แบบเสนอเค้าโครงการวิจัยในชั้นเรียน

แบบเสนอเค้าโครงการวจิ ัยในชนั้ เรยี น ปกี ารศึกษา 2564 โรงเรยี นวดั พชื นมิ ิต (คาสวสั ดิ์ราษฎร์บารงุ ) ................................................................................................................................................ ช่อื เรอ่ื ง การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ วิชาคณิตศาสตร์ เรือ่ งการวดั นา้ หนกั ด้วย Google Site ส้าหรับนักเรยี น ชันประถมศึกษาปีท่ี 3 ชอื่ ผู้วิจยั นางสาวจิระพันธ์ุ ปากวเิ ศษ 1. ความเป็นมาและความสาคญั จากสภาวะการณ์ในปัจจุบันท่ัวโลกก้าลังเผชิญกับโรคติดเชือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซ่ึงเป็น โรคระบาดใหม่ท่ีมีความรุนแรงมาก เช่น โรคระบบทางเดินหายใจใน ตะวันออกกลาง (MERS-Cov) โรคระบบ ทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS-Cov) เป็นต้น ซึ่งสามารถแพร่เชือจากคนสู่คนได้ ดังนันสถานศึกษา เป็นสถานที่ที่มีนักเรียนอยู่รวมกันจ้านวนมาก จึงมักจะมีความเส่ียงสูง อาจท้าให้การแพร่ระบาดที่เกิดขึนได้ อย่างรวดเร็ว (Super spread) จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ท่ีส่งผลกระทบในหลายด้าน ทังต่อตัวนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการจึงได้เตรียมความพร้อมโดยก้าหนดรูปแบบ การเรียนการสอนของโรงเรียนในแต่ ละพืนที่ไว้ ทังหมด 5 รูปแบบ ประกอบด้วย 1.การเรียน แบบ On- site คือ การเดนิ ทางมาเรยี นท่ีโรงเรียนซึง่ เหมาะสา้ หรับโรงเรยี นท่ีมีปริมาณนกั เรยี นน้อยสามารถจัด พืนท่ีแบบเว้นระยะห่างและเข้มงวดการสวมหน้ากากอนามัยตามมาตรการด้านสาธารณสุข 2.การเรียน แบบ On-Air ผ่านระบบมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ DLTV 3. การเรียนแบบ On- Line ครูผู้สอนท้าการสอนผ่านระบบอิเลคทรอนิค 4.การเรียนแบบ On-demand ผ่านระบบแอปพลิเคชัน และ 5.การเรียนแบบ On- hand เพื่อพิจารณาตามความเหมาะสมและบริบทของโรงเรียน ส้าหรับการเรียน การสอนแบบออนไลน์ เป็นการศึกษาผ่านเครอื ขา่ ยอินเตอรเ์ น็ต โดยนกั เรียนสามารถเลือกเรียนตามความสนใจ หรือครูอาจก้าหนดเนือหาการเรียนรู้เพ่ือให้นักเรียนเข้าถึงเนือหาด้วยตนเองได้ทุกท่ีทุกเวลา เนือหาอาจ ประกอบด้วย ข้อความ, รูปภาพ, เสียง, วีดีโอ และสื่อมัลติมีเดียอ่ืน ๆ ซ่ึงนักเรียน ครูและเพื่อนร่วมชันเรียน สามารถตดิ ต่อ สอ่ื สาร ปรึกษาหรือแลกเปล่ียนความคิดเหน็ แบบเดยี วกับการเรียนในชันเรียนทั่วไป โดยใชช้ ่อง ทางการสื่อสารผ่าน E-mail, Chat, Social Network เป็นต้น ในการจัดการเรียนรู้จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลง บทบาทหนา้ ทโี่ ดยครเู ป็นผู้ออกแบบและเตรยี มกจิ กรรมการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย และมคี วามน่าสนใจเหมาะกับ ผู้เรียน ส่วนนักเรียนต้องศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ ดังนันกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่จะ ประสบความส้าเรจ็ ได้ ครูต้องเป็นผสู้ รา้ งสงิ่ เร้าความสนใจใหผ้ เู้ รียนอยากจะเรยี นรแู้ ละเข้ารว่ มกิจกรรม ครตู ้อง คอยช่วยเหลือ สนับสนุนและกระตุ้นให้ผู้เรียนได้คิดโดยค้านึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล โดยการสร้าง

พืนที่ในการเรียนรู้หรือเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามหรือแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ แต่จ้าเป็นต้อง อาศัยการกระตุ้นจากผู้สอนอย่างสม่้าเสมอ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ซ่ึงเป็นวิชาที่นักเรียนส่วนใหญ่คิดว่ายาก และปิดกันตัวเองที่จะเรียนรู้ จึงขาดความสนใจและไม่พยายามที่จะเรียนรู้ท้าให้การเรียนในระดับท่ีสูงขึนมี ปญั หาในการเรยี นรทู้ ตี่ อ้ งอาศัยพนื ฐานส้าคญั จากรูปธรรม สู่นามธรรมได้ ดังนันเป็นเหตุให้ผู้วิจัยสนใจพัฒนาบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองการวัดน้าหนัก ด้วย Google Site ส้าหรับนักเรียน ชันประถมศึกษาปีที่ 3 ในสถานการณ์ COVID -19 เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของ ผู้เรียนและสรา้ งแรงจงู ใจใหน้ ักเรยี นมเี จตคตทิ ีด่ ีตอ่ การเรียนคณิตศาสตร์ 2. วัตถุประสงค์ของการวจิ ยั 1. เพื่อพัฒนาบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการวัดน้าหนัก ด้วย Google Site ส้าหรับ นกั เรียนชนั ประถมศึกษาปีท่ี 3 2. เพื่อเปรยี บเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นกอ่ นเรียนและหลังเรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ 3. เพอื่ ศกึ ษาความพึงพอใจของนักเรียนชนั ประถมศึกษาปีที่ 3 ทีเ่ รียนด้วยบทเรียนออนไลน์ วิชา คณติ ศาสตร์ เร่อื งการวัดนา้ หนกั ดว้ ย Google Site 3. สมมตฐิ านของการวจิ ัย 1. บทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองการวัดน้าหนัก มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 ไม่ต้่ากว่าเกณฑ์ 80/80 2. นักเรียนท่เี รยี นด้วยบทเรยี นออนไลนม์ ีผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนหลงั เรียนสูงขนึ 3. นกั เรียนที่เรยี นดว้ ยบทเรียนออนไลนม์ ีความพึงพอใจในการเรยี นอยู่ในระดบั มากขึนไป 4.ขอบเขตของการวิจัย ประชากรทใ่ี ช้ในการศกึ ษา ไดแ้ ก่นักเรยี นชนั ประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดพชื นิมิต (ค้าสวสั ด์ิราษฎร์ บ้ารุง) ต้าบลคลองหน่ึง อ้าเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ส้านักงานเขตพืนที่การศึกษาประถมศึกษา ปทุมธานี เขต 1 เป็นนักเรียนทไ่ี ม่เคยเรยี นบทเรียนออนไลนว์ ชิ าคณิตศาสตร์ เร่อื งการวดั นา้ หนัก ดว้ ย Google Site ส้าหรับนักเรียนระดับชันประถมศึกษาปีที่ 3 จ้านวน 60 คน และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครังนี ชัน ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 จ้านวน 20 คน โดยการเลอื กแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) ตัวแปรในการศึกษา 1. ตัวแปรอิสระ ได้แก่ การเรียนรู้ผ่านบทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการวัดน้าหนัก ด้วย Google Site 2. ตัวแปรตาม ได้แก่ ความพึงพอใจต่อการใช้บทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการวัดน้าหนัก ด้วย Google Site

เนือ้ หาทใ่ี ช้ในการวิจยั เนื้อหาที่ใช้ในการวิจัยคร้ังนี้ ได้แก่ บทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการวัดน้าหนัก ด้วย Google Site สา้ หรับนักเรยี นชันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 5.ระยะเวลาทีใ่ ชใ้ นการวจิ ยั ผวู้ ิจยั ท้าการทดลองในภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จา้ นวน 15 ชั่วโมง 6.เนอ้ื หาทีใ่ ชใ้ นการวิจยั ด้านเนือหาในการด้าเนินการวิจัยในครังนีผู้วิจัยได้ก้าหน ดเนือหาจากหนังสือเรียน วิช า พืนฐาน คณิตศาสตร์ ชันประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน พนื ฐานพทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ 2560) การศึกษาครงั นีใชเ้ นอื หารายวิชาคณิตศาสตร์ สาระที่ 2 การ วดั และเรขาคณติ นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ บทเรียนออนไลน์ หมายถึง บทเรียนออนไลน์วชิ าคณติ ศาสตร์ เรือ่ งการวดั นา้ หนัก ด้วย Google Site ส้าหรับนักเรียน ชันประถมศึกษาปีท่ี 3 โดยมีบทเรียนจ้านวน 11 เรื่อง ประกอบด้วย แบบทดสอบก่อนและ หลังเรียน ค้าชีแจง วีดีโอค้าชีแจงรูปภาพ วีดีโอเนือหา แบบฝึกทักษะออนไลน์ เกมท้าทาย กระดานค้าถาม - ตอบ แบบลงชื่อเขา้ -ออกบทเรยี นออนไลน์ ภาระชินงาน แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ความสามารถในการเรียนของนักเรียน ในรายวิชาคณิตศาสตร์ ซ่ึงวัดได้จากคะแนนการทา้ แบบทดสอบก่อนและหลงั เรยี น ใบงานออนไลน์แต่ละหัวข้อ และชินงาน แบบฝึกทักษะออนไลน์ หมายถึง สื่อหรือเอกสารการเรียนประเภทหน่ึง ท่ีผู้วิจัยสร้างขึนเพื่อให้ นักเรียนฝึกปฏิบัติเพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจและทักษะเพิ่มขึน เพ่ือพัฒนาทักษะในด้านหน่ึงๆ ที่ผู้วิจัย ต้องการศึกษาพัฒนาการให้กับนักเรียน และเรียงล้าดับจากง่ายไปหายาก โดยเน้นการฝึกทักษะตาม กระบวนการทไ่ี ดก้ ้าหนดไว้และสามารถน้าไปใช้ได้ในชวี ติ ประจา้ วัน ประสิทธิภาพของบทเรียนออนไลน์ หมายถึง อัตราส่วนระหว่างค่าร้อยละของค่าเฉลี่ยจาก การ ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมระหว่างเรยี น โดยใช้บทเรียนออนไลน์กบั คา่ ร้อยละของคะแนนท่ีได้จากการท้าแบบทดสอบหลัง เรียน โดยใช้ประสิทธภิ าพ 80/80 เปน็ เกณฑ์ตัดสิน 80 ตัวแรก หมายถึง ประสิทธิภาพของกระบวนการโดยพิจารณาจากร้อยละของคะแนนเฉลี่ยของ นักเรียนจากการเรียนโดยใช้บทเรียนออนไลน์ 80 ตัวหลัง หมายถึง ประสิทธิภาพของผลผลิตโดยพิจารณาจากร้อยละของคะแนนเฉล่ียจาก แบบทดสอบหลังเรยี นของนกั เรยี น โดยมคี ะแนนเฉลี่ยร้อยละ 80 ขึนไป

ความพงึ พอใจ หมายถึง ความคิดเห็นของนักเรียนชันประถมศกึ ษาปีที่ 3 ทีม่ ีต่อการ จัดการเรยี นการ สอนด้วยบทเรียนออนไลน์ วิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองการวัดน้าหนัก ด้วย Google Site ด้านเนือหา ด้านการ น้าเสนอดว้ ยภาพและสปี ระกอบ และการเช่ือมโยงเนอื หา และด้านแบบทดสอบและการประเมินผล ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รับ 1. ผลการวิจัยครงั นที ้าให้ได้บทเรียนออนไลน์วชิ าคณิตศาสตร์ เรื่องการวัดน้าหนัก ดว้ ย Google Site 2. เป็นแนวทางแก่ผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยใช้บทเรียนออนไลน์ เพื่อ พฒั นาสอ่ื และนวตั กรรมทางการเรยี น และสรา้ งความพงึ พอใจความรสู้ กึ ที่ดตี ่อการจดั การเรยี นการสอน 3. เป็นแนวทางในการน้าส่อื การเรยี นการสอนไปพัฒนาคณุ ภาพของการเรยี นการสอน ตอ่ ๆ ไป เอกสารและงานวิจยั ทเี่ ก่ียวขอ้ ง การศึกษาครังนี ผู้วิจัยได้ศึกษาค้นคว้าเอกสารและงานวิจัยที่เก่ียวข้องเพ่ือให้เข้าใจ หลักการ ทฤษฎี ตลอดจนผลงานวิจยั ต่างๆ ทีม่ สี ว่ นเก่ียวขอ้ งกับการศกึ ษา ตามหวั ข้อดงั ต่อไปนี 1. หลักสูตรการศึกษาขันพืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ฉบับปรบั ปรงุ 2560 2. หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวัดพืชนิมิต (คา้ สวัสดิ์ราษฎรบ์ ้ารุง) 3. สาระ และมาตรฐานการเรียนรู้ 4. คา้ อธบิ ายรายวชิ า 5. บทเรยี นอเิ ล็กทรอนิกส์ (E-Leaarning) 6. การพฒั นาและหาประสิทธิภาพบทเรยี นเครอื ข่ายอินเตอรเ์ น็ต 7. ความร้ดู ้านซอฟแวร์ 8. งานวจิ ยั ทเี่ กย่ี วขอ้ ง วิธีการดาเนินการวจิ ยั ประชากร นักเรียนชนั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 วิชาคณติ ศาสตร์ จ้านวน 60 คน กลมุ่ ตัวอยา่ ง นกั เรยี นชนั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 วิชาคณิตศาสตร์ จา้ นวน 20 คน วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมข้อมลู ในการวิจัยครังนีผู้วิจัยมีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนาบทเรียนออนไลน์ วิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองการวัด น้าหนัก ด้วย Google Site ส้าหรับนักเรียนชันประถมศึกษาปีท่ี 3 ผู้วิจัยได้ด้าเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลของ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครังนี เป็นนักเรียนระดับชันประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดพืชนิมิต (ค้าสวัสด์ิ ราษฎร์บ้ารุง) ต้าบลคลองหน่ึง อ้าเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี สังกัดส้านักงานเขตพืนที่การศึกษา ประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง จ้านวน 20 คน มีขนั ตอนดงั นี

1. เตรียมนักเรียน โดยชีแจงการด้าเนินการวิจัยให้นักเรียนได้รับทราบถึงจุดประสงค์ของการพัฒนา บทเรียนออนไลน์ซึ่งจะมีการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนท่ีเรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ และประโยชน์ท่ี นักเรียนจะไดร้ ับจากการเรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ 2. อธิบายกับนักเรียนเกี่ยวกับขันตอนการเข้าสบู่ ทเรยี นออนไลน์ วิชาคณิตศาสตร์ ชันประถมศึกษาปี ท่ี 3 เม่ือเขา้ อนิ เทอร์เน็ตแลว้ ท่ีชอ่ ง URL ให้พิมพ์ www.shorturl.asia/JRTs1 จะพบหนา้ homepage 3. ให้นักเรียนเข้าเว็บไซต์บทเรียนออนไลน์วิชาคณิตศาสตร์ www.shorturl.asia/JRTs1 ซึ่งน้าเสนอ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และศึกษาวิธีใช้งานจริง พร้อมทังแนะน้าส่วนต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนได้เข้าใช้งาน เวบ็ ไซต์ได้อยางถูกต้อง 4. ใหน้ กั เรยี นท้าแบบทดสอบกอ่ นเรยี น (pre-test) 5. นักเรียนศึกษาเนือหาจากบทเรียนท่ีละหน่วยการเรียนรู้ นักเรียนสามารถดาวน์โหลดสื่อ ที่เป็นไฟล์ PDF มาศึกษาเพมิ่ เติมได้อีกดว้ ย 6. การใช้งานบทเรียนในส่วนอ่ืน ๆ โดยก้าหนดระยะเวลาเข้าเรียนในแต่ละหน่วยการเรียน ใช้เวลา ประมาณ 4 สัปดาห์ เพ่ือให้นักเรียนเขา้ ไปศกึ ษา และร่วมกิจกรรมตา่ ง ๆ 7. หลังจากท่ีเรียนในแต่ละหน่วยเสร็จแล้ว ให้นักเรียนท้าแบบทดสอบหลังเรียน (posttest) เพ่ือ เปรียบเทยี บคะแนนก่อนเรยี นและหลังเรยี น 8. เมื่อนักเรียนได้เข้าไปเรียนด้วยบทเรียนออนไลน์เสร็จสินครบทุกหน่วยการเรียนแล้ว ให้นักเรียน ตอบแบบสอบถามความพึงพอใจจากการเรียนด้วยบทเรยี นออนไลน์ 9. เกบ็ รวมรวมขอ้ มลู นา้ ไปวเิ คราะหข์ อ้ มูลตามวธิ ีทางสถติ ติ อ่ ไป เครื่องมือในการวจิ ยั 1. การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ วิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองการวัดน้าหนัก ด้วย Google Site ส้าหรับ นกั เรียน ชนั ประถมศึกษาปที ่ี 3 2.การประเมินคุณภาพบทเรียนออนไลน์ วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการวัดน้าหนัก ด้วย Google Site สา้ หรับนกั เรยี น ชันประถมศึกษาปีท่ี 3 จากผูเ้ ชยี่ วชาญเพื่อหาคณุ ภาพของสือ่ ท่ีมปี ระสิทธภิ าพ 3. แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ใชเ้ ปน็ แบบทดสอบส้าหรับวัดผลการเรียนรู้ ก่อนเรยี นและ หลงั เรยี นจากการใช้บทเรยี นออนไลน์ วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการวดั น้าหนกั ด้วย Google Site ส้าหรับนักเรียน ชนั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เพื่อใชส้ า้ หรับวดั พนื ฐานความรเู้ ดิมและผลสัมฤทธิ์หลังเรียน 4. แบบสอบถามความพึงพอใจ เป็นแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชัน ประถมศึกษาปีท่ี 3 ทมี่ ีตอ่ บทเรยี นออนไลน์ วิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองการวดั น้าหนัก ดว้ ย Google Site 5.การวิเคราะหข์ ้อมลู การพฒั นาบทเรียนออนไลน์ วชิ าคณิตศาสตร์ เรอื่ งการวดั น้าหนัก ด้วย Google Site สา้ หรับนกั เรียน ชันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 สามารถสรปุ สถติ ิที่ใชใ้ นการวิเคราะหข์ อ้ มลู ได้ ดังนี

สถติ ทิ ีใ่ ชใ้ นการพฒั นาเคร่อื งมอื 1. การวิเคราะห์ประสิทธภิ าพตามเกณฑ์ 80/80 โดยใช้สตู ร E1 / E2 ดงั นี X Y E1  N 100 E2  N 100 A B เมื่อ E1 หมายถงึ คา่ ประสทิ ธิภาพของกระบวนการคิดเป็นร้อยละ คา่ ประสทิ ธิภาพของผลลพั ธ์ E2 หมายถงึ คะแนนรวมจากการท้าชุดฝกึ ทักษะหรือแบบทดสอบ คะแนนรวมจากการท้าแบบทดสอบหลังเรียน  X หมายถงึ จ้านวนนกั เรียนทงั หมดในกลุ่มทดลอง  Y หมายถงึ คะแนนเต็มของบทเรยี นทุกชุดรวมกนั คะแนนเตม็ ของแบบทดสอบหลังเรยี น N หมายถึง A หมายถงึ B หมายถงึ การวเิ คราะห์คณุ ภาพเครื่องมือ 2. การวิเคราะห์แบบทดสอบเพื่อหาค่าดัชนีความสอดคล้อง IOC (บุญใจ ศรีสถิตย์นรากร,2555,น. 122) IOC  R N เมื่อ IOC หมายถงึ ดชั นคี วามสอดคล้องระหว่างจุดประสงค์กบั เนือหา หรือระหวา่ งขอ้ สอบกบั จดุ ประสงค์ R หมายถึง ผลรวมคะแนนความคิดเหน็ ของผเู้ ชีย่ วชาญทงั หมด N หมายถงึ จา้ นวนผู้เชย่ี วชาญ โดยกา้ หนดเกณฑก์ ารพิจารณา ดังนี +1 หมายถึง คา้ ถามสอดคล้องกบั จุดม่งุ หมายท่ตี ้องการวัด 0 หมายถงึ ไม่แนใ่ จว่าค้าถามสอดคล้องกับจดุ มงุ่ หมายทตี่ อ้ งการวัด -1 หมายถงึ ค้าถามไมส่ อดคล้องกับจดุ มงุ่ หมายท่ตี ้องการวัด คา่ ดัชนคี วามสอดคล้องทผ่ี ่านเกณฑค์ ุณภาพ คือ 50 ขนึ ไป 3.การวเิ คราะห์ข้อมูลแบบสอบถามความพึงพอใจ โดยใชแ้ บบมาตรส่วนประมาณคา่ (Rating Scale) 5 ระดบั ไดแ้ ก่ มากทีส่ ุด มาก ปานกลาง นอ้ ย น้อยท่ีสดุ (บญุ ชม ศรีสะอาด, 2553, น. 121) ระดบั ความคิดเหน็ ระดับความพึงพอใจ 5 หมายถึง ระดบั ความพงึ พอใจมากทส่ี ดุ

4 หมายถงึ ระดับความพงึ พอใจมาก 3 หมายถึง ระดบั ความพงึ พอใจปานกลาง 2 หมายถงึ ระดับความพงึ พอใจน้อย 1 หมายถึง ระดบั ความพงึ พอใจน้อยท่ีสดุ เกณฑ์การแปลความหมาย ค่าเฉลยี่ ระดับความพงึ พอใจ คา่ เฉลี่ย 4.51 - 5.00 หมายถงึ ระดับความพงึ พอใจมากท่ีสุด ค่าเฉลย่ี 3.51 – 4.50 หมายถึง ระดบั ความพึงพอใจมาก ค่าเฉล่ีย 2.51 – 3.50 หมายถงึ ระดับความพงึ พอใจปานกลาง คา่ เฉล่ยี 1.51 - 2.50 หมายถึง ระดบั ความพึงพอใจน้อย คา่ เฉลี่ย 1.00 – 1.50 หมายถึง ระดับความพึงพอใจน้อยที่สดุ การวิเคราะห์แบบทดสอบ 3.5.4 การหาค่าอานาจจาแนก (1) ของแบบทดสอบ (บุญชม ศรี สะอาด, 2553, น. 98) เมือ่ r คือ อา้ นาจจา้ แนก Ru คือ จ้านวนคนกล่มุ สงู ท่ีตอบถกู Rl คอื จา้ นวนคนกลมุ่ ํตา่ ทต่ี อบถกู f คือ จ้านวนคนในกลุม่ สงู และกลุ่มต่้า (ซ่งึ เทา่ กนั ) เกณฑ์การแปลความหมายคา่ อานาจจาแนก (พิสณุ ฟองศรี, 2557, น. 171) ค่าอานาจจาแนก ความหมาย 0.60 - 1.00 ดมี าก 0.40 - 0 59 พอใช้ 0.10 - 0.19 ตา้่ ตอ้ งปรบั ปรุง 0.00 - 0.09 ตา้่ มา ต้องปรบั ปรงุ การหาค่าระดับความยาก (P) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น โดยใชส้ ูตรของเบรนแนน (Brennan) (บุญชม ศรสี ะอาด, 2545, หนา้ 84 ) ดงั นี P = R N

เม่ือ P หมายถึงระดับความยาก R หมายถงึ จ้านวนผ้ตู อบถูกทงั หมด N หมายถึงจ้านวนนักเรียนสอบทังหมด ค่าความยาก ความหมาย 0.80 - 1.00 ง่ายมาก ต้องปรับปรุง 0.60 - 0.79 ค่อนขา้ งง่าย 0.40 - 0 59 ปานกลาง 0.20 - 0.39 ค่อนข้างยาก 0.00 - 0.19 ยากมาก ต้องปรบั ปรุง การหาค่าความเช่ือม่ัน (Reliability) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน โดยใช้สูตร KR-20 (ลว้ นสายยศ และองั คณา สายยศ ,2543, หนา้ 197-198) rtt = n n 1 1   Pq    S2   t เมอื่ rtt หมายถงึ ค่าความเชื่อม่ันของแบบทดสอบ สัดสว่ นของผ้ทู า้ ไดใ้ นขอ้ หนง่ึ ๆ นนั่ คือ P หมายถึง สัดสว่ นของคนทา้ ถูกกับคนทังหมด สัดสว่ นของผู้ท้าผิดในขอ้ หนึ่งๆ หรอื คือ q หมายถงึ 1- p จา้ นวนขอ้ สอบแบบทดสอบ n หมายถงึ ความแปรปรวนของคะแนนทงั ฉบบั S2 หมายถงึ t 3. สถิติทีใ่ ช้ทดสอบสมมตฐิ าน 1. ทดสอบความแตกตา่ งระหวา่ งคะแนนเฉลีย่ โดยใชส้ ถติ ิ Dependent Samples t-test t   D ; df = n-1 N  D2   D2 N 1 เม่ือ t หมายถงึ คา่ สถติ ิที่ใช้ในการพิจารณาใน t – distribution D หมายถงึ ความแตกตา่ งของคะแนนแต่ละคู่ N หมายถงึ จ้านวนกลุ่มตวั อยา่ งหรอื จา้ นวนคะแนนแต่ละคู่

 D หมายถงึ ผลรวมทงั หมดของผลตา่ งของคะแนนกอ่ นเรียน และหลังเรียน  D2 หมายถึงผลรวมของกา้ ลังสองของผลต่างของคะแนนก่อน เรียนและหลังเรียน 2. สถิติพนื ฐาน ทีน่ า้ มาใช้วเิ คราะห์ขอ้ มลู ในการวจิ ยั ครังนมี ดี ังต่อไปนี คา่ เฉลีย่ แทนคา่ ∑ ������ ������̅ = ������ ������̅ คือ ค่าเฉลี่ย ∑ ������ คอื ผลรวมของคะแนนของผู้เรียน ������ คือ จา้ นวนผู้เรียน เกณฑ์การแปลความหมายคา่ เฉล่ยี ของคะแนน ค่าเฉลย่ี 4.51 - 5.00 หมายถึง เหน็ ด้วยอยา่ งย่ิง คา่ เฉล่ยี 3.51 - 4.50 หมายถึง เห็นด้วย ค่าเฉลี่ย 2.51 – 3.50 หมายถงึ ไม่แนใ่ จ คา่ เฉลีย่ 1.51 - 2.50 หมายถึง ไม่เห็นด้วย ค่าเฉลยี่ 1.00 – 1.50 หมายถึง ไม่เห็นดว้ ยอย่างยิง่ 3. ค่าเบยี่ งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยใชส้ ูตร Ferguson (Ferguson, 1981 : 49) 2 ∑ ������2 − (∑ ������)2 ������. ������. = √ ������(������ − 1) แทนค่า ������. ������. คอื ค่าความเบีย่ งเบนมาตรฐาน ∑ ������2 คอื ผลรวมของก้าลังสองของคะแนน (∑ ������)2 คอื ผลรวมของคะแนนทังหมดยกกาลงั สอง ������ คอื จา้ นวนคนในกล่มุ ตวั อยา่ ง น้าข้อมูลท่ีได้จากการท้าแบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลังเรียนมาสร้างตาราง เปรียบเทียบคะแนนสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนของนักเรียนรายบุคคลมา เพื่อดู พฒั นาการของนักเรียนและจดุ บกพรอ่ งตอ่ ไป

ระยะเวลาในการดาเนินการวิจัย ระยะเวลาในการด้าเนนิ การวจิ ยั เดอื นกนั ยายน ถงึ เดอื นกุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 เดอื น ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. รายการ/กจิ กรรม ก. ขัน้ เตรยี มการ 1. ศกึ ษาเอกสารงานวิจัยท่เี ก่ียวขอ้ ง 2. รวบรวมข้อมูลต่างๆท่ีจ้าเป็นเพ่ือจัดท้า โครงร่างวจิ ัย 3. สร้างและหาคุณภาพเคร่ืองมือที่ใช้ในการ วิจยั 4. ทดสอบและแก้ไขเครื่องมอื ที่ใช้ในการวจิ ัย ข. ขน้ั การเก็บข้อมลู 5. เลือกกลุ่มเป้าหมาย/ สุ่มกลุ่มตัวอย่างจาก ประชากร 6. ด้าเนนิ การเก็บขอ้ มูลตามแผนที่วางไว้ ค. ขั้นการประมวลผลและวเิ คราะห์ข้อมูล 7. น้าข้อมูลท่ีได้มาวิเคราะห์และแปล ความหมาย ง. การรายงานและการเผยแพรผ่ ลงาน 8. เขียนรายงาน 9. จดั พมิ พ์รายงาน ลงช่ือ...........................................................ผดู้ า้ เนินการวิจยั (นางสาวจิระพนั ธุ์ ปากวิเศษ) ตา้ แหนง่ ครู

เรยี น ผ้อู ้านวยการโรงเรยี น เพื่อโปรดพจิ ารณา ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ (นางสาวสวุ ดี กาญจนาภา) ผชู้ ว่ ยผอู้ ้านวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ................ ลงชอ่ื (นางสาวกนั ยาภัทร ภัทรโสตถิ) ผู้อ้านวยการโรงเรยี นวดั พืชนมิ ิต (คา้ สวสั ด์ริ าษฎร์บ้ารุง)