Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ ป.3 บทที่ 1

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ ป.3 บทที่ 1

Published by jira5725, 2021-05-10 10:56:50

Description: เรื่องจำนวนนักไม่เกิน 100,000

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลาเรียน 18 ชวั่ โมง กล่มุ สาระกาเรยี นรู้วิชาคณิตศาสตร์ เวลาเรยี น ๓ ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 จำนวนนับไมเ่ กิน 100,000 เร่อื ง หลกั ค่าของเลขโดดในแต่ละหลกั และการเขียนตวั เลข แสดงจำนวนในรปู กระจาย ๑. สาระสำคญั หลักเลขประกอบหลักหน่วย หลักสิบ หลักร้อย หลักพัน หลักหมื่น และหลักแสน โดยแต่ละหลักจะมีค่าประจำ หลักเป็น 1, 10, 100, 1000, 10,000 และ 100,000 ตามลำดับ ทำให้เลขโดดที่อยู่หลักต่างกันของจำนวนนับมีค่า ต่างกัน ยกเวน้ 0 อยใู่ นหลกั ใดกย็ ังมีค่าเท่ากับ 0 ๒. มาตรฐานการเรียนรู้ ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลทเ่ี กดิ ขึน้ จาก การดำเนินการ สมบัติของการดำเนนิ การ และการนำไปใช้ 3.ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.3/1 : อา่ นและเขยี น ตวั เลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย และตวั หนังสอื แสดงจำนวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 ๔. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกหลักและค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลักพร้อมทงั้ เขียนตัวเลขแสดงจำนวนนับไมเ่ กิน 1,000 ในรูป กระจายได้ (K) ๒. เขยี นตวั เลขแสดงจำนวนในรูปกระจายได้ถกู ตอ้ ง (P) ๕. สาระการเรียนรู้ หลกั ค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลัก และการเขยี นตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย 6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ชวี ิต 7. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุง่ มั่นในการทำงาน 8. กิจกรรมการเรียนรู้ (เวลาเรยี น ๓ ชวั่ โมง เวลาแตล่ ะขั้นสอนขน้ึ อยกู่ ับสภาพจริง) ขนั้ ที่ ๑ ถา่ ยทอดความรู้ ๒. ครูทบทวนหลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลักของจำนวนนับไม่เกิน 100 โดยครูเตรียมมัดไม้มัดละ 10 จำนวน 3 มดั กับไมอ้ กี 4 อันแล้วถามคำถามให้นักเรยี นช่วยกันตอบ ดงั นี้ - มีมดั ไม้อยู่กีม่ ัด กบั ไม้อกี ก่อี นั (3 มดั กบั อกี 4 อัน)

- มีไมท้ งั้ หมดกอ่ี นั (สามสบิ สี่อนั ) - เขยี นตัวเลขแสดงจำนวนไม้ทงั้ หมดไดอ้ ย่างไร (34 หรือ ๓๔) - 34 แทนจำนวนก่สี ิบกับกหี่ นว่ ย (3 สิบกบั 4 หน่วย) - 3 ทางซา้ ยอยู่ในหลกั ใด (หลกั สิบ) และ 4 ทางขวาอยู่ในหลักใด (หลกั หนว่ ย) - เลขโดด 3 ในหลกั สิบมคี า่ เทา่ ใด (30) เลขโดด 4 ในหลกั หนว่ ยมีค่าเท่าใด (4) ขนั้ ท่ี ๒ ใหต้ วั อยา่ ง ๒. ครูเขียนจำนวนนบั สองจำนวนบนกระดานเช่น 58 แลว้ ถามนักเรียนว่า - เลขโดด 5 อยู่ในหลักใด มีค่าเท่าไร (หลกั สิบ มีค่า 50) - เลขโดด 8 อยใู่ นหลกั ใด มีค่าเท่าไร (หลักหนว่ ย มคี า่ 8) ๓. ครจู ดั กิจกรรมทำนองเดียวกนั อีก 3 – 5 จำนวนเชน่ 65 76 89 95 99 จากนนั้ ครยู กตัวอย่างจำนวนนับที่ เลขโดดในหลกั สิบและหลกั หนว่ ยเป็นจำนวนเดียวกนั เชน่ 11 22 33 ใหน้ กั เรียนบอกหลักและคา่ ของเลขโดดในแตล่ ะหลัก ๔. ครยู กตัวอยา่ งจำนวนสามหลกั เชน่ 120 และ 549 ใหน้ ักเรยี นบอกหลกั และค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลกั โดยครถู ามนักเรียนดงั น้ี 120 เลขโดด 1 อยูใ่ นหลักใด มีคา่ เทา่ ไร (หลกั รอ้ ย มคี า่ 100) เลขโดด 2 อยู่ในหลักใด มคี า่ เทา่ ไร (หลักสิบ มีค่า 20) เลขโดด 0 อยู่ในหลักใด มีค่าเท่าไร (หลกั หน่วย มคี ่า 20) 549 เลขโดด 5 อยู่ในหลกั ใด มคี า่ เท่าไร (หลกั รอ้ ย มีคา่ 500) เลขโดด 4 อยใู่ นหลกั ใด มคี ่าเท่าไร (หลกั สบิ มคี ่า 40) เลขโดด 9 อยใู่ นหลกั ใด มีคา่ เทา่ ไร (หลักหนว่ ย มคี า่ 9) ๕. ครยู กตวั อยา่ งจำนวนนับ 495 แลว้ ถามนกั เรยี นดงั ตอ่ ไปนี้ 495 เลขโดด 9 อย่ใู นหลักใด มีค่าเทา่ ไร (หลักสบิ มีค่า 90) 495 เลขโดด 5 อยใู่ นหลกั ใด มีค่าเท่าไร (หลกั หน่วย มคี า่ 5) ครูถามนักเรียนว่า จำนวนนับ 495 เลขโดด 9 กับ เลขโดด 5 มีค่าต่างกันเท่าไร คิดได้อย่างไร (85 คิดได้ จาก 9 อยู่ในหลักสบิ มีคา่ 90 และ 5 อยใู่ นหลกั หน่วยมคี า่ 5 ดงั นัน้ 90 – 5 = 85) ๖. ครตู ิดบตั รภาพลูกคดิ แสดงจำนวน 8,173 บนกระดานดังน้ี หมน่ื พัน รอ้ ย สิบ หน่วย ครูถามคำถามให้นักเรยี นชว่ ยกนั ตอบ ดงั นี้ - บตั รภาพแสดงจำนวนใด (แปดพันหนง่ึ รอ้ ยเจด็ สบิ สาม) - เขียนตัวเลขแสดงจำนวนไดอ้ ยา่ งไร (8,173 หรือ ๘,๑๗๓) - 8,173 เปน็ จำนวนท่มี กี พี่ ัน (8 พัน) กับกี่รอ้ ย (1 รอ้ ย) กบั ก่ีสบิ (7 สิบ) กับกหี่ น่วย (3 หน่วย)

- 8 อยใู่ นหลกั ใด (หลักพัน) มีคา่ เท่าใด (8,000) - 1 อยู่ในหลกั ใด (หลกั รอ้ ย) มคี า่ เท่าใด (100) - 7 อยใู่ นหลกั ใด (หลกั สิบ) มีคา่ เทา่ ใด (70) - 3 อยใู่ นหลกั ใด (หลกั หน่วย) มคี า่ เทา่ ใด (3) - 8,173 เขียนในรปู กระจายไดอ้ ย่างไร (8,173 = 8,000 + 100 + 70 + 3) ๑๑.ครูยกตัวอยา่ งจำนวนนบั เชน่ 6,301 ใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั ตอบคำถามต่อไปน้ี - 6 อยู่ในหลกั ใด (หลักพัน) มคี า่ เท่าใด (3,000) - 3 อยใู่ นหลักใด (หลกั รอ้ ย) มคี ่าเท่าใด (300) - 0 อยูใ่ นหลกั ใด (หลกั สิบ) มีคา่ เท่าใด (0) - 1 อยู่ในหลักใด (หลักหน่วย) มคี า่ เท่าใด (1) - 6,301 เขียนในรูปกระจายได้อย่างไร (6,301 = 6,000 + 300 + 0 + 1) ครูแนะนำว่า 6,301 = 6,000 + 300 + 0 + 1 สามารถเขยี นในรปู กระจายไดอ้ กี แบบดังน้ี 6,301 = 6,000 + 300 + 1 ๑๒.ครูบอกจำนวนนบั แล้วให้ตัวแทนนกั เรียนออกมาเขียนตวั เลขแสดงจำนวนในรปู กระจายบนกระดานดังน้ี 2,430 = 2,000 + 400 + 30 5,261 = 5,000 + 200 + 60 + 1 1,245 = 1,000 + 20 + 40 + 5 9,720 = 9,000 + 700 + 20 8,012 = 8,000 + 10 + 2 ข้นั ที่ ๓ ฝกึ ปฏิบตั ิ ๑๓.ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด หาค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และการเขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูป กระจาย ขั้นที่ ๔ วเิ คราะห์และอภปิ ราย ๑๔.ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปสงิ่ ทีไ่ ดเ้ รยี นรรู้ ่วมกัน ดงั น้ี จำนวนนับท่ีมสี ามหลัก เลขโดดทางขวาอยู่ในหลัก หน่วย เลขโดดทางซ้ายของหลักหน่วยอยู่ในหลักสิบ เลขโดดทางซ้ายของหลักสิบอยูใ่ นหลักรอ้ ย และการเขียนตวั เลขแสดง จำนวนใดๆ ในรูปกระจาย เป็นการเขียนในรูปการบวกคา่ ของเลขโดดในหลักต่างๆ ของจำนวนนั้น และเลขโดดเดียวกันถ้า อยใู่ นหลกั ต่างกันจะมีคา่ ต่างกนั ยกเวน้ 0 ขั้นท่ี ๕ วดั และประเมินผล ๒๐.ครตู รวจแบบฝกึ หดั และให้คำแนะนำนกั เรียนเป็นรายบุคคล

๙. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เครือ่ งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อน-หลังเรยี น แบบทดสอบกอ่ น-หลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 (ประเมนิ ตามสภาพ ตรวจแบบฝึกหัดหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 จริง) แบบฝกึ หัดหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล ระดับคณุ ภาพ 2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม รายบคุ คล สังเกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่นั ใน ระดบั คณุ ภาพ 2 การทำงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ๑๐.ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ - มัดไม้

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๓ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลาเรียน 18 ชั่วโมง กลมุ่ สาระกาเรียนรู้วิชาคณติ ศาสตร์ เวลาเรียน ๓ ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 จำนวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 เรื่อง การเปรยี บเทยี บจำนวน ๑. สาระสำคัญ จำนวนนบั ไม่เกนิ 100,000 สามารถนำมาเปรยี บเทียบกันได้ โดยมีคา่ เทา่ กันหรอื ไมเ่ ท่ากันและคา่ ไมเ่ ท่ากนั อาจมคี า่ มากกว่าหรอื นอ้ ยกว่ากันอยา่ งใดอย่างหนึ่งเทา่ น้นั โดยใช้เครอ่ื งหมาย = ≠ > < แสดงการเปรยี บเทยี บ ๒. มาตรฐานการเรียนรู้ ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลทเ่ี กิดขึน้ จากการดำเนินการ สมบัตขิ องการดำเนนิ การ และการนำไปใช้ ๓. ตัวชว้ี ดั ค 1.1 ป.3/2 : เปรยี บเทยี บและเรียงลำดบั จำนวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 จากสถานการณต์ ่างๆ ๔. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. เปรียบเทยี บจำนวนนับไม่เกนิ 100,000 ทม่ี จี ำนวนหลักไมเ่ ทา่ กันได้ (K) 2. เขียนเปรยี บเทียบจำนวนนับไมเ่ กิน 100,000 โดยใช้เครื่องหมาย = ≠ > < ไดถ้ กู ตอ้ ง (P) ๕. สาระการเรยี นรู้ การเปรยี บเทียบจำนวน ๖. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ชวี ิต 7. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน ๘. กิจกรรมการเรยี นรู้ (เวลาเรียน ๒ ชัว่ โมง เวลาแต่ละขั้นสอนขน้ึ อยู่กบั สภาพจริง) ขั้นที่ ๑ ถ่ายทอดความรู้ ๑. ครูทบทวนการเปรยี บเทียบจำนวนนบั สองจำนวนทีไ่ ม่เกนิ 1,000 โดยครูยกตัวอย่างมาครงั้ ละ 2 จำนวนให้ นักเรียนเปรียบเทียบจำนวนใดมากกว่า น้อยกว่าหรือเท่ากับ โดยให้เหตุผลประกอบแล้วเขียนประโยค สญั ลกั ษณ์แสดงการเปรยี บเทียบบนกระดานเช่น 316 > 87 268 < 452 254 > 248 199 < 209

918 = 918 0=0 ๒.นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปการเปรยี บเทยี บจำนวน ดังนี้ - เปรยี บเทยี บจำนวนหลักกอ่ น จำนวนใดมีจำนวนหลกั มากกวา่ จำนวนน้ันจะมากกวา่ - ถา้ จำนวนหลกั เท่ากนั ใหเ้ ปรยี บเทยี บค่าของเลขโดดในหลกั ทางซา้ ยสุดกอ่ น ถา้ ค่าของเลขโดดใน หลกั ทางซา้ ยสดุ ของจำนวนใดมากกวา่ จำนวนนนั้ จะมากกว่าถา้ คา่ ของเลขโดดในหลกั ทางซ้ายสุดของทัง้ สองจำนวนเท่ากัน ให้เปรยี บเทยี บค่าของเลขโดดในหลักถดั ไปทางขวาทลี ะหลัก ขน้ั ท่ี ๒ ใหต้ ัวอย่าง ๓. ครเู ขียนตัวเลขแสดงจำนวนนบั สองจำนวนท่ีไมเ่ กิน 100,000 โดยท้งั สองมจี ำนวนหลักไม่เทา่ กับบน กระดาน เชน่ 52,582 5,248 ครถู ามคำถามให้นักเรยี นช่วยกันตอบ ดงั น้ี - จำนวนสองจำนวนนเ้ี ท่ากันหรือไม่ (ไมเ่ ทา่ กนั ) - จำนวนทางซ้ายมอื มีกีห่ ลกั (5 หลกั ) - จำนวนทางขวามือมกี ่ีหลกั (4 หลัก) - จำนวนทางซา้ ยจะมากกว่าหรือนอ้ ยกวา่ จำนวนทางขวา (มากกว่า) ๔. ครแู นะนำให้นกั เรียนใช้เคร่อื งหมาย > หรอื < แสดงการเปรยี บเทียบจำนวน 52,582 มากกวา่ 5,248 5,248 นอ้ ยกว่า 52,582 52,582 > 5,248 5,248 < 52,582 ๕. ครยู กตัวอย่าง จำนวนคู่อื่น ๆ ทมี่ ีจำนวนหลกั ไมเ่ ท่ากนั อกี 3 ตวั อยา่ งแลว้ ใหน้ กั เรยี นพิจารณาเปรยี บเทยี บ พรอ้ มท้งั อธิบายเหตุผล 3,567 21,542 100,000 12,541 43,261 1,342 ขั้นที่ ๓ ฝึกปฏบิ ตั ิ ๖. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หัด หลัก การเปรียบเทียบจำนวน

ขั้นที่ ๔ วิเคราะห์และอภปิ ราย ๗. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปส่ิงท่ไี ดเ้ รียนรรู้ ว่ มกนั ดังนี้ การเปรียบเทียบจำนวนนับไมเ่ กิน 100,000 ที่ จำนวนหลักไม่เท่ากันโดยจำนวนนับที่มีจำนวนหลักมากกว่าจะมากกว่าและจำนวนนับที่มีจำนวนหลักน้อยกว่าจะน้อยกว่า และการเปรียบเทียบจำนวนที่มีจำนวนหลักเท่ากันว่า ถ้าจำนวนที่นำมาเปรียบเทียบกันมีจำนวนหลักเท่ากัน ให้ เปรียบเทียบค่าของเลขโดดหลักซ้ายสุดก่อน ถ้าค่าของเลขโดดทางซ้ายสุดของจำนวนใดมากกว่า จำนวนนั้นมากกว่า ถ้าค่า ของเลขโดดซ้ายสุดเทา่ กนั ใหเ้ ปรยี บเทยี บค่าของเลขโดดในหลักถัดไปทางขวาทีละหลักด้วยวธิ เี ดยี วกัน ข้ันที่ ๕ วดั และประเมนิ ผล ๙. ครูตรวจแบบฝกึ หัด และให้คำแนะนำนักเรียนเป็นรายบคุ คล ๙. การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรียน แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1๒ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1๒ (ประเมนิ ตามสภาพ ตรวจแบบฝึกหัดหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1๒ จรงิ ) แบบฝึกหัดหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1๒ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ 2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ รายบคุ คล สงั เกตความมวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ ม่ันใน ระดับคุณภาพ 2 การทำงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ ผ่านเกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ๑๐. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ -

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๔ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เวลาเรียน 18 ช่วั โมง กล่มุ สาระกาเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เวลาเรยี น ๒ ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 จำนวนนับไม่เกนิ 100,000 เรื่อง การเรียงลำดับจำนวน ๑. สาระสำคญั การเรยี งลำดับจำนวนหลายๆ จำนวน ทำได้โดยการเปรียบเทียบจำนวนทุกๆ จำนวน แล้วเรียงลำดบั จำนวน จากน้อยไปมาก หรือจากมากไปนอ้ ย ๒. มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลที่เกดิ ขึ้น จากการดำเนนิ การ สมบัตขิ องการดำเนินการ และการนำไปใช้ ๓. ตวั ชี้วดั ค 1.1 ป.3/2 : เปรยี บเทยี บและเรยี งลำดับจำนวนนับไมเ่ กนิ 100,000 จากสถานการณ์ตา่ งๆ ๔. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. เรียงลำดับจำนวนจากน้อยไปมากและจากมากไปน้อยได้ (K) ๒. เขยี นแสดงการเรยี งลำดับจำนวนจากนอ้ ยไปมากและจากมากไปนอ้ ยไดถ้ ูกต้อง (P) ๕. สาระการเรยี นรู้ การเรยี งลำดบั จำนวน ๖. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใชช้ วี ิต 7. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน ๘. กิจกรรมการเรียนรู้ (เวลาเรยี น ๒ ชวั่ โมง เวลาแต่ละข้นั สอนข้นึ อยูก่ ับสภาพจรงิ ) ขน้ั ท่ี ๑ ถ่ายทอดความรู้ ๒. ครทู บทวนการเปรียบเทยี บจำนวนสองจำนวน โดยครูเขียนจำนวนทลี ะค่บู นกระดาน ใหน้ กั เรยี นช่วยกัน เปรยี บเทยี บจำนวนและเติมเครอ่ื งหมาย > < หรอื = พร้อมท้ังให้เหตผุ ล 34,567 > 22,567 75,489 < 95,000 25,678 > 22,049 37,654 = 37,654

ขั้นท่ี ๒ ให้ตัวอย่าง ๒. ครตู ิดบัตรจำนวนให้ 5 จำนวน ให้นกั เรียนช่วยกันเปรยี บเทียบและเรยี งลำดับจำนวนจากนอ้ ยไปมาก พรอ้ มอธบิ ายเหตผุ ลประกอบซึ่งครูอาจเสนอแนวคิดให้นกั เรียนพจิ ารณามาเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวน ดงั น้ี 5,356 22,345 5,150 57,400 87,401 ครูถามคำถามให้นกั เรียนชว่ ยกนั ตอบ ดังน้ี - จำนวนใดมากที่สุด นักเรียนสังเกตอย่างไร (87,401 สังเกตจากค่าของเลขโดดทางซ้ายสุดมีค่ามาก ทส่ี ุด) - จำนวนใดน้อยที่สุด (5,150) สังเกตอย่างไร (เป็นจำนวนที่มีจำนวนหลักน้อยที่สุดซึ่งมีอยู่สองจำนวน คือ 5,150 กับ 5,356 และสองจำนวนน้ี ค่าของเลขโดดในหลักพันเท่ากันคือ 5,000 แต่ค่าของเลขโดดในหลักร้อยของ 5,150 น้อยกวา่ ดงั น้นั 5,150 เป็นจำนวนที่น้อยท่สี ดุ ) - เปรียบเทียบจำนวนที่เหลืออีก 3 จำนวนคือ 5,356 22,345 และ 57,400 จะได้ว่าในสามจำนวนน้ี 5,356 เปน็ จำนวนท่นี อ้ ยท่สี ุดและ 57,400 เปน็ จำนวนท่มี ากทสี่ ุด ขนั้ ที่ ๓ ฝกึ ปฏิบัติ ๓. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด หลกั การเรยี งลำดบั จำนวน ขั้นที่ ๔ วเิ คราะห์และอภปิ ราย ๔. ครใู ห้นกั เรียนอภิปรายและช่วยกนั หยิบบตั รตัวเลขเพ่ือเรียงลำดับจำนวนจากนอ้ ยไปมากบนกระดาน ซึง่ จะ ได้ผลการเรียงลำดับจำนวนจากนอ้ ยไปมาก ดังน้ี 5,150 5,356 22,345 57,400 87,401 ๕. ครูจัดกิจกรรมทำนองเดียวกันนี้อกี 1 – 2 ตวั อย่างเชน่ 5,816 24,752 7,407 42,594 20,746 18,210 90,010 42,984 49,844 75,922 ๖. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การเรียงลำดับจำนวน ทำได้โดยการนำจำนวนมา เปรยี บเทียบกัน แล้วเรียงลำดับจากจำนวนที่มีค่าน้อยไปหาจำนวนทม่ี ีคา่ มาก หรือจากจำนวนท่มี ีค่ามากไปหา จำนวนทม่ี คี า่ นอ้ ย ขน้ั ที่ ๕ วัดและประเมินผล ๙. ครูตรวจแบบฝึกหัด และให้คำแนะนำนกั เรียนเป็นรายบุคคล

๙. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น แบบทดสอบกอ่ น-หลังเรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 (ประเมนิ ตามสภาพ ตรวจแบบฝกึ หัดหน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 จริง) แบบฝึกหดั หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ รายบุคคล สังเกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่ันใน ระดบั คณุ ภาพ 2 การทำงาน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ๑๐. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ - บตั รจำนวน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๕ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลาเรียน 18 ชัว่ โมง กลุ่มสาระกาเรียนรู้วิชาคณติ ศาสตร์ เวลาเรยี น ๔ ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 จำนวนนับไมเ่ กนิ 100,000 เร่อื ง แบบรปู ของจำนวนท่เี พิ่มขน้ึ ๑. สาระสำคัญ แบบรูปของจำนวนที่เพมิ่ ขนึ้ ทีละเทา่ กนั เป็นชดุ ของจำนวนทีม่ ีความสัมพันธก์ นั แบบเพม่ิ ข้ึนทีละ 3,5,8 และ 10 อย่างคงที่ ซึ่งสามารถหาจำนวนต่อไปหรือจำนวนท่ีหายไปของแบบรปู ได้ ๒. มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 1.2 : เข้าใจและวเิ คราะห์แบบรปู ความสมั พันธ์ ฟังกช์ ัน ลำดับและอนุกรม และนำไปใช้ ๓. ตัวช้ีวดั ค 1.2 ป.3/1 : ระบจุ ำนวนทหี่ ายไปในแบบรปู ของจำนวนท่ีเพิ่มขนึ้ หรอื ลดลงทีละเท่าๆ กนั ๔.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกจำนวนตอ่ ไปของแบบรปู ของจำนวนทเ่ี พิม่ ข้ึนทลี ะ 3 ได้ (K) 2. เขยี นจำนวนทหี่ ายไปของแบบรปู ของจำนวนท่ีเพิ่มขึน้ ทลี ะ 3 ได้ (P) ๔. สาระการเรียนรู้ แบบรูปของจำนวนทเี่ พ่มิ ข้นึ ทลี ะ 3, 3,5,8 และ10 ๖. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ชวี ิต 7. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน ๘. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (เวลาเรยี น ๔ ชว่ั โมง เวลาแตล่ ะข้นั สอนขึน้ อยูก่ ับสภาพจรงิ ) ข้ันที่ ๑ ถ่ายทอดความรู้ ๑.ครูกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรยี นโดยการให้นักเรียนดูบตั รตัวเลขแสดงจำนวน 5 ใบ ดังน้ี 5,356 5,357 5,358 5,359 5,360 จากนั้นครูตั้งคำถามแล้วให้นักเรียนร่วมกันตอบว่า นักเรียนรู้หรือไม่ว่า จำนวนเหล่านี้มีความสัมพันธ์กัน อย่างไร (เปน็ การเพ่มิ ขน้ึ ทลี ะ 1) ๒.ครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล โดยให้คำแนะนำว่าบัตรตัวเลขแสดงจำนวนแต่ ละใบต่างกันหรือเหมอื นกันอยา่ งไร ถ้าตา่ งกนั ต่างกันอยา่ งไร หรอื ถ้าเหมอื นกัน เหมือนกันอย่างไร

ขัน้ ท่ี ๒ ใหต้ วั อยา่ ง ๓. ครูกำหนดจำนวนเริ่มต้นให้นักเรียน จากนั้นให้นักเรียนเขียนจำนวนที่นับเพิ่มทีละ 3 ถัดไปอีก 5 จำนวน เช่น จำนวนเรมิ่ ต้นเป็น 2,561 (2,564 2,567 2,570 2,573 2,576) จำนวนเรม่ิ ต้นเป็น 4,236 (4,239 4,242 4,245 4,248 4,251) จำนวนเริ่มตน้ เปน็ 8,908 (8,911 8,914 8,917 8,920 8,923) จำนวนเร่ิมตน้ เปน็ 1,787 (1,790 1,793 1,796 1,799 1,802) จำนวนเร่มิ ต้นเปน็ 3,694 (3,697 3,700 3,703 3,706 3,709) ขัน้ ที่ ๓ ฝกึ ปฏบิ ตั ิ ๔. ครเู ขยี นแบบรูปของจำนวนท่ีเพ่ิมขึน้ ทลี ะ 3 บนกระดาน ให้นกั เรียนพจิ ารณาและร่วมกันอภิปรายว่า จำนวนตอ่ ไปคอื อะไร 25,256 25,259 25,262 25,265 …………. …………. …………. จากนั้นครูกล่าวว่า จากแบบรูปที่กำหนดเริ่มจาก 25,256 จำนวนต่อมา คือ 25,259 25,262 25,265 .......... .......... .......... โดยครตู ง้ั คำถามกระต้นุ ความคดิ ดังน้ี - จำนวนเรม่ิ ต้นของแบบรปู คือจำนวนใด (25,256) - จำนวนถดั ไปของแบบรูปคอื จำนวนใด (25,259) - จำนวน 25,259 มีคา่ มากกว่าหรือน้อยกวา่ 25,256 อยเู่ ท่าไร (มากกวา่ อยู่ 3) - จำนวนที่ถัดจาก 25,259 คือจำนวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 25,259 อยู่เท่าไร (25,262 และมากกว่าอยู่ 3) - จำนวนที่ถัดจาก 25,262 คือจำนวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 25,262 อยู่เท่าไร (25,265 และมากกวา่ อยู่ 3) - นักเรียนคิดว่าจำนวนที่อยู่ถัดจาก 25,265 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 25,265 เท่าไร (มากกว่า อยู่ 3) - นักเรียนคิดว่าจำนวนที่อยู่ถัดจาก 25,265 อีกสามจำนวน ควรมีค่าเท่าไรบ้าง (25,268 25,271 25,274) ๕. ครูเขียนแบบรูปของจำนวนที่เพิ่มขึ้นทีละ 5 บนกระดาน ให้นักเรียนพิจารณาและร่วมกันอภิปรายว่า จำนวนตอ่ ไปคืออะไร 10,983 10,988 10,993 10,998 …………. …………. …………. จากนั้นครูกล่าวว่า จากแบบรูปที่กำหนดเริ่มจาก 10,983 จำนวนต่อมา คือ 10,988 10,993 10,998 .......... .......... .......... โดยครตู งั้ คำถามกระตนุ้ ความคิด ดงั นี้ - จำนวนเร่มิ ตน้ ของแบบรูปคอื จำนวนใด (10,983) - จำนวนถัดไปของแบบรูปคอื จำนวนใด (10,988)

- จำนวน 10,988 มีค่ามากกว่าหรือน้อยกวา่ 10,983 อยเู่ ท่าไร (มากกวา่ อยู่ 5) - จำนวนที่ถัดจาก 10,988 คือจำนวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 10,988 อยู่เท่าไร (10,993 และมากกว่าอยู่ 5) - จำนวนที่ถัดจาก 10,993 คือจำนวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 10,993 อยู่เท่าไร (10,998 และมากกวา่ อยู่ 5) - นักเรียนคิดว่าจำนวนที่อยู่ถัดจาก 10,998 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 10,998 เท่าไร (มากกว่า อยู่ 5) - นักเรียนคิดว่าจำนวนที่อยู่ถัดจาก 10,998 อีกสามจำนวน ควรมีค่าเท่าไรบ้าง (11,003 11,008 11,013) ๖. ครูเขียนแบบรูปของจำนวนที่เพิ่มขึ้นทีละ 8 บนกระดาน ให้นักเรียนพิจารณาและร่วมกันอภิปรายว่า จำนวนต่อไปคอื อะไร 21,518 21,526 21,534 21,542 …………. …………. …………. จากนั้นครูกล่าวว่า จากแบบรูปที่กำหนดเริ่มจาก 21,518 จำนวนต่อมา คือ 21,526 21,534 21,542 .......... .......... .......... โดยครตู ั้งคำถามกระตุน้ ความคิด ดังน้ี - จำนวนเรม่ิ ตน้ ของแบบรูปคือจำนวนใด (21,518) - จำนวนถัดไปของแบบรปู คือจำนวนใด (21,526) - จำนวน 21,526 มีค่ามากกว่าหรอื น้อยกว่า 21,518 อยเู่ ทา่ ไร (มากกว่าอยู่ 8) - จำนวนที่ถัดจาก 21,526 คือจำนวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 21,526 อยู่เท่าไร (21,534 และมากกว่าอยู่ 8) - จำนวนที่ถัดจาก 21,534 คือจำนวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 21,534 อยู่เท่าไร (21,542 และมากกวา่ อยู่ 8) - นักเรียนคิดว่าจำนวนที่อยู่ถัดจาก 21,542 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 21,542 เท่าไร (มากกว่า อยู่ 8) - นักเรียนคิดว่าจำนวนที่อยู่ถัดจาก 21,542 อีกสามจำนวน ควรมีค่าเท่าไรบ้าง (21,550 21,558 21,566) ๗. ครูเขียนแบบรูปของจำนวนที่เพิ่มขึ้นทีละ 10 บนกระดาน ให้นักเรียนพิจารณาและร่วมกันอภิปรายว่า จำนวนต่อไปคืออะไร 32,255 32,265 32,275 32,285 …………. …………. …………. จากนั้นครูกล่าวว่า จากแบบรูปที่กำหนดเริ่มจาก 32,255 จำนวนต่อมา คือ 32,265 32,275 32,285 .......... .......... .......... โดยครูตัง้ คำถามกระตนุ้ ความคิด ดังนี้ - จำนวนเริ่มตน้ ของแบบรปู คือจำนวนใด (32,255) - จำนวนถดั ไปของแบบรปู คือจำนวนใด (32,265)

- จำนวน 32,265 มีคา่ มากกว่าหรือนอ้ ยกวา่ 32,255 อยู่เท่าไร (มากกว่าอยู่ 10) - จำนวนที่ถัดจาก 32,265 คือจำนวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 32,265 อยู่เท่าไร (32,275 และมากกว่าอยู่ 10) - จำนวนที่ถัดจาก 32,275 คือจำนวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 32,275 อยู่เท่าไร (32,285 และมากกวา่ อยู่ 10) - นักเรียนคิดว่าจำนวนที่อยู่ถัดจาก 32,285 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 32,285 เท่าไร (มากกว่า อยู่ 10) - นักเรียนคิดว่าจำนวนที่อยู่ถัดจาก 32,285 อีกสามจำนวน ควรมีค่าเท่าไรบ้าง (32,295 32,305 32,315) ๘. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั แบบรปู ของจำนวนทเ่ี พิม่ ขึน้ ทีละเท่าๆกัน ข้นั ที่ ๔ วเิ คราะห์และอภิปราย ๙. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ แบบรูปของจำนวนที่เพิ่มขึ้นทีละเท่าๆกัน เป็นชุดของ จำนวนที่มีความสัมพันธ์กนั แบบเพิม่ ขึน้ อย่างคงที่ ซ่งึ สามารถหาจำนวนต่อไปหรอื จำนวนท่ีหายไปของแบบรูปได้ ขั้นที่ ๕ วดั และประเมนิ ผล ๑๐. ครูตรวจแบบฝึกหัด และให้คำแนะนำนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล ๙. การวดั และประเมินผล วธิ กี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 (ประเมินตามสภาพ ตรวจแบบฝกึ หดั หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 จริง) แบบฝกึ หดั หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ รายบคุ คล สังเกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมัน่ ใน ระดับคณุ ภาพ 2 การทำงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ๑๐.ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ -บตั รตวั เลข

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๖ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลาเรียน 18 ชว่ั โมง กลมุ่ สาระกาเรยี นรู้วชิ าคณิตศาสตร์ เวลาเรียน ๔ ชัว่ โมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 จำนวนนบั ไม่เกิน 100,000 เร่ือง แบบรปู ของจำนวนทีล่ ดลง ๑. สาระสำคญั แบบรูปของจำนวนที่ลดลงทีละเทา่ กัน เปน็ ชดุ ของจำนวนทีม่ ีความสัมพันธก์ นั แบบลดลงทีละ 3, 3,5,8 และ10อย่างคงที่ ซ่งึ สามารถหาจำนวนตอ่ ไปหรอื จำนวนทห่ี ายไปของแบบรปู ได้ ๒. มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 1.2 : เขา้ ใจและวิเคราะหแ์ บบรูป ความสัมพนั ธ์ ฟังก์ชนั ลำดบั และอนกุ รม และนำไปใช้ ๓. ตวั ชี้วัด ค 1.2 ป.3/1 :ระบจุ ำนวนทีห่ ายไปในแบบรูปของจำนวนท่เี พมิ่ ข้นึ หรือลดลงทลี ะเท่าๆ กัน ๔. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกจำนวนตอ่ ไปของแบบรูปของจำนวนที่ลดลง ได้ (K) 2. เขียนจำนวนทหี่ ายไปของแบบรปู ของจำนวนที่ลดลงได้ (P) ๕. สาระการเรียนรู้ แบบรปู ของจำนวนทลี่ ดลงทลี ะ 3, 3,5,8 และ10 ๖. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใชช้ วี ิต 7. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งม่ันในการทำงาน ๘. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ ที่ ๑ ถา่ ยทอดความรู้ ๑.ครกู ระตนุ้ ความสนใจของนกั เรยี นโดยการให้นกั เรยี นดูบัตรตวั เลขแสดงจำนวน 5 ใบ ดงั น้ี 2,375 2,374 2,373 2,372 2,371 จากนั้นครูตั้งคำถามแล้วให้นักเรียนร่วมกันตอบว่า นักเรียนรู้หรือไม่ว่า จำนวนเหล่านี้มีความสัมพันธ์กัน อยา่ งไร (เปน็ การลดลงทลี ะ 1)

๒.ครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล โดยให้คำแนะนำว่าบัตรตัวเลขแสดงจำนวนแต่ ละใบต่างกนั หรอื เหมือนกันอย่างไร ถ้าต่างกัน ต่างกันอยา่ งไร หรือถ้าเหมอื นกัน เหมือนกันอยา่ งไร ขัน้ ที่ ๒ ใหต้ ัวอย่าง ๓.ครกู ำหนดจำนวนเร่มิ ต้นใหน้ ักเรยี น จากน้ันให้นักเรยี นเขียนจำนวนทล่ี ดลงทลี ะ 3 ถัดไปอกี 5 จำนวนเชน่ จำนวนเรมิ่ ต้นเป็น 8,906 (8,903 8,900 8,897 8,894 8,891) จำนวนเร่ิมต้นเป็น 3,510 (3,507 3,504 3,501 3,498 3,495) จำนวนเร่ิมต้นเป็น 8,005 (8,002 7,999 7,996 7,993 7,990) จำนวนเริ่มต้นเปน็ 6,587 (6,584 6,581 6,578 6,575 6,572) จำนวนเริ่มตน้ เปน็ 2,359 (2,356 2,353 2,350 2,347 2,344) ๔.ครูเขียนแบบรปู ของจำนวนท่ีลดลงทลี ะ 3 บนกระดาน ใหน้ ักเรียนพจิ ารณาและรว่ มกันอภปิ รายว่าจำนวน ตอ่ ไปคืออะไร 15,924 15,921 15,918 15,915 …………. …………. …………. จากนั้นครูกล่าวว่า จากแบบรูปที่กำหนดเริ่มจาก 15,924 จำนวนต่อมา คือ 15,921 15,918 15,915 .......... .......... .......... โดยครูต้งั คำถามกระตนุ้ ความคิด ดงั นี้ - จำนวนเริ่มตน้ ของแบบรปู คือจำนวนใด (15,924) - จำนวนถดั ไปของแบบรูปคือจำนวนใด (15,921) - จำนวน 15,921 มคี า่ มากกวา่ หรือน้อยกวา่ 15,924 อยเู่ ท่าไร (นอ้ ยกว่าอยู่ 3) - จำนวนที่ถัดจาก 15,921 คือจำนวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 15,921 อยู่เท่าไร (15,918 และน้อยกวา่ อยู่ 3) - จำนวนที่ถัดจาก 15,918 คือจำนวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 15,918 อยู่เท่าไร (15,915 และน้อยกวา่ อยู่ 3) - นักเรียนคิดว่าจำนวนที่อยู่ถัดจาก 15,915 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 15,915 เท่าไร (น้อยกว่า อยู่ 3) - นักเรียนคิดว่าจำนวนที่อยู่ถัดจาก 15,915 อีกสามจำนวน ควรมีค่าเท่าไรบ้าง (15,912 15,909 15,906) ๕.ครเู ขียนแบบรูปของจำนวนทีล่ ดลงทลี ะ 5 บนกระดาน ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาและร่วมกนั อภปิ รายว่าจำนวน ตอ่ ไปคอื อะไร 80,399 80,394 80,389 80,384 …………. …………. …………. จากนั้นครูกล่าวว่า จากแบบรูปที่กำหนดเริ่มจาก 80,399 จำนวนต่อมา คือ 80,394 80,389 80,384 .......... .......... .......... โดยครตู ัง้ คำถามกระตุ้นความคิด ดังนี้ - จำนวนเริ่มต้นของแบบรูปคอื จำนวนใด (80,399) - จำนวนถดั ไปของแบบรูปคอื จำนวนใด (80,394)

- จำนวน 80,394 มีคา่ มากกว่าหรือนอ้ ยกวา่ 80,399 อยเู่ ทา่ ไร (นอ้ ยกว่าอยู่ 5) - จำนวนที่ถัดจาก 80,394 คือจำนวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 80,394 อยู่เท่าไร (80,389 และนอ้ ยกว่าอยู่ 5) - จำนวนที่ถัดจาก 80,389 คือจำนวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 80,389 อยู่เท่าไร (80,384 และนอ้ ยกว่าอยู่ 5) - นักเรียนคิดว่าจำนวนที่อยู่ถัดจาก 80,384 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 80,384 เท่าไร (น้อยกว่า อยู่ 5) - นักเรียนคิดว่าจำนวนที่อยู่ถัดจาก 80,384 อีกสามจำนวน ควรมีค่าเท่าไรบ้าง (80,379 80,374 80,369) ๖.ครเู ขยี นแบบรูปของจำนวนทลี่ ดลงทลี ะ 8 บนกระดาน ให้นกั เรียนพจิ ารณาและรว่ มกนั อภปิ รายวา่ จำนวน ต่อไปคอื อะไร 31,470 31,462 31,454 31,446 …………. …………. …………. จากนั้นครูกล่าวว่า จากแบบรูปที่กำหนดเริ่มจาก 31,470 จำนวนต่อมา คือ 31,462 31,454 31,446 .......... .......... .......... โดยครตู ง้ั คำถามกระตุน้ ความคดิ ดังนี้ - จำนวนเริ่มตน้ ของแบบรปู คือจำนวนใด (31,470) - จำนวนถดั ไปของแบบรูปคือจำนวนใด (31,462) - จำนวน 31,462 มีค่ามากกวา่ หรือนอ้ ยกวา่ 31,470 อย่เู ท่าไร (นอ้ ยกวา่ อยู่ 8) - จำนวนที่ถัดจาก 31,462 คือจำนวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 31,462 อยู่เท่าไร (31,454 และนอ้ ยกว่าอยู่ 8) - จำนวนที่ถัดจาก 31,454 คือจำนวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 31,454 อยู่เท่าไร (31,446 และน้อยกว่าอยู่ 8) - นักเรียนคิดว่าจำนวนที่อยู่ถัดจาก 31,446 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 31,446 เท่าไร (น้อยกว่า อยู่ 8) - นักเรียนคิดว่าจำนวนที่อยู่ถัดจาก 31,446 อีกสามจำนวน ควรมีค่าเท่าไรบ้าง (31,438 31,430 31,422) ๗.ครูเขียนแบบรูปของจำนวนทล่ี ดลงทีละ 10 บนกระดาน ให้นกั เรยี นพิจารณาและรว่ มกนั อภิปรายวา่ จำนวน ตอ่ ไปคอื อะไร 46,991 46,981 46,971 46,961 …………. …………. …………. จากนั้นครูกล่าวว่า จากแบบรูปที่กำหนดเริ่มจาก 46,991 จำนวนต่อมา คือ 46,981 46,971 46,961 .......... .......... .......... โดยครตู ั้งคำถามกระตนุ้ ความคิด ดงั น้ี - จำนวนเร่ิมต้นของแบบรูปคือจำนวนใด (46,991) - จำนวนถัดไปของแบบรปู คือจำนวนใด (46,981)

- จำนวน 46,981 มีคา่ มากกว่าหรือน้อยกว่า 46,991 อยู่เท่าไร (นอ้ ยกวา่ อยู่ 10) - จำนวนที่ถัดจาก 46,981 คือจำนวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 46,981 อยู่เท่าไร (46,971 และนอ้ ยกวา่ อยู่ 10) - จำนวนที่ถัดจาก 46,971 คือจำนวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 46,971 อยู่เท่าไร (46,961 และน้อยกวา่ อยู่ 10) - นักเรียนคิดว่าจำนวนที่อยู่ถัดจาก 46,961 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 46,961 เท่าไร (น้อยกว่า อยู่ 10) - นักเรียนคิดว่าจำนวนที่อยู่ถัดจาก 46,961 อีกสามจำนวน ควรมีค่าเท่าไรบ้าง (46,951 46,941 46,931) ๘.ครจู ดั กจิ กรรมทำนองเดียวกนั อีก 2 – 3 ขอ้ จนกวา่ นกั เรยี นทุกคนจะทำไดค้ ล่องแคลว่ และถูกตอ้ ง ขน้ั ที่ ๓ ฝึกปฏิบัติ ๙.ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั แบบรปู ของจำนวนทล่ี ดลงทีละเท่าๆกัน ข้ันที่ ๔ วิเคราะหแ์ ละอภปิ ราย ๑๐.ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ ส่งิ ทไ่ี ด้เรยี นรรู้ ว่ มกัน ดงั น้ี แบบรปู ของจำนวนท่ีลดลงทีละ 3,5,8 และ 10 เป็น ชุดของจำนวนท่ีมีความสัมพันธ์กนั แบบลดลงอย่างคงที่ ซ่งึ สามารถหาจำนวนต่อไปหรือจำนวนท่ีหายไปของแบบรปู ได้ ขน้ั ที่ ๕ วดั และประเมนิ ผล ๑๑.ครตู รวจแบบฝึกหัด และใหค้ ำแนะนำนกั เรียนเปน็ รายบุคคล ๙. การวดั และประเมนิ ผล วิธีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น แบบทดสอบกอ่ น-หลังเรียน หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1๒ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1๒ (ประเมนิ ตามสภาพ ตรวจแบบฝกึ หัดหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1๒ จริง) แบบฝกึ หัดหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1๒ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ รายบุคคล สังเกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่นั ใน ระดบั คณุ ภาพ 2 การทำงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ๑๐. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ -บัตรตวั เลข

ภาคผนวก 1.ภาระงาน/ช้ินงาน (ใหส้ แกน/ถ่ายรูป) 2.คะแนนสอบก่อนเรยี น/หลังเรียนและผลการประเมนิ อื่นๆ 3.แบบประเมินหน่วย 4.แบบประเมนิ แผน

พ.น./วก. 02 โรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวสั ดร์ิ าษฎร์บำรงุ ) แบบประเมนิ หน่วยการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เร่ืองจำนวนนับไมเ่ กิน 100,000 เวลาทใี่ ช้ 18 ชว่ั โมง รหสั วิชา ค13101 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3 ครูผสู้ อน นางสาวจิระพนั ธ์ุ ปากวเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมิน มคี วามสอดคลอ้ ง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม 5 หมายถึง มากสดุ ทสี่ ุด 4 หมายถงึ มาก 3 หมายถงึ ปานกลาง 2 หมายถึง นอ้ ย 1 หมายถึง น้อยท่สี ดุ ขอ้ รายการประเมิน ระดับคะแนน ที่ 54321 1 ช่อื หน่วยการเรยี นรู้น่าสนใจ กะทัดรัด ชัดเจน ครอบคลมุ เนอื้ หาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั /ผลการเรียนร้/ู สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์มคี วามเชือ่ มโยงกันอย่างเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดกบั มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ 4 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดกับสาระการเรียนรู้ 5 ความเชื่อมโยงสัมพันธก์ ันระหว่างชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชว้ี ัด / ผลการเรียนรู้สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรียนรแู้ ละกจิ กรรมการเรยี นรู้ 6 กจิ กรรมการเรียนรู้สอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั /ผลการเรียนรูแ้ ละสาระการเรียนรู้ 7 กจิ กรรมการเรยี นร้มู ีความครอบคลุมในการพัฒนาผูเ้ รียนให้มีความรูท้ กั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคญั ของผู้เรียน และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 8 กิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสมสามารถนำผเู้ รียนไปสู่การสร้างชิ้นงาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมินผลตามสภาพจรงิ และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั /กิจกรรมการเรียนรู้ 10 ประเด็นและเกณฑ์การประเมินสามารถสะทอ้ นคุณภาพผูเ้ รยี นตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด/ผล การเรยี นรู้ 11 สอื่ การเรยี นรู้ในแต่ละกิจกรรม มีความเหมาะสมกบั เวลาและการนำไปประยกุ ตใ์ ช้ได้จริง 12 กำหนดเวลาได้เหมาะสมกบั กจิ กรรม และสามารถนำไปปฏบิ ัตจิ ริงได้ ข้อเสนอแนะ .................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................................. (นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา) ผูป้ ระเมิน

พ.น./วก. 02 โรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวสั ด์ิราษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมนิ หน่วยการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรือ่ งจำนวนนับไม่เกิน 100,000 เวลาท่ใี ช้ 18 ชว่ั โมง รหสั วชิ า ค13101 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 ครูผสู้ อน นางสาวจริ ะพนั ธ์ุ ปากวิเศษ กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมิน มคี วามสอดคลอ้ ง/เช่ือมโยง/เหมาะสม 5 หมายถงึ มากสุดทส่ี ุด 4 หมายถึง มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถงึ นอ้ ย 1 หมายถงึ นอ้ ยทีส่ ุด ขอ้ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ท่ี 54321 1 ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้น่าสนใจ กะทัดรัด ชดั เจน ครอบคลมุ เนื้อหาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด/ผลการเรียนร/ู้ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์มีความเชือ่ มโยงกันอยา่ งเหมาะสม 3 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดกบั มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั /ผลการเรยี นรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดกบั สาระการเรียนรู้ 5 ความเชอื่ มโยงสัมพนั ธ์กันระหวา่ งช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชวี้ ัด / ผลการเรียนรสู้ าระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรียนรแู้ ละกจิ กรรมการเรียนรู้ 6 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรแู้ ละสาระการเรียนรู้ 7 กิจกรรมการเรียนรู้มีความครอบคลุมในการพัฒนาผ้เู รียนใหม้ คี วามรทู้ ักษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคญั ของผูเ้ รยี น และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 กิจกรรมการเรยี นรูม้ ีความเหมาะสมสามารถนำผเู้ รียนไปสู่การสร้างช้ินงาน/ภาระงาน 9 มีการประเมินผลตามสภาพจรงิ และสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชีว้ ัด/กิจกรรมการเรียนรู้ 10 ประเด็นและเกณฑก์ ารประเมนิ สามารถสะท้อนคณุ ภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้วี ัด/ผล การเรยี นรู้ 11 สือ่ การเรียนรู้ในแตล่ ะกจิ กรรม มีความเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยุกต์ใช้ไดจ้ รงิ 12 กำหนดเวลาได้เหมาะสมกับกจิ กรรม และสามารถนำไปปฏบิ ัติจริงได้ ขอ้ เสนอแนะ .................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................. ลงช่อื .................................................................. (นางสาวสวุ ดี กาญจนาภา) ผูป้ ระเมนิ

พ.น./วก. 02 โรงเรยี นวดั พชื นิมติ (คำสวสั ดิร์ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมนิ หนว่ ยการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรอื่ งจำนวนนับไมเ่ กิน 100,000 เวลาทใี่ ช้ 18 ช่ัวโมง รหัสวชิ า ค13101 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ครูผสู้ อน นางสาวจริ ะพนั ธ์ุ ปากวิเศษ กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมิน มคี วามสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม 5 หมายถึง มากสุดท่สี ดุ 4 หมายถงึ มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถึง น้อย 1 หมายถึง น้อยที่สุด ขอ้ รายการประเมิน ระดับคะแนน ท่ี 54321 1 ช่อื หน่วยการเรียนรู้นา่ สนใจ กะทัดรดั ชดั เจน ครอบคลมุ เนอื้ หาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้/สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น และคุณลักษณะอันพงึ ประสงคม์ ีความเชอื่ มโยงกันอย่างเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดกบั มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ 4 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดกับสาระการเรียนรู้ 5 ความเชอื่ มโยงสัมพนั ธก์ ันระหวา่ งช่อื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด / ผลการเรยี นรสู้ าระสำคัญ/ความคิดรวบยอดสาระการเรียนรู้และกิจกรรมการเรียนรู้ 6 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรแู้ ละสาระการเรยี นรู้ 7 กิจกรรมการเรยี นรมู้ ีความครอบคลุมในการพฒั นาผู้เรยี นให้มีความร้ทู กั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคญั ของผู้เรียน และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 8 กจิ กรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสมสามารถนำผู้เรยี นไปสกู่ ารสรา้ งช้ินงาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมินผลตามสภาพจริงและสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั /กจิ กรรมการเรียนรู้ 10 ประเดน็ และเกณฑ์การประเมินสามารถสะท้อนคณุ ภาพผู้เรยี นตามมาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั /ผล การเรียนรู้ 11 สือ่ การเรยี นรู้ในแตล่ ะกิจกรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยกุ ตใ์ ช้ได้จรงิ 12 กำหนดเวลาได้เหมาะสมกับกิจกรรม และสามารถนำไปปฏิบัตจิ ริงได้ ข้อเสนอแนะ .................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................................. (นางสาวกนั ยาภทั ร ภทั รโสตถิ) ผปู้ ระเมนิ

พ.น./วก. 03 โรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ดิ์ราษฎร์บำรงุ ) สรปุ ผลการประเมินหน่วยการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรอื่ งจำนวนนับไมเ่ กนิ 100,000 เวลาที่ใช้ 18 ชัว่ โมง รหัสวิชา ค13101 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ครูผสู้ อน นางสาวจิระพนั ธ์ุ ปากวเิ ศษ กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- แบบประเมินหนว่ ยการเรียนรู้ ซึง่ เปน็ แบบมาตราสว่ นประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 12 ขอ้ มีระดับการประเมิน 5 ระดบั คือ 5 หมายถงึ มคี วามสอดคลอ้ ง/เชื่อมโยง/เหมาะสม มากทสี่ ุด 4 หมายถึง มคี วามสอดคลอ้ ง/เช่อื มโยง/เหมาะสม มาก 3 หมายถงึ มคี วามสอดคล้อง/เชือ่ มโยง/เหมาะสม ปานกลาง 2 หมายถงึ มคี วามสอดคลอ้ ง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม นอ้ ย 1 หมายถึง มคี วามสอดคล้อง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม น้อยที่สดุ ซ่งึ ถอื เกณฑ์ในการแปลความหมายของคา่ เฉลยี่ ดงั นี้ 4.50 – 5.00 หมายความวา่ มคี วามสอดคลอ้ ง/เชื่อมโยง/เหมาะสม มากที่สดุ 3.50 – 4.49 หมายความวา่ มีความสอดคลอ้ ง/เชือ่ มโยง/เหมาะสม มาก 2.50 – 3.49 หมายความวา่ มคี วามสอดคลอ้ ง/เชื่อมโยง/เหมาะสม ปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายความว่า มคี วามสอดคลอ้ ง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม น้อย 1.00 – 1.49 หมายความวา่ มีความสอดคลอ้ ง/เช่อื มโยง/เหมาะสม น้อยที่สุด คะแนนของผปู้ ระเมนิ ค่า การแปล ข้อที่ รายการประเมิน คนที่ คนท่ี คนท่ี เฉล่ีย ความหมาย 123 1 ชือ่ หน่วยการเรียนรู้นา่ สนใจ กะทัดรดั ชัดเจน ครอบคลุมเนือ้ หาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรียนรู/้ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคม์ คี วามเชอ่ื มโยงกันอย่างเหมาะสม 3 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดกบั มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตัวช้ีวดั /ผลการเรยี นรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกับสาระการเรียนรู้ 5 ความเชอ่ื มโยงสัมพนั ธก์ นั ระหวา่ งชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด /ผลการเรยี นรู้สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรียนรูแ้ ละ กิจกรรมการเรียนรู้ 6 กจิ กรรมการเรยี นร้สู อดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั /ผลการเรียนรู้ และสาระการเรียนรู้

-2- คะแนนของผูป้ ระเมนิ คา่ การแปล ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ คนท่ี คนที่ คนท่ี เฉลย่ี ความหมาย 123 7 กิจกรรมการเรยี นรู้มคี วามครอบคลมุ ในการพฒั นาผู้เรยี นให้มี ความรทู้ ักษะ/กระบวนการ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น และ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 กจิ กรรมการเรยี นร้มู คี วามเหมาะสมสามารถนำผเู้ รยี นไปสกู่ าร สร้างชนิ้ งาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมนิ ผลตามสภาพจริงและสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการ เรียนร้/ู ตวั ชี้วดั /กจิ กรรมการเรยี นรู้ 10 ประเด็นและเกณฑก์ ารประเมินสามารถสะทอ้ นคุณภาพผ้เู รยี นตาม มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้วี ดั /ผลการเรยี นรู้ 11 สอ่ื การเรียนรู้ในแต่ละกิจกรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการ นำไปประยุกต์ใช้ไดจ้ ริง 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกบั กจิ กรรม และสามารถนำไปปฏบิ ตั จิ ริง ได้ ภาพรวม สรุปผลการประเมนิ  ผา่ น (ความสอดคลอ้ ง/เช่อื มโยง/เหมาะสมต้ังแต่ระดับปานกลางข้ึนไป)  ผา่ น (ความสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสมตำ่ กวา่ ระดบั ปานกลาง) ลงชือ่ .......................................... (นางสาวกนั ยาภทั ร ภัทรโสตถิ) ประธานกรรมการ ลงชอื่ .......................................... ลงชื่อ.......................................... (นางสาวสวุ ดี กาญจนาภา) (นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา) กรรมการ กรรมการ

พ.น./วก. 04 โรงเรยี นวัดพชื นมิ ิต (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 เร่ืองจำนวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 เวลาท่ีใช้ 18 ชวั่ โมง รหัสวชิ า ค13101 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ครูผสู้ อน นางสาวจริ ะพนั ธุ์ ปากวเิ ศษ กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมนิ 5 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดับ ดีมาก 4 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดบั ดี 3 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั พอใช้ 1 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั ปรบั ปรุง ขอ้ ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 54321 1 แผนการจดั การเรยี นรสู้ อดคล้องสัมพันธก์ ับหน่วยการเรียนรทู้ ีก่ ำหนดไว้ 2 แผนการจัดการเรียนรูม้ ีองค์ประกอบสำคัญครบถว้ นสมั พันธก์ ัน 3 การเขยี นสาระสำคญั ในแผนถกู ต้อง 4 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้มีความชัดเจนครอบคลมุ เน้อื หาสาระ 5 กำหนดเน้ือหาสาระเหมาะสมกบั เวลา 6 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์และเนอ้ื หาสาระ 7 กิจกรรมการเรยี นรู้สอดคล้องกับจดุ ประสงคแ์ ละระดบั ชั้นของนกั เรยี น 8 กจิ กรรมการเรยี นรู้มีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ไิ ดจ้ ริง 9 กจิ กรรมการเรยี นรเู้ ป็นกิจกรรมที่สง่ เสรมิ กระบวนการคิดของนกั เรยี น 10 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งแทรกคณุ ธรรมและคา่ นยิ มทด่ี ีงาม 11 กิจกรรมการเรยี นรู้เน้นใหผ้ ้เู รยี นมสี ว่ นรว่ มในชัน้ เรียน 12 วสั ดุอปุ กรณ์ สือ่ นวัตกรรมและเทคโนโลยมี ีความหลากหลาย 13 วัสดุอุปกรณ์ สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้เหมาะสมกับเนอื้ หาสาระ 14 ส่งเสรมิ ให้ผเู้ รยี นคน้ คว้าหาความรู้ จากแหล่งเรยี นรูต้ ่างๆ 15 มีการวัดและประเมินผลทส่ี อดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรียนรู้

-2- ข้อเสนอแนะ ด้านเนอื้ หาสาระ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านการวัดและประเมินผล...................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านอืน่ ๆ (โปรดระบ)ุ ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... (ลงช่ือ)..................................................ผู้ประเมิน (นางสาวจริ ะพนั ธ์ุ ปากวิเศษ) ............./.................../............. สิ่งท่ีไดด้ ำเนินการแกไ้ ข ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... (ลงช่ือ)..................................................ผู้สอน (นางสาวแพรวร่งุ ศรปี ระภา) ............./.................../............

พ.น./วก. 04 โรงเรียนวัดพชื นมิ ิต (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 เร่ืองจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 เวลาท่ีใช้ 18 ชวั่ โมง รหัสวชิ า ค13101 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ครูผสู้ อน นางสาวจริ ะพนั ธุ์ ปากวเิ ศษ กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมนิ 5 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั ดีมาก 4 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดบั ดี 3 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั พอใช้ 1 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ปรบั ปรุง ขอ้ ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 54321 1 แผนการจดั การเรยี นรสู้ อดคล้องสัมพันธก์ ับหน่วยการเรียนรทู้ ีก่ ำหนดไว้ 2 แผนการจัดการเรียนรูม้ ีองค์ประกอบสำคัญครบถว้ นสมั พันธก์ ัน 3 การเขยี นสาระสำคญั ในแผนถกู ต้อง 4 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้มีความชัดเจนครอบคลมุ เน้อื หาสาระ 5 กำหนดเน้ือหาสาระเหมาะสมกบั เวลา 6 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์และเนอ้ื หาสาระ 7 กิจกรรมการเรยี นรู้สอดคล้องกับจดุ ประสงคแ์ ละระดบั ชั้นของนกั เรยี น 8 กจิ กรรมการเรยี นรู้มีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ไิ ดจ้ ริง 9 กจิ กรรมการเรยี นรเู้ ป็นกิจกรรมทส่ี ง่ เสรมิ กระบวนการคิดของนกั เรยี น 10 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งแทรกคณุ ธรรมและคา่ นยิ มทด่ี ีงาม 11 กิจกรรมการเรยี นรู้เน้นใหผ้ ้เู รยี นมสี ว่ นรว่ มในชัน้ เรียน 12 วสั ดุอปุ กรณ์ สือ่ นวัตกรรมและเทคโนโลยมี ีความหลากหลาย 13 วัสดุอุปกรณ์ สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้เหมาะสมกับเนอื้ หาสาระ 14 ส่งเสรมิ ให้ผเู้ รยี นคน้ คว้าหาความรู้ จากแหล่งเรยี นรูต้ ่างๆ 15 มีการวัดและประเมินผลทส่ี อดคลอ้ งกับจุดประสงคก์ ารเรียนรู้

-2- ข้อเสนอแนะ ด้านเนอื้ หาสาระ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านการวัดและประเมินผล...................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านอืน่ ๆ (โปรดระบ)ุ ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... (ลงชอ่ื )..................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวจริ ะพันธ์ุ ปากวเิ ศษ) ............./.................../............. สิ่งท่ีไดด้ ำเนินการแกไ้ ข ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... (ลงช่ือ)..................................................ผสู้ อน (นางสาวสวุ ดี กาญจนาภา) ............./.................../............

พ.น./วก. 04 โรงเรียนวัดพชื นมิ ิต (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 เร่ืองจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 เวลาท่ีใช้ 18 ชวั่ โมง รหัสวชิ า ค13101 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ครูผสู้ อน นางสาวจริ ะพนั ธุ์ ปากวเิ ศษ กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมนิ 5 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั ดีมาก 4 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดบั ดี 3 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั พอใช้ 1 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ปรบั ปรุง ขอ้ ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 54321 1 แผนการจดั การเรยี นรสู้ อดคล้องสัมพันธก์ ับหน่วยการเรียนรทู้ ีก่ ำหนดไว้ 2 แผนการจัดการเรียนรูม้ ีองค์ประกอบสำคัญครบถว้ นสมั พันธก์ ัน 3 การเขยี นสาระสำคญั ในแผนถกู ต้อง 4 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้มีความชัดเจนครอบคลมุ เน้อื หาสาระ 5 กำหนดเน้ือหาสาระเหมาะสมกบั เวลา 6 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์และเนอ้ื หาสาระ 7 กิจกรรมการเรยี นรู้สอดคล้องกับจดุ ประสงคแ์ ละระดบั ชั้นของนกั เรยี น 8 กจิ กรรมการเรยี นรู้มีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ไิ ดจ้ ริง 9 กจิ กรรมการเรยี นรเู้ ป็นกิจกรรมทส่ี ง่ เสรมิ กระบวนการคิดของนกั เรยี น 10 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งแทรกคณุ ธรรมและคา่ นยิ มทด่ี ีงาม 11 กิจกรรมการเรยี นรู้เน้นใหผ้ ้เู รยี นมสี ว่ นรว่ มในชัน้ เรียน 12 วสั ดุอปุ กรณ์ สือ่ นวัตกรรมและเทคโนโลยมี ีความหลากหลาย 13 วัสดุอุปกรณ์ สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้เหมาะสมกับเนอื้ หาสาระ 14 ส่งเสรมิ ให้ผเู้ รยี นคน้ คว้าหาความรู้ จากแหล่งเรยี นรูต้ ่างๆ 15 มีการวัดและประเมินผลทส่ี อดคลอ้ งกับจุดประสงคก์ ารเรียนรู้

-2- ข้อเสนอแนะ ด้านเนอื้ หาสาระ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านการวัดและประเมินผล...................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านอืน่ ๆ (โปรดระบ)ุ ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... (ลงช่ือ)..................................................ผูป้ ระเมิน (นางสาวจริ ะพนั ธ์ุ ปากวิเศษ) ............./.................../............. สิ่งท่ีไดด้ ำเนินการแกไ้ ข ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... (ลงชอ่ื )..................................................ผสู้ อน (นางสาวกันยาภทั ร ภัทรโสตถ)ิ ............./.................../............

พ.น./วก. 05 โรงเรียนวัดพชื นมิ ิต (คำสวสั ดิ์ราษฎร์บำรงุ ) สรุปผลการประเมินแผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรอ่ื งจำนวนนับไมเ่ กนิ 100,000 เวลาที่ใช้ 18 ชัว่ โมง รหสั วชิ า ค13101 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 ครผู สู้ อน นางสาวจิระพนั ธุ์ ปากวิเศษ กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ 5 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับ ดีมาก 4 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดบั ดี 3 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดับ ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดับ นอ้ ย 1 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับ นอ้ ยมาก ซ่งึ ถอื เกณฑ์ในการแปลความหมายของคา่ เฉลี่ยดังน้ี (ธานนิ ทร์ ศลิ ปะจารุ. 2555:112) 4.50 – 5.00 หมายความวา่ มคี วามเหมาะสมในระดบั ดมี าก 3.50 – 4.49 หมายถงึ หมายความว่า มีความเหมาะสมในระดบั ดี 2.50 – 3.49 หมายถงึ หมายความว่า มคี วามเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายถงึ หมายความวา่ มีความเหมาะสมในระดบั นอ้ ย 1.00 – 1.49 หมายถึง หมายความวา่ มคี วามเหมาะสมในระดบั นอ้ ยมาก ขอ้ ท่ี รายการประเมิน คะแนนของผปู้ ระเมนิ ค่า การแปล คนที่ 1 คนที่2 คนท่ี 3 เฉลี่ย ความหมาย 1 แผนการจดั การเรยี นรู้สอดคล้องสัมพันธก์ ับหน่วยการเรยี นรทู้ กี่ ำหนดไว้ 2 แผนการจัดการเรยี นรมู้ ีองค์ประกอบสำคัญครบถ้วนสมั พนั ธ์กนั 3 การเขยี นสาระสำคญั ในแผนถูกตอ้ ง 4 จุดประสงค์การเรียนรู้มีความชัดเจนครอบคลมุ เนอ้ื หาสาระ 5 กำหนดเนื้อหาสาระเหมาะสมกับเวลา 6 กจิ กรรมการเรยี นรูส้ อดคลอ้ งกบั จุดประสงค์และเน้อื หาสาระ 7 กิจกรรมการเรียนร้สู อดคล้องกับจุดประสงค์และระดับชน้ั ของนกั เรียน 8 กิจกรรมการเรียนรมู้ ีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ิได้จริง 9 กิจกรรมการเรยี นร้เู ปน็ กจิ กรรมทส่ี ่งเสรมิ กระบวนการคดิ ของนักเรียน 10 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคล้องแทรกคณุ ธรรมและค่านยิ มที่ดีงาม 11 กจิ กรรมการเรยี นรู้เนน้ ให้ผู้เรยี นมสี ่วนร่วมในช้นั เรียน 12 วสั ดอุ ปุ กรณ์ สื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยมี คี วามหลากหลาย 13 วสั ดอุ ุปกรณ์ สื่อ และแหล่งเรียนรเู้ หมาะสมกบั เนื้อหาสาระ 14 ส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี นค้นคว้าหาความรู้ จากแหล่งเรยี นรตู้ ่างๆ 15 มกี ารวดั และประเมนิ ผลที่สอดคล้องกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

-2- ข้อเสนอแนะ ดา้ นเนื้อหาสาระ...................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านกิจกรรมการเรยี นการสอน.............................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านการวดั และประเมินผล..................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... สรุปผลการประเมิน  ผา่ น (มคี วามเหมาะสมต้งั แตร่ ะดับปานกลางข้ึนไป)  ไมผ่ า่ น (ความเหมาะสมตำ่ กวา่ ระดับปานกลาง) ลงช่ือ.......................................... (นางสาวกนั ยาภทั ร ภทั รโสตถิ) ประธานกรรมการ ลงชอ่ื .......................................... ลงชื่อ.......................................... (นางสาวสวุ ดกี าญจนาภา) (นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา) กรรมการ กรรมการ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook