แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 วิชาบูรณาการสงั คมศึกษา เวลา 6 ชว่ั โมง หน่วยที่ 2 เรื่อง สิ่งประดิษฐ์สรา้ งสรรค์ เวลา 1 ชว่ั โมง เร่อื ง รู้จกั ใช้ทรัพยากรอย่างรคู้ ณุ ค่า มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมท้ังเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการดารงชีวิตอย่างมี ดุลยภาพ ตัวชว้ี ดั ป.3/3 อธบิ ายได้วา่ ทรัพยากรที่มีอยู่จากดั มผี ลต่อการผลิตและบรโิ ภคสินค้าและบริการ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายปัญหาพ้ืนฐานท่เี กิดจากปัญหาการขาดแคลนทรัพยากร (K) 2. จาแนกการใช้ทรพั ยากรอย่างรู้คณุ ค่า (P) 3. ตระหนกั ถงึ การใช้ทรัพยากรทม่ี ีอย่อู ย่างจากดั ให้เกดิ ประโยชน์และคุม้ ค่า (A) สาระสาคญั ทรัพยากรมปี รมิ าณจากดั การผลติ หรือใช้ทรพั ยากรอย่างไมจ่ ากัด ทาใหเ้ กิดปัญหาการขาดแคลน ทรพั ยากร ส่งผลกระทบและเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ สาระการเรยี นรู้ ปญั หาพนื้ ฐานทางเศรษฐกจิ กับความต้องการทรัพยากรทีไ่ ม่จากัดของมนุษย์ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ อยอู่ ยา่ งพอเพียง สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการแก้ปญั หา การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูนาภาพทรัพยากร เช่น ตน้ ไม้ หิน ทราย นา้ มัน มาใหน้ ักเรียนดู จากนัน้ ครูใชค้ าถาม เพอ่ื ให้นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ ดังน้ี • ภาพที่นักเรียนเห็นเรยี กวา่ (ทรัพยากรธรรมชาติ) • มีความสาคญั อยา่ งไร (เปน็ ส่ิงท่มี ีอย่คู กู่ บั โลกท่เี ราอาศัย ทาให้โลกสวยงามเกิดความ สมดลุ ) • มนุษย์ใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรเหลา่ นอี้ ย่างไร (นามาผลิตแปรรปู ใช้ในการดารงชีวติ ท้งั ผลิตใชเ้ องและเปน็ สินค้าจาหน่าย) 2. ครูนาภาพมาจัดเรียงเป็นแผนภาพถึงกระบวนการการนาทรัพยากรมาใช้เพื่อตอบสนองความ ต้องการของมนุษย์ โดยครูและนักเรียนร่วมกันจาแนกการนาทรัพยากรแต่ละประเภทนามาใช้ประโยชน์เพ่ือ การดารงชีวิตของมนุษย์ ดังน้ี
ตวั อย่างแผนภาพ สร้างบา้ น ตน้ ไม้ ผลิต ทาเฟอร์นิเจอร์ ทากระดาษ ก่อสร้างถนน หิน ผลิต ก่อสร้างอาคารบา้ นเรือน ผลิตเป็ นปูนซีเมนต์ ก่อสร้างอาคารบา้ นเรือน ทราย ผลิต ก่อสร้างถนน ทาผลิตเป็นแกว้ กระจก ผลิตเป็ นเช้ือเพลิง น้ามนั ผลิต ใชผ้ ลิตกระแสไฟฟ้า ใชใ้ นโรงงานอุตสาหกรรม จากนัน้ ให้นกั เรยี นรว่ มกันศึกษาแผนภาพบนกระดาน โดยครใู ช้คาถามเพ่ือใหน้ ักเรียนรว่ มกนั แสดง ความคิดเหน็ ดงั นี้ • ทรพั ยากรท่มี ีอยู่ในปจั จุบนั มีปรมิ าณเพมิ่ ขน้ึ หรือลดลง (ลดลง) • เกิดจากสาเหตุใดบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ การนามาใชอ้ ยา่ งไม่จากดั ปริมาณการใช้ เพม่ิ มากข้ึน ตามการเพิม่ จานวนของมนษุ ย์ มนุษย์ไม่รู้จักคณุ คา่ ขาดการวางแผนการใชท้ รัพยากร) • การใชท้ รพั ยากรมากเกนิ ปริมาณส่งผลกระทบต่อโลกและมนุษยอ์ ย่างไร (ตวั อย่างคาตอบ เกิดปัญหาภาวะโลกรอ้ น ทรพั ยากรขาดแคลนทาใหเ้ กิดปัญหาทางดา้ นเศรษฐกิจ ตามมา เช่น ภาวะราคาสนิ ค้าสูงข้ึน) การนาทรพั ยาก•รนมกัาใเรชยี ใ้ นหจน้ ะอ้ ใยชล้ทงรัพนยาาขกอรองเยดา่ ิมงไทร่ีมใหีอเ้ยกมู่ ิดาปใรชะ้ใโหยเ้ ชกนดิ ส์ปูงรสะดุ โย(ชตนวั ส์อูงยสา่ ุดงค)าตอบ ใช้เท่าท่จี าเป็น ลด 3. ครูให้นักเรยี นร่วมกนั ระบุสาเหตุที่ทาให้เกดิ ปญั หาความขาดแคลนทรพั ยากรมาคนละ 1 ขอ้ ตาม ความคดิ เห็นของตนเอง 4. ใหน้ กั เรยี นและครรู ่วมกนั สรุปความรู้ ดังน้ี ทรพั ยากรมปี ริมาณจากัด การผลติ หรือใช้ทรัพยากรอยา่ งไม่จากดั สง่ ผลกระทบต่อ ปญั หาการขาดแคลนทรัพยากร ทาใหเ้ กดิ ปญั หาทางด้านเศรษฐกจิ มีผลกระทบต่อการดารงชวี ิตของมนุษย์ ควรผลิตและใช้ทรัพยากรอย่างมปี ระโยชนแ์ ละคุ้มคา่
5. ใหน้ ักเรียนทาใบงานบรู ณาการ เรื่อง รูจ้ กั ใช้ทรพั ยากรอย่างรคู้ ุณค่า การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (ครู ผู้ปกครอง นักเรียนประเมินรว่ มกัน) จดุ ประสงค์ วิธีประเมนิ เคร่ืองมือ เกณฑ์ 1. อธบิ ายปัญหาพ้ืนฐานทเี่ กิดจาก ตรวจใบงานบูรณาการ ใบงานบูรณาการ เร่ือง นกั เรยี นอธบิ าย ปญั หาการขาดแคลนทรัพยากร (K) ปญั หาพ้นื ฐานทเ่ี กิด เร่ือง รู้จักใช้ทรัพยากร รจู้ ักใช้ทรพั ยากรอยา่ งรู้ จากปญั หาการขาด แคลนทรัพยากร ผ่าน อยา่ งรู้คณุ ค่า คุณคา่ ใบงานรอ้ ยละ 60 ขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น 2. จาแนกการใช้ทรัพยากรอยา่ งรู้ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม เกณฑ์ คุณคา่ (P) นักเรยี นจาแนกการ 3. ตระหนักถงึ การใชท้ รพั ยากรท่มี ี แบบสังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม ใช้ทรพั ยากรอย่างรู้ อยู่อยา่ งจากัดให้เกิดประโยชน์และ คณุ ค่า ระดบั 3 ข้อ คมุ้ ค่า (A) ขึ้นไปถือว่าผ่าน เกณฑ์ นกั เรยี นมีพฤตกิ รรม ระดับดีขนึ้ ไป ถือว่า ผา่ นเกณฑ์ ส่อื การเรยี นรู้ 1. ภาพ ทรพั ยากร
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ วชิ าบูรณาการวิทยาศาสตร์ เวลา ๖ ช่ัวโมง หนว่ ยท่ี 2 เรื่อง ส่ิงประดิษฐ์สรา้ งสรรค์ เวลา 1 ช่ัวโมง เร่ือง 3R มาตรฐานการเรยี นรู้ ว ๒.๑ เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสรา้ งและแรงยึดเหน่ียวระหวา่ งอนภุ าค หลกั และธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การเกิด สารละลาย และการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี ตัวช้วี ดั ป.3/1 อธบิ ายว่าวตั ถปุ ระกอบข้นึ จากชนิ้ สว่ นย่อย ๆ ซึ่งสามารถแยกออกจากกันได้และประกอบกนั เป็นวัตถุช้นิ ใหม่ได้ โดยใชห้ ลักฐานเชิงประจักษ์ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายวัตถทุ ่ีประกอบข้นึ จากชิ้นส่วนยอ่ ย ๆ ได้ (K) ๒. สืบค้นวัตถุทีป่ ระกอบข้นึ จากชน้ิ ส่วนยอ่ ย ๆ ได้ (P) ๓. เลือกใช้วสั ดแุ ละสิ่งของต่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม (A) สาระสาคญั วตั ถุอาจทาจากชิ้นสว่ นย่อย ๆ ซง่ึ แต่ละช้ินมีลักษณะเหมือนกนั มาประกอบเขา้ ดว้ ยกนั เม่อื แยกชิน้ สว่ นย่อย ๆ แตล่ ะชิน้ ของวัตถุออกจากกนั สามารถนาชิ้นส่วนเหลา่ นั้นมาประกอบเปน็ วัตถุชนิ้ ใหม่ได้ เชน่ กาแพงบ้านมีกอ้ นอฐิ หลาย ๆ ก้อน ประกอบเขา้ ด้วยกัน และสามารถนาก้อนอิฐจากกาแพงบา้ นมาประกอบ เป็นพน้ื ทางเดินได้ เมื่อเรานาวัสดบุ างชนดิ มาใหค้ วามร้อนหรอื ทาใหเ้ ยน็ ลง จะทาใหว้ สั ดุเกิดการเปลยี่ นแปลง ได้ สาระการเรียนรู้ การประกอบวัตถุช้นิ ใหมจ่ ากชน้ิ ส่วนย่อย คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการคดิ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ ที่ 1 ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครูนารถของเล่นให้นักเรียนสังเกตว่า ประกอบจากวัสดุอะไรบ้าง เมื่อแยกชิ้นส่วนย่อยแต่ละช้ิน ออกจากวตั ถุ เราสามารถนาไปประกอบเป็นวัตถุช้นิ ใหมไ่ ดห้ รอื ไม่ นักเรียนจะไดเ้ รียนร้จู ากกจิ กรรมต่อไปน้ี ๒. ครูสนทนากบั นักเรียนว่า “งานประดษิ ฐท์ ่นี ักเรียนดจู ดั เปน็ งานประดิษฐ์ทเ่ี ปน็ การนาวสั ดทุ เ่ี หลอื ใช้
และหางา่ ยในท้องถนิ่ มาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ ซง่ึ จะเห็นวา่ สงิ่ ประดิษฐข์ า้ งตน้ สามารถจดั เปน็ ของเลน่ ของใช้ และของประดับตกแต่งบ้าน” ขั้นที่ 2 ขนั้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ 3. ครูตง้ั ประเดน็ คาถามกระตุ้นความสนใจนักเรยี นว่า “เราสามารถนาวัสดทุ ่ีใชแ้ ล้วกลบั มาใชใ้ หม่ได้ อยา่ งไรบ้าง” โดยใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคดิ เห็นเพอื่ หาคาตอบ ๔. ครนู าตัวอย่างชน้ิ งานประดษิ ฐ์แบบต่าง ๆ ทที่ าจากวัสดทุ ่หี ลากหลาย มาให้นักเรียนดู ตัวอย่าง ชิ้นงานประดษิ ฐ์ เชน่ งานประดิษฐจ์ ากกระดาษ งานประดิษฐจ์ ากเศษไม้ งานประดิษฐ์จากผ้า เป็นตน้ ข้ันที่ 3 ขนั้ สรุปการเรียนรู้ ๕. นกั เรยี นรว่ มกันสรุปผลเกีย่ วกับประโยชน์ของการนาวสั ดุหรือสิง่ ของทใี่ ชแ้ ลว้ กลบั มา ใช้ใหม่ การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ (ครู ผ้ปู กครอง นักเรียนประเมินร่วมกนั ) จุดประสงค์ วธิ ปี ระเมนิ เครอื่ งมือ เกณฑ์ 1. อธิบายวัตถทุ ี่ประกอบ ตรวจใบงานบูรณาการ ใบงานบูรณาการเรื่อง นักเรียนอธบิ ายวตั ถุท่ี ขนึ้ จากช้นิ ส่วนยอ่ ย ๆ ได้ (K) เรอ่ื ง Grow plant Grow plant ประกอบขนึ้ จากชน้ิ สว่ นย่อย ๆ ได้ ผา่ น ใบงานร้อยละ 60 ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ น เกณฑ์ 2. สืบค้นวัตถทุ ีป่ ระกอบขน้ึ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนสบื ค้นวตั ถุท่ี จากช้นิ สว่ นยอ่ ย ๆ ได้ (P) ประกอบข้ึนจากชิ้น ส่วนยอ่ ย ๆ ได้ ระดบั 3 ขอ้ ขึน้ ไปถือวา่ ผา่ น เกณฑ์ 3. เลือกใช้วัสดแุ ละส่งิ ของ แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นมีพฤตกิ รรม ตา่ ง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม (A) ระดบั ดขี น้ึ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ สอื่ การเรียนรู้ 1. วดี ิทัศน์ เรอื่ ง การนาวัสดเุ หลอื ใชก้ ลับมาใช้ใหม่
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 วชิ าบรู ณาการภาษาไทย และการงานอาชพี เวลา 6 ชัว่ โมง หน่วยท่ี 1 เร่ือง สง่ิ ประดิษฐ์สรา้ งสรรค์ เวลา 1 ชว่ั โมง เร่ือง อุปกรณ์น่ารู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ท 2.1 ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นส่อื สาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเร่ืองราวในรปู แบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเชอื่ มโยงความรู้กับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่ และเปน็ พื้นฐานใน การพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน ตัวชว้ี ดั ท 2.1 ป.1/1 อา่ นออกเสยี งคา ข้อความสั้น ๆ และบทร้อยกรองง่าย ๆ ได้ถูกต้องคล่องแคล่ว ท 2.1 ป.3/3 แต่งประโยคง่าย ๆ ง 1.1 ป.๓/๒ ใชว้ ัสดอุ ปุ กรณแ์ ละเคร่ืองมือตรงกบั ลกั ษณะงาน ต 3.1 ป. 3/1 บอกคาศัพท์ทีเ่ ก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ น่ื จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ประสมคาชอ่ื อุปกรณน์ ่ารู้ไดถ้ กู ต้อง (K) ๒. นักเรยี นบอกความหมายคาศัพท์เกี่ยวกับอุปกรณท์ ีใ่ ชท้ าสิ่งประดษิ ฐ์ (K) ๓. นกั เรยี นสามารถอา่ นและออกเสยี งคาศพั ท์เกยี่ วกบั อุปกรณท์ ี่ใชท้ าสิง่ ประดิษฐไ์ ด้ (P) ๔. แตง่ ประโยคจากคาศัพท์อุปกรณ์นา่ รูไ้ ดถ้ ูกต้อง (P) ๕. บอกหนา้ ท่ีของอุปกรณ์แต่ละชนิดได้ถูกต้อง (A) สาระสาคญั ประโยค คือ คาทนี่ ามาเรียงกัน และไดใ้ จความสมบูรณ์ ทาใหผ้ ูฟ้ ังเข้าใจวา่ ใคร ทาอะไร ท่ีไหน ทา อาการอย่างไรประโยคประกอบดว้ ยส่วนสาคญั 2 ส่วน คือ 1. ภาคประธาน ไดแ้ ก่ ผกู้ ระทากรยิ า และบทขยายของผ้กู ระทากริยา (ประธาน และบทขยายประธาน) 2. ภาคแสดง ไดแ้ ก่ สว่ นท่ีเป็นกริยาและบทขยายของกรยิ า ซึ่งอาจมีบทกรรมและบทขยายกรรมอยู่ด้วย การเรยี นรู้คาศัพท์และโครงสรา้ งประโยค ทใี่ ช้ในการสนทนาและให้ข้อมูลเกี่ยวกบั อปุ กรณท์ ่ีใชท้ า สิง่ ประดิษฐ์ส่ิงของตา่ ง ๆ ทาให้นักเรยี นไดฝ้ กึ การใชภ้ าษาโดยใช้สถานการณ์จริง สามารถนาไปใช้ใน ชีวติ ประจาวนั ได้ สาระการเรียนรู้ 1. แบบฝึกทกั ษะการประสมคา 2. การแต่งประโยคจากคาศัพท์อปุ กรณน์ า่ รู้ 3. การแยกประเภทอุปกรณ์น่ารไู้ ด้ถูกตอ้ ง คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มั่นในการทางาน สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ความสามารถในการคดิ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 ข้นั นาเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครูเตรียมตัวอย่างรูปภาพอุปกรณ์น่ารู้มาให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกช่ือคาศัพท์ อุปกรณน์ ่ารู้ ขั้นท่ี 2 ขน้ั กจิ กรรมการเรียนรู้ 2. ครใู ห้นักเรียนสงั เกตอปุ กรณ์นา่ รู้ และ ให้นกั เรยี นชว่ ยกันพดู ลกั ษณะจากรปู ภาพทน่ี กั เรียนเหน็ ๓. ครนู าเสนอคาศัพท์เก่ียวกับวสั ดุอุปกรณท์ ่ีใชท้ าสิ่งประดิษฐ์ โดยครูใหน้ ักเรยี นดภู าพวัสดุอุปกรณ์ จากสอ่ื การสอนตาม = cutter = glue = scissor = tape measure ๔. ครอู ธิบายหลกั การประสมคาจากรปู ภาพและนาคามาแตง่ ประโยค ใหน้ ักเรียนดู ๕. จากนน้ั ครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันแตง่ ประโยค เสร็จแล้วให้นกั เรียนทา ใบงานเร่ืองการแต่งประโยคจาก อปุ กรณ์น่ารู้ พรอ้ มแยกประเภทของตน้ ไม้ เชน่ กรรไกร แตง่ ประโยคได้ แมใ่ ช้กรรไกรตดั ผ้า ข้นั ท่ี 3 ขัน้ สรุปการเรียนรู้ ๖. ครแู ละนักเรียนร่วมกันทบทวนความรูก้ ารแตง่ ประโยค จากอุปกรณ์น่ารู้ ๗. ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปหลกั าร การแต่งประโยค และบอกหน้าท่ีของอุปกรณ์ เพ่ือทดสอบความ เข้าใจของนกั เรียน ๘. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปคาศัพท์และประโยคทใ่ี ชถ้ ามเกี่ยวกบั วสั ดุอุปกรณส์ ่งิ ประดษิ ฐ์ การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ (ครู ผปู้ กครอง นักเรยี นประเมนิ ร่วมกนั ) จุดประสงค์ วธิ ปี ระเมนิ เครอื่ งมอื เกณฑ์ 1. ประสมคาอปุ กรณน์ ่ารู้ ได้ถูกต้อง (K) ตรวจใบงานบูรณาการ ใบงานบูรณาการเร่ือง นักเรียนระบชุ ่อื สนิ ค้า 2. แตง่ ประโยคจากคา เ รื่ อ ง ส่ิ ง ป ร ะ ดิ ษ ฐ์ การแต่งประโยคจากคา ของหนูได้ ผา่ นใบ อปุ กรณน์ ่ารไู้ ด้ถูกต้อง (P) สร้างสรรค์ อุปกรณน์ า่ รู้ งานร้อยละ 60 ข้ึน ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ แตง่ ประโยค แบบฝกึ ทักษะการแต่ง นักเรียนอา่ นสะกดคา ประโยค สนิ ค้าของหนไู ด้ ระดบั 7 คาขึน้ ไปถือ ว่าผา่ นเกณฑ์
3. บอกหน้าที่ของอุปกรณ์ ตรวจแบบฝึกหดั แบบฝกึ หัด นักเรียนบอกหน้าท่ี น่ารูไ้ ด้ถูกตอ้ ง (A) ของอปุ กรณไ์ ด้ ถอื ว่า ผา่ นเกณฑ์ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. PowerPoint เร่อื ง การแต่งประโยค
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๔ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 วชิ าบรู ณาการการศลิ ปะ เวลา ๖ ชวั่ โมง หนว่ ยท่ี ๒ เร่อื ง สิง่ ประดิษฐ์สร้างสรรค์ เวลา 1 ช่วั โมง เรอ่ื ง นักออกแบบ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ ๑.๑ สรา้ งสรรค์งานทศั นศลิ ปต์ ามจนิ ตนาการ และความคิดสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณค์ ณุ ค่างานทัศนศลิ ป์ ถ่ายทอดความรสู้ ึก ความคิดต่องานศิลปะอยา่ งอสิ ระชน่ื ชม และ ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวัน ตัวชี้วดั ศ ๑.๑ ป.๓/๓ จาแนกทศั นธาตุของส่ิงต่าง ๆ ในธรรมชาตสิ ิ่งแวดลอ้ มและงานทัศนศลิ ป์ โดยเน้นเรอ่ื ง เส้น สี รปู รา่ ง รูปทรง และพื้นผวิ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายของความรสู้ กึ ท่มี ีต่อธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อมรอบตัว (K) 2. จาแนกประเภทของความรู้สกึ ลงในแผนภาพ (P) 3. เหน็ ประโยชน์ของการจาแนกประเภทของความรู้สึกลงในแผนภาพ (A) สาระสาคญั - ออกแบบส่งิ ประดษิ ฐ์ตามความรู้สึกของตนเองท่ีมีต่อธรรมชาติ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครใู ห้นักเรยี นดูภาพสงิ่ ประดิษฐ์ตา่ งๆ 2. ครอู ธิบายถงึ ประโยชนข์ องสงิ่ ประดิษฐ์ท่ใี ช้วัสดุเหลือใช้ 3. ใหน้ ักเรยี นลองหาออกแบบสิง่ ประดิษฐ์ท่ีนักเรียนอบากสร้างโดยการวาดภาพก่อน ๔. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปเรอ่ื ง ประโยชนข์ องสิ่งประดิษฐท์ ่ีนักเรียนสร้างขนึ้ โดยคานึกถงึ ธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อม
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ (ครู ผปู้ กครอง และนกั เรยี นรวมกันประเมนิ ) จุดประสงค์ วิธีประเมนิ เคร่อื งมือ เกณฑ์ 1. อธบิ ายความหมายของความร้สู ึกท่ี ตรวจใบงานบรู ณาการ ใบงานบรู ณาการเรอ่ื งนัก นักเรยี นอธิบาย มีต่อธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เร่ืองนกั ออกแบบ ออกแบบ ความหมายของ รอบตัว (K) ความรู้สึกทีม่ ีต่อ ธรรมชาติ และ สิง่ แวดล้อมรอบตวั ผ่านใบงานรอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ น เกณฑ์ 2. จาแนกประเภทของความรู้สกึ ลงใน แบบสงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนจาแนก แผนภาพ (P) ภาระงานใบงานบูรณา ภาระงานใบงานบูรณา ประเภทของ การเรอื่ งนักออกแบบ การเรอ่ื งนักออกแบบ ความรู้สกึ ลงใน แผนภาพได้ ระดบั ดี ขนึ้ ไปถือว่าผา่ น เกณฑ์ 3. เห็นประโยชน์ของการจาแนก แบบสังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรยี นมพี ฤตกิ รรม ประเภทของความรู้สึกลงในแผนภาพ (A) ระดับดขี ึ้นไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ สอื่ การเรยี นรู้ 1. PowerPoint เร่ืองส่ิงประดษิ ฐจ์ ากส่งิ ของท่เี หลือใช้
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๕ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 วชิ าบรู ณาการการงานอาชีพ สุขศกึ ษา และคณติ ศาสตร์ เวลา ๖ ชวั่ โมง หนว่ ยที่ ๒ เรอื่ ง สิง่ ประดิษฐส์ รา้ งสรรค์ เวลา 1 ชั่วโมง เรอ่ื ง ข้ันตอนการแปลงร่าง มาตรฐานการเรียนรู้ ค 2.1 ป.3/๓ เลือกใช้เครื่องมือวัดความยาวที่เหมาะสมวัดและบอกความยาวของสิ่งต่าง ๆ เป็น เซนติเมตรและมลิ ลิเมตร เมตรและเซนตเิ มตร ง 1.1 ป.๓/๒ ใช้วสั ดอุ ปุ กรณแ์ ละเครื่องมือตรงกับลักษณะงาน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกความสมั พันธ์หนว่ ยความยาวระหว่าง เซนตเิ มตรและมลิ ลเิ มตรได้ (K) 2. วดั และเขยี นความยาวของสิง่ ตา่ ง ๆ เป็นเซนตเิ มตรและมิลลเิ มตรได้ (P) 3. ออกแบบส่ิงประดิษฐไ์ ด้อย่างสรา้ งสรรค์ (P) สาระสาคญั เซนติเมตร มิลลิเมตร เป็นหน่วยวัดความยาวท่ีเป็นหน่วยมาตรฐาน โดยท่ี 1 เซนติเมตร เท่ากับ 10 มิลลิเมตร สาระการเรียนรู้ การวัดความยาวเปน็ เซนตเิ มตรและมลิ ลเิ มตร คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุ่งมั่นในการทางาน สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 3. ความสามารถในการคิด การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั ตอนที่ 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูให้นักเรียนท่องสตู รคูณโดยใชแ้ กว้ และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคณู หลังจาก นัน้ ให้นกั เรยี นคดิ เลขเร็วจานวน 3 ข้อ ข้ันตอนท่ี 2 : เรยี นรู้ 2. ทบทวนการวัดความยาวเปน็ เซนตเิ มตรและมิลลิเมตร โดยครูใหน้ ักเรยี นวัดความยาว อุปกรณ์ตา่ งๆทม่ี ีอยภู่ ายในบ้าน คนละ 2 ช้นิ แล้วนาเสนอ 3. ร่วมกนั สรุปความรู้เรื่อง การวดั ความยาวเปน็ เซนติเมตร และมิลลเิ มตร โดยครูถามคาถาม นักเรยี นดังนี้ - หน่วยวดั ใดละเอยี ดกว่าเซนติเมตร (มลิ ลเิ มตร) - 1 เซนติเมตรเทา่ กับกมี่ ิลลเิ มตร (10 มิลลเิ มตร) ขน้ั ตอนที่ 3 : การฝึก
๔. ครูให้นักเรียนประดิษฐ์ส่ิงของเหลือใช้ ให้เป็นอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยใช้เคร่ืองมือวัดความยาว ในการออกแบบ ขน้ั ตอนท่ี 4 : การสรุป ๕. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ มิลลิเมตรเป็นหน่วยการวัดที่ ละเอียดกว่าเซนติเมตร โดย 1 เซนติเมตร เทา่ กบั 10 มิลลเิ มตร ข้ันตอนท่ี 5 : การประยกุ ตใ์ ชท้ ันที ๖. ครใู หน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. ๗. นักเรยี นสามารถนาสงิ่ ของทีน่ กั เรียนประดิษฐ์ไปใชไ้ จรงิ ในชีวิตประจาวัน การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ (ครู ผู้ปกครอง นักเรียนประเมินรว่ มกัน) วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์ สงั เกตการทากจิ กรรม แบบสังเกตการทากิจกรรม ร้อยละ 80-100 ดีมาก การประดิษฐ์ การประดิษฐ์ ร้อยละ 70-79 ดี ร้อยละ 60-69 พอใช้ ร้อยละ 50-59 ควรปรบั ปรุง สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ชดุ กิจกรรม เรือ่ ง ขัน้ ตอนการแปลงรา่ ง
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 6 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 วชิ าบูรณาการสงั คมศกึ ษา เวลา 6 ชัว่ โมง หนว่ ยที่ 2 เร่ือง สิ่งประดิษฐ์สร้างสรรค์ เวลา 1 ช่ัวโมง เรอ่ื ง เปา้ หมายของหนู มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรพั ยากรในการผลติ และการบริโภค การใช้ทรัพยากรท่ีมอี ยู่ จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมท้ังเข้าใจหลักการเศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือการดารงชีวิตอยา่ งมดี ลุ ย ภาพ ตัวชี้วดั ป.3/2 วิเคราะหก์ ารใช้จ่ายของตนเอง จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายหลกั การเศรษฐกจิ พอเพยี ง (K) 2. จาแนกการใช้จ่ายของตนเองในการวางแผนใชจ้ า่ ยเงนิ (P) 3. ตระหนักในการวางแผนใช้จ่ายเงนิ ของตนเองอยา่ งเหมาะสม (A) สาระสาคัญ การวางแผนใชจ้ า่ ยเงนิ เป็นสง่ิ ท่ีจาเปน็ ต้องปฏบิ ัติ โดยคานงึ ถงึ รายได้ ควรใช้จ่ายน้อยกว่ารายรับและ ทาบนั ทึกการใชจ้ า่ ยของตนเอง ตามหลักการเศรษฐกจิ พอเพยี ง สาระการเรียนรู้ การวางแผนการใช้จ่ายเงินตามหลักการเศรษฐกิจพอเพยี ง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ อย่อู ยา่ งพอเพียง สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการแก้ปัญหา การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครนู าสถานการณ์เล่าใหน้ ักเรยี นฟัง พ่อได้รับเงินเดือน 20,000 บาท แบ่งเป็ นค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ดังน้ี ค่าอาหาร 6,000 บาท ออมเงินกบั ธนาคาร 6,000 บาท ค่าใชจ้ ่ายในบา้ น 5,000 บาท ค่า ขนมบุตร 1,000 บาท คา่ ใชจ้ ่ายยามเจบ็ ป่ วย 2,000 บาท ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันสนทนาเกยี่ วกบั สถานการณ์ที่กาหนดให้ โดยครใู ชค้ าถาม ดงั น้ี • พอ่ มีรายไดเ้ ป็นเงินเดือนจานวนกีบ่ าท (20,000 บาท) • รายจ่ายในครอบครัวที่พ่อต้องจ่ายมอี ะไรบา้ ง (ค่าอาหาร คา่ ใชจ้ ่ายในบ้าน
คา่ ขนมบุตร ค่าใชจ้ า่ ยยามเจบ็ ป่วย) • พ่อมเี งินออมหรือไม่ อย่างไร (มเี งนิ ออมทฝี่ ากไว้ในธนาคารเดอื นละ 6,000 บาท) • นกั เรียนคดิ ว่า ถา้ ครอบครัวไมม่ ีเงนิ เหลอื เก็บจะเกิดผลเสียอย่างไร (ตวั อย่างคาตอบ จะไมม่ ีเงนิ เหลือไว้ใช้ในยามจาเปน็ ) • ทกุ วนั น้ี นกั เรยี นมรี ายรับจากใคร (จากผ้ปู กครอง) • ในเมือ่ นักเรยี นยงั ไม่สามารถหารายได้เองได้ นักเรยี นจะใช้จา่ ยเงินอย่างไร (ใช้จา่ ย อยา่ งประหยัด ร้จู กั การเก็บออม) 2. ครเู ลอื กผูแ้ ทนนกั เรยี นออกมาเลา่ ประสบการณ์เก่ยี วกบั การใช้จ่ายของตนเองภายใน 1วัน โดยครูใชค้ าถาม ดังนี้ • นักเรยี นได้รบั เงินมาโรงเรียนวันละกีบ่ าท (ตวั อย่างคาตอบ 50 บาท) • นกั เรียนนาเงนิ ไปซ้ือสง่ิ ใดบา้ ง (ตวั อยา่ งคาตอบ อาหาร ขนม นา้ ด่มื ) • นักเรียนมีเงนิ เหลือหรือไม่ จานวนกี่บาท (ตัวอยา่ งคาตอบ เหลือเงินจานวน 15 บาท) • ถา้ มีเงินเหลือนกั เรยี นจะทาอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ นาไปหยอดกระปุกออมสนิ ) ทาใหม้ ีรายรับพอกบั รายจา่ ย สามารถควบคุมการใชจ้ า่ ยได้ ประโยชน์ของ การวางแผน การใช้จ่ายเงิน ทาใหม้ ีเงินเหลือเกบ็ ออม 3. ใหน้ ักเรยี นและครรู ว่ มกันสรุปความรู้ ดงั นี้ การวางแผนการใช้จ่ายเงิน โดยการทาบัญชีรายรับ - รายจ่าย ทาให้สามารถวิเคราะห์ และรู้จกั วางแผน•วิธีการใช้จ่ายของตนเองได้อยา่ งเหมาะสม 4. ให้นักเรียนทาใบงานบูรณาการ เรอื่ ง เปา้ หมายของหนู การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ (ครู ผู้ปกครอง นักเรยี นประเมนิ ร่วมกนั ) จุดประสงค์ วิธปี ระเมนิ เคร่ืองมอื เกณฑ์ 1. อธิบายหลักการเศรษฐกจิ พอเพียง ตรวจใบงานบูรณาการ ใบงานบูรณาการ เรื่อง นักเรยี นอธบิ าย (K) เรอ่ื ง เป้าหมายของหนู เปา้ หมายของหนู หลักการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผา่ นใบงาน ร้อยละ 60 ขึ้นไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ 2. จาแนกการใชจ้ ่ายของตนเองใน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรียนจาแนกการ การวางแผนใชจ้ ่ายเงิน (P) ใช้จา่ ยของตนเองใน การวางแผนใช้
3. ตระหนกั ในการวางแผนใช้ แบบสงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤตกิ รรม จ่ายเงิน ระดบั 3 ขอ้ จ่ายเงินของตนเองอยา่ งเหมาะสม ขึ้นไปถือว่าผา่ น (A) เกณฑ์ นักเรยี นมีพฤตกิ รรม ระดับดีข้นึ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ ส่ือการเรียนรู้ 1. สถานการณ์ รายรับ-รายจา่ ยของครอบครวั
บันทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้ สรปุ ผลหลังการจดั การเรียนรู้ 1.นักเรยี นจานวน 60 คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ 60 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๑๐๐ ไมผ่ ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - คน คิดเปน็ ร้อยละ 0 2. แนวทางแกไ้ ขนักเรียนที่ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้ - 3.คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ไมผ่ า่ น - คน ผ่าน 10 คน ดี 35 คน ดีเยีย่ ม 15 คน ระดบั ดขี นึ้ ไป ร้อยละ 83.33 4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ไม่ผา่ น - คน ผา่ น 10 คน ดี 35 คน ดเี ยีย่ ม 15 คน ระดบั ดขี น้ึ ไป ร้อยละ 83.33 5.นักเรยี นเกิดทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ใดบา้ ง ทาเครื่องหมาย ในชอ่ งว่างท่ตี รงกับทักษะทีเ่ กดิ 3R อา่ นออก เขยี นได้ มที ักษะในการคานวณ 8C การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปัญหา การสร้างสรรค์ ความเขา้ ใจความตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ การสือ่ สาร ดา้ นความร่วมมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผู้นา ทักษะการเปล่ียนแปลง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ ผลการจัดการเรยี นการสอน/ปญั หา/ อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ ง ร้จู ักใช้ทรพั ยากรอยา่ งรู้คุณค่า นกั เรยี น อธบิ ายปัญหาพน้ื ฐานทเ่ี กดิ จากปัญหาการขาดแคลนทรัพยากร จาแนกการใช้ทรัพยากร อย่างรู้คุณคา่ ตระหนักถงึ การใช้ทรพั ยากรท่มี ีอยู่อยา่ งจากดั ใหเ้ กิดประโยชน์และคมุ้ คา่ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง 3R นักเรียน อธิบายวัตถทุ ี่ประกอบขน้ึ จากชิน้ ส่วนย่อย ๆ ได้ สบื คน้ วตั ถทุ ี่ประกอบขึ้นจากชน้ิ ส่วนยอ่ ย ๆ ได้ และ เลอื กใช้วสั ดุและสิง่ ของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เรือ่ ง อุปกรณ์น่ารู้ นักเรยี น อา่ นออกเสยี งคา ข้อความสัน้ ๆ และบทรอ้ ยกรองง่าย ๆ ได้ถูกต้องคล่องแคล่ว แตง่ ประโยค ง่าย ๆใชว้ ัสดอุ ปุ กรณ์และเครอ่ื งมือตรงกับลกั ษณะงาน และบอกคาศัพท์ท่เี กี่ยวขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรอ่ื ง นกั ออกแบบ นกั เรียน อธิบายความหมายของความรสู้ ึกท่ีมตี ่อธรรมชาติ และส่งิ แวดล้อมรอบตวั จาแนกประเภทของ ความรู้สึกลงในแผนภาพ และ เห็นประโยชนข์ องการจาแนกประเภทของความรสู้ ึกลงในแผนภาพ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรือ่ ง ข้นั ตอนการแปลงรา่ ง นักเรียน บอกความสัมพันธ์หน่วยความยาวระหว่าง เซนติเมตรและมิลลิเมตรได้ วัดและเขียนความ ยาวของส่งิ ตา่ ง ๆ เป็นเซนตเิ มตรและมลิ ลิเมตรได้ และ ออกแบบส่ิงประดษิ ฐไ์ ด้อยา่ งสรา้ งสรรค์ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 6 เร่อื ง เปา้ หมายของหนู นักเรียน อธิบายหลกั การเศรษฐกิจพอเพยี ง จาแนกการใช้จา่ ยของตนเองในการวางแผนใชจ้ า่ ยเงนิ และ ตระหนักในการวางแผนใช้จา่ ยเงินของตนเองอยา่ งเหมาะสม
รายช่ือครูผสู้ อน ลายมือชื่อ นางสาวจีรวรรณ ปฏวิ งศ์ นางสาวสาวิตรี หม่ืนหาญ นางสาววรรณภา เคนไชยวงค์ นางสาวจารวี อาจเดช นางณฐั นันท์ เสริมศาสตร์ นางสาวหทัยรัตน์ ราชเสนา นางสาวกมลชนก กาญจนจันทร์ นางสาวจริ ะพันธ์ุ ปากวเิ ศษ นางสาววรรณนษิ า พมุ่ อุไร ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศกึ ษา ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง ............................................................................................................................. ................................................. ......................................................................................................................................................... ..................... ............................................................................................................. ................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………...........…………… ลงชอ่ื …………………………………………………… (นางสาวกนั ยาภัทร ภทั รโสตถ)ิ ผอู้ านวยการโรงเรยี นวดั พืชนิมติ (คาสวัสด์ริ าษฎร์บารุง) 11/ตลุ าคม/๒๕๖4
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: