หนว่ ยที่ 8 อินเตอรเ์ น็ตและการใชบ้ รกิ ารบนอนิ เตอร์เน็ต1. ความหมายของอนิ เตอรเ์ นต็ อินเทอร์เน็ต คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ท่ีเช่ือมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าด้วยกนั มาจากคาวา่ Inter Connection Network หรือ เรียกอีกอย่างหน่ึงวา่ ไซเบอร์สเปซ (Cyberspace)2. ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ต 2.1 สามารถตดิ ต่อส่ือสารกับบคุ คลอื่นทว่ั โลก 2.2 สามารถค้นหาข้อมูลต่างๆได้เสมือนกับเราไปน่ังอยู่ท่ีห้องสมุดขนาดใหญ่ได้ข้อมูลมากมายจากทั่วทุกมุมโลก 2.3 เปรียบเสมือนเวที่ให้เข้าไปแสดงความคิดเหน็ ไดภ้ ายในห้องสนทนา(chat room) และกระดานข่าว(Web room) เป็นการเปิดโลกกว้างและวิสัยทศั นใ์ นเร่ืองท่ีนา่ สนใจ 2.4 สามารถตดิ ตามเคล่อื นไหวจากข่าวสารทวั่ โลกอย่างรวดเรว็ 2.5 สามารถเปดิ การค้าได้ด้วยตวั เอง โดยไมต่ ้องหาทีจ่ ัดต้งั ร้านหรือพนักงานบริการ แต่สามารถทาการค้าได้ด้วยตัวเองคนเดยี ว 2.6 สามารถซ้ือสินค้า โดยไม่ต้องเดินทางไปยังร้านค้า ซ้ือผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการ การชาระเงินกส็ ะดวก เช่น ชาระผา่ นบัตรเครดติ การหกั เงินผ่านบญั ชีธนาคาร 2.7 สามารถรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(E-mail) เป็นการส่งจดหมายท่ีไม่ต้องเสียค่าบริการและรับส่งจดหมายได้ภายในและภายนอกประเทศ นอกจากจดหมายทีเ่ ป็นข้อความแล้ว ยังส่งบัตรอวยพรในเทศการตา่ งๆได้อีก 2.8 สามารถอ่านนิตยสาร หนงั สือพมิ พ์ บทความ และเร่อื งราวต่างๆได้ฟรีเหมือนกบั เราซ้ือหนังสือฉบบั นั้นมาอ่านเอง 2.9 สามารถติดประกาศข้อความต่างๆท่ีต้องการประกาศให้ผู้อื่นทราบได้ เช่น ประกาศขายบ้านประกาศสมัครงาน ประกาศขอความช่วยเหลือ 2.10มีของฟรีอีกมากมายท่ีสามารถใช้บริการได้จากอินเทอร์เน็ต เช่น ภาพ เพลง โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ดูหนงั เกม
3. วิธกี ารเชอื่ มตอ่ อนิ เตอรเ์ น็ตการเช่อื มต่ออนิ เตอร์เนต็ ทีน่ ยิ มใชม้ ี 5 ลกั ษณะ คอื 1. การเช่ือมต่อแบบ Dial Up เป็นการเช่ือมต่ออินเตอร์เน็ตที่เคยได้รับความนิยมในยุคแรก ๆ โดยใช้เคร่ืคอมพิวเตอร์บุคคล กับสายโทรศัพท์บ้านที่เป็นสายตรงต่อเช่ือมเข้ากับโมเด็ม (Modem) ก็สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้แล้ว ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตต้องทาการติดต่อกับผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านหมายเลขโทรศัพท์บ้าน โดยผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะกาหนดช่ือผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่าน(Password) มาให้เพ่อื เขา้ ใชบ้ รกิ ารอนิ เตอรเ์ น็ตข้อดี ของการเช่อื มตอ่ แบบ Dial Up คอื อปุ กรณม์ รี าคาถกู การตดิ ต้ังงา่ ย การเคลื่อนย้ายอปุ กรณท์ าไดง้ ่ายข้อเสยี คอื อตั ราการรับสง่ ขอ้ มูลคอ่ นขา้ งต่าเพยี งไมเ่ กนิ 56 kbit (กิโลบิต) ตอ่ วนิ าที 2. การเชื่อมต่อแบบ ISDN(Internet Services Digital Network) เป็นการเช่ือมต่อที่คล้ายกับแบบDial Up เพราะต้องใช้โทรศัพท์และโมเด็มในการเชอ่ื มต่อ ต่างกันตรงท่ีระบบโทรศัพท์เป็นระบบความเร็วสูงท่ีใชเ้ ทคโนโลยีระบบดิจติ อล (Digital) และต้องใชโ้ มเด็มแบบ ISDN Modem ในการเช่อื มต่อ ดังนั้นการเชือ่ มต่ออนิ เตอร์เน็ตแบบ ISDN จะตอ้ งคานงึ ถงึ สงิ่ เหล่านี้ คือ 1. ตอ้ งติดต่อผู้ใหบ้ ริการอนิ เตอร์เน็ต (ISP) ท่ใี ห้บริการการเชือ่ มตอ่ แบบ ISDN 2. การเชื่อมตอ่ ตอ้ งใช้ ISDN Modem ในการเชอ่ื มต่อ 3. ต้องตรวจสอบวา่ สถานท่ที ี่จะใชบ้ ริการน้ี อยู่ในอาณาเขตทใ่ี ช้บริการ ISDN ไดห้ รือไม่ข้อดี คือไม่มีสัญญาณรบกวน มีความเร็วสงู และยังคงสามารถใชโ้ ทรศัพท์เพ่ือพูดคุยไปได้พร้อม ๆ กับการเล่นอนิ เตอรเ์ น็ตข้อเสีย คือมคี า่ ใช้จ่ายสงู กวา่ ระบบ Dial-Up 3. การเช่ือมต่อแบบ DSL(Digital Subscriber Line) เป็นเทคโนโลยีการเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใช้สายโทรศัพท์ธรรมดา ท่ีสามารถใช้อินเตอร์เน็ตและพูดผ่านสายโทรศัพท์ปกติได้ในเวลาเดียวกัน ส่งิ ทตี่ ้องคานึงถงึ ในการตดิ ต้งั ระบบอินเตอร์เนต็ แบบ DSL กค็ ือ 1. ตอ้ งตรวจสอบวา่ สถานทีท่ ีต่ ดิ ต้ังอยใู่ นเขตพื้นทีใ่ หบ้ รกิ ารระบบโทรศัพท์แบบ DSL หรือไม่ 2. บัญชีผใู้ ช้อินเตอร์เนต็ จากผู้ให้บริการอินเตอรเ์ น็ตในแบบ DSL 3. การเชอื่ มต่อต้องใช้ DSL Modem ในการเชื่อมต่อ 4. ต้องติดต้ัง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เคร่ืองคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออนิ เตอร์เนต็ ด้วยขอ้ ดี คอื มีความเรว็ สงู กว่าแบบ Dial-Up และ ISDNข้อเสยี คือไม่สามารถระบุความเรว็ ทแ่ี นน่ อนได้
4. การเช่ือมต่อแบบ Cable เป็นการเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ตโดยผ่านสายสื่อสารเดียวกับ Cable TVจึงทาใหเ้ ราสามารถเชอื่ มตอ่ อนิ เทอร์เน็ตไปพรอ้ ม ๆ กบั การดูทวี ีได้ โดยต้องจดั หาอุปกรณเ์ พิม่ เตมิ คือ 1. ใช้ Cable Modem เพื่อเชอ่ื มต่อ 2. ต้องติดต้ัง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ท่ีเครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีใช้ในการเชื่อมตอ่ อินเตอร์เนต็ ดว้ ยข้อดี คอื ถา้ มีสายเคเบิลทวี อี ยู่แลว้ สามารถเชอ่ื มต่ออนิ เทอร์เนต็ ไดโ้ ดยเพิ่มอุปกรณ์ Cable Modem กส็ ามารถเช่ือมต่อได้ข้อเสีย คือถา้ มผี ูใ้ ชเ้ คเบิลในบริเวณใกล้เคียงมาก อาจทาใหก้ ารรบั สง่ ข้อมลู ชา้ ลง 5. การเชื่อมต่อแบบดาวเทียม (Satellites) เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตท่ีมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงระบบท่ีใช้กันอยู่ในปัจจุบันเรียกว่า Direct Broadcast Satellites หรือ DBS โดยผู้ใช้ต้องจัดหาอุปกรณ์เพิม่ เตมิ คอื 1. จานดาวเทียมขนาด 18-21 นิว้ เพ่อื ทาหนา้ ทเ่ี ปน็ ตวั รบั สัญญาณจากดาวเทียม 2. ใช้ Modem เพ่อื เช่ือมตอ่ ระบบอนิ เตอรเ์ น็ตขอ้ เสยี ของการเช่ือมต่อแบบดาวเทยี ม (Satellites) ได้แก่ 1. ตอ้ งสง่ ผ่านสายโทรศพั ท์เหมือนแบบอ่ืน ๆ 2. ความเร็วในการรับส่งข้อมูลตา่ มากเม่อื เทียบกบั แบบอืน่ ๆ 3. ค่าใชจ้ า่ ยสูง4. สิง่ ทีต่ ้องทราบในการเช่อื มต่ออินเตอร์เนต็อปุ กรณค์ อมพิวเตอร์ 1. เมนบอร์ด (Mainboard) เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ควรมีประสิทธิภาพสูงพอสมควรในปัจจุบันคอมพิวเตอร์โดยท่ัวไป จะมีซีพียูรุ่น Celeron, Pentium IV และ AMDซ่ึงซีพียูเหล่าน้ีจะสนับสนุนการใช้งานเพ่ือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และซีพียูเหล่านี้จะรับรองการใช้งานระบบ มัลติมีเดียด้วย ไม่ว่าจะเป็นการ์ดจอการ์ดเสียง และลาโพง เพราะการท่องเว็บน้ันจะมีทั้งภาพเคลื่อนไหว และเสียง จึงจาเป็นต้องมีระบบรองรับการใชง้ าน เพ่ือใหส้ ามารถท่องเว็บไดอ้ ย่างสมบูรณ์ และทาใหน้ ่าสนใจมากขน้ึ 2. หนว่ ยความจาแรม (RAM) การเลือกหนว่ ยความจาแรมจะขนึ้ อยู่กับระบบปฏิบัติการที่ใช้ แตอ่ ย่างน้อยไม่ควรต่ากว่า 64-128 MB แต่ในปัจจุบันระบบปฏิบัติการท่ีนิยมใช้คือ Windows XP หน่วยความจาแรมไม่ควรต่ากว่า 256 MB เพราะโปรแกรมที่ใช้บริการต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตจะต้องใช้หน่วยความจามากพอสมควร 3. จอภาพและการด์ แสดงผล จอภาพสามารถแสดงผลไดต้ ้ังแต่ 256 สขี นึ้ ไป ความละเอยี ดไมค่ วรต่ากว่า 800x600 pixels ซ่ึงปัจจุบันจอภาพจะสามารถแสดงได้ถึง 16 ล้านสีแล้ว ทาให้สามารถแสดงภาพได้ดีโดยเฉพาะภาพถา่ ย
4. ระบบมัลติมีเดีย คือการ์ดเสียงพร้อมลาโพง หรือถ้าใช้โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตก็จะต้องมีไมโครโฟนดว้ ย และถ้าตอ้ งการพดู คยุ แบบใหเ้ ห็นหน้าทั้งสองฝา่ ยก็ต้องมีกล้องวิดีโอที่มีความละเอียดต่า หรอื ที่เรียกว่า“เว็บแคม” (Webcam) ซ่ึงเคร่ืองคอมพิวเตอร์ทุกรุ่นจะมีให้เฉพาะการ์ดเสียง และลาโพงเท่าน้ันอปุ กรณเ์ สริมอ่นื ๆ คือ ไมโครโฟน และกล้องเวบ็ แคม ผใู้ ชจ้ ะต้องหาเพ่ิมเติมเองเมอ่ื ตอ้ งการใช้งานโมเด็ม (Modem) โมเดม็ จะแบง่ ออกเปน็ 3 ประเภท ตามลกั ษณะของการใชง้ าน คือ 1. โมเด็มแบบภายใน (Internal) มีลักษณะเป็นการ์ดเสียบเข้ากับสล็อตแบบPCI ภายในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ขอ้ ดี 1.1 ไม่เปลื้องเน้ือทีเ่ พราะตดิ ตงั้ ภายในเครือ่ งคอมพิวเตอร์ 1.2 ไมต่ อ้ งเสยี บไฟฟ้า 1.3 มีราคาถกูข้อเสยี 1.1 การติดตั้งยาก เพราะต้องเปิดเคร่ืองเพื่อท่ีจะเสียบการ์ดในสล็อต PCIภายในตัวเคร่ืองคอมพิวเตอร์ 1.2 ไมส่ ามารถมองเหน็ การทางานของโมเด็ม 1.3 เคลอ่ื นยา้ ยไปใชค้ อมพวิ เตอร์เครื่องอื่นไดย้ าก 1.4 ตอ้ งการเครื่องท่ีมีความเรว็ สงู 1.5 พบปญั หาต่างๆ ได้บ่อย เช่น สายหลดุ ง่าย 2. โมเด็มแบบภายนอก (External) จะเป็นอุปกรณ์ท่ีใช้เชื่อมต่อภายนอกเครื่องคอมพิวเตอร์โดยจะตอ่ เขา้ ที่ Serial Port และ USB Port ของคอมพิวเตอร์ข้อดี 1. ตดิ ตัง้ งา่ ย 2. สามารถมองเห็นการทางานของโมเด็มได้ 3. สามารถใช้กับเคร่ืองคอมพวิ เตอรร์ ่นุ เก่าได้ 4. ไมค่ ่อยมีปัญหาในการใช้งาน 5. สามารถเคลือ่ นย้ายไดง้ ่าย
ขอ้ เสีย 1. เปลอื งเนอ้ื ท่ีในการวางโมเด็ม 2. มรี าคาแพง 3. ต้องมีแหลง่ จ่ายไฟและต่อสายไฟ 4. ต้องใช้ Serial Port หรือ USB Port ในการต่อกับโมเด็ม ทาให้เปลืองPort ท่ีมีไว้สาหรับนาไปต่อกับอุปกรณ์อน่ื ๆ 3. โมเด็มแบบ PCMCIA เป็นโมเด็มที่มีขนาดเล็กและบางที่สุด ซ่ึงมีขนาดเท่ากับบัตรเครดิต โมเด็มแบบPCMCIA จะถือเป็นโมเด็มแบบภายใน ซ่ึงได้ออกแบบมาสาหรับการใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค(Notebook Computer) เท่านั้น โดนท่ีเคร่ืองคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คจะมีช่องสล็อตไว้เสียบโมเด็ม PCMCIA ได้ทันทีโมเด็มแบบนจ้ี ะใช้กระแสไฟฟ้าจากเครื่องคอมพวิ เตอร์โปรแกรมสาหรับการใช้งานอินเทอรเ์ นต็ สาหรบั โปรแกรมที่มีความสาคัญในการใชง้ านอินเทอร์เน็ต ประกอบดว้ ย 5 ประเภท ดังต่อไปนี้ 1. โปรแกรมระบบปฏิบัติการ เป็นโปรแกรมท่ีจาเป็นมากสาหรับการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกชนิด เพราะจะเป็นโปรแกรมท่ีทาหน้าที่จัดสรรทรัพยากรต่างๆ ในระบบ เช่นหน่วยความจา การบันทึกข้อมูลและอปุ กรณต์ ่อเชื่อมอนื่ ๆ เชน่ เครอ่ื งพิมพ์ โมเด็ม และจอภาพ โปรแกรมระบบปฏิบัติการยังทาให้ผ้ใู ช้สามารถปฏิบัติงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ ดังนั้น ถ้าเคร่ืองคอมพิวเตอร์ใดไม่มีโปรแกรมระบบปฏิบัติการ เครื่องคอมพิวเตอร์เคร่ืองนั้นก็จะไม่สามารถปฏิบัติงานได้ และโปรแกรมระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ Microsoft Windows เช่นWindows 95/98 Windows MeWindows NT/2000 และ Windows XP เปน็ ตน้ 2. โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ คอื โปรแกรมทีใ่ ชใ้ นการเปิดเว็บเพจต่างๆ ในอินเทอรเ์ นต็ ซ่ึงโปรแกรมนี้จะมีความสามารถมากมายที่จะเป็นประโยชน์ในการท่องเว็บ และโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ยังเปรียบเสมือนตัวแปลภาษา เพราะเว็บเพจเหล่านั้นจะใช้รูปรูปแบบคาส่ังภาษา HTML ซ่ึงโปรแกรมเว็บเบาร์วเซอร์จะแปลคาสั่งต่างๆ มาแสดงผลทางจอภาพ โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์มีหลายชนิด เช่น Netscape Communicator, Internet Explorer,Opera เป็นต้น แต่ท่ีรู้จักดีเป็นท่ีนิยมใช้งานมากที่สุดคือ Internet Explorerเพราะเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนใหญใ่ ชร้ ะบบปฏบิ ตั กิ ารของ Windows 3. โปรแกรมรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ทาหน้าท่ีเก็บข้อมูลจดหมายโดยสร้างโฟลเดอร์สาหรับเก็บจดหมายไว้ในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ของเรา และโปรแกรมจะทาการดึงจดหมายของเราจากเคร่ือง Mail
Server มาไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้สร้างไว้ เพื่อเราจะสามารถเรียกอ่านจดหมายได้ตลอดเวลาแม้ในขณะที่ไม่ได้ทาการเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ต โปรแกรมรับส่งจดหมายท่ีนิยม ได้แก่ Microsoft Outlook, Microsoft OutlookExpressฯลฯ 4. โปรแกรมสาหรับการสือ่ สารบนอนิ เทอร์เน็ต เปน็ โปรแกรมท่ีใชส้ าหรบั ดารสือ่ สารระหว่างผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยกัน ท้ังในรูปแบบของการพิมพ์ข้อความโต้ตอบ ที่เรียกว่าการ Chat รูปแบบของเสียงโดยการสนทนาผ่านไมโครโฟน และในปัจจุบันได้มีโปรแกรมสาหรับการส่ือสารโดยสามารถมองเห็นภาพ และพูดคุยด้วยเสียงระหว่างคู่สนทนาได้ เป็นการส่ือสารแบบทางไกล เช่น โปรแกรม MSN Messenger, MicrosoftChat, Microsoft NetMeeting, ICQ, Pirch, Yahoo Messenger ฯลฯ 5. โปรแกรมมัลติมีเดียบนอินเทอร์เน็ต การใช้งานบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันมีหลากหลายรปู แบบ ทงั้ รูปภาพ ภาพเคลอ่ื นไหว เสียง วดี ิทัศน์ เปน็ ตน้ ดงั นัน้ เพื่อเปน็ การสนับสนนุ การทางานในรูปแบบมัลติมีเดียของระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะต้องติดตั้งโปรแกรมประเภทน้ีไว้ ซ่ึงทาให้ผู้ใช้งานสามารถรบั ขอ้ มูลประเภทมลั ตมิ ีเดยี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปรแกรมมัลติมเี ดียทีไ่ ดร้ บั ความนิยมสาหรับการใช้งานบนเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต ไดแ้ ก่ โปรแกรม Real Audio, Windows Media Player, Real Video ฯลฯวิธกี ารเชือ่ มตอ่ อินเทอรเ์ นต็ การเชอื่ มต่ออินเทอรเ์ นต็ แบบใชส้ าย (Wire Internet) 1. การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตรายบุคคล (Individual Connection) การเช่ือมต่ออินเตอร์เน็ตรายบุคคล คือ การเช่ือมต่ออินเตอร์เน็ตจากท่ีบ้าน (Home user) ซึ่งยังต้องอาศัยคู่สายโทรศัพท์ในการเข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้ต้องสมัครเป็นสมาชิกกับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตก่อน จากนั้นจะได้เบอร์โทรศัพท์ของผู้ใหบ้ รกิ ารอินเตอร์เน็ต รหัสผใู้ ช้ (User name) และรหสั ผ่าน (Password) ผู้ใช้จะเข้าสู่ระบบอนิ เตอร์เน็ตได้โดยใช้โมเด็มที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้หมุนไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ให้ บริการอินเตอร์เน็ตจากนัน้ จงึ สามารถใช้ งานอนิ เตอรเ์ นต็ ได้ องค์ประกอบของการใชอ้ ินเตอร์เน็ตรายบุคคล 1. โทรศัพท์ 2. เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ 3. ผูใ้ หบ้ ริการอนิ เทอร์เน็ต ซ่ึงจะใหเ้ บอรโ์ ทรศัพท์ รหัสผใู้ ช้และรหสั ผ่าน 4. โมเดม็ (Modem) 2. การเช่ือมต่ออินเตอร์เน็ตแบบองค์กร (Corporate Connection) การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบองคก์ รนจ้ี ะพบไดท้ ่ัวไปตามหน่วยงานต่างๆ ท้ังภาครฐั และเอกชน หน่วยงานตา่ งๆ เหล่านจี้ ะมเี ครือข่ายท้องถ่ิน(Local Area Network : LAN) เป็นของตัวเอง ซ่ึงเครือข่าย LAN น้ีเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา ผ่านสายเช่า (Leased line) ดังน้ัน บุคลากรในหน่วยงานจึงสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา การใช้อินเตอร์เน็ตผ่านระบบ LAN ไม่มีการสร้างการเชื่อมต่อ(Connection) เหมือนผู้ใช้รายบุคคลท่ียังต้องอาศัยคู่สายโทรศัพท์ในการเขา้ ส่เู ครอื ขา่ ยอนิ เตอร์เน็ต
การเชอื่ มต่ออนิ เตอรเ์ น็ตแบบไรส้ าย (Wireless Internet) 3. การใช้งานอนิ เตอร์เน็ตผา่ นโทรศพั ทม์ อื ถือโดยตรง (Mobile Internet) 1. WAP (Wireless Application Protocol) เป็นโปรโตคอลมาตรฐานของอุปกรณ์ไร้สายท่ีใช้งานบนอินเตอร์เน็ต ใช้ภาษา WML (Wireless Markup Language)ในการพัฒนาขึ้นมา แทนการใช้ภาษาHTML (Hypertext markup Language) ทพ่ี บในwww โทรศพั ท์มอื ถือปจั จุบนั หลายๆย่ีห้อ จะสนบั สนุนการใช้ WAP เพ่อื ทอ่ งอนิ เตอร์เนต็ ซึง่ มคี วามเรว็ ในการรับส่งข้อมูลท่ี 9.6 kbps และการใช้ WAP ทอ่ งอินเตอร์เน็ตนนั้ จะมกี ารคดิ อตั ราค่าบริการเป็นนาทซี ึ่งยงั มรี าคาแพง 2 . GPRS (General Packet Radio Service) เ ป็ น เ ท ค โ น โ ล ยี ที่ พั ฒ น า ข้ึ น เ พ่ื อ ใ ห้โทรศัพท์มือถือสามารถเช่ือมต่อกับอินเตอร์เน็ตด้วยความเร็วสูง และสามารถส่งข้อมูลได้ในรูปแบบของมัลติมีเดีย ซึ่งประกอบด้วย ข้อความ ภาพกราฟิก เสียง และวีดิโอ ความเร็วในการรับส่งข้อมูลด้วยโทรศัพท์ท่ีสนับสนุน GPRS อยู่ที่ 40 kbps ซ่ึงใกล้เคียงกับโมเด็มมาตรฐานซึ่งมีความเร็ว 56 kbps อัตราค่าใช้บริการคิดตามปรมิ าณข้อมลู ทรี่ บั -สง่ ตามจรงิ ดังน้นั จงึ ทาให้ประหยัดกวา่ การใช้ WAP และยังสือ่ สารได้รวดเร็วขึน้ ดว้ ย 3. โทรศัพท์ระบบ CDMA (Code Division Multiple Access) ระบบ CDMAนั้น สามารถรองรับการสื่อสารไร้สายความเร็วสูงได้เป็นอย่างดี โดยสามารถทาการรับส่งข้อมูลได้สูงสุด 153 Kbpsซึ่งมากกว่าโมเด็มท่ีใช้กับโทรศัพท์ตามบ้านท่ีเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้เพียง56 kbps นอกจากนี้ ระบบ CDMA ยังสนับสนนุ การสง่ ข้อมูลระบบมลั ติมีเดยี ไดด้ ว้ ย 4. เทคโนโลยี บลูทูธ (Bluetooth Technology) เทคโนโลยีบลูทูธถูกพัฒนาข้ึนมาเพื่อใช้กับการสอื่ สารแบบไร้สาย โดยใชห้ ลักการการส่งคลนื่ วิทยุ ทอ่ี ยู่ในย่านความถีร่ ะหวา่ ง 2.4 - 2.4 GHz ในปัจจุบันน้ีได้มีการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆท่ีใช้เทคโนโลยีไร้สายบลูธูทเพื่อใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายๆชนิด เช่นโทรศัพทเ์ คลื่อนที่ คอมพิวเตอรโ์ น้ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์พอ็ คเก็ตพซี ี 4. การเช่อื มตอ่ อนิ เตอร์เน็ตด้วยโน้ตบุ๊ค(Note book) และ เครื่องปาลม์ (Palm) ผ่าน โทรศัพท์มือถือทส่ี นบั สนนุ ระบบ GPRS โทรศัพท์มือถือทส่ี นับสนุน GPRS จะทาหน้าทเี่ สมือนเป็นโมเด็มให้กับอุปกรณ์ที่นามาพ่วงต่อ ไม่ว่าจะเป็น Note Book หรือPalm และในปัจจุบันบริษัทท่ีให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้มีการผลิตSIM card ที่เป็นInternet SIM สาหรับโทรศัพท์มือถือเพ่ือให้สามารถติดต่อกับอินเทอร์เน็ตได้สะดวกและรวดเรว็ มากขึ้นการเลอื กผู้ใหบ้ ริการอนิ เทอร์เนต็ 1. บรกิ ารอินเตอร์เน็ตผา่ น ISDN (Integrated Service Digital Network)เปน็ การเชอื่ มต่อสายโทรศัพท์ระบบใหม่ทีร่ ับสง่ สัญญาณเป็นดจิ ิทลั ท้ังหมด อปุ กรณ์และชมุ สายโทรศพั ทจ์ ะเปน็อปุ กรณ์ที่สนบั สนุนระบบของ ISDN โดยเฉพาะ ไม่วา่ จะเป็นเครอ่ื งโทรศัพท์ และโมเดม็ สาหรับ ISDN การเช่อื มตอ่ อินเทอรเ์ น็ตแบบ ISDN
1. Network Terminal (NT) เป็นอปุ กรณ์ทใ่ี ช้ต่อจากชุมสาย ISDN เข้ากับอุปกรณด์ ิจิทัลของ ISDN โดยเฉพาะ เช่น เครือ่ งโทรศัพทด์ ิจทิ ัล เครื่องแฟกซ์ดิจทิ ลั 2. Terminal adapter (TA) เป็นอุปกรณแ์ ปลงสัญญาณเพ่ือใชต้ ่อ NT เข้ากับอปุ กรณ์ทีใ่ ช้กบัโทรศพั ทบ์ า้ นระบบเดิม และทาหนา้ ทเี่ ปน็ ISDN modem ทีค่ วามเร็ว 64-128 Kbps 3. ISDN card เปน็ การด์ ท่ตี อ้ งเสียบในแผงวงจรหลักในคอมพิวเตอรเ์ พื่อต่อกับNTโดยตรง ในกรณีที่ไม่ใช้ Terminal adapter 4. ผู้ให้บริการอินเทอรเ์ นต็ ผา่ นคูส่ าย ISDN (ISDN ISP) เชน่ KSC, InternetThailand, LoxInfo, JI-Net ฯลฯ ซง่ึ ผู้ใหบ้ รกิ ารอนิ เทอร์เน็ต 5. การเช่ือมต่ออินเตอรเ์ น็ตแบบไรส้ ายผ่านเครื่องโทรศัพท์บา้ นเคลื่อนที่ PCTเปน็ การเชือ่ มต่ออินเทอร์เน็ตผา่ นคอมพิวเตอรโ์ นต้ บ๊กุ (Note book) และคอมพวิ เตอร์แบบพกพา (Pocket PC) ผู้ใช้จะต้องมี โมเดม็ ชนิด PCMCIA ของ PCT ผ้ใู ช้สามารถใช้อินเทอร์เน็ตไร้ได้ ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑลได้ องคป์ ระกอบของการต่ออินเตอรเ์ นต็ ดว้ ยระบบโทรศพั ท์ ISDNเหล่านี้จะทาการเชา่ ค่สู าย ISDN กบั องค์การโทรศพั ท์ (บริษทั ทศท. คอรป์ อเรชั่น จากดั มหาชน ) 2. บรกิ ารอนิ เตอรเ์ นต็ ผ่านเคเบิลโมเดม็ (Cable Modem) เป็นการเชื่อมต่ออนิ เทอรเ์ นต็ ดว้ ยความเร็วสงู โดยไม่ใชส้ ายโทรศัพท์ แตอ่ าศัยเครือข่ายของผู้ใหบ้ ริการเคเบลิ ทวี ีความเรว็ ของการใช้เคเบลิโมเดม็ ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจะทาให้ความเร็วสงู ถึง 2/10 Mbps น้ัน คือ ความเร็วในการอัพโหลด ท่ี 2Mbps และความเร็วในการ ดาวน์โหลด ที่ 10 Mbps แต่ปจั จุบันยังเปดิ ใหบ้ รกิ ารอยู่ที่ 64/256 Kbps องค์ประกอบของการเชอื่ มตอ่ อนิ เทอรเ์ น็ตด้วยเคเบลิ โมเดม็ 1. ต้องมีการเดนิ สายเคเบิลจากผูใ้ ห้บริการเคเบิล มาถงึ บ้าน ซึง่ เป็นสายโคแอกเชียล(Coaxial ) 2. ตัวแยกสัญญาณ (Splitter) ทาหนา้ ทแ่ี ยกสัญญาณคอมพิวเตอรผ์ า่ นเคเบิล 3. Cable modem ทาหน้าที่แปลงสัญญาณ 4. ผู้ให้บรกิ ารอนิ เทอร์เนต็ ผา่ นเคเบลิ โมเดม็ ในปจั จบุ ัน มีเพียงบรษิ ัทเดยี ว คอื บรษิ ัทเอเชียมลั ตมิ ีเดยี ในเครือเดียวกบั บริษัทเทเลคอมเอเชีย ผ้ใู ห้บรกิ าร AsiaNet5. โปรโตคอลอื่น ๆ ทนี่ า่ สนใจ โปรโตคอลเปน็ ภาษาหรอื มาตรฐานท่ใี ช้ในการตดิ ต่อสื่อสารกันบนระบบเครอื ขา่ ย ปจั จบุ ันที่ใช้มีหลายโปรโตคอลด้วยกนั อาทิ NetBEUI อ่านว่า “เนต็ -บ-ู อี้” NetBIOS Extended User Interface เปน็ โปรโตคอลทค่ี ิดค้นโดยบรษิ ัท IBM ประมาณปี 1980 นยิ มใช้งานในระบบคอมพิวเตอรร์ ะบบ Workgroup เปน็ โปรโตคอลนี้จะใช้ Computer Name ทเ่ี ราระบุในการตดิ ต่อระหว่างกนั IPX/SPX ย่อมาจาก Internetwork Packet Exchange / Sequenced Packet Exchangeเป็นโปรโตคอลท่เี ปน็ พน้ื ฐานของระบบเครือข่ายแบบ Netware โดยบริษทั Novell ช่วงแรกถกู นามาใช้กบั
ระบบปฏิบัตกิ ารแบบ Netware โดยท่ี IPX เทียบได้กับ ของ ชว่ งหลังในระบบของ เปล่ยี นเปน็ ช่อืNWlink IPX/SPX TCP/IP ย่อมาจาก Transmission Control Protocol / Internet Protocol เป็นโปรโตคอลทไ่ี ดร้ บั การพฒั นามาจากทนุ วิจยั ของ U.S. Department of Defense’s Advanced ResearchProject Agency (DARPA) ในอดีตนิยมใช้งานบนระบบอินเตอรเ์ นต็ และระบบ UNIX ตา่ งๆ สาหรับปัจจุบัน TCP/IP นับเปน็ โปรโตคอลที่มจี านวนมากทส่ี ดุ โดยที่ อยู่บนพนี้ ฐานของโปรโตคอล 2 ตัว คอื TCP ทางานอยทู่ ี่ Transport Layer IP ทางานอยู่ท่ี Internet Layer Apple Take เปน็ โปรโตคอลท่ีใชส้ าหรบั ติดต่อกับเครือ่ ง Macintosh DCL ย่อมาจาก Data Link Control เปน็ โปรโตคอลใชใ้ นการติดต่อกับเครื่องตระกูล UNIXโปรโตคอลอื่นๆท่ีควรรจู้ ัก UDP เปน็ โปรโตคอลที่อาศัย IP เปน็ พาหะในการส่งข้อมูล ไม่การันตีข้อมลู ทีได้รบั ARP เป็นกระบวนการเปลย่ี นคา่ ระหว่าง IP ไปเปน็ MAC Address ซงึ่ เปน็ หมายเลขทางฮารด์ แวรข์ องอุปกรณ์ เชน่ LAN Card ICMP เปน็ โปรโตคอลทใ่ี ชใ้ นการแจ้งข้อผิดพลาดตา่ งๆ โดยทั่วไปเราจะทดสอบโปรโตคอลนี้ด้วยคาสั่ง ping SNMP เปน็ โปรโตคอลทม่ี ไี วเ้ พือ่ ใชใ้ นการตรวจสอบระบบเครือข่าย เชน่ การมอนเิ ตร์ดูสถานการณ์ทางาน การตรวจสอบแบนด์วิดธ์ SMTP เปน็ โปรโตคอลท่ีมีไวเ้ พื่อใช้ในการส่งเมลล์ไปยงั เซิร์ฟเวอรใ์ นโฮสตเ์ ดียวกนั หรือส่งละโฮสต์ POP3 เปน็ โปรโตคอลทใ่ี ชใ้ นการดึงเมลล์จากMailbox มาอา่ นท่เี ครือ่ งของตนเอง โดยผา่ นทางโปรแกรมเมลลไ์ คลเอนต์ เช่น Outlook Express , MS Outlook, Mozilla Thunderbird IMAP เปน็ โปรโตคอลทใ่ี ช้ในการดงึ เมลลจ์ ากMailbox มาอา่ นท่เี ครือ่ งของตนเอง โดยผา่ นทางโปรแกรมเมลลไ์ คลเอนต์ เช่นเดยี วกับ POP3 แต่ข้อดขี อง IMAP ที่ดีกวา่ POP3 คืออเี มลล์ฉบบั ท่ีเปิดอ่านจะไม่ถูกลบออกจากเซริ ์ฟเวอร์ FTP เปน็ โปรโตคอลที่ใชใ้ นการถา่ ยโอนไฟล์ระหวา่ งสองเครือ่ ง6. อปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการติดตงั้ อินเตอรเ์ น็ต 1. เครือ่ งคอมพิวเตอร์ อุปกรณส์ าคัญในการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ได้แก่ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ ควรมีคณุ สมบตั ิดงั น้ี - เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ที่มีหนว่ ยประมวลผลกลาง (CPU) ตัง้ แต่ 233 MHz เป็นต้นไป - หน่วยความจา (RAM) ไมน่ ้อยกว่า 8 MB - ฮาร์ดดสิ ก์ ( Hard Disk ) มขี นาดความจุ ตั้งแต่ 100 MB ข้นึ ไป - ดิสก์ไดร์ฟ ( Disk Drive ) ขนาด 1.44 MB
- ซดี ีไดรฟ์ ( CD Drive ) และอุปกรณ์เสริมอน่ื ๆ เชน่ ลาโพง ไมโครโฟน เป็นต้น 2. โมเดม็ ( Modem )โมเด็ม ( Modem ) หรอื Modulator-Demodulator หมายถึง อุปกรณ์ที่ทาหน้าท่ีในการแปลงสญั ญาณดจิ ติ อล ( Digital ) จากเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ ให้เป็นสัญญาณอนาลอ็ ก ( Analog ) เพื่อส่งไปตามเครือขา่ ยโทรศัพท์ ซึ่งเรยี กวา่ Modulate และแปลงสัญญาณ ข้อมูลแบบอนาล็อก( Analog ) ท่มี าจากเครือข่ายโทรศพั ท์กลบั เป็นสญั ญาณขอ้ มลู แบบดิจติ อล ( Digital ) เพื่อใช้กับเคร่อื งคอมพิวเตอร์ ซงึ่ เรยี กวา่Demodulateโมเด็มเปน็ สง่ิ สาคัญยง่ิ ในการใชง้ านอินเตอรเ์ นต็ โดยโมเด็มไดถ้ ูกพัฒนาให้มคี วามเรว็ ในการสง่ ข้อมลู ท่สี ูงปจั จบุ นั มีความเรว็ สูงถึง 56 Kbps ( Kilobit per second ) กระแสไฟฟ้าในการทางาน ได้จากภายนอกเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยการเชือ่ มต่อนัน้ จะทาการเช่ือมต่ออนุกรมแบ RS-232C ซง่ึ เคร่ืองคอมพิวเตอรท์ ่ีจะทาการตดิ ตงั้ ทจ่ี ะทาการตดิ ตัง้ โมเด็ม แบบภายนอกจะต้องพอร์ตนี้อยแู่ ละในปจั จบุ นั ได้มกี ารนาพอร์ตแบบ USB(Universal Serial Bus) มาใชส้ าหรบั เคร่ืองคอมพิวเตอร์ในรุ่นใหมๆ่ โมเด็มตดิ ต้ังภายนอกมีราคาท่สี งู กวา่โมเดม็ แบบตดิ ตั้งภายใน มีไฟแสดงสถานะของการทางาน และมีสวิชทท์ ่ีใช้สาหรบั เปดิ -ปิด 3. โปรแกรม web browserโปรแกรมเวบ็ บราวเซอร์ ( Web Browser) เปน็ โปรแกรมทีใ่ ช้ในการเปิดดูข้อมูลต่างๆ บนอนิ เตอรเ์ น็ต ซ่งึข้อมลู ในเว็บเพจ ถือได้วา่ เปน็ เอกสารข้อมูลท่ีถูกเขยี นด้วยภาษา HTML ทาหนา้ ท่ใี นการแสดงผลของข้อมลูเอกสาร อ่านข้อมลู ที่ เปน็ ภาพ 2 มิติ 3 มิติ แสดงภาพเคลื่อนไหว ข้อมลู เสียงและวีดีโอได้ โปรแกรมเว็บบราวเซอร์ยงั สนบั สนุนการเชื่อมโยงข้อมลู การจัดเกบ็ ข้อมูลในรปู แบบต่างๆ การจดั หมวดหม่ขู ้อมูลของเว็บไซต์ การแสดงผลข้อมลู ผ่านทางเคร่ืองพิมพ์ 4. โทรศพั ท์ (Telephone)ผใู้ ชอ้ นิ เตอรเ์ นต็ ต้องใชส้ ายโทรศพั ท์และหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อการเช่อื มโยง สญั ญาณจากแหลง่ ให้บรกิ ารอินเตอรเ์ น็ต 5. คูส่ ายโทรศพั ท์ตอ้ งใช้คูส่ ายโทรศพั ท์ 1 หมายเลขที่ใช้ปกติอยูต่ ามบา้ นหรือจะเชา่ คสู่ ายโทรศพั ทส์ าหรบั เชอื่ มตอ่ สัญญาณกบั ผู้ใหบ้ ริการอินเทอรเ์ น็ตหรอื ISP เพ่ิมก็ได้เพราะจะได้แยกการใช้โทรศัพทธ์ รรมดา กบั โทรศพั ท์ทีใ่ ชก้ บั เคร่อื งต่ออินเทอรเ์ นต็ อยา่ งไรก็ตามคู่สาย โทรศัพท์ยังมกี ารให้เลอื กใชอ้ ีกหลายระดบั ซง่ึ สามารถเช่าคสู่ ายเฉพาะท่จี ะใช้ต่อเชอ่ื มสาหรับระบบ คอมพิวเตอร์ เชน่ สายต่อลดี ส์ลาย (Leased Line) สายจากระบบ Data Net และสายแบบ ISDN (Integrated Service Digital Network) เป็นตน้ แตก่ ารใช้ค่สู ายพเิ ศษดังกลา่ วจะตอ้ งมีการปรบั เปล่ยี นอุปกรณ์อ่นื ๆ ซง่ึ เหมาะกับผู้ใชใ้ น ระดับองค์กรมากกว่าผู้ใช้ทว่ั ไป
6. Internet Accountเปน็ บญั ชีผใู้ ชท้ แ่ี ตล่ ะแห่งอนุญาตใหเ้ จ้าของบัญชีมสี ทิ ธิในการใชบ้ ริการตา่ งๆ ถ้าเป็นบัญชีผู้ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ต จะหมายถงึ ผู้ใชค้ นน้นั จะมชี ่ือในการลอ็ กอนิ (Login Name, User Name) และรหสั ผ่าน (Password) เพือ่ เข้าไปใช้บริการอินเทอรเ์ น็ตได้ ผูใ้ ชบ้ รกิ ารอนิ เทอรเ์ นต็ หรือ ISP มีอยหู่ ลายราย แตล่ ะรายก็มีความเรว็ ในการใช้งานแตกตา่ งกันออกไป รวมท้ังราคาคา่ บริการการใช้งานก็แตกต่างกนั ไปด้วย
จดั ทาโดยนางสาวรจั นกาญจน์ เทยี นทอง ปวส.2 คอม 1 เลขท่ี 31
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: