เส้นทางการท่องเทียว ทางศาสนาและวัฒนธรรม ตํา บ ล น อ ก เ มื อ ง อํา เ ภ อ เ มื อ ง สุ ร ิน ท ร ์ จั ง ห วั ด สุ ร ิน ท ร ์
บทนาํ ประเทศไทยมหี ลักธรรมคําสอนทางพระพุทธศาสนาเปนเครอื งยดึ เหนียวจติ ใจ ของพุทธศาสนกิ ชน โดยมี เปาหมาย คือ มุง่ ให้ทกุ คนมคี ณุ ธรรม มธี รรมะ และสอนให้ทกุ คนเปนคนดี ดังนนั พระพุทธศาสนาจงึ มหี ลักธรรมคําสอน ทีเปนแนวทางในการดําเนนิ ชวี ติ ของคนในสงั คม ในแต่ละด้าน เชน่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมอื งการปกครอง ด้าน สงั คมและวฒั นธรรม เปนต้น ชุมชนตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ มศี าสนสถานและ วฒั นธรรมทีนา่ สนใจ เชน่ ๑. หลวงพอ่ ทันใจวดั โพธญิ าณรงั สี ๒. องค์ราหวู ดั ศรรี ตั นาราม ๓. พระสวี ลีวดั บา้ นเสมด็ ๔. อุโบสถพุทธศิลปวดั ใหมศ่ รมี ากทอง ๕. อุโบสถพุทธศิลปวดั ไตรรตั นาราม ๖. พระธาตเุ จดียว์ ดั สทุ ธธิ รรมาราม ๗. หลวงปูดลุ ย์ อตโุ ล วดั ปาโยธาประสทิ ธ์ ๘. สาํ นกั ปฏิบตั ิธรรมวดั ปาบวรสงั ฆาราม ๙. วฒั นธรรมวถิ ีชวี ติ กล่มุ ทําขนมโบราณบา้ นโคกกระเพอ ๑๐. วฒั นธรรมวถิ ีชวี ติ คนกับชา้ ง ๑๑. วฒั นธรรมศิลปะพนื บา้ นเรอื มอันเร ๑๒. พระมหาเศรษฐนี วโกฏิ ซงึ แหล่งท่องเทียวทางศาสนาและวฒั นธรรมของชุมชนตําบลนอกเมอื งนนั มเี รอื งราวต่างๆทีนา่ สนใจและนา่ ศึกษา ดังนนั ทีมงานโครงการยกระดับเศรษฐกิจและ สงั คมรายตําบลแบบบูรณาการ (๑ ตําบล ๑ มหาวทิ ยาลัย) มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณ ราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตสรุ นิ ทร์ จงึ มคี วามต้องการทีถอดบทเรยี นเพอื นาํ ความรูใ้ นสถาน ทีท่องเทียวทางศาสนาและวฒั นธรรมในชุมชน ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ให้กับผทู้ ีได้เขา้ รว่ มการอบรมในโครงการครงั นีด้วย
สารบญั หนา้ ๑-๒ เรอื ง ๓-๕ ๑. หลวงพอ่ ทันใจวดั โพธญิ าณรงั สี ๖-๘ ๒. องค์ราหวู ดั ศรรี ตั นาราม ๙-๑๑ ๓. พระสวี ลีวดั บา้ นเสมด็ ๑๒-๑๓ ๔. อุโบสถพุทธศิลปวดั ใหมศ่ รมี ากทอง ๑๔-๑๖ ๕. อุโบสถพุทธศิลปวดั ไตรรตั นาราม ๑๗-๑๙ ๖. พระธาตเุ จดียว์ ดั สทุ ธธิ รรมาราม ๒๐-๒๓ ๗. หลวงปูดลุ ย์ อตโุ ล วดั ปาโยธาประสทิ ธ์ ๒๔-๒๕ ๘. สาํ นกั ปฏิบตั ิธรรมวดั ปาบวรสงั ฆาราม ๒๖-๒๗ ๙. วฒั นธรรมวถิ ีชวี ติ กล่มุ ทําขนมโบราณบา้ นโคกกระเพอ ๒๘-๒๙ ๑๐. วฒั นธรรมวถิ ีชวี ติ คนกับชา้ ง ๓๐-๓๑ ๑๑. วฒั นธรรมศิลปะพนื บา้ นเรอื มอันเร ๑๒. พระมหาเศรษฐนี วโกฏิ
วดั หลวงพอ่ ทันใจ วดั โพธญิ าณรงั สี
๒ ๑. หลวงพอ่ ทันใจวดั โพธญิ าณรงั สี วดั โพธญิ าณรงั สี ตังอยูห่ มูท่ ี ๔ บา้ นปรอื เกียน ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื ง จงั หวดั สรุ นิ ทร์ มเี นอื ทีประมาณ ๓๕ ไร่ มอี าณาเขตติดต่อ ดงั นี ทิศเหนอื ติดกับท่งุ นา ทิศใต้ ติดกับถนนชนบท บา้ นปรอื เกียน ทิศตะวนั ออก ติดกับถนนชนบท บา้ นปรอื เกียน ทิศตะวนั ตก ติดกับถนนชนบท บา้ นปรอื เกียน ประวตั ิความเปนมา วดั โพธญิ าณรงั สไี ดเ้ รมิ ทําการสรา้ งเมอื ประมาณป ๒๕๓๗ โดยพระโพธญิ าณรงั สี โดยเราทังหลายรจู้ กั ท่านในนามหลวงตาจนั ทร์ คเวสโก มเี นอื ทีประมาณ ๓๕ ไร่ โดยจดั ทําใหเ้ ปนวดั ปาตาม เจตนาของพอ่ แมค่ รบู าอาจารยส์ ายหลวงปูดลุ ย์ อตโุ ล และหลวงปูสาม อกิญจโน ในตอนชว่ งนนั ผสู้ รา้ ง ไดจ้ ดั สรา้ งเสนาสนะไวบ้ า้ งแล้ว แต่ก็ยงั ไมแ่ ล้วเสรจ็ ท่านก็ไดล้ าสกิ ขาไปจงึ เปนเหตใุ หก้ ารก่อสรา้ งหยุดไป กรอปกับเมอื ท่านไดล้ าสกิ ขาไปแล้ววดั ก็ขาดผดู้ แู ล จงึ เปนผลใหเ้ สนาสนะทีสรา้ งไวช้ าํ รดุ ทรดุ โทรมไป มาก เมอื ประมาณป พ.ศ. ๒๕๔๕ ทางคณะสงฆไ์ ดอ้ นญุ าตใหส้ รา้ งเปนวดั และเมอื ป พ.ศ. ๒๕๔๖ ก็ไดร้ บั อนญุ าตใหต้ ังเปนวดั ทีถกู ต้องตาม กฎหมายจากสาํ นกั งานพระพุทธศาสนาแหง่ ชาติ ปจจุบนั นกี ็มี เสนาสนะเปน กฏุ ิ ๑๕ หลัง ศาลาโรงฉันท์ ๑ หลัง พรอ้ มหอ้ งนาํ ๒๑ หอ้ ง ศาลาทีพกั ของญาติโยมทีมา ปฏิบตั ิธรรมในวนั ธรรมสาวนะ ๑ หลัง พรอ้ มหอ้ งนาํ ๔ หอ้ ง เมรแุ ละศาลาสวดศพ ๑ หลังพรอ้ มหอ้ งนาํ ๖ หอ้ ง และ มแี ท้งเก็บนาํ สงู ๑๐ เมตร สว่ นทียงั ขาดอยูก่ ็มหี ลายอยา่ งทีต้องทํา เชน่ โบสถ์ ถนนรอบวดั กําแพงวดั ซุม้ ประตวู ดั และศาลาการเปรยี ญ วดั โพธญิ าณรงั สี มเี จา้ อาวาสปกครองตามลําดบั มาแล้ว ดงั นี ๑) พระครปู ราโมทยธ์ รรมวงศ์ เปนเจา้ อาวาส เมอื ป ๒๕๔๕ ๒) เจา้ อธกิ ารสมภพ ป ฺญาธโร เปนเจา้ อาวาส เมอื ป ๒๕๔๙ จุดเดน่ ของวดั พระอุโบสถ ภายในวดั ทีมสี ถาปตยกรรมอันวจิ ติ รงดงาม ท่ามกลางปาไมท้ ีอยูร่ อบๆตัวพระอุโบสถ มี พระพุทธรปู องค์ใหญห่ ลวงพอ่ ทันใจ ทีเปนทีเคารพสกั การะของชาวบา้ น และบรบิ ถโดยรอบวดั มคี วาม เปนธรรมชาติและเงียบสงบ
องค์ราหู วดั ศรรี ตั นาราม
๔ ๒. องค์ราหวู ดั ศรรี ตั นาราม องค์ราหู วดั ศรรี ตั นาราม ตังอยู่ บา้ นตะตึงไถง หมูท่ ี ๕ ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ วดั ศรรี ตั นาราม เปนวดั ทีชาวบา้ นเรยี กตามชอื ของหมูบ่ า้ นวา่ วดั บา้ นตะตึงไถง แปลเปนภาษาไทย วา่ ขวางตะวนั ตังอยูเ่ ลขที ๑๕๗ บา้ นตะตึงไถง หมูท่ ี ๕ ตําบลนอกเมอื ง อําเภอ เมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ มเี นือทีดนิ จาํ นวน ๓๗ ไร่ ๑ งาน ๗๐ ตารางวา โฉนดทีดนิ เลขที ๒๕๒๐๖ เล่มที ๒๕๓ หน้า ๖ เลขทีดนิ ๑๒๗ หน้าสาํ รวจ ๓๘๖๖ ตังอยู่ ตําบลนอกเมอื งสรุ นิ ทร์ อําเภอเมอื ง สรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ไดร้ บั อนญุ าตตังวดั เมอื พ.ศ. ๒๔๘๓ และได้รบั พระราชทานวสิ งุ คามสมี า เมอื พ.ศ. ๒๕๑๗ มอี าณาเขตติดต่อ ดงั นี ทิศเหนือ ติดกับถนนชนบท บา้ นตะตึงไถง ทิศใต้ ติดกับถนนชนบท บา้ นตะตึงไถง ทิศตะวนั ออก ติดกับถนนชนบท บา้ นตะตึงไถง ทิศตะวนั ตก ติดกับถนนชนบท บา้ นตะตึงไถง ประวตั ิความเปนมา วดั ศรรี ตั นาราม เปนวดั ทีมถี นนล้อมรอบทังสดี า้ น และมกี ําแพงล้อมรอบ ทัง ๔ ดา้ น พนื ทีภายในวดั มปี าทียงั อุดมสมบูรณใ์ นบรเิ วณวดั ตามตํานานในอดีต สถานทีแหง่ นี เคยเปนแดนสมรภมู ิ สถานทีตังฐานทัพของทหารเพอื สรู้ บในอดีต ของเจา้ เมอื งสรุ นิ ทร์ ซงึ ชาว บา้ นในสมยั นนั มหี ลวงพอ่ ผศู้ ักดสิ ทิ ธิ ใหก้ ารค้มุ ครอง ผรู้ กั ษาผนื แผน่ ดนิ ตรงนี สามองค์ คือหลวง พอ่ เกิด หลวงพอ่ โต หลวงพอ่ แก้ว หลวงพอ่ สวี ลี เปนหลวงพอ่ ศักดสิ ทิ ธปิ ระจาํ วดั วดั ทีก่อสรา้ ง มานาน เปนระยะเวลา ๑๐๐ กวา่ ปมาแล้ว ในอดตี มปี ระชาชนชาวบา้ นขนึ ตรงต่อวดั จาํ นวน ๓ หมูบ่ า้ น คือ บา้ นตะตึงไถง บา้ นโคกกระเพอ บา้ นปรอื เกียน ศาลาการเปรยี ญหลังเก่าทีเคยใชอ้ ยู่ ไดช้ าํ รุด ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
๕ รายนามเจา้ อาวาสวดั ตังแต่อดตี จนถึงปจจุบนั วดั ศรรี ตั นาราม มเี จา้ อาวาสปกครองตามลําดบั มาแล้ว จาํ นวน ๑๔ รปู ดงั นี ๑) พระเผอื ก สธุ มฺโม ๒) พระขวญั เขมโก ๓) พระเชย สมฺปนโฺ น ๔) พระปุม ปชฺโชโต ๕) พระอภิธรรม ปญญาธโร ๖) พระสวสั ดิ สชุ โต ๗) พระปราโมทย์ รตินธฺ โร ๘) พระสนุ ทร สนุ ธโร ๙) พระเชลงพจน์ อินทวโี ร ๑๐) พระชวง ๑๑) พระครใู บฎีกานบ ๑๒) พระสภุ าพ ๑๓) พระใบฎีกาลอย สจฺจญาโณ ๑๔) พระครศู รสี นุ ทรสรกิจ ผศ.ดร. (ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พระมหาเรงิ ศักดิ เขมวโี ร /แก้วตา เปรยี ญธรรม ๖ ประโยค, พธ.บ., M.A., Ph.D.) ดาํ รงตําแหนง่ เจา้ อาวาสวดั ศรรี ตั นาราม ตังแต่ป ๒๕๕๒ เปนต้นมา และดาํ รงตําแหนง่ ทางการปกครองคณะสงฆ์ เปนเจา้ คณะอําเภอลําดวน จุดเดน่ ของวดั สาํ นกั ปฏิบตั ิธรรม แหง่ ที ๒๔ ของจงั หวดั สรุ นิ ทร์ องค์พระราหขู นาดใหญห่ นา้ ตัก ๙๙ นวิ สงู ๙๙ นวิ ทีผคู้ นมาสกั การะบูชาตามความเชอื โบราณเรอื งการเกิดจนั ทรปุ ราคา โบสถ์ทีเก่าแก่ ศาลา การเปรยี ญ ๒ ชนั ทีมคี วามสวยงามใชร้ บั รองผเู้ ขา้ มาปฏิบตั ิธรรม และทําบุญเนอื งในกิจกรรม ต่างๆทางพระพุทธศาสนา
พระสวี ลี วดั บา้ นเสมด็
๗ ๓. พระสวี ลีวดั บา้ นเสมด็ วดั บา้ นเสมด็ ตังอยูท่ ีบา้ นเสมด็ หมูท่ ี ๑๒ ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื ง จงั หวดั สรุ นิ ทร์ มเี นอื ที ๑๗ ไร่ ๒ งาน ๔ ศอก มอี าณาเขตติดต่อ ดงั นี ทิศเหนอื ติดกับถนนชนบท บา้ นเสมด็ ทิศใต้ ติดกับถนนชนบท บา้ นเสมด็ ทิศตะวนั ออก ติดกับหนองเสมด็ ทิศตะวนั ตก ติดกับหนองตาเตียวตังอยูท่ ิศใต้ ของทีวา่ การอําเภอ เมอื งสรุ นิ ทร์ หา่ งประมาณ ๓ กิโลเมตร ประวตั ิความเปนมา วดั บา้ นเสมด็ ตังอยูท่ ีบา้ นเสมด็ หมูท่ ี ๑๒ ตําบลนอกเมอื ง อําเภอ เมอื ง จงั หวดั สรุ นิ ทร์ เดมิ ชอื วดั สามคั คีประชาคม ตังเปนสาํ นกั สงฆต์ ามกฏหมาย เมอื วนั ที ๑๒ มนี าคม ๒๔๙๗ โดยมหี ลวงพอ่ เชอื มเปนเจา้ อาวาสเปนรปู แรก เนอื งจากชาวบา้ น ๓ หมูบ่ า้ น คือ บา้ นหนองเสมด็ หมูท่ ี ๑๒ บา้ นหนองกง หมูท่ ี ๑ และหมูบ่ า้ นพนั ธุลี หมูท่ ี ๑๐ ในสมยั นัน เมอื มกี าร ทําบุญใสบ่ าตร ประกอบพธิ ที างศาสนาในแต่ละครงั มคี วามยากลําบาก เกียวกับการไปนิมนต์ พระมาประกอบพธิ ตี ้องไปถึงวดั ตะตึงไถง หรอื ไปวดั ปาโยธาประสทิ ธิ และวดั ประทมุ เมฆ เปนต้น เปนระยะทางทีไกล ดว้ ยเหตนุ เี อง จงึ ไดจ้ ดั สรา้ งวดั ขนึ โดยมี นายวงิ โสภิณ นายขวญั โดง่ ดงั ได้ ถวายทีดนิ ในการสรา้ งวดั และไดช้ กั ชวนชาวบา้ น ๓ หมูบ่ า้ น มาปรกึ ษาหารอื เพอื จดั สรา้ งวดั ขนึ ที บา้ นเสมด็ ซงึ อยูร่ ะหวา่ งกลางหนองเสมด็ กับหนองตาเตียว โดยมอบใหน้ ายเรอื ง สงิ คนภิ า เปน ผดู้ าํ เนนิ การขออนุญาต เมอื วนั ที ๕ กรกฎาคม ๒๕๑๑ และจดั สรา้ งวดั ขนึ มาจนถึงปจจุบนั เพอื ใหเ้ ปนทีสกั การบูชา และเชดิ ชูพระพุทธศาสนาใหเ้ จรญิ สบื ต่อไป ต่อมา พ.ศ. ๒๕๓๓ กระทรวง ศึกษาธกิ ารไดป้ ระกาศตังวดั ขนึ ในพระพุทธศาสนา มนี ามวา่ วดั บา้ นเสมด็ โดยมนี ายเรอื ง สงิ คนิ ภา เปนผขู้ ออนญุ าตสรา้ งวดั ณ บา้ นเสมด็ หมูท่ ี ๑๒ ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื ง จงั หวดั สรุ นิ ทรแ์ ละในขณะนนั มี พระครมู งคลปญญาวุธ (คม ป ฺญาธโร) เปนเจา้ อาวาสปกครองดแู ล วดั เพอื ใหเ้ ปนศูนยร์ วมจติ ใจชาวบา้ นและของหมูบ่ า้ นตามลักษณะนสิ ยั วฒั นธรรมประเพณขี อง คนไทยทีนบั ถือศาสนาพุทธ และเปนแหล่งการเรยี นรู้ การศึกษาเล่าเรยี นของกลุ บุตรกลุ ธดิ าใน หมูบ่ า้ นและหมูบ่ า้ นใกล้เคียง
วดั บา้ นเสมด็ มลี ําดบั เจา้ อาวาสผปู้ กครองวดั ดงั นี ๘ ๑) หลวงพอ่ เชอื ม อรุโณ พ.ศ. ๒๕๑๑ - พ.ศ. ๒๕๑๕ ๒) หลวงพอ่ รนิ ทร์ ส ฺญโม พ.ศ. ๒๕๑๖ - พ.ศ. ๒๕๒๔ ๓) พระอธกิ ารยอด กิตตฺ ิญาโณพ.ศ. ๒๕๒๔ - พ.ศ. ๒๕๒๖ ๔) พระครูมงคลปญญาวุธ (หลวงพอ่ คม ป ฺญาธโร) พ.ศ. ๒๕๒๗ - พ.ศ. ๒๕๕๕ ๕) พระอธกิ ารวชริ ศักดิ ป ฺญาวชโิ รพ.ศ. ๒๕๕๕ - ถึงปจจุบนั จุดเดน่ ของวดั พระอุโบสถฉลองเมอื ป ๒๕๕๘ โดดเด่นด้านสถาปตยกรรมแบบใหม่ ทีมคี วามสวยงาม อยู่ ท่ามกลาง บรบิ ถของวดั ทีออกแบบการก่อสรา้ งมาอยา่ งลงตัวมอี งค์พระสวี ลีทีชาวบา้ นเคารพ ศรทั ธา ในเรอื งโชคลาภสกั การะ มอี งค์พระสงั กัจจายน์ ตามความศรทั ธาวา่ เปนพระทีอํานวยความ อุดมสมบูรณแ์ ก่ชุมชน และบรบิ ถวดั โดยรอบมคี วามรม่ รนื สงบรม่ เยน็ สวยงาม
อุโบสถพุทธศิลป วดั ใหมศ่ รมี ากทอง
๑๐ ๔. อุโบสถพุทธศิลปวดั ใหมศ่ รมี ากทอง วดั ใหมศ่ รมี ากทอง ทีตัง หมู่ ๒ ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื ง จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ชอื เดมิ ทีเขา เรยี ก วดั เจก๊ มากทองมา้ ง และวดั ตะนักอังครองมา้ ง มอี าณาเขตติดต่อ ดังนี ทิศเหนือ ติดกับทีดนิ เลขที ๓๓๗ ทิศใต้ ติดกับถนนทางหลวงแผน่ ดนิ หมายเลข ๒๐๗๗ ทิศตะวนั ออก ติดกับถนนชนบท หมูบ่ า้ นโคกปลัด ทิศตะวนั ตก ติดกับสรุ นิ ทรส์ มารท์ คาร์ ประวตั ิความเปนมา คณะสงฆจ์ งั หวดั สรุ นิ ทร์ โดยมพี ระราชสธิ โิ กศล เปนเจา้ คณะจงั หวดั สรุ นิ ทรแ์ ละรอง ๒ รูป คือพระรตั โนภาส และพระศรธี รี พงษ์ (ปจจุบนั พระธรรมโมลี ) ไดม้ นี โยบาย ขยายการศึกษา ใหภ้ ิกษุสามเณร ได้ศึกษาถึงอุดมศึกษา โดยไมต่ ้องไปศึกษา ต่อทีกรุงเทพ จงึ ให้ พระศรธี รี พงษ์หาสถานที เพอื สรา้ งมหาวทิ ยาลัยในจงั หวดั สรุ นิ ทร์ ขณะนนั มี นายเจด็ มากทอง ซงึ มที ีดนิ อยูช่ านเมอื ง และมศี รธั าได้ ๔ วายจาํ นวน ๔ ไร่ ๒ งาน ๘๑ ตารางวา พรอ้ มถวายเงินเปน ทนุ การศึกษากับมูลนิธโิ กศลวทิ ยา เปนจาํ นวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท สว่ นทีดนิ ไดท้ ําพธิ มี อบถวาย ๑๔ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๒๕ ณ ทีตังของทีดนิ โดยมพี ระราชสทิ ธโิ กศล เปนประธานฝายคณะสงฆ์ และฝาอุบาสกอุบาสกิ า ซงึ มี นายเสอม มูลศาตร์ ผวู้ า่ ราชกาลจงั หวดั สรุ นิ ทร์ เปนประธานฝา ฆราวาส และจดั ใหพ้ ระภิกษุสามเณรมาจาํ พรรษา ๙ รปู กล่าวคือ พระวดั กลางสรุ นิ ทร์ ๒ รูป วดั ศาลาลอย ๒ รปู สามเณร ๔ รูป วดั หนองบวั ๑ รูป ซงึ มพี ระสมุหท์ ิบทิม อนาวโิ ล สงั กัดวดั กลาง สรุ นิ ทร์ มาอยูจ่ าํ พรรษาอีก ๑ รปู ในกาลต่อมาไมส่ ามารถยา้ ยพนื ทีไดต้ ามต้องกาลจงึ ไดอ้ นุญาต ของสรา้ งวดั และตังวดั ดงั อยูใ่ นปจจุบนั นี
๑๑ วดั ใหมศ่ รมี ากทอง มเี จา้ อาวาสปกครองตามลําดบั มาแล้ว ดงั นี พระสมุหท์ ับทิม อฺนาลิโย เปนเจา้ อาวาสรูปแรก แต่งตังเมอื วนั ที ๑๐ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๓๑ แต่ง ตังโดยพระราชสทิ ธโิ กศล เจา้ คณะจงั หวดั สรุ นิ ทร์ ปจจุบนั เปน พระครูปลัดปญญาวฒั น์ พระฐานุ กรมในพระธรรมโมลี ดร. ทีปรกึ ษาเจา้ คณะภาค ๑๑ จุดเดน่ ของวดั พระอุโบสถทีมขี นาดใหญแ่ ละมสี ถาปตยกรรมทีวจิ ติ รงดงาม เปนสถานทีประกอบพธิ กี รรม ทางพระพุทธศาสนา และรบั ศรทั ธาจากพุทธศาสนิกชนทีมาปฏิบตั ิธรรมทําบุญทําทานเนืองใน เทศกาลต่างๆ บรบิ ถโดยรอบวดั มคี วามรม่ รนื เปนธรรมชาติและเงียบสงบ
อุโบสถพุทธศิลป วดั ไตรรตั นาราม
๑๓ ๕. อุโบสถพุทธศิลปวดั ไตรรตั นาราม วดั ไตรรตั นาราม หมูท่ ี ๖ บา้ นทนง ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื ง จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ทีดนิ ของวดั มี เนอื ที ๑๙ ไร่ ๓ งาน ๘๘ ตารางวา อาณาเขต มอี าณาเขตดงั นี ทิศเหนอื ติดกับถนนชนบท หมูบ่ า้ นไถงตรง ทิศใต้ ติดกับถนนชนบท หมูบ่ า้ นไถงตรง และถนนทางหลวงชนบท สร.๓๐๓๘ ทิศตะวนั ออก ติดกับถนนทางหลวงแผน่ ดนิ หมายเลข ๒๒๖ (สรุ นิ ทร์ - ศรขี รภมู )ิ ทิศตะวนั ตก ติดกับโรงเรยี นบา้ นไถงตรง ประวตั ิความเปนมา ไดร้ บั อนญุ าตใหส้ รา้ งวดั เมอื วนั ที ๓๐ มนี าคม พ.ศ.๒๕๑๓ ไดร้ บั อนญุ าตใหต้ ังวดั เมอื วนั ที ๒๔ มนี าคม พ.ศ.๒๕๑๖ ไดร้ บั พระราชทานวสิ งุ คามสมี า เมอื วนั ที ๒๐ ตลุ าคม พ.ศ.๒๕๑๗ ผกู พทั ธสมี า ฝงลกู นมิ ติ เมอื วนั ที ๑๖ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.๒๕๒๙ สมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าช สยามมกฎุ ราชกมุ าร เสดจ็ เปนองค์ประธานยกชอ่ ฟาอุโบสถ เมอื วนั ที ๘ มถิ นุ ายน พ.ศ.๒๕๓๖ รายนามเจา้ อาวาสวดั ตังแต่อดตี จนถึงปจจุบนั วดั ไตรรตั นาราม มลี ําดบั เจา้ อาวาสผคู้ รองวดั ดงั นี ๑) พระราชวสิ ทุ ธนิ ายก อดตี เจา้ อาวาส พ.ศ. ๒๕๑๒ - ๒๕๔๖ ๒) พระครปู ลัดวริ ตั ธนสโี ล อดตี เจา้ อาวาส พ.ศ. ๒๕๔๖ - ๒๕๔๙ ๓) พระครปู ราโมทยธ์ รรมวงศ์ (หมอ่ มหลวงสมั พนั ธ์ ปราโมช) เปนเจา้ อาวาส พ.ศ. ๒๕๔๙ – ปจจุบนั จุดเดน่ ของวดั พระอุโบสถ มสี ถาปตยกรรมทีโดดเดน่ สวยงาม ภายในพระอุโบสถมจี ติ กรรมฝาผนงั ทีนา่ สนใจ ภายในวดั มรี อยพระพุทธบาทจาํ ลอง ใหพ้ ุทธศาสนกิ ชนไดส้ กั การะบูชาและธรรมชาติภายในวดั มคี วาม รม่ รนื และเงียบสงบ
พระธาตเุ จดีย์ วดั สทุ ธธิ รรมาราม
๑๕ ๖. พระธาตเุ จดยี ว์ ดั สทุ ธธิ รรมาราม วดั สทุ ธธิ รรมาราม ตังอยูบ่ า้ นเลขที ๔๙๒ หมูท่ ี ๑๘ บา้ นสขุ สนาม ซอยศรณี รงค์ ๙ ตําบลนอก เมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ รหสั ไปรษณยี ์ ๓๒๐๐๐ ประวตั ิความเปนมา ดว้ ยตระกลู สทุ ธธิ รรม “ดว้ ยปรารภกับพระเดชพระคณุ พระพศิ าลศาสน กิจ (หลวงพอ่ เยอื น ขนตฺ ิพโล) เจา้ อาวาสวดั เขาศาลาอตลุ ฐานะจาโรวา่ “ถ้าหลวงพอ่ ไดเ้ ปนเจา้ คณะ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ซงึ เปรยี บเสมอื นเปนพอ่ เมอื งฝายคณะสงฆแ์ ล้ว ควรจะมวี ดั ครองในเมอื งสมควร แก่บุญญาบารมี ” เมอื วนั ที ๒๒ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๕๓ (หลวงพอ่ เยอื น ขนตฺ ิพโล) ไดร้ บั การถวาย ทีดนิ จาํ นวน ๑ แปลง จากคณุ พอ่ อรา่ ม - คณุ แมม่ ุกดา ศุภกาญจน์ สองสามภี รยิ าผใู้ จบุญ ลักษณะพนื ทีเปนท่งุ นา โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพอื สรา้ งเปนวดั ในพระพุทธศาสนา รว่ มสบื สานจรรโลงพระพุทธศาสนาใหเ้ จรญิ รุง่ เรอื งสถิตสถาพร อีกเจตนาหนงึ ของถวาย (ตระกลู สทุ ธธิ รรม) ๒) เพอื ขอขมากรรมต่อองค์หลวงพอ่ เยอื นซงึ ตนไดร้ บั คําสงั ใหจ้ บั ตัวในขอ้ หาคอมมวิ นสิ ต์ (ขณะดาํ รงตําแหน่งรองผวู้ า่ จงั หวดั สรุ นิ ทรฝ์ ายความมนั คง) แต่ดว้ ยเดชะบุญทําใหห้ ลวงพอ่ รอดพน้ จากขอ้ หามาได้ ๓) เพอื ใหอ้ งค์หลวงพอ่ มวี ดั ครองอยูใ่ นตัวจงั หวดั ในฐานะเปนพอ่ เมอื งจงั หวดั สรุ นิ ทร์ ฝายพุทธจกั ร ในระยะบุกเบกิ เรมิ ต้นนนั หลวงพอ่ เยอื น ขนฺติพโล ได้นาํ กําลังพระเณรและทหารจาก ร.๒๓ พนั ๓ สรา้ งศาลามุงหลังคา จาํ นวน ๑ หลัง ขนาดกวา้ ง ๖ เมตร ยาว ๑๐ เมตร ใชเ้ ปนศาลา อเนกประสงค์ชวั คราวพอเปนสถานทีทํากิจกรรมทางพระศาสนา และสรา้ งกฎุ ิหลังคา จาํ นวน ๓ หลัง ขนาดกวา้ ง ๒ เมตร ยาว ๕ เมตร เปนทีพกั อาศัยหลบแดดหลบฝนสาํ หรบั พระภิกษุ สามเณร ในยุคบุกเบกิ นไี ดใ้ ชช้ อื วา่ “สาํ นกั ปฏิบตั ิธรรมค้นหาจติ ” แต่ชาวบา้ นค้นุ หแู ละนยิ มเรยี กติดปาก มากทีสดุ คือ “วดั ใหมห่ ลวงตาเยอื น, วดั ใหมบ่ กิ ซ,ี วดั บา้ นสขุ สนาม” หลวงพอ่ ไดส้ ง่ พระภิกษุจาก วดั เขาศาลาอตลุ ฐานะจาโรซงึ เปนวดั ต้นสงั กัดมาประจาํ หมุนเวยี นไปเรอื ย ๆ เพอื สรา้ งศรทั ธาให้ เกิดขนึ ในชุมชน เนืองจากเปนทีพกั สงฆแ์ หง่ ใหมท่ ีตังในใจกลางชุมชน ชาวบา้ นทีอาศัยอยูใ่ กล้ เคียงไดย้ นิ เสยี งสวดมนต์ทําวตั รเชา้ - เยน็ ทกุ วนั ๆ ทําใหบ้ างคนเกิดสงสยั วา่ มงี านอะไร ทําไม ไดย้ นิ เสยี งพระสวดมนต์ทกุ เชา้ คํา จงึ ตามมาดู และได้สนทนาธรรมสอบถามความเปนมาทําให้ ทราบคลายควาสงสยั การประกาศตังวดั ตามที นางมุกดา ศุภกาญจน์ ไดร้ บั อนญุ าตใหส้ รา้ งวดั ณ บา้ นสขุ สนาม ตําบล นอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ สาํ นกั งานพระพุทธศาสนาแหง่ ชาติ ไดป้ ระกาศตัง เปนวดั ขนึ ในพระพุทธศาสนาในนามวา่ “วดั สทุ ธธิ รรมาราม” สงั กัด คณะสงฆธ์ รรมยุตเมอื วนั ที ๑๓ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕
๑๖ พกิ ัดพกิ ัดวดั สทุ ธธิ รรมารามตามแผนทีโลก จากการสาํ รวจดว้ ยโปรแกรม Google earth คือ ๑๔*๕๑’๕๑*E ๑๔๙m (คําอ่าน : ละติจูด ๑๔ องศา ๕๑ ลิปดา ๕๑ ฟลิปดา เหนอื ลองจจิ ูด ๑๐๓ องศา ๓๐ ลิปดา ๒๕ ฟลิปดา ตะวนั ออก สงู เหนอื ระดบั นาํ ทะเล ๑๔๙ กิโลเมตร) อาณาเขตมดี งั นี ทิศเหนอื จดทีสว่ นบุคคล ทิศใต้จดทีสว่ นบุคคล ทิศตะวนั ออกจดทีสว่ นบุคคล และบา้ นนาพฤกษารสี อรท์ ทิศตะวนั ตกจดทีสว่ นบุคคล และบา้ นพกั แมม่ ุกดา ศุภกาญจน์ บรบิ ทโดยรวมของชุมชนแหง่ นี ผคู้ นสว่ นใหญม่ อี าชพี รบั ราชการมาซอื บา้ นนโครงการ ต่าง ๆ รอบ ๆ วดั และบางราบซอื ทีสรา้ งบา้ นเอง วฒั นธรรมการเขา้ วดั จงึ เปนวฒั นธรรมแบบ สงั คมเมอื ง สงั คมคนทํางาน สงั คมขา้ ราชการ จะเขา้ วดั เฉพาะวดั หยุดนกั ขตั ฤกษ์ ไมน่ ยิ มการ ละเล่นใด ๆ แต่ทกุ เชา้ พระเณรทีอยูก่ ็จะออกบณิ ฑบาตตามสายศรทั ธาต่าง ๆ ทกุ วนั ซงึ ชุมชน รอบ ๆ จุดเดน่ ของวดั พระอุโบสถ ๗ ชนั ทีมคี วามโดดเดน่ สามารถมองเหน็ ไดจ้ ากทีไกลๆ มดี อกบวั หล่อปนโดย รอบพระอุโบสถ และชนั บนสดุ ชนั ที ๗ เปนมพี ระฐาตเุ จดยี อ์ ยูบ่ นยอดสดุ ของตัวอาคาร ทีมี ความสวยงาม ภายในตัวพระอุโบสถยงั มลี ิฟต์สาํ หรบั ขนึ ลงไดส้ ะดวก และยงั มพี ระพุทธรปู องค์ ใหญ่ สมเดจ็ องค์พระปฐม ขนาดหนา้ ตักกวา้ ง ๙ เมตร สงู ๑๗เมตร
หลวงปูดลุ ย์ อตโุ ล วดั ปาโยธาประสทิ ธิ
๑๘ ๗. หลวงปูดลุ ย์ อตโุ ล วดั ปาโยธาประสทิ ธ์ วดั ปาโยธาประสทิ ธิ ตังอยูใ่ นมหาวทิ ยาลัยราชมงคลอีสานวทิ ยาเขตสรุ นิ ทร์ เลขที ๑๔๘ หมูท่ ี ๑๕ บา้ นตาเตียวสามคั คี ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ถนนสรุ นิ ทร์ - ปราสาท หลักกิโลเมตรที ๓ เนอื ที ๓๑ ไร่ เศษ ประวตั ิความเปนมา เมอื ป พ.ศ.๒๔๘๓ พระอาจารยฝ์ น อาจาโร อาจารยว์ ปิ สสนากัมมฏั ฐาน ไดเ้ ดนิ ทางมาจากจงั หวดั สกลนคร มาปกกรดบรเิ วณใกล้สะพานหว้ ยเสนง ซงึ เปน ปาดงดบิ ในสมยั นนั เหมาะแก่การปฏิบตั ิธรรม ซงึ มสี ปั ปายะทีเหมาะสมดว้ ยต้นไมใ้ บห้ ญา้ นาํ ท่าอุดมสมบูรณต์ ามธรรมชาติ มสี งิ แวดล้อมทีดี เมอื ไดส้ ถานทีอันเหมาะสมแล้ว ไดจ้ ดั สถานทีปฏิบตั ิธรรม มกี ฏุ ิสงฆ์ สรา้ งดว้ ยไมม้ ุงดว้ ยหญา้ คามศี าลาฉันภัตตาหาร นงั ได้ ประมาณ ๑๐ รปู และมศี รทั ธาญาติโยมทีมาทําบุญประมาณ ๑๐-๒๐ คน เปนประจาํ พระอา จารยฝ์ นฉันภัตตาหารหนเดยี ว และมพี ระภิกษุจากวดั บูรพาราม ซงึ มหี ลวงปูดลุ อตโุ ล เจา้ อาวาสวดั บูรพารามและมพี ระภิกษุมารว่ มปฏิบตั ิธรรมหลายรปู ต่อมาเมอื หลวงปู อาจาโร ไดเ้ ดนิ ธุดงค์ต่อไปยงั จงั หวดั อุบลราชธานี และต่อไปยงั จงั หวดั สกลนคร หลวงปูดลุ ย์ อ ตโุ ล ไดใ้ หห้ ลวงปูโชติ คณุ สมั ปณโณ (พระเทพสทุ ธาจารย)์ เปนเจา้ อาวาสแทนสบื มา จนถึง ป ๒๕๐๑ หลวงปูโชติไดย้ า้ ยไปประจาํ วดั วชริ าลงกรณ์ อําเภอปากชอ่ ง จงั หวดั นครราชสมี า มพี ระอาจารยส์ าํ ราญ มารกั ษาการเจา้ อาวาสชวั คราว ถึงป ๒๕๐๒ ไดม้ พี ระภิกษุสามเณร มารว่ มปฏิบตั ิธรรมมากขนึ ต่อมาหลวงปูดลุ อตโุ ล ซงึ เปนเจา้ คณะเจา้ จงั หวดั สรุ นิ ทรไ์ ดใ้ หใ้ หห้ ลวงปูเปลียน โอ ภาโส (พระราชวสิ ทุ ธธิ รรมรงั สี )จาก วดั บา้ นกระทมวนาราม มาดาํ รงตําแหนง่ แทนจนถึงป ๒๕๓๐ จงึ ไดแ้ ต่งตัง เจา้ อาวาสรปู ใหม่ คือ พระมหาสพุ รรณ สวุ ณั โณ (พระครโู สภณธรรม รงั ส)ี เปนเจา้ อาวาสจนถึงปจจุบนั
๑๙ ชอื วา่ วดั ปาโยธาประสทิ ธิ เนอื งจากไดร้ บั งบประมาณก่อสรา้ งจาก กรมโยธาธกิ ารและ ผงั เมอื งเปนผรู้ ว่ มสรา้ งและปฏิสงั ขรวดั สมยั เจา้ อาวาสพระอาจารยฝ์ น อาจาโร จุดเดน่ ของวดั บรรยากาศภายในวดั สงบรม่ เยน็ มคี วามสดชนื เพราะเต็มไปดว้ ยต้นไมน้ านาพนั ธ์ ที สรา้ งความสงบรม่ เยน็ ใหแ้ ก่สาธุชนผผู้ า่ นเขา้ มาภายในวดั ไดพ้ กั ผอ่ นหยอ่ นใจ มคี วามสปั ปายะ เหมาะแก่การเจรญิ ธรรม,รปู เหมอื นหลวงปูดลู ย์ อตโุ ล องค์ใหญท่ ีสดุ ในโลก สงู ๑๙.๑๙ เมตร หนา้ ตักกวา้ ง ๘.๐๙ เมตร,มหาเจดยี บ์ ูรพาจารย์ ทีกําลังทําการก่อสรา้ ง ปจจุบนั โครงสรา้ งเสรจ็ สนิ หมดแล้ว เหลือการตกแต่งทังภายนอกและภายใน คาดวา่ จะแล้วเสรจ็ ภายในป ๒๕๖๕, ศูนยก์ ารเรยี นรชู้ ุมชน \"การอบสมุนไพร” สถานทีศึกษาเรยี นรแู้ ละรองรบั ผรู้ บั บรกิ ารอบสมุนไพร โดยไดร้ บั งบประมาณสนบั สนนุ จากการท่องเทียวแหง่ประเทศไทย
สาํ นกั ปฏิบตั ิธรรม วดั ปาบวรสงั ฆาราม
๒๑ ๘. สาํ นกั ปฏิบตั ิธรรมวดั ปาบวรสงั ฆาราม วดั ปาบวรสงั ฆาราม ตังอยูบ่ า้ นดพู่ ฒั นา หมู่ ๑๖ ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื ง จงั หวดั สรุ นิ ทรว์ ดั ปาบวรสงั ฆาราม มเี นอื ทีรวมประมาณ ๒๒ ไร่ ๒ งาน ๗๑.๘ ตารางวา ตามเอกสาร หนงั สอื อนญุ าตใหใ้ ชท้ ีดนิ เพอื กิจการสาธารณปู โภคและกิจการอืนๆ ในเขตปฏิรปู ทีดนิ จาํ นวน ๒ ฉบบั ดงั นี ๑) หนงั สอื อนญุ าตใหใ้ ชท้ ีดนิ เพอื กิจการสาธารณปู โภคและกิจการอืนๆ ในเขตปฏิรปู ที ๒๘/๒๕๔๑ จาํ นวนเนอื ที ๗ ไร่ ๒ งาน ๗๑.๘ ตารางวา ๒) หนงั สอื อนญุ าตใหใ้ ชท้ ีดนิ เพอื กิจการสาธารณปู โภคและกิจการอืนๆ ในเขตปฏิรปู ที ๕๐/๒๕๔๖ จาํ นวนเนอื ที ๑๕ ไร่ สรา้ งขนึ เมอื ป พ.ศ. ๒๕๒๕ กรมการศาสนามหี นงั สอื อนญุ าตใหส้ รา้ งวดั ตามขอ้ ๓ แหง่ กฎ กระทรวง ฉบบั ที ๑ (พ.ศ. ๒๕๐๗) เมอื วนั ที ๑๒ มนี าคม ๒๕๔๒ ต่อมาไดร้ บั การจดั ตังเปนวดั ตาม ขอ้ ๔ แหง่ กฎกระทรวง ฉบบั ที ๑ (พ.ศ. ๒๕๐๗) เมอื วนั ที ๕ มกราคม ๒๕๔๓ และไดร้ บั พระราชทานวสิ งุ คามสมี าเมอื วนั ที ๒๕ มถิ นุ ายน ๒๕๔๔ การเดนิ ทางไปยงั วดั ปาบวรสงั ฆาราม สามารถใชเ้ สน้ ทางศรสี ะเกษ - บุรรี มั ย์ มุง่ หนา้ ไปทางอําเภอปราสาท วดั อยูต่ ิดรมิ ถนน เยอื ง เรอื นจาํ กลางสรุ นิ ทร์ อาณาเขต มอี าณาเขตดงั นี ทิศเหนอื ติดกับถนนซอยโพธริ า้ ง ทิศใต้ ติดกับถนนทางหลวงชนบท สร.๓๐๕๔ ทิศตะวนั ออก ติดกับถนนชนบท บา้ นดพู่ ฒั นา ทิศตะวนั ตก ติดกับถนนทางหลวงหมายเลข ๒๙๓ (ถนนยา่ ตา) เยอื งเรอื นจาํ กลางสรุ นิ ทร์
๒๒ ประวตั ิความเปนมา กําเนดิ วดั ปาบวรสงั ฆาราม จากคําพยากรณข์ องหลวงปูดลู ย์ ใน พรรษาที 6 หลวงพอ่ ไดม้ าปลกู กระท่อม เพอื อยูจ่ าํ พรรษาในสวนมะพรา้ ว ซงึ เปนทีดนิ ของ ท่านเอง โดยทีดงั กล่าวอยูใ่ นเขตบา้ นดู่ ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื ง จงั หวดั สรุ นิ ทร์ และมี หลวงพอ่ งาน สนตฺ จติ โฺ ต มาขออยูป่ ฏิบตั ิกับท่านดว้ ย ในตอนนนั ท่านเรมิ สอนสมาธใิ หแ้ ก่ ญาติโยมดว้ ย ซงึ การสอนนนั ท่านก็ไมไ่ ดส้ อน “แบบจติ ดจู ติ ” หรอื ใหห้ ยุดกับผรู้ แู้ ต่อยา่ งใด หากแต่ท่านสอนไปในทางฌาน สอนใหผ้ ปู้ ฏิบตั ิรจู้ กั สมาธแิ ละเขา้ ถึงความสงบใหไ้ ดเ้ ท่านนั ทกุ คืนท่านจะนาํ ศรทั ธาญาติโยมปฏิบตั ิ ตังแต่ 1 ท่มุ ไปจนถึง 2 ท่มุ ซงึ บางครงั การเดนิ ทางมา หาหลวงพอ่ ทีสวนนกี ็มอี ุปสรรค คือเวลาฝนตกชุกจะทําใหเ้ กิดนาํ ท่วมขงั ทําใหก้ ารเดนิ ทางลํา บากมาก ดงั นนั วนั หนงึ บรรดาญาติโยม ซงึ นาํ โดยโยมแมเ่ วย อิมใจ กับพวกอันไดแ้ ก่ โยมแม่ เบอื โยมแมส่ ะเกียว เปนต้น ไดก้ ราบนมิ นต์หลวงพอ่ ใหไ้ ปสรา้ งวดั ในทีของโยมแมเ่ วย ซงึ ที ดงั กล่าวอยูใ่ นตัวบา้ นดู่ แต่หลวงพอ่ วา่ ใหร้ อก่อน เพราะทางเรอื นจาํ จะยกทีปาเรอื นจาํ บาง สว่ นใหส้ รา้ งวดั เมอื ออกพรรษาแล้ว คณุ มนสั ท้วมทอง ผบู้ ญั ชาการเรอื นจาํ สรุ นิ ทรข์ ณะนนั ไดน้ มิ นต์หลวงพอ่ ไปดทู ีทีทางเรอื นจาํ จะยกถวายใหส้ รา้ งวดั เมอื ไดเ้ หน็ ทีดงั กล่าว แล้วหลวง พอ่ ก็ปฏิเสธทีจะสรา้ งวดั ตรงนนั เพราะทีดนิ ดงั กล่าวอยูต่ ิดกับหว้ ยอยูล่ ึกเขา้ ไปจากถนนใหญ่ และทีสาํ คัญมนั อยูต่ ิดกับทัณฑสถานเปด เกรงวา่ จะมปี ญหา เรอื งความปลอดภัยกับ ญาติโยมทีมาวดั ครนั จะสรา้ งวดั ในทีของโยมแมเ่ วย ทีตรงนนั ก็อยูใ่ กล้ชดิ ติดบา้ นเรอื นเกิน ไป ก็ไมเ่ หมาะสมอีก ต่อมา โยมแมส่ ลิน ทองสะอาด ทราบขา่ วเรอื งการสรา้ งวดั และทราบ ปญหาทียงั ไมล่ งตัว จงึ นอ้ มถวายทีดนิ บรเิ วณ หนา้ เรอื นจาํ (บรเิ วณทีตังวดั ในปจจุบนั ) ซงึ มี ประมาณ ๓ ไรใ่ หส้ รา้ งวดั หลวงพอ่ ท่าน ก็พจิ ารณาดแู ล้วเหน็ วา่ เหมาะสม เพราะทีตังดงั กล่าว อยูห่ า่ งจากบา้ นดหู่ นอ่ ย และการสญั จรก็สะดวกเพราะมถี นนหนา้ เรอื นจาํ ตัดผา่ น เนอื งจาก ทีดนิ ทีไดน้ มี ขี นาดเล็ก โยมแมเ่ วยจงึ นาํ ทีทีบา้ นดนู่ นั มาแลกกับทีขา้ งเคียงของโยมแมส่ ลินที จะถวาย ทําใหไ้ ดพ้ นื ทีในการทีจะสรา้ งตัววดั กวา้ งมากขนึ และต่อๆ มาหลังจากตังเปนสาํ นกั สงฆแ์ ล้ว เหล่ากรรมการสาํ นกั สงฆ์ โดยการนาํ ของโยมพอ่ ไพรตั น์ - คณุ แมเ่ กสร ประเสรฐิ แสง ไดจ้ ดั ซอื ทีดนิ ขา้ งเคียงแล้วขยายพนื ทีไปเรอื ยๆ จนถึง พ.ศ. ๒๕๔๑ มพี นื ทีประมาณ ๔ ไร่
๒๓ ในพรรษาที ๗ (พ.ศ. ๒๕๒๕) ท่านก็เรมิ เขา้ อยูใ่ นทีทีจะสรา้ งวดั โดยปลกู กระท่อมนอ้ ยๆ ขนึ (ปจจุบนั เปนทีตังกฏุ ิ เบอร์ ๓) สาํ หรบั ตัวท่านเอง และในพรรษานนั หลวงพอ่ ซอม ขณี มโล ก็ มาขออยูก่ ับท่านดว้ ย ในระยะแรกของการตังสาํ นกั สงฆน์ ที างเรอื นจาํ ซงึ นาํ โดย คณุ มนสั ท้วมทอง มสี ว่ นชว่ ยอยา่ งมากในการปรบั พนื ทีและสรา้ งเสนาสนะ พรอ้ มทังจดั หาเครอื งอุป โภคทีจาํ เปนมาถวาย และในกลางพรรษา นนั เอง หลวงปูดลู ย์ เมอื ทราบขา่ ววา่ หลวงพอ่ จะ สรา้ งวดั ก็เดนิ ทางมาหาท่านเพอื เปนกําลังใจและสงั กําชบั วา่ “อยา่ ไดค้ ิดก่อสรา้ งอะไรเลย โยมเขาสรา้ งอยา่ งไร ก็ใหอ้ ยูไ่ ปอยา่ งนนั เอาแต่ภาวนาใหพ้ น้ ๆ ไป ต่อไปมนั จะไมใ่ ชอ่ ยา่ งนี จะ ยงิ กวา่ น”ี หลวงปูดลู ยท์ ่านมคี วามเมตตาต่อหลวงพอ่ มาก มกั จะเดนิ ทางมาเยยี มใหก้ ําลังใจ อยูเ่ สมอ แมภ้ ายหลังตังสาํ นกั สงฆแ์ ล้ว หลวงปูก็มกั จะมาจาํ วดั พกั กลางวนั ทีกฏุ ิกระท่อม ของหลวงพอ่ อยูเ่ นอื งๆ และท่านไดบ้ รจิ าคปจจยั ชว่ ยในการสรา้ งวตั เปนเงินทังสนิ ๕๐,000 บาท และตังชอื วดั ใหว้ า่ “วดั ปาบวรสงั ฆาราม” (ไดร้ บั ประกาศจดั ตังวดั เมอื วนั ที ๕ มกราคม ๒๕4๓) และยงั พยากรณต์ ่อหนา้ หลวงพอ่ ทังสอง คือ หลวงพอ่ และหลวงพอ่ ซอมวา่ “ต่อไป วดั นจี ะเจรญิ กัมมฏั ฐานใหญ่ ทังหมดจะรวมอยูท่ ีน”ี เมอื พูดถึงการสรา้ งวดั นี ผเู้ ขยี นก็อดมไิ ดท้ ีจะกล่าวถึงพระเถระรปู หนงึ ซงึ หลวงพอ่ มกั จะเล่าใหฟ้ งวา่ เปนผมู้ พี ระคณุ ต่อวดั นี กล่าวคือในยุคแรกๆ ของวดั นี ท่านจะเปนผคู้ ิดหา ไมม้ าสรา้ งเสนาสนะ คอยควบคมุ ดแู ลการก่อสรา้ งในวดั พระเถระรปู นี ไดแ้ ก่ ท่านเจา้ คณุ พระสงั วรวสิ ทุ ธคิ ณุ ขณะนนั ยงั ไมม่ สี มณศักดิ มกั เรยี กชอื ท่านวา่ หลวงพอ่ แผน่ ทอง จาคโร หรอื เรยี กสนั ๆ วา่ หลวงพอ่ ทอง (ใหญ)่ รายนามเจา้ อาวาสวดั ตังแต่อดตี จนถึงปจจุบนั (ไมป่ รากฏหลักฐานเจา้ อาวาสวดั แนช่ ดั ) วดั ปาบวรสงั ฆาราม มลี ําดบั เจา้ อาวาสผคู้ รองวดั ดงั นี ๑) ท่านเจา้ คณุ พระสงั วรวสิ ทุ ธคิ ณุ (หลวงพอ่ แผน่ ทอง จาคโร) ๒) พระครปู ลัดวรเมศร์ สติสมั ปนโน พ.ศ. ๒๕๕๑ - ถึงปจจุบนั จุดเดน่ ของวดั ธรรมชาติภายในวดั ปาบวรสงั ฆาราม มสี วนปากรรมมฏั ฐานเฉลิมพระเกียรติและไดร้ บั อนญุ าตใหใ้ ชต้ ราสญั ลักษณง์ านเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั เนอื งใน โอกาสพระราชพธิ มี หามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธนั วาคม ๒๕๔๒ ภายในวดั มี ความรม่ รนื เปนวดั ธรรมยุต มที ีการฝกปฏิบตั ิธรรมสาํ หรบั บุคคลทัวไป มศี าลาปฏิบตั ิธรรม และมที ีพกั สาํ หรบั ผมู้ าปฏิบตั ิธรรม
ขนมโบราณ วฒั นธรรมวถิ ีชวี ติ บา้ นโคกกระเพอ
๒๕ ๙. วฒั นธรรมวถิ ีชวี ติ กล่มุ ทําขนมโบราณบา้ นโคกกระเพอ กล่มุ ทําขนมโบราณบา้ นโคกกระเพอ ตังอยูบ่ า้ นโคกกระเพอ หมู่ ๘ ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ประวตั ิความเปนมาขนมโบราณบา้ นโคกกระเพอทีขนึ ชอื คือขนมดอกจอกไดร้ บั การ สบื ทอดและเรยี นรจู้ ากนางปทมุ ทิพย์ แดง ชาวบา้ นโคกกระเพอ บา้ นเลขที ๔๑ หมู่ ๘ ตําบล นอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ซงึ เมอื ปลายป พ.ศ.๒๕๖๑ ผนู้ าํ หมูบ่ า้ นไดไ้ ป อบรมหมูบ่ า้ นสมั มาชพี ซงึ ทางเครอื ขา่ ยไดน้ าํ เสนอขนมดอกจอก เปนขนมประจาํ บา้ นโคก กระเพอ เพราะทางผนู้ าํ ไดค้ ิดถึง การทีทําขนมชนดิ นี เนอื งจากบา้ นโคกกระเพอ ซงึ มี อาณาเขตติดอ่างเก็บนาํ หว้ ยเสนงในบางสว่ น และมจี อกลอยมาตามนาํ มตี ิดตลิงมากใกล้ ศาลาประชาคม และพอนาํ ลดก็เกยตืนบนบก ทําใหแ้ ผบ่ านเกิดความสวยงามตามตลิงใกล้ บา้ นโคกกระเพอ จุดเดน่ ของแหล่งท่องเทียว คือ ขนมดอกจอก ซงึ ในสมยั ก่อนเปนทีนยิ มมากจะเปนหนงึ ในขนมทีจดั ขนึ ในงานพธิ ี สาํ คัญต่างของไทย เชน่ งานบวช งานแต่งงาน งานขนึ บา้ นใหม่ มคี วามเดน่ ในตัว จะมกี าร บานโดยไมห่ บุ เหมอื นการนาํ ความรงุ่ เรอื งเขา้ มาในชวี ติ ของคนทีใชข้ นมนใี นงานพธิ ตี ่างๆ
สนามแสดงชา้ ง วฒั นธรรมวถิ ีคนกับชา้ ง
๒๗ ๑๐. วฒั นธรรมวถิ ีชวี ติ คนกับชา้ ง วฒั นธรรมวถิ ีชวี ติ คนกับชา้ ง (สนามแสดงชา้ ง) สนามแสดงชา้ งเมอื งสรุ นิ ทรต์ ังอยูใ่ น พนื ทีเดยี วกับสนามกีฬาจงั หวดั สรุ นิ ทรแ์ ละสาํ นกั งานท่องเทียวจงั หวดั สรุ นิ ทร์ ซงึ อยูใ่ นเขต ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ประวตั ิความเปนมา สนามแสดงชา้ ง สรา้ งขนึ เมอื ป พ.ศ. ๒๕๔๕ ซงึ สรา้ งติดอยูก่ ับสนาม กีฬาศรณี รงค์ โดยสรา้ งขนึ จากงบประมาณขององค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั สรุ นิ ทร์ และการ ท่องเทียวแหง่ ประเทศไทย จุดเดน่ ของแหล่งท่องเทียว สนามแสดงชา้ งทีออกแบบเปนสนามฟุตบอลรองรบั กับการแสดงโชวข์ องชา้ ง มี อัฒจนั ทรไ์ วส้ าํ หรบั ผทู้ ีมาเขา้ ชมการแสดงชา้ ง รอบๆบรเิ วณเปนทีพกั ของควาญชา้ งและมสี ถาน ทีไวส้ าํ หรบั เลียงชา้ ง
เรอื มอันเร วฒั นธรรมศิลปะพนื บา้ น
๒๙ ๑๑. วฒั นธรรมศิลปะพนื บา้ นเรอื มอันเร วฒั นธรรมศิลปะพนื บา้ นเรอื มอันเร ตังอยูบ่ า้ นปรอื เกียน หมูท่ ี ๔ ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ประวตั ิความเปนมาเรอื มอันเร เรอื ม แปลวา่ “ราํ ” อันเร แปลวา่ “สาก” เรอื มอันเร แปลวา่ “ราํ สาก” เปนการละเล่นของชาวไทย เชอื สายเขมร ของจงั หวดั สรุ นิ ทร์ ทีเล่นกันในเดือน ๕ วนั พกั ผอ่ นประจาํ ป ชว่ งวนั หยุดสงกรานต์มาแต่โบราณ จุดเดน่ ของแหล่งท่องเทียว เปนศิลปะการละเล่นของชาวไทย เชอื สายเขมร ทีเล่นกันในเดือน ๕ มกี ารรา่ ยราํ ที สนุกสนานครนื เครง มที ่ากระโดดโลดเต้นเขา้ กับจงั หวะของสากทีกระทบกันใหเ้ กิดเสยี งดงั เพราะสากตําขา้ วทําจากไมเ้ นอื แขง็
องค์พระมหาเศรษฐนี วโกฏิ มหาวทิ ยาลัยจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตสรุ นิ ทร์
๓๑ ๑๒. พระมหาเศรษฐนี วโกฏิ พระมหาเศรษฐนี วโกฏิ ตังอยู่ ณ มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขต สรุ นิ ทร,์ บา้ นโคกกระเพอ หมู่ ๘ ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จ.สรุ นิ ทร์ ประวตั ิความเปนมา พระมหาเศรษฐนี วไกฏิ (พระ ๙ หนา้ ) ปางนาคปรกองค์นีคณุ รส สคุ นธ์ บุญวรเศรษฐ์ ไดม้ จี ติ ศรทั ธาสรา้ งขนึ เพอื ถวายเปนพุทธบูชาในบวรพระพุทธศาสนา โดย องค์พระแกะจากไมต้ ะเคียนพนั ปเปนองค์แรกและองค์เดียวทีใหญท่ ีสดุ ในโลก ไดจ้ ดั พธิ เี บกิ เนตรฉลององค์พระ ณ ศาลาอุรพุ งศ์ วดั บรมนิวาสราชวรวหิ าร โดยเจา้ ประคณุ สมเดจ็ พระพุฒา จารย์ ประธานคณะผปู้ ฏิบตั ิหน้าทีสมเดจ็ พระสงั ฆราชวดั สระเกศราชวรมหาวหิ าร เมตตาเปน องค์ประธานพธิ ี ในวนั พฤหสั บดที ี ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เวลา ๑๖.๑๙ น. สถานทีประดษิ ฐาน พระมหาเศรษฐนี วโกฏิ (พระ ๙ หน้า)คณุ รสสคุ นธ์ บุญวรเศรษฐ์ และคณุ นพวรรณ ไววทิ ลิขติ ได้ มจี ติ ศรทั ธา รว่ มสรา้ งมณฑปจตรุ มุขขนึ ณ มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ โดยจดั ขบวนแหพ่ ระมหาเศรษฐนี วโกฏิ (พระ ๙ หนา้ ) จากวดั บรมนิวาสราชวรวหิ าร แขวงรองเมอื ง เขตปทมุ วนั กรุงเทพมหานคร เพอื ใหพ้ ุทธศาสนิกชนได้ รว่ มอนโุ มทนา และจดั พธิ อี ัญเชญิ องค์พระมหาเศรษฐนี วโกฏิ (พระ ๙ หนา้ ) ปางนาคปรก ขนึ ประดษิ ฐานบนมณฑปจตรุ มุข ในวนั อาทิตย์ ที ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔ จุดเดน่ ของแหล่งท่องเทียว คือ องค์พระมหาเศรษฐนี วโกฏิ แกะจากไมต้ ะเคียนพนั ปเปนองค์แรกและองค์เดียวที ใหญท่ ีสดุ ในโลก ถัดไปไมไ่ กลมปี าไมเ้ ปนสถานทีปฏิบตั ิธรรมวปิ สสนากรรมฐานของ มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตสรุ นิ ทร์ ทีมคี วามอุดมสมบูรณด์ ว้ ยแมกไม้ นาๆพนั
เอกสารอ้างอิง ๑. หนงั สอื พระมหาเศรษฐนี วโกฏิ, (สรุ นิ ทร์ : มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตสรุ นิ ทร,์ ๒๕๕๔), (อัดสาํ เนา). ๒. สมั ภาษณ์ สมั ภาษณ์ พระครูไพรชั ปญญาภรณ,์ เจา้ อาวาสวดั โพธญิ าณรงั สี ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร,์ ๘ เมษายน ๒๕๖๔. สมั ภาษณ์ พระครูศรสี นุ ทรสรกิจ ผศ.ดร., เจา้ อาวาสวดั ศรรี ตั นาราม ตําบลนอก เมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร,์ ๙ เมษายน ๒๕๖๔. สมั ภาษณ์ พระครูธรรมธรวชริ ศักดิ ปญญาวชโิ ร เจา้ อาวาสวดั บา้ นเสมด็ ตําบลนอก เมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร,์ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๔. สมั ภาษณ์ พระครูปญญาวมิ ลวฒั น์ (หลวงพอ่ ทับทิม อนาวโิ ล), เจา้ อาวาสวดั ใหมศ่ รี มากทอง ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร,์ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๔. สมั ภาษณ์ พระครูปราโมทยธ์ รรมวงศ์ (หมอ่ มหลวงสมั พนั ธ์ ปราโมช), เจา้ อาวาสวดั ไตรรตั นาราม ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร,์ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๔. สมั ภาษณ์ พระครูโสภณธรรมรงั ส,ี เจา้ อาวาสวดั ปาโยธาประสทิ ธิ ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ , ๒๙ เมษายน ๒๕๖๔. สมั ภาษณ์ พระครูปลัดวรเมศร์ สติสมั ปนโน, เจา้ อาวาสวดั วดั ปาบวรสงั ฆาราม ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ , ๑ สงิ หาคม ๒๕๖๔. สมั ภาษณ์ นายสมพร ระยา้ งาม, ผู้ใหญบ่ า้ นโคกกระเพอ หมู่ ๘ ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร,์ ๓ สงิ หาคม ๒๕๖๔. สมั ภาษณ์ นางสาวพนดิ า หัตถกิจ นักจดั การงานทัวไป อบจ. สรุ นิ ทร,์ ๙ สงิ หาคม ๒๕๖๔. สมั ภาษณ์ นางจนั ทรา เรอื งสวสั ดิ ผใู้ หญบ่ า้ นปรอื เกียน หมู่ ๔ ตําบลนอกเมอื ง อําเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร,์ ๑๙ สงิ หาคม ๒๕๖๔. สมั ภาษณ์ พระสรุ กาญจน์ โชติป ฺโญ (สทุ ธดิ ี), พระติดตาม พระเทพวชริ ญาณ โสภณ หลวงพอ่ เยอื น ขนตฺ ิพโล เจา้ อาวาสวดั สทุ ธธิ รรมมาราม ตําบลนอกเมอื ง อําเภอ เมอื งสรุ นิ ทร์ จงั หวดั สรุ นิ ทร,์ ๔ กันยายน ๒๕๖๔
ชชออ่่ งงททาางงกกาารรตติิดดตตาามม U2T ตําบลนอกเมอื ง - สรุ นิ ทร์
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: