โครงสร้าง เริ่มต้นโครงงาน ม1-3

โครงสรา้ งรายวชิ า รายวิชา เร่มิ ตน้ กับโครงงานวทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา ว 20204 ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1-3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ จัดทาโดย นางสาวจันจิรา ธนนั ชยั ตาแหน่ง พนักงานราชการ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31ตาบลชา่ งเค่ิง อาเภอแมแ่ จม่ จงั หวัดเชยี งใหม่ สานักบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษสานักงานการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

คำอธิบำยรำยวชิ ำ กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์ สำระเพ่ิมเติมรำยวชิ ำเรมิ่ ต้นกับโครงงำนวิทยำศำสตร์ รหสั วิชำ ว 20204 ช้ันมัธยมศึกษำปที ่ี 1-3 ภำคเรียนท่ี 2เวลำเรียน 60 ชว่ั โมง/ภำคเรียน จำนวน 1 หนว่ ยกิต *******************************คำอธิบำยรำยวชิ ำ ศึกษาวิเคราะห์การทางานของนักวิทยาศาสตร์ ปัญหาหรือสถานการณ์ ท่ีสังเกตพบในชีวิตประจาวันต้งั สมมติฐานจากปัญหา หรือสถานการณ์ ทส่ี งั เกตพบ ออกแบบการทดลอง เพ่ือตรวจสอบ สมมติฐาน กาหนดตัวแปร กาหนดนยิ ามเชิงปฏิบตั กิ าร เลือกใช้อุปกรณ์และวิธกี ารทดลองอย่างเหมาะสม บนั ทึกขอ้ มูล จัดกระทาขอ้ มูล นาเสนอข้อมูล วิเคราะห์และสรปุ ผลการทดลอง ได้สอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์ มีความคดิ รเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ในการออกแบบการทดลอง หรือดดั แปลงอุปกรณ์ในการแก้ปญั หาที่เกิดขึน้ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสังเกต การวัด การสารวจตรวจสอบการสบื ค้นข้อมูล จดั ทาข้อมูล การอภปิ รายและการสรุป เพอื่ ให้มีความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถสอื่ สารสงิ่ ทีเ่ รยี นรู้แล้วนาไปใช้ประโยชน์ บรู ณาการกบั ภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ มีความสามารถในการตัดสินใจ นาความรู้ไปใช้ในชวี ติ ประจาวัน มีจติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและคา่ นิยมทีเ่ หมาะสมผลกำรเรียนรู้ 1. สบื คน้ อธบิ ายและอภิปรายถึงการทางานของนักวิทยาศาสตร์ 2. สืบค้น อธบิ ายและอภิปรายถึงปญั หาหรือสถานการณ์ท่ีสังเกตพบในชวี ิตประจาวัน 3. อธบิ ายและอภิปรายการต้ังสมมติฐานจากปัญหาหรือสถานการณท์ ่สี งั เกตพบได้อยา่ งเหมาะสม 4. ออกแบบการทดลองเพื่อตรวจสอบสมมติฐาน กาหนดตวั แปร กาหนดนยิ ามเชงิ ปฏิบตั ิการเลอื กใชอ้ ุปกรณ์และวิธกี ารทดลองอยา่ งเหมาะสม 5. บันทึกข้อมูลจดั กระทาข้อมูลและนาเสนอขอ้ มลู ทเ่ี หมาะสม สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์ 6. วเิ คราะห์ และสรุปผลการทดลอง ไดส้ อดคล้องกบั จุดประสงค์ 7. มีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ในการออกแบบการทดลองหรือดัดแปลงอปุ กรณ์ ในการแก้ปญั หาที่เกิดขึ้นขณะทาการทดลอง 8. มเี จตคติจริยธรรม คุณธรรมและคา่ นิยมที่ดีต่อวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยีและสิ่งแวดลอ้ มรวม 8 ผลกำรเรยี นรู้

ผงั มโนทศั น์รำยวิชำเร่ิมต้นกับโครงงำนวิทยำศำสตร์ รหสั วชิ ำ ว 20204 ระดับช้ันมธั ยมศึกษำปีท่ี 1-3 ภำคเรียนท่ี 2 ปกี ำรศึกษำ 2561 ชอื่ หน่วยกำรทำงำนของ ช่ือหน่วยกำรกำหนดปัญหำ ชื่อหน่วยกำรตั้งสมมุตฐิ ำน นกั วิทยำศำสตร์ จำนวน 5 ช่ัวโมง : 10 คะแนน จำนวน 5 ช่ัวโมง : 10 คะแนนจำนวน 5 ช่ัวโมง : 10 คะแนน เร่ิมตน้ กบั โครงงานวิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว 20204 ระดับชัน้ มธั ยมศึกษำปีท่ี 1-3ช่ือหน่วยกำรออกแบบกำรทดลอง ชือ่ หน่วยกำรวเิ ครำะห์และสรปุ ผลกำรทดลอง จำนวน 5 ช่วั โมง : 10 คะแนน จำนวน 10 ชัว่ โมง : 20 คะแนน ชอ่ื หน่วยกำรจดั กระทำข้อมูลและนำเสนอ จำนวน 10 ชั่วโมง : 10 คะแนน

โครงสรา้ ง รายวชิ าเรม่ิ ต้นกับโครงงานวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้1. การทางานของ 1. สืบคน้ อธบิ ายและอภปิ รายถงึ การทางานของนักวทิ ยาศาสตร์ นักวทิ ยาศาสตร์2. การกาหนดปญั หา 2. สบื คน้ อธิบำยและอภปิ รำยถึงปญั หำหรอื สถำนกำรณ์ทีส่ ังเกตพบในชีวิตประจำวัน3. การตง้ั สมมุติฐาน 3. อธิบำยและอภิปรำยกำรต้ังสมมตฐิ ำนจำก ปัญหำหรอื สถำนกำรณท์ ่ีสังเกตพบได้อย่ำง เหมำะสม

งรายวชิ าที่ 1-3 จานวน 40 ช่ัวโมง ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2561 เวลา คะแนน สาระการเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) รวม K P A 21. ข้นั กำหนดปัญหำ 5 10 5 3 22. ขัน้ ตง้ั สมมติฐำน 23. ข้นั ตรวจสอบสมติฐำน4. ขน้ั วเิ ครำะหข์ ้อมลู5. ขน้ั สรุปผล1. ควำมหมำยและควำมสำคัญของ 5 10 5 3ปญั หำวจิ ัย2. แหลง่ ทีม่ ำของปญั หำกำรวจิ ัย3. หลกั เกณฑ์ในกำรกำหนดปัญหำวิจยั4. ปญั หำในกำรกำหนดปัญหำวจิ ัย1. ควำมหมำยและควำมสำคัญของ 5 10 5 3สมมติฐำน2. ประเภทของสมมติฐำน3. แหล่งทม่ี ำของสมมติฐำน4. เกณฑ์กำรตัง้ สมมติฐำนในกำรวจิ ยั5. หลกั กำรเขียนสมมตฐิ ำนกำรวิจยั

หนว่ ยการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้4. การออกแบบการทดลอง 4. ออกแบบกำรทดลองเพื่อตรวจสอบสมมตฐิ ำน กำหนดตัวแปร กำหนดนยิ ำมเชงิ ปฏบิ ตั ิกำร เลือกใชอ้ ุปกรณ์และวิธีกำรทดลองอยำ่ งเหมำะสม5. กำรจดั กระทำข้อมลู และ 5. บันทึกขอ้ มลู จัดกระทำข้อมูลและนำเสนอนำเสนอ ข้อมลู ที่เหมำะสม สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์

สาระการเรียนรู้ เวลา คะแนน A (ชว่ั โมง) รวม K P 21. กำรกำหนดตวั แปร2. กำหนดนยิ ำมเชิงปฏิบตั กิ ำร 5 10 5 3 23. เลอื กใชอ้ ุปกรณ์4. วิธกี ำรทดลอง 10 10 5 3ข้นั ตอนกำรจดั กระทำและกำรสอ่ืควำมหมำยของหมำยข้อมลู 1. เลือกรปู แบบในกำรจัดทำนำเสนอให้เหมำะสมกับข้อมลู 2. จดั กระทำขอ้ มลู ตำมรูปแบบที่ไดเ้ ลอื กไว้ โดยอำจทำไดด้ ังน้ี 2.1 จดั เรียงลำดบั ใหม่ 2.2 หำควำมถ่เี มื่อมขี ้อมูลซ้ำ 2.3 แยกหมวดหมูห่ รอื ประเภท 2.4 คำนวณหำคำ่ ใหม่ 2.5บรรยำยลกั ษณะส่ิงใดส่ิงหนงึ่

หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้6. กำรวเิ ครำะหแ์ ละสรปุ ผล 6. วเิ ครำะห์ และสรุปผลกำรทดลอง ไดส้ อดคล้องกำรทดลอง กับจดุ ประสงค์ 7. มคี วำมคิดริเรม่ิ สรำ้ งสรรค์ในกำรออกแบบกำร ทดลองหรือดดั แปลงอุปกรณ์ ในกำรแก้ปัญหำท่ี เกดิ ขึน้ ขณะทำกำรทดลอง 8. มเี จตคติจรยิ ธรรม คุณธรรมและค่ำนยิ มทด่ี ีต่อ วทิ ยำศำสตร์เทคโนโลยีและส่ิงแวดล้อม วัดผลกลำงภำค วดั ผลปลำยภำค รวมทัง้ สิ้น

สาระการเรยี นรู้ เวลา รวม คะแนน A (ชวั่ โมง) KP 5กำรวิเครำะห์ คือ อธิบำยขอ้ มลู ทไ่ี ด้มำจำกกำรทดลอง โดยแปลตวั เลขหรอื กรำฟหรือ 10 20 10 5 15สมกำรเปน็ คำพูดที่เข้ำใจง่ำยวำ่ ผลกำร 15ทดลองน้ันสอดคล้องกบั ทฤษฎหี รอื ไม่อยำ่ งไร โดยต้องอธบิ ำยวำ่ ตำมทฤษฎี ผลกำรทดลองควรเปน็ อย่ำงไรเพรำะเหตใุ ดและเมือ่ ทำกำรทดลองผลทไี่ ดต้ ำ่ งกนัอยำ่ งไร พรอ้ มทงั แสดงกำรนำ ผลกำรทดลองไปใชห้ ำปรมิ ำณหรอื ควำมสมั พันธ์อน่ื ทซ่ี บั ซ้อนขนึ้สรปุ ผลกำรทดลองคือกล่ำวสัน้ ๆ ถงึ สำระสำคญั ทไ่ี ดจ้ ำกผลกำรทดลองทงั้ ที่ไดผ้ ลดีหรอื ไม่ดี ผลท่ไี ด้ให้ขอ้ มูล/ค ำตอบที่ต้องกำรศกึ ษำหรอื ไม่อย่ำงไร (ไมค่ วรนำทฤษฎีมำสรปุ ) ไมต่ ้องอำ้ งถงึ รูป หรือตำรำงอกี ผลที่ได้นำไปสู่กำรสรปุ สมมตฐิ ำนหรอื สรำ้ งทฤษฎใี หม่หรอื ไม่ อยำ่ งไร 10 35 20 20 40 100 35 20

การวิเคราะหม์ าต รายวิชาเรมิ่ ต้นกบั โครงงานวิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท ตัวช้วี ดั / ร้อู ะไร ทาอะไรผลการเรยี นรู้1. สบื คน้ อธบิ ายและ ร้อู ะไร ใบงานอภปิ รายถึงการทางานของ 1. ขน้ั กำหนดปัญหำ 1. ใบงำ วทิ ยำศำนกั วทิ ยาศาสตร์ 2. ข้นั ตั้งสมมตฐิ ำน 3. ข้นั ตรวจสอบสมตฐิ ำน 2. ใบงำ 4. ขั้นวเิ ครำะหข์ ้อมลู วิทยำศำ 5. ขนั้ สรุปผล ทาอะไร 1. นักเรียนสำมำรถอธิบำยข้ันตอนกำร ทำงำนของนักวิทยำศำสตร์ได้2. สบื ค้น อธบิ ำยและ รอู้ ะไร ใบงานอภปิ รำยถงึ ปญั หำหรือ 1. ควำมหมำยและควำมสำคัญของปัญหำ 1. ใบงำนสถำนกำรณ์ท่สี งั เกตพบใน กำรทดลอง และสรปุ ขชีวิตประจำวนั 2. แหลง่ ทมี่ ำของปญั หำกำรทดลอง 3. หลกั เกณฑ์ในกำรกำหนดปัญหำกำร ทดลอง 4. ปัญหำในกำรกำหนดปัญหำกำรทดลอง

ตรฐานและตัวชว้ี ัดท่ี 1-3 จานวน 40 ชั่วโมง ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2561ภาระงาน/ชนิ้ งาน สมรรถนะสาคัญ คุณลกั ษณะ คณุ ลักษณะ ของวิชา อนั พงึ ประสงค์ 1. ควำมสำมำรถใน 1. มีวนิ ัยำน เรอ่ื ง กระบวนกำรทำง กำรคิด 2. ใฝ่เรียนรู้ำสตร์ 2. ควำมสำมำรถใน 3. มุ่งม่นั ในกำรทำงำนำน เรื่อง วิธกี ำรทำง กำรสื่อสำรำสตร์น เร่ือง กำรสงั เกต วเิ ครำะห์ 1. ควำมสำมำรถใน 1. มวี นิ ัยขอ้ มลู กำรคดิ 2. ใฝ่เรียนรู้ 2. ควำมสำมำรถใน 3. มุ่งมั่นในกำรทำงำน กำรสื่อสำร

ตวั ชว้ี ดั / รอู้ ะไร ทาอะไร ใบงำน ผลการเรียนรู้ 1. ใบงำ ทาอะไร3. อธิบำยและอภปิ รำยกำร 1. นักเรยี นสำมำรถอธิบำยและอภิปรำยถึงตัง้ สมมติฐำนจำกปัญหำหรือ ปญั หำหรอื สถำนกำรณ์ทส่ี ังเกตพบในสถำนกำรณ์ท่สี ังเกตพบได้ ชีวิตประจำวนัอย่ำงเหมำะสม รูอ้ ะไร 1. ควำมหมำยและควำมสำคัญของ สมมตฐิ ำน 2. ประเภทของสมมตฐิ ำน 3. แหลง่ ท่มี ำของสมมตฐิ ำน 4. เกณฑ์กำรตง้ั สมมติฐำนในกำรทดลอง 5. หลักกำรเขยี นสมมตฐิ ำนกำรทดลอง ทาอะไร 1. นกั เรียนสำมำรถอธิบำยและอภปิ รำย กำรตั้งสมมตฐิ ำนจำกปัญหำหรอื สถำนกำรณ์ทีส่ งั เกตพบไดอ้ ย่ำงเหมำะสม

ภาระงาน/ชนิ้ งาน สมรรถนะสาคัญ คณุ ลกั ษณะ คุณลักษณะ ของวิชา อันพงึ ประสงค์ำน เรอ่ื ง กำรต้งั สมมติฐำน 1. ควำมสำมำรถใน 1. มวี ินัย กำรคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้ 2. ควำมสำมำรถใน 3. ม่งุ มน่ั ในกำรทำงำน กำรสอื่ สำร

ตวั ช้ีวัด/ รู้อะไร ทาอะไร ใบงาน ผลการเรยี นรู้ 1. ออกแบ4. ออกแบบกำรทดลองเพอ่ื รู้อะไรตรวจสอบสมมติฐำน กำหนด 1. กำรกำหนดตวั แปร ใบงานตัวแปร กำหนดนิยำมเชิง 2. กำหนดนิยำมเชิงปฏบิ ตั ิกำร 1. ใบงำนปฏิบตั ิกำร เลอื กใช้อปุ กรณ์ 3. เลอื กใช้อุปกรณ์ และนำเสและวธิ กี ำรทดลองอยำ่ ง 4. วิธีกำรทดลองเหมำะสม ทาอะไร 1. นักเรยี นสำมำรถออกแบบกำรทดลอง5. บนั ทึกข้อมลู จัดกระทำ เพอื่ ตรวจสอบสมมติฐำน กำหนดตวั แปรขอ้ มลู และนำเสนอขอ้ มลู ที่ กำหนดนิยำมเชงิ ปฏบิ ัติกำร เลือกใช้เหมำะสม สอดคล้องกบั อปุ กรณ์และวธิ ีกำรทดลองอย่ำงเหมำะสมจดุ ประสงค์ รูอ้ ะไร 1. เลอื กรูปแบบในกำรจดั ทำนำเสนอให้ เหมำะสมกบั ข้อมูล 2. จดั กระทำข้อมูลตำมรูปแบบ ทาอะไร 1. นักเรียนสำมำรถบนั ทึกข้อมูลจดั กระทำ ข้อมูลและนำเสนอข้อมลู ทีเ่ หมำะสม สอดคล้องกับจุดประสงค์ได้

ภาระงาน/ช้นิ งาน สมรรถนะสาคญั คุณลกั ษณะ คุณลกั ษณะบบกำรทดลองทสี่ นใจ ของวิชา อันพงึ ประสงค์ 1. ควำมสำมำรถใน กำรคดิ 1. มีวินยั 2. ควำมสำมำรถใน 2. ใฝเ่ รียนรู้ กำรส่ือสำร 3. มุ่งมั่นในกำรทำงำนน กำรจดั กระทำข้อมูล 1. ควำมสำมำรถใน 1. มวี นิ ยัสนอ กำรคิด 2. ใฝ่เรยี นรู้ 2. ควำมสำมำรถใน 3. มุ่งมั่นในกำรทำงำน กำรสื่อสำร

ตัวชว้ี ดั / รู้อะไร ทาอะไร ผลการเรียนรู้6. วเิ ครำะห์ และสรุปผลกำร รอู้ ะไร ใบงาน 1. ใบงำนทดลอง ได้สอดคล้องกับ 1. วเิ ครำะหก์ ำรทดลอง ผลกำรทด 2. สรปุ องจดุ ประสงค์ 2. สรปุ ผลกำรทดลอง7. มคี วำมคดิ รเิ ร่มิ สร้ำงสรรค์ในกำรออกแบบกำรทดลอง ทาอะไรหรือดดั แปลงอุปกรณ์ ในกำร 1. นกั เรียนสำมำรถวเิ ครำะห์ และสรปุ ผลแก้ปัญหำทีเ่ กิดขึ้นขณะทำกำร กำรทดลอง ไดส้ อดคลอ้ งกบั จุดประสงค์ได้ทดลอง8. มีเจตคติจรยิ ธรรมคณุ ธรรมและคำ่ นยิ มทด่ี ตี อ่วทิ ยำศำสตร์เทคโนโลยีและส่งิ แวดลอ้ ม

ภาระงาน/ชน้ิ งาน สมรรถนะสาคญั คุณลักษณะ คุณลกั ษณะ ของวิชา อนั พึงประสงค์ 1. ควำมสำมำรถใน 1. มวี ินัยน วเิ ครำะห์และสรุป กำรคดิ 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในกำรทำงำนดลอง 2. ควำมสำมำรถในงค์ควำมรู้ เรื่อง จติ วทิ ยำศำสตร์ กำรส่อื สำร

การวัดและประเม รายวิชาเร่ิมตน้ กบั โครงงานวิทยาศาสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปทีเปา้ หมายการเรยี นรู้ ภาระงาน/ชิน้ งาน วธิ วี ดัสาระสาคญั ใบงาน ตรวจใบงำน1. ทกั ษะกระบวนกำรทำง 1. ใบงำน เร่ือง กระบวนกำรวิทยำศำสตร์ ทำงวทิ ยำศำสตร์ 2. ใบงำน เรือ่ ง วิธีกำรทำง วทิ ยำศำสตร์2. กำรกำหนดปัญหำกำร ใบงำน ตรวจใบงำนทดลอง 1. ใบงำน เรื่อง กำรสังเกต วิเครำะห์ และสรุปข้อมลู3. กำรตงั้ สมมติฐำนกำร ใบงำนทดลอง 1. ใบงำน เรือ่ ง กำรตงั้ สมมติฐำน ตรวจใบงำน4. ออกแบบกำรทดลอง ใบงาน 1. ออกแบบกำรทดลองทส่ี นใจ ตรวจใบงำน

มนิ ผลการเรียนรู้ คะแนนท่ี 1-3 จานวน 40 ชั่วโมง ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2561 10 เครื่องมือวดั ประเดน็ /เกณฑก์ ารให้คะแนน ใบงำน ผ่ำนระดับคะแนนร้อยละ 60 ขนึ้ ไปใบงำน ผ่ำนระดับคะแนนร้อยละ 60 ขึ้นไป 10ใบงำน ผำ่ นระดบั คะแนนร้อยละ 60 ขน้ึ ไป 10ใบงำน ผ่ำนระดับคะแนนร้อยละ 60 ขึ้นไป 10

เปา้ หมายการเรยี นรู้ ภาระงาน/ชน้ิ งาน วิธวี ดั4. วเิ ครำะห์ และสรุปผลกำร ใบงาน ตรวจใบงำนทดลอง 1. ใบงำน วเิ ครำะห์และสรุป ผลกำรทดลอง 2. สรุปองคค์ วำมรู้ เร่ือง จิตวิทยำศำสตร์

เครอื่ งมือวัด ประเดน็ /เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนนใบงำน ผำ่ นระดบั คะแนนร้อยละ 60 ข้นึ ไป 20