วิจยั ในชนั้ เรียน เร่ือง การศึกษาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนชนั้ ม. 6/1 รายวิชา ชีววิทยา เรื่อง มนุษยก์ บั ความยงั่ ยืนของทรพั ยากรธรรมชาติ โดยใช้การ เรียนร้แู บบร่วมมือ (กระบวนการกล่มุ G4) โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่ สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ
วจิ ัยในช้นั เรียน ชอ่ื เรอื่ ง การศกึ ษาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของนักเรยี นชน้ั ม. 6/1 รายวิชาชวี วทิ ยา เร่อื ง มนุษย์กบั ความย่ังยืนของทรัพยากรธรรมชาติ โดยใช้การเรียนรู้แบบ ร่วมมอื (กระบวนการกลมุ่ G4) ช่ือผู้วิจัย นางสาวจันจริ า ธนันชัย โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ภาคเรียน/ปีที่วิจยั 2/2563 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ทมี่ าและความสำคญั การเรียนการสอนวิชาชีววิทยาเพิ่มเติม 6 (ว 33206) ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 เนื้อหาสาระประกอบด้วย เร่ือง การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การจัดการเรียนการสอนเป็นไปตาม มาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สำหรับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน จากการจัดกระบวนการเรียนรู้และวัด ประเมินผลตามจุดประสงค์การเรียนรู้ พบว่านักเรียนช้ันม.6/1 ยังมีนักเรียนบางส่วน ยังไม่สามารถ สื่อสารที่ท่ีได้เรียนรู้ออกมาได้ ทำให้ผลการการเรียนของนักเรียนน้อย เพื่อช่วยปรับปรุงการเรียนการ สอนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งเพื่อแก้ไขปัญหาและระตุ้นให้นักเรียนกล้าแสดงความสามารถ มีการแลกเปล่ียนความคิดเห็น รู้จักการทำงานกลุ่มเกิดความสนุกสนานในการเรียน เพ่ือให้เกิด แรงจูงใจในการเรียน อันจะส่งผลให้นักเรียนมีทักษะกระบวนการกลุ่มและผลสัมฤทธ์ิทาง การเรียน สงู ข้ึน วิธกี ารหนึ่งท่ีมีประสิทธภิ าพสามารถนำมาใชใ้ นการจัดการเรียนการสอนได้ คือ การเรียนแบบ รว่ มมอื (Cooperative learning) (กระบวนการกลมุ่ G4) การเรียนแบบร่วมมือ (Cooperative learning) เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีเน้นให้ ผู้เรียนรว่ มมือและช่วยเหลือกันในการเรียนรู้ โดยแบ่งนักเรียนออกเป็ นกลุ่มเล็ก ๆ 4-5 คน ที่มีความ สามารถแตกต่างกันท างานงานร่วมกันเพ่ือเป้ าหมายกลุ่ม สมาชิกมีความสัมพันธ์กันในทางบวก มีปฏิสัมพันธ์ส่งเสริมซ่ึงกันและกัน รับผิดชอบร่วมกันท้ังในส่วนตนเอง และส่วนรวม ผลงานของกลุ่ม ขึ้นอยู่กับผลงานสมาชิกแต่ละคนในกลุ่ม ความสำเร็จของแต่ละคนคือความสำเร็จ ของกลุ่ม ความสำเร็จของกลุ่มคือความสำเร็จของทุกคน (สมบัติ การจนารักพงค์, 2547, หน้า 5) ซ่ึงนักการ ศกึ ษาต่างประเทศหลายทา่ น (Kley, 1991; Hassard, 1990) พบว่านอกจากการเรียนแบบ รว่ มมือจะ ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงข้ึนแล้ว ยังพบว่านักเรียนแต่ละคนในกลุ่มจะมี ความ รับผิดชอบงานของตนท่ีได้รับมอบหมายจากกลุ่ม สมาชิกของกลุ่มท่ีเรียนอ่อนจะได้รับความรู้ จาก กลุ่มในด้านนั้น แต่ทุกคนต้องช่วยเหลือตนเองเป็นสำคัญ นักเรียนมีทักษะทางสังคมเพ่ือให้ สามารถ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และเนื่องจากผู้วิจัยต้องการเพ่ิมความสนุกสนานใน การเรียน ของนักเรียนไปพร้อมกันด้วย เพื่อลดความตึงเครียดในระหว่างเรียน ผู้วิจัยจึงเลือก การจัดการเรียนรู้ แบบรว่ มมอื เทคนิค กระบวนการกล่มุ G4
ดังน้ันเพื่อแก้ปัญหาเรื่องผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน และกระตุ้นให้นกั เรียนหนั มาสนใจบทเรียน มากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุง พัฒนารูปแบบการสอน วิธีการสอนเพื่อเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และเพื่อเพ่ิมกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (กระบวนการกลุ่ม G4) เปน็ กระบวนการเรียนรูท้ ่ีผู้เรียนได้รบั ความรู้จากการลงมือร่วมกันปฏิบัติเป็น กลมุ่ นักเรียนแตล่ ะคนในกลุ่มมีบทบาทหน้าที่รับผิดชอบท่ีแน่นอน เพ่ือนคนเกง่ ช่วยเหลือเพื่อนท่ีอ่อน กว่า โดยถือความสำเร็จของบุคคลเป็นความสำเร็จของกลุ่ม ท้ังนี้เพ่ือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเข้าร่วม กิจกรรมกลุ่ม และมีบทบาททางการเรียน จะช่วยให้ผู้เรียนมีความพร้อม มีความกระตือรือร้น เสริม สร้างปฎิสัมพนั ธ์และมคี วามสขุ ในการเรียน เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ผู้เรียนได้รับประสิทธิผล มากที่สุด ผู้วิจัยจึงศึกษาผลการเรียนรู้แบบร่วมมือ (กระบวนการกลุ่ม G4) เร่ืองมนุษย์กับความย่ังยืน ของทรัพยากรธรรมชาติ ของนักเรยี นช้นั ม.6/1 วตั ถุประสงค์ของงานวิจัย 1. เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นของนักเรียนหลงั จากท่ีเรียน โดยการจดั กิจกรรมการ เรยี นร้แู บบรว่ มมอื (กระบวนการกลุ่ม G4) 2. ประเมินทักษะกระบวนการกล่มุ ของนกั เรียน ทจี่ ัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบรว่ มมือ (กระบวนการกลุม่ G4) 3. ศึกษาความคดิ เห็นของนักเรียนตอ่ การจัดการเรยี นการสอน โดยการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ แบบร่วมมอื (กระบวนการกลุม่ G4) สมมติฐานการวิจยั 1. ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนของนกั เรยี นทเ่ี รียนโดยการจดั กิจกรรมการเรียนรแู้ บบรว่ มมือ (กระบวนการกล่มุ G4) สงู กว่ากอ่ นเรียน 2. นักเรยี นมีทักษะกระบวนการกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 70 3. นักเรียนมีความคิดเห็นตอ่ การจดั การเรยี นการสอนโดยการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้แบบ ร่วมมอื สงู กว่าเกณฑ์ที่กำหนด (3.00) ขอบเขตของการทำวจิ ัย ปญั หา 1. ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนของนักเรยี นชน้ั ม. 6/1 ในรายวิชาชวี วิทยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33206) ต่ำกวา่ เกณฑ์ที่กำหนด นวัตกรรม -
เทคนิค/วธิ กี าร 1. การเรยี นรแู้ บบรว่ มมือ (กระบวนการกลุ่ม G4) กลุ่มเปา้ หมาย 1. นกั เรียนชน้ั ม.6/1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จำนวน 18 คน ระยะเวลา 1. ระยะเวลาที่ใช้ในการวจิ ยั 4 เดือน ตั้งแต่ เดือน พฤศจิกายน 2563 ถึง เดอื น กมุ ภาพันธ์ 2564 นิยามศัพทเ์ ฉพาะ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง คะแนนท่ีนกั เรยี นทำได้จากแบบทดสอบก่อน เรียนและหลงั เรยี น การจัดกิจกรรมการเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื (กระบวนการกลมุ่ G4) หมายถงึ การจดั กจิ กรรมการเรียนรูร้ ว่ มกนั เปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 4 คน แต่ละกลมุ่ ประกอบด้วย สมาชกิ ทมี่ หี น้าทค่ี วามแตกต่างกนั คือ คนท่ี 1 เปน็ คุณอำนวย ทำหน้าที่ ควบคมุ เวลา ประเมนิ ผลงาน คนท่ี 2 เป็นคุณเสนอ ทำหนา้ ที่ บนั ทึก เสนอ คนท่ี 3 เป็นคุณวางแผน ทำหน้าที่ รับอปุ กรณ์ ออกแบบ วางแผน คนที่ 4 เปน็ คุณ KM (Knowledge manager) ทำหนา้ ท่ี จัดการความรู้ หมายเหตุ ทุกคนเปน็ คณุ กจิ ทำกจิ กรรมแบบรว่ มมือ ร่วมใจ แต่ละคนมสี ว่ นรว่ มแท้จรงิ ในการเรียนรู้ โดยทีใ่ นกลมุ่ จะแลกเปล่ยี นความคิดเห็น แบง่ ปนั ทรัพยากรใหก้ ำลังใจแก่กันและกนั คนเก่งชว่ ยเหลอื คนทอ่ี ่อนกว่า ความสำเรจ็ ของบคุ คลคือความสำเรจ็ ของกลุ่ม ผลทีค่ าดวา่ จะไดร้ บั 1. สามารถใช้กจิ กรรมการจดั การเรียนรแู้ บบรว่ มมือแก้ปัญหาผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นของ นกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 6/1 2. ส่งเสริมการพัฒนาการทางดา้ นวิชาการและการพฒั นาการทางดา้ นสงั คมของนักเรียน 3. ไดพ้ ฒั นากระบวนการเรียนการสอนท่ีเนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคัญ 4. เป็นแนวทางในการปรับปรงุ และพฒั นาวธิ สี อนใหม้ ีคุณภาพยงิ่ ข้นึ การดำเนินงานวจิ ัย ประชากร : นกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6/1 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 กลุ่มตัวอยา่ ง : นกั เรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6/1 จำนวน 18 คน
เคร่ืองมอื ที่ใช้ แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น เร่อื ง มนษุ ย์กบั ความยง่ั ยืนของทรัพยากรธรรมชาติจำนวน แบบประเมนิ ทักษะการทำงานกลมุ่ แบบสอบถามความพึงพอใจของผเู้ รียนในการจัดกิจกรรมการเรียนรูแ้ บบรว่ มมอื วิธีการดำเนนิ งาน การศกึ ษาการแกป้ ัญหาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นของนักเรยี นชั้น ม. 6/1 รายวชิ าชวี วิทยา เรอ่ื งมนุษย์กบั ความยัง่ ยนื ของทรพั ยากรธรรมชาติ โดยใชก้ ารเรียนรูแ้ บบร่วมมือ (กระบวนการกลุ่ม G4) มกี ารดำเนนิ งานดงั นี้ 1. การศกึ ษาและวเิ คราะหป์ ัญหาในการเรยี นการสอน 2. การศกึ ษาหลักสตู รเพื่อตดั สินใจเลอื กรูปแบบ และวธิ กี ารแก้ปัญหา 3. การพฒั นารปู แบบหรือวธิ ีการทจ่ี ะดำเนนิ การแก้ปัญหา 4. การสรา้ งเคร่ืองมือสำหรับตรวจสอบและประเมินผล 5. วางแผนการวิจัย 6. ดำเนนิ การวิจยั 7. การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 8. การวเิ คราะห์ข้อมลู 9. สรปุ ผล สถติ ทิ ี่ใช้ 1. ค่าเฉลย่ี 2. ค่าเบย่ี งเบนมาตรฐาน 3. ค่าร้อยละ
แผนการดำเนนิ การ วนั เดือนปี หมายเหตุ กจิ กรรม 1-14 พ.ย. 63 วิเคราะห์ปญั หาในการเรียนการสอน 15-18 พ.ย. 63 รวบรวมข้อมูลเพื่อเลือกรปู แบบ และวธิ ีการแกป้ ญั หา 16-25 พ.ย. 63 วางแผนและเขยี นเคา้ โครงงานวิจัยในชั้นเรียน 26-30 พ.ย. 63 สรา้ งเครอ่ื งมอื วิจัย 1 -30 ธ.ค. 63 ดำเนนิ งานวจิ ัย 1-30 ธ.ค. 63 รวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงานวิจัย 1-20 ม.ค. 64 วิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผล 21 ม.ค. – 15 ก.พ. 64 เขียนรายงานการวจิ ัยในช้ันเรียน ลงชอ่ื ............................................................ผวู้ จิ ัย (นางสาวจันจิรา ธนนั ชยั ) ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย
ตารางท่ี 1 ผลการทดสอบหาประสทิ ธภิ าพ เปรยี บเทียบ E1 และ E2 ของแบบทอสอบ เลขท่ี ชอื่ -สกุล ก่อนเรยี น (20 หลังเรียน (20 คะแนน) คะแนน) 1 ธนพล ยงิ่ สนิ สุวิทย์ 13 15 2 จันทนา แจม่ แจง้ 14 16 3 ชมพูนุช ท้องถ่นิ พฤกษ์ 14 17 4 ฐปนีย์ นมิ ติ พรชัย 12 15 5 ปรียาภรณ์ ยงิ่ คณุ จตั ุรสั 13 16 6 ปิยธดิ า ศุภพนาแจม่ ไพร 14 17 7 ปิยะฉตั ร จตุรธรรมวาที 14 18 8 ฐิดาพร ประทานเงินทอง 13 17 9 รชั ดา เรืองกิจเงนิ 14 18 10 จนั ทิมา กฤติกายง่ิ สกลุ 15 17 11 ชลลดา แปะโพ 11 15 12 วรญั ญา พงศ์พฒุ ิเมธ 12 16 13 พัชริดา วิจิตรโยธิน 11 16 14 ยศสินี คุณานาถอัปสร 13 19 15 ธาวินี พงษ์พนากูล 12 17 16 วารณุ ี ฤทัยไพรวลั ยก์ ลุ 14 17 17 ปารฉิ ตั ร สิรแิ จ่มพงศ์ 15 18 18 อรณี เกษมเลิศตระกลู 16 19 13.33 16.83 66.65 84.15 ร้อยละ จากตารางท่ี1 พบว่าผลการทดสอบหาประสิทธิภาพ เปรียบเทียบ E1 และE2 ของ แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน เร่ือง มนุษย์กับความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6/1 อยู่ในเกณฑ์ 66.65/84.15 ถือว่าอยู่ในขั้นยอมรับได้ แสดงว่า การเรียนรู้แบบ ร่วมมือ (กระบวนการกลุ่ม G4) เร่ืองมนุษย์กับความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ สำหรับนักเรียน ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6/1 มปี ระสทิ ธภิ าพสามารถนำไปใช้ในการเรยี นการสอนได้
ตารางที่ 2 แบบประเมนิ การปฏิบตั ิงานกลุ่ม เรือ่ งมนษุ ย์กับความยัง่ ยืนของทรัพยากรธรรมชาติ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6/1 รายวิชาชีววทิ ยา ท่ี กลมุ่ คณุ ลักษณะทีป่ ระเมนิ มสี ่วนร่วมใน ให้ความ เสนอ มีความ รับฟงั ความ รวม การวางแผน รว่ มมอื ในการ ความคิด รบั ผิดชอบ คิดเห็นของ (25) (5) ปฏิบตั ิงาน วเิ คราะห์ และมวี ินัย ผู้อืน่ (5) วจิ ารณ์ (5) (5) (5) 1 ทรพั ยากรนำ้ 5 5 5 4 4 23 2 ทรัพยากรอากาศ 5 5 4 4 5 23 ค่าเฉลย่ี 5 5 4.5 4 9 23 รอ้ ยละ 100 100 90 80 90 92 จากตารางท่ี 2 พบว่าผลการการปฏิบัติงานกลุ่ม เร่ืองมนุษย์กับความย่ังยืนของทรัพยากร ธรรมชาติของชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6/1 รายวิชาชีววิทยา มีคา่ เฉลี่ยอยู่ที่ 23 คะแนน คิดเป็นรอ้ ยละ 92 อยู่มนเกณฑด์ มี าก
ตารางที่ 3 แบบประเมนิ ความพงึ พอใจของนกั เรยี นท่มี ตี ่อการเรียนรแู้ บบร่วมมือ (กระบวนการกลุม่ G4) เรอ่ื งมนษุ ย์กับความยั่งยนื ของทรพั ยากรธรรมชาติ สำหรับนักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 6/1 รายการประเมนิ S.D. แปลผล 1. การสอน 4.36 0.62 มาก 1.1 มีความชัดเจน เข้าใจง่ายและนา่ สนใจ 1.2 เรา้ ความสนใจใหผ้ เู้ รียนกระตือรอื ร้น 4.31 0.65 มาก 1.3 เหมาะสมกับผเู้ รยี น 4.31 0.61 มาก 1.4 ผู้เรียนมสี ่วนรว่ มในกิจกรรม 4.22 0.71 มาก 2. เนือ้ หา 4.20 0.62 มาก 4.33 0.59 มาก 2.1 สอดคล้องกบั เน้ือหา 3. การนำเสนอ 3.1 ภาพและตัวหนงั สอื เหมาะสมกับสีผวิ พืน้ หลงั 3.2 ความเหมาะสมของรูปแบบตัวอกั ษร 4.31 0.65 มาก รวม 4.29 0.64 มาก จากตารางท่ี 3 พบว่าโดยภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจในระดับมาก โดยดูจาการเรยี นใน รายละเอียด พบว่า มีความชัดเจน เข้าใจง่ายและน่าสนใจ มีความพึงพอใจสูงท่ีสุด มีค่าเท่ากับ 4.36 มีค่า S.D. เท่ากับ 0.62 รองลงมาคือ ภาพและตัวหนังสือเหมาะสมกับสีผิวพื้นหลัง มีค่าเท่ากับ 4.33 เร้าความสนใจให้ผู้เรียนกระตือรือร้น เหมาะสมกับผู้เรียน และความเหมาะสมของรูปแบบตัวอักษร มคี ่าเท่ากบั 4.31 ผเู้ รยี นมีสว่ นร่วมในกิจกรรม มีค่าเท่ากับ 4.22 สอดคลอ้ งกับเนื้อหา มีค่าเท่ากับ 4.20 ตามลำดับ
สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การศึกษา เรื่องผลการจัดการเรียนรู้การเรียนรู้แบบร่วมมือ (กระบวนการกลุ่ม G4) เรื่อง มนุษย์กับความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนราชประชานุ เคราะห์ 31 รายวิชาว33206 ชีววิทยา ในคร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์ของการศึกษา เพ่ือ เปรียบเทียบ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนหลังจากท่ีเรียน โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ (กระบวนการกลุ่ม G4) ประเมินทักษะกระบวนการกลุ่มของนักเรียน ท่ีจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ ร่วมมือ (กระบวนการกลุ่ม G4) และ ศึกษาความคิดเหน็ ของนักเรียนตอ่ การจัดการเรียนการสอน โดย การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ แบบร่วมมือ (กระบวนการกลุ่ม G4) สรปุ ผลการศกึ ษา 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของนักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6/1 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 โดยใช้การจัดการเรียนรู้การเรียนรู้แบบร่วมมือ (กระบวนการกลมุ่ G4) รายวชิ า ว ชีววิทยา เร่ือง มนุษย์กับความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ พบว่า นักเรยี นกลุ่มตัวอย่างเม่ือเปรียบเทียบ E1 และ E2 ของการจัดการเรียนรู้การเรียนรู้แบบร่วมมือ (กระบวนการกลุ่ม G4) สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6/1 พบว่า ค่าประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้การเรียนรู้แบบร่วมมือ (กระบวนการกลุ่ม G4) E1 และ E2 อยู่ในเกณฑ์ 66.65/84.15 ถือว่าอยู่ในข้ันยอมรับได้ แสดงว่า การจัดการเรียนรู้การเรียนรู้แบบร่วมมือ (กระบวนการกลุ่ม G4) เรื่องมนุษย์กับความยั่งยืนของ ทรัพยากรธรรมชาติ สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 มีประสิทธิภาพสามารถนำไปใช้ในการ เรียนการสอนได้ 2. การปฏิบตั ิงานกล่มุ เรื่องมนุษย์กบั ความยัง่ ยืนของทรัพยากร ธรรมชาติของช้ันมธั ยมศกึ ษา ปที ี่ 6/1 รายวิชาชวี วทิ ยา มคี า่ เฉล่ยี อย่ทู ี่ 23 คะแนน คิดเปน็ ร้อยละ 92 อยู่มนเกณฑด์ ีมาก 3. ความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ท่ีมีต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การ จัดการเรียนรูก้ ารเรียนรู้แบบรว่ มมือ (กระบวนการกลุ่ม G4) รายวิชา ว 33206 ชีววิทยา เรื่องมนุษย์ กับความย่ังยืนของทรัพยากรธรรมชาติ คิดเป็นค่าเฉล่ีย (x =̅ 4.29 ,S.D.= 0.64) แสดงว่านักเรียนมี ความพึงพอใจต่อการจดั การเรียนร้กู ารเรียนรแู้ บบรว่ มมอื (กระบวนการกลุ่ม G4) โดยภาพรวมอยู่ใน ระดบั พึงพอใจมาก ขอ้ เสนอแนะในการนำไปใช้ 1. จากผลการวจิ ยั พบว่านกั เรียนมีพฒั นาดีขึ้นแต่ควรจัดกิจกรรมให้นกั เรียนไดม้ ีส่วนรว่ มทกุ ๆ คนเพ่ือความรู้ทท่ี ั่วถงึ กบั นักเรียนทุกคน 2. เพื่อให้เกิดความยั่งยืนควรจัดตั้งชมรมเพื่อสร้างเครือข่ายนักเรียนเพ่ืออนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาตใิ นโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31
แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียน รายวิชาชวี วิทยา ว 32206 หน่วยที่ 3 มนษุ ย์กับความยั่งยืนขิงทรัพยากรธรรมชาติ ตอนที่ 1 ให้นักเรยี นเลอื กคำตอบท่ีถกู ทสี่ ุดเพยี ง 1 ข้อ แล้วกากบาท (X) ลงในกระดาษคำตอบ 1. ในชวี ติ ของนักเรียนมีความเก่ียวพนั กบั ทรพั ยากรธรรมชาติสน้ิ เปลอื งมากกว่าหรอื น้อยกวา่ ทรัพยากรธรรมชาตหิ มนุ เวียน 1. หมุนเวียนมากกวา่ สนิ้ เปลอื ง 2. ส้นิ เปลอื งมากกวา่ หมุนเวยี น 3. หมนุ เวียนเทา่ กบั สนิ้ เปลอื ง 4. แล้วแตว่ ยั และอาชีพของคน 2. ขอ้ ใดคือทรัพยากรธรรมชาติที่ใชแ้ ลว้ หมดไป 1. ป่าไม้ 2. อากาศ 3. แสงอาทิตย์ 4. ก๊าซธรรมชาติ 3. ขอ้ ใดคือทรัพยากรธรรมชาตทิ ่ีใช้แลว้ สามารถนำกลบั มาใชไ้ ด้อีก 1. ปา่ ไม้ 2. อากาศ 3. แสงอาทิตย์ 4. ก๊าซธรรมชาติ 4. ขอ้ ใดคือทรัพยากรธรรมชาติท่ีใชแ้ ลว้ ไมห่ มดแต่จะมีการแปรสภาพ 1. ดิน 2. ปา่ ไม้ 3. แสงอาทติ ย์ 4. ก๊าซธรรมชาติ 5. การอนุรักษท์ รัพยากรปา่ ไมน้ ักเรียนมแี นวคิดว่ารฐั บาลควรมมี าตรการในเร่ืองน้อี ยา่ งไรบา้ ง 1. ถอนสัมปทานการทำป่าไม้ให้หมด 2. ดูแลการตัดไม้และปลูกปา่ ทดแทนใหเ้ ป็นไปอยา่ งสมดุล 3. ห้ามสรา้ งเขื่อนเก็บนำ้ เพราะตอ้ งตัดไม้ในบริเวณน้ำทว่ ม 4. หา้ มการทำเหมืองแรใ่ นบริเวณป่าสงวน 6. วธิ ีการอนรุ กั ษ์สตั วป์ ่าขอใดเหมาะสมกบั นกั เรยี นมากท่ีสดุ 1. นำสัตว์ป่าเล้ียงในบา้ น 3. ไมซ่ อื้ และเลกิ บรโิ ภคเน้ือสัตวท์ ุกชนดิ 3. ร่วมรณรงคต์ ัดไมท้ ำลายและลา่ สัตว์ปา่ 4. แจง้ เจ้าหนา้ ท่ดี ำเนินการกับผคู้ า้ สตั ว์ป่า 7. ขอ้ ใดไมใ่ ช่สาเหตทุ ่ที ำใหส้ ัตว์ป่าสูญพันธุ์ 1. การลา่ สัตวป์ า่ เปน็ อาหารของมนุษย์ 2. การล่ากันเองของสตั ว์ป่าเพื่อเปน็ อาหาร 3. ความแปรปรวนอย่างกะทันหนั ของสภาพภมู ปิ ระเทศ 4. ความแปรปรวนอย่างกะทันหนั ของภมู ิอากาศ 8. ในประเทศท่ีกำลังพัฒนาสาเหตุที่ทำใหเ้ กดิ ความหายนะจากภัยธรรมชาติมกั เปน็ ไปอย่างรุนแรง ท้ังนเี้ ปน็ เพราะเหตุใด 1. ไม่มกี ารเตรียมการป้องกนั ท่ีดี 2. ใช้ทรพั ยากรธรรมชาตอิ ย่างไม่มแี บบแผน 3. ประชากรยากจนและด้อยการศึกษา 4. ประเทศเหลา่ นั้นอย่ใู นเขตท่มี ีภัยธรรมชาตเิ กดิ ข้ึนอยา่ งรุนแรง
9. ขอ้ ใดเป็นการพัฒนาแหล่งน้ำ 1. สรา้ งอา่ งกักเก็บนำ้ ฝน 2. นำนำ้ เสียไปใช้ประโยชนท์ างการเกษตร 3. อบรมชุมชนให้รูว้ ธิ ปี อ้ งกนั และกำจัดน้ำเสีย 4. สำรวจแหล่งนำ้ ดแี ละหาวิธขี ุดเจาะเอาน้ำใต้ดนิ มาใชป้ ระโยชน์. 10. ปัญหาการกัดเซาะผวิ ดนิ ควรปอ้ งกนั อย่างไร 1. ปลกู สวน 2. ปลกู พืชคลุมดิน 3. ปลกู พืชหมนุ เวียน 4. ปลกู พืชสลบั แนว 11. ป่าไมป้ ระเภทใดที่มคี ุณค่าทางเศรษฐกิจมากที่สดุ 1. ป่าดบิ ชืน้ 2. ปา่ ชายแลน 3. ป่าเตง็ รงั 4. ป่าเบญจพรรณ 12. ดัชนชี วี้ ดั คุณภาพนำ้ ว่าเป็นน้ำดหี รอื น้ำเสียคือข้อใด 1. ค่า DO มากกว่า 3 ppm เปน็ น้ำเสยี 2. คา่ BOD มากกวา่ 100 ppm เป็นนำ้ เสยี 3. ค่า DO น้อยกวา่ 3 ppm เปน็ น้ำดี 4. คา่ BOD มากกว่า 100 ppm เปน็ น้ำดี 13. ข้อใดกลา่ วถงึ ชน้ั ของดนิ ไดถ้ กู ต้องท่ีสุด 1. ดนิ ชนั้ วัตถุต้นกำเนดิ ดิน เป็นดินทง้ั ชนั้ ไม่พบหินและแรใ่ ดๆเลย 2. ดนิ ชน้ั ล่าง เป็นช้ันดินทป่ี ระกอบดว้ ยดนิ เหนียว เหล็กออกไซด์ และอะลูมเิ นียมออกไซด์ 3. ดินชน้ั บน เปน็ หนา้ ดนิ ตอนบนสดุ เปน็ ดนิ มฮี ิวมสั น้อย มีแรธ่ าตุพวกดนิ เหนยี ว เหลก็ ออกไซด์สูง 4. ดนิ ชน้ั กลาง เป็นดนิ ท่ีทถ่ี ูกชะละลายลงมาจากชั้นบน เปน็ ชัน้ ที่สะสมอนภุ าคของแร่ธาตุ และฮวิ มัส 14. เปน็ ปา่ ท่ีมฝี นตกชุก ไม่มีฤดูแลง้ ใหป้ ระโยชนท์ างเศรษฐกจิ ค่อนข้างสูง ได้แก่ ยาง ตะเคยี น กะ บาก มีมากในภาคใต้และ ภาคตะวนั ออก หมายถึงป่าในข้อใด 1. ป่าดงดิบ 2. ปา่ สนเขา 3. ปา่ เบญจพรรณ 4. ปา่ ชายเลน 15. ภาคใดของประเทศไทยท่ีมีพืน้ ทป่ี ่าคอ่ นข้างหนาแน่น 1. ภาคใต้ 2. ภาคกลาง 3. ภาคตะวันออก 4. ภาคเหนือ 16. เป็นสถานที่ อันได้แก่ ปา่ ไม้ ภูเขา ทะเลสาบ ทะเลทราย อนสุ าวรีย์ สิง่ ก่อสรา้ งตา่ งๆ ซ่งึ คดั เลอื ก โดยองค์การยเู นสโกตงั้ แต่ เพอื่ เปน็ การบง่ บอกถงึ คุณคา่ ของสงิ่ ท่ีธรรมชาตไิ ดส้ รา้ งข้นึ มา และควร จะปกป้อง มคี วามหมายตรงกับข้อใด 1. อุทยานแห่งชาติ (National Park) 2. เขตรกั ษาพนั ธส์ุ ัตวป์ า่ (Wildlife Sunctuary) 3. พืน้ ท่สี งวนชีวาลยั (Biosphere Reserve) 4. พ้ืนท่ีมรดกโลก (World Heritage)
17. พนื้ ที่ ทก่ี ำหนดขึ้นเพ่ือให้เป็นท่อี ยู่อาศัยของสตั ว์ป่าโดยปลอดภัย เพ่อื ให้สตั วป์ ่าในพื้นทด่ี งั กลา่ ว จะได้ มโี อกาสสบื พันธแ์ุ ละขยายพันธ์ุตามธรรมชาติไดม้ ากข้ึน และทำให้สตั วป์ า่ บางส่วนมโี อกาสกระจายพันธ์ุ ออกไปในท้องทีแ่ หล่งอน่ื ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกบั เขตรกั ษาพนั ธุ์สตั ว์ป่า 1. เขตห้ามล่าสัตวป์ ่า (Non-hunting area) 2. เขตรกั ษาพันธ์สุ ัตวป์ า่ (Wildlife Sunctuary) 3. พนื้ ท่ีสงวนชวี าลัย (Biosphere Reserve) 4. พน้ื ทีม่ รดกโลก (World Heritage) 18. ขอ้ ใดเป็นสตั ว์ปา่ สงวนทุกชนดิ 1. แรด กปุ รี กระซู่ สมนั เนื้อทราย 2. นกเจา้ ฟา้ หญิงสิรินธร นกแซงแซว นกกะเรยี น 3. ละอง กวางผา พะยูน เก้งดง 4. นกยูง นกเงือก นกแตว้ แร้วท้องดำ 19. ข้อใดเป็นแร่โลหะทกุ ชนิด 1. เหล็ก อะลมู เิ นยี ม แมงกานสี โซเซียม 2. โครเมยี ม ตติ าเนียม ทองแดง ยบิ ซมั่ 3. สงั กะสี นกิ เกิล ทองคำ เงิน พลาติน่มั 4. วลุ แฟรม ดีบุก วุลแฟรม ฟอสฟอรัส 20. แรย่ บิ ซ่ัม มผี ลึกของสารในขอ้ ใดเปน็ องคป์ ระกอบ 1. แคลเซียมฟอสเฟต 2. แคลเซยี มคาร์บอเนต 3. คัลเซยี มไฮดรอกไซด์ 4. แคลเซียมคาร์บอเนต
ภาคผนวก
ช้นิ งานของนักเรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6/1 1เรื่องมนุษยก์ ับความย่งั ยืนของทรัพยากรธรรมชาติ
ภาพกจิ กรรมนักเรยี นทำการเผยแพรอ่ งคค์ วามร้สู ู่นอกห้องเรยี น
การจดั กิจกรรมสรปุ ผลการเรียนรู้จากหอ้ งเรยี นสู่นอกห้องเรียน
การจดั กิจกรรมสรปุ ผลการเรียนรู้จากหอ้ งเรยี นสู่นอกห้องเรียน
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: