หนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ เร่ือง ความสมั พันธ์ของกลุ่มส่ิงมีชีวติ ในแหล่งท่ีอยู่ต่างๆ ศศมิ าภรณ์ ดเี ลศิ ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนบา้ นอาโพน สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาสรุ ินทร์เขต 3
ก หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ เรือ่ ง ความสมั พนั ธ์ของกลุ่มส่ิงมชี ีวติ ในแหล่งทอี่ ยูต่ ่างๆ คาแนะนาการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์หน่วยการเรียนส่ิงมีชีวิตกับส่ิงแวดล้อม กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีท้ังหมด 9 ชุด ซึ่งผู้วิจัยได้พัฒนาข้ึนจากประสบการณ์ และการศึกษาสภาพปัญหา เพื่อให้เป็นส่ือการเรียนรู้ ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ให้นักเรียนได้เรียนรู้ ดว้ ยตนเอง เกิดความสนใจ มีความสขุ และสนกุ ในการเรยี นรู้ โดยครูเป็นผู้ให้คาปรึกษา แนะนา และ ควบคมุ การเรียนการสอนใหเ้ ปน็ ไปตามแผนทก่ี าหนดไว้ ทั้งน้ขี อใหด้ าเนินการดังนี้ 1. ครคู วรศึกษาแผนการสอนและสือ่ การเรียนรู้ใหเ้ ข้าใจก่อนจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 2. ครตู ้องแจง้ ขั้นตอนการเรยี น การใชส้ อื่ การเรยี นรใู้ หน้ กั เรยี นเข้าใจก่อนจัดกจิ กรรมการ เรยี นรู้ และผ้ใู หค้ าปรึกษา แนะนา และควบคุมการเรียนการสอนให้เปน็ ไปตามแผนทกี่ าหนดไว้ 3. เมอื่ ครูดาเนินการสอนตามแผนทก่ี าหนดไว้แล้ว สามารถทาสาเนาหนังสอื อเิ ล็กทรอนิกส์ ฉบบั น้ีใหน้ กั เรยี นเพ่อื นาไปทบทวนทบี่ ้านได้ ทั้งน้นี ักเรียนควรดาเนนิ การดังนี้ 3.1 นักเรยี นมีเวลาศกึ ษาเนอื้ หาบทเรียน 30 นาที 3.2 ในขณะที่ศกึ ษาเมือ่ พบปัญหาหรอื ข้อขอ้ งใจใหป้ รกึ ษาครู 3.3 เมอ่ื ศึกษาจบแล้วให้ทาแบบฝึกพัฒนาการเรียนรแู้ ละแบบทดสอบโดยใช้เวลา 30 นาที 3.4 นักเรยี นควรซื่อสัตย์ต่อตนเองโดยไมแ่ อบดูเฉลยในแบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้และ แบบทดสอบ สาระสาคญั เร่ือง ความสมั พันธ์ของกลุ่มสง่ิ มชี ีวติ ในแหล่งที่อยู่ตา่ งๆ ระบบนเิ วศ คือ กลุ่มสิง่ มชี ีวิตท่ีอาศยั อยใู่ นแหลง่ ท่ีอยู่ในแหลง่ ทอ่ี ยู่เดยี วกนั และมีความสัมพันธ์ กนั อย่างเป็นระบบ ความสมั พันธก์ นั ของสิง่ มีชีวติ กับแหล่งท่ีอยู่ หมายถงึ การอยูร่ ่วมกันของกลุ่มสงิ่ มีชีวิตกบั แหลง่ ที่อยูใ่ นระบบนเิ วศโดยกล่มุ ของสงิ่ มีชวี ิตจะอาศัยเปน็ แหล่งท่ีอยู่ เป็นแหลง่ อาหาร แหล่ง สบื พันธ์ุ แหล่งเล้ียงดูลกู ออ่ น หนา้ หลกั สารบัญ ปิด ศศมิ าภรณ์ ดีเลิศ ครูชานาญการ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ โรงเรียนบ้านอาโพน สานักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาสุรนิ ทรเ์ ขต 3
ข หนงั สืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ เร่อื ง ความสัมพนั ธ์ของกลุ่มส่งิ มีชีวิตในแหลง่ ทอี่ ยตู่ ่างๆ มาตรฐานการเรยี นรู้ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจส่ิงแวดล้อมในท้องถิ่น ความสมั พันธ์ระหว่างสง่ิ แวดลอ้ มกับส่ิงมชี ีวติ ความสัมพนั ธ์ระหว่างส่ิงมชี วี ติ ต่างๆ ในระบบนเิ วศ มีกระบวนการสบื เสาะหาความรู้และจิตวิทยา ศาสตร์สือ่ สารสิ่งที่เรยี นรแู้ ละนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ ตวั ชี้วัด มฐ ว 2.1 ป.6/1 สารวจและอภปิ รายความสัมพนั ธข์ องกลุ่ม สง่ิ มีชีวิตในแหลง่ ท่ีอย่ตู า่ งๆ มฐ ว 8.1 ป.6/1-ป.6/8 บรู ณาการสกู่ ารเรียนรูใ้ นการจดั การเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) อธบิ ายความหมายของกลมุ่ ส่งิ มีชวี ติ แหลง่ ที่อยู่และระบบนเิ วศนไ์ ด้ อธบิ ายความสมั พนั ธข์ องกลุ่มส่ิงมีชีวิตในแหล่งทอ่ี ยู่ตา่ งๆ ได้ ด้านทักษะกระบวนการ (P) สารวจระบบนิเวศนใ์ นแหล่งเรียนรูท้ ่ีมีในทอ้ งถ่ินได้ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) มีพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ท่ดี ี - มีวินัย - ใฝ่เรยี นรู้ - มุ่งม่ันในการทางาน - ซื่อสตั ยส์ ุจริตพัฒนาการเรยี นรู้และแบบทดสอบตามเวลาที่กาหนดเท่านั้น หนา้ หลกั สารบัญ ปิด ศศิมาภรณ์ ดเี ลิศ ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนบ้านอาโพน สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาสุรินทร์เขต 3
ค หนงั สอื อิเลก็ ทรอนิกส์ เรื่อง ความสัมพันธข์ องกลุ่มสิ่งมชี ีวติ ในแหล่งที่อยู่ต่างๆ สารบัญ คาแนะนาในการใช้หนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์ ก สาระสาคัญ ก มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั ข จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ข ความสมั พันธ์ของกลมุ่ สง่ิ มชี ีวติ ในแหลง่ ทอี่ ยูต่ ่างๆ 1 แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ 8 เฉลยแบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ 10 แบบทดสอบย่อย 11 เฉลยแบบทดสอบย่อย 13 สรุปผลการเรยี นรู้ 16 บรรณานุกรม 17 หนา้ หลัก สารบญั ปิด ศศมิ าภรณ์ ดีเลิศ ครูชานาญการ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นบ้านอาโพน สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาสุรนิ ทร์เขต 3
1 หนงั สอื อิเล็กทรอนิกส์ เรือ่ ง ความสมั พันธ์ของกลุ่มส่งิ มชี วี ติ ในแหล่งที่อยตู่ ่างๆ ความสัมพนั ธ์ของกลุ่มสิง่ มีชีวิตในแหล่งทอ่ี ยู่ตา่ งๆ ระบบนเิ วศ คือ กล่มุ สิง่ มชี ีวติ ท่อี าศัยอยูใ่ นแหลง่ ท่ีอยูใ่ นแหล่งที่อยเู่ ดียวกันและมคี วามสัมพันธ์ กันอย่างเปน็ ระบบ ลกั ษณะบรเิ วณท่ีกลุม่ สิง่ มชี ีวิตอาศยั อยู่ เรยี กวา่ แหล่งท่อี ยู่ ตัวอยา่ งแหล่งท่ีอยู่ เชน่ พน้ื ดนิ สนามหญา้ ทะเล ขอนไม้ สระน้า บึง ระบบนิเวศแบง่ ได้ 2 ระบบใหญ่ๆคือ ระบบนิเวศตามธรรมชาติและระบบนิเวศที่มนุษย์สร้างขนึ้ ภาพที่ 1 แสดงระบบนเิ วศตามธรรมชาติ ภาพที่ 2 แสดงระบบนิเวศท่ีมนุษยส์ รา้ งขึ้น 1. ระบบนิเวศตามธรรมชาติ ประกอบด้วยระบบนเิ วศยอ่ ย 2 ระบบ ไดแ้ ก่ 1.1 ระบบนิเวศบนบก เปน็ ระบบนเิ วศที่ปรากฏอยู่บนพ้ืนดินแตกตา่ งกันไปโดยใชล้ กั ษณะเด่น ของพืชเป็นเกณฑ์ เช่น ปา่ ไม้ ภูเขา ทะเลทราย เปน็ ตน้ 1.2 ระบบนิเวศในน้า เป็นระบบนเิ วศในน้าต่างๆ ของโลกซึ่งจะพบมากกวา่ ระบบนิเวศบนบก เพราะโลกของเรามีพืน้ นา้ มากกว่าพื้นดนิ แบง่ ได้อกี 2 ระบบคอื 1.2.1 ระบบนิเวศน้าจืด เช่น หนอง คลอง แมน่ า้ เป็นตน้ 1.2.2 ระบบนิเวศนา้ เคม็ เชน่ ทะเล มหาสมุทร หนา้ หลกั สารบญั ปดิ ศศมิ าภรณ์ ดีเลิศ ครูชานาญการ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นบา้ นอาโพน สานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาสรุ นิ ทร์เขต 3
2 หนงั สืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ เรือ่ ง ความสมั พนั ธข์ องกลุ่มสิ่งมชี ีวิตในแหลง่ ที่อยูต่ ่างๆ ระบบนิเวศตามธรรมชาติบนบก ภาพที่ 3 แสดงระบบนเิ วศตามธรรมชาตบิ นบก ระบบนเิ วศตามธรรมชาตใิ นนา้ ภาพที่ 4 แสดงระบบนิเวศน้าจดื ภาพท่ี 5 แสดงระบบนิเวศนา้ เค็ม หน้าหลกั สารบญั ปดิ ศศิมาภรณ์ ดเี ลศิ ครูชานาญการ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนบา้ นอาโพน สานักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสรุ ินทร์เขต 3
3 หนงั สืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ เรื่อง ความสัมพันธ์ของกลุ่มสิง่ มชี วี ติ ในแหลง่ ท่อี ยู่ต่างๆ 2.ระบบนเิ วศที่มนุษย์สร้างข้นึ ไดแ้ ก่ แหล่งเกษตรกรรม แหล่งอุตสาหกรรม ตูป้ ลา อ่างเล้ียงปลา ภาพที่ 6 แสดงแหล่งเกษตรกรรม อตุ สาหกรรม ภาพที่ 7 แสดงการเลยี้ งไก่ ตู้ปลา อ่างปลา โครงสรา้ งระบบนิเวศ ประกอบดว้ ย 1. กล่มุ สิง่ มชี วี ติ คอื สิง่ มีชวี ิตหลายๆชนดิ ท้ังพชื สตั ว์และส่ิงมีชวี ติ ขนาดเล็กทีอ่ าศยั อยู่ รวมกันในแหลง่ ที่อยใู่ ดที่อยู่หนงึ่ ภาพท่ี 8 แสดงกลมุ่ ส่งิ มีชวี ิต ภาพที่ 9 แสดงกลุ่มสง่ิ มชี วี ิต หนา้ หลกั สารบัญ ปิด ศศมิ าภรณ์ ดีเลิศ ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนบา้ นอาโพน สานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาสรุ ินทรเ์ ขต 3
4 หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ เรอ่ื ง ความสมั พนั ธ์ของกลุ่มสิง่ มชี วี ติ ในแหล่งทีอ่ ยูต่ ่างๆ 2. แหลง่ ท่ีอยู่อาศัยของส่งิ มชี วี ติ ประกอบดว้ ยแหลง่ ที่อยู่บนบกและแหล่งท่ีอยใู่ นน้า โดยทงั้ “กลมุ่ สงิ่ มีชีวิตและแหล่งท่ีอย่ตู อ้ งมคี วามสมั พันธก์ ัน” แหลง่ ทีอ่ ยูบ่ นบก ได้แก่ ทรี่ าบลุ่ม ท่รี าบสงู ทุ่งหญ้า ป่า ทะเลทราย ภาพที่ 10 แสดงแหล่งทอ่ี ยูอ่ าศัยของสิง่ มชี วี ติ บนบก ภาพที่ 11 แสดงแหล่งทีอ่ ยู่อาศยั ของสิ่งมชี ีวิตบนบก แหล่งท่อี ยู่ในน้า ได้แก่ แหล่งน้าจืด ทะเล มหาสมุทร เป็นตน้ ภาพที่ 12 แสดงแหลง่ ทีอ่ ยใู่ นนา้ จืด ภาพท่ี 13 แสดงแหลง่ ท่ีอยู่ในทะเล มหาสมทุ ร หน้าหลกั สารบญั ปิด ศศิมาภรณ์ ดีเลศิ ครูชานาญการ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นบ้านอาโพน สานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสุรินทร์เขต 3
5 หนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ความสัมพันธข์ องกลุ่มส่ิงมชี ีวติ ในแหลง่ ทอ่ี ยูต่ ่างๆ ความสัมพนั ธก์ นั ของสิง่ มชี ีวิตกบั แหล่งท่อี ยู่ ความสัมพนั ธก์ นั ของสิ่งมีชวี ิตกับแหลง่ ท่อี ยู่ หมายถึง การอยู่ร่วมกันของกลมุ่ สง่ิ มีชีวิตกับแหล่ง ทีอ่ ยู่ในระบบนิเวศโดยกลุ่มของสง่ิ มีชีวิตจะอาศัยเป็นแหล่งท่ีอยู่ เปน็ แหล่งอาหาร แหลง่ สบื พันธุ์ และ แหลง่ เล้ียงดลู กู อ่อน ความสัมพันธ์ของกล่มุ สง่ิ มชี ีวติ กับแหล่งท่ีอยู่ในดา้ นเป็นแหล่งอาหาร ส่งิ มีชวี ติ ทง้ั มนุษย์ สัตว์ และพืช ต้องกินอาหารเพื่อการดารงชวี ติ สิง่ มชี ีวิตท่ีอาศยั อยู่รว่ มกนั บางชนดิ กินอาหารประเภทเดยี วกนั บางชนิดกนิ อาหารแตกตา่ งกนั เช่น กลุม่ ส่ิงมีชีวิตบรเิ วณทุง่ หญ้า ประกอบด้วยต้นหญ้า วัว กวางและเสือ อาหารทวี่ วั และกวางกินคือ ต้นหญ้า อาหารท่ีเสอื กิน คือ กวางและวัวและอาหารของตน้ หญ้า คือสารอนิ ทรยี ท์ ีอ่ ยู่ในดนิ ซง่ึ ได้จากมลู ของววั กวางและเสือ เป็นอาหารของหญ้า ความสมั พนั ธข์ องกลมุ่ สิ่งมชี ีวติ กับ แหล่งที่อยใู่ นด้านเปน็ แหลง่ อาหาร ภาพที่ 14 แสดงความสัมพันธข์ องกลุ่มสิง่ มชี ีวติ กับแหล่งท่ีอยู่ในดา้ นเปน็ แหล่งอาหาร จะเหน็ วา่ ตน้ หญา้ เปน็ อาหารของวัวและกวาง วัวกบั กวางเปน็ อาหารของเสือ อาหารของ ตน้ หญ้าคอื สารอนิ ทรยี ์ท่อี ยใู่ นดินซึง่ ได้จากมลู ของววั กวางและเสอื เป็นอาหารของหญา้ อีกทอดหนึ่ง หนา้ หลกั สารบญั ปดิ ศศมิ าภรณ์ ดเี ลศิ ครูชานาญการ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนบ้านอาโพน สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาสุรนิ ทร์เขต 3
6 หนงั สืออิเล็กทรอนกิ ส์ เร่ือง ความสมั พนั ธ์ของกลุ่มสงิ่ มีชีวิตในแหลง่ ทีอ่ ยตู่ ่างๆ ความสัมพันธข์ องกล่มุ สง่ิ มชี วี ติ กบั แหลง่ ทอ่ี ยูใ่ นดา้ นแหลง่ สบื พันธุแ์ ละเล้ียงดูลูกอ่อน กลุม่ ส่งิ มชี วี ิตต้องการมกี ารสืบพันธุเ์ พือ่ ดารงพนั ธต์ุ ่อไป สัตวน์ า้ ใช้แหล่งนา้ เป็นแหลง่ สืบพันธ์ุ สตั ว์นาบางชนิดออกลูกเปน็ ไขห่ รอื เปน็ ตวั ในน้า พืชนา้ ก็เชน่ เดียวกนั จะอาศัยน้าท่ีเป็นแหลง่ ทอี่ ยู่ใน การสืบพันธุ์ เชน่ ผักตบชวา จะแตกต้นอ่อนในนา้ นอกจากสตั ว์น้าและพืชน้าแล้ว สตั ว์และพชื ท่ี อาศัยอยบู่ นบกก็อาศยั ดนิ ทุ่งหญ้า ปา่ ไม้ เป็นแหล่งสบื พันธ์ุ เชน่ กนั กลุ่มส่ิงมีชีวติ อาศยั แหล่งทอี่ ย่เู ปน็ แหลง่ เล้ยี งดูลูกออ่ น เช่น สตั วน์ ้าอาศยั ป่าชายเลนเป็นแหลง่ เลี้ยงดลู กู ออ่ น พืชอาศยั แหล่งท่อี ยทู่ เี่ จรญิ เตบิ โตของต้นอ่อน “สัตว์และพืชตอ้ งมกี ารสืบพันธุเ์ พื่อการดารงพันธุต์ อ่ ไป” ภาพที่ 15 แสดงการสืบพนั ธุ์ และเลย้ี งดูลกู อ่อน หนา้ หลกั สารบัญ ปดิ ศศิมาภรณ์ ดีเลิศ ครูชานาญการ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นบา้ นอาโพน สานักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาสุรนิ ทรเ์ ขต 3
7 หนงั สืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ เร่ือง ความสมั พนั ธ์ของกลุ่มส่ิงมชี วี ิตในแหลง่ ที่อยูต่ ่างๆ สตั ว์ทอ่ี ยใู่ นน้าก็จะใช้นา้ เปน็ แหลง่ สบื พันธุ์ สัตวบ์ างชนิดออกลูกเปน็ ไข่ เชน่ ปลา กงุ้ สัตวบ์ าง ชนดิ ออกลกู เป็นตัวในน้า เชน่ วาฬ ฉลาม โลมา พืชนา้ บางชนิดกจ็ ะอาศัยน้าเป็นแหล่งสืบพนั ธุ์ เชน่ ผักตบชวาจะแตกต้นอ่อนในนา้ หรือพวกสนั ตะวาจะถ่ายละอองเรณูโดยมีน้าเป็นตวั ชว่ ย ภาพที่ 16 แสดงการสบื พนั ธุ์และเลี้ยงดูลกู อ่อนโดยใชแ้ หลง่ นา้ กลุ่มส่งิ มชี ีวติ ท่ีอาศัยอยูบ่ นบกก็จะอาศัยพ้นื ดิน ทุ่งหญ้าและปา่ ไม้เปน็ แหลง่ สืบพันธุ์ สตั วท์ อี่ ยู่ บนบกบางชนดิ ออกลูกเปน็ ไข่ เช่น ไก่ เป็ด บางชนิดออกลูกเป็นตวั เช่น แมว สนุ ขั ช้าง ยีราฟ ฯลฯ สว่ นพืชก็อาศยั ดนิ เป็นปจั จยั ในการเจริญเตบิ โตของตน้ อ่อน เชน่ ต้นข้าว ผักกาดขาว กะหล่าปลี ภาพที่ 17 แสดงการสืบพันธ์ุและเลีย้ งดูลกู ออ่ นโดยใช้พ้นื ดิน ทุง่ หญา้ และป่าไม้ หน้าหลกั สารบัญ ปิด ศศมิ าภรณ์ ดเี ลศิ ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นบ้านอาโพน สานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสรุ นิ ทรเ์ ขต 3
8 หนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ เรือ่ ง ความสัมพนั ธข์ องกลุ่มสิ่งมชี ีวติ ในแหลง่ ที่อย่ตู ่างๆ แบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) คาช้ีแจง : ให้นกั เรยี นศกึ ษาภาพดา้ นบนแล้วเลอื กแหล่งที่อยู่ (ระบบนิเวศ) ใหถ้ ูกต้อง โดยใชเ้ มาส์ช้ีเลอื กทบี่ ริเวณคาตอบ 1. ระบบนิเวศทะเลทราย ภาพท่ี (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 2. ระบบนิเวศป่าไม้ ภาพที่ (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 3. ระบบนเิ วศชมุ ชนเมอื ง ภาพท่ี (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 4. ระบบนิเวศนา้ จืด ภาพท่ี (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 5. ระบบนเิ วศนา้ เค็ม ภาพท่ี (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 6. ระบบนเิ วศคลอง ภาพที่ (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 7. ระบบนเิ วศทงุ่ หญ้าสะวนั นา ภาพที่ (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 8. ระบบนิเวศทุ่งนา ภาพท่ี (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 9. ระบบนิเวศภูเขา ภาพที่ (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 10. ระบบนิเวศชนบท ภาพที่ (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) หนา้ หลกั สารบญั ปิด ศศิมาภรณ์ ดเี ลศิ ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นบ้านอาโพน สานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 3
9 หนังสอื อเิ ล็กทรอนิกส์ เร่ือง ความสมั พนั ธข์ องกลุ่มสิง่ มชี วี ติ ในแหลง่ ท่อี ยตู่ ่างๆ ทาถกู กันบ้างหรือเปลา่ ...มาดูเฉลยกันดกี วา่ หนา้ หลกั สารบัญ ปดิ ศศิมาภรณ์ ดเี ลศิ ครูชานาญการ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนบา้ นอาโพน สานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาสุรนิ ทร์เขต 3
10 หนังสอื อิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง ความสัมพันธข์ องกลุ่มสิง่ มีชีวิตในแหล่งที่อยูต่ ่างๆ เฉลยแบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) คาชีแ้ จง : ให้นักเรยี นใชเ้ มาสค์ ล๊ิกเลอื กที่บรเิ วณภาพด้านบนเพ่อื ดคู าตอบ คาชี้แจง : ใหน้ ักเรียนศึกษาภาพด้านบนแล้วเลือกแหล่งท่ีอยู่ (ระบบนิเวศ) ใหถ้ กู ตอ้ ง โดยใช้เมาสช์ ้เี ลอื กทบ่ี รเิ วณคาตอบ 1. ระบบนิเวศทะเลทราย ภาพท่ี (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 2. ระบบนเิ วศปา่ ไม้ ภาพท่ี (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 3. ระบบนิเวศชมุ ชนเมือง ภาพที่ (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 4. ระบบนิเวศนา้ จืด ภาพที่ (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 5. ระบบนเิ วศนา้ เคม็ ภาพท่ี (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 6. ระบบนิเวศคลอง ภาพที่ (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 7. ระบบนเิ วศทุ่งหญา้ สะวันนา ภาพท่ี (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 8. ระบบนเิ วศทุง่ นา ภาพที่ (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 9. ระบบนเิ วศภเู ขา ภาพที่ (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) 10. ระบบนิเวศชนบท ภาพท่ี (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) หนา้ หลัก สารบัญ ปดิ ศศิมาภรณ์ ดเี ลศิ ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นบ้านอาโพน สานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสรุ ินทร์เขต 3
11 หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เรื่อง ความสมั พันธ์ของกลุ่มสง่ิ มชี วี ิตในแหล่งทอ่ี ยู่ต่างๆ คาชี้แจง : ให้นักเรียนเลอื กคาตอบที่ถูกต้องเพียงขอ้ เดียว แบบทดสอบย่อย โดยใช้เมาสช์ ี้ทบ่ี ริเวณคาตอบ 1. ในนาข้าวบรเิ วณหนึ่ง มี ปูนา แมลงเต่าทอง อาศัยอยู่ 6. ถ้านักเรยี นสารวจบริเวณใตข้ อนไม้ผุ น่าจะพบสิ่งมีชวี ิต บนตน้ ข้าวและฝูงนกกาลังกนิ ไส้เดือนดิน เราจะเรยี ก ในขอ้ ใดมากทส่ี ุด ข้อความนว้ี า่ อะไร ก. กิง้ กอื ก. แหล่งทอ่ี ยู่ ข. แมลงปอ ข. กล่มุ สง่ิ มีชีวิต ค. ผเี สือ้ ค. ประชากร ง. คางคก ง. ระบบนเิ วศ 7. กลมุ่ ส่งิ มีชีวติ ในข้อใดทพี่ บอยู่ในระบบนิเวศป่าไม้ 2. กลุ่มสงิ่ มชี วี ิตมีความหมายตรงกับขอ้ ใด ท้ังหมด ก. ปลาและปูในขา้ ว ก. ต้นสัก ต้นไผ่ เสือ ช้าง ข. คา้ งคาวในถา้ ข. ตน้ เฟริ น์ ต้นลาพู หิง่ หอ้ ย มา้ ค. ฝงู นกบนทอ้ งฟา้ ค. ต้นเขม็ ตน้ กลว้ ยไม้ งเู หา่ นกฮกู ง. ควาย 5 ตัว อาศยั อย่ใู นคอก ง. ต้นหญา้ ต้นตะแบก สงิ โต มา้ ลาย 3. ข้อใดเป็นระบบนิเวศทีม่ นษุ ยส์ ร้างขึ้น 8. ปลาตนี ปแู สม ต้นลาพู น่าจะเปน็ สง่ิ มชี ีวิตท่ีอาศัยอยู่ ก. ปลาเงนิ ปลาทองในบอ่ หนา้ บา้ น ในแหลง่ ท่อี ยู่อาศยั ใด ข. ไกก่ ินหนอนอยู่ใต้ต้นพรกิ ขี้หนู ก. ชายทะเล ค. เป็ดหาอาหารอยบู่ รเิ วณหนองนา้ ข. ทุ่งหญ้า ง. ฝูงค้างคาวจานวนมากบนิ ออกจากถ้าในเวลาเย็น ค. บึงนา้ จืด 4. แนวปะการัง กบั ปลาการ์ตนู พบในระบบนิเวศใด ง. ปา่ ชายเลน ก. ระบบนเิ วศหาดทราย 9. ความสมั พันธ์ในขอ้ ใดเป็นระบบนิเวศ ข. ระบบนเิ วศน้ากร่อย ก. กลุ่มผู้ผลติ กบั ผูบ้ ริโภค ค. ระบบนเิ วศน้าเค็ม ข. กลุ่มสิ่งมชี ีวิตกับสงิ่ ไมม่ ชี วี ิต ง. ระบบนเิ วศนา้ จืด ค. กลุม่ ส่งิ มชี ีวติ กับแหลง่ ทอ่ี ยู่ 5. สงิ่ มชี วี ติ ชนิดใดเป็นแหล่งตั้งต้นของระบบนเิ วศ ง. กลุ่มผบู้ รโิ ภคกบั แหลง่ ทีอ่ ยู่ ข้างล่างน้ี 10. กลมุ่ สงิ่ มีชวี ติ หมายถึงข้อใด ก. วัว ก. ต้นมังคุดในสวนหลายร้อยตน้ ข. หญา้ ข. ตน้ กระท้อนมสี ตั วอ์ ยู่หลายชนิด ค. มด ค. ไมผ้ ุมปี ลวกอาศัยอยจู่ านวนมาก ง. ไส้เดือน ง. กบและลกู อ๊อดจานวนมากอาศัยอยูใ่ นบ่อน้า หนา้ หลกั สารบญั ปิด ศศมิ าภรณ์ ดีเลิศ ครูชานาญการ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนบา้ นอาโพน สานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาสุรนิ ทรเ์ ขต 3
12 หนังสอื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ เรอ่ื ง ความสัมพันธ์ของกลุ่มสิง่ มีชวี ติ ในแหลง่ ทอ่ี ยู่ต่างๆ ทาแบบทดสอบไดบ้ า้ งมั๊ยเอ่ย...มาดเู ฉลยกนั คะ หนา้ หลกั สารบญั ปดิ ศศมิ าภรณ์ ดเี ลิศ ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ โรงเรียนบ้านอาโพน สานักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาสรุ ินทรเ์ ขต 3
13 หนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์ เรื่อง ความสมั พนั ธข์ องกลุ่มสิ่งมชี วี ติ ในแหลง่ ท่อี ยตู่ ่างๆ เฉลยแบบทดสอบย่อย 1. ในนาข้าวบริเวณหน่ึง มี ปูนา แมลงเตา่ ทอง อาศยั อยู่ 6. ถ้านกั เรียนสารวจบริเวณใต้ขอนไม้ผุ นา่ จะพบส่ิงมชี ีวติ บนต้นขา้ วและฝูงนกกาลงั กนิ ไสเ้ ดือนดิน เราจะเรียก ในข้อใดมากทส่ี ุด เฉลย ก. กง้ิ กือ ข้อความนี้ว่าอะไร เฉลย ก. แหล่งท่ีอยู่ ข. แมลงปอ ข. กลุ่มสิ่งมชี ีวิต ค. ผเี สอ้ื ค. ประชากร ง. คางคก ง. ระบบนเิ วศ 7. กลมุ่ สิง่ มีชวี ติ ในขอ้ ใดทพ่ี บอย่ใู นระบบนิเวศป่าไม้ 2. กลุ่มสง่ิ มีชวี ิตมีความหมายตรงกับข้อใด ทัง้ หมด เฉลย ก. ต้นสัก ต้นไผ่ เสือ ชา้ ง ก. ปลาและปูในขา้ ว เฉลย ข. คา้ งคาวในถา้ ข. ตน้ เฟริ น์ ต้นลาพู หิ่งห้อย ม้า ค. ฝูงนกบนทอ้ งฟา้ ค. ต้นเขม็ ตน้ กลว้ ยไม้ งเู หา่ นกฮกู ง. ควาย 5 ตัว อาศยั อยูใ่ นคอก ง. ต้นหญา้ ต้นตะแบก สิงโต ม้าลาย 3. ข้อใดเปน็ ระบบนเิ วศทมี่ นุษย์สร้างข้ึน 8. ปลาตีน ปูแสม ต้นลาพู นา่ จะเปน็ ส่งิ มีชวี ิตทอี่ าศยั อยู่ ก. ปลาเงนิ ปลาทองในบอ่ หนา้ บา้ น เฉลย ในแหล่งทอ่ี ยอู่ าศยั ใด เฉลย ก. ชายทะเล ข. ไกก่ ินหนอนอยู่ใต้ต้นพรกิ ข้หี นู ค. เปด็ หาอาหารอยบู่ ริเวณหนองน้า ข. ทุง่ หญา้ ง. ฝูงค้างคาวจานวนมากบนิ ออกจากถา้ ในเวลาเย็น ค. บึงนา้ จดื 4. แนวปะการงั กับปลาการต์ ูน พบในระบบนิเวศใด ง. ป่าชายเลน ก. ระบบนิเวศหาดทราย เฉลย 9. ความสัมพนั ธใ์ นข้อใดเป็นระบบนิเวศ ข. ระบบนิเวศน้ากรอ่ ย ก. กลุ่มผผู้ ลติ กับผู้บรโิ ภค เฉลย ค. ระบบนิเวศน้าเค็ม ข. กลมุ่ สิง่ มีชวี ิตกบั สิ่งไมม่ ีชวี ิต ง. ระบบนเิ วศนา้ จืด ค. กลมุ่ ส่งิ มชี วี ิตกบั แหลง่ ทอ่ี ยู่ 5. จากภาพส่ิงมีชวี ิตชนิดใดเป็นแหลง่ ตงั้ ต้นของระบบ ง. กล่มุ ผบู้ รโิ ภคกับแหล่งทอ่ี ยู่ นเิ วศน้ี เฉลย 10. กลมุ่ สง่ิ มชี ีวติ หมายถึงข้อใด ก. วัว ก. ต้นมงั คุดในสวนหลายร้อยต้น เฉลย ข. หญ้า ข. ต้นกระทอ้ นมีสัตว์อยู่หลายชนดิ ค. มด ค. ไมผ้ มุ ีปลวกอาศยั อยจู่ านวนมาก ง. ไส้เดือน ง. กบและลกู อ๊อดจานวนมากอาศัยอยใู่ นบ่อน้า หนา้ หลัก สารบญั ปิด ศศิมาภรณ์ ดเี ลิศ ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นบา้ นอาโพน สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาสรุ นิ ทร์เขต 3
14 หนงั สืออเิ ล็กทรอนิกส์ เรอ่ื ง ความสมั พนั ธ์ของกลุ่มสงิ่ มชี ีวิตในแหล่งทอี่ ยูต่ ่างๆ เฉลยละเอียดแบบทดสอบย่อย ขอ้ 1. ระบบนิเวศ คือกล่มุ สิ่งมีชีวิตท่ีอาศัยอยใู่ นแหล่งท่อี ยเู่ ดียวกนั และมีความสมั พนั ธ์กนั อยา่ งเปน็ ระบบ ขอ้ 2. กลมุ่ สิง่ มชี ีวิต หมายถึง สิ่งมชี ีวิตหลายๆ ชนดิ ทอ่ี าศัยอยรู่ วมกันในทีใ่ ดท่ีหนงึ่ และมี ความสมั พนั ธก์ บั ส่ิงแวดลอ้ ม ยกตัวอย่างเชน่ ปลา และปูในนาขา้ ว ขอ้ 3. ระบบนิเวศท่ีมนุษย์สรา้ งข้นึ เชน่ ปลาเงินปลาทองในบ่อหน้าบ้าน คอื ส่ิงที่มนษุ ยส์ ร้างขน้ึ ขอ้ 4. ระบบนิเวศในน้า ประกอบด้วย ระบบนเิ วศนา้ จดื คลอง หนอง บึง ส่วนระบบนเิ วศน้าเคม็ จะพบตามทะเล หรือมหาสมุทร ตัวอย่าง เช่น แนวปะการัง กบั ปลาการต์ นู โดยปลาการ์ตูนอาศัย แนวปะการังในการวางไขแ่ ละหลบศตั รู ขอ้ 5. หญา้ มีความสาคญั เป็นแหล่งต้ังตน้ ในระบบนเิ วศเน่ืองจากสตั ว์ตอ้ งอาศยั หญ้าเพอื่ ใช้เปน็ อาหารในการดารงชีวติ ในแต่ละวันของวัว นอกจากนห้ี ญา้ ยงั นาปลูกเพอื่ ปรับปรุงสภาพดิน ซึ่งดนิ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์บางชนิด เชน่ มด ไส้เดือนดิน หนา้ หลกั สารบญั ปิด ศศมิ าภรณ์ ดเี ลิศ ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ โรงเรียนบา้ นอาโพน สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศกึ ษาสรุ นิ ทรเ์ ขต 3
15 หนังสืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เรอื่ ง ความสัมพนั ธข์ องกลุ่มสง่ิ มชี วี ติ ในแหลง่ ท่ีอย่ตู ่างๆ เฉลยละเอยี ดแบบทดสอบย่อย ข้อ 6 สง่ิ มีชีวติ ทีพ่ บบริเวณขอนไมผ้ ุ เช่น มด ปลวก ก้งิ กอื ตะขาบ เปน็ ตน้ ขอ้ 7 ต้นสัก ต้นไผ่ เสือ ช้าง จะพบอยใู่ นป่าทัง้ หมด ข้อ 8 ปลาตีน ปแู สม ตน้ ลาพู เปน็ สิง่ มชี ีวิตท่ีอาศัยอยูใ่ นแหล่งทีอ่ ยปู่ า่ ชายเลน ขอ้ 9 ความสัมพนั ธ์ในระบบนเิ วศเป็นความสมั พนั ธ์ระหว่างสิ่งมีชวี ติ กบั ส่ิงมีชีวติ และสงิ่ มชี ีวิตกบั สง่ิ ไมม่ ีชีวิต ขอ้ 10 กล่มุ ส่ิงมีชีวิต หมายถึง สิ่งมชี ีวิตหลาย ๆชนิด ท่อี าศัยอยู่รวมกันในทใ่ี ดทหี่ นง่ึ และมี ความสมั พันธ์กับสง่ิ แวดล้อม เชน่ ตน้ กระท้อนมสี ัตว์อย่หู ลายชนิด หน้าหลกั สารบัญ ปดิ ศศมิ าภรณ์ ดเี ลิศ ครูชานาญการ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรยี นบ้านอาโพน สานักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาสุรินทรเ์ ขต 3
16 หนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ เรอื่ ง ความสัมพันธข์ องกลุ่มส่ิงมชี วี ติ ในแหลง่ ท่ีอยู่ต่างๆ สรปุ ผลการเรียนรู้ ระบบนเิ วศ คอื กลมุ่ สิ่งมชี ีวิตทอี่ าศยั อยูใ่ นแหล่งท่ีอยูใ่ นแหลง่ ท่อี ยูเ่ ดียวกันและมีความสัมพันธก์ ัน อย่างเป็นระบบ แบ่งได้ 2 ระบบใหญ่ๆคอื 1.ระบบนิเวศตามธรรมชาติ ประกอบด้วยระบบนเิ วศยอ่ ย 2 ระบบ ไดแ้ ก่ 1.1 ระบบนเิ วศบนบก 1.2 ระบบนิเวศในน้า แบ่งไดอ้ ีก 2 ระบบคอื 1.2.1 ระบบนเิ วศนา้ จดื เชน่ หนอง คลอง แมน่ า้ เปน็ ต้น 1.2.2 ระบบนเิ วศน้าเคม็ เช่น ทะเล มหาสมุทร 2.ระบบนิเวศท่มี นษุ ยส์ รา้ งขนึ้ ได้แก่ แหล่งเกษตรกรรม อตุ สาหกรรม ตู้ปลา อ่างเล้ียงปลา ความสมั พนั ธก์ นั ของสง่ิ มชี วี ิตกับแหลง่ ทอ่ี ยู่ หมายถึง การอย่รู ว่ มกนั ของกลุ่มสิง่ มชี ีวติ กบั แหล่งทีอ่ ยใู่ นระบบนเิ วศโดยกลุ่มของส่งิ มีชีวิตจะอาศัยเป็นแหล่งที่อยู่ เปน็ แหลง่ อาหาร แหล่ง สืบพันธุ์ แหล่งเลีย้ งดลู กู อ่อน ลักษณะบรเิ วณที่กลมุ่ สง่ิ มีชวี ติ อาศัยอยู่ เรียกว่า “แหล่งทีอ่ ยู่” ตวั อยา่ งแหล่งท่ีอยู่ เชน่ พน้ื ดนิ สนามหญา้ ทะเล ขอนไม้ สระนา้ บึง หนา้ หลกั สารบญั ปดิ ศศมิ าภรณ์ ดีเลศิ ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ โรงเรียนบา้ นอาโพน สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสุรินทรเ์ ขต 3
17 หนงั สอื อิเล็กทรอนิกส์ เร่อื ง ความสัมพันธ์ของกลุ่มส่ิงมีชีวิตในแหลง่ ท่ีอยู่ต่างๆ บรรณานุกรม ปานนนท์ นิลรตั น์. (2556). “ส่ิงแวดลอ้ มและระบบนิเวศ”. [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก : http://pannon32.blogspot.com/ สืบค้นเม่ือ 8 เมษายน พ.ศ. 2559 มณฑา นริ ะทัย . (2554). เกง็ ขอ้ สอบ วิทยาศาสตร์ ป.6 . กรุงเทพ : บริษัท ดบั เบล้ิ บี เพรส จากดั . โรงเรียนมงฟอรต์ วิทยาลัย จังหวัดเชยี งใหม่. (2556). “E-Learning ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4-6”. [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก : http://goo.gl/XXIUXy สืบค้นเมอื่ 8 เมษายน พ.ศ. 2559 ลัดดาวัลย์ เสียงสังข์ และ สามารถ พงศไ์ พบลู ย์ . (2552). วิทยาศาสตร์ ป.6 สอบเขา้ ม.1. (พิมพครั้งที่ 2). กรุงเทพ : เจรญิ มนั่ คงการพิมพ์. สถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.). (2557). ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้พฒั นาการคิดวเิ คราะห์ วิทยาศาสตร์ ป.6 . (พมิ พครั้งท่ี 1). กรงุ เทพ : บริษทั พฒั นาคุณภาพวิชาการ. สินธ์ุธู สยารมณ์ . (2557). เจาะลกึ วทิ ยาศาสตร์ ป.6 สอบเข้า ม.1 ฉบับเข้มขน้ . กรงุ เทพ : บรษิ ทั ฐานบณั ฑติ จากัด. สุภาภรณ์ จันทร์สิงห์ . (2556). “สนุกคิดนักวทิ ยาศาสตรน์ อ้ ย”. [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ได้จาก : http://goo.gl/OwmNjk สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน พ.ศ. 2559 สมพงษ์ จันทรโ์ พธ์ิศรี . (2557). คูม่ ือเตรียมสอบ วทิ ยาศาสตร์ ป. 4-5-6. กรงุ เทพ : บรษิ ัทเจ้าพระยาระบบการพิมพ์ จากัด. เอกรินทร์ ส่ีมหาศาลและคณะ . (2551). ชดุ แมบ่ ทมาตรฐาน Smart O-NET วทิ ยาศาสตร์ ป.6 . กรงุ เทพ : บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทัศน์ อจท จากัด. อนตุ ตรยี ์ แซโ่ คว้ . (2558). “สง่ิ มีชวี ิตใตท้ ้องทะเล”. [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ได้จาก : https://anutree05.wordpress.co สบื ค้นเมอ่ื 8 เมษายน พ.ศ. 2559 หน้าหลกั สารบญั ปิด ศศมิ าภรณ์ ดีเลศิ ครูชานาญการ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นบ้านอาโพน สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาสรุ ินทรเ์ ขต 3
หนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ เร่ือง ความสมั พันธ์ของกลุ่มส่ิงมีชีวติ ในแหล่งท่ีอยู่ต่างๆ ศศมิ าภรณ์ ดเี ลศิ ครูชานาญการ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนบา้ นอาโพน สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาสรุ ินทร์เขต 3
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: