Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชาจริยธรรมและกฎหมายคอมพิวเตอร์

วิชาจริยธรรมและกฎหมายคอมพิวเตอร์

Published by Guset User, 2022-06-21 08:04:43

Description: วิชาจริยธรรมและกฎหมายคอมพิวเตอร์

Search

Read the Text Version

คำนำ วชิ าจริยธรรมและกฎหมายคอมพิวเตอร์ รหสั วชิ า 20204-2009 สงั คมสารสนเทศเป็นสังคมใหม่ เพอื่ ใหก้ ารอยรู่ ่วมกนั ของคนในสังคมเป็นไปโดยสนั ติและสงบสุขเอ้ือประโยชน์ซ่ึงกนั และกนั จึงตอ้ งมี กฎเกณฑท์ ี่มากาหนดควบคุมเพอื่ ใหส้ งั คมดงั กล่าวใหม้ ีความสงบเรียบร้อย ในปัจจุบนั เครือขา่ ยอินเทอร์เน็ต ไดเ้ ขา้ มามีบทบาท ในชีวติ ประจาวนั มีการใชค้ อมพิวเตอร์ และระบบสื่อสารกนั มากขณะเดียวกนั กม็ ีผใู้ ช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศในทางท่ีไม่ถูกไม่ควรดงั น้นั จึงจาเป็นตอ้ งมีกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ บงั คบั ควบคุมการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ และเมื่อมีกฎหมายออกมาบงั คบั ใชแ้ ลว้ ผใู้ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศจะปฏิเสธวา่ ไมร่ ู้กฎหมาไมไ่ ด้ บริษทั สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั

สารบญั จริยธรรมและกฎหมายคอมพวิ เตอร์ หนา้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 จริยธรรมในคอมพวิ เตอร์ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 บญั ญตั ิ 10 ประการ ของผใู้ ชค้ อมพวิ เตอร์ 4 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 กฎหมายและจริยธรรมทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 กฎหมายเก่ียวกบั ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 8 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 กฎหมายเกี่ยวกบั ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ 11 บรรณานุกรม 14

แผนผงั จริยธรรมและกฎหมำย คอมพวิ เตอร์ หนังสือ ปก คานา สารบญั เน้ือหา บรรณานุกรม ช่ือวชิ า เน้ือความ เน้ือความ เน้ือหา อา้ งอิง รหสั วชิ า สานกั พิมพ์ รูปภาพ เวบ็ ไซต์ ประเภทของ สารบญั

1 หน่วยที่ 1 จริยธรรมในคอมพวิ เตอร์ สำระสำคญั สังคมสารสนเทศเป็นสงั คมใหม่ เพอ่ื ใหก้ ารอยรู่ ่วมกนั ของคนในสงั คมเป็นไปโดยสนั ติและสงบสุข เอ้ือประโยชน์ซ่ึงกนั และกนั จึงตอ้ งมีกฎเกณฑท์ ่ีมากาหนดควบคุมเพอ่ื ใหส้ ังคมดงั กล่าวใหม้ ีความสงบ เรียบร้อยในปัจจุบนั เครือข่ายอินเทอร์เน็ตไดเ้ ขา้ มามีบทบาทในชีวติ ประจาวนั มีการใชค้ อมพิวเตอร์ และ ระบบสื่อสารกนั มากขณะเดียวกนั กม็ ีผใู้ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ในทางท่ีไม่ถูกไมค่ วรดงั น้นั จึงจาเป็นตอ้ งมี กฎหมายเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชบ้ งั คบั ควบคุมการใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศ และเมื่อมีกฎหมายออกมาบงั คบั ใช้ แลว้ ผใู้ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศจะปฏิเสธวา่ ไม่รู้กฎหมาย ไม่ได้ สมรรถนะประจำหน่วย 1. เรียนรู้ในเร่ืองจริยธรรมและกฎหมายคอมพวิ เตอร์ 2. นาหลกั จริยธรรมมาประยคุ ในชีวติ ประจาวนั จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบายจริยธรรมและกฎหมายคอมพิวเตอร์ได้ (ด้านความรู้) 2. สรุปประโยชนข์ องจริยธรรมและกฎหมายคอมพวิ เตอร์ (ด้านทักษะ) 3. เรียนรู้การนา จริยธรรมมาประยคุ ใชก้ บั การทางานคอมพวิ เตอร์ (ด้านเจตคติ) 4 เพ่ือมีจิตสานึกท่ีดีเก่ียวกบั สงั คม (ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง) จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม อธิบายจริยธรรมและกฎหมายคอมพวิ เตอร์ได้ (ดา้ นความรู้) อธิบายแนวคิดหลกั จริยธรรมและกฎหมายคอมพวิ เตอร์ได้ (ดา้ นความรู้) สรุปประโยชนข์ องหลกั จริยธรรมและกฎหมายคอมพิวเตอร์ได้ (ดา้ นทกั ษะ) กฎหมำย จริยธรรม และควำมปลอดภัยในกำรใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศ 1. พระรำชบัญญตั วิ ่ำด้วยกำรกระทำผดิ เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2550 พระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยการกระทาผดิ เกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ประกอบดว้ ยมาตรา ต่างๆ รวมท้งั สิ้น 30 มาตรา

2 1.1 ส่วนทวั่ ไป บทบญั ญตั ิในส่วนทวั่ ไปประกอบดว้ ย มาตรา 1 ชื่อกฎหมาย มาตรา 2 วนั บงั คบั ใชก้ ฎหมาย มาตรา 3 คานิยาม และมาตรา 4 ผรู้ ักษาการ 1.2 หมวด 1 บทบญั ญตั ิความผดิ เก่ียวกบั คอมพวิ เตอร์มีท้งั สิ้น 13 มาตรา ต้งั แตม่ าตรา 5 ถึง มาตรา 17 สาระสาคญั ของหมวดน้ีวา่ ดว้ ยฐานความผดิ อนั เป็ นผลจากการกระทาที่กระทบตอ่ ความมนั่ คงปลอดภยั ของระบบสารสนเทศโดยเป็นการกระทาความผดิ ท่ีกระทบตอ่ การรักษา ความลบั (Confidentiality) ความครบถว้ นและความถูกตอ้ ง (Integrity)และความพร้อมใชง้ าน (Availability)ของระบบคอมพิวเตอร์ซ่ึงเป็นความผดิ ที่ไม่สามารถยอมความไดย้ กเวน้ มาตรา 16 ซ่ึงเป็นความผดิ เกี่ยวกบั การตดั ตอ่ หรือดดั แปลงภาพ ซ่ึงยงั คงกาหนดใหเ้ ป็ นความผดิ ที่สามารถ ยอมความไดเ้ พราะความเสียหายมกั เกิดข้ึนเพยี งบุคคลใดบุคคลหน่ึงเทา่ น้นั คูค่ ดีสามารถหาขอ้ ยตุ ิและสรุปตกลงความเสียหายกนั เองไดซ้ ่ึงตา่ งจากมาตราอ่ืนๆในหมวดน้ีท่ีผลของการกระทา ผดิ อาจไมใ่ ช่เพยี งแคก่ ระทบบุคคลใดบุคคลหน่ึง แต่อาจกระทบต่อสังคม ก่อเกิดความเสียหาย ทางเศรษฐกิจในวงกวา้ ง 2. พระรำชบญั ญตั วิ ่ำด้วยธุรกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 2.1 กฎหมายน้ีรับรองการทาธุรกรรมดว้ ยเอกสารอิเลก็ ทรอนิกส์ท้งั หมด 2.2 ศาลจะตอ้ งยอมรับฟังเอกสารอิเลก็ ทรอนิกส์ แต่ท้งั น้ีมิไดห้ มายความวา่ ศาลจะตอ้ งเชื่อ วา่ ขอ้ ความอิเลก็ ทรอนิกส์น้นั เป็นขอ้ ความท่ีถูกตอ้ ง 2.3 ปัจจุบนั ธุรกิจจาเป็นตอ้ งเกบ็ เอกสารทางการคา้ ที่เป็นกระดาษจานวนมาก ทาใหเ้ กิด คา่ ใชจ้ ่ายและความไมป่ ลอดภยั ข้ึน กฎหมายฉบบั น้ีเปิ ดทางใหธ้ ุรกิจสามารถเกบ็ เอกสารเหล่าน้ี ในรูปไฟลอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ 2.4 ปกติการทาสัญญาบนเอกสารที่เป็นกระดาษจะมีการระบุวนั เวลาที่ทาธุรกรรมน้นั ดว้ ย ในกรณีธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์น้นั ไดใ้ หข้ อ้ วนิ ิจฉยั เวลาของธุรกรรมตามมาตรา 23 2.5 มาตรา 25 ระบุถึงบทบาทของภาครัฐในการใหบ้ ริการประชาชนดว้ ยระบบ อิเลก็ ทรอนิกส์ ใหอ้ านาจหน่วยงานรัฐบาลสามารถสร้างระบบรัฐบาลอิเลก็ ทรอนิกส์ 3. กฎหมำยลขิ สิทธ์ิ และกำรใช้งำนโดยธรรม (Fair Use) กฎหมายลิขสิทธ์ิภายใตพ้ ระราชบญั ญตั ิ พ.ศ. 2537 ที่เกี่ยวขอ้ งกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ และการใชง้ านโดยธรรม (Fair Use) กค็ ือมาตรา 15 ที่มีสาระสาคญั ในการคุม้ ครองลิขสิทธ์ิของ เจา้ ของลิขสิทธ์ิ หมวด 1 ส่วนที่ 6 วา่ ดว้ ยขอ้ ยกเวน้ การละเมิดลิขสิทธ์ิ ใหส้ ามารถนาขอ้ มูลของผอู้ ่ืนมาใชไ้ ดโ้ ดย ไมต่ อ้ งขออนุญาต หรือเป็ นการใชง้ านโดยธรรม ตอ้ งข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั 4 ประการดงั น้ี 1) พิจารณาวา่ การกระทาดงั กล่าวมีวตั ถุประสงคก์ ารใชง้ านอยา่ งไร

3 2) ลกั ษณะของขอ้ มูลที่จะนาไปใชซ้ ่ึงขอ้ มูลดงั กล่าวเป็น 3) จานวนและเน้ือหาท่ีจะคดั ลอกไปใชเ้ ม่ือเป็นสัดส่วนกบั ขอ้ มูลท่ีมีลิขสิทธ์ิท้งั หมด 4) ผลกระทบของการนาขอ้ มูลไปใชท้ ่ีมีตอ่ ความเป็นไปไดท้ างการตลาดหรือคุณค่าของ งานท่ีมี ลิขสิทธ์ิน้นั ในมาตรา 35 ไดบ้ ญั ญตั ิใหก้ ารกระทาแก่โปรแกรมคอมพิวเตอร์อนั มีลิขสิทธ์ิ มิใหถ้ ือวา่ เป็นการ ละเมิดลิขสิทธ์ิ หากไมม่ ีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือหากาไร ในกรณีดงั ตอ่ ไปน้ี 1) วจิ ยั หรือศึกษาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์น้นั 2) ใชเ้ พือ่ ประโยชน์ของเจา้ ของสาเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์น้นั 3) ติชม วจิ ารณ์ หรือแนะนาผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจา้ ของลิขสิทธ์ิในโปรแกรม คอมพิวเตอร์น้นั 4) เสนอรายงานขา่ วทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจา้ ของลิขสิทธ์ิใน โปรแกรมคอมพิวเตอร์น้นั 5) ทาสาเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในจานวนท่ีสมควรโดยบุคคลผซู้ ่ึงไดซ้ ้ือหรือไดร้ ับ โปรแกรมน้นั มาจากบุคคลอ่ืนโดยถูกตอ้ ง เพ่ือเก็บไวใ้ ชป้ ระโยชนใ์ นการบารุงรักษาหรือ ป้องกนั การสูญหาย 6) ทาซ้า ดดั แปลง นาออกแสดง หรือทาให้

4 หน่วยที่ 2 บญั ญตั ิ 10 ประกำร ของผู้ใช้คอมพวิ เตอร์ สำระสำคัญ สำรสนเทศ เป็นจรรยาบรรณท่ีผใู้ ชอ้ ินเทอร์เน็ตยดึ ถือไวเ้ สมือนเป็นแมบ่ ทแห่งการปฏิบตั ิเพื่อระลึกและเตือน ความจาเสมอ สมรรถนะประจำหน่วย 1. แสดงความรู้เก่ียวกบั บญั ญตั ิ 10 ประการ ของผใู้ ชค้ อมพิวเตอร์ 2. สามารถพฒั นาตนใหม้ ีทกั ษะความรู้บญั ญตั ิ 10 ประการ ของผใู้ ชค้ อมพิวเตอร์ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. เพื่อใหม้ ีความรู้เก่ียวกบั บญั ญตั ิ 10 ประการ ของผใู้ ชค้ อมพิวเตอร์ (ดา้ นความรู้) 2. เพ่ือใหม้ ีความรู้เก่ียวกบั ประโยชนข์ องบญั ญตั ิ 10 ประการ ของผใู้ ชค้ อมพิวเตอร์ (ดา้ นทกั ษะ) 3. เพ่ือใหม้ ีความรู้เกี่ยวกบั องคป์ ระกอบบญั ญตั ิ 10 ประการ ของผใู้ ชค้ อมพวิ เตอร์ (ดา้ นเจตคติ) 4. เพอ่ื มีจิตสานึกที่ดีในอยรู่ ่วมกนั (ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจ จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. บอกความหมายของบญั ญตั ิ 10 ประการ ของผใู้ ชค้ อมพิวเตอร์ได้ (ดา้ นความรู้ความจา) 2. บอกความสาคญั ของบญั ญตั ิ 10 ประการ ของผใู้ ชค้ อมพิวเตอร์ได้ (ดา้ นความเขา้ ใจ) 3. บอกประโยชน์ของบญั ญตั ิ 10 ประการ ของผใู้ ชค้ อมพิวเตอร์ได้ (ดา้ นจิตพสิ ัย) 4. บอกองคป์ ระกอบบญั ญตั ิ 10 ประการ ของผใู้ ชค้ อมพวิ เตอร์ได้ (ดา้ นทกั ษะ) 5. มีจิตสานึกท่ีดีต่อการอยรู่ ่วมกนั เป็นสงั คม (ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง)

5 จรรยาบรรณเป็นสิ่งที่ทาใหส้ ังคมอินเทอร์เน็ตเป็นระเบียบความรับผดิ ชอบต่อสงั คมเป็ นเรื่องท่ีจะตอ้ ง ปลูกฝังกฎเกณฑข์ องแตล่ ะเครือขา่ ยจึงตอ้ งมีการวางระเบียบเพอื่ ใหก้ ารดาเนินงานเป็ นไปอยา่ งมีระบบและ เอ้ือประโยชน์ซ่ึงกนั และกนั บางเครือข่ายมีบทลงโทษและจรรยาบรรณที่ชดั เจน เพ่ือช่วยใหส้ งั คมสงบสุข และหากการละเมิดรุนแรงกฎหมายก็จะเขา้ มามีบทบาทไดเ้ ช่นกนั บัญญัติ 10 ประกำรในกำรใช้คอมพวิ เตอร์ 1. ตอ้ งไมใ่ ชค้ อมพิวเตอร์ทาร้ายหรือละเมิดผูอ้ ื่น 2. ตอ้ งไม่รบกวนการทางานของผอู้ ่ืน 3. ตอ้ งไม่สอดแนม แกไ้ ข หรือเปิ ดดูแฟ้มขอ้ มูลของผูอ้ ื่น 4. ตอ้ งไมใ่ ชค้ อมพิวเตอร์เพ่ือการโจรกรรมขอ้ มูลขา่ วสาร 5. ตอ้ งไมใ่ ชค้ อมพวิ เตอร์สร้างหลกั ฐานที่เป็นเทจ็ 6. ตอ้ งมีจรรยาบรรณการใชเ้ ครือข่ายสงั คมออนไลน์ 7. ใหร้ ะมดั ระวงั ในการละเมิดหรือสร้างความเสียหายใหผ้ อู้ ่ืน 8. ใหแ้ หล่งที่มาของขอ้ ความ ควรอา้ งอิงแหล่งขา่ วได้ 9. ไม่กระทาการรบกวนผอู้ ื่นดว้ ยการโฆษณาเกินความจาเป็น 10. ดูแลและแกไ้ ขหากตกเป็ นเหยอื่ จากโปรแกรมอนั ไมพ่ ึงประสงค์ เพ่ือป้องกนั มิใหค้ นอื่นเป็นเหยอ่ื

6 หน่วยที่ 3 กฎหมำยและจริยธรรมทำงเทคโนโลยี สำระสำคญั สำรสนเทศ สงั คมสารสนเทศเป็นสงั คมใหม่ เพ่ือใหก้ ารอยรู่ ่วมกนั ของคนในสงั คมเป็นไปโดยสนั ติและสงบสุข เอ้ือ ประโยชน์ซ่ึงกนั และกนั จึงตอ้ งมีกฎเกณฑท์ ี่มากาหนดควบคุมเพือ่ ใหส้ งั คมดงั กล่าวใหม้ ีความสงบ เรียบร้อย ในปัจจุบนั เครือข่ายอินเทอร์เน็ตไดเ้ ขา้ มามีบทบาท ในชีวติ ประจาวนั มีการใชค้ อมพวิ เตอร์ และ ระบบส่ือสารกนั มาก ขณะเดียวกนั กม็ ีผใู้ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในทางท่ีไม่ถูก ไมค่ วร ดงั น้นั จึงจาเป็ นตอ้ ง มี กฎหมายเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชบ้ งั คบั ควบคุมการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ และเมื่อมีกฎหมาย ออกมาบงั คบั ใช้ แลว้ ผใู้ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศจะปฏิเสธวา่ ไมร่ ู้กฎหมายไมไ่ ด้ สมรรถนะประจำหน่วย 1.แสดงความรู้เกี่ยวกบั กฎหมายและจริยธรรมทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1.เพอื่ ใหม้ ีความรู้เก่ียวกบั ความหมายกฎหมายและจริยธรรมทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ 2.เพอื่ ใหม้ ีความรู้เก่ียวกบั องคป์ ระกอบของกฎหมายและจริยธรรมทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ 3.เพื่อมีจิตสานึกท่ีดีในการใชร้ ะบบสารสนเทศ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1.อธิบายความหมายกฎหมายและจริยธรรมทางเทคโนโลยสี ารสนเทศได้ (ดา้ นความรู้ความจา) 2.บอกองคป์ ระกอบของกฎหมายและจริยธรรมทางเทคโนโลยสี ารสนเทศได้ (ดา้ นความเขา้ ใจ) 3.บอกประเภทกฎหมายและจริยธรรมทางเทคโนโลยสี ารสนเทศได้ (ดา้ นจิตพสิ ยั ) 4.จาแนกกฎหมายและจริยธรรมทางเทคโนโลยสี ารสนเทศได้ (ดา้ นทกั ษะ) 5.มีความรู้ รอบคอบในทางานผา่ นระบบสารสนเทศ (ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง)

7 กฎหมำยและจริยธรรมในกำรใช้ระบบสำรสนเทศ ระบบสารสนเทศ (Information System ) หมายถึง ระบบท่ีมีการนาคอมพวิ เตอร์มาช่วยในการ รวบรวม จดั เกบ็ หรือจดั การกบั ขอ้ มูลขา่ วสารเพือ่ ให้ขอ้ มูลน้นั กลายเป็นสารสนเทศท่ีดี สามารถนาไปใชใ้ น การประกอบการตดั สินใจไดใ้ นเวลาอนั รวดเร็วและถูกตอ้ ง ระบบสารสนเทศที่ใชค้ อมพิวเตอร์ประกอบดว้ ย ฮาร์ดแวร์ (Hardware), ซอฟตแ์ วร์ (Software), ขอ้ มูล (Data), บุคคล (People), ขบวนการ (Procedure) และการส่ือสารขอ้ มูล (Telecommunication) ซ่ึงถูกกาหนด ข้ึนเพอ่ื ทาการรวบรวม, จดั การ จดั เกบ็ และประมวลผลขอ้ มูลใหเ้ ป็นสารสนเทศ รูปท่ี 4 แสดงส่วนประกอบ ของระบบ สารสนเทศท่ีใชค้ อมพวิ เตอร์ ระบบสารสนเทศท่ีมีการจดั การกบั สารสนเทศและสนบั สนุนการตดั สินใจของผบู้ ริหารใหเ้ กิด ประสิทธิผล เรียกวา่ ระบบสารสนเทศเพื่อสนบั สนุนการ บริหาร โดยเนน้ เร่ืองการสนบั สนุนการตดั สินใจใน ระดบั การจดั การระดบั ต่างๆ ไม่เนน้ ที่การประมวลขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการดาเนินการทางธุรกิจและเนน้ ท่ีโครง ร่างของระบบควรจะถูกใชใ้ นการ จดั การการใชง้ านระบบสารสนเทศ รูปที่ 5 แสดงความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง ระบบสารสนเทศเพ่ือสนบั สนุนการบริหารและระดบั ของการจดั การ จรรยำบรรณสำหรับผู้ใช้อนิ เทอร์เน็ต ผใู้ ชอ้ ินเตอร์เน็ตน้นั มีเป็นจานวนมาก และมีแนวโนม้ เพ่ิมข้ึนเรื่อยๆ ดงั น้นั การใชง้ านระบบ เครือขา่ ยน้ีก็ยอ่ มจะมีผทู้ ่ีประพฤติไมด่ ี และสร้างปัญหาใหก้ บั ผอู้ ื่นเสมอ ดงั น้นั แตล่ ะเครือขา่ ยจึงตอ้ งมีการ กาหนดกฎเกณฑข์ อ้ บงั คบั ไว้ และในฐานะผใู้ ชง้ านท่ีไดร้ ับสิทธ์ิ ใหใ้ ชง้ านเครือขา่ ยน้นั ก็ควรท่ีจะตอ้ งเขา้ ใจ และปฏิบตั ิตามกฎท่ีไดถ้ ูกวางไว้ เพื่อใหก้ ารอยรู่ ่วมกนั ในระบบอินเตอร์เน็ตเป็นไปอยา่ งสงบสุข จึงไดม้ ีผู้ พยายามรวบรวม กฎ กติกา มารยาท และวางเป็นจรรยาบรรณอินเตอร์เน็ต หรือท่ีเรียกวา่ Netiquette ความ รับผดิ ชอบต่อสังคม เป็นเร่ืองที่จะตอ้ งปลูกฝัง กฎเกณฑข์ องแตล่ ะเครือข่าย จึงตอ้ งมีและวางระเบียบเพอ่ื ให้ ดาเนินงานเป็นไปอยา่ งมีระบบ และเอ้ือประโยชน์ซ่ึงกนั และกนั อนาคตของการใชเ้ ครือขา่ ย ยงั มีอีกมาก จรรยาบรรณจึงเป็ นส่ิงที่ช่วยให้ สงั คมสงบสุข

8 หน่วยที่ 4 กฎหมำยเกยี่ วกบั ธุรกรรมทำง สำระสำคญั อเิ ลก็ ทรอนิกส์ สถานะทางกฎหมายของขอ้ มูลอิเล็กทรอนิกส์ใหเ้ สมอขอ้ มูลที่ทาในกระดาษ อนั เป็นการรองรับ นิติ สมั พนั ธ์ตา่ ง ๆ ซ่ึงแต่เดิมอาจจะจดั ทาข้ึนในรูปแบบของหนงั สือให้เทา่ เทียมกบั นิติสมั พนั ธ์รูปแบบใหมท่ ่ี จดั ทาข้ึน ใหอ้ ยใู่ นรูปแบบของขอ้ มูลอิเล็กทรอนิกส์ รวมตลอดท้งั การลงลายมือช่ือในขอ้ มูลอิเลก็ ทรอนิกส์ และการรับฟัง พยานหลกั ฐานท่ีอยใู่ นรูปแบบของขอ้ มูลอิเลก็ ทรอนิกส์ สมรรถนะประจำหน่วย 1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั กฎหมายเกี่ยวกบั ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1.เพือ่ ใหม้ ีความรู้เก่ียวกบั กฎหมายเก่ียวกบั ธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ 2.เพอ่ื ใหม้ ีความรู้เกี่ยวกบั คุณสมบตั ิของกฎหมายเก่ียวกบั ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 3.เพือ่ มีจิตสานึกที่ดีเกี่ยวกบั กฎหมายเกี่ยวกบั ธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1.อธิบายกฎหมายเกี่ยวกบั ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ (ดา้ นความรู้ความจา) 2.บอกพ้ืนฐานขอ้ มูลกฎหมายเก่ียวกบั ธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ได้ (ดา้ นจิตพสิ ยั ) 3.บอกสาเหตุความบกพร่องของกฎหมายเกี่ยวกบั ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ (ดา้ นทกั ษะ) 4.มีความระมดั ระวงั ในการอยใู่ นสงั คม (ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง)

9 กฎหมายเกี่ยวกบั ธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ ❖ พระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยธุุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 แกไ้ ขเพ่ิมเติม (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2551 ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ เร่ือง แนวทางการจดั ทาแนวนโยบาย (Certificate Policy) และแนวปฏิบตั ิ (Certification Practice Statement) ของผใู้ หบ้ ริการออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Certification Authority) พ.ศ. 2552 ❖ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ เร่ือง หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการในการจดั ทาหรือแปลง เอกสารและขอ้ ความใหอ้ ยใู่ นรูปของขอ้ มูลอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2553 ❖ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ เรื่อง การรับรองส่ิงพมิ พอ์ อก พ.ศ. 2555 ❖ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ เรื่อง หน่วยงานรับรองส่ิงพมิ พอ์ อก พ.ศ. 2555 ❖ พระราชกฤษฎีกากาหนดประเภทธุรกรรมในทางแพง่ และพาณิชยท์ ี่ยกเวน้ มิใหน้ ากฎหมายวา่ ดว้ ย ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มาใชบ้ งั คบั พ.ศ. 2549 ❖ พระราชกฤษฎีกากาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการในการทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. 2549 ❖ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง แนวนโยบายและแนวปฏิบตั ิในการรักษาความ มน่ั คงปลอดภยั ดา้ นสารสนเทศของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2553 ❖ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง แนวนโยบายและแนวปฏิบตั ิในการรักษาความ มน่ั คงปลอดภยั ดา้ นสารสนเทศของหน่วยงานของรัฐ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2556 ❖ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ เรื่อง แนวนโยบายและแนวปฏิบตั ิในการคุม้ ครอง ขอ้ มูลส่วนบุคคลของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2553 ❖ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ เรื่อง แนวนโยบายและแนวปฏิบตั ิในการคุม้ ครอง ขอ้ มูลส่วนบุคคลของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2553 (แกค้ าผดิ ) ❖ พระราชกฤษฎีกาวา่ ดว้ ยวธิ ีการแบบปลอดภยั ในการทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2553 ❖ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง ประเภทธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และ หลกั เกณฑก์ ารประเมินระดบั ผลกระทบของธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ตามวธิ ีแบบปลอดภยั พ.ศ. 2555 ❖ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ เร่ือง มาตรฐานการรักษาความมนั่ คงปลอดภยั ของ ระบบสารสนเทศตามวธิ ีการแบบปลอดภยั พ.ศ. 2555 ต้นแบบพ.ร.บ.ธุรกรรม กฎหมายฉบบั น้ีไดย้ กร่างข้ึนตามแนวทางของกฎหมายแม่แบบที่จดั ทาโดย UNCITRAL หรือ คณะกรรมาธิการการคา้ ระหวา่ งประเทศแห่งสหประชาชาติ (United Nations Commission on International Trade Law) ที่เป็นแนวทางซ่ึงหลายประเทศยอมรับและนามาใชเ้ ป็นแนวทางในการยกร่างกฎหมายภายใน ของตนเช่นกนั เพอื่ ทาใหก้ ฎหมายของประเทศตา่ ง ๆ มีความสอดคลอ้ งระหวา่ งกนั (Legal Harmonization) ไม่วา่ จะเป็น

10 ● กฎหมายแม่แบบวา่ ดว้ ยการพาณิชยอ์ ิเล็กทรอนิกส์ (Model Law on Electronic Commerce 1996) ที่ รองรับสถานะทางกฎหมายของขอ้ มูลอิเล็กทรอนิกส์ ● กฎหมายแมแ่ บบวา่ ดว้ ยลายมือช่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ (Model Law on Electronic Signatures 2001) ท่ี รองรับสถานะทางกฎหมายของลายมือช่ืออิเล็กทรอนิกส์ ● อนุสญั ญาวา่ ดว้ ยการใชก้ ารติดตอ่ ส่ือสารทางอิเล็กทรอนิกส์ในสญั ญาระหวา่ งประเทศ (The United Nations Convention on the Use of Electronic Communications in International Contracts) ท่ี รองรับการทาสัญญาระหวา่ งประเทศในรูปแบบขอ้ มูลอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยใหก้ ารทาสญั ญาใน รูปแบบอิเลก็ ทรอนิกส์มีความครบถว้ นยงิ่ ข้ึน กฎหมำยหลำยฉบบั กโ็ ยงมำยงั พ.ร.บ. ธุรกรรม ● เมื่อกฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นกฎหมายกลางที่รองรับสถานะทางกฎหมายของขอ้ มูล อิเล็กทรอนิกส์ และเสริมการบงั คบั ใชก้ ฎหมายอื่น ๆ ทาใหเ้ ม่ือมีการปรับปรุงกระบวนการตาม กฎหมายต่าง ๆ ใหท้ าในแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ กฎหมายฉบบั ต่าง ๆ จึงไดเ้ ช่ือมโยงมายงั กฎหมายวา่ ดว้ ยธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ เพ่ือความสอดคลอ้ งและความชดั เจน เช่น ● พระราชบญั ญตั ิศุลกากร พ.ศ. 2560 “มาตรา 11 การดาเนินการทางศุลกากร ถา้ ไดก้ ระทาในรูปของ ขอ้ มูลอิเลก็ ทรอนิกส์ ใหถ้ ือวา่ มีผลโดยชอบดว้ ยกฎหมายเช่นเดียวกนั กบั การดาเนินการทางศุลกากร โดยเอกสาร ท้งั น้ี การนาขอ้ มูลอิเล็กทรอนิกส์ในการศุลกากรใหเ้ ป็นไปตามกฎหมายวา่ ดว้ ยธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์”

11 หน่วยท่ี 5 กฎหมำยเกย่ี วกบั ลำยมือชื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์ สำระสำคัญ การใชล้ ายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ดว้ ยกระบวนการใดๆทางเทคโนโลยใี หเ้ สมอดว้ ยการลงลายมือ ชื่อ ธรรมดาอนั ส่งผลต่อความเชื่อมนั่ มากข้ึนในการทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และกาหนดใหม้ ีการกากบั ดูแล การใหบ้ ริการเก่ียวกบั ลายมือช่ืออิเล็กทรอนิกส์ตลอดจนใหบ้ ริการอื่นท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ลายมือช่ือ อิเล็กทรอนิกส์ สมรรถนะประจำหน่วย 1. แสดงความรู้เก่ียวกบั กฎหมายเก่ียวกบั ลายมือช่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ 2. สามารถนากฎหมายเก่ียวกบั ลายมือชื่ออิเลก็ ทรอนิกส์มาประยคุ ใชไ้ ด้ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. เพ่อื ใหม้ ีความรู้เกี่ยวกบั กฎหมายเกี่ยวกบั ลายมือชื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ (ด้านความรู้) 2. เพื่อใหม้ ีความรู้เกี่ยวกบั องคป์ ระกอบกฎหมายเกี่ยวกบั ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ด้านทักษะ) 3.เพือ่ มีจิตสานึกที่ดีเกี่ยวกบั การใชส้ ่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. อธิบายกฎหมายเกี่ยวกบั ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ (ดา้ นความรู้ความจา) 2. บอกองคป์ ระกอบกฎหมายเกี่ยวกบั ลายมือชื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ได้ (ดา้ นความเขา้ ใจ) 3. บอกแนวทางการปฏิบตั ิตนตามกฎหมายเกี่ยวกบั ลายมือชื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ได้ (ดา้ นจิตพสิ ัย) 4. อธิบายหลกั กฎหมายเกี่ยวกบั ลายมือชื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ได้ (ดา้ นทกั ษะ) 5. บอกหลกั ความมีเหตุผลของกฎหมายเก่ียวกบั ลายมือช่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ ได้ (ดา้ นทกั ษะ) 6. มีจิตสานึกที่ดีเก่ียวกบั การใชส้ ่ืออิเล็กทรอนิกส์

12 'e-Signature' ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ ที่กฎหมายยอมรับ ทาความรู้จกั \"e-Signature\" ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ ที่เม่ือเร็วๆ น้ี สานกั งานพฒั นาธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ไดอ้ อกประกาศมาตรฐาน เพ่ือใชเ้ ป็นแนวทางและขอ้ เสนอแนะใหก้ บั หน่วยงานท่ีตอ้ งการจะ ใชด้ าเนินการ ❖ นิยามตามกฎหมายของ e-Signature พ.ร.บ.ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ไดก้ าหนดวา่ “e-Signature” หรือ “ลายมือช่ืออิเลก็ ทรอนิกส์” หมายถึง การสร้างชุดขอ้ มูลอิเล็กทรอนิกส์ (ในรูปแบบตวั เลข อกั ษร เสียง หรือสญั ลกั ษณ์อ่ืนใด) เพือ่ ใช้ แสดงความสมั พนั ธ์กบั บุคคลผเู้ ป็นเจา้ ของชุดขอ้ มูลดงั กล่าว (เจา้ ของลายมือชื่อ) โดยมีวตั ถุประสงคห์ ลกั 2 ประการคือ 1.เพ่อื ระบุตวั บุคคลผเู้ ป็นเจา้ ของลายมือช่ืออิเล็กทรอนิกส์และสามารถแสดงความเช่ือมโยงไปยงั ชุดขอ้ มูลอิเล็กทรอนิกส์ และ 2.เพ่ือแสดงวา่ เจา้ ของลายมือชื่อยอมรับขอ้ ความในมูลอิเล็กทรอนิกส์ชุด ดงั กล่าวน้นั ท้งั น้ี เจตนารมณ์ตามกฎหมายของการสร้าง e-Signature ไมไ่ ดต้ า่ งไปจาก “การใชป้ ากกาลงลายมือ ชื่อบนกระดาษในแบบเดิม” ซ่ึงมีวตั ถุประสงคใ์ นการกาหนดใหเ้ จา้ ของลายมือช่ือยนื ยนั ยอมรับ หรือรับรอง ขอ้ ความตามที่ปรากฏในเอกสารหรือเพื่อเป็นข้นั ตอนหน่ึงที่กฎหมายในหลายเร่ือง (เช่น สัญญาเช่า อสังหาริมทรัพย์ สัญญากยู้ มื เงินเกินกวา่ 2,000 บาท) กาหนดใหต้ อ้ งทาเป็นหนงั สือและมีการลงลายมือชื่อ คูส่ ัญญาไวเ้ พ่ือเป็ นหลกั ฐานในการฟ้องบงั คบั คดีในอนาคต ซ่ึงหากปราศจากกลไกของกฎหมายธุรกรรม อิเลก็ ทรอนิกส์แลว้ การทาธุรกรรมออนไลน์ตา่ งๆ ที่ตอ้ งมีการลงลายมือชื่อกากบั ยอ่ มไมม่ ีผลทางกฎหมายท่ี สมบูรณ์ ❖ องคป์ ระกอบในการสร้าง e-Signature กฎหมายไมไ่ ดร้ ะบุวา่ เทคโนโลยอี ะไรบา้ งที่จะสร้าง e-Signature ได้ แตก่ ฎหมายจะยอมรับกต็ อ่ เม่ือ e-Signature น้นั เป็นไปมาตรฐานท่ีกฎหมายกาหนดโดยจะตอ้ งมีองคป์ ระกอบที่สาคญั คือ 1.สามารถพิสูจน์และยนื ยนั ตวั ตนเจา้ ของลายมือชื่อได้ โดยตอ้ งแสดงความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง “เจา้ ของ e- Signature” กบั “ขอ้ มูลอิเลก็ ทรอนิกส์” ท่ีนามาประกอบกนั ได้ ซ่ึงความน่าเชื่อถือของ e-Signature ตอ้ ง พจิ ารณาคู่กบั ระดบั ความน่าเช่ือถือของไอเดนทิตี (IAL) ในการพิสูจนต์ วั ตน และระดบั ความน่าเช่ือถือของ สิ่งที่ใชย้ นื ยนั ตวั ตน (AAL) ในกระบวนการยนื ยนั ตวั ตน 2.เจตนาในการลงลายมือช่ือ กล่าวคือ ตอ้ งแสดงไดว้ า่ เจา้ ของ e-Signature เป็นผลู้ งลายมือช่ือเกี่ยวกบั ขอ้ ความน้นั ไวเ้ อง โดยผสู้ ร้าง e-Signature อาจกาหนดรายละเอียด วตั ถุประสงค์ และเหตุผลในการลง ลายมือชื่อไวใ้ นแบบฟอร์มใหช้ ดั เจนเพื่อใหเ้ จา้ ของ e-Signature เขา้ ใจและยอมรับในการลงลายมือช่ือน้นั 3.ครบถว้ นและไม่เปล่ียนแปลง กล่าวคือ ในกระบวนการเกบ็ รักษา e-Signature ผเู้ ก็บตอ้ งประกนั ไดว้ า่ ขอ้ มูลอิเลก็ ทรอนิกส์ต่างๆ เก่ียวกบั e-Signature มีความครบถว้ นเหมือนตอนแรกสร้างและไม่ถูก เปลี่ยนแปลงระหวา่ งทาง ❖ ประเภทและตวั อยา่ งของ e-Signature อาจแบ่งไดต้ ามบริบทของกฎหมายใน 3 รูปแบบ

13 1.แบบทวั่ ไป หรือแบบท่ีกฎหมายระบุวา่ “ตอ้ งใชว้ ธิ ีการท่ีน่าเชื่อถือในการสร้าง” ซ่ึง “วธิ ีการ” สร้าง e- Signature ในแบบน้ีจะมี “ความน่าเช่ือถือ” หรือไมน่ ้นั ก็ตอ้ งอยทู่ ี่การพิสูจน์โดยพจิ ารณาไดจ้ ากพฤติการณ์ที่ เหมาะสม เทคโนโลยที ี่เลือกใช้ ประกอบกบั ความเส่ียงของประเภทธุรกรรมเพื่อดูวา่ “วธิ ีการ” ดงั กล่าวมี ความมน่ั คงรัดกุม และเหมาะสมกบั ธุรกรรมประเภทน้นั หรือไม่ ตวั อยา่ งของ e-Signature แบบทวั่ ไป เช่น การต้งั รหสั เขา้ ใชบ้ ริการ (รหสั ATM) การป้อนขอ้ มูล One Time Password (OTP) การกดป่ ุม Ok/Send เพื่อส่งหรือยอมรับขอ้ ความ การพมิ พช์ ื่อไวท้ า้ ยอีเมล การสแกนภาพ ลายมือช่ือที่เขียนดว้ ยมือและแนบไปกบั เอกสารอิเลก็ ทรอนิกส์ หรือการใช้ Stylus เป็นตน้ 2.แบบเชื่อถือได้ เหตุท่ีกฎหมายรองรับในความน่าเชื่อถือก็เพราะ 1) ขอ้ มูลที่ใชส้ ร้าง e-Signature เชื่อมโยง ไปยงั เจา้ ของได้ 2) อยภู่ ายใตก้ ารควบคุมของเจา้ ของในตอนท่ีสร้าง และ 3) เจา้ ของสามารถตรวจพบการ เปล่ียนแปลง/ปลอมแปลงได้ ตวั อยา่ ง e-Signature ประเภทน้ี เช่น Digital Signature ท่ีอาศยั โครงสร้างพ้ืนฐานกุญแจสาธารณะ (PKI) และ เทคโนโลยเี ปรียบเทียบขอ้ มูลชีวมิติ (BiometricComparison) เป็นตน้ ดงั น้นั ในทางปฏิบตั ิที่กฎหมายวา่ “เชื่อถือได”้ ก็เพราะ e-Signature ในแบบน้ีมีการใชร้ ะบบหรือเทคโนโลยที ่ีมน่ั คงและรัดกุมกวา่ ในกรณีแรก ประกอบกบั ระดบั การพสิ ูจน์ตวั ตน (IAL2 ข้ึนไป) และการยนื ยนั ตวั ตน (AAL2 ข้ึนไป) ก็อยใู่ นระดบั ที่สูง และน่าเชื่อถือกวา่ แบบทว่ั ไปดว้ ยเช่นกนั 3.แบบเช่ือถือไดแ้ ละมีใบรับรอง e-Signature จากผใู้ หบ้ ริการออกใบรับรอง ซ่ึงแบบที่ 3 คือ การสร้าง e- Signature โดยอาศยั เทคโนโลยี PKI ตามแบบท่ี 2 เพียงแต่เพมิ่ เติมโดยมีคนกลาง หรือผใู้ หบ้ ริการออก ใบรับรองเป็นผอู้ อก certificate เพอ่ื สนบั สนุนความถูกตอ้ งของ e-Signature น้นั ซ่ึงขอ้ ดีในทางกฎหมายคือ คนกลางน้ีเปรียบเสมือนพยานคอยรับรองในการสร้าง e-Signature ใหเ้ จา้ ของลายมือช่ือไดอ้ ีกช้นั หน่ึง ❖ ภาระการพิสูจน์ตามกฎหมาย เมื่อกฎหมายกาหนดลายมือชื่อไวห้ ลายประเภท แน่นอนวา่ ภาระพิสูจนใ์ นทางกฎหมายยอ่ มแตกตา่ งกนั โดย หากเป็น e-Signature แบบทวั่ ไป “ผอู้ า้ งวา่ e-Signature น่าเช่ือถือยอ่ มมีหนา้ ที่นาสืบ” เช่น นาย ก.โตแ้ ยง้ วา่ e-Signature แบบ Stylus ของนาย ข.ไม่ใช่ลายมือชื่อท่ีแทจ้ ริง นาย ข.ผอู้ า้ งวา่ ลายมือช่ือของตนน้นั เป็ นของ จริงมีหนา้ ท่ีในการหาพยานหลกั ฐานมาพสิ ูจน์ ในทางกลบั กนั หากเป็น e-Signature แบบเช่ือถือได้ “กฎหมายจะสนั นิษฐานไวก้ ่อนวา่ น่าเชื่อถือภาระการ พิสูจนจ์ ึงตกเป็ นของผูโ้ ตแ้ ยง้ วา่ ไมน่ ่าเช่ือถือ” เช่น นาย ค.โตแ้ ยง้ วา่ Digital Signature ของ นาย ง.ไม่ น่าเชื่อถือ นาย ค.ผโู้ ตแ้ ยง้ มีหนา้ ที่ในการหาพยานหลกั ฐานมาพิสูจนว์ า่ Digital Signature ของนาย ง.ไม่ น่าเชื่อถืออยา่ งไร ทา้ ยท่ีสุดในทางปฏิบตั ิ การเลือกประเภทของ e-Signature ข้ึนอยกู่ บั หลายปัจจยั โดยตอ้ งพจิ ารณา factors ตา่ งๆ ประกอบเช่น มูลคา่ และความถ่ีในการทาธุรกรรม ความสอดคลอ้ งของระบบงานภายในองคก์ ร รวมถึง ระดบั การยอมรับของคู่สญั ญา โดยอาจพิจารณาจากมาตรฐานที่ใชใ้ นอุตสาหกรรมประเภทน้นั ประกอบ ซ่ึง หากทา่ นปฏิบตั ิตามขอ้ กาหนดของกฎหมายแลว้ ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ท่ีใชน้ ้นั ยอมมีผลในทางกฎหมาย

14 บรรณานุกรม https://sites.google.com/view/20204-2009 วชิ าจริยธรรมและกฎหมายคอมพิวเตอร์ https://anyflip.com/cqnrl/wfxe/basic แผนการสอนวชิ าจริยธรรมและกฎหมายคอมพวิ เตอร์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook