ใบความรู้ เร่ือง การวัดมมุ ดาว ในการวัดระยะห่างของดวงดาวและวัตถุท้องฟ้านั้น เราไม่สามารถวัดระยะห่างออกมาเป็นหน่วยเมตร หรือกิโลเมตรได้โดยตรงถ้า เราไม่ทราบว่าวัตถุเหล่าน้ัน อยู่ห่างจากเราเป็นระยะทางเท่าไร ดังนั้นการวัด ระยะทางดาราศาสตร์ จึงนิยมวัดออกมาเป็น ระยะเชิงมุม (Angular distance) ตัวอย่างเช่น เราบอกว่า ดาว A อยู่ห่างจาก ดาว B เป็นระยะทาง 5 องศา หรือบอกว่าดวงจันทร์มีขนาดกี่องศา ซ่ึงเป็นการบอกระยะห่าง และขนาดเปน็ เชงิ มมุ ทั้งสนิ้ 1. ระบบพกิ ดั ขอบฟา้ พิกัดขอบฟา้ (Horizontal coordinates) เป็นระบบพกิ ดั ซึ่งใช้ในการวัดตาแหนง่ ของวตั ถุท้องฟา้ โดย ถอื เอาตัวของผูส้ ังเกตเป็นศนู ยก์ ลางของทรงกลมฟา้ โดยมีจุดและเส้นสมมติบนทรงกกลมฟ้า แสดงในรูปท่ี1 ทิศทั้งส่ี ประกอบด้วย ทิศเหนือ (North) ทศิ ตะวันออก (Earth) ทิศใต้ (South) ทิศตะวันตก (West) เม่อื หันหนา้ เข้าหาทิศเหนือ ด้านหลงั เปน็ ทศิ ใต้ ซ้ายมือเปน็ ทิศตะวันตก ขวามอื เป็นทิศตะวันออก จดุ เหนือศรี ษะ เป็นตาแหนง่ สงู สดุ ของทรงกลมฟ้า ซึ่งอยู่เหนือผู้สังเกต จุดใต้เท้า เปน็ ตาแหน่งตา่ สดุ ของทรงกลมฟา้ ซึ่งอยู่ใตเ้ ท้าของผสู้ ังเกต เสน้ ขอบฟา้ หมายถึง แนวเสน้ ขอบท้องฟา้ ซ่ึงมองเห็นจรดพืน้ ราบ หรืออกี นยั หนึ่งคือ เส้นวงกลมใหญ่ บนทรงกลมฟ้าท่ีอยหู่ ่างจากจุดเหนือศรี ษะ ทามมุ 90° กบั แกนหลักของระบบขอบฟา้ เสน้ เมอรเิ ดียน เปน็ เส้นสมมตบิ นทรงกลมฟ้าในแนวเหนือ-ใต้ ซง่ึ ลากผ่านจุดเหนือศีรษะ ภาพที่ 1 ระบบพกิ ัดขอบฟา้ ทมี่ า : http://www.lesa.biz. 2. การวดั มุมในระบบพิกดั ขอบฟา้ ประกอบดว้ ย มมุ ทิศ และ มุมเงย มมุ ทิศ (Alzimuth) เป็นมุมในแนวราบ ซง่ึ วัดจากทิศเหนอื (0° ) ไปตามเสน้ ขอบฟา้ ในทศิ ตามเข็มนาฬกิ า ไปยงั ทิศตะวนั ออก (90°) ทิศใต้ (180°) ทิศตะวันตก (270°) และกลับมาที่ทศิ เหนือ (360°) อกี ครง้ั หนึง่ ดังน้ัน มุมทิศจึงมีคา่ ระหว่าง (0° - 360°)
มุมเงย (Altitude) เป็นมุมในแนวดิ่ง ซึ่งนับจากเส้นขอบฟ้า (0°) สูงข้ึนไปจนถึงจุดเหนือศีรษะ (90°) ดังน้ันมมุ ทศิ จงึ มีค่าระหวา่ ง (0° - 360°) ดงั นั้นมุมเงยจงึ มคี ่าระหวา่ ง (0°90°) ภาพที่ 2 การวดั มมุ ทศิ -มมุ เงย ที่มา : http://www.lesa.biz. 3. การวดั ระยะเชงิ มุม ในการวดั ระยะเชิงมมุ ถา้ ต้องการค่าที่ละเอยี ดและมีความแม่นยา จะตอ้ งใช้อปุ กรณ์ท่ีมีความซับซ้อนมากใน การวัด แต่ถ้าต้องการเพียงค่าโดยประมาณ เราสามารถวัดระยะเชิงมุมได้โดยใช้เพียงมือและน้ิวของเราเอง เท่านน้ั เช่น ถ้าเรากางมือชูน้ิวโป้งและนิ้วก้อย โดยเหยียดแขนให้สุด ความกว้างของน้ิวท้ังสองเทียบกับมุมบน ท้องฟ้า จะได้มุมประมาณ 18 องศา ถ้าดาวสองดวงอยู่ห่างกันด้วยความกว้างนี้แสดงว่า ดาวทั้งสอง อยูห่ ่างกัน 18 องศาดว้ ย ภาพท่ี 3 : ขนาดเชงิ มุมโดยประมาณ เม่อื เหยยี ดแขนสุด ทีม่ า : http://www.fortworthastro.com/beginner1.html
นิ้วกอ้ ย : 1 องศา นิ้วชี้-น้ิวกลาง-นว้ิ นางเรียงตดิ กนั : 5 องศา กาปนั้ : 10 องศา น้วิ ชี้กับนวิ้ กอ้ ย (กางใหห้ ่างที่สุด) : 15 องศา นว้ิ โป้งกับนิว้ กอ้ ย (กางใหห้ า่ งที่สุด) นนั่ คอื ทามือแบบ “คาราบาว” : 22 องศา ในการวดั จริงมกั ต้องเพม่ิ เติมขนาดมมุ เข้าไปเสรมิ เชน่ หากดาว 2 ดวง อยู่ห่างกัน 7 องศา ก็อาจแยกเป็น 5 องศา (น้วิ ช้ี-น้วิ กลาง-นิว้ นาง)บวกเพ่ิมเปน็ 2 องศา (นิว้ กอ้ ยอกี 2 น้วิ ) เป็นตน้ ภาพท่ี 4 การวัดขนาดเชงิ มุม 1 องศา (ซ้าย) และ 22 องศา (ขวา)
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: