รายงานวิจจัยในชั้นเรียน ปีการศึกษา 2562

ชือ่ เร่อื ง การพัฒนาการแตง่ โจทย์ปญั หาทางคณิตศาสตร์ (การคณู ) ชอ่ื ผวู้ จิ ัย นางสาวจิระพนั ธุ์ ปากวิเศษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ บทคดั ยอ่ ในการวิจัยคร้ังนี้มีจุดมุ่งหมายเพ่ือพัฒนาทักษะการแต่งโจทย์ปัญหาเร่ืองการ พฒั นาการแตง่ โจทย์ปญั หาทางคณติ ศาสตร์ (การคูณ) ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 จากจานวนนักเรียนทั้งหมด 22 คน ด้วยวิธีการประเมินท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัยทั้งส้ิน โดยเร่ิมทาการวิจัยต้ังแต่ 15 พฤศจิกายน 2562 ถึง 25 กมุ ภาพันธ์ 2563 ผลการวจิ ยั พบวา่ นักเรียนจานวนหน่ึงมีการพัฒนาทักษะการแต่งโจทย์ปัญหาการ คูณดีขึ้นกว่าเดิมด้วยวิธีการใช้แรงเสริมโดยการชมเชยและใช้เวลาในการทางาน พอสมควรจึงจะทาให้นักเรียนเกิดทักษะการแต่งโจทย์ปัญหาการคูณได้อย่างเข้าใจมาก ยงิ่ ขึน้

เรื่อง การพัฒนาการแตง่ โจทยป์ ญั หาทางคณิตศาสตร์ (การคณู ) ความสาคัญและทมี่ า ในการพัฒนาวิชาคณิตศาสตรเ์ ป็นการพัฒนาทเ่ี นน้ การสอน เพอื่ พัฒนาใน ดา้ นทกั ษะ และวธิ ีในการคดิ คานวณเป็นพ้ืนฐานในการศึกษาความรู้ ในการสอนทผี่ า่ น มาพบว่า นกั เรยี นสว่ นใหญม่ ผี ลสัมฤทธิท์ างดา้ นความสามารถการแตง่ โจทย์ปญั หาตา่ กว่าทกั ษะอื่น ๆ ทงั้ น้ีเกดิ จากสาเหตุสาคญั คือ เรียนไม่รคู้ วามหมายของประโยค สญั ลกั ษณว์ ิเคราะห์ไมเ่ ปน็ ทาให้การแต่งโจทยป์ ัญหาไมถ่ กู ต้อง และจากการเรยี น การสอนของนักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 / 2 จานวนนกั เรียนทง้ั หมด 22 คน มีนักเรียนทม่ี ีปญั หาในดา้ นการแต่งโจทย์ปญั หาการคูณ 1 คน ดงั นนั้ ผ้ทู าการวจิ ัยจงึ หาวิธกี ารดาเนนิ การเพอ่ื ทีจ่ ะแก้ปัญหา และพัฒนาให้นักเรยี นเกดิ ทกั ษะในดา้ นการแตง่ โจทย์ปญั หาทางคณิตศาสตร์ใหเ้ ข้าใจมากย่งิ ขนึ้ ดงั นนั้ ในการพัฒนาครง้ั นี้จะใชว้ ิธกี ารประเมนิ นักเรียนควบคไู่ ปกับการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน จดุ มุ่งหมาย เพือ่ พัฒนาทกั ษะในด้านการแต่งโจทยป์ ญั หาทางคณิตศาสตร์ (การคณู ) ดว้ ย วธิ ีการประเมนิ ทเี่ นน้ ผ้เู รยี นเป็นสาคญั ตวั แปรท่ีศกึ ษา - ตวั แปรตน้ 1. วธิ ีการสอนตามปกติ 2. ชดุ ฝกึ ทักษะการแต่งโจทยป์ ัญหา (การคณู ) 3. การตรวจแบบฝกึ หดั

- ตวั แปรตาม 1. พฤตกิ รรมการเรียนรขู้ องนักเรียน 2. ทักษะการแตง่ โจทย์ปญั หาการคณู กรอบแนวคดิ ในการทาวิจัย วธิ ีการสอนตามปกติ และวิธีการประเมินที่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั พฤติกรรมการเรยี นรขู้ องนักเรยี น , ทักษะแต่งโจทยป์ ญั หาการคูณ ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะได้รบั ผลการวิจยั น้ี จะเป็นขอ้ มลู อยา่ งหนึง่ ทจี่ ะช่วยใหก้ ารพฒั นาทกั ษะการ แต่งโจทย์ปญั หาทางคณติ ศาสตร์ (การคูณ) ดว้ ยวธิ ีการประเมนิ ทเ่ี นน้ ผเู้ รยี น เปน็ สาคญั มีการฝึกทักษะ การคิดเป็น การคานวณเป็น และมที ศั นคติทีด่ ีต่อ วิชาคณติ ศาสตรเ์ พอ่ื ทีจ่ ะใหก้ ารเรยี นการสอนวชิ าคณิตศาสตรส์ มั ฤทธิ์ผลย่งิ ข้ึน ขอบเขตของการวิจัย - นักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 / 2 จานวน 1 คน ของโรงเรยี นวัดพชื นิมิต (คาสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ารงุ ) ในการทาวจิ ยั ครงั้ นี้ไดเ้ ลอื กนกั เรียนใน ชน้ั 1 คน ไดเ้ ลือกนกั เรียนคนนี้ เนอ่ื งจากมผี ลสมั ฤทธิท์ างดา้ นความสามารถในการ แตง่ โจทย์ปัญหาการคณู ตา่ กวา่ ทกั ษะอืน่ ๆ

วธิ ดี าเนนิ การวิจยั - ศึกษาปญั หาเก่ียวกบั การเรยี นวชิ าคณิตศาสตร์ - เขยี นเคา้ โครงการทาวิจยั - จัดเตรยี มเอกสารแบบทดสอบ - ปรับแผนการสอนให้สอดคลอ้ งกบั งานวิจยั - เตรียมการสอนตามแบบแผนทีป่ รับเปลี่ยน - สอนโดยใช้วิธีการสอนแบบม่งุ ประสบการณ์และใชเ้ ทคนิคการทา แบบฝึกหดั ท่หี ลากหลายโดยใชส้ อ่ื ภาพ เพอื่ สง่ เสริมการทาแบบฝึกหดั - ทาแบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ - สรุปผล ประเมินผล

เรื่อง การพฒั นาการแตง่ โจทยป์ ญั หาทางคณติ ศาสตร์ (การคูณ) ของเด็กหญิงศริ รี ตั น์ เปลีย่ นแสง ชั้น ป. 3 / 2 เลขท่ี 6 ชุดที่ 1 จานวนขอ้ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ครง้ั ที่ 1 20 4 16 2 20 20 - สรปุ ผลไดด้ งั น้ี ครง้ั ที่ 1 จานวน 2 ขอ้ ข้อท่ีทาไดค้ ดิ เปน็ ร้อยละ 20.00 ครงั้ ท่ี 2 จานวน 20 ขอ้ ขอ้ ท่ีทาไดค้ ดิ เปน็ ร้อยละ 100 ชดุ ที่ 2 จานวนข้อ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ คร้ังท่ี 25 11 14 1 25 25 - 2 สรปุ ผลไดด้ ังนี้ ครั้งที่ 1 จานวน 11 ขอ้ ขอ้ ท่ที าได้คดิ เปน็ รอ้ ยละ 44.00 คร้ังท่ี 2 จานวน 25 ขอ้ ข้อที่ทาไดค้ ดิ เป็นรอ้ ยละ 100

ชดุ ที่ 3 ทาได้ ทาไมไ่ ด้ 11 9 ครง้ั ท่ี จานวนข้อ 19 1 1 20 2 20 สรปุ ผลไดด้ ังน้ี ครั้งที่ 1 จานวน 11 ขอ้ ข้อที่ทาได้คิดเป็นร้อยละ 55.00 คร้งั ที่ 2 จานวน 19 ข้อ ขอ้ ท่ที าไดค้ ิดเป็นรอ้ ยละ 95.00 ชุดที่ 4 จานวนข้อ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ครง้ั ที่ 20 1 19 1 20 20 - 2 สรปุ ผลไดด้ งั น้ี ครง้ั ที่ 1 จานวน 1 ข้อ ข้อทท่ี าไดค้ ดิ เปน็ ร้อยละ 5.00 คร้ังท่ี 2 จานวน 20 ข้อ ข้อทท่ี าไดค้ ิดเปน็ ร้อยละ 100

ชดุ ที่ 5 จานวนข้อ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ครง้ั ที่ 10 2 8 1 10 10 - 2 สรุปผลไดด้ ังนี้ ครง้ั ท่ี 1 จานวน 2 ข้อ ขอ้ ทท่ี าได้คดิ เปน็ รอ้ ยละ 20.00 คร้งั ท่ี 2 จานวน 10 ขอ้ ข้อท่ีทาไดค้ ิดเปน็ รอ้ ยละ 100 ชดุ ที่ 6 จานวนข้อ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ครั้งที่ 10 2 8 1 10 10 - 2 สรุปผลไดด้ งั นี้ ครั้งที่ 1 จานวน 2 ขอ้ ข้อท่ที าได้คดิ เป็นรอ้ ยละ 20.00 ครง้ั ท่ี 2 จานวน 10 ขอ้ ขอ้ ทีท่ าไดค้ ิดเป็นร้อยละ 100

สรุปผล จากการทาวิจัย เร่ือง การพฒั นาการแต่งโจทยป์ ญั หาทางคณติ ศาสตร์ (การ คูณ) โดยใชแ้ บบฝึกทักษะของเด็กหญงิ ศริ รี ตั น์ เปล่ียนแสง ทาใหเ้ ดก็ หญงิ ศริ รี ตั น์ เปล่ยี นแสง มพี ัฒนาการดา้ นทักษะการแตง่ โจทยป์ ัญหาคณิตศาสตร์ (การคณู ) ดขี ้นึ จากเด็กที่ยงั ไม่แมน่ ในดา้ นการแต่งโจทยป์ ญั หาการคณู สามารถเรยี นรู้จากแบบฝกึ ทักษะการแต่งโจทย์ปญั หาการคูณ และสามารถแตง่ โจทยป์ ญั หาการคณู ได้ถูกต้อง ขอ้ คิดทีไ่ ด้จากการวิจัย จากการทาวจิ ยั เรอ่ื ง การพฒั นาการแตง่ โจทยป์ ัญหาทางคณิตศาสตร์(การคูณ) ในครงั้ น้ี สามารถฝกึ ให้นกั เรียนจานวนหนึง่ ทมี่ ีปญั หาดา้ นการแตง่ โจทยป์ ญั หาการคูณ การเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์ไมถ่ ูกตอ้ ง ไมร่ คู้ วามหมายของการคณู การแต่งโจทย์ ปญั หาการคณู จากประโยคสญั ลกั ษณ์ไมไ่ ด้ มพี ัฒนาการดา้ นการแตง่ โจทยป์ ัญหาการ คูณไดด้ ขี ้ึน ซง่ึ ส่งผลให้นกั เรียนสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชก้ ับชวี ติ ประจาวันได้