เอกสารประกอบการเรยี นวชิ า เครอื่ งปรบั อากาศรถยนต์ เร่อื ง การทำงานแอรร์ ถยนต์ จดั ทำโดย นาย ภัทรดนัย เดชนวุ ัฒนชยั รหสั 63040146 นาย ดิษฐพงษ์ ศริ ิโกง่ ธนู รหัส 63040319 นสิ ิตชน้ั ปีท่ี 1 สาขาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั บรู พา
หลักการทำงานของระบบการทำความเยน็ ในเคร่อื งปรบั อากาศรถยนตเ์ ปน็ ระบบทำความเย็นแบบอัดไอ (Vapor compression system) โดย คอมเพรสเซอร์แอร์ (Compressor) มลี ำดบั ข้ันตอนการทำงานดงั น้ี คอมเพรสเซอรแ์ อรจ์ ะดูดสารทำความเยน็ จากคอยลเ์ ยน็ (Evaporator) ทม่ี สี ถานะเปน็ แก๊ส เม่อื สารทำความเย็นผ่านคอมเพรสเซอรจ์ ะที่มอี ณุ หภูมแิ ละความดนั เพมิ่ สงู ข้ึน ส่งต่อไปทแี่ ผงคอยลร์ ้อน (Condenser) เพ่ือลดอุณหภมู ิให้ต่ำลง เปลี่ยนสถานะจาก แก๊สเปน็ ของเหลว จากนนั้ สารทำความเย็นจะไหลต่อไปยงั ดรายเออร์ (Receiver/dryer) เพื่อกรองสง่ิ สกปรกและความช้นื ท่ปี นเปื้อน ในสารทำความเย็น กอ่ นสง่ ต่อไปยงั วาลว์ แอร์ วาล์วแอร์ (Expansion valve) จะฉีดสารทำความเยน็ เป็นฝอยละอองเข้าไปในคอยลเ์ ย็น (Evaporator) ทำใหส้ าร ทำความเยน็ มคี วามดันตำ่ และดดู ความรอ้ นจากภายนอกโดยโบวเ์ ออร์ เพื่อให้ตัวมันเองมสี ถานะกลายเปน็ แกส๊ ทำ ใหอ้ ณุ หภมู ภิ ายนอกลดลง หลงั จากนนั้ สารทำความเยน็ ทเ่ี ปน็ แกส๊ จะถกู ดูดเขา้ ไปในคอมเพรสเซอร์แอร์ (Compressor) เพอ่ื เร่ิมตน้ การทำงาน ใหม่อีกครัง้ ระบบปรับอากาศรถยนต์
สว่ นประกอบของเคร่อื งปรับอากาศรถยนต์ 1. คอมเพรสเซอร์ (Compressor) เปน็ อปุ กรณท์ ่ดี ดู สารทำความเยน็ จากคอยลเ์ ย็นและเพมิ่ แรงดนั ใหส้ ารทำความ เยน็ ก่อนสง่ ไปยงั คอยลร์ ้อน โดยมีความดนั มากกว่า14.1กก./ตร.ซม. คอมเพรสเซอรแ์ บง่ ออกเป็น 3 ชนดิ คอื แบบรซี โิ พรเคตง้ิ (Reciprocating type) แบบสวอชเพลต (Swash plate type) แบบเวนโรตารี (Vane rotary type) คอมเพรสเซอร์ แบบรซี โิ พรเคติง้ (Reciprocating type)
แบบสวอชเพลต (Swash plate type) แบบเวนโรตารี (Vane rotary type)
2.แผงคอยล์รอ้ นหรอื คอนเดนเซอร์ (Condenser) ทำหน้าทรี่ ะบายความรอ้ น ทำใหส้ ารทำความเยน็ อณุ หภมู ติ ำ่ ลง เปล่ยี นสถานะจาก แกส๊ เป็นของเหลว คอนเดนเซอร์/แผงคอยล์รอ้ น พดั ลมเป่าแผงคอยลร์ ้อน
3.ดรายเออร์หรอื รีซีฟเวอร์ (Receiver/dryer) ทำหน้าทกี่ รองสง่ิ สกปรกและดูดความชื้นจากระบบ ถา้ สารทำความ เย็นมีความชน้ื ปนอยู่จะทำใหเ้ กิดการกัดกร่อนช้นิ ส่วนต่างๆ ในระบบและจะกลายเป็นนำ้ แข็งในคอยลเ์ ยน็ ทำใหส้ าร ทำความเยน็ ในระบบไหลไมส่ ะดวก รีซฟี เวอร์/ดรายเออร์ 4. วาลว์ แอรห์ รือเอ็กซ์แพนช่ันวาล์ว (Expansion valve) เป็นลิ้นควบคุมอตั ราการไหลของสารทำความเย็นท่ีไหล ไปยงั คอยลเ์ ย็นให้มากหรอื น้อย ตามต้องการซงึ่ จะควบคมุ โดยอปุ กรณเ์ ทอรโ์ มทที่ ่อทางออกของคอยล์เย็น วาล์วแอร์ แบง่ ออกเป็น 3 ชนิด คอื • วาลว์ แอรแ์ บบกำลงั ดันคงท่ี (Constant pressure expansion valve) • วาล์วแอรแ์ บบใช้ความร้อน (Thermal expansion valve) ปกตจิ ะใช้วาลว์ แอร์ชนิดนี้ • วาลว์ แอร์แบบลูกลอย (Float valve) เอก็ ซแ์ พนช่ันวาล์ว/วาล์วแอร์
5. คอยลเ์ ย็นหรอื อีวาโปเรเตอร์ (Evaporator) เปน็ อปุ กรณท์ ที่ ำใหส้ ารทำความเย็นเปล่ยี นสถานะกลายเปน็ แกส๊ สารทำความเย็นจะดูดความรอ้ นจากอากาศโดยรอบโดยมมี อเตอรโ์ บวเ์ ออรเ์ ป็นตัวชว่ ยเปา่ อากาศ ทำใหอ้ ุณหภมู ิ ของอากาศท่ถี กู เป่าเขา้ ไปในหอ้ งผู้โดยสารเยน็ ลง มอเตอร์โบวเ์ ออร์/Air car blower คอยล์เย็นแบง่ ออกเปน็ 2 แบบ คอื • แบบแผ่นครีบรอบทอ่ (Plate fin type) • แบบแผน่ ทอ่ วกวน (Serpentine type) อีวาโปเรเตอร์/คอยลเ์ ยน็
ท่อทางสารทำความเย็น ประกอบด้วยท่อตา่ งๆ ดงั นี้ 1.ท่อทางดดู Suction Line (สายใหญ)่ ตอ่ อยรู่ ะหวา่ งทางดูดของคอมเพรสเซอร์กบั ทางออกอวี าโปเรเตอร์ สารทำ ความเยน็ มีสถานะเปน็ แกส๊ ความดันและอุณหภมู ติ ำ่ ไหลผ่านท่อน้ี 2. ทอ่ ทางอัด Discharge Line (สายกลาง) ตอ่ อยรู่ ะหวา่ งทางอัดของคอมเพรสเซอร์กบั ทางเขา้ คอนเดนเซอร์ สาร ทำคามเย็นมสี ถานะเป็นแกส๊ ความดันและอุณหภมู สิ ูงไหลผ่านท่อนี้ 3.ทอ่ นำ้ ยาเหลว Liquid Line ตอ่ อยรู่ ะหวา่ งทางออกคอนเดนเซอร์เขา้ ทางรซี ฟี เวอรด์ รายเออร์ และทางออกรซี ีฟ เวอรค์ รายเออรเ์ ข้าทางเอก็ ซ์แพนชั่นวาล์ว สารทำคามเย็นมสี ถานะเป็นของเหลวไหลผ่านท่อน้ี สาเหตทุ ี่แอรร์ ถยนต์ไมเ่ ย็นเกดิ จาก 1.ฟวิ ส์และรเี ลย์ในวงจรเคร่อื งปรบั อากาศชำรุด และข้ัวตอ่ สายไฟตามจุดตา่ งๆ ตอ่ ไว้ไม่แนน่ 2. สวิตช์ความดนั สงู -ตำ่ ในระบบชำรุด หรอื ข้ัวต่อไม่แน่น ทำใหค้ อมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน ถา้ ความดนั ในระบบ สูงหรอื ตำ่ เกนิ ไป คอมเพรสเซอรก์ ็จะไมท่ ำงานเชน่ กัน จะชว่ ยปอ้ งกันไมใ่ หค้ อมเพรสเซอรแ์ อรเ์ สียหาย 3. คลตั ช์แม่เหลก็ ไม่ทำงาน หรอื สายไฟเขา้ คลัตช์แมเ่ หลก็ ขาด 4. สายพานแอรห์ ยอ่ นเกนิ ไปหรอื ขาด ทำใหค้ อมเพรสเซอรห์ มุนชา้ หรอื ไมห่ มุน 5. พัดลมไฟฟา้ ของแอร์ไมท่ ำงานหรือหมุนช้า ทำใหค้ วามรอ้ นทค่ี อนเดนเซอร์ (คอยลร์ อ้ น) สงู สาเหตุอาจเกดิ จาก แบตเตอรมี่ ีไฟไมพ่ อหรอื ตัวมอเตอร์พดั ลมแอรเ์ รม่ิ เส่อื มสภาพ 6. มเี ศษผงหรอื ส่ิงสกปกติดอยู่ที่ด้านหนา้ คอนเดนเซอรแ์ อร์ ควรใชล้ มท่ีมคี วามดันไมเ่ กนิ 10 ปอนด์ต่อตารางน้วิ เปา่ ทำความสะอาด อยา่ ใชล้ มทมี่ คี วามดันสูงกว่านีเ้ พราะอาจทำใหค้ รีบทค่ี อนเดนเซอรแ์ อรบ์ ดิ งอ 7. ตัวเอก็ ซแ์ พนช่ันวาลว์ เสยี หรอื เสอื่ มสภาพ ทำใหค้ อมเพรสเซอร์แอร์ตดั -ต่อบอ่ ยเกินไป 8. ตัวรซี ฟี เวอร์-ดรายเออรเ์ สื่อมสภาพ ท่ีด้านบนจะมกี ระจกใสเพื่อตรวจดูนำ้ ยาแอรว์ า่ มเี พียงพอหรือไม่ ถ้ากระจก ใสหรือมีฟองอากาศเล็กนอ้ ยแสดงวา่ ปกติ
9. นำ้ ยาแอรร์ ่วั ซึมตามจุดตา่ งๆ เชน่ บริเวณข้อตอ่ รั่วทซ่ี ีลโอริง รั่วทคี่ อนเดนเซอร์ (คอยลร์ อ้ น) ร่วั ทบ่ี รเิ วณใต้ตู้ แอร์ เน่อื งจากมีน้ำขงั อยูภ่ ายในตู้ทำใหเ้ กิดการผุกรอ่ น ปจั จบุ ันตู้แอรส์ ว่ นมากทำดว้ ยอะลมู เิ นยี ม ถ้ามีน้ำขงั อยจู่ ะ ทำใหต้ ูแ้ อรร์ ่วั ไดง้ ่าย 10. คอมเพรสเซอร์แอร์เส่ือมสภาพ (น้ำยาแอร์รว่ั ตามจดุ ต่างๆ เป็นสาเหตหุ น่งึ ท่ีทำใหแ้ อรไ์ มเ่ ย็น จุดที่น้ำยาแอร์ร่ัวบอ่ ยไดแ้ ก่ตู้แอร์ เน่อื งจากมนี ำ้ ขงั อยู่ วธิ ีตรวจว่าระบบปรบั อากาศรถยนตท์ ำงานปกตหิ รือไม่ ทำไดโ้ ดยติดเครอื่ งยนต์และเปดิ แอร์ ใช้มอื จับทท่ี อ่ ดดู จะ เย็นหรือบางทีมนี ำ้ เกาะ ส่วนทท่ี ่อจ่ายจะรอ้ น ถา้ เป็นแบบนแ้ี สดงวา่ ระบบปรบั อากาศทำงานตามปกต)ิ วธิ กี ารตรวจซ่อมและบำรุงรกั ษาแอร์รถยนต์ 1.ควรตรวจเชค็ ระบบแอร์ของคุณเอง ว่ามอี าการเย็นไหม หรือแอรม์ ีกลนิ่ เหม็นหรือเปล่า 2.ตรวจเชค็ ท่ีศนู ยบ์ รกิ ารท่ีได้มาตรฐานทุกๆ 3-6 เดอื น 3.ทำความสะอาดภายนอกทกุ สว่ น เชน่ ท่คี อยลร์ ้อนและคอยลเ์ ย็น โดยเฉพาะบริเวณครีบระบายความร้อนและ ความเยน็ ควรสะอาด เพราะถ้าคอยลร์ ้อนสกปรกจะทำไหก้ ารระบายความรอ้ นไมด่ ี และหากคอยล์เยน็ สกปรกการ ระบายความเย็นมาสเู่ ราจะไมส่ มบรู ณ์ 4.เชก็ ปรมิ าณน้ำยาแอรโ์ ดยดทู ี่ช่องกระจกท่ตี วั เกบ็ และดดู ความชนื้ (ไดเออร)์ ถ้าพบว่าเป็นฟองอากาศแสดงวา่ น้ำยานอ้ ยเกินไป ไห้ไปอดั น้ำยาเพม่ิ 5.ตรวจดวู า่ มรี อยรว่ั ของข้อต่อต่างๆหรอื ไม่ โดยใชน้ ำ้ สบหู่ รอื ฟองสบเู่ ช็ดตามข้อตอ่ หากเกิดการรั่วซมึ จะพบวา่ มี ฟองอากาศเกิดข้ึนใหไ้ ปหาช่างแอรเ์ ชือ่ มอดุ รอยร่ัว 6. ตรวจฝาครอบทอ่ อดั นำ้ ยาท้ังสองด้าน ถ้าปดิ ไมส่ นิทจะทำไห้มีฝุ่นเกาะตดิ อดั น้ำยาครัง้ ตอ่ ไปจะทำไหน้ ้ำยาแอร์ สกปรกแลว้ ทำไห้ระบบอุดตนั ได้ กรณีแอรไ์ มเ่ ย็นอาจน้ำยาแอร์รั่ว หรอื บริเวณทอ่ อดุ ตนั วธิ ีตรวจดวู ่าร่ัวจุดใดให้ สงั เกตวา่ จดุ ตอ่ ตวั ไหนทม่ี คี ราบน้ำมนั เยมิ้ เกาะอยู่แสดงว่าเกดิ การร่วั ซมึ ใหน้ ำนำ้ สบมู่ าเชด็ ดอู กี คร้ังวา่ รั่วจริงหรอื ไม่ หากรว่ั ให้ขนั ขอ้ ต่อเขา้ ไปใหแ้ นน่ หากยงั ไมห่ ายใหเ้ ปลยี่ นสายท่ีขอ้ ต่อนัน้
แบบทดสอบหลงั เรียน คำชแ้ี จง เลอื กคำตอบท่ีถูกทส่ี ุด 1.ข้อใดคอื หนา้ ทขี่ องคอมเพรสเซอร์ ? ก. ดูดและอดั สารทำความเย็น ข. ดูดความชื้น ค. ระบายความรอ้ น ค. เก็บสารทำความเยน็ 2.อุปกรณ์ทีท่ ำหนา้ ท่ีกรองส่งิ สกปรกและดูดความชนื้ จากระบบทำความเย็นคือ ? ก. รซี ฟี เวอรด์ รายเออร์ ข. เอ็กแพนช่นั วาลว์ ค. อวี าปอเรเตอร์ ค. คอนเดนเซอร์ 3.อีวาปอเรเตอร์ มหี นา้ ทอ่ี ะไร ? ก.ลดความดนั ของารทำความเยน็ ข.เพม่ิ ความดันของสารทำคามเย็น ค.ดดู ความรอ้ นออกจากหอ้ งโดยสาร ง.เกบ็ สารทำความเย็น 4.สารทำความเย็นในคอมเพรสเซอรอ์ ยใู่ นสถานะใด ? ก.ของแข็ง ค.ของเหลว ค.แกส๊ ง.ผดิ ทุกข้อ 5.คอมเพรสเซอร์แบง่ ออกเปน็ ก่ีชนดิ ก. 2 ชนดิ ค. 3 ชนดิ ค. 4 ชนดิ ง. 5 ชนดิ 6.แผงคอยลร์ อ้ นทำหนา้ ทรี่ ะบายความร้อน ทำใหส้ ารทำความเย็นอณุ หภูมิต่ำลงเปลีย่ นสถานะจาก แกส๊ เป็น สถานะใด ? ก. ของเหลว ค. ของแข็ง ค. แกส๊ ง. ผดิ ทกุ ขอ้
7.ขอ้ ใดเปน็ สารตรวจสอบรอยรั่วในระบบปรบั อากาศรถยนต์ ก. น้ำมนั เคร่อื ง ค. น้ำมนั เชื้อเพลงิ ค. นำ้ สบู่ ง. น้ำยาหอ้ งนำ้ 8.ดรายเออร์ทำหน้าทอี่ ะไร ก. ดดู ความรอ้ นเข้าระบบ ค. กรองส่งิ สกปรกและดูดความชื้นจากระบบ ค. ระบายความร้อน ง. เป็นลิน้ ควบคุมอตั ราการไหลของสารทำความเยน็ 9.คอยล์เยน็ แบ่งออกเปน็ กีช่ นิด ก. 4 ชนิด ค. 5 ชนดิ ค. 3 ชนดิ ง. 2 ชนิด 10.จากรปู คอื อุปกรณอ์ ะไร ก.คอยลร์ อ้ น ค. คอยล์เย็น ค.ดรายเออร์ ง. อีวาปอเรเตอร์
แฉลยแบบฝึกหัด 1. ก 2. ก 3. ค 4. ค 5. ค 6. ก 7. ค 8. ค 9. ง 10. ก
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: