ขข้ันน้ั ตตออนนกกาารรใชใช้ง้งาานน ♕ 1. ดาวน์โหลด HP Reveal 2. ค้นหาผ่านแอพลิเคช่ันวา่ “TzNr” 3. กดปมุ Follow ให้ขน้ึ Following 4. สอ่ งไปท่รี ูปภาพที่มสี ัญลักษณ์ (Trigger) ☺ นนางาสงนสานาวายาวสยธสพุ ธีรพุิณวีรณิ ยวัฒยฒัานาเน์ สพเ์สนพรนกมรกรมดระดี จะรี าจรหยาหัสยสันรนหรกั กัหัสศสัศนึกนึกักษักษศา6ศาึก61ึกษ11ษา316า311611111143114031101110114104002200สสาขาาขวาวิชาิชเาทเทคคโนโมนโลมหโลยหายีกวาีกวาทิ ราิทยรศยาศกึลากึษลัยษาัยรแาราลแชาละภชคะภัฏคอฏัสอมสวมพวนพวิ นสิวเสนุตเนุตันอนัอทรทร์าค์าคณณะคะครรศุ ุศาสาสตตรร์ ์
Trigger⤴ ขนั้ ตอนการใชง้ าน ♕ 1. ดาวน์โหลด HP Reveal2. สแกน QR Code ด้วย Line หรอื ค้นหา “TzNr”3. กดปมุ Follow ให้ขึ้น Following 4. สอ่ งไปที่รูปภาพที่มีสัญลักษณ์ (Trigger) ☺
นวตั กรรมของ กระบวนการ และ การประเมนิ นวตั กรรม การจดั การเรยี นรู้ นายธีรวฒั น์ พรมดี รหสั นกั ศึกษา61131114010 นางสาวสพุ ิณยา เสนกระจาย รหัสนกั ศึกษา61131114020สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษาและคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนสุนันทา
ความหมายของ นวตั กรรม กระบวนการท่ีเริ่มความคิด การปฏิบัติท่ีไม่เคยมีหรือดัดแปลงปรับปรุง ลงมือประดิษฐ์ พัฒนาให้ดีขึ้นเ กิด ผล ลัพ ธ์เป็ นน วัต กร รม ท าใ ห้แ สวงห าผลประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และสังคมจากความคิดหรือทาให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทางานเพิ่มขึน้
นวัตกรรมกระบวนการ (Process เปน็ การเปล่ยี นแนวทาง หรือวธิ ีการผลติInnovation) สินค้า หรอื การให้บริการในรูปแบบที่แตกต่าง ออกไปจากเดมิ นวัตกรรมขบวนการแบง่ ได้ เปน็ 2 ชนดิ คอื นวัตกรรมขบวนการทาง เทคโนโลยี และ นวัตกรรมขบวนการทาง องคก์ ร
นวตั กรรมขบวนการทางเทคโนโลยี(Technological process Innovation)
นวัตกรรมขบวนการทางเทคโนโลยี (Technological process Innovation) เป็นสนิ ค้าทนุ ท่ถี กู ใช้ในขบวนการผลิต ซึง่ หน่วยของ realcapital หรอื material goods ซง่ึ ถกู ปรับปรุงขึ้นตามการ เปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยี และทาให้สามารถเพิม่ ผลผลติ ได้(productivity growth) ซึ่งกอ่ นหนา้ นน้ั มันเปน็ นวตั กรรม ผลติ ภณั ฑ์ เช่น หนุ่ ยนต์อตุ สาหกรรมเปน็ product innovation เมือ่ มันถกู ผลติ ขน้ึ และเปน็ processinnovation เมอ่ื มนั ถูกนาไปใชใ้ นโรงงานผลติ รถยนต์ เปน็ ต้น
นวัตกรรมขบวนการทางองคก์ ร(Organisational process Innovation)
นวตั กรรมขบวนการทางองคก์ ร (Organisational process Innovation)เป็นขบวนการทเี่ พ่ิมประสิทธภิ าพ และขีดความสามารถของ การจัดการองค์กรให้สงู ขึ้น โดยใช้การลองผิดลองถกู (Trial and Error) และ การเรียนรู้จากการลองทาด้วย ตนเอง (learning-by-doing) โดยไมไ่ ด้ขนึ้ อยกู่ ับความ สามรถในการทาวิจัยและพัฒนา (R&D) เพียงอย่างเดยี ว เชน่ Just In Time (JIT), Total Quality Management (TQM), Lean Production
การลองผดิ ลองถกู (Trial and Error) เป็นการแก้ไขปัญหาโดยอาศยั 01 การทดลอง 02 มีการตอบสนองตอ่ ส่ิงเร้าเดมิ ๆ หลายคร้ง จึงจะเกิดการเรยี นรู้ หากมกี ารตอบสนองแบบเดมิ ๆ 03 หลายครัง้ แล้วพบวา่ เกดิ ผลดีก็จะ กระทาตอ่ หากตอบสนอง แบบเดมิ ๆหลายๆครงั้ แล้วไม่ เกดิ ผลดกี จ็ ะหยุดตอบสนอง 04 การใช้ระยะเวลาในการเรยี นรู้แบบ ลองผดิ ลองถูกนั้นสตั ว์แตล่ ะชนดิ ใช้ เวลาแตกตา่ งกนั เชน่ มดจะใช้เวลา น้อยกว่าไส้เดอื น
การเรียนรจู้ ากการลองทาด้วยตนเอง (learning-by-doing) เปน็ เร่ืองที่ผู้เรยี นต้องเปน็ ผู้ที่ใฝรู้ทีจ่ ะแสวงหาความรู้ ไมใ่ ชเ่ ป็นผู้รบั ฝายเดียว และความรู้ทดี่ ีนั้นต้องเกิดจาก ความรู้ในตนเองผสมผสานกับประสบการณ์และ สิง่ แวดล้อมภายนอก หมายถงึ วา่ ความรู้นัน้ จะสาเรจ็ ได้ กต็ อ่ เมื่อผู้เรียนนาเอาไปปฏิบัติประยุกต์ใช้ได้จริง ซึ่ง ขบวนการน้ี ท่ีจะก่อให้เกิดความรู้ใหม่ผลัดหมุนเวียน เป็นวงจร หมุนไปๆ เรื่อยๆ ดังน้ันทฤษฎี Constructionism ผสู้ อนควรเปิดโอกาสให้ ผู้เรยี นได้แสดงออกและทากิจกรรมต่างๆทผ่ี ู้เรียนสนใจด้วย เพราะความสนใจมันเร่ิมจากจินตนาการ ทาให้ใครอ่ ยากจะ สร้างงานใหม่ๆของตนเองให้เกิดขึ้นมา ทีน่ ักวิชาการไทยมักใช้ คาพูดเกไกวา่ \"การสร้างองค์ความรู้\" 01 Explore คือ สารวจ ค้นคว้า 02 Experiment คอื การทดลอง 03 Learning by doing คอื การเรียนรจู้ าก การกระทา 04 Doing by learning คอื การทาเพอื่ ทจี่ ะ ทาให้เกดิ การเรยี นรู้
การประเมินนวตั กรรมการจดั การเรยี นรู้
การประเมนิ นวตั กรรมการศกึ ษา เป็น กระบวนการในการตรวจสอบหรอื พจิ ารณา ตดั สินคุณลักษณะของนวตั กรรมการศกึ ษา เพอื่ กาหนดคณุ คา่ คณุ ภาพ ความถกู ต้อง ความเหมาะสม โดยใช้เกณฑก์ ารประเมนิ เปน็หลัก เพือ่ การพัฒนาและแก้ไขปรบั ปรุงลกั ษณะการประเมินเปน็ หลกั เพอื่ การพัฒนาและแก้ไข ปรบั ปรุงลักษณะการประเมนิ นวตั กรรมการ จัดการเรยี นรแู้ บง่ เปน็ 2 ลกั ษณะ คือ
1 การประเมนิ ตนเองเปน็ การประเมินระดบั โรงเรยี นทผ่ี คู้ ิดค้นพฒั นานวัตกรรมท้ังที่ เป็นรายบุคคล หรือคณะบุคคล ดาเนนิ การประเมินโดยการตรวจสอบ กระบวนการพฒั นาและความก้าวหน้าใน การพัฒนานวตั กรรมของตนจากเกณฑ์ การประเมินที่กาหนดเพ่อื นาผลไปใชใ้ น การปรบั ปรงั พฒั นาการดาเนินงานให้ บรรลุวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปาหมายของการ พัฒนานวตั กรรม2 การประเมนิ โดยคณะบุคคล เป็นการ ประเมนิ เพ่ือพจิ ารณาคุรณภาพนวตั กรรม ซง่ึ ผู้ประเมนิ ควรประกอบด้วย ผู้คดิ ค้น พฒั นานวัตกรรม ครู ผู้บรหิ ารโรงเรยี น ศึกษานเิ ทศก์ หรอื อาจมผี ู้เชยี่ วชาญ ตาม ลักษณะ หรือประเภทของนวตั กรรม รว่ ม ประเมนิ ตามเกณฑท์ กี่ าหนด
องค์ประกอบของการประเมนิ นวตั กรรมประกอิ บด้วย 3 ด้าน 13ตัวบง่ ชี้ คือ 1. องค์ประกอบด้านความเปน็ นวตั กรรม 2. องคป์ ระกอบด้านกระบวนการพฒั นานวตั กรรม 3. คณุ คา่ ของนวตั กรรม มี 6 ตัวบง่ ชี้ คือ
1. องคป์ ระกอบด้านความเปน็ นวตั กรรม มี 2 ตัวบ่งช้ี คือ 1.1 ความเป็นนวตั กรรม 1.2 ที่มาของนวตั กรรม 2. องคป์ ระกอบด้านกระบวนการพฒั นานวตั กรรมมี 6 ตัวบง่ ชี้ คอื 2.1 วตั ถุประสงคแ์ ละเปาหมายของ การพฒั นานวัตกรรม 2.2 หลักการแนวคดิ ทฤษฎที ใี่ ชใ้ น การพัฒนานวัตกรรม 2.3 การออกแบบวตั กรรม 2.4 การะบวนการพัฒนา นวตั กรรม 2.5 การมสี ่วนรว่ มในการพัฒนา นวัตกรรม 2.6 ความสาเร็จของการพัฒนา นวตั กรรม3. คุณค่าของนวัตกรรม มี 6 ตัวบ่งช้ี คือ 3.1 การแก้ปญั หาหรอื พฒั นา คุณภาพผู้เรยี น 3.2 การใช้ทรัพยากรในการพฒั นา นวตั กรรม 3.3 การเรยี นรรู้ ว่ มกัน 3.4 การส่งเสริมให้เกดิ กระบวนการแสวงหาความรู้ 3.5 การยอมรับ 3.6 การนาไปใช้
วธิ ีการประเมิน ในการประเมินนวตั กรรม ควรเลือกใช้วิธีการประเมินท่ี เหมาะสมกับ สิง่ ท่ีต้องการประเมิน ดังน้ี 1. ตรวจสอบเอกสารรายงานผลการพฒั นานวัตกรรม 2. สงั เกต และตรวจสอบข้อมูลจากการนาเสนอผลงานของผู้ คดิ ค้นพัฒนานวัตกรรม 3. ศึกษาผลงาน นวัตกรรมชิ้นงานทีเ่ กดิ จากการใช้ หรือการ ทางานของนวัตกรรม 4. สมั ภาษณผ์ พู้ ัฒนานวัตกรรมและผู้เกยี่ วข้อง 5. สอบถามผู้พฒั นานวัตกรรมและผู้เกี่ยวข้อง 6. อน่ื ๆ ตามความเหมาะสมเคร่อื งมอื ทใี่ ชใ้ นการประเมนิ นวตั กรรมระดบั คุณภาพของนวตั กรรมการจัดการเรียนรู้เป็นลกั ษณะของนวตั กรรมการจัดการเรยี นรู้ตามตวั บ่งชี้ มีระดับคณุ ภาพ 3 ระดบั คือระดับ 3 คณุ ภาพดมี าก ( มคี ่าคะแนนระหว่าง 2.33 –3.00 )ระดับ 2 คุณภาพดี ( มีคา่ คะแนนระหวา่ ง 1.67 – 2.32 )ระดับ 1 คณุ ภาพพอใช้ ( มคี ่าคะแนนระหวา่ ง 1.00 – 1.66 )
คณะกรรมการประเมนิ และ คุณสมบตั ิคณะกรรมการประเมนิ ควรมอี ย่างน้อยจาสวน 3หรอื 5 คน และควรประกอบด้วย1. ผู้จดั ทานวตั กรรม2. ผู้บริหารโรงเรียน3. ครผู ู้เช่ยี วชาญด้านหารจัดการจัดการเรยี นรู้ตามกลมุ่ สาระทจ่ี ัดทานวัตกรรม4. ศึกษานเิ ทศก์คณุ สมบัตคิ ณะกรรมการประเมนิ ควรความรู้ประสบการณ์ด้านตา่ งๆ ดังนี้1. ดน้ สอื่ นวตั กรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และ/หรือ2. ด้านหลักสตู ร/กี่จัดการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้ และ/หรอื3. ด้านการวดั ผล/ประเมนิ ผลทางการศึกษา และ/หรือ4. ดน้ การบรหิ ารการศึกษา
เกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพนวตั กรรม เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ภาพนวตั กรรมตามตวั บง่ ชี้ 2.กระบวนการพัฒนาตัวบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ2.1 วตั ถุประสงคแ์ ละเปาหมาย ระดบั 3 -วัตถปุ ระสงค์และของการพัฒนา เปาหมายสอดคล้องกบั แนว ทางการพัฒนา สภาพปญั หา และ ความต้องการมคี วามเปน็ ไปได้ รอ้ ยละ 100 ระดับ 2 -วตั ถปุ ระสงคแ์ ละ เปาหมายสอดคล้องกับแนว ทางการพัฒนา สภาพปัญหา และ ความต้องการ มคี วามเป็นไปได้ไม่ เกินร้อยละ 50 ระดับ 1 -วัตถปุ ระสงคแ์ ละ เปาหมายไม่สอดคล้องกับแนว ทางการพัฒนา สภาพปญั หาและ ความต้องการ2.2 การใช้หลกั การแนวคดิ ทฤษฎี ระดับ 3 - มีการสงั เคราะห์ในการพฒั นานวตั กรรม หลกั การแนวคิด ทฤษฎี มา ประยุกตใ์ ช้ได้สอดคล้องสภาพ ปัญหา หรอื ความต้องการในการ พัฒนานวตั กรรม ระดับ 2 – ใช้หลักการ แนวคิด ทฤษฎีถูกต้องตามหลักวชิ า และ สอดคล้องกบั สภาพปัญหา หรอื ความต้องการพัฒนา ระดบั 1 – ใช้หลักการแนวคิด ทฤษฎี แต่ไม่สอดคล้อง
เกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพนวตั กรรม เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ภาพนวตั กรรมตามตวั บง่ ชี้2.กระบวนการพฒั นา ตัวบ่งช้ี ระดับคณุ ภาพ2.3 การออกแบบนวตั กรรม ระดบั 3 – มกี ารออกแบบพัฒนา นวัตกรรมท่ีสอดคล้องกบั สภาพ2.4 ความสาเรจ็ ของการพฒั นา ปัญหาหรอื ความต้องการบรบิ ทนวัตกรรม หลกั การ แนวคิด ทฤษฎี ครอบคลมุ กระบวนการพฒั นา และมีความเปน็ ไปได้ ระดบั 2 – มกี ารออกแบบพัฒนา นวัตกรรมที่สอดคล้องกับสภาพ ปญั หาหรอื ความต้องการ หรือ บรบิ ท หรือหลกั การ หรือแนวคิด ทฤษฎี ครอบคลมุ กระบวนการพฒั นา และมีความ เปน็ ไปได้ ระดบั 1 - มีการออกแบบพัฒนา นวัตกรรมสอดคล้องกบั สภาพ ปัญหาหรือความต้องการ บรบิ ท หลักการแนวคดิ ทฤษฎบี างสว่ น ครอบคลุมกระบนการพัฒนาแต่ เป็สไปได้ยาก ระดับ 3 - การพัฒนานวตั กรรม ได้ดาเนินการเสร็จสน้ิ มกี าร เผยแพร่และสร้างเครอื ข่าย ระดบั 2 - การพฒั นานวัตกรรม ดาเนนิ การเสรจ็ สิน้ มกี ารเผยแพร ระดบั 1 - การพฒั นานวตั กรรม ดาเนนิ การเสรจ็ สิ้น
เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพนวัตกรรม เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ภาพนวตั กรรมตามตวั บง่ ช้ี3. คณุ คา่ ของนวตั กรรม ตวั บง่ ชี้ ระดบั คุณภาพ3.1 การแก้ปัญหาหรอื พฒั นา ระดบั 3 - แก้ปญั หาหรอื พฒั นาคุณภาพผู้เรยี น ผู้เรียนได้ตรงตามวัตถปุ ระสงค์ และเปาหมายเกิดประโยชน์อยา่ ง3.2 การใช้ทรัพยากรในการ กว้างขวางพัฒนานวัตกรรม ระดับ 2 - แก้ปัญหาหรอื พฒั นา ผู้เรียนได้ตรงตามวัตถปุ ระสงค์ และเปาหมาย ระดับ 1 - แก้ปญั หาหรอื พฒั นา ผู้เรียนได้ แตไ่ มค่ รบถ้วนตาม วตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปาหมาย ระดับ 3 - ประยุกตใ์ ช้ทรัพยากรท่ี มีอยู่ในการพัฒนานวตั กรรมได้ เหมาะสมคุ้มค่า และสอดคล้องกบั บริบทของโรงเรียน ระดับ 2 - ใช้ทรัพยากรในการ พฒั นานวัตกรรมได้เหมาะสม คุ้มคา่ และสอดคล้องกบั บรบิ ท ของโรงเรียน ระดบั 1 - ใช้ทรัพยากรในการ พฒั นานวัตกรรมไม่ คุ้มคา่
เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพนวตั กรรม เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ภาพนวตั กรรมตามตวั บง่ ช้ี3. คุณคา่ ของนวัตกรรม ตวั บ่งช้ี ระดบั คณุ ภาพ3.3 การเรยี นรู้ร่วมกัน ระดบั 3 - กระบวนการพัฒนา นวัตกรรมก่อให้เกดิ ประสบการณ์3.4 สง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ กระบวนการ และการเรยี นรู้ร่วมกนั ท้งัแสวงหาความรู้ โรงเรียน ระดับ 2 - กระบวนการพัฒนา นวตั กรรมกอ่ ให้เกดิ ประสบการณ์ และการเรยี นรู้เฉพาะกลมุ่ ระดับ 1 - กระบวนการพฒั นา นวตั กรรมก่อให้เกดิ ประสบการณ์ และการเรียนรู้เฉพระบุคคล ระดบั 3 - นวัตกรรม/ กระบวนการพัฒนานวัตกรรม สง่ เสรมิ กระตุ้นให้ผู้พฒั นา/ ผู้เกี่ยวขอ้ งศึกษาค้นคว้าและ แสวงหาความรู้เพิ่มเติมจน สามารถสรา้ งนวัตกรรมใหมไ่ ด้ ระดับ 2 - นวัตกรรม/ กระบวนการพฒั นานวตั กรรม ส่งเสริม กระตุ้นให้ผู้พฒั นา/ ผู้เกยี่ วขอ้ ง ศกึ ษาค้นคว้าและ แสวงหาความรู้เพ่มิ เตมิ ระดับ 1 - นวตั กรรม/ กระบวนการพัฒนาก่อให้เกิดการ ค้นคว้าแสวงหาความรู้เพม่ิ เตมิ เฉพาะ ผู้พัฒนา
เกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพนวตั กรรม เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ภาพนวตั กรรมตามตวั บง่ ชี้ 3. คุณคา่ ของนวัตกรรม ตวั บง่ ชี้ ระดับคณุ ภาพ3.5 การยอมรบั ระดับ 3 - เปน็ ท่ียอมรบั ของ ผู้เกย่ี วขอ้ งท้งั ในและนอกโรงเรียน3.6 การนาไปใช้ ระดบั 2 - เป็นที่ยอมรบั ของ ผู้เก่ียวขอ้ งในระดับโรงเรยี น ระดับ 3- เปน็ ท่ยี อมรบั ของ ผู้เกย่ี วขอ้ งเฉพระกลมุ่ ระดับ 3 - ใช้งา่ ย สะดวกและมี ขน้ั ตอนการใชไ้ มซ่ บั ซ้อน สามารถ นาไปใช้ได้ดี ระดับ 2 - ใช้สะดวกแม้ข้นั ตอน คอ่ นข้างซับซ้อน ระดับ 1 - มขี น้ั ตอนการไปใช้ ซบั ซอ้ นมีเง่ือนไข และขอ้ จากัด
สมาชกิ 1. นายธีรวฒั น์ พรมดี รหัสนักศึกษา61131114010 2. นางสาวสุพณิ ยา เสนกระจาย รหสั นักศึกษา61131114020 นกั ศึกษาชั้นปท่ี1 คณะครุศาสตร์สาขาวชิ าเทคโนโลยีการศึกษาและคอมพิวเตอร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สวนสนุ ันทา
THANKS
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: