลกั คลา้ ยกบั เน้ือโลกส่วนล่างท่ีมีลกั ษณะเป็นหินอคั นีสี เขม้ ถึงเขม้ จดั (Mafic to Ultramafic) 1.3 เปลือกโลก (Crust) คือ ส่วนที่เป็นเปลือกแขง็ ถดั จากเน้ือโลกมีแนวรอยต่อท่ี แบ่งระหว่างเน้ือโลกกับเปลือกโลกเรียกว่า แนวรอยต่อไม่ต่อเนื่อง Mohorovisic โดยเปลือกโลกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ 1.3.1 ช้นั หินซิแอล (sial) ประกอบดว้ ยธาตุซิลิกา (silica) และอลูมินา (alumina) เป็นหินที่มีความหนาแน่นนอ้ ย มีลกั ษณะเป็นสีจางออกเทา เช่นหินแกรนิต โดยโครงสร้าง ช้ันซิแอลมีความหนาประมาณ 35 – 50 กิโลเมตร เป็ นบริเวณท่ีเรียกว่าแผ่นทวีป (Continental Crust) 1.3.2 ช้นั หินซิมา (sima) ประกอบดว้ ยซิลิกา (silica) และแมกนีเซียม (magnesium) มีความหนาแน่นมาก มีลกั ษณะเป็นหินสีเขม้ จำ� พวกหินบะซอลต์ โดยโครงสร้างช้นั ซิมา มีความหนาประมาณ 5 – 10 กิโลเมตร เป็ นบริเวณท่ีเรียกว่าแผ่นมหาสมุทร (Oceanic crust) (ปัญญา จารุศิริและคณะ,2558, น.3-5)

9 ภาพประกอบที่ 7 : โครงสร้างของเปลือกโลก (ศูนยก์ ารเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์,2554)

10 2 . องค์ประกอบของเปลือกโลก มีพ้ืนท่ีร้อยละ 29 ของผวิ เปลือกโลก ประกอบดว้ ยส่วนท่ีเป็นเปลือกแขง็ ของโลก โ ลกท้งั ห2.ม1ดธปาตระุ เกปอ็นบสด่วว้ นยป3รอะงกคอป์บรขะอกงอเปบลสือสกำ� โคลญั กคไือม่วา่ จะเป็นของแขง็ ของเหลว หรือ ก๊าซ จะปธารตะุตก่าองบๆดว้ทย่ีปธราะตกุ ตอ้งับแเตป็่หนนเป่ึงลธือาตกุจโนลกถมึงหีมลากายกวๆา่ ธ9า8ตธุกาไ็ ตดุ แ้ ต่ที่มีมากที่สุดมีเพียง 20 ธาตุ จำ� แนกไดด้ งั น้ี 2.1.1 ออกซิเจน 46.71% 2.1.2 ซิลิคอน 27.69% 2.1.3 อลูมิเนียม 8.07% 2.1.4 ไอร์ออนหรือเหลก็ 5.50% 2.1.5 แคลเซียม 3.65% 2.1.6 โซเดียม 2.75% 2.1.7 โปแตสเซียม 2.58% 2.1.8 แมกนีเซียม 2.08% 2.1.9 ไตตาเนียน 0.62% 2.1.10 ไฮโดรเจน 0.14% 2.1.11 ฟอสฟอรัส 0.13% 2.1.12 คาร์บอน 0.094% 2.1.13 แมงกานิส 0.09% 2.1.14 ซลั เฟอร์ 0.08% 2.1.15 แบเรียม 0.05% 2.1.16 คลอรีน 0.045% 2.1.17 โครเมียม 0.035% 2.1.18 ฟลูออรีน 0.029% 2.1.19 เชอร์คอน 0.025% 2.1.20 นิเกิล 0.019% 2.1.21 ธาตุอื่น ๆ 0.063% รวม 100 % มีธาตจุทาี่สกำ�ขคอ้ ญั มจูลำ�แนสวดนงป8รธิมาาตณุ คธือาตอุทอก่ีปซระิเจกนอบซิเลปิค็นอเนปลอือลกูมโิเนลกียมในเหจลำ� ก็นวแนคลธาเซตียุทม้งั 20 ธาตุ น้ี โซเดียม โปแตสเซียมและแมกนีเซียม 2.2 แร่ (minerals) เป็นสารประกอบอนินทรียว์ ตั ถุหรือวตั ถุธรรมชาติท่ีมีส่วนผสม ทางเคมีตายตวั และมีสูตรทางเคมีชดั เจน มีลกั ษณะเป็นผนึกสี ความแขง็ ประกาย และรอย แตกคงท่ีเช่น หินแกรนิตซ่ึงประกอบดว้ ยแร่ไมคา ควอตซ์ และเฟลสปาร์ โดยแร่สามารถ จำ� แนกตามลกั ษณะการเกิดได้ 2 ชนิดคือ 2.2.1แร่ปฐมภมู ิไดแ้ ก่แร่ทเ่ี กิดจากการเยน็ ตวั ของหินหนืด(Magma)ใตเ้ ปลอื กโลก อยา่ งชา้ ๆ โดย แร่ปฐมภูมิประกอบดว้ ย ควอตซ์ เฟลดส์ ปาร์ ไมกา แคลไซดแ์ ละฮีมาไทด์ 2.2.2แร่ทตุ ยิ ภมู ิไดแ้ ก่แร่ทเี่ กดิ จากการผพุ งั ของแร่ปฐมภมู เิ ชน่ ไมกาเมอ่ื ผพุ งั จะกลาย เป็นดินเหนียว เป็นตน้ (กวี วรกวนิ และคณะ,2554, น.42-44)

11 ภาพประกอบท่ี 8 : แผนท่ีแร่บนโลก (ปัญญา จารุศิริและคณะ.,2558).

12 แหล่งแร่ที่สำ� คญั ของโลกท่ีใชใ้ นอุตสาหกรรมและทางเศรษฐกิจประกอบดว้ ย 1)อลมู เี นียมนำ� มาใชป้ ระโยชนม์ ากท้งั ในภาคอตุ สาหกรรมและภาคครวั เรือน สำ� หรับภาคอุตสาหกรรมใชใ้ นการผลิตอลูมิเนียมผสม และผลิตภณั ฑอ์ ลูมิเนียม เป็นตน้ 2) พลวง สินแร่พลวงถลุงไดโ้ ลหะพลวง ใชใ้ นการทำ� โลหะผสม โดยผสม บกบัดั โกลรีหบะางตชะนกวิด่ั ทใำ�ชแเ้ผปน่็นกสร่วิดนแปบรตะเกตออรบ่ี ผขสอมงกตระะกสว่ั ุนแลปะื นดีบเปกุ ็นใตนน้การทำ� ตะกว่ั ตวั พมิ พแ์ ละโลหะ ส อุตายสโาทหรกศรพัร ทมส์ อมุป3ยั)กใรหทณมอ์ว่งโทิ แดยดยแุ เงฉลพโะลาโะหทอระยทพา่ งศั้ืนยนฐงิ่ )์เากอน่ียุปวชกกนรบั ิดณอหุป์ตนูเก้ ย่ึงรน็ ทณแี่ม์ไลฟีคะฟวเคา้ารมแื่อลสงะ�ำปอคริเญัลับก็ แอทลารกะอาในศชิกอ้มสุปา์กกสทรายณี่สไ์ุเดฟกใฟ่ียนว้า กบั รถยนต์ หมอ้ 4น)้ำ� ทรถอยงนคำ�ตท์ ออางวคธุ ำย� เทุป็ธนภโณัลหฑะ์ เทห่ีมรียีคญา่ สกูงษใาชปท้ณำ� ์แเคลระื่อเหงปรียรญะดตบัราเตป่า็นงหๆลเกัปป็นรตะน้ กนั แสในลำ� คกะญโัารลใซหน้ือะอ ขสตุ างัสยกาแะห5ลส)กกีใตรเชประใ้มลกน่ียแ้วั อนบแุตลเตงสะเินตาสตหองั รรกกี่ารอะตรตุส่ามสีงรตปาะ่าหรโงะกยๆเรชทรภนศมา์ โยใสชลใินนหห้ แปุมะ้ รบร่เตคะดัะรเกกท่ือรว่ัศงีแเซดคล่ึงงลั ะเนปือส้็ีบนงัโแกโลลละหหสะะเีถะคตผลระส่ืุงอกไมงว่ั ดแรโเ้กะปลหว้็นหวเวปะา่ ตั็งตนถดะตีุดบกน้ ิบุกว่ั กบั ตะกว่ั ใ นอตั ร6า)สน่วิเกนิลต่าสง่วๆนใกหนั ญเป่จ็ะนนตำ�น้ แร่นิกเกิลมาใชใ้ นอุตสาหกรรมการผลิตเหลก็ และ เหลก็ กลา้ กนั สนิม โดยใชเ้ ป็นธาตุเจือที่ใหค้ วามตา้ นแรงและทนการกดั กร่อน เป็นตน้ 7) ยเู รเนียม ปัจจุบนั นำ� มาใชใ้ นอุตสาหกรรมพลงั งานนิวเคลียร์ เป็นตน้ 8) แพลตินมั หรือทองคำ� ขาวเป็นโลหะที่ทนความร้อนสูง ทนต่อปฏิกิริยา ทางเคมี และมีความแขง็ แรงทนทาน จึงใชท้ ำ� เป็นเคร่ืองมือในหอ้ งปฏิบตั ิการเคมี (เป็น เบา้ หลอม) เคร่ืองมือหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า ทำ� เคร่ืองประดบั เครื่องมือผา่ ตดั และทนั ตกรรม น ภาอชกนจะากตน่า ง้ียๆงั ใโชล9ท้ห)ำ�เะงเคผินรส่ืปอมงรเปะคโรรยะ่ือชดงนบปั ์รใเปะช็ดนท้ บัตำ� นน้เห้ำ� ยรีายลญา้ เงงแินลตะรอาดั ใรชูปใ้ ในนงอานุตสบาดั หกกรีรเปร็มนถส่า่วยนภปาพระใกชอท้ บำ� ในอุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์เน่ืองจากเงินเป็นตวั นำ� ไฟฟ้าที่ดีมาก เป็นตน้ 10) แทนทาเนียม นำ� มาใชท้ ำ� อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ในเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ เเคพรื่อ่ือใงชมท้ ือำ� สบื่อางสสา่รวนเคขรอ่ืองงลสำ� ่งตสวั ญัเคญรื่อาณงบกินนั ภทยั ำ� หเควั รข่ือองงตจ้งั รเววลดาขทีปำ� นโาลวหธุ ะผอสุปมกทรณ่ีทน์ในคเวตาามปรฏ้อิกนรสณูง์ ปรมาณู เป็นตน้ 11) ดีบุก ใช้เคลือบโลหะ ท�ำภาชนะบรรจุอาหาร หรื อท�ำโลหะ ผสม เช่นดีบุก ผสม ทองแดง เป็ น ทองสัมฤทธ์ิ/ทองบรอนซ์ ใช้ในอุตสาหกรรม อื่น ๆ เช่น อุตสาหกรรมเครื่องป้ันดินเผา เคร่ืองเคลือบ พลาสติก สีทาบา้ น เป็นตน้ (คณะอาจารยภ์ าควชิ าธรณีวทิ ยา,2556).

13 ภาพประกอบท่ี 9 : กระบวนการเกิดหิน (ภูมิพฒั น์ บุญมาปลูก,2559)

14 2.3 หิน (rocks) เป็นวตั ถธุ รรมชาติที่ประกอบเป็นเปลือกโลก ไมม่ ีส่วนผสมทางเคมี ท่ีตายตวั ประกอบดว้ ยแร่ธาตุต่าง ๆ ต้งั แต่ 2 ชนิดข้ึนไปผนึกอยดู่ ว้ ยกนั จำ� แนกเป็นหิน 3 ชนิด คือ หินอคั นี หินช้นั และหินแปร โดยจำ� แนกตามกระบวนการเกิดของหินแต่ละชนิด ดงั ภาพต่อไปน้ี 2.3.1 หินอคั นี (Igneous Rocks) เป็นหินท่ีเกิดจากการเยน็ ตวั และแขง็ ตวั ของ หินหนืด (magma) แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ 1) หินอคั นีแทรกซอน (Intrusive Igneous Rocks) เป็นหินที่เกิดจากเยน็ ตวั และแขง็ ตวั ของหินหนืดหรือแทรกเขา้ ไปในหินชนิดอื่นภายใตเ้ ปลือกโลก เช่น หินแกรนิต เป็ นตน้ ตวั อยา่ ง หินอคั นีแทรกซอน หินแกรนติ หินไดออไรต์ หินแกบโบร ภาพประกอบที่ 10 : ตวั อยา่ ง หินอคั นีแทรกซอน (Geoscience and information,n.d.) 2) หินอคั นีพุ(extrusive igneous rocks) คอื เป็นหินอคั นีที่เกิดจากการเยน็ ตวั ของหินหนืดท่ีประทุออกมาภายนอกเปลือกโลก เช่น หินไรออไลต์ หินบะซอลต์ เป็นตน้ ตวั อยา่ ง หินอคั นพี ุ หินไรโอไลต์ หินแอนดไี ซต์ หินบะซอลต์ ภาพประกอบท่ี 11 : ตวั อยา่ ง หินอคั นีพุ (Geoscience and information,n.d.)

15 2.3.2 หินช้นั หรือหินตะกอน (Sedimentary Rocks) คือ เป็นหินท่ีเกิดจากการผพุ งั และทบั ถมของวตั ถตุ น้ กำ� เนิดหินประเภทตา่ ง ๆ ทำ� ใหเ้ กิดเป็นหินชนิดใหม่ สามารถจำ� แนก ได้ 2 ประเภทคือ 1) หินตะกอนที่เกิดจากกระบวนการทางเคมี (Chemical Group) เป็นหินท่ีเกิด จากการทบั ถมของสารละลายในน้ำ� เช่น เกลือ แคลเซียมคาร์บอเนต หรือเกิดจาก อินทรียวตั ถุ เช่น ซากพชื และกลายสภาพเป็นหิน เช่นถ่านหินซ่ึงพบมากในจงั หวดั ลำ� ปาง หินปูนทำ� ใหเ้ กิดภูมิประเทศแบบคาสต(์ Karst) และหินเกลือ เป็นตน้ ตวั อยา่ ง หินตะกอนเคมี หินปนู หินเกลอื ถา่ นหิน ภาพประกอบท่ี 12 : ตวั อยา่ ง หินตะกอนเคมี (Geoscience and information,n.d.) 2) หินตะกอนท่ีเกิดจากกระบวนการทางกลศาสตร์ (Mechanical Group) หรือหินตะกอนเน้ือประสม เกิดจากการทบั ถมของวตั ถุตน้ กำ� เนิดเช่น กรวด ทราย และ กลายสภาพเป็นหิน เช่น หินกรวดมน หินดินดาน หินทราย เป็นตน้ ตวั อยา่ ง หินตะกอนกลศาสตร์ หินดนิ ดาน หินทราย หินกรวดมน ภาพประกอบท่ี 13 : ตวั อยา่ ง หินตะกอนกลศาสตร์ (Geoscience and information,n.d.)

16 2.3.3 หินแปร (Metamorphic rocks) เป็นหินที่มีการแปรสภาพจากหินเดิม ซ่ึงอาจ เป็น หินอคั นีหินตะกอน หรือหินแปร โดยการกระทำ� ของความร้อน ความดนั และปฏิกิริยา เคมี ทำ� ใหค้ ุณสมบตั ิเปลี่ยนแปลงไป มี 2 ประเภท คือ 1) หินแปรมีริ้วลาย เป็นหินที่ปรากฏการเรียงตวั ของแร่เป็นแนวหน่ึงแนว ใด เช่น หินชนวน (slate) แปรมาจากหินดินดาน หรือหินไนส์ (gneiss) แปรสภาพมาจาก หินแกรนิต มกั จะมีการจดั เรียงตวั ของแร่สีอ่อนและสีเขม้ สลบั กนั เป็นตน้ ตวั อยา่ ง หินแปรริ้วลาย หินไนส์ หินชิสต์ หินชนวน ภาพประกอบที่ 14 : หวั อยา่ ง หินแปรริ้วลาย (Geoscience and information,n.d.) 2) หินแปรไร้ริ้วลาย เป็นหินท่ีไม่ปรากฏการเรียงตวั ของแร่ มีลกั ษณะเป็น เน้ือเดียวกนั เช่น หินอ่อน (marble) ซ่ึงแปรสภาพมาจากหินปูน หรือหินควอร์ตไซต์ ซ่ึง แปรสภาพจากหินทราย ตวั อยา่ ง หินแปรไรร้ ิ้วลาย หินออ่ น หินควอร์ตไซต์ ฮอร์นเฟล ภาพประกอบท่ี 15 : ตวั อยา่ ง หินแปรไร้ริ้วลาย (Geoscience and information,n.d.)

17 3. กระบวนการแปรสัณฐานกบั การเคล่ือนทขี่ องเปลือกโลก กระบวนการแปรสัณฐาน เป็นกระบวนการเคลื่อนที่ของแผน่ เปลือกโลกท่ีมีความ ต่อเน่ืองกนั เสนอโดยอลั เฟรด เวเกเนอร์ ในช่วงศตวรรษที่ 19 ทฤษฎีดงั กล่าวไดอ้ ธิบายวา่ ในปัจจุบนั แผ่นธรณีประกอบดว้ ยแผ่นธรณีประกอบ 14 แผ่น ดงั น้ี North American plate,South American plate, Scotia plate,Caribbean plate, African plate, Arabian plate,Eurasian plate, Indo-Australian plate, Pacific plate, Philippine plate, Nazca plate, Cocos plate, Juan de Fuca Plate, Antarctic plate ซ่ึงท้งั 14 แผน่ อาจประกอบดว้ ยแผน่ ทวปี และแผน่ มหาสมุทรดว้ ยกไ็ ด้ มีการเคล่ือนท่ีใน 3 ลกั ษณะคือ แผ่นธรณที างเทกโทนิก (Tectonic plates) ภาพประกอบท่ี 16 : แผน่ ธรณีภาค (Geoscience and information,n.d.)

18 การเคล่ือนที่ของเปลือกโลก หมายถึง การเคล่ือนที่ของแผน่ เปลือกโลก สามารถ แบ่งได้ 3 ลกั ษณะ ดงั น้ี 3.1 การเคลื่อนท่ีแบบแยกออกจากกนั (Divergent) เป็นบริเวณที่เปลือกโลกเคล่ือนท่ี ออกจากกนั ท้งั ในกลางมหาสมุทรและกลางแผน่ ทวปี บริเวณรอยต่อกลางมหาสมุทรหรือ แนวสันสมุทร (Mid-ocean ridge) เปลือกโลกแยกออกจากกนั เกิดเป็ นกระบวนการ การแยกตวั ของพ้ืนสมุทร (Sea floor spreading) ทำ� ใหเ้ กิดลกั ษณะภูมิลกั ษณ์สำ� คญั เช่น เกาะไอซ์แลนด์ เป็นเกาะภูเขาไฟกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ส่วนบริเวณแผน่ ทวปี แผน่ ทวปี เคลื่อนที่แยกออกจากกนั ทำ� ใหเ้ กิดภูมิประเทศ หุบเขาทรุด (Rift valley) เช่น ทะเลแดง หรือสนั เขากลางมหาสมุทร Rift like valley ภาพประกอบที่ 17 : การเคล่ือนท่ีแยกออกจากกนั ของเปลือกโลก (ศูนยก์ ารเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์,2554)

19 3.2 การเคลี่อนที่เขา้ หากนั (Convergent) เป็นบริเวณท่ีแผน่ เปลือกโลกเคลื่อนท่ี เขา้ หากนั โดยแผน่ เปลือกโลกแผน่ หน่ึงมุดเขา้ ไปอยใู่ ตแ้ ผน่ เปลือกโลกอีกแผน่ หน่ึง มี 3 ประเภท ดงั น้ี 3.2.1 แผน่ มหาสมุทรชนกนั เป็นการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกมหาสมุทรเขา้ หา กนั แผน่ มหาสมุทรที่มีความหนาแน่นมากกวา่ จะจมตวั ลงในเขตมุดตวั ทำ� ใหเ้ กิดร่องลึก กน้ สมุทร (Mid oceanic trench) แผ่นมหาสมุทรท่ีจมลงไปหลอมเหลวเป็ นหินหนืด หินหนืดบางส่วนจะลอยตวั ข้ึนดนั พ้นื ผวิ โลกใหเ้ กิดเป็นหมูเ่ กาะภเู ขาไฟรูปโคง้ (Volcanic island arc) เรียงตวั ขนานกบั แนวร่องลึกกน้ สมุทร เช่น หมู่เกาะฟิ ลิปปิ นส์ และหมู่เกาะ ญี่ป่ ุน ภาพประกอบท่ี 18 : การเคลื่อนที่ของแผน่ มหาสมุทรเขา้ หากนั (ศูนยก์ ารเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์,2554)

20 3.2.2 แผน่ มหาสมุทรชนกบั แผน่ ทวีป โดยแผน่ มหาสมุทรเป็นหินบะซอลตม์ ี ความหนาแน่นมากกวา่ แผน่ ทวีปท่ีเป็นหินแกรนิต เมื่อแผน่ ธรณีท้งั สองปะทะกนั แผน่ มหาสมุทรจะจมตวั ลงและหลอมละลายเป็ นหินหนืด แต่เนื่องจากหินหนืดมีความหนา แน่นนอ้ ยกวา่ เน้ือโลกช้นั บน มนั จึงยกตวั ข้ึนดนั แผน่ ทวปี ใหก้ ลายเป็นเทือกเขาสูงเกิดแนว ภูเขาไฟเรียงรายตามชายฝั่ง เช่น เทือกเขาแอนดีส เป็นตน้ ภาพประกอบที่ 19 : การเคลื่อนท่ีเขา้ หากนั ของแผน่ มหาสมุทรกบั แผน่ ทวปี (ศูนยก์ ารเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์,2554) 3.2.3 แผน่ ทวปี ชนกนั มีลกั ษณะเป็นการเคลื่อนท่ีของแผน่ ทวปี 2 แผน่ เคล่ือนท่ี เขา้ หากนั โดยแผน่ ทวีปท่ีมีความหนามากกว่า จะมุดตวั ลงไปในแผน่ ทวีปอีกแผน่ หน่ึง และยกตวั สูงข้ึนกลายเป็ นเทือกเขาท่ีสูงมาก เป็ นแนวยาวขนานกบั แนวปะทะ เช่น เทือกเขาหิมาลยั ในประเทศเนปาล เป็นตน้ ภาพประกอบท่ี 20 : การเคล่ือนที่ของแผน่ ทวปี เขา้ หากนั (ศูนยก์ ารเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์,2554)

21 3.3 การเคล่ือนเฉียดขา้ งกนั (Transform) เป็นแนวรอยเลอ่ื นทเ่ี กดิ จากการเคลอ่ื นผา่ น กนั เน่ืองจากอตั ราการเคลื่อนท่ีของหินหนืดในช้นั เน้ือโลก ทำ� ใหเ้ พลทในแตล่ ะส่วนมีอตั รา การเคล่ือนท่ีไม่เท่ากนั ทำ� ใหเ้ ปลือกโลกภาคพ้นื สมุทร และบางส่วนของเทือกเขาใตส้ มุทร ไถลเล่ือนผ่านและเฉือนกนั เกิดเป็นรอยเล่ือนเฉือนระนาบดา้ นขา้ งขนานใหญ่ข้ึน เช่น รอยเลื่อนซานแอนเดียสในสหรัฐอเมริกา เป็นตน้ (ปัญญา จารุศิริและคณะ,2558, น. 9-12) ภาพประกอบท่ี 21 : การเคล่ือนที่ผา่ นกนั (ศูนยก์ ารเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์,2554)

รูปแบบการเคลื่อนท่ี ลเคัลกอื่ ษนณท่ี ะ ก า ร ลกั ษณะพน้ื ทะเล ปรากฎการณท์ เ่ี กดิ ข้นึ บริเวณทพ่ี บ การเคลื่อนทแี่ บบแยกออกจากกนั แยกออกจากกนั กทาะรเลขยายตวั ของพ้ืนื เมเลปหก็็ นาหสปหมรรทุือารแกอผาฎน่ จกดทนิาำ� ใไรหหณเ้วก์ขริดะยภดาเูบัขยตาไต้นื ฟัวขขนอาดง กแลอาตงมแหลาสนมตุทิ กร การเคล่ีอนท่ี แผน่ มหาสมุทรชนกนั แชผน่นกนัเปลือกโลก มเกดุ ิดตกวั ารทำ� ลายบริเวณ ทแสหรเสตตป่อาวลวู่งวันลมลกงนปะีาอืแมงผวแจกมนหาะ่นดุ โาจวหขนา่ลยะแสล้ึนงกนัมผอชใมจอ้นดุ่นม้นัุทนยลเลมฐปกกรงะาหลวใ่อนลแาตอ่ืาตาธสผกแ้ยจวัรโมนก่ผนณเลปลทุน่เเกีภกป็นารททายดิลทภควเมแ่ีปือมีู่เปีผจกขี็นกหีนทนา่าโหไรนเี่มลดกเฟินคานกิีคดิ หแขลไบวเนปออนื่หาา็นนน่บมดืวง บตอเรมกิเวรขิกณาอภางคทตะววี นปั เข้าหากนั 22 แผ่นมหาสมุทรชนกับ เธมเสหปปราะนลลณเเปาทอืือีภแ็นกอืกนาโเนคโกลน่ ลจจากกะะนกทววหททามี่่งลมโ่ีำม�อี อใคดุุดาหมง้ยตลภเล้เุกวักงเะู ลขิดไา่ลงกาปราไแ่อวยจฟลาง่แนะลลเยถเกึะกน็ึงแมดิ กชลดุแว้ันะตรา่ แงวฐัแสผขาล้นนนน่ั่ึะ ร,ตห่อะมวงู่นเัลกตึกากะมแาปเรซียิฟนิ ก่า แผน่ ทวปี แผน่ ทวปี ชนกนั แคผอ่ น่ยแอทอย่งวๆมปี หทถขี่ากู สยลามอย้ ุทตมวรโั ดจะย กสลกาัอรษงปณจะะะทกถะาูกกรโนบั กมีบง่ วตอลวััดหขแินอลงแะพกยน้ืรกนทติตวปัวี มขว้ึนลทม้งั ี เทอื กเขาหิมาลยั ,เทอื กเขาแอลป์ การเคลื่อนเฉียดข้างกนั กนั เคลื่อนผ่าน ทไมำ� ล่เกายิดขกอางรเปสลรอื้างกโหลรกือ เเปกิลดอืกกาโรลเคกลื่อนผ่านกนั ระหว่างแผ่น มรอหยาสเลมื่อทุ รนกลาง

23 ภาพกระบวนการแปรธรณีสณั ฐาน ภาพประกอบท่ี 23 : แผนท่ีแนวรอยเล่ือน (ไม่ปรากฎผแู้ ต่ง,ม.ป.ป.) โลกเป็นดาวเคราะห์หินท่ีประกอบข้นึ จากธาตุต่างๆจนกลายเป็นแร่และหินโดยมีลกั ษณะ เป็นทรงกลม ดา้ นนอกสุดเป็นของแขง็ เป็นแผน่ เรียกวา่ แผน่ เปลือกโลกที่มีลกั ษณะการเคลื่อนที่ แตกต่างกนั ออกไปท้งั ชนกนั แยกออกจากกนั และเคลื่อนผา่ นกนั ทำ� ใหเ้ กิดลกั ษณะท่ีแตกต่างกนั ออกไปทำ� ใหเ้ กิดภมู ิประเทศและภมู ิลกั ษณ์ที่แตกต่างกนั อีกท้งั เปลือกโลกยงั ประกอบดว้ ยแร่และ หินที่มีค่าในการใชป้ ระโยชนท์ างเศรษฐกิจมนุษยไ์ ดน้ ำ� มาใชป้ ระโยชนต์ ่อการพฒั นาประเทศใน ปัจจุบนั ซ่ึงจะกล่าวในบทถดั ไป

24 แบบฝึกหดั ที่ 1.1 ช่ือ-สกลุ .............................................................................ช้นั ................เลขท่ี................. คำ� ช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนโยงเสน้ จบั คู่ขอ้ ความดงั ต่อไปน้ีดงั ต่อไปน้ี (10 คะแนน) 1. เป็นการเคล่ือนที่ที่พบบริเวณ ก. หินแปร กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ข. Divergent 2. หินที่เกิดจากการสะสมตวั ของธาตุ 3. คลื่นท่ีสามารถผา่ นตวั กลางไดท้ ุกประเภท ค. หินอคั นี 4. หินท่ีเป็นแหล่งกำ� เนิดแร่อญั มณีบนพ้ืนผวิ โลก ง. หินช้นั 5. เป็นการเคล่ือนที่ท่ีทำ� ใหเ้ กิดภูมิประเทศภูเขาสูง จ. Convergent 6. หินท่ีเกิดจากกระบวนการความร้อนและความดนั ฉ. Transform 7. เป็นการเคลื่อนที่ที่พบบริเวณมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ช. คล่ืนปฐมภูมิ สหรัฐอเมริกา 8. ภูมิประเทศแบบ Karst มกั เกิดจากกลุ่มหินประเภท ซ. คล่ืนทุติยภูมิ 9. คล่ืนท่ีไม่สามารถผา่ นตวั กลางจำ� พวกของเหลวได้ 10. หินท่ีเป็นแหล่งกำ� เนิดธาตุประเภทโลหะ

25 แบบฝึกหดั ท่ี 1.2 ช่ือ-สกลุ .............................................................................ช้นั ................เลขที่................. คำ� ช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนอ่านขอ้ ความท่ีกำ� หนดให้ พร้อมท้งั พจิ ารณาวา่ ขอ้ ความดงั กล่าวตอ้ ง หรือไม่ โดยใชเ้ ครื่องหมาย / ทา้ ยขอ้ ความท่ีถูกตอ้ งและใชเ้ คร่ืองหมาย X ทา้ ยขอ้ ความที่ ผดิ พร้อมท้งั แกไ้ ขขอ้ ความใหถ้ ูกตอ้ ง ( 10 คะแนน ) ........... 1. ธาตุประกอบท่ีมีมากท่ีสุดบริเวณเปลือกโลกคือธาตุเหลก็ .............2. แร่ประกอบโลหะจดั เป็นแร่ ปฐมภมู ิ มกั เกดิ จากกระบวนการผพุ งั ของธาตตุ า่ งๆทมี่ ี บริเวณเปลอื กโลกและเยน็ ตวั ลง ..............3.แร่ทตุ ยิ ภมู มิ กั เกิดจากกระบวนการเยน็ ตวั ของหินหลอมละลายใตเ้ ปลอื กโลก เช่นแร่ ควอตซ์ ...............4. ถ่านหินมีมากในประเทศไทยมกั เป็นถ่านหินจำ� พวกลิกไนตท์ ่ีมีมากในจงั หวดั ลำ� ปาง ...............5.หินอคั นีมีโครงสร้างการกำ� เนิดจากหินหนืดภายใตเ้ ปลือกโลกและเยน็ ตวั ลงอยา่ ง ชา้ ๆบริเวณผวิ โลก ............ 6. ตวั อย่างของหินอคั นีพุเช่นหินไดออไรต์หินแอนดิไซต์และหินบะซอลต์ ซ่ึงมีลกั ษณะค่อนขา้ งอ่อนไปจนถึงเขม้ .................7. หินตะกอนเคมีมกั เกิดจากกระบวนการเคมีเช่นการละลายน้ำ� ทำ� ใหเ้ กิดหินปูน เป็ นตน้ ............... 8. หินตะกอนทางกลศาสตร์มกั เกิดจากกระบวนการทบั ถมของวตั ถุตน้ กำ� เนิดหิน เช่น หินทราย หินกรวดมนหรือองคป์ ระกอบทางอินทรียวตั ถุ เช่น ถ่านหิน ................ 9. หินแปรมกั เกดิ จากปัจจยั ดา้ นความรอ้ นและความดนั ของโลกทำ� ใหห้ ินเดมิ แปร สภาพไป เช่น หินทรายกลายเป็นหินควอไซตห์ รือหินแกรนิต แปรสภาพกลายเป็นหินไนส์ เป็ นตน้ ............... 10. หินแปรมกั มี 2 ลกั ษณะคือหินแปรชนิดร้ิวลาย เช่น หินอ่อนและหินแปรชนิด ไร้ริ้วลาย เช่น หินดินดาน เป็นตน้

26 แบบฝึกหดั ท่ี 1.3 ชื่อ-สกลุ .............................................................................ช้นั ................เลขที่................. คำ� ช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนพิจารณาภาพดงั ต่อไปน้ีและวเิ คราะห์การกำ� เนิดหินประเภทต่างๆ (9 คะแนน) ภาพประกอบที่ 24 : ตวั อยา่ งกระบวนการเกิดหิน (The INTERNATIONAL GEOGRAPHY OLYMPIAD,2012) ภาพ A เป็นหิน................................................................................................................... เกิดจากกระบวนการใด....................................................................................................... ตวั อยา่ งเช่น........................................................................................................................ ภาพ B เป็นหิน................................................................................................................... เกิดจากกระบวนการใด....................................................................................................... ตวั อยา่ งเช่น......................................................................................................................... ภาพ C เป็นหิน................................................................................................................... เกิดจากกระบวนการใด...................................................................................................... ตวั อยา่ งเช่น........................................................................................................................

27 แบบทดสอบหลงั เรียน เร่ือง โลกและสณั ฐาน รายวชิ า สงั คมศกึ ษาฯ ส 32101 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 จำ� นวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน คำ� ช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเลือกคำ� ตอบท่ีถูกตอ้ งที่สุดเพยี งคำ� ตอบเดียวโดยทำ� เคร่ืองหมาย กากบาท (x) ลงในกระดาษคำ� ตอบ 1. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง 1. การเคลื่อนท่ีแบบแยกออกจากกนั : เทือกเขาของทวปี อเมริกา 2. การเคลื่อนท่ีชนกนั ของแผน่ มหาสมุทรท้งั 2 : สนั เขากกลางสมุทร 3. การเคลื่อนท่ีชนกนั ของแผน่ ทวปี ท้งั 2 : ภูเขาโก่งตวั 4. การเคล่ือนท่ีผา่ นกนั : ร่องลึกมาเรียนา 2. ปฏิสมั พนั ธ์ทางภูมิศาสตร์ของโลกประกอบดว้ ยส่วนใดบา้ ง 1. ดิน น้ำ� ลม ไฟ 2. โลก ดวงจนั ทร์ ดวงอาทิตย ์ จกั รวาล 3. ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ภูมิชีวติ ภูมิสงั คม 4. ธรณีภาค บรรยากาศภาค อุทกภาค ชีวภาค 3. แร่ประเภทใด ไม่จดั เป็นแร่ปฐมภูมิ 1. ไมกา้ 2. เฟลสปาร์ 3. ดินเหนียว 4. ควอซ์ต 4. หินประเภทใดเกิดจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงโดยใชค้ วามร้อนและความดนั 1. หินควอไซต ์ 2. หินดินดาน 3. หินไดออไรต ์ 4. หินแกรนิต 5. ขอ้ ใดเรียงลำ� ดบั ธาตุประกอบเปลือกโลกไดถ้ ูกตอ้ งที่สุด 1. ออกซิเจน ซิลิคอน อลูมิเนียม เหลก็ 2. ซิลิคอน อลูมิเนียม ออกซิเจน เหลก็ 3. เหลก็ อลูมิเนียม ซิลิคอน แมกนีเซียม 4. แคลเซียม โซดียม ซิลิคอน ออกซิเจน 6. ขอ้ ใดจบั คู่ไม่ถูกตอ้ ง 1. กินอคั นีแทรกซอน : แกรนิต 2. หินตะกอนกายภาพ : หินปูน 3. หินอคั นีภูเขาไฟ : หินบะซอลต ์ 4. หินแปรริ้วลาย : หินควอไซต์

28 7. “ฐานธรณีภาค” จดั อยใู่ นสณั ฐานของโลกส่วนใด 1. เปลือกโลก 2. เน้ือโลกส่วนบน 3. เน้ือโลกส่วนล่าง 4. แก่นโลก 8. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง 1. คล่ืนเลิฟ เป็นคล่ืนท่ีทำ� ใหอ้ นุภาคตวั กลางสนั่ ในแนวราบ โดยมีทิศทางต้งั ฉาก กบั ทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่นท่ีสร้างความเสียหายกบั ส่ิงปลูกสร้างต่างๆได้ 2. คล่ืนตวั กลาง ประเภททุติยภูมิมีลกั ษณะเป็นคลื่นตามยาว ผา่ นตวั กลางใน ลกั ษณะต้งั ฉากเคล่ือนที่ไดท้ ุกตวั กลาง 3. คล่ืนตวั กลาง ประเภทปฐมภูมิมีลกั ษณะเป็นคลื่นตามขวางมีลกั ษณะแบบ อดั -ขยาย ผา่ นตวั กลางไดเ้ ฉพาะของแขง็ 4. คลื่นเรยล์ ี เป็นคลื่นท่ีทำ� ใหอ้ นุภาคตวั กลางสนั่ เป็นรูปวงกลม ในทิศทางการ เคลื่อนที่ของคลื่น เป็นเหตุใหพ้ ้ืนผวิ โลกมีการสน่ั ข้ึน-ลง 9. ภูมิประเทศประเภทใดท่ีมกั เกิดจากการแยกตวั ของเปลือกโลก 1. เกาะวงโคง้ ภูเขาไฟ 2. ร่องลึกกลางมหาสมุทร 3. เทือกเขาที่เกิดจากการโก่งตวั 4. สนั เขากลางมหาสมุทร 10. ขอ้ ใดไม่ถูกตอ้ งเกี่ยวกบั โครงสร้างของโลก 1. เปลือกโลกช้นั ซิมา ประกอบดว้ ยธาตุจำ� พวกซิลิกากบั แมกนิเซียม มีความหนา แน่นสูง มีสีเขม้ 2. เปลือกโลกช้นั ซิแอล ประกอบดว้ ยธาตุจำ� พวกเหลก็ และออกซิเจน มีความ หนาแน่นนอ้ ยมีสีจาง 3. เน้ือโลกมีสถานะเป็นหินหนืดหลอมละลายโดยเฉพาะส่วนบนท่ีมีสีเขม้ 4. แก่นโลกประกอบโดยโลหะจำ� พวกเหลก็ และนิเกิล

29 กรเละ่ดมาทษี่ 1คำ�เรต่ือองบโทลดกสแลอะบสหัณลงฐั เารนียน ช่ือ-สกลุ .............................................................................ช้นั ................เลขท่ี................. คำ� ช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเลือกคำ� ตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุดเพียงคำ� ตอบเดียว โดยทำ� เคร่ืองหมาย กากบาท X ลงในช่องวา่ งตวั เลือกคำ� ตอบท่ีถูกตอ้ ง ข้อท่ี 1 2 3 4 คะแนนเตม็ ........................... 1 คะแนนทไี่ ด ้ ........................... ผลการประเมนิ 2 ........... ดมี าก ........... ดี 3 ........... พอใช้ 4 ........... ควรปรบั ปรุง 5 ลงช่ือ.................................ผปู้ ระเมนิ 6 (.............................................................) 7 8 9 10 สรปุ คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนนระหวา่ ง 8- 10 ระดบั เกณฑด์ มี าก คะแนนระหวา่ ง 6-7 ระดบั เกณฑด์ ี คะแนนระหวา่ ง 4-5 ระดบั เกณฑพ์ อใช้ คะแนนระหวา่ ง 0-3 ระดบั เกณฑค์ วรปรบั ปรุง

30 แบบบนั ทกึ คะแนน ช่ือ-สกลุ .............................................................................ช้นั ................เลขท่ี................. แบบทดสอบ/แบบฝึ กหัด คะแนนเตม็ คะแนนทไ่ี ด้ หมายเหตุ แบบทดสอบก่อนเรียน 10 บทท่ี 1 10 แบบฝึกหดั ท่ี 1.1 10 แบบฝึกหดั ที่ 1.2 9 แบบฝึกหดั ที่ 1.3 รวมแบบฝึ กหดั 29 แบบทดสอบหลงั เรียน 10 รวมแบบฝึกหดั + แบบทดสอบหลงั 39 เ รียน ลงช่ือ.............................................................ผ้ลู งคะแนน เกณฑ์การประเมนิ 35-39 อยใู่ นระดบั ดมี าก คะแนนระหวา่ ง 30-34 อยใู่ นระดบั ดี คะแนนระหวา่ ง 25-29 อยใู่ นระดบั ปานกลาง คะแนนระหวา่ ง 20-24 อยใู่ นระดบั พอใช้ คะแนนระหวา่ ง 0 -19 อยใู่ นระดบั ควรปรบั ปรุง คะแนนระหวา่ ง

31

32 ภาคผนวก

33 ประกอบดว้ ย เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน เฉลยแบบฝึกหดั ที่ 1.1 เฉลยแบบฝึกหดั ที่ 1.2 เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี 1.3

34 เฉลยคำ� ตอบก่อนเรียน เล่มที่ 1 เรื่อง โลกและสณั ฐาน ขอ้ ที่ 1 2 34 1 x 2 x 3 x 4 5 x x 6 7 x 8 x 9 10 x สรุปคะแนน x x

35 เฉลยแบบฝึกหดั ที่ 1.1 คำ� ช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนจบั คู่ขอ้ ความดงั ต่อไปน้ีดงั ต่อไปน้ี (10 คะแนน) 1. เป็นการเคล่ือนที่ท่ีพบบริเวณ ข. Divergent กลางมหาสมุทรแอตแลนติก 2. หินท่ีเกิดจากการสะสมตวั ของธาตุ ง. หินช้นั 3. คลื่นที่สามารถผา่ นตวั กลางไดท้ ุกประเภท ช. คลื่นปฐมภูมิ 4. หินที่เป็นแหล่งกำ� เนิดแร่อญั มณีบนพ้ืนผวิ โลก ค. หินอคั นี 5. เป็นการเคล่ือนท่ีท่ีทำ� ใหเ้ กิดภูมิประเทศภูเขาสูง จ. Convergent 6. หินท่ีเกิดจากกระบวนการความร้อนและความดนั ก. หินแปร 7. เป็นการเคลื่อนที่ท่ีพบบริเวณมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ฉ. Transform ภูมิสหรัฐอเมริกา 8. ภูมิประเทศแบบ Karst มกั เกิดจากกลุ่มหินประเภท ง. หินช้นั 9. คล่ืนท่ีไม่สามารถผา่ นตวั กลางจำ� พวกของเหลวได้ ซ. คลื่นทุติยภูมิ 10. หินท่ีเป็นแหล่งกำ� เนิดธาตุประเภทโลหะ ค. หินอคั นี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook