Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การมีกิจกรรมทางกายของนิสิตพยาบาล มหาวิทยาลัยนเรศวร

การมีกิจกรรมทางกายของนิสิตพยาบาล มหาวิทยาลัยนเรศวร

Published by Reading Room, 2021-04-26 07:53:49

Description: การมีกิจกรรมทางกายของนิสิตพยาบาล มหาวิทยาลัยนเรศวร

Search

Read the Text Version

42 ตัวแปร x̄ SD. 7. ต่อยมวย 0.00 8. วา่ ยนา้ 0.00 0.43 9. เตน้ แอโรบกิ 0.15 0.57 10. เปตอง 0.19 0.00 11. ตะกร้อ 0.00 0.00 12. เทนนสิ 0.00 0.00 13. เขา้ ยมิ / เขา้ ฟิตเนส 0.00 0.53 14. ฟุตซอล 0.22 0.23 15. ฟุตบอล 0.03 0.00 16. เทเบลิ เทนนิส 0.00 0.00 17. วอลเลยบ์ อล 0.00 0.00 18. แบดมนิ ตัน 0.00 0.39 19. บาสเกตบอล 0.07 0.28 20. เทควนั โด 0.05 0.00 กจิ กรรมด้ำนกำรทำงำนบ้ำน 0.00 21. กวาดพน้ื หอพกั /บ้าน 0.78 22. ถูพื้นหอพัก/บ้าน 1.88 0.80 23. ดดู ฝุน่ 1.42 0.43 24. ซกั ผ้า 0.15 0.63 25. รดี ผา้ 1.29 0.87 26. ประกอบอาหาร 1.48 0.77 27. ล้างจาน 0.62 0.77 28. ลา้ งจักรยานยนต์ 1.47 0.37 กิจกรรมนนั ทนำกำร 0.16 29. ฟงั เพลง 0.62 30. ร้องเพลง 2.68 1.03 31. เล่นดนตรีเชน่ กีตาร์, กลองชุด , เปียโน ฯลฯ 1.78 0.43 32. ดโู ทรทัศน์ 0.11 0.94 33. ดูภาพยนตร์ 0.89 0.88 34. ใชค้ อมพวิ เตอร/์ โทรศพั ทน์ อ้ ยกว่าวันละ 1.16 1.07 0.90 2 ช่ัวโมง/ วัน 0.75 35. ใช้คอมพวิ เตอร/์ โทรศพั ท์มากกวา่ วันละ 2.56

43 ตวั แปร x̄ SD. 2 ชว่ั โมง/วนั 1.05 1.18 36. ใช้สื่อโซเชยี ลมเิ ดยี เช่น Facebook , Instagram , Line , Twitter ฯลฯ น้อยกว่าวันละ 2 ช่ัวโมง/วัน 2.55 0.85 37. ใชส้ อื่ โซเชยี ลมิเดีย เช่น Facebook , Instagram , Line , Twitter ฯลฯ มากกว่าวนั ละ 2 ชวั่ โมง/วนั 1.81 0.72 38. อ่านหนงั สือ เช่น ตาราเรียน , นิยาย , การต์ นู 0.27 0.48 ฯลฯ 0.40 0.55 39. ใหอ้ าหารปลา 0.11 0.32 40. เขา้ วดั ทาบญุ 0.08 0.32 41. นั่งสมาธิ 0.07 0.25 42. เตน้ สนั ทนาการ 43. เข้าคา่ ย/กิจกรรมชมรม จากตารางที่ 7 แสดงค่าเฉล่ียการมีกิจกรรมทางกายเป็นรายข้อในแต่ละด้านของนิสิตพยาบาล ช้นั ปีที่ 4 พบว่า ด้านกิจกรรมการออกกาลังกายของนิสิตพยาบาลช้นั ปีท่ี 4 โดยเรียงส่วนทปี่ ฏิบัติมากท่สี ุด ไปยังส่วนท่ีปฏิบัติน้อยท่ีสุด ดังน้ี เดินข้ึนบันได (x̄ =2.68, SD.=0.62) เดินออกกาลังกาย (x̄ =1.21, SD.=0.90) แกว่งแขน (x̄ =1.03, SD.=0.90) วิ่งออกกาลังกาย (x̄ =0.71, SD.=0.89) เข้ายิม/เข้าฟิตเนส (x̄ =0.22, SD.=0.53) เต้นแอโรบิก (x̄ =0.19, SD.=0.54) ว่ายน้า (x̄ =0.152, SD.=0.43) กระโดดเชือก (x̄ =0.10, SD.=0.51) แบดมินตัน (x̄ =0.07, SD.=0.39) บาสเกตบอล (x̄ =0.05, SD.=0.28) ป่ันจักรยาน (x̄ =0.03, SD.=0.16) ฟตุ ซอล (x̄ =0.03, SD.=0.23) และตอ่ ยมวย, เปตอง, ตะกรอ้ , เทนนสิ , ฟุตบอล, เท เบลิ เทนนสิ , วอลเลย์บอล, เทควันโด (x̄ =0.00, SD.=0.00) ดา้ นการทางานบ้านของนิสิตพยาบาลชั้นปีที่ 4 โดยเรียงส่วนที่ปฏิบัติมากที่สุดไปยังส่วนท่ีปฏิบัติ น้อยท่ีสุด ดังนี้ กวาดพ้ืนหอพัก/บ้าน (x̄ =1.88, SD.=0.78) รีดผ้า (x̄ =1.48, SD.=0.87) ล้างจาน (x̄ =1.47, SD.=0.77) ถพู นื้ หอพกั /บ้าน (x̄ =1.42, SD.=0.80) ซกั ผ้า (x̄ =1.29, SD.=0.63) ประกอบอาหาร (x̄ =0.62, SD.=0.77) ล้างจักรยานยนต์ (x̄ =0.16, SD.=0.37) และดดู ฝุ่น (x̄ =0.15, SD.=0.43) ด้านกิจกรรมนันทนาการของนิสิตพยาบาลชั้นปีที่ 4 โดยเรียงส่วนที่ปฏิบัติมากท่ีสุดไปยังส่วนท่ี ปฏิบัติน้อยท่ีสุด ดังน้ี ฟังเพลง (x̄ =2.68, SD.=0.62) ใช้คอมพิวเตอร์/โทรศัพท์มากกว่าวันละ 2 ชวั่ โมง/วัน (x̄ =2.56, SD.=0.75) ใช้สอ่ื โซเชยี ลมิเดีย เช่น Facebook, Instagram, Line, Twitter ฯลฯ มากกว่าวันละ 2 ช่ัวโมง/วัน (x̄ =2.55, SD.=0.85) อ่านหนังสือ เช่น ตาราเรียน, นิยาย, การ์ตูน ฯลฯ (x̄ =1.81, SD.=0.72) ร้องเพลง (x̄ =1.78, SD.=1.03) ดูภาพยนตร์ (x̄ =1.16, SD.=0.88) ใช้สื่อโซเชียล- มิเดีย เช่น Facebook, Instagram, Line, Twitter ฯลฯ น้อยกว่าวันละ 2 ช่ัวโมง/วัน (x̄ =1.05,

44 SD.=1.18) ใช้คอมพิวเตอร์/โทรศัพท์น้อยกว่าวันละ 2 ชั่วโมง/วัน (x̄ =0.90, SD.=1.07) ดูโทรทัศน์ (x̄ =0.89, SD.=0.94) เข้าวัดทาบุญ (x̄ =0.40, SD.=0.55) ให้อาหารปลา (x̄ =0.27, SD.=0.48) เล่นดนตรี เช่น กีตาร์, กลองชุด, เปียโน ฯลฯ (x̄ =0.11, SD.=0.43 ) นั่งสมาธิ (x̄ =0.11, SD.=0.32) เต้นสันทนาการ (x̄ =0.08, SD.=0.32) และเขา้ คา่ ย/กิจกรรมชมรม (x̄ =0.07, SD.=0.25) ตอนที่ 3 เปรียบเทียบกำรมีกิจกรรมทำงกำย และเปรียบเทียบข้อมูลท่ัวไปของนิสิตพยำบำลช้ันปีที่ 1 และชัน้ ปที ่ี 4 มหำวิทยำลยั นเรศวร การเปรียบเทียบการมีกิจกรรมทางกายของนิสิตพยาบาลช้ันปีท่ี 1 และปีท่ี 4 ได้แก่ กิจกรรม ด้านการออกกาลังกาย กิจกรรมด้านการทางานบ้าน และด้านกิจกรรมนันทนาการ โดยทาการ เปรียบเทียบเป็นภาพรวมและแยกแต่ละช้ันปี และเปรียบเทียบข้อมูลท่ัวไปของนิสิตพยาบาลชั้นปีท่ี 1 และปีที่ 4 เกี่ยวกับเพศ โรคประจาตัว ท่ีพักอาศัย และยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง โดยทาการ เปรียบเทยี บแยกแต่ละชน้ั ปี ดังแสดงในตาราง 8-9 ตำรำงท่ี 8 แสดงกำรเปรียบเทียบควำมแตกต่ำงข้อมูลท่ัวไประหว่ำงนิสิตพยำบำลช้ันปีที่ 1 และชั้นปี ที่ 4 ดว้ ยวิธีกำรทดสอบด้วยสถิตไิ คสแควร์ (Chi-Square Test) ตัวแปร ช้ันปที ่ี 1 ชน้ั ปีที่ 4 p-Value เพศ 3.155 .076 ชาย หญิง 11 70 โรคประจำตัว 82 3 มี ไม่มี 1.884 .170 51 88 72 ทพ่ี ักอำศยั 130.301 .00* บา้ นพกั อาศัย 10 หอพักในมหาวทิ ยาลัย 82 0

45 ตวั แปร ช้ันปีท่ี 1 ชน้ั ปีท่ี 4 X2 p-Value หอนอกมหาวทิ ยาลัย 10 73 ยำนพำหนะทใี่ ช้ในกำรเดนิ ทำง 44.571 .00* 1 รถยนต์ 50 3 รถจกั รยานยนต์ 0 70 รถโดยสารประจาทาง 42 0 รถขนสง่ มวลชนของมหาวิทยาลัย 0 *มนี ัยสาคญั ทางสถติ ิที่ระดับ .05 จากตารางที่ 8 แสดงการเปรียบเทียบความแตกต่างข้อมูลท่ัวไปของนิสิตพยาบาลช้ันปีที่ 1 และ ปีที่ 4 ระหว่างนสิ ติ แต่ละช้ันปี เกี่ยวกบั เพศ โรคประจาตัว ท่ีพกั อาศัย และยานพาหนะท่ีใช้ในการเดินทาง โดยวิธกี ารทดสอบด้วยสถติ ิไคสแควร์ (Chi-Square Test) พบวา่ 1. นิสิตพยาบาลช้ันปีที่ 1 และช้ันปีท่ี 4 ข้อมูลทางเพศแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสาคัญทางสถิติท่ี ระดับ .05 2. นิสิตพยาบาลช้ันปีท่ี 1 และช้ันปีท่ี 4 ข้อมูลทางโรคประจาตัวแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสาคัญ ทางสถิตทิ ี่ระดบั .05 3. นิสิตพยาบาลชั้นปีท่ี 1 และชั้นปีท่ี 4 ข้อมูลทางทพี่ ักอาศัยมีความแตกตา่ งกันอย่างมนี ัยสาคัญ ทางสถติ ทิ ร่ี ะดับ .05 4. นสิ ิตพยาบาลชั้นปีท่ี 1 และชั้นปีท่ี 4 ข้อมูลทางยานพาหนะท่ีใช้ในการเดินทางมคี วามแตกตา่ ง กนั อย่างมนี ยั สาคัญทางสถติ ทิ ่รี ะดับ .05

46 ตำรำงท่ี 9 แสดงกำรเปรยี บเทยี บควำมแตกต่ำงกำรมีกิจกรรมทำงกำยระหว่ำงนิสิตพยำบำลชัน้ ปีท่ี 1 และชั้นปีที่ 4 ด้วยวิธีกำรทดสอบด้วยสถิติ t-test แบบ Independent (Independent t-test) (N=166) ชั้นปีท่ี 1 ช้ันปที ี่ 4 t p-Value ตัวแปร (N=93) (N=73) กำรมกี จิ กรรมทำงกำย (total Physical 1.71 .09 Activity) x̄ 33.22 31.37 SD. 7.73 6.21 3.75 .00 * 0.13 .86 ด้ำนกำรออกกำลังกำย 8.32 6.47 0.07 .94 3.38 2.87 x̄ 8.41 8.47 SD. 2.80 2.77 ด้ำนกำรทำงำนบำ้ น 16.48 16.44 x̄ 4.07 4.36 SD. ดำ้ นนันทนำกำร x̄ SD. * มนี ยั สาคญั ทางสถิตทิ ่ีระดับ .05

47 จากตารางท่ี 9 เปรียบเทียบความแตกต่างของค่าคะแนนการมีกิจกรรมทางกายระหว่างนิสิต พยาบาลช้ันปที ่ี 1 และชั้นปีท่ี 4 ได้แก่ ด้านกิจกรรมการออกกาลังกาย ดา้ นกิจกรรมการทางานบ้าน และ ด้านกิจกรรมนันทนาการ โดยการทดสอบด้วยสถิติ t-test แบบ Independent (Independent t-test) พบวา่ โดยภาพรวมนิสติ พยาบาลชั้นปีท่ี 1 และช้ันปีท่ี 4 มีค่าคะแนนการมกี ิจกรรมทางกายแตกต่างอย่าง ไมม่ นี ัยสาคญั ทางสถิติทีร่ ะดับ .05 และเมือ่ พจิ ารณารายด้าน พบว่า 1. นิสติ พยาบาลชั้นปที ี่ 1 และช้นั ปีที่ 4 มคี ่าคะแนนการมีกิจกรรมทางกายด้านการออกกาลังกาย แตกต่างกนั อยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถติ ิทีร่ ะดับ .05 2. นิสิตพยาบาลชั้นปีท่ี 1 และช้ันปีท่ี 4 มีค่าคะแนนการมีกิจกรรมทางกายด้านการทางานบ้าน แตกต่างกนั อยา่ งไมม่ ีนยั สาคัญทางสถติ ิท่รี ะดับ .05 3. นิสิตพยาบาลชั้นปีที่ 1 และชั้นปีท่ี 4 มีค่าคะแนนการมีกิจกรรมทางกายด้านกิจกรรม นนั ทนาการแตกตา่ งกันอยา่ งไมม่ ีนยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .05

บทที่ 5 บทสรุป การวิจัยคร้ังนี้เป็นการวิจัยเชิงสารวจ (Survey Research) โดยมีวัตถุประสงค์ เพ่ือศึกษาการมี กิจกรรมทางกายของนสิ ิตพยาบาลช้ันปีที่ 1 และชั้นปีท่ี 4 ของมหาวิทยาลัยนเรศวร และเปรียบเทียบการ มีกิจกรรมทางกายของนิสิตพยาบาลระหวา่ งชน้ั ปีที่ 1 และชั้นปที ี่ 4 ของมหาวิทยาลยั นเรศวร ประชากรท่ีศึกษาเป็นนิสิตพยาบาล มหาวิทยาลัยนเรศวร ท่ีกาลังศึกษาในช้ันปีท่ี 1 จานวน 143 คน และนิสิตพยาบาลช้ันปีท่ี 4 จานวน 113 คน ซ่ึงรวมประชากรท้ังหมดได้ จานวน 256 คน คานวณกลุม่ ตัวอย่างของนิสิตพยาบาลช้ันปที ่ี 1 ได้ จานวน 96 คน คานวณกลมุ่ ตวั อยา่ งของนิสติ พยาบาล ชน้ั ปีท่ี 4 ได้จานวน 75 คน ซึ่งรวมกลุ่มตัวอย่างท้ังหมด ได้จานวน 171 คน โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบมี ระบบ (Systematic Sampling) โดยคานวณขนาดตัวอย่างตามสัดส่วนประชากรของชั้นปีที่ 1 และ ชั้นปที ่ี 4 เคร่ืองมือที่ใช้ในการศึกษาวิจัย ครั้งนี้คือ แบบสอบถามท่ีผู้วิจัยสร้างขั้นตามกรอบแนวคิด พฤติกรรมการประกอบกิจกรรมทางกายของนิสิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒของ อาภากร แสงหิรัญวัฒนา (2559) แบบสอบถามผ่านการตรวจสอบหาค่าความตรงของเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน และได้รับการตรวจสอบแกไ้ ขและขอ้ เสนอแนะจากผูท้ รงคุณวฒุ ทิ ่มี คี วามเช่ียวชาญ ได้ค่าความตรง ของเนื้อหาในแต่ละด้าน ดังนี้ กิจกรรมด้านการเดินทาง ได้ 0.75 กิจกรรมด้านการออกกาลังกายได้ 1 กิจกรรมด้านการทางานบ้านได้ 1 กิจกรรมด้านนันทนาการ ได้ 1 หลังจากน้ัน นาเครื่องมือท่ีได้รับการ ปรบั ปรงุ แก้ไข แล้วไปทดลองใช้กบั นิสติ พยาบาลทก่ี าลงั ศึกษาในชั้นปที ่ี 1 หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีการศึกษา 2562 จานวน 30 ตัวอย่าง และดาเนินหาความเชื่อม่ันจากการใช้แบบ ประเมินกิจกรรมทางกายของ นิสิตพยาบาลช้ันปีที่ 1 และชั้นปีที่ 4 โดยใช้สูตรแบบสัมประสิทธิ์แอลฟา ของครอนบาค (Cronbach's alpha) ได้คา่ ความเชื่อม่ัน คือ 0.702 ดาเนินการเกบ็ ข้อมลู โดยผวู้ จิ ยั จัดทาหนังสอื ถึงคณบดี คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร เพ่ือขอความอนุเคราะห์ในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างท่ีเป็นนิสิตพยาบาล ช้ันปีที่ 1 และช้ันปีที่ 4 จานวนทั้งหมด 171 คน และแจกแบบสอบถามให้กลุ่มตัวอย่างแล้วให้ส่งคืนผู้วิจัย จากนั้นทาการ ตรวจสอบความครบถว้ นสมบูรณ์ของแบบสอบถาม ซ่ึงผู้วิจัยไดร้ ับแบบสอบถามทสี่ มบูรณ์คนื ทง้ั หมด 166 ฉบบั และอกี 5 ฉบบั เป็นขอ้ มูลท่สี ญู หายและกลุ่มตัวอยา่ งไม่ยินยอมในการเขา้ ร่วมโครงการวิจยั การวิเคราะห์ข้อมูลกระทาโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สาเร็จรูป SPSS (Statistical Package for the Social Science) โดยวเิ คราะห์ขอ้ มูลแบง่ ออกเป็น 3 ตอน คือ ตอนที่ 1 เป็นข้อมลู ทั่วไปของกลุ่ม ตัวอย่างโดยใช้การแจกแจงความถ่ีและร้อยละ ตอนที่ 2 เป็นข้อมูลการวิเคราะห์ การมีกิจกรรมทางกาย ของนิสิตพยาบาล ช้ันปีท่ี 1 และ ช้ันปีที่ 4 โดยใช้การหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ตอนท่ี 3 เป็นข้อมูลการเปรียบเทียบการมีกิจกรรมทางกายของนิสิตพยาบาล ช้ันปที ่ี 1 และ ช้ันปีท่ี 4 โดย

49 ใช้สถิติการทดสอบ t-test แบบ Independent และใช้สถิตกิ ารทดสอบ Chi-square ในการเปรียบเทียบ ข้อมูลท่ัวไปของนิสิตพยาบาลชั้นปีท่ี 1 และช้ันปีที่ 4 ได้แก่ เพศ โรคประจาตัว ที่พักอาศัย และ ยานพาหนะท่ใี ชใ้ นการเดนิ ทาง สรปุ ผลกำรวจิ ัย 1. ข้อมูลท่วั ไปของกล่มุ ตวั อย่าง พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็น เพศหญิง จานวน 152 คน (ร้อยละ 91.6) รองลงมาเป็น เพศชาย จานวน 14 คน (รอ้ ยละ 8.4 คน) อายุ 18-20 ปี จานวน 93 คน (รอ้ ยละ 56) และ อายุ 21 ปขี ้ึน ไป มีทั้งหมด 73 คน (ร้อยละ 44) กลุ่มตัวอย่างมีโรคประจาตัว 6 คน (ร้อยละ3.6) และไม่มีโรคประจาตัว 160 คน (ร้อยละ 94.6) ด้านที่พักอาศัย พบว่า อยู่บ้านพักอาศัยจานวน 1 คน (ร้อยละ 0.6) หอพักใน มหาวิทยาลัย จานวน 82 คน (ร้อยละ 49.4) หอพักนอกมหาวิทยาลัย จานวน 83 คน (ร้อยละ 50) โดย นิสิตพยาบาลช้ันปีท่ี 1 มีท่ีพักอาศัย ได้แก่ บ้านพักอาศัย จานวน 1 คน (ร้อยละ 1.1) หอพักใน มหาวิทยาลัย จานวน 82 คน (ร้อยละ 88.2) และหอพักนอกมหาวิทยาลัย จานวน 10 คน (ร้อยละ 10.8) และนิสิตพยาบาลช้ันปีท่ี 4 มีที่พักอาศัย ได้แก่ หอพักนอกมหาวิทยาลัย จานวน 73 คน (ร้อยละ 100) และสาหรับยานพาหนะท่ีใช้ในการเดินทางโดยรวม ได้แก่ รถยนต์ จานวน 4 คน (ร้อยละ 2.4) รถจักรยานยนต์ จานวน 120 คน (ร้อยละ 72.3) รถขนส่งมวลชนของมหาวิทยาลัย จานวน 42 คน (ร้อยละ 25.3) และไม่มีผู้ใช้รถโดยสารประจาทาง โดยนิสิตพยาบาล ช้ันปีท่ี 1 ใช้ยานพาหนะในการ เดินทาง ได้แก่ รถยนต์ จานวน 1 คน (ร้อยละ 1.1) รถจักรยานยนต์ จานวน 50 คน (ร้อยละ 53.8) รถขนส่งมวลชนของมหาวิทยาลยั จานวน 42 คน (รอ้ ยละ 45.2) และไมม่ ีผู้ใช้รถโดยสารประจาทาง และ นิสิตพยาบาลชั้นปีที่ 4 ใช้ยานพาหนะในการเดินทาง ได้แก่ รถยนต์ จานวน 3 คน (ร้อยละ 4.1) รถจักรยานยนต์ จานวน 70 คน (ร้อยละ 95.9) ไม่มีผู้ใช้รถขนส่งมวลชนของมหาวิทยาลัยและรถโดยสาร ประจาทาง 2. ข้อมลู การมกี จิ กรรมทางกายของนิสติ พยาบาลชัน้ ปีท่ี 1 และชน้ั ปีที่ 4 2.1 ด้านกิจกรรมการออกกาลังกาย โดยรวมอยู่ในระดับต่า (ค่าเฉล่ียอยู่ที่ 7.50 และส่วน เบีย่ งเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.29) 2.2 ด้านกิจกรรมทางานบ้าน โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉล่ียอยู่ที่ 8.43 และส่วน เบย่ี งเบนมาตรฐานเท่ากบั 2.78) 2.3 ด้านกิจกรรมนันทนาการ โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉล่ยี อยู่ท่ี16.46 และส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐานเทา่ กับ 4.22) 3. ข้อมูลการเปรียบเทียบการมีกิจกรรมทางกายของนิสิตพยาบาลโดยรวม ชั้นปีท่ี 1 และชั้นปี ท่ี 4 มีความไม่แตกต่างกัน และเมอ่ื พิจารณารายด้านพบว่า 3.1 ด้านกจิ กรรมการออกกาลังกาย นสิ ติ ชนั้ ปที ่ี 1 แตกต่างกับนิสิตชน้ั ปที ี่ 4 3.2 ดา้ นกิจกรรมทางานบา้ น นสิ ติ ช้ันปีที่ 1 ไม่แตกต่างกบั นสิ ติ ช้ันปที ี่ 4 3.3 ด้านกจิ กรรมนนั ทนาการ นสิ ิตช้นั ปีท่ี 1 ไม่แตกต่างกับนิสติ ช้ันปที ่ี 4

50 อภปิ รำยผลกำรวิจยั จากการวิเคราะห์ข้อมูล และสรุปผลการวิจัยเรื่อง การมีกิจกรรมทางกายของนิสิตพยาบาล มหาวิทยาลัยนเรศวร ซ่ึงผลการวิจัยมีประเด็นที่น่าสนใจและผู้วิจัยได้อภิปรายผลตามผลการวิจัยและ จุดม่งุ หมายของการวิจยั ที่ตั้งไว้ ดงั น้ี 1. ผลรวมการมีกิจกรรมทางกายของนิสิตพยาบาลชั้นปีท่ี 1 และชั้นปีท่ี 4 ของมหาวิทยาลัย นเรศวรซ่ึงจากการทบทวนวรรณกรรมและเอกสารที่เก่ียวข้องที่ผ่านมา ผู้วิจยั ยังไม่พบงานวิจัยที่ศึกษาการ มกี ิจกรรมทางกายของนิสิตพยาบาลชั้นปที ่ี 1 และช้ันปที ี่ 4 ดังน้ัน ผู้วิจยั จงึ สามารถอธิบายได้วา่ ผลการมี กิจกรรมทางกายของนิสิตพยาบาลช้ันปีที่ 1 และชั้นปีที่ 4 อยู่ในระดับต่า (x̄ =32.40, SD.=7.14) อาจ เนื่องมาจาก นิสิตพยาบาลช้ันปีที่ 1 มีการเปลี่ยนจากการศึกษาระดับมัธยมศึกษามาเปนระดับอุดมศึกษา ทาให้ตองใชเวลาในการปรับตวั กับการเรียน และยงั ไม่คุ้นเคยหรอื รู้จักสถานท่ีในการทากิจกรรมต่างๆ อีก ทั้งนิสติ พยาบาลชั้นปีที่ 1 ส่วนใหญต่ อ้ งพักอาศัยอยู่ทีห่ อพักทางมหาวทิ ยาลยั จดั ให้ จึงตอ้ งทางานบ้านดว้ ย ตนเอง ซ่งึ เป็นงานที่ทาอยเู่ ป็นประจา และได้ใช้เวลาว่างจากการเรียนมาทากจิ กรรมนนั ทนาการอยู่ที่คณะ เป็นส่วนใหญ่ เช่น กิจกรรมห้องเชียร์ การฝึกซ้อม ร้องเพลงเชียร์ เป็นต้น และเม่ือกลับไปที่หอพัก หลังจากเรียนหรือทากิจกรรมท่ีคณะเสร็จแล้ว โดยจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฟังเพลงและเล่นโซเชียล มิเดีย ส่วนนิสิตพยาบาลช้ันปีที่ 4 น้ันอยู่ช่วงการเตรียมตัวเพื่อสอบประเมินความรู้ในการขอขึ้นทะเบียน และรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ สอบปลายภาคตามที่มหาวิทยาลัยกาหนด ซึ่งจะต้องสอบเร็ว กวา่ นิสิตพยาบาลช้ันปอี ื่นๆ จงึ มงุ่ เน้นไปกบั การอ่านหนังสอื เพือ่ เตรียมตัวในการสอบ จงึ ทาให้ไม่มีเวลาว่าง ในการออกกาลังกายหรืออาจจะทาให้ไมม่ ีความสนในการออกกาลงั กาย 2. การมีกิจกรรมทางกายของนสิ ิตพยาบาลช้ันปที ่ี 1 และชน้ั ปีที่ 4 ของมหาวิทยาลยั นเรศวรเป็น ดงั นี้ 2.1 ด้านกิจกรรมการออกกาลังกาย จากการศึกษาพบว่านิสติ พยาบาลชั้นปีท่ี 1 มคี ่าเฉลี่ย กิจกรรมการออกกาลังกายอยู่ในระดับต่า เช่นเดียวกับนิสิตพยาบาลช้ันปที ่ี 4 โดยนสิ ติ พยาบาลช้ันปีท่ี 1 มี คา่ เฉลย่ี กิจกรรมการออกกาลังกายอยใู่ นระดับต่า (x̄ =8.32, SD.=3.38) พบวา่ นสิ ิตพยาบาลช้ันปีที่ 1 สว่ น ใหญ่กิจกรรมที่ปฏิบัติคือ เดินขึ้นบันได (x̄ =2.62) โดยจะเดินขึ้นบันได 5-7 ครั้งใน 1 สัปดาห์ คิดเป็น ร้อยละ 86, เดินออกกาลังกาย (x̄ =1.21) เดินออกกาลังกาย 5-7 คร้ังใน 1 สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 35.5 และแกว่งแขน (x̄ =1.03) แกว่งแขน 1-2 ครั้งใน 1 สัปดาห์คิดเป็นร้อยละ 37.6 เป็นต้น และกิจกรรมท่ี ปฏิบัติน้อยที่สุดคือ ฟุตบอล (x̄ =0.00) เป็นต้น อาจเนื่องมาจากนิสิตพยาบาลชั้นปที่ 1 พ่ึงเปลี่ยนจาก การศึกษาระดับมธั ยมศกึ ษามาเปนระดบั อดุ มศึกษาทาใหตองใชเวลาในการปรบั ตวั กับการเรียน และยังไม่ คนุ้ เคยหรือรู้จักสถานที่ในการทากิจกรรมต่างๆ รวมทั้งยงั ต้องเขา้ ร่วมทากจิ กรรมที่ทางมหาวทิ ยาลัยจดั ข้ึน ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ วัลลภา เทพหัสดิน ณ อยุธยา (2527) เร่ือง นิสิตนักศึกษาใน สถาบันอุดมศึกษา พบว่า สภาพนักศึกษาในมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกา มีลักษณะใกล้เคียงกับสภาพ นกั ศึกษาในประเทศไทย คือ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 รู้สึกมีความสนใจและต่ืนเตน้ ต่อทุกส่ิงที่อยูร่ อบๆ ตัวไม่ว่า จะเปน็ กจิ กรรมต่างๆ การเรียนหรอื สังคมในมหาวิทยาลัยทนี่ กั ศึกษาอยากเรียน

51 ในส่วนของนิสิตพยาบาลชั้นปีท่ี 4 มีค่าเฉล่ียกิจกรรมการออกกาลังกายระดับต่า (x̄ =6.47, SD.=2.87) พบว่านิสิตพยาบาลช้ันปีท่ี 4 ส่วนใหญ่กิจกรรมที่ปฏิบัติคือ เดินข้ึนบันได (x̄ =2.68) โดยคน ส่วนใหญ่จะเดินขึ้นบันได 5-7 คร้ังใน 1 สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 75.3, เดินออกกาลังกาย (x̄ =1.21) เดิน ออกกาลังกาย 1-2 คร้ังใน 1 สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 49.3 และแกว่งแขน (x̄ =1.03) แกว่งแขน 1-2 คร้ัง ใน 1 สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 45.2 เป็นต้น และกิจกรรมท่ีปฏิบัติน้อยที่สุด คือ ตะกร้อ (x̄ =0.00) อาจ เน่ืองมาจากนิสติ พยาบาลชั้นปท่ี 4 ต้องขึ้นฝึกปฏิบตั ทิ างการพยาบาล อีกท้ังยงั อย่ใู นช่วงการเตรียมตัวเพื่อ สอบประเมนิ ความรู้ในการขอขนึ้ ทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ สอบปลายภาคตามท่ี มหาวิทยาลัยกาหนดท่จี ะต้องสอบเร็วกว่านิสิตพยาบาลช้ันปีอื่นๆ จึงมุ่งเน้นกับการอ่านหนังสือเพ่อื เตรียม ตัวในการสอบ ทาให้ไม่มีเวลาว่างในการออกกาลังกายหรือมีเวลาออกกาลังกายน้อย ซ่ึงสอดคล้องกับ งานวจิ ยั ของ วัลลภา เทพหัสดนิ ณ อยธุ ยา (2527) เรื่อง สภาพนักศึกษาในมหาวทิ ยาลยั ของสหรฐั อเมริกา ผลวิจัยพบว่า สภาพนักศึกษาในสหรัฐอเมริกามีสภาพใกล้เคียงกับสภาพนักศึกษาในประเทศไทย คือ นักศึกษาชั้นปีท่ี 4 ส่วนมากมักจะยุ่งกับการหางาน การศึกษาต่อและความก้าวหน้าในอนาคตมากกว่า กิจกรรมมหาวิทยาลัย และยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ กานดามณี พานแสง และคณะ (2558) เร่ือง ความสัมพันธ์ระหว่างผลการเรียนสะสม ระยะเวลาการเตรียมตัวสอบและการจัดการความเครียดกับ ความเครียดของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 4 ในการสอบข้ึนทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ของวิทยาลัยพยาบาลตารวจ ผลการวิจัยพบว่า ระยะเวลาการ เตรียมตัวสอบมีความสมั พนั ธ์กบั ระดับความเครยี ดของนักศกึ ษาพยาบาลชั้นปีท่ี 4 ในการสอบขนึ้ ทะเบียน และรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชพี การพยาบาลและการผดุงครรภ์ของวิทยาลัยพยาบาลตารวจอย่าง มีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 อาจเนื่องมาจากนักศึกษาพยาบาลช้ันปีท่ี 4 ได้รับทราบปัญหาต่างๆ ตลอดมาทาให้เป็นกังวลกับการเตรียมความพร้อมในการสอบผู้ท่ีมีระยะเวลาการเตรียมตัวสอบ น้อยจะมี ความเครียดมากกวา่ ผู้ทม่ี ีระยะเวลาในการสอบมาก 2.2 ด้านกิจกรรมการทางานบ้าน จากการศึกษาพบว่านิสิตชั้นปีท่ี 1 มีค่าเฉลี่ยกิจกรรม ทางานบ้านระดับปานกลาง เช่นเดียวกับนิสิตพยาบาลช้ันปีท่ี 4 โดยนิสิตพยาบาลชั้นปีที่ 1 มีค่าเฉลี่ย กิจกรรมการทางานบ้านอยู่ในระดับปานกลาง (x̄ =8.41, SD.=2.80) พบว่านิสิตพยาบาลชั้นปีท่ี 1 ส่วน ใหญ่กิจกรรมที่ปฏิบัติ คือ ซักผ้า (x̄ =1.89) โดยจะซักผ้า 3-4 ครั้งใน 1 สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 46.2, รีดผ้า (x̄ =1.85) โดยจะรีดผ้า 3-4 ครั้งใน 1 สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 39.8 และกวาดพ้ืนหอพัก/บ้าน (x̄ =1.68) โดยคนส่วนใหญ่จะกวาดพื้นหอพัก/บา้ น 1-2 ครั้งใน 1 สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 43 และกิจกรรม ที่ปฏิบัติน้อยท่ีสุด คือ ประกอบอาหาร (x̄ =0.10) อาจเน่ืองมาจากนิสิตพยาบาลชั้นปท่ี 1 พักอาศัยอยู่ที่ หอพักเป็นส่วนใหญ่ จึงต้องทางานบ้านด้วยตนเอง ซ่ึงเป็นงานท่ีทาอยู่เป็นประจา และได้รับการปลูกฝัง ตั้งแต่ยังอยู่ในวัยเด็ก ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ กิติพงษ์ ขัติยะ (2559) เร่ือง กิจกรรมทางกายของ นักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ผลการวิจัยพบว่า กิจกรรมทางกายของ นักศึกษาส่วนใหญ่ในชีวิตประจาวัน ด้านกิจวัตรประจาวัน ได้แก่ การเดิน การทางานบ้าน และการข่ี จักรยาน และยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ ชโลทร เสียงใส และสุจิตรา สุคนธทรัพย์ (2556) วิจัยเรื่อง

52 ปจั จยั ทมี่ ีความสัมพันธ์กับการมีกจิ กรรมทางกายของนิสิตนักศึกษา สถาบนั อุดมศกึ ษาในกรงุ เทพมหานคร ผลการวิจัยพบว่า นิสิตนักศึกษาสถาบันอุดมศึกษาในกรุงเทพมหานคร มีความรู้เก่ียวกับกิจกรรมทางกาย ในภาพรวมอยู่ในระดับควรปรับปรุง มีทัศนคติเกีย่ วกับกิจกรรมทางกายในภาพรวมอยใู่ นระดับดีมาก และ มีพฤติกรรมทางการในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง และยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ พลพิพัฒน์ สุขพัฒน์ธี (2558) เร่ือง พฤติกรรมกิจกรรมทางกายของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาชายและนักศึกษาหญิง ส่วนใหญ่ทางานบ้าน วันละ 1 ช่ัวโมงหรือสัปดาห์ละ 3-4 วัน และในส่วนของนิสิตพยาบาลชั้นปีท่ี 4 มีค่าเฉลี่ยกิจกรรมทางานบ้านระดับปานกลาง (x̄ =8.47, SD.=2.77) พบว่านิสิตพยาบาลชั้นปีท่ี 4 ส่วนใหญ่กิจกรรมที่ปฏิบัติ คือ กวาดพ้ืนหอพัก/บ้าน (x̄ =1.88) โดยจะกวาดพน้ื หอพัก/บา้ น 3-4 ครั้งใน 1 สัปดาห์ คดิ เป็นร้อยละ 38.4, รีดผ้า (x̄ =1.48) โดยคนส่วนใหญ่ จะรีดผา้ 1-2 ครั้งใน 1 สัปดาห์ คิดเป็น ร้อยละ 43.8 และล้างจาน (x̄ =1.47) โดยคนส่วนใหญ่จะลา้ งจาน 1-2 ครั้งใน 1 สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 49.3 เป็นต้น และกิจกรรมท่ีปฏิบัติน้อยที่สุด คือ ดูดฝุ่น (x̄ =0.15) อาจเน่ืองมาจากนิสิตพยาบาลชั้นปที่ 4 พักอาศัยอยู่ที่หอพักเป็นส่วนใหญ่ จึงต้องทางานบ้านด้วยตนเอง ซ่ึงสอดคล้องกับงานวจิ ัยของ กิติพงษ์ ขัติยะ (2559) เร่ือง กิจกรรมไม่ทางกายของนักศึกษาระดับปริญญา ตรี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ผลการวิจัยพบว่า กิจกรรมทางกายของนักศึกษาส่วนใหญ่ ในชีวิตประจาวัน ด้านกิจวัตรประจาวัน ได้แก่ การเดิน การทางานบ้าน และการขี่จักรยาน และยัง สอดคล้องกับงานวิจัยของ ชโลทร เสียงใส และสุจิตรา สุคนธทรัพย์ (2556) วิจัยเร่ือง ปัจจัยที่มี ความสัมพันธ์กับการมีกิจกรรมทางกายของนิสิตนักศึกษา สถาบันอุดมศึกษาในกรุงเทพมหานคร ผลการวิจัยพบว่า นิสิตนักศึกษาสถาบันอุดมศึกษาในกรุงเทพมหานคร มีความรู้เก่ียวกับกิจกรรมทางกาย ในภาพรวมอยู่ในระดับควรปรับปรุง มีทศั นคตเิ ก่ียวกับกิจกรรมทางกายในภาพรวมอยใู่ นระดับดีมาก และ มีพฤติกรรมทางการในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง และยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ พลพิพัฒน์ สุขพัฒน์ธี (2558) เรื่อง พฤติกรรมกิจกรรมทางกายของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาชายและนักศึกษาหญิง ส่วนใหญ่ทางานบ้าน วันละ 1 ชั่วโมงหรือสัปดาห์ละ 3-4 วัน 2.3 ด้านกิจกรรมนันทนาการ จากการศกึ ษาพบว่ากิจกรรมนันทนาการนิสติ พยาบาลชั้นปี ท่ี 1 มคี ่าเฉล่ียกิจกรรมนันทนาการระดับปานกลาง เช่นเดียวกับนิสติ พยาบาลช้นั ปีที่ 4 โดยนิสิตพยาบาล ชนั้ ปีท่ี 1 มคี ่าเฉล่ยี กิจกรรมนนั ทนาการอยู่ในระดับปานกลาง (x̄ =16.48, SD.=4.36) พบว่านิสิตพยาบาล ชนั้ ปีท่ี 1 ส่วนใหญ่กิจกรรมท่ีปฏบิ ัติคือ ฟังเพลง (x̄ =2.75) โดยจะฟังเพลง 5-7 คร้ังใน 1 สัปดาห์ คิดเป็น ร้อยละ 81.7, ใช้คอมพิวเตอร์/โทรศัพท์มากกว่าวันละ 2 ชั่วโมงต่อวัน (x̄ =2.38) โดยจะใช้คอมพิวเตอร์/ โทรศพั ทม์ ากกว่าวนั ละ 2 ชว่ั โมง 5-7 ครัง้ ใน 1 สัปดาห์ คดิ เปน็ ร้อยละ 51.6 (x̄ =2.38) และใช้ส่อื โซเชยี ล มิเดีย เช่น Facebook, Instragram Line Twitter ฯลฯ มากกว่าวันละ 2 ช่ัวโมงต่อวัน (x̄ =2.32) โดยจะ ใช้สื่อโซเชียลมิเดีย 5-7 คร้ังใน 1 สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 52.7 และกิจกรรมท่ีปฏิบัติน้อยที่สุด คือ ให้ อาหารปลา (x̄ =0.14) อาจเน่อื งมาจากนิสติ พยาบาลชั้นปที่ 1 จะตอ้ งเข้าร่วมกิจกรรมของคณะ จึงใช้เวลา ว่างจากการเรียนมาทากิจกรรมนันทนาการอยู่ที่คณะเป็นส่วนใหญ่ เช่น กิจกรรมห้องเชียร์ การฝึกซ้อม

53 รอ้ งเพลงเชียร์ เปน็ ตน้ และเมอ่ื กลับไปท่ีหอพัก หลังจากเรยี นหรือทากิจกรรมท่คี ณะเสร็จ สว่ นใหญ่มกั จะ ฟังเพลง เล่นโซเชียลมิเดีย ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ ธัญญชนก เพ็งผา (2548) เร่ือง สภาพและ ความหวังต่อการเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการด้านศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยรามคาแหง ผลวิจัย พบว่า นักเรียนและนักศึกษาปฏิบัติกิจกรรมนันทนาการทั้งขณะอยู่ที่วิทยาลัยและขณะอยู่ท่ีบ้าน อยู่ใน ระดับปานกลาง และสอดคล้องกับงานวิจัยของ ชัยชนะ มิตรสัมพันธ์ (2551) ได้ศึกษาเก่ียวกับความ ต้องการเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ผลการวิจัย พบว่า นักศึกษาปริญญาตรีปีท่ี 1 มีความต้องการอยู่ในระดับปานกลาง และยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ พลพิพัฒน์ สุขพัฒน์ธี (2558) เรื่อง พฤติกรรมกิจกรรมทางกายของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ พระนครศรีอยุธยา ผลการวิจัยพบว่า 1) พฤติกรรมของนักศึกษาชายและนักศึกษาหญิง ส่วนใหญ่ คือ น่ัง หรือนอนคุย/เล่นโทรศัพท์มือถือ นั่งหรือนอนดูโทรทัศน์ และน่ังคยุ กับเพือ่ น 2) นักศึกษาชายมีพฤติกรรม การนง่ั หรอื นอนอยู่กับที่ วันละ 4 ชั่วโมงหรือสัปดาหล์ ะ 5 วนั ส่วนนักศึกษาหญิง มีพฤติกรรมการนั่งหรือ นอนอยู่กับท่ี วันละ 5 ชั่วโมงหรือสัปดาห์ละ 6 วัน 3) นักศึกษาชายส่วนใหญ่ประกอบกิจกรรมยามว่าง มากที่สุด คือ ฟุตบอล ว่ิงจ็อกก้ิง รอ้ งเพลง และฟุตซอล ส่วนนักศึกษาหญิงประกอบกิจกรรมยามว่างมาก ทสี่ ดุ คือ รอ้ งเพลง ว่งิ จ๊อกกิ้ง ขี่จักรยาน และแบดมินตัน ตามลาดับ ในส่วนของนิสิตพยาบาลชั้นปีท่ี 4 มีค่าเฉล่ียกิจกรรมนันทนาการระดับปานกลาง (x̄ =16.44, SD.=4.07) พบว่านิสิตพยาบาลช้ันปีท่ี 4 ส่วนใหญ่กิจกรรมท่ีปฏิบัติ คือ ฟังเพลง (x̄ =2.68) โดยคนส่วน ใหญ่จะฟังเพลง 5-7 ครั้งใน 1 สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 75.3 ใช้คอมพิวเตอร์/โทรศัพท์มากกว่าวันละ 2 ช่ัวโมงต่อวัน (x̄ =2.56) โดยจะใช้คอมพิวเตอร์/โทรศัพท์มากกว่าวันละ 2 ช่ัวโมงต่อวัน 5-7 ครั้งใน 1 สัปดาห์คิดเป็นร้อยละ 69.9 และใช้สื่อโซเชียลมิเดีย เช่น Facebook Instragram Line Twitter ฯลฯ มากกว่าวันละ 2 ชั่วโมงตอ่ วัน (x̄ =2.55) โดยจะใช้สอื่ โซเชียลมิเดียมากกวา่ วันละ 2 ช่ัวโมงต่อวัน 5-7 ครั้ง ใน 1 สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 72.6 เป็นต้น และกิจกรรมที่ปฏิบัติน้อยท่ีสุด คือ เข้าค่าย/กิจกรรมชมรม (x̄ =0.07) อาจเน่ืองมาจากนสิ ิตพยาบาลช้นั ปท่ี 4 ตอ้ งสอบปลายภาคตามทม่ี หาวิทยาลยั กาหนด ท่จี ะต้อง สอบเร็วกว่านิสิตพยาบาลช้ันปีอื่นๆ จึงได้ใช้วิธีการผ่อนคลายโดยการฟังเพลง ใช้คอมพิวเตอร์/โทรศัพท์ และใช้สื่อโซเชียลมิเดีย ฯลฯ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเป็นกิจกรรมที่สามารถท่ีเข้าถึงได้ง่าย แต่ กิจกรรมดังกล่าวน้ันจะต้องเกิดจากพ้ืนฐานความช่ืนชอบของแต่ละบุคคลด้วย ดังนั้น จึงทาให้การมี กิจกรรมทางกายด้านกิจกรรมนันทนาการอยู่ในระดับปานกลาง ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ ธัญญชนก เพ็งผา (2548) เร่ือง สภาพและความหวังต่อการเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการด้านศิลปวัฒนธรรมของ มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนและนักศึกษาปฏิบัติกิจกรรมนันทนาการท้ังขณะอยู่ท่ี วิทยาลัยและขณะอยู่ที่บ้าน อยู่ในระดับปานกลาง และยังสอดคล้องกับงานวิจัยชัยชนะ มิตรสัมพันธ์ (2552) วิจัยเร่ือง การศึกษาความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการของนักศึกษามหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลกลุ่มภาคกลาง ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาช้ันปีที่ 2-4 มีความต้องการ การเข้าร่วม กจิ กรรมนนั ทนาการระดบั ปานกลาง

54 3. การเปรียบเทียบการมีกิจกรรมทางกายของนิสิตพยาบาลช้ันปีที่ 1 และช้ันปีท่ี 4 ของ มหาวิทยาลัยนเรศวรพบว่า ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ .05 ซ่ึงจากการทบทวน วรรณกรรมและเอกสารท่ีเกี่ยวข้องท่ีผ่านมา ผู้วิจัยยังไม่พบงานวิจัยที่ศึกษาการเปรียบเทียบ การมี กิจกรรมทางกายของนิสิตพยาบาลชั้นปีที่ 1 และช้ันปีท่ี 4 ดังนั้น ผู้วิจัยจึงสามารถอธิบายได้ว่านิสิต พยาบาลช้ันปีท่ี 1 มีหน่วยกิตการเรียนตามหลักสูตรคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรท่ีอยู่ใน ระดับมาก (22 หน่วยกิต) จึงส่งผลให้มีเวลาในการทากิจกรรมทางกายลดลง และสาหรับนิสิตพยาบาล ช้ันปีท่ี 4 ถึงแม้จะมีหน่วยกิตการเรียนตามหลักสูตรคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (13 หน่วยกิต) ท่ีน้อยกว่านิสิตพยาบาลช้ันปีท่ี 1 แต่จะต้องมีการเตรียมตัวข้ึนฝึกปฏิบัติทางการพยาบาล และอยู่ช่วงการเตรียมตัวเพื่อสอบประเมินความรู้ ในการขอข้ึนทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบ วิชาชีพฯ รวมไปถึงจะต้องมสี อบปลายภาคตามท่ีมหาวิทยาลยั กาหนด ทีจ่ ะตอ้ งสอบเร็วกว่านิสิตพยาบาล ชั้นปีอ่ืนๆ จึงทาให้มีการมุ่งเน้นไปกับการอ่านหนังสือเพ่ือเตรียมตัวในการสอบ และขึ้นฝึกปฏิบัติ ทาให้มี การทากิจกรรมทางกายลดลง เช่นเดียวกับนิสติ พยาบาลชน้ั ปีท่ี 1 ท่ีไดก้ ล่าวมาข้างตน้ จงึ กล่าวได้วา่ การมี กจิ กรรมทางกายของนิสิตพยาบาลช้นั ปีท่ี 1 และชนั้ ปที ี่ 4 ของมหาวทิ ยาลยั นเรศวร ไม่มีความแตกต่างกัน จากผลการเปรียบเทียบการมีกิจกรรมทางกายรายด้านของนิสิตพยาบาลชั้นปีท่ี 1 และช้ันปีท่ี 4 ของมหาวทิ ยาลัยนเรศวรซง่ึ แบ่งเปน็ ดา้ น ได้ดงั นี้ 3.1 ด้านกิจกรรมการออกกาลังกาย นิสิตพยาบาลช้ันปีที่ 1 และช้ันปีท่ี 4 มีความ แตกต่างกัน จากผลการศึกษา พบว่า การมีกิจกรรมการออกกาลังกายของนสิ ิตพยาบาลชั้นปีที่ 1 และชั้น ปีที่ 4 แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ท่ีระดับ .05 ซึ่งอธิบายได้ว่า การท่ีหน่วยกิตรวมของนิสิต พยาบาลชั้นปีที่ 1 จะมีหน่วยกิตมากกว่านิสิตพยาบาลช้ันปีท่ี 4 แต่นิสิตพยาบาลช้ันปีท่ี 4 มีกิจกรรมการ เรียนที่มากในช่วงเทอมท่ี 1 ซ่ึงจะต้องศกึ ษาให้จบตามหลกั สูตรการเรียนการสอน และจะตอ้ งเตรยี มความ พร้อมในการข้ึนฝึกช่วงกลางเทอมท่ี 1 จึงทาให้ไม่มีเวลาว่างมากพอในการมีกิจกรรมด้านการออกกาลัง กาย ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ ชาญลักษณ์ เย่ียมมิตร (2556) เรื่อง การศึกษาพฤติกรรมการ ออกกาลังกายของนักศกึ ษามหาวิทยาลัยราชภฏั ราไพพรรณี ปกี ารศึกษา 2554 ผลวจิ ัยพบวา่ นักศึกษาช้ัน ปีท่ี 1 มีพฤติกรรมการออกกาลังกายแตกต่างกับนักศึกษาช้ันปีท่ี 3 และ ปี 4 อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ี ระดบั .05 โดยนกั ศึกษาชนั้ ปที ่ี 1 มีพฤตกิ รรมการออกกาลังกายสูงกว่านักศึกษาชน้ั ปที ่ี 3 และปี 4 (Mean different=0.18 และ 0.24 ตามลาดับ) ซ่ึงกล่าวไว้ว่า นักศึกษาชั้นปีท่ี 3 และ ปี 4 มีกิจกรรมการเรียน มากจึงทาใหไ้ ม่มีเวลาว่างมากพอในการปฏิบัตเิ ก่ียวกับการออกกาลังกาย และจากผลการศึกษาของผู้วิจัย ยังพบว่านิสิตพยาบาลชัน้ ปีท่ี 1 สว่ นใหญ่พักอาศยั อยู่พอพักภายในมหาวทิ ยาลยั จงึ มีกิจกรรมทางกายด้าน การออกกาลังกายมากกว่านิสิตพยาบาลช้ันปีที่ 4 เน่ืองจากภายในมหาวิทยาลัยมีสถานที่ท่ีเหมาะสาหรับ การออกกาลังกายหลายแห่ง และสามารถเข้าถึงสถานที่ออกกาลังกายได้มากกว่าการพักอาศัยอยู่หอพัก นอกมหาวิทยาลัย หรือการพักอาศัยที่บ้าน ส่วนนิสิตพยาบาลชั้นปีที่ 4 ส่วนใหญ่พักอาศัยอยู่หอพักนอก

55 มหาวิทยาลัย จึงอาจทาให้เข้าถึงสถานท่ีในการออกกาลังได้ยากกว่าการอยู่หอพักในมหาวิทยาลัย และ สถานท่ีออกกาลงั กายอาจมไี ม่เพียงพอต่อความต้องการ เน่ืองจากบริเวณรอบๆ มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะ เป็นร้านอาหาร ร้านเสริมสวย และหอพกั นิสติ เป็นส่วนใหญ่ และยังพบวา่ นสิ ิตพยาบาลชนั้ ปีที่ 1 ส่วนใหญ่ มักใช้รถจักรยานยนต์และใช้บริการรถขนส่งมวลชนของมหาวิทยาลัย (รถไฟฟ้า) เป็นยานพาหนะในการ เดินทาง ซึ่งนิสิตท่ีใช้บริการรถขนส่งมวลชนของมหาวิทยาลัย (รถไฟฟ้า) จะต้องเดินไปรอรถที่จุดรับ ผู้โดยสาร จึงมีกิจกรรมทางกายด้านการออกกาลังกายมากกว่านิสิตพยาบาลชั้นปีท่ี 4 โดยส่วนใหญ่ใช้ รถจักรยานยนต์ในการเดินทาง จึงทาให้ไม่ต้องเดินทางไปยังจุดจอดยานพาหนะในระยะทางไกล จึงมี กจิ กรรมทางกายดา้ นการออกกาลงั กายของนิสติ พยาบาลชน้ั ปที ่ี 4 นอ้ ยกวา่ นิสิตพยาบาลชัน้ ปีท่ี 1 3.2 ด้านกิจกรรมการทางานบ้าน นิสิตพยาบาลชั้นปีที่ 1 และช้ันปีที่ 4 ไม่แตกต่างกัน จากผลการศึกษา พบว่า การมีกิจกรรมทางานบ้านของนิสิตพยาบาลชั้นปีท่ี 1 และชั้นปีท่ี 4 แตกต่างกัน อย่างไม่มีนัยสาคัญทางสถิติ ท่ีระดับ .05 ซึ่งอธิบายได้ว่า กิจกรรมการทางานบ้านส่วนใหญ่เป็นงานบ้าน ท่ัวไปท่ีปฏิบัติอยู่เป็นกิจวัตรเป็นประจา และปฏิบัติอย่างสม่าเสมอ และส่วนใหญ่นิสิตพยาบาลชั้นปีที่ 1 และชั้นปีที่ 4 พักอาศัยอยู่ในหอพักเช่นเดียวกัน จึงทาให้กิจกรรมด้านการทางานบ้านไม่แตกต่างกัน ซึ่ง สอดคล้องกับงานวิจัยของ โชติมา แก้วกอง (ม.ป.ป.) วิจัยเร่ือง การแบ่งแยกแรงงานระหว่างเพศ ของงานบ้านและงานดูแล:กรณีศึกษาความเท่าเทียมร ะหว่างเพศ ของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผลการวิจัยพบว่า งานบ้านและงานดูแลที่นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทา สว่ นใหญ่ ร้อยละ 38.46 คอื งานทาความสะอาดบา้ น เช่น กวาดบา้ น เชด็ ถูบา้ น เป็นตน้ 3.3 ด้านกิจกรรมนันทนาการ นิสิตพยาบาลชั้นปีท่ี 1 และช้ันปีที่ 4 ไม่แตกต่างกัน จาก ผลการศึกษา พบวา่ การมีกิจกรรมนนั ทนาการของนิสิตพยาบาลช้ันปีท่ี 1 และชัน้ ปที ่ี 4 แตกต่างกนั อย่าง ไม่มีนัยสาคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 ซึ่งอธิบายได้ว่า ด้านกิจกรรมนันทนาการ ส่วนใหญ่เป็นส่ิงท่ีทาเป็น กิจวัตรประจาวนั เช่น ฟังเพลง รอ้ งเพลง ใช้สื่อโซเชียลมิเดีย การอ่านหนงั สือ เป็นต้น ซ่ึงเปน็ ส่ิงที่ไมต่ ้องมี ความรู้พ้ืนฐานก็สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งเป็นการทาเพื่อคลายเครียดหรือข้ึนอยู่กับความช่ืนชอบส่วนตัวของ แต่ละบุคคล และกิจกรรมที่ได้เข้าร่วมส่วนมากจะเป็นกิจกรรมของทางมหาวิทยาลัย ซ่ึงจะจัดขึ้นเพียง 1 คร้ังต่อ 1 ปีการศึกษา ท่ีจัดขึ้นเพียงตอนปี 1 เท่าน้ัน เช่น โครงการปฐมนิเทศนิสิตใหม่ (Beginning camp) กิจกรรมวันไหว้ครูมหาวิทยาลัยนเรศวรและบายศรีสู่ขวัญนิสิตใหม่ โครงการเปิดห้องเชียร์คณะ พยาบาลศาสตร์ Power cheer ร้องเพลงมหาวิทยาลัย ภาคภูมิใจมหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดโลกกิจกรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร โครงการ NU Freshmen Night เป็นต้น ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ รณวัฒน์ มณีนิล (2555) เร่ือง ศึกษาการเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัย ราชภัฏศรีสะเกษ ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่สนใจเก่ียวกับกิจกรรมพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม ในวันสาคัญต่างๆ เช่น วันไหว้ครู กิจกรรมของทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้น เช่น การประกวดดาว -เดือน เป็นต้น ซ่ึงส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะมหาวิทยาลัยมีข้อบังคับในการให้นิสิตเข้าร่วมในกิจกรรมนั้นๆ ซึ่ง นักศึกษาชั้นปีที่ 1 และชั้นปี 4 จะได้ปฏิบัติเหมือนกัน การมีกิจกรรมด้านนันทนาการของนักศึกษาแต่ละ ช้นั ปีจงึ ไมแ่ ตกตา่ งกัน

56 ขอ้ เสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะในการนาผลการวจิ ยั ไปใช้ 1.1 ควรมีการศึกษาเปรียบเทียบการมีกิจกรรมทางกายของนิสิตพยาบาล มหาวิทยาลัย นเรศวรทั้ง 4 ชน้ั ปี เพื่อใหข้ ้อมูลมคี วามครอบคลุมในการศึกษาการมีกจิ กรรมทางกายของนิสิตพยาบาล 1.2 ควรศึกษาปัจจัยท่ีส่งผลต่อแรงจูงใจในการมีกิจกรรมทางกายของนิสิตพยาบาล มหาวทิ ยาลยั นเรศวร 2. ข้อเสนอแนะในการทาวจิ ัยครั้งต่อไป 2.1 ควรส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายให้นิสิตพยาบาล สร้างแรงจูงใจและรณรงค์ ให้นิสิตพยาบาลเหน็ ถึงความสาคัญของการมกี ิจกรรมทางกาย 2.2 ควรจดั กจิ กรรมนนั ทนาการเชงิ บรู ณาการรว่ มกับคณะอื่นๆ เช่น ค่ายอาสาสานสมั พันธ์ เป็นต้น 2.3 ควรมกี ารศกึ ษางานวจิ ยั เชิงทดลอง เพ่อื เพิ่มการมีกิจกรรมทางกายในนิสติ พยาบาล

57 บรรณำนกุ รม กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ . (2561). แผนปฏบิ ัติการการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย. กรุงเทพฯ: เอ็น ซี คอนเซป็ ต์ จากดั . กรอนงค์ ยนื ยงชัยวัฒน์. (2559). ความสัมพนั ธ์ระหว่างแบบสอบถามกจิ กรรมทางกาย (GPAQ) กบั เครื่อง นบั ก้าวเดินในกลุ่มวัยรุ่นท่ีมีน้าหนักเกินมาตรฐาน. ธรรมศาสตร์เวชสาร. 16(2), 203. สืบค้นจาก http://www.kmutt.ac.th/jif/public_html/article_detail.php?ArticleID=183855 กองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ. (2561). กิจกรรมทางกาย (Physical Activity). สืบคน้ เม่ือ 28 กรกฎาคม 2562, จาก http://dental2.anamai.moph.go.th/download/article/.กอง กจิ กรรมทางกายเพอ่ื สขุ ภาพ กานดามณี พานแสง และคณะ. (2558). ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งผลการเรียนสะสม ระยะเวลาการ เตรียมตวั สอบและการจดั การความเครยี ด กับความเครียดของนักศกึ ษาพยาบาลชนั ปที ่ี 4 ในการ สอบขึนทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ข อง วิทยาลัยพยาบาลต้ารวจ. วารสารพยาบาลตารวจ. 7(2), 27. สืบค้นจาก https://www.tci- thaijo.org/index.php/policenurse/ew/40389/33328?fbclid=IwAR2KR3xSbdYUjc WBG06Now ApRN8KGuZYtP89UsJgAEhJjT11H933NaXEEiU กิตพิ งษ์ ขัตยิ ะ. (2559). กจิ กรรมทางกายของนักศกึ ษาระดบั ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จงั หวดั เชียงใหม่. วารสารศิปศาสตรมหาวิยาลัยแม่โจ้, 4(1), 48. สืบค้นจาก https://www.tci- thaijo.org/index.php/liberalartsjournal/article/view/95905/74886 ขวญั จิต เพง็ แปน. (2561). ความรู เจตคตเิ กยี่ วกับการออกก้าลังกาย และพฤติกรรมการออกกา้ ลงั กาย ของนกั ศึกษาพยาบาลในเขตอ้าเภอเมืองอบุ ลราชธานี. Journal of Ratchathani Innovative Health Sciences. 2 ( 2 ) , 2 1 - 2 2 . จ า ก https://www.tci-thaijo.org/index.php/ JRIHS/ article/view/213199/148186?fbclid=IwAR0CyJhN2Jt5kvdYwsBfR8dM4aK7l6SKZakM 2vUUuIzS8sbVxbZBYYKQYYM คณะพยาบาลศาสตร์. แผนการศกึ ษาหลักสตู รพยาบาลศาสตร์. [เวบ็ บล็อก]. สบื คน้ จาก http://www.nurse.nu.ac.th/web2019/stu_bns.html จริ วรรณ อินคุ้ม และคณะ. (2561). พฤตกิ รรมการออกกา้ ลงั กายของนิสิตพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 25(1), 50-63. สืบค้นจาก https://www.tci-thaijo.org/index.php/jmhs/article/view/121083/92391?fbclid= WAR3-ktuFxa1RLGnnVQHp-1pCDTs03NIk5lyWmdQHg1bZvzCcehirsOhxm4o

58 เจรญิ กระบวนรัตน์. (2550). ยืดชีวิตมิตรภาพ. กรงุ เทพฯ: สหมิตร พริน้ ติ้งแอนด์ พบั ลซิ ซงิ่ จากัด. ชัยชนะ มติ รสมั พันธ์. (2551). ความต้องการเขา้ รว่ มกจิ กรรมนันทนาการของนักศึกษามหาวทิ ยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร. กลุ่มวิชาพลศึกษาและนันทนาการ , คณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร. ชาญชลกั ษณ์ เยี่ยมมิตร. (2556). การศกึ ษาพฤติกรรมการออกกา้ ลงั กายของนักศกึ ษามหาวิทยาลัย ราชภัฏรา้ ไพพรรณี ปกี ารศกึ ษา 2554. (ปรญิ ญานิพนธ์ กศ.ม. พลศกึ ษา, บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ). ชโลทร เสียงใส และสุจิตรา สุคนธทรพั ย.์ (2556). ปจั จยั ที่มีความสัมพันธ์กบั การมีกิจกรรมทางกายของ นิสิตนักศึกษา สถาบันอุดมศึกษาในกรุงเทพมหานคร. (วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตร มหาบณั ฑติ , จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ). โชตมิ า แก้วกอง. (ม.ป.ป.). การแบ่งแยกแรงงานระหว่างเพศของงานบ้านและงานดแู ล:กรณีศึกษาความ เท่าเทยี มระหว่างเพศของนิสติ ระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. วทิ ยานพิ นธ์ปริญญา มหาบณั ฑิต,มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์วิทยาเขตกาแพงแสน. บุญใจ ศรสี ถติ นรากรู . (2545). ระเบียบวธิ ีการวิจยั ทางการพยาบาล (พิมพค์ ร้งั ท่ี 2). กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . บญุ ใจ ศรีสถติ ยน์ รากร. (2553). ระเบยี บวิธีการวิจยั ทางพยาบาลศาสตร์ (พมิ พ์ครั้งท่ี 5). กรุงเทพ: ยู แอนด์ ไออนิ เตอรม์ ีเดีย จากดั . ธนพร แยม้ ศรี. (2559). ปัจจัยท้านายพฤติกรรมการออกกา้ ลงั กายของนักศึกษาพยาบาล วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี เครือข่ายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. (วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหา บณั ฑติ , มหาวิทยาลยั บูรพา). พรรณี ปิตสิ ุทธิธรรม และชยันต์ พเิ ชียรสุนทร. (2554). ตา้ ราการวิจยั ทางคลินิก. กรงุ เทพฯ: คณะ เวชศาสตรเ์ ขตรอ้ น มหาวทิ ยาลยั มหิดล. พลพพิ ฒั น์ สขุ พฒั น์ธี. (2558). พฤตกิ รรมกจิ กรรมทางกายของนกั ศึกษามหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนครศรอี ยุธยา. (บัณฑติ วทิ ยาลัย, มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์). มนทนด์ วงพัฒน์ อนุ่ พรมมี และสนิ ศักดิช์ มนม์ อุ่นพรมมี. (2552). กจิ กรรมทางกายของนักศึกษาพยาบาล ชนั ปที ่ี 1 วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนีนครราชสมี า: การศึกษาด้วยแบบจ้าลอง การ เปลี่ยนแปลง และขันตอนการเปล่ียนแปลง (รายงานผลการวิจัย). สืบค้นเมื่อ 27 กรกฎาคม 2562, จาก http://110.164.66.211/ULIB6/dubin.php?ID=13399110552f.XWY6Z-Mza1s รณวตั น์ มณนี ิล. (2555). ศึกษาการเข้ารว่ มกจิ กรรมนันทนาการของนกั ศึกษาระดับปรญิ ญาตรี มหาวิทยาลัยศรีสะเกษ. ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจัดการนันทนาการ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครนิ ทรวโิ รฒ.

59 รัชดาวรรณ ลิมาชาน. (2549). กจิ กรรมทางกายและภาวะสุขภาพของพยาบาลวิชาชพี วิทยาลยั แพทยศาสตร์ กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล. (ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวชิ าสุขศกึ ษา, มหาวทิ ยาลัยศรนี ครินทรวโิ รฒ). รัชนู หนทู อง และคณะ. (2561). ดัชนีมวลกายกับการเจบ็ ปว่ ยจากความรอ้ นในการฝกึ ขนั พืนฐานของ ทหารใหม่. วารสารพยาบาลทหารบก, 19(1), 174-175. สืบค้นจากhttps://www.tcithaijo. org/index.php/JRTAN/article/view/121949/92891?fbclid=\\WAROdMOAoe9sHXTRW zaDJhKZVUJqbfH8Hr8Br_ptNS4QLswYr976WL3 fl วัลลภา เทพหสั ดิน ณ อยธุ ยา และคณะ. (2527). รายงานการวจิ ยั เร่อื ง นสิ ติ นักศึกษาใน สถาบนั อุดมศึกษา. กรงุ เทพฯ: คณะครศุ าสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. วลิ าสินี อดุลยานนท.์ (2553). กฎบัตรโตรอนโตเพือ่ กิจกรรมทางกาย: ข้อเสนอระดบั โลกเพ่ือให้เกดิ การ ปฏิบัติ. สืบค้นเมื่อ 28 กรกฎาคม 2562, จาก https://static1.squarespace.com/static/ 559a3ff1e4b0b0193b9d9862/t/5965c64936e5d379e97e5807/1499842123833/Toro nto+Charter_Thai_FINAL.pdf ศรณั ต์ เจยี รนยั . (2555). สภาพและความตอ้ งการการจัดกิจกรรมนันทนาการของนักศึกษา สถาบนั การ พลศึกษา.วิทยานพิ นธป์ รญิ ญามหาบัณฑติ ,มหาวิทยาลัยเกษตรศรีนครินทรวิโรฒ. สานกั งานกองทุนสนบั สนนุ การสรา้ งเสริมสุขภาพ. (2559). สร้างกิจกรรมทางกายกับความหนัก 3 ระดบั . สบื คน้ เมอ่ื 2 สงิ หาคม 2562, จาก https://www.thaihealth.or.th/Content สานกั งานสถติ แิ ห่งชาติ. (2559). ส้ารวจกจิ กรรมทางกายของประชากร พ.ศ. 2558. กรุงเทพฯ: สานักสถิติ พยากรณ์ สานักงานสถติ ิแหง่ ชาต.ิ อรวรรณ เจริญผล และคณะ. (2557). การศึกษากิจกรรมทางกายและระดับสมรรถภาพทางกายของ บุคลากร มหาวทิ ยาลยั มหิดล วิทยาเขตศาลายา. ธรรมศาสตรเ์ วชสาร, 14(4), 564-569. อัจฉรา ปรุ าคม และคณะ. (2559). รูปแบบกิจกรรมทางกายเพื่อลงการเส่ือมถอยของสมรรถภาพการท้า หน้าที่ทางกายส้าหรับผู้สูงอายุ. สืบค้นเม่ือ 28 กรกฎาคม 2562, จาก http://padatabase. net/uploads/files/01/doc/556_2017-04-26.pdf?fbclid=IWAR2Q75RNF6WWVZV ZWVYfzNkAlq7tdifSM1VUF-qE7pHeDY4eF47Se3QABM อาระวี ทบั ทิม. (2560). การศึกษาส้ารวจปญั หาของนักเรยี นพยาบาล วิทยาลยั พยาบาลกองทพั บก. (บัณฑติ วิทยาลัย คณะศึกษาศาสตร์, วิทยาลัยพยาบาลกองทพั บก). อารียา จิรธนานุวัฒน์. (2559). กจิ กรรมทางกายของพยาบาลวิชาชีพ. (วิทยานพิ นธป์ ริญญาดุษฎบี ณั ฑิต, จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ). อาภากร แสงหิรัญวัฒนา. (2559). พฤตกิ รรมการประกอบกิจกรรมทางกายของนิสิต มหาวทิ ยาลัยศรีนค รินทรวโิ รฒ. (วทิ ยานพิ นธ์ปริญญาศกึ ษาศาสตรมหาบณั ฑิต, มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง).

60 อานวย ตันพานชิ ย.์ (2553). ความสมั พันธ์ของดัชนมี วลกาย การรับรู้รปู ร่าง และกิจกรรมการเคลื่อนไหว ร่างกายของเด็กในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย. (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎี บณั ฑติ , มหาวทิ ยาลัยบรู พา). อานวย ตนั พานิชย์ และคณะ. (2554). ความสัมพันธของดชั นมี วลกาย การรบั ร้รู ปู ราง และกจิ กรรม การเคลอ่ื นไหวรางกาย ของเดก็ ในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย. สบื คน้ วันที่ 2 สิงหาคม 2562. จาก http://researchconference. kps.ku.ac.th/article_8 /pdf/o_sci_sport01.pdf

ภำคผนวก

62 ภำคผนวก ก รำยนำมผทู้ รงคุณวุฒติ รวจแบบสอบถำม 1. ดร. สุรภี รณ์ สุวรรณโอสถ อาจารยป์ ระจากลุม่ วิชาการพยาบาลเดก็ 2. ดร. มาณิกา เพชรรัตน์ คณะพยาบาลศาสตร์ 3. อาจารย์นิตยา ศรบี ัวรมย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร อาจารย์ประจากลมุ่ วชิ าการพยาบาล สขุ ภาพจิตและจิตเวช คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร อาจารย์ประจากลุม่ วิชาการพยาบาลเดก็ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร

63 ภำคผนวก ข ผู้ทรงตรวจสอบเคร่ืองมอื แบบประเมินการมีกิจกรรมทางกายสาหรับนิสิต มีคาถามจานวน 50 ข้อ ภายหลังผู้เชี่ยวชาญ 3 ทา่ น ประเมินความตรงตามเน้ือหารวบรวมความคิดเหน็ ของผู้เช่ียวชาญแตล่ ะคน มาแจกแจงตามระดับ ความคิดเหน็ ตำรำงท่ี 10 คำ่ ดัชนีควำมตรงเชิงเนอื้ หำ ขอ้ ท่ี คนท่ี1 คนที่2 คนท่ี3 CVI 123412341234 11 21 31 4 0.67 5 0.67 61 71 8 0.92 91 10 0.92 11 1 12 1 13 1 14 1 15 1 16 1 17 1 18 1 19 1 20 0.92 21 0.92 22 1 23 1 24 1

64 ขอ้ ที่ คนที่1 คนที่2 คนที่3 CVI 123412341234 25 1 26 1 27 1 28 1 29 1 30 1 31 1 32 1 33 1 34 1 35 0.92 36 1 37 1 38 1 39 0.92 40 0.83 41 1 42 1 43 0.92 44 0.92 45 1 46 1 47 1 48 0.92 49 0.92 50 1 แบบประเมินการมีกิจกรรมทางก ายสาหรับนิสิต ได้ค่าความตรงของเน้ือหา 0.96 คาถามที่มีค่า CVI < .80 ควรปรับปรุงให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายที่ต้องการ หรือปรับปรุงให้มีความ สอดคล้องกบั คานิยาม

65 ภำคผนวก ค แบบสอบถำมงำนวิจัย แบบประเมินการมีกจิ กรรมทางกายสาหรับนสิ ติ ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ทั่วไปของผตู้ อบแบบสอบถาม คำช้ีแจง 1. โปรดทาเครอ่ื งหมาย ✓ลงใน หนา้ ข้อความท่ตี รงกับความเป็นจรงิ มากท่ีสดุ 2. โปรดเติมข้อความลงในช่องวา่ งให้สอดคล้องกับคาถามและความเปน็ จรงิ มากท่สี ดุ 1. เพศ ชาย หญิง 2. อายุ ………… ปี 3. โรคประจาตวั ไม่มี มี โปรดระบุ ……………… ระยะเวลา ……………………… 4. ระดบั ช้นั ปี ปที ี่ 1 ปที ี่ 4 5. ทพี่ ักอาศัย บ้านพกั อาศยั หอพักในมหาวิทยาลัย หอพักนอกมหาวทิ ยาลัย อ่ืนๆ โปรดระบุ ……………………. 6. ยานพาหนะท่ีใช้ในการเดินทาง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถโดยสารประจาทาง รถขนสง่ มวลชนของมหาวทิ ยาลยั (รถไฟฟ้า)

66 ตอนท่ี 2 กิจกรรมทางกายของนสิ ิต คำชีแ้ จง ข้อคาถามต่อไปนี้เปน็ คาถามเก่ียวกับการมีกิจกรรมทางกายในรปู แบบต่างๆ ที่นิสติ ปฏิบตั ิ ในแต่ละวนั โปรดทาเครือ่ งหมาย ✓ลงในช่องว่างทตี่ รงกบั ความจริงมากทสี่ ุดในชว่ ง 7 วนั ทผ่ี ่านมาทา่ น มีกิจกรรมทางกายเหลา่ นี้หรอื ไม่ ตำรำงที่ 11 แบบประเมนิ กำรมีกจิ กรรมทำงกำยสำหรับนิสติ กิจกรรม ความถ่ี / สัปดาห์ ไมไ่ ดป้ ฏบิ ตั ิ 1-2 ครง้ั 3-4 ครัง้ 5-7 คร้งั ด้ำนกจิ กรรมกำรออกกำลังกำย 1. ป่ันจกั รยาน 2. กระโดดเชือก 3. แกวง่ แขน 4. เดินขน้ึ บนั ได 5. เดนิ ออกกาลงั กาย 6. ว่ิงออกกาลังกาย 7. ต่อยมวย 8. วา่ ยนา้ 9. เต้นแอโรบิก 10. เปตอง 11. ตะกร้อ 12. เทนนิส 13. เข้ายมิ / เขา้ ฟติ เนส 14. ฟตุ ซอล 15. ฟตุ บอล 16. เทเบลิ เทนนิส 17. วอลเลยบ์ อล 18. แบดมนิ ตัน 19. บาสเกตบอล 20. เทควนั โด ดำ้ นกจิ กรรมกำรทำงำนบ้ำน 21. กวาดพืน้ หอพัก/บ้าน

67 กิจกรรม ไม่ไดป้ ฏิบัติ ความถ่ี / สปั ดาห์ 5-7 ครง้ั 1-2 ครัง้ 3-4 ครัง้ 22. ถูพนื้ หอพัก/บา้ น 23. ดดู ฝุ่น 24. ซกั ผา้ 25. รีดผ้า 26. ประกอบอาหาร 27. ลา้ งจาน 28. ลา้ งจกั รยานยนต์ กิจกรรมนันทนำกำร 29. ฟังเพลง 30. ร้องเพลง 31. เลน่ ดนตรี เชน่ กตี าร์ , กลองชดุ , เปยี โน ฯลฯ 32. ดูโทรทัศน์ 33. ดูภาพยนตร์ 34. ใช้คอมพิวเตอร์/โทรศพั ท์ นอ้ ยกวา่ วันละ 2 ชวั่ โมง/วัน 35. ใช้คอมพิวเตอร์/โทรศพั ท์ มากกวา่ วันละ 2 ชว่ั โมง/วนั 36. ใชส้ ือ่ โซเชยี ลมิเดยี เช่น Facebook , Instagram , Line , Twitter ฯลฯ น้อยกว่าวนั ละ 2 ชัว่ โมง/วัน 37. ใช้สื่อโซเชียลมเิ ดีย เช่น Facebook , Instagram , Line , Twitter ฯลฯ มากกวา่ วันละ 2 ชว่ั โมง/วัน 38. อ่านหนงั สือ เชน่ ตาราเรยี น , นยิ าย , การ์ตนู ฯลฯ 39. ให้อาหารปลา 40. เขา้ วดั ทาบญุ 41. นงั่ สมาธิ 42. เต้นสนั ทนาการ 43. เขา้ ค่าย/กจิ กรรมชมรม

68 ตำรำงที่ 12 กำรตรวจสอบควำมเชอ่ื มนั่ ของเคร่อื งมือ (Reliability) แบบประเมินกำรมกี จิ กรรม ทำงกำยสำหรับนิสติ (n=166) Reliability Statistics Cronbach's Alpha N of Items .732 3 Item-Total Statistics Scale Mean if Scale Variance Corrected Item- Cronbach's Alpha Item Deleted if Item Total if Item Deleted Deleted Correlation a1 31.17 47.592 .149 .699 a2 31.23 45.495 .353 .688 a3 31.23 45.495 .353 .688 a4 30.30 42.769 .418 .678 a5 29.83 39.523 .671 .652 a6 30.60 42.593 .456 .675 a7 31.30 46.562 .241 .695 a8 31.37 47.964 .263 .699 a9 31.37 48.309 .126 .701 a10 31.33 47.264 .382 .694 a11 31.33 48.023 .163 .700 a12 31.33 47.471 .322 .696 a13 31.33 47.471 .322 .696 a14 31.30 47.183 .238 .696 a15 31.23 46.323 .339 .691 b1 29.87 44.326 .391 .683 b2 30.47 46.189 .311 .691 b3 31.30 46.907 .398 .692 b4 29.47 43.568 .466 .677 b5 29.33 44.920 .257 .693

69 Scale Mean if Scale Variance Corrected Item- Cronbach's Alpha Item Deleted if Item Total if Item Deleted Deleted Correlation b6 31.23 48.047 .090 .701 b7 29.80 45.338 .161 .703 b8 31.30 47.872 .165 .699 c1 28.60 46.869 .292 .694 c2 29.33 46.230 .120 .705 c3 31.13 44.947 .431 .683 c4 31.20 47.752 .101 .701 c5 30.67 47.195 .104 .703 c6 28.57 49.013 -.093 .708 c7 29.47 47.637 .047 .707 c8 31.20 48.028 .083 .702 c9 31.07 46.271 .331 .691 c10 31.00 47.034 .098 .704 c11 31.00 48.690 -.058 .715 c12 30.90 47.266 .040 .712 c13 28.83 49.247 -.110 .716 c14 30.03 43.620 .385 .682 c15 30.00 49.655 -.143 .724 Each of the following component variables has zero variance and is removed from the scale : a16, a17, a18, a19, a20

70 ตำรำงที่ 13 คำ่ เฉลี่ยและส่วนเบีย่ งเบนมำตรฐำนของกำรมีกจิ กรรมทำงกำยสำหรบั นิสติ ข้อควำม ท้งั หมด ช้ันปที ่ี 1 ชนั้ ปีท่ี 4 ด้ำนกจิ กรรมกำรออกกำลังกำย x̄ SD. x̄ SD. x̄ SD. 1.ป่ันจักรยาน 2. กระโดดเชือก .17 .440 .29 .543 .03 .164 3. แกว่งแขน .07 .367 .04 .204 .10 .505 4. เดนิ ขน้ึ บันได 1.31 .984 1.54 .995 1.03 .897 5. เดินออกกาลังกาย 2.75 .579 2.80 .543 2.68 .621 6. วงิ่ ออกกาลงั กาย 1.64 .980 1.98 .909 1.21 .897 7. ตอ่ ยมวย .86 .869 .97 .840 .71 .889 8. ว่ายน้า .00 .000 .00 .000 .00 .000 9. เตน้ แอโรบิก .07 .294 .00 .000 .15 .430 10. เปตอง .19 .527 .19 .495 .19 .569 11. ตะกร้อ .00 .000 .00 .000 .00 .000 12. เทนนิส .00 .000 .00 .000 .00 .000 13. เขา้ ยมิ / เข้าฟิตเนส .00 .000 .00 .000 .00 .000 14. ฟตุ ซอล .13 .443 .05 .270 .22 .583 15. ฟตุ บอล .01 .155 .00 .000 .03 .234 16. เทเบลิ เทนนสิ .00 .000 .00 .000 .00 .000 17. วอลเลยบ์ อล .02 .233 .03 .311 .00 .000 18. แบดมนิ ตนั .07 .374 .13 .494 .00 .000 19. บาสเกตบอล .14 .425 .19 .449 .07 .385 20. เทควันโด .03 .204 .01 .104 .05 .283 ดำ้ นกจิ กรรมกำรทำงำนบำ้ น .05 .265 .09 .351 .00 .000 21. กวาดพนื้ หอพัก/บา้ น 22. ถูพื้นหอพัก/บา้ น 1.77 .770 1.68 .754 1.88 7.81 23. ดูดฝ่นุ 1.29 .755 1.18 .706 1.42 .798 24. ซักผา้ .13 .434 .12 .439 .15 .430 25. รดี ผา้ 1.63 .774 1.89 .773 1.29 .634 1.69 .873 1.85 .846 1.48 .686

71 ข้อควำม ทงั้ หมด ชน้ั ปที ่ี 1 ช้นั ปที ่ี 4 26. ประกอบอาหาร x̄ SD. x̄ SD. x̄ SD. 27. ล้างจาน .33 .625 .10 .332 .62 .775 28. ล้างจักรยานยนต์ 1.45 .813 1.43 .852 1.47 .765 ด้ำนกิจกรรมนนั ทนำกำร .16 .386 .16 .398 .16 .373 29. ฟังเพลง 30. รอ้ งเพลง 2.72 .589 2.75 .564 2.68 .621 31. เล่นดนตรี เชน่ กตี าร์ , กลองชุด , เปยี โน ฯลฯ 1.87 .988 1.94 .953 1.78 1.031 32. ดูโทรทัศน์ .43 .819 .68 .957 .11 .427 33. ดภู าพยนตร์ .48 .822 .15 .531 .89 .936 34. ใชค้ อมพิวเตอร์/โทรศัพท์ น้อยกวา่ วันละ 2 ชว่ั โมง/วนั 1.13 .882 1.10 .885 1.16 .882 35. ใช้คอมพวิ เตอร์/โทรศัพท์ มากกว่าวันละ 2 ช่ัวโมง/วนั .84 .987 .78 .919 .90 1.069 36. ใชส้ ่ือโซเชียลมิเดยี เช่น Facebook , Instagram , 2.46 .743 2.38 .736 2.56 .745 Line , Twitter ฯลฯ นอ้ ยกว่าวันละ 2 ชว่ั โมง/วนั .92 1.015 .82 .859 1.05 1.177 37. ใชส้ อื่ โซเชียลมิเดีย เช่น Facebook , Instagram , Line , Twitter ฯลฯ มากกว่าวนั ละ 2 ชั่วโมง/วัน 2.42 .847 2.32 .836 2.55 .851 38. อา่ นหนงั สอื เช่น ตาราเรียน , นยิ าย , การ์ตนู ฯลฯ 39. ให้อาหารปลา 1.77 7.38 1.73 .754 1.81 .720 40. เข้าวัดทาบญุ .20 .430 .14 .379 .27 .479 41. นัง่ สมาธิ .33 .495 .27 .446 .40 .546 42. เตน้ สันทนาการ .22 .506 .30 .604 .11 .315 43.เขา้ ค่าย/กจิ กรรมชมรม .37 .781 .59 .947 .08 .323 .33 .617 .54 .731 .07 .254

72 ภำคผนวก ง บนั ทกึ ข้อควำม

73

74

75 ภำคผนวก จ ประวัติผู้วิจัย ชอ่ื -สกุล นางสาว สดุ าภา ถุงคา วันเกิด 12 สงิ หาคม พ.ศ. 2541 ที่อยู่ บ้านเลขท่ี 489/2 หมู่ 3 ตาบลสูงเมน่ อาเภอสงู เมน่ จงั หวัดแพร่ 54130 จบการศกึ ษาจาก โรงเรยี นนารีรตั น์จังหวัดแพร่ การศึกษาปจั จุบนั นิสิตช้นั ปีท่ี 3 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร เบอรโ์ ทรศัพท์ 0856389804 ชอื่ -สกุล นางสาว สนุ ิกา กนั ทา วันเกิด 6 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2541 ที่อยู่ บ้านเลขที่ 257/19 หมู่ 3 ตาบลรมิ กก อาเภอเมอื ง จงั หวัดเชยี งราย 57100 จบการศึกษาจาก โรงเรยี นดารงราษฎส์ งเคราะห์ การศกึ ษาปัจจบุ นั นิสติ ชัน้ ปีที่ 3 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เบอรโ์ ทรศัพท์ 0906700280 ชื่อ-สกุล นางสาว สพุ นดิ า อนันต์ วนั เกิด 12 มกราคม พ.ศ. 2541 ท่อี ยู่ บา้ นเลขที่ 92 หมู่ 5 ตาบลตบั เตา่ อาเภอเทงิ จังหวัดเชียงราย 57160 จบการศึกษาจาก โรงเรยี นเทิงวทิ ยาคม การศึกษาปัจจุบัน นิสิตชั้นปที ี่ 3 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร เบอร์โทรศัพท์ 0634012659 ชื่อ-สกลุ นางสาว สพุ ชิ ญา ศรีชัยพนั ธ์ุ วันเกดิ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2541 ที่อยู่ บา้ นเลขที่ 145 หมู่ 3 ตาบลสนั ทรายงาม อาเภอเทิง จงั หวดั เชียงราย 57160 จบการศึกษาจาก โรงเรียนเทิงวทิ ยาคม การศกึ ษาปัจจบุ นั นสิ ิตชน้ั ปีท่ี 3 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร เบอรโ์ ทรศัพท์ 0882286906 ช่ือ-สกุล นางสาว สุวัฒนา เยน็ คงคา วันเกดิ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 ท่ีอยู่ บ้านเลขท่ี 51 หมู่ 1 ตาบลศรีภมู ิ อาเภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน 55140 จบการศกึ ษาจาก โรงเรยี นท่าวังผาพิทยาคม จังหวัดน่าน การศกึ ษาปจั จุบนั นสิ ิตชัน้ ปีท่ี 3 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร เบอรโ์ ทรศัพท์ 0933396069

76 ชื่อ-สกลุ นางสาว สุษณิ ี เอีย๊ บทวี วนั เกิด 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ .2541 ท่ีอยู่ บา้ นเลขท่ี 725 หมู่ 12 ตาบลสวา่ งแดนดนิ อาเภอสว่างแดนดิน จงั หวดั สกลนคร 47110 จบการศึกษาจาก โรงเรียนเตรยี มอุดมศกึ ษา ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ การศกึ ษาปัจจบุ นั นิสติ ชัน้ ปีที่ 3 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร เบอร์โทรศัพท์ 0969424514 ช่ือ-สกลุ นางสาว อภญิ ญา ดอกกหุ ลาบ วนั เกดิ 23 มกราคม พ.ศ. 2542 ที่อยู่ บ้านเลขท่ี 171 หมู่ 6 ตาบลลานดอกไม้ อาเภอเมือง จงั หวัดกาแพงเพชร 62000 จบการศึกษาจาก โรงเรยี นวัชรวทิ ยา การศกึ ษาปัจจบุ ัน นสิ ิตชน้ั ปีท่ี 3 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เบอรโ์ ทรศัพท์ 0875202964