เรื่องที่ 1 หลักการทํางานของเคร่ืองยนต โดยทว่ั ไปแลว เคร่อื งยนตส ามารถจาํ แนกออกได 3 ลักษณะ คือ 1. จําแนกโดยจงั หวะการทาํ งานของเครือ่ งยนต 2. จาํ แนกโดยชนิดของเชอ้ื เพลิงที่ใช 3. จาํ แนกตามลักษณะลูกสูบทใี่ ช ในท่นี ้ีจะไดก ลา วถงึ การจําแนกเครอื่ งยนตต ามจังหวะการทาํ งานของเครื่องยนต ซ่งึ สามารถแบงไดเปน 2 แบบคอื เครอ่ื งยนต 4 จังหวะ และเครอื่ งยนต 2 จงั หวะ แตโ ดยพืน้ ฐานการ ทํางานของเครื่องยนตทุกชนดิ จะตองมรี อบ (cycle) การทาํ งานท่ีเหมอื นกนั คือมรี อบการดูด อดั ระเบิด และคาย แตล ะรอบการทํางานของเครอ่ื งยนตแตล ะแบบอาจมคี วามแตกตางกนั ตามลักษณะ ของเคร่อื งยนต เชน จงั หวะดดู เคร่ืองยนตแ กสโซลนี 4 จังหวะจะดดู อากาศท่ีผสมกับนํ้ามนั เชอ้ื เพลงิ ผา นมาทางวาลว ไอดี เครอ่ื งยนตดีเซล 4 จงั หวะ จะดดู เอาเฉพาะอากาศเทา น้ันผานวาลว ไอดี เครือ่ งยนตแ กส โซลีน 2 จังหวะ จะดดู อากาศทผี่ สมน้ํามนั เชื้อเพลิงและนํ้ามนั หลอ ลน่ื ผา นลีด วาลว (Lead Valve) เขา ไปทางทอ ไอดี สังเกตวาเฉพาะจงั หวะดูดของเครื่องยนต 4 จงั หวะจะมีการ ไหลผานวาลว ในขณะทีเ่ ครอื่ งยนต 2 จังหวะจะไหลผา นทอทาง เพื่อความเขาใจในรอบการทาํ งานของเครือ่ งยนตแ ตล ะแบบ จะไดอ ธบิ ายการทํางานโดยให เขา ใจวา สวนประกอบขัน้ พน้ื ฐานของเครอื่ งยนตจ ะมีสว นประกอบหลักคอื ลกู สูบ กานสบู หองเผา ไม กระบอกสบู เพลาขอเหวย่ี ง แตลักษณะการจัดวางหรอื รปู แบบอาจแตกตา งกันไปตามลักษณะ ของเครอื่ งยนต 1. การทาํ งานของเคร่อื งยนต 4 จังหวะ (4 Stroke Engine) เครือ่ งยนต 4 จงั หวะทจ่ี ะไดอธิบายนจ้ี ะจําแนกออกตามชนดิ ของเชือ้ เพลงิ ท่ีใชดว ย คอื เครือ่ งยนตแกส โซลีน 4 จงั หวะ และเครอ่ื งยนตดเี ซล 4 จงั หวะ สาํ หรบั เครอื่ งยนตแกส โซลีน 4 จังหวะมีสว นประกอบทส่ี าํ คัญดงั นี้ 1. ลกู สูบ 2. หอ งเผาไหม และฝาสูบ 3. กระบอกสบู 4. วาลว ไอดี และวาลว ไอเสยี 5. หวั เทยี น สว นประกอบทง้ั 5 จะประกอบกนั ดงั แสดงในรปู ที่ 1วาลว ไอดี หวั เทยี นฝาสบู วาลวไอเสยีกระบอกสบู หอ งเผาไหม ลกู สูบ รปู ท่ี 1 สวนประกอบหลกั ของเคร่อื งยนตแ กส โซลีน 4 จงั หวะ
จังหวะการทํางานของเครือ่ งยนตแกส โซลีน 4 จังหวะ สามารถอธิบายตามจงั หวะดงั น้ีเรมิ่ ตนดวยจงั หวะดดู (Intake) ลกู สูบจะเคลื่อนที่ลง ออกจากตาํ แหนง ศูนยตายบน TDC วาลวไอดจี ะเปด ออก ในขณะทว่ี าลว ไอเสยี ปด ทาํ ใหส ว นผสมของอากาศและน้ํามนั เขา ไปในหองเผาไหมไ ด จนกระทวั่ ลกู สูบถงึ ตําแหนงศูนยต ายลา ง (BDC)จังหวะอัด (Compression) ลกู สูบจะเคลอื่ นทขี่ นึ้ จาก BDC และวาลว ไอดจี ะปด ทําใหสว นผสมของอากาศและนาํ้ มันทเี่ ขาไปในหอ งเผาไหมเกิดการอดัตวั และมีปริมาตรเลก็ ลงลูกสูบจะเคลอื่ นทขี่ ึ้นเพอ่ื อดั สว นผสมไปจนถงึ ตาํ แหนง ที่ตองการ (กอ นTDC) หวั เทยี นจะจุดประกายไฟจังหวะระเบดิ และจงั หวะกาํ ลัง เมอ่ื หวั เทยี นจดุ ประกายไฟ ทําใหเกิดการเผาไหมอยา งรุนแรงในหอ งเผาไหม เรียกวาการระเบดิ หลังจากตาํ แหนงนแ้ี ลวจะเกดิ การเผาไหมส วนผสมของนาํ้ มันเชอ้ื เพลิงกับอากาศ ทาํ ใหเ กิดการขยายตวั ของอากาศภายในหอ งเผาไหม ผลกั ลูกสูบใหเ ครอ่ื งทล่ี ง เรียกวาจงั หวะกําลงัจงั หวะคาย (Exhaust) เม่ือเกดิ การเผาไหมภ ายในหองเผาไหมแ ละเกิดการขยายตวั ของอากาศภายในผลักลกู สูบใหเลอ่ื นลงแลว ลูกสูบจะเคลอื่ นท่ีลงมาจนถึงตาํ แหนง BDC จากน้นั ลูกสูบจะเลือ่ นขึ้นในขณะทีว่ าลว ไอเสยี เปดวาลว ไอดีปด การเคล่อื นท่ขี ้นึ ของลูกสูบจะขับไลไอเสียใหอ อกไปจากหอ งเผาไหม จนกระทั่งลูกสูบเคลือ่ นทถี่ ึงตําแหนง TDC วาลว ไอเสียกําลงั จะปดและวาลว ไอดกี ําลงั จะเปด เพอื่ เริม่ ตน จังหวะดดู อกี ครัง้ หนึ่ง ตาํ แหนงนี้เรียกวาจังหวะ Overlap จากนัน้ วาลว ไอเสยี ปด และวาลว ไอดเี ปด เพ่อื เริ่มตนจังหวะดดู อีกครัง้
สาํ หรบั เครอ่ื งยนตด เี ซล 4 จังหวะ จะแทนทีห่ ัวเทยี นในเครอ่ื งยนตแกส โซลีน ดวยหวั ฉดีซึ่งทําหนา ทีใ่ นการฉีดนา้ํ มนั เชื้อเพลงิ เขาหอ งเผาไหมใ นชวงจังหวะอดั เนือ่ งจาก ไอดีของเครื่องยนตด ีเซลจะมีแตอากาศเทานัน้ ที่ถูกดดู เขา มา ดังนนั้ จงึ ตองมีอปุ กรณท ที่ าํ หนา ท่ีปอนนาํ้ มันเช้ือเพลงิ เขา หอ งเผาไหม ซ่งึ อุปกรณน ้นั ก็คอื หวั ฉดี (Injector) การทาํ งานจะเหมอื นกนั กบั เครือ่ งยนตแ กส โซลีน 4 จงั หวะ เพยี งแตจ งั หวะระเบดิ ของเคร่อื งยนตแ กส โซลีน 4 จังหวะ จะเกดิ ขนึ้ จากการจุดประกายไฟของหัวเทยี นใหเ กดิ การเผาไหม แตอยา งที่กลา วไปขางตนน้นั ไอดขี องเครื่องยนตด เี ซลจะมแี ตอ ากาศซ่งึ ปราศจากเชือ้ เพลิง ดังนน้ัจงั หวะระเบดิ ของเคร่อื งยนตดีเซล 4 จงั หวะ จะเกิดขึน้ จากการฉดี น้าํ มนั เชอ้ื เพลิงเขา ไปในหอ งเผาไหมใ นขณะทลี่ กู สูบกําลังเคลอ่ื นทถี่ งึ TDC (ปลายจงั หวะอดั ) ดังน้นั การเผาไหมข องเครอ่ื งยนตดีเซลจะเกดิ ขนึ้ ยาวนานกวา เครื่องยนตแ กส โซลนี เมื่อส้ินสุดจังหวะระเบดิ และจังหวะกําลงัเครอื่ งยนต ดีเซล 4 จงั หวะกจ็ ะเปน จังหวะคาย ซึง่ มีการทาํ งานเชนเดียวกับเครอ่ื งยนตแ กสโซลนี 4จงั หวะ และกจ็ ะเริม่ ตนจังหวะดูดในลาํ ดบั ถัดไปเชน กนั ดงั น้ัน เคร่อื งยนต 4 จงั หวะจะหมายถึง การทลี่ ูกสบู เลอ่ื นขึน้ ลงทงั้ หมด 4 คร้งั (2 รอบ) จึงครบรอบการทํางาน ดูด อัด ระเบิด กาํ ลัง และคาย หรอื หมุน 2 รอบไดกําลังงาน 1 ครง้ั
2. การทํางานของเคร่ืองยนต 2 จงั หวะ (2 Stroke Engine) เครอ่ื งยนต 2 จงั หวะทจ่ี ะไดอ ธบิ ายนีส้ ามารถจาํ แนกออกตามชนิดของเช้อื เพลงิ ท่ีใชไดดว ย เชน กนั คอื เครอ่ื งยนตแกสโซลนี 2 จังหวะ และเครอ่ื งยนตด ีเซล 2 จังหวะ ซง่ึ จะมชี วงจังหวะระเบดิ เชนเดยี วกนั กบั เครอื่ งยนต 4 จงั หวะ คอื เครอ่ื งยนตแ กส โซลนี อาศัยประกายไฟจากหวั เทยี น เคร่ืองยนตด เี ซลจะใชการฉดี เชอื้ เพลิงเขาไปในหอ งเผาไหมโดยหวั ฉดี ดงั น้นั ในท่ีนจี้ ะไดอ ธบิ าย เฉพาะสว นทเ่ี คร่อื งยนต 2 จงั หวะ แตกตา งจากเคร่อื งยนต 4 จงั หวะ สําหรับเคร่อื งยนต 2 จงั หวะมสี ว นประกอบที่สําคญั ดังน้ี 1. ลูกสบู 2. หอ งเผาไหม และฝาสบู 3. กระบอกสบู 4. ทอ ทางไอดีและทอทางไอเสยี 5. หัวเทยี นหรือหัวฉดี สังเกตวา สวนประกอบทแ่ี ตกตา งกันชดั เจนคอื เครือ่ งยนต 4 จงั หวะจะมวี าลว ในขณะทเ่ี ครื่องยนต 2 จังหวะไมม ี แตจ ะมที อ ทางแทน ดังแสดงในรูปท่ี 2ฝาสบู หวั เทยี นกระบอกสบู หองเผาไหมทอไอเสยี ลกู สูบ ทอไอดี รปู ที่ 2 สวนประกอบหลักของเคร่ืองยนตแ กสโซลนี 2 จงั หวะ จงั หวะการทํางานของเคร่ืองยนต 2 จังหวะ จะมีจงั หวะการทํางานทไี่ มต า งจากเคร่ืองยนต 4 จังหวะ คอื มจี ังหวะ ดดู อดั ระเบดิ กาํ ลงั และคาย เชน กัน เพยี งแตใ นแตละชว งจังหวะนน้ั จะเกดิ ขึน้ พรอ ม กนั ดังน้ี จังหวะท่ี 1 ขณะทล่ี กู สบู เลอื่ นขน้ึ ดานบนหัวลูกสบู จะมีการอัดอากาศท่ีผสมนาํ้ มันเชอื้ เพลิงและ นา้ํ มันเครอ่ื งใหมีอณุ หภูมิทส่ี งู ขน้ึ ในขณะเดียวกัน ดา นลา งของลกู สูบจะทําการดดู เอาสว นผสมของ
ไอดี (อากาศ น้าํ มันเชอื้ เพลงิ และนาํ้ มันหลอล่นื ) เขามาเกบ็ ไวใ นหองเพลาขอ เหวยี่ ง (Crankcase)ดงั นัน้ ในจงั หวะน้ีจะมชี ว งของการ ดูด และอดั ไปพรอมกนั จงั หวะท่ี 2 ขณะที่ลกู สูบเคลื่อนทก่ี อนถงึ TDC หัวเทยี นจะจดุ ระเบดิ ใหเกดิ การเผาไหมใ นหอ งเผาไหม ซงึ่ จะไดเปน จงั หวะระเบดิ และกําลัง ลูกสบู จะถูกผลกั ใหเ คลอ่ื นท่ลี งจนกระท่ังดานบนของลูกสบู เปด ทอทางไอเสยี ไอเสยี จะไหลออกจากหองเผาไหมไปเอง เมือ่ ลูกสูบเลอื่ นลงมาจนกระทั่งกอ นถงึ BDC ลกู สูบจะเปด ทอ ทางไอดี ทําใหไ อดีไหลเขา ไปในหอ งเผาไหม และในขณะเดียวกนั กข็ ับไลไอเสียออกจากหอ งเผาไหมด วย จงั หวะน้ีเรยี กวา จังหวะ Scavenging สังเกตไดว าสาํ หรับเคร่อื งยนต 2 จังหวะนี้ ลกู สูบจะมีการเคล่ือนทข่ี นึ้ -ลงเพยี งแครอบเดียว(ขึ้น 1 คร้ัง และลง 1 ครัง้ ) ทาํ ใหไ ดจ งั หวะกาํ ลงั 1 คร้งั ซ่ึงจะมีจังหวะการทํางานท่เี ร็วกวาเคร่ืองยนต 4 จงั หวะ ทําใหร อบการทํางานของเครอ่ื งยนต 2 จงั หวะมคี วามเร็วรอบทสี่ ูงกวา3. การทํางานของเครอ่ื งยนตโ รตารี (Rotary Engine)เคร่ืองยนตโรตาร่ี มลี ักษณะการเผาไหมแ บบเดยี วกันเครื่องยนต 2 จังหวะ และ 4 จังหวะ คือมกี ารทาํ งานในชว ง ดดู อัด ระเบิด และ คาย เชน กนั แตว ามันมีความแตกตา งในรูปรางของลูกสบู ที่ใชดังแสดงในรูปท่ี 3 และเสอ้ื สูบดงั แสดงในรปู ที่ 4 รูปท่ี 3 ลูกสบู ของเครอ่ื งยนตโรตารแี ละสวนประกอบ
รปู ท่ี 4 เสอ้ื สูบของเครือ่ งยนตโรตารแ่ี ละสวนประกอบ รูปที่ 5 แสดงลักษณะของเครอื่ งยนตโรตารี
สําหรบั จงั หวะการทํางานของเครอ่ื งยนตโรตารี ในทน่ี ล้ี ูกสูบของเครอ่ื งยนตโ รตารีจะเริม่ ตน การทาํ งานทีจ่ ังหวะดดู โดยลกู สูบจะหมนุ ตามเข็มนาฬิกาไปเร่อื ยๆ จนกระทัง่ หมุนครบรอบสามารถอธบิ ายตามลาํ ดบั ดังน้ีทอ ไอดี จงั หวะดดู หัวเทยี นทอไอเสยี หองเผาไหม เสือ้ สบู ลูกสบูจงั หวะเรม่ิ ตน จะเริ่มดว ยจงั หวะดดู สว นผสมของไอดจี ะไหลเขามาตามทอ ไอดีเขา จนกระทงั่ลูกสบู หมนุ ปด ทอไอดี จะเรม่ิ เปน จงั หวะอดั เมอื่ ทอ ทางไอดถี กู ปด จะเรม่ิ ตน จังหวะอัด ซึ่งลกู สบู จะหมนุ ไป เรอื่ ยๆ จนกระท่งั ปรมิ าตรของ หองเผาไหมม ขี นาดเลก็ ลง และ อุณหภมู ิภายในมีคามากพอ หัว เทยี นจะจดุ ประกายไฟ ในจังหวะทห่ี วั เทียนจดุ ระเบดิ จะเกดิ การเผาไหมภายในหองเผาดูด ไหม หวั เทยี นจดุ ระเบดิ ในขณะเดยี วกนั กับหอ งเผาไหมท ่เี หลอื จะเปน จงั หวะดูด และคาย จังหวะคาย เมอ่ื ลูกสบู หมุนไป หอ ง ท่ีพ่งึ เกิดการเผาไหม เช้อื เพลิงกจ็ ะเขาสู จงั หวะกําลงั
จงั หวะสุดทายคอื จังหวะคาย หลังจากจงั หวะกาํ ลังดูด ระเบิด ลูกสูบจะหมนุ มาเปดทอ ไอเสยี ทาํ ใหเ กดิ การขบั ไล ไอเสยี ในขณะที่หอ งเผาไหมอ กี 2 หอ งเปน จงั หวะ ดูดและ ระเบิด สังเกตวา การหมุนครบ 1 รอบของเครื่องยนตโรตารนี น้ั จะใหจ งั หวะกําลงั ถงึ 3 ครง้ั ดังนั้นเครื่องยนตโรตารี จงึ สามารถใหกาํ ลงั กบั เคร่อื งยนตไ ดอยา งตอเนื่องมากกวา เครือ่ งยนต 4 จงั หวะและ เคร่อื งยนต 2 จงั หวะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: