ปจ จัยท่มี ีผลตอ อตั ราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี
จัดทําโดย น.ส. ณัฐธดิ า คชสทิ ธิ์ ม5/2 เลขที่13
เสนอ
คาํ นํา หนังสืออิเลก็ ทรอนกิ สเ ลม นี้จัดทําข้นึ เพ่อื เปนสว นหนงึ่ ของวชิ าเคมี ชน้ั ม.5 เพื่อใหไ ดศ ึกษาหาความรูในเรื่องปจ จยั ทีม่ ีผลตออตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมีและ ไดศึกษาอยางเขา ใจเพอ่ื เปนประโยชนกับการเรยี น ผจู ัดทาํ หวงั วา หนังสืออเิ ล็กทรอนิกสเ ลมนี้จะเปน ประโยชนกับผอู าน หรอื นักเรยี น นกั ศกึ ษา ทีก่ าํ ลังหาขอมลู เร่อื งน้อี ยูหากมีขอ แนะนาํ หรือขอ ผดิ พลาดประการใด ผจู ดั ทาํ ขอนอมรับไวแ ละขออภัยมาณ ทนี่ ้ดี วย
แบบฝกหัดกอ นเรยี น https://docs.google.com/document/d/1ZlKaxaDZf 7lCDa81OGAG1nAzAFxJPhVR5LBnopOPl2s/edit
ปจจัยท่ีมผี ลตออัตราการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏกิ ริ ยิ า ขน้ึ อยูกบั ปจ จัยหลายอยาง คือ 1. ธรรมชาติของสารตัง้ ตน 2. ความเขมขนของสารตั้งตน 3. พน้ื ท่ผี วิ ของสารต้ังตน 4. อุณหภูมิ 5. ตวั เรง ปฏกิ ริ ิยา 6. ความดัน
อัตราการเกิดปฏกิ ิรยิ าจะเร็วหรอื ชา กข็ น้ึ อยกู บั ปจจยั ดังกลาว จะเหน็ ไดว าปจ จัยท่มี ผี ลตออัตรา การเกดิ ปฏิกริ ยิ าน้นั เปนผลเนอ่ื งจากสาร ต้ังตน เทานั้น ไมเก่ียวของกบั สารผลิตภัณฑ การทท่ี ราบวา อัตรา การ เกดิ ปฏิกริ ิยาขึ้นอยูกับปจจยั อะไรบา ง ทาํ ใหสามารถควบคุมความเร็ว ของปฏกิ ริ ยิ าได สามารถจะทาํ ให เกิดเรว็ หรือเกดิ ชา ตามตองการได ปฏิกิริยาบางชนดิ อาจจะเกดิ ไดเรว็ หรือชา เน่อื งจากธรรมชาตขิ องสาร ตั้งตน เชน สารประกอบไอออนนกิ มกั จะเกิดปฏิกิริยาไดเ ร็วกวาสาร โคเวเลนต ปฏิกิรยิ าบางชนดิ ขนึ้ กับ ความเขมขน แตบ างชนิดไมขน้ึ กบั ความเขมขน ซง่ึ จะไดกลา วถึงรายละเอยี ดตอ ไป
ธรรมชาตขิ องสารต้ังตน ทีม่ ีผลตอ อตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ า ปฏิกริ ิยาเคมโี ดยทว่ั ๆ ไป จะมีอตั ราการเกิดปฏิกริ ิยาทแ่ี ตกตางกัน มี ตงั้ แตช ามากจนสงั เกตไมไ ดถงึ เกิดขนึ้ ไดทันที บางปฏิกริ ิยาอาจจะ เกิดเรว็ มากถงึ หนึง่ ในลานวนิ าที เชน การระเบิดของดนิ ปน ปฏกิ ริ ิยา จาํ นวนมากเกดิ ขึนเรว็ เชน ปฏิกิริยาระหวา งกรดกบั เบสจะไดเกลือ และนํ้าทันที หรอื ปฏกิ ิรยิ าระหวาง สารละลาย AgNO3 กบั NaCl จะ ไดตะกอนขาว AgCl ทนั ที NaOH + HCl NaCl + H2O AgNO3 + NaCl AgCl + NaNO3 สารท่ที าํ ปฏิกิริยาเปน สารไอออนกิ ทั้งคู จะเกิดปฏกิ ิริยาเรว็ กวา สารท่ี เปน โควาเลนต สารทีท่ ําปฏิกิริยาเปนกา ซทั้งคู จะทาํ ปฏิกิรยิ าไดเ ร็วกวาปฏกิ ิริยาที่ สารอยใู นสถานะตางกัน
ความเขมขนของสารตง้ั ตนกับอัตราการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี ความเขมขน ของสารตงั้ ตน เพ่ิมขน้ึ อัตราการเกดิ ปฏิกริ ิยามักจะเร็ว ขึ้นดว ย แตก็ไมแนเ สมอไป บางกรณคี วามเขมขน ของสารอาจจะไม มผี ลตออตั ราการเกิดปฏกิ ิรยิ าได หรอื บางกรณีอาจจะทําให ปฏิกริ ยิ าเกดิ ชาลงกไ็ ด การทจี่ ะทราบวา ความเขมขน ของสารตน ตน มีผลตออตั ราการเกดิ ปฏกิ ิริยาหรอื ไม จะตองไดจากการทดลอง เทา นัน้ จากการทดลอง จะทาํ ใหทราบวา สารตง้ั ตนชนิดใดบางทม่ี ีผลตอ อัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยา ทาํ ให ปฏกิ ิรยิ าเกิดเร็วข้นึ หรอื ชาลง แตถ า ตอ งการจะทราบวาความเขมขน ของสารตงั้ ตน มีผลตออัตราเรว็ ของ ปฏกิ ิริยามากนอยอยา งไร สารใดจะมีผลมากกวา กนั จะตองอาศัยกฎ อตั ราเขาชวย
พน้ื ที่ผิวของสารกับอตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี ความเขมขนของสารตง้ั ตน จะเปนปจ จยั ทีส่ ําคญั ในการควบคมุ อัตราการเกิดปฏิกิริยา เชน ปฏิกิริยาระหวาง Mg(s) กับ HCl (aq) จะพบวาพน้ื ท่ีผิวของ Mg มีสวนสําคญั มากในการควบคมุ อตั รา การเกิดปฏิกริ ิยา Mg (s) + HCl (aq) MgCl2 (aq) + H2 (g) ถาวดั อตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าจากปรมิ าตรของกา ซ H2 จะพบวา ปฏกิ ิริยาจะเกดิ เรว็ เมื่อ ใช Mg ที่มีพื้นทีผ่ วิ มาก ดังนนั้ โดยทั่วๆ ไป จงึ สรุปไดว า อตั ราการเกดิ ปฏิกริ ิยาเปน สดั สว นโดยตรงกับพนื้ ที่ ผิวของสารตัง้ ตน ทเี่ ขาทําปฏกิ ิรยิ ากนั (เฉพาะปฏิกิรยิ าเนื้อผสมเทาน้นั ถา เปน ปฏิกิริยาเน้ือเดยี ว พน้ื ที่ผิวของสารตงั้ ตน จะไมม ผี ลตอ อตั ราการเกิดปฏกิ ิริยา) ถา พนื้ ท่ี ผวิ มาก อตั ราการเกิดปฏิกริ ยิ าจะเร็วกวา เมอื่ พนื้ ทีผ่ ิวนอ ย ดงั น้ันวธิ กี ารเพมิ่ อตั ราการ เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าวิธีหนง่ึ ของปฏิกิรยิ าเนื้อผสม คือ การเพ่ิมพ้ืนทีผ่ ิว (นอกเหนอื จาก การ เพมิ่ ความเขม ขน ) ซงึ่ อาจจะทาํ ไดโดยการบดใหละเอียด ตัดใหเปน ช้นิ เลก็ ๆ หรอื ยดื ใหเ ปนเสนยาวๆ เปนตน
อุณหภูมิกบั อัตราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี อุณหภูมจิ ะมีผลตอ อัตราการเกดิ ปฏกิ ิริยา โดยท่ัวๆ ไป เมื่อ อุณหภมู ิของระบบสงู ข้ึนอตั ราการ เกิดปฏิกิริยามกั จะเกดิ เรว็ ขนึ้ แต มีบา งเหมือนกันท่อี ณุ หภูมไิ มม ีผลตออัตราการเกดิ ปฏิกิริยา หรอื มี ผล ในทางตรงกันขา ม คือท าใหป ฏกิ ิรยิ าเกิดชา ลง เชน ปฏิกริ ิยา I + I I2 ถาเพ่มิ อุณหภมู ิจะท าใหปฏิกริ ยิ า เกดิ ชา ลง เปน ตน อยางไรกต็ ามปฏิกริ ยิ าเคมีสว นใหญ เมื่ออุณหภูมิสูงขึน้ จะมอี ตั รา การเกิดปฏกิ ริ ิยาเรว็ ขนึ้
ตวั อยางเชน เมื่อวางแผน โลหะ Mg ไวใ นอากาศท่อี ุณหภูมิหอง ผวิ ของ Mg จะคอ ยๆ เปลีย่ นเปน สเี ทาทั้งนเ้ี พราะเกิด MgO MgO (s) + O2 (g) 2MgO (s) การเกดิ ปฏกิ ริ ยิ านีจ้ ะชามาก แตถา นําแผน Mg นเ้ี ผาในเปลวไฟจะพบวา สามารถเกดิ ปฏกิ ิรยิ าได MgO ภายในเวลาไมก วี่ ินาที แสดงวาอณุ หภมู ชิ ว ยทําใหป ฏกิ ริ ิยาเกดิ เร็วข้นึ ในชวี ิตประจาํ วนั จะพบวา อณุ หภมู มิ สี วนเก่ียวของกับปฏิกริ ิยาเคมีเสมอๆ เชน การเกบ็ อาหารไว ในตเู ยน็ จะเก็บไวไดนานกวาการเก็บอาหารไวท ่ีอุณหภมู หิ อง เนอ่ื งจากท่ี อณุ หภูมิตํ่าสามารถปองกันการ บดู เนา ของอาหารไดดกี วา ท้งั น้ีเพราะการบดู เนาเกดิ จาก แบคทีเรียขบั สารบางชนิดออกมายอ ยสาย สารอินทรีย ถาอณุ หภูมิตาํ่ กวาปฏกิ ิรยิ าเคมีใน อาหารนั้นจะเกดิ ชา ทําใหก ารบดู เนา เกิดชา ลง พวกยาบาง ชนิด เชน ยาปฏชิ ีวนะ วคั ซีน ปอ งกันพิษสุนขั บา ตองเก็บไวท อี่ ณุ หภมู ิตา่ํ เนอ่ื งจากยาเหลานี้สลายตวั งายท่ี อณุ หภมู หิ อง การปรงุ อาหารกเ็ ชนเดยี วกัน ถา ใชอ ณุ หภมู สิ ูง อาหารจะสุกเรว็ กวาท่อี ุณหภมู ิตา่ํ แตใน ขณะเดียวกัน การสลายของสารอาหารหรอื สารทม่ี คี ณุ คา ทางอาหารสูงก็จะสลายตวั เร็วเชน กนั
ตัวเรง ปฏิกริ ิยาและตวั หนวงปฏิกิริยา ตัวเรงปฏกิ ิริยา หมายถึง สารท่ีทาํ ใหปฏกิ ริ ยิ าเกดิ เรว็ ขน้ึ เม่ือ ส้นิ สุดปฏิกิรยิ าแลว สารนั้นจะตองได กลบั มาเทา เดมิ ตวั เรง ปฏกิ ริ ยิ าจะตอ งมีสวนรว มในการเกิดปฏิกริ ยิ าเสมอ โดยอาจจะ มีสว นรว มโดยตรง หรอื มีสว นรวมโดยออ มกไ็ ด แต อยางไรก็ตามเมื่อสนิ้ สดุ ปฏกิ ริ ิยาแลว ตวั เรง ปฏิกริ ิยาจะตอ งได กลบั คืนมา เทา เดมิ กระบวนการที่มีการเตมิ ตวั เรง ปฏิกริ ยิ าลง ไปเรียกวา กระบวนการคะตะลซิ ีส (catalysis)
ตวั เรง ปฏิกริ ิยาอาจจะแบง เปน 2 ประเภทดังน้ี ก. ตวั เรงปฏกิ ิรยิ าเนอื้ เดียว หมายถึง ตัวเรง ปฏกิ ริ ิยาทีอ่ ยใู นวัฏภาคหรอื อยูใ น สถานะเดยี วกับสาร ต้ังตน เชน เปนของแขง็ เหมอื นกนั หรอื เปน ของเหลวเหมอื นกนั ดังปฏิกิริยา 2KClO3 (s) MnO2 (s) 2KCl (s) + 3O2 (g) 2- + MnSO4 (aq) 2+ 2MnO4 - (aq) + 5C2O4 (aq) + 16H (aq) 2Mn (aq) + 8H2O (l) + 10CO2 (g) ข. ตวั เรง ปฏกิ ริ ิยาเน้ือผสม หมายถึง ตวั เรงปฏิกิริยาที่มีวัฎภาคตา งจากสารตัง้ ตน เชน เมื่อสารต้งั ตนเปน กาซแตต วั เรงปฏกิ ิรยิ าของแข็ง หรอื สารตัง้ ตน เปนของเหลว แตต วั เรง ปฏกิ ริ ิยาเปน ของแขง็ เปนตน Pt 2H2 (g) + O2 (g) 2H2O (l) Ni H2 (g) + C2H4 (g) C2H6 (g)
ตัวหนว งปฏิกริ ิยา หมายถึง สารทีเ่ ติมลงไปในปฏกิ ิริยาแลวท าให อตั ราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าลดลง เม่ือ สิ้นสดุ ปฏกิ ริ ยิ าจะไดก ลบั มาเทาเดมิ เชน การเตมิ โซเดยี มเบนโซเอตลงไปในอาหารส าเรจ็ รปู จะปองกนั การ บูดเนาของอาหารได เน่ืองจากโซเดียมเบนโซเอตท าหนา ทเี่ ปนตวั ขัดขวาง ท าใหปฏิกริ ยิ าการบดู เนาของ อาหารชา ลง 3+ Fe 2H2O2 2H2O + O2 C12H22O11 + 12O2 12CO2 + 11H2O
ความดัน ความดนั จะมผี ลตอ ปฏกิ ิรยิ าในกรณปี ฏิกิริยาที่เกยี่ วกับกา ซ คอื เมือ่ เพมิ่ ความดนั โมเลกลุ ของกา ซ จะชนกันมากขึ้นจะมอี ัตราการ เกิดปฏกิ ริ ิยาเร็วขึ้น
แบบฝก หดั หลังเรียน https://docs.google.com/docume nt/d/1t9q-lcmExYyUpGhbP_tK8 DaIPFujjJvA7PsLzsRnSvw/edit
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: