Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 03ธรรมชาติของโรคในช่องปาก

03ธรรมชาติของโรคในช่องปาก

Published by santipong8, 2020-04-05 04:54:51

Description: 03ธรรมชาติของโรคในช่องปาก

Search

Read the Text Version

ธรรมชาตขิ องโรคในช่องปาก การดูแลสุขภาพชอ่ งปาก การเลือกอาหารทไ่ี ม่เสยี่ งต่อโรคฟันผุ และความเชื่อทศั นคตทิ ่ีถกู ตอ้ ง ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร. ปิยะฉตั ร พชั รานุฉัตร สาขาวิชาทนั ตกรรมปอ้ งกนั คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่

รายวชิ า564 504 ทันตกรรมโรงเรยี น นักศกึ ษาทนั ตแพทย์ชนั้ ปีที่ 5 มหาวิทยาลัยขอนแก่น โครงการ ครูรู้ภยั นกั เรียนไกลโรค

School dental program

โดยปกติคนเรามฟี ันสองชดุ : ฟันนา้ นม และ ฟนั แท้ 1. ฟันน้ำนม จำนวน 20 ซี่ แบ่งเป็ นฟันบน 10 ซ่ีและฟันลำ่ ง 10 ซี่ เรมิ่ ข้ึนเม่ืออำยปุ ระมำณ 6 เดือน  ข้ึนครบเม่ืออำยปุ ระมำณ 2 ½ ขวบ

2. ฟันแท้ มที ้งั หมด 32 ซ่ี ฟันบน 16 ซ่ี ฟันล่าง16 ซ่ี ฟันแท้ซ่ีแรกในช่องปาก จะขนึ้ ตอนอายุประมาณ 6-7 ปี ขนึ้ ครบ 28 ซ่ี เมื่ออายุ 12 ปี ฟันซ่ีทเี่ หลือ คือฟันกรามซี่สุดท้าย 4 ซ่ีจะขนึ้ มาในช่วงอายุ 18-25ปี (แต่ถ้าไม่ขนึ้ มากจ็ ะกลายเป็ นฟันคุด)



ฟนั แทซ้ ่ีแรกท่ีข้ึนในช่องปากคอื ฟนั กรามแทซ้ ท่ี ี่ 1 ซ่งึ จะมี 4 ซ่ี อยู่ที่ 4 ดา้ นของฟนั ในขากรรไกร โดยจะข้นึ มาทางด้านหลงั ของฟนั กรามนา้ นมซี่สดุ ทา้ ย

ความแตกต่างระหว่างฟันแท้กับฟนั นา้ นม  ขนาด ฟันแทม้ ีรูปร่างขนาดใหญก่ ว่าฟันนา้ นม  สี ฟนั นา้ นมสีขาว ฟันแทจ้ ะสขี าวอมเหลือง  คอฟัน ฟนั นา้ นมคอฟันคอดมากกวา่ ฟันแท้  รากฟนั รากฟนั น้านมจะหา่ งและกางออกมากกวา่ ฟนั แท้



ธรรมชาตขิ องโรคในช่องปาก โรคสาคัญในชอ่ งปาก o โรคฟันผุ o โรคเหงือกอักเสบ

ผลสารวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาตคิ รง้ั ท่ี 8 พ.ศ.2560 • เด็กวัยเรยี น อายุ 12ปี • พฤตกิ รรมสุขภาพช่องปาก ไม่เคยแปรงฟันหลงั อาหารกลางวัน 55.3% ฟนั ผุ 52.0% บริโภคนา้ อดั ลม 1 – 3 วนั /สัปดาห์ 57.4% โรคเหงือกอักเสบ 66.3% ประสบการณฟ์ นั ผุ อดุ ถอนเฉลย่ี 1.4ซ/่ี คน บริโภคขนมกรุบกรอบทุกวนั 32.6% ข้อมลู โดย สานักทนั ตสาธารณสขุ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ

โรคฟนั ผุ

กาเนดิ ฟนั ผุ เช้อื แบคทเี รยี นา้ ตาลในอาหาร เวลา



ลักษณะฟันผุเบ้อื งต้น 1.การปลี่ยนสีท่ีเกดิ ขนึ้ คือถ้าผไุ มม่ ากสนี ้าตาลอ่อน อาจจะยงั ไม่ตอ้ งอดุ แต่ถา้ ผรุ นุ แรงขึ้นจะมสี ีน้าตาล เขม้ ขนึ้ จาเปน็ ตอ้ งอุดฟนั 2.ลักษณะความทึบ คือฟันปกติจะมีสีใส แต่ถ้าเกิดฟันผุจะมคี วามทึบขาวขุ่นมากข้นึ 3.ความหยาบของพนื้ ผิวฟัน จะรูส้ ึกว่าพื้นผิวของฟันผุจะไม่เรยี บ มคี วามขรขุ ระ 4.โพรงฟนั คอื ถ้าพบ 3 อย่างแลว้ ยังดแู ลฟันไดไ้ ม่ดี หรือไม่ไปพบทนั ตแพทย์ จะทาให้เกดิ โพรงฟนั ได้

ลกั ษณะ รปู ภาพ ฟนั ปกติ เม่อื ฟันเปียกนำ้ จะมีลกั ษณะใส ฟนั ผุระยะเริม่ ตน้ จะเห็นฟันเป็นสขี ำวขุ่น ฟนั ผุ เกดิ โพรงเล็กๆบนฟัน ฟันผุขนำดใหญ่

โรคเหงือกอกั เสบ

เหงอื กท่มี สี ุขภาพดี • อยู่เตม็ ระหว่างช่องฟนั • เหงอื กท่ีแขง็ แรงจะมีความกระชบั และไม่มีเลือดออก

เหงอื กอักเสบระยะเรมิ่ ตน้ • เหงือกจะบวมเปน็ ลอนๆบรเิ วณเคลอื บไรฟัน • เค้ยี วอาหารหรอื ขยับปากยม้ิ จะมีเลือดออก • มกี ล่ินปาก

สาเหตขุ องการเกิดโรคเหงอื กอักเสบ แผน่ คราบจุลินทรีย์ Bacterial plaque

กาเนดิ หินปนู Credit by: https://www.vudhibhong.dentist/กำเนิดหินปนู -3/  แรกเริ่มสุดเลย คือฟันจะมีแผ่นฟิ ล์มบาง ๆ ซ่ึงเป็ นโปรตนี จากนา้ ลายเคลือบอยู่ เรียกว่า ไบโอฟิ ล์ม (Biofilm)  เม่ือเวลาผ่านไป แบคทีเรียในช่องปากจะมาเกาะกล่มุ กนั ซ่ึงถ้ามนี า้ ตาลจากอาหารด้วย มนั จะใช้นา้ ตาลเป็ นอาหาร และแบ่งจานวนมากขนึ้ เรื่อย ๆ จนเป็ นแผ่นหนา เรียกว่า ขฟี้ ัน หรือคราบจุลนิ ทรีย์  ในช่วงนีเ้ อง ภายใน 24 ช่ัวโมง ถ้าเราแปรงฟันและใช้ไหมขดั ฟันจนสะอาด เราจะปลอดภยั จากโรคฟันผุ / โรคเหงือกอกั เสบ  แต่ถ้าพ้น 24 ชม.ไปแล้ว คราบจุลนิ ทรีย์ทีค่ ้างอยู่บนฟัน จะมตี ะกอนแร่ธาตุจากนา้ ลายมาตกตะกอนแขง็ ตวั ขนึ้ เป็ นหินปูน  บริเวณที่พบหนิ ปูนมากจงึ มักอยู่ตรงบริเวณฟันหน้าล่างใต้ลนิ้ และฟันกรามบนตรงที่ตดิ กระพ้งุ แก้ม เพราะ 2 บริเวณนีอ้ ยู่ตดิ กบั รูเปิ ดของท่อ นา้ ลายพอดี แร่ธาตุในนา้ ลายจงึ สะสมบริเวณนีไ้ ด้มากสุด  หนิ ปูนมีลกั ษณะเป็ นรูพรุนและมแี บคทีเรียอยู่จานวนมาก มนั จะขบั สารพษิ ออกมาทาลายเหงือก ทาให้เหงือกอ่อนแอ บวม นิ่ม แดงช้า และ เลือดออกง่าย  หนิ ปูนท่ขี ยายขนาดใหญ่ขนึ้ จะทาลายเหงือกจนเหงือกร่นลง เกดิ เป็ นรูโหว่ระหว่างซี่ฟัน และเริ่มต้นทาลายกระดูกท่ีหุ้มรากฟัน  เมื่อกระดูกหุ้มรอบ ๆ รากฟันถูกทาลายลง ฟันจะเริ่มโยกคลอน และเม่ือถงึ ท่ีสุด เราจะเสียฟันซี่น้ัน ๆ ไป

การดูแลสขุ ภาพชอ่ งปาก o ดแู ลควำมสะอำด o เลอื กอำหำรไม่เสยี่ งฟันผุ o ตรวจฟนั ทุก 6 เดือน

การดูแลสขุ ภาพช่องปาก

วธิ กี ารป้องกัน และรักษาโรคเหงือกอักเสบ  โรคเหงือกอกั เสบในระยะเร่ิมตน้ สามารถรักษาได้โดย การแปรงฟันและใช้ไหมขดั ฟนั ทถ่ี กู วิธี ซึง่ จะชว่ ยป้องกันไมใ่ ห้มีคราบจลุ นิ ทรยี เ์ กดิ ขนึ้  โรคเหงอื กอกั เสบในระยะรุนแรง ควรพบทนั ตแพทย์เพือ่ ขดู หนิ น้าลาย เกลารากฟนั

เหนยี วตดิ ฟนั อมนาน หวาน ซา่ ส์

อาหารที่ไมเ่ สี่ยงตอ่ โรคฟนั ผุ

อาหารที่ไมเ่ สี่ยงตอ่ โรคฟนั ผุ

นโยบายและการจัดการอาหารในโรงเรยี น  ไม่มงุ่ ที่การป้องกนั ฟนั ผุอย่างเดยี ว ควรพัฒนาโครงการด้านอาหารและสุขภาพแบบองค์รวม  มงุ่ เนน้ เกี่ยวกับอทิ ธพิ ลของสงั คม และสงิ่ แวดลอ้ มทางกายภาพ ที่เกีย่ วขอ้ งกบั สุขภาพ  กรอบแนวคิดของโรงเรยี นสง่ เสริมสุขภาพ ได้เน้นพัฒนานโยบายและกิจกรรมมงุ่ ส่งเสรมิ สขุ ภาพ และ ความเป็นอยู่ทีด่ ขี องนักเรยี น ครู และการมีส่วนรว่ มของชมุ ชนมากขนึ้  โรงเรียนสง่ เสริมสุขภาพมลี กั ษณะทีเ่ พมิ่ ศักยภาพ ของการจัดระเบียบความเปน็ อยทู่ ี่เออ้ื ต่อสุขภาพ ได้ อยา่ งกว้างขวาง ทง้ั การเรียน และการทางาน

รายการ สามญั ชนคนไทย ตอน“เดก็ ไทยกนิ อะไร” ออกอากาศ ThaiPBS 17ตค58 https://www.youtube.com/watch?v=8lh7vgPaHbU

ความเช่อื เร่อื งปากและฟนั Credit: ฟนั สวยฟา้ ผ่า คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์

ความเช่อื เรื่องปากและฟนั

ความเช่ือที่ผดิ เรื่องปากและฟนั “ เด็กกินขนมหวานเป็นเรอ่ื งปกติ เพราะฉะน้ันเป็ นเรื่องธรรมดาทเ่ี ดก็ ทุกคนต้องฟันผุ ” “ถอนฟันทาให้ประสาทเสีย” “กนิ หมาก มหี ินปูนทาให้ฟันแน่นแขง็ แรง” ---------------------------------------------------------------------------------- “มลี กู 1 คน ต้องเสียฟัน 1 ซ่ี” “ ฟันเตยี้ ส้ัน คือฟันทีแ่ ขง็ แรง ” “ คนผมหงอกเร็วฟันจะทน คนผมหงอกช้าฟันจะร่วงเร็ว” “ ฟันคนเราหลุดร่วงตามอายุขยั ”

ความเช่อื เรื่องปากและฟนั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook