รายวิชาสงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส16101 ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เรอ่ื ง ศาสนพธิ ีน่ารู้ นางสาวนาฏยา อินพานิช รหัสนิสิต 6401302120 นักศกึ ษาฝึก ประสบการณ์สอน หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวชิ าชพี ครู มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั โดยมี คณุ ครูสาคร สหี าบตุ ร เปน็ คณุ ครูพเี่ ลย้ี ง
มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชวี้ ดั ส 1.2 เข้าใจตระหนกั และปฏบิ ตั ิตนเป็นศาสนกิ ชนที่ดี และธารงรักษาพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาที่ตนนบั ถอื ป.6/3 อธิบายประโยชน์ของการเข้าร่วมในศาสนพิธี พธิ กี รรมและกจิ กรรมในวันสาคญั ทางศาสนาตามที่ กาหนดและปฏิบตั ติ นไดถ้ ูกตอ้ ง
พิธกี รรมสาคญั ของพระพุทธศาสนา พทุ ธศาสนพธิ ี คือ พิธีกรรมทางพระพทุ ธศาสนาทีป่ ฏิบตั สิ บื ทอดกันมา การอาราธนา คือการกล่าวเช้อื เชิญให้พระภกิ ษุสงฆ์ ในพิธใี ห้ศีล สวดพระปริตรหรือแสดงธรรมซึง่ เป็นธรรมเนียมปฏบิ ตั ดิ ้ังเดมิ ท่ี พระสงฆ์จะตอ้ งอาราธนาศลี กอ่ นจงึ จะประกอบพธิ นี ้ันๆ การอาราธนาทีถ่ ือเปน็ ธรรมเนยี มมาแบ่งได้เปน็ 3 กรณี ดงั นี้ 1.การอาราธนาศีล 2.การอาราธนาธรรม 3.การอาราธนาพระปรติ ร
พธิ ีกรรมสาคัญของพระพทุ ธศาสนา 1.คาอาราธนาศีล ๕ มะยงั ภนั เต วิสงุ วสิ ุง รักขะนตั ถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สลี านิยาจามะ ทตุ ิยัมปิ มะยังภันเต วสิ งุ วิสุง รักขะนตั ถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สลี านยิ าจามะ ตะติยัมปิ มะยงั ภนั เต วิสงุ วสิ งุ รกั ขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปญั จะ สลี านิยาจามะ การอาราธนาศลี หมายถงึ การกล่าว เชือ้ เชญิ เพื่อ ให้พระสงฆ์ให้ศลี
พธิ ีกรรมสาคัญของพระพุทธศาสนา 2. คาอาราธนาธรรม พรหั มาจะ โลกาธิปะตี สะหัมปะติ กตั อญั ชะลี อนั ธิวะรงั อะยาจะถะ สนั ตธี ะสตั ตาปปะระชักขะชาติกา เทเสตุ ธมั มัง อะนุกมั ปิมัง ปะชงั การอาราธนาธรรม หมายถงึ การกล่าวเช้อื เชิญใหพ้ ระสงฆ์ แสดงธรรมในโอกาสต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน หรือสวดหน้าศพ
พธิ กี รรมสาคัญของพระพทุ ธศาสนา 3. คาอาราธนาพระปริตร วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปตั ตสิ ทิ ธยิ า สัพพะทกุ ขะวนิ าสายะ ปริตตงั พรถู ะ มงั คะลัง วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปตั ติสิทธยิ า สพั พะภะยะวนิ าสายะ ปรติ ตัง พรถู ะ มังคะลงั วปิ ตั ติปะฏิพาหายะ สัพพะสมั ปตั ติสทิ ธยิ า สัพพะโรคะวิสาสายะ ปรติ ตัง พรถู ะ มังคะลงั การอาราธนาพระปริตร หมายถึงการกลา่ ว เพ่ือ เชื้อเชญิ พระสงฆ์สวดพระปริตร อันเป็นมงคล เพอ่ื ปอ้ งกันความวิบตั ิ เพ่ือความสาเร็จ ในสมบัติท้งั ปวง และเพ่อื ให้ทกุ ข์ทง้ั ปวงพนิ าศไป เพอ่ื ให้ภยั ทงั้ ปวงพินาศไป เพอ่ื ใหโ้ รคทั้งปวงพินาศไป
พธิ ีกรรมสาคญั ของพระพุทธศาสนา 2. การบวช สมเดจ็ พระสัมมาสมั พทุ ธเจ้า ไดท้ รงบัญญตั กิ ฎข้อบงั คบั สาหรบั การบวชไว้ 2 ลกั ษณะ 1. การบรรพชา สามเณร รกั ษาศลี 10 ขอ้ หมายถึง การบวชเป็นสามเณร ผทู้ ีจ่ ะบวช ต้องมอี ายุต้งั แต่ 7 ปีขึน้ ไป เมือ่ เข้าบรรพชาแลว้ ต้องประพฤติ ปฏิบตั ิ ตามพระธรรมวินยั อยา่ งเคร่งครดั
พธิ กี รรมสาคัญของพระพทุ ธศาสนา 2. การบวช 2. การอปุ สมบท พระภิกษุ รกั ษาศลี 227 ขอ้ หมายถงึ การบวชเป็นพระภกิ ษุสงฆ์ ผู้ที่จะบวชตอ้ งมีอายุต้งั แต่ 20 ปขี ึ้นไป เมื่อเขา้ อปุ สมบทแล้วตอ้ งประพฤติ ปฏบิ ัตติ ามพระธรรมวนิ ัยอยา่ งเครง่ ครัด
พิธกี รรมสาคญั ของพระพุทธศาสนา ขน้ั ตอนการขอบวชสาหรบั ผู้ที่ ประโยชน์ของการบวช ประสงค์อยากบวช มดี งั นี้ 1. ชว่ ยรักษาประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย 1.บิดา มารดา ผปู้ กครอง นาผ้บู วชไปพบเจ้า 2. เปน็ การตอบแทนพระคุณบิดามารดา อาวาส เพือ่ แจ้งความประสงค์ 3. เปน็ การสืบทอดพระพุทธศาสนา 2. เจ้าอาวาสจะมอบให้พระอุปชั ฌาย์พจิ ารณา 4. เปน็ การสร้างกศุ ลตามความเชอื่ คณุ สมบัตขิ องผู้บวช 5. ทาให้ผู้ที่บวชในพระพทุ ธศาสนาไดเ้ รยี นรพู้ ระธรรม 3. ผู้ขอบวช หรอื นาค ตอ้ งฝึกทอ่ งคาขอบวช วนิ ัย ได้ฝกึ ตนเอง หรอื เรยี กว่า ขานนาค ใหม้ คี วามอดทน สารวมท้งั กาย วาจาและใจ ใหอ้ ยู่ใน 4.บิดา มารดา ผปู้ กครอง จดั เตรยี มหาเครอ่ื ง ระเบียบวินยั อันดีงาม บวช 6. นาข้อคดิ คตเิ ตอื นใจไปปรบั ใช้ในการดาเนนิ ชวี ติ 5. เม่อื ถึงวันบวชนาคตอ้ งปลง ผม โกนค้วิ แตง่ ชุดขาว แล้วเข้าพธิ บี วชในโบสถ์
พธิ ีกรรมสาคัญของพระพทุ ธศาสนา 3. พิธีทอดผ้าป่า ผา้ ปา่ ในสมยั พุทธกาลเรยี กวา่ ผา้ บังสกุ ุลจวี ร เป็นผ้าเปอื้ นฝ่นุ ท่ีไม่มเี จา้ ของ เปน็ ผ้าทอี่ ยู่ตามปา่ ดงปา่ ชา้ กองขยะ พระภิกษุเกบ็ เอามาเย็บตอ่ กนั ได้นาไปซัก แลว้ นามายอ้ มดว้ ยนา้ ฝาดทาเป็นผา้ หม่ เรียกว่า ผ้าบงั สุกลุ จีวร ในสมัยพุทธกาลพระพุทธองค์ อนญุ าตใหพ้ ระสงฆ์ใชผ้ ้าบงั สุกลุ เทา่ น้ัน ตอ่ มาหมอชีวกโกมารภจั จ์ ได้ขออนุญาตตอ่ พระพุทธเจา้ ใหพ้ ระภกิ ษุรบั ผา้ จีวร ชาวบ้านนามาถวายได้
พธิ ีกรรมสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา 3. พิธที อดผา้ ปา่ ในปจั จบุ นั การทอดผ้าปา่ สามารถทอดไดต้ ลอดปี ตามความสะดวก การทอดผ้าป่ามหี ลายรูปแบบ เชน่ ผา้ ป่าสามคั คี ผ้าปา่ หางกฐนิ
พธิ ีกรรมสาคญั ของพระพุทธศาสนา 3. พธิ ที อดผ้าป่า ขั้นตอนการถวายผา้ ป่า ปฏิบตั ดิ ังน้ี 1. จดั กองผ้าป่าวางไวใ้ นทีท่ ีเ่ หมาะสม 2. นมิ นตพ์ ระภกิ ษสุ งฆ์ 1 รปู ขน้ึ ไปมาทาพิธี 3. ทายกนากลา่ วคาบูชาพระรตั นตรัย คานมัสการพระรัตนตรยั และอาราธนาศลี 4. พระภิกษสุ งฆ์ให้ศลี 5. ผู้ร่วมพิธสี มาทานศลี 6. ทายากลา่ วคาถวายผ้าป่า 7. พระภิกษชุ ักผ้าป่าและสวดมนตอ์ นโุ มทนา 8. ประธานนพิ ธิ ีกรวดนา้ และรับพร ถือว่าเสร็จพธิ ี
พธิ กี รรมสาคัญของพระพทุ ธศาสนา คาถวายผา้ ปา่ อมิ านิ มะยัง ภันเต ปังสุกูละจวี ะรานิ สะปะริวารานิ ภิกขสุ งั ฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธโุ น ภนั เต ภิกขสุ งั โฆ อมิ านิ ปังสกุ ลู ะจีวะรานิ สะปะริวารานิ ปะฏคิ คัณหาตุ อัมหากัง ทฆี ารตั ตงั หิตายะ สขุ ายะ ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจรญิ ขา้ พเจา้ ท้ังหลายขอน้อมถวายผ้าบงั สุกุล จวี ร กับท้งั บรวิ าร เหลา่ น้ี แก่พระภษิ สุ งฆ์ ขอพระภษิ สุ งฆจ์ งรบั ผ้าบงั สุกุล จวี ร กบั ทั้งบรวิ ารเหลา่ น้ขี อง ข้าพเจ้าท้งั หลาย เพอ่ื ประโยชนแ์ ละความสขุ แก่ข้าพเจา้ ทั้งหลายส้นิ กาลนานเทอญ
พิธีกรรมสาคญั ของพระพุทธศาสนา 4. พิธีทอดกฐนิ คาว่า กฐนิ แปลวา่ กรอบไม้หรือสะดึง สาหรับขึงผา้ เยบ็ จวี รของผ้าภกิ ษุ เพราะในสมยั พทุ ธกาลพระภิกษตุ อ้ งตัดเย็บเป็นจวี รนุ่งห่มเอง ไมม่ สี าเร็จรปู เหมอื น ปจั จุบนั กฐนิ มี 2 ลักษณะ คอื จลุ กฐิน เปน็ กฐนิ ที่ต้องทาทุกอย่างให้แลว้ เสร็จภายใน 1วนั มหากฐนิ คอื กฐินท่ีมีปัจจัยไทยธรรมมากใชเ้ วลาเตรยี มการหลายวัน
พิธีกรรมสาคญั ของพระพุทธศาสนา ขน้ั ตอนการทอดกฐนิ ปฏบิ ัตดิ ังนี้ 1. จองกฐนิ วัดราษฎร์วดั ใดวดั หนึง่ ท่ีต้องการทอด โดยไปแจง้ ความประสงคก์ ับทางวัด 2. เตรยี มผ้ากฐนิ และเครื่องบริขาร เช่น จวี ร สังฆาฏิ บาตร หมอน มงุ้ เส่อื เป็นต้น 3. จดั องค์กฐนิ ก่อนถงึ วันทอดกฐิน 1 วนั เจา้ ภาพจะตัง้ องค์กฐินและเชญิ แขกมารว่ มงาน 4. ถวายกฐิน โดยเจา้ ภาพนาเครอ่ื งกฐินและเคร่อื งบริขาร ไปไวท้ ี่โบสถห์ รือท่ีศาลาการเปรยี ญ มขี ั้นตอนคอื - ประธานของงานจดุ ธูปเทยี นบูชาพระรตั นตรัย - ทายกกลา่ วอาราธนาศีลและ ประธานผรู้ ่วมงานสมาทานศีล - ประธานของงานกลา่ วนมสั การพระพุทธเจ้าสามจบ และกล่าวคาถวายผ้ากฐิน - ประธานประเคนผา้ กฐินแก่พระสงฆ์ลาดับท่ี 2 - ประธานสงฆก์ ลา่ วอนุโมทนา ประธานในพธิ ีกรวดน้าเพ่อื อทุ ิศสว่ นกุศล ถือว่าเสรจ็ พธิ ี
พธิ กี รรมสาคัญของพระพทุ ธศาสนา บทนมัสการพระพทุ ธเจา้ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธสั สะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพทุ ธสั สะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สมั มาสัมพทุ ธสั สะ
พธิ ีกรรมสาคัญของพระพทุ ธศาสนา คาถวายผา้ กฐิน อิมงั ภนั เต, สะปะริวารัง, กะฐนิ ะจีวะระทสุ สัง, สังฆสั สะ, โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภนั เต, สงั โฆ, อิมัง, สะปะริวารัง, กะฐินะ- ทุสสัง, ปะฏิคคัณหาตุ, ปะฏคิ คะเหตวา จะ, อมิ ินา ทุสเสนะ, กะฐนิ ัง, อตั ถะระตุ, อมั หากงั , ทีฆะรตั ตงั , หติ ายะ, สขุ ายะ, ขา้ แต่พระสงฆผ์ ู้เจรญิ ข้าพเจ้าทัง้ หลาย ขอน้อมถวาย ผ้ากฐินจวี รกบั ทั้งบริวารนี้ แกพ่ ระสงฆ์ ของพระสงฆจ์ งรบั ผา้ กฐิน กับทง้ั บรวิ ารนี้ ของขา้ พเจา้ ทั้งหลาย รับแลว้ จงกราบกฐนิ ด้วยผา้ นี้ เพ่ือประโยชนแ์ ละความสุขแกข่ ้าพเจา้ ทง้ั หลายสน้ิ กาลนานเทอญ
พิธกี รรมสาคญั ของพระพุทธศาสนา 5. งานอวมงคล พธิ ีทาบุญงานอวมงคล หมายถึง การทาบุญเพื่อกลับสิ่งชัว่ รา้ ย ใหก้ ลายเป็นดี และเพ่อื ให้เกิดความเปน็ สิรมิ งคล
พธิ ีกรรมสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา 5งานอวมงคล 1. งานอวมงคล เชน่ งานศพ งานทาบุญกระดกู ของคนตาย การตั้งศพ หรือตง้ั อฐั ิ ไม่ควรจัดตัง้ รวมกับทีต่ ง้ั พระพทุ ธรปู บชู า 2. งานอวมงคล จะไมน่ ิยมวงสายสิญจน์ ไมต่ อ้ งตั้งขนั นา้ มนต์มีแต่ภูษาโยงหรอื สายสิญจน์ แทน โดยโยงจากศพหรอื อัฐิ มาใหพ้ ระสงฆ์พิจารณาทอดผ้าบังสุกุล 3. อาราธนาศลี และรบั ศลี ไม่มอี าราธนาพระปรติ ร พระสงฆ์สวดพทุ ธมนตจ์ บให้ทอดสาย ภูษาโยงตอ่ หน้าพระสงฆ์ 4. พระสงฆ์พิจารณาชกั ผ้าบังสุกลุ จากน้นั ม้วยภูษาโยงหรอื สายสญิ จนก์ ลบั เสรจ็ พธิ ี
การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ คอื การประกาศตนวา่ ยอมรบั นบั ถอื พระพทุ ธศาสนา ยอมรบั พระพุทธ พระธรรมพระสงฆ์
ขอแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ เอเต(ชาย) เอตา (หญงิ ) มะยงั ภันเต สจุ ริ ะปะรนิ พิ พุตัมปิ ตังภะคะวนั ตัง สะระณัง คจั ฉามะ ธัมมัญจะ สงั ฆญั จะ พุทธะมามะกาติ (ชาย) พุทธะมามกิ าติ (หญิง)โน สังโฆ ธาเรต.ุ คาแปล ข้าแตพ่ ระสงฆผ์ ้เู จรญิ ข้าพเจา้ ทงั้ หลายขอถงึ พระผู้ มีพระภาคเจา้ พระองคน์ ั้น แม้ปรนิ ิพพานแลว้ ทงั้ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็ นสรณะ ทร่ี ะลกึ นับถอื ขอพระสงฆจ์ งรับ ขา้ พเจา้ ทง้ั หลายไวเ้ ป็ นพุทธมามะกะดว้ ยเถดิ
หน้าท่ขี องพทุ ธมามกะ 1. ศกึ ษาหลักธรรม 2. ฟังธรรมเม่อื มโี อกาส 3. สนทนาแลกเปลย่ี นความรู้เร่อื งธรรมะกับผู้รู้ 4. ทาบุญตกั บาตร 5. ไหวพ้ ระสวดมนต์ 6. รกั ษาศีล ๕ เสมอ โดยรวมทก่ี ล่าวมาหมายถงึ การปฏบิ ัตติ ามหลกั ธรรม
ศาสนพธิ ีของศาสนาอนื่ ๆ ศาสนาคริสต์ มีศีลศกั ด์ิสิทธ์ิ เป็นเคร่ืองหมายท่ีพระเยซูต้งั ข้ึนเพ่ือเป็น เคร่ืองมือช่วยใหค้ นหลุดพน้ จากความทุกข์ มี ดงั น้ี 1.ศีลล้าง 2. พิธีศีล 3. พธิ ีศีล 4. พธิ ศี ีล บาป กาลัง แก้บาป มหาสนิท
ศาสนพธิ ีศาสนาคริสต์ พธิ ีศีลเจมิ คนไข้ พธิ ีศลี บวช หรือศีลอนุกรม พธิ ศี ลี สมรส
ศาสนพิธขี องศาสนาอิสลาม ศาสนาอสิ ลาม เป็นศาสนาทีไ่ มม่ ีนกั บวชเป็นผู้ประกอบพิธกี รรม ชาวมุสลิมทุกคนเปน็ ทงั้ ฆราวาสและเปน็ นกั บวชอยู่ในคน ๆ เดียวกัน การละหมาด การถอื ศีลอด การบาเพญ็ ฮจั ญ์
ศาสนพธิ ีของศาสนาพราหมณ์ ฮินดู พธิ ีศราทธ์ พิธีบชู าเทวดา พิธีสังสการ เช่น พธิ ีฉลองทารกเมอื่ แรกทานอาหารแข็งได้
ศาสนพธิ ขี องศาสนาสขิ ์ ศาสนพธิ ีของศาสนาสิข์ มี พธิ กี รรมสาคัญ ที่ชาวซกิ ข์ทกุ คนควรประพฤติปฏิบัติ มดี งั น้ี 1. พธิ สี งั คัต 2. พธิ ีรบั นา้ อมฤต หรือ อมฤตสังสการ 3. พธิ ปี าหลุ
ฝากใหน้ กั เรียนทบทวนบทเรยี นในหนังสอื เรียนและตาม คลิปวดี ีโอ ภาระงานวนั น้ีทาแบบสอบหลงั เรียนนะค่ะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: