ระบบเศรษฐกจิ ประเทศเยอรมนี จดั ทำโดย นำงสำวเออ้ื อำรยี ์ ฤกษง์ ำม เสนอ ครู จนั ทนำ ลยั วรรณำ รำยงำนนเ้ี ป็ นสว่ นหนงึ่ ของรำยวชิ ำ วชิ ำ เศรษฐศำสตำร์ วทิ ยำลยั เทคนคิ จนั ทบรุ ี ภำคเรยี นท่ี 2 ปี กำรศกึ ษำ 2563
คานา รานงานฉบบั น้ี เปน็ ส่วนหนึ่งของวชิ า เศรษฐศาสตร์ การคน้ ควา้ และเขียนรายงาน โดยมวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ให้ทราบถึงสภาวะเศรษฐกจิ ในประเทศเยอรมนี การจดั ทารายงานไดท้ าการค้นควา้ หาความรู้ รวบรวมขอ้ มลู จากหนงั สือ และบทความ ต่างๆผ้เู ขียนรายงานหวงั ว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจบ้าง ผู้จัดทา นางสาวเอ้ืออารยี ์ ฤกษง์ าม
สารบญั เนอื้ หา หนา้ คานา.....................................................................................................ก สารบญั .................................................................................................ข เยอรมนี,การเมืองการปกครอง................................................................1 ลกั ษณะภมู ิประเทศและทต่ี ้ัง....................................................................2 ลกั ษณะภูมอิ ากาศและฤดกู าล,ศาสนา.....................................................3 เศรษฐกิจประเทศเยอรมนี……………………………………………………………….4-5 การทอ่ งเทยี่ ว…………………………………………………………………………………6-7 บรรณานุกรม.............................................................................................ค
เยอรมนี เยอรมนี (องั กฤษ: Germany; เยอรมนั : Deutschland) หรือชื่ออย่างเปน็ ทางการคือสหพันธ์ สาธารณรฐั เยอรมนี (อังกฤษ: Federal Republic of Germany; เยอรมนั : Bundesrepublik Deutschland) เป็นประเทศในทวีปยโุ รป พรมแดนทางทศิ เหนือตดิ ทะเลเหนอื เดนมาร์ก และทะเลบอลติก ทิศตะวันออกตดิ โปแลนด์และสาธารณรัฐเช็ก ทิศใต้ตดิ ออสเตรียและสวิตเซอรแ์ ลนด์ ทศิ ตะวนั ตกตดิ ฝรั่งเศส ลักเซมเบริ ์ก เบลเยียม และเนเธอรแ์ ลนด์ ในชว่ งหลังสงครามโลกครง้ั ที่ 2 ประเทศเยอรมนี ไดถ้ ูกแบ่งเปน็ สองสว่ น เปน็ ประเทศเยอรมนี ตะวนั ตกและประเทศเยอรมนีตะวันออก กอ่ นจะกลบั มารวมประเทศกันอกี ครั้งในวันที่ 3 ตลุ าคม พ.ศ. 2533 การเมืองการปกครอง เยอรมนีปกครองในรปู แบบสหพนั ธส์ าธารณรัฐประชาธปิ ไตยแบบรฐั สภา ระบบการปกครอง ของเยอรมนีมีพนื้ ฐาน จากเอกสารรฐั ธรรมนญู ในปี พ.ศ. 2492 ซ่งึ เรยี กว่า Grundgesetz (กฎหมายหลกั ) การเรียกกฎหมายนีว้ ่า Grundgesetz แทนที่จะเป็น Verfassung (รัฐธรรมนญู ) เป็นความตัง้ ใจท่ีวา่ จะถกู แทนที่โดยรัฐธรรมนูญ เมอ่ื เยอรมนไี ดร้ วมเปน็ รฐั เดยี ว การแก้ไขกฎหมายหลักจะตอ้ งใช้เสยี งมากกว่าสองในสาม ของสมาชิกทง้ั สองสภา มาตราที่ เก่ยี วข้องกบั สิทธพิ ้นื ฐาน การแบ่งเขตการปกครองเยอรมนีแบง่ การปกครองในระบบสหพันธรฐั มที ง้ั หมด 16 รัฐ โดยแต่ ละรัฐ (เยอรมัน:Bundesland - บุนเดสลันด์) จะมีรฐั บาลทอ้ งถิน่ เป็นของตัวเอง และจะมี กระทรวงการปกครองบริหารสูงสดุ กระทรวง จะดแู ลรฐั ทกุ รฐั ของเยอรมนี ลกั ษณะภูมิประเทศและที่ต้ัง สหพนั ธ์สาธารณรัฐเยอรมนี หรือเรยี กสนั้ ๆ วา่ เยอรมนั หรอื เยอรมนี ตั้งอย่ใู จกลางทวปี ยุโรป ล้อมรอบด้วยประเทศเพ่ือนบา้ นถงึ 9 ประเทศ คอื เดนมาร์กอยทู่ างเหนือเนเธอรแ์ ลนด์ เบล
เยยี่ ม ลักเซมเบิร์กและฝรง่ั เศสอยทู่ างตะวนั ตก สวติ เซอรแ์ ลนดแ์ ละออสเตรียอยทู่ างใต้ สาธารณรฐั เชคและโปแลนด์อยทู่ างตะวนั ออก นบั เปน็ ประเทศยโุ รปท่มี ีจานวนเพอ่ื นบา้ นมาก ท่สี ดุ นับต้ังแต่มีการรวมประเทศในปี ค.ศ. 1990 เยอรมันกลายเป็นประเทศสาคัญ ท่ีไม่เพยี งแต่เปน็ ตวั เชอื่ มยโุ รปตะวนั ตก และตะวันออกเขา้ ดว้ ยกัน แต่ยงั เช่ือมประเทศทางตอนเหนือ คือ กลมุ่ สแกนดิเนเวยี กับกลมุ่ ประเทศทางตอนใต้ ซ่งึ อยู่รมิ ทะเลเมดิเตอรเ์ รเนยี นอีกดว้ ย เน่อื งจากเปน็ ส่วนหนง่ึ ของสหภาพยโุ รป เยอรมนั จึงเปน็ เหมอื นสะพานเช่ือมระหวา่ งประเทศในยุโรป ตอนกลาง และยโุ รปตะวนั ออก ยง่ิ กว่านั้นการท่ีมที ่ีตง้ั อยใู่ จกลางทวปี ยุโรป ยงั ทาใหเ้ ยอรมัน เปน็ จุดเร่มิ ตน้ ท่ดี ขี องการท่องเทยี่ วแถบนี้ เยอรมันมีพนื้ ท่ปี ระมาณ 357,000 ตารางกิโลเมตร พรมแดนทางตอนเหนอื ของประเทศติดกบั ฝง่ั ทะเลเหนือ (North Sea) และทะเลบลั ติค ทางตอนใตจ้ รดเทือกเขาแอลป์ในบาวาเรยี น ระยะทางส่วนทยี่ าวท่สี ดุ จากเหนอื จรดใตป้ ระมาณ 876 กิโลเมตร จากตะวันตกไปตะวันออก ประมาณ 640 กิโลเมตร ภมู ิประเทศของเยอรมนั มที วิ ทัศน์งดงามแตกตา่ งกนั ไปหลายรูปแบบ ทงั้ เทือกเขาสูงตา่ สลบั กบั ทรี่ าบสูงและพ้ืนทลี่ ดหล่นั เปน็ ชั้น เนินเขาทะเลสาปตลอดจนทร่ี าบ โลง่ กวา้ งใหญ่ ทางตอนเหนอื เป็นแนวชายฝงั่ ทะเลเตม็ ไปด้วยเกาะแก่ง ทะเลสาบ ทอ้ งทุ่งทม่ี ี พุ่มไม้ปกคลมุ เนินทราย และบริเวณปากแมน่ ้าทส่ี วยงาม ส่วนทางตอนใตแ้ ถบท่ีราบสงู ชวา เบยี น-บาวา เรียงเตม็ ไปด้วยเนินเขาและทะเลสาปขนาดใหญ่ มบี รเิ วณครอบคลุมถึงเทือกเขา แอลป์ในส่วนของเยอรมนั
ลักษณะภมู ิอากาศและฤดูกาล ลักษณะอากาศของเยอรมนั เป็นแบบค่อนขา้ งไปทางหนาวเย็น มี 4 ฤดู คอื ฤดรู ้อน(มถิ ุนายน – สงิ หาคม) อณุ หภมู ิเฉลีย่ อยู่ระหวา่ ง 18 – 20 องศาเซลเซยี ส แตอ่ าจจะ สูงขนึ้ ถงึ 30 องศา หรือสูงกว่า ฤดูใบไมร้ ว่ ง (กนั ยายน – พฤศจกิ ายน) อากาศจะเยน็ ลง และมีฝน ใบไม้จะเปล่ียนเป็นสีเหลอื ง บ้าง สีแดงบา้ งดูสวยงาม ฤดหู นาว (ธันวาคม – กมุ ภาพนั ธ์) อุณหภูมจิ ะอยู่ระหว่าง 5 องศา ถงึ ลบ 5 องศา เซลเซียส โดยจะมหี ิมะตกบา้ ง ฤดูใบไม้ผลิ (มนี าคม – พฤษภาคม) อากาศจะอุ่นขน้ึ ดอกไมเ้ ร่มิ บานและต้นไมจ้ ะแตกใบ อ่อน นาความเขยี วขจี กลบั มาอีกครง้ั เมอื งหลวง กรงุ เบอล ภาษา ภาษาเยอรมัน ประชากร 82 ลา้ นคน ศาสนา ชาวเยอรมนั กวา่ 55 ล้านคนนับถอื ศาสนาครสิ ตน์ ิกายตา่ งๆ โดยมีนิกายโปแตสแตนท์ มผี นู้ ับ ถอื ประมาณ 27.6 ลา้ นคน นิกายโรมันคาทอลกิ 27.5 ล้านคน เยอรมนั ไม่มีศาสนาประจาชาติ การมีแรงงานตา่ งชาตเิ ขา้ มาทางาน ทาใหม้ ชี ุมชนท่นี บั ถือศาสนาอ่ืนจานวนมาก โดยเฉพาะ อยา่ งยงิ่ ศาสนาอสิ ลาม ซง่ึ มีผ้นู บั ถือศาสนาอิสลามในเยอรมันประมาณ 2.6 ลา้ นคน จาก 41 ชาตทิ วั่ โลก นอกจากนน้ั กม็ ผี ู้นับถือศาสนายวิ ฮินดู และพทุ ธ ธงชาติ ธงชาติเยอรมนี มลี กั ษณะเป็นธงสามสีรูปสีเ่ หลย่ี มผืนผา้ ขนาดกว้าง 3 ส่วน ยาว 5 สว่ น แบง่ เปน็ แถบสี 3 แถบ ตามแนวนอน คือ สีดา สแี ดง และสที อง มีชอ่ื เรียกในภาษาเยอรมันวา่ \"Schwarz-Rot-Gold\" แปลวา่ ธงดา-แดง-ทอง ตามสขี องธง เศรษฐกจิ ประเทศเยอรมนี
ประเทศเยอรมนี ถอื เปน็ ประเทศที่มขี นาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สดุ ในยโุ รป มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ เป็นอนั ดบั 4 ของโลกหากวดั ตามราคาตลาด และเปน็ อันดบั 5 ของโลกหากวดั ตามอานาจซอ้ื ทงั้ นใี้ นค.ศ. 2017 กิจกรรมทางเศรษฐกจิ ของเยอรมนมี คี ดิ เป็น 27% ของกจิ กรรมทาง เศรษฐกิจในกล่มุ ประเทศที่ใชส้ กุลเงนิ ยโู รตามรายงานของไอเอม็ เอฟ[14] เยอรมนียังเปน็ หน่ึง ในชาตผิ รู้ ว่ มก่อต้งั สหภาพยุโรปและยูโรโซน แฟรงกเ์ ฟิรต์ เปน็ ศูนยก์ ลางเศรษฐกิจของเยอรมนี สกุลเงนิ ยูโร (EUR) ปงี บประมาณ ปีปฏิทนิ ภาคกี ารค้า EU, WTO และ OECD สถิติ จีดพี ี 3.951 ลา้ นล้านดอลลาร์สหรฐั (ตวั เงนิ , 2018) 4.343 ล้านลา้ นดอลลารส์ หรัฐ (PPP, 2018) [1] จีดีพเี ตบิ โต +1.9% (2016)[2], +2.5% (2017), +1.5% (2018) จีดีพตี อ่ หวั 47,662 ดอลลารส์ หรฐั (2018, ตวั เงิน)[1] ภาคจดี พี ี เกษตรกรรม: 0.7%, อุตสาหกรรม: 30.7%, ภาคบรกิ าร: 68.6% (ปมก.2017)
เงนิ เฟ้อ (CPI) 1.927% (2018)[3] ประชากรยากจน 16.7% (2015)[4] จีนี 31.1 (2018) แรงงาน 41.99 ลา้ นคน (ต.ค. 2019)[5] ภาคแรงงาน เกษตรกรรม (1.6%), อุตสาหกรรม (24.6%), ภาคบริการ (73.8%) (2011) วา่ งงาน 3.1% (ต.ค. 2019)[6] อตุ สาหกรรมหลัก เหลก็ และเหล็กกลา้ , ถา่ นหิน, ปนู ซีเมนต,์ เชื้อเพลงิ ธรรมชาติ, เคมี, พลาสตกิ , เคร่ืองจกั รกล, พาหนะ, รถไฟ, ตอ่ เรือ, อากาศยานและอวกาศ, เครอ่ื งมอื ช่าง, เครื่องใชไ้ ฟฟา้ , เทคโนโลยี สารสนเทศ, ระบบและเครื่องมอื แพทย์, เวชภณั ฑ,์ อาหารและเครอ่ื งดืม่ , สง่ิ ทอ อันดับความคล่องในการทาธรุ กจิ 22 (2020)[7] การค้า มลู ค่าส่งออก Increase $1.434 ลา้ นลา้ นดอลลาร์สหรฐั (ปมก.2017)[8] สนิ คา้ ส่งออก ยานยนต,์ เครื่องจกั รกล, เคมีภัณฑ์, คอมพวิ เตอรแ์ ละวงจรไฟฟา้ , เครอ่ื งใช้ไฟฟ้า, เวชภณั ฑ์, โลหะ, อปุ กรณ์คมนาคม, อาหาร, ส่ิงทอ, ยางและผลติ ภณั ฑ์พลาสตกิ
ประเทศสง่ ออกหลกั สหภาพยโุ รป 58% สหรัฐ 8.8% จีน 6.4% สวิตเซอรแ์ ลนด์ 4.1% ตุรกี 1.9% ชาตอิ ืน่ 20.8%[9] มูลคา่ นาเขา้ Increase $1.135 ลา้ นลา้ นดอลลาร์สหรัฐ (ปมก.2017)[8] สนิ ค้านาเข้า เคร่ืองจกั รกล, อปุ กรณป์ ระมวลผล, พาหนะ, เคมีภัณฑ์, นา้ มันและแก๊ส, โลหะ, เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ , เวชภณั ฑ,์ อาหาร, ผลผลติ ทางการเกษตร ประเทศนาเขา้ หลัก สหภาพยุโรป 57.6% จนี 9.9% สหรัฐ 6.2% สวติ เซอร์แลนด์ 4.7% รสั เซีย 2.8% ชาตอิ ่นื 18.8%[9] FDI 1.653 ล้านลา้ นดอลลารส์ หรฐั (ธ.ค. 2017) หน้ตี ่างประเทศ 5.084 ล้านลา้ นดอลลารส์ หรฐั (2017) ภาคการบริการถอื เป็นภาคเศรษฐกิจทีส่ าคัญที่สดุ ของเยอรมนีโดยคิดเปน็ 70% ของจีดพี ี รองลงมาคือภาคอตุ สาหกรรมที่ 29.1% และภาคเกษตรกรรมที่ 0.9% ทัง้ นี้ เศรษฐกิจของ เยอรมนีพง่ึ พาการส่งออกในสดั สว่ นทสี่ งู ราว 41% ของจดี ีพี[17][18] ในค.ศ. 2016 เยอรมนี เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่เป็นอันดับสามของโลกดว้ ยมลู ค่ากวา่ 1.21 ลา้ นล้านยโู ร (1.27 ลา้ นล้าน ดอลลารส์ หรฐั ) และยงั เปน็ หนง่ึ ในประเทศที่ไดด้ ุลการค้าสงู ทีส่ ุดในโลกดว้ ยมลู ค่ากวา่ 3.1 แสนลา้ นดอลลารส์ หรฐั สนิ คา้ สง่ ออกทสี่ าคัญของเยอรมนีคือยานยนต์, เครือ่ งจักรกล, เคมภี ณั ฑ,์ เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ , อปุ กรณไ์ ฟฟ้า, เวชภัณฑ์, อปุ กรณค์ มนาคม, โลหะภัณฑ์, อาหาร, ยาง และพลาสตกิ [5] เยอรมนีเปน็ ประเทศทมี่ ีอุตสาหกรรมการผลติ ขนาดใหญ่ทสี่ ุดในยุโรป และไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจตกต่ามากนัก [19] เยอรมนเี ปน็ ประเทศที่มุ่งเน้นการ
วิจยั ซ่ึงสามารถนามาประยุกต์ใช้กับอตุ สาหกรรมไดจ้ รงิ มหาวทิ ยาลยั ต่างๆมคี วามร่วมมอื กบั ภาคอตุ สาหกรรมในการคิดค้นผลิตภัณฑแ์ ละนวตั กรรมท่ีตอบโจทยอ์ ุตสาหกรรมนัน้ [20] เยอรมนีเปน็ ประเทศทอ่ี ดุ มไปดว้ ยปา่ ไม้, แร่โพแทช, เกลือ, ยเู รเนียม, นิกเกลิ , ทองแดง และ แกส๊ ธรรมชาติ พลงั งานทใ่ี ชใ้ นเยอรมนีนัน้ มาจากถา่ นหินเปน็ หลกั (ราว 50%) ตามดว้ ย พลังงานนวิ เคลยี ร,์ แกส๊ ธรรมชาต,ิ พลงั งานลม, พลังงานชวี มวล, พลงั นา้ และโซลาร์ เยอรมนี ยังเป็นผผู้ ลติ กงั หนั ลมผลติ ไฟฟา้ รายใหญ่ของโลก[21] ปัจจุบันพลงั งงานหมนุ เวียนสามารถ ผลิตไฟฟา้ ได้กว่า 27% ของปริมาณไฟฟา้ ทีใ่ ชท้ ั้งประเทศ[22] บริษัทเยอรมนั กว่า 99% เปน็ ธุรกจิ ขนาดเล็กและขนาดกลางท่เี รยี กว่า \"มิทเทลิ ชตันท\"์ (Mittelstand) ซ่ึงสว่ นใหญ่เป็นธุรกจิ ครอบครัว และจากการจดั อนั ดบั Fortune Global 2000 ในปีค.ศ. 2015 ซึ่งเปน็ การจัดอนั ดับบริษทั ท่ีมีรายไดส้ ูงทสี่ ุดสองพันแหง่ ของโลก ปรากฏ มีบริษัทสญั ชาติเยอรมนั ตดิ อบั ดับกว่า 53 บรษิ ทั โดย 5 อนั ดบั แรกคอื ฟอ็ ลคส์วาเกิน, อลอิ นั ซ์ , เดมเลอร์, บีเอ็มดบั เบิลยู และซีเมนส์ ภาคอุตสาหกรรม เยอรมนเี ป็นผู้นาในดา้ นอตุ สาหกรรมหนกั มาต้งั แตก่ ่อนการรวมชาตเิ ยอรมันในปคี .ศ. 1871 อุตสาหกรรมของเยอรมนั กา้ วกระโดดอย่างมโหฬารในสมัยจกั รวรรดเิ ยอรมนั จกั รวรรดิ เยอรมนั ได้กลายเป็นมหาอานาจดา้ นอุตสาหกรรม, การทหาร, เทคโนโลยี และวทิ ยาศาสตร์ ของโลก โดยไดร้ บั รางวลั โนเบลมากกวา่ ชาตอิ ่นื ๆ[24] จักรวรรดเิ ยอรมนั เปน็ ประเทศที่สง่ ออก สินคา้ ได้มากเป็นอนั ดับสองของโลกรองจากสหราชอาณาจักร องคค์ วามรู้ท่ีสงั่ สมและพฒั นา ต่อยอดอย่เู สมอตลอดระยะเวลาว่าศตวรรษ ได้กลายเป็นตน้ ทนุ ทางปญั ญาทส่ี าคัญของ อตุ สาหกรรมเยอรมนั ในปัจจุบนั ภาคอุตสาหกรรมและการกอ่ สร้างครองสัดสว่ น 29% ของจดี พี ีเยอรมนีในปี 2008 มปี ระชากร วยั ทางาน 29% ทางานอยู่ในภาคเศรษฐกิจน้ี[25] เยอรมนีมีความเปน็ เลศิ ทางดา้ นยานยนต์, เครื่องจกั รกล, เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ และเคมีภัณฑ์ เยอรมนีสามารถผลติ รถยนต์ไดถ้ ึง 6 ล้านคันในปี 2016 และมากเป็นอนั ดับสี่ของโลกรองจากจนี , สหรฐั และญ่ปี ุ่น รถยนตท์ ีผ่ ลิตในเยอรมนถี อื เปน็ รถยนต์ระดบั พรีเมีย่ ม และเยอรมนีครองส่วนแบ่งตลาดรถยนตก์ ลุ่มนี้ถงึ 90% ของส่วน แบ่งตลาดโลก รถยนตท์ ่ีผลติ ในเยอรมนสี ว่ นมากเปน็ การผลติ เพอื่ ส่งออก โดยในปี 2016 เยอรมนสี ามารถส่งออกรถยนตไ์ ด้เปน็ มลู คา่ ถึง 1.51 แสนล้านดอลลารส์ หรัฐซ่ึงเป็นอันดบั หน่ึง ของโลก (คิดเปน็ 21.8% ของมูลค่าการสง่ ออกรถยนตท์ ั่วโลก) ตามดว้ ยญ่ีปนุ่ และสหรัฐ[26]
เยอรมนยี งั มอี ุตสาหกรรมการทหารชั้นแนวหน้าของโลก โดยในปี 2015 เยอรมนีเป็นผู้สง่ ออก อาวธุ ยุทโธปกรณ์อันดบั สามของโลกรองจากสหรัฐและรสั เซยี ดว้ ยมูลคา่ กว่า 4.2 พันลา้ นยูโร ซาอดุ อี าระเบยี ถือเปน็ ลูกค้ารายใหญท่ ่สี ดุ ที่นาเข้าอาวธุ จากเยอรมนี [27] ภาคการบรกิ าร ภาคการบรกิ ารในเยอรมนคี รองสัดสว่ น 69% ของจดี ีพีเยอรมนีในปี 2008 มีประชากรวยั ทางาน 67.5% ทางานอยู่ในภาคเศรษฐกิจน[ี้ 25] กจิ กรรมทางเศรษฐกิจทีส่ าคญั ในภาคการ บรกิ ารไดแ้ ก่ บริการดา้ นการเงิน การเชา่ และการประกอบธุรกจิ (30.5%); ด้านการคา้ การ ทอ่ งเทยี่ ว ภัตตาการ การโรงแรม และขนสง่ (18%); กิจกรรมดา้ นบรกิ ารอื่นๆ (21.7%) นอกจากน้ี เยอรมนียงั ถือเป็นประเทศทม่ี ีผู้มาเยือนเปน็ อนั ดบั 7 ของโลก โดยมผี มู้ าเยือนกวา่ 39 ลา้ นคนในปี 2015 สรา้ งรายไดเ้ ข้าประเทศราว 3.6 หมืน่ ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ กิจกรรมการ ท่องเทยี่ วในเยอรมนีสร้างงานราว 2 ล้านตาแหนง่ การท่องเท่ียว ประเทศเยอรมนเี ปน็ ประเทศทม่ี ีผมู้ าเยือนมากทีส่ ดุ เป็นอนั ดบั เจด็ ของโลก[1][2] กบั จานวน รวม 407.26 ล้านรายการคา้ งคนื ในช่วงปี ค.ศ. 2012 [3] ในจานวนนรี้ วมถึง 68.83 ลา้ น รายการค้างคนื โดยนกั ทอ่ งเทย่ี วชาวตา่ งชาตใิ นปี ค.ศ. 2009 จากประเทศเนเธอรแ์ ลนด,์ สหรัฐอเมริกา และสวิตเซอรแ์ ลนด์ (ดูตาราง) นอกจากน้ี เป็นจานวนกวา่ 30 เปอร์เซน็ ต์ของ ชาวเยอรมนั ทใี่ ชเ้ วลาในวันหยดุ ของพวกเขาในประเทศของตนเอง ตามรายงานเกยี่ วกบั ความสามารถในการแข่งขันของการเดินทางและธุรกิจท่องเที่ยว ประเทศเยอรมนีได้รบั การให้ เปน็ หน่งึ ในสถานทีท่ อ่ งเท่ียวทป่ี ลอดภยั ท่สี ุดของโลก องค์กรบรหิ ารหลกั อย่างเป็นทางการสาหรบั การท่องเท่ยี วในประเทศเยอรมนคี ือคณะกรรมการ การทอ่ งเทีย่ วแห่งชาตเิ ยอรมนั (เกเอน็ เทเบ) เป็นตัวแทนทั่วโลกโดยสานกั งานการทอ่ งเทยี่ ว แหง่ ชาตใิ น 29 ประเทศ จากการสารวจโดยองค์กรน้ีรวมถงึ การรบั รู้และเหตผุ ลของการ พักผ่อนวนั หยุดในประเทศเยอรมนี มรี ายละเอยี ดดังนี้: วัฒนธรรม (75%), นอกบ้าน/ชนบท (59%), เมอื ง (59%), ความสะอาด (47%), การรักษาความปลอดภัย (41%), ความทันสมัย
(36%), โรงแรมทีด่ ี (35%), วิธีทาอาหาร/การครวั ท่ดี ี (34%), การเข้าถึงที่ดี (30%), ความ เปน็ สากล/การตอ้ นรับ (27%), แหล่งช้อปป้ิงที่ดี (21%), สถานบันเทงิ ยามค่าคนื (17%), และราคา/อตั ราสว่ นประสทิ ธิภาพทดี่ ี (10%) (โดยหลายคาตอบต่างเปน็ ไปได้) ในปี ค.ศ. 2012 มนี กั ท่องเทีย่ วตา่ งชาติกว่า 30.4 ลา้ นคนเขา้ มาในประเทศเยอรมนี นามาซงึ่ รายรบั จากการท่องเทีย่ วระหวา่ งประเทศกวา่ 3 หม่ืน 8 พันล้านดอลลารส์ หรัฐ[4] การเดินทาง และการท่องเทย่ี วท้ังในและต่างประเทศไดม้ สี ่วนชว่ ยรวมโดยตรงตอ่ ผลิตภัณฑม์ วลรวมใน ประเทศเยอรมนีกว่า 43.2 พันลา้ นยโู ร รวมถึงผลกระทบที่ชักนาและโดยอ้อม, กอ่ ใหเ้ กดิ อตุ สาหกรรม 4.5% ตอ่ ผลติ ภณั ฑ์มวลรวมในประเทศเยอรมนี และสนบั สนนุ งาน 2 ล้านอัตรา (4.8% ของการจ้างงานทัง้ หมด)[5] โดยมอี ีเทเบ เบอรล์ ิน เปน็ นิทรรศการพาณิชย์การ ท่องเทย่ี วชนั้ นาของโลก[6] ประเทศเยอรมนเี ป็นประเทศท่ีมีผู้มาเยือนมากที่สดุ เป็นอนั ดบั เจด็ ของโลก] กับจานวนรวม 407.26 ล้านรายการคา้ งคืนในชว่ งปี ค.ศ. 2012 ในจานวนนร้ี วมถงึ 68.83 ล้านรายการคา้ ง คนื โดยนกั ทอ่ งเท่ยี วชาวต่างชาตใิ นปี ค.ศ. 2009 จากประเทศเนเธอรแ์ ลนด์, สหรฐั อเมรกิ า และสวิตเซอรแ์ ลนด์ (ดตู าราง) นอกจากน้ี เปน็ จานวนกวา่ 30 เปอรเ์ ซน็ ตข์ องชาวเยอรมัน ท่ี ใช้เวลาในวนั หยุดของพวกเขาในประเทศของตนเอง ตามรายงานเกยี่ วกบั ความสามารถในการ แขง่ ขนั ของการเดินทางและธรุ กจิ ทอ่ งเทย่ี ว ประเทศเยอรมนีไดร้ ับการจดั ให้เปน็ หนงึ่ ในสถานที่ ท่องเท่ียวที่ปลอดภัยทสี่ ดุ ของโลก องค์กรบรหิ ารหลกั อยา่ งเป็นทางการสาหรบั การท่องเทยี่ วในประเทศเยอรมนีคอื คณะกรรมการ การท่องเทย่ี วแห่งชาตเิ ยอรมัน (เกเอน็ เทเบ) เปน็ ตัวแทนทัว่ โลกโดยสานักงานการท่องเทยี่ ว แหง่ ชาตใิ น 29 ประเทศ จากการสารวจโดยองค์กรนีร้ วมถึงการรับรู้และเหตุผลของการ พักผ่อนวันหยุดในประเทศเยอรมนี มีรายละเอียดดงั น:้ี วฒั นธรรม (75%), นอกบา้ น/ชนบท (59%), เมอื ง (59%), ความสะอาด (47%), การรกั ษาความปลอดภยั (41%), ความทนั สมัย (36%), โรงแรมทีด่ ี (35%), วิธีทาอาหาร/การครัวท่ีดี (34%), การเข้าถึงทีด่ ี (30%), ความ เป็นสากล/การตอ้ นรบั (27%), แหลง่ ช้อปปง้ิ ท่ีดี (21%), สถานบนั เทงิ ยามคา่ คนื (17%), และราคา/อตั ราสว่ นประสิทธภิ าพที่ดี (10%) (โดยหลายคาตอบตา่ งเปน็ ไปได)้ ในปี ค.ศ. 2012 มนี ักท่องเที่ยวต่างชาติกวา่ 30.4 ล้านคนเขา้ มาในประเทศเยอรมนี นามาซงึ่ รายรบั จากการทอ่ งเที่ยวระหว่างประเทศกว่า 3 หม่นื 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[4] การเดนิ ทาง และการทอ่ งเที่ยวทง้ั ในและต่างประเทศได้มีส่วนชว่ ยรวมโดยตรงต่อผลติ ภณั ฑม์ วลรวมใน ประเทศเยอรมนีกวา่ 43.2 พันล้านยูโร รวมถงึ ผลกระทบทีช่ กั นาและโดยอ้อม, ก่อให้เกิด อตุ สาหกรรม 4.5% ตอ่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเยอรมนี และสนบั สนนุ งาน 2 ลา้ น
บรรณานุกรม http://dtxtq4w60xqpw.cloudfront.net/sites/all/files/pdf/unwto_highlights13 _en_hr_0.pdf https://www.destatis.de/DE/Publikationen/Thematisch/Bevoelkerung/Migration Integration/Migrationshintergrund2010220167004.pdf?__blob=publicationFile
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: