Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานสถานการณ์ 63 ฉบับรวมเล่มสมบูรณ์สีพร้อมดาวน์โหลด

รายงานสถานการณ์ 63 ฉบับรวมเล่มสมบูรณ์สีพร้อมดาวน์โหลด

Published by สสว.2 ชลบุรี, 2020-09-17 04:22:18

Description: รายงานสถานการณ์ 63 ฉบับรวมเล่มสมบูรณ์สีพร้อมดาวน์โหลด

Search

Read the Text Version

37 ตารางที่ 26 ประเภทความพกิ ารท่ไี ด้รับจา้ งงาน มาตรา 33 จังหวดั สระแก้ว ท่ี ประเภทความพกิ าร 2558 2559 2560 2561 2562 0 0 1 ไมร่ ะบุ 000 28 28 6 5 2 ความพิการทางการเคลอื่ นไหวหรือรา่ งกาย 25 23 26 4 3 0 0 3 ความพกิ ารทางการไดย้ นิ หรอื สอื่ ความหมาย 776 0 0 0 0 4 ความพกิ ารทางการเหน็ 012 0 0 5 ความพกิ ารทางการเรียนรู้ 000 6 ความพิการทางจิตใจหรือพฤตกิ รรม 000 7 ความพิการทางสติปัญญา 000 8 ความพิการทางออทสิ ตกิ 000 ท่มี า : กรมส่งเสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตคนพกิ าร ณ วนั ที่ 2 กรกฎาคม 2563 จากตารางที่ 26 ประเภทความพิการทีไ่ ด้รบั การจ้างงาน มาตรา 33 จังหวัดสระแก้ว พบว่า ประเภท ความพิการที่มีการจ้างงาน ตามมาตรา 33 จำนวน 3 ประเภทความพิการ และ 3 อันดับที่มีการจ้างงานมาก ที่สุด คือ ประเภททางการเคลื่อนไหวและร่างกาย ประเภทความพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย และประเภทความพกิ ารทางการเห็น ประเภทความพกิ ารทไี่ ด้รับการจา้ งงานตามมาตรา 33 จังหวดั สระแก้ว 28 28 ไม่ระบุ 26 25 ความพิการทางการเคลอื่ นไหว 23 หรอื รา่ งกาย ความพิการทางการไดย้ ินหรอื 77 สอ่ื ความหมาย 66 ความพกิ ารทางการเหน็ 45 3 ความพิการทางการเีี รยี นรู้ 2 ความพกิ ารทางจิตใจหรอื 1 พฤตกิ รรม 00000 ความพิการทางสตปิ ัญญา 2558 2559 2560 2561 2562 ความพิการทางออทิสติก แผนภูมทิ ่ี 19 ประเภทความพกิ ารท่ีไดร้ บั การจา้ งงานตามมาตรา 33 จังหวดั สระแกว้ รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จงั หวัดภาคตะวันออก

38 สถานการณ์การจา้ งานคนพกิ ารตามมาตรา 35 ตารางที่ 27 ประเภทความพกิ ารท่ไี ดร้ ับจ้างงาน มาตรา 35 จงั หวดั ชลบุรี ที่ ประเภทความพิการ 2558 2559 2560 2561 2562 1 ไม่ระบุ 0 26 9 47 16 2 ความพกิ ารทางการเคล่ือนไหวหรือรา่ งกาย 144 147 191 184 197 3 ความพิการทางการได้ยนิ หรอื สื่อความหมาย 20 27 51 51 48 4 ความพิการทางการเหน็ 46 27 26 33 37 5 ความพกิ ารทางการเรี ียนรู้ 41 213 6 ความพกิ ารทางจติ ใจหรือพฤตกิ รรม 0 18 6 13 15 7 ความพิการทางจติ ใจหรือพฤติกรรม หรอื ออทสิ ตกิ 0 1 0 0 0 8 ความพิการทางสตปิ ญั ญา 16 11 69 78 35 9 ความพิการทางออทสิ ตกิ 00 045 ท่ีมา : กรมสง่ เสริมและพฒั นาคณุ ภาพชีวติ คนพิการ ณ วนั ที่ 2 กรกฎาคม 2563 จากตารางที่ 27 ประเภทความพิการที่ได้รับการจ้างงาน มาตรา 35 จังหวัดชลบุรี พบว่า ประเภท ความพิการที่มีการจ้างงาน ตามมาตรา 35 ทุกประเภทความพิการและ 3 อันดับที่มีการจ้างงานมากที่สุด คือ ประเภททางการเคลื่อนไหวและร่างกาย ประเภทความพกิ ารทางการไดย้ ินหรือส่ือความหมาย และประเภท ความพกิ ารทางการเหน็ ประเภทความพกิ ารท่ีได้รับการจา้ งงานตามมาตรา 35 จังหวัดชลบุรี 191 184 197 ไม่ระบุ 144 147 ความพิการทางการเคลอ่ื นไหว 78 หรอื รา่ งกาย 69 ความพกิ ารทางการไดย้ ินหรอื สอื่ ความหมาย 46 51 4517 48 ความพิการทางการเห็น 357 1260 2117681 26 33 156 ความพิการทางการเีี รยี นรู้ 04 10 9026 13 350 104 ความพกิ ารทางจิตใจหรอื พฤติกรรม ความพกิ ารทางจิตใจหรอื พฤตกิ รรม หรอื ออทิสติก ความพิการทางสตปิ ัญญา ความพิการทางออทสิ ตกิ 2558 2559 2560 2561 2562 แผนภูมิที่ 20 ประเภทความพิการที่ไดร้ ับการจ้างงานตามมาตรา 35 จงั หวัดชลบรุ ี รายงานสถานการณท์ างสังคมกลมุ่ จงั หวดั ภาคตะวนั ออก

39 ตารางที่ 28 ประเภทความพกิ ารท่ีได้รบั จ้างงาน มาตรา 35 จงั หวดั ระยอง ที่ ประเภทความพกิ าร 2558 2559 2560 2561 2562 1 ไม่ระบุ 17 11 0 7 37 2 ความพกิ ารทางการเคลื่อนไหวหรือรา่ งกาย 60 61 98 128 184 3 ความพิการทางการได้ยินหรอื ส่ือความหมาย 8 7 41 54 32 4 ความพิการทางการเหน็ 8 6 30 36 54 5 ความพกิ ารทางการเรียนรู้ 2 12 2 0 6 ความพิการทางจติ ใจหรือพฤติกรรม 0 02 2 1 7 ความพิการทางจิตใจหรือพฤตกิ รรม หรอื ออทิสตกิ 1 3 0 0 0 8 ความพกิ ารทางสตปิ ัญญา 3 7 36 44 39 9 ความพิการทางออทิสตกิ 0 00 0 0 ทมี่ า : กรมสง่ เสรมิ และพัฒนาคณุ ภาพชีวติ คนพกิ าร ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 จากตารางที่ 28 ประเภทความพกิ ารทีไ่ ด้รบั การจา้ งงาน มาตรา 35 จังหวัดระยอง พบวา่ ประเภทความ พิการท่ีมีการจา้ งงาน ตามมาตรา 35 ทุกประเภทความพิการและ 3 อันดบั ท่ีมีการจา้ งงานมากที่สดุ คือ ประเภท ทางการเคลื่อนไหวและร่างกาย ประเภทความพิการทางการเหน็ และประเภทความพิการทางการได้ยินหรอื ส่อื ความหมาย ประเภทความพกิ ารทไี่ ด้รับการจา้ งงานตามมาตรา 35 จังหวดั ระยอง 184 ไม่ระบุ 128 ความพิการทางการเคลอ่ื นไหว 98 หรอื รา่ งกาย ความพิการทางการไดย้ นิ หรอื 60 61 54 54 สอ่ื ความหมาย ความพกิ ารทางการเห็น 334160 44 333279 36 ความพิการทางการเีี รยี นรู้ 17 ความพิการทางจิตใจหรอื 80132 พฤตกิ รรม ความพิการทางจิตใจหรอื พฤตกิ รรม หรอื ออทสิ ติก ความพิการทางสตปิ ัญญา ความพกิ ารทางออทิสติก 1016371 02 027 01 2558 2559 2560 2561 2562 แผนภมู ทิ ่ี 21 ประเภทความพิการท่ไี ด้รบั การจา้ งงานตามมาตรา 35 จังหวดั ระยอง รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวดั ภาคตะวันออก

40 ตารางที่ 29 ประเภทความพกิ ารท่ไี ด้รบั จ้างงาน มาตรา 35 จังหวดั จันทบุรี ท่ี ประเภทความพกิ าร 2558 2559 2560 2561 2562 1 ไม่ระบุ 00 0 0 0 2 ความพิการทางการเคล่ือนไหวหรือร่างกาย 34 3 8 4 3 ความพกิ ารทางการได้ยนิ หรอื สือ่ ความหมาย 01 2 3 2 4 ความพกิ ารทางการเหน็ 12 1 2 2 5 ความพกิ ารทางการเรียนรู้ 00 0 0 0 6 ความพกิ ารทางจติ ใจหรือพฤตกิ รรม 00 0 0 0 7 ความพกิ ารทางจิตใจหรอื พฤตกิ รรม หรอื ออทสิ ติก 0 0 0 0 0 8 ความพกิ ารทางสตปิ ัญญา 00 0 0 0 9 ทางออทิสติก 00 0 0 0 ที่มา : กรมส่งเสริมและพัฒนาคณุ ภาพชีวิตคนพิการ ณ วนั ที่ 2 กรกฎาคม 2563 จากตารางที่ 29 ประเภทความพิการที่ได้รับการจ้างงาน มาตรา 35 จังหวัดจันทบุรี พบว่า ประเภท ความพิการทีม่ ีการจ้างงาน ตามมาตรา 35 จำนวน 3 ประเภทความพกิ ารและ 3 อนั ดบั ทมี่ ีการจ้างงานมากท่สี ุด คอื ประเภททางการเคลอ่ื นไหวและร่างกาย ประเภทความพิการทางการไดย้ ินหรือส่อื ความหมายและประเภท ความพิการทางการเห็น ประเภทความพกิ ารทไ่ี ด้รับการจ้างงานตามมาตรา 35 จงั หวัดจนั ทบุรี ไม่ระบุ 8 ความพิการทางการเคลอื่ นไหว หรอื รา่ งกาย ความพกิ ารทางการไดย้ ินหรอื สอ่ื ความหมาย ความพกิ ารทางการเหน็ 44 ความพกิ ารทางการเรยี นรู้ 3 33 ความพกิ ารทางจิตใจหรอื พฤตกิ รรม 2222 ความพิการทางจิตใจหรอื พฤติกรรม หรอื ออทสิ ติก 111 00000 2558 2559 2560 2561 2562 แผนภูมิท่ี 22 ประเภทความพกิ ารท่ไี ด้รับการจ้างงานตามมาตรา 35 จังหวัดจนั ทบรุ ี รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จังหวัดภาคตะวนั ออก

41 ตารางที่ 30 ประเภทความพกิ ารท่ีไดร้ ับจ้างงาน มาตรา 35 จังหวัดตราด ที่ ประเภทความพกิ าร 2558 2559 2560 2561 2562 1 ไม่ระบุ 000 0 0 2 ความพกิ ารทางการเคล่ือนไหวหรือรา่ งกาย 110 0 0 3 ความพกิ ารทางการไดย้ ินหรอื สือ่ ความหมาย 001 1 1 4 ความพิการทางการเหน็ 000 0 0 5 ความพิการทางการเรียนรู้ 000 0 0 6 ความพิการทางจิตใจหรือพฤตกิ รรม 000 0 0 7 ความพิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม หรอื ออทิสตกิ 0 0 0 0 0 8 ความพกิ ารทางสติปญั ญา 000 0 0 9 ความพกิ ารทางออทิสตกิ 000 0 0 ท่มี า : กรมสง่ เสริมและพัฒนาคุณภาพชวี ติ คนพิการ ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 จากตารางท่ี 30 ประเภทความพิการที่ได้รับการจ้างงาน มาตรา 35 จังหวัดจันทบุรี พบว่า ประเภท ความพิการทมี่ กี ารจ้างงาน ตามมาตรา 35 จำนวน 2 ประเภทความพิการ คือ ประเภทความพกิ ารทางการไดย้ ิน หรอื สื่อความหมายและประเภทความพกิ ารทางการเคล่อื นไหวหรือรา่ งกาย ประเภทความพิการทีไ่ ด้รับการจา้ งงานตามมาตรา 35 จงั หวดั ตราด ไมร่ ะบุ 11111 ความพกิ ารทางการ เคลอ่ื นไหวหรอื รา่ งกาย ความพกิ ารทางการ ไดย้ นิ หรอื สอื่ ความหมาย ความพกิ ารทางการ เหน็ ความพกิ ารทางการ เรยี นรู ้ 0 0 0 0 0 2558 2559 2560 2561 2562 แผนภูมิท่ี 23 ประเภทความพิการทไ่ี ด้รบั การจ้างงานตามมาตรา 35 จงั หวดั ตราด รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลมุ่ จงั หวดั ภาคตะวนั ออก

42 ตารางที่ 31 ประเภทความพิการท่ไี ด้รับจ้างงาน มาตรา 35 จงั หวดั ฉะเชิงเทรา ที่ ประเภทความพิการ 2558 2559 2560 2561 2562 6 1 ไม่ระบุ 0 3 4 10 79 16 2 ความพกิ ารทางการเคลื่อนไหวหรอื รา่ งกาย 54 63 78 95 25 1 3 ความพิการทางการไดย้ นิ หรอื ส่ือความหมาย 9 15 17 17 2 0 4 ความพิการทางการเห็น 4 5 19 25 12 0 5 ความพิการทางการเรียนรู้ 61 03 6 ความพิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม 10 04 7 ความพิการทางจติ ใจหรือพฤติกรรม หรอื ออทสิ ติก 1 3 0 0 8 ความพกิ ารทางสติปญั ญา 4 8 9 11 9 ทางออทสิ ตกิ 01 00 ท่มี า : กรมส่งเสริมและพฒั นาคณุ ภาพชีวติ คนพิการ ณ วนั ที่ 2 กรกฎาคม 2563 จากตารางที่ 31 ประเภทความพกิ ารทีไ่ ดร้ ับการจา้ งงาน มาตรา 35 จังหวัดฉะเชงิ เทรา พบว่า ประเภท ความพิการที่มีการจ้างงาน ตามมาตรา 35 ทุกประเภทความพิการและ 3 อันดับที่มีการจ้างงานมากที่สุด คือ ประเภททางการเคล่ือนไหวและร่างกาย ประเภทความพกิ ารทางการเห็น และประเภทความพกิ ารทางการ ได้ยนิ หรอื ส่ือความหมาย จานวนผู้พกิ ารทไี่ ด้รับการจ้างงานตามมาตรา 35 จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา 95 ไม่ระบุ 78 ความพิการทางการเคลอื่ นไหว 79 หรอื รา่ งกาย 63 54 ความพกิ ารทางการไดย้ ินหรอื สอื่ ความหมาย ความพกิ ารทางการเห็น ความพกิ ารทางการเีี รยี นรู้ 25 25 ความพกิ ารทางจิตใจหรอื พฤติกรรม 14906 15 1197 17 1126 ความพกิ ารทางจิตใจหรอื 03815 9 101 2016 พฤติกรรม หรอื ออทิสตกิ 40 403 2558 2559 2560 2561 2562 แผนภูมทิ ี่ 24 ประเภทความพกิ ารท่ีไดร้ บั การจ้างงานตามมาตรา 35 จงั หวัดฉะเชงิ เทรา รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลมุ่ จังหวดั ภาคตะวนั ออก

43 ตารางท่ี 32 ประเภทความพิการทีไ่ ดร้ บั จ้างงาน มาตรา 35 จังหวดั ปราจีนบรุ ี ที่ ประเภทความพิการ 2558 2559 2560 2561 2562 1 ไม่ระบุ 0 11 2 23 11 2 ความพกิ ารทางการเคล่ือนไหวหรอื รา่ งกาย 45 104 130 139 142 3 ความพิการทางการได้ยนิ หรอื สือ่ ความหมาย 11 22 33 25 33 4 ความพกิ ารทางการเหน็ 12 25 28 21 27 5 ความพกิ ารทางการเรียนรู้ 31112 6 ความพกิ ารทางจิตใจหรอื พฤตกิ รรม 0 2 10 2 8 7 ความพิการทางจิตใจหรอื พฤติกรรม หรอื ออทิสตกิ 03000 8 ความพิการทางสติปญั ญา 9 13 24 15 15 9 ความพิการทางออทสิ ติก 24413 ทีม่ า : กรมส่งเสรมิ และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพกิ าร ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 จากตารางท่ี 32 ประเภทความพกิ ารท่ไี ดร้ บั การจ้างงาน มาตรา 35 จงั หวดั ปราจีนบรุ ี พบวา่ ประเภท ความพิการที่มีการจ้างงาน ตามมาตรา 35 ทุกประเภทความพิการและ 3 อันดับที่มีการจ้างงานมากที่สุด คอื ประเภททางการเคล่อื นไหวและรา่ งกาย ประเภทความพิการทางการไดย้ นิ หรอื สื่อความหมาย และประเภท ความพกิ ารทางการเหน็ จานวนผพู้ กิ ารทไี่ ด้รับการจา้ งงานตามมาตรา 35 จังหวัดปราจนี บุรี 139 142 ไม่ระบุ 130 ความพกิ ารทางการเคลอ่ื นไหว 104 หรอื รา่ งกาย ความพิการทางการไดย้ ินหรอื สอื่ ความหมาย ความพกิ ารทางการเหน็ 45 ความพกิ ารทางการเีี รยี นรู้ 1902312 2252 232384 22213551 3273 ความพิการทางจิตใจหรอื 1131 104120 012 11208351 พฤติกรรม 4312 ความพกิ ารทางจิตใจหรอื พฤติกรรม หรอื ออทสิ ตกิ 2558 2559 2560 2561 2562 แผนภูมิท่ี 25 ประเภทความพกิ ารทีไ่ ด้รบั การจา้ งงานตามมาตรา 35 จังหวัดฉะเชิงเทรา รายงานสถานการณท์ างสังคมกลุม่ จังหวัดภาคตะวนั ออก

44 ตารางท่ี 33 ประเภทความพกิ ารท่ีไดร้ บั จา้ งงาน มาตรา 35 จังหวัดสระแกว้ ที่ ประเภทความพกิ าร 2558 2559 2560 2561 2562 1 ไม่ระบุ 0 0 00 0 2 ความพกิ ารทางการเคล่ือนไหวหรอื รา่ งกาย 0 0 11 0 3 ความพกิ ารทางการไดย้ นิ หรอื ส่ือความหมาย 0 0 00 0 4 ความพิการทางการเหน็ 0 0 00 0 5 ความพกิ ารทางการเรยี นรู้ 0 0 00 0 6 ความพกิ ารทางจติ ใจหรอื พฤตกิ รรม 0 0 00 0 7 ความพิการทางจติ ใจหรอื พฤติกรรม หรือออทสิ ตกิ 0 0 00 0 8 ความพิการทางสติปัญญา 0 0 00 0 9 ความพกิ ารทางออทสิ ตกิ 0 0 00 0 ท่มี า : กรมสง่ เสริมและพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ คนพกิ าร ณ วนั ที่ 2 กรกฎาคม 2563 จากตารางที่ 33 ประเภทความพิการที่ได้รับการจ้างงาน มาตรา 35 จังหวัดสระแก้ว พบว่า ประเภท ความพิการที่มีการจ้างงาน ตามมาตรา 35 มกี ารจา้ งงาน 1 ประเภท คือ ประเภททางการเคลอ่ื นไหวและร่างกาย ประเภทความพกิ ารที่ไดร้ ับการจา้ งงานตามมาตรา 35 จังหวดั สระแก้ว ไมร่ ะบุ 11 ความพกิ ารทางการ เคลอื่ นไหวหรอื รคา่ วงากมาพยกิ ารทางการ ไดย้ นิ หรอื สอ่ื ความหมาย ความพกิ ารทางการ เห็น ความพกิ ารทางการ เีรี ยี นรู ้ 0 0 0 0 0 2558 2559 2560 2561 2562 แผนภมู ทิ ่ี 26 ประเภทความพกิ ารทไ่ี ด้รับการจา้ งงานตามมาตรา 35 จังหวดั สระแก้ว ทศิ ทางแนวโน้มสถานการณ์การจา้ งานคนพิการ สถานการณ์การจ้างงานคนพกิ าร ตามมาตรา 33 และมาตรา 35 ในพื้นท่ภี าคตะวันออก ชว่ งระยะเวลา ปี 2558 – 2562 พบว่า มีการจ้างงานคนพิการทกุ ประเภทความพิการ โดยประเภทความพกิ ารท่ีมีการจ้างงาน มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ประเภทความพิการทางการเคลื่อนไหวหรือร่างกาย อันดับ 1 ประเภททางการ ไดย้ นิ หรือส่อื ความหมาย อนั ดบั 2 และประเภทความพกิ ารทางการเห็น อันดบั 3 ซึง่ ทศิ ทางการจ้างงานคนพกิ าร มแี นวโนม้ เพ่ิมขน้ึ ตามตารางที่ 34 โดยจังหวดั ชลบรุ ีมีการจา้ งงานคนพกิ ารตามมาตรา 33 และ มาตรา 35 มากที่สุด รองลงมาจังหวัดระยอง และจงั หวดั ฉะเชงิ เทรา เนื่องจาก 3 จงั หวัด เป็นพ้นื ท่ีโครงการพฒั นาระเบียงเศรษฐกิจ พิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development หรือ EEC) ทำให้มีสถานประกอบการ ลงทนุ ในเขตนิคมอตุ สาหกรรม ซ่งึ สถานประกอบการเข้าขา่ ยต้องปฏิบตั ิตามพระราชบัญญัตสิ ่งเสริมและพัฒนา รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลุ่มจังหวดั ภาคตะวันออก

45 คณุ ภาพชีวติ คนพิการ พ.ศ. 2550 และทีแ่ กไ้ ขเพม่ิ เติม (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2556 ทำใหม้ ีกรอบตำแหน่งงานสำหรับ การจา้ งงานคนพิการในสถานประกอบการ ในสว่ นท่ีเกีย่ วข้องจำนวน 3 มาตรา ประกอบดว้ ย ม.33 กำหนดให้นายจา้ งหรือเจ้าของสถานประกอบการ และหน่วยงานของรัฐ รับคนพกิ ารเข้าทำงาน ตามลักษณะของงานในสัดส่วนที่เหมาะสมในอัตรา 100 คนต่อ คนพิการ 1 คน (โดยนับจำนวนผู้ปฏิบัติงาน เพ่อื คำนวณจำนวนคนพิการที่ตอ้ งรบั เขา้ ทำงาน ณ วันท่ี 1 ตุลาคม ของแต่ละปี) ม.34 นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการที่ไม่ได้รับคนพิการเข้าทำงานตามจำนวนที่กำหนด ตามมาตรา 33 ให้ส่งเงินเขา้ กองทุนตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำคูณดว้ ย 365 วัน คูณด้วยจำนวนคนพกิ ารทีต่ ้องรบั เขา้ ทำงาน ม.35 กรณีทไ่ี ม่รับคนพิการเข้าทำงานตาม ม.33 และไมป่ ระสงค์สง่ เงนิ เข้ากองทุนตาม ม.34 หน่วยงานรัฐ หรือเจ้าของสถานประกอบการ อาจให้สัมปทาน จัดสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการ จัดจ้างเหมาช่วงงาน ฝึกงาน หรือจัดให้มอี ปุ กรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก ล่ามภาษามอื หรือการช่วยเหลือต่างๆให้กับคนพิการ/ ผูด้ ูแลได้ สำหรับจังหวัดปราจีนบุรีมีการลงทุนนิคมอุตสาหกรรมตั้งใหม่ ทำให้มีสถานประกอบการเข้าข่าย ต้องปฏิบัติตามการกฎหมายคนพิการจึงมีกรอบการจ้างงานเคนพิการเช่นเดียวกับ ๓ จังหวัดในพื้นที่ EEC (ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา) สำหรับจังหวัดอื่นในภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จงั หวดั สระแก้ว เป็นพื้นทดี่ า้ นการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ ทำให้มกี ารจ้างงานคนพกิ ารตามมาตรา 33 และ มาตรา 35 นอ้ ยกว่า จงั หวดั ทม่ี กี ารตั้งนคิ มอตุ สาหกรรม การเปรียบเทียบการจ้างงานคนพิการ ตาม มาตรา 33 และ มาตรา 35 ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนา คณุ ภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวนั ออก มกี ารจ้างงานคนพกิ าร มาตรา 33 สูงกว่ามาตรา 35 ตามแผนภูมิท่ี 27 ประเด็นที่น่าสนใจคือ สำนักงานส่งเสริมและสนบั สนุนวิชาการ 2 ได้จัดการความรู้ (KM) เรื่อง ประชารัฐชลบุรี เพื่อการมงี านทำของคนพิการของจงั หวัดชลบุรี และการวิจยั (R2R) เรื่องแนวทางการส่งเสรมิ อาชีพคนพิการตามกฎหมายจ้างงานในพื้นที่จังหวัดระยอง พบว่า หน่วยงานภาครัฐ เช่น สำนักงานจัดหางาน จังหวัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างคน พิการและสถานประกอบการ โดยหนว่ ยงานรัฐควรทำหน้าท่ี Matching ระหวา่ งคนพกิ ารและสถานประกอบการ การคำนึงถึงสภาพความพิการและลักษณะการจ้างงานของสถานประกอบการ ซ่ึงรูปแบบการจา้ งงานคนพกิ าร ตาม ม.35 เป็นทางเลือกให้สถานประกอบการและคนพิการ เกิดความยืดหยุ่นที่เปิดโอกาสให้คนพกิ ารที่มกี าร รวมกล่มุ กัน ทงั้ คนพกิ ารมากและคนพิการน้อย รวมท้ังผ้ดู แู ลไดม้ โี อกาสเข้าถึงการมงี านทำและมีรายได้มากข้ึน เช่น การรวมกลุม่ เพือ่ สร้างผลิตภัณฑ์ การบริการนวดแผนไทย เป็นตน้ หากหน่วยงานภาครัฐสร้างความเข้าใจ เกีย่ วกับพระราชบญั ญัติสง่ เสรมิ วิสาหกจิ เพอื่ สังคม พ.ศ.2562 กบั สถานประกอบการจะชว่ ยส่งเสริมการพัฒนา อาชคี นพิการ เชน่ ผลิตภณั ฑใ์ หม้ คี วามทันสมัย การควบคุมตน้ ทุนการผลิต รวมไปถงึ การเช่ือมโยงตลาดจะทำให้ เกิดการจ้างงานคนพิการตามมาตรา 35 เพม่ิ มากขึ้น สอดคลอ้ งกบั ความต้องการของคนพิการ การยอมรับ การมี ศกั ด์ศิ รี ลดการพงึ่ พาผดู้ แู ล รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลมุ่ จังหวดั ภาคตะวันออก

46 ตารางท่ี 34 การจ้างงานคนพิการตาม มาตรา 33 และ มาตรา 35 ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนา คุณภาพชีวติ คนพกิ าร พ.ศ.2550 ในพน้ื ท่ีภาคตะวันออก 2558 2559 2560 2561 2562 จงั หวดั มาตรา มาตรา มาตรา มาตรา มาตรา มาตรา มาตรา มาตรา มาตรา มาตรา 33 35 33 35 33 35 33 35 33 35 จนั ทบุรี 38 4 49 7 59 6 60 13 56 8 ฉะเชิงเทรา 511 79 571 99 628 127 675 165 709 141 ชลบุรี 1968 230 2023 258 2179 354 2374 411 2431 356 ตราด 18 1 18 1 18 1 20 1 29 1 ปราจีนบรุ ี 418 82 398 185 382 232 401 227 417 241 ระยอง 737 99 804 96 912 209 933 273 1069 347 สระแก้ว 32 0 31 0 34 1 38 1 36 0 รวม 3722 495 3894 646 4212 930 4501 1091 4747 1094 ทม่ี า : กรมสง่ เสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตคนพกิ าร ณ วนั ท่ี 2 กรกฎาคม 2563 เปรียบเทียบการจ้างงานคนพกิ าร ตาม มาตรา.33 และ35 พ.ร.บ.ส่งเสริมและพฒั นาชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 ในพื้นทีภ่ าคตะวันออก จานวนคน ิพการ 5000 มาตรา 33 4000 มาตรา 35 3000 2000 2558 2559 2560 2561 2562 1000 495 646 930 1091 1094 0 3722 3894 4212 4501 4747 มาตรา 35 มาตรา 33 แผนภมู ทิ ี่ 27 เปรียบเทียบการจ้างงาคนพกิ าร ตาม มาตรา 33 และ 36 พ.ร.บ.สง่ เสรมิ และพัฒนาคุณภาพชวี ติ คนพกิ าร พ.ศ.2550 รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลุ่มจงั หวดั ภาคตะวันออก

47 ทงั้ นี้ สถานการณก์ ารจา้ งงานคนพิการตาม มาตรา 33 และ มาตรา 35 เปน็ รายจงั หวัด มที ิศทางแนวโน้มเพ่มิ ขี้น แผนภูมิท่ี 28 แนวโนม้ การจา้ งงานคนพิการจังหวดั ชลบรุ ี แผนภมู ิท่ี 29 แนวโนม้ การจ้างงานคนพกิ ารจงั หวัดระยอง ชลบรุ ี ระยอง จานวนคนพิการ 3000 จานวนคนพิการ 1500 2000 1000 1000 500 0 0 2558 2559 2560 2561 2562 2558 2559 2560 2561 2562 ปี พ.ศ. ปี พ.ศ. มาตรา 33 มาตรา 35 มาตรา 33 มาตรา 35 แผนภมู ทิ ่ี 30 แนวโนม้ การจ้างงานคนพิการจงั หวัดจันทบุรี แผนภมู ิท่ี 31 แนวโนม้ การจ้างงานคนพิการจังหวดั ตราด จันทบุรี ตราด จานวนคนพิการ 80 จานวนคนพิการ 40 60 30 2559 2560 2561 2562 ปี พ.ศ. 40 20 20 10 0 0 2558 2559 2560 2561 2562 2558 ปี พ.ศ. มาตรา 33 มาตรา 35 มาตรา 33 มาตรา 35 แผนภูมทิ ี่ 32 แนวโนม้ การจ้างงานคนพกิ ารจังหวดั ฉะเชงิ เทรา ฉะเชงิ เทรา จานวนคนพิการ 800 600 2559 2560 2561 2562 ปี พ.ศ. 400 200 0 2558 มาตรา 33 มาตรา 35 รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จังหวัดภาคตะวันออก

48 แผนภูมิท่ี 33 แนวโน้มการจา้ งงานคนพกิ ารจังหวัดปราจนี บรุ ี แผนภมู ทิ ่ี 34 แนวโน้มการจา้ งงานคนพิการจังหวัดสระแกว้ ปราจนี บรุ ี สระแก้ว 500 40 จานวนคนพิการ400 30 จานวนคนพิการ 300 20 200 10 100 0 2558 0 2559 2560 2561 2562 2559 2560 2561 2562 2558 ปี พ.ศ. ปี พ.ศ. มาตรา 33 มาตรา 35 มาตรา 33 มาตรา 35 ขอ้ เสนอแนะ 1.การทำบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการร่วมกันระหว่างสถานประกอบการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพฒั นาสังคมและความม่ันคงของมนษุ ย์ องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กร คนพกิ าร เพอ่ื สนับสนุนให้คนพิการหรือผ้ดู แู ลคนพิการเขา้ ถึงสิทธติ ามกฎหมายไดร้ วดเร็ว 2.การพฒั นาระบบฐานขอ้ มูลคนพิการ และสถานประกอบการ ให้เกิดการจับคูก่ นั แบบ Matching การ จ้างงานคนพิการทส่ี ง่ เสรมิ การจ้างงานคนพิการตามมาตร 35 เชน่ ควรมอี งคก์ รกลางทท่ี ำหนา้ ท่ีในการเช่ือมโยง ระหว่างสถานประกอบการและคนพิการ รวมไปถึงการช่วยตีความกฎหมายที่เข้าใจไม่ตรงกันของกระทรวง พัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์กับกระทรวงแรงงาน โดยการมีส่วนร่วมจากคนพิการ รวมถึงควรมี หนว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบอย่างจริงจังเรอ่ื งฐานข้อมูลคนพกิ ารทีต่ ้องการทำงานตาม ม.33 และ ม.35 3.การพัฒนาศกั ยภาพคนพกิ ารในการตอ่ ยอดอาชพี ทีไ่ ดร้ บั การส่งเสรมิ การจ้างงานคนพิการตาม มาตรา 35 เพื่อสร้างความยั่งยนื ในอาชีพ และสำหรับคนพิการที่ทำงานในสถานประกอบการตามมาตรา 33 ควรได้รบั ทักษะการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น ทักษะการปรับตัว เพื่อใหส้ ถานประกอบการรับคนพิการเข้าทำงานทีม่ ีศักยภาพ เชน่ คนปกติ 4.การส่งเสริมความเข้มแขง็ ของชมรมคนพกิ ารแต่ละประเภทในการสร้างความตระหนักและความเข้าใจ กับสถานประกอบการ หน่วยงานภาครัฐถงึ ศกั ยภาพและลกั ษณะความพิการทส่ี อดคลอ้ งกับการประกอบอาชีพ และการดำรงชีวติ อิสระของคนพกิ าร 5.การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการตามมาตรา 35 เพื่อแก้ปัญหาให้กับสถาน ประกอบการไม่สามารถหาคนพกิ ารเขา้ ทำงานในสถานประกอบการตาม ม.33 ได้ โดยคำนึงถงึ ความต้องการและ ข้อจำกัดของคนพิการที่ต้องการประกอบอาชีพอิสระ โดยอาจเน้นการทำงานอยูก่ ับบ้านหรือในชุมชนลดภาระ การเดนิ ทางของคนพิการ รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุม่ จังหวัดภาคตะวันออก

49 3.3 สถานการณ์ทางสงั คมทีเ่ กดิ จากสถานการณ์การแพร่เช้อื ไวรัสโควดิ -19 3.3.1 ท่ีมาของเชอ้ื ไวรัสโควดิ -19 ไวรัสโคโรนา (Coronavirus) เป็นไวรัสที่ถูกพบครั้งแรกในปี 1960 โดยยังไม่ทราบแหล่งที่มา อย่างชัดเจน ซึ่งเปน็ ไวรสั ทส่ี ามารถตดิ เชอื้ ทั้งในมนุษย์และสตั ว์ ปจั จุบนั มีการคน้ พบไวรัสสายพันธุ์น้ีแล้วท้ังหมด 6 สายพันธุ์ และสายพันธทุ์ ่กี ำลังแพร่ระบาดหนักทว่ั โลกตอนน้ี คอื สายพนั ธท์ุ ่ี 7 จงึ ถกู เรียกวา่ เปน็ ไวรสั โคโรนา สายพันธใ์ุ หมก่ ่อนเปลย่ี นชอ่ื เป็น โควดิ -19 (COVID-19) ซึ่งโควิด-19 จะพบอยูใ่ นสารคัดหลั่งทีร่ า่ งกายสรา้ งขนึ้ มา เพื่อทำหน้าที่แตกต่างกันไป เมื่อติดเชื้อโควิด-19 เชื้อจะไปสะสมในสารคัดหลัง่ ชนิดต่างๆในปริมาณไม่เท่ากัน พบส่วนมากอยู่ในน้ำมูกมากสุด 97.9% รองลงมาคือน้ำลาย 88.6% อุจจาระ 70.8% ในลำคอ 60% ในเลือด 12.3% น้ำตา 1.1% (ส่วนในปัสสาวะ อสุจิ และน้ำหลอ่ ลื่นจากชอ่ งคลอดไม่พบเช้ือ) โดยมีกลุ่มเสี่ยงที่ตอ้ งดูแล เป็นพิเศษ เพราะอาการจะเพิ่มความรุนแรงอย่างรวดเร็ว ได้แก่ อายุ 60 ปีข้นึ ไป เด็กเล็กทม่ี อี ายุตำ่ กว่า 5 ปีลงมา ผมู้ ี ภาวะอ้วน ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังหรือถุง ลมโป่งพอง โรคไตวายเรื้อรัง โรคตับแข็ง โรคเบาหวานที่ ควบคมุ ไม่ได้ โรคหลอดเลอื ดหวั ใจตีบ โรคหลอดเลอื ดสมอง ตีบหรืออัมพาต และกลุ่มอายเุ สี่ยง ที่นำเชื้อไปแพร่มากสดุ คอื อายุ 30 - 39 ปี เพศชาย (อายุเฉลี่ย 39 ป)ี มอี ตั ราป่วย มากกวา่ เพศหญิงเล็กนอ้ ย ซ่ึงอายนุ อ้ ยสดุ 1 เดอื นถงึ 97 ปี 3.3.2 สถานการณ์ผู้ตดิ เชือ้ ไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก มียอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกสะสม รวม 25,384,436 ราย และยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลก 850,591 ราย ส่วน สถานการณ์ในประเทศไทย เป็นอีกประเทศหน่ึง ท่ไี ดร้ บั ผลกระทบจากโรคโควดิ -19 ซึง่ ในประเทศไทย พบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือ 1 ราย รวมยอดสะสม 3,412 ราย หายปว่ ยแลว้ 3,252 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย ผปู้ ่วยสะสมมากที่สดุ ไดแ้ ก่ กรงุ เทพฯ ภเู กต็ นนทบรุ ี ยะลา สมุทรปราการ ชลบุรี ปัตตานี สงขลา เชียงใหม่ ปทุมธานี และมี 9 จังหวัด ยังไม่พบผู้ป่วย ได้แก่ กำแพงเพชร ชยั นาท ตราด นา่ น บึงกาฬ พิจติ ร ระนอง สงิ ห์บุรี อ่างทอง (ขอ้ มลู ศบค. โควิด 19 ณ วนั ที่ 31 ส.ค.63) รายงานสถานการณท์ างสังคมกล่มุ จงั หวัดภาคตะวันออก

50 3.3.3 สถานการณ์ผู้ติเชื้อโควิด-19 ในเขตพื้นท่ี 7 จังหวัดภาคตะวันออก มียอดผู้ติดเชือ้ รวม 136 คน เรียงลำดับจากมากสุดดังนี้ จังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี ส่วนจังหวัดตราด ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ และ รักษาหายแล้ว 131 คน แต่มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ในเขตจังหวัดชลบรุ ี ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในเขตอำเภอ บางละมุง ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษ และเขตส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงพบอตั ราการตดิ เชอ้ื มากสุดและเพม่ิ ข้นึ มาโดยตลอด โดยเปน็ กลุ่ม ที่กลับมาจากสนามมวย กทม.กลุ่มต่างชาติเข้าประเทศ กลุ่มที่ไป เที่ยวร้านเหล้ากับเพื่อนที่ติดเช้ือในชลบุรี กลุ่มที่กลับจากทอ่ งเท่ยี ว ภูเก็ตและ กทม. กลุ่มทำงานผบั /บาร์/ร้านนวด ซง่ึ สัมผัสกบั ตา่ งชาติ อยา่ งไรกต็ ามเขตปกครองพเิ ศษพัทยาไดป้ ระกาศปิดเมืองต้ังแต่วันท่ี 12 เมษายน 2563 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัส โคโรนา (โควิด-19) ( ท่ีมา:สำนกั งานสาธารณสุขจงั หวดั 31 ส.ค.63) จากสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา (COVID -19) พ.ศ.2563 กระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความม่นั คงของมนุษย์ ไดส้ ำรวจข้อมูลผ้ปู ระสบปัญหา (รายครัวเรือน) โดยขอ้ มูลการสำรวจใน 7 จังหวัด พื้นที่ ภาคตะวนั ออก มีดงั นี้ 3.3.4 สถานการณจ์ งั หวดั ชลบรุ ี ตารางท่ี 35 จำนวนผู้ไดร้ ับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวัดชลบรุ ี จำนวยผู้ไดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 (หนว่ ย : ราย) ถกู เลิกจา้ ง 214 ว่างงาน 2,318 รายได้ลดลง 9,941 อนื่ ๆ 297 รวม 12,770 ทมี่ า : ผลสำรวจผลกระทบดา้ นสงั คม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 19 (Covid-19) กองตรวจราชการสำนกั งานปลดั กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมั่นคงของมนุษย์ ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 31 พ.ค.63 รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จงั หวดั ภาคตะวันออก

51 จานวนผู้ได้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 (หนว่ ย : เปอร์เซน็ ต)์ 2.32% 1.67% 18.15% ถกู เลิกจา้ ง 78.84% ว่างงาน รายไดล้ ดลง อืน่ ๆ แผนภูมิที่ 35 รอ้ ยละผู้ท่ไี ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ในจงั หวัดชลบรุ ี จำนวนผทู้ ่ีไดร้ ับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวดั ชลบุรดี งั ตารางที่ 35 และแผนภูมิท่ี 35 พบว่า มีผู้ได้รับผลกระทบทางด้านรายได้ลดลงมากที่สุด จำนวน 9,941 ราย หรือ ร้อยละ 78.84 รองลงมาคอื ว่างงาน จำนวน 2,318 ราย หรือ ร้อยละ 18.15 อื่นๆ จำนวน 297 ราย หรือ ร้อยละ 2.32 และถูกเลิกจ้าง จำนวน 214 ราย หรือ รอ้ ยละ 1.67 ตารางท่ี 36 จำนวนผู้ต้องการความช่วยเหลือ จากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวดั ชลบุรี จำนวนผตู้ อ้ งการความชว่ ยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 (หน่วย : ราย) เงนิ อุดหนนุ /เงนิ สงเคราะห์ 12,345 การประกอบอาชีพ 1,877 การจา้ งงาน 1,093 เงินทนุ ประกอบอาชพี 863 เงนิ ซอ่ มแซมปรบั ปรงุ ทอ่ี ยูอ่ าศยั 1,019 การจดั หาที่พกั อาศยั 126 รวม 17,323 ที่มา : ผลสำรวจผลกระทบดา้ นสงั คม จากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 19 (Covid-19) กองตรวจราชการสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความม่นั คงของมนษุ ย์ ข้อมูล ณ วันท่ี 31 พ.ค.63 รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลมุ่ จงั หวดั ภาคตะวนั ออก

52 จานวนผูต้ อ้ งการความชว่ ยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 จังหวัดชลบรุ ี ประเภทความ ่ชวยเห ืลอ ่ีท ้ตองการ การจดั หาทีพ่ กั อาศยั 126 เงนิ ซอ่ มแซมปรบั ปรุงที่อย่อู าศยั 1,019 863 เงนิ ทนุ ประกอบอาชีพ 1,093 การจา้ งงาน 1,877 การประกอบอาชีพ 12,345 เงนิ อดุ หนนุ /เงินสงเคราะห์ 12,000 14,000 0 2,000 4,000 6,000 8,000 10,000 จานวน (ราย) แผนภมู ิท่ี 36 จำนวนผตู้ ้องการความช่วยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 จังหวดั ชลบุรี การสำรวจผู้ต้องการความช่วยเหลือจากสถานการณ์ COVID-19 จังหวัดชลบุรี ดังตารางท่ี 36 และ แผนภูมิที่ 36 พบว่า มีความต้องการเงินอุดหนุน/เงินสงเคราะห์มากที่สุด จำนวน 12,345 ราย รองลงมาคือ การประกอบอาชพี จำนวน 1,877 ราย การจ้างงาน จำนวน 1,093 ราย เงนิ ซ่อมแซมปรับปรงุ ทอี่ ยู่อาศัย จำนวน 1,019 ราย เงนิ ทนุ ประกอบอาชพี จำนวน 863 ราย และการจัดหาทพี่ กั อาศยั จำนวน 126 ราย 3.3.5 สถานการณจ์ ังหวดั ระยอง ตารางที่ 37 จำนวนผู้ไดร้ บั ผลกระทบ จากสถานการณ์ COVID-19 จังหวดั ระยอง จำนวนผไู้ ด้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 (หนว่ ย : ราย) ถกู เลิกจา้ ง 81 ว่างงาน 114 รายไดล้ ดลง 1,731 อ่นื ๆ 276 รวม 2,206 ท่มี า : ผลสำรวจผลกระทบดา้ นสงั คม จากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 19 (Covid-19) กองตรวจราชการสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความม่ันคงของมนษุ ย์ ข้อมูล ณ วนั ท่ี 31 พ.ค.63 รายงานสถานการณท์ างสังคมกลมุ่ จงั หวัดภาคตะวนั ออก

53 จานวนผ้ไู ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 (หนว่ ย : เปอร์เซ็นต์) 3.67% 5.16% ถูกเลกิ จ้าง 12.51% วา่ งงาน รายไดล้ ดลง 78.46 % อ่นื ๆ แผนภูมิท่ี 37 รอ้ ยละผู้ทไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ในจงั หวดั ระยอง การสำรวจผู้ที่ได้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 จังหวัดระยอง ดังตารางท่ี 37 และแผนภูมทิ ่ี 37 พบว่า ผู้ได้รับผลกระทบทางด้านรายได้ลดลงมากที่สุด จำนวน 1,731 ราย หรือ ร้อยละ 78.46 รองลงมาคอื อ่นื ๆ จำนวน 276 ราย หรือ ร้อยละ 12.51 วา่ งงาน จำนวน 114 ราย หรือ ร้อยละ 5.16 และถกู เลิกจา้ ง จำนวน 81 ราย หรอื รอ้ ยละ 3.67 ตารางท่ี 38 จำนวนผ้ตู อ้ งการความชว่ ยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวดั ระยอง จำนวนผู้ต้องการความช่วยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 (หน่วย : ราย) เงนิ อุดหนุน/เงินสงเคราะห์ 1,864 การประกอบอาชพี 129 การจา้ งงาน 240 เงนิ ทนุ ประกอบอาชีพ 253 เงนิ ซอ่ มแซมปรบั ปรงุ ที่อยู่อาศยั 10 การจัดหาทพี่ กั อาศยั 8 รวม 2,504 ท่ีมา : ผลสำรวจผลกระทบดา้ นสงั คม จากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 19 (Covid-19) กองตรวจราชการสำนกั งานปลดั กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ ขอ้ มลู ณ วันที่ 31 พ.ค.63 รายงานสถานการณท์ างสังคมกลุ่มจงั หวดั ภาคตะวันออก

54 จานวนผูต้ ้องการความชว่ ยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 จังหวดั ระยอง ประเภทความช่วยเหลือที่ต้องการ การจดั หาทพ่ี กั อาศัย 8 เงินซอ่ มแซมปรบั ปรงุ ทอ่ี ยู่อาศัย 10 เงนิ ทนุ ประกอบอาชีพ 253 การจ้างงาน 240 129 การประกอบอาชพี เงนิ อดุ หนุน/เงินสงเคราะห์ 1,864 0 200 400 600 800 1,000 1,200 1,400 1,600 1,800 2,000 จานวน (ราย) แผนภมู ทิ ่ี 38 จำนวนผตู้ อ้ งการความชว่ ยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวัดระยอง การสำรวจผู้ต้องการความช่วยเหลือจากสถานการณ์ COVID-19 จังหวัดระยอง ดังตารางที่ 38 และ แผนภูมิที่ 38 พบว่า มีความต้องการเงินอุดหนุน/เงินสงเคราะห์มากที่สุด จำนวน 1,864 ราย รองลงมาคือ เงินทนุ ประกอบอาชีพ จำนวน 253 ราย การจ้างงาน จำนวน 240 ราย การประกอบอาชพี จำนวน 129 ราย เงิน ซ่อมแซมปรบั ปรงุ ทอี่ ยู่อาศยั จำนวน 10 ราย และการจัดหาทพ่ี ักอาศยั จำนวน 8 ราย 3.3.6 สถานการณจ์ งั หวัดจันทบุรี ตารางที่ 39 จำนวนผไู้ ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวดั จนั ทบุรี จำนวนผู้ไดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 (หน่วย : ราย) ถกู เลกิ จา้ ง 5 วา่ งงาน 95 รายได้ลดลง 483 อืน่ ๆ 510 รวม 1,093 ทีม่ า : ผลสำรวจผลกระทบดา้ นสงั คม จากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 19 (Covid-19) กองตรวจราชการสำนักงานปลดั กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความม่ันคงของมนษุ ย์ ขอ้ มลู ณ วนั ที่ 31 พ.ค.63 รายงานสถานการณท์ างสังคมกลมุ่ จังหวัดภาคตะวนั ออก

55 จานวนผู้ไดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 (หนว่ ย : เปอรเ์ ซ็นต์) 46.66% 0.45% ถูกเลิกจา้ ง 8.69% วา่ งงาน รายได้ลดลง 44.19% อ่นื ๆ แผนภูมทิ ่ี 39 รอ้ ยละผู้ทไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ในจังหวัดจันทบรุ ี การสำรวจผทู้ ่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวัดจันทบรุ ี ดงั ตารางที่ 39 และแผนภูมทิ ่ี 39 พบวา่ ผู้ไดร้ บั ผลกระทบทางด้านอื่นๆ มากท่สี ดุ จำนวน 510 ราย หรือ รอ้ ยละ 46.66 รายไดล้ ดลง จำนวน 483 ราย หรือ ร้อยละ 44.19 รองลงมาคือ ว่างงาน จำนวน 95 ราย หรือ ร้อยละ 8.69 และถูกเลิกจ้าง จำนวน 5 ราย หรอื ร้อยละ 0.45 ตารางที่ 40 จำนวนผตู้ อ้ งการความชว่ ยเหลือ จากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวดั จันทบุรี จำนวนผู้ตอ้ งการความชว่ ยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 (หนว่ ย : ราย) เงินอดุ หนนุ /เงนิ สงเคราะห์ 805 การประกอบอาชีพ 25 การจ้างงาน 9 เงนิ ทนุ ประกอบอาชีพ 7 เงินซ่อมแซมปรบั ปรงุ ที่อยู่อาศัย 30 การจัดหาท่พี กั อาศยั 1 รวม 877 ท่ีมา : ผลสำรวจผลกระทบด้านสงั คม จากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 19 (Covid-19) กองตรวจราชการสำนกั งานปลดั กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่นั คงของมนุษย์ ขอ้ มูล ณ วันท่ี 31 พ.ค.63 รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลุ่มจงั หวดั ภาคตะวนั ออก

56 ความต้องการความช่วยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวดั จันทบรุ ี ประเภทความ ่ชวยเห ืลอ ่ีท ้ตองการ การจดั หาที่พกั อาศยั 1 เงนิ ซอ่ มแซมปรบั ปรงุ ทอ่ี ย่อู าศยั 30 เงินทนุ ประกอบอาชีพ 7 การจา้ งงาน 9 25 การประกอบอาชีพ เงินอดุ หนนุ /เงนิ สงเคราะห์ 805 0 100 200 300 400 500 600 700 800 900 จานวน (ราย) แผนภมู ิท่ี 40 จำนวนผ้ตู อ้ งการความชว่ ยเหลือ จากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวดั จนั ทบุรี การสำรวจผู้ต้องการความช่วยเหลือจากสถานการณ์ COVID-19 จังหวัดจันทบุรีดังตารางที่ 40 และ แผนภูมิท่ี 40 พบว่า มีความต้องการเงินอุดหนุน/เงินสงเคราะห์มากที่สุด จำนวน 805 ราย รองลงมาคือ เงนิ ซอ่ มแซมปรบั ปรุงทอ่ี ยูอ่ าศัย จำนวน 30 ราย เงินทนุ ประกอบอาชีพ จำนวน 253 ราย การจา้ งงาน จำนวน 9 ราย การประกอบอาชพี จำนวน 25 ราย และการจดั หาทีพ่ กั อาศัย จำนวน 1 ราย 3.3.7 สถานการณจ์ ังหวัดตราด ตารางที่ 41 จำนวนผไู้ ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวดั ตราด จำนวนผไู้ ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 (หนว่ ย : ราย) ถกู เลกิ จ้าง 14 ว่างงาน 220 รายได้ลดลง 1,380 อื่นๆ 65 รวม 1,679 ท่ีมา : ผลสำรวจผลกระทบด้านสงั คม จากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 19 (Covid-19) กองตรวจราชการสำนกั งานปลัดกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์ ขอ้ มลู ณ วนั ที่ 31 พ.ค.63 รายงานสถานการณท์ างสังคมกลมุ่ จังหวดั ภาคตะวนั ออก

57 ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 (หนว่ ย : เปอรเ์ ซ็นต์) 3.87% 0.83% 13.10% 82.19% ถกู เลกิ จา้ ง วา่ งงาน รายไดล้ ดลง อ่ืนๆ แผนภูมิที่ 41 ร้อยละผู้ทไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ในจงั หวัดตราด การสำรวจผู้ท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 จังหวัดตราด ดังตารางท่ี 41 และแผนภูมิที่ 41 พบว่า ผู้ได้รับผลกระทบทางด้านรายได้ลดลงมากที่สุด จำนวน 1,380 ราย หรือ ร้อยละ 82.19 รองลงมาคือ ว่างงาน จำนวน 220 ราย หรือ ร้อยละ 13.10 อนื่ ๆ จำนวน 65 ราย หรือ ร้อยละ 3.87 และถกู เลกิ จา้ ง จำนวน 14 ราย หรือ ร้อยละ 0.83 ตารางท่ี 42 จำนวนผตู้ อ้ งการความช่วยเหลือ จากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวดั ตราด จำนวนผู้ตอ้ งการความช่วยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 (หน่วย : ราย) เงนิ อุดหนนุ /เงนิ สงเคราะห์ 1,610 การประกอบอาชพี 57 การจ้างงาน 44 เงนิ ทุนประกอบอาชพี 42 เงินซ่อมแซมปรบั ปรุงทอ่ี ยู่อาศยั 43 การจัดหาท่พี กั อาศัย 9 รวม 1,805 ทม่ี า : ผลสำรวจผลกระทบดา้ นสงั คม จากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 19 (Covid-19) กองตรวจราชการสำนกั งานปลดั กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์ ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค.63 รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลมุ่ จังหวดั ภาคตะวนั ออก

58 จานวนผู้ต้องการความช่วยเหลือจากสถานการณ์ COVID-19 จังหวัดตราด ประเภทความช่วยเห ืลอ ่ีทต้องการ การจดั หาทพี่ กั อาศยั 9 เงนิ ซ่อมแซมปรับปรงุ ที่อยู่อาศยั 43 42 เงนิ ทุนประกอบอาชีพ 44 การจา้ งงาน 57 การประกอบอาชีพ 1,610 เงินอุดหนนุ /เงนิ สงเคราะห์ 0 200 400 600 800 1,000 1,200 1,400 1,600 1,800 จานวน (ราย) แผนภมู ทิ ี่ 42 จำนวนผตู้ ้องการความช่วยเหลือ จากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวดั ตราด การสำรวจผู้ต้องการความช่วยเหลือจากสถานการณ์ COVID-19 จังหวัดตราด ดังตารางที่ 42 และ แผนภูมิที่ 42 พบว่า มคี วามตอ้ งการเงินอุดหนนุ /เงินสงเคราะห์มากทีส่ ุด จำนวน 1,610 ราย รองลงมาคือ การ ประกอบอาชีพ จำนวน 57 ราย การจ้างงาน จำนวน 44 ราย เงินซ่อมแซมปรับปรุงทีอ่ ยูอ่ าศัย จำนวน 43 ราย เงินทนุ ประกอบอาชีพ จำนวน 42 ราย และการจดั หาที่พกั อาศยั จำนวน 9 ราย 3.3.8 สถานการณจ์ งั หวัดฉะเชิงเทรา ตารางท่ี 43 ผู้ท่ไี ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวัดฉะเชิงเทรา ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 (หน่วย : ราย) ถกู เลิกจ้าง 31 วา่ งงาน 260 รายได้ลดลง 939 อน่ื ๆ 584 รวม 1,814 ที่มา : ผลสำรวจผลกระทบดา้ นสงั คม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 19 (Covid-19) กองตรวจราชการสำนกั งานปลัดกระทรวงการพฒั นาสงั คมและความม่นั คงของมนษุ ย์ ขอ้ มลู ณ วันท่ี 31 พ.ค.63 รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวนั ออก

59 ผูท้ ่ไี ด้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 (หน่วย : เปอรเ์ ซ็นต์) 1.70% 14.33% 32.19% ถูกเลกิ จา้ ง วา่ งงาน 51.76% รายไดล้ ดลง อื่นๆ แผนภมู ทิ ี่ 43 รอ้ ยละผู้ทไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ในจังหวดั ฉะเชงิ เทรา การสำรวจผู้ท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 จังหวัดฉะเชิงเทรา ดังตารางที่ 43 และ แผนภูมิท่ี 43 พบว่า ผู้ได้รับผลกระทบทางด้านรายได้ลดลงมากที่สุด จำนวน 939 ราย หรือ ร้อยละ 51.76 รองลงมาคือ อื่นๆ จำนวน 584 ราย หรือ รอ้ ยละ 32.19 วา่ งงาน จำนวน 260 ราย หรอื รอ้ ยละ 14.33 และถกู เลกิ จ้าง จำนวน 31 ราย หรอื ร้อยละ 1.70 ตารางท่ี 44 จำนวนผตู้ ้องการความชว่ ยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา จำนวนผู้ตอ้ งการความชว่ ยเหลือจากสถานการณ์ COVID-19 (หน่วย : ราย) เงนิ อดุ หนุน/เงนิ สงเคราะห์ 1,807 การประกอบอาชพี 194 การจ้างงาน 156 เงนิ ทนุ ประกอบอาชีพ 128 เงินซอ่ มแซมปรบั ปรงุ ทอี่ ยูอ่ าศยั 257 การจัดหาทพ่ี กั อาศัย 25 รวม 2,567 ท่ีมา : ผลสำรวจผลกระทบดา้ นสงั คม จากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 19 (Covid-19) กองตรวจราชการสำนักงานปลดั กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความม่ันคงของมนุษย์ ข้อมลู ณ วันท่ี 31 พ.ค.63 รายงานสถานการณท์ างสังคมกล่มุ จังหวัดภาคตะวนั ออก

60 ความต้องการความชว่ ยเหลือจากสถานการณ์ COVID-19 จังหวดั ฉะเชิงเทรา ประเภทความช่วยเหลือที่ต้องการ การจัดหาทพ่ี ักอาศยั 25 เงินซอ่ มแซมปรบั ปรุงทอ่ี ยู่อาศัย 257 เงินทนุ ประกอบอาชพี 128 การจา้ งงาน 156 194 การประกอบอาชพี เงนิ อุดหนุน/เงนิ สงเคราะห์ 1,807 0 200 400 600 800 1,000 1,200 1,400 1,600 1,800 2,000 จานวน (ราย) แผนภมู ทิ ี่ 44 จำนวนผตู้ ้องการความช่วยเหลือ จากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวัดฉะเชงิ เทรา การสำรวจผตู้ อ้ งการความชว่ ยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 จังหวดั ฉะเชิงเทรา ดังตารางท่ี 44 และ แผนภูมิท่ี 44 พบว่า มีความต้องการเงินอุดหนุน/เงินสงเคราะห์มากที่สุด จำนวน 1,807 ราย รองลงมาคือ เงินซ่อมแซมปรบั ปรุงทีอ่ ยู่อาศัย จำนวน 257 ราย การประกอบอาชีพ จำนวน 194 ราย การจ้างงาน จำนวน 156 ราย เงนิ ทนุ ประกอบอาชพี จำนวน 128 ราย และการจดั หาทีพ่ กั อาศยั จำนวน 25 ราย 3.3.9 สถานการณจ์ ังหวัดปราจีนบุรี ตารางที่ 45 จำนวนผู้ไดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวดั ปราจนี บรุ ี จำนวนผ้ไู ด้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 (หน่วย : ราย) ถกู เลิกจ้าง 37 วา่ งงาน 380 รายได้ลดลง 690 อื่นๆ 155 รวม 1,262 ท่มี า : ผลสำรวจผลกระทบดา้ นสงั คม จากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 19 (Covid-19) กองตรวจราชการสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมน่ั คงของมนุษย์ ข้อมลู ณ วนั ที่ 31 พ.ค.63 รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลุ่มจงั หวัดภาคตะวนั ออก

61 จานวนผู้ไดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 (หนว่ ย : เปอรเ์ ซ็นต์) 2.93% 12.28% 30.11% ถกู เลกิ จ้าง 54.67% วา่ งงาน รายได้ลดลง อนื่ ๆ แผนภมู ทิ ่ี 45 รอ้ ยละผู้ท่ีได้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ในจงั หวดั ปราจนี บรุ ี การสำรวจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 จังหวัดปราจีนบุรี ดังตารางท่ี 45 และ แผนภูมิที่ 45 พบว่า ผู้ได้รับผลกระทบทางด้านรายได้ลดลงมากที่สุด จำนวน 690 ราย หรือ ร้อยละ 54.67 รองลงมาคือ วา่ งงาน จำนวน 380 ราย หรอื ร้อยละ 30.11 อ่นื ๆ จำนวน 155 ราย หรือ ร้อยละ 12.28 และถูก เลิกจ้าง จำนวน 37 ราย หรือ รอ้ ยละ 2.93 ตารางท่ี 46 จำนวนผู้ต้องการความช่วยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวดั ปราจีนบรุ ี จำนวนผู้ต้องการความช่วยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 (หน่วย : ราย) เงนิ อดุ หนนุ /เงินสงเคราะห์ 1,243 การประกอบอาชพี 329 การจา้ งงาน 355 เงินทนุ ประกอบอาชีพ 355 เงนิ ซอ่ มแซมปรบั ปรุงทอ่ี ยอู่ าศัย 602 การจัดหาที่พกั อาศยั 66 รวม 2,950 ที่มา : ผลสำรวจผลกระทบดา้ นสงั คม จากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 19 (Covid-19) กองตรวจราชการสำนกั งานปลัดกระทรวงการพฒั นาสงั คมและความม่ันคงของมนษุ ย์ ขอ้ มลู ณ วันที่ 31 พ.ค.63 รายงานสถานการณท์ างสงั คมกล่มุ จงั หวัดภาคตะวนั ออก

62 จานวนผู้ตอ้ งการความช่วยเหลือจากสถานการณ์ COVID-19 จังหวัดปราจนี บรุ ี ประเภทความช่วยเห ืลอ ่ีทต้องการ การจัดหาที่พักอาศัย 66 เงนิ ซอ่ มแซมปรบั ปรุงท่ีอยูอ่ าศัย 602 เงนิ ทนุ ประกอบอาชีพ การจา้ งงาน 355 355 การประกอบอาชีพ 329 เงินอดุ หนุน/เงนิ สงเคราะห์ 1,243 0 200 400 600 800 1,000 1,200 1,400 จานวน (ราย) แผนภูมิที่ 46 จำนวนผู้ต้องการความชว่ ยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 จังหวดั ปราจนี บรุ ี การสำรวจผูต้ ้องการความชว่ ยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 จังหวดั ฉะเชิงเทรา ดงั ตารางท่ี 46 และ แผนภูมิท่ี 46 พบว่า มีความต้องการเงินอุดหนุน/เงินสงเคราะห์มากที่สุด จำนวน 1,243 ราย รองลงมาคือ เงินซ่อมแซมปรับปรุงที่อยู่อาศัย จำนวน 602 ราย ราย เงินทุนประกอบอาชีพ จำนวน 355 ราย การจ้างงาน จำนวน 355 ราย การประกอบอาชีพ จำนวน 329 ราย และการจดั หาทีพ่ กั อาศยั จำนวน 66 ราย 3.3.10 สถานการณจ์ งั หวดั สระแกว้ ตารางที่ 47 จำนวนผู้ไดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวดั สระแกว้ จำนวนผไู้ ด้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 (หนว่ ย : เปอร์เซ็นต์) ถกู เลิกจ้าง 120 วา่ งงาน 508 รายไดล้ ดลง 805 อื่นๆ 119 รวม 1,552 ทีม่ า : ผลสำรวจผลกระทบดา้ นสงั คม จากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 19 (Covid-19) กองตรวจราชการสำนักงานปลดั กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนษุ ย์ ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 31 พ.ค.63 รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลุ่มจังหวดั ภาคตะวันออก

63 ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 (หนว่ ย : ราย) 7.67% 7.73% 32.73% ถกู เลิกจา้ ง ว่างงาน 51.86% รายไดล้ ดลง อ่ืนๆ แผนภูมทิ ี่ 47 รอ้ ยละผู้ทไ่ี ด้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ในจังหวัดสระแก้ว การสำรวจผทู้ ่ีไดร้ ับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 จังหวดั สระแกว้ ดงั ตารางที่ 47 และแผนภูมิ ท่ี 47 พบว่า ผูไ้ ดร้ บั ผลกระทบทางดา้ นรายได้ลดลงมากทสี่ ดุ จำนวน 805 ราย หรอื ร้อยละ 51.86 รองลงมาคือ วา่ งงาน จำนวน 508 ราย หรอื ร้อยละ 32.73 อนื่ ๆ จำนวน 119 ราย หรอื รอ้ ยละ 7.67 และถูกเลิกจา้ ง จำนวน 120 ราย หรอื ร้อยละ 7.73 ตารางที่ 48 จำนวนผตู้ อ้ งการความชว่ ยเหลือ จากสถานการณ์ COVID-19 จงั หวัดสระแกว้ จำนวนผู้ต้องการความช่วยเหลอื จากสถานการณ์ COVID-19 (หน่วย : ราย) เงนิ อุดหนนุ /เงินสงเคราะห์ 1,479 การประกอบอาชพี 368 การจ้างงาน 295 เงนิ ทุนประกอบอาชพี 232 เงนิ ซอ่ มแซมปรบั ปรงุ ที่อยอู่ าศัย 256 การจัดหาที่พกั อาศยั 19 รวม 2,649 ทม่ี า : ผลสำรวจผลกระทบดา้ นสงั คม จากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา 19 (Covid-19) กองตรวจราชการสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์ ข้อมลู ณ วนั ที่ 31 พ.ค.63 รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลุม่ จังหวัดภาคตะวนั ออก

64 จานวนผ้ตู อ้ งการความชว่ ยเหลือจากสถานการณ์ COVID-19 จังหวัดสระแกว้ ประเภทความ ่ชวยเห ืลอที่ต้องการ การจดั หาทพ่ี กั อาศยั 19 เงนิ ซ่อมแซมปรับปรงุ ทอี่ ย่อู าศยั 256 เงนิ ทนุ ประกอบอาชีพ 232 การจ้างงาน 295 การประกอบอาชีพ 368 เงนิ อุดหนุน/เงินสงเคราะห์ 1,479 0 200 400 600 800 1,000 1,200 1,400 1,600 จานวน (ราย) แผนภมู ทิ ี่ 48 จำนวนผู้ต้องการความช่วยเหลือ จากสถานการณ์ COVID-19 จังหวดั สระแกว้ การสำรวจผ้ตู ้องการความช่วยเหลือจากสถานการณ์ COVID-19 จังหวดั ฉะเชิงเทรา ดังตารางท่ี 48 และ แผนภูมิที่ 48 พบว่า มีความต้องการเงินอุดหนุน/เงินสงเคราะห์มากที่สุด จำนวน 1,479 ราย รองลงมาคือ การประกอบอาชพี จำนวน 368 ราย การจ้างงาน จำนวน 295 ราย เงนิ ซ่อมแซมปรบั ปรุงที่อยูอ่ าศยั จำนวน 256 ราย และการจัดหาทพี่ กั อาศยั จำนวน 19 ราย 3.3.11 บทบาทการดำเนินงานของ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 2 (สสว.2) ในช่วง สถานการณก์ ารแพร่เชือ้ ไวรสั โควดิ -19 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 2 (สสว.2) เป็นกลไกของกระทรวง พม. ในการขับเคลื่อน นโยบายและวิชาการจากส่วนกลางไปสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ให้เป็นรูปธรรม มีพื้นที่รับผิดชอบ 7 จังหวัด ไดแ้ ก่ จังหวดั ชลบรุ ี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา ปราจีนบรุ ี และสระแก้ว ไดป้ รบั กลยุทธ์ พัฒนาวิชาการ สู้ภัยโควิด-19 โดยใช้ดิจิทัลในการทำงาน (Digital Transformation) เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ในการป้องกัน ตนเองจากโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และประชาสัมพันธม์ าตรการบรกิ ารเยยี วยาของรัฐบาล และกระทรวง พม.ใหส้ าธารณะไดร้ บั ทราบ โดยสรุปประเด็นทีส่ ำคัญดงั น้ี สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พม. จังหวัดชลบุรี สระแก้ว ระยอง ปราจีนบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา จันทบรุ ี โดยผู้อำนวยการ สสว.2 เป็นที่ปรึกษาและเป็นหน่วยงานสนับสนุนการประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้ (ตามคำสั่งกระทรวง พม. ที่ 203/2563 ลงวนั ท่ี 23 มีนาคม 2563 และตามคำสงั่ นายกรัฐมนตรี ท่ี 6/2563 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2563) ตั้งศูนย์เฝ้ าระ วังก ารร้ องทุ กข์ท างสื่ อสัง คมอ อน ไลน ์ ของประ ชา ชนท ี่ ได ้รับผลกร ะท บ จ า ก การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการรวบรวม สรุปข้อมูลในแต่ละวัน เพื่อรายงานและส่งข้อมูล ให้ พมจ.ในพื้นที่รับผิดชอบ 7 จังหวัด ดำเนินการช่วยเหลือให้ทันเหตุการณ์ “สำรวจพบ จบที่จังหวัด” และยงั ไดจ้ ดั ทำตวั อยา่ งการประชาสัมพันธใ์ ห้เกดิ ประสิทธิภาพและเปน็ ไปในทศิ ทางเดียวกนั รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจงั หวัดภาคตะวันออก

65 การผลิตและเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการป้องกัน และการให้บริการเยียวยาของรัฐบาลและ กระทรวง พม. ในรูปแบบอินโฟกราฟิกและวีดที ัศน์ “เราจะก้าวไปดว้ ยกนั ” โดยในภาพรวมของ สสว.1-11 มีการ ผลิตและเผยแพร่อนิ โฟกราฟิกแลว้ จำนวน 102 ฉบับ วีดีทัศน์ 12 ชิ้น รวมทั้งมีการจัดทำรายงานสถานการณ์ โควดิ –19 เปน็ ประจำทกุ วนั การจัดทำคูม่ ือสำหรบั การปฏบิ ัติงาน จำนวน 2 ฉบับ คอื ค่มู ือการจัดการสถานรองรับชั่วคราวผู้ท่ี ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กระทรวง พม.และคู่มือการปฏิบัติตนของผู้ที่เข้าพักในสถานรองรับ ชั่วคราว ผูท้ ไ่ี ด้รบั ผลกระทบจากโควิด-19 กระทรวง พม.เพ่อื ใช้เผยแพร่เปน็ องค์ความรสู้ ำหรับการปฏบิ ตั งิ าน สนับสนุนทีมงานผู้บริหาร One Home จังหวัดชลบุรี โดยผู้อำนวยการ สสว.2 เป็นหัวหน้าชุด ที่ 2 เตรยี มพร้อมในที่ต้งั กรณีวกิ ฤติ ชดุ ท่ี 1 ไมส่ ามารถปฏิบัตงิ านได้ ใหป้ ฏบิ ตั งิ านแทน  ร่วมเป็นคณะทำงานถอดบทเรียนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมนั่ คงของมนษุ ย์  ร่วมกับทีม One Home จังหวัดระยอง จัดโครงการพัฒนาอาชีพของผู้มีรายได้น้อยและ ผู้ดอ้ ยโอกาส เขา้ ส่อู าชีพใหมเ่ พ่ือสร้างรายไดแ้ ละการลดความเหล่อื มลำ้ ดา้ นรายได้ภายหลงั สถานการณ์โควดิ -19 จำนวน 6 หลักสูตร 17 รุ่น กลุ่มเป้าหมาย 340 คน ดำเนินการระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม-16 ตุลาคม 2563 โดยได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม ทั้งนี้ ได้มีการจัดแผนพัฒนารายบุคคล เพ่ือติดตามความก้าวหนา้ ตอ่ ไป . รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลุ่มจงั หวัดภาคตะวันออก

66 ส่วนที่ 4 การคาดการณแ์ นวโนม้ สถานการณท์ างสงั คมกลุ่มจังหวัด 4.1 การคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ทางสงั คม 4.1.1 กลุม่ เด็ก จากข้อมูลรายงานสถานการณ์แนวโนม้ จำนวนเดก็ ในเขตพื้นท่ีความรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริม และสนบั สนุนวชิ าการ 2 ในระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 ท่ีตามตารางท่ี 13 พบว่ามลี ักษณะแนวโน้มท่ีเพิ่มขึ้น และลดลงในแต่ละปี ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาสมการทำนายจำนวนเด็กในเขตสำนักงานส่งเสริมและ สนับสนุนวิชาการ 2 ระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2565 จึงมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นและลดลงตามรูปแบบของสมการ ทำนายที่วิเคราะห์ได้ ดังตารางที่ 49 และ แผนภูมิที่ 49 โดยพบว่าจำนวนเด็กในจังหวัดชลบุรีจะมีอัตราการ เพ่ิมขน้ึ ในแตล่ ะปมี ากทสี่ ุดในกลุ่มจังหวดั (b = +4,186.08) รองลงมาคือ จังหวดั ฉะเชงิ เทรา (b = +1,402.18) และจังหวัดที่มีจำนวนเด็กเพิ่มขึ้นในอัตราต่อปีต่ำสุด คือ จังหวัดระยอง (b = +1,214.79) ส่วนจำนวนเด็กใน จงั หวดั สระแก้วมีอตั ราการลดลงในแต่ละปมี ากท่ีสดุ ในกลมุ่ จงั หวดั (b = -1,522.87) รองลงมาคือ จังหวดั จันทบรุ ี (b = -1,228.39) และจงั หวดั ปราจนี บรุ ี (b = -1,010.86) สว่ นจงั หวดั ท่ีมจี ำนวนเดก็ ลดลงในอตั ราต่อปตี ำ่ สุด คือ จังหวัดตราด (b = - 226.76) ทั้งนี้สมการทำนายที่ได้ดังตารางที่ 49 สามารถใช้ทำนายสถานการณ์จำนวนเด็กได้แม่นยำ 10.6% - 99.4 % โดยจังหวัดที่มีรูปแบบการทำนายที่แม่นยำมากที่สุด คือ จังหวัดจันทบุรี และ จังหวัดสระแก้ว (R2 = 0.994) และจังหวัดทีม่ ีรปู แบบการทำนายทีแ่ มน่ ยำน้อยทีส่ ุด คอื จงั หวัดฉะเชงิ เทรา (R2 = 0.106) ตารางที่ 49 การคาดการณ์แนวโนม้ สถานการณจ์ ำนวนเดก็ จำแนกตามจังหวัดรายปี (หนว่ ย:คน) จงั หวัด สมการทำนาย ณ เวลา t R2 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ชลบุรี จำนวนเด็กt = 327212.82 + 4186.08Xt 0.966 369,073.67 373,259.75 377,445.84 ระยอง จำนวนเด็กt = 163813.73 + 1214.79Xt 0.928 175,961.67 177,176.46 178,391.25 จนั ทบุรี จำนวนเด็กt = 120751.47 - 1228.39Xt 0.994 108,467.53 107,239.14 106,010.75 ตราด จำนวนเด็กt = 51512.84 - 226.76Xt 0.496 49,245.20 49,018.44 48,791.67 ฉะเชิงเทรา จำนวนเด็กt = 146600.18 + 1402.18Xt 0.106 160,622.00 162,024.18 163,426.36 ปราจนี บรุ ี จำนวนเด็กt = 112132.07 - 1010.86Xt 0.989 102,023.47 101,012.61 100,001.75 สระแก้ว จำนวนเด็กt = 139365.00 - 1522.87Xt 0.994 124,136.33 122,613.47 121,090.60 ปเี รม่ิ ต้น (t = 0) ณ ปี 2553 รายงานสถานการณท์ างสังคมกล่มุ จังหวดั ภาคตะวันออก

67 ประมาณการแนวโน้มสถานการณ์จานวนเด็ก (หน่วย:คน) จาแนกตามจังหวัด และ ปี พ.ศ. 2563 - 2565 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 จานวนคน 369,073.67 373,259.75 377,445.84 175,961.67 177,176.46 178,391.25 108,467.53 107,239.14 106,010.75 49,245.20 49,018.44 48,791.67 160,622.00 162,024.18 163,426.36 102,023.47 101,012.61 100,001.75 124,136.33 122,613.47 121,090.60 ช ล บุรี ระยอง จัน ท บุรี ต รา ด ฉะเชิง เท รา ป รา จีน บุรี สระแ ก้ว จังหวัด แผนภูมิที่ 49 ประมาณการและแนวโน้มสถานการณจ์ ำนวนเด็ก (หน่วย:คน) จำแนกตามจังหวดั และปี พ.ศ. 2563 – 2565 4.1.2 กลมุ่ เยาวชน จากขอ้ มลู รายงานสถานการณแ์ นวโนม้ จำนวนเยาวชนในเขตพ้ืนที่ความรับผดิ ชอบของสำนกั งานสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ าการ 2 ในระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 ตามตารางที่ 14 พบวา่ มีลักษณะแนวโน้มที่เพม่ิ ขนึ้ ใน แต่ละปี ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาสมการทำนายจำนวนเยาวชนในเขตสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุน วิชาการ 2 ระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2565 จึงมีแนวโน้มท่ีเพิม่ ขึ้นตามรูปแบบของสมการทำนายที่วิเคราะห์ได้ ดังตารางที่ 50 และ แผนภูมิท่ี 50 โดยพบว่าจำนวนเยาวชนในจังหวัดชลบุรีจะมีอัตราการเพิ่มขึ้นในแต่ละปี มากทีส่ ดุ ในกล่มุ จังหวดั (b = +2,726.16) รองลงมาคือ จงั หวัดระยอง (b = + 1,307.16) และจังหวัดท่มี ีจำนวน เยาวชนเพิ่มข้นึ ในอตั ราตอ่ ปีต่ำสุด คอื จงั หวัดจันทบรุ ี (b = +1.93) ทงั้ นีส้ มการทำนายท่ีไดด้ งั ตารางที่ 50 สามารถใช้ทำนายสถานการณ์จำนวนเยาวชนได้แมน่ ยำ 00.3% - 86.4% โดยจังหวัดที่มีรูปแบบการทำนายที่แม่นยำมากท่ีสุด คือ จังหวัดระยอง (R2 = 0.864) และจังหวัดทีม่ ี รูปแบบการทำนายทแ่ี มน่ ยำน้อยทีส่ ุด คอื จงั หวดั จันทบุรี (R2 = 0.003) ตารางท่ี 50 การคาดการณแ์ นวโน้มสถานการณจ์ ำนวนเยาวชน จำแนกตามจังหวัดรายปี (หน่วย:คน) จงั หวัด สมการทำนาย ณ เวลา t R2 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ชลบุรี จำนวนเยาวชนt = 155112.36 + 2726.16Xt 0.805 182,374.00 185,100.16 187,826.33 ระยอง จำนวนเยาวชนt = 68579.76 + 1307.16Xt 0.864 81,651.40 82,958.56 84,265.73 จนั ทบรุ ี จำนวนเยาวชนt = 60863.60 + 1.93Xt 0.003 60,882.93 60,884.87 60,886.80 0.054 24,735.93 24,650.07 24,564.20 ตราด จำนวนเยาวชนt = 25594.60 - 85.87Xt 0.007 78,888.93 78,920.78 78,952.62 ฉะเชิงเทรา จำนวนเยาวชนt = 78570.51 + 31.84Xt 0.279 58,209.13 58,364.23 58,519.33 ปราจนี บุรี จำนวนเยาวชนt = 56658.16 + 155.09Xt 0.277 65,779.27 65,608.22 65,437.18 สระแกว้ จำนวนเยาวชนt = 67489.69 - 171.04Xt ปีเรมิ่ ต้น (t = 0) ณ ปี 2553 รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุม่ จังหวัดภาคตะวันออก

68 ปี 2565 ประมาณการแนวโน้มสถานการณ์จานวนเยาวชน (หน่วย:คน) จาแนกตามจังหวัด และ ปี พ.ศ. 2563 - 2565 ปี 2563 ปี 2564 จานวนคน 182,374.00 185,100.16 187,826.33 81,651.40 82,958.56 84,265.73 60,882.93 60,884.87 60,886.80 24,735.93 24,650.07 24,564.20 78,888.93 78,920.78 78,952.62 58,209.13 58,364.23 58,519.33 65,779.27 65,608.22 65,437.18 ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา ปราจีน บุรี สระแ ก้ว จงั หวัด แผนภมู ิที่ 50 ประมาณการและแนวโนม้ สถานการณ์จำนวนเยาวชน (หน่วย:คน) จำแนกตามจงั หวัดและปี พ.ศ. 2563 – 2565 4.1.3 กล่มุ สตรี จากข้อมูลรายงานสถานการณ์แนวโน้มจำนวนสตรีในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ าการ 2 ในระหวา่ งปี พ.ศ. 2553 – 2562 ท่ีตามตารางท่ี 15 พบว่ามลี กั ษณะแนวโนม้ ท่ีเพิม่ ข้ึน ในแตล่ ะปี ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เพ่ือหาสมการทำนายจำนวนสตรีในเขตสำนกั งานส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ าการ 2 ระหวา่ งปี พ.ศ. 2563 – 2565 จงึ มแี นวโนม้ ที่เพ่ิมข้ึนตามรูปแบบของสมการทำนายท่ีวเิ คราะห์ได้ ดงั ตารางที่ 51 และแผนภูมิท่ี 51 โดยพบว่าจำนวนสตรีในจังหวัดชลบุรีจะมีอัตราการเพ่ิมขึ้นในแต่ละปีมากที่สุดในกลุ่ม จงั หวัด (b = +14,417.88) รองลงมาคอื จังหวดั ระยอง (b = + 6,340.12) และจงั หวดั ทีม่ ีจำนวนสตรีเพ่ิมข้ึน ในอัตรา ตอ่ ปีตำ่ สุด คอื จังหวดั ตราด (b = +684.76) ทั้งนี้สมการทำนายที่ได้ดังตารางที่ 51 สามารถใช้ทำนายสถานการณ์จำนวนสตรีได้แม่นยำ 92.1% - 99.9% โดยจงั หวดั ที่มีรปู แบบการทำนายที่แม่นยำมากท่สี ุด คือ จงั หวดั ชลบรุ ี และ จังหวดั ระยอง (R2 = 0.999) และจังหวดั ท่มี รี ูปแบบการทำนายท่แี ม่นยำน้อยทีส่ ดุ คอื จงั หวัดสมทุ รสาคร (R2 = 0.921) ตารางท่ี 51 การคาดการณแ์ นวโนม้ สถานการณจ์ ำนวนสตรี จำแนกตามจงั หวดั รายปี (หนว่ ย:คน) จงั หวัด สมการทำนาย ณ เวลา t R2 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ชลบุรี จำนวนสตรีt = 668124.42 + 14417.88Xt 0.999 812,303.27 826,721.15 841,139.04 ระยอง จำนวนสตรีt = 317101.85 + 6340.12Xt 0.999 380,503.07 386,843.19 393,183.31 จันทบุรี จำนวนสตรีt = 261657.22 + 1537.88Xt 0.976 277,036.07 278,573.95 280,111.84 ตราด จำนวนสตรีt = 110530.76 + 684.76Xt 0.921 117,378.40 118,063.16 118,747.93 ฉะเชิงเทรา จำนวนสตรีt = 343961.96 + 2564.76Xt 0.997 369,609.60 372,174.36 374,739.13 ปราจนี บุรี จำนวนสตรีt = 235432.11 + 1574.31Xt 0.998 251,175.20 252,749.51 254,323.82 สระแกว้ จำนวนสตรีt = 269925.71 + 1453.37Xt 0.991 284,459.47 285,912.84 287,366.22 ปเี รม่ิ ตน้ (t = 0) ณ ปี 2553 รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จังหวัดภาคตะวนั ออก

69 ปี 2565 ประมาณการแนวโน้มสถานการณ์จานวนสตรี (หน่วย:คน) จาแนกตามจังหวัด และ ปี พ.ศ. 2563 - 2565 ปี 2563 ปี 2564 จานวนคน 812,303.27 826,721.15 841,139.04 380,503.07 386,843.19 393,183.31 277,036.07 278,573.95 280,111.84 117,378.40 118,063.16 118,747.93 369,609.60 372,174.36 374,739.13 251,175.20 252,749.51 254,323.82 284,459.47 285,912.84 287,366.22 ชลบุรี ระยอง จัน ทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแ ก้ว จังหวดั แผนภมู ทิ ่ี 51 ประมาณการและแนวโน้มสถานการณจ์ ำนวนสตรี (หน่วย:คน) จำแนกตามจงั หวัดและปี พ.ศ. 2563 – 2565 4.1.4 กลุม่ ครอบครัว จากข้อมูลรายงานสถานการณ์แนวโน้มจำนวนการจดทะเบียนสมรสในเขตพืน้ ที่ความรับผิดชอบของ สำนักงานส่งเสริมและสนบั สนุนวชิ าการ 2 ในระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 ตามตารางที่ 16 พบว่ามีลักษณะ แนวโน้มท่ีเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาสมการทำนายจำนวนการจดทะเบียนสมรสในเขต สำนกั งานสง่ เสรมิ และสนบั สนุนวิชาการ 2 ระหวา่ งปี พ.ศ. 2563 – 2565 จงึ มแี นวโน้มที่เพมิ่ ขึ้นตามรูปแบบของ สมการทำนายที่วิเคราะห์ได้ ดงั ตารางที่ 52 และ แผนภูมิท่ี 52 โดยพบวา่ จำนวนการจดทะเบียนสมรสในจังหวัด ชลบุรจี ะมอี ตั ราการเพ่มิ ขึน้ ในแต่ละปมี ากที่สุดในกลมุ่ จังหวัด (b = +461.81) รองลงมาคอื จังหวดั ระยอง (b = +248.74) และจังหวัดทม่ี จี ำนวนการจดทะเบียนสมรสเพ่มิ ขน้ึ ในอตั ราต่อปีตำ่ สุด คอื จังหวดั ตราด (b = +1.45) ทั้งนี้สมการทำนายที่ได้ดังตารางที่ 52 สามารถใช้ทำนายสถานการณ์จำนวนการจดทะเบียนสมรส ได้แม่นยำ 00.7% - 96.1% โดยจังหวัดที่มรี ปู แบบการทำนายที่แมน่ ยำมากทสี่ ุด คือ จังหวัดชลบรุ ี (R2 = 0.961) และจังหวดั ทมี่ รี ูปแบบการทำนายทีแ่ ม่นยำน้อยท่ีสดุ คือ จังหวดั สมทุ รสาคร (R2 = 0.007) ตารางท่ี 52 การคาดการณแ์ นวโน้มสถานการณจ์ ำนวนการจดทะเบียนสมรส จำแนกตามจังหวัดรายปี (หนว่ ย:คู่) จงั หวดั สมการทำนาย ณ เวลา t R2 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ชลบุรี จำนวนการจดทะเบยี นสมรสt = 12632.55 + 461.81Xt 0.961 17,250.67 17,712.48 18,174.29 ระยอง จำนวนการจดทะเบียนสมรสt = 5913.07 + 248.74Xt 0.890 8,400.47 8,649.21 8,897.95 จนั ทบรุ ี จำนวนการจดทะเบียนสมรสt = 1824.02 + 21.42Xt 0.381 2,038.20 2,059.62 2,081.04 ตราด จำนวนการจดทะเบยี นสมรสt = 865.18 + 1.45Xt 0.007 879.67 881.12 882.56 ฉะเชิงเทรา จำนวนการจดทะเบยี นสมรสt = 3680.13 + 106.73Xt 0.847 4,747.40 4,854.13 4,960.85 ปราจีนบุรี จำนวนการจดทะเบยี นสมรสt = 2439.93 + 71.26Xt 0.618 3,152.53 3,223.79 3,295.05 สระแก้ว จำนวนการจดทะเบียนสมรสt = 2226.76 + 5.23Xt 0.020 2,279.07 2,284.30 2,289.53 ปีเรม่ิ ตน้ (t = 0) ณ ปี 2553 รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลุ่มจงั หวดั ภาคตะวนั ออก

70 ประมาณการแ นวโน้มสถาน การณ์จานวนการจดทะเบียนสมรส (หน่วย:คู่) จาแ น กตามจังหวัด แ ละ ปี พ.ศ. 2563 - 2565 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 จานวนคน 17,250.67 17,712.48 18,174.29 8,400.47 8,649.21 8,897.95 2,038.20 2,059.62 2,081.04 879.67 881.12 882.56 4,747.40 4,854.13 4,960.85 3,152.53 3,223.79 3,295.05 2,279.07 2,284.30 2,289.53 ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา ปราจีน บุรี สระแ ก้ว จงั หวดั แผนภมู ิที่ 52 ประมาณการและแนวโน้มสถานการณ์จำนวนการจดทะเบยี นสมรส (หนว่ ย:คู่) จำแนกตามจังหวัดและปี พ.ศ. 2563 – 2565 4.1.5 กลุ่มผสู้ ูงอายุ จากข้อมูลรายงานสถานการณ์แนวโน้มจำนวนผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงาน ส่งเสริมและสนบั สนุนวิชาการ 2 ในระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 ตามตารางที่ 17 พบว่ามีลกั ษณะแนวโนม้ ท่ีเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาสมการทำนายจำนวนผู้สูงอายุในเขตสำนักงานส่งเสริมและ สนับสนุนวิชาการ 2 ระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2565 จึงมีแนวโน้มท่ีเพิ่มขึ้นตามรูปแบบของสมการทำนาย ทีว่ ิเคราะหไ์ ด้ ดังตารางที่ 53 และ แผนภูมทิ ่ี 53 โดยพบวา่ จำนวนผสู้ ูงอายุในจงั หวัดชลบุรจี ะมอี ตั ราการเพ่ิมขึ้น ในแต่ละปีมากที่สุดในกลุ่มจังหวัด (b = +8,458.27) รองลงมาคือ จังหวัดฉะเชิงเทรา (b = + 3,859.84) และ จังหวัดทีม่ ีจำนวนผูส้ ูงอายุเพ่ิมขน้ึ ในอัตราตอ่ ปตี ่ำสุด คือ จงั หวดั ตราด (b = +1,379.32) ท้ังน้สี มการทำนายทีไ่ ด้ดงั ตารางที่ 53 สามารถใชท้ ำนายสถานการณ์จำนวนผ้สู งู อายุได้แมน่ ยำ 99.5% - 99.7% โดยจังหวัดที่มีรูปแบบการทำนายที่แม่นยำมากที่สุด คือ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง และตราด (R2 = 0.997) และจังหวดั ทม่ี ีรูปแบบการทำนายทีแ่ มน่ ยำน้อยทีส่ ดุ คือ จังหวดั ฉะเชงิ เทรา (R2 = 0.995) ตารางที่ 53 การคาดการณแ์ นวโน้มสถานการณจ์ ำนวนผสู้ งู อายุ จำแนกตามจงั หวดั รายปี (หนว่ ย:คน) จังหวดั สมการทำนาย ณ เวลา t R2 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ชลบรุ ี จำนวนผสู้ งู อายุt = 126854.47 + 8458.27Xt 0.997 211,437.20 219,895.47 228,353.75 ระยอง จำนวนผสู้ งู อายุt = 60238.67 + 3742.74Xt 0.997 97,666.07 101,408.81 105,151.55 0.996 98,384.00 101,773.16 105,162.33 จนั ทบุรี จำนวนผ้สู งู อายุt = 64492.36 + 3389.16Xt 0.997 40,532.53 41,911.85 43,291.16 0.995 124,532.13 128,391.98 132,251.82 ตราด จำนวนผสู้ ูงอายุt = 26739.38 + 1379.32Xt 0.996 83,151.47 85,811.57 88,471.67 0.996 84,934.13 88,081.47 91,228.80 ฉะเชิงเทรา จำนวนผสู้ ูงอายุt = 85933.71 + 3859.84Xt ปราจนี บรุ ี จำนวนผู้สูงอายุt = 56550.44 + 2660.10Xt สระแกว้ จำนวนผู้สงู อายุt = 53460.80 + 3147.33Xt ปเี รมิ่ ตน้ (t = 0) ณ ปี 2553 รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลุ่มจงั หวดั ภาคตะวนั ออก

71 ประมาณการแนวโน้มสถานการณ์จานวนผู้สูงอายุ (หน่วย:คน) จาแนกตามจังหวัด และ ปี พ.ศ. 2563 - 2565 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 จานวนคน 211,437.20 219,895.47 228,353.75 97,666.07 101,408.81 105,151.55 98,384.00 101,773.16 105,162.33 40,532.53 41,911.85 43,291.16 124,532.13 128,391.98 132,251.82 83,151.47 85,811.57 88,471.67 84,934.13 88,081.47 91,228.80 ช ล บุ รี ระยอง จั น ท บุ รี ตราด ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแ ก้ว ช่อื แกน แผนภูมิท่ี 53 ประมาณการและแนวโนม้ สถานการณจ์ ำนวนผสู้ ูงอายุ (หน่วย:คน) จำแนกตามจังหวดั และปี พ.ศ. 2563 – 2565 4.1.6 กลุ่มผ้พู ิการ จากข้อมูลรายงานสถานการณ์แนวโน้มจำนวนคนพิการในเขตพื้นท่ีความรับผิดชอบของสำนักงาน ส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 2 ในระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 ตามตารางที่ 18 พบว่ามีลักษณะแนวโน้ม ท่ีเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาสมการทำนายจำนวนคนพิการในเขตสำนักงานส่งเสริมและ สนับสนุนวิชาการ 2 ระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2565 จึงมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นตามรูปแบบของสมการทำนาย ที่วเิ คราะห์ได้ ดังตารางท่ี 54 และ แผนภมู ิท่ี 54 โดยพบวา่ จำนวนคนพิการในจังหวัดฉะเชงิ เทราจะมีอัตราการ เพิ่มขึ้นในแตล่ ะปีมากที่สุดในกลุ่มจังหวัด (b = +1,368.05) รองลงมาคอื จังหวัดชลบุรี (b = +1335.46) และ จงั หวดั ที่มจี ำนวนคนพกิ ารเพ่มิ ขน้ึ ในอตั ราตอ่ ปีต่ำสุด คอื จังหวดั ตราด (b = +156.42) ท้งั นสี้ มการทำนายที่ไดด้ งั ตารางท่ี 54 สามารถใช้ทำนายสถานการณจ์ ำนวนคนพกิ ารได้แมน่ ยำ 90.1% - 99.7% โดยจังหวัดท่ีมรี ูปแบบการทำนายท่ีแมน่ ยำมากท่สี ดุ คอื จังหวัดฉะเชงิ เทรา (R2 = 0.997) และจังหวัด ทีม่ รี ปู แบบการทำนายท่แี มน่ ยำนอ้ ยทีส่ ดุ คือ จังหวัดตราด (R2 = 0.901) ตารางที่ 54 การคาดการณแ์ นวโนม้ สถานการณจ์ ำนวนคนพกิ าร จำแนกตามจงั หวดั รายปี (หนว่ ย:คน) จงั หวัด สมการทำนาย ณ เวลา t R2 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ชลบุรี จำนวนคนพิการt = 13070.00 + 1335.46Xt 0.957 26,424.67 27,760.13 29,095.60 0.948 13,706.67 14,304.28 14,901.89 ระยอง จำนวนคนพิการt = 7730.55 + 597.61Xt 0.951 16,037.53 16,781.12 17,524.71 0.901 4,678.93 4,835.36 4,991.78 จันทบรุ ี จำนวนคนพกิ ารt = 8601.65 + 743.58Xt 0.997 23,432.87 24,800.92 26,168.96 0.955 16,568.00 17,370.00 18,172.00 ตราด จำนวนคนพกิ ารt = 3114.69 + 156.42Xt 0.961 20,363.13 21,320.23 22,277.33 ฉะเชงิ เทรา จำนวนคนพกิ ารt = 9752.38 + 1368.05Xt ปราจีนบรุ ี จำนวนคนพกิ ารt = 8548.00 + 802.00Xt สระแกว้ จำนวนคนพกิ ารt = 10792.16 + 957.09Xt ปีเรมิ่ ต้น (t = 0) ณ ปี 2553 รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลุ่มจงั หวัดภาคตะวันออก

72 ป ระม ำ ณ ก ำ รแ น ว โ น้ม ส ถ ำ น ก ำ รณ์จำ น ว น ค น พิก ำ รที่มีบัต รป ระจำ ตัว ค น พิก ำ ร ( ห น่ว ย : ค น ) จำ แ น ก ตำ ม จัง ห วัด แ ล ะ ปี พ . ศ. 2 5 6 3 - 2 5 6 5 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 จานวนคน 26,424.67 27,760.13 29,095.60 13,706.67 14,304.28 14,901.89 16,037.53 16,781.12 17,524.71 4,678.93 4,835.36 4,991.78 23,432.87 24,800.92 26,168.96 16,568.00 17,370.00 18,172.00 20,363.13 21,320.23 22,277.33 ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตรำ ด ฉะเชิงเทรำ ปรำ จีนบุรี สระแก้ว จังหวดั แผนภมู ิที่ 54 ประมาณการและแนวโนม้ สถานการณจ์ ำนวนคนพกิ าร (หนว่ ย:คน) จำแนกตามจงั หวัดและปี พ.ศ. 2563 – 2565 4.1.7 กลุ่มผดู้ ้อยโอกาส จากข้อมูลท่ีรายงานสถานการณ์แนวโน้มคนยากจนในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนับสนุนวิชาการ 2 ในระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2561 ตามตารางที่ 19 พบว่ามีลักษณะแนวโนม้ ที่ลดลง ในแตล่ ะปี ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู เพอ่ื หาสมการทำนายจำนวนคนยากจนในเขตสำนกั งานสง่ เสริมและสนับสนุน วิชาการ 2 ระหว่างปี พ.ศ. 2562 – 2564 จึงมีแนวโน้มที่ลดลงตามรูปแบบของสมการทำนายที่วิเคราะห์ได้ ดงั ตารางท่ี 55 และแผนภูมทิ ี่ 55 โดยพบว่าจำนวนคนยากจนในจังหวัดฉะเชงิ เทราจะมีอัตราการลดลงในแต่ละ ปีมากที่สุดในกลุ่มจังหวัด (b = -6.57) รองลงมาคือ จังหวัดจันทบุรี (b = -4.03) และจังหวัดที่มีจำนวน คนยากจนลดลงในอตั ราตอ่ ปีต่ำสุด คอื จังหวัดสระแก้ว (b = - 0.48) ทั้งนี้สมการทำนายที่ได้ดังตารางที่ 55 สามารถใช้ทำนายสถานการณ์จำนวนคนยากจนได้แม่นยำ 00.2% - 66.0% โดยจังหวัดที่มีรูปแบบการทำนายที่แม่นยำมากที่สุด คือ จังหวัดตราด (R2 = 0.660) และจงั หวดั ท่ีมรี ูปแบบการทำนายทแ่ี มน่ ยำน้อยทีส่ ุด คือ จังหวัดสระแก้ว (R2 = 0.002) ตารางที่ 55 การคาดการณ์แนวโนม้ สถานการณจ์ ำนวนคนยากจนจำแนกตามจงั หวัดรายปี (หนว่ ย:พนั คน) จังหวัด สมการทำนาย ณ เวลา t R2 ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 ชลบรุ ี จำนวนคนยากจนt = 23.24 - 1.75Xt 0.120 5.78 4.04 2.29 0.128 14.06 12.38 10.70 ระยอง จำนวนคนยากจนt = 30.84 - 1.68Xt 0.454 22.06 18.02 13.99 จันทบรุ ี จำนวนคนยากจนt = 62.37 - 4.03Xt 0.660 22.64 18.84 15.04 0.561 0.45 0.00 0.00 ตราด จำนวนคนยากจนt = 60.65 - 3.80Xt 0.203 28.17 25.17 22.16 0.002 109.79 109.31 108.82 ฉะเชงิ เทรา จำนวนคนยากจนt = 66.18 - 6.57Xt ปราจีนบุรี จำนวนคนยากจนt = 58.25 - 3.01Xt สระแกว้ จำนวนคนยากจนt = 114.64 - 0.48Xt ปเี รม่ิ ตน้ (t = 0) ณ ปี 2552 รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก

จานวนคน 73 5.78 ประมำ ณ กำ รแนว โน้มสถำ นกำ รณ์จำ นว นคนยำ กจ น ( หน่ว ย: พันคน) 4.04 จำแนกตำมจังหวัด และ ปี พ .ศ. 2562 - 2564 2.29 ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 14.06ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตรำ ด ฉะเชิงเทรำ ปรำ จีนบุรี สระแก้ว 12.38 10.70 จงั หวัด 22.06แผนภมู ทิ ี่ 55 ประมาณการและแนวโนม้ สถานการณจ์ ำนวนคนยากจน (หนว่ ย:คน) 18.02จำแนกตามจังหวัดและปี พ.ศ. 2562 – 2564 13.99 22.644.2 แนวทางการดำเนินงานและขอ้ เสนอแนะการดำเนินงานแต่ละกลมุ่ 18.84เด็ก ควรมีนโยบายส่งเสริมการมีบุตรและการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก เช่น ขยายระยะเวลา 15.04 0.45ในการลาคลอดมากกวา่ 90 วนั การเพิม่ งบประมาณสนับสนุนสถานรบั เลี้ยงเด็กเอกชน เพ่ือใหส้ ถานรบั เลยี้ งเด็ก 0.00เอกชนพัฒนาคุณภาพให้ได้ตามมาตรฐาน ซึ่งจะทำให้ผู้ปกครองมีความมั่นใจที่จะส่งบุตรหลานไปฝากเลี้ยง 0.00โดยไมต่ ้องเสยี คา่ ใชจ้ า่ ยในราคาสงู 28.17เยาวชน ส่งเสริมสภาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ให้มีความเข้มแข็ง เพื่อเป็นแกนนำในการทำ 25.17กิจกรรมเพ่อื เดก็ และเยาวชนในชุมชน 22.16 สตรี ส่งเสริมให้คนในชุมชน ทุกเพศทุกวัย ให้มีเจตคติที่เคารพเท่าเทียมระหว่างหญิงชาย 109.79เพื่อพฒั นาสังคมไทยใหเ้ ป็นสังคมที่มีความเป็นธรรม มีความยุติธรรมและปราศจากการเลือกปฏิบัติ เร่งพฒั นา 109.31ศักยภาพและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของสตรีทุกกลุ่มทุกวัย โดยเฉพาะกลุม่ ที่อยู่ในภาวะลำบากหรือกลุ่มดอ้ ย 108.82โอกาส โดยเน้นให้สตรีมีสุขภาพกาย ใจ และสุขภาวะที่ดี สามารถเข้าถึงบรกิ ารสาธารณะขัน้ พน้ื ฐานต่าง ๆ ท่ีได้ มาตรฐาน มีระดับการศึกษาและความรู้ที่เพียงพอต่อการประกอบอาชีพที่มั่นคง มีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถเขา้ ใจและใชป้ ระโยชนจ์ ากเทคโนโลยที ท่ี ันสมยั เพอ่ื เขา้ ถึงขอ้ มูลความรแู้ ละสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ ในชวี ติ อยา่ งมีศกั ยภาพ ร้เู ทา่ ทนั การเปล่ยี นแปลง และทนั โลกทันสมยั ครอบครัว ส่งเสริมศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) ให้มีความเข้มแข็ง และสามารถ ดำเนินงานได้อยา่ งเป็นรูปธรรม ในการพัฒนาสถาบันครอบครัวในลักษณะบูรณาการจากทุกภาคส่วนในสังคม และเปน็ การส่งเสริมใหช้ ุมชนมีศนู ย์รวมในการพัฒนาสถาบนั ครอบครัวท่มี กี ารบริหารจดั การโดยชุมชนในรปู ของ คณะทำงาน รายงานสถานการณท์ างสังคมกลมุ่ จังหวัดภาคตะวันออก

74 ผู้สงู อายุ การรองรบั สงั คมผสู้ งู อายุ โดยการสง่ เสรมิ คณุ ภาพชีวิตผู้สงู อายุ ส่งเสริมการจ้างงาน ผู้สูงอายุท้ังผู้มีรายได้น้อยและผู้สูงอายุที่มีทักษะความชำนาญ ส่งเสริมให้มีการถา่ ยทอดภูมปิ ญั ญาผู้สูงอายุแก่ คนในชุมชน เพอ่ื ใหค้ นทุกวัยเหน็ ความสำคญั ของผสู้ งู อายุ จดั เตรยี มระบบ การดูแลผู้สูงอายุในบ้าน สถานพักฟ้นื และโรงพยาบาล ท่เี ปน็ ความรว่ มมือของภาครัฐ ภาคเอกชน ชมุ ชน และครอบครวั พัฒนาระบบการเงินการคลัง สำหรับการดูแลผู้สูงอายุ และสนับสนุนงบประมาณให้สถานดูแลผู้สูงอายุเอกชน เพื่อจะได้ลดค่าบริการ และ ลดภาระค่าใชจ้ ่ายใหก้ ับผ้ดู ูแล ผูพ้ กิ าร การเชอื่ มประสานการทำงานระหวา่ งเครือขา่ ยคนพิการ คนพกิ าร ภาครฐั และ สถาน ประกอบการ ภายใต้การจ้างงานเชิงสังคมตามมาตรา 33 และมาตรา 35 โดยพัฒนาระบบฐานข้อมูลคนพกิ าร และสถานประกอบการ ใหเ้ กิดการจบั คกู่ ันแบบ Matching ควรมอี งค์กรกลางทำหนา้ ที่ในการเชื่อมโยงระหว่าง สถานประกอบการและคนพิการ เพื่อได้ทำงานในสถานประกอบการ หรือสร้างโอกาสให้คนพิการมงี านทำใกล้ บ้านและมีอาชพี อสิ ระ สามารถพึง่ พาตนเองไดอ้ ย่างมีเกยี รติ มีศักดศ์ิ รี และถอื เปน็ การสง่ เสรมิ ภารกจิ ด้านความ รบั ผดิ ชอบต่อสงั คมของบริษทั โดยตรง ผดู้ ้อยโอกาส สร้างโอกาส อาชีพ และการมีรายไดท้ ม่ี นั่ คงแก่คนยากจน เพอื่ ลดความเหลอื่ มลำ้ ทางสังคม ยกระดับคุณภาพแรงงาน โดยให้แรงงานทั้งระบบมีโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้และพัฒนาทักษะฝีมือ แรงงานในทุกระดับ อยา่ งมมี าตรฐาน โดยเช่ือมโยงขอ้ มลู และการดำเนินการระหว่างหนว่ ยงานของรัฐกับเอกชน เพื่อให้ตรงกับความต้องการของพื้นที่และของประเทศ และส่งเสริมให้แรงงานนอกระบบ เข้าสู่ระบบที่ ถูกกฎหมายมากขึ้น การพัฒนาระบบการคุ้มครองทางสังคม ระบบการออม และระบบสวัสดิการชุมชนให้มี ประสทิ ธภิ าพและมีความยั่งยนื รวมท้งั การดูแลใหม้ ีระบบการก้ยู มื ที่เป็นธรรมและการสงเคราะห์ผูย้ ากไร้ รายงานสถานการณท์ างสังคมกลมุ่ จังหวดั ภาคตะวนั ออก

75 ส่วนที่ 5 บทสรปุ และขอ้ เสนอแนะ 5.1 บทสรปุ การจัดทำรายงานสถานการณ์ทางสังคมในระดับกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก มีเขตพื้นท่ี รับผิดชอบ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์และสภาพแวดลอ้ ม เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของสถานการณ์ ทางสังคมและผลกระทบทีจ่ ะเกดิ ขึน้ ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดที่มีความเช่ือมโยงกบั พืน้ ที่จังหวัด และเพื่อสนับสนนุ ข้อมูลในการจัดทำแผนงาน โครงการ กิจกรรม และการบูรณาการแผนงานโครงการ กิจกรรมในระดับจังหวัด และกล่มุ จงั หวัด ให้กบั หนว่ ยงานระดบั ท้องถ่นิ เจา้ หน้าที่ นักวิชาการขององค์กรและหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง นำไปใช้ประโยชน์ และแก้ไขปัญหาสังคมท่ีเกิดข้ึน รายงานนี้ประกอบด้วย 5 ส่วน ได้แก่ บทนำ ข้อมูลพื้นฐาน ทางสงั คมในพื้นทีก่ ลุ่มจงั หวดั สถานการณเ์ ชงิ กลุม่ เป้าหมายหรือเชิงประเด็นสำคัญในพ้ืนทก่ี ลมุ่ จงั หวัด บทสรุป และขอ้ เสนอแนะ โดยสรปุ ได้ดังน้ี ข้อมูลพื้นฐานทางสังคมในพื้นที่ภาคตะวันออก มีประชากรรวม จำนวน 4.79 ล้านคน ชาย จำนวน 2,35 ล้านคน หญิงจำนวน 2.43 ล้านคน มีประชากรเด็ก (0-17 ปี) 1 ล้านคน (ร้อยละ 20.86) ประชากรวัยแรงงาน (18-59 ปี) 3.16 ล้านคน (ร้อยละ 65.94) และวยั ผสู้ ูงอายุ (60 ปีข้ึนไป) 6.94 แสนคน (ร้อยละ 14.46) จากสถติ ดิ ังกลา่ วภาคตะวันออกเข้าสูส่ ังคมผู้สูงอายุ (มีผู้สงู อายุมากกว่าร้อยละ 10) แต่ยังไมเ่ ข้าสู่สังคม ผสู้ งู อายุโดยสมบูรณ์ (มีผู้สงู อายุมากกวา่ ร้อยละ 20) คนพิการที่มบี ตั รประจำตัวคนพกิ าร จำนวน 1.12 แสนคน จงั หวดั ท่ีคนพิการมบี ัตรประจำตัวคนพกิ ารมากทสี่ ดุ คือ ชลบรุ ี 24,662 คน รองลงมาคือ ฉะเชงิ เทรา 21,693 คน และสระแกว้ 18,972 คน ด้านการศึกษา มีสถานศึกษาในระบบ จำนวน 2,687แห่ง แบ่งเป็น สังกัด สพฐ. จำนวน 1,708 แหง่ เอกชน จำนวน 846 แหง่ อาชวี ศึกษา จำนวน 53 แห่ง อุดมศึกษา 49 แหง่ เมอื งพทั ยา 13 แห่ง สำนกั พุทธ ศาสนาแหง่ ชาติ จำนวน 18 แหง่ และสถานศึกษานอกระบบ จำนวน 142 แห่ง สังกดั กศน. ด้านสุขภาพ หน่วยบริการสาธารณสุข ภาครัฐและภาคเอกชนของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก มีจำนวน 783 แห่ง โดยจังหวัดที่มหี น่วยบริการมากท่ีสุด คือ ฉะเชิงเทรา 136 แห่ง รองลงมาชลบุรี 133 แหง่ และระยอง 117 แหง่ ภาคตะวนั ออกมีประชากร 4,797,082 คน มีแพทย์ทงั้ หมด 4,845 คน สดั สว่ น ประชากร ต่อแพทย์ 990 : 1 คน จังหวัดที่มีแพทย์มากที่สุด คือ ชลบุรี จำนวน 2,671 คน ประชากรต่อแพทย์ 583:1 คน รองลงมา ระยอง จำนวน 788 คน ประชากรต่อแพทย์ 932:1 คน และฉะเชิงเทรา จำนวน 667 คน ประชากร ต่อแพทย์ 1,154:1 คน ส่วนจังหวัดที่มีแพทย์น้อย ที่สุด คือ จังหวัดตราด จำนวน 87 คน ประชากรต่อแพทย์ 2,497:1 คน แต่ในขณะทสี่ ระแกว้ มีแพทย์ 132 คน แต่ประชากรตอ่ แพทย์ 4,185:1 คน รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุม่ จงั หวัดภาคตะวันออก

76 ด้านเศรษฐกิจ ผลิตภัณฑ์จังหวัด แบบปริมาณลูกโซ่ การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวม 7 จงั หวัดรายจังหวัดพน้ื ทีภ่ าคตะวนั ออก (GPP) พบวา่ ในปี 2561 สระแกว้ มกี ารขยายตัวมากทสี่ ดุ คือ ร้อยละ 13.1 รองลงมา คอื ฉะเชิงเทรา ร้อยละ 11.2 และชลบรุ ี ร้อยละ 4.3 ผลิตภัณฑ์จังหวดั ตอ่ หัว (GPP per capita) ปี 2561 พบว่า ระยอง มจี ำนวนผลติ ภณั ฑม์ วลรวมจังหวดั ตอ่ หัว มากท่สี ดุ จำนวน 1,067,449 บาท/ปี รองลงมา คอื ชลบุรี จำนวน 566,801 บาท/ปี ถดั มาคือ ปราจีนบรุ ี จำนวน 513,789 บาท/ปี รายไดโ้ ดยเฉลีย่ ตอ่ เดือนตอ่ ครวั เรือน พ.ศ.2552 – 2560 พบว่าในปี 2560 จงั หวดั ชลบรุ ี มรี ายได้ โดยเฉลี่ยต่อเดือนต่อครัวเรือน จำนวน 27,665.39 บาท ซึ่งสูงขึ้นจากปี 2558 จำนวน 408.69 บาท จังหวัด ระยอง มีจำนวน 27,797.79 บาท ซึ่งลดลงจากปี 2558 จำนวน 2,517.01 และจังหวัดฉะเชิงเทรา มีจำนวน 26,061.85 บาท ซ่ึงลดลงจากปี 2558 จำนวน 1,493.05 บาท หนส้ี น้ิ เฉลี่ยตอ่ ครวั เรือน จำแนกวตั ถุประสงคข์ องการก้ยู ืม พ.ศ.2552-2560 ในปี 2560 มีหนี้สิน เฉลี่ยต่อครวั เรือน รวมทั้งส้ิน 1,059,684.97 บาท โดยมีวัตถุประสงค์ของการกูย้ ืม คือ เพื่อใช้จ่ายในครัวเรือน มากท่สี ุด จำนวน 449,971.30 บาท รองลงมาเพื่อใช้ชือ้ /เช่าซ้อื บา้ นและที่ดิน จำนวน 316,784.16 บาท ถัดมา เพื่อใช้ทำการเกษตร จำนวน 198,196.78 บาท เพื่อใช้ทำธุรกิจที่ไม่ใช่การเกษตร จำนวน 82,398.91 บาท และสดุ ท้ายเพ่อื ใช้ในการศกึ ษา 9,518.12 บาท องคก์ รภาคีเครือขา่ ย ปี 2563 ของกลุ่มจังหวดั ภาคตะวนั ออก องคก์ รภาคีเครือข่ายทีม่ มี ากที่สุด คือ ศูนย์พฒั นาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) จำนวน 503 แหง่ มีมากในจงั หวัดฉะเชงิ เทรา รองลงมาคอื สภาองคก์ ร ชมุ ชน จำนวน 483 แห่ง มี มีมากในจงั หวดั ฉะเชงิ เทรา ถดั มากองทนุ สวัสดกิ ารชุมชน จำนวน 476 แหง่ มีมากใน จังหวัดตราด องค์กรสวัสดิการชุมชน จำนวน 447 แห่ง มีมากในจังหวัดจันทบุรี องค์กรสาธารณะประโยชน์ จำนวน 394 แห่ง มีมากในจังหวัดฉะเชิงเทรา ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ (ศพอส.) จำนวน 243 แห่ง มีมากในจังหวัดตราด และสุดท้าย องค์กรคนพิการ จำนวน 116 แห่ง มีมากในจังหวดั ชลบุรี ส่วนจำนวนภาคีเครือข่ายอาสาสมัคร ปี 2563 พบว่าเครือข่ายอาสาสมัครที่มีมากที่สุดคือ อาสาสมัครพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) จำนวน 11,333 คน ซึ่งมีมากในจังหวัดชลบุรี 3,383 คน (ร้อยละ 29.85) รองลงมาคือ สภาเดก็ และเยาวชน จำนวน 9,726 คน มีมากในจงั หวัดชลบุรีเชน่ กัน จำนวน 2,662 คน (ร้อยละ 27.37) สถานการณ์การจ้างงานคนพิการ ตามมาตรา 33 และมาตรา 35 ในพื้นที่ภาคตะวันออก ชว่ งระยะเวลา ปี 2558 – 2562 พบวา่ มกี ารจา้ งงานคนพิการทุกประเภทความพิการ โดยประเภทความพิการ ที่มีการจา้ งงานมากท่ีสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ประเภทความพกิ ารทางการเคล่ือนไหวหรือร่างกาย รองลงมาคือ ทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย และความพิการทางการเห็น ซึ่งการจ้างงานคนพิการมีแนวโน้มเพิ่มข้ึน โดยจังหวัดชลบุรีมีการจ้างงานคนพิการตามมาตรา 33 และ มาตรา 35 มากที่สุด รองลงมา คือ ระยอง และ ฉะเชิงเทรา เนื่องจาก 3 จังหวัดเป็นพื้นท่ีโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development หรือ EEC) ทำให้มีสถานประกอบการลงทุนในเขตนิคมอุตสาหกรรม ซง่ึ สถานประกอบการเข้าข่ายต้องปฏิบตั ติ ามพระราชบญั ญตั ิสง่ เสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพชีวติ คนพิการ พ.ศ. 2550 และท่แี ก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2556 รายงานสถานการณท์ างสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวนั ออก

77 สถานการณโ์ ควิด-19 ในเขตพน้ื ที่ 7 จงั หวดั ภาคตะวันออก ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2563 มียอด ผู้ติดเช้อื รวม 136คน โดยจังหวัดทีม่ ผี ู้ตดิ เชอ้ื มากที่สดุ คอื ชลบรุ ี ฉะเชิงเทรา สระแกว้ ปราจีนบุรี ระยอง จันทบรุ ี ส่วนจังหวัดตราดไมพ่ บผู้ติดเชือ้ ผู้ติดเช้ือส่วนใหญ่อยู่ในเขตอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบรุ ี ซึ่งเปน็ เขตปกครอง พิเศษและเขตส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยผู้ติดเชื้อในชลบุรีเป็นกลุ่มที่กลับจากสนามมวย กทม. กลุ่มต่างชาติ กลมุ่ ท่ีไปเท่ียวร้านเหลา้ ผูท้ ำงานผบั /บาร์/รา้ นนวด ซ่ึงสมั ผัสกบั ชาวตา่ งชาติ จากการสำรวจผู้ประสบปญั หาราย ครวั เรอื นพบว่า กลมุ่ เป้าหมายท่ไี ดร้ ับผลกระทบจากสถานการณ์โควดิ -19 ต้องการความช่วยเหลอื ลำดบั แรกเป็น เงินอุดหนุน/เงินสงเคราะห์ รองลงมาเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ และการซ่อมแซมปรับปรุงที่อยู่อาศัย ตามลำดบั โดยหนว่ ยงาน One Home ในพื้นทท่ี ุกจังหวัดได้ใหก้ ารช่วยเหลือผปู้ ระสบปัญหาเปน็ เงินอดุ หนุน/เงนิ สงเคราะห์ ถุงยังชีพ และจังหวัดระยองเป็นพ้ืนที่นำร่องจงั หวัดแรกของประเทศที่ดำเนินโครงการพัฒนาอาชีพ ของผู้มีรายได้น้อยและผู้ด้อยโอกาส เข้าสู่อาชีพใหม่เพื่อสร้างรายได้และการลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ ภายหลงั สถานการณ์โควิด-19 จำนวน 6 หลักสูตร 17 รุ่น กลุ่มเป้าหมาย 340 คน ดำเนินการระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม-16 ตุลาคม 2563 โดยไดร้ ับเงินสนับสนุนจากกองทุนสง่ เสริมการจัดสวสั ดิการสงั คม ท้ังน้ี ได้มีการจัด แผนพฒั นารายบุคคลเพ่อื ตดิ ตามความกา้ วหนา้ ตอ่ ไป การคาดการณ์แนวโนม้ สถานการณท์ างสงั คม จากข้อมูลรายงานสถานการณ์แนวโน้มจำนวนกลุ่มเป้าหมายในเขตพื้นที่ 7 จังหวัดภาค ตะวันออก ในระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เพอื่ หาสมการทำนายจำนวนกลุ่มเป้าหมาย ระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2565 มีดังนี้ เด็ก พบว่า จำนวนเด็กในชลบุรีจะมีอัตราการเพิ่มขึ้นในแต่ละปีมากที่สุดในกลุ่มจังหวัด รองลงมาคอื ฉะเชิงเทรา และจังหวดั ท่ีมจี ำนวนเด็กเพิ่มข้ึนในอัตราต่อปตี ่ำสดุ คือ ระยอง เยาวชน พบวา่ จำนวนเยาวชนในชลบรุ ีจะมีอัตราการเพ่มิ ขน้ึ ในแต่ละปีมากทส่ี ุดในกลุ่มจังหวัด รองลงมาคือ ระยอง และจงั หวดั ทีม่ ีจำนวนเยาวชนเพมิ่ ขนึ้ ในอัตราต่อปีต่ำสุด คือ จันทบุรี สตรี พบว่าจำนวนสตรีในชลบุรีจะมีอัตราการเพิ่มขึ้นในแต่ละปีมากที่สุดในกลุ่มจังหวัด รองลงมาคือ ระยอง และจงั หวัดที่มจี ำนวนสตรีเพิ่มขนึ้ ในอตั ราต่อปีตำ่ สดุ คือ ตราด ครอบครวั พบว่าจำนวนการจดทะเบียนสมรสในชลบุรจี ะมีอตั ราการเพิ่มขนึ้ ในแต่ละปมี ากทส่ี ดุ ในกลุ่มจังหวัด รองลงมาคือ ระยอง และจังหวัดที่มีจำนวนการจดทะเบียนสมรสเพิ่มขึ้นในอัตราต่อปีต่ำสุด คือ ตราด ผูส้ งู อายุ พบว่าจำนวนผู้สงู อายุในชลบรุ จี ะมอี ตั ราการเพิ่มขน้ึ ในแต่ละปมี ากที่สดุ ในกลมุ่ จงั หวดั รองลงมาคอื ฉะเชิงเทรา และจังหวดั ท่มี ีจำนวนผสู้ งู อายุเพ่มิ ขนึ้ ในอตั ราต่อปีต่ำสุด คอื ตราด ผู้พิการ พบว่าจำนวนคนพิการในฉะเชิงเทราจะมีอตั ราการเพิม่ ขึ้นในแต่ละปมี ากที่สุดในกลุ่ม จังหวดั รองลงมาคอื ชลบุรี และจังหวัดทีม่ ีจำนวนคนพิการเพิม่ ข้นึ ในอัตราตอ่ ปตี ่ำสดุ คือ จงั หวดั ตราด ผู้ดอ้ ยโอกาส พบวา่ จำนวนคนยากจนในฉะเชงิ เทราจะมอี ตั ราการลดลงในแตล่ ะปีมากท่ีสุดใน กล่มุ จังหวัด รองลงมาคือ จงั หวดั จนั ทบรุ ี และจงั หวดั ทมี่ ีจำนวนคนยากจนลดลงในอัตราต่อปีต่ำสดุ คอื สระแก้ว รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลุม่ จงั หวัดภาคตะวนั ออก

78 5.2 ขอ้ เสนอแนะ การพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเป้าหมายใหส้ ามารถเข้าถึงบรกิ ารของรัฐ เพื่อลดความเหล่ือมลำ้ ทางสังคม โดยมคี วามสอดคล้องกบั บรบิ ทพน้ื ท่ี มขี อ้ เสนอแนะ ดงั นี้ 5.3 ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 1. ควรมีการขยายโอกาสการเพิ่มทักษะอาชีพ การสนับสนุนเงินทุนประกอบอาชีพ ให้กับ ผูไ้ ดร้ ับผลกระทบจากกรณกี ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ในทุกจังหวัด 2. การทำบันทึกข้อตกลงเพื่อส่งเสรมิ คุณภาพชีวิตคนพิการร่วมกนั ระหว่างสถานประกอบการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมน่ั คงของมนุษย์ องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กร คนพิการ เพอื่ สนบั สนุนใหค้ นพิการหรือผู้ดแู ลคนพกิ ารเข้าถึงสทิ ธติ ามกฎหมายไดร้ วดเรว็ 3. การเชื่อมประสานการทำงานระหว่างเครือข่ายคนพิการ คนพิการ ภาครัฐ และสถาน ประกอบการ ภายใต้การจ้างงานเชิงสังคมตามมาตรา 33 และมาตรา 35 โดยพัฒนาระบบฐานข้อมูลคนพกิ าร และสถานประกอบการ ให้เกดิ การจบั คู่กันแบบ Matching ควรมอี งค์กรกลางทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงระหว่าง สถานประกอบการและคนพิการ เพื่อได้ทำงานในสถานประกอบการ หรือสร้างโอกาสให้คนพิการมีงานทำ ใกล้บา้ นและมอี าชีพอิสระ สามารถพึ่งพาตนเองได้อยา่ งมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และถือเป็นการส่งเสริมภารกจิ ดา้ น ความรบั ผิดชอบต่อสังคมของบริษทั โดยตรง 4. การรองรบั สงั คมผู้สงู อายุ โดยการส่งเสรมิ คุณภาพชวี ิตผสู้ งู อายุ ส่งเสริมการจา้ งงานผสู้ ูงอายุ ทง้ั ผมู้ รี ายไดน้ อ้ ยและผสู้ งู อายทุ ีม่ ีทักษะความชำนาญ จัดเตรยี มระบบการดแู ลผู้สูงอายุในบ้าน สถานพักฟืน้ และ โรงพยาบาล ที่เป็นความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน และครอบครัว พัฒนาระบบการเงินการคลัง สำหรับการดูแลผู้สูงอายุ และสนับสนุนงบประมาณให้สถานดูแลผู้สูงอายุเอกชน เพื่อจะได้ลดค่าบริการ และ ลดภาระคา่ ใชจ้ า่ ยให้กับผู้ดแู ล 5.4 ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบตั ิระดับกลมุ่ จงั หวดั 1. จังหวดั นำฐานขอ้ มลู แบบจดั เกบ็ ผปู้ ระสบปญั หาทางสงั คม (รายครัวเรอื น) ในกรณีการแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไปใช้ประโยชน์ ในการวิเคราะห์เพือ่ ชว่ ยเหลอื ผู้ประสบ ปัญหาทางสังคมทั้งรายกรณี รวมถึงกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกสามารถนำข้อมูลไปจัดทำโครงการ ภายใต้ แผนพฒั นาภาค 2. การพัฒนาศักยภาพคนพิการในการต่อยอดอาชีพที่ไดร้ บั การส่งเสริมการจ้างงานคนพกิ าร ตาม มาตรา 35 เพ่อื สร้างความยัง่ ยนื ในอาชพี และสำหรบั คนพกิ ารทท่ี ำงานในสถานประกอบการตามมาตรา 33 ควรได้รับการพัฒนาทักษะการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น ทักษะการปรับตัว เพื่อให้สถานประกอบการรับ คนพิการ เขา้ ทำงานทีม่ ีศกั ยภาพเช่นคนปกติ 3. การส่งเสริมองค์กรภาคีเครือข่าย อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และสภาเด็กและเยาวชน ให้มคี วามเขม้ แข็งและเข้ามามีส่วนรว่ มในการพฒั นาชุมชน 4. การส่งเสรมิ ใหม้ กี ารถ่ายทอดภูมิปญั ญาผู้สงู อายุแกค่ นในชมุ ชน รายงานสถานการณท์ างสังคมกล่มุ จงั หวัดภาคตะวันออก

79 บรรณานุกรม 1. กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวง พม. ข้อมูล ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2563 (http://dep.go.th/) 2. ข้อมลู จากการสำรวจภาวะเศรษฐกจิ และสงั คมของครัวเรือน สำนกั งานสถิตแิ ห่งชาติ (www.nso.go.th) ประมวลผลโดย : สำนักพฒั นาฐานข้อมูลและตวั ชว้ี ัดภาวะสังคม สำนักงานสภาพฒั นาการเศรษฐกจิ และ สังคมแหง่ ชาติ ข้อมูล ณ วันท่ี 26 มถิ ุนายน 2563 3. ผลิตภัณฑ์ภาคและจังหวัด แบบปริมาณลูกโซ่ ฉบับ พ.ศ. 2562 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ 4. ผลสำรวจผลกระทบด้านสังคม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 19 (Covid-19) กองตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขอ้ มูล ณวันท่ี 31 พ.ค.63 5. ยุทธศาสตร์การพัฒนาสตรี พ.ศ. 2560 – 2564 กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการ พฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนุษย์ 6. ระบบสถิติทางทะเบียน ข้อมูลทางการปกครอง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (www.dopa.go.th) ณ ธันวาคม 2562 7. รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ครบรอบ 1 ปี (12 กันยายน 2557-12 กนั ยายน 2558) นโยบาย ข้อ 3 การลดความเหลื่อมลำ้ ของสังคม และการสรา้ ง โอกาสการเขา้ ถงึ บริการของรัฐ 8. รายงาน: มาตรการทางการคลังเพื่อส่งเสริมการมีบุตร : บทเรียนจากสวีเดน สิงคโปร์ และญี่ปุ่น (http://www.knowledgefarm.in.th/policy-support-birth-oecd/) 9. รายงานสถานการณ์ CORONAVIRUS DISEASE 2019 (COVID-19) : ผลกระทบทางสังคม ปี 2563 สำนกั งานสง่ เสรมิ และสนับสนุนวิชาการ 2 ชลบรุ ี (http://ebooks.m-society.go.th/ebooks/detail/471) 10. ศูนยเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ณ กรกฎาคม 2562 (www.mis.moe.go.th) 11. ศนู ย์บริหารโควิด-19 (ศบค.) ข้อมูล ณ วันท่ี 31 สิงหาคม 2563 12. สบื ค้นสือ่ ออนไลน์ (https://th.wikipedia.org/wiki ณ วนั ที่ 19 กรกฎาคม 2563) 13. สำนักงานสถติ ิแหง่ ชาติ กระทรวงดจิ ิทัลเพ่ือเศรษฐกจิ และสงั คม (www.nso.go.th) ณ วันที่ 31 ก.ค. 2563 14. HDC Report กระทรวงสาธารณสุข ข้อมูล ณ 31 กรกฎาคม 2562 15. สำนกั งานพฒั นาสงั คมและความม่ันคงของมนุษย์จงั หวัด ภาคตะวันออก (ชลบุรี ระยอง จนั ทบรุ ี ตราด ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว) ขอ้ มลู ณ วนั ที่ 31 กรกฎาคม 2563 16. สำนกั งานสาธารณสขุ 7 จงั หวดั ภาคตะวันออก ขอ้ มูล ณ วันที่ 31 สงิ หาคม 2563 รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวดั ภาคตะวันออก

ที่ปรกึ ษา คณะผู้จัดทำ : นางรงุ่ ทวิ า สุดแดน ผูอ้ ำนวยการสำนกั งานส่งเสริมและสนบั สนนุ วชิ าการ 2 ฝา่ ยข้อมูลและเรียบเรยี ง : นางสดุ ารตั น์ ทฤษฎิคุณ หวั หน้ากลมุ่ นโยบายและยทุ ธศาสตร์ ออกแบบ นางสาวสวุ ิมล น้อยใจรักษ์ นกั พัฒนาสงั คมชำนาญการ นางสาววกุล ภคสกลุ กาญจน์ นักพัฒนาสงั คมชำนาญการ นางสาววรญั ญา จันทรเสน นักพฒั นาสงั คมปฏบิ ตั ิการ นางสาวอัญชลี ภ่เู มอื ง นกั พัฒนาสังคมปฏิบตั ิการ นายสบุ นิ จญุ พันธ์ นกั พัฒนาสงั คม : นายสบุ นิ จญุ พันธ์ นกั พฒั นาสงั คม กลุ่มนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวชิ าการ 2 จงั หวดั ชลบรุ ี สำนักงานปลัดกระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ เลขท่ี 172/9 ม.4 ต.บางละมงุ อ.บางละมงุ จ.ชลบรุ ี 20150 โทร.0-3824-0938-9 แฟกซ์. 038-241-821 อเี มล์ : [email protected] รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลมุ่ จังหวัดภาคตะวนั ออก









ที่ปรกึ ษา คณะผู้จัดทำ : นางรงุ่ ทวิ า สุดแดน ผูอ้ ำนวยการสำนกั งานส่งเสริมและสนบั สนนุ วชิ าการ 2 ฝา่ ยข้อมูลและเรียบเรยี ง : นางสดุ ารตั น์ ทฤษฎิคุณ หวั หน้ากลมุ่ นโยบายและยทุ ธศาสตร์ ออกแบบ นางสาวสวุ ิมล น้อยใจรักษ์ นกั พัฒนาสงั คมชำนาญการ นางสาววกุล ภคสกลุ กาญจน์ นักพัฒนาสงั คมชำนาญการ นางสาววรญั ญา จันทรเสน นักพฒั นาสงั คมปฏบิ ตั ิการ นางสาวอัญชลี ภ่เู มอื ง นกั พัฒนาสังคมปฏิบตั ิการ นายสบุ นิ จญุ พันธ์ นกั พัฒนาสงั คม : นายสบุ นิ จญุ พันธ์ นกั พฒั นาสงั คม กลุ่มนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวชิ าการ 2 จงั หวดั ชลบรุ ี สำนักงานปลัดกระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ เลขท่ี 172/9 ม.4 ต.บางละมงุ อ.บางละมงุ จ.ชลบรุ ี 20150 โทร.0-3824-0938-9 แฟกซ์. 038-241-821 อเี มล์ : [email protected] รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลมุ่ จังหวัดภาคตะวนั ออก