บนั ทกึ ข้อความ สว่ นราชการ โรงเรยี นวัดพืชนมิ ิต (คำสวสั ด์ริ าษฎร์บำรุง) ท…ี่ …………………วนั ท่ี ………… เดือน …………………….. พ.ศ.2563 เรอื่ ง ขออนุญาตใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดพืชนิมติ (คำสวัสด์ิราษฎรบ์ ำรุง) ด้วยข้าพเจ้า นางสาวจิระพันธุ์ ปากวิเศษ ตำแหน่ง ครู โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์ บำรุง) ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่การสอน รายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค13101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 บัดนี้ ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมการสอน และจัดทำแผนการสอนโดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้ ตามหลกั การพัฒนาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งแนบเอกสาร หน่วยการเรียนที่ 7 ชอ่ื หนว่ ยเศษส่วน เวลาเรยี น 16 ชวั่ โมง มาพร้อมกับเอกสารนี้ จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดทราบ ลงชือ่ (นางสาวจริ ะพันธ์ุ ปากวิเศษ) ตำแหนง่ ครู ลงชื่อ (นางสาวแพรวรงุ่ ศรีประภา) หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ความเห็นผ้อู ำนวยการโรงเรียน อนุญาต ไม่อนุญาต เพราะ .............................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................... ....................... ............................................................................................................ .................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ( นางสาวกนั ยาภัทร ภทั รโสตถิ ) ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นวัดพชื นิมติ (คำสวัสด์ริ าษฎรบ์ ำรงุ ) ............./................../.............
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 เรื่องเศษส่วน ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหสั ค13101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ครูผสู้ อน นางสาวจิระพันธุ์ ปากวิเศษ โรงเรยี นวดั พชื นมิ ิต (คำสวสั ดริ์ าษฎรบ์ ำรงุ ) สำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาปทมุ ธานี เขต 1 สำนกั านคณะกรรมการการศกึ ษาขึน้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
คำอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน ค๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓ เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง ศึกษาการอ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ เปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ หาค่าของตัวไม่ทราบค่าใน ประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวก การลบของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตัวไม่ทราบค่าใน ประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการคูณของจำนวน ๑ หลักกับจำนวนไม่เกิน ๔ หลกั และจำนวน ๒ หลักกับจำนวน ๒ หลัก หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการหารที่ตัวตั้งไม่เกิน ๔ หลัก ตัวหาร ๑ หลัก หาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคนของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ ปัญหา ๒ ขั้นตอน ของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐บอก อ่าน และเขียนเศษสว่ นแสดงปริมาณส่งิ ต่าง ๆ และแสดงสิ่งต่าง ๆ ตามเศษส่วนที่กำหนด เปรียบเทียบเศษส่วนทีต่ ัวเศษเท่ากนั โดยที่ที่ตัวเศษน้อยกว่าหรอื เทา่ กบั ตัวส่วน หาผลบวกของเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากนั และผลบวกไมเ่ กิน ๑ และหาผลลบของเศษสว่ นท่ีมีตัว ส่วนเท่ากัน แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวกเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากัน และผลบวกไม่เกิน๑ และ โจทย์ปัญหาการลบเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากันระบุจำนวนทีห่ ายไปในแบบรูปของ จำนวนที่เพิ่มขึน้ หรือลดลงที ละเทา่ ๆ กัน เลือกใชเ้ ครื่องมอื วัดความยาวทเี่ หมาะสม วดั และบอกความยาวของสิง่ ตา่ ง ๆเปน็ เซนตเิ มตรและ มิลลิเมตร เมตร และเซนติเมตร คาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร เปรียบเทียบความยาวระหว่าง เซนติเมตรกับมิลลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร กิโลเมตรกับเมตร จากสถานการณ์ต่าง ๆ เลือกใช้เครื่องชั่งที่ เหมาะสม วัดและบอกน้ำหนักเป็นกิโลกรัมและขีด กิโลกรัมและกรัม คาดคะเนน้ำหนักเป็นกิโลกรัมและเป็น ขีด เปรียบเทียบน้ำหนักระหว่างกิโลกรัมกับกรัม เมตริกตันเป็นกิโลกรัม จากสถานการณ์ต่าง ๆ ระบุรูป เรขาคณิตสองมิติที่มีแกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร เขียนแผนภูมิ และใช้ข้อมูลจากแผนภูมริ ูปภาพใน การหาคำตอบของโจทย์ปัญหา และเขียนตารางทางเดียวจากข้อมูลที่เป็นจำนวนนับ และใช้ข้อมูลจากตาราง ทางเดียวในการหาคำตอบของโจทย์ปัญหาแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวเงิน ของโจทย์ปัญหา เกีย่ วกับเวลา ระยะเวลา ความยาว ทีม่ ีหน่วยเป็นเซนตเิ มตรและมิลลเิ มตร เมตรและเซนติเมตร กิโลเมตรและ เมตร และแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักที่มีหน่วยเป็นกิโลกรัมกับกรัม เมตริกตันกับ กิโลกรมั โดยการจัดประสบการณ์หรือการสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าโดยปฎิบัติจริง ทดลอง สรปุ รายงาน เพือ่ พัฒนาทกั ษะการคดิ คำนวณ และทกั ษะการแก้ปญั หา การให้เหตผุ ล การสอ่ื สารและ การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ความรู้ ความคิด ทักษะและกระบวนการที่ได้ไปใช้ใน การเรียนรู้สิ่งตา่ งๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวันอยา่ งสรา้ งสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่า และมีเจตคติที่ดตี ่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานอย่างเป็นระบบ ระเบียบ รอบคอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มีวิจารณญาณ มคี วามคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์ และมีความเชอื่ มน่ั ในตนเอง รหสั ตัวชี้วัด ค ๑.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔ ป.๓/๕ ป.๓/๖ ป.๓/๗ ป.๓/๘ ป.๓/๙ ป.๓/๑๐ ป.๓/๑๑ ค ๑.๒ ป.๓/๑ ค ๒.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔ ป.๓/๕ ป.๓/๖ ป.๓/๗ ป.๓/๘ ป.๓/๙ ป.๓/๑๐ ป.๓/๑๑ ป.๓/๑๒ ป.๓/๑๓ ค ๒.๒ ป.๓/๑ ค ๓.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒ รวมทง้ั หมด ๒๘ ตวั ชว้ี ัด
หน่วยท่ี มฐ ตัวชว้ี ดั ตารางวิเคราะหห์ ลักสตู ร/ออ รหัส ค13101 วิชาคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถ ครูผสู้ อน นางสาวจริ ะพ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7 ค ป.3/3 : บอก อ่าน และเขียน 1.บอกเศษส่วนที่ตัวเศษน้อย เศษสว่ น 1.1 เศษส่วนแสดงปรมิ าณส่งิ ต่างๆ และ กวา่ หรอื เทา่ กบั ตวั ส่วนได้ (K) แสดงสิง่ ต่างๆ ตามเศษสว่ นที่กำหนด 2.เขียนเศษสว่ นท่ตี วั เศษน้อย กว่าหรอื เท่ากับตัวสว่ นได้ (P) ป.3/4 : เปรยี บเทยี บเศษส่วนท่ีตวั 1.บอกหลักการเปรียบเทียบ เศษเทา่ กันโดยทตี่ วั เศษน้อยกวา่ หรอื และเรียงลำดับเศษส่วนที่ตัว เทา่ กับตัวสว่ น ส่วนเท่ากัน (K) 2. เ ข ี ย น ข ั ้ น ต อ น แ ส ด ง ก า ร เปรียบเทียบและเรียงลำดับ เศษส่วนที่ตัวส่วนเท่ากันได้ (P) 1.บอกหลกั การเปรียบเทียบ และเรยี งลำดับเศษสว่ นท่ีตัว เศษเทา่ กนั (K) 2. เ ข ี ย น ข ั ้ น ต อ น แ ส ด ง ก า ร เปรียบเทียบและเรียงลำดับ เศษส่วนที่ตัวเศษเท่ากันได้ (P)
อกแบบหน่วยการเรยี นรู้ วัดผล/ เวลา ถมศกึ ษาปีท่ี 3 ปีการศกึ ษา 2563 ประเมิน เรียน พนั ธ์ุ ปากวิเศษ สาระการเรยี นรู้ กระบวนการ ช้นิ งาน ส่ือการสอน /ภาระงาน 1.การอา่ นและเขียน อธบิ าย - 1.ภาพขนม 1.ทดสอบ 2 เศษสว่ นทตี่ วั เศษน้อย เค้กท่ีถูกแบ่ง (ก่อนเรียน) กว่าตัวสว่ น ออกเป็น 2 2.ตรวจ ส่วนเท่าๆ กนั แบบฝึกหัด 1.การเปรียบเทียบและ - 1.บตั รภาพ 1.ตรวจ 2 เรยี งลำดับเศษสว่ นท่ีมี แสดง แบบฝกึ หดั ตัวส่วนเทา่ กัน เศษส่วน 1.การเปรียบเทียบและ - 1.บัตรภาพ 1.ตรวจ 2 เรียงลำดับเศษส่วนท่ีมี แสดง แบบฝกึ หัด ตวั เศษเทา่ กัน เศษส่วน
หนว่ ยท่ี มฐ ตวั ชวี้ ดั จุดประสงค์การเรยี นรู้ ป.3/10 :หาผลบวกของเศษส่วนทมี่ ี 1.บอกขน้ั ตอนและวิธีการบวก ตวั ส่วนเท่ากนั และผลบวกไมเ่ กิน 1 เศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากันได้ และหาผลลบของเศษสว่ นทีม่ ีตัวส่วน (K) เท่ากัน 2.เขียนขั้นตอนแสดงการบวก เศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากันได้ (P) 3.เขียนแสดงการหาผลลัพธ์ จากการบวกเศษส่วนที่มีตัว สว่ นเท่ากันไดถ้ ูกตอ้ ง (P) 1.บอกขั้นตอนและวิธีการลบ เศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากันได้ (K) 2.เขียนขั้นตอนแสดงการลบ เศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากันได้ (P) 3.เขียนแสดงการหาผลลัพธ์ จากการลบเศษส่วนที่มีตัว สว่ นเทา่ กันได้ถูกตอ้ ง (P) ป.3/11 :แสดงวิธีหาคำตอบของ 1.วิเคราะห์เขียนประโยค โจทยป์ ญั หาการบวกเศษสว่ นที่มตี ัว สัญลักษณ์และหาคำตอบ ส่วนเทา่ กันและผลบวกไมเ่ กิน 1 และ โจทย์ปัญหาการบวกเศษส่วน โจทย์ปัญหาการลบเศษส่วนท่ีมีตวั ท่มี ตี วั สว่ นเทา่ กันได้ (K) ส่วนเทา่ กัน
สาระการเรยี นรู้ กระบวนการ ชิ้นงาน ส่ือการสอน วดั ผล/ เวลา /ภาระงาน ประเมนิ เรียน การบวกเศษส่วนทม่ี ตี วั อธิบาย - 1. แ ผ น ภ า พ 1.ตรวจ 2 ส่วนเท่ากนั แ ส ด ง ก า ร แบบฝึกหัด บวกเศษส่วน ที่มีตัวส่วน เทา่ กนั 1.การลบเศษส่วนที่มี - 1.แผนภาพ 1.ตรวจ 2 ตัวส่วนเท่ากัน แสดงการลบ แบบฝึกหัด เศษสว่ นท่ีมี ตัวส่วน เท่ากนั 1.โจทยป์ ญั หาการบวก - 1.แถบโจทย์ 1.ตรวจ 3 เศษส่วนทีม่ ตี ัวส่วน ป ั ญ ห า ก า ร แบบฝึกหดั เท่ากัน บวกเศษสว่ น
หนว่ ยท่ี มฐ ตวั ชี้วดั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.เขียนประโยคสัญลักษณ์ และหาคำตอบได้จากโจทย์ ปัญหาการบวกเศษส่วนที่มตี ัว สว่ นเทา่ กันได้ (P) 1.วเิ คราะหป์ ระโยคสัญลักษณ์ และหาคำตอบโจทย์ปัญหา การบวกเศษส่วนที่มีตัวส่วน เท่ากนั ได้ (K) 2.เขียนประโยคสัญลักษณ์ และหาคำตอบได้จากโจทย์ ปัญหาการบวกเศษส่วนที่มตี ัว ส่วนเทา่ กันได้ (P)
สาระการเรยี นรู้ กระบวนการ ช้ินงาน สอื่ การสอน วดั ผล/ เวลา /ภาระงาน ประเมนิ เรียน อธิบาย .โจทยป์ ัญหาการบวก ดอกไม้ 1.แถบโจทย์ 1.ทดสอบ 3 เศษส่วนท่ีมีตัวสว่ น แสดง ป ั ญ ห า ก า ร (หลงั เรียน) เท่ากัน เศษส่วน บวกเศษส่วน 2.ตรวจ แบบฝกึ หัด
โรงเรียนวัดพืชนิมติ (คำสวัสดิ์ราษฎรบ์ ำรุง) โครงการสอนปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ รายวิชา คณติ ศาสตร์ รหสั ค๑๓๑๐๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ เวลาเรยี น ๕ ชั่วโมง/สัปดาห์ ครูผ้สู อน นางสาวจริ ะพันธุ์ ปากวเิ ศษ สปั ดาห์ คาบที่ หนว่ ยการเรียนร/ู้ เรอ่ื ง มฐ/ตัวช้วี ัด ๑-๔ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ จำนวนนบั ไมเ่ กนิ ๑๐๐,๐๐๐ ค๑.๑ ป.๓/๑ ๑-๒ การอา่ นและเขียนตัวเลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย และตัวหนังสอื แสดง ป.๓/๒ จำนวน ๓-๕ หลกั คา่ ของเลขโดดในแต่ละหลกั และการเขยี นตวั เลขแสดงจำนวนใน รปู กระจจาำยนวนเตม็ ๖-๘ การเปรยี บเทียบจำนวน ๙-๑๐ การเรยี งลำดบั จำนวน ๑๑-๑๔ แบบรูปของจำนวนทเ่ี พ่ิมขึ้น ๑๕-๑๘ แบบรปู ของจำนวนทีล่ ดลง ๔-๗ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๒ การบวก และลบจำนวนทมี่ ผี ลบวกไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ ค ๑.๑ ป.๓/๕ ๑-๒ การบวกจำนวนสองจำนวนท่ีมผี ลบวกไม่เกนิ ๑,๐๐๐ ไมม่ ที ดและ มตี ัวทด ๓-๔ การบวกจำนวนสองจำนวนท่ีมีผลบวกไมเ่ กิน ๑๐,๐๐๐ ไมม่ ที ดและ มีตัวทด ๕-๖ การบวกจำนวนสองจำนวนท่ีมผี ลบวกไม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐ ไม่มีทดและมี ตวั ทด ๗-๘ การบวกจำนวนสามจำนวนท่ีมีผลบวกไม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐ ๙-๑๐ การลบจำนวนสองจำนวนทีม่ ีตัวตง้ั ไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐ ไมม่ ีการกระจายและ มีการกระจาย ๑๑-๑๒ การลบจำนวนสองจำนวนทม่ี ีตวั ต้ังไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ ไม่มีการกระจาย และมีการกระจาย ๑๓-๑๔ การลบจำนวนสองจำนวนที่มีตวั ต้ังไม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐ ไม่มกี ารกระจาย และมกี ารกระจาย ๑๕-๑๖ การลบจำนวนสามจำนวนที่มีตัวต้งั ไม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐ ๑๗-๑๘ การหาคา่ ของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวกและ การลบ ๘-๙ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๓ โจทย์ปญั หาการบวก และลบจำนวนทม่ี ผี ลบวกไมเ่ กิน ค๑.๑ ป.๓/๙ ๑๐๐,๐๐๐ ๑-๒ วิเคราะห์และแสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา ไมเ่ ๓กนิ ๑๐ก๐า,ร๐แ๐ส๐ดงวิธีทำโจทย์ปัญหาการบวก ๔-๕ การวิเคราะหโ์ จทย์ปญั หาการลบและหาคำตอบ ๖ ห การแสดงวิธที ำโจทย์ปญั หาการลบ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ โจทย์ปัญหาการบวก และลบจำนวนทม่ี ผี ลบวกไมเ่ กนิ ค ๒.๑ ป.๓/๑ ๑๐๐,๐๐๐ ค ๒.๒ ป.๓/๑ ๗ การสรา้ งโจทย์ปญั หาการบวกจากภาพ ๓/๕ ๘ การสรา้ งโจทย์ปัญหาการลบจากภาพ ค ๓.๑ ป.๓/๑ ๙-๑๐ การสรา้ งโจทย์ปัญหาการบวกจากประโยคสญั ลกั ษณ์ ๑๐-๑๒ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ เวลา ป.๓/๒ ๑-๓ บอกเวลาบนหน้าปดั นาฬกิ าช่วง ๔-๕ การอ่านและเขียนบอกเวลาทีมมี หัพภาค (.) หรอื ทวิภาค (:) ค ๑.๑ ป.๓/๓ ๖-๘ การบอกระยะเวลาเปน็ ช่ัวโมงและนาที ป.๓/๔ ๙-๑๐ การเปรยี บเทียบระยะเวลา ป.๓/๑๐ ๑๑-๑๔ โจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา ป.๓/๑๑ ๑๕-๑๖ การอา่ นและเขยี นบนั ทกึ กิจกรรมท่ีระบเุ วลา ๑๓ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๕ รปู เรขาคณิต ค ๑.๑ ป.๓/๖ ๑-๒ รูปเรขาคณติ สองมิติทม่ี ีแกนสมมาตร ป.๓/๙ ๓-๕ การประยุกต์ใช้รปู ทมี่ ีแกนสมมาตร ๑๔-๑๕ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๖ แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดียว ๑-๒ การเกบ็ รวบรวมข้อมูลและจำแนกข้อมลู ไม๓่เก-๔นิ ๑๐ก๐า,ร๐อ๐่า๐นแผนภูมิรูปภาพ ๕ การเขยี นแผนภมู ิรปู ภาพ ๖ การอ่านตารางทางเดียว ๗ การเขยี นตารางทางเดยี ว ๑๕-๑๗ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๗ เศษสว่ น ๑-๒ การอา่ นและการเขยี นเศษส่วนท่ตี วั เศษน้อยกว่าหรอื เท่ากับตัวสว่ น ๓-๔ การเปรยี บเทียบและเรียงลำดับเศษสว่ นท่มี ตี ัวสว่ นเท่ากนั ๕-๖ การเปรียบเทียบและเรยี งลำดับเศษสว่ นทมี่ ตี ัวเศษเทา่ กนั ๗-๘ การบวกเศษส่วนทีม่ ตี วั ส่วนเท่ากัน ๙-๑๐ การลบเศษส่วนทมี่ ีตวั สว่ นเท่ากนั ๑๑-๑๓ โจทย์ปญั หาการบวกเศษส่วนทีม่ ีตวั ส่วนเทา่ กัน ๑๔-๑๖ โจทย์ปัญหาการลบเศษสว่ นทม่ี ีตวั ส่วนเท่ากัน ๑๘-๒๑ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๘ การคณู ไม่เ๑กิน ๑๐ก๐า,ร๐ค๐ูณ๐จำนวนหนึง่ หลักกบั จำนวนสองหลัก ๒ การคูณจำนวนหนงึ่ หลกั กบั 100, 200, 300, ..., 900 ๓ การคูณจำนวนหนง่ึ หลกั กบั 1,000, 2,000, 3,000, ..., 9,000 ๔ การคูณจำนวนท่ีมหี นึง่ หลกั กับจำนวนสามหลัก (ไม่มกี ารทด)
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๘ การคูณ ๑๑๑๑,ป.๓/๒ ๕-๖ การคณู จำนวนท่ีมหี น่ึงหลักกับจำนวนสามหลัก (มกี ารทด) ค ๑.๑ ป.๓/๗ ๗-๘ การคณู จำนวนท่ีมีหน่ึงหลักกับจำนวนสี่หลกั ป.๓/๙ ๙-๑๐ การคูณจำนวนท่ีมีสองหลักกับจำนวนสองหลัก ๑๑-๑๒ การหาคา่ ของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคูณ ค 2.๑ ป.๓/๓ ๑๓-๑๔ การวิเคราะห์โจทยป์ ัญหาการคูณและหาคำตอบ ป.๓/๔ ๑๕-๑๖ การแสดงวิธีทำโจทยป์ ญั หาการคณู ป.๓/๕ ๑๗-๑๘ การสร้างโจทย์ปัญหาการคูณจากภาพและประโยคสัญลักษณ์ ป.๓/๖ ๒๑-๒๔ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๙ การหาร ๑-๒ การหารทต่ี ัวต้ังสองหลัก ตัวหารหนึ่งหลักโดยการหารยาว ๓-๔ การหารท่ีตวั ตั้งสามหลัก ตัวหารหน่งึ หลกั โดยการหารยาว ๕-๖ การหารทต่ี วั ตั้งสีห่ ลัก ตัวหารหนงึ่ หลกั โดยการหารยาว ๗-๘ การหารทต่ี วั ตงั้ สองหลกั ตัวหารหน่งึ หลกั โดยการหารส้ัน ๙-๑๐ การหารที่ตวั ตง้ั สามหลัก ตวั หารหนง่ึ หลักโดยการหารสน้ั ๑๑-๑๒ การหารทต่ี ัวตง้ั สหี่ ลัก ตวั หารหนึง่ หลักโดยการหารส้นั ๑๓-๑๔ การหาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการหาร ๑๕ การวิเคราะหโ์ จทย์ปัญหาการหารและหาคำตอบ ๑๖ การแสดงวธิ ที ำโจทย์ปัญหาการหาร ๑๗ การสร้างโจทย์ปญั หาการหารจากภาพและประโยคสัญลักษณ์ ๒๕-๒๘ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๑๐ การวัดความยาว ๑ การวดั ความยาวเป็นเซนติเมตรและมลิ ลิเมตร ๒ การวดั ความยาวเป็นเมตรและเซนตเิ มตร ๓ การวัดความยาวเปน็ กโิ ลเมตรและเมตร ๔ การเลอื กเครื่องวดั ความยาวที่เหมาะสม ๕-๖ การคาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร ๗ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งหน่วยความยาว ๘ การเปรียบเทยี บความยาวโดยใชค้ วามสัมพนั ธร์ ะหวา่ งเซนติเมตรและ มิลลิเมตร ๙ การเปรียบเทียบความยาวโดยใช้ความสัมพันธร์ ะหว่างเมตรและ เซนตเิ มตร ๑๐ การบวกและการลบเกยี่ วกับความยาวเปน็ เซนตเิ มตรและมิลลิเมตร ๑๑ การบวกและการลบเกย่ี วกบั ความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร ๑๒ การบวกและการลบเกี่ยวกับความยาวเป็นกิโลเมตรและเมตร
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑๐ การวัดความยาว ค ๒.๑ ป.๓/๗ ๑๓-๑๔ การคณู และการหารเก่ียวกบั ความยาวเปน็ เซนตเิ มตรและมิลลเิ มตร ป.๓/๘ ๑๕-๑๖ การคูณและการหารเกี่ยวกับความยาวเปน็ เมตรและเซนตเิ มตร ป.๓/๙ ๑๗-๑๘ การคูณและการหารเกยี่ วกับความยาวเปน็ กโิ ลเมตรและเมตร ป.๓/๑๐ ๑๙ โจทยป์ ัญหาการบวกเกี่ยวกับความยาว ๒๙-๓๑ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๑ การวดั นำ้ หนกั ค ๒.๑ ป.๓/๑๑ ๑-๒ การวัดนำ้ หนกั เป็นกโิ ลกรัมและขีด กิโลกรัมและกรมั ป.๓/๑๒ ป.๓/๑๓ ๓ การเลอื กเครื่องชง่ั ทีเ่ หมาะสม ๔ การคาดคะเนน้ำหนักเปน็ กิโลกรัมและขีด ค ๒.๑ ป.๓/๑ ๕ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งหน่วยน้ำหนกั ๖-๗ การเปรียบเทยี บนำ้ หนัก ๘ การบวกเกี่ยวกับน้ำหนกั ๙ การลบเกยี่ วกับน้ำหนัก ๑๐ การคณู เกย่ี วกบั นำ้ หนัก ๑๑ การหารเกีย่ วกบั นำ้ หนัก ๑๒-๑๓ โจทยป์ ญั หาการบวกและลบเก่ยี วกบั น้ำหนัก ๑๔-๑๕ โจทยป์ ญั หาการคูณและหารเกยี่ วกับน้ำหนกั ๓๒-๓๕ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑๒ การวัดปริมาตร ๑-๒ การวดั ปรมิ าตรและความจเุ ป็นลิตรและมิลลลิ ิตร ๓ การเลอื กเคร่อื งตวงท่ีเหมาะสม ๔-๕ การคาดคะเนปริมาตรเป็นลติ ร ๖ ความสัมพันธร์ ะหว่างหน่วยปริมาตร ๗-๘ การเปรียบเทียบปริมาตรและความจุ ๙ การบวกเก่ยี วกับปริมาตรและความจุ ๑๐ การลบเก่ยี วกับปริมาตรและความจุ ๑๑ การคูณ เกย่ี วกบั ปรมิ าตรและความจุ ๑๒ การหาร เกยี่ วกบั ปรมิ าตรและความจุ ๑๓ โจทยป์ ญั หาการบวกเกยี่ วกับปริมาตรและความจุ ๑๔ โจทย์ปัญหาการลบเก่ยี วกับปริมาตรและความจุ ๑๕ โจทย์ปญั หาการคูณเกี่ยวกบั ปรมิ าตรและความจุ ๑๖ โจทย์ปญั หาการหารเก่ียวกับปริมาตรและความจุ ๓๕-๓๗ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑๓ เงนิ และการบนั ทกึ รายรบั รายจ่าย ๑ การบอกจำนวนเงนิ และเขียนแสดงจำนวนเงนิ แบบใชจ้ ุด ๒ การเปรียบเทยี บจำนวนเงนิ
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑๓ เงินและการบันทกึ รายรับรายจ่าย ค ๑.๑ ป.๓/๘ ๓ การแลกเงนิ ป.๓/๙ ๔-๕ การบวกและการลบจำนวนเงิน ๖-๗ การคูณและการหารจำนวนเงิน ๘-๑๑ โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั เงิน ๑๒-๑๓ การอ่านและการเขยี นบันทึกรายรับ รายจ่าย ๓๘-๓๙ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑๔ การบวกลบคูณหารระคน ๑-๓ การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน ๔ สถานการณ์การบวกและการลบ 2 ข้ันตอน ๕ สถานการณ์การคูณและการหาร 2 ข้นั ตอน ๖ สถานการณ์การบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้นั ตอน ๗-๘ โจทยป์ ญั หาการบวกและการลบ 2 ขน้ั ตอน ๙-๑๐ โจทยป์ ญั หาการคูณและการหาร 2 ข้นั ตอน ๑๑-๑๒ โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขั้นตอน ๔๐ สอบปลายภาค ๑ ทบทวนบทเรียน ๒ ทบทวนบทเรียน ๓ สอบปลายภาค ๔ สอบปลายภาค
เทคนคิ /กระบวนการ/ วธิ กี ารสอน การจดั การเรยี นรตู้ ามหลักการพัฒนาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม เพื่อเป็นการกระตุ้นสมอง ตามหลักการทำงานของสมอง เมื่อมีการเคลื่อนไหว ร่างกายอย่างมีความสุข สมองจะหลั่งสารเคมที ี่ชื่อว่า เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งสารนี้มีความสำคัญมาก ช่วยให้มีจิตใจที่ สงบและเกิดสมาธิ ซึ่งจะแตกต่างจาก เอนดอร์ฟิน (Endorphin) และ โดพามีน (Dopamine) ที่จะช่วยให้มีความสุขและ สนุกสนาน ซึ่งขั้นตอนนี้นับว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดยทางโรงเรียนได้กำหนดไว้ว่า ทุกชั่วโมงที่ครูเข้าสอน ครูจะต้อง Warm Up กอ่ นเสมอ โดยใช้เวลาไมเ่ กิน 5 นาที ข้นั ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ ในข้นั ตอนน้ีจะคำนึงถงึ หลักการทำงานของสมองที่วา่ “เรียนรู้จากงา่ ยไปหายาก เรียนรู้จาก ของจริง และจากการสัมผัส” จากการศึกษาทางประสาทวิทยาศาสตร์พบว่า “มือ” เป็นอวัยวะที่มีประสาทสัมผัสที่ส่งผล ต่อการเรียนรู้ได้ดีที่สุด รองลงมาคือ “ปาก” นั่นก็หมายถึง ต้องให้เด็กพูด หรือสื่อสาร การสื่อสารจะช่วยให้เด็กสามารถ เชื่อมโยงเรื่องได้ ดังนั้น การออกแบบรูปแบบการสอน สื่อการสอน คุณครูต้องคำนึงถึงหลักการทำงานของสมองอยา่ งมาก การเรยี นการสอนจงึ จะประสบความสำเร็จ ในขัน้ ตอนท่ี 2 น้ี มีขั้นตอนย่อยท่ีสำคญั หนึง่ คือ “การสรุปในแตล่ ะช่วั โมง” ทาง โรงเรียนได้สนับสนุนให้มีการฝึกอบรม Graphic Organizer ให้แก่คุณครูทุกกลุ่มสาระ ตลอดจนหนังสือที่เกี่ยวข้องจาก ตา่ งประเทศ เพือ่ ให้คุณครูใช้เป็นเคร่อื งมือในการสรปุ ทช่ี ว่ ยให้เด็กเกดิ ความสนกุ เกิดการเรียนรู้ และจดจำไดง้ า่ ยขึ้น ขั้นตอนท่ี 3 : ข้นั การฝกึ ขัน้ น้ีจะสอดคล้องกบั หลักการทำงานของสมองท่ีว่า “สมองจะจดจำไดด้ ีนำไปสู่ความจำ ระยะยาว (Long-term Memory) ตอ้ งผา่ นกระบวนการฝึกซ้ำๆ” คำวา่ “ซำ้ ๆ” ในที่น้ไี มไ่ ด้หมายถึง การทำโจทย์เดิมซ้ำๆ แต่หมายถึงการใช้หลักการ เช่น หลักการบวก ก็นำไปใช้กับการบวกที่แตกต่างกันออกไปในโจทย์ คุณครูจึงจำเป็นต้อง ออกแบบใบงานทแี่ ตกต่างออกไป เพือ่ ใหน้ กั เรยี นได้ฝกึ ฝนเร่ือยๆ ขั้นตอนที่ 4 : ขั้นการสรุป ขั้นนี้เป็นการสรุปเมื่อจบบทเรียนหรือหน่วย ซึ่งแตกต่างจากขั้นตอนที่ 2 ซึ่งเป็นการ สรุปในแต่ละชั่วโมง ในขั้นตอนนี้เป็นการเชื่อมโยงความรู้ทั้งหน่วย โดยใช้ Graphic Organizer ฝึกให้นักเรียนเชื่อมโยง ความรภู้ ายในบทเรยี น สอดคล้องกับหลักการทำงานของสมองทว่ี ่า “สมองเรียนรเู้ ป็นองค์รวม” ซง่ึ ขนั้ ตอนน้ีมีความสำคัญ ตอ่ เด็กมาก และเป็นขั้นตอนท่คี อ่ นขา้ งยาก ครูเองก็จำเปน็ ต้องฝึกฝนบ่อยๆ เชน่ กนั ขั้นตอนที่ 5 : ขั้นการประยุกต์ใช้ทันทีทันใด การที่เด็กเรียนแล้วสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้นั้น ทำให้เกิดการ เรียนรูไ้ ด้ถงึ ร้อยละ 90 ดังนั้น เมื่อจบบทเรียน คุณครูต้องคิด ต้องออกแบบ เชื่อมโยงความรู้ทั้งหนว่ ย นำข้อสอบมาให้เดก็ ทดลองทำ การวดั และประเมินผล วธิ ีการเกบ็ คะแนน คะแนนระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 70 : 30 โดยแบง่ ดังนี้ เรือ่ งทเ่ี ก็บคะแนน คะแนน ประเภทเครื่องมือ 1.คะแนนเกบ็ กอ่ นกลางปี 25 1.1 ผลงานนกั เรยี น 15 สมดุ แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ช้นิ งาน 1.2 ทดสอบหลงั เรียน 10 แบบทดสอบหลงั เรียน 2. สอบกลางปี 20 แบบทดสอบ 3.คะแนนหลงั กลางปี 25 3.1 ผลงานนักเรยี น 15 สมุด แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ช้ินงาน 3.2 ทดสอบหลังเรยี น 10 แบบทดสอบหลังเรียน 4.สอบปลายปี 30 รวม 100 ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ - สอื่ ประจำหน่วยการจดั การเรยี นรู้ - หนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ และแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท
แผนผังมโนทศั นเ์ ปา้ หมายการเรียนรู้/ หลักฐานการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทกั ษะ/กระบวนการ(Process: P) คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.บอกเศษส่วนที่ตัวเศษน้อยกว่าหรือ 1.เขียนเศษส่วนที่ตัวเศษน้อยกว่า เท่ากับตัวส่วนได้ (K) หรือเทา่ กับตวั ส่วนได้ (P) 1. ซ่อื สัตย์สุจริต 2. บ อ ก ห ล ั ก ก า ร เ ป ร ี ย บ เ ท ี ย บ แ ล ะ 2. เ ข ี ย น ข ั ้ น ต อ น แ ส ด ง ก า ร 2. มวี นิ ัย เรียงลำดับเศษส่วนที่ตัวส่วนเท่ากัน เปรียบเทียบและเรียงลำดับเศษส่วน 3. ใฝเ่ รยี นรู้ (K) ทตี่ วั ส่วนเทา่ กันได้ (P) 4. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 2.บอกหลักการเปรียบเทียบและ 3. เ ข ี ย น ข ั ้ น ต อ น แ ส ด ง ก า ร 5. มจี ิตสาธารณะ เรยี งลำดบั เศษส่วนที่ตัวเศษเท่ากัน เปรียบเทียบและเรียงลำดับเศษส่วน (K) ทตี่ ัวเศษเท่ากนั ได้ (P) 3. บ อ ก ข ั ้ น ต อ น แ ล ะ ว ิ ธ ี ก า ร บ ว ก 4. เ ข ี ย น ข ั ้ น ต อ น แ ส ด ง ก า ร บ ว ก เศษสว่ นท่มี ีตวั สว่ นเท่ากนั ได้ (K) เศษสว่ นท่ีมตี ัวสว่ นเทา่ กันได้ (P) 4.บอกขั้นตอนและวิธีการลบเศษส่วน 5.เขียนแสดงการหาผลลัพธ์จากการ ทม่ี ตี วั สว่ นเทา่ กันได้ (K) บวกเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากันได้ 5.วิเคราะห์เขียนประโยคสัญลักษณ์ ถูกต้อง (P) และหาคำตอบโจทย์ปัญหาการบวก 6.เขียนข้ันตอนแสดงการลบเศษส่วน เศษส่วนที่มตี ัวสว่ นเท่ากนั ได้ (K) ทม่ี ีตัวสว่ นเท่ากนั ได้ (P) 6.วิเคราะห์ประโยคสัญลักษณ์และหา 7.เขียนแสดงการหาผลลัพธ์จากการ คำตอบโจทย์ปัญหาการบวกเศษส่วน ลบเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากันได้ ทมี่ ีตวั ส่วนเทา่ กนั ได้ (K) ถูกต้อง (P) 8.เขียนประโยคสัญลักษณ์และหา คำตอบได้จากโจทย์ปัญหาการบวก เศษส่วนที่มตี วั ส่วนเท่ากันได้ (P) 9.เขียนประโยคสัญลักษณ์และหา คำตอบได้จากโจทย์ปัญหาการบวก เศษสว่ นทีม่ ตี ัวส่วนเทา่ กนั ได้ (P) เป้าหมายการเรียน เรือ่ งเศษส่วน หลกั ฐานการเรียนรู้ ดอกไม้แสดงเศษส่วน
แผนผงั มโนทศั น์ข้นั ตอนการทำกิจกรรมประกอบการจดั การเรยี นร้ดู ้วย การสอนตามหลกั การพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ศกึ ษามาตรฐานการรเรยี นรู้ / ตวั ชี้วดั และจดุ ประสงคก์ าร เรยี นรู้ ทาแบบทดสอบก่อนเรียน ทากิจกรรมโดยใช้กระบวนการจดั การเรียนร้ตู ามหลกั การพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ขนั้ ที่ 1 เตรยี มความพรอ้ ม ขนั้ ท่ี 2 เรยี นรู้ ขนั้ ท่ี 3 ขนั้ การฝึ ก ขนั้ ท่ี 4 ขนั้ การสรปุ ขนั้ ท่ี 5 ขนั้ การประยุกต์ใช้ทนั ทีทนั ใด ทดสอบหลงั เรยี น (ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60)
ผังมโนทัศน์ หนว่ ยการเร หนว่ ยการเ เศษส จำนวน 1 แผนที่ 1 การอา่ นและการเขียนเศษส่วนท่ตี วั เศษนอ้ ยกว่า แผนที่ 2 การเปรียบเทียบแ หรือเท่ากบั ตวั ส่วน สว่ นเ แผนท่ี 4 การบวกเศษสว่ นทม่ี ีตวั ส่วนเท่ากัน แผนที่ 5 การลบเศษส แผนที่ 7 โจทย์ปัญหาการลบ การเรียนร้แู บ ภาษาไทย 1.ฟังแสดงความคดิ เหน็ 2.พดู แสดงความคดิ เหน็ และตอบคาถามอ่านและสะกดคา ๓.การเขยี นสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์
รียนรูท้ ี่ 7 เศษส่วน เรยี นรทู้ ี่ 7 ส่วน 16 ช่ัวโมง และเรียงลำดับเศษสว่ นทีต่ ัว แผนท่ี 3 การเปรยี บเทียบและเรียงลำดับเศษสว่ นที่ตวั เท่ากัน เศษเท่ากนั ส่วนทมี่ ีตวั ส่วนเท่ากนั แผนท่ี 6 โจทยป์ ัญหาการบวกเศษสว่ นทมี่ ตี วั ส่วนเทา่ กนั บเศษส่วนทีม่ ตี ัวส่วนเท่ากนั บบบูรณาการ ศิลปะ : ทศั นศิลป์ ๑. การออกแบบและตกแตง่ ดอกไมแ้ สดงเศษสว่ น
แผนบรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครู ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การมภี ูมคิ ้มุ กนั ในตวั ทดี่ ี 1. ออกแบบการจดั กจิ กรรม ตรงตาม 1. ออกแบบการเรยี นรสู้ ่งเสรมิ กระบวนการคดิ 1. ศึกษาแนวทางการจัดการเรยี นรู้ล่วงหนา้ ตวั ช้ีวัด 2. ใชเ้ ทคนิคการจดั การเรยี นรู้ที่หลากหลาย 2. จัดเตรยี มการวดั ผลประเมนิ ผล และแบบ 2. เลือกสือ่ แหล่งเรียนรเู้ หมาะสม สังเกตพฤตกิ รมนักเรยี น 3. วัดผลประเมนิ ผลตรงตามเนือ้ หา เงอื่ นไขความรู้ เงื่อนไขคณุ ธรรม 1. รูจ้ กั เทคนิคการสอนท่ีสง่ เสริมกระบวนการคดิ และนักเรียน 1. มคี วามขยัน เสยี สละ และมุ่งมนั่ ในการจดั หาส่อื มาพัฒนานกั เรยี น สามารถเรยี นรูไ้ ด้อยา่ งมีความสขุ ใหบ้ รรลตุ ามจดุ ประสงค์ 2. มีความอดทนเพื่อพฒั นานักเรียนโดยใช้เทคนคิ การสอนที่ หลากหลาย นกั เรียน ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การมีภมู ิคุม้ กนั ในตวั ที่ดี 1. การใช้เวลาในการทำกจิ กรรม/ภาระงาน 1. ฝกึ กระบวนการทำงานเป็นกลมุ่ 1. วางแผนการศกึ ษาคน้ คว้าอิสระ ได้อยา่ งเหมาะสม ทนั เวลา 2. ฝกึ กระบวนการแสดงข้ันตอนการหาผลลพั ธ์ 2. นำความรเู้ รอ่ื งเศษสว่ นไปใชใ้ น 2. เลอื กสมาชิกกลมุ่ ไดเ้ หมาะสมกบั เน้ือหาท่ี ชวี ิตประจำวนั ได้ เรียนและศกั ยภาพของตน เงอื่ นไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม 1. มคี วามรู้เร่อื งเศษสว่ น ตลอดจนสามารถสรา้ งจัดทำชิน้ งาน ได้ตาม 1. มีความรบั ผิดชอบ และปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงของกลมุ่ วัตถุประสงค์ 2. มสี ติ มสี มาธิชว่ ยเหลือกนั ในการทำงานร่วมกนั ส่งผลต่อการพัฒนา 4 มิติให้ยั่งยืนยอมรบั ต่อการเปลีย่ นแปลงในยคุ โลกาภวิ ฒั น์ วัตถุ สังคม สิง่ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม ความรู้ (K) มีความร้คู วามเขา้ ใจเศษสว่ น มคี วามรแู้ ละเขา้ ใจ มีความร้แู ละเข้าใจ มีความรู้และเขา้ ใจการ กระบวนการทำงาน เกี่ยวกบั ส่ิงแวดล้อม ชว่ ยเหลือ แบง่ ปนั กลุม่ และสิง่ ต่าง ๆรอบตวั ทกั ษะ (P) สร้างช้นิ ดอกไม้แสดงเศษส่วน ทำงานได้สำเรจ็ ตาม ใชแ้ หลง่ เรยี นรโู้ ดยไม่ ช่วยเหลือ แบง่ ปันซง่ึ เปา้ หมาย ดว้ ย ทำลายสง่ิ แวดล้อม กัน และกนั กระบวนการกล่มุ ค่านิยม (A) เห็นประโยชนข์ องเรียนรู้ เกีย่ วกบั เศษส่วน เห็นคุณคา่ และ เหน็ คณุ คา่ ของการใช้ ปลกู ฝงั นิสยั การ ภาคภูมิใจในการ แหล่งเรยี นรูโ้ ดยไม่ ชว่ ยเหลอื แบ่งปัน ทำงานร่วมกนั ได้ ทำลายสง่ิ แวดลอ้ ม สำเรจ็
กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 7 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3 เรือ่ ง เศษส่วน วิชาคณิตศาสตร์ จำนวน 16 ช่ัวโมง 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรียนรู้ ค 1.1 : เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การ ของจำนวน ผลที่เกดิ ขน้ึ จากการดำเนนิ การ สมบตั ิของการดำเนินการ และการนำไปใช้ ตวั ชวี้ ดั ป.3/3 : บอก อ่าน และเขียนเศษส่วนแสดงปรมิ าณสง่ิ ตา่ งๆ และแสดงสิ่งต่างๆ ตาม เศษส่วนท่ีกำหนด ป.3/4 : เปรยี บเทยี บเศษสว่ นที่ตัวเศษเท่ากนั โดยท่ตี วั เศษนอ้ ยกวา่ หรอื เทา่ กบั ตวั ส่วน ป.3/10 : หาผลบวกของเศษส่วนทม่ี ตี ัวส่วนเท่ากนั และผลบวกไม่เกิน 1 และหาผลลบ ป.3/11 : แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปญั หาการบวกเศษส่วนที่มตี วั สว่ นเทา่ กันและผลบวกไม่ เกนิ 1 และโจทย์ปัญหาการลบเศษสว่ นท่ีมตี ัวส่วนเทา่ กันเศษส่วนท่ีมตี วั สว่ นเทา่ กนั 2. สาระสำคญั เศษส่วน เปน็ การเขียนแสดงจำนวน โดยใช้ − เป็นเสน้ ค่ันระหว่างจำนวนสองจำนวน จำนวนท่อี ย่บู นเสน้ คน่ั เรียกว่า ตัวเศษ จำนวนทีอ่ ยู่ใต้เสน้ คน่ั เรียกวา่ ตัวสว่ น การอ่านเศษส่วนใหเ้ รมิ่ อ่านจากตัวเลขเศษกอ่ น โดยมีคำ ว่า เศษ นำหนา้ แล้วตามด้วยตวั เลขที่เป็นตัวเศษ จากน้ันอา่ นตวั สว่ นตอ่ โดยมีคำว่า ส่วน นำหนา้ แลว้ ตามดว้ ยตัว เลขทเ่ี ปน็ ตวั ส่วน การเปรียบเทียบเศษส่วนท่มี ตี วั สว่ นเท่ากัน ใชว้ ธิ ีนำตวั เศษมาเปรียบเทียบกัน เศษส่วนท่มี ตี ัวเศษ มากกว่าจะมคี า่ มากกวา่ เศษส่วนท่ีมตี วั เศษน้อยกวา่ การเปรยี บเทียบเศษส่วนทมี่ ตี วั เศษเท่ากัน จะพจิ ารณาทตี่ วั ส่วน เศษสว่ นท่มี ตี วั ส่วนน้อยกวา่ จะมคี ่ามากกวา่ เศษสว่ นทมี่ ตี วั ส่วนมากกว่า เศษสว่ น เปน็ การเขยี นแสดงจำนวน โดยใช้ − เป็นเสน้ คัน่ ระหว่างจำนวนสองจำนวน จำนวนทีอ่ ย่บู นเส้นคั่นเรียกว่า ตัวเศษ จำนวนทีอ่ ยู่ใต้เส้นคน่ั เรยี กว่า ตวั ส่วน การอ่านเศษสว่ นให้เริ่มอา่ นจากตวั เลขเศษกอ่ น โดยมคี ำวา่ เศษ นำหนา้ แลว้ ตามดว้ ยตวั เลขท่เี ป็น ตัวเศษ จากน้ันอ่านตวั สว่ นต่อ โดยมีคำวา่ ส่วน นำหนา้ แล้วตามด้วยตัวเลขทีเ่ ปน็ ตัวส่วนการลบเศษสว่ นที่มสี ่วน เทา่ กัน สามารถทำได้โดยใหน้ ำตัวเศษมาลบกนั ตัวส่วนยังคงเดมิ ไมต่ อ้ งลบกนั การแก้โจทยป์ ญั หาเก่ยี วกบั เศษสว่ นต้องวิเคราะหโ์ จทย์ และแสดงวธิ ที ำเพือ่ หาคำตอบ รวมท้งั ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 3. สาระการเรยี นรู้ - การอา่ นและเขียนเศษส่วนที่ตวั เศษน้อยกว่าตวั ส่วน - การเปรียบเทียบและเรียงลำดบั เศษสว่ นท่มี ีตวั สว่ นเท่ากนั - การเปรยี บเทียบและเรียงลำดบั เศษส่วนทีม่ ตี ัวเศษเท่ากนั - การบวกเศษสว่ นทีม่ ีตวั สว่ นเท่ากัน - การลบเศษส่วนทม่ี ีตวั ส่วนเท่ากัน - โจทย์ปัญหาการบวกเศษสว่ นท่มี ีตัวส่วนเทา่ กัน - โจทยป์ ญั หาการลบเศษสว่ นท่ีมตี ัวสว่ นเท่ากัน 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน 1. ดอกไม้แสดงเศษสว่ น 7. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อน-หลังเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรียน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ตรวจแบบฝกึ หดั หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 ตรวจชน้ิ งานหนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 7 แบบฝกึ หดั หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ สังเกตความมีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มัน่ ใน ชิน้ งานหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 7 ระดับคุณภาพ 2 การทำงาน ผ่านเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมที่ 1 การอ่านและเขียนเศษสว่ น ช่วั โมงท่ี 1 1. ครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจากนั้นให้ นกั เรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ 2. ครสู นทนากบั นกั เรียนถึงสิ่งของท่เี ตม็ หน่วยและสง่ิ ของท่ีไมเ่ ต็มหน่วย จากนั้นยกตวั อยา่ งรูปภาพ สง่ิ ของทเ่ี ตม็ หนว่ ยและไมเ่ ตม็ หน่วย โดยนำบัตรภาพ เชน่ ผลไม้ ขนมเคก้ วงกลม ท้ังท่เี ป็นภาพเตม็ หน่วยและไม่ เตม็ หนว่ ยตดิ บนกระดานดำเพื่อใหน้ ักเรียนตอบคำถามว่า ภาพใดบา้ งที่เต็มหน่วยและภาพใดบ้างท่ีไม่เตม็ หน่วย 3. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสนทนาถงึ สิ่งของที่เตม็ หนว่ ยวา่ ส่งิ ของท่ีเตม็ หนว่ ย เรยี กว่า จำนวนเต็ม เป็น การแสดงส่ิงของทม่ี จี ำนวนเต็มหน่วยซ่งึ เราสามารถนบั ได้ และใช้สญั ลกั ษณ์ 1, 2, 3, ... แทนจำนวนดังกลา่ ว พร้อมกับถามนักเรียนว่า สิง่ ของทไ่ี ม่เต็มหนว่ ย เรียกว่าอะไร สามารถนับเป็นจำนวนเต็มไดห้ รือไม่ และใช้ สัญลกั ษณอ์ ะไรแทน 4. ครนู ำภาพขนมที่ถูกแบง่ ออกเปน็ 2 ส่วนเทา่ ๆ กันมาติดบนกระดานดำ 5. ครแู นะนำวา่ ส่วนที่นกั เรียนหน่ึงคนไดร้ ับ เป็น 1 ใน 2 ส่วนของขนมเค้กท้งั หมด เขียนแทนดว้ ย 1 อา่ น 2 ว่า เศษหน่งึ สว่ นสอง ตัวเลขตัวบน คือ 1 เรยี กว่า ตัวเศษ ซงึ่ แสดงจำนวนส่วนแบ่งทีก่ ล่าวถงึ ตวั เลขตัวเลา่ งคือ 2 เรียกวา่ ตวั สว่ น ซึ่งแสดงจำนวนส่วนแบ่งทั้งหมดทเี่ ท่าๆ กนั 6. ครนู ำแถบกระดาษทม่ี สี ว่ นแบ่ง 5 สว่ นเทา่ ๆ กัน โดยที่แถบกระดาษดังกลา่ วระบายสี 1 ส่วน ติดบน กระดานดำใหน้ กั เรียนพิจารณา 7. จากน้นั ครูนำรูปมาตดิ บนกระดาน แลว้ อภปิ รายซกั ถามนกั เรยี น
8. ครนู ำรปู สิ่งของหน่งึ กลุ่มซง่ึ มีจำนวนไมเ่ กนิ 20 และแบ่งสง่ิ ของออกเปน็ หลายสว่ นเท่าๆ กนั แรเงา บางส่วนของรูปติดไว้บนกระดาน 9. ครใู ห้นกั เรียนหาเศษส่วนจากสงิ่ ของซงึ่ มีหลายชนดิ อยูใ่ นกลมุ่ เดยี วกนั 10. ครูให้นักเรียนอ่านและเขียนเศษส่วนที่ตัวเศษน้อยกว่าตัวส่วน เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกัน ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนัน้ ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในหนงั สอื เรียน 11. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรรู้ ว่ มกัน ดังนี้ - เศษส่วน คอื จำนวนที่ใชบ้ อกปรมิ าณของส่งิ ของหรอื รปู ภาพที่ถกู แบง่ ออกมาเม่ือเทียบกับสงิ่ ของ ทงั้ หมดหรือภาพทง้ั หมด - สัญลกั ษณท์ ่ีเขยี นแสดงเศษส่วนประกอบด้วย ตัวเศษ แสดงจำนวนสว่ นแบ่งทีก่ ล่าวถงึ ซ่งึ จะเขียนไว้ ดา้ นบน ตวั ส่วน แสดงจำนวนส่วนแบง่ ท้งั หมดที่แบง่ ออกเท่าๆ กนั ซงึ่ จะเขียนไว้ด้านลา่ ง และมเี สน้ คั่นระหวา่ งตัว เศษและตัวส่วน 12. ครใู ห้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น ชวั่ โมงที่ 2 1. ครใู หน้ กั เรียนทอ่ งสูตรคูณโดยใชแ้ กว้ และตาราง ๙ ช่องประกอบการท่องสตู รคณู หลังจากนนั้ ให้ นักเรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ 2. ครทู บทวนการอา่ นเศษส่วน โดยตดิ แถบแสดงเศษส่วนบนกระดาน 3. ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั อภิปรายส่วนทีแ่ รเงาแสดงเศษส่วนใด และตรวจสอบความถูกตอ้ งโดยครอู ธิบาย แนะนำและตรวจสอบความถกู ตอ้ งอีกคร้ัง 4. ครูติดแถบกระดาษทีแ่ รเงาเต็ม 1 แถบ บนกระดานใชก้ ารถามตอบจนนกั เรยี นบอกได้ ว่า สว่ นที่แรเงาแสดง 1 5. ครตู ิดแถบกระดาษรปู ส่ีเหลยี่ มที่มขี นาดเท่าเดิมอกี 4 แบบ (ดงั รปู ขา้ งลา่ ง) และแบง่ แถบกระดาษแถบ ทหี่ นึ่งเป็น 2 ส่วนเทา่ ๆ กนั แถบทีส่ องเปน็ 3 สว่ นเท่าๆ กัน แถบทส่ี ามเป็น 4 ส่วนเท่าๆ กัน และแถบที่สี่เปน็ 5 สว่ นเทา่ ๆ กัน 6. ครูแรเงาแถบกระดาษแถบที่ 1 ทลี ะส่วน พร้อมท้ังใหน้ ักเรยี นบอกเศษสว่ นทแี่ ทนส่วนทีแ่ รเงา (1 , 2) 22 ทำนองเดียวกัน สำหรบั แถบท่ี 2 (1 , 2 , 3) แถบท่ี 3 (1 , 2 , 3 , 4) และแถบท่ี 4 (1 , 2 , 3 , 4 , 5) เมื่อแรเงา 333 4444 55555 ครบทุกแถบ จากนน้ั ใหน้ ักเรียนพจิ ารณาแถบกระดาษทงั้ หมดใชก้ ารถามตอบ 7. ครูเขยี นผลสรปุ ทไี่ ด้บนกระดาน ดังนี้ 2 = 3 = 4 = 5 = 1 2345 8. ครใู หน้ ักเรียนสังเกตแถบกระดาษท่ีติดบนกระดานและตัวอยา่ งเศษสว่ นทเี่ ท่ากบั 1 ที่นักเรียน ยกตวั อย่างมา ครูใช้การถามตอบจนนักเรยี นร่วมกันสรปุ ได้วา่ เศษสว่ นทตี่ วั เศษและตัวส่วนเป็นจำนวนนับที่ เท่ากนั เปน็ เศษสว่ นทีเ่ ท่ากับ 1 9. ครใู ห้นกั เรยี นอา่ นและเขียนเศษส่วนที่ตัวเศษเทา่ กับตัวสว่ น เมอื่ เสร็จแลว้ ให้นกั เรยี นช่วยกันตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง จากน้ันครูและนักเรยี นรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในหนังสอื เรียน 10. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปส่งิ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้รว่ มกนั ดังน้ี เศษส่วนทีต่ ัวเศษและตัวสว่ นเปน็ จำนวนนบั ท่ี เท่ากันเปน็ เศษสว่ นท่ีเทา่ กบั 1 11. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท.
กจิ กรรมที่ 2 การเปรยี บเทียบและเรียงลำดบั เศษส่วนที่มีตัวสว่ นเทา่ กัน ชว่ั โมงที่ 1 1. ครูให้นกั เรยี นท่องสูตรคณู โดยใช้แกว้ และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคณู หลงั จากนัน้ ให้ นกั เรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ และทดสอบกอ่ นเรียน 2. นกั เรียนทบทวนความรูโ้ ดยสงั เกตและตอบคำถามบัตรภาพแสดงเศษส่วนท่ีติดบนกระดานแลว้ ตอบ คำถาม 3. นกั เรียนและครูรว่ มกนั อภปิ รายถึงการเปรยี บเทยี บเศษส่วนทมี่ สี ว่ นเทา่ กันวา่ สามารถทำได้โดยนำตวั เศษมาเปรียบเทยี บกนั ถ้าตัวเศษของจำนวนใดมคี า่ มากกว่า จำนวนน้ันจะมีค่ามากกวา่ 4. ครูยกตัวอย่างเศษสว่ นทมี่ ีตัวสว่ นเทา่ กนั เพิม่ เติมอีก จนนกั เรียนตอบไดค้ ล่อง 5. ครใู ห้นกั เรยี นเปรยี บเทยี บเศษสว่ นที่มตี ัวสว่ นเท่ากัน เม่ือเสร็จแล้วให้นกั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบ ความถกู ต้อง จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในหนงั สอื เรียน 6. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปสิง่ ทีไ่ ดเ้ รียนรรู้ ่วมกนั ดังนี้ การเปรียบเทียบเศษสว่ นท่มี ีตวั ส่วนเท่ากนั ใช้ วธิ ีนำตวั เศษมาเปรียบเทียบกัน เศษสว่ นทม่ี ตี ัวเศษมากกว่าจะมีค่ามากกว่าเศษส่วนท่มี ตี ัวเศษนอ้ ยกว่า 7. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ช่ัวโมงที่ 2 1. ครูใหน้ กั เรียนทอ่ งสตู รคณู โดยใชแ้ กว้ และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคูณ หลงั จากนัน้ ให้ นักเรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ และทดสอบกอ่ นเรยี น 2. ครทู บทวนเรื่องการเปรียบเทียบเศษสว่ นที่ตวั ส่วนเท่ากัน โดยนำบตั รภาพแสดงเศษส่วน มาใหน้ กั เรยี นดูที ละคู่ แลว้ ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันเปรียบเทียบวา่ รูปภาพใดแสดงเศษสว่ นที่มากกว่าหรือน้อยกวา่ กัน (2 - 3 ตัวอยา่ ง) 3. ครูเขียนตัวเลขบนกระดานทีละคู่ แล้วใหน้ ักเรยี นรว่ มกันเปรยี บเทยี บวา่ จำนวนใดมคี ่ามากกว่าหรือน้อย กว่ากันโดยใชเ้ ครอ่ื งหมาย ดงั นี้ 5 กับ 2 , 2 กับ 6 , 5 กบั 4 , 3 กบั 1 6 67 75 58 8 4. ครทู บทวนเร่ืองการเปรียบเทียบเศษส่วนท่ตี วั สว่ นเท่ากนั ว่า “เศษส่วนทม่ี ตี ัวส่วนเทา่ กัน ให้พิจารณาท่ี ตวั สว่ น เศษส่วนทมี่ ีตวั เศษมากกว่าจะมีคา่ มากกว่าเศษสว่ นที่มีตัวเศษนอ้ ยกวา่ ” 5. ครูนำบตั รตัวเลข 5 , 3 , 7 , 4 , 1 ขนึ้ มา โดยครูต้ังคำถามกระต้นุ ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั คิดในประเด็น 99999 6. ครยู กตัวอย่างการเรียงลำดบั เศษสว่ นท่ีตวั ส่วนเท่ากนั เพิ่มเติมอีก 2 – 3 ตวั อย่าง จนนักเรยี นตอบได้ คล่อง 7. ครใู หน้ กั เรยี นเรียงลำดบั เศษสว่ นท่ีมีตวั ส่วนเท่ากนั เมอื่ เสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูก ต้อง จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในหนังสือ 8. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ สงิ่ ทไี่ ด้เรียนรูร้ ่วมกัน ดงั นี้ การเรียงลำดับเศษส่วนทมี่ ีตวั สว่ นเท่ากัน ใช้วิธี นำตัวเศษมาเปรียบเทียบกนั เศษส่วนท่มี ตี ัวเศษมากกวา่ จะมีค่ามากกวา่ เศษสว่ นที่มตี วั เศษน้อยกวา่ จากน้ันนำมา เรียงลำดบั จากมากไปหาน้อย หรือจากนอ้ ยไปหามาก 9. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. กิจกรรมที่ 3 การเปรยี บเทียบและเรยี งลำดับเศษสว่ นท่ีมีตวั เศษเทา่ กัน ชัว่ โมงท่ี 1 1. ครูใหน้ ักเรียนทอ่ งสตู รคณู โดยใช้แก้วและตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลงั จากนน้ั ให้ นกั เรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ และทดสอบก่อนเรยี น 2. ครูทบทวนเรือ่ งการเปรียบเทยี บเศษส่วนโดยการติดแผนภาพบนกระดาน และให้นักเรียนรว่ มกันบอก เศษส่วนแสดงจำนวนที่แรเงา
3. ครูใชก้ ารถามตอบเพอื่ เปรยี บเทยี บ 1 กับ 5 โดยให้นักเรยี นสงั เกตจากแถบแสดงเศษสว่ นจนนักเรยี น 77 ร่วมกันให้เหตุผล 4. ครูยกตวั อย่างการเปรียบเทยี บเศษสว่ นอีก 2 ตวั อย่าง จากแถบแสดงเศษสว่ นและให้นักเรียนรว่ มกนั ให้เหตผุ ลเพอ่ื แสดงการเปรยี บเทียบ 5. ครใู ช้การถามตอบเพอ่ื เปรียบเทียบ 3 กับ 3 โดยใหน้ ักเรยี นสงั เกตจากแถบแสดงเศษส่วนจนนักเรียน 57 รว่ มกนั ให้เหตผุ ล 6. ครูใหน้ ักเรียนสังเกตผลจากการเปรียบเทียบเศษส่วนและรว่ มกนั สรปุ วา่ - เศษสว่ นสองจำนวนเมื่อนำมาเปรียบเทียบกนั จะเทา่ กัน มากกวา่ กนั หรือน้อยกว่ากันอย่างใดอยา่ ง หนงึ่ - การเปรียบเทยี บเศษส่วนทม่ี ตี วั เศษเทา่ กัน ใหพ้ จิ ารณาที่ตวั ส่วน เศษส่วนทมี่ ตี ัวสว่ นนอ้ ยกวา่ จะมคี า่ มากกว่าเศษสว่ นทีม่ ีตัวสว่ นมากกวา่ 7. ครูยกตวั อย่างเศษสว่ นที่มีตวั เศษเทา่ กันเพ่ิมเตมิ อีก จนนกั เรยี นตอบไดค้ ลอ่ ง 8. ครใู หน้ ักเรียนเปรียบเทยี บเศษส่วนทม่ี ตี วั เศษเท่ากนั เม่อื เสร็จแล้วใหน้ กั เรียนช่วยกันตรวจสอบ ความถกู ตอ้ ง จากนน้ั ครูและนักเรยี นรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในหนงั สือเรยี น 9. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ สง่ิ ทไี่ ดเ้ รียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การเปรียบเทียบเศษสว่ นท่มี ตี วั ส่วนเทา่ กนั ใช้ วิธนี ำตัวเศษมาเปรียบเทยี บกัน เศษสว่ นทีม่ ีตัวส่วนนอ้ ยกว่าจะมีค่ามากกวา่ เศษสว่ นท่ีมีตัวส่วนมากกว่า เศษส่วนท่ี มตี ัวเศษมากกวา่ จะมีค่ามากกวา่ เศษสว่ นทม่ี ีตัวเศษน้อยกว่า 10. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชัว่ โมงที่ 2 1. ครูให้นักเรยี นทอ่ งสตู รคณู โดยใช้แกว้ และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคูณ หลงั จากน้นั ให้ นกั เรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ข้อ และทดสอบก่อนเรียน 2. ครูทบทวนเร่ืองการเปรียบเทียบเศษส่วนท่ีตัวเศษเท่ากัน โดยนำบตั รภาพแสดงเศษสว่ น มาใหน้ ักเรยี นดทู ี ละคู่ แล้วให้นักเรียนร่วมกันเปรยี บเทยี บว่า รูปภาพใดแสดงเศษสว่ นที่มากกว่าหรือน้อยกว่ากัน (2 - 3 ตวั อยา่ ง) 3. ครูเขียนตวั เลขบนกระดานทลี ะคู่ แลว้ ใหน้ กั เรยี นร่วมกันเปรียบเทยี บว่าจำนวนใดมีค่ามากกว่าหรือน้อย กว่ากนั โดยใชเ้ ครอื่ งหมาย ดงั นี้ 2 กับ 2 , 6 กบั 6 , 4 กบั 4 , 3 กบั 3 6 57 95 78 6 4. ครกู ล่าวทักทายและทบทวนเร่ืองการเปรียบเทยี บเศษสว่ นทีต่ วั เศษเท่ากนั วา่ “เศษส่วนที่มีตัวเศษ เท่ากนั ให้พจิ ารณาที่ตวั ส่วน เศษสว่ นที่มตี ัวสว่ นน้อยกวา่ จะมีคา่ มากกวา่ เศษสว่ นท่ีมตี วั ส่วนมากกว่า” 5. ครนู ำบตั รตวั เลข 3 , 3 , 3 , 3 , 3 ข้ึนมา โดยครูตง้ั คำถามกระตุ้นให้นกั เรียนช่วยกันคิดในประเด็น 96584 6. ครยู กตัวอย่างการเรียงลำดับเศษสว่ นท่ตี ัวเศษเท่ากันเพมิ่ เตมิ อีก 2 – 3 ตวั อยา่ ง จนนักเรยี นตอบได้ คล่อง 7. ครใู ห้นกั เรียนเรียงลำดบั เศษส่วนทีม่ ตี วั เศษเทา่ กัน เมื่อเสร็จแลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนั้นครแู ละนักเรียนร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในหนงั สือเรยี น 8. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปสง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรรู้ ว่ มกนั ดังน้ี การเรยี งลำดบั เศษส่วนทม่ี ีตวั เศษเทา่ กัน ใชว้ ิธี นำตวั ส่วนมาเปรยี บเทยี บกัน เศษส่วนที่มตี วั ส่วนน้อยกว่าจะมคี า่ มากกว่าเศษสว่ นท่ีมีตัวสว่ นมากกวา่ จากนน้ั นำมาเรียงลำดบั จากมากไปหานอ้ ย หรือจากนอ้ ยไปหามาก 9. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท.
กจิ กรรมที่ 4 การบวกเศษส่วนท่มี ตี ัวส่วนเทา่ กนั ชั่วโมงที่ 1 1. ครูให้นักเรยี นทอ่ งสตู รคณู โดยใชแ้ กว้ และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลังจากนัน้ ให้ นักเรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ และทดสอบกอ่ นเรียน 2. ครทู บทวนเร่ืองการเปรียบเทียบเศษสว่ น โดยนำบัตรภาพแสดงเศษส่วน มาให้นกั เรยี นดทู ีละคู่ แล้วให้ นักเรียนร่วมกนั เปรยี บเทียบวา่ รูปภาพใดแสดงเศษสว่ นท่ีมากกว่าหรือน้อยกว่ากนั (2-3 ตวั อย่าง) 3. ครูเขยี นตัวเลขบนกระดานทลี ะคู่ แล้วให้นกั เรยี นร่วมกันเปรยี บเทียบวา่ จำนวนใดมคี ่ามากกว่าหรือน้อย กวา่ กนั โดยใช้เครื่องหมาย ดังน้ี 5 กับ 2 , 2 กับ 6 , 5 กับ 4 , 3 กบั 1 6 67 75 58 8 4. ครูนำแผนภาพแสดงการบวกเศษสว่ นท่ีมีตัวส่วนเทา่ กัน 6. ครูใช้คำถามใหน้ ักเรียนตอบ 7. ครยู กตวั อยา่ งเพมิ่ เติม และใหน้ กั เรียนแตร่ ่วมกนั หาคำตอบ 8. ครูให้นักเรียนบวกเศษสว่ นทีม่ ตี ัวสว่ นเทา่ กนั เมอ่ื เสร็จแลว้ ให้นักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้ันครแู ละนักเรยี นร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในหนงั สือเรียน 9. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ ส่ิงท่ไี ด้เรยี นรรู้ ่วมกนั ดังนี้ การบวกเศษส่วนท่ีมีตัวสว่ นเท่ากันโดยใช้ หลักการนำตวั เศษบวกตัวเศษ ตัวส่วนคงเดิม 10. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ช่ัวโมงท่ี 2 1. ครูใหน้ ักเรยี นทอ่ งสูตรคณู โดยใชแ้ ก้วและตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคูณ หลงั จากนัน้ ให้ นักเรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ และทดสอบก่อนเรยี น 2. ครทู บทวนความหมายของเศษส่วนโดยแจกกระดาษขนาดกว้าง 4 นิ้ว ยาว 8 นว้ิ ใหน้ ักเรยี นทุกคน แล้วพับแถบกระดาษเป็น 8 ส่วนเทา่ ๆ กัน ขดี เสน้ ตามรอยพบั แล้วใหน้ กั เรยี นระบายสแี ดง 3 สว่ น 3. ครูกล่าวทกั ทายและทบทวนเร่อื งการบวกเศษส่วนที่มตี วั สว่ นเท่ากนั วา่ “การบวกเศษสว่ นทม่ี ีตัวสว่ น เท่ากัน ใหน้ ำตัวเศษมาบวกกัน โดยมีตวั สว่ นเทา่ เดมิ ” 4. ครูยกตวั อย่างบนกระดานใช้การถามตอบให้นักเรียนชว่ ยกนั หาผลบวก 5. ครูตรวจสอบความถกู ต้องอีกครั้ง และสนทนาและอภปิ รายซักถามนักเรียนเกี่ยวกับวธิ กี ารบวก เศษส่วนที่มีตวั สว่ นเท่ากัน 6. ครใู หน้ ักเรียนบวกเศษสว่ นที่มตี วั ส่วนเท่ากัน เมื่อเสร็จแล้วใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้ันครแู ละนักเรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในหนงั สอื 7. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ สิ่งทไ่ี ด้เรยี นรูร้ ่วมกนั ดังนี้ การบวกเศษส่วนทมี่ ีตวั ส่วนเทา่ กนั โดยใช้ หลกั การนำตัวเศษบวกตวั เศษ ตวั สว่ นคงเดิม กิจกรรมที่ 5 การลบเศษสว่ นทีม่ ีตวั ส่วนเท่ากนั ชวั่ โมงที่ 1 1. ครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง ๙ ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจากนั้นให้ นกั เรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ และทดสอบก่อนเรยี น 2. นักเรียนทบทวนความรู้การบวกเศษสว่ นทม่ี ตี ัวส่วนเทา่ กนั โดยพจิ ารณาแถบแสดงเศษสว่ นบนกระดาน ผ้แู ทนนักเรียนออกมาเขียนประโยคสัญลักษณ์ 1 คน และเขยี นคำตอบ 1 คน
3. ครนู ำเสนอการการลบทม่ี ีตัวสว่ นเทา่ กันโดยใชแ้ ถบเศษส่วน 4. ครสู นทนาและอภิปรายซกั ถามนักเรียนเกีย่ วกับวธิ กี ารลบเศษสว่ นที่มตี ัวส่วนเทา่ กนั 5. ครยู กตัวอยา่ งโจทยห์ รือประโยคสญั ลกั ษณเ์ กยี่ วกับการลบที่มตี ัวส่วนเทา่ กัน 3 – 4 ตัวอยา่ งมา อภปิ รายซักถามนกั เรียน ถงึ การแสดงวิธกี ารทำให้นักเรยี นดเู ปน็ ตวั อย่าง 6. ครูใหน้ กั เรยี นลบเศษส่วนท่มี ตี วั สว่ นเทา่ กนั เม่ือเสร็จแลว้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครูและนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในหนงั สือเรียน 7. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สิ่งทไี่ ดเ้ รียนรรู้ ่วมกัน ดังน้ี การลบเศษสว่ นทม่ี ตี วั สว่ นเทา่ กันโดยใช้หลกั การ นำตวั เศษลบตัวเศษ ตวั ส่วนคงเดมิ 8. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. ชว่ั โมงที่ 2 1. ครใู ห้นักเรียนท่องสตู รคูณโดยใชแ้ กว้ และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคูณ หลังจากนั้นให้ นกั เรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ และทดสอบก่อนเรียน 2. ครทู บทวนความหมายของเศษส่วนโดยแจกกระดาษขนาดกว้าง 4 น้วิ ยาว 8 น้วิ ให้นักเรยี นทุกคน แล้วพับแถบกระดาษเป็น 8 สว่ นเทา่ ๆ กนั ขีดเส้นตามรอยพับแล้วใหน้ ักเรยี นระบายสีแดง 3 สว่ น 3. ครใู ช้การถามตอบจนนักเรียนตอบไดว้ ่า เศษสว่ นแสดงสว่ นทร่ี ะบายสี คอื 5 8 4. ครกู ล่าวทกั ทายและทบทวนเรอื่ งการลบเศษสว่ นทม่ี ีตวั ส่วนเท่ากนั วา่ “การลบเศษสว่ นที่มตี ัวสว่ น เทา่ กนั ให้นำตัวเศษมาลบกัน โดยมตี วั สว่ นเท่าเดมิ ” 5. ครูยกตวั อย่างบนกระดานใชก้ ารถามตอบใหน้ ักเรียนช่วยกันหาผลบวก 6. ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งอีกคร้งั และสนทนาและอภปิ รายซักถามนกั เรียนเกย่ี วกับวธิ กี ารลบเศษสว่ น ทีม่ ีตวั สว่ นเทา่ กัน 7. ครใู หน้ กั เรยี นลบเศษสว่ นท่ีมตี วั ส่วนเทา่ กัน เมอื่ เสร็จแล้วใหน้ ักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้นั ครแู ละนักเรียนร่วมกันเฉลยกิจกรรมในหนังสือเรยี น 8. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปสิ่งทีไ่ ด้เรียนรรู้ ว่ มกนั ดังน้ี การลบเศษส่วนท่มี ีตวั สว่ นเท่ากันโดยใชห้ ลกั การ นำตัวเศษลบตัวเศษ ตวั สว่ นคงเดมิ 9. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. กิจกรรมท่ี 6 โจทยป์ ัญหาการบวกเศษส่วนท่ีมีตัวส่วนเท่ากัน ชวั่ โมงท่ี 1 1. ครใู หน้ ักเรียนทอ่ งสูตรคูณโดยใชแ้ กว้ และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคูณ หลังจากนั้นให้ นักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ และทดสอบกอ่ นเรียน 2. นกั เรยี นทบทวนความรู้ เรือ่ ง การบวกเศษสว่ นท่มี ีตัวส่วนเทา่ กนั โดยพจิ ารณาโจทยก์ ารบวกเศษ สว่ นบนกระดาน 5 ข้อ ผู้แทนนักเรยี นออกมาแข่งกนั เติมคำตอบ นักเรยี นที่เหลือชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 3. นักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยใช้คำถามกระตุ้นความคดิ ดังน้ี นักเรียนมวี ิธกี ารหรือขัน้ ตอนใด อีกบ้างทจี่ ะชว่ ยให้หาคำตอบจากโจทย์ปญั หาเศษสว่ นได้รวดเรว็ และถูกตอ้ ง 4. ครตู ดิ แถบโจทยป์ ัญหาการบวกเศษสว่ นบนกระดาน พร้อมท้ังอ่านโจทย์ใหน้ ักเรียนอ่านตาม 5. ครูใหน้ กั เรียนฝกึ วเิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหา โดยตอบคำถาม 6. ครฝู กึ วเิ คราะหโ์ จทยป์ ญั หาการบวกเศษสว่ นตามลกั ษณะกิจกรรมท่ที ำมาขา้ งตน้ อีก 2 – 3 ตัวอยา่ ง 7. ครูใหน้ กั เรยี นทำโจทยป์ ัญหาการบวกเศษส่วนท่มี ตี ัวส่วนเท่ากนั เมือ่ เสร็จแล้วให้นักเรียนชว่ ยกัน
ตรวจสอบความถูกต้อง จากนน้ั ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในหนงั สือเรียน 8. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปสิง่ ทีไ่ ดเ้ รียนร้รู ่วมกัน ดังนี้ โจทย์ปัญหาเปน็ การนำจำนวนหรอื สถานการณ์ ต่าง ๆ มาเขยี นเป็นคำถาม เพื่อให้คดิ หาคำตอบ ซ่งึ เราต้องอา่ นโจทยใ์ ห้เขา้ ใจ พจิ ารณาวา่ โจทย์กำหนดอะไรให้ บา้ ง โจทย์ถามหาอะไร ควรใช้วธิ กี ารแก้ไขปญั หาอยา่ งไร 9. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. ช่ัวโมงท่ี 2 1. ครูใหน้ กั เรียนท่องสตู รคูณโดยใชแ้ กว้ และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคูณ หลังจากนน้ั ให้ นกั เรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ และทดสอบก่อนเรยี น 2. ครนู ำโจทย์ปัญหาการบวกท่ีมคี ำวา่ “มากกวา่ ” มาใหน้ ักเรียนฝกึ วิเคราะห์โจทย์และหาคำตอบ 3. ครฝู ึกให้นกั เรียนฝกึ วเิ คราะหโ์ จทยโ์ ดยตอบคำถาม 4. ครตู ดิ แถบโจทย์ปัญหาการบวกเศษส่วนบนกระดาน ให้นักเรียนคิดหาคำตอบ 5. ครใู หน้ กั เรยี นทุกคนอ่านโจทย์ปญั หาพรอ้ มกนั แล้วฝกึ วิเคราะหโ์ จทยแ์ ละหาคำตอบ โดยใหน้ กั เรียน ตอบคำถาม 6. ครูให้นักเรียนทำโจทย์ปัญหาการบวกเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากัน เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกัน ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนัน้ ครูและนกั เรยี นร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในหนังสือเรียน 7. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปสิง่ ทีไ่ ด้เรียนรู้ร่วมกนั ดังน้ี การวเิ คราะห์โจทยป์ ัญหาการบวกและหา คำตอบและหาคำตอบได้ว่าการแกโ้ จทย์ปัญหามีขน้ั ตอนดงั น้ี - ทำความเขา้ ใจโจทย์ - วางแผนแกป้ ัญหา - ดำเนินการตามแผน - ตรวจสอบ 9. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ช่ัวโมงที่ 3 1. ครูใหน้ ักเรยี นท่องสูตรคูณโดยใชแ้ ก้วและตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคูณ หลงั จากนั้นให้ นกั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ และทดสอบก่อนเรยี น 2. ครทู บทวนความรเู้ รื่อง การแก้โจทยป์ ัญหาการบวกเศษส่วนทีม่ ีตัวสว่ นเทา่ กนั จากนั้นครูตดิ บตั รโจทย์ ปญั หา แลว้ ครูสุม่ นักเรยี น 2-3 คน ออกมาแสดงข้ันตอนการแก้โจทยป์ ัญหาหนา้ ชนั้ เรยี น โดยครแู ละนักเรียนที่ เหลอื รว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง 3. ครูนำแผนภูมิแสดงตวั อย่างโจทย์ปัญหาการบวกเศษสว่ นที่มีตัวสว่ นเทา่ กนั มาอภิปรายซักถาม นักเรียนเกีย่ วกบั การวเิ คราะห์โจทย์ การเขยี นโจทย์ปัญหา ประโยคสัญลักษณ์ การแสดงวธิ ที ำเพ่ือหาคำตอบ 4. ครูฝึกวิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหาการบวกเศษส่วนท่มี ตี วั ส่วนเทา่ กันตามลกั ษณะกจิ กรรมท่ีทำมาข้างต้น อีก 2 – 3 ตวั อยา่ ง 5. ครูใหน้ ักเรียนทำโจทย์ปญั หาการบวกเศษส่วนทม่ี ีตัวสว่ นเทา่ กนั เมือ่ เสรจ็ แล้วให้นักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบ ความถูกต้อง จากนน้ั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในหนังสอื เรยี น 6. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรปุ สิง่ ที่ไดเ้ รยี นรูร้ ่วมกัน ดังนี้ การแก้โจทยป์ ัญหาการบวกเศษส่วนท่ีมตี ัวส่วน เทา่ กัน ทำได้โดยการวิเคราะห์โจทย์ปญั หาเพ่ือทำความเขา้ ใจโจทยว์ างแผนว่าจะใชว้ ิธใี ดหาคำตอบ แล้วลงมือทำโดย การแสดงวธิ ีทำหาคำตอบ และตรวจสอบคำตอบ เราสามารถนำความรู้เร่ือง การแกโ้ จทยป์ ัญหาการบวกเศษสว่ น ไปใช้ แก้ปัญหาเก่ียวกับจำนวนต่างๆ ในชวี ิตประจำวนั ได้ 7. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท.
กิจกรรมท่ี 7 โจทย์ปัญหาการลบเศษส่วนที่มีตัวส่วนเทา่ กัน ช่วั โมงท่ี 1 1. ครใู ห้นกั เรียนทอ่ งสตู รคูณโดยใชแ้ ก้วและตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลงั จากนัน้ ให้ นกั เรียนคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ และทดสอบก่อนเรยี น 2. นกั เรียนทบทวนความรู้ เรือ่ ง การลบเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากนั โดยพจิ ารณาโจทยก์ ารบวกเศษ ส่วนบนกระดาน 5 ขอ้ ผู้แทนนักเรยี นออกมาแขง่ กนั เติมคำตอบ นกั เรยี นที่เหลือชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 3. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยใชค้ ำถามกระต้นุ ความคดิ ดังนี้ นักเรียนมีวธิ ีการหรอื ขน้ั ตอนใด อีกบา้ งทจ่ี ะชว่ ยให้หาคำตอบจากโจทย์ปัญหาเศษส่วนไดร้ วดเร็ว และถกู ต้อง 4. ครูติดแถบโจทยป์ ัญหาการลบเศษสว่ นบนกระดาน พร้อมท้งั อ่านโจทย์ให้นักเรยี นอ่านตาม ดังน้ี ดำมเี ชอื กอยู่ 5 เมตร แบ่งใหน้ ้อง 1 เมตร ดำยังเหลือเชือกอีกก่ีเมตร 10 10 5. ครใู หน้ ักเรยี นฝึกวเิ คราะห์โจทยป์ ัญหา โดยตอบคำถามดงั ตอ่ ไปนี้ o โจทย์กำหนดอะไรมาให้บ้าง (ดำมีเชือกอยู่ 5 เมตร แบง่ ใหน้ อ้ ง 1 เมตร) 10 10 o โจทย์ถามอะไรบ้าง (ดำยังเหลอื เชอื กอกี ก่ีเมตร) o ใชว้ ิธีใดหาคำตอบ (วิธีลบ) o เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ได้อย่างไร ( 5 - 1 = ) 10 10 o คำตอบท่ไี ดค้ ือเท่าใด ( 4 เมตร) 10 6. ครฝู ึกวิเคราะห์โจทย์ปัญหาการลบเศษสว่ นตามลักษณะกจิ กรรมท่ีทำมาข้างตน้ อกี 2 – 3 ตัวอยา่ ง 7. ครใู หน้ กั เรยี นทำโจทยป์ ญั หาการลบเศษสว่ นทีม่ ีตัวสว่ นเทา่ กัน เมือ่ เสรจ็ แล้วใหน้ ักเรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้ันครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในหนังสือเรียน 8. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สิ่งทีไ่ ดเ้ รยี นรูร้ ่วมกัน ดังนี้ โจทย์ปญั หาเป็นการนำจำนวนหรือ สถานการณต์ ่าง ๆ มาเขียนเป็นคำถาม เพื่อใหค้ ิดหาคำตอบ ซงึ่ เราตอ้ งอ่านโจทย์ใหเ้ ข้าใจ พจิ ารณาวา่ โจทย์ กำหนดอะไรใหบ้ า้ ง โจทยถ์ ามหาอะไร ควรใชว้ ธิ กี ารแก้ไขปัญหาอยา่ งไร 9. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ชั่วโมงท่ี 2 1. ครใู หน้ ักเรียนทอ่ งสูตรคณู โดยใช้แก้วและตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสตู รคูณ หลงั จากน้นั ให้ นกั เรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ และทดสอบก่อนเรยี น 2. ครูนำโจทย์ปัญหาการบวกที่มีคำว่า “นอ้ ยกวา่ ” มาให้นักเรียนฝกึ วเิ คราะหโ์ จทย์และหาคำตอบ 3. ครฝู กึ ใหน้ ักเรียนฝกึ วิเคราะห์โจทย์โดยตอบคำถาม 4. ครตู ิดแถบโจทยป์ ัญหาการลบเศษสว่ นบนกระดาน ใหน้ ักเรยี นคดิ หาคำตอบ 5. ครใู หน้ กั เรยี นทุกคนอา่ นโจทย์ปญั หาพร้อมกัน แลว้ ฝึกวเิ คราะหโ์ จทยแ์ ละหาคำตอบ โดยให้ นักเรียนตอบคำถาม 6. ครใู ห้นกั เรยี นฝกึ วิเคราะหโ์ จทย์ปัญหาการลบเศษสว่ นตามลกั ษณะกิจกรรมที่ทำมาข้างต้นอกี 2 – 3 ตวั อย่าง 7. ครูให้นกั เรียนทำโจทย์ปญั หาการลบเศษสว่ นท่ีมตี วั สว่ นเท่ากัน เมอื่ เสรจ็ แล้วให้นกั เรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครแู ละนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในหนงั สอื เรียน
8. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปส่ิงทไี่ ดเ้ รียนรู้รว่ มกัน ดังนี้ การวเิ คราะห์โจทย์ปัญหาการลบและหาคำตอบ และหาคำตอบไดว้ ่าการแก้โจทย์ปัญหามขี ั้นตอนดังนี้ - ทำความเขา้ ใจโจทย์ - วางแผนแก้ปญั หา - ดำเนินการตามแผน - ตรวจสอบ 9. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชัว่ โมงท่ี 3 1. ครใู หน้ กั เรียนทอ่ งสตู รคูณโดยใช้แก้วและตาราง ๙ ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลงั จากน้นั ให้ นกั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ และทดสอบกอ่ นเรียน 2. ครูทบทวนความรเู้ รือ่ ง การแก้โจทย์ปญั หาการลบเศษสว่ นท่ีมีตวั สว่ นเทา่ กัน จากนน้ั ครตู ิดบตั รโจทย์ ปัญหา แล้วครสู มุ่ นักเรียน 2-3 คน ออกมาแสดงขน้ั ตอนการแก้โจทยป์ ัญหาหนา้ ช้ันเรยี น โดยครแู ละนกั เรยี นที่ เหลอื ร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง 3. ครนู ำแผนภมู แิ สดงตัวอย่างโจทย์ปญั หาการลบเศษส่วนท่มี ตี วั ส่วนเทา่ กนั มาอภปิ รายซักถามนักเรยี น เก่ียวกบั การวเิ คราะห์โจทย์ การเขยี นโจทย์ปญั หา ประโยคสัญลักษณ์ การแสดงวธิ ที ำเพ่ือหาคำตอบ 4. ครูใหน้ กั เรยี นทำ โจทยป์ ญั หาการลบเศษสว่ นทีม่ ตี วั ส่วนเท่ากัน เมือ่ เสรจ็ แลว้ ให้นกั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากน้นั ครูและนักเรยี นรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในหนังสอื เรยี น 5. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปสิ่งที่ไดเ้ รยี นรูร้ ว่ มกนั ดังน้ี การแก้โจทย์ปัญหาการลบเศษส่วนท่มี ีตัวสว่ น เท่ากนั ทำไดโ้ ดยการวิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหาเพื่อทำความเขา้ ใจโจทย์วางแผนว่าจะใช้วิธใี ดหาคำตอบ แลว้ ลงมือทำ โดยการแสดงวธิ ีทำหาคำตอบ และตรวจสอบคำตอบ เราสามารถนำความรู้เร่ือง การแกโ้ จทยป์ ัญหาการบวกเศษส่วน ไปใช้แกป้ ัญหาเก่ียวกับจำนวนต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ 6. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบ 9. สอ่ื / แหล่งเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น - แบบทดสอบหลังเรียน 2. แบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. 3. ภาพขนมเค้กทถ่ี กู แบ่งออกเปน็ 2 สว่ นเท่าๆ กัน 4. บตั รภาพแสดงเศษสว่ น 5. บตั รภาพแสดงเศษสว่ น 6. แผนภาพแสดงการบวกเศษสว่ นท่ีมตี ัวส่วนเทา่ กนั 7. แผนภาพแสดงการลบเศษส่วนท่ีมตี วั สว่ นเท่ากัน 8. แถบโจทยป์ ญั หาการบวกเศษสว่ น 9. แถบโจทย์ปญั หาการลบเศษสว่ น
โรงเรียนวัดพืชนมิ ติ (คำสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ำรุง) อำเภอคลองหลวง จงั หวดั ปทุมธานี ข้อสอบบทท่ี 7 เศษส่วน ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 คำช้แี จง : ให้นกั เรียนทำเคร่ืองหมาย x ทับอักษรหน้าคำตอบทถี่ ูกตอ้ งที่สดุ เพียงคำตอบเดยี ว จำนวน 10 ขอ้ ขอ้ 1. เศษส่วนในขอ้ ใดมคี า่ น้อยกวา่ 6 ขอ้ 6. ขอ้ ใดเปน็ การเปรยี บเทียบเศษสว่ นทีถ่ ูกตอ้ ง 12 ก. 7 < 5 ข.1125 > 10 ก. 3 7 ข. 10 11 9 9 15 12 12 12 12 ค. 6 > 8 ง. 9 < 2 ค. 3 4 ง. 5 9 8 8 13 13 12 12 12 12 ขอ้ 2 . ใข้อใดเปน็ การเรียงลำดบั เศษส่วนจากน้อยไปมาก ข้อ 7. ขอ้ ใดเปน็ คำตอบของ 5 + 3 =□ 14 14 ก. 3 10 6 ข. 2 7 5 ก. 6 ข. 5 20 20 20 20 20 20 14 14 ค. 3 9 8 ง. 6 12 18 ค. 8 ง. 8 15 15 15 20 20 20 28 14 ข้อ 3 . ขอ้ ใดอ่านผดิ ข้อ 8. ข้อใดเปน็ คำตอบของ □+ 7 = 18 22 22 ก. 6 อ่านวา่ เศษหกส่วนแปด 8 ก. 11 ข. 25 22 22 ข. 2 อ่านว่า สิบสองส่วนสิบ 10 ค. 11 ง. 12 44 22 ค. 5 อ่านว่า เศษห้าส่วนสิบสาม 13 ง. 17 อา่ นวา่ เศษสบิ เจด็ สว่ นยสี่ บิ ข้อ 9. ข้อใดเปน็ คำตอบของ 8 - □ = 5 20 12 12 ขอ้ 4 . ข้อใดเป็นการเปรียบเทยี บเศษสว่ นท่ีถูกต้อง ก. 5 ข. 3 12 12 ก. 2 < 2 ข. 3 > 3 ค. 13 ง. 5 5 4 8 5 12 12 ค. 7 = 7 ง. 4 < 4 ข้อ 10. 9 > 9 ควรเติมตัวเลขใดลงในช่องว่าง 10 12 6 9 23 ⎕ ขอ้ 5 . ซีมนี ำ้ ตาลทราย 8 ถว้ ย แบมมีน้ำตาลทราย 8 ก. 21 ข. 22 19 16 ถ้วย น้อยมีนำ้ ตาลทราย 8 ถ้วย ค. 23 ง. 24 17 จงเรยี งลำดบั คนที่มนี ้ำตาลทรายจากมากไปน้อย ก. ซี แบม นอ้ ย ผตู้ รวจขอ้ สอบ ลงชื่อ.................................................ครูผ้สู อน ข. แบม น้อย ซี (...............................................) ค. แบม ซี นอ้ ย ง. นอ้ ย ซี แบม
ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 ด้าน คำช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี น ในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงในชอ่ งวา่ ง ใหต้ รงกบั ระดบั คะแนน และตามความเปน็ จรงิ โดยมเี กณฑ์การให้คะแนน ดังนี้ 4 = พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิชัดเจนมาก และบ่อยคร้ังสม่ำเสมอ 3 = พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัติชดั เจนและสมำ่ เสมอ 2 = พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ตั ิชดั เจนและบอ่ ยคร้ัง 1 = พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตบิ างคร้งั คณุ ลักษณะอัน ระดับคะแนน พึงประสงค์ รายการประเมิน 4 321 ด้าน 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มีความรัก และภูมใิ จในความเปน็ ชาติ กษัตรยิ ์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามหลักธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถงึ ความจงรักภักดีต่อสถาบัน พระมหากษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์ 2.1 ปฏิบัติตามระเบยี บการสอน และไมล่ อกการบ้าน สจุ ริต 2.2 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงต่อความเปน็ จริงตอ่ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงต่อความเป็นจรงิ ตอ่ ผู้อ่นื 3. มีวนิ ัย 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แตง่ กายเรียบร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.3 ปฏิบตั ิตามกฎระเบยี บของห้อง 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ การเรียนรูต้ ่างๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมีเหตุผล 5. อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด พอเพียง 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คุณค่า 5.3 ใช้จา่ ยอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงนิ 6. มุ่งม่ันในการ 6.1 มคี วามตัง้ ใจ และพยายามในการทำงานท่ีไดร้ ับ ทำงาน มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออุปสรรค เพื่อให้งาน สำเร็จ 7. รกั ความเปน็ 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย ไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจติ 8.1 รจู้ ักการใหเ้ พ่ือสว่ นรวม และเพ่ือผ้อู ืน่ สาธารณะ 8.2 แสดงออกถงึ การมนี ้ำใจหรือการให้ความชว่ ยเหลือผู้อ่ืน 8.3 เข้าร่วมกิจกรรมบำเพญ็ ตนเพ่ือส่วนรวมเม่ือมโี อกาส ชือ่ ......................................................................................................................ชั้ น.................เลขที.่ .................
แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ผลการประเมนิ รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดิ์ราษฎรบ์ ำรงุ ) ปกี ารศกึ ษา 2562 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในช่องคะแนน และสรปุ ผลการประเมนิ คุณภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เลขที่ ชื่อ-สกลุ การป ิฏสัม ัพนธ์กัน การสนทนาเ ื่รอง ี่ทกำหนด การ ิตด ่ตอ ื่สอสาร พฤติกรรมการทำงานก ุ่ลม รวม ระ ัดบ ุคณภาพ แปลผล 4 4 4 4 16 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ได้คะแนน 14-16 คะแนน = 4 (ดีมาก) ลงชือ่ .........................................ผปู้ ระเมนิ ได้คะแนน 11-13 คะแนน =3 (ดี) (นางสาวจิระพันธ์ุ ปากวิเศษ) ไดค้ ะแนน 8-10 คะแนน =2 (พอใช้) วนั ....เดอื น...............ปี....... ไดค้ ะแนน 0-7 คะแนน =1 (ปรบั ปรุง) * เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ ต้องได้ 2 (พอใช)้ ขนึ้ ไป
แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมการทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรียนวัดพืชนมิ ิต (คำสวัสดิ์ราษฎรบ์ ำรงุ ) ปีการศกึ ษา 2562 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในช่องคะแนน และสรุปผลการประเมินคุณภาพ ผลการประเมนิ เลขท่ี ชอื่ -สกลุ คะแนน ระดับ ุคณภาพ แปลผล 16 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ได้คะแนน 14-16 คะแนน = 4 (ดมี าก) ลงชอ่ื .........................................ผปู้ ระเมิน ไดค้ ะแนน 11-13 คะแนน = 3 (ดี) (นางสาวจิระพันธ์ุ ปากวเิ ศษ) ไดค้ ะแนน 8-10 คะแนน = 2 (พอใช้) วัน....เดอื น...............ปี....... ได้คะแนน 0-7 คะแนน = 1 (ปรบั ปรุง) * เกณฑผ์ า่ นการประเมินต้องได้ 2 (พอใช)้ ข้นึ ไป
แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมการทำแบบทดสอบ รายวิชาคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรียนวดั พืชนมิ ติ (คำสวัสดริ์ าษฎร์บำรงุ ) ปกี ารศกึ ษา 2562 คำชี้แจง : กรอกคะแนนลงในชอ่ งคะแนนทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน และประเมนิ ผล ผลการประเมนิ เลขที่ ชอ่ื -สกลุ คะแนนกอ่ นเรยี น(10) คะแนนหลังเรยี น(10) ้รอยละ ่ผาน/ไม่ ่ผาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 * ( ผู้เรยี นตอ้ งมคี ะแนนสอบหลงั เรยี นผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๖๐ ) ลงช่อื .........................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจิระพนั ธ์ุ ปากวิเศษ) วัน....เดอื น...............ป.ี ......
บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้ สรปุ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 1.นักเรยี นจำนวน..................คน ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................. ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรียนร.ู้ .................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. 2. แนวทางแก้ไขนกั เรยี นทไี่ ม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ............................... .......................................................................................................................................... .................. 3.คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ไม่ผา่ น............ คน ผา่ น.............คน ด.ี .................คน ดีเยี่ยม................คน ระดบั ดขี ึน้ ไป ร้อยละ..................... 4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน ไม่ผา่ น............ คน ผ่าน.............คน ดี..................คน ดเี ยย่ี ม................คน ระดับดขี น้ึ ไป ร้อยละ..................... ผลการจดั การเรียนการสอน/ปญั หา/ อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข • แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................ ........................................ • แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2 เรือ่ ง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ......................................................................................................... ...................................................................... ........................................................................................................................................................ ........................ • แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื ง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ................................................................................................................. .............................................................. ................................................................................................................................................................ ................ • แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 เร่ือง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ......................................................................................................................... ...................................................... ................................................................................................................................................ ................................ • แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 เรื่อง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. ................................................... • แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 เร่ือง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. ...................................................
ผลการจดั การเรียนการสอน/ปัญหา/ อุปสรรค และแนวทางแก้ไข • แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 เร่อื ง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. .......................................................................................... ..................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................... ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวจิระพนั ธ์ุ ปากวเิ ศษ) ความคิดเห็นหวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรู/้ ผู้ที่ไดร้ ับมอบหมาย ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง ............................................................................................................................. .................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอ่ื …………………………………………………… (นางสาวแพรวรงุ่ ศรปี ระภา ) หวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ .................../......................./......................... ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รบั รอง ............................................................................................................................. .................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................... ........................................................................................................................................................ ......................................... ................................................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื …………………………………………………… (นางสาวกันยาภทั ร ภทั รโสตถ)ิ โรงเรยี นวดั พชื นมิ ติ (คำสวัสด์ริ าษฎรบ์ ำรุง) ................../......................./.........................
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 7 เศษส่วน เวลา 16 ชว่ั โมง เรือ่ ง การอ่านและเขียนเศษสว่ น เวลา 2 ชว่ั โมง 1. สาระสำคญั เศษสว่ น เปน็ การเขยี นแสดงจำนวน โดยใช้ − เปน็ เส้นคนั่ ระหว่างจำนวนสองจำนวน จำนวนที่อยู่บนเสน้ คนั่ เรยี กวา่ ตัวเศษ จำนวนที่อยใู่ ต้เสน้ คั่น เรยี กวา่ ตวั สว่ น การอา่ นเศษส่วนใหเ้ ริ่มอ่านจากตัวเลขเศษก่อน โดยมคี ำ วา่ เศษ นำหน้าแลว้ ตามด้วยตัวเลขทเ่ี ปน็ ตวั เศษ จากนั้นอา่ นตวั ส่วนต่อ โดยมคี ำวา่ ส่วน นำหน้า แลว้ ตามด้วยตัว เลขทเี่ ปน็ ตวั สว่ น 2. ตัวช้ีวัด ค 1.1 ป.3/3 : บอก อ่าน และเขียนเศษส่วนแสดงปรมิ าณส่งิ ตา่ งๆ และแสดงสิ่งต่างๆ ตามเศษสว่ นท่ี กำหนด 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกเศษส่วนทตี่ ัวเศษน้อยกวา่ หรอื เท่ากบั ตวั ส่วนได้ (K) 2. เขยี นเศษส่วนทต่ี วั เศษน้อยกวา่ หรือเท่ากับตวั ส่วนได้ (P) 4. สาระการเรยี นรู้ 1. การอ่านและเขยี นเศษสว่ นท่ตี วั เศษน้อยกว่าตัวสว่ น 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มุ่งม่นั ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงท่ี 1 ขั้นตอนท่ี 1 : เตรยี มความพรอ้ ม 1. ครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจากนั้นให้ นักเรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ ขนั้ ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ครสู นทนากับนกั เรยี นถึงสิ่งของทเี่ ต็มหนว่ ยและส่ิงของที่ไมเ่ ต็มหนว่ ย จากนน้ั ยกตัวอย่างรปู ภาพ ส่งิ ของที่เตม็ หน่วยและไม่เต็มหนว่ ย โดยนำบัตรภาพ เช่น ผลไม้ ขนมเคก้ วงกลม ทั้งทเ่ี ป็นภาพเต็มหนว่ ยและไม่ เตม็ หน่วยตดิ บนกระดานดำเพ่อื ให้นกั เรียนตอบคำถามวา่ ภาพใดบา้ งท่ีเตม็ หนว่ ยและภาพใดบ้างท่ไี มเ่ ต็มหนว่ ย 3. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสนทนาถึงสิง่ ของท่ีเตม็ หน่วยวา่ สง่ิ ของที่เตม็ หน่วย เรยี กว่า จำนวนเต็ม เปน็
การแสดงส่งิ ของทีม่ ีจำนวนเตม็ หนว่ ยซ่งึ เราสามารถนับได้ และใชส้ ัญลกั ษณ์ 1, 2, 3, ... แทนจำนวนดังกล่าว พร้อมกับถามนกั เรียนวา่ สิง่ ของทไี่ ม่เต็มหนว่ ย เรยี กวา่ อะไร สามารถนับเป็นจำนวนเต็มได้หรือไม่ และใช้ สัญลักษณอ์ ะไรแทน 4. ครนู ำภาพขนมที่ถกู แบง่ ออกเป็น 2 ส่วนเทา่ ๆ กันมาตดิ บนกระดานดำ ดังรปู แทนการแบ่งขนมเค้กดว้ ยรูปส่เี หลย่ี มดา้ นลา่ ง และแทน สว่ นทีน่ กั เรยี นหน่ึงคนได้รบั ด้วยสีสม้ ใหน้ ักเรียนตอบคำถามดังนี้ - แบง่ ขนมเค้กให้เทา่ ๆ กนั ไดก้ ี่สว่ น (2 ส่วน) - นกั เรียน 2 คน จะได้รบั ขนมเคก้ คนละเท่าไร (คนละ 1 สว่ น) 5. ครแู นะนำวา่ สว่ นทีน่ ักเรยี นหน่ึงคนไดร้ บั เปน็ 1 ใน 2 ส่วนของขนมเคก้ ทัง้ หมด เขียนแทนด้วย 1 อา่ น 2 ว่า เศษหนง่ึ สว่ นสอง ตวั เลขตัวบน คือ 1 เรียกวา่ ตวั เศษ ซ่งึ แสดงจำนวนส่วนแบ่งทก่ี ลา่ วถงึ ตัวเลขตัวเลา่ งคือ 2 เรียกวา่ ตวั ส่วน ซง่ึ แสดงจำนวนส่วนแบง่ ทั้งหมดที่เทา่ ๆ กนั 6. ครูนำแถบกระดาษทีม่ สี ่วนแบ่ง 5 สว่ นเท่าๆ กัน โดยท่แี ถบกระดาษดังกล่าวระบายสี 1 ส่วน ตดิ บน กระดานดำใหน้ ักเรยี นพจิ ารณา ดงั รูป ให้นกั เรียนตอบคำถามดงั น้ี - แถบกระดาษแบง่ ออกเปน็ สว่ นท่เี ท่ากนั กีส่ ว่ น - ส่วนที่ระบายสมี ีกส่ี ่วน - เขยี นเศษส่วนแทนส่วนท่ีระบายสีไดอ้ ยา่ งไร 7. จากนนั้ ครนู ำรูปมาติดบนกระดาน แล้วอภปิ รายซกั ถามนกั เรียน ดังนี้ รูปท่ี 1 รปู ท่ี 2 รปู ที่ 3 0 รูปที่ 4 รูปที่ จำนวนสว่ นแบ่งที่เท่าๆ กัน จำนวนส่วนท่แี รเงา เศษสว่ นแสดงส่วนที่แรเงา 14 1 1 4 1 24 1 4 36 2 2 6 11 43 3 8. ครนู ำรูปสิ่งของหน่งึ กล่มุ ซึ่งมีจำนวนไม่เกนิ 20 และแบ่งสงิ่ ของออกเปน็ หลายสว่ นเทา่ ๆ กนั แรเงา
บางส่วนของรปู ติดไว้บนกระดาน เช่น ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามดังน้ี - รปู น้ถี กู แบง่ ออกเปน็ ก่กี ลุ่ม (3 กลมุ่ ) - แตล่ ะกลุ่มมีจำนวนเท่ากนั หรอื ไม่ (เท่ากัน) - กลุ่มทแี่ รเงามีก่ีสว่ น (1 สว่ น) - กลมุ่ ทแ่ี รเงาเปน็ เศษส่วนเทา่ ไรของรูป (เศษหนึง่ ส่วนสาม) 9. ครูให้นักเรยี นหาเศษส่วนจากส่ิงของซงึ่ มีหลายชนดิ อยใู่ นกลมุ่ เดยี วกัน ให้นักเรยี นตอบคำถามต่อไปนี้ - จำนวนรปู เป็นจำนวนเศษสว่ นเทา่ ไรของจำนวนรปู เรขาคณิตทง้ั หมด (3) - จำนวนรูป 7 - จำนวนรูป ข้ันตอนที่ 3 : การฝึก เป็นจำนวนเศษส่วนเทา่ ไรของจำนวนรูปเรขาคณติ ทง้ั หมด (2) 7 เป็นจำนวนเศษสว่ นเท่าไรของจำนวนรูปเรขาคณติ ท้ังหมด (2) 7 10. ครูให้นักเรียนอ่านและเขียนเศษส่วนที่ตัวเศษน้อยกว่าตัวส่วน เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกัน ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนั้นครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในหนงั สือเรยี น ขั้นตอนท่ี 4 : การสรปุ 11. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปส่งิ ทไ่ี ดเ้ รียนร้รู ่วมกัน ดงั นี้ - เศษสว่ น คอื จำนวนทใี่ ช้บอกปริมาณของส่ิงของหรือรปู ภาพท่ีถกู แบ่งออกมาเม่ือเทยี บกับสง่ิ ของ ทั้งหมดหรอื ภาพทงั้ หมด - สัญลักษณท์ ่เี ขียนแสดงเศษสว่ นประกอบด้วย ตัวเศษ แสดงจำนวนสว่ นแบ่งทกี่ ล่าวถึง ซงึ่ จะเขยี นไว้ ดา้ นบน ตัวส่วน แสดงจำนวนสว่ นแบง่ ทง้ั หมดทีแ่ บ่งออกเท่าๆ กนั ซ่ึงจะเขยี นไวด้ า้ นล่าง และมเี สน้ คั่นระหว่างตวั เศษและตวั สว่ น ข้นั ตอนท่ี 5 : การประยกุ ตใ์ ชท้ นั ที 12. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. ช่วั โมงที่ 2 ขั้นตอนท่ี 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครใู หน้ กั เรยี นทอ่ งสตู รคณู โดยใช้แกว้ และตาราง ๙ ช่องประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลังจากน้ันให้ นักเรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขั้นตอนท่ี 2 : เรียนรู้
2. ครูทบทวนการอ่านเศษส่วน โดยติดแถบแสดงเศษสว่ นบนกระดาน เชน่ 3. ให้นักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายสว่ นทแี่ รเงาแสดงเศษส่วนใด และตรวจสอบความถูกตอ้ งโดยครูอธบิ าย แนะนำและตรวจสอบความถูกต้องอกี ครัง้ 4. ครตู ดิ แถบกระดาษที่แรเงาเต็ม 1 แถบ บนกระดานใชก้ ารถามตอบจนนักเรียนบอกได้ วา่ ส่วนที่แรเงาแสดง 1 5. ครูติดแถบกระดาษรปู สี่เหล่ยี มท่มี ขี นาดเทา่ เดิมอีก 4 แบบ (ดังรูปขา้ งลา่ ง) และแบ่งแถบกระดาษแถบ ทห่ี นึ่งเปน็ 2 ส่วนเท่าๆ กนั แถบทสี่ องเปน็ 3 สว่ นเท่าๆ กนั แถบที่สามเป็น 4 ส่วนเทา่ ๆ กัน และแถบทสี่ ี่เปน็ 5 สว่ นเทา่ ๆ กนั ดังน้ี แถบที่ 1 แถบที่ 2 แถบที่ 3 แถบท่ี 4 6. ครูแรเงาแถบกระดาษแถบท่ี 1 ทลี ะสว่ น พรอ้ มทัง้ ให้นักเรยี นบอกเศษสว่ นทแ่ี ทนสว่ นทแี่ รเงา (1 , 2) 22 ทำนองเดียวกัน สำหรับแถบที่ 2 (1 , 2 , 3) แถบที่ 3 (1 , 2 , 3 , 4) และแถบท่ี 4 (1 , 2 , 3 , 4 , 5) เม่ือแรเงา 333 4444 55555 ครบทุกแถบจะไดด้ ังนี้ 1 2 2 3 3 4 4 5 5
จากนนั้ ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาแถบกระดาษท้ังหมดใช้การถามตอบ ดังน้ี - กระดาษแต่ละแถบมขี นาดเท่ากันหรอื ไม่ (เท่ากนั ) - ส่วนที่แรเงาทั้งหมดในกระดาษแตล่ ะแถบเทา่ กนั หรือไม่ (เทา่ กัน) - เนอ่ื งจากส่วนที่ที่แรเงาในกระดาษแต่ละแถบเท่ากนั ดังน้นั จะไดจ้ ำนวนอะไรทเ่ี ท่ากันบ้าง (1 , 2 , 3 , 4 , 5) 2345 7. ครเู ขยี นผลสรปุ ทไี่ ดบ้ นกระดาน ดังน้ี 2 = 3 = 4 = 5 = 1 2345 8. ครูถามนักเรียนเพ่ิมเติม ดังน้ี - นักเรียนคดิ วา่ ถา้ แบง่ กระดาษออกเป็น 6 ส่วนเทา่ ๆ กัน จะได้เศษส่วนใดเท่ากับ 1 (6) 6 - ถา้ แบง่ กระดาษออกเปน็ 7 8 และ 9 ส่วนเทา่ ๆ กัน จะได้เศษสว่ นใดเท่ากับ 1 บ้าง (7 , 8 , 9) 789 - นกั เรียนคดิ วา่ ยังมีเศษสว่ นท่ีเทา่ กับ 1 อีกหรอื ไม่ (มีอีก) - ใหน้ กั เรียนยกตัวอย่างเศษสว่ นทเ่ี ทา่ กบั 1 อีกหลายๆ ตัวอย่างโดยครตู รวจสอบความถกู ต้อง 9. ครใู หน้ กั เรยี นสงั เกตแถบกระดาษที่ตดิ บนกระดานและตัวอย่างเศษส่วนที่เทา่ กบั 1 ท่ีนักเรยี น ยกตัวอย่างมา ครใู ช้การถามตอบจนนกั เรียนร่วมกนั สรปุ ได้วา่ เศษสว่ นทตี่ ัวเศษและตวั สว่ นเป็นจำนวนนับที่ เทา่ กนั เป็นเศษส่วนทเ่ี ท่ากับ 1 ข้ันตอนที่ 3 : การฝกึ 10. ครูให้นักเรียนอ่านและเขียนเศษส่วนที่ตัวเศษเท่ากับตัวส่วน เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกัน ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนั้นครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในหนังสอื เรยี น ขัน้ ตอนท่ี 4 : การสรุป 11. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปสง่ิ ทไี่ ด้เรียนร้รู ว่ มกนั ดังน้ี เศษส่วนท่ีตวั เศษและตัวส่วนเป็นจำนวนนับท่ี เท่ากันเป็นเศษส่วนทเ่ี ทา่ กับ 1 ข้นั ตอนที่ 5 : การประยกุ ตใ์ ชท้ นั ที 12. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. 8. การวดั ผลและประเมินผล การวดั ผล 1. สังเกตความมีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มั่นในการทำงาน 2. แบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. 3. สงั เกตการทำงาน 4. แบบทดสอบก่อนเรยี น การประเมินผล 1. ถือเกณฑผ์ ่านจากการสังเกตพฤตกิ รรมสำหรบั ผู้ที่ได้ระดบั คุณภาพต้งั แต่ 2 ขึ้นไป 2. ถือเกณฑ์ผา่ นสำหรับผู้ที่ทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ได้ระดบั คุณภาพต้ังแต่ 2 ขน้ึ ไป 3. ถอื เกณฑ์ผา่ นสำหรบั ผทู้ ี่ทำงานได้ระดับคณุ ภาพตง้ั แต่ 2 ขึ้นไป 4. ถอื เกณฑผ์ า่ นสำหรับผู้ที่ทำงานทำแบบทดสอบก่อนเรียนไดร้ ้อยละ 60 ขึน้ ไป
9. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. บตั รภาพสิง่ ของท่เี ตม็ หนว่ ยและไม่เตม็ หนว่ ย 2. ภาพขนมเคก้ ท่ีถกู แบ่งออกเปน็ 2 สว่ นเทา่ ๆ กัน 3. แถบกระดาษเศษสว่ น 4. แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. และแบบทดสอบก่อนเรยี น
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 เวลา 7 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี เศษส่วน เวลา 2 ช่ัวโมง เร่ืองการเปรียบเทียบและเรียงลำดบั เศษส่วนทีม่ ตี ัวส่วนเทา่ กัน 1. สาระสำคญั การเปรียบเทยี บเศษส่วนที่มีตวั สว่ นเทา่ กัน ใช้วิธีนำตัวเศษมาเปรยี บเทียบกนั เศษสว่ นทม่ี ีตัวเศษ มากกว่าจะมคี า่ มากกว่าเศษส่วนท่ีมีตัวเศษน้อยกว่า 2. ตัวชว้ี ดั ค 1.1 ป.3/4 : เปรียบเทยี บเศษส่วนที่ตัวเศษเทา่ กนั โดยทีต่ วั เศษนอ้ ยกว่าหรือเทา่ กับตวั ส่วน 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกหลกั การเปรยี บเทียบและเรยี งลำดบั เศษส่วนทีต่ วั ส่วนเทา่ กนั (K) 2. เขยี นขน้ั ตอนแสดงการเปรยี บเทยี บและเรียงลำดับเศษส่วนทตี่ ัวส่วนเทา่ กนั ได้ (P) 4. สาระการเรียนรู้ การเปรียบเทียบและเรยี งลำดับเศษสว่ นทมี่ ีตวั ส่วนเท่ากัน 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ขัน้ ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครใู หน้ กั เรียนท่องสตู รคณู โดยใชแ้ ก้วและตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคูณ หลังจากนนั้ ให้ นักเรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ และทดสอบกอ่ นเรยี น ข้ันตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. นกั เรยี นทบทวนความรูโ้ ดยสังเกตและตอบคำถามบตั รภาพแสดงเศษสว่ นทตี่ ิดบนกระดานแลว้ ตอบ คำถาม ดงั นี้ ก. ข. ค. ง. ภาพท่ี 1 ภาพท่ี 2 - ภาพที่ 1 แบง่ เป็นกี่ส่วน (4 ส่วน) - แต่ละส่วนเทา่ กนั หรือไม่ (เท่ากนั )
- ส่วนทรี่ ะบายสีในรูป ก และรูป ข มีก่ีส่วน (รูป ก 1 ส่วน รูป ข 2 สว่ น) - ส่วนทร่ี ะบายสใี นรปู ก และรูป ข เขยี นเปน็ เศษส่วนได้อยา่ งไร (รปู ก 1 รูป ข 2) 44 ผูแ้ ทนนกั เรยี นออกมาเขียนเศษสว่ นแสดงสว่ นที่ระบายสีใตร้ ปู ก และรปู ข พร้อมทง้ั เขียนเปน็ คำอ่าน นกั เรียนทเ่ี หลอื ชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากน้นั พจิ ารณาภาพที่ 2 และตอบคำถามดังน้ี - ภาพท่ี 2 แบง่ เป็นกส่ี ว่ น แต่ละสว่ นเท่ากันหรอื ไม่ (6 สว่ นเทา่ ๆ กนั ) - ส่วนที่ระบายสีในรปู ค และรูป ง มีกส่ี ว่ น (รปู ค 3 สว่ น รูป ง 1 สว่ น) - ส่วนที่ระบายสใี นรปู ค และรูป ง เขียนเป็นเศษสว่ นได้อย่างไร (รปู ค 3 รูป ง 1) 66 ผแู้ ทนนกั เรยี นออกมาเขยี นเศษส่วนแสดงสว่ นทร่ี ะบายสีใตร้ ปู ค และรปู ง พรอ้ มทง้ั เขียนเป็นคำอ่าน นกั เรยี นที่เหลือชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง นักเรยี นพิจารณาบตั รแสดงเศษสว่ นบนกระดาน ดงั นี้ ก. ข. ค. ง. ภาพที่ 1 ภาพท่ี 2 นักเรียนพจิ ารณาและเปรียบเทยี บส่วนที่ไม่ไดร้ ะบายสใี นภาพท่ี 1 และภาพท่ี 2 ท่ใี ชใ้ นกิจกรรมขอ้ 1. แล้วตอบคำถามดงั น้ี - ภาพที่ 1 ส่วนที่ไมไ่ ดร้ ะบายสใี นรปู ก และรปู ข มีก่สี ่วนใน 4 สว่ น (รปู ก 3 ส่วน รูป ข 2 ส่วน) - ส่วนท่ีไม่ไดร้ ะบายสใี นรปู ก และรปู ข เขียนเป็นเศษส่วนไดอ้ ย่างไร (รูป ก 3 รูป ข 2) 44 - เศษส่วนจำนวนใดมคี ่าน้อยกว่ากนั (2) 4 - เพราะเหตใุ ดจึงมคี ่านอ้ ยกวา่ (เพราะมเี น้ือท่ีไมไ่ ด้ระบายสเี หลือน้อยกว่า) - การเปรียบเทยี บเศษส่วนที่มตี วั สว่ นเท่ากนั ต้องพิจารณาอะไร (พจิ ารณาท่ีตวั เศษ ถ้าตวั เศษมีคา่ น้อย เศษสว่ นนั้นจะมคี ่าน้อย) จากนนั้ ผูแ้ ทนนกั เรยี น (ไมใ่ ห้ซำ้ คนเดิม) ออกมาเขียนเศษส่วนแสดงส่วนท่ีไม่ได้ระบายสี พรอ้ มทั้งเขียน เครื่องหมาย >, < แสดงการเปรยี บเทียบระหวา่ งเศษส่วนทัง้ 2 จำนวนดงั นี้ 2 < 3 หรือ 3 > 2 44 44 - ภาพท่ี 2 ส่วนท่ีไม่ไดร้ ะบายสีในรูป ค และรูป ง มกี ส่ี ว่ นใน 6 สว่ น (รูป ค 3 สว่ น รูป ง 5 สว่ น) - ส่วนที่ไมไ่ ดร้ ะบายสใี นรปู ค และรูป ง เขยี นเป็นเศษส่วนไดอ้ ย่างไร (รปู ค 3 รูป ง 5) 66 - เศษสว่ นใดมีคา่ มากกว่ากนั (5) 6 - เพราะเหตใุ ดจึงมีคา่ มากกว่า (เพราะมเี น้ือที่ไมไ่ ด้ระบายสีเหลือมากกว่า) - การเปรียบเทียบเศษสว่ นที่มีตัวสว่ นเท่ากนั ต้องพิจารณาอย่างไร (พิจารณาที่ตวั เศษ เศษสว่ นท่ีมีตวั เศษมากจะมคี า่ มาก) จากนน้ั ผแู้ ทนนกั เรยี นออกมาเขียนเศษส่วนแสดงสว่ นทีไ่ ม่ได้ระบายสี พร้อมท้งั เขียนเคร่อื งหมาย >, < แสดงการเปรยี บเทียบส่วนทีไ่ ม่ได้ระบายสี ระหว่างเศษสว่ นทั้ง 2 จำนวน ดงั นี้ 5 > 3 หรอื 3 < 5 66 66 3. นักเรียนและครูรว่ มกนั อภปิ รายถงึ การเปรียบเทียบเศษส่วนที่มสี ว่ นเท่ากันว่า สามารถทำไดโ้ ดยนำตวั
เศษมาเปรยี บเทียบกัน ถา้ ตัวเศษของจำนวนใดมีคา่ มากกวา่ จำนวนน้นั จะมีค่ามากกวา่ 4. ครยู กตวั อย่างเศษส่วนทม่ี ีตวั ส่วนเทา่ กันเพิ่มเติมอีก จนนักเรียนตอบได้คล่อง เช่น 36 99 53 77 ขน้ั ตอนท่ี 3 : การฝกึ 5. ครใู ห้นักเรียนเปรียบเทียบเศษสว่ นทีม่ ีตวั สว่ นเท่ากนั เมือ่ เสร็จแล้วใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันตรวจสอบ ความถกู ตอ้ ง จากนน้ั ครูและนกั เรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในหนงั สอื เรยี น ขั้นตอนที่ 4 : การสรปุ 6. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปสิ่งทไ่ี ดเ้ รยี นรรู้ ว่ มกัน ดังน้ี การเปรียบเทยี บเศษส่วนทมี่ ตี ัวส่วนเทา่ กัน ใช้ วธิ นี ำตัวเศษมาเปรยี บเทียบกัน เศษสว่ นท่มี ีตัวเศษมากกว่าจะมคี า่ มากกวา่ เศษส่วนทม่ี ีตัวเศษนอ้ ยกวา่ ขนั้ ตอนที่ 5 : การประยุกต์ใชท้ นั ที 7. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ช่วั โมงท่ี 2 ข้นั ตอนที่ 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูให้นกั เรียนทอ่ งสูตรคณู โดยใชแ้ กว้ และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคณู หลังจากน้ันให้ นักเรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ และทดสอบก่อนเรยี น ขั้นตอนที่ 2 : เรยี นรู้ 2. ครทู บทวนเรื่องการเปรียบเทียบเศษสว่ นที่ตวั ส่วนเท่ากัน โดยนำบตั รภาพแสดงเศษส่วน มาใหน้ ักเรียนดทู ี ละคู่ แล้วให้นักเรยี นร่วมกันเปรียบเทียบวา่ รูปภาพใดแสดงเศษส่วนท่ีมากกว่าหรือน้อยกว่ากัน (2 - 3 ตวั อย่าง) 3. ครูเขยี นตัวเลขบนกระดานทลี ะคู่ แล้วให้นกั เรียนรว่ มกันเปรียบเทยี บวา่ จำนวนใดมคี ่ามากกว่าหรือน้อย กว่ากนั โดยใช้เครอื่ งหมาย ดังนี้ 5 กบั 2 , 2 กับ 6 , 5 กบั 4 , 3 กับ 1 6 67 75 58 8 4. ครทู บทวนเรอ่ื งการเปรียบเทยี บเศษสว่ นท่ตี วั ส่วนเทา่ กนั วา่ “เศษส่วนทม่ี ตี ัวสว่ นเทา่ กัน ให้พจิ ารณาที่ ตวั สว่ น เศษสว่ นท่มี ีตวั เศษมากกว่าจะมีคา่ มากกวา่ เศษสว่ นท่มี ีตัวเศษนอ้ ยกวา่ ” 5. ครนู ำบตั รตวั เลข 5 , 3 , 7 , 4 , 1 ขึ้นมา โดยครตู ้งั คำถามกระต้นุ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันคดิ ในประเดน็ 99999 ดังนี้ - นักเรยี นสามารถเรยี งลำดับบัตรตัวเลขในลกั ษณะใดได้บ้าง (เรยี งจากน้อยไปหามาก หรือจากมากไปหาน้อย) - จำนวนท่ีน้อยทสี่ ดุ คือจำนวนใด (1) 9 - จำนวนทมี่ ากท่สี ดุ คือจำนวนใด (7) 9 - เรียงลำดับจากนอ้ ยไปมากได้อย่างไร (1 , 3 , 4 , 5 , 7) 99999 - เรียงลำดับจากนอ้ ยไปมากไดอ้ ย่างไร (7 , 5 , 4 , 3 , 1) 99999 6. ครยู กตวั อย่างการเรียงลำดบั เศษส่วนทตี่ ัวส่วนเท่ากนั เพิม่ เติมอีก 2 – 3 ตวั อย่าง จนนักเรียนตอบได้ คล่อง
ขั้นตอนท่ี 3 : การฝกึ 7. ครูใหน้ กั เรยี นเรียงลำดบั เศษส่วนทม่ี ตี ัวสว่ นเท่ากนั เมอ่ื เสรจ็ แล้วให้นกั เรยี นช่วยกันตรวจสอบความถูก ต้อง จากนนั้ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในหนังสือ ขน้ั ตอนท่ี 4 : การสรปุ 8. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปสง่ิ ท่ไี ด้เรียนรู้ร่วมกนั ดังน้ี การเรียงลำดับเศษสว่ นทม่ี ตี ัวสว่ นเท่ากัน ใช้วธิ ี นำตัวเศษมาเปรียบเทยี บกัน เศษสว่ นท่ีมตี วั เศษมากกวา่ จะมีค่ามากกวา่ เศษสว่ นที่มตี วั เศษน้อยกวา่ จากน้นั นำมา เรยี งลำดับจากมากไปหานอ้ ย หรอื จากน้อยไปหามาก ข้ันตอนท่ี 5 : การประยุกต์ใช้ทนั ที 9. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. 8. การวดั และประเมนิ ผล การวดั ผล 1. สังเกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ ม่นั ในการทำงาน 2. แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. 3. สังเกตการทำงาน การประเมนิ ผล 1. ถือเกณฑผ์ า่ นจากการสังเกตพฤติกรรมสำหรับผทู้ ี่ได้ระดับคุณภาพตั้งแต่ ๒ ขึน้ ไป 2. ถอื เกณฑผ์ า่ นสำหรับผู้ทีท่ ำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. ได้ระดับคณุ ภาพตั้งแต่ ๒ ข้นึ ไป 3. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรับผู้ท่ที ำงานไดร้ ะดบั คุณภาพตง้ั แต่ ๒ ขน้ึ ไป 9. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ 1. แบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 2. บตั รภาพแสดงเศษสว่ น 3. บัตรตัวเลข
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 กลุม่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลา 16 ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 เศษสว่ น เวลา 2 ชั่วโมง เร่ืองการเปรียบเทียบและเรียงลำดับเศษส่วนทีม่ ีตัวเศษเท่ากนั 1. สาระสำคัญ การเปรียบเทยี บเศษส่วนทีม่ ีตัวเศษเท่ากัน จะพิจารณาทีต่ ัวส่วน เศษสว่ นท่มี ตี ัวสว่ นนอ้ ยกว่าจะมีคา่ มากกวา่ เศษสว่ นท่ีมตี ัวสว่ นมากกว่า 2. ตัวชี้วดั ค 1.1 ป.3/4 : เปรยี บเทียบเศษสว่ นทตี่ ัวเศษเท่ากนั โดยทีต่ วั เศษน้อยกว่าหรือเทา่ กบั ตัวส่วน 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกหลกั การเปรยี บเทียบและเรียงลำดับเศษส่วนที่ตัวเศษเทา่ กัน (K) 2. เขยี นข้นั ตอนแสดงการเปรียบเทียบและเรียงลำดบั เศษสว่ นทตี่ ัวเศษเท่ากันได้ (P) 4. สาระการเรยี นรู้ การเปรยี บเทียบและเรยี งลำดับเศษส่วนท่มี ีตวั เศษเทา่ กัน 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ขน้ั ตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครใู หน้ ักเรียนท่องสตู รคูณโดยใช้แกว้ และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลงั จากนน้ั ให้ นกั เรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ และทดสอบก่อนเรยี น ขั้นตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ครทู บทวนเรอ่ื งการเปรียบเทยี บเศษส่วนโดยการติดแผนภาพบนกระดาน และให้นักเรียนร่วมกนั บอก เศษสว่ นแสดงจำนวนทีแ่ รเงา ดงั น้ี 1 7 5 7 3. ครูใชก้ ารถามตอบเพ่ือเปรียบเทยี บ 1 กับ 5 โดยให้นกั เรียนสงั เกตจากแถบแสดงเศษสว่ นจนนกั เรยี น 77 รว่ มกันให้เหตผุ ลได้ว่า 1 นอ้ ยกว่า 5 เพราะส่วนทีแ่ รเงาแสดง 1 นอ้ ยกวา่ 5 77 77
หรือ 5 มากกว่า 1 เพราะส่วนท่แี รเงาแสดง 5 มากกวา่ 1 77 77 แล้วให้นักเรยี นออกมาเขยี นแสดงการเปรยี บเทยี บได้ ดังน้ี 1 > 5 หรือ 5 < 1 77 77 4. ครยู กตัวอยา่ งการเปรยี บเทยี บเศษสว่ นอีก 2 ตัวอยา่ ง จากแถบแสดงเศษสว่ นและให้นกั เรยี นร่วมกัน ให้เหตผุ ลเพือ่ แสดงการเปรียบเทยี บ เชน่ 3 5 3 7 5. ครใู ช้การถามตอบเพื่อเปรยี บเทียบ 3 กบั 3 โดยให้นกั เรยี นสังเกตจากแถบแสดงเศษส่วนจนนกั เรยี น 57 รว่ มกนั ใหเ้ หตผุ ลไดว้ ่า 3 มากกว่า 3 เพราะส่วนท่ีแรเงาแสดง 3 มากกว่า 3 57 57 หรอื 3 นอ้ ยกว่า 3 เพราะสว่ นท่ีแรเงาแสดง 3 น้อยกวา่ 3 75 75 แลว้ ใหน้ กั เรียนออกมาเขียนแสดงการเปรยี บเทยี บได้ ดงั น้ี 3 > 3 หรอื 3 < 3 57 75 6. ครใู หน้ กั เรยี นสังเกตผลจากการเปรียบเทียบเศษสว่ นและร่วมกนั สรปุ ว่า - เศษสว่ นสองจำนวนเมอ่ื นำมาเปรียบเทียบกนั จะเท่ากัน มากกวา่ กนั หรอื นอ้ ยกวา่ กนั อย่างใดอยา่ ง หนงึ่ - การเปรยี บเทียบเศษสว่ นทม่ี ีตวั เศษเทา่ กนั ใหพ้ ิจารณาที่ตัวส่วน เศษส่วนทม่ี ตี ัวส่วนนอ้ ยกวา่ จะมีคา่ มากกวา่ เศษสว่ นทีม่ ตี ัวส่วนมากกวา่ 7. ครูยกตวั อยา่ งเศษสว่ นท่ีมีตัวเศษเท่ากนั เพิม่ เตมิ อกี จนนกั เรียนตอบได้คล่อง เช่น 33 95 55 79 ข้ันตอนท่ี 3 : การฝึก 8. ครูใหน้ กั เรยี นเปรียบเทียบเศษส่วนท่มี ตี วั เศษเท่ากัน เมอ่ื เสร็จแลว้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบ ความถูกต้อง จากนั้นครแู ละนักเรยี นร่วมกันเฉลยกิจกรรมในหนังสือเรยี น ขั้นตอนท่ี 4 : การสรุป 9. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ สงิ่ ท่ไี ด้เรียนรูร้ ว่ มกนั ดังน้ี การเปรียบเทียบเศษส่วนทีม่ ตี วั ส่วนเทา่ กัน ใช้ วธิ ีนำตวั เศษมาเปรียบเทยี บกัน เศษสว่ นทีม่ ตี วั สว่ นนอ้ ยกว่าจะมีค่ามากกว่าเศษสว่ นท่มี ีตวั สว่ นมากกวา่ เศษส่วนท่ี มตี วั เศษมากกว่าจะมีค่ามากกว่าเศษสว่ นท่มี ตี ัวเศษน้อยกวา่ ขนั้ ตอนท่ี 5 : การประยกุ ตใ์ ช้ทนั ที 10. ครูให้นักเรียนทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ชั่วโมงที่ 2 ขน้ั ตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครูใหน้ กั เรียนท่องสตู รคณู โดยใชแ้ ก้วและตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคณู หลงั จากนั้นให้ นักเรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ และทดสอบก่อนเรียน
Search