แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 1 วิชาบรู ณาการสังคมศกึ ษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 หน่วยที่ 1 เร่ือง ต้นไม้ของหนู เวลา 6 ชว่ั โมง เร่อื ง ครอบครัวร่วมใจ เวลา 1 ชัว่ โมง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดม่ัน ศรัทธา และธารงรักษาไว้ซึ่งการ ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข ตวั ช้ีวดั ส 2.2 ป.1/3 มีส่วนร่วมในการตัดสินใจและทากิจกรรมในครอบครัวและโรงเรียน ตาม กระบวนการประชาธิปไตย จุดประสงค์การเรยี นรู้ส่ตู วั ชี้วดั 1. อธบิ ายการมสี ว่ นร่วมในครอบครัวและโรงเรยี นตามกระบวนการประชาธิปไตย (K) 2. มสี ่วนรว่ มในการตดั สนิ ใจและทากิจกรรมในครอบครัวและโรงเรียน (P) 3. ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของการมสี ว่ นรว่ มตามกระบวนการประชาธปิ ไตย (A) สาระสาคญั การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและการทากิจกรรมในครอบครัวตามกระบวนการประชาธิปไตย เป็น การยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ท่ีมเี หตผุ ลของสมาชกิ ในครอบครัวเป็นหลกั สาระการเรยี นรู้ การมีสว่ นร่วมตามกระบวนการประชาธิปไตยในครอบครัว คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ซ่อื สตั ย์สุจริต มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเข้าสู่บทเรียน 1. ให้นักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั การมีส่วนรว่ มตามกระบวนการประชาธิปไตย โดยครู ใช้คาถาม ดงั นี้ นักเรยี นเคยมสี ว่ นรว่ มในการตัดสินใจในครอบครวั หรอื ไม่ (เคย/ไมเ่ คย) นักเรียนมีส่วนรว่ มในการตดั สินใจในครอบครัวเรอ่ื งอะไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ การแบง่ หน้าที่รับผดิ ชอบในครอบครัว กิจกรรมทีท่ ารว่ มกัน) ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า การปกครองระบอบประชาธิปไตย เปน็ การปกครองทย่ี อมรับความคดิ เห็นของ สมาชิกเสยี งสว่ นใหญ่ ข้ันสอน 2. ครเู ลา่ นทิ านเร่ือง ครอบครวั หรรษาใหน้ กั เรยี นฟัง ดังนี้ นิทานเรื่อง ครอบครัวหรรษา ครอบครัวของไข่ดาวมีสมาชิกท้งั หมด 3 คน คือ พอ่ แม่ และไข่ดาว แม่จะถามไขด่ าวและ พอ่ ก่อนทากบั ขา้ วเสมอวา่ อยากรับประทานอะไร แลว้ แม่จะทาใหร้ ับประทาน ทาใหอ้ าหารถูกปาก และถูกใจสมาชิกในครอบครัวเสมอ และทุกคนจะมีความสุขในเวลารับประทานอาหารมาก ๆ ขา้ ง บ้านของไข่ดาว คือบ้านของไข่เจียว ซ่ึงจะได้ยินเสียงสมาชิกในครอบครัวทะเลาะกันก่อน รับประทานอาหารเสมอ เพราะแม่ของไข่เจียวจะทาอาหารเฉพาะที่ตนเองชอบเท่าน้นั ทาใหพ้ อ่ ไข่ เจียวไม่พอใจและตอ้ งเดินไปซ้ือกบั ขา้ วถุงมารับประทานทุกวนั ทาให้บรรยากาศในครอบครัวไม่ มีความสุข แม่ของไขเ่ จียวจึงปรึกษากบั แม่ของไข่ดาววา่ เขาควรทาอะไรใหส้ ามีกบั ลูกของตนจึงจะ ยอมรับประทานอาหารท่ีตนเองทา แมข่ องไข่ดาวจึงแนะนาวธิ ีที่ตนเองถามความคิดของสมาชิกใน ครอบครัวก่อนทาอาหารใหแ้ มข่ องไข่เจียวฟัง เมื่อแม่ของไข่เจียวนาไปใชจ้ ึงทาให้บา้ นของไข่เจียว ไม่มีเรื่องทะเลาะกนั อีกเลย จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับนิทานเรอื่ งดงั กล่าว โดยครูใช้คาถาม ดังน้ี ในนิทานเรอ่ื งนี้มคี รอบครวั ของใครบา้ ง (ไข่ดาวกบั ไข่เจียว) ครอบครัวของไขด่ าวมีวิธีการทาอาหารอยา่ งไร (แม่ถามสมาชิกในครอบครัว กอ่ นทาอาหารแตล่ ะมือ้ ) ครอบครัวของไข่เจียวมีวิธีการทาอาหารอย่างไร (แม่จะทาเฉพาะอาหารที่ตนเองชอบ เท่าน้นั ) ครอบครวั ของนักเรยี นมีวิธกี ารทาอาหารอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคาตอบ แมถ่ ามสมาชิกก่อน ทาอาหารทกุ มอื้ ) นกั เรยี นรู้สึกอย่างไรต่อการกระทาของแม่ (ตัวอย่างคาตอบ ชอบ พอใจ) นักเรยี นอยากให้ครอบครวั ของนกั เรยี นเปน็ ครอบครัวแบบครอบครวั ของไข่ดาวหรือไขเ่ จียว (ตวั อยา่ งคาตอบ ไขด่ าว)
ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในครอบครัวตามกระบวนการประชาธิปไตยเป็น การยอมรับความคิดเหน็ ของสมาชิกสว่ นใหญ่ในครอบครัว โดยยดึ หลักเสยี งขา้ งมาก สมาชิกทกุ คนในครอบครัว ควรมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆภายในครอบครัว พร้อมบอกเหตุผลรวมท้ังยอมรับฟัง ความคดิ เหน็ ของผูอ้ ่ืน 3. ครูให้นักเรียนและครอบครัวรว่ มกนั ตัดสนิ ใจว่าจะปลกู ผกั สวนครัวชนดิ ใด โดยเลอื กตดั สินจาก เสยี งขา้ งมากในการตดั สนิ ใจร่วมกันปลกู ข้นั สรุปการเรียนรู้ 4. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ เรื่อง การมีสว่ นร่วมในการทากิจกรรมในครอบครัว ดังนี้ การอยู่ร่วมกันในครอบครัว สมาชิกทุกคนควรทากิจกรรมร่วมกันโดยยึดหลักประชาธิปไตย เช่น การ แบ่งแยกหน้าท่คี วามรับผิดชอบในครอบครัว เพอ่ื ใหส้ มาชกิ ในครอบครัวไดท้ ากิจกรรมร่วมกนั การมสี ่วนรว่ มใน การแสดงความคดิ เห็นและการรับฟงั ความคดิ เหน็ ของสมาชิกในครอบครวั 5. นักเรยี นทาใบงานบูรณาการกจิ กรรมท่ี 1 ครอบครวั รว่ มใจ การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ (ครู ผ้ปู กครอง และนกั เรียนรวมกนั ประเมนิ ) จุดประสงค์ วิธปี ระเมนิ เคร่อื งมอื เกณฑ์ ใบงานบรู ณาการ 1. อธบิ ายการมีสว่ นร่วมใน ตรวจใบงานบูรณาการ กจิ กรรมท่ี 1 ครอบครัว นกั เรยี นอธบิ ายการมี รว่ มใจ ส่วนรว่ มในครอบครัว ครอบครวั และโรงเรียนตาม กจิ กรรมที่ 1 ครอบครวั และโรงเรยี นตาม แบบสังเกตพฤตกิ รรม กระบวนการ กระบวนการประชาธิปไตย (K) ร่วมใจ ภาระงานใบงานบูรณา ประชาธปิ ไตย ผา่ น การกจิ กรรมที่ 1 ใบงานรอ้ ยละ 60 2. มสี ว่ นรว่ มในการตัดสินใจและทา แบบสังเกตพฤติกรรม ครอบครัวร่วมใจ ขึน้ ไป ถือว่าผา่ น กิจกรรมในครอบครวั และโรงเรียน ภาระงานใบงานบรู ณา เกณฑ์ (P) การกิจกรรมท่ี 1 แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นมสี ว่ นร่วมใน ครอบครัวร่วมใจ การตัดสินใจและทา กจิ กรรมในครอบครัว 3.ตระหนักถงึ ความสาคญั ของการมี แบบสงั เกตพฤตกิ รรม และโรงเรียน ระดับ ส่วนร่วมตามกระบวนการ ดี ขึน้ ไปถือวา่ ผา่ น ประชาธิปไตย (A) เกณฑ์ นักเรยี นมีพฤตกิ รรม ระดบั ดขี ้นึ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ สอ่ื การเรียนรู้ 1. นทิ านเร่ือง ครอบครวั หรรษา
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 2 วิชาบรู ณาการการงานอาชีพ ศลิ ปะ คณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 หน่วยที่ 1 เร่ือง ตน้ ไม้ของหนู เวลา 6 ชัว่ โมง เรือ่ ง อุปกรณ์การเกษตรนา่ รู้ เวลา 1 ช่วั โมง มาตรฐานการเรยี นรู้ ง 1.1 เข้าใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ ทักษะ กระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และ ลักษณะนิสัยในการทางาน มีจิตสานึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม เพื่อการดารงชวี ิต และครอบครวั ศ ๑.๑ สร้างสรรค์งานทศั นศลิ ปต์ ามจนิ ตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์คุณคา่ งานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ช่ืนชม และประยุกต์ใช้ใน ชวี ิตประจาวัน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณติ สมบัติของรูปเรขาคณติ ความสัมพนั ธ์ระหว่างรูป เรขาคณิต และ ทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนาไปใช้ ตัวช้ีวัด ง 1.1 ป.1/3 ทางานเพ่ือชว่ ยเหลอื ตนเองอย่างกระตือรือร้นและตรงเวลา ศ ๑.๑ ป.๑/๑ อภปิ รายเกย่ี วกับรปู รา่ ง ลกั ษณะ และขนาดของส่ิงตา่ งๆ รอบตัวในธรรมชาติและส่งิ ท่ีมนษุ ย์สรา้ งข้ึน ค 2.2 ป. 1/1 จาแนกรปู สามเหล่ียม รูปส่ีเหล่ยี ม วงกลม วงรี ทรงสเ่ี หลย่ี มมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความสาคัญของอุปกรณก์ ารเกษตรและศิลปะทอ่ี ยธู่ รรมชาติและสิ่งแวดล้อม (K) 2. บอกชื่อของรูปเรขาคณิตได้(K) 3. จาแนกอปุ กรณก์ ารเกษตรและถ่ายทอดความรสู้ ึกท่เี ห็นออกมาเปน็ ผลงาน(P) 4. จาแนกชนิดของรูปสามเหล่ียม รปู สเ่ี หลีย่ ม วงกลม วงรี ทรงสเี่ หล่ยี มมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวยไดถ้ ูกต้อง (P) 5. เหน็ คุณค่าของอปุ กรณ์เกษตรและความสาคัญของธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมท่ีมีต่อการดาเนนิ ชีวิต (A) สาระสาคัญ - อปุ กรณ์และเคร่อื งมอื การเกษตร ที่หาไดจ้ ากภายในบา้ นและของเหลอื ใช้ - อุปกรณ์การเกษตรทีเ่ กิดเองตามธรรมชาติ และมนุษย์สรา้ งข้ึนนามาออกแบบเป็นงานศลิ ปะ - ลกั ษณะทรงสีเ่ หล่ยี มมุฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย - ลกั ษณะรูปสามเหล่ยี ม รปู สีเ่ หล่ยี ม วงกลม และวงรี
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นา 1. ครใู ห้นกั เรยี นดภู าพและบอกชอ่ื อปุ กรณก์ ารเกษตรทีส่ าคัญ 2. ครใู หน้ ักเรยี นหยิบสง่ิ ของทอ่ี ยู่ใกล้ตัวเช่น กลอ่ งสี่เหลีย่ ม แกนกระดาษทิชชู่ ลูกปิงปอง แก้ว กระดาษ 3. ขึน้ มาแล้วให้นักเรยี นบอกว่าของแตล่ ะชนิดมีลกั ษณะอยา่ งไร จากนั้นให้นกั เรียนจัดกลมุ่ อยา่ ง อสิ ระ ไม่มถี ูกหรอื ผิด แลว้ ให้ออกมานาเสนอเหตุผลในการจัดกลุ่ม ขน้ั สอน 4. ใช้ภาพบตั รภาพประกอบกบั สื่อของจรงิ ในการแนะนาทรงส่เี หล่ียมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย โดยครเู ตรยี มของจรงิ ท่มี ีลักษณะคลา้ ยทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย มาใหน้ กั เรยี นได้เหน็ 5. ครูถามคาถามนกั เรยี นว่า ทรงสเ่ี หลยี่ มมมุ ฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย มลี ักษณะรูปร่าง อย่างไร ใหน้ ักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง 6. ครูนาภาพรปู สามเหล่ยี ม รูปส่ีเหลี่ยม วงกลม และวงรี ที่มีขนาดและสีที่หลากหลาย เปิดอิสระให้ นักเรยี นได้จัดกลมุ่ รูปเรขาคณิต โดยไม่มถี ูกหรอื ผิด จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นบอกเหตผุ ลในการจดั กลมุ่ 7. ครูแนะนารูปสี่เหล่ียม รูปสามเหลย่ี ม วงกลม และวงรี โดยใช้ส่อื แผ่นกระดาษสี หรอื แผน่ พลาสตกิ ตัดเปน็ รปู เรขาคณติ แต่ละชนดิ ใหม้ ีรปู ร่างหลากหลาย เพ่ือใหน้ กั เรยี นจะไดเ้ ห็นรูปเรขาคณิตทห่ี ลากหลาย 8. ครูสนทนาซกั ถามนักเรยี นถงึ ลกั ษณะความเหมอื นและความตา่ งของรูปเรขาคณิตแต่ละชนดิ 9. จากน้นั นารปู สง่ิ ของต่าง ๆ ที่มีสว่ นประกอบคลา้ ยรูปสามเหลย่ี ม รปู ส่เี หลย่ี ม วงกลม หรือวงรี ทม่ี ี เส้น 10.เน้นขอบเพื่อง่ายต่อการสงั เกตรปู ร่าง แล้วถามนกั เรยี นวา่ เสน้ สีแดงทเ่ี นน้ ขอบเป็นรูปเรขาคณติ ชนิดใด และมสี ่ิงใดอีกทมี่ สี ว่ นประกอบ คลา้ ยรปู สามเหลี่ยม รปู ส่เี หลีย่ ม วงกลมหรือวงรี 11.ใหน้ กั เรยี นเลือกวาดภาพอปุ กรณ์การเกษตรทนี่ ักเรียนต้องใชใ้ นการปลกู ผกั ขนั้ สรุป 12. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ เรื่อง ความสาคัญของอุปกรณ์การเกษตรแต่ละชนิด 13. ครูสนทนาซักถามเก่ยี วกับภาพในกจิ กรรมท่ี2 วา่ ในภาพ เปน็ ภาพอะไร มสี ่วนประกอบเปน็ รูป เรขาคณติ ชนดิ ใดบา้ ง เพ่อื ทบทวนความรใู้ ห้กบั นักเรียนก่อนลงมือทา 14. นกั เรยี นทาใบงานกิจกรรมท่ี2
การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ (ครู ผูป้ กครอง และนกั เรยี นรวมกนั ประเมนิ ) จุดประสงค์ วิธีประเมิน เครอื่ งมอื เกณฑ์ -นักเรียนอธิบาย 1. อธบิ ายความสาคัญของอุปกรณ์ -ตรวจใบงานบูรณาการ -ใบงานบูรณาการเร่ือง ความสาคัญของ อุปกรณ์การเกษตร การเกษตรและศลิ ปะท่ีอยู่ เร่อื งอุปกรณ์การเกษตร อุปกรณ์การเกษตรนา่ รู้ และศิลปะที่อยู่ ธรรมชาตแิ ละ ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม (K) นา่ รู้ สิ่งแวดล้อม บอกชอ่ื 2. บอกชอ่ื ของรูปเรขาคณติ ได(้ K) -ตรวจใบงานกจิ กรรมที่2 -ใบงานกจิ กรรมที่2 ของรปู เรขาคณติ ได้( ผา่ นใบงานร้อยละ 3. จาแนกอุปกรณก์ ารเกษตรและ -แบบสังเกตพฤตกิ รรม -แบบสังเกตพฤตกิ รรม 60 ขึ้นไป ถือว่าผ่าน ถา่ ยทอดความรสู้ ึกทเี่ ห็นออกมา -ภาระงานใบงานบรู ณา -ภาระงานใบงานบูรณา เกณฑ์ เป็นผลงาน (P) การเร่อื งอุปกรณ์ การเรอ่ื งอปุ กรณ์ -นักเรียนจาแนก การเกษตรน่ารู้ การเกษตรน่ารู้ อุปกรณ์การเกษตร และถ่ายทอด 4. จาแนกชนดิ ของรูปสามเหลยี่ ม -สงั เกตพฤตกิ รรมการ -แบบสังเกตประเมิน ความรสู้ กึ ท่เี ห็น รปู ส่เี หล่ียม วงกลม วงรี ทรงส่ีเหล่ียม ทางานรายบุคคล พฤติกรรมการทางาน ออกมาเป็นผลงาน ได้ มมุ ฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และ รายบคุ คล ระดบั ดี ขนึ้ ไปถอื ว่า กรวยไดถ้ ูกต้อง (P) ผา่ นเกณฑ์ 5. เห็นคุณค่าของอุปกรณ์เกษตรและ แบบสังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ความสาคัญของธรรมชาติและ นกั เรียนมีพฤตกิ รรม ส่งิ แวดล้อมทมี่ ีต่อการดาเนนิ ชีวติ (A) ระดบั ดขี ้นึ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ ส่ือการเรียนรู้ 1. PowerPoint เรื่องอปุ กรณ์การเกษตรทสี่ าคญั
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 วิชาบูรณาการการงานอาชีพ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 หน่วยท่ี 1 เรือ่ ง ตน้ ไม้ของหนู เวลา 6 ชัว่ โมง เรือ่ ง เรมิ่ ปลูกกันเลย เวลา 1 ช่ัวโมง มาตรฐานการเรียนรู้ ง 1.1 เข้าใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ ทักษะ กระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลักษณะนิสัย ในการทางาน มีจติ สานกึ ในการใช้พลงั งาน ทรพั ยากรและส่งิ แวดล้อม เพ่อื การดารงชวี ติ และครอบครัว ตัวชว้ี ัด ป.1/2 ใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ และเครอ่ื งมือง่ายๆ ในการทางานอยา่ งปลอดภัย จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.รูจ้ ักงานเกษตรประเภทการปลูกพืช (K) 2.จาแนกผลผลติ ท่ีได้จากการปลูกพืช (P) 3.เหน็ คุณคา่ ของการปลูกพชื (A) สาระสาคญั การปลูกพชื เปน็ การเพาะปลูกดูแลต้นพืชใหเ้ จริญเตบิ โต ทาใหไ้ ดผ้ ลผลิตตามทต่ี ้องการ คือ พืช ผกั ผลไม้ ไว้บริโภคและจาหน่าย สาระการเรียนรู้ ประเภทของงานเกษตร การปลูกพชื คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ม่งุ ม่ันในการทางาน สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั ท่ี 1 ขั้นนาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1. ครูถามนักเรียนอยากจะปลกู พชื ชนิดใด ท่ที าให้ไดผ้ ลผลิตตามท่ีต้องการ 2. ครเู ตรียมตัวอยา่ งรปู ภาพการปลกู พชื ผัก แล้วรว่ มกนั สนทนา 3. นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ จากภาพการปลกู ผกั นักเรยี นอยากจะปลกู ผกั ชนดิ ใดทดี่ แู ลงา่ ย
และได้ผลผลิตตามทต่ี ้องการ ขั้นท่ี 2 ขั้นกจิ กรรมการเรยี นรู้ 4. ครูใหน้ กั เรยี นสงั เกตวธิ กี ารเตรยี มดนิ ปลกู ผัก ตอ้ งเรมิ่ จากขัน้ ตอนใดบ้าง 5. ครูอธบิ ายข้ันตอนการปลกู ผกั สวนครัวใหน้ กั เรียนฟงั ดังน้ี ขน้ั ตอนการปลูก (ผกั สวนครัว) 1. การเลอื กพื้นท่ี 2. การเตรียมแปลง 3. การเตรยี มเมลด็ พันธ์ุ 4. การปลูก 5. การดแู ลรกั ษา 6. การเกบ็ ผลผลิต ภาพขนั้ ตอนการปลูกผกั 6. นักเรียนจะปลกู พชื ชนิดใดที่สามารถนามาทาประโยชนไ์ ด้สูงสดุ เพราะอะไร ขั้นที่ 3 ขน้ั สรุปการเรียนรู้ 7. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ทบทวนความรู้เกยี่ วกบั ข้นั ตอนการปลกู ผักมีวิธีการปลูกอยา่ งไรบ้างให้ นกั เรียนร่วมกันอธิบาย 8. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ สง่ิ ท่ีเข้าใจเปน็ ความรรู้ ่วมกนั การปลูกพืชเปน็ การเพาะปลูกดแู ลต้นพืชให้ เจรญิ เติบโต ทาใหไ้ ดผ้ ลผลติ ตามทตี่ ้องการ คือ พชื ผกั ผลไม้ ไวบ้ รโิ ภคและจาหนา่ ย 9. นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายสรุปเกยี่ วกบั วิธกี ารทางานใหเ้ ห็นการคิดเชิงระบบและวธิ กี ารทางาน ที่มีแบบแผน
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ (ครู ผู้ปกครอง นกั เรยี นประเมินรว่ มกนั ) จดุ ประสงค์ วธิ ีประเมนิ เครอ่ื งมอื เกณฑ์ 1. รู้จักงานเกษตรประเภทการปลูก ตรวจใบงานบูรณาการ ใบงานบูรณาการ เร่ือง นักเรยี นรู้จกั งาน พืช (K) เร่อื ง การปลูกพชื การปลกู พชื เกษตรประเภทการ ปลูกพืชได้ ผา่ นใบ งานรอ้ ยละ 60 ขึ้น ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 2. จาแนกผลผลิตทีไ่ ดจ้ ากการปลกู แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม จาแนกผลผลติ ท่ีได้ พชื (P) จากการปลูกพชื ผา่ น รอ้ ยละ 60 ขึ้นไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ 3. เห็นคุณค่าของการปลูกพืช (A) แบบสังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นมพี ฤติกรรม ระดับดีขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ สื่อการเรยี นรู้ 1. PowerPoint เร่ือง การปลูกพืช
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 4 วชิ าสุขศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 หน่วยที่ 1 เรอื่ ง ตน้ ไม้ของหนู เวลา 6 ช่วั โมง เรอื่ ง สขุ บญั ญัติน่ารู้ เวลา 1 ช่วั โมง มาตรฐานการเรยี นรู้ พ ๔.๑ เห็นคณุ ค่าและมีทักษะในการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ การดารงสขุ ภาพ การป้องกนั โรค และ การสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพเพ่ือสุขภาพ ตวั ชว้ี ัด ปฏิบัตติ นตามหลักสุขบัญญตั ิแหง่ ชาติตามคาแนะนา จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกสขุ บัญญัติแห่งชาติได้ครบ ๑๐ ประการ (K) ๒. บอกวธิ ีปฏิบตั ิตนตามสขุ บัญญัติแหง่ ชาตไิ ดค้ รบ ๑๐ ประการ (P) ๓. บอกประโยชนข์ องการมีความเขา้ ใจเกี่ยวกับวิธปี ฏบิ ตั ิตนตามสขุ บญั ญตั ิแห่งชาติได้อย่างนอ้ ย ๒ข้อ (A) สาระสาคัญ การปฏบิ ตั ติ นตามหลักสุขบญั ญตั ิแหง่ ชาติ ๑๐ ประการ เพ่ือเป็นการการสรา้ งเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกนั โรค สาระการเรยี นรู้ ๑. สุขบัญญัติ ๑๐ ประการ ๒. วธิ ีปฏิบตั ติ นตามสขุ บญั ญัติแหง่ ชาติ ๑๐ ประการ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มนั่ ในการทางาน สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ ท่ี 1 ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ถามนกั เรยี นวา่ ตั้งแตต่ นื่ นอนมาในแต่ละวนั นกั เรียนทากจิ วัตรประจาวนั อะไรบา้ ง แล้วจดบันทึก ไวเ้ ปน็ แผนภมู ิปญั ญา 2. ครบู อกจุดประสงคก์ ารเรียนรู้และความสาคัญของสุขบัญญัติแห่งชาติ ขน้ั ท่ี 2 ข้นั กิจกรรมการเรียนรู้ 3. ครูแจกใบความรเู้ รอื่ ง สุขบญั ญตั ิ แห่งชาติ ๑๐ ประการ 4. ครอู ธิบายประกอบใบความรู้ พดู คุย และให้ นักเรยี นซักถาม 5. เมือ่ นักเรยี นทากิจกรรมปลูกผักแลว้ นักเรยี นจะปฏิบตั ิตามสุขบญั ญตั แิ หง่ ชาติข้อใดบา้ งให้นกั เรยี น
ร่วมกันอภปิ ราย 6. ครใู หน้ กั เรียนวาดภาพการปฏิบตั ติ นตามสุขบญั ญัติ ๑๐ ประการลงในกระดาษทีค่ รูแจกให้ และ ระบายสีให้สวยงาม ขัน้ ท่ี 3 ขั้นสรุปการเรียนรู้ 7. ครูและนักเรียนรว่ มกนั ทบทวนความรู้เก่ียวกับสขุ บญั ญัตแิ ห่งชาติ 10 ประการ เพ่อื เขา้ ใจเปน็ ความรูร้ ่วมกัน 8. ใหน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสัยและชว่ ยกันสรุปบทเรียน การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ (ครู ผปู้ กครอง นักเรียนประเมินรว่ มกนั ) จุดประสงค์ วธิ ีประเมิน เครอ่ื งมือ เกณฑ์ 1. บอกสขุ บญั ญัตแิ หง่ ชาติไดค้ รบ - อธบิ าย -แบบประเมินพฤตกิ รรม นกั เรยี นบอกสขุ ๑๐ ประการ (K) บัญญัติแหง่ ชาติได้ ครบ ๑๐ ประการ ได้ ถกู ต้องผา่ นรอ้ ยละ 60 ข้นึ ไป ถือว่าผา่ น เกณฑ์ 2. บอกวธิ ปี ฏิบัตติ นตามสุขบัญญตั ิ -อธิบาย -แบบประเมินพฤติกรรม บอกวิธปี ฏบิ ัติตนตาม แหง่ ชาติได้ครบ ๑๐ ประการ (P) สขุ บัญญตั ิแหง่ ชาติได้ ครบ ๑๐ ประการ ผ่านรอ้ ยละ 60 ขึน้ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ 3. บอกประโยชนข์ องการมีความ แบบสงั เกตพฤติกรรม สังเกตความสนใจจาก นกั เรียนมพี ฤตกิ รรม เข้าใจเกีย่ วกับวิธปี ฏิบัติตนตามสุข บญั ญตั แิ หง่ ชาติไดอ้ ยา่ งน้อย ๒ข้อ การซักถามและตอบ ระดับดีขน้ึ ไป ถือว่า (A) คาถาม ผา่ นเกณฑ์ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. PowerPoint เรือ่ ง สขุ บัญญัติ ๑๐ ประการ
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 วชิ าบรู ณาการประวตั ิศาสตร์ ภาษาไทย เวลา 6 ชวั่ โมง หน่วยท่ี 1 เรื่อง ตน้ ไม้ของหนู เวลา 1 ช่ัวโมง เรื่อง บนั ทกึ ต้นไม้ของหนู มาตรฐานการเรียนรู้ ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสาคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้วิธีการทาง ประวัติศาสตรม์ าวเิ คราะห์เหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ อยา่ งเป็นระบบ ตัวชีว้ ดั ส 4.1 ป.1/2 เรียงลาดบั เหตกุ ารณใ์ นชีวิตประจาวันตามวันเวลาที่เกดิ ขน้ึ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้นเกย่ี วกบั ต้นไมท้ ี่ปลูกในชีวิตประจาวัน (K) 2. สามารถเรียงลาดบั เหตกุ ารณก์ ารเปลยี่ นแปลงของตน้ ไม้ได้ (P) 3. เหน็ ประโยชน์ของการบนั ทกึ เหตกุ ารณ์ในชีวิตประจาวัน (A) สาระสาคญั กิจกรรมที่ทาในแต่ละวันบอกเหตุการณ์สาคัญในชวี ิตประจาวนั สาระการเรียนรู้ เหตกุ ารณท์ ีเ่ กดิ ข้ึนในชวี ติ ประจาวัน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ซือ่ สตั ย์สจุ รติ มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ความสามารถในการคิด ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกับเหตุการณ์ในชีวติ ประจาวนั โดยครูใชค้ าถาม ดังนี้
ใน 1 วัน นกั เรียนทากิจกรรมอะไรบ้าง (ตัวอยา่ งคาตอบ รับประทานอาหารไปโรงเรียน) 2. ให้นักเรยี นบนั ทกึ เหตุการณ์ทีเ่ กิดขึ้นของการเปล่ยี นแปลงของต้นไม้ทนี่ กั เรยี นปลกู ลงในใบบันทึก ทีค่ รูเตรียมให้ จากนนั้ ครใู ห้ตัวแทนนกั เรยี น 2-3 คน มาเลา่ ให้เพ่ือนฟงั เมือ่ เรียนออนไลน์ ขัน้ สอน 3. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั สนทนา เก่ยี วกบั การบันทึกเหตุการณ์การเปลย่ี นแปลงของต้นไม้ทีน่ ักเรียนปลกู โดยครใู ชค้ าถาม ดังนี้ การบนั ทกึ เหตุการณ์ในชีวิตประจาวันมีประโยชน์อย่างไร จากนนั้ ครูบันทึกคาตอบของนกั เรยี นเปน็ แผนภาพลงบนกระดาน ดังนี้ (ตวั อย่างแผนภาพ) รู้จกั ลาดบั เหตุการณ์ ในชีวติ ประจาวนั ทาใหร้ ู้เหตุการณ์ ประโยชน์ของการ ใชบ้ นั ทึกการทางาน ท่ีเกิดข้ึนในแตล่ ะวนั บนั ทกึ เหตุการณ์ ในแต่ละวนั ในชีวติ ประจาวนั ช่วยเตือนความจา 4. ให้นักเรยี นและครสู รปุ ความรู้ ดังน้ี ขนั้ สรปุ การเรียนรู้ การดาเนนิ ชีวิตในแตล่ ะวันมเี หตุการณ์สาคัญตา่ ง ๆ เกดิ ขึ้นมากมาย การบนั ทึกเหตกุ ารณจ์ ะทา ให้ทราบวา่ เหตุการณ์ใดเกิดขึ้นบา้ งเมอื่ เวลาผา่ นไป 5. ครูใหน้ ักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คาถามท้าทาย ดังนี้ เพราะเหตใุ ดมนุษย์ถึงชอบบนั ทึกเรือ่ งราวท่ีเกิดขนึ้ ในชีวิตประจาวัน 6. นักเรยี นทาใบงานบูรณาการกจิ กรรมที่ 5 บันทึกตน้ ไมข้ องหนู การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (ครู ผปู้ กครอง และนักเรยี นรวมกันประเมนิ ) จุดประสงค์ วธิ ีประเมนิ เคร่อื งมอื เกณฑ์ 1. อธบิ ายเหตุการณท์ ี่ ตรวจใบงานบรู ณาการ ใบงานบรู ณาการ นักเรยี นอธิบาย กิจกรรมท่ี 5 บนั ทึก เหตกุ ารณท์ ่ีเกิดข้ึน เกิดขึน้ เก่ยี วกบั ต้นไม้ทป่ี ลูกใน กิจกรรมที่ 5 บันทึก ต้นไมข้ องหนู เก่ียวกบั ตน้ ไม้ท่ปี ลกู ในชีวิตประจาวัน ชวี ติ ประจาวนั (K) ตน้ ไมข้ องหนู ผ่านใบงานรอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป ถือว่าผา่ น เกณฑ์
2. สามารถเรียงลาดับ แบบสงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรียนสามารถ เหตกุ ารณ์การเปล่ยี นแปลงของต้นไม้ ภาระงานใบงานบูรณา ภาระงานใบงานบูรณา เรียงลาดบั เหตุการณ์ ได้ (P) การกิจกรรมท่ี 5 บนั ทกึ การกจิ กรรมที่ 5 บันทึก การเปลย่ี นแปลงของ ต้นไมข้ องหนู ต้นไมข้ องหนู ต้นไม้ได้ระดบั ดี ข้นึ 3. เห็นประโยชนข์ องการ ไปถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ บันทกึ เหตุการณใ์ นชวี ิตประจาวัน แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม (A) นกั เรยี นมีพฤตกิ รรม ระดับดีขึน้ ไป ถือว่า ผา่ นเกณฑ์ สอื่ การเรียนรู้ ใบบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวติ ประจาวัน(ฉบับตัวอยา่ ง)
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 6 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 วชิ าบูรณาการ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ เวลา 6 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 1 เรอื่ ง ตน้ ไม้ของหนู เวลา 1 ชั่วโมง เรอ่ื ง ตน้ ไม้ อะไรเอ่ย? มาตรฐานการเรียนรู้ ต ๓.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน และเปน็ พ้ืนฐานในการ พฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชีวติ และมนี ิสยั รักการอ่าน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต การลาเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้าง และหน้าทขี่ องระบบต่าง ๆ ของสตั ว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กนั ความสัมพันธ์ ของโครงสร้างและหนา้ ที่ของอวยั วะต่าง ๆ ของพืชท่ที างานสมั พันธก์ นั รวมท้ังนาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ ตวั ชว้ี ัด ต ๓.๑ ป.1/1 บอกคาศัพท์ทเี่ กย่ี วข้องกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อื่น ท 1.1 ป.1/1 อา่ นออกเสยี งคาและขอ้ ความส้นั ๆ ว 1.2 ป.1/1 ระบชุ อ่ื บรรยายลักษณะและบอกหนา้ ท่ีของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ สัตว์ และ พชื รวมทั้งบรรยายการทาหน้าท่ีรว่ มกันของส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายมนุษยใ์ นการทากิจกรรมต่าง ๆ จากข้อมูล ทร่ี วบรวมได้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. ระบชุ ่ืออวยั วะต่าง ๆ ของพชื ได้ (K) 2. นักเรยี นบอกส่วนประกอบของพืชเป็นภาษาอังกฤษได้ (K) 3. สงั เกตและวาดภาพอวยั วะของพืชได้ (P) 4. นักเรียนอ่านออกเสยี งและสะกดคาศพั ทส์ ว่ นประกอบของพืชได้ (P) 5. บอกความหมายของคาได้ถกู ตอ้ ง (A) 6. รบั ผิดชอบต่อหนา้ ที่ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย (A) สาระสาคญั พืชโดยทั่วไปมีส่วนต่าง ๆ ที่สาคัญ ได้แก่ ราก ลาต้น ใบ ดอก และผล ซึ่งส่วนต่าง ๆ แต่ละส่วน ทาหน้าทแ่ี ตกตา่ งกัน การอ่านสะกดคาส่วนต่าง ๆของพืช ได้แก่ ราก ลาต้น ใบ ดอก และผล แต่ละส่วนมีความหมาย อย่างไร สาระการเรียนรู้ 1. สว่ นต่าง ๆ ของพชื 2. หนา้ ท่ขี องสว่ นต่าง ๆ ของพืช 3. ความสาคญั ของส่วนต่าง ๆ ของพชื
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ มุง่ มนั่ ในการทางาน สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการคิด การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ที่ 1 ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรียน 1. ครทู ักทายนกั เรียนวา่ Good morning / afternoon. หรอื Hi. / Hello. ใหน้ ักเรยี นทกั ทาย ตอบ 2. ครถู ามนักเรียนวา่ ส่วนประกอบของพืชมีอะไรบา้ ง 3. ครูนาเสนอรปู ภาพส่วนประกอบของพืชและบอกนกั เรียนที่ละส่วนเปน็ ภาษาไทย ดงั นี้ 4. ครเู ตรียมตัวอยา่ งรูปต้นพืชทส่ี ามารถหาไดง้ า่ ยมา 2-3 ชนิด แล้วใหน้ กั เรยี นสังเกต 5. ครถู ามคาถามเพ่ือให้นักเรยี นแสดงความคดิ เหน็ รว่ มกันว่า ต้นพืชทนี่ กั เรยี นสังเกตมีโครงสรา้ ง สว่ นใดบ้าง ขัน้ ท่ี 2 ขั้นกจิ กรรมการเรียนรู้ 6. ครูเปดิ คลิปวิดโี อ เร่อื ง ไทย วิทย์ พชิ ติ องั กฤษ เกี่ยวกับคาศพั ทภ์ าษาองั กฤษสว่ นประกอบของพืช ดังนี้ flower = ดอก leaf = ใบ stalk = กา้ น fruit = ผล stem = ลาต้น root = ราก 7. ครใู ห้นักเรียนชว่ ยกนั อา่ นสะกดคาส่วนตา่ ง ๆของพชื ใบ สะกดวา่ บอ-ใอ-ใบ , ราก สะกดว่า รอ- อา-กอ-ราก ,ดอก สะกดวา่ ดอ-ออ-กอ-ดอก นกั เรียนอ่านสะกดคาจนครบทกุ สว่ นของพชื และฝกึ อา่ นจนคล่อง 8. นกั เรยี นสะกดคาศัพท์ทีและคาพรอ้ มกันและให้นกั เรยี นอ่านออกเสยี งคาศพั ทต์ ามครู 1 – 2 ครัง้ 9. ครูให้นักเรยี นสงั เกตต้นไม้ทีน่ ักเรียนปลูกวา่ มสี ่วนประกอบใดบ้าง
10.ครูให้นักเรียนรว่ มกันตอบ เพือ่ ตรวจสอบความรขู้ องนักเรียนหลังการทากิจกรรมปลกู ตน้ ไม้ โดย ครูตัง้ คาถาม ดงั นี้ 1) ตน้ พืชท่กี นักเรยี นสังเกตชอ่ื วา่ ตน้ อะไร 2) ต้นพชื ของนกั เรียนสงั เกตมีสว่ นตา่ ง ๆ ใดบา้ ง แลว้ แตล่ ะส่วนทาหนา้ ท่ีอะไร 11.จากน้ันครใู ห้นักเรยี นศึกษาข้อมลู เกยี่ วกบั อวยั วะและหน้าที่ของอวยั วะของพืช จาก PowerPoint เรื่อง โครงสร้างภายนอกของพชื ขน้ั ที่ 3 ขนั้ สรุปการเรยี นรู้ 12.ครแู ละนักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เกย่ี วกบั สว่ นตา่ ง ๆ และหน้าท่ขี องส่วนต่าง ๆ ของพชื 13.ครใู หน้ ักเรียนรว่ มกันสรปุ เกี่ยวกับอวยั วะภายนอกของพชื โดยนกั เรยี นรว่ มกันบอกชื่ออวัยวะ ภายนอกของพืชทีละคน และบอกหนา้ ที่ของส่วนน้ันให้ถูกตอ้ ง เพอื่ ทดสอบความเขา้ ใจ 14.ครมู อบหมายงานใหน้ ักเรยี นอัดคลิปวิดีโอแนะนาสว่ นประกอบของตน้ ไม้ทน่ี ักเรียนมีอยใู่ นบา้ น การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ (ครู ผปู้ กครอง นักเรียนประเมนิ รว่ มกัน) จุดประสงค์ วธิ ปี ระเมิน เครื่องมอื เกณฑ์ 1. ระบุชื่ออวยั วะตา่ ง ๆ ของพชื ได้ -ตรวจใบงานบูรณาการ -ใบงานบูรณาการเรื่อง -นกั เรียนระบุชอ่ื (K) เรื่อง ตน้ ไมอ้ ะไรเอ่ย ตน้ ไม้อะไรเอย่ อวยั วะตา่ ง ๆ ของพชื ได้ ผา่ นใบงานร้อยละ 60 ขนึ้ ไป ถอื วา่ ผา่ น 2. นกั เรียนบอกสว่ นประกอบของ -สงั เกตการทากจิ กรรม -แบบสงั เกตการทา เกณฑ์ พชื เป็นภาษาอังกฤษได้ (K) -ร้อยละ 80-100 ดี กิจกรรม มาก รอ้ ยละ 70-79 ดี ร้อยละ 60-69 พอใช้ รอ้ ยละ 50-59 ควร ปรับปรุง 3. สงั เกตและวาดภาพอวัยวะของ -แบบสงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นักเรียนสงั เกตและ พชื ได้ (P) วาดภาพอวยั วะของ พชื ได้ ระดบั 3 ข้อ ขึน้ ไปถือว่าผา่ น 4. นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งและสะกด -แบบฝึกทักษะการอ่าน -แบบฝึกทักษะการอา่ น เกณฑ์ คาศัพทส์ ว่ นประกอบของพชื ได้ -นักเรยี นอา่ นสะกด คาส่วนตา่ ง ๆของพืช (P) ได้ ระดบั 7 คาข้ึนไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ -แบบประเมนิ ทกั ษะทาง -รอ้ ยละ 80-100 ดี ภาษา มาก
5. บอกความหมายของคาได้ -แบบฝึกหัด -แบบฝึกหัด รอ้ ยละ 70-79 ดี ถูกต้อง (A) -แบบสงั เกตพฤตกิ รรม -แบบสงั เกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ 60-69 พอใช้ 6. รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าท่ีทไี่ ด้รับ ร้อยละ 50-59 ควร มอบหมาย (A) ปรบั ปรงุ -นักเรยี นบอก ความหมายของคาได้ ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ -นกั เรียนมีพฤตกิ รรม ระดบั ดีขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ สื่อการเรียนรู้ 1. PowerPoint เร่อื ง โครงสรา้ งภายนอกของพชื 2. คลปิ วดิ โี อการสอน เรื่อง ไทย วิทย์ พชิ ติ อังกฤษ
บันทึกผลหลังการจดั การเรียนรู้ สรุปผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1.นักเรยี นจานวน 55 คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ 55 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๑๐๐ ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - คน คดิ เป็นร้อยละ 0 2. แนวทางแกไ้ ขนกั เรียนท่ีไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - 3.คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ไมผ่ า่ น - คน ผ่าน 5 คน ดี 30 คน ดเี ย่ียม 20 คน ระดบั ดขี น้ึ ไป ร้อยละ 90.90 4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ไมผ่ า่ น - คน ผ่าน 5 คน ดี 30 คน ดเี ย่ียม 20 คน ระดับดขี นึ้ ไป ร้อยละ 90.90 5.นกั เรยี นเกดิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทาเคร่ืองหมาย ในชอ่ งว่างทตี่ รงกับทักษะท่เี กดิ 3R อ่านออก เขียนได้ มที กั ษะในการคานวณ 8C การคิดอย่างมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปัญหา การสรา้ งสรรค์ ความเขา้ ใจความตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ การสอ่ื สาร ดา้ นความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทีมและภาวะผู้นา ทักษะการเปล่ยี นแปลง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ทักษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้ ผลการจัดการเรียนการสอน/ปญั หา/ อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เร่อื ง ครอบครัวรว่ มใจ นักเรียน อธิบายการมสี ่วนร่วมในครอบครวั และโรงเรียนตามกระบวนการประชาธปิ ไตย มสี ว่ นรว่ ม ในการตดั สินใจและทากจิ กรรมในครอบครัวและโรงเรยี น และตระหนักถงึ ความสาคญั ของการมสี ่วนร่วมตาม กระบวนการประชาธปิ ไตย แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่อง อุปกรณ์การเกษตรน่ารู้ นักเรยี น อธบิ ายความสาคัญของอุปกรณ์การเกษตรและศลิ ปะที่อยธู่ รรมชาติและสง่ิ แวดล้อม บอกช่ือ ของรูปเรขาคณติ ได้ จาแนกอุปกรณ์การเกษตรและถ่ายทอดความรสู้ กึ ท่ีเหน็ ออกมาเป็นผลงานจาแนกชนิดของ รูปสามเหล่ยี ม รูปสเ่ี หลี่ยม วงกลม วงรี ทรงส่เี หล่ยี มมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวยได้ถูกต้อง แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เรือ่ ง เร่มิ ปลูกกันเลย นักเรียนรจู้ ักงานเกษตรประเภทการปลูกพชื จาแนกผลผลิตท่ีไดจ้ ากการปลูกพชื และ เห็นคุณค่าของการ ปลกู พืช แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 เร่ือง สขุ บญั ญัตินา่ รู้ นักเรยี น บอกสุขบญั ญตั ิแหง่ ชาติได้ครบ ๑๐ ประการ บอกวิธีปฏบิ ัติตนตามสขุ บญั ญัตแิ หง่ ชาติได้ ครบ ๑๐ ประการ และบอกประโยชนข์ องการมคี วามเข้าใจเกี่ยวกับวธิ ปี ฏิบตั ติ นตามสขุ บัญญัตแิ หง่ ชาติได้ อยา่ งน้อย ๒ขอ้ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5 เรื่อง บันทึกต้นไมข้ องหนู นกั เรียนอธบิ ายเหตุการณท์ ี่เกิดข้ึนเกี่ยวกบั ตน้ ไม้ทป่ี ลกู ในชีวติ ประจาวนั สามารถเรยี งลาดับเหตกุ ารณ์ การเปลีย่ นแปลงของต้นไม้ได้ และ เห็นประโยชนข์ องการบันทกึ เหตกุ ารณใ์ นชวี ิตประจาวัน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เรอ่ื ง หนูตน้ ไม้ อะไรเอ่ย? นกั เรยี นระบชุ อื่ อวัยวะต่าง ๆ ของพืชได้ บอกสว่ นประกอบของพชื เปน็ ภาษาอังกฤษได้ สงั เกตและ วาดภาพอวัยวะของพืชได้ อ่านออกเสียงและสะกดคาศัพท์ส่วนประกอบของพืชได้ บอกความหมายของคาได้ ถูกต้อง รับผดิ ชอบต่อหนา้ ทท่ี ่ีได้รับมอบหมาย รายชอ่ื ครูผู้สอน ลายมอื ชอ่ื นางสาวจรี วรรณ ปฏวิ งศ์ นางสาวสาวติ รี หมน่ื หาญ นางสาววรรณภา เคนไชยวงค์ นางสาวจารวี อาจเดช นางณัฐนันท์ เสริมศาสตร์ นางสาวหทัยรตั น์ ราชเสนา นางสาวกมลชนก กาญจนจันทร์ นางสาวจริ ะพนั ธ์ุ ปากวิเศษ นางสาววรรณนิษา พุ่มอุไร ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศึกษา ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รบั รอง ............................................................................................................................. ................................................. ......................................................................................................................................................... ..................... ............................................................................................................. ................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………...........…………… ลงช่อื …………………………………………………… (นางสาวกันยาภทั ร ภัทรโสตถ)ิ ผอู้ านวยการโรงเรียนวดั พืชนิมิต (คาสวัสดิร์ าษฎรบ์ ารุง) 1/ตุลาคม /๒๕๖4
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: