การจัดทาโครงสรา้ งรายวิชา รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว 32102 ระดับช้ัน มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ จัดทาโดย นางสาวจนั จริ า ธนันชยั ตาแหนง่ พนักงานราชการ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31ตาบลชา่ งเคิง่ อาเภอแม่แจม่ จังหวัดเชยี งใหม่ สานักบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษสานักงานการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์รำยวิชำ วิทยำศำสตร์ รหัสวชิ ำ ว 32102 ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 5 ภำคเรยี นท่ี 2เวลำเรียน 40 ชัว่ โมง/ภำคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษา วเิ คราะห์ สารวจ สืบคน้ ข้อมูลอธิบายและอภปิ รายผลของเทคโนโลยชี ีวภาพทม่ี ตี อ่ มนุษยแ์ ละสิ่งแวดล้อมและนาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ ผลของความหลากหลายทางชีวภาพที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมกระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติ และผลของการคัดเลือกตามธรรมชาติต่อความหลากหลายของส่ิงมีชีวิต เขียนสมการของปฏิกิริยาเคมีทั่วไปที่พบในชีวิตประจาวัน รวมทั้งอธิบายผลของสารเคมีที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและส่ิงแวดล้อมอัตราการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี ปัจจัยทีม่ ีผลตอ่ อตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี และนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ การเกิดปโิ ตรเลียมกระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติ และการกล่ันลาดับส่วนน้ามันดิบ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สเปกตรัมคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าและนาเสนอผลการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ และการป้องกันอันตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การเกิดและวิวัฒนาการของระบบสุรยิ ะ กาแล็กซี และเอกภพ และธรรมชาติและวัฒนาการของดาวฤกษ์ โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสบื ค้นขอ้ มูลบนั ทกึ จดั กล่มุ ขอ้ มลู และการอภปิ รายเพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถนาเสนอ สอ่ื สารสิง่ ทเ่ี รียนรู้ มความสามารถ ในการตดั สนิ ใจ เหน็ คุณคา่ ของการนาความรไู้ ปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์คุณธรรม จริยธรรม และ คา่ นิยมที่เหมาะสมตวั ช้ีวัดว 1.2 ม.๔-๖/2 สบื ค้นขอ้ มูลและอภปิ รายผลของเทคโนโลยชี วี ภาพทมี่ ีต่อมนุษย์และส่ิงแวดล้อมและนาความรู้ไป ใช้ ประโยชน์ว 1.2 ม.๔-๖/3 สบื ค้นขอ้ มลู และอภิปรายผลของความหลากหลายทางชวี ภาพท่ีมีต่อมนุษย์และสิง่ แวดล้อมว 1.2 ม.๔-๖/4 อธิบายกระบวนการคดั เลือกตามธรรมชาติ และผลของการคดั เลือกตามธรรมชาติตอ่ ความ หลากหลายของสิง่ มชี วี ติว 3.2 ม.๔-๖/1 ทดลองอธบิ ายและเขียนสมการของปฏกิ ริ ยิ าเคมีท่ัวไปท่ีพบในชวี ติ ประจาวัน รวมทั้งอธิบายผล ของ สารเคมีทม่ี ตี ่อสงิ่ มชี วี ิตและสิง่ แวดล้อมว 3.2 ม.๔-๖/2 ทดลองและอธิบายอัตราการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี ปจั จยั ที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี และนา ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ว 3.2 ม.๔-๖/3 สบื ค้นข้อมูลและอธบิ ายการเกดิ ปโิ ตรเลยี ม กระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติ และการกล่ันลาดบั ส่วนนา้ มันดบิว 5.1 ม.๔-๖/4 อธิบายคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สเปกตรัมคลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟ้า และนาเสนอผลการสบื ค้นข้อมูลเก่ยี วกบั ประโยชน์ และการป้องกันอนั ตรายจากคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟ้าว 7.1 ม.๔-๖/1 สบื คน้ และอธิบายการเกดิ และวิวฒั นาการของระบบสรุ ยิ ะ กาแล็กซี และเอกภพว 7.1 ม.๔-๖/2 สบื คน้ และอธบิ ายธรรมชาตแิ ละวัฒนาการของดาวฤกษ์ว ๘.๑ ม.๔-๖/๑ ต้งั คาถามทีอ่ ย่บู นพ้นื ฐานของความรแู้ ละความเข้าใจทางวทิ ยาศาสตร์ หรอื ความสนใจ หรอื จาก ประเดน็ ที่เกดิ ขน้ึ ในขณะน้ัน ที่สามารถทาการสารวจตรวจสอบหรือศกึ ษาคน้ คว้าไดอ้ ยา่ งว ๘.๑ ม.๔-๖/๒ ครอบคลุม และเช่ือถือได้ สร้างสมมติฐานทม่ี ที ฤษฎีรองรบั หรอื คาดการณส์ ่ิงท่ีจะพบ หรือสร้างแบบจาลอง หรือสร้าง รปู แบบ เพือ่ นาไปสูก่ ารสารวจตรวจสอบ
ว ๘.๑ ม.๔-๖/๓ ค้นควา้ รวบรวมข้อมูลท่ตี ้องพิจารณาปัจจัยหรอื ตวั แปรสาคญั ปจั จยั ทีม่ ีผลตอ่ ปัจจัยอนื่ ปัจจยั ทค่ี วบคุมไม่ได้ และจานวนครั้งของการสารวจ ตรวจสอบเพ่ือให้ได้ผลทม่ี ีความเชอื่ มน่ั อยา่ ง เพียงพอว ๘.๑ ม.๔-๖/๔ เลอื กวสั ดุ เทคนคิ วธิ ี อปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการสงั เกต การวดั การสารวจ ตรวจสอบอยา่ งถกู ต้อง ทงั้ ทาง กวา้ งและลึกในเชงิ ปริมาณและคณุ ภาพว ๘.๑ ม.๔-๖/๕ รวบรวมข้อมลู และบันทึกผลการสารวจตรวจสอบอย่างเป็นระบบถูกตอ้ ง ครอบคลุมทงั้ ในเชงิ ปริมาณ และคณุ ภาพ โดยตรวจสอบความเปน็ ไปได้ ความเหมาะสมหรือความผดิ พลาดของขอ้ มลูว ๘.๑ ม.๔-๖/๖ จัดกระทาข้อมลู โดยคานึงถงึ การรายงานผลเชิงตัวเลขทมี่ ีระดบั ความถกู ต้องและนาเสนอขอ้ มูล ด้วยเทคนิควธิ ที ่เี หมาะสมว ๘.๑ ม.๔-๖/๗ วิเคราะห์ข้อมลู แปลความหมายข้อมูล และประเมินความสอดคล้องของขอ้ สรปุ หรอื สาระสาคัญ เพื่อตรวจสอบกับสมมติฐานทีต่ ั้งไว้ว ๘.๑ ม.๔-๖/๘ พิจารณาความนา่ เช่ือถือของวิธีการและผลการสารวจตรวจสอบโดยใช้หลักความคลาดเคลอ่ื น ของการวดั และการสงั เกต เสนอแนะการปรบั ปรงุ วิธีการสารวจตรวจสอบว ๘.๑ ม.๔-๖/๙ นาผลของการสารวจตรวจสอบที่ได้ ท้งั วธิ กี ารและองคค์ วามรู้ท่ไี ด้ไปสร้างคาถามใหม่ นาไปใช้ แก้ปญั หาในสถานการณใ์ หม่และในชีวิตจริงว ๘.๑ ม.๔-๖/๑๐ ตระหนักถงึ ความสาคัญในการทจ่ี ะตอ้ งมสี ว่ นร่วมรบั ผดิ ชอบการอธบิ าย การลงความเหน็ และการสรุปผลการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ทีน่ าเสนอต่อสาธารณชนด้วยความถูกต้องว ๘.๑ ม.๔-๖/๑๑ บนั ทกึ และอธิบายผลการสารวจตรวจสอบอยา่ งมเี หตผุ ล ใชพ้ ยานหลกั ฐานอ้างองิ หรอื ค้นคว้า เพือ่ เตมิ เพอ่ื หาหลักฐานอ้างองิ ท่ีเชอ่ื ถือได้และยอมรบั ว่าความรู้เดิม อาจมกี ารเปลยี่ นแปลง ได้ เม่อื มขี ้อมลู และประจักษ์พยานใหมเ่ พ่ิมเติม หรือโตแ้ ยง้ จากเดมิ ซ่ึงท้าทายให้มีการตรวจสอบ อย่างระมัดระวัง อันจะนามาสู่การยอมรบั เปน็ ความร้ใู หม่ว ๘.๑ ม.๔-๖/๑๒ จดั แสดงผลงาน เขียนรายงาน และ/หรอื อธิบายเกยี่ วกบั แนวคดิ กระบวนการและผลของ โครงงานหรือชิ้นงานใหผ้ อู้ ื่นเขา้ ใจรวม 21 ตวั ช้วี ัด
ผงั มโนทัศน์รายวชิ าวิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว 32102 ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2561ช่อื หนว่ ยเทคโนโลยีชวี ภำพและควำม ชือ่ หน่วยปฏกิ รยิ ำเคมี หลำกหลำย จำนวน 10 ชวั่ โมง : 20 คะแนน จำนวน 12 ชวั่ โมง : 20 คะแนน รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 5 จานวน 40 ช่วั โมง ชอ่ื หน่วยคลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้ำ ชอ่ื หน่วยวิวฒั นำกำรของระบบสรุ ิยะจำนวน 10 ชั่วโมง : 20 คะแนน กำแลก็ ซี และเอกภพ จำนวน 8 ชัว่ โมง : 10 คะแนน
โครงสรา้ ง รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเที่ ช่ือหน่วย รหสั มฐ.ตวั ช้วี ัด/1 เทคโนโลยีชีวภาพ ผลการเรยี นรู้ และความ หลากหลายทาง ว 1.2 ม.๔-๖/2 สืบคน้ ขอ้ มลู และ - โลกมีความหลา ชวี ภาพ อภิปรายผลของเทคโนโลยีชีวภาพท่ีมี มากมายหลายสป2 ปฏิกริ ิยาเคมี ตอ่ มนษุ ย์และสงิ่ แวดล้อมและนา หลากหลายทางพ ความรูไ้ ปใช้ ประโยชน์ - ความหลากหลา ว 1.2 ม.๔-๖/3 สืบค้นข้อมูลและ อนื่ ๆ ได้ใชป้ ระโย อภิปรายผลของความหลากหลายทาง แหลง่ สบื พันธ์ุและ ชีวภาพที่มตี ่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม อย่ไู ด้ ว 1.2 ม.๔-๖/4 อธบิ ายกระบวนการ - สงิ่ มชี วี ติ ทีม่ คี วา คดั เลือกตามธรรมชาติ และผลของการ ปจั จยั ตา่ ง ๆ ในก คัดเลือกตามธรรมชาตติ ่อความ ของระบบนิเวศบ หลากหลายของสง่ิ มีชีวติ - สิ่งมีชวี ติ แต่ละส ส่งิ มีชวี ิตในสปีชสี - การคดั เลอื กตา ของประชากรในก สปีชีสใ์ หมท่ าให้เก ว 3.2 ม.๔-๖/1 ทดลองอธบิ ายและ ในชีวติ ประจาวัน เขยี นสมการของปฏิกริ ยิ าเคมีทัว่ ไปท่ี ธรรมชาตแิ ละมน พบในชีวติ ประจาวัน รวมทัง้ อธิบายผล ด้วยสมการเคมี
งรายวิชารหสั วิชา ว 32102เรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2561สาระสาคญั เวลา คะแนน A (ชม.) รวม K P 5 20 10 5ากหลายของระบบนิเวศซ่ึงมีสิ่งมชี วี ติ อาศยั อยู่ 12ปีชสี ์ สิง่ มชี ีวิตสปีชสี เ์ ดียวกนั ก็ยังมีความพนั ธกุ รรมายทางชีวภาพสง่ ผลทาใหม้ นุษย์ และสง่ิ มีชวี ติยชน์ในแงข่ องการเปน็ อาหาร ทีอ่ ยู่อาศยัะขยายพันธุ์ ทาให้ส่ิงมีชีวติ สามารถดารงพนั ธุ์ามหลากหลายทางชวี ภาพ มีความต้องการ 10 20 10 5 5การดารงชีวติ แตกต่างกันซงึ่ จะช่วยรกั ษาสมดุลบนโลกได้สปชี ีสจ์ ะมคี วามหลาก หลายที่แตกต่างกนัสเ์ ดยี วกนั จะผสมพันธแุ์ ละสืบลูกหลานต่อไปได้ามธรรมชาติจะส่งผลทาให้ลกั ษณะพนั ธุกรรม กลมุ่ ย่อยแต่ละกลมุ่ แตกตา่ งกนั ไปจนกลายเปน็ กิดเป็นความหลากหลายของส่ิงมีชีวตินจะพบเห็นปฏกิ ิรยิ าเคมจี านวนมาก ท้งั ที่เกิดในนุษยเ์ ป็นผู้กระทา ปฏกิ ิรยิ าเคมีเขยี นแทนได้
ท่ี ชื่อหน่วย รหัส มฐ.ตัวชว้ี ัด/ ผลการเรียนรู้ ของ สารเคมีท่มี ตี ่อสง่ิ มชี ีวติ และ มนษุ ยน์ าสารเคม ส่ิงแวดล้อม และอตุ สาหกรรม ว 3.2 ม.๔-๖/2 ทดลองและ และสง่ิ แวดลอ้ ม อธิบายอตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ปัจจยั ที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏกิ ริ ิยา คารโ์ บไฮเดรตจ เคมี และนา ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ในชวี ติ ประจาวัน ว 3.2 ม.๔-๖/3 สืบค้นข้อมลู และ โดยมีน้าตาลเปน็ อธบิ ายการเกิดปโิ ตรเลยี ม และ O การตรวจ กระบวนการแยกแกส๊ ธรรมชาติ และ เบเนดกิ ต์ การกล่ันลาดับสว่ นน้ามันดบิ ไขมันและน้าม รวมตัวของกรดไข และไม่อม่ิ ตัว ซง่ึ ส ไขมนั และนา้ ม อุตสาหกรรม กา อันตรายต่อสุขภา โปรตีนเปน็ สา ซอ่ มแซมเน้ือเย่ือ กรดอะมโิ นจาเปน็ C H O N การท กบั NaOH กรดนวิ คลอี กิ เป ธาตุ C H O N
สาระสาคญั เวลา คะแนน (ชม.) รวม K P Aมีมาใชป้ ระโยชนท์ ัง้ ในบา้ น ในทางการเกษตรม แต่สารเคมีบางชนดิ เป็นอนั ตรายต่อส่ิงมีชีวติ จัดเปน็ แหลง่ พลังงานของสิ่งมีชีวติ พบได้ทั่วไปน เชน่ นา้ ตาล แป้ง เซลลูโลสและไกลโคเจนนหน่วยย่อยสาคัญ ซง่ึ ประกอบด้วยธาตุ C Hจสอบชนดิ ของน้าตาลทา ไดโ้ ดยใช้สารละลายมนั เปน็ สารประกอบไตรกลเี ซอไรด์ เกิดจากการขมนั กบั กลีเซอรอล กรดไขมนั มีท้งั ชนิดอิม่ ตัวสามารถตรวจสอบได้โดยใชส้ ารละลายไอโอดนีมนั นามาใชป้ ระโยชน์ไดท้ ัง้ การบรโิ ภคและใชใ้ นารบริโภคไขมันทข่ี าดความระมัดระวังจะเป็นาพได้ารท่ีช่วยในการเจรญิ เติบโต เสริมสร้างและอ หนว่ ยยอ่ ยของโปรตีนคือ กรดอะมโิ นซงึ่ มีท้งันและไม่จาเป็น มีธาตุองค์ประกอบสาคัญคอืทดสอบโปรตีนในอาหารใช้สารละลาย CuSO4 ปน็ สารโมเลกลุ ใหญ่คล้ายโปรตีน ประกอบด้วยN ทพี่ บในเซลล์ของ
ท่ี ชอื่ หน่วย รหัส มฐ.ตวั ช้วี ดั / ผลการเรยี นรู้ ส่ิงมีชีวิต มี ๒ ช กระบวนการถา่ ย3 คลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า ว 5.1 ม.๔-๖/4 อธบิ ายคลนื่ คล่ืนแม่เหล แม่เหล็กไฟฟา้ สเปกตรัมคลน่ื สนามไฟฟ้าท่ีเปล แม่เหลก็ ไฟฟา้ และนาเสนอผลการ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้ามีค สืบคน้ ข้อมูลเกี่ยวกบั ประโยชน์ และ ความถี่ตา่ งๆ มีลัก การปอ้ งกนั อนั ตรายจากคลืน่ ได้แตกตา่ งกนั เช แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า อันตรายจากคลื่น ขณะเตาทางาน4 ววิ ฒั นาการของ ว 7.1 ม.๔-๖/1 สบื คน้ และอธิบาย เอกภพกาเนิด ณระบบสุริยะ การเกิดและวิวฒั นาการของระบบ เปลี่ยนเปนสสารกาแลก็ ซี และเอก สรุ ยิ ะ กาแล็กซี และเอกภพ พร้อมปฏอิ นุภาคภพ ว 7.1 ม.๔-๖/2 สบื คน้ และอธิบาย รวมตัวกันเปน็ อน ธรรมชาตแิ ละวฒั นาการของดาวฤกษ์ โปรตรอนและนิว เกดิ เปน็ อะตอมข ไฮโดรเจนและฮีเล ด้ังเดมิ เนบิวลาด ภายในกาแลก็ ซ่ี เ เปนกอนแกส ประกอบสวนใหญ
สาระสาคัญ เวลา คะแนน (ชม.) รวม K P Aชนดิ คือ DNA และ RNA ซึ่งเกี่ยวข้องกับยทอดทางพนั ธุกรรมล็กไฟฟ้าประกอบดว้ ย สนาม แมเ่ หล็กและ 10 20 10 5 5ล่ียนแปลงตลอดเวลา สเปกตรัมคล่ืนความถีต่ ่อเนอื่ งกัน โดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าช่วงกษณะเฉพาะตัว ซงึ่ สามารถนาไปใช้ประโยชน์ช่น การรับส่งวิทยุ โทรทัศน์ การปอ้ งกันนแม่เหล็กไฟฟ้า เชน่ ไม่อยู่ใกลเ้ ตาไมโครเวฟณ จดุ ท่ีเรียกวาบิกแบง เปน จดุ ที่พลงั งานเร่มิ 8 10 5 3 2 เกิดเป็นอนุภาค ควารก์ อิเล็กตรอน นวิ ทริโนค เม่ืออุณหภมู ิของเอกภพ ลดตา่ ลง ควาร์กจะนภุ าคพ้นื ฐาน คอื โปรตรอนและนิวตรอน ต่อมาวตรอนรวมตัวกันเป็นนวิ เคลยี สของฮีเลียม และของไฮโดรเจนและฮีเลยี ม อะตอมของลียม ซึ่งเปน็ องค์ประกอบสว่ นใหญ่ของเนบวิ ลาดง้ั เดิมกระจายอยูเ่ ปน็ หย่อมๆกลายเปน็ กาแลก็ ซ่ีเกิดเปน็ ดาวฤกษ์ ระบบดาวฤกษ์สรอนขนาดใหญ กาเนิดมาจากเนบวิ ลา ที่มอี งคญ่เปนธาตไุ ฮโดรเจน
ท่ี ชื่อหน่วย รหสั มฐ.ตัวชี้วดั / ผลการเรยี นรู้ ที่แกนกลางของ หลอมนวิ เคลียสข พลังงานออกมา อันดบั ความ ความสวางปรากฏ โลก สขี องดาวฤก และอายุของดาว นหลมุ ดา ขึน้ อยูก รวมทั้งสนิ้
สาระสาคญั เวลา คะแนน (ชม.) รวม K P A ดาวฤกษจะเกดิ ปฏิกิริยาเทอรโมนิวเคลียรของไฮโดรเจนเปนนวิ เคลียสของฮีเลยี ม ไดมสวางของดาวฤกษท่ีสังเกต เหน็ ได้มาจากฏที่ขน้ึ อยูกับความสวางจรงิ และระยะหางจากกษมีความสัมพนั ธกบั อุณหภูมิผิวของดาวฤกษวฤกษ ดาวฤกษมีอายุยาวหรอื สั้น มีจุดจบเปกบั มวลของดาว ฤกษ 40 70 35 18 17
การวิเคราะห์มาต รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเ ตวั ช้ีวัด/ รอู้ ะไร ทาอะไรผลการเรียนรู้ว 1.2 ม.๔-๖/2 สืบค้นขอ้ มูล รู้อะไร - นาเสนอเ ความหลากและอภปิ รายผลของ - เทคโนโลยชี ีวภาพมปี ระโยชน์ - ใบงาน เท - ใบงาน ควเทคโนโลยชี ีวภาพท่ีมีตอ่ มนุษย์ อยา่ งไร -และส่งิ แวดลอ้ มและนาความรู้ - ความหลากหลายทางชวี ภาพมี กระบวนกาไปใช้ ประโยชน์ อะไรบา้ งว 1.2 ม.๔-๖/3 สืบค้นข้อมูลและอภิปรายผลของความ - กระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติหลากหลายทางชวี ภาพท่ีมีต่อ มีผลตอ่ มนษุ ย์และสง่ิ แวดล้อมอยา่ งไรมนษุ ยแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ มว 1.2 ม.๔-๖/4 อธบิ าย ทาอะไรกระบวนการคัดเลอื กตาม - บอกประโยชน์ของธรรมชาติ และผลของการ เทคโนโลยชี วี ภาพคัดเลือกตามธรรมชาตติ ่อความหลากหลายของสิง่ มชี วี ิต - บอกความหลากหลายทางชีวภาพ - อธิบายกระบวนการคัดเลือกตาม ธรรมชาติมผี ลต่อมนษุ ย์และ สิง่ แวดลอ้ ม
ตรฐานและตัวช้วี ดั รหสั วิชา ว 32102เรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2561ภาระงาน/ชิ้นงาน สมรรถนะสาคญั คุณลักษณะ คุณลักษณะ ของวชิ า อนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ัยเทคโนโลยชี ีวภาพที่มีผลตอ่ 1. ความสามารถ 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทางานกหลายทางชวี ภาพ ในการคดิทคโนโลยชี ีวภาพ 2. ความสามารถวามหลากหลายทางชีวภาพ ในการส่อื สาร ใบงานารคดั เลือกตามธรรมชาติ
ตวั ชี้วดั / รอู้ ะไร ทาอะไรผลการเรยี นรู้ว 3.2 ม.๔-๖/1 ทดลอง รู้อะไร - การนาเสนอธบิ ายและเขยี นสมการของ - ปฏกิ ิริยาเคมีทัว่ ไปท่ีพบใน ท่พี บเห็นในปฏิกิริยาเคมีทัว่ ไปท่ีพบใน ชีวติ ประจาวนั มีอะไรบา้ งชวี ิตประจาวนั รวมทง้ั อธบิ ายผล -ของ สารเคมที ่ีมตี ่อส่ิงมชี วี ติ และ - อตั ราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมีข้ึนขน้ึ ได้ ใบงานการเกสิ่งแวดลอ้ ม อย่างไร แกส๊ ธรรมชา นา้ มนั ดบิว 3.2 ม.๔-๖/2 ทดลอง - ปจั จัยทีม่ ผี ลต่ออตั ราการและอธบิ ายอัตราการ เกดิ ปฏิกิริยาเคมีคืออะไรเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี ปจั จัยท่มี ผี ล - การเกดิ ปิโตรเลยี ม กระบวนการแยกต่ออัตราการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี แกส๊ ธรรมชาติ และการกล่ันลาดบั สว่ นและนา ความรไู้ ปใช้ประโยชน์ นา้ มนั ดิบเปน็ อย่างไรว 3.2 ม.๔-๖/3 สืบค้นข้อมลูและอธบิ ายการเกดิ ปโิ ตรเลียม ทาอะไรกระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติ - เขียนปฏิกิรยิ าเคมีท่ัวไปที่พบในและการกลั่นลาดับส่วน ชีวติ ประจาวนั ได้นา้ มนั ดบิ - อธบิ ายอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี - บอกปจั จยั ที่มีผลต่ออัตราการ เกิดปฏิกริ ิยาเคมี - อธบิ ายการเกิดปิโตรเลียม กระบวนการแยกแกส๊ ธรรมชาติ และ การกลั่นลาดับสว่ นนา้ มันดบิ เปน็ อย่างไร
ภาระงาน/ช้ินงาน สมรรถนะสาคญั คณุ ลกั ษณะ คุณลักษณะ ของวชิ า อนั พึงประสงค์ 1. มีวินัยนอการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี 1. ความสามารถ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทางานนชวี ิตประจาวนั ในการคดิ 2. ความสามารถกิดปโิ ตรเลยี มระบวนการแยก ในการแก้ปัญหาาติ และการกลั่นลาดบั ส่วน 3. ความสามารถ ในการสอ่ื สาร
ตัวชีว้ ดั / รูอ้ ะไร ทาอะไรผลการเรยี นรู้ ร้อู ะไร - ใบงานคลว 5.1 ม.๔-๖/4 อธบิ าย - ความหมายของคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟา้ - ใบงานสเปคล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า สเปกตรัมคลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า และนาเสนอ - ความหมายของสเปกตรัมคลน่ืผลการสืบค้นข้อมูลเกยี่ วกับ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ประโยชน์ และการป้องกัน - ประโยชน์ และการปอ้ งกันอนั ตรายอนั ตรายจากคลนื่ แม่เหล็กไฟฟา้ จากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคืออะไร ทาอะไร - อธิบายความหมายของคลื่น แม่เหลก็ ไฟฟา้ - อธบิ ายความหมายของสเปกตรมั คลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟ้า - อธบิ ายประโยชน์ และการป้องกัน อันตรายจากคล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้าคือ อะไร
ภาระงาน/ช้ินงาน สมรรถนะสาคัญ คณุ ลักษณะ คณุ ลักษณะ ของวิชา อันพึงประสงค์ลื่นแม่เหลก็ ไฟฟา้ 1. ความสามารถ 1. มีวินัยปกตรัมคล่ืนแม่เหล็กไฟฟา้ ในการคิด 2. ใฝ่เรยี นรู้ 2. ความสามารถ 3. ม่งุ มน่ั ในการทางาน ในการแก้ปญั หา 3. ความสามารถ ในการสอื่ สาร
ตัวช้ีวัด/ รู้อะไร ทาอะไร - ใบงานกา ระบบสรุ ิยะ ผลการเรียนรู้ รอู้ ะไร - แบบจาล - การเกิดและววิ ัฒนาการของระบบว 7.1 ม.๔-๖/1 สืบค้นและ สรุ ยิ ะ กาแล็กซี และเอกภพ เกิดขึ้นได้อธบิ ายการเกดิ และวิวฒั นาการ อย่างไรของระบบสรุ ยิ ะ กาแล็กซี และ - ธรรมชาติและวัฒนาการของดาวเอกภพ ฤกษเ์ กิดขึน้ ได้อยา่ งไรว 7.1 ม.๔-๖/2 สืบคน้ และอธิบายธรรมชาตแิ ละวัฒนาการ ทาอะไรของดาวฤกษ์ - อธบิ ายการเกิดและววิ ฒั นาการของ ระบบสรุ ยิ ะ กาแลก็ ซี และเอกภพ - อธบิ ายธรรมชาตแิ ละวัฒนาการของ ดาวฤกษเ์ กิดขึน้ ได้อย่างไร
ภาระงาน/ชิ้นงาน สมรรถนะสาคัญ คณุ ลักษณะ คุณลกั ษณะ ของวิชา อันพึงประสงค์ารเกิดและววิ ัฒนาการของ 1. ความสามารถ 1. มีวินยัะ กาแลก็ ซี และเอกภพ ในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้ องเอกภพ 2. ความสามารถ 3. มุ่งม่นั ในการทางาน ในการแก้ปญั หา 3. ความสามารถ ในการสอ่ื สาร
การวดั และประเม รายวิชาวิทยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเเปา้ หมายการเรยี นรู้ ภาระงาน/ชนิ้ งาน- โลกมีความหลากหลายของระบบนิเวศ - นาเสนอเทคโนโลยีชวี ภาพทม่ี ี - ประเมซ่งึ มีสง่ิ มีชวี ิตอาศยั อยู่มากมายหลายสปีชสี ์ ผลตอ่ ความหลากหลายทางชีวภ - ตรวจใสิง่ มีชวี ติ สปชี ีสเ์ ดียวกันก็ยงั มีความ าพหลากหลายทางพันธกุ รรม- ความหลากหลายทางชวี ภาพส่งผลทาให้ - ใบงาน เทคโนโลยีชวี ภาพมนษุ ย์ และส่งิ มชี ีวติ อืน่ ๆ ไดใ้ ช้ - ใบงาน ความหลากหลายทางประโยชนใ์ นแงข่ องการเปน็ อาหาร ที่อยู่ ชวี ภาพอาศัย แหล่งสืบพันธแ์ุ ละขยายพันธ์ุ ทา - ใบงานใหส้ งิ่ มีชวี ิตสามารถดารงพันธุ์อยไู่ ด้ กระบวนการคัดเลือกตาม- สิง่ มชี วี ติ ทมี่ ีความหลากหลายทาง ธรรมชาติชวี ภาพ มีความต้องการปจั จัยตา่ ง ๆ ในการดารงชีวิตแตกต่างกนั ซ่ึงจะช่วยรักษาสมดลุ ของระบบนเิ วศบนโลกได้- สิง่ มชี วี ิตแตล่ ะสปชี ีสจ์ ะมคี วามหลากหลายท่แี ตกตา่ งกนั สง่ิ มชี วี ิตในสปีชสี ์เดยี วกนั จะ
มินผลการเรียนรู้ รหสั วิชา ว 32102เรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2561 วิธีวัด เครอื่ งมอื วัด ประเด็น/เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนนมินการนาเสนอ - การนาเสนอ ผ่านระดบั คะแนนร้อยละ 60 20ใบงาน - ใบงาน ข้ึนไป
เปา้ หมายการเรียนรู้ ภาระงาน/ช้ินงานผสมพันธุ์และสบื ลกู หลานต่อไปได้- การคดั เลือกตามธรรมชาติจะสง่ ผลทาให้ลกั ษณะพันธุกรรมของประชากรในกลมุ่ย่อยแตล่ ะกลุ่มแตกตา่ งกนั ไปจนกลายเป็นสปีชสี ใ์ หมท่ าใหเ้ กดิ เป็นความหลากหลายของสิ่งมชี วี ติสาระสาคัญ - การนาเสนอการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ า - ประเม - ตรวจใในชีวติ ประจาวันจะพบเห็นปฏิกริ ยิ าเคมี เคมีจานวนมาก ทัง้ ทีเ่ กิดในธรรมชาติและ ท่พี บเหน็ ในชีวติ ประจาวัน - ใบงานการเกดิ ปโิ ตรเลียมระมนุษย์เปน็ ผู้กระทา ปฏกิ ิริยาเคมเี ขยี น บวนการแยกแกส๊ ธรรมชาติแทนไดด้ ว้ ยสมการเคมี และการกลั่นลาดับสว่ นมนุษย์นาสารเคมีมาใช้ประโยชนท์ ัง้ ในบา้ น นา้ มันดิบในทางการเกษตรและอุตสาหกรรม แต่สารเคมบี างชนิดเป็นอนั ตรายตอ่ สง่ิ มชี ีวิตและสิง่ แวดลอ้ มคาร์โบไฮเดรตจัดเปน็ แหล่งพลงั งานของสิง่ มชี ีวติ พบได้ท่วั ไปในชีวิตประจาวนัเช่น นา้ ตาล แปง้ เซลลูโลสและไกล
วธิ วี ัด เครื่องมือวัด ประเด็น/เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนนมินการนาเสนอ - การนาเสนอ ผา่ นระดบั คะแนนร้อยละ 60 20ใบงาน - ใบงาน ขน้ึ ไป
เป้าหมายการเรยี นรู้ ภาระงาน/ช้นิ งานโคเจน โดยมนี ้าตาลเปน็ หน่วยยอ่ ยสาคญัซง่ึ ประกอบด้วยธาตุ C H และ O การตรวจสอบชนดิ ของน้าตาลทา ไดโ้ ดยใช้สารละลายเบเนดกิ ต์ ไขมันและน้ามนั เป็นสารประกอบไตรกลเี ซอไรด์ เกดิ จากการรวมตัวของกรดไขมนั กับกลีเซอรอล กรดไขมันมที งั้ ชนิดอม่ิ ตัวและไม่อม่ิ ตวั ซ่ึงสามารถตรวจสอบไดโ้ ดยใช้สารละลายไอโอดนี ไขมันและนา้ มนั นามาใช้ประโยชน์ได้ทง้ัการบรโิ ภคและใช้ในอุตสาหกรรม การบริโภคไขมันที่ขาดความระมัดระวงั จะเป็นอันตรายต่อสขุ ภาพได้ โปรตนี เปน็ สารที่ชว่ ยในการเจริญเตบิ โต เสริมสรา้ งและซ่อมแซมเนือ้ เยือ่ หนว่ ยยอ่ ยของโปรตนี คือ กรดอะมโิ นซึ่งมที ัง้ กรดอะมิโนจาเป็นและไม่จาเปน็ มีธาตุองค์ประกอบสาคญั คือ CH O N การ
วธิ วี ัด เครื่องมอื วัด ประเดน็ /เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คะแนน
เปา้ หมายการเรยี นรู้ ภาระงาน/ชนิ้ งานทดสอบโปรตีนในอาหารใชส้ ารละลายCuSO4 กับ NaOHกรดนวิ คลอี ิกเป็นสารโมเลกุลใหญ่คล้ายโปรตีน ประกอบดว้ ย ธาตุ C H O Nทพ่ี บในเซลล์ของส่ิงมีชีวติ มี ๒ ชนดิ คอืDNA และ RNA ซง่ึ เกยี่ วข้องกบักระบวนการถ่ายทอดทางพันธุกรรมสาระสาคัญ - ใบงานคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟา้ ตรวจใบ คลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้าประกอบด้วย - ใบงานสเปกตรัมคลน่ืสนาม แมเ่ หล็กและสนามไฟฟ้าที่ แม่เหลก็ ไฟฟา้เปล่ยี นแปลงตลอดเวลา สเปกตรัมคลนื่แม่เหลก็ ไฟฟ้ามคี วามถีต่ ่อเนอ่ื งกัน โดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชว่ งความถ่ีตา่ งๆ มีลักษณะเฉพาะตวั ซง่ึ สามารถนาไปใช้ประโยชนไ์ ดแ้ ตกต่างกนั เชน่ การรบั สง่วทิ ยุ โทรทัศน์ การป้องกนั อันตรายจากคล่นื แม่เหลก็ ไฟฟา้ เชน่ ไม่อยู่ใกลเ้ ตาไมโครเวฟขณะเตาทางาน
วิธวี ดั เคร่อื งมือวดั ประเด็น/เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนนบงาน ใบงาน ผา่ นระดับคะแนนร้อยละ 60 20 ข้นึ ไป
เปา้ หมายการเรียนรู้ ภาระงาน/ชิน้ งานสาระสาคญั - ใบงานการเกดิ และ ตรวจใบเอกภพกาเนิด ณ จุดที่เรยี กวาบิกแบง เป ววิ ฒั นาการของระบบสุริยะน จุดทพี่ ลังงานเริม่ เปลีย่ นเปนสสาร เกิด กาแล็กซี และเอกภพเปน็ อนุภาค ควาร์ก อเิ ลก็ ตรอน นวิ ทรโิ น - แบบจาลองเอกภพพร้อมปฏิอนภุ าค เม่ืออุณหภมู ขิ องเอกภพลดต่าลง ควารก์ จะรวมตวั กันเป็นอนุภาคพนื้ ฐาน คอื โปรตรอนและนิวตรอน ต่อมาโปรตรอนและนวิ ตรอนรวมตัวกนั เป็นนิวเคลยี สของฮเี ลียม และเกิดเป็นอะตอมของไฮโดรเจนและฮเี ลยี ม อะตอมของไฮโดรเจนและฮีเลียม ซ่ึงเป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่ของเนบวิ ลาด้ังเดิม เนบวิ ลาดัง้ เดิมกระจายอยเู่ ป็นหย่อมๆกลายเป็นกาแล็กซี่ ภายในกาแล็กซี่ เกิดเป็นดาวฤกษ์ระบบดาวฤกษ์ เปนกอนแกสรอนขนาดใหญ กาเนดิมาจากเนบิวลา ที่มีองคประกอบสวนใหญ่เปนธาตไุ ฮโดรเจน แกนกลางของ ดาว
วิธวี ดั เคร่อื งมือวดั ประเด็น/เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนนบงาน ใบงาน ผา่ นระดับคะแนนร้อยละ 60 10 ข้นึ ไป
เปา้ หมายการเรยี นรู้ ภาระงาน/ช้นิ งานฤกษจะเกิดปฏิกิริยาเทอรโมนิวเคลยี รหลอมนวิ เคลยี สของไฮโดรเจนเปนนวิเคลียสของฮีเลียม ไดพลงั งานออกมา อันดบั ความสวางของดาวฤกษที่สงั เกต เหน็ ไดม้ าจาก ความสวางปรากฏที่ขึน้ อยูกบั ความสวางจริงและระยะหางจากโลก สีของดาวฤกษมีความสมั พันธกับอณุ หภมู ผิ ิวของดาวฤกษและอายุของดาวฤกษ ดาวฤกษมีอายยุ าวหรอื สัน้ มจี ดุจบเปนหลุมดา ขนึ้ อยูกบั มวลของดาวฤกษ
วธิ วี ัด เครื่องมอื วัด ประเดน็ /เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คะแนน
ด้านความรู้ (K) ดีเกณฑ์การให้คะแนนชิ้นงาน เนื้อหาครอบคลุมถูกต้องท้ังหมด ตัวบ่งชี้ มหี ัวข้อครบถว้ น 1. ความถกู ต้องของ และเรียงลาดับได้ถูกต้องตามที่กาหนด สะอาด เรียบรอ้ ย เน้ือหา ทกุ ส่วน 2. ความสมบูรณ์ของ ผลงานมคี วามคิดสรา้ งสรรคโ์ ดยไมซ่ ้า ชิ้นงาน แบบเพ่ือน 3. ความคิดสรา้ งสรรค์ บอกแหลง่ สบื ค้น ทเ่ี ชอ่ื ถือได้มากกว่า 4. อ้างองิ แหลง่ สบื คน้ 1 แหลง่ ข้นึ ไป ทเี่ ชอื่ ถือได้ ส่งงานตรงตามกาหนดเวลา 5. งานเสร็จทันเวลา
ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ พอใช้ เน้ือหาผิดมากกวา่ 3 ส่วนข้ึนไปเน้ือหาครอบคลุม ขาด 3 หัวข้อข้ึนไปแต่ผิดบางส่วน และเรยี งลาดบั สลับหัวข้อ ไมเ่ ป็นไปขาด 1 – 2 หวั ขอ้ ตามท่ีกาหนดแตเ่ รียงลาดับได้ถูกต้องตามท่ีกาหนด สะอาด เรยี บรอ้ ยสะอาด เรียบร้อย เปน็ สว่ นนอ้ ยเป็นสว่ นใหญ่ ไมม่ ีความคดิ สร้างสรรค์ผลงานมีความคดิ ลอกเลียนแบบเพอื่ นสร้างสรรค์ของตนเอง ไม่บอกแหล่งสบื คน้เป็นสว่ นใหญ่บอกแหลง่ สบื ค้น สง่ งานชา้ กวา่ ทีก่ าหนด 3 วนั ข้นึ ไปท่เี ช่ือถือได้อยา่ งน้อย1 แหล่งสง่ งานชา้ กว่าท่ีกาหนด 1 – 2 วัน
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)1.ทกั ษะกาส่ือสาร ประเดน็ การประเมนิ ดมี าก จดั ทาแผน1.ทกั ษะกาสื่อสาร (4) นาเสนอด จัดทาแผนภาพอยา่ งเป็นระบบ ครอบคลุม และนาเสนอดว้ ยข้อมูลท่ีถูกต้อง ขาดรายล ครอบคลุมหวั ข้อและรายละเอยี ดที่ สาคญั2. การปฏิบัตกิ ารทดลอง เกณฑ์ ยอดเยยี่ ม(4) ดการปฏิบตั กิ ารทดลอง ทดลองตามขั้นตอนที่กาหนดไว้ ทดลองตามขั้นตอน การบนั ทกึ ผล ทันเวลา ใช้อุปกรณ์และสารเคมีอย่าง ใช้อปุ กรณ์และสาร ถูกต้อง คล่องแคล่ว และเหมาะสมทกุ ถูกต้อง คล่องแค คร้ัง บ่อยคร้ัง บนั ทึกผลคล่อง แคลว่ ถูกต้อง บนั ทกึ ผลคลอ่ งแคล และบนั ทึกผลทเ่ี หมาะสมกบั ข้อมลู กับขอ้ มลู บอ่ ยคร้งั ทกุ ครงั้
ระดบั คุณภาพ ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ (1) (3) (2)นภาพอยา่ งเป็นระบบและ จัดทาแผนภาพ นาเสนอด้วย จดั ทาแผนภาพ นาเสนอด้วยดว้ ยขอ้ มลู แบบท่ีถกู ต้อง ข้อมลู ถกู ต้อง แต่ไม่ครอบคุลม ขอ้ มลู ถูกต้องบางสว่ น ขาดมหัวข้อสาคญั ในหัวข้อสาคญั บางประเด็นและ บางประเด็นสาคญั และขาดละเอยี ดในบางหัวขอ้ ขาดรายละเอียด รายละเอยี ด คณุ ภาพ ตอ้ งปรบั ปรงุ (1)ดี(3) พอใช้(2)อนที่กาหนดไว้ ทนั เวลา ทดลองตามข้ันตอนที่กาหนดไว้ การทดลองไม่เปน็ ไปตามขน้ั ตอน ไม่ารเคมีอย่าง ทนั เวลา ใช้อปุ กรณ์และสารเคมีอย่าง ทนั เวลา ใช้อุปกรณแ์ ละสารเคมีไม่คลว่ และเหมาะสม ถูกต้องคล่องแคลว่ และเหมาะสม ถกู ต้อง ไม่คลอ่ ง และไม่เหมาะสม บางครงั้คลว่ ถกู ตอ้ งเหมาะสม บันทึกผลคล่องแคลว่ ถกู ต้องเหมาะสม บันทกึ ผลไม่คล่องแคล่ว ไม่คอ่ ยง กับข้อมลู เปน็ บางคร้งั ถกู ต้องไมเ่ หมาะสมกบั ข้อมูล
ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ด้านคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ (A)ประเดน็การประเมิน 4 ( ดีมาก) 3มวี นิ ยั ,ความรบั ผิดชอบ, เขา้ เรยี นตรงเวลาทกุ ช่ัวโมง สง่ งาน เข้าเรียนชา้ เปใฝเ่ รียนรู้ ตรงเวลาทกุ คร้งั เข้าเรยี นตรงเว 1 คร้งั ส่งงานชมุ่งม่ันในการทางาน กระตือรือรน้ ในการเรียน ตอบ ตอบคาถามเอ คาถามทกุ คร้งั โดยไม่ต้องเรยี กถาม รับผิดชอบในก และมคี วามรบั ผดิ ชอบในการเรียน ทากิจกรรมกล ร่วมมือกระตือรือรน้ ทากจิ กรรมกลุ่ม อยา่ งเตม็ ใจระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คะแนน3(ด)ี 2(พอใช)้ 1(ปรบั ปรงุ )ปน็ บางคร้ังหรือ เข้าเรียนช้าบ่อยคร้ังหรือเขา้ เข้าเรียนช้าเป็นสว่ นใหญห่ รอืวลาแต่ขาดเรียน เรียนตรงเวลาแต่ขาดเรยี น 2 ขาดเรยี นมากกวา่ 2 ครงั้ ส่งช้า 1 คร้งั ครง้ั ส่งงานช้า 2 ครัง้ งานช้า มากกวา่ 2 ครงั้องบ่อยครั้ง ตอบคาถามทกุ คร้ังทีเ่ รียกถาม ไม่กระตือรอื ร้นในการเรยี นการเรียน ร่วมมือ และไมค่ ่อยมีความรบั ผิดชอบ เฉ่อื ยชา ไม่ให้ความร่วมมือในลุ่ม ในการเรยี นร่วมมือทากจิ กรรม การเรยี น ทากจิ กรรมกลุ่ม กลุ่มไม่ตลอดเวลา ตอ่ เมื่อครหู รือเพื่อนในกล่มุ บอก
Search
Read the Text Version
- 1 - 38
Pages: