แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชพี (Individual Development Plan-ID Plan) 1
แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชพี (Individual Development Plan-ID Plan) 2 บนั ทกึ ขอ้ ความ สว่ นราชการ โรงเรยี นวัดพืชนิมติ (คำสวสั ดิร์ ำษฎร์บำรุง) อำเภอคลองหลวง จงั หวดั ปทุมธำนี ที่ / 2564 วันที่ 17 พฤษภำคม 2564 เร่อื ง ขออนมุ ัติแผนพฒั นำตนเองและพัฒนำวิชำชีพ (Individual Development Plan : ID Plan) ปีกำรศกึ ษำ 2564 เรยี น ผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี นวัดพืชนมิ ติ (คำสวสั ด์ริ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมท่ีโรงเรียนได้มอบหมำยให้คณะครูทกุ คนจัดทำแผนพฒั นำตนเอง (Individual Development Plan : ID Plan) ประจำปีกำรศึกษำ 2564 เพ่ือให้เกิดกำรวำงแผนในกำรปฏิบัติงำนให้เกิดประสิทธิภำพ ประสิทธิผล เกดิ ผลดีแก่ตนเองและรำชกำร ดังน้ัน ข้ำพเจ้ำ นำงสำวจิระพันธ์ุ ปำกวิเศษ ตำแหน่ง ครู ได้จัดทำแผนพัฒนำตนเองรำยบุคคล (Individual Development Plan : ID Plan) ประจำปกี ำรศึกษำ 2564 เรยี บรอ้ ยแล้ว รำยละเอียดดังแนบ จงึ เรียนมำเพ่ือโปรดพจิ ำรณำ ลงชอ่ื ...................................................... (นำงสำวจริ ะพนั ธุ์ ปำกวิเศษ) ตำแหน่ง ครู ความเหน็ ผู้อานวยการโรงเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชือ่ ........................................................... (นำงสำวกันยำภัทร ภัทรโสตถิ) ผู้อำนวยกำรโรงเรียนวดั พืชนิมิต(คำสวัสดิร์ ำษฎรบ์ ำรงุ )
แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ (Individual Development Plan-ID Plan) 3 คำนำ ตำมที่ ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีกำรพัฒนำข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ สำยงำน กำรสอน (ว22/2560) เพ่ือให้ข้ำรำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำเข้ำรับกำรพัฒนำอย่ำงเป็นระบบต่อเน่ือง ทุกปี โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎำคม 2560 เป็นต้นไปนั้น โดยกำหนดหลักเกณฑ์ ให้ข้ำรำชกำรครูและ บุคลำกรทำงกำรศึกษำ ต้องได้รับกำรพัฒนำอย่ำงต่อเนื่องทุกปี โดยให้ประเมินตนเองตำมแบบ ที่ ก.ค.ศ. กำหนด พร้อมท้ังจัดทำแผนกำรพัฒนำตนเองเป็นรำยปี ตำมแบบที่ส่วนรำชกำรกำหนด และเข้ำรับกำรพัฒนำตำมแผน อย่ำงเปน็ ระบบและต่อเนอื่ ง กระทรวงศึกษำธิกำร มุงเนนใหครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ พัฒนำตนเองโดยยึดหลักกำรประเมิน สมรรถนะ (Competency Based Approach) เพื่อใหผูปฏิบัติงำนสำมำรถรูจุดเดน จุดดอยของควำมสำมำรถใน กำรปฏิบัติงำนของตน และสำมำรถพัฒนำตนเองใหสอดคลองกับควำมตองกำรจำเปนของของหนวยงำนและของ ตนเองอยำงแทจริง ดังนั้นครูจึงตองมีกำรวำงแผนกำรพัฒนำตนเองในกำรจัดหองเรียนที่มีคุณภำพ (Individual Development Planning : ID Plan) เพื่อเปนกำรพัฒนำท่ีสนองตอบ ตองกำรแตละบุคคล สนองควำมสนใจใน รูปแบบวิธีกำรพัฒนำ ก็จะสงผลตอสมรรถนะในกำรปฏิบัติหนำท่ีที่มีประสิทธิภำพตอไป และเปนกำรพัฒนำที่ ต่อเน่ืองจนทำใหกำรปฏิบัติหนำท่ีมีควำมสมบูรณ มีประสิทธิภำพและเกิดประสิทธิผลในกำรปฏิบัติงำน อันนำไป สูกำรพัฒนำตนเองใหเปนครูมืออำชีพท่ีมีมำตรฐำนในกำรปฏิบัติงำนอยำงแทจริง สำมำรถตรวจสอบได และ พฒั นำสูควำมเปนวชิ ำชีพตอไป นำงสำวจิระพันธุ์ ปำกวเิ ศษ ผจู้ ัดทำ
แผนพฒั นาตนเองและพฒั นาวชิ าชีพ (Individual Development Plan-ID Plan) 4 สารบัญ หน้า เรือ่ ง 1 4 สว่ นท่ี 1 ข้อมลู ส่วนบคุ คล/กำรปฏบิ ัตหิ นำ้ ท่ใี นตำแหนง่ ปจั จุบัน 7 สว่ นที่ 2 ผลกำรประเมินตนเอง 17 สว่ นที่ 3 แผนกำรพัฒนำตนเอง ปกี ำรศึกษำ 2563 18 ส่วนท่ี 4 ควำมต้องกำรในกำรพัฒนำ สว่ นท่ี 5 คำรับรอง
แผนพัฒนาตนเองและพฒั นาวชิ าชพี (Individual Development Plan-ID Plan) 5 ส่วนที่ 1 ข้อมลู ส่วนบคุ คล แผนพัฒนาตนเอง (Individual Development Plan: ID PLAN) สว่ นที่ 1 ขอ้ มูลส่วนบคุ คล ช่ือ นำงสำวจริ ะพันธุ์ ปำกวเิ ศษ ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐำนะ - วุฒกิ ำรศกึ ษำ ปรญิ ญำตรี หรอื เทยี บเท่ำ วชิ ำเอก สถติ ิ ปริญญำโท หรอื เทียบเท่ำ วิชำเอก คณติ ศำสตรศึกษำ ปริญญำเอก หรือเทยี บเท่ำ วชิ ำเอก - อ่ืน ๆ (โปรดระบ)ุ - เข้ารบั ราชการวนั ท่ี ๑๕ กุมภำพันธ์ ๒๕๕๙ สังกัด สำนักงำนเขตพืน้ ที่กำรศึกษำประถมศึกษำปทมุ ธำนี เขต 1 อายุราชการจนถึงปัจจุบัน ๕ ปี ๓ เดอื น เงินเดอื น ๒๒,๔๕๐ บำท สถานทท่ี างาน โรงเรียนวดั พชื นิมิต (คาสวัสดร์ิ าษฎร์บารุง) สงั กัด สำนกั งำนเขตพื้นทกี่ ำรศกึ ษำประถมศึกษำปทุมธำนี เขต 1 ท่ีอยู่ปัจจบุ นั 1. งานในหน้าที่ท่รี บั ผิดชอบ วิชา/สาขา/กิจกรรม/กลุ่มสาระการเรยี นรทู้ ่ที าการสอน ที่ รหัสวชิ า ชือ่ วิชา ชนั้ จานวนห้อง จานวนช่ัวโมง / สัปดาห์ ๑ ค ๑๒๑๐๑ คณติ ศำสตร์ ป.๒/๒ ๑ ๕ ๒ ค ๑๓๑๐๑ คณติ ศำสตร์ ป.๓ ๒ ๑๐ ๓ แนะแนว ป.๓/๒ ๑ ๑ ๔ ชมุ นมุ ป.๓/๒ ๑ ๑ ๕ ลูกเสอื เนตรนำรี ป.๓/๒ ๑ ๑ ๖ วถิ พี ทุ ธ ป.๓/๒ ๑ ๑ 2. งานพเิ ศษทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ภาระงาน งานสนบั สนุนการจดั เรยี นรู้ และ งานตอบสนองนโยบายและจดุ เน้นของรฐั บาล สพฐ. หรอื กระทรวงศกึ ษาธิการ ท่ี รายการงานพเิ ศษท่ีไดร้ บั มอบหมาย/ภาระงาน 1 ครปู ระจำชั้นประถมศึกษำปที ี่ ๓/๒ 2 หวั หน้ำเจ้ำหน้ำทพี่ สั ดุ 3 ผู้ดแู ลสหกรณ์ร้ำนคำ้
แผนพฒั นาตนเองและพฒั นาวชิ าชีพ (Individual Development Plan-ID Plan) 6 ผลงาน ที่เกิดจำกกำรปฏิบัติหน้ำทใ่ี นตำแหนง่ ปจั จุบัน 1. ผลที่เกิดจำกกำรจัดกำรเรียนรู้ 1.1 ร่วมกับคณะครูจัดทำหลักสูตรสถำนศึกษำ วิเครำะห์หลกั สูตร จดั ทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ และนำ แผนกำรจดั กำรเรยี นรไู้ ปใช้ในกำรจัดประสบกำรณ์ให้กับนักเรยี น 1.2 ครูมีกำรวำงแผนกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้อย่ำงเป็นระบบมีกำรจัดกำรเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็น สำคญั โดยใช้สือ่ ท่ีหลำกหลำย เนน้ กระบวนกำรคิด 1.3 มีกำรวดั และประเมินผลกำรเรียนรู้ตำมสภำพจริง โดยใช้เคร่อื งมืออยำ่ งหลำกหลำยและนำผลไปใช้ ในกำรพัฒนำผู้เรียน 1.4 นักเรียนมีระดับผลกำรเรยี นต้งั แต่ 2.๕ ข้ึนไป คิดเปน็ ร้อยละ 6๙.๒๓ ผลกำรทดสอบระดับชำติข้ัน พื้นฐำน (NT) ในกลมุ่ สำระกำรเรียนรูค้ ณติ ศำสตร์ ระดบั ชั้น ป.3 ปีกำรศึกษำ 256๓ สูงกวำ่ ระดบั ประเทศ ได้ดำเนินกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ให้กับนักเรียน โดยร่วมกับคณะครูจัดทำหลักสูตรสถำนศึกษำระดับ ประถมศึกษำ วิเครำะห์หลักสูตร จัดทำแผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ และนำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ไปใช้ในกำรจัดกำร เรยี นกำรสอนให้กับนักเรียน มีกำรวดั ผลประเมนิ ผลตำมสภำพจรงิ โดยใชแ้ ฟ้มสะสมผลงำน ช้ินงำน แบบฝึก โดย กำรวัดผลประเมนิ ผลดงั กลำ่ วครอบคลุมทกุ ๆ ด้ำน ไดแ้ ก่ ด้ำนควำมรู้ กำรปฏิบัติ กระบวนกำรและคณุ ลักษณะที่ พึงประสงค์ ท้ังน้ีเพื่อสง่ เสริมพฒั นำกำรของนักเรียนทั้ง 4 ด้ำน ไดแ้ ก่ ด้ำนร่ำงกำย อำรมณ์ จิตใจ สงั คม และ สติปัญญำ และมีคุณธรรม จรยิ ธรรม ทั้งน้ีเพื่อให้นักเรียนมีพัฒนำกำร ท่ีดีมีคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ ตลอดจนมี กำรบันทึกหลังกำรจัดกิจกรรมกำรสอนอย่ำงสม่ำเสมอ ทั้งน้ีเพื่อจะได้ช่วยแก้ไขข้อบกพร่องให้กับนักเรียนท่ีมี ปญั หำ 2. ผลท่เี กิดจำกกำรพฒั นำวชิ ำกำร 2.1 มีกำรจัดหำ พฒั นำ ประยกุ ต์ใชส้ ือ่ นวัตกรรมในกำรจดั กำรเรียนรู้ สำมำรถนำไปใช้ไดผ้ ลดี 2.2 กำรใชค้ วำมคดิ เชิงระบบในกำรพัฒนำงำนอยำ่ งครบวงจร และมปี ระสิทธิภำพอย่ำงต่อเนือ่ ง 2.3 กำรนำควำมร้ดู ้ำนเทคโนโลยีสำรสนเทศมำพฒั นำระบบกำรเรยี นรู้ได้ 2.4 กำรสง่ เสริมกำรคิดท่เี น้นผลคณุ ภำพทตี่ ัวผู้เรียน 2.5 กำรนำวิธกี ำรวิจยั และพฒั นำมำแกป้ ญั หำ พรอ้ มท้งั พัฒนำงำนอย่ำงครบวงจร ผลที่เกิดจำกกำรพัฒนำตนเองทำงด้ำนวิชำกำร ส่งผลให้ตนเองได้รับกำรปรับวุฒิกำรศึกษำให้สูงขึ้นและ ผำ่ นประเมินพฒั นำอยำ่ งเข้มเป็นตำแหน่ง ครู โดยพัฒนำผู้เรียนด้ำนคุณธรรม จริยธรรมควำมมีวินัยในตนเอง ซึ่งมี ผลงำนเป็นทป่ี ระจักษ์ ตลอดจนได้ร่วมพัฒนำบุคลำกรในโรงเรียน โรงเรยี นมีกำรเปล่ียนแปลงไปในทำงที่ดีข้ึนโดย บคุ ลำกรในโรงเรียน และโรงเรียนเป็นท่ียอมรับของบุคคลท่ัวไปและหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง โดยมีกำรเผยแพร่ผลงำน ทำงดำ้ นวชิ ำกำร นอกจำกนน้ั โรงเรยี นยังสนบั สนุนและสง่ เสริมใหบ้ ุคลำกรได้พัฒนำสอ่ื และนวัตกรรม 3. ผลท่ีเกดิ กบั ผู้เรยี น 3.1 นกั เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม และมคี ุณลักษณะอนั พึงประสงค์ตำมสถำนศึกษำกำหนด 3.2 นกั เรยี นมผี ลสมั ฤทธ์ทิ ำงกำรเรียนผ่ำนเกณฑก์ ำหนดของโรงเรียน
แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวชิ าชพี (Individual Development Plan-ID Plan) 7 3.3 นักเรียนได้รับกำรพัฒนำทันต่อควำมก้ำวหน้ำทำงวิชำกำรและกำรเปลี่ยนแปลงทำงด้ำนเศรษฐกิจ และสงั คม กำรจัดกิจกรรมกำรกำรเรียนกำรสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีกำรให้นักเรียนได้ฝึกกำรปฏิบัติจริง เพ่ือให้นักเรียนได้มีทักษะต่ำงๆ ตลอดจนสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงำม ควำมมีวินัยในตนเอง ส่งผลให้ ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรม มีวินัยในตนเอง มีสัมมำคำรวะมีมำรยำทตำมวัฒนธรรมไทย มีควำมสำมำรถในกำรใช้ ภำษำในกำรสื่อสำร และกำรมีจินตนำกำรและควำมคิดสร้ำงสรรค์ ซ่ึงเป็นส่ิงท่ีผู้เรียนสำมำรถนำควำมรู้ควำม เข้ำใจและทักษะไปบรู ณำกำรและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวนั เปน็ กำรเพิ่มพนู สมรรถนะตนเองให้มำกขน้ึ และสง่ ผล ให้กำรใช้ชีวิตภำยหน้ำ บนพื้นฐำนคุณธรรม นำควำมรู้ และเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนกำรอยู่ร่วมกันในสังคมได้ อย่ำงมีควำมสุข 4. ผลที่เกิดกับสถำนศึกษำ 4.1 สถำนศึกษำได้รับกำรสนบั สนนุ จำกผปู้ กครอง ชมุ นุม หน่วยงำน องคก์ รต่ำงๆ 4.2 มบี รรยำกำศทั้งในและนอกห้องเรียนทเ่ี อื้อต่อกำรเรียนรู้ของครูและผู้เรยี น 4.3 เปน็ แหลง่ เรียนร้ขู องสถำนศึกษำหรอื หนว่ ยงำนตำ่ งๆ 4.4 กำรนเิ ทศติดตำมผลกำรปฏิบัติงำนของครูทำให้กำรปฏิบัติงำนมีควำมสมบูรณ์ และเป็นไปตำมเวลำท่ี กำหนด 4.5 มีระบบกำรทำงำนเป็นทีมมำกขนึ้ 4.6 มแี นวปฏิบตั ิด้ำนเอกสำร หลกั ฐำนทำงกำรศกึ ษำทถ่ี ูกต้อง 4.7 กำรพัฒนำงำนมรี ะบบถูกตอ้ งและครบวงจร จำกกำรท่ีสถำนศึกษำมีกำรวำงแผนปฏิบัติรำชกำรในกำรพัฒนำ มีเป้ำหมำย มีทิศทำงในกำรดำเนินงำน เพ่อื พัฒนำสถำนศกึ ษำ โดยมีกำรจดั กจิ กรรมโครงกำรต่ำงๆ อย่ำงเป็นรูปธรรม ซึ่งนักเรียนและครูมสี ่วนรว่ มในกำร ปฏิบตั ิกิจกรรม ทำให้ผลกำรดำเนนิ งำนเป็นท่ยี อมรบั ของผู้ปกครอง ชุมชน ทอ้ งถนิ่ 5. ผลทเ่ี กดิ กับชุมชน 5.1 ครู ผู้บรหิ ำร และผปู้ กครอง มกี ำรประชมุ ทุกภำคเรียน 5.2 ครู และผบู้ รหิ ำรรว่ มกจิ กรรมสำคญั ในชุมชนอยำ่ งสมำ่ เสมอ 5.3 โรงเรียนให้บริกำรแหล่งเรียนรู้แก่ชุมชนในด้ำนต่ำงๆ รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุนให้ชุมชนมีควำม เขม้ แข็ง 5.4 ชุมชนให้ควำมร่วมมอื และสนับสนนุ กิจกรรมตำ่ งๆ ของโรงเรียนดว้ ยดี สถำนศึกษำมีส่วนร่วมกับชุมชน ในกิจกรรมต่ำงๆ ตลอดปีกำรศึกษำ โดยเฉพำะกิจกรรมที่เกี่ยวกับ วฒั นธรรม ประเพณี และพิธีกรรมทำงศำสนำ เช่น ประเพณแี ห่เทียนเข้ำพรรษำ ประเพณลี อยกระทง ประเพณี สงกรำนต์ กำรทอดผ้ำป่ำ ทอดกฐิน เป็นต้น ตลอดจนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กิจกรรมวันสำคัญ ได้แก่ กิจกรรมวันแม่ กิจกรรมส่งเสริมภมู ิปัญญำท้องถิ่น จนทำให้เกิดควำมร่วมมือ ควำมเข้ำใจท่ีดีต่อกัน เกิดควำมรัก และควำมภำคภูมิใจในโรงเรียนและท้องถิ่น นอกจำกนี้โรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมกำรประชุมผู้ปกครอง ประชุม คณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพื้นฐำนในแต่ละภำคเรียนเพ่ือช้ีแจงนโยบำยของโรงเรียนและเพ่ือหำแนวทำงในกำร ร่วมพัฒนำโรงเรียนทงั้ พฒั นำอำคำรสถำนที่และพัฒนำทำงวชิ ำกำรใหเ้ ป็นไปในทำงทิศทำงเดยี วกนั
แผนพฒั นาตนเองและพัฒนาวชิ าชพี (Individual Development Plan-ID Plan) 8 ส่วนท่ี 2 ผลการประเมินตนเอง ตอนท่ี 1 ผลการประเมนิ ตนเองตามกรอบของ กคศ. ดา้ นท่ี 1 ความรคู้ วามสามารถในการปฏบิ ัติงานในหน้าท่ี รายการพจิ ารณาตนเอง ระดบั ความรู้ มีมาก ปานกลาง มนี อ้ ย 1. เนื้อหำ ในรำยวชิ ำ/กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ทสี่ อน 2. วธิ สี อน ถ่ำยทอดควำมรู้เชิงเนื้อหำ กิจกรรม บรบิ ท เปำ้ หมำยกำรเรียนรู้ ควำมร้พู ื้นฐำน กำรปรับพ้ืนฐำน และอุปสรรคกำรเรียนรู้ของผู้เรยี น 3. หลักกำรสอน และกระบวนกำรเรยี นรู้ 4. หลักสตู ร กำรออกแบบ วำงแผนกำรใช้ ประเมิน และแนวทำงกำร เรยี นรใู้ นแต่ละเนื้อหำ 5. พ้นื ฐำนกำรศกึ ษำ หลักกำรศึกษำ ปรชั ญำกำรศึกษำ จิตวทิ ยำสงั คม นโยบำยกำรศึกษำ จุดมุ่งหมำยกำรจัดกำรศึกษำตัง้ แต่ระดับชำตจิ นถงึ ระดบั หลกั สูตร 6. กำรจัดกำรศึกษำแบบรวม และกำรตอบสนองต่อควำมหลำกหลำยของ ผเู้ รยี น 7. ทฤษฎีกำรเรยี นรู้ และจิตวิทยำกำรเรยี นรู้ 8. กำรใชเ้ ทคโนโลยี และสอ่ื นวตั กรรมเพื่อกำรเรียนรู้ 9. กำรวดั และประเมินผลกำรเรียนรู้ ด้านท่ี 2 ทกั ษะการปฏบิ ัติงาน ระดับความสามารถ รายการพจิ ารณาตนเอง ทาได้ดี พอใช้ ไม่ค่อยได้ทา 1.กำรสร้ำงและหรอื พัฒนำหลักสตู ร (3) (2) (1) 2. กำรออกแบบหน่วยกำรเรียนรู้ 3. กำรจัดทำแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ 4. กลยุทธใ์ นกำรจดั กำรเรียนรู้ 5. กำรสรำ้ งและกำรพัฒนำสื่อ นวตั กรรม เทคโนโลยีทำงกำรศกึ ษำและ แหล่งเรยี นรู้ 6. กำรวัดและประเมินผลกำรเรยี นรู้ 7. กำรวิจยั เพ่อื พฒั นำคุณภำพผู้เรียน
แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวชิ าชีพ (Individual Development Plan-ID Plan) 9 ดา้ นที่ 3 ความเป็นครู ระดับความเปน็ ครู รายการพิจารณาตนเอง สงู มาก ปานกลาง ยงั ตอ้ งปรบั ปรงุ 1. ยดึ ม่ัน ผกู พนั ศรัทธำในวิชำชพี และทุ่มเทเพ่ือกำรเรยี นรู้ของผ้เู รยี น (3) (2) (1) 2. มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และปฏบิ ัตติ นเปน็ แบบอยำ่ งที่ดแี ก่ผ้เู รยี น ท้ังกำย วำจำ และจิตใจ ดำรงตนใหเ้ ป็นทเ่ี คำรพ ศรัทธำ และน่ำเชอื่ ถือ ท้ังใน และนอกสถำนศึกษำ 3. ปฏิบตั ติ นตำมจรรยำบรรณวิชำชพี ครู 4. มีวนิ ยั และกำรรักษำวนิ ัย 5. เปน็ บคุ คลแห่งกำรเรยี นรู้ ปรับปรงุ และพฒั นำตนเองอยำ่ งต่อเน่ือง ใหม้ คี วำมร้คู วำมชำนำญในวิชำชพี เพม่ิ ขึ้น 6. ปฏบิ ตั ิตนโดยนำหลกั ปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพยี งมำใช้ 7. มที ัศนคตทิ ดี่ ตี ่อบ้ำนเมือง ตอนที่ 2 ผลการประเมินศักยภาพของผเู้ รยี นในสถานศึกษาตามจดุ เน้นของ สพฐ. รายการศักยภาพผ้เู รยี นตามจุดเนน้ ระดบั ศักยภาพ สงู มาก ปานกลาง ยงั ตอ้ งปรบั ปรุง 1. ด้ำนอ่ำนออก อ่ำนคล่อง เขียนได้ เขียนคล่อง 2. ดำ้ นคดิ เลขเป็น คิดเลขคลอ่ ง 3. ด้ำนกำรคดิ ข้นั พ้นื ฐำน 4. ด้ำนกำรคิดขน้ั สงู (เชงิ เหตุผล Coding) 5. ดำ้ นกำรสอื่ สำรอยำ่ งสรำ้ งสรรคต์ ำมชว่ งวยั 6. ดำ้ นกำรใช้ภำษำต่ำงประเทศ (ภำษำองั กฤษ) 7. ดำ้ นกำรใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือกำรเรยี นรู้ 8. ด้ำนกำรแสวงหำควำมรดู้ ว้ ยตนเอง 9. ทักษะผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 10. กำรสรำ้ งนวตั กรรม 11. ด้ำนทักษะชวี ติ 12. ดำ้ นอย่อู ยำ่ งพอเพยี ง มุ่งมัน่ ในกำรศึกษำและกำรทำงำน
แผนพัฒนาตนเองและพฒั นาวชิ าชีพ (Individual Development Plan-ID Plan) 10 ตอนที่ 3 ผลการประเมนิ ศาสตรก์ ารสอน ตามกรอบแนวคดิ ของหลกั สตู รของสถาบันครุ ุพัฒนา รายการศกั ยภาพผู้เรยี นตามจดุ เน้น ระดบั ศกั ยภาพ 1 กำรสอนในศตวรรษท่ี 21 สูงมาก ปานกลาง ยงั ต้องปรบั ปรุง 2 กำรแก้ปัญหำผู้เรยี น 3 จติ วิทยำกำรแนะแนว/จิตวทิ ยำกำรจดั กำรเรียนรู้ 4 กำรจัดกำรช้นั เรยี น 5 กำรวจิ ยั พฒั นำกำรเรียนกำรสอน/ชมุ ชนแหง่ กำรเรียนร้ทู ำงวชิ ำชพี 6 กำรพฒั นำหลกั สูตร 7 สะเต็มศึกษำ(STEM Education) 8 กำรใช้ส่ือและเทคโนโลยีในกำรจดั กำรเรียนรู้ 9 กำรวดั และประเมินผลกำรเรียนรู้ 10 กำรออกแบบกำรเรียนรู้ สรปุ ผลการประเมินตนเอง ตอนท่ี 1 ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. ดา้ นที่ 1 ความรู้ความสามารถในการปฏบิ ัติงานใน - อยู่ในระดับ มมี ำก ดา้ นที่ 2 ทกั ษะการปฏบิ ัตงิ าน - อยู่ในระดับ ทำได้ดี ดา้ นท่ี 3 ความเปน็ ครู - อยู่ในระดบั สงู มำก ตอนที่ 2 ผลการประเมนิ ศกั ยภาพของผเู้ รยี นในสถานศึกษาตามจดุ เนน้ ของ สพฐ. - อยูใ่ นระดับ สงู มำก ตอนท่ี 3 ผลการประเมนิ ศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคดิ ของหลักสตู รของสถาบันคุรุพฒั นา - อยู่ในระดับ สูงมำก
แผนพัฒนาตนเองและพฒั นาวชิ าชีพ (Individual Development Plan-ID Plan) 11 ส่วนท่ี 3 แผนการพัฒนาตนเอง ส่วนที่ 3 แผนการพฒั นาตนเอง ปีการศึกษา ๒๕๖๔ (ใหใ้ สห่ มำยเลขเรียงตำมลำดับควำมสำคญั ของสมรรถนะทจ่ี ะ พฒั นำ) ท่ี สมรรถนะท่ีจะพฒั นา อันดับความสาคัญ 1 สมรรถนะหลัก 1 การม่งุ ผลสัมฤทธ์ิ ๘ ๔ 1.1 ควำมสำมำรถในกำรวำงแผนกำรปฏบิ ตั ิงำน 1.2. ควำมสำมำรถในกำรปฏิบัตงิ ำน ๕ 1.3. ผลกำรปฏิบัตงิ ำน ๙ 2 การบรกิ ารทด่ี ี 2.1 ควำมสำมำรถในกำรสร้ำงระบบกำรใหบ้ ริกำร 2.2 ควำมสำมำรถในกำรใหบ้ ริกำร 3 การพัฒนาตนเอง 3.1ควำมสำมำรถในกำรวิเครำะห์ตนเอง 3.2 ควำมสำมำรถในกำรภำษำไทยเพ่ือกำรส่ือสำร 3.3 ควำมสำมำรถในกำรใช้ภำษำอังกฤษเพือ่ กำรแสวงหำควำมรู้ 3.4 ควำมสำมำรถในกำรติดตำมควำมเคลอื่ นไหวทำงวชิ ำกำรและวชิ ำชีพ 3.5 ควำมสำมำรถในกำรประมวลควำมรูแ้ ละกำรนำควำมรไู้ ปใช้ 4 การทางานเปน็ ทมี 4.1 ควำมสำมำรถในกำรวำงแผนเพ่ือกำรปฏบิ ัติงำนเป็นทีม 4.2 ควำมสำมำรถในกำรปฏิบตั ิงำนรว่ มกัน 5 จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชพี ครู 5.1 มีควำมรกั และศรทั ธำในวชิ ำชีพ 5.2 มีวนิ ัยและควำมรบั ผิดชอบตอ่ วชิ ำชีพ 5.3 มีกำรดำรงชวี ติ อย่ำงเหมำะสม
แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวชิ าชีพ (Individual Development Plan-ID Plan) 12 ที่ สมรรถนะทจี่ ะพัฒนา อันดับความสาคญั ๒ สมรรถนะประจาสายงาน 1. การบริหารหลักสตู รและการจัดการเรยี นรู้ 1.1 กำรสร้ำงและพฒั นำหลกั สตู ร 1.2 ควำมสำมำรถในกำรออกแบบกำรเรียนรู้ 1.3 กำรจดั กำรเรยี นรทู้ เี่ นน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ 1.4 กำรใชแ้ ละพัฒนำสือ่ นวตั กรรมเทคโนโลยีเพ่ือกำรจดั กำรเรียนรู้ 1.5 กำรวัดและประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ 2. การพฒั นาผู้เรียน ๖ 2.1 กำรปลกู ฝงั คณุ ธรรมจริยธรรมใหก้ บั ผเู้ รยี น 2.2 กำรพัฒนำทักษะชวี ติ และสุขภำพกำยสุขภำพจิตผู้เรยี น 2.3 กำรปลูกฝังควำมเปน็ ประชำธิปไตยควำมภูมิใจในควำมเปน็ ไทยใหแ้ ก่ผู้เรียน 2.4 กำรจดั ระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี น 3. การบริหารจัดการชั้นเรยี น ๗ 3.1 ควำมสำมำรถในกำรจัดบรรยำกำศกำรเรยี นรู้ ๓ 3.2 ควำมสำมำรถในกำรจดั ทำข้อมลู สำรสนเทศและเอกสำร ฯ 3.3 ควำมสำมำรถในกำรกำกับดูแลชั้นเรยี น ๑๑ 4. การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์และการวจิ ัยในชนั้ เรียน 4.1ควำมสำมำรถในคดิ กำรวเิ ครำะห์ 4.2ควำมสำมำรถในกำรสังเครำะห์ 4.3 ควำมสำมำรถในกำรเขยี นเอกสำรทำงวิชำกำร 4.4 ควำมสำมำรถในกำรวิจัย 5. ภาวะผนู้ าครู 5.1 วุฒภิ ำวะควำมเปน็ ผู้นำ 5.2 กำรสนทนำอยำ่ งสร้ำงสรรค์ 5.3 กำรเป็นบุคคลแห่งกำรเรยี นรู้ทนั ตอ่ กำรเปลีย่ นแปลง 5.4 กำรปฏบิ ัตงิ ำนอยำ่ งไตร่ตรอง 5.5 กำรม่งุ พฒั นำผลสัมฤทธ์ิผูเ้ รยี น 6. การสรา้ งความสัมพนั ธแ์ ละความรว่ มมอื กับชุมชนเพอ่ื การจัดการเรยี นรู้ ๑๐ 6.1 ควำมสำมำรถในกำรนำชุมชนมำมีสว่ นรว่ มในกำรจัดกำรเรยี นรู้ 6.2 ควำมสำมำรถในกำรเขำ้ รว่ มกิจกรรมของชมุ ชน
แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชพี (Individual Develop รายละเอียดการพัฒนาตนเอง ปกี ารศกึ ษา 2564 อนั ดับ สมรรถนะท่ีจะพฒั นา วิธีการ/รูปแบบการพฒั ความสาคญั (T) 1 สมรรถนะหลกั (S) การมุ่งผลสัมฤทธ์ิ (OJT) 1.1 ควำมสำมำรถในกำรวำงแผนกำร (T) ปฏบิ ตั ิงำน (T) 1.2. ควำมสำมำรถในกำรปฏบิ ัตงิ ำน 1.3. ผลกำรปฏบิ ตั งิ ำน (S) (A) 8 การบรกิ ารทดี่ ี (OJT) 2.1 ควำมสำมำรถในกำรสร้ำงระบบ (S) (C) กำรใหบ้ รกิ ำร 2.2 ควำมสำมำรถในกำรให้บรกิ ำร 4 การพฒั นาตนเอง 3.2ควำมสำมำรถในกำรวิเครำะห์ ตนเอง 3.2ควำมสำมำรถในกำรภำษำไทย เพ่ือกำรส่อื สำร 3.3 ควำมสำมำรถในกำรใช้ ภำษำอังกฤษเพ่ือกำรแสวงหำควำมรู้ 3.4 ควำมสำมำรถในกำรติดตำม ควำมเคลอื่ นไหวทำงวชิ ำกำรและวชิ ำชีพ 3.5 ควำมสำมำรถในกำรประมวล ควำมรแู้ ละกำรนำควำมรู้ไปใช้
pment Plan-ID Plan) 13 ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรบั การ ประโยชน์ ที่คาดวา่ จะได้รบั ฒนา เร่มิ ต้น ส้ินสุด สนับสนุนจาก หนว่ ยงาน พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ - จดั ทำ - จดั กำรเรียนร้ไู ด้ตำมเปำ้ หมำย พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ โครงกำรตำม ของหลักสตู ร พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ ปงี บประมำณ พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ - จัดทำ - มีระบบกำรให้บริกำรทด่ี ี พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ โครงกำรตำม ปีงบประมำณ พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ - ไม่ใช้ - ปฏิบตั หิ น้าที่ไดอ้ ย่างมี พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ งบประมาณ ประสิทธิภาพ พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ - ไม่ใช้ - สามารถสือ่ สารได้อย่างถูกต้อง พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ งบประมาณ - ใชภ้ าษาอังกฤษเพอื่ การแสวงหา พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ - งบประมาณ ความร้ไู ด้ อบรมพัฒนา - มคี วามร้ทู างวชิ าการและวชิ าชีพ บคุ คลากร - ประมวลความรู้และการนา อบรมพฒั นา ความรู้ ไปใช้ได้อยา่ งเหมาะสม
แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวชิ าชีพ (Individual Develop อันดบั สมรรถนะทีจ่ ะพัฒนา วิธีการ/รปู แบบการพฒั ความสาคัญ (T) 5 การทางานเปน็ ทีม (P) 4.1 ควำมสำมำรถในกำรวำงแผนเพ่ือ กำรปฏิบตั ิงำนเปน็ ทีม 4.2 ควำมสำมำรถในกำรปฏบิ ตั ิงำน ร่วมกัน ๙ จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวิชาชพี ครู (S) 5.1 มคี วำมรกั และศรทั ธำในวิชำชพี (S) 5.2 มีวนิ ัยและควำมรบั ผดิ ชอบต่อ (S) วิชำชพี ( T) 5.3 มกี ำรดำรงชวี ติ อย่ำงเหมำะสม (F) ๒ สมรรถนะประจาสายงาน การบริหารหลกั สตู รและการจัดการ เรียนรู้ 1.1 กำรสรำ้ งและพัฒนำหลกั สูตร 1.2 ควำมสำมำรถในกำรออกแบบกำร เรยี นรู้
pment Plan-ID Plan) 14 ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรบั การ ประโยชน์ ท่คี าดวา่ จะไดร้ บั ฒนา เร่ิมตน้ ส้ินสุด สนับสนนุ จาก หน่วยงาน พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ - จัดทำ - วำงแผนเพื่อกำรปฏบิ ตั ิงำนเป็น พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ โครงกำรตำม ทีมได้ ปีงบประมำณ - จัดทำ - ปฏบิ ัติงำนร่วมกันได้อย่ำงมี โครงกำรตำม ประสทิ ธิภำพ ปีงบประมำณ พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ - จดั ทำ - รกั และควำมศรทั ธำในวิชำชพี พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ โครงกำรตำม - มวี ินัยในตนเอง รับผดิ ชอบใน ปงี บประมำณ วิชำชีพ พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ - ดำรงชวี ติ ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ - จัดทำ - สร้ำงและพฒั นำหลกั สตู ร พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ โครงกำรตำม ได้เหมำะสมกับผ้เู รียน ปีงบประมำณ - สำมำรถสอนเนอื้ หำสำระได้ ถกู ต้อง แมน่ ยำ
แผนพัฒนาตนเองและพฒั นาวิชาชีพ (Individual Develop อันดับ สมรรถนะทีจ่ ะพฒั นา วธิ ีการ/รปู แบบการพฒั ความสาคญั (T) (T) 1.3 กำรจดั กำรเรียนรทู้ เี่ น้นผเู้ รียนเป็น (T) สำคญั 1.4 กำรใชแ้ ละพฒั นำสื่อนวตั กรรม เทคโนโลยเี พอื่ กำรจัดกำรเรยี นรู้ 1.5 กำรวัดและประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ 6 การพฒั นาผูเ้ รยี น (T) 2.1 กำรปลูกฝงั คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (A) (T) ให้กับผเู้ รยี น (OJT) 2.2 กำรพัฒนำทกั ษะชวี ิตและสุขภำพ กำยสขุ ภำพจติ ผเู้ รยี น (A) 2.3 กำรปลูกฝังควำมเป็นประชำธปิ ไตย ควำมภูมใิ จในควำมเปน็ ไทยให้แกผ่ เู้ รยี น 2.4 กำรจัดระบบดูแลช่วยเหลอื นกั เรียน
pment Plan-ID Plan) 15 ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรบั การ ประโยชน์ ท่คี าดวา่ จะได้รับ ฒนา เร่มิ ต้น ส้นิ สุด สนับสนนุ จาก หน่วยงาน พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ - จัดทำ - ควำมสำมำรถในกำรจดั โครงกำรตำม กระบวนกำรเรียนรู้ท่ีเน้นผเู้ รยี น พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ งบประมำณ เป็นสำคญั ได้ - จดั ทำ - ควำมสำมำรถในกำรใชแ้ ละ พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ โครงกำรตำม พฒั นำนวตั กรรม เทคโนโลยี งบประมำณ สำรสนเทศ เพ่ือกำรจดั กำรเรียนรู้ - ควำมสำมำรถในกำรวดั และ ประเมินผลกำรเรยี นรู้ พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ - จัดทำ - สำมำรถปลูกฝงั คุณธรรม พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ โครงกำรตำม จริยธรรม พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ ปีงบประมำณ - สำมำรถพัฒนำทักษะชีวิต พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ - จัดทำ สุขภำพกำยและสขุ ภำพจติ โครงกำรตำม - สำมำรถปลูกฝงั ควำมเปน็ ปงี บประมำณ ประชำธปิ ไตยได้และควำมเป็น - จดั ทำ ไทย โครงกำรตำม - สำมำรถจัดระบบดูแล และ ปีงบประมำณ ช่วยเหลอื ผูเ้ รียนได้
แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชพี (Individual Develop อนั ดับ สมรรถนะท่ีจะพฒั นา วธิ ีการ/รปู แบบการพัฒ ความสาคญั (S) 7 การบรหิ ารจดั การช้นั เรยี น (T) 3.1 ควำมสำมำรถในกำรจดั บรรยำกำศ (S) กำรเรียนรู้ 3.2 ควำมสำมำรถในกำรจดั ทำข้อมูล (T) สำรสนเทศและเอกสำร ฯ (T) 3.3 ควำมสำมำรถในกำรกำกับดูแลชั้น (E) เรยี น (T) ๓ การวเิ คราะห์ สังเคราะห์และการวิจัย ในช้ันเรยี น 4.3ควำมสำมำรถในคิดกำรวเิ ครำะห์ 4.4ควำมสำมำรถในกำรสังเครำะห์ 4.3 ควำมสำมำรถในกำรเขยี นเอกสำร ทำงวชิ ำกำร 4.4 ควำมสำมำรถในกำรวิจัย
pment Plan-ID Plan) 16 ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรับการ ประโยชน์ ที่คาดวา่ จะได้รับ ฒนา เริม่ ต้น ส้นิ สุด สนับสนนุ จาก หน่วยงาน พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ - จัดทำ - สำมำรถจัดบรรยำกำศกำร พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ โครงกำรตำม เรยี นร้ทู ่ีดี พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ ปงี บประมำณ - สำมำรถจดั ทำข้อมลู สำรสนเทศ - จดั ทำ และเอกสำรได้ โครงกำรตำม - สำมำรถกำรกำกบั ดูแลช้นั เรียน ปงี บประมำณ พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ - จัดทำ - มีควำมสำมำรถในกำรวเิ ครำะห์ พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ โครงกำรตำม ได้ พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ ปงี บประมำณ - มีควำมสำมำรถในกำร - จัดทำ สังเครำะห์ได้ พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ โครงกำรตำม - สำมำรถเขยี นเอกสำรทำง ปงี บประมำณ วิชำกำรได้ - จัดทำ - มีสำมำรถในกำรทำกำรวจิ ยั ได้ โครงกำรตำม ปีงบประมำณ - จัดทำ โครงกำรตำม ปีงบประมำณ
แผนพัฒนาตนเองและพฒั นาวชิ าชีพ (Individual Develop อัน วิธกี าร/รปู แบบการพฒั ดับ สมรรถนะท่จี ะพฒั นา ความสาคัญ (T) ๑๑ ภาวะผู้นาครู (T) (S) 5.1 วฒุ ิภำวะควำมเปน็ ผ้นู ำ 5.2 กำรสนทนำอย่ำงสร้ำงสรรค์ (S) 5.3 กำรเปน็ บุคคลแหง่ กำรเรยี นรู้ทนั ต่อ (T) กำรเปลย่ี นแปลง 5.4 กำรปฏบิ ัติงำนอย่ำงไตร่ตรอง (S) 5.5 กำรมุ่งพัฒนำผลสัมฤทธ์ิผูเ้ รยี น (S) ๑๐ การสร้างความสัมพันธแ์ ละความ ร่วมมือกับชุมชนเพอื่ การจัดการเรยี นรู้ 6.1 ควำมสำมำรถในกำรนำชุมชนมำมี ส่วนรว่ มในกำรจัดกำรเรียนรู้ 6.2 ควำมสำมำรถในกำรเขำ้ ร่วม กิจกรรมของชมุ ชน
pment Plan-ID Plan) 17 ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรบั การ ประโยชน์ ที่คาดวา่ จะได้รับ ฒนา เร่ิมต้น ส้ินสุด สนบั สนุนจาก หนว่ ยงาน พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ - จัดทำ - มีวฒุ ภิ ำวะควำมเปน็ ผนู้ ำ พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ โครงกำรตำม - มีกำรสนทนำอย่ำงสร้ำงสรรค์ พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ ปงี บประมำณ - สำมำรถเป็นบุคคลแห่งกำร พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ เรยี นรทู้ ันตอ่ กำรเปล่ยี นแปลง - สำมำรถปฏิบัติงำนอยำ่ ง - จัดทำ ไตรต่ รองได้ โครงกำรตำม - มงุ่ พฒั นำผลสมั ฤทธิ์ของผูเ้ รียน ปงี บประมำณ อยำ่ งเตม็ ควำมสำมำรถ พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ - จัดทำ - สำมำรถนำชมุ ชนเข้ำมำมสี ว่ น พ.ค.6๔ ม.ี ค.6๕ โครงกำรตำม รว่ ม ในกจิ กรรมสถำนศกึ ษำได้ ปีงบประมำณ - สำมำรถเข้ำรว่ มกิจกรรมของ - จัดทำ ชมุ ชนได้ โครงกำรตำม ปีงบประมำณ
แผนพฒั นาตนเองและพฒั นาวชิ าชพี (Individual Develop หมำยเหตุ คาอธิบายวธิ กี ารพฒั นาสมรรถนะ ส A : Active Learning (เรียนร้จู ำกกำรปฏิบตั ิ) CE : Continuing Education (ศกึ ษำตอ่ ) F : Field Trip (ศึกษำดูงำน) M : Mentoring (ตดิ ตำมโดยพี่เลย้ี ง) OJT : On the Job Training (สอนขณะปฏบิ ตั ิงำน S : Self Study (ศกึ ษำด้วยตนเอง)
pment Plan-ID Plan) 18 สัญลกั ษณ์ และความหมาย C : Coaching (กำรสอนงำน) E : Expert Briefing (พบผเู้ ช่ียวชำญ) J : Job Swap (แลกเปลีย่ นงำน) JR : Jop Rotation (หมุนเวยี นงำน) น) P : Project Assignment (มอบหมำยงำน) T : Training, Workshop (กำรฝึกอบรม/ประชมุ ปฏบิ ัตกิ ำร)
แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชพี (Individual Development Plan-ID Plan) 19 ประวตั ิการเขา้ รบั การพัฒนา (ในรอบ ๓ ปี ทผ่ี ่านมา) ลาดับที่ เร่อื ง หนว่ ยงาน จานวน หมายเหตุ ช่ัวโมง ๑ เวทีเสวนำโรงเรียนอโี คสคูลระดบั ประเทศ กรมส่งเสริมคุณภำพ ๑๖ ๑๖ คร้งั ที่ ๒ สิ่งแวดล้อม ๘ ๒ กำรประชุมปฏิบัติกำรแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ สพป.ปทุมธำนี เขต ๑ ๘ ๘ ถอดบทเรียนโรงเรยี นปลอดขยะ (Zero ๑๔ Waste School) ๑๒ ๓ กำรประชุมปฏบิ ัติกำรขับเคลอ่ื นโรงเรียน สพป.ปทมุ ธำนี เขต ๑ 6 ๒๐ สุจริต ๔ กำรประชมุ ปฏบิ ัติกำรทำหลกั สตู ร กล่มุ เครือขำ่ ยที่ 4 สถำนศกึ ษำ ๕ กำรประชมุ ช้ีแจงเกณฑ์กำรประเมนิ ผลงำน สพป.ปทมุ ธำนี เขต ๑ โครงกำรสถำนศึกษำสีขำว ปลอดยำเสพตดิ และอบำยมขุ ๖ กำรพัฒนำกำรคิดคณติ ศำสตร์ระดับ หจก.สหสิกขมำตร ประถมศึกษำ (PBL) ๗ กำรพัฒนำทกั ษะกระบวนกำรคดิ ด้วยโครงงำน สถำบันพฒั นวทิ ยำ โดยใช้เทคนคิ “ยัว่ ใหน้ กึ ฝกึ ให้คดิ ” กลุ่มสำระ คณติ ศำสตร์ ๘ หลักสูตรออนไลน์ : หลกั สูตรสจุ รติ ไทย เครอื ข่ำยสจุ รติ ๙ หลักสตู รออนไลน์ : กำรลดควำมเสย่ี งภัย มลู นธิ ิศุภนมิ ิตแห่ง พิบัติธรรมชำติและกำรรบั ตวั รับกำร ประเทศ กรมป้องกนั เปลี่ยนแปลงสภำพภูมอิ ำกำศ และบรรเทำสำธำรณ ภยั และ กระทรวงศึกษำธิกำร ๑๐ กำรประชุมทำงวิชำกำรของคุรสุ ภำ สำนกั งำนเลขำธิกำรคุรุ ๑๒ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2562 เรื่อง “ครูแห่ง สภำ อนำคตเพื่อผ้เู รียนแหง่ อนำคต” ๑๑ กำรจัดกำรเรียนรู้ Active Learningเพ่ือ กลุ่มเครือขำ่ ยส่งเสริม ๖ พัฒนำทักษะกำรคิดของผเู้ รียนดว้ ย Mind ประสทิ ธภิ ำพกำร map จัดกำรเรยี นรู้ กลมุ่ ท่ี 4 ๑๒ กำรพัฒนำควำมสำมำรถในกำรใช้ โรงเรียนวัดพชื นิมิต ๗ เทคโนโลยีของครูยุค 4.0 (คำสวัสดร์ิ ำษฎร์บำรุง)
แผนพฒั นาตนเองและพฒั นาวชิ าชพี (Individual Development Plan-ID Plan) 20 ลาดบั ที่ เรื่อง หน่วยงาน จานวน หมายเหตุ ชั่วโมง ๑๓ หลกั สูตรอบรมกำรจัดกำรเรียนรู้วิทยำกำร สสวท. ๑๒ คำนวณสำหรบั ครู Coding for Teacher ๑๒ สำหรับครปู ระถมศกึ ษำปที ี่ 1-3 (C4T) ๑๒ ๑๔ หลักสตู รอบรมกำรจัดกำรเรียนรู้วิทยำกำร สสวท. ๖ คำนวณสำหรับครู Coding for Teacher สำหรับครูประถมศกึ ษำปที ่ี ๔-๖ (C4T) ๑๕ กำรจดั กำรเรียนร้สู หู่ ้องเรยี นคุณภำพ รร.วัดพืชนิมติ (คำ สวสั ดริ์ ำษฎร์บำรุง) ๑๖ กำรอบรมกำรขบั เคลอ่ื นกำรจัดกำรเรยี นรู้ รร.วัดพชื นมิ ติ (คำ Coding ในโรงเรียน สวสั ดริ์ ำษฎรบ์ ำรงุ )
แผนพัฒนาตนเองและพฒั นาวิชาชพี (Individual Development Plan-ID Plan) 21 สว่ นท่ี 4 ความต้องการในการพัฒนา (กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์) 1. หลักสูตรใดทที่ ่านต้องการพัฒนา ลาดบั ท่ี รหสั หลักสูตร ชอ่ื หลักสตู ร 1 ๖๑๒๐๒๑๐๙๙ กำรสอนคณติ ศำสตร์เพื่อพัฒนำทกั ษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ สำหรบั ผู้เรยี นระดับ 2 ประถมศกึ ษำ 3 ๖๑๙๐๒๑๐๐๑ กำรวิจยั ในชนั้ เรยี นสำหรับครูคณิตศำสตร์ช้นั ประถมศกึ ษำ ๖๒๓๐๒๑๐๑๘ กำรพัฒนำครศู ตวรรษท่ี ๒๑ ในกำรจดั กำรเรียนรู้คณติ ศำสตร์โดยใช้โปรแกรม GSP 2. เพราะเหตใุ ดทา่ นจงึ ต้องการเข้ารบั การพฒั นาในหลักสูตรนี้ 2.1 ตอ้ งกำรนำควำมรู้ ควำมสำมำรถทีม่ ีมำใช้ในกำรพฒั นำกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนในรำยวชิ ำ คณติ ศำสตร์ 2.2 ตอ้ งกำรนำวธิ ีกำรและเทคนคิ กำรเรียนร้ตู ่ำงๆ มำใชป้ ระกอบกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน เพอื่ พัฒนำ ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรยี นของนักเรยี นในรำยวชิ ำคณติ ศำสตร์ ใหส้ งู ยิง่ ข้นึ ไป 2.3 เพื่อพัฒนำควำมรู้ ควำมสำมำรถของตนเองในกำรเขำ้ ส่คู รู Thailand 4.0 2.4 เพือ่ นำควำมรทู้ ่ีได้รบั จำกหลกั สตู รมำขยำยผลกำรเรยี นรู้ส่คู รูผสู้ อนในระดับช่วงช้นั ที่ 1 เพอื่ พัฒนำกำรเรยี นกำรสอนในระดบั ชว่ งชั้นที่ 1 3. ท่านคาดหวังส่งิ ใดจากการเขา้ รบั การพฒั นาในหลกั สูตรน้ี 3.1 ควำมรู้เรื่อง นวัตกรรมประกอบกำรเรยี นกำรสอน 3.2 ทักษะกำรจดั กำรเรียนรตู้ ำมแนวทำง Active Learning 3.3 ทักษะกำรเรยี นร้ดู ้ำนเน้อื หำวิชำกำรในระดับชว่ งช้ันที่ 1 4. ทา่ นจะนาความรู้จากหลักสูตรไปพัฒนาการสอนของท่านอย่างไร ตอ้ งกำรนำควำมรทู้ ี่ไดร้ ับมำใชป้ ระโยชน์ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนในรำยวชิ ำคณติ ศำสตร์ ใหผ้ เู้ รียน เกดิ ผลลพั ธ์ทำงกำรเรียนร้ทู ีด่ ี และมีประสทิ ธิภำพ สำมำรถนำควำมรูท้ ี่ได้รบั มำสรรสรำ้ งนวัตกรรมเพ่ือพัฒนำ ผ้เู รียน
แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวชิ าชีพ (Individual Development Plan-ID Plan) 22 สว่ นที่ 5 : คารับรอง ข้ำพเจำ้ ขอเสนอแผนกำรพฒั นำตนเองน้ีเพอ่ื เสนอพจิ ำรณำและขออนุมตั ิ ลงชอื่ ..............................................................ผจู้ ัดทำแผนพัฒนำตนเอง (นำงสำวจิระพนั ธ์ุ ปำกวเิ ศษ) ตำแหนง่ ครู ความเหน็ ของผู้อานวยการโรงเรยี น ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .......................................................................................................................................................................... .......... ลงชือ่ ........................................................... (นำงสำวกนั ยำภทั ร ภัทรโสตถิ) ผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี นวัดพืชนมิ ิต(คำสวัสด์ิรำษฎร์บำรงุ )
แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวชิ าชีพ (Individual Development Plan-ID Plan) 23 บนั ทึกการดาเนินการพัฒนาตามแผนพัฒนาตนเอง (ดาเนนิ การอบรมพฒั นามาแล้ว) ช่ือ – สกลุ นางสาวจิระพนั ธุ์ ปากวเิ ศษ หน่วยงาน โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คาสวสั ดิร์ าษฎร์บารงุ ) สมรรถนะทพี่ ัฒนา วธิ กี ารพัฒนา เขา้ รว่ มการอบรมหลกั สูตรตามแผน ระยะเวลาพฒั นาตามแผน ตลอดปีการศึกษา วัน/เดอื น/ ปี กจิ กรรมในการดาเนนิ การพฒั นา ผลการพัฒนา ความเห็นของผ้บู ังคบั บัญชา ๒๐ พ.ค. ๖๓ หลักสูตรอบรมกำรจดั กำรเรยี นร้วู ิทยำกำร ผ่ำนกำรพฒั นำ คำนวณสำหรบั ครู Coding for Teacher สำหรบั ครปู ระถมศึกษำปที ่ี 1-3 (C4T) ๒๐ พ.ค. ๖๓ หลักสูตรอบรมกำรจัดกำรเรียนรวู้ ิทยำกำร ผ่ำนกำรพฒั นำ คำนวณสำหรบั ครู Coding for Teacher สำหรบั ครูประถมศึกษำปที ี่ ๔-๖ (C4T) ๒๕-๒๖ พ.ค. กำรจดั กำรเรียนร้สู หู่ ้องเรยี นคุณภำพ ผ่ำนกำรพัฒนำ ๖๓ ๒๗ ม.ค.๖๔ กำรอบรมกำรขับเคลื่อนกำรจัดกำรเรยี นรู้ ผำ่ นกำรพัฒนำ Coding ในโรงเรียน ลงชือ่ .............................................................. ( นำงสำวจิระพนั ธุ์ ปำกวเิ ศษ ) ตำแหนง่ ครู
แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชพี (Individual Development Plan-ID Plan) 24
Search
Read the Text Version
- 1 - 30
Pages: