คู่มอื ความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิงาน ( SAFETY PRACTICE)๑.ความรทู้ ่ัวไปเกยี่ วกับอบุ ัติเหตุ (general Knowlage of Aecidents)๑.๑ อบุ ตั เิ หตุคืออะไร อบุ ัตเิ หตุกค็ ือ เหตุการณ์ทเี่ กิดขึ้นโดยไม่คาดคิดและควบคุมไวก้ ่อน โดยการออกแรงกระทาหรอื แรงตอบโตข้ องวัตถุ สิง่ ของ บคุ คล หรือการแผ่รังสีเปน็ ผลให้เกดิ การบาดเจบ็ หรอื นา่ จะเกดิ เพราะเหตนุ ั้น๑.๒ ผลการสูญเสียอนั เน่ืองมาจากอุบตั ิเหตุ ๑.๒.๑ คา่ สูญเสียเวลางานของพนกั งานท่ีบาดเจ็บ ๑.๒.๒ คา่ สญู เสียเวลางานของพนักงานอ่นื ทีช่ ะงักงานไปอนั เน่อื งจาก ๑.๒.๒.๑ เพราะอยากรูอ้ ยากเหน็ เหตุการณ์ ๑.๒.๒.๒ เพราะความเห็นใจ ๑.๒.๒.๓ เพราะช่วยพนกั งานที่บาดเจ็บ ๑.๒.๒.๔ ดว้ ยเหตอุ ื่น ๆ ๑.๒.๓ ค่าสูญเสยี เวลางานของหวั หน้างาน และผู้บงั คบั บัญชาอ่ืน ๆ เนือ่ งจาก ๑.๒.๓.๑ ช่วยเหลอื พนักงานผบู้ าดเจ็บ ๑.๒.๓.๒ สอบสวนสาเหตุอบุ ตั ิเหตุ ๑.๒.๓.๓ จัดหาพนักงานอนื่ มาทางานแทนผูบ้ าดเจบ็ ๑.๒.๓.๔ คัดเลือก ฝกึ พนกั งานใหม่เขา้ ทางาน ๑.๒.๓.๕ รายงานอุบัตเิ หตุ ๑.๒.๔ คา่ สูญเสยี เวลาของพนกั งานสถานพยาบาล ๑.๒.๕ คา่ เสียหายของเครอื่ งจักรกล เครอ่ื งมอื หรือทรพั ยส์ นิ อ่ืน ๆ ๑.๒.๖ คา่ ใช้จ่ายในกรณีอุบตั เิ หตุจะมีผลให้การผลิตกาไรลดลง รวมทัง้ ค่าใชจ้ ่ายอ่นื ๆท่ีใช้ในกรณนี ้ี ๑.๒.๗ ค่าใชจ้ า่ ยทางดา้ นสวัสดกิ ารจะสงู ข้ึน
๑.๒.๘ คา่ แรงท่ีตอ้ งจา่ ยขณะทพ่ี นกั งานบาดเจบ็ ๑.๒.๙ ขาดผลกาไรอนั เน่อื งจากพนกั งาน และงานที่พนกั งานผู้นั้นทาอยหู่ ยดุ ชะงกั ลง ๑.๒.๑๐ ทาให้เกิดตน่ื ตระหนกหรอื ขวญั เสยี ในหมพู นกั งาน ๑.๒.๑๑ ค่าใชจ้ ่ายถัวเฉล่ยี อันเกย่ี วกบั อุบัติเหตุ เช่น ค่าไฟฟ้า และอน่ื ๆ เพม่ิ เตมิ๑.๓ สาเหตขุ องอุบตั เิ หตตุ ามลาดับ ๑.๓.๑ นสิ ยั ดั้งเดิมและสง่ิ แวดล้อมของสงั คม ๑.๓.๑.๑ นิสยั ด้งั เดิม ความสะเพรา่ หรอื ขาดความรอบคอบ ความดอ้ื ดงึความตระหน่ีเหน็ แกต่ วั หรือลกั ษณะอนื่ ๆ อนั สบื เนอ่ื งต่อกนั มา ๑.๓.๑.๒ ส่งิ แวดล้อมและสังคม อาจจะโน้มนาทาให้เกดิ บคุ ลกิ ท่ไี มด่ ีแตก่ ็อาจจะแก้ได้ด้วยการศึกษา ๑.๓.๒ ข้อบกพร่องในตัวบุคคล เชน่ การขาดความรอบคอบ โมโหรา้ ย หงุดหงดิ ต่นื เตน้ งา่ ยไม่นึกถึงความรู้สกึ ของผอู้ นื่ ๑.๓.๓ การปฏบิ ัติงานท่ีไมป่ ลอดภัย หรือสถานะท่ีจะเป็นอันตรายตอ่ ร่างการหรอื เคร่อื งจกั รกล ๑.๓.๓.๑ การปฏิบตั งิ านท่ไี มป่ ลอดภยั เชน่ ยืนใตข้ องที่ยกลอยตัว สตาร์ทเครอ่ื งยนต์โดยไมบ่ อกกล่าว ลอ้ เลน่ กนั ขณะปฏิบัตงิ าน ฯลฯ ๑.๓.๓.๒ สถานทีจ่ ะเปน็ อันตรายตอ่ ร่างกายหรอื เครือ่ งจกั รกล เชน่ ห้องเฟืองท่ไี ม่มีครอบปกปดิ ไมม่ ีทป่ี อ้ งกันป่มุ หรอื คันสาหรับสตาร์ท ไมม่ รี ้ัวปอ้ งกัน แสงสว่างไม่เพยี งพอ ฯลฯ ๑.๓.๔ อุบัติเหตุ อบุ ัติเหตุที่เกิดขนึ้ เชน่ ตกจากทส่ี งู ถูกชน หรอื ของหลน่ ถูกศีรษะ ฯลฯ ๑.๓.๕ การบาดเจ็บ กระดูกแตก เปน็ แผลเหวอะหวะ๑.๔ รายละเอียดการปฏบิ ัติงานทไี่ มป่ ลอดภยั และสภาพของงานทไ่ี ม่ปลอดภัย ๑.๔.๑ การปฏบิ ัติงานที่ไมป่ ลอดภัย ๑.๔.๑.๑ ปฏิบัตงิ านโดยไมร่ ับอนญุ าตหรือไมใ่ ช่หน้าที่ ๑.๔.๑.๒ ปฏบิ ตั ิงานดว้ ยอัตราเร็วท่ไี ม่ปลอดภัย ๑.๔.๑.๓ ทาให้เคร่ืองรกั ษาความปลอดภัยใช้การไม่ได้ ๑.๔.๑.๔ ใชเ้ ครอ่ื งมือทไ่ี ม่ปลอดภยั หรอื โดยวธิ ีท่ีไม่ปลอดภัย ๑.๔.๑.๕ การยกของข้นี ลงโดยวิธที ่ีไมป่ ลอดภัย
๑.๔.๑.๖ ลักษณะการปฏิบัตงิ านอยู่ในทา่ ทีไ่ ม่ปลอดภัย ๑.๔.๑.๗ ปฏบิ ตั ิงานกบั เคร่ืองมือเครอ่ื งใช้ หรือเคลือ่ นยา้ ยเครื่องมือทเ่ี ป็นอนั ตราย ๑.๔.๑.๘ หยอกลอ้ เล่นกนั ในระหว่างทางาน หรอื ไมม่ ใี จจดจ่อตอ่ งานที่กาลังปฏิบัติ ๑.๔.๑.๙ ไม่ใชเ้ ครือ่ งมือและอปุ กรณ์สาหรบั ปอ้ งกนั อันตราย ๑.๔.๒ สภาพของงานท่ีไมป่ ลอดภัย ๑.๔.๒.๑ ไม่ไดล้ อ้ มร้ัว หรอื มีส่ิงปดิ บงั เพียงพอ ๑.๔.๒.๒ ไมม่ รี ัว้ ลอ้ มหรอื สิ่งปดิ บังเลย ๑.๔.๒.๓ มสี ภาพไมเ่ รียบรอ้ ย เชน่ ขรุขระ แหลมคม ล่ืน ผุพงั ไมแ่ ขง็ แรง ฯลฯ ๑.๔.๒.๔ ใชเ้ ครอ่ื งจักรท่ีมีรปู รา่ งลักษณะไมป่ ลอดภยั ๑.๔.๒.๕ การระวังรักษาไมเ่ พียงพอ ๑.๔.๒.๖ แสงสว่างไมเ่ พียงพอ ๑.๔.๒.๗ การระบายอากาศไมด่ พี อ ๑.๔.๒.๘ เครอื่ งแต่งกายไม่เหมาะสมกับลกั ษณะของงานทปี่ ฏบิ ตั อิ ยู่ ๑.๔.๒.๙ วธิ กี ารปฏิบัติงานไมป่ ลอดภัย๑.๕ การจาแนกประเภทอบุ ตั เิ หตุ อาจจาแนกออกเป็นขอ้ ๆ ไดด้ ังนี้ ๑.๕.๑ การยกของขน้ึ ลง แบ่งออกเปน็ ๒ อย่างคอื ยกดว้ ยกาลังคน และยกด้วยเครือ่ งจกั รกล ๑.๕.๑.๑ ยกด้วยกาลงั คนการยกของทถ่ี กู วธิ ี การยกของที่ผิดวธิ ี(ก) มือและแขน บาดแผลท่ีไดร้ บั เกดิ จากเสย้ี นตา ของมคี มบาด ตะปตู า ถกู วตั ถุทีย่ กหนบี กับวัตถุอน่ื ๆหรอื ประตู หรือส่วนอาคารทย่ี นื่ ออกมา นอกจากนน้ั กม็ บี าดแผลที่เกดิ จากมมุ คมของวตั ถทุ ่ยี ก เหล็กลัดลงั หรือหบี หอ่ อนั ตรายเหล่านี้อาจป้องกนั ได้โดยผู้ปฏบิ ัตงิ านยกของจะต้องคอยระวงั ตวั ท้ังขณะท่ี
ทางานอยู่กับทหี่ รือเคลอ่ื นที่ ซึ่งเป็นหลักสาคัญและขึน้ อยูก่ ับสญั ชาตญาณของแต่ละบุคคล ถงึ แม้ว่าจะได้ป้องกันอบุ ตั เิ หตุเหล่าน้ดี ว้ ยการจดั หาถุงมอื หรอื เครือ่ งมือจบั ยกใหแ้ ล้วกต็ าม อันตรายอันเนือ่ งมาจากบุคคลขาดสญั ชาตญาณระวงั ตัว กย็ ังมอี ย่ทู กุ แขนงของงาน(ข) การปวดหลังและไสเ้ ลอ่ื น โรคปวดหลังเกิดจากการยกของท่ผี ิดวธิ ี กล่าวคอื ไม่ยกของโดยบงั คับให้หลังตรงและงอเขา่ เพ่อื ใหห้ นา้ ขาทัง้ สองรับนา้ หนักขณะที่ยก จะตอ้ งแยกเทา้ ห่างพอประมาณโดยให้เทา้หน่ึงล้าไปข้างหน้าเลก็ น้อย และปลายเทา้ ชีไ้ ปทางทิศที่จะยกของไป การยกวธิ ีนี้จะทาใหผ้ ยู้ กรกั ษาสมดลุ ตวั เองได้ และจะลดอาการปวดหลังลงด้วย สาหรับไสเ้ ลือ่ นนัน้ ไม่ได้เกิดจากการผิดวธิ ีเพียงอยา่ งเดียว ความโน้มน้อมโดยธรรมชาตมิ ีสว่ นทาใหเ้ กิดขนึ้ ด้วย ผู้ยกจะได้รบั ความทรมานจากการปวดเมอื่ ยถา้ หากรา่ งกายมีเค้าจะเปน็ ไส้เลื่อนอยู่ อย่ายกของเกนิ กาลังใหห้ าผู้อ่นื ช่วย(ค) เทา้ บาดแผลเท้าส่วนใหญ่เกดิ จากวัตถสุ ิง่ ของหล่นทบั เทา้ ซ่งึ จะเกิดขึน้ บ่อย ๆ ในการยกของพร้อมกนั หลายคน และเกดิ ความเข้าใจผิดในระหวา่ งผยู้ กด้วยกนั ทางทดี่ ีในการยกของก็คือ พยายามอยา่ ยกของด้วยลักษณะการยกทีไ่ ม่พรอ้ มเพรยี ง ยกของบนทล่ี ่ืน หรอื ของทีย่ กรูปร่างไม่สมดุลพลกิ งา่ ย และประการสาคญั กค็ อื จะต้องกะลว่ งหน้าว่าจะวางของไวท้ ่ใี ด ถา้ วางบนโต๊ะหรือม้าน่งั ในระดบั เอวกจ็ ะเป็นการง่ายขึ้น(ง) รา่ งกายและศรี ษะ บาดแผลทเี่ กิดตามบรเิ วณรา่ งกายหรอื ศรี ษะมกั จะเกดิ จากการขนวัตถทุ เี่ ปน็อนั ตรายตกเรยี่ ราด หรือของอื่น ๆ ทบี่ รรจหุ ีบหอ่ ไว้ไม่เหมาะสมหรอื ไมแ่ นน่ หนา หรอื ขาดการตรวจสอบดูว่าของท่ผี ู้ยกยกไปน้ันมอี ะไรบรรจุอยู่
(จ) การยกของพรอ้ มกนั หลายคน เหลก็ คาน เหลก็ ราง หรือส่ิงของทม่ี ลี กั ษณะกว้างควรจะยกด้วยผู้ควบคมุ งานเปน็ ผูส้ ัง่ เพยี งคนเดียว และทุกคาสั่งจะต้องชัดเจนและไม่เร็วเกนิ ไป ผู้ยกกต็ อ้ งปฏิบัติตามพร้อมกนั สาหรับกลุ่มท่ีไมเ่ คยปฏิบตั ิงานรว่ มกนั มาก่อนจะต้องใชค้ วามระมดั ระวังให้มาก(ช) รถเข็นทีใ่ ชก้ าลงั คน ฯลฯ อยา่ กองส่ิงของสงู จนมองทางข้างหน้าไม่เหน็ ระวงั มือขณะเขน็ ผ่านประตูและเมื่อจะเลย้ี วจะตอ้ งตีวงใหก้ ว้าง การยกโดยใชร้ ถยกไฮดรอรกิ(ซ) การขน ดทู ศิ ทางขา้ งหน้าตลอดเวลา และอยา่ เขน็ วตั ถุกองสงู มากเกนิ ไป ซ่ึงจะทาใหไ้ มอ่ าจมองเหน็เสน้ ทางข้างหน้าได้ ๑.๕.๑.๒ ยกโดยใช้กาลังเครื่องยนต์มือและนว้ิ มืออาจถูกหนีบขณะสอดสะลิงลงบนขอเกย่ี ว ขณะยกขอเกีย่ วของ วิธกี ารลดความยาวของสะลิงด้วยการใชส้ ลกั หรือผูกเงอ่ื น การใชส้ ะลงิ ยกของดว้ ยวิธกี ารผดิ ๆ เหลา่ นี้ มกั กอ่ ให้เกดิ ความเสยี หายข้ึนได้การยกของควรจะทดลองยกให้ลอยตวั เพยี งเลก็ นอ้ ยก่อนเมื่อเหน็ ว่าปลอดภยั ดแี ลว้ จึงจะยกขน้ึ เตม็ ท่ีอนั ตรายอน่ื ๆ ก็ไดแ้ ก่การยกสงิ่ ของเคล่อื นจากหรือวางลงพ้ืนรองรับท่ีไม่มั่นคง หรอื วางของไวใ้ นลกั ษณะไม่สมดุลย์ อาจพลิกหรอื กระดกได้ ลมแรงอาจทาใหข้ องท่ียกลอยตวั แกวง่ ไปมาซ่งึ ทาให้ลาบากต่อการบังคบั ควบคมุ ควรจัดหาแพก็ กิ้งหนุนรองรับมุมคมของวตั ถทุ ่ยี กเพ่ือป้องกันสะลงิ ชารุดถ้าใชโ้ ซ่แทนสะลิงกค็ วรจะกระทาเช่นเดยี วกันเพื่อความปลอดภยั ลูกโซ่ท่ีพับงอหรอื สะลิงทหี่ ักมมุ เน่อื งจากได้รบั แรงเค้นอย่างมาก ไมค่ วรนามาใช้งานอกี ไม้เน้ือแข็งมีความคมพอทีจ่ ะตดั ลวดสะลิงขาดได้
การใหส้ ัญญาณไม่ว่าด้านใหเ้ สยี งหรือใชม้ ือ ควรจดั ระบบใหเ้ ปน็ มาตรฐานอย่างเดียวกัน และการให้สญั ญาณจะต้องชดั เจน วตั ถทุ ย่ี กมักจะหย่อนลงทับเทา้ หรอื มอื เมื่อผู้ยกของขาดความระมัดระวงั สนใจแต่ตาแหนง่ ที่จะวางของเพียงอยา่ งเดียว การใช้ Fork lift ในบางกรณีกอ่ อาจกอ่ อุบตั เิ หตขุ นึ้ ได้เพราะรถ Fork lift เล้ียวได้ในวงแคบและปกตกิ ม็ ักจะบรรทกุ ของสูงมากจนผู้ขบั ไม่อาจมองทางข้างหนา้ ได้ชัเจนพอ ผู้เดินเทา้ จึงตอ้ งใช้ความระมดั ระวงั เพราะอาจจะถกู ทับหรือตวั รถ Fork lift เองอาจจะพลิกคว่าผ้ทู าหนา้ ท่ีจัดสง่ ของเพ่ือบรรทุกจะต้องยืนในทที่ ี่ปลอดภัยขณะที่คนั ยกของกาลังยกขนึ้ หรือลง ๑.๕.๒ การหกลม้ หรือตกจากท่สี ูง อบุ ัติเหตตุ กจากที่สูงเกดิ ขนึ้ ได้ เชน่ นั่งร้านไม่ม่นั คง ไม้ทใี่ ช้พาดเปน็ ทางเดินกระดกได้การตง้ั บนั ไดไมถ่ ูกต้อง ไมพ้ าดสาหรับเดนิ ลาดข้นึ ท่สี ูงพลกิ ได้ ไม่มรี ัว้ กนั้ เฉลียง ยืนบนพนื้ ทไี่ มม่ ่นั คง การเดนิ บนพ้ืนราบถา้ หากไม่ดใู ห้รอบคอบแล้วกม็ ักจะหกล้มหรือสะดุดได้งา่ ยความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อยในสถานปฏิบตั งิ านและการระมัดระวงั ในการเดินจะปอ้ งกันอบุ ตั ิเหตุเชน่ นี้ได้๑.๕.๓ ถูกกระแทกจากสิ่งของยกลอยตัว ๑.๕.๓.๑ สงิ่ ของทีผ่ ู้ปฎบิ ัติงานถือไว้แล้วหลดุ มือตกลงมา ๑.๕.๓.๒ ผปู้ ฏิบัตงิ านสะดดุ สงิ่ ของทีว่ างใว้ เชน่ เคร่อื งมอื หรอื อุปกรณ์บางช้ินร่วงหลน่ ลงมาหรอื ส่ิงเหล่าน้นั ตกลงมาด้วยความสัน่ สะเทอื น หรอื แรงลม ๑.๕.๔.๓ ประกอบโครงสร้างไว้ไมแ่ ข็งแรง หรอื โครงสรา้ งนนั้ ชารดุ ทรุดโทรมซ่ึงควรจะได้รับการตรวจสอบหรือเปลย่ี นใหม่๑.๕.๔ เครื่องมอื ๑.๕.๔.๑ เครอื่ งมือชารดุ(ก) ค้อน ขวาน มีด พะเนนิ ถ้าด้ามไมย่ ึดหัวไว้ไม่แนน่ หรอื ไม้ทีใ่ ช้ทาด้ามแตกหรือบนิ่ ยอ่ มเสยี่ งในการใชง้ าน หัวคอ้ นอาจจะหลดุ ปลิวออกไป หรือตอกพลาด ด้ามไม้ที่แตกอาจจะแทงมือ หน้าคอ้ นทตี่ อกถ้าสึกจนกลมหรอื สกัดที่ทอื ย่อมทาใหก้ ารตอกพลาดได้ง่าย หัวค้อนท่ีใช้งานจนคลอนแล้วควรเปล่ยี นดา้ มไม้ใหมแ่ ทนท่จี ะตอกลม่ิ เพิม่ เข้าไป(ข) สกดั สกัดทีห่ ัวบานแบบดอกเห็ดอย่านามาใช้ เพราะสะเก็ดเหลก็ ส่วนทีบ่ านอาจจะปลวิ เข้าตาผู้ปฏบิ ตั ิงานเองหรอื ผอู้ ืน่ ทาใหต้ าบอดได้ เป็นการเส่ยี งภัยและกอ่ ความสูญเสยี ใหแ้ ก่ผู้อ่นื โดยไมจ่ าเปน็
หัวสกดั จะบานแบบดอกเหด็ เรว็ หรือช้าก็ขน้ึ อย่ทู ่ผี ้ปู ฏบิ ตั ิงานลับสกัดให้คมอยเู่ สมอหรือไม่ แต่ถึงแมจ้ ะไดล้ ับสกดั อย่เู สมอ การแตง่ หัวสกดั กย็ งั เปน็ สง่ิ จาเป็น การแต่งหวั สกัดนน้ั ไมใ่ ช่เจียระไนสว่ นท่ีบานออกมาให้หมดไปเท่าน้นั แตจ่ ะต้องเจยี รไนรอยร้าวระหว่างส่วนที่บานออกใหห้ มดไปด้วย การใช้สกัดถึงแมว้ ่าสกัดจะคมผ้ปู ฏบิ ัติงานกค็ วรจะสวมแว่นตาและในทานองเดยี วกันมิใช่สวมแวน่ ตาแลว้ ยังคงใช้สกัดหัวบานแบบดอกเห็ด เพ่ือป้องกนั บคุ คลอน่ื หรือเพ่ือนร่วมงานจากสะเก็ดเหล็กท่ีปลิวกะเด็นควรกั้นฉากลอ้ มงานทสี่ กดั อยู่หรือถ้างานสกดั ตอ้ งอาศยั ผอู้ ่นื ตอกผูจ้ ับสกดั ควรใช้คมี จบั(ค) ตะไบ สิ่ว ไขควง ตะไบที่ไมม่ ีด้ามมีอนั ตรายมากถ้านามาใช้ และเคยกอ่ ใหเ้ กดิ บาดเจ็บแก่มอื หรอืร่างกายอย่บู ่อย ๆ กา้ นตะไบแหลมมากอาจแทงมอื และอาจปักเทา้ ผ้ปู ฏบิ ตั งิ านได้ถา้ หลน่ จากโตะ๊ปากกา นอกจากน้ันอาจเปน็ อันตรายต่อหน้าอก หรอื ทอ้ ง ถา้ นาไปใช้กบั เคร่อื งกลงึ ด้ามตะไบ สวิ่ หรือไขควงทแ่ี ตกหรอื หลวมเปน็ อนั ตรายตอ่ ผใู้ ชเ้ ชน่ เดียวกัน เมือ่ ดา้ มแตกหรอืหลวมก็ควรเปลีย่ นดา้ มใหม่ แทนท่ีจะใช้ลวดหรอื เชือกพนั ประกบไว้(ง) ประแจปากตาย ปากประแจทร่ี า้ ว หรือบานออกควรเลกิ ใช้ประแจเหล่าน้นั เพราะว่าจะทาให้เหลี่ยมน้นั เสยี และอาจลน่ื หลดุ ทาให้มือผใู้ ชก้ ระแทกกับวตั ถุหรือส่วนของเคร่ืองจักรกลบาดเจ็บได้ หรอื ถ้าผใู้ ชป้ ฏิบตั ิงานบนท่สี ูงอาจเสยี การทรงตัวหลน่ จากบันไดหรือนัง่ ร้าน ๑.๕.๔.๒ เครื่องมอื ไม่เหมาะกับงาน และการใช้เคร่อื งมือไม่ถกู ต้อง เช่น การใช้ตะไบแทนเหลก็ งัด หรอื ใชก้ า้ นตะไบคว้านรู การใช้ประแจปากตายผดิ ขนาดกบั นตั ไม่เล่อื นแต่งปากประแจเลื่อนให้เหมาะกับนตั ตอ่ หางประแจดว้ ยทอ่ เหล็กแลว้ ลนื่ หลดุ ออกไป ส่วนปากประแจเพอื่ กวดหรอื คลายนัตผิดข้างทาใหป้ ากประแจบานออก ใชแ้ ระแจปากตายกวดคลายนัตในทแ่ี คบแทนท่จี ะใช้ประแจบลอ็ กซึ่งจับนอ็ ตได้ดกี ว่า ฯลฯไขควงตอก ใช้ตะไบแทนค้อน
๑.๕.๔.๓ ข้อคานึงในการใช้เครื่องมือใหถ้ ูกต้อง ไมเ่ พยี งแตท่ าใหเ้ คร่ืองมอื ชารุดเพียงอยา่ งเดยี วแต่ทาให้งานเสียด้วยเมอ่ื เกดิ พลาดพลง้ั ขึน้ การใช้เคร่อื งมอื ไมถ่ กู ตอ้ งเป็นหนทางทจี่ ะกอ่ ให้เกิดอบุ ัติเหตุได้งา่ ยและเป็นการเพาะนสิ ัยใหเ้ คยชนิ ในการทาให้เคอื่ งมอื ชารุดในงานตอ่ ๆ ไป ๑.๕.๔.๔ การใช้เครื่องมอื ชนดิ หว้ิ เคลื่อนท่ไี ด้ ได้แก่ สว่าน เครื่องควา้ น หินเจียระไน เคร่อื งขัดผิว คอ้ นหรอื สกดั อันตรายเหล่านไี้ ดแ้ ก่ การไม่ต่อสายดินทต่ี วั เครอ่ื งมือ สายไฟชารุด ปล่อยทง้ิเคร่ืองมอื ไว้ในลักษณะที่มีไฟหรือลมพร้อมทีจ่ ะสตาร์ทถา้ ผหู้ นึ่งผู้ใดไปเตะหรือจบั ถกู สวิทซ์หรือล้ินเขา้ปล่อยสายหรือทอ่ ไว้กบั พ้นื ทาใหผ้ เู้ ดินไปมาสะดุดหรือถูกรถทับเสียหาย ๑.๕.๔.๕ การเก็บเคร่ืองมอื- เก็บแล้วใหเ้ ห็นงา่ ย ถ้าให้ด้ามต้ังขน้ั กจ็ ะทาให้การหยบิ ฉวยใชง้ านงา่ ย- สว่ นท่แี หลมคมควรปกปดิ ใหม้ ิดชดิ การเกบ็ เคร่อื งมือ ๑.๕.๕ เครื่องจกั รกล สาเหตุ แบ่งได้ ๖ ชนดิ คือ๑.อุบตั ิเหตทุ ่เี กิดจากเครอ่ื งจกั รกลทีส่ ภาพเรียบร้อย และพิจารณาสถานที่ตั้งใวด้ ีแลว้ แต่ไม่ไดก้ นั้ ร้วั ไว้เช่น เครือ่ งทม่ี ีรอบการหมุนสงู เครื่องจักรอาจหมนุ ม้วนเสอ้ื ผ้าหรือฉดุ ลากผูป้ ฏบิ ตั งิ านนั้นเข้าไปทาให้บาดเจ็บ๒. อบุ ตั เิ หตุทีเ่ กิดจากเคร่ืองจกั รกลบางส่วนไม่มคี รอบปอ้ งกันเพราะผูต้ ดิ ตงั้ เห็นว่าจะไม่มใี ครเข้าไปใกลส้ ว่ นนั้น หรอื มีความเช่อื ว่าไมม่ ีใครเขา้ ไปใกล้ได้จงึ ทาครอบปอ้ งกนั ไว้ไมแ่ ขง็ แรงเพยี งพอ
๓.อบุ ตั ิเหตทุ ่เี กดิ จากการถอดครอบป้องกันออก ผูถ้ อดอาจไม่ได้รบั อนญุ าตให้ถอด แต่บางครัง้ ในทางปฏิบัตงิ านจาเปน็ ต้องทาและอบุ ัตเิ หตกุ เ็ กิดจากการท่ผี ถู้ อดไม่ไดปฏบิ ตั ติ ามวธิ ีการที่วางใว้ อบุ ตั ิเหตุแบบน้ีรวมท้ังทเี่ กิดจากครอบปอ้ งกนั ชารดุ แล้วไม่ซ่อมให้เรยี บร้อยด้วย๔.อุบตั ิเหตทุ เี่ กิดจากเครื่องห้ามอัตโนมตั หิ รอื หา้ มในตวั ส่วนใหญ่เนอื่ งจากการออกแบบไม่ดพี อ ปรบัระยะการทางานไมด่ ีพอ ไม่มีการทดลองโดยสมา่ เสมอระหวา่ งใชง้ าน เครื่องห้ามทางานชา้ บารุงรกั ษาไมด่ ี และการทางานของเคร่อื งจกั รกลบกพร่อง๕.อบุ ตั เิ หตุนี้เกดิ จากเครอ่ื งจักรกลบางชนิดซงึ่ ไมอ่ าจจะใส่ครอบป้องกันได้โดยสมบูรณ์ เพราะลาบากต่อการใชง้ าน เชน่ เครอื่ งจกั รทางดา้ นงานชา่ งไม้ เครื่องทากระดาษ ฯลฯ๖. อบุ ัติเหตเุ กดิ จกการสตาร์ทเครอื่ งจักรกลโดยไมต่ ง้ั ใจซึง่ ส่วนใหญม่ กั จะเปน็ บุคคลอ่ืนไมใ่ ช่ผู้ปฏิบัตงิ าน การแก้ไขกค็ อื ชักฟิวส์ออกเสียกอ่ นปฏบิ ตั ิงานซ่อมแกไ้ ข ใช้ป้ายเตอื นระวังอันตราย ลนั่กญุ แจสตาร์ทเตอร์ไม่ให้ใครกดหรอื สบั สวิทช์สตารท์ ได้ข้อควรระวัง๑.การตดิ ตั้งเคร่อื งปอ้ งกันอันตรายจะต้องปอ้ งกนั อันตรายได้เต็มท่ี ต้ังแต่ชอ่ งเล็ก ๆ นอ้ ย ๆ ซึ่งนิ้วอาจจะลอดไปสมั ผัสกบั สว่ นทีเ่ ปน็ อนั ตราย๒.เสื้อผา้ ท่ีใชจ้ ะต้องกะทดั รัด ไม่มีส่วนไหนหลวมรุ่มรา่ ม แขนเสอ้ื ถา้ เปน็ เสอ้ื แขนยาวตอ้ งกลดั กระดุมขอ้ มือใหเ้ รยี บรอ้ ย๓.การระวังเรอ่ื งผม ผู้ปฏบิ ตั งิ านควรสวมหมวก ไมป่ ล่อยผมยาวรุงรงั ไม่ควรสวมแหวน๔.ปฏิบัติตามขอ้ แนะนาในการประกอบสายพานเครอ่ื งจกั รและระมัดระวงั ในการเขา้ ไกล้เครื่องจักรกล ๑.๕.๖ เคร่ืองแต่งกายและอุปกรณ์ปอ้ งกันอนั ตราย (Safety Equipment and Clothing)๑.อปุ กรณ์ป้องกันอนั ตราย คาว่าอปุ กรณป์ อ้ งกันอนั ตรายนีร้ วมถงึ เขม็ ขดั เพอื่ ความปลอดภยั (Safety belt) แวน่ ตา ฉากก้นัทง้ั ชนิดติดตัง้ ตายตวั และเคลอื่ นท่ไี ด้ เครื่องสวมปอ้ งกนั อนั ตรายตา่ ง ๆ เชน่ หน้ากาก หมวก เกราะปอ้ งกนั ศีรษะ หนา้ กากป้องกันแกส๊ หรือฝุน่ ละออง เครอ่ื งแต่งกายสาหรบั สวมขณะปฏิบัติงาน เหลก็ครอบหลงั เทา้ เสื้อสวมทบั เพ่อื ปอ้ งกันเคมภี ณั ฑต์ า่ ง ๆ ครอบปอ้ งกันหน้าแขง็ รองเทา้ ปอ้ งกนั อนั ตรายถุงมือ และน้ายาลา้ งมอือบุ ตั เิ หตุเก่ียวกบั เร่อื งเหลา่ น้ีกเ็ น่ืองมาจากผู้ปฏบิ ัตงิ านไม่สวมหรือใช้อุปกรณป์ อ้ งกนั อันตรายทจี่ ัดให้ผลท่ีได้รบั กค็ อื การบาดเจ็บ ทุพลภาพและเสียชีวติ บางครั้งผ้ปู ฏบิ ัติงานไม่ใชเ้ ครอื่ งมอื ปอ้ งกันอนั ตราย
เพราะไมร่ วู้ ิธีใช้ หรือไดร้ ับเคร่ืองปอ้ งกนั อันตรายมาใชไ้ ม่เหมาะกับงานท่ีปฏบิ ตั ิอยู่ และท่สี าคญั ที่สดุ ก็คือไมจ่ ดั หาเครอื่ งป้องกนั อนั ตรายให้แก่ผู้ปฏบิ ตั งิ าน การปฏบิ ตั งิ านโดยไม่คานงึ ถึงความปลอดภัยของผูอ้ ืน่ มักจะมีอย่บู อ่ ย ๆ เชน่ ไม่ใช้ฉากกนั้ ขณะสกัดส่งิ ของ เพื่อปอ้ งกันผ้ทู เี่ ดนิ ผ่านไปมาจากสะเกด็ เหลก็ ผเู้ ดนิ ผ่านไปมามองดแู สงไฟเชือ่ มโลหะแทนทจี่ ะหาฉากมากั้นแสงไว้ ถุงมือ แวน่ ตา Safety belt
หนา้ กากเช่อื มโลหะ หมวกนริ ภยั รองเท้าเซฟตี้ ลักษณะการปฏิบัตงิ าน
๒.เครื่องแต่งกายปอ้ งกนั อนั ตราย การสวมรองเท้าทีช่ ารดุ มกั จะก่ออุบัตเิ หตุ พนื้ รองเท้าสึกมาก ของมคี มอาจจะทะลุถงึ เทา้ หรอืพืน้ ท่มี ขี องมีคมอาจฝงั จบั รองเท้าไว้ ทาให้ผสู้ วมถลาได้ รองเท้าท่สี ้นสึกมากทาใหผ้ สู้ วมเดนิ ไมถ่ นัดเม่อื ยเท้า หรอื สะดดุ ส่ิงอืน่ ไดง้ า่ ย ความเม่อื ยลา้ จากการทีต่ อ้ งยนื ทีต่ อ้ งปฏิบัตงิ านนาน ๆ ขณะทสี่ วมรองเทา้ ท่ีคับเกนิ ไปหรอื ชารุดอาจก่อให้เกดิ อบุ ตั เิ หตไุ ด้ รองเทา้ แตะ รองเทา้ ยาง ไมค่ วรนามาใช้ในงานช่าง ผทู้ ป่ี ฏบิ ตั งิ านเก่ียวกับเครอื่ งจกั รกลต้องระวังเกีย่ วกบั เคร่อื งแต่งกาย เชน่ อยา่ ผกู เนค็ ไทหลวมๆ สวมเสือ้ ไมก่ ลดั กระดุม สวมเสือ้ ปล่อยชาย เพราะเครอื่ งจกั รกลอาจจะหนีบดึงเขา้ ไปได้ ๑.๕.๗ การหยอกล้อเล่นกัน (Horseplay) การหยอกลอ้ เลน่ กนั ในขณะปฏิบัตงิ านนั้นเกดิ ข้ึนก็เนอื่ งจากผ้ปู ฏบิ ัติงานไมไ้ ด้ระลึกถึงผลเสียหายเหลา่ นัน้ หรือละเลยเห็นเป็นเรอื่ งไม่สาคญั โปรดระลกึ วา่ ลมท่มี กี าลงั อดั ดันสูงถ้าเป่าใส่หนา้ คนเหมาะ ๆ กอ็ าจทาให้ลกู ตาทะลกั จากเบา้ ได้ แกล้งผอู้ ่ืนด้วยสารเคมีที่ตนไม่รคู้ ุณสมบัติของมัน อาจเป็นพษิ หรอื เกดิ ระเบิด หยอกลอ้ เล่นดว้ ยอปุ กรณ์ไฟฟา้ ย่อมเป็นเรอื่ งยากทีจ่ ะวินิจฉยั วา่ ขาดการเอาใจใส่ตอ่อุปกรณน์ ั้นหรอื ไม่ ไฟแรงตา่ มาก ๆ ยอ่ มไม่มใี ครเดาไดว้ า่ จะก่อให้เกดิ ไฟดดู ถึงตายหรือไม่ ฉะนั้น ทางทีด่ ีทีส่ ดุ กค็ อื เอาใจใสต่ อ่ งานทีต่ นทา ละเว้นการหยอกล้อเล่นกนั ในระหวา่ งปฏิบัตงิ าน ๑.๕.๘ ไฟฟ้า (Electricity) มีองคป์ ระกอบหลายอย่างทจ่ี ะนามาพจิ ารณาวา่ การถูกไฟฟ้าดูดจะเปน็ อันตรายถึงชีวิตหรือไม่เช่น การสัมผัสใกล้และนานมากนอ้ ยเพยี งใด การตอ่ วงจรสายดนิ ดีพอหรือไม่ แรงดันไฟฟ้าสูงหรอื ต่าไฟตรงหรือไฟสลบั กระแสไฟฟ้าผ่านรา่ งกายทางไหนและความชุม่ ชืน้ ของผวิ หนงั มีมากนอ้ ยเพยี งใด ข้อบกพรอ่ งทางเทคนคิ (เช่นการหุ้มฉนวนไมด่ ี) การเดินสายไฟไมถ่ กู ตอ้ ง (เชน่ ตอ่ สวทิ ซ์ทางดา้ นสายท่ีไมม่ ไี ฟ แทนท่ีจะต่อด้านทีม่ ีไฟ) ใช้สายดนิ ไม่ดี ไมม่ ีการดแู ลอปุ กรณไ์ ฟฟา้ หรือใช้ไฟเกินพกิ ดั ของอุปกรณน์ ้นั ๆ สิง่ เหลา่ นีล้ ้วนเปน็ ขอ้ บกพร่องทจ่ี ะทาใหเ้ กิดอนั ตรายขน้ึ ได้ อันตรายอ่นื ๆ จากไฟฟา้ ก็ไดแ้ กส่ วิทซท์ างานไมค่ ่อยดี ซ่ึงเมือ่ ฝนื ใช้ก็จะเสยี ในทีส่ ุด โดยเฉพาะเมื่อถึงคราวฉุกเฉนิ ไมต่ ิดปา้ ย (Tag) ท่ีสวิทซ์บอกให้แนใ่ จว่ามผี ู้ปฏิบตั ิงานซอ่ มอยู่กับอปุ กรณ์นั้น ๆ ไม่ใช้แว่นเม่อื คิดว่าจะได้รับอันตรายจากการขาดของฟวิ ส์ ไม่ยกสวทิ ซไ์ ฟออกหรือไมส่ วมฉนวนป้องกนัเสียก่อนที่จะเข้าไปชว่ ยเหลอื ผู้ถกู ไฟฟ้าดดู ขณะทย่ี ังติดอยูท่ ่สี ายไฟ ไมย่ กสวทิ ซ์ออกก่อนทีจ่ ะทางานงา่ ย ๆ เกี่ยวกับไฟฟา้ เช่น เปลีย่ นหลอดไฟ และไมใ่ สก่ ญุ แจตวั สวทิ ซ์ หรอื ลอ็ กห้ามคนั สวิทซ์เสียกอ่ นที่จะทาการซอ่ มอปุ กรณ์ไฟฟ้า
๑.๕.๙ บันได (Ladders) อุบัติเหตทุ ่ีเกดิ เพราะการใชบ้ นั ไดอาจแบง่ ออกไดเ้ ปน็ ๔ อยา่ ง๑.บนั ไดชารุด เนือ่ งจากการใชบ้ ันไดมีอยูเ่ ป็นประจา ไมเ้ ป็นวัตถุท่ีเปลี่ยนคณุ สมบตั ไิ ด้งา่ ย บันไดจงึ มีการชารดุ ตา่ ง ๆ เชน่ ไม้ข้นั บนั ไดแตก ไม่ขัน้ บนั ไดหลวมหลุดจากร่อง ไม้ลกู ตงั้ ตวั บนั ไดแตกหรอื บิดงอ การชารุดเหล่านมี้ กั จะทาใหเ้ กดิ อุบตั ิเหตุไดข้ ณะใช้งาน บันไดท่ไี ม้ข้ันหลดุ หายไปบางซีม่ ักจะทาให้ผู้ใชบ้ ันไดตง้ั ไม่คงที่ และทาให้ไมล้ ูกต้ังอกี ข้างหน่งึ ต้องรบั แรงเคน้ มากขน้ ดว้ ย บนั ไดที่เหมาะกบั การใชง้ านจะต้องไดร้ ับการตรวจสอบอยูเ่ สมอและตรวจทกุ ครัง้ กอ่ นนาไปใช้ถ้าเหน็ ว่ามขี ้อบกพรอ่ งกไ็ มค่ วรฝืนนาไปใช้ บนั ไดท่ีขน้ั บันไดทาด้วยไม้ตอกดว้ ยตะปตู อ่ ๆ กันขน้ึ ไปไมป่ ลอดภยั ในการใช้ ไม้ข้ันบนั ไดอาจจะทรดุ เอียงไปทางด้านขา้ ง บันไดชารุดควรตดิ ปา้ ยให้ชัดเจนและควรคัดออกหรอื ทาลายเพื่อไมใ่ ห้ผูท้ ่ไี มร่ นู้ าไปใช้อีก๒.การวางบนั ไดไม่มั่นคง บางครง้ั ผปู้ ฏิบตั ิงานอาจจะวางบันไดผดิ มุม และวางชันไป เมื่อผูป้ ฏิบตั งิ านปีนข้ึนไปอาจจะหงายหลงั ลงมา ถา้ วางลาดไป บนั ไดอาจแตกชารุดเพราะรับแรงเค้นมากข้ึน ขาบันไดเปน็ เร่อื งที่ต้องใช้ความระมดั ระวงั เพราะมโี อกาสทจ่ี ะล่ืนไถลไดง้ ่าย การวางมุมบนั ไดผิด บางครั้งเกดิ จากการเลือกบนั ไดมาใช้พอเหมาะบางทียาวไป บางทสี ้นั ไปถ้าบันไดส้นั อาจจะไมม่ สี ว่ นเกนิ เพือ่ พาดกบั คานหรือขอบอาคารเวลาบันไดล่ืนมักจะไม่เล่ือนไปมากนักแตก่ ารแกว่งของบันไดอาจทาใหผ้ ้ใู ชต้ กลงมาได้ บันไดทวี่ างบนพ้ืนไม่เสมอมักจะลื่นไดง้ า่ ย การเสริมขาบันไดขา้ งหน่งึ โดยใช้วัตถุรองเพือ่ ให้เสมอกนั มอี ันตรายมากเช่นกนั ถ้าหากวตั ถทุ น่ี ามารองนัน้ ไม่ดีพอ ทางทีด่ ีควรจะใช้อุปกรณส์ าหรับยึดฐานบันไดใหเ้ หมาะกับการใช้งาน และควรจะผูกปลายบันไดตอนบนไว้ดว้ ย บนั ไดท่วี างไว้โดยฐานยื่นอยใู่ นเสน้ ทางการปฏิบัตงิ านอ่นื ๆ เช่น ยวดยานพาหนะหรอื คนเดินไปมา ซ่งึ ผู้ที่คอยยดึ บันไดท่ีฐาน นอกจากจะจับฐานบันไดให้มน่ั คงแลว้ ควรจะเตอื นผู้ทสี่ ญั จรไปมาไม่ใหเ้ ข้าใกล้บันได บนั ไดที่วางขา้ งทางเขา้ ออกไม่ว่าจะขา้ งในหรอื ขา้ งนอกจะปลอดภยั ถ้าหากปดิประตูใสก่ ญุ แจเสยี๓.ใชบ้ นั ไดไมถ่ กู วธิ ี มีข้อระมดั ระวงั ในการพงิ บนั ไดจะตอ้ งไม่หา่ งจากงานที่จะทาดา้ นขา้ งจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ขณะถอดหรือคลายนตั สกรู ท่อ ใชเ้ ชื่อกสาวเอาถงุ หรอื กะบะเครอ่ื งมอื ขน้ึ ไปดีกว่าถือไปดว้ ยมือขณะข้นึ บันได ถ้าวางบันไดชนั มากเกินไปกจ็ ะทาให้ผู้ปนี ลงรว่ งหลน่ ลงมาได้ ระยะท่พี ้ืนอยา่ งต่าสุด ๓ฟุต ๖ นว้ิ เปน็ ระยะท่จี ะใช้สาหรับจดุ ประสงค์น้ี การลงบันไดแบบแปลก ๆ เชน่ ปล่อยตวั ลืน่ ไหลลงมา
ใช้มือราไว้ หรอื หนั หลังให้บันไดขณะลงอาจจะทาให้ผู้นั้นตกลงมาได้ การปลอ่ ยเลื่อนไหลลงมายังเป็นอนั ตรายต่อมือซง่ึ อาจถูกเส้ยี นตาได้ การใช้บนั ไดทจี่ ะให้สะดวกและปลอดภยั ควรจะมีคนยนื จบั ฐานบันไดไว้ วิธีน้ีย่อมจะช่วยได้แมก้ รณีท่ใี ชบ้ นั ไดชนดิ มีฐานกนั ล่ืนซ่งึ ความจรงิ ไม่จาเปน็ แตถ่ า้ เป็นฐานชนดิ ทีไ่ มเ่ หมาะกับพ้ืนที่ปฏบิ ัตงิ าน กย็ อ่ มเปน็ เรือ่ งจาเปน็ เมื่อผ้ใู ช้บนั ไดปนี ข้ึนปลายสดุ ของบนั ไดแลว้ ก็ควรจะผูกยึดปลายบันไดไว้ เพอ่ื ผทู้ ่ยี ดึ ฐานบนั ไดจะได้มโี อกาสระวังยวดยานและผู้คนทผ่ี า่ นไปมาเบื้องลา่ ง การสวมรองเท้าชารุดก็อาจเปน็ สาเหตตุ กบันไดได้ เมือ่ รองเท้าขัดกบั ขัน้ บนั ได บันไดจะหักได้ถ้ารับน้าหนกั มากเกินไป คนท่ยี นื อย่บู นบันไดควรจะมีเพียงคนเดียวถา้ ไมจ่ าเปน็ ทจี่ ะต้องไปปฏบิ ตั ิงานพร้อมกนั สองคน บนั ไดอาจชารดุ เสียหายได้เมอ่ื เกบ็ ไวใ้ นพัสดุ เช่น ตากแดดตากฝน ได้รับความรอ้ นมากเกนิ ไปหรอื ไม่หาสง่ิ ใดมารองใหไ้ ดร้ ะดบั เม่ือวางตามแนวนอน๔.การยกเคลือ่ นยา้ ยบันไดไม่ถกู ต้อง เมอื่ ผปู้ ฏบิ ัตงิ านแบกบนั ได ก็มีปลายบนั ไดสองขา้ งท่ีผู้น้ันจะตอ้ งคอยระวงั ปลายดา้ นหนา้ อาจปะทะบุคคลอืน่ ทีม่ ุมอาคารซึ่งมองกันไมเ่ ห็น เว้นแตผ่ ู้แบกจะยกปลายบนั ไดเชดิ ข้นึ ปลายดา้ นหลังอาจจะแกวง่ ซา้ ยขวา และไปกระทบขาบุคคลอื่นได้ เพราะด้านหลังผ้แู บกไมอ่ าจจะระมดั ระวังได้ตลอดเวลา ผ้ทู ีแ่ บกบันไดควรกะเอาว่าขณะนปี้ ลายบนั ไดอยปู่ ระมาณตาแหน่งใดแต่ข้อสาคัญกค็ อืจะต้องระลกึ ถึงข้อนี้อย่เู สมอเมือ่ จะเลีย้ ว เม่ือจะตงั้ หรือลดบันไดถ้าผูป้ ฏิบัตงิ านที่ไม่เข้าใจกอ็ าจจะทาให้บนั ไดล้มลงมาได้ เนอื่ งจากบงั คบั ไมอ่ ยู่ ถา้ บนั ไดยาวมากควรใชว้ ิธเี อาเชอื กผกู ปลายบันไดแล้วโรยเชือกลงมา รถท่มี ีบันไดบรรทกุ ตดิ รถ ควรมีธงสีแดงตดิ ไว้ท้งั ดา้ นหน้าและดา้ นหลงั และจะตอ้ งกะระยะให้พอในขณะเล้ียว
การใช้บนั ได
คานา ความปลอดภัยในการปฏบิ ัตงิ าน ถอื เป็นส่งิ สาคญั และจาเปน็ ที่หน่วยงานตอ้ งให้ความสาคญัและนาไปปฏิบตั ิ เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุและการสูญเสียทัง้ ของตัวผปู้ ฏบิ ัตงิ านเองและทรพั ยส์ นิ ของหนว่ ยงานนัน้ ๆ ซ่ึงเปน็ หน้าที่ของทุกคนทต่ี อ้ งให้ความรว่ มมอื โดยการแต่งกายใหถ้ กู ตอ้ งรดั กมุ รวมมีท้ังความพร้อมของรา่ งกายและจติ ใจ และสภาพแวดล้อมบรเิ วณทีป่ ฏิบัติงานให้เปน็ ระเบียบรอ้ ย รวมไปถงึ การศึกษาวิธกี ารให้เครอื่ งมือและเคร่อื งจกั รกลที่ถูกวิธกี จ็ ะเป็นการลด ความเสี่ยงตอ่ การเกิดอบุ ตั เิ หตุลงได้ กลุม่ จัดองค์ความรฯู้
KM แผนกอปุ กรณ์สนับสนุน เร่ือง ความปลอดภยั ในการปฏิบัตงิ าน จัดทาโดยแผนก อุปกรณ์สนับสนนุ กอล.๓ อล.ทร.
ช่อื กลุม่ แผนกอุปกรณ์สนับสนนุรายชื่อสมาชกิ กลุ่ม๑. น.ต.สจุ รติ พุม่ โพธิ์ทอง ประธาน๒. ร.ต.อรรถสิทธิ์ ขาสวุ รรณ ผ้อู านวยการ๓. พ.จ.อ.พัฒนพงษ์ สอนหนูนอ้ ย สมาชกิ๔. พ.จ.อ.ชาตรี แพทยร์ กั ษา สมาชิก๕. พ.จ.ท.วินัย สมุ านสั สมาชิก๖. พ.จ.ท.วบิ ลู ย์ ชากลาง สมาชิก๗. พ.จ.ต.สมควร บางขนุ ทด สมาชิก๘. จ.อ.ชาย ศรีสุพรรณ์ สมาชิก๙. จ.อ.เอกรักษ์ พลายละหาร สมาชกิ๑๐. พ.จ.อ.รุ่ง เพิ่มกระโทก เลขาฯ
รปู กจิ กรรม KM แผนกอปุ กรณ์สนบั สนนุ
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: