Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบสือพันธ์

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบสือพันธ์

Published by sutee northo, 2022-07-03 03:10:39

Description: หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบสือพันธ์

Search

Read the Text Version

สาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรียนอนบุ าลระแงะ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบอวัยวะในร่างกาย เวลา 3 ชั่วโมง ครูผสู้ อน นางสาวไตรทิพย์ รตั นเสถียร 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั พ 1.1 ป.6/1 อธบิ ายความสาคญั ของระบบสืบพนั ธ์ุ ระบบไหลเวยี นโลหติ และระบบหายใจทีม่ ผี ลต่อสุขภาพ การเจริญเติบโต และพฒั นาการ พ 1.1 ป.6/2 อธิบายวธิ ดี ูแลรักษาระบบสืบพันธุ์ ระบบไหลเวียนโลหติ และระบบหายใจใหท้ างานตามปกติ 2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ระบบหายใจ ระบบไหลเวยี นโลหิต และระบบสืบพันธ์ุ มคี วามสาคัญและมผี ลตอ่ สุขภาพ การเจรญิ เติบโต และ พัฒนาการของร่างกาย ดงั น้ันเราจึงควรดแู ลรกั ษาระบบหายใจ ระบบไหลเวียนโลหติ และระบบสืบพนั ธุ์ให้ทางานได้ ตามปกติ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 1) ความสาคัญของระบบสืบพนั ธุ์ ระบบไหลเวยี นโลหติ และระบบหายใจทม่ี ผี ลต่อสุขภาพ การเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการ 2) วธิ ดี แู ลรกั ษาระบบสบื พันธุ์ ระบบไหลเวียนโลหติ และระบบหายใจใหท้ างานตามปกติ 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ 1) ทักษะการระบุ 2) ทกั ษะการสรุปลงความเหน็ 3) ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้ 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มวี นิ ยั

6. การวดั และการประเมินผล 6.1 การประเมินก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรื่อง ระบบอวยั วะในร่างกาย 6.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1) ตรวจใบงานท่ี 1.1 เรื่อง ระบบหายใจ 2) ตรวจใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง ระบบไหลเวยี นโลหติ 3) ตรวจใบงานท่ี 1.3 เรอ่ื ง ระบบสืบพนั ธ์ุ 4) ประเมินการนาเสนอผลงาน 5) สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม 6) สงั เกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.3 การประเมินหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เรื่อง ระบบอวยั วะในร่างกาย 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ - นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 เรอื่ งท่ี 1 การดูแลระบบหายใจ เวลา 1 ช่ัวโมง สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การดูแลระบบหายใจใหท้ างานเปน็ ปกติ ตอ้ งอยู่ในสถานที่ทีม่ อี ากาศบริสุทธ์ิ ไม่สบู บหุ รี่ และหมน่ั ออกกาลงั กายเป็นประจา ตวั ชว้ี ดั พ 1.1 ป.6/2 อธิบายวิธดี ูแลรกั ษาระบบสืบพนั ธ์ุ ระบบไหลเวยี นโลหิต และระบบหายใจใหท้ างานตามปกติ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - อธบิ ายวธิ ดี ูแลระบบหายใจให้ทางานตามปกติได้ ขั้นที่ 1 นาเขา้ ส่บู ทเรียน 1. เบรนยมิ

2. ครทู บทวนความรูเ้ ดิม โดยให้นักเรียนทดลองใชม้ ือวางที่กะบังลม แล้วหายใจเขา้ -ออกอย่างชา้ ๆ เพื่อสังเกต การยกตัวขน้ึ -ลงของกะบังลม 3. ครสู ุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คน ออกมาอธบิ ายลักษณะการทางานของกะบงั ลมให้เพ่ือนฟังหนา้ ชัน้ เรียน ครู ตรวจสอบความถูกต้องและคอยอธิบายเพ่ิมเติม ขน้ั ท่ี 2 สอน 1. ครูใหน้ กั เรยี นแบ่งกล่มุ ๆ ล่ะ 4 - 5 คน ชว่ ยกันเสนอแนะวธิ ีการดแู ลระบบหายใจ จากนั้นครูอธบิ ายความรู้ เกี่ยวกบั วิธกี ารดแู ลระบบหายใจใหน้ ักเรียนฟัง 2. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ แนวทางทเี่ หมาะสมในการดูแลระบบหายใจ แลว้ ใหน้ ักเรียนตอบคาถามกระตุ้น ความคิด  การดแู ลระบบหายใจใหด้ ี ส่งผลตอ่ สขุ ภาพการเจรญิ เติบโต และพฒั นาการของร่างกายอยา่ งไร (พิจารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของครผู ูส้ อน) 3. นักเรียนแตล่ ะคนทาใบงานที่ 1.1 เรือ่ ง ระบบหายใจ เม่อื ทาเสร็จแล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปราย และตรวจสอบคาตอบในใบงานของสมาชิกในกลุ่ม หากมีข้อบกพรอ่ งใหช้ ่วยกันแก้ไขและ เติมเต็มใหส้ มบรู ณ์ เสรจ็ แล้ว นาสง่ ครู 4. ครูและนกั เรียนรว่ มกันเฉลยคาตอบในใบงานที่ 1.1 และสรปุ ความร้เู ร่อื ง ระบบหายใจและการดูแลระบบ หายใจ ขัน้ ท่ี 3 สรุป ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ ความสาคัญของระบบหายใจและวธิ กี ารดแู ลระบบหายใจ 9. การวัดและประเมนิ ผล วิธกี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 1.1 ใบงานที่ 1.1 ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ สงั เกตความมวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ และมีความรบั ผิดชอบ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 10. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ - ใบงานที่ 1.1 เร่ือง ระบบหายใจ เรื่องที่ 2 การดแู ลระบบไหลเวยี นโลหิต เวลา 1 ชั่วโมง

สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การดูแลระบบไหลเวียนโลหิตให้เลอื ดไหลเวยี นได้ดีในร่างกาย จะทาใหส้ ขุ ภาพแข็งแรง สดช่ืน ผิวพรรณผ่องใส สมองปลอดโปร่ง ตัวชี้วดั พ 1.1 ป.6/2 อธบิ ายวิธีดแู ลรักษาระบบสบื พนั ธ์ุ ระบบไหลเวียนโลหติ และระบบหายใจให้ทางานตามปกติ จุดประสงค์การเรียนรู้ - อธบิ ายวิธีดูแลรกั ษาระบบไหลเวียนโลหติ ใหท้ างานตามปกตไิ ด้ ขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน 1. เบรนยมิ 2. ครูให้นักเรยี นกลุ่มเดมิ วาดรูปหัวใจตามความเข้าใจของกล่มุ ลงในกระดาษ ขนาด 6  8 นว้ิ ท่ีครูแจกให้ แล้ว สง่ ตวั แทนกลุ่มออกมานาเสนอผลงาน พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบหนา้ ชัน้ เรยี น 3. ครอู ธิบายลักษณะรปู รา่ งและขนาดของหัวใจให้นักเรียนฟงั แลว้ ใหน้ ักเรียนช่วยกนั บอกหน้าท่สี าคัญของหัวใจ ตามความเข้าใจของนักเรียน ขนั้ สอน 1. นักเรยี นรวมกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1) แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกันแสดงความคดิ เหน็ วา่ การทา กจิ กรรมใดบา้ ง ท่มี ผี ลต่อการทางานของระบบไหลเวยี นโลหิต จากนนั้ ครอู ธบิ ายวิธกี ารดูแลระบบไหลเวยี นโลหิตให้ ทางานอย่างเปน็ ปกตแิ ละมีประสิทธภิ าพ เชน่ - การออกกาลังกายอย่างสม่าเสมอ - การเลอื กรับประทานอาหารที่มปี ระโยชน์ - การพักผอ่ นทเี่ พยี งพอ - การทาจติ ใจให้รา่ เรงิ แจม่ ใส ฯลฯ 2. ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนทาใบงานท่ี 1.2 เร่อื ง ระบบไหลเวียนโลหิต เม่อื ทาเสรจ็ แล้วให้นักเรยี นจับคู่กับเพ่ือน ในกลมุ่ ผลดั กนั อภิปรายคาตอบในใบงาน หากมีข้อสงสยั ใหอ้ ธบิ ายหรือแสดงความคิดเห็น จนไดข้ อ้ สรุป 3. นักเรียนแตล่ ะคู่ในกล่มุ ผลัดกันอภปิ รายคาตอบในใบงานท่ี 1.2 ตามทีค่ ู่ของตนเองได้สรุป เพือ่ สรปุ เปน็ ประเด็นคาตอบของกลุ่ม แล้วนาส่งครตู รวจ 4. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ ข้อ 1-3 1) นกั เรยี นคิดว่า ถา้ หัวใจเตน้ ชา้ ลงหรอื หยดุ เต้นจะส่งผลตอ่ รา่ งกายอย่างไร (พิจารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดยให้อยใู่ นดุลยพินิจของครูผ้สู อน) 2) หากมเี ม็ดเลือดขาวมากเกินไป จะมีผลต่อรา่ งกายหรือไม่ อยา่ งไร (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให้อยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน)

3) การดูแลระบบไหลเวียนโลหติ ให้ทางานไดต้ ามปกตสิ ่งผลตอ่ การเจริญเติบโต และพัฒนาการของรา่ งกายอย่างไรบา้ ง (พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้อยูใ่ นดลุ ยพินิจของครูผู้สอน) ขน้ั สรุป 1. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ ความรูเ้ รือ่ ง ระบบไหลเวยี นโลหติ 9. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เครือ่ งมอื เกณฑ์ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.2 ใบงานที่ 1.2 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมีความรบั ผดิ ชอบ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 10. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ - ใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง ระบบไหลเวยี นโลหิต เรื่องที่ 3 การดูแลระบบสบื พันธุ์ เวลา 1 ชั่วโมง สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ระบบสบื พันธ์ุเป็นระบบทีท่ าให้ดารงเผา่ พนั ธอ์ุ ยู่ได้ ดงั น้นั จงึ ควรดูแลรักษาความสะอาดของรา่ งกายและ ของใช้ กินอาหารท่มี ีประโยชน์ พักผอ่ นให้เพยี งพอ ออกกาลังกายสมา่ เสมอ ตวั ช้วี ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ พ 1.1 ป.6/2 อธิบายวธิ ดี ูแลรกั ษาระบบสืบพนั ธุ์ ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบหายใจใหท้ างานตามปกติ จุดประสงค์การเรยี นรู้ - อธิบายวธิ ีดูแลรกั ษาระบบสืบพันธุใ์ หท้ างานตามปกติได้ ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน 1. เบรนยมิ 2. ครนู าบตั รคาแสดงอวัยวะในระบบสบื พันธเุ์ พศชายและเพศหญงิ มาแจกใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 1-2 ใบ แลว้ ให้พิจารณาบตั รคาที่ได้รับ จากนัน้ ส่งตวั แทนกลมุ่ ออกมาตดิ บัตรคาให้ตรงกบั เพศที่ครเู ขียนบนกระดาน

ขน้ั สอน 1. ครูใหน้ ักเรียนช่วยกันยกตวั อย่างวธิ กี ารดแู ลระบบสืบพันธขุ์ องเพศชายและเพศหญงิ แล้วครอู ธิบายความรู้ เพม่ิ เติม เพ่ือใหน้ ักเรียนสามารถนาไปปฏบิ ัติหรือดูแลระบบสบื พันธ์ไุ ดอ้ ย่างถูกวิธี 2. นักเรียนแต่ละคนทาใบงานที่ 1.3 เรอ่ื ง ระบบสืบพันธุ์ เมื่อทาเสร็จแลว้ ใหน้ ักเรียนจับคกู่ บั เพือ่ น (คเู่ ดมิ ) ผลัดกันอภปิ รายคาตอบในใบงาน หากมีขอ้ สงสัยให้อธิบายหรอื แสดงความคิดเหน็ จนได้ข้อสรปุ 3. นกั เรยี นแตล่ ะคู่ในกลุ่มผลัดกนั อภปิ รายคาตอบในใบงานท่ี 1.3 ตามท่คี ู่ของตนเองได้สรปุ แล้วสรุปเปน็ ประเด็น คาตอบของกลุ่ม จากน้ันนาสง่ ครผู สู้ อน ขน้ั สรปุ 1. ครแู ละนกั เรียนช่วยกันเฉลยคาตอบในใบงานที่ 1.3 และรว่ มกนั สรปุ ความร้เู รื่อง ระบบสบื พันธ์ุและการดูแล - นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 9. การวัดและประเมินผล วิธกี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.3 ใบงานท่ี 1.3 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนาเสนอผลงาน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมคี วามรับผดิ ชอบ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 10. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ 1) บัตรคา 2) ใบงานท่ี 1.3 เรื่อง ระบบสืบพันธุ์ 11. ความเห็นของผูอ้ านวยการโรงเรยี น 11.1 กระบวนการเรียนรู้  มคี วามสอดคล้อง เหมาะสมกบั ความสนใจและความถนดั ของนกั เรียน

 ไมส่ อดคลอ้ งและยังไม่เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั ควรปรบั ปรงุ 11.2 การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้  คานึงถึงลาดับขน้ั ตอนการเรยี นรู้ โดยจัดใหน้ กั เรยี นไดม้ ีโอกาสเรียนร้จู ากประสบการณ์จริงและปลูกฝัง นสิ ยั รักในการศึกษาและแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่อง  ลาดบั ข้นั ของการเรยี นรู้ไมส่ อดคล้อง ต้องปรบั ปรุง 11.3 การวดั ผลและประเมินผล  ใช้วิธกี ารทห่ี ลากหลาย สอดคล้องและเหมาะสมกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้  ไม่หลากหลายและไม่สอดคล้องกับมาตรฐานของหลักสตู ร ควรปรับปรงุ 11.4 ความเหมาะสมในการนาแผนการจดั การเรยี นรู้ไปใชใ้ นการเรยี นรู้  สามารถนาไปใช้จดั การเรยี นรูไ้ ดจ้ รงิ  ควรปรับปรงุ ก่อนนาไปใชจ้ ัดการเรียนรู้ 11.5 ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ......................................................................................................................... ลงชอ่ื (นายเจริญ บุญชะนะ) ผู้อานวยการโรงเรยี นอนบุ าลระแงะ 12. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ เร่ืองท่ี 1 1. บนั ทึกหลังสอน ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ......................................... ........................................................................................ .............................................................................. ............................................................................................................................. ......................................... ....................................................................................................................................... ............................... ................................................................................................... ................................................................... 2. ปญั หา/อุปสรรค

............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ......................................... 3. แนวทางแก้ไข/พัฒนา ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ลงชอื่ ผู้สอน (นางสาวไตรทิพย์ รตั นเสถียร) ตาแหน่ง ครูโรงเรียนอนุบาลระแงะ 12. บนั ทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ เร่ืองที่ 2 1. บันทึกหลังสอน ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. .........................................

...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ......................................... .................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. ......................................... 2. ปญั หา/อปุ สรรค ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... 3. แนวทางแกไ้ ข/พฒั นา ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ผู้สอน (นางสาวไตรทิพย์ รัตนเสถยี ร) ตาแหน่ง ครูโรงเรียนอนุบาลระแงะ

12. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ เรื่องท่ี 3 1. บันทึกหลังสอน ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ......................................... ................................................................................. ..................................................................................... 2. ปัญหา/อปุ สรรค ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... 3. แนวทางแกไ้ ข/พฒั นา ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ......................................... ลงช่ือ ผู้สอน (นางสาวไตรทิพย์ รตั นเสถียร) ตาแหนง่ ครโู รงเรยี นอนบุ าลระแงะ

ภาคผนวก

ใบงานที่ 1.1 ระบบหายใจ ตอนท่ี 1 คาช้ีแจง ให้นกั เรียนตอบคาถามต่อไปนี้ 1. จมูกมสี ว่ นสาคัญในระบบหายใจอย่างไร 2. เม่ือนักเรยี นหายใจออก การทางานของกะบังลมจะเป็นอย่างไร ตอนท่ี 2 ให้นักเรยี นเขียนเครอื่ งหมาย  หน้าขอ้ ความที่แสดงพฤติกรรมท่ถี ูกต้องในการดูแลระบบหายใจ และ คาชีแ้ จง เขยี นเครื่องหมาย  หน้าข้อความท่ีแสดงพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องในการดูแลระบบหายใจ แล้ว แก้ไขข้อความให้ถูกต้อง 1. ปอ้ นเลน่ กับเพ่อื นทเ่ี ป็นหวัด 2. จอยเลน่ อย่ใู กล้ๆ บริเวณท่ีพ่อสบู บหุ ร่ี 3. นา้ ชอบเดินเลน่ ในสวนสาธารณะของหมู่บ้าน 4. แหม่มใช้ผา้ ปิดปาก เมื่อต้องเดินเข้าไปในบริเวณก่อสรา้ ง 5. เก่งไมช่ อบใช้ผ้าปิดจมูก เม่ือช่วยพอ่ ทาสีรวั้



ใบงานท่ี 1.1 ระบบหายใจ ตอนท่ี 1 คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี 1. จมูกมีส่วนสาคญั ในระบบหายใจอย่างไร จมูก มคี วามสาคัญต่อระบบหายใจ เพราะทาหน้าทเี่ ป็นทางผ่านของอากาศ และชว่ ยกรองฝุ่นละออง 2. เมอ่ื นักเรยี นหายใจออก การทางานของกะบงั ลมจะเป็นอย่างไร เม่ือหายใจออก กลา้ มเน้อื กะบงั ลมจะยกตัวขึ้น กระดกู ซโี่ ครงลดตา่ ลง ความดนั อากาศภายในสูงขึ้น อากาศถูกดนั สู่ภายนอก ท้องจะแฟบลง ตอนท่ี 2 ให้นักเรยี นเขยี นเครื่องหมาย  หน้าข้อความท่แี สดงพฤติกรรมที่ถูกต้องในการดแู ลระบบหายใจ และ คาชแ้ี จง เขียนเคร่อื งหมาย  หนา้ ข้อความที่แสดงพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องในการดแู ลระบบหายใจ แลว้ แก้ไข ข้อความใหถ้ ูกตอ้ ง  1. ป้อนเล่นกับเพือ่ นที่เป็นหวดั ปอ้ นควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่อเล่นกับเพ่ือนที่เปน็ หวดั  2. จอยเลน่ อยใู่ กล้ๆ บริเวณที่พ่อสูบบุหรี่ จอยไมค่ วรเลน่ อยู่ในบริเวณที่พ่อสบู บหุ ร่ี  3. น้าชอบเดินเล่นในสวนสาธารณะของหมู่บา้ น  4. แหม่มใช้ผ้าปิดปาก เมื่อต้องเดินเข้าไปในบริเวณก่อสรา้ ง  5. เกง่ ไม่ชอบใช้ผา้ ปดิ จมูก เม่ือช่วยพอ่ ทาสรี ัว้ เกง่ ควรใชผ้ ้าปดิ จมกู เม่อื ช่วยพ่อทาสรี ว้ั

ใบงานท่ี 1.2 ระบบไหลเวยี นโลหติ คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้ 1. หวั ใจหอ้ งใดมีผนังหนามากท่ีสดุ เพราะเหตุใด 2. เมด็ เลือดแดงมคี วามสาคัญอย่างไรต่อระบบไหลเวียนโลหิต 3. เสน้ เลือดหรอื หลอดเลอื ดที่มีความสาคัญตอ่ ระบบไหลเวยี นโลหิต มกี ชี่ นิด อะไรบา้ ง 4. ปอดทาหนา้ ทใี่ ดในระบบไหลเวียนโลหิต 5. นกั เรยี นมวี ธิ ีการดูแลระบบไหลเวียนโลหิตใหท้ างานไดอ้ ย่างเปน็ ปกติอย่างไรบ้าง

ใบงานท่ี 1.2 ระบบไหลเวียนโลหิต คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี 1. หวั ใจห้องใดมีผนงั หนามากท่ีสุด เพราะเหตใุ ด หัวใจหอ้ งล่างซ้าย เพราะทาหนา้ ทส่ี ูบฉดี เลอื ดไปเล้ียงส่วนตา่ งๆ ของร่างกาย 2. เม็ดเลือดแดงมคี วามสาคัญอย่างไรต่อระบบไหลเวยี นโลหิต เม็ดเลือดแดงช่วยลาเลียงแก๊สออกซเิ จนไปยังเนอ้ื เยื่อสว่ นต่างๆ 3. เส้นเลอื ดหรอื หลอดเลอื ดท่ีมคี วามสาคญั ตอ่ ระบบไหลเวียนโลหิต มกี ีช่ นิด อะไรบ้าง มี 3 ชนดิ ได้แก่ หลอดเลอื ดแดง หลอดเลือดดา และหลอดเลอื ดฝอย 4. ปอดทาหน้าที่ใดในระบบไหลเวยี นโลหติ ปอดทาหนา้ ทีแ่ ลกเปลย่ี นแกส๊ ระหวา่ งแกส๊ ออกซิเจนและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ โดยนาแกส๊ ออกซเิ จนเข้าสเู่ ลอื ด และนาแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดอ์ อกจากเลือด 5. นกั เรียนมวี ิธกี ารดแู ลระบบไหลเวียนโลหิตใหท้ างานไดอ้ ยา่ งเปน็ ปกตอิ ย่างไรบา้ ง (พิจารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยให้อยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

บตั รคำ  อณั ฑะ ต่อมลกู หมาก ท่อนาตวั อสจุ ิ ถงุ ห้มุ อณั ฑะ รงั ไข่ มดลกู ช่องคลอด ท่อนาไข่ ต่อมสรา้ งน้าเลีย้ งตวั อสจุ ิ หลอดเกบ็ ตวั อสจุ ิ

ใบงานที่ 1.3 ระบบสืบพนั ธุ์ คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนบอกหนา้ ท่ีของอวัยวะในระบบสบื พันธุต์ ามท่ีกาหนด 1. อัณฑะ 2. รงั ไข่ 3. อสจุ ิ 4. มดลูก 5. ตอ่ มลกู หมาก

ใบงานที่ 1.3 ระบบสืบพันธ์ุ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนบอกหนา้ ที่ของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์ตามท่ีกาหนด 1. อัณฑะ ทาหน้าท่ีผลติ ตวั อสจุ ทิ เี่ ป็นเซลลส์ ืบพันธ์ุเพศชาย 2. รงั ไข่ ทาหน้าทีผ่ ลติ เซลลไ์ ข่ท่เี ป็นเซลลส์ ืบพนั ธุเ์ พศหญงิ 3. อสุจิ ทาหนา้ ทผ่ี สมกับไข่กลายเปน็ ทารกในครรภ์ 4. มดลูก ทาหน้าที่เปน็ ทฝ่ี ังตวั ของไขท่ ไ่ี ด้รบั การผสมแลว้ และเป็นท่เี จรญิ เตบิ โตของทารกในครรภ์ 5. ต่อมลูกหมาก ทาหน้าที่สรา้ งสารทีเ่ ปน็ เบสอ่อนๆ เขา้ ไปในท่อปสั สาวะปนกับน้าเลยี้ งตัวอสุจิเพอื่ ลดความเป็นกรด ทาให้เกดิ สภาพ ที่เหมาะสมกบั ตวั อสุจิ

แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. อวัยวะใดมีสว่ นเก่ยี วข้องกับระบบไหลเวียนโลหติ 6. รงั ไขท่ าหน้าทอ่ี ะไร ก. ปอด ก. เป็นทฝ่ี ังตัวของไข่ทไ่ี ดร้ ับการผสมแล้ว ข. จมูก ข. ผลติ เซลลไ์ ข่ท่เี ป็นเซลลส์ บื พันธขุ์ องเพศหญิง ค. ลาไส้ ค. ผลิตอสุจทิ ่ีเป็นเซลลส์ ืบพนั ธ์ขุ องเพศชาย ง. รงั ไข่ ง. ปรบั อณุ หภูมิในท่อรงั ไขแ่ ละทอ่ อสจุ ิ 2. หัวใจห้องบนขวามีหน้าท่อี ะไร 7. อวยั วะในขอ้ ใด มหี น้าท่ีกรองฝุ่นละออง ก. แลกเปลย่ี นเลอื ดจากปอด ก. ปาก ข. รับเลอื ดทีฟ่ อกแล้วจากปอด ข. ปอด ค. รบั เลอื ดจากส่วนตา่ งๆ ของร่างกาย ค. จมกู ง. สูบฉีดเลอื ดไปเลยี้ งสว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกาย ง. หลอดลม 3. การปฏิบัตติ นอยา่ งไรช่วยดแู ลระบบหายใจ 8. ระบบสบื พนั ธุ์ของเพศหญงิ จะสนิ้ สดุ เม่ือใด ก. ไม่อยู่ในทีท่ ่มี ผี สู้ ูบบหุ รี่ ก. เสยี ชีวติ ข. กินอาหารท่มี ีไขมันมาก ข. หลังต้ังครรภ์ ค. ทาจติ ใจให้ร่าเรงิ แจ่มใส ค. รังไขห่ ยุดทางาน ง. นอนในหอ้ งทม่ี เี คร่อื งปรบั อากาศ ง. หลังมีประจาเดอื น 4. เม็ดเลือดขาวมปี ระโยชนอ์ ย่างไร 9. การปฏิบตั ติ นอย่างไรเปน็ การชว่ ยดูแลระบบสืบพนั ธ์ุ ก. เพิ่มแก๊สออกซิเจน ก. กนิ ผกั และผลไม้ ข. ลาเลยี งแกส๊ ออกซิเจน ข. ไมอ่ าศัยอยใู่ นชมุ ชนแออัด ค. ช่วยให้เลือดแข็งตวั ได้เรว็ ค. สวมใส่เสือ้ ผา้ ทม่ี ีราคาแพง ง. ทาลายเชอ้ื โรคหรือสิง่ แปลกปลอมทีเ่ ขา้ สูร่ ่างกาย ง. ลา้ งอวัยวะเพศขณะอาบนา้ 5. หลอดเลอื ดดามหี นา้ ทส่ี าคัญอยา่ งไร 10. ถ้าเราปสั สาวะไมห่ ยุด แสดงวา่ เกดิ ความผดิ ปกติ ก. ลาเลยี งแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ในตอ่ มใด ข. สร้างเกล็ดเลอื ดทาให้เลอื ดแขง็ ตัว ก. ตอ่ มเพศ ค. ลาเลยี งเลือดแดงไปสู่ส่วนตา่ งๆ ของร่างกาย ข. ตอ่ มหมวกไต ง. ลาเลยี งเลอื ดดาจากสว่ นต่างๆ ของรา่ งกาย ค. ต่อมไทรอยด์ กลบั เขา้ สหู่ วั ใจ ง. ต่อมใตส้ มอง 1. ก 2. ค 3. ก 4. ง 5. ง 6. ข 7. ค 8. ค 9. ง 10. ข

แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ระบบสบื พันธขุ์ องเพศหญิงจะส้นิ สุดเม่ือใด 6. หลอดเลอื ดดามหี น้าทสี่ าคญั อยา่ งไร ก. หลังมีประจาเดอื น ก. สรา้ งเกลด็ เลือดทาใหเ้ ลือดแข็งตวั ข. รังไข่หยุดทางาน ข. ลาเลยี งแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ ค. หลงั ตั้งครรภ์ ค. ลาเลียงเลือดแดงไปสู่สว่ นตา่ งๆ ของร่างกาย ง. เสยี ชีวติ ง. ลาเลียงเลือดดาจากสว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกาย กลบั เขา้ สหู่ วั ใจ 2. รังไขท่ าหนา้ ทอี่ ะไร ก. ปรับอณุ หภูมิในท่อรังไข่และท่ออสจุ ิ 7. การปฏิบัตติ นอยา่ งไรชว่ ยดแู ลระบบหายใจ ข. ผลิตอสจุ ิทเ่ี ป็นเซลลส์ ืบพันธ์ขุ องเพศชาย ก. กนิ อาหารทีม่ ีไขมนั มาก ค. ผลติ เซลลไ์ ข่ท่ีเปน็ เซลลส์ บื พันธขุ์ องเพศหญิง ข. ทาจติ ใจให้รา่ เรงิ แจ่มใส ง. เปน็ ทฝ่ี ังตัวของไข่ที่ไดร้ บั การผสมแลว้ ค. ไมอ่ ย่ใู นที่ท่มี ีผสู้ บู บหุ รี่ ง. นอนในห้องทม่ี ีเครื่องปรับอากาศ 3. ถา้ เราปสั สาวะไมห่ ยุด แสดงวา่ เกดิ ความผดิ ปกติ ในตอ่ มใด 8. อวยั วะใดมสี ่วนเก่ยี วขอ้ งกับระบบไหลเวียนโลหติ ก. ต่อมเพศ ก. จมกู ข. ต่อมใต้สมอง ข. ปอด ค. ตอ่ มไทรอยด์ ค. รงั ไข่ ง. ต่อมหมวกไต ง. ลาไส้ 4. การปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไรเปน็ การชว่ ยดแู ลระบบสืบพนั ธุ์ 9. หวั ใจหอ้ งบนขวามีหน้าท่ีอะไร ก. ลา้ งอวัยวะเพศขณะอาบน้า ก. สูบฉีดเลือดไปเลยี้ งสว่ นตา่ งๆ ของร่างกาย ข. สวมใสเ่ สอื้ ผ้าทม่ี ีราคาแพง ข. รบั เลอื ดจากสว่ นต่างๆ ของรา่ งกาย ค. ไม่อาศยั อยู่ในชมุ ชนแออัด ค. รบั เลอื ดท่ฟี อกแล้วจากปอด ง. กินผกั และผลไม้ ง. แลกเปลย่ี นเลอื ดจากปอด 5. อวยั วะในข้อใด มีหนา้ ทีก่ รองฝ่นุ ละออง 10. เมด็ เลอื ดขาวมปี ระโยชน์อย่างไร ก. จมกู ก. ทาลายเชอื้ โรคหรือสิ่งแปลกปลอมท่ีเขา้ สรู่ ่างกาย ข. ปาก ข. ช่วยให้เลอื ดแขง็ ตวั ได้เร็ว ค. ปอด ค. ลาเลยี งแกส๊ ออกซเิ จน ง. หลอดลม ง. เพ่มิ แก๊สออกซเิ จน 1. ข 2. ค 3. ง 4. ก 5. ก 6. ง 7. ค 8. ข 9. ข 10. ก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook