รู้ ความร้คู วาม คณุ ภาพผ้เู รียน สมรรถนะ เข้าใจ (K) ทกั ษะปฏิบตั ิ คณุ ลักษณะนิสัย ก๊ส (P) (A) จะ ว แนน่ อด หนงึ่ ปน็ จดุ วกับ น้นั อง - นกั เรียน - นักเรยี น - นกั เรยี น 1. ความสามารถในการ รับผิดชอบต่อ มี สามารถอธิบาย สามารถ หน้าทแี่ ละงานที่ สอื่ สาร ความสัมพันธ์ เปรยี บเทียบ ไดร้ ับมอบหมาย 2. ความสามารถในการคิด บาง ระหว่างรูปรา่ ง รปู รา่ ง ลักษณะ 3. ทักษะการสังเกต สัตว์ กับการทำหน้าท่ี และโครงสร้าง 4. ทกั ษะการระบุ ใน ของเซลล์ ของเซลลพ์ ชื และ 5. ทักษะการนำความรู้ไปใช้ ะ - นักเรียน เซลลส์ ัตว์ รวมทั้ง 6. ทักษะการเชือ่ มโยง สามารถอธิบาย บรรยายหน้าที่ 7.ทักษะการจำแนกประเภท อหุ้ม การจดั ระบบของ ของผนังเซลล์ สิง่ มชี วี ติ โดยเรมิ่ เย่อื หุ้มเซลล์ ไซ
มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชว้ี ัด เนือ้ หา/สาระการเรียนร ทท่ี ำงานสมั พนั ธก์ นั รวมทัง้ นำ โครงสรา้ งตา่ ง ๆ ภายใน นวิ เคลยี ส โครงสรา้ งท่ีพบใน ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ เซลล์ เซลลพ์ ืชแตไ่ มพ่ บในเซลล์สัต ม.1/3 อธิบายความสมั พนั ธ์ ได้แก่ ผนังเซลล์และคลอโรพ ระหว่างรูปรา่ ง กับการทำ ลาสต์ หนา้ ท่ขี องเซลล์ - โครงสร้างตา่ ง ๆ ของเซลล ม.1/4 อธิบายการจดั ระบบ หนา้ ทแ่ี ตกตา่ งกัน ของสง่ิ มีชวี ติ โดยเรม่ิ จาก - ผนังเซลล์ ทำหนา้ ท่ีใหค้ วา เซลล์ เน้ือเยื่อ อวยั วะ ระบบ แข็งแรงแก่เซลล์ อวยั วะ จนเป็นสง่ิ มีชีวติ - เย่อื หุ้มเซลล์ ทำหน้าที่ห่อห ม.1/5 อธิบายกระบวนการ เซลล์และควบคมุ การลำเลยี แพรแ่ ละออสโมซสิ จาก สารเขา้ และออกจากเซลล์ หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ และ - นิวเคลียส ทำหนา้ ท่คี วบค ยกตวั อย่างการแพรแ่ ละ การทำงานของเซลล์ ออสโมซิสในชวี ิตประจำวัน - ไซโทพลาซึม มอี อร์แกเนล ทำหนา้ ทีแ่ ตกต่างกัน - แวควิ โอล ทำหนา้ ท่ีเก็บน้ำ และสารตา่ ง ๆ - ไมโทคอนเดรยี ทำหนา้ ท่ี เก่ียวกบั การสลายสารอาหา เพ่อื ให้ได้พลังงานแก่เซลล์ - คลอโรพลาสต์ เปน็ แหลง่ เกิดการสงั เคราะห์ด้วยแสง - เซลล์ของส่งิ มชี ีวติ มีรูปร่าง ลกั ษณะ ทห่ี ลากหลาย และ
คุณภาพผเู้ รียน รู้ ความร้คู วาม ทักษะปฏบิ ัติ คณุ ลักษณะนสิ ยั สมรรถนะ เข้าใจ (K) (P) (A) น จากเซลล์ เน้อื เยอื่ โทพลาซึม 3. ความสามารถในการใช้ ตว์ อวัยวะ ระบบ นิวเคลียส แวคิว ทกั ษะชวี ิต พ อวยั วะ จนเป็น โอลไมโทคอนเด สิ่งมีชีวิต รีย และ ล์มี - นกั เรียน คลอโรพลาสต์ สามารถอธบิ าย าม กระบวนการแพร่ และออสโมซิส หุม้ จากหลกั ฐานเชิง ยง ประจกั ษ์ และ ยกตัวอย่างการ คมุ แพร่และออสโม ซิสใน ลล์ที่ ชีวิตประจำวนั ำ าร งที่ ง ะมี
มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้วี ัด เนอ้ื หา/สาระการเรียนร ความเหมาะสมกับหน้าทีข่ อ เซลลน์ นั้ เชน่ เซลล์ประสาท ส่วนใหญ่ มเี สน้ ใยประสาทเป แขนงยาว นำกระแสประสา ยงั เซลลอ์ น่ื ๆ ทีอ่ ยู่ไกลออก เซลล์ขนราก เปน็ เซลล์ผิวขอ รากทม่ี ีผนังเซลลแ์ ละเยอ่ื หมุ้ เซลล์ยื่นยาวออกมา ลกั ษณะ คล้ายขนเสน้ เลก็ ๆ เพือ่ เพิม่ พ้นื ท่ีผวิ ในการดดู นำ้ และธาต อาหาร - พชื และสัตวเ์ ป็นสง่ิ มีชวี ิต หลายเซลล์มกี ารจัดระบบ โ เรมิ่ จากเซลลไ์ ปเป็นเนอ้ื เยอื่ อวัยวะ ระบบอวยั วะ และ สง่ิ มีชีวติ ตามลำดบั เซลลห์ ล เซลลม์ ารวมกันเปน็ เน้ือเยื่อ เน้อื เย่อื หลายชนดิ มารวมกัน และทำงานรว่ มกนั เป็นอวัยว อวยั วะตา่ ง ๆ ทำงานร่วมกัน เป็นระบบอวยั วะ ระบบอวัย ทกุ ระบบทำงานร่วมกนั เปน็ สง่ิ มีชีวติ
รู้ ความรูค้ วาม คุณภาพผูเ้ รียน สมรรถนะ เข้าใจ (K) ทักษะปฏบิ ตั ิ คณุ ลักษณะนิสัย อง (P) (A) ท ปน็ าทไป กไป อง ม ณะ ม ตุ ดย อ ลาย น วะ น ยวะ น
มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ช้วี ัด เนอ้ื หา/สาระการเรยี นร 3. การดำรงชวี ิตของพชื ม.1/6 ระบปุ จั จยั ที่จำเป็น - เซลลม์ กี ารนำสารเข้าสเู่ ซล เพือ่ ใช้ในกระบวนการตา่ ง ๆ มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบัติ ในการสังเคราะหด์ ้วยแสง ของเซลล์ และมีการขจดั สาร ของสิ่งมีชีวติ หน่วยพน้ื ฐานของ และผลผลิตทีเ่ กิดข้ึนจาก บางอย่างท่เี ซลลไ์ ม่ตอ้ งการอ สง่ิ มชี ีวิต การลำเลียงสารเขา้ การสังเคราะห์ด้วยแสง โดย นอกเซลล์ การนำสารเข้าแล และออกจากเซลล์ ใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ ออกจากเซลล์มหี ลายวิธี เช่น ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้างและ ม.1/7 อธบิ ายความสำคัญ การแพร่เป็นการเคลอื่ นท่ขี อ หน้าท่ขี องระบบตา่ ง ๆ ของสตั ว์ สารจากบริเวณทมี่ ีความเขม้ และมนุษยท์ ท่ี ำงานสมั พนั ธก์ ัน ของการสงั เคราะหด์ ้วยแสง ของสารสูงไปสู่บรเิ วณทมี่ ีคว ความสมั พันธข์ องโครงสร้างและ เข้มข้นของสารตำ่ สว่ นออส ซิส เปน็ การแพร่ของน้ำ ผา่ น เยือ่ หุ้มเซลล์ จากด้านทมี่ ีคว เขม้ ขน้ ของสารละลายตำ่ ไป ดา้ นที่มคี วามเขม้ ข้นของ สารละลายสงู กว่า - กระบวนการสังเคราะห์ด แสงของพืชที่เกิดข้ึนในคลอ ลาสต์ จำเป็นต้องใช้แสง แ คาร์บอนได-ออกไ คลอโรฟลิ ล์ และน้ำ ผลผลติ จากการสังเคราะห์ด้วย ไดแ้ ก่ น้ำตาลและแกส๊ ออกซ
รู้ ความรคู้ วาม คณุ ภาพผเู้ รียน สมรรถนะ เข้าใจ (K) ทกั ษะปฏิบตั ิ คณุ ลกั ษณะนสิ ยั ลล์ (P) (A) ๆ ร ออก ละ น อง มข้น วาม สโม น วาม ปยัง ด้วย - นักเรียน - นักเรยี น - นักเรยี น 1. ความสามารถในการ อโรพ สามารถอธิบาย สามารถระบุ รบั ผิดชอบต่อ ส่อื สาร แก๊ส ความสำคญั ของ ปจั จัยท่ีจำเป็นใน หนา้ ทแ่ี ละงานท่ี 2. ความสามารถในการคดิ ซ ด์ การสงั เคราะห์ การสังเคราะห์ ไดร้ บั มอบหมาย 3. ทกั ษะการสังเกต ตท่ีได้ ด้วยแสงของพชื ด้วยแสงและ 4. ทกั ษะการระบุ แสง ตอ่ ส่ิงมีชวี ติ และ ผลผลิตท่ีเกดิ ขึน้ 5. ทักษะการสำรวจ ซิเจน สิง่ แวดลอ้ ม จากการ 6. ทักษะการสำรวจคน้ หา
มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชี้วัด เน้ือหา/สาระการเรียนร หนา้ ทข่ี องอวัยวะตา่ ง ๆ ของพืช ของพชื ต่อส่งิ มีชวี ติ และ - การสังเคราะห์ด้วยแสง ท่ที ำงานสัมพันธก์ นั รวมท้ังนำ สิ่งแวดล้อม กระบวนการที่สำคัญ ความรู้ไปใช้ประโยชน์ ม.1/8 ตระหนักในคณุ คา่ ส ิ ่ ง ม ี ช ี ว ิ ต เ พ ร า ะ เ ของพชื ท่ีมีตอ่ สิ่งมีชวี ิตและ กระบวนการเดียว ที่สามารถ สิ่งแวดลอ้ ม โดยการรว่ มกนั พลังงานแสงมาเปลี่ยนเ ปลูกและดูแลรักษาต้นไมใ้ น พลังงานในรูปสารประก โรงเรียนและชุมชน อินทรีย์และเก็บสะสม ม.1/9 บรรยายลกั ษณะ รูปแบบต่าง ๆ ในโครงสรา้ ง และหนา้ ทีข่ องไซเลม็ พืช พืชจึงเป็นแหล่งอาหาร และโฟลเอ็ม พลังงานที่สำคัญของสิ่งมีช ม.1/10 เขยี นแผนภาพที่ อื่น นอกจากนี้กระบวน บรรยายทศิ ทางการลำเลยี ง สังเคราะห์ด้วยแสงยังเ สารในไซเลม็ และโฟลเอ็ม กระบวนการหลักในการส ของพชื แก๊สออกซิเจนให้กับบรรยา ม.1/11 อธบิ ายการสบื พันธุ์ เพื่อให้สิ่งมีชีวิตอื่น ใช แบบอาศยั เพศ และไมอ่ าศัย กระบวนการหายใจ เพศของพชื ดอก - พืชมีไซเล็มและโฟลเอ็ม ม.1/12 อธบิ ายลักษณะ เป็นเนื้อเยื่อมีลักษณะคล้าย โครงสร้างของดอกท่ีมีสว่ น เรียงตัวกันเป็นกลุ่มเฉพา ทำใหเ้ กิดการถา่ ยเรณู โดยไซเล็มทำหน้าที่ลำเลีย รวมทัง้ บรรยาย การปฏิสนธิ และธาตุอาหาร มีทิศท ของพชื ดอก การเกิดผลและ ลำเลียงจากรากไปสู่ลำต้น เมลด็ การกระจายเมล็ด และส่วนต่าง ๆ ของพืช เพ และการงอกของเมลด็ ในการสังเคราะห์ด้วยแ
คุณภาพผเู้ รียน รู้ ความรคู้ วาม ทักษะปฏิบตั ิ คุณลกั ษณะนสิ ัย สมรรถนะ เข้าใจ (K) (P) (A) เป็น -นกั เรยี นสามารถ สังเคราะหด์ ้วย 7. ทักษะการจำแนก ญ ต่ อ อธิบายการ แสงได้ ประเภท เ ป็ น สืบพันธุ์แบบ - นกั เรียน 8. ทกั ษะการเปรียบเทียบ ถนำ อาศัยเพศ และไม่ สามารถเขยี น 9. ทกั ษะการนำความรไู้ ปใช้ เป็น อาศยั เพศของพชื แผนภาพที่ 10. ทักษะการสรุปย่อ กอบ ดอกได้ บรรยายทศิ มใน -นักเรยี นสามารถ ทางการลำเลยี ง งของ บรรยายลักษณะ สารในไซเลม็ รและ และหน้าท่ขี องไซ และโฟลเอม็ ของ ชีวิต เลม็ และโฟลเอ็ม พืชได้ การ ได้ เ ป็ น สร้าง ากาศ ช้ใน ม ซ่ึง ยท่อ าะท่ี ยงน้ำ ทาง น ใบ พื่อใช้ แสง
มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชี้วัด เน้ือหา/สาระการเรียนร ม.1/13 ตระหนักถงึ รวมถึงกระบวนการอื่น ๆ ส ความสำคญั ของสตั ว์ที่ช่วย โฟลเอม็ ทำหนา้ ทีล่ ำเลียงอา ในการถ่ายเรณูของพืชดอก ที่ได้จากการสงั เคราะห์ด้วย โดยการไม่ทำลายชวี ิตของ มีทิศทางลำเลียงจากบริเวณ สตั วท์ ่ชี ่วยในการถ่ายเรณู การสงั เคราะหด์ ้วยแสงไปสู่ ม.1/14 อธบิ ายความสำคญั ตา่ ง ๆ ของพชื ของธาตุอาหารบางชนดิ ที่มี - พืชดอกทุกชนิดสาม ผลต่อการเจรญิ เติบโตและ สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศได้ การดำรงชวี ิตของพืช บางชนิดสามารถสืบพันธุ์แ ม.1/15 เลอื กใช้ปุ๋ยทมี่ ธี าตุ ไมอ่ าศัยเพศได้ อาหารเหมาะสมกับพืชใน - การสืบพันธุ์แบบอาศัย สถานการณท์ ่ีกำหนด เป็นการสบื พันธ์ทุ ี่มี ม.1/16 เลือกวิธกี าร การผสมกันของสเปิร์มกับเ ขยายพนั ธพ์ุ ืชใหเ้ หมาะสม ไข่ การสืบพันธุ์ แบบอาศัย กับความต้องการของมนุษย์ ของพืชดอกเกิดขึ้นที่ดอก โดยใชค้ วามรู้เกย่ี วกบั การ ภายในอับเรณูของส่วนเ สบื พนั ธขุ์ องพืช เพศผู้มีเรณู ซึ่งทำหน้าที่ส ม.1/17 อธิบายความสำคญั สเปิร์ม ภายในออวุลของส ของเทคโนโลยี การ เกสรเพศเมีย มีถุงเอ็มบริโอ เพาะเลยี้ งเนอ้ื เยือ่ พืชในการ หน้าที่สร้างเซลล์ไข่ ใช้ประโยชน์ดา้ นต่าง ๆ - การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัย ม.1/18 ตระหนักถึง เป็นการสืบพันธุ์ที่พืชต้น ประโยชน์ของการขยายพันธุ์ ไม่ได้เกิดจากการปฏิส ระหว่างสเปิร์ม กับเซลล์ไข
รู้ ความรคู้ วาม คุณภาพผู้เรยี น สมรรถนะ เขา้ ใจ (K) ทักษะปฏบิ ตั ิ คุณลกั ษณะนิสัย ส่วน (P) (A) าหาร ยแสง ณที่มี ส่วน ารถ และ แบบ เพศ เซลล์ ยเพศ โดย กสร สร้าง ส่วน อ ทำ ยเพศ นใหม่ ส น ธิ ข่ แต่
มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้วี ัด เนื้อหา/สาระการเรียนร พชื โดยการนำความรู้ไปใช้ เกดิ จากสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื ในชวี ิตประจำวัน ราก ลำตน้ ใบ มีการเจรญิ เต และพฒั นาขนึ้ มา เปน็ ตน้ ให - การถ่ายเรณู คือ ก เคลื่อนย้ายของเรณูจากอับ ไปยังยอดเกสรเพศเมีย เกี่ ยว ข้อ งกับลัก ษณะแ โครงสร้างของดอก เช่น ส กลีบดอก ตำแหนง่ ของเกสร ผู้และเกสรเพศเมีย โดยมีส ช่วยในการถ่ายเรณู เช่น แ ลม - การถ่ายเรณูจะนำไปส ปฏิสนธิ ซึ่งจะเกิดขึ้นท เอ็มบริโอภายในออวุล หลัง ปฏิสนธิจะได้ไซโกต และเอ สเปิร์ม ไซโกตจะพัฒนาต่ เป็นเอ็มบริโอ ออวุลพัฒน เป็นเมล็ด และรังไข่พัฒน เป็นผล - การถ่ายเรณูจะนำไปส ปฏิสนธิ ซึ่งจะเกิดขึ้นท เอ็มบริโอภายในออวุล หลัง ปฏิสนธิจะได้ไซโกต และเอ
รู้ ความรคู้ วาม คณุ ภาพผู้เรยี น สมรรถนะ เข้าใจ (K) ทกั ษะปฏบิ ัติ คณุ ลักษณะนสิ ยั เช่น (P) (A) ติบโต หมไ่ ด้ การ บเรณู ย ซ่ึง และ สีของ รเพศ สิ่งท่ี แมลง ู่การ ท ี ่ ถุ ง งการ อนโด อไป นาไป นาไป ู่การ ท ี ่ ถุ ง งการ อนโด
มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้วี ัด เนอ้ื หา/สาระการเรียนร สเปิร์ม ไซโกตจะพัฒนาต่ เป็นเอ็มบริโอ ออวุลพัฒน เป็นเมล็ด และรังไข่พัฒน เป็นผล - ผลและเมล็ดมีการกระจ ออกจากต้นเดิม โดยวิธีการ ๆ เมื่อเมล็ดไปตก สภาพแวดล้อมที่เหมาะส เกิดการงอกของเมล็ด เอ็มบริโอภายในเมล็ดจะเจ ออกมา โดยระยะแรกจะอ อาหารที่สะสมภายในเม จนกระทั่งใบแท้พัฒนา สามารถสังเคราะห์ด้วยแส เต็มที่ และสร้างอาหารได ตามปกติ - พืชต้องการธาตุอาหา จำเป็นหลายชนิดในก เจริญเติบโตและการดำรงชีว - พืชต้องการธาตุอาหาร ชนิดในปริมาณมาก ได ไนโตรเจน ฟอสฟอ โพแทสเซียม แคลเซ แมกนเี ซยี ม และกำมะถนั ซ
รู้ ความรคู้ วาม คณุ ภาพผู้เรยี น สมรรถนะ เขา้ ใจ (K) ทกั ษะปฏบิ ัติ คุณลักษณะนสิ ยั อไป (P) (A) นาไป นาไป จาย รตา่ ง กใน มจะ โดย จริญ อาศัย ม ล็ ด จน สงได้ ด้เอง ารที่ การ วติ บาง ด ้ แ ก่ อ รั ส ซียม ซงึ่ ใน
มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้วี ัด เนือ้ หา/สาระการเรยี นร ดนิ อาจมไี มเ่ พียงพอ สำหรบั เจริญเติบโตของพืช จึงต้อ การให้ธาตุอาหารในรูปของ กับพืชอยา่ งเหมาะสม - มนุษย์สามารถนำความรู้เ การสืบพันธุ์ แบบอาศยั เพศ ไม่อาศัยเพศ มาใช้ในก ขยายพันธุ์เพื่อเพิ่มจำนวน เช่น การใช้เมล็ดที่ได้จาก สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ เพาะเลี้ยง วิธีการนี้จะได้พ ปรมิ าณมาก แต่อาจมีลักษณ แตกต่างไป จากพ่อแม่ สว่ นการตอนก่งิ ปักชำ การตอ่ กงิ่ การตดิ ตา ทาบกิ่ง การเพาะเลี้ยงเนื้อ เป็นการนำความรู้เรื่อง สืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ พืชมาใช้ในการขยายพ เพื่อให้ไดพ้ ืชที่มีลักษณะเหม ต้นเดิม ซึ่งการขยายพันธุ์แ วธิ ี มขี นั้ ตอนแตกต่างกัน จงึ เลือกให้เหมาะสมกับคว ตอ้ งการของมนุษย์
รู้ ความรคู้ วาม คุณภาพผ้เู รยี น สมรรถนะ เข้าใจ (K) ทกั ษะปฏิบัติ คณุ ลักษณะนสิ ัย บการ (P) (A) องมี งปุ๋ย เรื่อง ศและ การ นพืช การ ศมา พืชใน ณะที่ การ การ อเยื่อ งการ ของ พ ั น ธ์ุ มือน แต่ละ งควร วาม
มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้วี ัด เน้อื หา/สาระการเรยี นร โดยต้องคำนึงถึงชนิดของ และลกั ษณะการสบื พันธุข์ อ - เทคโนโลยีการเพาะเล เนื้อเยื่อพืช เป็นการนำคว เกี่ยวกับปัจจัยที่จำเป็นต่อ เจริญเติบโตของพืชมาใชใ้ น เพิ่มจำนวนพืช และทำให สามารถเจรญิ เติบโตไดใ้ นหล ทดลอง ซึ่งจะได้พืชจำนวน ในระยะเวลาสั้น และสาม นำเทคโนโลยีการเพาะเล เนื้อเยื่อมาประยุกต์ เพื่อ อนุรักษ์พันธุกรรมพืช ปรับ พันธุ์พืชที่มีความสำคัญ เศรษฐกิจ การผลิตยาแ สาระสำคัญในพืช และอืน่ ๆ
รู้ ความรู้ความ คุณภาพผูเ้ รียน สมรรถนะ เข้าใจ (K) ทักษะปฏบิ ตั ิ คุณลกั ษณะนิสยั งพืช (P) (A) องพืช ลี้ยง วามรู้ อการ นการ ห้พืช ลอด นมาก มารถ ลี้ยง อการ บปรุง ทาง และ ๆ
การวดั ผลประเมินผล รายวิชาวทิ ยาศาสตรพ์ น้ื ฐาน ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 1. อตั ราส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 70 : 30 2. อัตราส่วนคะแนนความรู้ (K): ทักษะกระบวนการ(P) : คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) = 70:15:15 3. อัตราส่วนคะแนน K : P : A ระหวา่ งภาค = 30:10:10 4. อตั ราส่วนคะแนน K : P : A กลางภาค = 20:0:0 5. อตั ราสว่ นคะแนน K : P : A ปลายภาค = 30:0:0 ตารางแสดงสัดส่วนคะแนน ความรู้ (K) : ทักษะกระบวนการ (P) : คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด คะแนนระหวา่ งภาค (K ) (P ) (A ) รวม ว 2.1 ม.1/1 อธิบายสมบัติทางกายภาพบางประการของธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ โดยใช้หลักฐานเชิง 11- 2 ประจักษ์ที่ได้จากการสังเกตและการทดสอบ และใช้สารสนเทศท่ีได้จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งจัดกลุ่มธาตุ เปน็ โลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ ว 2.1 ม.1/2 วิเคราะหผ์ ลจากการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ ก่งึ โลหะ และธาตุกัมมันตรงั สี ท่ีมีต่อสง่ิ มีชวี ติ สิ่งแวดล้อม 1 1 - 2 เศรษฐกิจและสังคม จากข้อมูลทีร่ วบรวมได้ ว 2.1 ม.1/3 ตระหนกั ถึงคณุ คา่ ของการใชธ้ าตุโลหะ อโลหะ ก่งึ โลหะ ธาตกุ ัมมันตรังสี โดยเสนอแนวทางการใช้ 1 - 1 2 ธาตอุ ย่างปลอดภยั คุ้มคา่ ว 2.1 ม.1/4 เปรียบเทียบจดุ เดอื ด จุดหลอมเหลวของสารบรสิ ุทธิ์และสารผสม โดยการวัดอุณหภูมิ เขียนกราฟ 1 1 - 2 แปลความหมายขอ้ มูลจากกราฟ หรอื สารสนเทศ ว 2.1 ม.1/5 อธบิ ายและเปรยี บเทียบความหนาแน่นของสารบริสทุ ธิแ์ ละสารผสม 11- 2 ว 2.1 ม.1/6 ใช้เครอื่ งมือเพอ่ื วัดมวลและปริมาตรของสารบรสิ ุทธิแ์ ละสารผสม 11- 2 ว 2.1 ม.1/7 อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอะตอม ธาตุ และสารประกอบ โดยใช้แบบจำลองและ 1 1 - 2 สารสนเทศ ว 2.1 ม.1/8 อธิบายโครงสร้างอะตอมทีป่ ระกอบดว้ ยโปรตอน นวิ ตรอน และอเิ ล็กตรอน โดยใช้แบบจำลอง 1 1 - 2 ว 2.1 ม.1/9 อธิบายและเปรียบเทียบการจัดเรียงอนุภาค แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค และการเคล่ือนที่ของ 1 1 - 2 อนภุ าคของสสารชนิดเดยี วกันในสถานะของแขง็ ของเหลว และแกส๊ โดยใช้แบบจำลอง ว 2.1 ม.1/10 อธบิ ายความสัมพันธ์ระหว่างพลงั งานความรอ้ นกับการเปลี่ยนสถานะของสสาร โดยใช้หลักฐาน 1 - 1 2 เชิงประจกั ษ์และแบบจำลอง ว 1.2 ม.1/1 เปรยี บเทยี บรปู ร่าง ลักษณะ และโครงสรา้ งของเซลล์พืชและเซลลส์ ัตว์ รวมทั้งบรรยายหน้าที่ของ 2 1 1 4 ผนังเซลล์ เยอ่ื หุ้มเซลล์ ไซโทพลาซมึ นวิ เคลียส แวคิวโอลไมโทคอนเดรีย และ คลอโรพลาสต์ ว 1.2 ม.1/2 ใช้กลอ้ งจลุ ทรรศนใ์ ชแ้ สงศกึ ษาเซลล์ และโครงสร้างต่าง ๆ ภายในเซลล์ 211 4 ว 1.2 ม.1/3 อธิบายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งรูปรา่ ง กบั การทำหนา้ ทขี่ องเซลล์ 211 4 ว 1.2 ม.1/4 อธิบายการจดั ระบบของสงิ่ มีชวี ิต โดยเร่ิมจากเซลล์ เนื้อเยอ่ื อวัยวะ ระบบอวัยวะ จนเปน็ สิ่งมีชีวติ 2 1 1 4 ว 1.2 ม.1/5 อธิบายกระบวนการแพร่และออสโมซิสจากหลักฐานเชิงประจักษ์ และยกตัวอย่างการแพร่และ 2 1 1 4 ออสโมซิสในชีวติ ประจำวัน รวมคะแนนระหวา่ งภาค 20 13 7 40
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด คะแนนระหวา่ งภาค (K ) (P ) (A ) รวม รวมคะแนนสอบกลาง 10 - - 10 ว 1.2 ม.1/6 ระบุปจั จัยท่จี ำเปน็ ในการสงั เคราะห์ด้วยแสงและผลผลิตท่เี กดิ ขึ้นจากการสงั เคราะหด์ ้วยแสง โดย 2 - - 2 ใชห้ ลักฐานเชิงประจักษ์ ว 1.2 ม.1/7 อธบิ ายความสำคญั ของการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพืชต่อส่งิ มชี ีวติ และสิ่งแวดล้อม 2- - 2 ว 1.2 ม.1/8 ตระหนักในคุณคา่ ของพชื ทม่ี ีตอ่ ส่ิงมชี วี ติ และสิ่งแวดลอ้ ม โดยการร่วมกันปลกู และดแู ลรักษาต้นไม้ 2 - 1 3 ในโรงเรยี นและชุมชน ว 1.2 ม.1/9 บรรยายลักษณะและหนา้ ที่ของไซเลม็ และโฟลเอ็ม 2- - 2 ว 1.2 ม.1/10 เขยี นแผนภาพทบ่ี รรยายทิศทางการลำเลยี งสารในไซเล็มและโฟลเอ็มของพืช 21- 3 ว 1.2 ม.1/11 อธิบายการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ และไม่อาศัยเพศของพืชดอก 21- 3 ว 1.2 ม.1/12 อธบิ ายลักษณะโครงสรา้ งของดอกทม่ี สี ว่ นทำให้เกิดการถา่ ยเรณู รวมทงั้ บรรยาย การปฏิสนธิของ 2 - - 2 พืชดอก การเกดิ ผลและเมลด็ การกระจายเมลด็ และการงอกของเมล็ด ว 1.2 ม.1/13 ตระหนักถึงความสำคญั ของสตั วท์ ่ชี ว่ ยในการถา่ ยเรณูของพืชดอก โดยการไมท่ ำลายชวี ติ ของสัตว์ 2 - 1 3 ที่ชว่ ยในการถา่ ยเรณู ว 1.2 ม.1/14 อธิบายความสำคัญของธาตุอาหารบางชนดิ ทีม่ ีผลต่อการเจริญเตบิ โตและการดำรงชวี ติ ของพืช 2 - - 2 ว 1.2 ม.1/15 เลือกใชป้ ยุ๋ ที่มีธาตอุ าหารเหมาะสมกบั พืชในสถานการณท์ กี่ ำหนด 2- - 2 ว 1.2 ม.1/16 เลือกวิธีการขยายพันธุ์พืชให้เหมาะสมกับความต้องการของมนุษย์ โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับการ 1 - - 1 สบื พนั ธุข์ องพชื ว 1.2 ม.1/17 อธิบายความสำคัญของเทคโนโลยี การเพาะเล้ยี งเนื้อเย่อื พชื ในการใชป้ ระโยชน์ด้านต่าง ๆ 2- - 2 ว 1.2 ม.1/18 ตระหนกั ถงึ ประโยชน์ของการขยายพันธุ์พืช โดยการนำความรไู้ ปใชใ้ นชีวิตประจำวนั 2-13 รวมคะแนนระหวา่ งภาค 25 2 3 30 รวมคะแนนปลายภาค 20 - - 20 รวมทงั้ หมด 75 15 10 100
Search