องค์การ คือ กล่มุ บุคคล แต่เปน็ กลมุ่ ที่ค่อนขา้ งใหญ่ และมลี กั ษณะ เฉพาะที่มีจุดมุ่งหมายในการดาเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งโดยกลุม่ บคุ คล น้ีจะมสี ่ิงยึดเหนย่ี วรว่ มกัน และร่วมแรงร่วมใจกนั ทางานเพอ่ื บรรลุ เปา้ หมายท่ไี ด้วางไว้ องคก์ ารจึงมลี กั ษณะดังน้ี
1. องค์การเปน็ รูปแบบของการรวมบคุ คล 2. มคี วามสัมพนั ธท์ ี่จะทากจิ กรรมอยา่ งใดอย่างหนงึ่ ร่วมกัน 3. มกี ารแบง่ งาน จัดสรรหนา้ ทีใ่ ห้สมาชกิ ในองค์การ 4. มโี ครงสรา้ งขององการในลักษณะของการบังคบั บัญชา 5. มกี ารยอมรับในสังคม ตามระเบยี บแบบแผน ประเพณี หรือกฎหมาย
ทฤษฎอี งคก์ ารอาจแบ่งได้เป็น 3 ทฤษฎดี ้วยกันคือ 1. ทฤษฎดี ้งั เดิม (Classical organization theory) 2. ทฤษฎสี มัยใหม่ (Neo-Classical organization theory) 3. ทฤษฎีสมยั ปจั จุบัน (Modern organization theory)
ประเภทขององคก์ าร (Types of Organization) ในการแบง่ ประเภทขององคก์ ารน้ัน ข้ึนอยกู่ บั จดุ มงุ่ หมายขององค์การว่าเป็น อยา่ งไร ซง่ึ มลี กั ษณะการดาเนนิ งานที่แตกตา่ งกนั สามารถแบ่งประเภทองค์การได้ ดงั นี้ 1. การแบง่ องค์การตามความตอ้ งการของบุคคล 2. การจาแนกองค์การโดยยดึ โครงสรา้ ง แบ่งออกเป็น 2 แบบ 3. การแบง่ องคก์ ารตามจุดมุ่งหมายขององค์การ
หลกั การจัดองคก์ าร หลกั การจดั องคก์ าร OSCAR ของ Henri Fayol มาจากคาวา่ Objective, Specialization, Coordination, Authority และ Responsibility ซง่ึ Fayol ได้ เขยี นหลกั ของการจดั องคก์ ารไว้ 5 ข้อ เมื่อนาเอาตวั อักษรตัวแรกของคาทัง้ 5 มา เรียงต่อกนั จะทาให้สะกดไดค้ าวา่ OSCAR
กระบวนการจดั องค์การ (Process of Organizing) ประกอบด้วย กระบวนการ 3 ข้นั ตอน ดังน้ี 1. พจิ ารณาแยกประเภทงาน จดั กลมุ่ งาน และออกแบบงานสาหรบั ผ้ทู างานแต่ ละคน (Identification of Work & Grouping Work) 2. ทาคาบรรยายลักษณะงาน (Job Description & Delegation of Authority & Responsibility) 3. จดั วางความสัมพนั ธ์ (Establishment of Relationship)
การจัดโครงสร้างขององคก์ าร (Organization structure) การจัดโครงสร้างขององคก์ ารมหี ลายแบบ ซงึ่ แต่ละแบบกม็ ขี ้อดขี ้อเสยี ในตวั ของมนั เอง ฉะน้ัน การท่ผี ้บู ริหารจะวางแนวในการจัดโครงสร้างน้ัน อาจจะตอ้ งพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจยั ดว้ ยกัน อย่างไรกต็ ามการจัดโครงสรา้ งขององค์การสามารถแบ่งแยกออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภทดังน้ี 1. โครงสร้างองคก์ ารตามหนา้ ท่กี ารงาน (Functional Organization Structure) 2. โครงสรา้ งองค์การตามสายงานหลัก (Line Organization Structure) 3. โครงสร้างองคก์ ารแบบคณะทปี่ รึกษา (Staff Organization Structure) 4. โครงสรา้ งองค์การแบบคณะกรรมการบริหาร (Committees Organization Structure) 5. โครงสร้างองค์การงานอนกุ รม (Auxiliary)
การจัดแผนกงาน (Department) การจดั แผนกงาน หมายถึง การรวมกลมุ่ กจิ กรรมต่าง ๆ เขา้ ดว้ ยกัน โดยการรวมกิจกรรมที่ คลา้ ยกัน และเหมาะสมทีจ่ ะนามาปฏิบัติ ในกลุม่ เดียวกันเขา้ ไว้ดว้ ยกนั เปน็ กลมุ่ แผนก หรอื หนว่ ยงาน
อานาจหน้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบ (Authority and Responsibility) การจัดแผนกงาน หมายถึง การรวมกลมุ่ กิจกรรมต่าง ๆ เข้าด้วยกนั โดยการรวมกิจกรรมท่ี คลา้ ยกนั และเหมาะสมท่ีจะนามาปฏบิ ตั ิ ในกลุ่มเดยี วกันเข้าไว้ด้วยกันเปน็ กลมุ่ แผนก หรือหน่วยงาน
อานาจหน้าที่และความรับผิดชอบ (Authority and Responsibility) ในการจดั องค์การจะสามารถจดั การไดอ้ ย่างเหมาะสม เม่ือมกี ารแบง่ งานกันตามหน้าทที่ ่ไี ด้รับ มอบหมาย และทกุ คนร้จู ักงานและหนา้ ทขี่ องตน ปฏบิ ตั ิงานภายในขอบเขตทอ่ี งค์การมอบหมายมา แต่ งานท่ดี าเนินการจะสามารถสัมฤทธ์ิผลไดก้ ็ต่อเมื่อผู้บริหารที่มีอานาจในการมอบหมายอานาจหนา้ ทนี่ ้นั จะตอ้ งกาหนดความรับผิดชอบของบคุ คลแต่ละคนในการปฏิบตั งิ านอกี ดว้ ย
การมอบหมายงาน (Delegation การมอบหมายงาน หมายถงึ การทผ่ี ู้บงั คับบญั ชาไดก้ าหนดความรับผิดชอบและอานาจหนา้ ท่ี (Assignment of Responsibility and Authority ) หรือเป็นการกระจายงานในหนา้ ท่ี ความ รับผิดชอบ (Responsibility) และใหอ้ านาจในการตดั สินใจ (Authority) ภายในขอบเขตท่ีกาหนดให้ ผู้รว่ มงานหรือผูใ้ ต้บงั คบั บญั ชาไปปฏิบตั ิ
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: