โครงงาน เร่อื ง ใสใ่ จสุขภาพจากผลติ ภณั ฑ์ใบเตย โครงงานนเี้ ป็นส่วนหนงึ่ ในการพัฒนากิจกรรมลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้ เพอ่ื การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ของนักเรียนโรงเรียนวัดบางขนุ นนท์ สานักงานเขตบางกอกนอ้ ย กรงุ เทพมหานคร
2 โครงงาน เรื่อง ใส่ใจสุขภาพจากผลิตภัณฑใ์ บเตย คณะผูจ้ ัดทา 1. ด.ญ.นลิ าวัลย์ อนิ ทะชยั ป.6 9. ด.ญ.หทัยรตั น์ เฟ่อื งขจร ป.3 2. ด.ช.จริ ะนนั ท์ ชมพู ป.6 10. ด.ช.นรากร ทักษ์ประดิษฐ์ ป.3 3. ด.ช.ชานนท์ เจรญิ สขุ ป.5 11. ด.ช.ภานพุ งษ์ บญุ ระมี ป.3 4. ด.ช.เบญจพล พิทกั ษา ป.5 12. ด.ญ.รินรดา รัตยิ างกูร ป.2 5. ด.ญ.นาตยา แซ่เล้า ป.4 13. ด.ช.เมธาวิน สระทองเรือง ป.2 6. ด.ช.วราวฒุ ิ พงษ์สวสั ด์ิ ป.4 14. ด.ญ.ณัชชนม์ มสี ขุ ป.1 7. ด.ช.ภูวดล วตั ถะกร ป.4 15. ด.ช.มนสั วนิ ทวบี ตุ ร ป.1 8. ด.ญ.ปาลวีย์ แก้วสรุ าษฏร์ ป.3 16. ด.ช.ธนดล หอมจันทร์ ป.1 17. ด.ช. อภิวฒั น์ ขุนอาจ ป.1 ครทู ่ปี รึกษา 1. ครูวงษ์กลั ยกร ดอกไม้ ตาแหนง่ ครู ค.ศ.1 2. ครเู มธาวี จะระงับ ตาแหนง่ ครูผู้ช่วย โครงงานนเี้ ป็นสว่ นหนง่ึ ในการพฒั นากจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลารู้ เพอื่ การเรยี นรูใ้ นศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนโรงเรียนวดั บางขุนนนท์ สานกั งานเขตบางกอกนอ้ ย กรงุ เทพมหานคร
3 บทคดั ยอ่ โครงงาน เรื่อง ผลิตภัณฑ์ใบเตยเพื่อสุขภาพจากพืชท้องถิ่น โดยการนาใบเตย พืชใน ทอ้ งถ่นิ มาสรา้ งให้เปน็ ผลิตภัณฑ์เพอ่ื สุขภาพเปน็ การสร้างทักษะในการประกอบอาชีพ ซึ่งมุ่งเน้นไปท่ีการ ทาผลิตภัณฑ์จากใบเตย โดยนักเรียนโรงเรียนวัดบางขุนนนท์ กลุ่มที่ 4 ได้จัดทาโครงงาน บูรณาการ ตามขั้นตอน คอื เลอื กเรอ่ื งที่น่าสนใจ เตรียมไปหาแหล่งความรู้ เขา้ ส่กู ารวางแผนก่อน ทาตามข้ันตอน อย่างสนุกสนาน เขียนรายงานอย่างมั่นใจ นาเสนองานได้เหมาะสม ผลคือได้ผลิตภัณฑ์เพ่ือสุขภาพ ได้แก่ สบู่ใบเตย ถุงหอมอโรม่าใบเตย สบู่เหลวล้างมือเพื่อสุขภาพกล่ินอโรม่าใบเตย เทียนหอมอโรม่า กลน่ิ ใบเตย เพอื่ จะไดน้ ามาใช้ประโยชนจ์ ากการแปรรูปใบเตยเพ่ือเป็นผลิตภณั ฑส์ รา้ งอาชีพ และสามารถ ศึกษาถึงประโยชน์ของใบเตย พืชท้องถ่ินในชุมชนในเรื่องของชนิด การขยายพันธ์ุ การดูแลรักษา สรรพคุณ และการแปรรูปจากใบเตย อีกทั้งยังช่วยฝึกทักษะในการนาไปสร้างอาชีพการแปรรูปใบเตย เปน็ ผลติ ภณั ฑ์ต่าง ๆ เพือ่ จะไดน้ าไปใชใ้ นประโยชน์ในชีวิตประจาวนั ได้อกี ด้วย
4 กติ ตกิ รรมประกาศ โครงงานฉบับนี้มีจุดประสงค์รายงานผลการจัดทาโครงงานบูรณาการ เร่ือง ใส่ใจสุขภาพจาก ผลติ ภณั ฑใ์ บเตยจากพืชท้องถ่นิ โดยค้นคว้าและลงมือปฏิบัติพัฒนาทกั ษะ รวมถงึ สอบถามจากผู้เช่ียวชาญ ในชุมชน และจัดทารูปเลม่ โครงงานขึ้นเพ่ือให้ผู้สนใจในเรื่องของใบเตยและการพัฒนาทักษะอาชีพ การ ทาอาหาร ได้ใช้เป็นประโยชน์ประกอบการทาอาชีพ การทาอาหาร และการศึกษาหาความรู้โดยการทา โครงงาน หรือสามารถนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ คณะผูจ้ ัดทาโครงงานบูรณาการ เรอ่ื ง ใบเตยสรา้ งอาชีพ ต้องขอขอบพระคุณ คุณครูวงษ์กัลยกร ดอกไม้และคณุ ครูเมธาวี จะระงบั ทีไ่ ด้ให้คาแนะนาในการจดั ทาโครงงานบูรณาการ ขอขอบคณุ โรงเรียน วดั บางขนุ นนท์ ทีช่ ว่ ยเอ้ือเฟื้อสถานทใ่ี นการค้นคว้าหาข้อมูลเกยี่ วกับใบเตย และยังเป็นสถานท่ีในการฝึก พัฒนาทักษะด้านการประกอบอาหาร เพอ่ื นาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั และเป็นเส้นทางการประกอบอาชีพ ต่อไป และขอขอบคุณท่านผู้อานวยการ ประภัสสร มณีมาศท่ีช่วยตรวจสอบรายงานให้มีความถูกต้อง สมบรู ณ์ ตง้ั แต่ขน้ั ตอนการคิดริเริ่มทาโครงงาน การวางแผน หาข้อมูล ลงมือปฏิบัติ ทารูปเล่ม และการ นาเสนอโครงงาน ให้เกดิ ความเรียบรอ้ ยและสมบรู ณ์แบบมากทีส่ ดุ คณะผู้จัดทา
สารบัญ 5 หน้า เรื่อง บทท่ี 1 บทนา บทที่ 2 เอกสารและแหล่งความรู้ทเ่ี ก่ียวข้อง บทที่ 3 วิธีดาเนนิ การตามโครงการ บทท่ี 4 ผลการศึกษาข้อมูล บทท่ี 5 สรุปและขอ้ เสนอแนะ บรรณานุกรม ภาคผนวก - ใบโฆษณาสินค้า - แผน่ พับ - บญั ชีรายรับ – รายจ่าย - ใบความคิดเห็น /คาแนะนาของครทู ่ปี รกึ ษา - แบบบนั ทกึ ผลการปฏิบัติงาน - ใบประเมินของผ้สู อน - ใบประเมินของผปู้ กครอง - ใบประเมินของกล่มุ เพอื่ น - ใบประเมินตนเอง - ใบขออนญุ าตผปู้ กครอง - แผ่น CD รูปภาพการเรยี นการสอนและการจดั กจิ กรรม
6 บทที่ 1 บทนา ความเปน็ มาของโครงงาน จากการเรียนในกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ เป็นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ท่ีเน้นผู้เรียนลงมือปฏิบัติ คิดวิเคราะห์ ทางานเป็น ทมี เผชญิ ประสบการณ์ตรง เรียนร้ดู ว้ ยตนเอง และไดค้ ้นพบศักยภาพของตนเอง โดยกิจกรรมเพ่ิมเวลารู้ เน้นเป้าหมายการพัฒนา 4H ประกอบด้วย การพัฒนาสมอง (Head) การพัฒนาจิตใจ (Heart) การ พัฒนาทักษะการปฏิบัติ (Hand) และการพัฒนาสุขภาพ (Health) เช่ือมโยงกับการพัฒนาทักษะการ เรยี นรูส้ าหรบั ศตวรรษท่ี 21 และพฒั นาทักษะการคิดวเิ คราะห์ เป็นการใหผ้ เู้ รียนได้เรียนรู้ด้วยการลงมือ ปฏิบัติจริง (Active Learning) โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning ) เป็นการเรียนรู้ที่ จัดประสบการณ์ในการปฏิบัติงานให้แก่ผู้เรียนเหมือนกับการทางานในชีวิตจริงอย่างมีระบบ เพื่อเปิด โอกาสให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ตรง ได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหา วิธีการหาความรู้ความจริงอย่างมี เหตุผล ไดท้ าการทดลอง ได้พิสูจน์สิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง รู้จักการวางแผนการทางาน ฝึกการเป็น ผู้นา ผตู้ าม ตลอดจนไดพ้ ฒั นากระบวนการคิดโดยเฉพาะการคดิ ขั้นสงู และการประเมินตนเอง โดยมี ครูเปน็ ผู้กระตุน้ เพ่อื นาความสนใจทีเ่ กิดจากตัวผู้เรียนมาใช้ในการทากจิ กรรมคน้ ควา้ หาความรู้ด้วยตัวเอง นาไปสู่การเพ่ิมความรู้ท่ีได้จากการลงมือปฏิบัติ การฟัง และการสังเกตจากผู้รู้ โดยผ่านกระบวนการ ทางานเปน็ กลุ่ม ทีจ่ ะนามาสู่การสรุปความร้ใู หม่ มกี ารเขียนกระบวนการจัดทาโครงงานและได้ผลการจัด กิจกรรมเป็นผลงานแบบรปู ธรรม ดงั นั้น กลมุ่ ของพวกเราจงึ มีความสนใจในการนาพชื ทีพ่ บเหน็ ได้ง่ายในทอ้ งถน่ิ มาใชใ้ นการเรียนรู้ ในการทาโครงงานทดลอง โดยการศึกษาค้นคว้าข้อมูลของการนาใบเตยที่เป็นพืชในท้องถิ่นนามาแปรรูป ใบเตยเป็นผลติ ภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อจะได้นาไปใชใ้ นประโยชน์ในชวี ติ ประจาวนั การเป็นโครงงานใส่ใจสขุ ภาพจากผลติ ภัณฑ์ใบเตย สกู่ ารนาไปใช้ประโยชน์เกี่ยวกับการลงมือปฏิบัติแปร รูปใบเตยเปน็ ผลิตภัณฑ์เพื่อสง่ เสริมทักษะการปฏิบัติ และทักษะชีวิตสู่อาชีพ ทาให้กลุ่มของพวกเราเกิด ความสนใจในการทาโครงงานเร่อื งนี้ขึน้ วัตถุประสงคข์ องการจัดทา 1) ต้องการศกึ ษาขอ้ มลู ของใบเตย พืชในชุมชน 2) เพ่ือสรา้ งผลติ ภัณฑ์จากใบเตยพืชในท้องถิน่ ด้านการนาไปใช้พัฒนาทกั ษะชีวติ สอู่ าชีพ
7 บทที่ 2 เอกสารและแหล่งความรู้ท่ีเกี่ยวขอ้ ง เอกสารทใ่ี ช้ในการศกึ ษา เอกสารทใี่ ช้ในการศกึ ษาข้อมูลได้แก่ 1. แฟม้ ขอ้ มูลเรื่อง ใบเตย 2. แผงการประมวลความรู้เกี่ยวกบั การทาผลิต เวบ็ ไซต์ ไดศ้ ึกษาเวบ็ ไซต์ ห้องสมุด และห้องคอมพวิ เตอร์ ไดแ้ ก่ เรอื่ ง 1. เตย/ใบเตย สรรพคุณ: https://www.honestdocs.co/benefits-of-pandanus 2. การปลกู ใบเตย https://www.rakbankerd.com/agriculture/page.php?id=9549&s=tblplant 3. ประโยชน์ของเตย https://www.honestdocs.co/pandan-benefits 4. การทาสบู่ใบเตย เพ่ือผิวเนียนนุม่ https://www.youtube.com/watch?v=Ua6wasyvyiA 5. การทาเทียนหอม https://www.youtube.com/watch?v=7Es3HfL8tkE 6. การทาสบู่เหลวลา้ งมือ https://www.youtube.com/watch?v=jtAcrS1D2ys 7. การทาถุงหอมสมุนไพร https://www.youtube.com/watch?v=nmcHTwEYLeo
8 ศึกษาจากภมู ิปญั ญาท้องถ่ิน 1. นางสนุ ทรี ศรสี ุข 2. นางอาภรณ์ แสงสว่าง
9 บทท่ี 3 วิธีดาเนินการตามโครงงาน จากการจัดทาโครงงานบูรณาการเร่ือง ใบเตยสร้างอาชีพ ซ่ึงมีผลต่อเน่ืองมาจากกิจกรรมลด เวลาเรยี นเพิ่มเวลารู้ และการศกึ ษาด้วยตนเอง (Active Learning) โดยใชก้ ารศึกษาในรูปแบบโครงงาน ไดด้ าเนนิ การตามขัน้ ตอนดงั น้ี ข้ันท่ี 1 เลอื กเร่ืองทนี่ า่ สนใจ เมื่อกลุ่มคณะผู้จัดทาได้ศึกษาเรื่องของใบเตย พืชในท้องถ่ิน และการแปรรูปผลผลิต จากใบเตยเพ่อื นามาพัฒนาทกั ษะในชีวิตประจาวันและสรา้ งอาชพี ต่อไปในอนาคต จึงคิดจะศึกษาเพ่ือให้ เกิดความเข้าใจย่ิงขึ้น ได้รว่ มใจกันเลือกทจี่ ะทาโครงงาน ใบเตยสร้างอาชีพ ข้ันท่ี 2 เตรียมไปหาแหล่งความรู้ ได้ไปเตรียมการหาแหล่งการเรียนรู้ ซึ่งคุณครูจัดไว้ให้ส่วนหน่ึง และจัดหาเอง นอกเหนือจากท่ีคุณครไู ว้ใหอ้ ีก เชน่ การสอบถามผเู้ ชี่ยวชาญในชมุ ชน ขั้นท่ี 3 เขา้ สูก่ ารวางแผนกอ่ น พวกเราได้คดิ จะร่างเค้าโครงของโครงงานนี้ โดยกาหนดกันว่าจะทาอย่างไรก่อนหลัง จะศกึ ษาเรอ่ื งอ่ืน ๆ ให้ครบก่อน แลว้ จงึ จะช่วยกันรวบรวบข้อมูลที่ศึกษา เช่น ชนิดของใบเตย ลักษณะ ของใบเตย สรรพคุณของใบเตย และการแปรรูปใบเตย ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ แล้วจึงเขียนร่างแผนงาน เค้าโครงโครงงาน แล้วจงึ เตรยี มอุปกรณ์และดาเนินตามแผนงานที่วางไว้ เคา้ โครงของโครงงาน 1. ชือ่ โครงงาน ใส่ใจสขุ ภาพจากผลิตภัณฑ์ใบเตย 2. คณะผู้จดั ทา โดยแบง่ นกั เรียนตั้งแต่ระดับชนั้ ป.1 ถึงนกั เรียนช้นั ป.6 ออกเป็น 4 กลุม่ จานวนเท่า ๆ กนั จานวน 17 คน 3. ที่ปรึกษาโครงงาน ครวู งษ์กัลยกร ดอกไม้ และครูเมธาวี จะระงบั 4. ระยะเวลาในการจดั ทาโครงงาน 1 ตลุ าคม 2562 - 30 พฤศจิกายน 2562 5. เหตผุ ลในการจัดทาโครงงาน 1) เพ่ือต้องการศึกษาข้อมูลของใบเตย ที่เป็นพืชในท้องถ่ิน และการพัฒนาทักษะการใช้ ชีวิตประจาวันและการสร้างอาชพี 2) ใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ 6. วตั ถปุ ระสงค์ในการจัดทาโครงงาน 1) ตอ้ งการศึกษาขอ้ มลู ของใบเตย พืชในชมุ ชน 2) เพ่ือแปรรูปเป็นอาหารจากใบเตยพชื ในท้องถ่ินดา้ นการนาไปใชพ้ ฒั นาทกั ษะชีวติ สู่อาชีพ
10 7. ข้ันตอนในการจดั ทาโครงงาน ขั้นที่ 1 เลอื กเรื่องทน่ี ่าสนใจ ขน้ั ท่ี 2 เตรยี มไปหาแหลง่ ความรู้ ขั้นท่ี 3 เข้าสู่การวางแผนก่อน ขน้ั ท่ี 4 ทาตามขน้ั ตอนอย่างสนกุ สนาน ข้ันที่ 5 เขียนรายงานอยา่ งมนั่ ใจ ขัน้ ที่ 6 นาเสนองานได้เหมาะสม 8. ผลทค่ี าดวา่ จะได้รบั 1) รู้และเขา้ ใจเรื่องของใบเตย 2) นาใบเตยมาแปรรูปเปน็ อาหารและพฒั นาทกั ษะอาชพี ได้ 9. เอกสารและแหลง่ ความรูท้ ใี่ ชใ้ นการศกึ ษา 1) แฟ้มขอ้ มูลเรือ่ ง ใบเตย 2) แผงการประมวลความรเู้ กีย่ วกบั การทาผลติ
11 ข้นั ที่ 4 ทาตามขน้ั ตอนอยา่ งสนกุ สนาน คณะผูจ้ ดั ทาไดด้ าเนินการตามขั้นตอนที่ได้กาหนดไว้ โดยไปศึกษาจากแหล่งความรู้ต่าง ๆ และ ได้เลอื กศกึ ษาตามความสนใจ ดังน้ี
12 1.1 สบู่สมนุ ไพรจากใบเตย 1.1.2 ขนั้ ตอนการเตรียมอปุ กรณ์ 1. น้าใบเตยเข้มขน้ 1 ช้อนโตะ๊ 2. กากใบเตยละเอยี ด 1 ช้อนโตะ๊ (ที่ไดจ้ ากการค้ันนา้ ใบเตย) 3. กรีเซอรีนกอ้ น 1/2 กิโลกรมั 4. น้ามนั มะพร้าว 2 ช้อนชา 5. น้าวา่ นหางจระเข้ 2 ช้อนชา 6. กลน่ิ ใบเตย 4 หยด 7. แมพ่ ิมพ์ 8. ทัพพี 9. หมอ้ 10.ถว้ ยตวง 1.1.3 ขน้ั ตอนการทาสบู่ 1. ละลายสารตง้ั ตน้ กรีเซอรีนกอ้ นให้เปน็ ของเหลว หมั่นใช้ทพั พีคนเรอ่ื ย ๆ 2. ใส่นา้ ใบเตย คนสักครู่ แล้วปดิ ไฟ ยกหมอ้ ลง 3. ใส่น้าวา่ นหางจระเข้ นา้ มันมะพร้าว 4. หยดกลน่ิ ใบเตย 5. ใส่กากใบเตย 1 ช้อนโตะ๊ 6. ตกั สบู่ลงแม่พมิ พ์ 7. รอให้สบเู่ ย็นจบั ตวั เปน็ ก้อน แล้วจงึ แกะออกจากแม่พมิ พ์ 8. น้าสบไู่ ปใช้ทาความสะอาดร่างกาย
13 1.1.4 สรรพคุณ 1. ช่วยบารงุ ผิวพรรณ 2. ช่วยใหผ้ วิ กระจ่างใส 3. ชว่ ยกระชบั รูขมุ ขนให้เลก็ ลง 1.1.5 วธิ ีใช้ ใชฟ้ อกใหท้ ่วั รา่ งกายประมาณ 5-10 นาที
14 1.2 สบเู่ หลวล้างมืออโรมา่ กลิ่นใบเตย 1.2.1 ข้นั ตอนการเตรียมอปุ กรณ์ 1. หัวเชื้อสบู่ 1 กโิ ลกรัม 2. หัวเช้ือกล่ินใบเตย 8 หยด หรอื ตามชอบ 3. น้าใบเตย 2 ถว้ ยตวง 4. นา้ ตม้ สุก 2 ถว้ ยตวง 5. กะละมงั 6. ไม้พายสาหรับกวน 1.2.3 ขน้ั ตอนการทาสบ่เู หลว 1. หัวเชื้อสบู่เทลงในกะละมัง 2. ผสมนาตม้ สุก หวั เช้ือกลิ่นใบเตย นา้ ใบเตย ใช้ไมพ้ ายกวนเนอื้ สบใู่ หเ้ ขา้ กัน 3. เสร็จแลว้ เทใส่บรรจุภณั ฑ์ 1.2.4 สรรพคณุ 1. ช่วยบารงุ ผิวพรรณ 2. ทาใหผ้ วิ เกิดความช่มุ ช้ืน 1.2.5 วธิ ีใช้ ใช้ล้างมอื เพอ่ื ทาความสะอาด
15 1.3 เทียนอโรมา่ กลิ่นใบเตย 1.3.1 ขัน้ ตอนการเตรียมอุปกรณ์ 1. พาราฟนิ 2. กล่นิ ใบเตย20หยด หรือ ตามชอบ 3. ภาชนะแมพ่ มิ พส์ าหรับใส่เทยี น แกว้ หรอื ขวดแกว้ 4. ไส้เทียน 5. ทพั พี 6. สเี ทียน 1.3.2 ข้ันตอนการทาเทียนเจลอโรมา่ 1. นาพาราฟนิ มาละลายในหมอ้ ท่ีเตรียมไว้ 2. ใส่สเี ทียน และกลน่ิ ใบเตย 3. เทน้าเทียนลงในภาชนะ หรอื แมพ่ ิมพ์ที่เตรียมไว้ 4. เม่ือเน้ือเทยี นเรม่ิ เซ็ทตวั แต่ยังไม่แขง็ ใหน้ าไส้เทยี นใสล่ งไปในแนวตงั้ แลว้ รอให้ เทียนแขง็ ตวั 1.3.3 สรรพคณุ ชว่ ยให้รู้สกึ ผ่อนคลาย หลบั สบาย 1.3.4 วธิ ใี ช้ จุดเทยี นในหอ้ งนอน หรือ หอ้ งต่าง ๆ ในบา้ น
16 1.4 ถุงหอมอโรม่ากล่ินใบเตย มะกรูด การบูร 1.4.1 ข้นั ตอนการเตรียมอปุ กรณ์ 1. ใบเตย 2. ผิวมะกรูด 3. การบูร 4. ถุงตาข่าย 1.4.2 ขนั้ ตอนการทาถงุ หอม 1. นาใบเตยและผิวมะกรดู ซอยในขนาดทพ่ี อเหมาะ 2. นาใบเตย ใบมะกรูดซอย และการบูร ใส่ถุงตาขา่ ย เป็นอนั แลว้ เสร็จ 1.4.3 สรรพคุณ 1. ช่วยดับกล่นิ อบั ชื้น 2. ชว่ ยใหร้ ูส้ กึ สดชื่น 1.4.4 วธิ ีใช้ นาไปใส่ไวใ้ นหอ้ งตา่ ง ๆ ของบา้ น หรือในตเู้ สอ้ื
17 3. ศึกษาจากภูมปิ ญั ญาท้องถ่นิ 3.1 นางสุนทรี ศรสี ขุ 3.2 นางอาภรณ์ แสงสว่าง ผลติ ภัณฑเ์ พอ่ื สุขภาพ ได้แก่ สบู่ใบเตย ถุงหอมอโรม่าใบเตย สบู่เหลวล้างมือเพ่ือสุขภาพกลิ่นอ โรม่าใบเตย เทียนหอมอโรม่ากล่ินใบเตย เพ่ือจะได้นามาใช้ประโยชน์จากการแปรรูปใบเตยเพ่ือเป็น ผลิตภัณฑ์สร้างอาชีพ และสามารถศึกษาถึงประโยชน์ของใบเตย พืชท้องถ่ินในชุมชนในเร่ืองของชนิด การขยายพนั ธ์ุ การดูแลรักษา สรรพคุณ และการแปรรูปจากใบเตย อีกท้ังยังช่วยฝึกทักษะในการนาไป สรา้ งอาชพี การแปรรปู ใบเตยเปน็ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพ่ือจะได้นาไปใช้ในประโยชน์ในชีวิตประจาวันได้อีก ด้วย เมอื่ ศึกษาแหล่งการเรียนรูต้ ่าง ๆ พรอ้ มทงั้ ไดจ้ ดบันทึกข้อมูลเก่ียวกบั ใบเตยและการนาใบเตยมา แปรรูปใบเตยเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้จัดทาชิ้นงานเช่น แผงประมวลความรู้เรื่องการทาเทียนหอม แผง ประมวลความรู้เร่ืองการทาสบู่ใบเตย แผงประมวลความรู้เรื่องการทาสบู่เหลวล้างมือ แผงประมวล ความรู้เรือ่ งการทาถงุ หอม บอร์ดนาเสนอโครงงาน แล้วจงึ นามาจดั ทาเป็นรูปเลม่ รวบรวมไวเ้ พือ่ สรุปผล ขน้ั ที่ 5 เขยี นรายงานอยา่ งมัน่ ใจ เม่ือทาการสรุปโครงงานใบเตยสร้างอาชีพ จึงนาข้อมูลน้ันมาเขียนรายงานผลการ ดาเนินงานโครงงานอย่างม่ันใจ โดยแบ่งออกเป็น 5 บท คือ นาเอกสารและแหล่งความรู้ที่เกี่ยวข้อง วิธดี าเนินการตามโครงงาน ผลการศึกษาข้อมลู สรุปและข้อเสนอแนะ ขนั้ ที่ 6 นาเสนองานได้เหมาะสม เมื่อเขียนรายงานแล้วได้นาเสนอผลงานโดย การนาเสนองานปากเปล่าและบอร์ด โครงงาน นาผลการดาเนินการมาแสดงให้ผู้อื่นได้ทราบ ได้นาช้ินงานของกลุ่มมาแสดงเป็นแผนภูมิ โครงงาน ไดร้ บั ความสนใจเป็นอยา่ งย่งิ
18 บทท่ี 4 ผลการศึกษาขอ้ มลู ตาราง ผลงานการแปรรปู อาหารจากใบเตยพชื ในทอ้ งถ่ิน แปรรูปอาหารจากใบเตย การนาไปใชใ้ นการสร้าง ทักษะเพมิ่ เติม อาชพี - มาตรส่วนชัง่ ตวงวัด 1. - การดมกลน่ิ - การประยกุ ต์ใช้ สบู่ใบเตย สมุนไพรท้องถ่ิน - การสกดั สารจากพืช - ความคิดสรา้ งสรรค์ 2. - มาตรส่วนชั่งตวงวดั - การดมกลิน่ สบู่เหลวล้างมืออโรม่า - การประยกุ ต์ใช้ กล่ินใบเตย สมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ - การสกัดสารจากพืช - ความคดิ สร้างสรรค์ 3. - มาตรส่วนช่ังตวงวดั - การดมกลน่ิ - การประยกุ ตใ์ ช้ เทียนอโรมา่ กลนิ่ ใบเตย สมนุ ไพรท้องถน่ิ - การสกดั สารจากพืช - ความคิดสร้างสรรค์ 4. - มาตรส่วนชง่ั ตวงวัด - การดมกลิ่น ถงุ หอมอโรม่ากล่ินใบเตย - การประยุกตใ์ ช้ สมุนไพรท้องถน่ิ มะกรูด การบรู - การสกัดสารจากพชื - ความคิดสรา้ งสรรค์ จากตารางได้ผลิตภัณฑ์การแปรรูอาหารจากใบเตย ได้แก่ 1) สบู่ใบเตย 2) สบู่เหลวล้างมืออ โรม่ากลนิ่ ใบเตย 3) สบู่เหลวลา้ งมอื อโรม่ากล่นิ ใบเตย 4) ถุงหอมอโรมา่ กลิน่ ใบเตย มะกรดู การบรู
19 บทท่ี 5 สรุปและข้อเสนอแนะ สรปุ ผลการจดั ทาโครงงาน การจัดทาโครงงาน ใสใ่ จสุขภาพจากผลิตภัณฑ์ใบเตย สร้างรายได้สร้างอาชีพ ได้เร่ิมจาก ความ สนใจในเรือ่ งของการทาโครงงาน และความต้องการศึกษาเรื่องราวในชุมชน จึงเลือก ใบเตย ซึ่งเป็นพืช ในชุมชนทอ้ งถ่ิน รวมถงึ ความตอ้ งการในการพัฒนาทักษะในชวี ติ ประจาวัน รวมถึงการประกอบอาชีพใน อนาคต จึงไดศ้ ึกษาข้อมลู ตามข้นั ตอน คอื 1) เลอื กเร่อื งท่นี ่าสนใจ 2) เตรยี มไปหาแหล่งความรู้ 3) เขา้ ส่กู ารวางแผนก่อน 4) ทาตามขนั้ ตอนอย่างสนุกสนาน 5)เขียนรายงานอย่างมน่ั ใจ และ 6) นาเสนองานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม โดยเกดิ ผลคือ 1) การประชมุ วางแผนงานเลือกเรอื่ งที่สนใจ ก็คือ ใบเตยกับการพัฒนาทักษะการแปร รปู ผลิตภัณฑ์จากใบเตย สรา้ งรายได้สร้างอาชพี ให้แก่ครอบครวั และชุมชนของตัวนกั เรียนเอง 2) การหาข้อมูลโดยจากการสอบถาม สัมภาษณ์วิทยาการ ผู้เช่ียวชาญในชุมชนเร่ือง ของการแปรรปู ผลติ ภัณฑจ์ ากใบเตย 3) ศึกษาขั้นตอนวิธีการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากใบเตย จากเว็บไซต์ โดยกาหนด ผลิตภัณฑ์ 4 อย่าง คือ สบู่ใบเตย สบู่เหลวล้างมืออโรม่ากล่ินใบเตย สบู่เหลวล้างมืออโรม่ากล่ินใบเตย ถงุ หอมอโรมา่ กล่นิ ใบเตย มะกรูด การบรู 4) เตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการแปรรปู ผลิตภัณฑ์จากใบเตย 5) เชญิ วทิ ยากรมาบรรยาย สาธิต และแนะนาวธิ กี ารแปรรูปผลิตภณั ฑ์จากใบเตย 6) บันทึกภาพขน้ั ตอนตา่ ง ๆ 7) ใบผ้เู ช่ียวชาญประเมนิ ผลงาน ผลติ ภัณฑ์ทั้ง 4 อยา่ ง 8) จัดทารูปเลม่ โครงงานและบอรด์ นาเสนอ 9) นาเสนอผลของการศกึ ษาค้นควา้ ครั้งนี้ ผลทไี่ ดร้ บั จากการทาโครงงาน จากการทาโครงงาน ใส่ใจสุขภาพจากผลิตภัณฑ์ใบเตย สร้างรายได้สร้างอาชีพ ในกิจกรรมลด เวลาเรียน เพิ่มเวลารู้แล้ว คณะผจู้ ัดทายงั ไดร้ ับประโยชน์ในดา้ นตา่ ง ๆ ดังนี้ 1. ดา้ นวิชาการ ได้ความรเู้ กี่ยวกับใบเตย พชื ประจาทอ้ งถน่ิ 2. ดา้ นทักษะ ได้ฝกึ ปฏิบัติการแปรรปู ผลติ ภณั ฑ์จากใบเตย 3. ดา้ นอาชพี ไดแ้ นวทางการประกอบอาชีพเพ่มิ มากขึ้น 4. ด้านการทางาน ไดร้ จู้ กั การวางแผนและทางานเป็นทมี ขอ้ เสนอแนะ ผลจากการจัดทาโครงงาน ใส่ใจสุขภาพจากผลิตภัณฑ์ใบเตย สร้างรายได้สร้างอาชีพ สามารถนาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้อย่างมากมาย เช่น 1. การนาเรอื่ งใบเตยไปเผยแพร่ให้แกค่ นในชมุ ชน หรือผ้ทู ีส่ นใจ 2. การต่อยอดผลติ ภัณฑ์หรือการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากใบเตยให้กลายเป็นอาชีพ หรือ ผลผลติ ของโรงเรยี น และชุมชน 3. การพัฒนาทักษะด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากใบเตยให้กลายเป็นอาชีพ และ ประยุกต์ใชส้ มนุ ไพรในทอ้ งถนิ่ เพ่อื ใช้ในชวี ติ ประจาวนั
20 บรรณานุกรม การทาโครงงานต้องทาอย่างไร ข้นั ตอนการจดั ทาโครงงาน : การจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน ซึ่งได้นามาประยุกต์ให้เหมาะสม กับเน้ือหาวิชา วุฒิภาวะของ นกั เรียน และสภาพแวดล้อมทโี่ รงเรยี น จงึ สามารถกาหนดข้ันตอนการจดั ทาโครงงานได้ 6 ขั้นตอน ดังน้ี ข้ันตอนท่ี 1 เลอื กเรื่องทนี่ ่าสนใจ : ข้ันตอนแรกนี้ผู้เรียนจะต้องเลือกเร่ืองท่ีเขาสนใจ โดยครูจะต้องเป็นผู้กระตุ้นหรือจัดกิจกรรมเร้าให้ผู้เรียนคิดเรื่องท่ีจะทาด้วย ความพอใจ หัวข้อของโครงงานอาจได้มาจากปัญหา คาถาม หรือความอยากรู้ อยากเห็นในเรื่องต่าง ๆ ของผู้เรียน ซ่ึงเป็นผล ไดม้ าจากการได้อ่านหนงั สอื การฟงั การบรรยาย การทัศนศกึ ษา การได้พบเหน็ สง่ิ ต่าง ๆในชีวิตประจาวัน หวั ข้อโครงงาน ควร เป็นเรอ่ื งทเ่ี ฉพาะเจาะจงและชดั เจนวา่ ทาอะไร ควรเนน้ เร่อื งท่อี ย่ใู กลต้ วั และเกิดประโยชน์ ขั้นตอนที่ 2 เตรียมไปหาแหลง่ เรียนรู้ : ในขั้นนผี้ ้สู อนจะต้องจัดเตรียมหรือช้แี นะแหล่งความรู้ต่าง ๆ ที่ผู้เรียนจะต้องใช้ค้นคว้าหาคาตอบจากเรื่องที่เขาสนใจและสงสัย อาจเปน็ ประเภทเอกสาร ผู้รหู้ รอื ผู้เชยี่ วชาญ ส่ือประเภทโสตทัศน์ วัสดุ อุปกรณ์ ต่าง ๆ ที่หลากหลาย ผู้เรียนจะต้องได้รับรู้ว่ามี แหล่งความรใู้ ดบ้าง ไดม้ องเห็นช่องทางทจี่ ะใชแ้ หล่งความรู้น้นั ๆ อย่างไรบ้าง และสามารถกาหนดแนวทางกว้าง ๆ ได้ว่าจะทา อะไร ทาอยา่ งไร ใชท้ รัพยากรอะไร เพอื่ อะไร ฯลฯ ขน้ั ตอนท่ี 3 เขา้ สู่การวางแผนกอ่ น : เมอ่ื ผู้เรยี นได้กาหนดแนวทางกว้าง ๆแล้ว จะต้องนาแนวทางน้ันมาวางแผนในการทางานว่าจะทาอะไรก่อนหล้ง โดยการสร้าง แผนท่ีความคิด แล้วนามาจัดทาเค้าโครงของโครงงาน กาหนดเป็นหัวข้อต่าง ๆ ได้แก่ ช่ือโครงงาน ชื่อผู้จัดทาโครงงาน ชื่อท่ี ปรกึ ษาโครงงาน ระยะเวลาดาเนนิ งาน เหตุผลท่จี ัดทาโครงานวตั ถปุ ระสงคข์ องการจดั ทา ข้นั ตอนการดาเนินงาน ผลท่ีคาดว่าจะ ได้รบั และแหล่งความรู้ที่ใชใ้ นการศกึ ษาค้นคว้า ขน้ั ตอนที่ 4 ทาตามขั้นตอนอย่างสนกุ สนาน : ขั้นตอนน้ีผู้เรียนจะต้องดาเนินการตามข้ันตอนที่วางไว้ โดยอยู่ในความดูแลและแนะนาของครูผู้สอน โดยผู้เรียนจะต้อง ปฏิบัติงานด้วยความรอบคอบ มีการจดบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ไว้เป็นระยะว่าทาอะไร ทาอย่างไร ได้ผลอย่างไร เมื่อมีปัญหาหรือ อุปสรรคได้แก้ไขอย่างไร ผู้เรียนควรฝึกทักษะจากกิจกรรม และแหล่งความรู้ที่หลากหลาย ตามความสนใจ เกิดการเรียนรู้ ตามลาดับขน้ั โดยการปฏิบตั จิ ริงดว้ ยตนเอง ไดส้ นกุ เพลิดเพลนิ กบั การทางาน ไดท้ างานอย่างมคี วามสขุ เกิดความภูมิใจในผลงาน ทีป่ รากฎ และสามารถนาความรนู้ นั้ ไปใช้ได้อยา่ งเหมาะสม ขน้ั ตอนที่ 5 เขียนรายงานอย่างมน่ั ใจ : การดาเนนิ การตามขนั้ ตอนน้ี เป็นการสรปุ การรายงานผลจากการปฏิบัตงิ านทผ่ี ่านมา เพ่อื ให้ผู้อื่นได้ทราบแนวคิด วิธีดาเนินงาน ผลทไ่ี ดร้ บั และขอ้ เสนอแนะต่าง ๆ ทเี่ ก่ียวกบั โครงงานการเขียนรายงานควรใช้ภาษาทเ่ี ข้าใจงา่ ย กระชับ ชัดเจน และครอบคลุม ประเด็นสาคัญ ๆ อาจกาหนดเปน็ หัวข้อต่าง ๆหรือรายบท ไดด้ งั นี้ บทนา เอกสารท่เี กี่ยวขอ้ ง การดาเนินการศกึ ษา ผลการศึกษา สรปุ และขอ้ เสนอแนะ รวมท้ังภาคผนวกท่ตี อ้ งการนาเสนอในรายละเอียดดว้ ย ขั้นตอนที่ 6 นาเสนองานได้อยา่ งเหมาะสม : นบั เปน็ ขต้ั อนสุดท้ายของการจัดทาโครงงาน เปน็ การนาผลการดาเนนิ งานท้งั หมดมาเสนอใหผ้ ู้อื่นได้ทราบ โดยเน้นความคิดริเร่ิม สร้างสรรค์ ความรับผิดชอบ อาจมีลักษณะเป็นเอกสาร รายงานช้ินงาน แบบจาลอง ฯลฯ ซึ่งสามารถนาเสนอในรูปแบบที่ หลากหลาย เชน่ การจดั นิทรรศการ การแสดง การสาธติ การบรรยาย การจดั ทาสื่อสิ่งพิมพ์ การจัดทาสอื่ มลั ติมีเดีย ฯลฯ
21 แผนภมู กิ ารจดั การเรียนรูก้ ารจดั กิจกรรมแบบ Active Learning ตามนโยบาย“ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”ู้ ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) เรื่อง พืชในทอ้ งถิน่ ทมี่ าและ การพัฒนากิจกรรมลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลารู้ เพอ่ื การเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี 21 โดยพัฒนาการจัดกิจกรรมเพิม่ เวลารู้ ความสาคัญ ให้เช่อื มโยงกับหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 มแี นวทางในการจัดกจิ กรรมโดยยดึ 7 หลักการสาคญั ไดแ้ ก่ 1. การเชื่อมโยงมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวดั ตามหลกั สูตร 2. เนน้ การพฒั นา 4H (Head พัฒนาสมอง การคิดวเิ คราะห์ Heart พัฒนาจิตใจ Hand พฒั นาทักษะการปฏิบัติ และ Health พัฒนาสุขภาพ) 3. กิจกรรมทจี่ ดั ใหน้ ักเรยี นไดเ้ รยี นรูอ้ ย่างมคี วามสขุ ตอบสนองความสนใจ และความถนดั 4. เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นไดว้ างแผนเกิดทกั ษะการคิดขัน้ สูง 5. มกี ารทางานเป็นทมี ช่วยเหลือซงึ่ กนั และกัน มีความสามคั คี และเรยี นรคู้ วามเป็นผนู้ าผ้ตู ามท่ีดี 6. มีการใช้แหล่งเรียนรู้ ภูมิปญั ญาท้องถิ่น และการใชเ้ ทคโนโลยี 7. ประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ เนน้ การประเมินการปฏบิ ัตแิ ละคุณลกั ษณะ แนวคิด -การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้แบบ Active learning -การจัดกิจกรรมการเรยี นร้แู บบบูรณาการ -กจิ กรรมลดเวลาเรยี น / เพ่มิ เวลารู้(4H) -การเรียนร้โู ดยใช้โครงงานเปน็ ฐาน (Project-Based Learning) วิธีการ 1.การจัดกจิ กรรมแบบ Active Learning โดยผา่ นการเรยี นรูโ้ ดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project- Based Learning) ตามนโยบาย“ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลา รู้” 2.ศึกษาความคิดเห็นของนักเรยี นท่มี ีต่อรปู แบบการเรียนรทู้ แ่ี บบ Active Learning โดยใช้ โครงงานเปน็ ฐาน (Project-Based Learning)ทีบ่ ูรณาการแหล่งเรยี นรู้ของพืชในท้องถน่ิ ผลความสาเรจ็ 1.การพฒั นา 4 H (Head, Heart ,Hand, Health) 2.ความคิดเห็นของนกั เรียนท่ีมตี อ่ รูปแบบการเรยี นรู้ทแ่ี บบ Active Learning โดยใชโ้ ครงงานเปน็ ฐาน (Project-Based Learning) ที่บูรณาการแหล่งเรียนรขู้ องพืชในท้องถ่ิน การพฒั นาสตปิ ัญญา การพฒั นาจิตใจ การพัฒนาทกั ษะการปฏบิ ัติ พัฒนาสขุ ภาพ (Head) (Heart) ทกั ษะชีวติ (Hand) (Health) โครงงานศึกษาใบเตยพชื ใน โครงงานปลกู ฝงั จติ ใจทดี่ ี โครงงานสร้างงานสรา้ ง โครงงานใส่ใจสุขภาพจาก ท้องถิน่ สนู่ วัตกรรมงาน งามด้วยประดิษฐด์ อกไม้ อาชพี ด้วยการแปรรปู ผลิตภณั ฑจ์ ากใบเตย เขยี นนทิ านหนา้ เดยี ว จากใบเตย อาหารจากใบเตย
22 ภาคผนวก
23
24
25
26
27
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: