แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 1 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 วชิ าบรู ณาการสงั คมศึกษา เวลา 6 ชว่ั โมง หนว่ ยที่ 3 เร่อื ง อายุน้อยรอ้ ยร้าน เวลา 1 ช่วั โมง เร่อื ง หลกั ในการเลือกสนิ ค้าและบริการ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่ จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมท้ังเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการดารงชีวิตอย่างมี ดลุ ยภาพ ตัวชี้วดั ป.3/1 จาแนกความตอ้ งการและความจาเป็นในการใช้สนิ ค้าและบริการในการดารงชวี ติ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายสนิ คา้ และการบริการทเ่ี ปน็ ความต้องการของมนุษย์ (K) 2. จาแนกสนิ ค้าและการบริการท่เี ป็นความต้องการของมนุษย์ (P) 3. ตระหนักและรคู้ ุณค่าในการใชส้ นิ ค้าตามความต้องการท่ีเหมาะสม (A) สาระสาคัญ ปัจจยั ทีเ่ ปน็ ส่งิ จาเป็นตอ่ การดารงชวี ติ ของมนุษย์ ไดแ้ ก่ อาหาร ทอ่ี ยู่อาศยั เคร่อื งนงุ่ ห่ม และยา รักษาโรคสนิ คา้ ท่ีมีอย่ใู นปจั จุบนั มคี วามหลากหลายในการสนองความต้องการของมนุษย์ ทง้ั ทีจ่ าเป็นต่อการ ดารงชวี ิตของมนุษยแ์ ละไม่จาเป็นต่อการดารงชีวิตของมนษุ ย์ เพอ่ื อานวยความสะดวกและเพ่ือความบนั เทงิ สาระการเรียนรู้ สินคา้ ท่เี ปน็ ปจั จัย 4 ในการดารงชวี ติ ประจาวัน และสินคา้ ทเ่ี ป็นความต้องการของมนษุ ย์ ในยคุ ปัจจบุ นั คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครนู ารูปสินคา้ ที่จาเปน็ ต่อการดารงชวี ติ ของมนุษย์ เปดิ ใน PowerPoint ดังนี้ อาหาร รถยนต์ บา้ นที่อยอู่ าศยั โทรศพั ทเ์ คล่ือนท่ี ยารักษาโรค เคร่ืองสาอาง เคร่ืองนุ่งห่ม คอมพวิ เตอร์ ครใู หน้ ักเรียนอ่านบตั รคาใน PowerPoint จากน้ันครูใหน้ ักเรียน โดยให้บอกคา ทีละคนแล้วบอกวา่ อยู่ในชอ่ งใดทีแ่ บ่งไว้ โดยครูแบ่งจอโทรทศั น์ออกเปน็ 2 ช่อง ดังน้ี
ปัจจยั ท่จี าเป็นพื้นฐานในการดารงชวี ติ ปจั จยั รองหรือสง่ิ อานวยความสะดวก โดยใหน้ ักเรียนอภิปรายถึงความสาคญั ความจาเปน็ วิธีการบรโิ ภคปจั จยั 4 อยา่ งมคี ณุ ค่าจบการ นาเสนอของนกั เรียน ครูใชค้ าถามให้นักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ ดังนี้ ปัจจัย 4 ท่จี าเป็นต่อการดารงชวี ติ ของมนุษยป์ ระกอบดว้ ยอะไรบา้ ง (อาหาร ท่ีอยู่อาศยั เครื่องนุ่งหม่ และยารักษาโรค) อาหารมีความจาเป็นต่อการดารงชวี ิตของมนุษย์อย่างไร (ตัวอย่างคาตอบ ทาให้มนษุ ย์สามารถมี ชีวิตอยู่ต่อได้ ทาใหม้ ีพละกาลังในการดารงชีวิตประจาวัน) 2. ครนู าบัตรคาสินคา้ และบรกิ ารท่เี ปน็ ความต้องการของมนุษย์ มาเปิดใน PowerPoint เพื่อให้ นักเรียนแยกประเภทของสินค้าและบริการท่เี ปน็ ความต้องการของมนษุ ย์ในดา้ นตา่ ง ๆ ดังน้ี ตวั อยา่ งบัตรคา รถยนต์ โทรทศั น์ เส้ือผา้ สวยงาม หนงั สือนิตยสาร ภาพยนตร์ เพลง คอมพิวเตอร์ โทรศพั ทเ์ คล่ือนที่ เคร่ืองประดบั เครื่องสาอาง 3. ให้นักเรยี นรว่ มกันสรปุ ความรู้การใช้สนิ คา้ และบริการทเ่ี ปน็ ความต้องการของมนุษย์อยา่ งมี ประโยชนแ์ ละรู้คุณคา่ ตามความจาเปน็ ต่อการดารงชวี ิต 4. ให้นกั เรยี นทาใบงานบูรณาการเรอื่ ง หลักในการเลือกสินคา้ และบริการ การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (ครู ผปู้ กครอง นกั เรยี นประเมนิ รว่ มกัน) จุดประสงค์ วธิ ปี ระเมนิ เคร่อื งมอื เกณฑ์ 1. อธบิ ายสนิ คา้ และการบริการที่ ตรวจใบงานบูรณาการ ใบงานบรู ณาการเร่ือง นกั เรยี นอธิบายสนิ ค้า เปน็ ความต้องการของมนษุ ย์ (K) และการบริการทีเ่ ป็น เร่ือง หลักในการเลือก หลักในการเลือกสนิ ค้า ความต้องการของ มนษุ ย์ ผา่ นใบงาน สนิ ค้าและบรกิ าร และบริการ รอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
2. จาแนกสนิ ค้าและการบรกิ ารท่ี แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นักเรียนจาแนกสินคา้ เปน็ ความต้องการของมนษุ ย์ (P) ใบงานบูรณาการเรื่อง ใบงานบูรณาการเร่อื ง และการบริการทเ่ี ป็น หลักในการเลอื กสนิ ค้า หลักในการเลอื กสนิ คา้ ความตอ้ งการของ และบรกิ าร และบรกิ าร มนุษย์ ระดบั 3 ข้อ ขน้ึ ไปถือวา่ ผา่ น 3. ตระหนกั และรคู้ ุณคา่ ในการใช้ แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม เกณฑ์ สนิ ค้าตามความต้องการทเี่ หมาะสม (A) นักเรียนมพี ฤติกรรม ระดบั ดีขึ้นไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ สอ่ื การเรียนรู้ 1. บัตรคาใน PowerPoint
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 วิชาบูรณาการภาษาไทย และภาษาองั กฤษ เวลา 6 ชัว่ โมง หนว่ ยที่ 2 เรื่อง อายนุ อ้ ยรอ้ ยลา้ น เวลา 1 ชวั่ โมง เรอื่ ง ช่ือสินค้าของหนู มาตรฐานการเรียนรู้ ท 2.1 ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นส่ือสาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเร่ืองราวในรูปแบบต่างๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมีประสิทธภิ าพ ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชือ่ มโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนร้อู นื่ และเปน็ พนื้ ฐานใน การพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน ตัวชว้ี ัด ต 3.1 ป. 3/1 บอกคาศัพทท์ ่ีเกย่ี วขอ้ งกบั กล่มุ สาระการเรียนรูอ้ ่นื ท 2.1 ป.1/1 อา่ นออกเสยี งคาและข้อความสนั้ ๆ ท 2.1 ป.3/2 เขยี นบรรยายเกยี่ วกับส่งิ ใดส่งิ หน่งึ ไดอ้ ย่างชัดเจน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อา่ นสะกดคาอุปกรณ์น่ารู้ได้ถูกต้อง (K) ๒. บอกความหมายของคาศพั ท์ชื่อสนิ คา้ ไดถ้ กู ตอ้ ง (K) ๓. อ่านออกเสียงและสะกดคาศัพทช์ ่ือสินคา้ ไดถ้ ูกต้อง (P) ๔. เขียนบรรยายโฆษณาสินค้าไดถ้ ูกตอ้ ง (P) ๕. จาแนกประเภทของสนิ คา้ ได้ถกู ต้อง (A) สาระสาคญั การเขียนบรรยาย เป็นการเขียนเพ่ือการสื่อสารอย่างหน่ึง ต้องมีความรู้พ้ืนฐานในการเขียน และมี มารยาทในการเขียน การเขียนบรรยาย เป็นการเขียนเล่าเหตกุ ารณใ์ ดเหตุการณห์ นึ่งทเ่ี กิดข้ึน เพือ่ ให้ผอู้ ่านเห็น ภาพเหตุการณ์ ลาดับเวลา สถานท่ี บุคคล ผู้เขียนควรกล่าวถึง เหตุการณ์ให้ชัดเจน โดยมีข้อมูลและเนื้อหา สาระของเรือ่ งทจี่ ะเขยี น การเรยี นรเู้ กี่ยวกับคาศัพท์ช่ือสนิ ค้าตา่ ง ๆ พูดสนทนาและใหข้ ้อมลู แนะนาสนิ ค้าต่าง ๆ ได้ ซงึ่ จะทา ให้นกั เรยี นไดฝ้ กึ การใช้ภาษาและนาไปสอ่ื สารในชีวติ ประจาวันได้ สาระการเรียนรู้ 1. แบบฝึกทักษะการเขยี น 2. การเขียนบรรยายจากภาพสนิ ค้าของหนู 3. การแยกประเภทสินค้าของหนู คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
ความสามารถในการคิด การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นท่ี 1 ข้นั นาเข้าส่บู ทเรียน 1. ครเู ตรยี มตัวอยา่ งรูปภาพอปุ กรณน์ า่ รู้มาให้นกั เรยี นดู แลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันบอกชื่ออปุ กรณน์ ่ารู้ ขั้นท่ี 2 ขนั้ กจิ กรรมการเรียนรู้ 2. ครูให้นักเรยี นสังเกต อุปกรณ์ และ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั อ่านสะกดคา จากคาศัพท์อปุ กรณ์นา่ รู้ 3. ครอู ธบิ ายหลกั การเขยี นบรรยายโฆษณาสินค้า พรอ้ มนาตวั อยา่ งงานเขียนมาให้นักเรียนดู 4. จากนั้นครูให้นักเรียนช่วยกันเขียนทีละขั้นตอน จนครบทุกข้ันตอนเสร็จแล้วให้นักเรียนทา ใบงาน เรือ่ งการเขียนบรรยายโฆษณาสินค้า พร้อมแยกประเภทของสนิ คา้ เชน่ อาหาร ของใช้ ของเลน่ ๕. ครเู ปิดคลิปวีดโี อ www.youtube.com (Let's Go Shopping) เก่ยี วกบั คาศัพทช์ ่ือสินค้าแตล่ ะชนิดให้ นกั เรยี นดภู าพประกอบและฟังการออกเสยี งของคาศัพท์ ตัวอย่างสินคา้ เช่น Phone (โฟน) โทรศพั ท์ Bag (แบก) กระเป๋า Bread (เบรด) ขนมปัง ขนั้ ท่ี 3 ข้นั สรปุ การเรยี นรู้ ๖. ครูและนักเรียนรว่ มกนั ทบทวนความรกู้ ารเขยี นบรรยายโฆษณา สินค้าของหนู ๗. ครใู หน้ กั เรียนร่วมกันสรุปการอา่ นคาศพั ทช์ ่ือสนิ คา้ และการบอกความหมายของคาศัพท์เพ่ือ ทดสอบความเขา้ ใจ ๘. ครใู หน้ กั เรียนร่วมกนั สรปุ หลัการ การเขยี นบรรยาย และแยกประเภทของสินค้า เพอ่ื ทดสอบความ เข้าใจของนักเรียน
การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (ครู ผู้ปกครอง นกั เรียนประเมนิ รว่ มกนั ) จดุ ประสงค์ วธิ ีประเมิน เคร่อื งมอื เกณฑ์ 1. อา่ นสะกดคาอปุ กรณน์ ่า ตรวจใบงานบูรณาการ ใบงานบูรณาการเร่ือง นักเรยี นอ่านสะกดคา รู้ไดถ้ กู ต้อง (K) เร่อื ง ช่ือสนิ ค้าของหนู ก า ร เ ขี ย น บ ร ร ย า ย สินคา้ ของหนูได้ ๒. บอกความหมายของ โฆษณาสนิ ค้าของหนู ระดับ 7 คาข้ึนไปถือ คาศัพทช์ ือ่ สนิ ค้าได้ถกู ต้อง ว่าผา่ นเกณฑ์ (K) ๓. อา่ นออกเสยี งและสะกด ตรวจแบบฝึกทักษะการ แบบฝกึ ทกั ษะการเขยี น นักเรียนเขียน คาศัพทช์ ื่อสินค้าได้ถกู ต้อง เขยี นบรรยาย บรรยาย บรรยายโฆษณา (P) สินคา้ ของหนูได้ ร้อย ๔. เขยี นบรรยายโฆษณา ละ 60 ขน้ึ ไป ถือวา่ สนิ คา้ ไดถ้ ูกต้อง (P) ผ่านเกณฑ์ 3. จาแนกประเภทของ ตรวจแบบฝึกหดั แบบฝึกหัด นกั เรยี นบอกประเภท สินคา้ ของหนไู ด้ถูกต้อง (A) ของสนิ ค้าได้ ถือว่า ผา่ นเกณฑ์ สือ่ การเรียนรู้ 1. PowerPoint เรือ่ ง การเขียนบรรยายโฆษณาสินคา้
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๓ วชิ าบรู ณาการวทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หน่วยท่ี ๓ เรอ่ื ง อายนุ ้อยร้อยร้าน เวลา ๖ ชว่ั โมง เรอ่ื ง วางแผนการค้า เวลา 1 ชัว่ โมง มาตรฐานการเรยี นรู้ ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นข้ันตอน และเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางานและการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ รู้เท่าทนั และมีจริยธรรม ตวั ชวี้ ดั ป.๓/๒ แสดงลาดบั ข้ันตอนการทางานหรอื การแกปัญหาอย่างงา่ ยโดยใช้ภาพ สญั ลักษณ์ หรือข้อความ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เรยี งลาดับเหตกุ ารณ์ได้ตามลาดบั ขน้ั ตอน (K) ๒. เรียงลาดบั เหตุการณใ์ นชีวิตประจาวนั ได้ (A) สาระสาคญั เล่าเรือ่ งตา่ ง ๆ และเรียงลาดับขน้ั ตอนอยา่ งเป็นลาดับโดยใชภ้ าพ สญั ลกั ษณ์ หรือขอ้ ความ สาระการเรียนรู้ เรียงลาดบั เหตุการณ์ตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวัน เชน่ ลาดบั เหตกุ ารณ์ตั้งแตต่ นื่ นอนจนกระทัง่ ไปถงึ โณง เรยี น หรอื ลาดับเหตกุ ารณ์การแต่งกาย เลา่ เรื่องเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ท่ีคุ้นเคยเป็นลาดับได้อย่างถกู ต้อง เหตุการณ์ บางเหตุการณ์อาจไมต่ ้องเรยี งลาดบั คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ ท่ี 1 ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครซู ักถามนักเรยี นวา่ ก่อนมาโรงเรียนหลงั จากต่นื นอนแลว้ นักเรยี นทาอะไรเป็นประจา ๒. ครใู หด้ ูภาพขนั้ ตอนการทากิจวตั รประจาวัน ขั้นท่ี 2 ขนั้ กจิ กรรมการเรียนรู้ 3. ครูสนทนาซักถามนักเรียนการเรียงลาดับเหตุการณ์ท่ีไม่สามารถจะขาดข้ันตอนใดขั้นตอนหนุ่งได้ เลย ๔. ใหน้ กั เรียนดวู ดี ิทัศน์ข้ันตอนการทาชานมไข่มกุ แลว้ ทาใบกจิ กรรมท่ี 2 เร่ือง การวางแผนการขาย
๕. ใหน้ ักเรยี นวางแผนการขายสินคา้ ที่นกั เรียนอยากขาย โดยระบุขน้ั ตอนการทาให้เรยี บรอ้ ย ขั้นท่ี 3 ข้นั สรุปการเรียนรู้ ๖. นักเรียนร่วมกันสรุปว่าการเรียงลาดับเหตุการณ์ต้องเรียงลาดับขั้นตอนให้ถูกต้อง ไม่สามารถขาด ขั้นตอนใดขน้ั ตอนหน่ึงได้ และบางขั้นตอนไมอ่ าจจะสลบั ขั้นตอนกนั ได้ อาจจะส่งผลใหเ้ กิดการผดิ พลาด การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ (ครู ผู้ปกครอง นักเรยี นประเมนิ รว่ มกนั ) จดุ ประสงค์ วธิ ีประเมนิ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. เรยี งลาดับเหตกุ ารณไ์ ด้ ตรวจใบงานบูรณาการ ใบงานบูรณาการเร่ือง นักเรยี นเรียงลาดับ ตามลาดับข้ันตอน (K) เรอื่ ง วางแผนการคา้ วางแผนการคา้ เหตุการณ์ได้ ตามลาดบั ขั้นตอน ผ่านใบงานรอ้ ยละ 60 ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ น เกณฑ์ 2. เรียงลาดับเหตกุ ารณ์ใน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นมีพฤตกิ รรม ชีวติ ประจาวนั ได้ (A) ระดับดีข้ึนไป ถือว่า ผ่านเกณฑ์ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. วดี ทิ ัศน์ เรอ่ื ง การทาชานมไข่มกุ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ วิชาบรู ณาการการศลิ ปะ เวลา ๖ ชัว่ โมง หนว่ ยท่ี ๒ เรอ่ื ง ส่งิ ประดิษฐ์สร้างสรรค์ เวลา 1 ชั่วโมง เรอ่ื ง ออกแบบโลโก้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ ๑.๑ สร้างสรรค์งานทัศนศลิ ป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณค์ ุณคา่ งานทัศนศลิ ป์ ถ่ายทอดความรู้สกึ ความคิดต่องานศิลปะอย่างอสิ ระชืน่ ชม และ ประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวัน ตวั ชีว้ ดั ป.๓/๓ จาแนกทศั นธาตขุ องสิ่งตา่ ง ๆ ในธรรมชาตสิ ง่ิ แวดล้อมและงานทัศนศิลป์ โดยเน้นเร่ือง เสน้ สี รปู รา่ ง รปู ทรง และพ้ืนผวิ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมายของความรู้สึกท่มี ีต่อธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมรอบตัว (K) 2. จาแนกประเภทของความรู้สึกลงในแผนภาพ (P) 3. เหน็ ประโยชน์ของการจาแนกประเภทของความรู้สึกลงในแผนภาพ (A) สาระสาคัญ - ออกแบบสิ่งประดษิ ฐต์ ามความรสู้ กึ ของตนเองท่ีมีตอ่ ธรรมชาติ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครูให้นกั เรยี นดูภาพสงิ่ ประดษิ ฐ์ต่าง ๆ 2. ครอู ธิบายถงึ ประโยชน์ของสิ่งประดษิ ฐ์ที่ใชว้ สั ดุเหลอื ใช้ 3. ให้นักเรยี นลองหาออกแบบส่งิ ประดิษฐ์ที่นักเรยี นอบากสรา้ งโดยการวาดภาพก่อน ๔. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปเรื่อง ประโยชนข์ องสิ่งประดิษฐท์ ่ีนกั เรยี นสร้างขึ้นโดยคานึกถงึ ธรรมชาติ และส่งิ แวดลอ้ ม
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ (ครู ผปู้ กครอง และนกั เรยี นรวมกันประเมนิ ) จุดประสงค์ วิธีประเมนิ เคร่อื งมือ เกณฑ์ 1. อธบิ ายความหมายของความร้สู ึกท่ี ตรวจใบงานบรู ณาการ ใบงานบรู ณาการเรอ่ื งนัก นักเรยี นอธิบาย มีต่อธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เร่ืองนกั ออกแบบ ออกแบบ ความหมายของ รอบตัว (K) ความรู้สึกทีม่ ีต่อ ธรรมชาติ และ สิง่ แวดล้อมรอบตวั ผ่านใบงานรอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ น เกณฑ์ 2. จาแนกประเภทของความรู้สกึ ลงใน แบบสงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนจาแนก แผนภาพ (P) ภาระงานใบงานบูรณา ภาระงานใบงานบูรณา ประเภทของ การเรอื่ งนักออกแบบ การเรอ่ื งนักออกแบบ ความรู้สกึ ลงใน แผนภาพได้ ระดบั ดี ขนึ้ ไปถือว่าผา่ น เกณฑ์ 3. เห็นประโยชน์ของการจาแนก แบบสังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรยี นมพี ฤตกิ รรม ประเภทของความรู้สึกลงในแผนภาพ (A) ระดับดขี ึ้นไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ สอื่ การเรยี นรู้ 1. PowerPoint เร่ืองส่ิงประดษิ ฐจ์ ากส่งิ ของท่เี หลือใช้
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๕ วิชาบรู ณาการคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หน่วยที่ 3 เรื่อง อายนุ อ้ ยรอ้ ยร้าน เวลา ๖ ช่ัวโมง เรือ่ ง ซ้ือขาย การทอนเงนิ เวลา 1 ชวั่ โมง มาตรฐานการเรียนรู้ ค 2.1 ป.3/1 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกบั เงิน จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกจานวนเงนิ แบบใชจ้ ุดได้ (K) 2. เขยี นแสดงจานวนเงนิ แบบใช้จดุ ได้ถกู ต้อง (P) 3. อา่ นจานวนเงนิ แบบใชจ้ ดุ จากโจทย์ทกี่ าหนดใหไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง (P) สาระสาคัญ เงินเหรียญหรือธนบัตรแต่ละชนิด เมื่อนามารวมกนั จะมคี ่าของเงินรวมกนั ซงึ่ มจี านวนเปน็ บาทและ สตางค์ สามารถเขียนโดยใชจ้ ดุ คน่ั ระหวา่ งจานวนบาทและสตางค์ สาระการเรียนรู้ การบอกจานวนเงินและเขยี นแสดงจานวนเงินแบบใชจ้ ดุ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มน่ั ในการทางาน สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ความสามารถในการคดิ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นตอนท่ี 1 : เตรียมความพรอ้ ม 1. ครูให้นกั เรยี นท่องสตู รคณู โดยใชแ้ ก้วและตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลงั จาก น้นั ใหน้ ักเรียนคดิ เลขเร็วจานวน 3 ข้อ ขัน้ ตอนที่ 2 : เรยี นรู้ 2. ใหน้ กั เรยี นทบทวนประสบการณข์ องตนเองเกี่ยวกับการซ้ือสินคา้ ตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจาวัน โดยครูให้ผู้แทนนักเรียน 2-3 คน เล่าประสบการณ์ให้เพ่ือนฟังว่าซ้ืออะไรบ้าง ใช้อะไรในการซื้อ ส่ิงท่ี ใชใ้ นการซือ้ มลี กั ษณะอยา่ งไร จากนัน้ ครถู ามคาถามนักเรียน ดงั น้ี - เราใช้อะไรในการซื้อสินค้า (เงิน) - เงินท่ีใช้ในปัจจุบันมีลักษณะอย่างไร (เป็นเงินเหรียญ และธนบัตร) 3. ครูให้ผู้แทนนักเรียนครั้งละ 1 คน บอกชนิดของเงินเหรียญและธนบัตรที่นักเรียนรู้จัก
คนละ 1 ชนิด แล้วครูนาเงินเหรียญและธนบัตรจริงมาให้นักเรียนดูประกอบ 4. ครูนาธนบัตรและเงินเหรยี ญให้นักเรยี นดู ดงั น้ี ธนบัตรใบละห้ารอ้ ยบาท หนงึ่ ร้อยบาท ห้าสิบบาท และยี่สบิ บาท อย่างละ 1 ใบ และเงนิ เหรียญหา้ สิบสตางคแ์ ละยีส่ บิ สตางค์อยา่ งละ 1 เหรียญ แล้วใหน้ ักเรียนร่วมกันคดิ วา่ เปน็ จานวนเงินทัง้ หมด เทา่ ไร ให้นักเรยี นช่วยกันหาคาตอบ 5. ครนู าภาพสนิ คา้ พร้อมราคาจากส่ือโฆษณา หนงั สือพิมพ์ บนโตะ๊ ให้นกั เรียนเขียนจานวน เงนิ ของสนิ ค้าโดยใช้จุดลงในกระดาษ คาตอบละ 1 แผน่ ข้ันตอนที่ 3 : การฝึก 6. ครใู ห้นกั เรยี นบันทึกรายรบั รายจา่ ย เขยี นแสดงจานวนเงินแบบใชจ้ ุด ลงใช้ชดุ กิจกรรม ชอื่ สนิ ค้าของหนู 7. นักเรยี นรว่ มกันสรุปความรู้ การเขียนจานวนเงนิ โดยใช้จุดและการอ่าน โดยครถู ามคาถาม นกั เรยี น ดงั น้ี - ตวั เลขหนา้ จุดแทนจานวนเงนิ เปน็ หนว่ ยอะไร (บาท) - ตัวเลขหลงั จดุ แทนจานวนเงนิ เป็นหน่วยอะไร (สตางค)์ ขน้ั ตอนที่ 4 : การสรุป 8. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ส่ิงทไ่ี ด้เรยี นร้รู ว่ มกัน ดังน้ี เงนิ เหรียญและธนบัตร เป็นเงินทใี่ ช้ ในชวี ิตประจาวัน การบอกจานวนเงนิ ทาไดโ้ ดยการนาค่าของเงินทั้งหมดมารวมกนั ขั้นตอนท่ี 5 : การประยกุ ต์ใช้ทันที 9. ครใู ห้นักเรยี นทาแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ (ครู ผู้ปกครอง นกั เรยี นประเมินรว่ มกัน) วธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ สังเกตการทากจิ กรรม แบบสังเกตการทากจิ กรรม รอ้ ยละ 80-100 ดีมาก ร้อยละ 70-79 ดี การบนั ทกึ รายรับ รายจา่ ย การบันทกึ รายรับ รายจ่าย รอ้ ยละ 60-69 พอใช้ รอ้ ยละ 50-59 ควรปรบั ปรงุ สอื่ การเรยี นรู้ 1. ชดุ กจิ กรรม ซอ้ื ขาย การทอนเงิน
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 วชิ าบูรณาการสงั คมศกึ ษา ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หน่วยท่ี 2 เรื่อง อายุนอ้ ยร้อยรา้ น เวลา 6 ชั่วโมง เรอ่ื ง เป้าหมายของหนู เวลา 1 ชว่ั โมง มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลติ และการบริโภค การใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่ จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการเศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือการดารงชีวิตอยา่ งมดี ลุ ย ภาพ ตวั ช้วี ดั ป.3/2 วเิ คราะห์การใชจ้ ่ายของตนเอง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายหลักการเศรษฐกิจพอเพยี ง (K) 2. จาแนกการใชจ้ ่ายของตนเองในการวางแผนใช้จา่ ยเงนิ (P) 3. ตระหนักในการวางแผนใชจ้ า่ ยเงนิ ของตนเองอยา่ งเหมาะสม (A) สาระสาคญั การวางแผนใชจ้ ่ายเงนิ เป็นสงิ่ ที่จาเปน็ ต้องปฏบิ ตั ิ โดยคานงึ ถึงรายได้ ควรใชจ้ า่ ยนอ้ ยกว่ารายรับและ ทาบันทกึ การใชจ้ า่ ยของตนเอง ตามหลักการเศรษฐกิจพอเพยี ง สาระการเรยี นรู้ การวางแผนการใชจ้ า่ ยเงินตามหลักการเศรษฐกจิ พอเพียง คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ อยอู่ ยา่ งพอเพียง สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการแก้ปัญหา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครนู าสถานการณ์เล่าใหน้ ักเรยี นฟัง พ่อได้รับเงินเดือน 20,000 บาท แบ่งเป็ นค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ดังน้ี ค่าอาหาร 6,000 บาท ออมเงินกบั ธนาคาร 6,000 บาท ค่าใชจ้ ่ายในบา้ น 5,000 บาท ค่า ขนมบุตร 1,000 บาท คา่ ใชจ้ ่ายยามเจบ็ ป่ วย 2,000 บาท ให้นักเรียนรว่ มกันสนทนาเกี่ยวกับสถานการณท์ ก่ี าหนดให้ โดยครใู ช้คาถาม ดังน้ี • พ่อมีรายได้เปน็ เงนิ เดือนจานวนก่ีบาท (20,000 บาท) • รายจ่ายในครอบครัวทพ่ี ่อต้องจา่ ยมีอะไรบา้ ง (คา่ อาหาร ค่าใช้จา่ ยในบ้าน
คา่ ขนมบุตร ค่าใชจ้ า่ ยยามเจบ็ ป่วย) • พ่อมเี งินออมหรือไม่ อย่างไร (มเี งนิ ออมทฝี่ ากไว้ในธนาคารเดอื นละ 6,000 บาท) • นกั เรียนคดิ ว่า ถา้ ครอบครัวไมม่ ีเงนิ เหลอื เก็บจะเกดิ ผลเสียอย่างไร (ตวั อย่างคาตอบ จะไมม่ ีเงนิ เหลือไว้ใช้ในยามจาเปน็ ) • ทกุ วนั น้ี นกั เรยี นมรี ายรับจากใคร (จากผ้ปู กครอง) • ในเมือ่ นักเรยี นยงั ไม่สามารถหารายได้เองได้ นักเรียนจะใช้จา่ ยเงินอย่างไร (ใช้จา่ ย อยา่ งประหยัด ร้จู กั การเก็บออม) 2. ครเู ลอื กผูแ้ ทนนกั เรยี นออกมาเลา่ ประสบการณ์เก่ยี วกับการใช้จ่ายของตนเองภายใน 1วัน โดยครูใชค้ าถาม ดังนี้ • นักเรยี นได้รบั เงินมาโรงเรียนวันละกีบ่ าท (ตวั อยา่ งคาตอบ 50 บาท) • นกั เรียนนาเงนิ ไปซ้ือสง่ิ ใดบา้ ง (ตวั อยา่ งคาตอบ อาหาร ขนม นา้ ด่มื ) • นักเรียนมีเงนิ เหลือหรือไม่ จานวนกี่บาท (ตัวอย่างคาตอบ เหลือเงินจานวน 15 บาท) • ถา้ มีเงินเหลือนกั เรยี นจะทาอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ นาไปหยอดกระปุกออมสนิ ) ทาใหม้ ีรายรับพอกบั รายจ่าย สามารถควบคุมการใชจ้ า่ ยได้ ประโยชน์ของ การวางแผน การใช้จ่ายเงิน ทาใหม้ ีเงินเหลือเกบ็ ออม 3. ใหน้ ักเรยี นและครรู ว่ มกันสรุปความรู้ ดงั นี้ การวางแผนการใช้จ่ายเงิน โดยการทาบัญชีรายรับ - รายจ่าย ทาให้สามารถวิเคราะห์ และรู้จกั วางแผน•วิธีการใช้จ่ายของตนเองได้อยา่ งเหมาะสม 4. ให้นักเรียนทาใบงานบรู ณาการ เรอื่ ง เปา้ หมายของหนู การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ (ครู ผู้ปกครอง นักเรยี นประเมนิ ร่วมกนั ) จุดประสงค์ วิธปี ระเมนิ เคร่ืองมอื เกณฑ์ 1. อธิบายหลักการเศรษฐกจิ พอเพียง ตรวจใบงานบูรณาการ ใบงานบูรณาการ เรื่อง นักเรยี นอธบิ าย (K) เรอ่ื ง เป้าหมายของหนู เปา้ หมายของหนู หลักการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผา่ นใบงาน ร้อยละ 60 ขึ้นไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ 2. จาแนกการใชจ้ ่ายของตนเองใน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรียนจาแนกการ การวางแผนใชจ้ ่ายเงิน (P) ใช้จา่ ยของตนเองใน การวางแผนใช้
3. ตระหนกั ในการวางแผนใช้ แบบสงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤตกิ รรม จ่ายเงิน ระดบั 3 ขอ้ จ่ายเงินของตนเองอยา่ งเหมาะสม ขึ้นไปถือว่าผา่ น (A) เกณฑ์ นักเรยี นมีพฤตกิ รรม ระดับดีข้นึ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ ส่ือการเรียนรู้ 1. สถานการณ์ รายรับ-รายจา่ ยของครอบครวั
บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ สรุปผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 1.นักเรยี นจานวน 60 คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 60 คน คดิ เป็นร้อยละ ๑๐๐ ไมผ่ า่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - คน คิดเป็นร้อยละ 0 2. แนวทางแกไ้ ขนกั เรียนท่ีไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - 3.คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ไมผ่ า่ น - คน ผ่าน 10 คน ดี 35 คน ดเี ย่ียม 15 คน ระดบั ดีขน้ึ ไป ร้อยละ 83.33 4. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน ไมผ่ า่ น - คน ผา่ น 10 คน ดี 35 คน ดเี ย่ียม 15 คน ระดับดขี น้ึ ไป ร้อยละ 83.33 5.นกั เรยี นเกิดทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทาเครอื่ งหมาย ในชอ่ งว่างที่ตรงกับทักษะทีเ่ กิด 3R อ่านออก เขียนได้ มีทักษะในการคานวณ 8C การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปัญหา การสรา้ งสรรค์ ความเขา้ ใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ การสื่อสาร ดา้ นความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทมี และภาวะผ้นู า ทกั ษะการเปลีย่ นแปลง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร ทักษะอาชีพ และทกั ษะการเรยี นรู้ ผลการจัดการเรยี นการสอน/ปัญหา/ อุปสรรค และแนวทางแก้ไข แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอื่ ง หลกั ในการเลอื กสนิ ค้าและบรกิ าร นกั เรยี น อธิบายสนิ ค้าและการบริการท่ีเป็นความต้องการของมนุษย์ จาแนกสินค้าและการบรกิ ารที่ เป็นความตอ้ งการของมนษุ ย์ และ ตระหนักและรู้คณุ ค่าในการใชส้ ินคา้ ตามความต้องการทีเ่ หมาะสม แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เรือ่ ง ช่ือสินคา้ ของหนู นักเรียน อา่ นสะกดคาอุปกรณ์นา่ รู้ได้ถูกต้อง บอกความหมายของคาศัพท์ชือ่ สนิ ค้าไดถ้ ูกตอ้ ง อา่ น ออกเสยี งและสะกดคาศัพท์ช่ือสนิ คา้ ไดถ้ ูกต้อง เขยี นบรรยายโฆษณาสินคา้ ได้ถกู ต้อง และ จาแนกประเภท ของสินค้าได้ถกู ต้อง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง วางแผนการคา้ นกั เรียน เรียงลาดับเหตุการณ์ไดต้ ามลาดบั ขัน้ ตอน และ เรยี งลาดับเหตกุ ารณ์ในชวี ิตประจาวันได้ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง ออกแบบโลโก้ นกั เรยี น อธบิ ายความหมายของความร้สู ึกท่ีมตี ่อธรรมชาติ และส่งิ แวดล้อมรอบตัว จาแนกประเภทของ ความรู้สกึ ลงในแผนภาพ และ เหน็ ประโยชน์ของการจาแนกประเภทของความรู้สกึ ลงในแผนภาพ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 5 เรอ่ื ง การทอนเงิน นักเรียน บอกจานวนเงินแบบใช้จุดได้ เขียนแสดงจานวนเงินแบบใช้จุดได้ถูกต้อง และ อ่านจานวน เงนิ แบบใช้จุดจากโจทยท์ กี่ าหนดให้ไดถ้ ูกต้อง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 6 เรื่อง เป้าหมายของหนู นักเรยี น อธบิ ายหลักการเศรษฐกจิ พอเพียง จาแนกการใช้จา่ ยของตนเองในการวางแผนใชจ้ ่ายเงิน และ ตระหนักในการวางแผนใช้จา่ ยเงนิ ของตนเองอยา่ งเหมาะสม
รายช่ือครูผู้สอน ลายมอื ชือ่ นางสาวจีรวรรณ ปฏวิ งศ์ นางสาวสาวิตรี หม่ืนหาญ นางสาววรรณภา เคนไชยวงค์ นางสาวจารวี อาจเดช นางณฐั นันท์ เสริมศาสตร์ นางสาวหทัยรัตน์ ราชเสนา นางสาวกมลชนก กาญจนจันทร์ นางสาวจริ ะพันธ์ุ ปากวเิ ศษ นางสาววรรณนษิ า พมุ่ อุไร ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศกึ ษา ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………...........…………… ลงชอ่ื …………………………………………………… (นางสาวกันยาภทั ร ภัทรโสตถิ) ผูอ้ านวยการโรงเรียนวดั พืชนิมติ (คาสวสั ด์ิราษฎร์บารงุ ) 11/ตลุ าคม /๒๕๖4
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: