สถานการณโ์ รคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มาตรการสาธารณสุข และปญั หาอุปสรรคการปอ้ งกนั ควบคมุ โรคในผู้เดนิ ทาง 1. สถานการณท์ วั่ โลก งานโรคติดต่ออุบัตใิ หม่ กลุม่ พัฒนาวชิ าการโรคตดิ ต่อ 18 สิงหาคม 2564 การระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้เริ่มต้นขนึ้ ในเดือนธนั วาคม พ.ศ. 2562 โดยพบครัง้ แรกในนครอฮู่ ั่น เมอื งหลวงของมณฑลหูเป่ย์ สาธารณรัฐ ประชาชนจีน ซ่งึ เป็นเมอื งท่มี ปี ระชากร มากท่ีสดุ ในภาคกลางของประเทศจนี กวา่ 19 ล้านคน วนั ที่ 30 ธนั วาคม 2562 สานกั งานสาธารณสขุ เมอื งอฮู่ น่ั มณฑลหูเป่ย์ ไดอ้ อกประกาศเปน็ ทางการ พบโรคปอดอกั เสบไมท่ ราบสาเหตุ ซึ่งมีความเก่ยี วข้องกับตลาด อาหารทะเลท่เี มอื งอูฮ่ น่ั โดยสาเหตุที่เป็นไปไดม้ ากที่สุดในการตดิ ตอ่ สู่คน คือการสัมผัสกบั เน้ือสัตวป์ ระเภทตา่ งๆ ทีว่ างขายในตลาด และเน่ืองจากเมืองอู่ฮัน่ เป็นเมืองใหญ่ท่ีมปี ระชาชนอยู่หนาแน่น จึงทาใหก้ ารระบาด แพรก่ ระจายไปอย่างรวดเรว็ มีผปู้ ว่ ยหนักและผูเ้ สยี ชวี ิตจานวนมาก หลงั จากพบการระบาดของเชอ้ื ไวรสั สายพนั ธ์ุ ใหมใ่ นเมืองอู่ฮน่ั ประเทศจีนและองค์การอนามัยโลก ได้ออกมาระบุว่า ไวรัสชนิดดังกลา่ ว คือ SARS-CoV-2 เรียกว่า COVID-19(ยอ่ มาจาก CO แทน corona,VI แทน virus,D แทน diseaseและ 19แทน 2019) ตามการประกาศ ชือ่ อย่างเป็นทางการที่ใช้เรยี ก โรคทางเดินหายใจท่ีเกดิ จากไวรัสโคโรนาสายพนั ธุใ์ หม่ 2019 ขององค์การ อนามยั โลก และพบการแพรเ่ ช้อื จากคนส่คู น ผา่ นละอองฝอยขนาดเล็ก (aerosol) องค์การอนามัยโลก (WHO) ไดป้ ระกาศให้การระบาดนีเ้ ป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern – PHEIC) ในวนั ท่ี 30 มกราคม 2563 ต่อมาได้พบผปู้ ว่ ยยืนยนั ในหลายประเทศ ทั่วโลก วนั ท่ี 11 มีนาคม 2563 องคก์ ารอนามัยโลกประกาศโรค COVID-19 ระบาดใหญ่ (Coronavirus Pandemic) มจี านวนผู้ป่วยเพ่ิมขึ้นนอกเหนอื จากประเทศจีนเป็นจานวนมากอยา่ งรวดเร็ว เชน่ เกาหลใี ต้ อิตาลี อิหร่าน สเปน ฝร่ังเศส พบผู้ปว่ ยรายใหมท่ ่ัวโลกเพิม่ ข้ึนวันละประมาณ 3,000-4,000 ราย มีผเู้ สียชีวิต เพิม่ ขึ้นวันละประมาณ 200-300 ราย อตั ราการเสียชวี ติ จากโรคประมาณร้อยละ 3.5 กล่มุ ผู้ปว่ ยทม่ี ีอาการ รุนแรงส่วนมากเปน็ ผู้สูงอายุ ผู้สูบบุหร่ี และผู้ที่มโี รคประจาตัว เชน่ โรคหวั ใจ โรคเบาหวานซ่งึ ยโุ รป (อติ าลี ฝรงั่ เศส อังกฤษ สเปน เป็นตน้ ) สหรัฐอเมริกา ลาตินอเมริกา (บราซิล) รัสเซยี อินเดยี แอฟริกาใต้ ไดท้ ยอย เปน็ ศนู ย์กลาง การระบาดและเปน็ พืน้ ท่ีระบาดต่อเนอ่ื งหรือระลอกใหม่ ซง่ึ พบว่าการเกิดวิกฤตกิ ลายพันธุ์ ของเชื้อโควิด 19 เปน็ สาเหตุของการแพร่กระจายทรี่ วดเรว็ มากขึน้ ข้อมูลวันท่ี 20 กุมภาพันธ์ 2564 (ที่มา : worldometer) สถานการณ์โรคโควดิ 19 ท่ัวโลก รายงานผปู้ ว่ ยสะสมท้ังส้ิน 111,218,170 ราย เสยี ชวี ติ 2,462,186 ราย และหายป่วย 86,086,551 ราย ตดิ เชื้อโควิด-19 มากที่สุด 10 อนั ดับแรก ได้แก่ สหรฐั ฯ อินเดยี บราซิล รัสเซยี สหราชอาณาจกั รฝร่ังเศส สเปน อิตาลี ตรุ กี และ เยอรมนี 1
2. สถานการณ์ในประเทศไทย สาหรับประเทศไทย จากสถานการณ์การระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ไดร้ ะบาดไปทั่ว โลก กรมควบคุมโรค ได้เปดิ ศูนยป์ ฏบิ ตั กิ ารภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operation Center: EOC) ตั้งแต่ 4 มกราคม ๒๕๖๓ เพื่อตอบโต้การระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 และเรม่ิ คัดกรองหาผู้ตดิ เช้ือท่ีชอ่ ง ทางเข้าออกประเทศ ประเทศไทย พบผ้ตู ิดเชือ้ รายแรกเป็นนักท่องเทีย่ วจนี ที่เดนิ ทางเข้าประเทศไทยเมอ่ื วันท่ี ๑๒ มกราคม ๒๕๖๓ ภายในเวลา ๒ สัปดาห์ และเม่ือวนั ที่ 31 มกราคม พ.ศ.2563 ประเทศไทยมรี ายงาน ผู้ป่วยชาวไทยรายแรก อาชพี ขบั รถแทก็ ซี่ ซ่ึงไมเ่ คยมีประวัตเิ ดินทางไปตา่ งประเทศ แตม่ ปี ระวัติขับรถแท็กซี่ ให้บรกิ ารกับผ้ปู ่วยชาวจนี ในระยะต่อมาจานวนผูป้ ว่ ยไดเ้ พิม่ ขึ้นต่อเนื่องอย่างช้า ๆ ทงั้ ผู้ปว่ ยทีเ่ ดนิ ทางมาจาก ต่างประเทศ และผู้ป่วยท่ีตดิ เช้อื ภายในประเทศ กระทรวงสาธารณสขุ จึงได้ออกประกาศใน ราชกิจจานเุ บกษา โดยมีผล บังคับใช้ตัง้ แตว่ นั ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2563 กาหนดให้โรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID - 19 เป็น โรคติดตอ่ อันตราย ลาดับท่ี 14 ตามพระราชบญั ญัตโิ รคตดิ ต่อ พ.ศ. 2558 เพ่อื ประโยชนใ์ นการเฝา้ ระวงั ป้องกัน และควบคมุ โรคตดิ ต่ออันตราย ในระยะต่อมาไดพ้ บการแพร่ระบาดใหญ่ โดยเปน็ การติดเชือ้ เป็นกลุ่ม ก้อน (Cluster) คือ การแพรร่ ะบาดในสนามมวย และสถานบนั เทงิ ในพน้ื ท่ีกรุงเทพมหานคร ซ่งึ เปน็ พนื้ ที่ท่มี ี การรวมกลมุ่ คนจานวนมากและมีความแออัด ประกอบกับในระยะดงั กล่าวมกี ารประกาศปิดเมืองในพื้นท่ี กรุงเทพมหานคร เกิดการเคลอื่ นยา้ ยของประชากรออกไปยงั จงั หวัดต่าง ๆ ทาใหผ้ ้สู มั ผัสเชือ้ กระจายออกไปยงั ต่างจังหวัด จนทาให้ยอดผู้ตดิ เชือ้ ของประเทศไทยเพิ่มข้ึนอย่างรวดเรว็ ต้ังแต่กลางเดอื นมนี าคม เป็นต้นมา เป็นเหตใุ ห้รัฐบาลต้องยกระดบั การบริการจดั การสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรค COVID-19 ในประเทศ ไทย ใหอ้ ยู่ในวงจากดั โดยสงั่ การให้ส่วนราชการ รัฐวสิ าหกิจ และหนว่ ยงานของรฐั ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกนั ภายใน ขอบเขตอานาจหนา้ ท่ี ตามกฎหมาย และจดั ตั้งศูนย์บรหิ ารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัส โคโรนา 2019 (ศบค.) เมอ่ื วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2563 การยกระดบั มาตรการในการเฝา้ ระวงั และควบคุม การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขไดก้ าหนดมาตรการเร่งดว่ นในการป้องกนั วิกฤตการณ์ จากโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะรฐั มนตรี และขอให้สว่ น ราชการ หนว่ ยงานของรัฐ และเอกชนทุกแห่งดาเนินการตามมาตรการดังกลา่ วให้เกิดผลอย่างเป็นรปู ธรรม โดยมาตรการดังกล่าว แบง่ ออกเป็น 2 มาตรการสาคญั ประกอบดว้ ย 1) การป้องกนั และสกัดก้ันการนาเชื้อ เขา้ สู่ประเทศไทย 2) การยับย้ังการระบาดภายในประเทศกระทรวงสาธารณสขุ หลังจากมีการออกประกาศ ตา่ ง ๆ ประเทศไทยพบจานวนผตู้ ดิ เชื้อลดลงอยา่ งเห็นได้ชัด โดยในช่วงเดอื นพฤษภาคมเปน็ ต้นมา ผ้ตู ิดเชือ้ ท่ี พบสว่ นใหญ่เป็น ผทู้ ่เี ดินทางกลบั มาจากต่างประเทศและอยใู่ นสถานที่กกั กนั เพื่อสงั เกตอาการ วนั ท่ี 20 กมุ ภาพันธ์ 2564 ประเทศไทยมผี ูต้ ิดเชือ้ ยืนยันสะสมทัง้ สิ้น 25,323 ราย เป็นการติดเช้ือ ระลอกใหม่ 21,086 ราย โดยผูต้ ดิ เช้ือรายใหม่ในวันนี้มจี านวน 82 ราย เปน็ การติดเช้ือในประเทศ 71 ราย คดั กรองผูท้ ่ีเดนิ ทางเข้า-ออกระหวา่ งประเทศ 4,235 ราย ผ้เู ดนิ ทางทเี่ ฝ้าระวงั อาการ ณ พนื้ ท่กี ักกันแห่งรัฐ 81,676 ราย โดยยังคงพบผู้ติดเชอื้ จากการค้นหาเชิงรุกในชมุ ชนและผู้ปว่ ยทเี่ ข้ามาตรวจใน สถานพยาบาล อย่างต่อเนอ่ื ง จงึ ขอความรว่ มมือประชาชนและผูด้ ูแลสถานประกอบการโดยเฉพาะในพืน้ ทท่ี ีย่ ังคงพบผตู้ ิดเชื้อ อย่างต่อเน่ืองในการปฏบิ ัตติ ามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะการสวมใส่หน้ากากอนามัย 2
ล้างมือบ่อยๆ ลดการเดินทางทไ่ี ม่จาเป็น หลีกเลี่ยงสถานท่ีเสีย่ งท่ีมีคนรวมกันอยูอ่ ยา่ งแออัด สแกนไทยชนะ หรอื ใชห้ มอชนะ เฝ้าระวงั สังเกต อาการเปน็ เวลา 14 วัน หลังไปตลาดท่มี ีรายงานผูต้ ดิ เช้ือและหากมีอาการไข้ ไอเจ็บคอ มีน้ามกู หรอื จมูกไม่รับกลิน่ ลนิ้ ไม่ รบั รสให้รบี พบแพทย์และเปิดเผยประวตั ิการเดินทางใหม้ ากที่สุด เทา่ ทจ่ี ะทาได้ เมอื่ วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2563 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และการท่าอากาศยาน สวุ รรณภมู ไิ ดเ้ ร่มิ ต้ังจุดคัดกรองพเิ ศษสาหรบั ผโู้ ดยสารทเี่ ดนิ ทางจากเมอื งอฮู่ ั่น ประเทศจีน ซ่งึ มีสามเทยี่ วบนิ ต่อ วนั บริเวณหนา้ ประตูเทยี บเครื่องบินเพ่ือตรวจหาผู้ท่ีมีไขส้ งู และอาการระบบทางเดนิ หายใจเฉียบพลันเพ่ือ ปอ้ งกนั การแพรร่ ะบาดของโรคทขี่ ณะนน้ั รู้จกั กนั แต่เพยี งวา่ เป็นโรคปอดอกั เสบปริศนาในเส้นทางท่บี นิ ตรงมา จากเมอื งอู่ฮ่นั ประเทศจนี ณ ท่าอากาศยานสวุ รรณภมู ิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่และ ท่าอากาศยานภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 3 – 10 มกราคม 2563 จานวน 43 เทยี่ วบนิ ต่อมาสนามบนิ ต่างๆ จงึ เรมิ่ มี การตรวจพบผู้ป่วยได้ ซึ่งตรวจพบผ้โู ดยสาร/ผปู้ ่วยตอ้ งสงสัยไดม้ ากทีส่ ุดทท่ี า่ อากาศยานสวุ รรณภมู ิ และมกี าร ขยายพื้นทเี่ ฝ้าระวังเพ่มิ อีกหลายจุด ไม่ได้อยเู่ ฉพาะท่ีประตเู ทียบเครื่องบนิ เท่าน้นั จนถงึ ปจั จุบนั ได้มกี ารคัด กรองท่ดี ่านโรคติดต่อระหวา่ งประเทศ (ทางอากาศ ทางบกและทางเรอื ) ถึง 7,835,146 ราย และพบผู้ป่วย ตอ้ งสงสยั 2,690 ราย (ข้อมูล ณ วันท่ี 20 กุมภาพนั ธ์ 2564) ตลอดปี 2563 ประเทศไทยอนุญาตให้คนไทยที่ตกคา้ งจากต่างประเทศ สามารถเดนิ ทางกลับเข้า ในประเทศไทยได้ ซ่งึ สถานการณท์ ั่วโลกยังคงมีการระบาดอยา่ งต่อเนือ่ ง ท้งั นพี้ บการกลายพันธข์ องเชอ้ื อกี ทั้ง การประกาศใช้วัคซนี จากหลายประเทศ เพ่ิงได้รเิ รมิ่ ให้มีการฉีดวคั ซีนในบางประเทศ สาหรับประเทศไทยยัง ไม่ได้มีการให้บริการวัคซนี ป้องกันโรคโควิด -19 แต่ได้เตรียมแผนในการจัดหาวัคซีนสาหรบั ประชาชน ในประเทศ ทั้งนี้ ยงั พบวา่ มผี ู้เดินทางเข้าออกประเทศทางท่าอากาศยานอย่างต่อเนือ่ ง ซึ่งอาจจะทาใหเ้ กิด การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ได้ โดยเฉพาะพืน้ ทที่ ่าอากาศยาน สนามบนิ นานาชาติท่เี ป็น แหลง่ ทอ่ งเที่ยว ประกอบด้วย 6 จังหวดั ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสุราษฎรธ์ านี จงั หวัด กระบี่ จังหวัดชลบุรี และจงั หวัดสมทุ รปราการ จึงเห็นความสาคัญในการจัดทามาตรการ หรือ คาแนะนา สาหรับผเู้ ดินทาง 3. มาตรการท่ีสาคัญสาหรับผเู้ ดนิ ทาง มีเอกสารหรือหลักฐานในการเดนิ ทาง เช่น หนงั สือขออนุญาตข้ามจงั หวดั การลงทะเบียนในการเขา้ - ออกจังหวดั พน้ื ท่ีควบคมุ สงู สุดและเข้มงวด พื้นท่คี วบคุมสงู สดุ และพ้นื ท่ีควบคุม ปฏบิ ัติตามมาตรการ DMHTT อย่างเคร่งครัด - D: Social Distancing เวน้ ระยะห่าง 1-2 เมตร เล่ยี งการอยู่ในทแ่ี ออดั - M: Mask Wearing สวมหนา้ กากผ้าหรือหนา้ กากอนามยั ตลอดเวลา - H: Hand washing ลา้ งมอื บ่อยๆ ด้วยน้าและสบหู่ รอื เจลแอลกอฮอล์ - T: Testing การตรวจวัดอุณหภูมิและตรวจหาเชือ้ โควดิ 19 - T:Thai Cha Na สแกนไทยชนะก่อนเขา้ -ออกสถานที่สาธารณะทุกคร้ัง หากเดินทางมาจากพื้นทเ่ี สี่ยง ใหแ้ จ้งเจา้ หน้าที่ อสม. และกกั ตวั อย่ทู พี่ านักเปน็ เวลา 14 วัน ปฏิบัติตามทคี่ ณะกรรมการโรคติดตอ่ จงั หวดั ประกาศอยา่ งเครง่ ครดั 3
ข้อมลู จาก: องค์การอนามยั โลก กรมควบคมุ โรค,กองโรคตดิ ต่อทว่ั ไป, กองระบาดวิทยา 4
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: