สมยั อยุธยา พ.ศ 1893-พ.ศ.2310
อาณาจกั รอยุธยา เป็ นอาณาจักรของชนชาตไิ ทยในล่มุ แม่นา้ เจ้าพระยาในช่วง พ.ศ. 1893 ถงึ พ.ศ. 2310 มีกรุงศรี อยุธยาเป็ นศูนย์กลางอานาจหรือราชธานี ทง้ั ยงั มคี วามสัมพนั ธ์ทางการค้ากบั หลายชาติ เช่น จนี เวยี ดนาม อนิ เดยี ญ่ีป่ นุ เปอร์เซีย โปรตเุ กส สเปน เนเธอร์แลนด์ (ฮอลนั ดา) องั กฤษ และฝร่ังเศส ซ่ึงในช่วงเวลาหนง่ึ เคยสามารถขยายอาณาเขตประเทศราชถึงรัฐ ชานของพม่า อาณาจกั รล้านนา มณฑลยูนนาน อาณาจกั รล้านช้าง อาณาจักรขอม และคาบสมุทรมลายูในปจั จุบัน
กรุงศรีอยุธยาเป็ นเกาะซึ่งมแี ม่นา้ สามสายล้อมรอบ ได้แก่ แม่นา้ ป่ าสักทางทศิ ตะวนั ออก, แม่นา้ เจ้าพระยาทางทศิ ตะวนั ตกและทศิ ใต้ และแม่นา้ ลพบรุ ีทางทศิ เหนือ เดมิ ทบี ริเวณนไี้ ม่ได้มสี ภาพเป็ นเกาะ แต่สมเด็จพระเจ้าอ่ทู องทรงดาริให้ขุดคู เชื่อมแม่นา้ ท้งั สามสาย เพ่ือให้เป็ นปราการธรรมชาติป้องกนั ข้าศึก ทต่ี ้ังกรุงศรีอยธุ ยายงั อยู่ห่างจากอ่าวไทยไม่มากนกั ทาให้กรุง ศรีอยธุ ยาเป็ นศูนย์กลางการค้ากบั ชาวต่างประเทศ และอาจถือว่าเป็ น \"เมืองท่าตอนใน\" เนื่องจากเป็ นศูนย์กลางเศรษฐกจิ ของ ภูมภิ าค มสี ินค้ากว่า 40 ชนิดจากสงครามและรัฐบรรณาการ แม้ว่าตัวเมืองจะไม่ตดิ ทะเลกต็ ามมีการประเมนิ ว่า ราว พ.ศ. 2143 มปี ระชากรประมาณ 300,000 คน และอาจสูงถึง 1,000,000 คน ราว พ.ศ. 2243 บางคร้ังมีผู้เรียกกรุงศรีอยุธยาว่า \"เวนสิ แห่ง ตะวนั ออก ปจั จุบันบริเวณนเี้ ป็ นส่วนหนง่ึ ของอาเภอพระนครศรีอยธุ ยา จังหวดั พระนครศรีอยุธยา
ลาดับเหตกุ ารสาคญั ในสมัยอยธุ ยา พ.ศ.1893 พ.ศ.1912 การสถาปนาอาณาจกั รอยุธยา พระราเมศวร ทรงขึ้นครองราชย์ พ.ศ.1921 พ.ศ.1977 พระมหาธรรมราชาที่ 2 กรุงสุโขทัยยอมเป็ นประเทศราชขน้ึ ต่อกรุงศรี สมเดจ็ พู ระบรมไตรโลกนาถเสดจ็ ขึ้นครองราชย์จากพระบิดา อยุธยา พ.ศ.2022 พ.ศ.2015 พระรามาธิบดที ่ี 2 ทรงโปรดฯ ให้สร้างพระวิหารวัดพระศรีสรรเพชญ์ข้นึ สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถเสดจ็ สวรรคต พระราชโอรสขนึ้ ครองราช สมบัติ ทรงพระนามว่าพระรามาธบิ ดที ่ี 2 พ.ศ.2059 พ.ศ.2041 ไทยเริ่มทาสัญญาให้พวกโปรตุเกส เข้าม้าทาการค้าขาย สมเดจ็ พระรามาธิบดที ่ี 2 ทรงทาตาราพชิ ยั สงครามขึ้นเป็ นคร้ังแรก
พ.ศ.2061 พ.ศ.2088 ทรงจดั ระเบยี บการปกครองฝ่ ายทหาร และกาหนดให้ชายฉกรรจ์ มี ทรงขดุ คลองลัด จากปากคลองบางกอกน้อย ถึงปากคลองบางกอก หน้าทรี่ บั ราชการต้งั แต่อายุ 18-60 ปี ใหญ่ แล้วเรียกคลองบางกอก พ.ศ.2091 พ.ศ.2112 ไทยเสียกรุงศรอี ยุธยา ให้แก่พระเจ้าบุเร่งนอง ในรชั สมยั สมเด็จพระมหิ พระมหาจกั รพรรดิ ชนช้างกบั พระเจ้าแปร นทราธิราช พ.ศ.2135 พ.ศ.2127 สมเดจ็ พระนเรศวร ทรงชนช้างกบั พระมหาอุปราชา ที่ยกทัพมาตี พระนเรศวรทรงประกาศอสิ ระภาพที่เมืองแครง กรุงศรอี ยุธยา พ.ศ.2228 พ.ศ.2230 พระวสิ ูตรสุนทร (โกษาปาน) เป็ นฑตู ไปฝรั่งเศส ไทยกบั องั กฤษ เกดิ พพิ าทกนั เร่ืองสินค้า สมเดจ็ พระนารายณ์ ประกาศสงครามกบั องั กฤษ
พ.ศ.2231 พ.ศ.2309 เจ้าพระยาวชิ าเยนทร์ถูกประหาร พระเพทราชาขบั ไล่ฝรงั่ เศสออก แต่ในที่สุดไม่สามารถต้านทานได้ พม่าเข้าล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้ นอกประเทศ พ.ศ.2310 เสียกรุ งให้พม่า พม่าเผาวงั และวดั
“โรงรับชาเราบุรุษ” ย่าน “ตลาดบ้านจนี ” สมัยพระเจ้าอ่ทู อง ปฐมกษัตริย์ของกรุงศรีอยุธยา มกี ล่าวถงึ หญิงนครโสเภณี ซ่ึงแสดงว่ามีการค้าประเวณเี กดิ ขึน้ ก่อนหน้าน้นั แล้ว พงศาวดารกรุงศรีอยธุ ยาฉบบั “คาให้การชาวกรุงเก่า” ซึ่งพระเจ้าองั วะได้ให้พระเจ้าอทุ ุมพรและข้าราชการ ผู้ใหญ่ของไทยทถ่ี ูกจบั เป็ นเชลยไปเม่ือคราวเสียกรุงใน พ.ศ.๒๓๑๐ ได้ลาดับเร่ืองราวของกรุงศรีอยธุ ยา จดบันทกึ ไว้ว่า “ มี ตลาดบนบกนอกกาแพงพระนครตามชานพระนครบ้าง ตามฝั่งฟากกรุงบ้าง ติดแต่ในรอบบริเวณขนอนใหญ่ทง้ั ๔ ทศิ รอบกรุง เข้ามาจนฟากฝั่งแม่นา้ ตามกรุง แลชานกาแพงกรุงน้นั ด้วย รวมเป็ น ๓๐ ตลาดคือ…ตลาดบ้านจีนปากคลองขุนละครไชย มีหญิง นครโสเภณีต้งั โรงอยู่ท้ายตลาด ๔ โรง รับจ้างทาชาเราแก่บรุ ุษ ตลาดนเี้ ป็ นตลาดใหญ่ใกล้ทางเรือแลทางบก มีตกึ กว้างร้านจีน มาก ขายของจีนมากกว่าของไทย มีศาลเจ้าจนี ศาลหน่ึงอยู่ท้ายตลาด ๑”
สมยั ธนบรุ ี พ.ศ. 2310 - พ.ศ. 2325
เป็ นอาณาจกั รทมี่ ีระยะเวลาส้ันทส่ี ุดของไทย คือระหว่าง พ.ศ. 2310–2325 ระยะเวลา 15 ปี มีพระมหากษัตริย์ ปกครองเพียงพระองค์เดยี ว คอื สมเดจ็ พระเจ้ากรุงธนบรุ ี ภายหลงั อาณาจักรอยุธยาล่มสลายไปพร้อมกบั การเสียกรุงศรีอยุธยา คร้ังทสี่ อง ทว่า ในเวลาต่อมา สมเดจ็ เจ้าพระยามหากษตั ริย์ศึกได้ปราบดาภิเษกขนึ้ เป็ นพระมหากษัตริย์ และทรงย้ายเมืองหลวง ไปยงั ฝัง่ ตะวนั ออกของแม่นา้ เจ้าพระยา คอื กรุงเทพมหานครในปัจจบุ นั
ลาดับเหตกุ ารสาคญั ในสมยั ธนบุรี พ.ศ. 2310 พ.ศ. 2311 พระยาวชิรปราการ ทรงกอบก้เู อกราชคร้ังที่ 2ให้กบั กรุงศรอี ยุธยาได้ เรมิ่ ปราบชุมนุมเจ้าพระยาพษิ ณุโลก แต่ไม่สาเรจ็ ปราบชุมนมุ เจ้าพมิ าย สาเรจ็ และทาพธิ ปี ราบดาภเิ ษกเป็ นพระมหากษตั ริย์ พระนามว่า สาเรจ็ เป็ นชุมนุมแรก สมเดจ็ พระบรมราชาท่ี 4 ขณะมพี ระชนมายุได้ 33 พรรษา และ สถาปนา กรุงธนบุรเี ป็ นราชธานใี หม่แทนกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2314 พ.ศ. 2314 ยกทัพไปตเี ขมรคร้งั ที่ 2 และสามารถปราบเขมรไว้ในอานาจ นายสวน มหาดเลก็ แต่งโคลงยอพระเกยี รติพระเจ้ากรุงธนบุรี ปราบชุมนุมเจ้านครศรธี รรมราชสาเรจ็ ยกทพั ไปตีเขมรคร้งั แรกแต่ไม่ สาเร็จ พ.ศ. 2316 พ.ศ. 2315 รบชนะพม่าทีม่ าตเี ชยี งใหม่ คร้ังที่ 2 ทาให้เกดิ วรี กรรมพระยาพชิ ัยดาบหกั พม่ายกทพั มาตเี มอื งพชิ ัย คร้ังท่ี 1 แต่ไม่สาเร็จ
พ.ศ. 2317 พ.ศ. 2318 รบชนะพม่าท่ีบางแก้ว ราชบุรี พม่าถูกจบั และเสียชีวติ ไปมายมาก ไทยตี พม่ายกทัพใหญ่มาตีหวั เมอื งเหนอื แต่ไม่สาเร็จ ถูกจบั เป็ นเชลยหลายหมน่ื คน เมืองเชียงใหม่คร้งั ท่ี 2 ได้สาเรจ็ พ.ศ. 2321 พ.ศ. 2319 โปรดเกล้าฯให้สมเดจ็ เจ้าพระยามหากษตั ริย์ศึก กบั เจ้าพระยาสุรสีห์ไปตี พม่ายกทัพมาตเี มืองเชยี งใหม่แต่ไม่สาเรจ็ เวยี งจนั ทน์ได้อญั เชญิ พระแก้ วมรกตและพระบางมาไว้ที่ กรุงธนบุรี พระ แก้วมรกตประดษิ ฐ์ไว้ทวี่ ดั อรุณฯ ส่วนพระบางคนื ไปในรัชกาลท่ี 1 พ.ศ. 2323 พ.ศ. 2324 เกดิ จลาจลในเขมร โปรดฯให้สมเดจ็ เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกฯ เจ้าพระยาสุรสีห์ เจ้าฟ้ากรมขุนอนิ ทรพทิ กั ษ์ พระองค์เจ้าจุ๊ย ยกทพั ไปตี - ส่งทัพไปปราบจลาจลในเขมร กรุงกมั พูชา แต่ยงั ไม่ทนั สาเรจ็ กเ็ กดิ จลาจลในกรุงธนบุรีเสียก่อน หลวง - พระยาสรรค์เป็ นกบฏ สรวชิ ติ (หน) แต่งอเิ หนาคาฉนั ท์ พ.ศ. 2325 สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราชเสดจ็ สวรรคตเม่อื วันท่ี 6 เมษายน พ.ศ. 2325 กรุงธนบุรสี ิ้นสุดลง
สมยั รัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2325 – ปัจจบุ ัน
ราชอาณาจกั รรัตนโกสินทร์ เป็ นราชอาณาจกั รทสี่ ่ีในยุคประวตั ิศาสตร์ของไทย เริ่มต้งั แต่การย้ายเมืองหลวงจาก ฝงั่ กรุงธนบรุ ี มายงั กรุงเทพมหานคร ซ่ึงต้ังอยู่ทางตะวนั ออกของแม่นา้ เจ้าพระยา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลก ปฐมกษตั ริย์แห่งราชวงศ์จกั รี เสดจ็ ขึน้ ครองราชสมบตั ิ เมื่อวนั ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 สมัยนมี้ พี ฒั นาการทางเศรษฐกจิ และ สังคมทส่ี าคญั ด้วยการเพิม่ การค้ากบั ต่างประเทศ การเลกิ ทาส และการขยายการศึกษาแก่ชนช้ันกลางทเ่ี กดิ ขนึ้
กษัตริย์สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รชั กาลที่1 พระบาทสมเดจ็ รัชกาลท่ี2 พระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลก พระบาทสมเดจ็ พระ มหาราช พทุ ธเลศิ หล้านภาลยั รชั กาลท่ี3 พระบาทสมเดจ็ พระนงั่ เกล้า รชั กาลที่4 พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้า เจ้าอยู่หวั เจ้าอยู่หวั รัชกาลท่ี 5 รชั กาลท่ี6 พระบาทสมเดจ็ พระ พระบาทสมเดจ็ พระ จลุ จอมเกล้าเจ้าอยู่หวั มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หวั
กษตั ริย์สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่7 รัชกาลที่8 พระบาทสมเดจ็ พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานนั ท พระปกเกล้าเจ้าอยู่หวั มหดิ ล รชั กาลท่ี9 พระบาทสมเดจ็ รชั กาลที่10 พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอ พระปรเมนทรรามาธิบดศี รีสิ ดุลยเดช นทรมหาวชริ าลงกรณ พระว ชิรเกล้าเจ้าอยู่หวั
ลาดับเหตกุ ารสาคญั ในสมยั รัตนโกสินทร์ พ.ศ.2325 พ.ศ.2327 ได้อญั เชิญเจ้าพระยามหากษตั ริย์ศึก ขน้ึ เถลงิ ถวลั ย์ราชสมบัติเป็ นพระเจ้า โปรดฯ ให้สร้างเทวสถานโบสถ์พราหมณ์เสาชิงช้า สร้างวดั พระศรีรัตน แผ่นดนิ ทรงพระนามว่า พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลก เป็ นปฐม ศาสดาราม (วดั พระแก้ว) และอญั เชญิ พระแก้วมรกตมาประดษิ ฐาน กษตั ริย์แห่งราชวงศ์จกั รี เม่ือเดือนมถิ ุนายน ในขณะมพี ระชนมายุได้ 45 พรรษา ทรงย้ายราชธานมี าอยู่บางกอก บนฝ่ังแม่นา้ เจ้าพระยาฟากตะวนั ออก พ.ศ.2329 ขนานนามว่า กรุงรัตนโกสินทร์ ทรงให้ขุดคลองบางลาพู หรือคลองโอ่งอ่าง เป็ นคพู ระนคร สร้างกาแพงเมือง และป้อมตามแนวคลองคเู มอื งใหม่ และต้งั เสียเกาะหมากให้องั กฤษ (เสียดนิ แดนคร้งั ที่ 1) เสาหลกั เมือง สร้างหอกลองข้ึนท่หี น้าวดั โพธ์ิ พ.ศ.2331 พ.ศ.2328 สงั คยานาพระไตรปิฎก นบั เป็นครง้ั ท่ี 9 เกดิ ศึก \" เก้าทพั \" ทีพ่ ม่ายกทัพเข้ามาทางด่านเจดยี ์สามองค์ พม่ายกทพั ลง ไปตีเมืองถลาง คุณหญงิ จนั ทร์ กบั น้องสาว ช่ือมุก รบพม่าป้องกันเมืองไว้ได้ ทรงต้งั คุณหญงิ จนั ทร์ เป็ นท้าวเทพกษัตรี และนางมุก เป็ นท้าวศรสี ุนทร
พ.ศ.2336 พ.ศ.2338 เสียมะริด ทะวาย และตะเนาศรี ให้องั กฤษ (เสียดนิ แดนคร้ังที่ 2) เชิญพระพุทธสิหงิ ค์จากเชยี งใหม่ มาไว้ท่วี งั หน้า หรือพพิ ธิ ภณั ฑ์ สถานแห่งชาติ พ.ศ.2347 พ.ศ.2350 ทรงต้งั ข้าราชการ และผู้รู้หลายท่านให้รวบรวม และชาระกฎหมาย ซึ่งกระจดั กระจายหายสูญไป ในคราวเสียกรุงศรีอยุธยา ประมาณ 9 ส่วน เหลือเพยี ง สร้างวัดสทุ ศั น์ ส่วนเดยี วน้นั ให้เรียบร้อยถูกต้องดงั่ เดมิ แล้วให้เขยี นไว้เป็ นลายลกั ษณ์อกั ษร ได้ใช้เป็ นระเบยี บราชการ มาจนถงึ รชั กาลที่ 5 คอื ทเ่ี รยี กกนั ในขณะนี้ คือ พ.ศ.2352 กฎหมายตราสามดวง (ตราราชสิงห์ คชสีห์ และบวั แก้ว) รัชกาลท่ี 1 เสดจ็ สวรรคต พ.ศ.2351 พ.ศ.2362 เชญิ พระศรีศากยมนุ ี จากเมืองสุโขทยั มาให้ประดษิ ฐานอยู่ใจกลางพระนคร ฉลองวดั อรุณราชวราราม เกดิ อหวิ าตกโรคระบาดคร้งั ใหญ่ โปรดให้ พ.ศ.2367 ประกอบพระราชพธิ ี อาพาธพนิ าศ สังคายนาสวดมนต์ โปรตุเกสต้ัง สถานกงศุลเป็ นแห่งแรก รชั กาลท่ี 2 เสดจ็ สวรรคต
พ.ศ.2368 พ.ศ.2369 เฮนรี่ เบอร์น่ี เข้ามาขอเจรจาทาสัญญาค้าขาย เจ้าอนุวงศ์เป็ นกบฎ กาเนดิ วรี กรรม ท้าวสุรนารี (คุณหญงิ โม) พ.ศ.2474 พ.ศ.2375 เกดิ นา้ ท่วมใหญ่ ทเ่ี รียกว่า นา้ ท่วมปี เถาะ เอด็ มนั ด์ โรเบิร์ด เข้ามาขอทาสัญญาการค้าไทย - อเมริกา เป็ นคร้งั แรก พ.ศ.2378 พ.ศ.2387 หมอบรัดเลย์ มาถึงไทยนาแท่นพมิ พ์หนงั สือ กบั ตัวพมิ พ์มาด้วย พวกมชิ ชันนารี ทาหนงั สือพมิ พ์ข่าวเป็ นภาษาไทยขึน้ เป็ นคร้งั แรก ใช้ช่ือ หนงั สือพมิ พ์ บางกอกรคี อเดอร์ พ.ศ.2392 พ.ศ.2400 เกดิ อหวิ าตกโรคระบาด ท่เี รยี กว่า ห่าลงปี ระกา มคี นล้มตายหลายหมน่ื คน ส่งฑตู ไปเจรญิ ทางพระราชไมตรี ยังประเทศองั กฤษ กาเนดิ พ.ศ.2394 เคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ์ รุ่นแรกของไทย เริม่ ออกหนงั สือราชกจิ จานเุ บกษา เรมิ่ สร้างกาป่ันรบกลไฟ เรม่ิ รัชกาลท่ี 4 เริ่มมกี ารสวมเสื้อ ในเวลาเข้าเฝ้า สตรใี นคณะมชิ ชันนารี เข้าไปสอนภาษา ในพระบรมมหาราชวงั
พ.ศ.2404 พ.ศ.2405 โปรดฯ ให้สร้างถนนเจริญกรุงตอนใต้ ทเ่ี รยี กว่า ถนนตก และถนนสีลม นางแอนนา เลยี วโนเวนส์ เข้ามารบั ราชการครู สอนภาษาองั กฤษ ในราช ในรัชกาลสมยั น้ี ได้เปลยี่ นใช้เงนิ ตราใหม่ เป็ นเงนิ เหรยี ญ ท้ังเงนิ บาท เงนิ สานกั สลงึ และเงนิ เฟ้ื อง กบั ทาเหรียญทองแดง อนั ละโสฬส อนั ละอฐั อันละซีก เรียกว่าไพ เป็ นเงนิ ย่อยแทนเบย้ี พ.ศ.2410 พ.ศ.2406 ต้งั เซอร์ จอห์นเบรงิ เป็ นเอกอคั รราชฑูตไทย ประจายุโรป โปรดฯ ให้สร้างถนนบารุงเมอื ง สร้างพระเจดยี ์ใหญ่ ซึ่งค้างต้งั แต่รัชกาล พ.ศ.2416 ท่ี 3 โดยให้สร้างฐานเป็ นภเู ขา แล้วสร้างพระเจดยี ์ไว้บนยอด เรยี กว่า พระบรมบรรพต (ภเู ขาทอง) และในปี นเ้ี รมิ่ มเี งนิ กระดาษออกใช้ รชั กาลท่ี 5 มพี ระชนมายุครบ 20 พรรษา เสดจ็ ออกทรงผนวช เมอ่ื ทรง ลาผนวช ทรงว่าราชการสิทธ์ขิ าดด้วยพระองค์เอง เลกิ ประเพณหี มอบ พ.ศ.2411 คลานเข้าเฝ้า ต้งั หอรษั ฎากรพพิ ฒั น์ การต้งั หอรษั ฎากรพพิ ฒั น์ เป็ นการ จดั การร่ัวไหลของภาษอี ากร ซึ่งพวกเจ้านาย และขุนนางบางคน มี เสดจ็ ทอดพระเนตร สุรยิ ุปราคามดิ ดวงทีห่ ว้ากอ เมอื งประจวบครี ขี นั ธ์ ผลประโยชน์จากภาษอี ากรน้ี และยงั เป็ นการรวบรวมเงนิ ของรัฐบาล พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั เสดจ็ ขนึ้ ครองราชย์ เพ่ือนาไปใช้ในการดาเนนิ การ ปฎิรูปการปกครอง
พ.ศ.2417 พ.ศ.2425 ต้งั สภาท่ปี รึกษาราชการแผ่นดนิ (Council of state) หรือรฐั มนตรสี ภา ฉลองพระนครครบรอบ 100 ปี เมอสิเออร์เดอร เลสเซป ท่ีขุดคลองสุ ประกอบด้วย เจ้านาย และขุนนางอาวโุ ส 20 คน และองคมนตรสี ภา (Privy เอช เข้าเฝ้าจะขอขุดคลองคอคอดกระ แต่ระงบั ไป Council) ตราพระราชบญั ญัตพิ กิ ดั เกษียน อายุลูกทาส ลกู ไทย พ.ศ.2430 พ.ศ.2429 ต้งั กรมศึกษาธกิ าร ต้งั กรมยุทธนาธิการ (กระทรวงกลาโหม) กาเนดิ สถาปนาสมเดจ็ เจ้าฟ้ามหาวชริ ุณหศิ เป็ น สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราช โรงเรยี นนายร้อยทหารบก สยามราชกมุ าร พ.ศ.2433 พ.ศ.2431 ประกาศใช้ศักราชใหม่ เรียกว่า \" รตั นโกสินทรศก \" เป็ นรัตนโกสินทร เสียแคว้นสิบสองจุไทยให้ฝรัง่ เศส (เสียดนิ แดนคร้ังท่ี 8) ศก 108 และใช้วนั ทางสุริยคติ ในทางราชการ พ.ศ.2435 พ.ศ.2436 ต้งั กระทรวงคร้ังใหญ่ 12 กระทรวง กาเนดิ โรงเรยี นฝึ กหดั ครูแห่งแรก ต้งั เปิ ดรถไฟเอกชนสายปากนา้ ฉลองพระไตรปิ ฎก ฉบบั พมิ พ์คร้งั แรก ต้งั ศาลโปริสภา ส่งนกั เรียนไปศึกษาวชิ าทหาร ในยุโรปรุ่นแรก มหามกุฎราชวทิ ยาลยั กาเนดิ สภาอุนาโลมแดง (สภากาชาดไทย)
พ.ศ.2437 พ.ศ.2442 สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหศิ สยามกุฎราชกมุ าร เร่มิ สร้างทางรถไฟสายใต้ และสร้างถนนราชดาเนนิ นอก ทวิ งคต โปรดให้สถาปนาเจ้าฟ้ามหาวชริ าวุธ เป็ นสยามมกุฎราชกมุ าร แทน พ.ศ.2449 พ.ศ.2448 ยกเมืองเสียมราฐ และเมอื งพระตะบอง เมอื งศรโี สภณ หรือมณฑล บูรพา ให้ฝรัง่ เศส แลกกบั เมืองตราด (เสียดนิ แดนคร้งั ที่ 12) โปรดฯ ให้เลกิ ทาส พ.ศ.2453 พ.ศ.2451 พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยู่หวั เสดจ็ ขึ้นครองราชย์ ยกเมืองไทรบุรี กลนั ตัน ตรังกานู และปะลสิ ให้องั กฤษ (เสียดนิ แดน คร้ังท่ี 13) ปี นไี้ ด้เริ่มใช้มาตราการเงนิ ใหม่ มอี ตั รา 1 บาท เท่ากบั 100 พ.ศ.2454 สตางค์ ทรงต้งั กองเสือป่ า และกองลกู เสือข้นึ ในปี นี้ ได้เกดิ กบฎ ร.ศ.130 ซึ่ง พ.ศ.2455 เป็ นกล่มุ ทีเ่ สนอ แนวทางปฏวิ ตั ิประชาธิปไตย ทรงพระกรุณาลดโทษ พวกกบฎเรื่อยมา จนในท่สี ุดได้ปล่อยจนหมด เปลย่ี นใช้ศักราชใหม่เป็ น \" พุทธศักราช \"
พ.ศ.2459 พ.ศ.2460 โปรดฯ ให้เลกิ หวย ก.ข. และปี ต่อมา โปรดฯ ให้เลกิ โรงบ่อนเบยี้ จนหมด ประกาศสงคราม เข้ากบั ฝ่ ายสัมพนั ธมติ รรบเยอรมนั เมื่อวนั ท่ี 22 กรกฎาคม และส่งทหารไปฝรั่งเศส ได้เปลยี่ นธงชาติ เป็ น ธงไตรรงค์ พ.ศ.2461 ในปี นไี้ ด้เกดิ นา้ ท่วมคร้ังใหญ่ขึ้น ทรงทาการทดลอง การปกครองแบบประชาธิปไตย โดยจดั ต้งั เมือง พ.ศ.2462 จาลองดสุ ิตธานี เป็ นนครประชาธิปไตยขึน้ มรี ัฐธรรมนญู และมสี ภา ไทยได้ร้องขอนานาประเทศ ให้เปลย่ี นแปลงสัญญาท่ที ากนั ไว้ ในเรื่องการ พ.ศ.2468 ศาล และเร่ืองภาษี ร้อยชักสาม เพือ่ ให้ไทยมอี สิ ระในการศาล และการภาษี อากร สหรัฐอเมรกิ าตกลงยินยอม แต่นานาประเทศในยุโรปยงั ไม่ได้ตกลง โปรดฯ ต้งั ดร.ฟรานซิส บี.แซร์ ชาวอเมรกิ นั ซ่ึงเป็ นท่ปี รึกษาราชการ ต่างประเทศ เป็ นพระยากลั ยาณไมตรี พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้า พ.ศ.2469 ฯ เสดจ็ สวรรคต รัชสมยั พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หวั ไทยมอี สิ ระเต็มท่ีใน ทางการศาล และการเกบ็ ภาษีอากร
พ.ศ.2475 พ.ศ.2477 พธิ ีฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ ท่ีต้งั มาครบรอบ 150 ปี และเปิ ดสะพาน สมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หวั สละราชสมบัติ ปฐมบรมราชานุสรณ์ วนั ที่ 24 มถิ ุนายน เปลยี่ นแปลงการปกครอง จาก รฐั สภาได้มมี ติอญั เชญิ พระวรวงศ์เธอ พระองค์ ระบอบสมบูรณาญาสิทธริ าช เป็ น ระบอบประชาธปิ ไตย โดยมี เจ้าอานนั ทมหดิ ล ข้ึนครองราชย์ พระมหากษตั ริย์ อยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2490 พ.ศ.2489 ทรงเจรญิ พระชนมพรรษาครบ 20 พรรษา รัฐบาลไทยจงึ กราบ รชั กาลที่ 8 เสดจ็ สวรรคตด้วยพระแสงปื น บงั คมทูตเชญิ เสดจ็ นวิ ตั พระนครเพอ่ื ประกอบพระราชพิธีบรม ราชาภเิ ษก แต่มพี ระราชประสงค์จะทรงศึกษาต่อจนสาเรจ็ พ.ศ.2493 การศึกษา เสดจ็ นวิ ตั พระนคร ประทับ ณ พระตาหนกั จติ รลคารโหฐานพระราชวงั พ.ศ.2494 คุสิต โปรดเกล้าๆให้ปรับปรุงพระตาหนกั จติ รลคารโหฐานให้เหมาะสมแก่ การเป็ นท่ีประทบั ถาวร ระหว่างน้นั ประทับ ณ พระทีน่ ง่ั อมั พรสถาน พระราชวงั ดสุ ิต
พ.ศ.2499 พ.ศ.2500 ทรงผนวชและจาพรรษา ณ วดั บวรนเิ วศวหิ าร ทรง ขบวนพุทธหยูหยาตราทางชลมารค ตามแนวพระราชดาริให้มกี าร ลาสิกขาวนั ท่ี 5 พฤศจกิ ายน 2499 ฟื้ นฟูและอนรุ กั ษ์รือพระราชพธิ ี พ.ศ.2502 พ.ศ.2503 สดจ็ พระราชคาเนนิ โดยขบวนพยุหยาตราน้อยทางชลมารคไปทรง ทรงฟื้ นฟูพระราชพธิ พี ืชมงคลจรคพระนงั คลั แรกนาขวญั บาเพญ็ พระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วดั อรุณราชวราราม พ.ศ.2512 พ.ศ.2509 กาเนดิ หน่วยแพทย์พระราชทาน พระราชทานพนั ธ์ุปลาจากบรเิ วณโครงการส่วนพระองค์สวนจติ รลคา แก่กรมประมง พ.ศ.2516 พ.ศ.2514 พระราชทานกระแสพระราชดารสั ทางโทรทศั น์ให้ประชาชนชาวไทย ร่วมมอื กนั แก้ไขปัญหาบ้านเมืองเพ่ือให้เกดิ ความสงบเรยี บร้อยโดย พระราชพธิ รี ชั ดาภเิ ษก ฉลองสิรริ าชสมบตั ิครบ 25 ปี เร็ว
พ.ศ.2520 พ.ศ.2529 ทรงสดบั พระธรรมเทศนาของสมเดจ็ พระมหาวรี วงศ์ วคั ราชผาตกิ าราม ทรงเปิ ดโรงกลน่ิ แอลกอฮอล์ในสวนจติ รลคา คนั คว้าการแปรรูปผลผลติ เร่ือง พระมหาชนก เป็ นแรงบันคาลพระราชหฤทัยให้ทรงพระราชนพิ นธ์ ทางการเกษตร เพ่ือนา้ มาทาเช้ือเพลงิ ตามแนวพระราชดาริ รวมท้ังทด วรรณกรรมพทุ ธศาสนาเร่ือง พระมหาชนกในเวลาต่อมา ลองผสมแอลกอฮอล์ จนเปอร์เซนต์กบั นา้ มนั เบนซิน จนได้แก๊สโซฮอล์ พ.ศ.2531 พ.ศ.2534 กาเนดิ มูลนธิ ิชยั พฒั นา พระราชทานแนวพระราชดารแิ ก่เลขาธกิ ารมลู นิธชิ ยั พฒั นาให้ศึกษา ทดสอบการปลกู หญ้าแฝกเพื่อให้เกษตรกรนาไปใช้ประโยชน์ พ.ศ.2539 พ.ศ.2540 พระราชพธิ ีกาญจนาภเิ ษก และงานฉลองสิริราชสมบัตคิ รบ 50 ปี พระราชทานพระราชดารัสเรื่องเศรษฐกจิ พอเพยี ง พ.ศ.2549 พระราชพธิ ฉี ลองสิรริ าชสมบตั ิครบ 60 ปี
พ.ศ.2550 พ.ศ.2557 สานกั พระราชวงั ออกแถลงการณ์กรณีแพทย์ประจาพระองค์กราบ สานกั พระราชวงั ออกแถลงการณ์เร่ืองพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั เสด็จฯ บงั คมทูลเชญิ เสดจ็ พระราชคาเนนิ จากพระต่าหนกั จติ รลคารโหฐาน ไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบบั ที่ 1 ระบุว่า เมื่อวนั ท่ี 3 ตุลาคม 2557 พระราชวงั คสุ ิตไปยังโรงพยาบาลศิริราช เพ่อื ถวายตรวจพระพระ พระองค์ทรงมพี ระปร่อท (ไข้) สูงพบพระโลหติ มภี าวะตดิ เชื้อ จงึ กราบ วรกาย และขอพระราชทานให้ประทับทีโ่ รงพยาบาลเพ่ือถวายพระ บงั คมทูลเชิญไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราชเพื่อถวายการตรวจและ โอสถรักษาและสังเกตุพระอาการ ซ่ึงหลงั จากนพ้ี ระองค์ยงั ทรงมพี ระ ถวายการรักษาต่อไป อาการประชวรเร้ือรงั ต้องเสดจ็ แปรพระราชฐานมาประทบั ยงั โรงพยาบาลศิริราชอยู่บ่อยคร้ัง พ.ศ.2562 พ.ศ.2559 พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกเป็ นพระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษกสมเดจ็ พระ เจ้าอยู่หวั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูรเสดจ็ เถลงิ ถวลั ยราช สานกั พระราชวงั ออกประกาศ ความว่า \"พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทร สมบัติเป็ นพระมหากษตั ริย์แห่งประเทศไทยพร้อมท้ังเฉลมิ พระ มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช มหติ ลาธิเบศรามาธบิ ดี จกั รีนฤบคนิ ทรสยามนิ ท ปรมาภไิ ธย พระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หวั พระมหากษัตรยิ ์ ราธิราช บรมนาถบพติ รเสดจ็ สวรรคต ณ โรงพยาบาลศิรริ าช ด้วยพระ รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จกั รี อย่างสมบูรณ์ตามโบราณราชประเพณี อาการสงบ สิริ ๙ ทรงพระชนมพรรษาปี ทีค่ รองราชสมบัตไิ ด้ ๗๐ ปี \" พ.ศ.2563 มีการประท้วงในที่สาธารณะเพ่อื ให้ปฏริ ูปสถาบันพระมหากษัตรยิ ์และ จากดั พระราชอานาจ
“ สานักโคมเขียว ” สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ได้เปิ ดประเทศต้อนรับชาวตะวนั ตก มกี ารจดั ระเบียบต่างๆตามแบบตะวนั ตก เร่ิมมกี ารจดทะเบยี นหญิงนครโสเภณขี ึน้ เป็ นคร้ังแรกในรัชกาลนี้ พร้อมกบั มีการเกบ็ ภาษกี ารค้าประเวณีตามธรรมเนยี ม แต่เรียกว่า “ภาษีบารุงถนน” เพื่อนาเงนิ ไปตดั ถนนทเ่ี ร่ิมมีในรัชกาลนสี้ มัยรัชกาลที่ ๕ บ้านเมืองเจริญขนึ้ มาก คนหลายชาติหลายภาษาต่าง หลงั่ ไหลเข้ามา โสเภณตี ่างชาติเลยเข้ามาด้วยเป็ นขบวน ผลกค็ ือชายไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เป็ น “โรคบรุ ุษ” หรือ “กามโรค” กนั ครึ่งค่อนเมือง จงึ ได้ตรา “พระราชบัญญตั ิป้องกนั สัญจรโรค” ขนึ้ ประกาศใช้ในวนั ท่ี ๑ เมษายน ๒๔๕๑ แต่กใ็ ห้ใช้เฉพาะ กรุงเทพฯเท่าน้นั ในสมยั รัชกาลท่ี ๖ จงึ ประกาศใช้ทกุ มณฑลทกุ จังหวดั เม่ือวนั ท่ี ๑ ตลุ าคม ๒๔๕๖เพ่ือควบคมุ ดูแลและตรวจโรคให้ หญงิ โสเภณีเป็ นประจา พร้อมกาหนดให้ดูแลความสะอาดและความเป็ นระเบียบเรียบร้อยของสานักไว้หลายข้อ แต่เจา้ พนกั งานเอา โคมทม่ี กี ระจกสีเขยี วเป็ นรูปพัดด้ามจิว้ มาเป็ นตวั อย่างจนได้ฉายาว่า “สานักโคมเขียว”
“อาบอบนวด” ในยคุ ปจั จบุ ัน ในยคุ ปัจจบุ นั เป็ นสถานบริการประเภทหนาึ งทม่ี พี นักงานนวดไว้บริการลูกค้า เมื่อลูกค้าเข้าไปภายในจะมตี ู้กระจกซ่ึงมี พนักงานตดิ เบอร์น่งั อยู่ อนั เป็ นทมี่ าของเพลงนางงามตู้กระจก ด้านหน้าจะมบี ริการทเ่ี รียกว่า คนเชียร์แขก คอยแนะนา เพื่อเลือก พนักงาน แล้วขึน้ ห้องเพื่อรับบริการ การเปิ ดสถานบริการอาบอบนวดในประเทศไทย ถูกจัดให้อยู่ในส่วนของสถานบริการทวั่ ไป ไม่ ผดิ กฎหมาย แต่มักจะมกี ารค้าประเวณแี อบแฝงบ้าง เรียกได้ว่าเป็ นอาชีพดึกดาบรรพ์ของโลกเลยกว็ ่าได้
Search
Read the Text Version
- 1 - 29
Pages: