Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตอบข้อคำถามต่อเนื่อง ศึกษานิเทศก์สำนักงานอาชีวศึกษา สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ตอบข้อคำถามต่อเนื่อง ศึกษานิเทศก์สำนักงานอาชีวศึกษา สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

Published by พิจารณ์ ดิษฐ์ประชา, 2020-06-19 04:44:11

Description: (ตอบข้อคำถาม) การเก็บรวบรวมข้อมูลฯ (เล่ม)

Search

Read the Text Version

ตอบข้อคาถามตอ่ เนื่อง ศึกษานเิ ทศกส์ านกั งานอาชีวศึกษา สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน สมรรถนะศกึ ษานเิ ทศก์ ความต้องการการพัฒนา ความก้าวหน้าในวชิ าชพี ภาระงานซ้าซ้อน คณะทางานการขบั เคล่ือนภารกิจด้านการนิเทศการศึกษา พ.ศ.2563

การเกบ็ รวบรวมข้อมูลและวิเคราะหข์ ้อมูล 1. การเกบ็ รวบรวมข้อมูลดาเนนิ การเกบ็ ผ่านระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศจากศึกษานเิ ทศก์ สังกดั สานักงานอาชีวศึกษา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และสานักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กระจายในทุกภูมิภาคและทุกจังหวัด นาแบบสอบถามที่ได้มาดาเนินการ วิเคราะหข์ ้อมูล โดยใชเ้ ทคนคิ การวิเคราะห์เอกสาร 2. การดาเนนิ การวิเคราะห์ขอ้ มูลเพ่ือให้เกดิ ความเท่ยี งตรงและความนา่ เชือ่ ถือ ดาเนินการดงั น้ี 2.1 กาหนดตวั ชีว้ ัดแต่ละสมรรถะโดยประมวลมาจากแบบเสนอขอกาหนดตาแหน่งศึกษานเิ ทศก์ ชานาญการ ชานาญการพิเศษและผา่ นการประเมนิ 2.2 กาหนดผ้ทู รงคุณวฒุ กิ ารวิเคราะหแ์ ตล่ ะสมรรถนะทีผ่ ตู้ อบแบบสอบถามระบวุ ่าเขา้ ใจโดย ผู้ทรงคุณวุฒิมีคุณสมบัติเป็นกรรมการประเมินวิทยฐานะศึกษานิเทศก์ ต้ังแต่วิทยฐานะชานาญการและหรือ ชานาญการพิเศษ หรือมีประสบการณ์ในการเล่ือนวิทยฐานะในระดับชานาญการหรือชานาญการพิเศษ โดย ดาเนินการวิเคราะห์แบบสอบถามเทยี บเคียงกบั ตวั ชีว้ ดั รายสมรรถนะนามาวิเคราะห์เป็นพฤติกรรมที่บ่งบอกเข้าใจ รายสมรรถนะ ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู 1. ศึกษานเิ ทศก์ทงั้ หมดมีความรู้ ความเข้าใจในสมรรถนะของตนเอง ทง้ั น้ีศกึ ษานเิ ทศก์ทีม่ ปี ระสบการณ์ 1 เดือน – 2 ปี ยังมสี มรรถนะบางสมรรถนะทีย่ งั ไมเ่ ข้าใจ อาทิเช่น การประกันคุณภาพการศึกษา การวิจัย การ พัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา ในส่วนของ ศึกษานเิ ทศก์ท่ีมคี วามเข้าใจและนาสมรรถนะสู่การปฏบิ ัติวิเคราะห์พฤตกิ รรมแตล่ ะสมรรถนะได้ ดงั น้ี (ทุกสงั กัด)

ขอ้ คาถามตอ่ เน่ือง คณะทางานขบั เคลอ่ื นภารกิจด้านการนเิ ทศการจัดการศกึ ษา การประชมุ เม่ือวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 เวลา 09.00 น. ณ หอ้ งประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธกิ าร ........................................... คาชี้แจง ให้ขีดเคร่ือง  ในชอ่ ง  ตามหัวขอ้ ทต่ี ้องการ 1. สมรรถนะของศึกษานเิ ทศกท์ ่ปี ฏิบัติจริงในการนาไปประยุกต์ใช้การดาเนนิ การนิเทศ ติดตาม และประเมนิ ผลตามประกาศคณะกรรมการคุรสุ ภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วธิ กี ารนาส่กู ารประยกุ ตใ์ ช้ ในการปฏิบัติงานหนา้ ท่ศี กึ ษานเิ ทศก์ การนเิ ทศการศกึ ษา 1. ใหเ้ ทคนิคการนเิ ทศอยา่ งหลากหลาย  ไมเ่ ขา้ ใจ ดว้ ยความเปน็ กัลยาณมิตร  เขา้ ใจ โปรดระบุ กิจกรรม/วิธีการในการนิเทศฯ 1. ใหค้ าแนะนาเกยี่ วกบั วธิ กี ารนเิ ทศหลากหลายรูปแบบตามความ เหมาะสมของแต่ละกิจกรรม 2. ใหค้ วามเป็นกนั เอง 3. สร้างบรรยากาศในการนเิ ทศทดี่ ี 4. ต้อนรับผมู้ าติดต่อ ขอความชว่ ยเหลือ และขอรบั บริการต่าง ๆ อย่างญาติมิตร โดยไม่แบ่งแยกเช้ือชาติ ศาสนา จดั สถานที่ และท่นี ง่ั สะอาดสาหรับผ้รู บั บริการ รวมท้ังบริการอยา่ งรวดเรว็ ไม่ใหร้ อนาน หากไม่สามารถให้บริการไดจ้ ะต้องอธบิ ายให้เขาเข้าใจถึงเหตุผลและ ความจาเป็น เปา้ หมายของการให้บรกิ าร คือ ความสาเรจ็ ความ พอใจและความประทับใจ บรกิ ารทุกระดบั ดว้ ยความเสมอภาค ยดึ หลักเข้าใจ เข้าถงึ และพัฒนา ตามพระราชดารสั พระบาทสมเด็จพระ เจา้ อยหู่ ัวรัชกาลท่ี ๙ 5. ให้ความรว่ มมือกบั ผูร้ ่วมงานในการดาเนนิ งานอยา่ งเต็มกาลงั ความสามารถ โดยแบ่งแยกกลุ่ม 6. นเิ ทศตดิ ตามการดาเนนิ งาน ตามบทบาทหน้าที่ ด้วยความตง้ั ใจ และประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดที ัง้ กาย วาจา ใจ 7. ปฏิบตั หิ น้าทศี่ ึกษานิเทศก์กบั ทุกคนโดยเสมอภาคกนั และไม่เรยี ก รับหรอื ยอมรบั ผลประโยชน์จากการใชต้ าแหน่งหน้าท่โี ดยมิชอบ 8. รูเ้ ทคนคิ การนิเทศอย่างหลากหลายและสามารถนามาวเิ คราะห์ ประยกุ ตเ์ ปน็ รูปแบบการนิเทศใช้กับผู้รับการนิเทศในหลายๆ ลักษณะ ตามบริบทของผรู้ บั การนิเทศ เช่น ผูร้ ับการนิเทศมลี กั ษณะเชน่ น้ี ศกึ ษานเิ ทศกค์ วรใช้เทคนิคหรือรูปแบบการนเิ ทศแบบไหน หรือผ้รู ับ การนิเทศต้องการความช่วยเหลอื ในเรอ่ื งนี้ ศึกษานิเทศก์จะใชเ้ ทคนิค หรอื รปู แบบการนิเทศอย่างไรใหต้ รงตามความต้องการของผรู้ บั การ นเิ ทศ เปน็ ตน้

1. สมรรถนะของศึกษานิเทศก์ทปี่ ฏบิ ัติจริงในการนาไปประยกุ ตใ์ ช้การดาเนนิ การนเิ ทศ ติดตาม และประเมนิ ผลตามประกาศคณะกรรมการคุรสุ ภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วธิ ีการนาส่กู ารประยุกตใ์ ช้ ในการปฏิบตั ิงานหน้าทศี่ ึกษานิเทศก์ 9. ใช้วาจาสุภาพ แสดงความเปน็ มติ รแกผ่ รู้ ับการนเิ ทศ ไม่จับผิด ใหก้ าลงั ใจ และไว้วางใจซ่ึงกันและกนั ในการเรียนรแู้ ละปฏิบตั ิการนิเทศร่วมกนั 10. การนเิ ทศโรงเรยี นแบบเป็นกัลยาณมติ ร และให้คาปรึกษา แนะนาครู ด้วยความเป็นมิตร 11.ศกึ ษาหาความรู้เก่ียวกบั เทคนคิ การนเิ ทศ และฝกึ การนเิ ทศ กบั ผูท้ ม่ี ีประสบการณ์ 12.ร่วมนิเทศกบั ศึกษานิเทศก์อ่ืน ๆ และนเิ ทศงานอ่ืน ๆ ทีเ่ กีย่ วข้องกับ ศึกษานิเทศก์ 13. ควรมีการสรา้ งกระบวนการนเิ ทศท่ีสอดคล้องกับลักษณะงาน ทปี่ ฏบิ ัติ ผรู้ ับการนเิ ทศและสถานการณ์ 14. การแบ่งปันความร้ทู างด้านการศกึ ษา การนิเทศการศึกษา การอนรุ ักษ์ สงิ่ แวดลอ้ ม การปฏบิ ตั ิตน การเข้ารว่ มเครอื ขา่ ยทางวิชาชีพอยา่ งสรา้ งสรรค์ และหวั ขอ้ อน่ื ๆ ท่ีเป็น hot issue และปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ เี่ กิดข้นึ ผา่ นทางสอ่ื สังคมออนไลน์ เชน่ website, face book, line application, live, เอกสารทางวิชาการ, การตดิ ตอ่ ส่ือสารพดู คยุ ทางโทรศพั ท์หรือแบบ face to face การแลกเปล่ยี นเรยี นรกู้ บั ครูเครือข่ายและผู้บรหิ าร หรอื กบั ศกึ ษานิเทศกท์ ง้ั ในเขตพนื้ ทีเดียวกนั และตา่ งเขตพื้นท่ีหรือต่างสังกัด 15. ใหข้ อ้ มลู เชิงบวกแกผ่ ู้ทร่ี ับการนเิ ทศ 16. สง่ เสริมและสนับสนุน ยกย่องให้กาลังใจแกผ่ ้รู บั การนเิ ทศอยา่ งจริงใจ อย่างต่อเนือ่ งเพื่อเปน็ ขวัญและกาลงั ใจในการปฏบิ ัตงิ านทง้ั การประกาศ เกียรติคณุ / การมอบเกยี รตบิ ัตร/ การมอบรางวัล/ การใหค้ าพูดชมเชยและ เชงิ บวกตอ่ หน้าและลับหลงั และทางสงั คมออนไลน์ตา่ งๆ - พฒั นา เรียนรู้ กระบวนการ เทคนคิ ในการนิเทศใน หลากหลายรูปแบบ ประยุกต์ใช้ใหต้ รงกับบริบทของโรงเรยี นทีม่ ีความ แตกต่าง - ดาเนินการนเิ ทศ โดยใชห้ ลักกัลยาณมติ ร จดิ บรกิ าร เป็นท่ี ปรกึ ษาที่ดี 17. จดั อบรมตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย 18. ส่งเสรมิ และสนับสนนุ ให้บุคคลเปน็ ผูใ้ ฝ่รู้ จากสานักงาน กศน.จงั หวัด และแหลง่ เรยี นรู้ต่างๆ 19. กระตุ้นให้บุคคลเปน็ นักพัฒนา ดว้ ยการนาความรแู้ ละประสบการณ์มา ปรับใชใ้ ห้เกิดประโยชนส์ งู สดุ 20. ให้ความรว่ มมือกบั ผู้ร่วมงานในการดาเนินงานอย่างเต็มกาลัง ความสามารถ

1. สมรรถนะของศึกษานิเทศกท์ ปี่ ฏบิ ัติจรงิ ในการนาไปประยกุ ตใ์ ชก้ ารดาเนนิ การนเิ ทศ ติดตาม และประเมินผลตามประกาศคณะกรรมการครุ สุ ภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วิธีการนาสู่การประยุกตใ์ ช้ ในการปฏบิ ตั ิงานหน้าที่ศกึ ษานิเทศก์ 21.โดยแบ่งแยกงานเพ่ือให้มีความรูใ้ นดา้ นตา่ ง ๆ พัฒนาทางวชิ าการ 22. มีรูปแบบ โครงสรา้ งการปฏิบตั งิ านที่ชดั เจนนาสู่การปฏิบัติและตอ่ ยอด งานได้จริง 23. มแี รงจูงใจในการปฏบิ ัติงาน 24. มีเครือข่ายการเรยี นรหู้ ลากหลายท้งั ในและนอกองค์กร 25. มีเครอื ขา่ ยการพัฒนางานนเิ ทศส่วนกลางคอยสนับสนุน ชว่ ยเหลอื และ กระตุ้น ส่งเสริมใหเ้ กดิ การปฏิบตั งิ านท่ีดีอยา่ งต่อเนือ่ ง เขม้ แข็ง 26. การศึกษาเรยี นรู้ และพฒั นาตนเองอย่เู สมอ ในการศึกษาแหล่งเรียนรู้ และสื่อตา่ ง ๆ เพื่อนาไปปรบั ใชใ้ นการปฏบิ ัติงาน 27. ศกึ ษาหาความรู้ท่เี ก่ยี วข้องกับงานวิชาการใหห้ ลากหลายทง้ั จาก เอกสาร สื่อ หรอื จากผทู้ ม่ี ปี ระสบการณ์ 28. เปน็ ท่ีปรกึ ษาทดี่ ีของครูและผู้บริหาร โดยนาความรไู้ ปใชใ้ นการนเิ ทศ จะตอ้ งสามารถชว่ ยเหลือ แนะนาคร/ู ผบู้ รหิ ารสถานศึกษาไดท้ กุ เร่ือง 29.เปน็ ที่ปรึกษาใหก้ ับผู้ทเี่ กย่ี วข้องกับการบรหิ ารงานวชิ าการไดท้ ุกเรื่อง และทุกสังกัด เม่ือได้รบั การร้องขอ 2. สร้างวฒั นธรรมในการพฒั นา 1. พูดคยุ กับสมาชกิ ศึกษานิเทศก์ดว้ ยสนุ ทรยี สนทนา / แลกเปลย่ี นเรียนรู้ งานวชิ าการ และนาสู่ และแบง่ ปนั ความรู้ เพื่อเป็นเครอื ข่ายชมุ ชนวชิ าชีพ (PLC) ในการ การเป็นบคุ คลแห่งการเรียนรู้ ปฏบิ ัตงิ านทั้งในเขตเดยี วกนั และต่างเขต ดว้ ยความจรงิ ใจและเปน็ กันเอง 2. ใหค้ าปรึกษาที่ดีต่อเพ่ือนร่วมวชิ าชพี ไมว่ า่ จะเปน็ รุ่นเดียวกนั หรือร่นุ นอ้ ง เทา่ ทีจ่ ะทาได้ 3. เป็นแบบอยา่ งทีดีในการทางาน โดยการทางานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย อยา่ งเต็มท่ี/ ไม่เกยี่ งงาน/ ทางานอยา่ งสดุ ความสามารถ และปรกึ ษาผู้รู้ เม่ือต้องการความชว่ ยเหลือ 4. แบง่ ปันความคดิ / แชร์ประสบการณ์ในการทางาน อย่างจรงิ ใจ 5. พฒั นางานในกลุ่มงานของตนเองให้มจี ดุ บกพร่องน้อยลงเรื่อยๆ เพ่ือเป็น การสร้างสรรค์และทางานเป็นทีมที่มีประสิทธภิ าพ โดยเรยี นรจู้ ากการถอด ประสบการณ์การทางานในปีทผ่ี า่ นมา - ส่อื สารเปา้ หมาย กาหนดแนวทางการทางานรว่ มกัน - ใช้พลัง Team Work ในการทางาน - ใช้เครอื ขา่ ยชุมชนวิชาชีพ - สนับสนนุ การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ วพิ ากษ์ วิจารณ์ เพื่อการพฒั นางาน ร่วมกัน

1. สมรรถนะของศึกษานิเทศก์ที่ปฏิบตั ิจริงในการนาไปประยุกตใ์ ช้การดาเนนิ การนิเทศ ติดตาม และประเมินผลตามประกาศคณะกรรมการครุ ุสภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วธิ ีการนาส่กู ารประยกุ ต์ใช้ ในการปฏิบัตงิ านหนา้ ทศี่ กึ ษานเิ ทศก์ แผนและกิจกรรมการนิเทศ 1. สามารถวางแผนพัฒนาคุณภาพ  ไม่เขา้ ใจ การศกึ ษา และพฒั นาแผนการนเิ ทศ  เขา้ ใจ โปรดระบุ กจิ กรรม/วิธกี ารในการนเิ ทศฯ ท่นี าสู่การปฏิบัตไิ ด้จริง 1. ศกึ ษาสภาพปัญหาอุปสรรคและแนวทางแก้ไข ตลอดจนความตอ้ งการ เพอ่ื นาขอ้ มลู มาวิเคราะหแ์ ลว้ จัดทาแผนพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา สาหรบั การบริหารจัดการ 2. จดั ทาแผนนเิ ทศใหส้ อดคล้องกบั แผนปฏบิ ตั ิการ และแผนพัฒนาคุณภาพ การศกึ ษาของสานักงาน กศน.จังหวัด 3. ดาเนินการนเิ ทศตามแผนนิเทศแยกรายไตรมาส 4. สรปุ ผลการนิเทศ รายงาน และแจ้งผู้เกยี่ วข้อง 5. การวางแผนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยการวเิ คราะหข์ ้อมูล ตามนโยบายและจดุ เน้นการดาเนินงานของสานกั งาน กศน. วางแผน จดั การนิเทศศึกษาสภาพปัญหา ความตอ้ งการการนเิ ทศและการจดั กระบวนการเรียนรู้ โดยการใช้สถานศึกษาเป็นฐาน เชน่ สง่ เสริมให้ ขา้ ราชการครูเป็นผนู้ ิเทศภายในของสถานศึกษาและเปน็ กัลยาณมติ ร สง่ เสรมิ ใหเ้ ครอื ข่ายมามีส่วนร่วมในการนิเทศส่งเสรมิ ใหม้ นี ิเทศ โดยการนาร่อง ตน้ แบบ การรวมพลงั กนั ทุกฝ่าย ครู ผปู้ กครอง ชมุ ชน ภมู ปิ ัญญา 6. มีความรู้ ความเข้าใจในการเขยี นแผนและกิจกรรมการนิเทศเพ่ือนาสกู่ าร จดั ทาแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาได้อย่างถ่องแท้ 7. รู้จุดควรพฒั นา และจดุ แข็งของคณุ ภาพการศึกษาสาหรบั บรบิ ททจี่ ะนา แผนสู่การปฏิบัติ 8. มวี ิสัยทัศน์ ร้เู ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงด้านการศึกษา และเทคโนโลยี รวมทง้ั มียทุ ธศาสตร์ สาหรบั การนเิ ทศเปน็ แนวทางในการวางแผนและ จดั ทาแผนนิเทศ 9. มที กั ษะและกระบวนการเขยี นแผนท่ยี ดื หยุน่ และเอื้อต่อการนาสู่ การปฏิบัตจิ รงิ 10. มีเปา้ หมาย และตวั ช้ีวดั ในการนเิ ทศท่ชี ัดเจน 11. การจดั ทาแผนการนิเทศเพ่ือ เปน็ แนวทางในการนิเทศโดยมเี คร่ืองมือ การนเิ ทศที่เป็นปจั จุบันและสามารถพฒั นางานต่อไปได้

1. สมรรถนะของศึกษานเิ ทศกท์ ่ีปฏิบัตจิ ริงในการนาไปประยกุ ตใ์ ช้การดาเนินการนเิ ทศ ติดตาม และประเมนิ ผลตามประกาศคณะกรรมการคุรสุ ภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วิธกี ารนาสกู่ ารประยกุ ต์ใช้ ในการปฏิบตั งิ านหนา้ ที่ศกึ ษานเิ ทศก์ 12. การจัดทาแผนพฒั นาการนิเทศเพื่อคุณภาพการศึกษาซ่ึงเปน็ แผนปฏบิ ัตขิ องกลมุ่ นิเทศโดยการ - กาหนดเป้าหมาย โดยนานโยบายการศึกษาทัง้ ระดบั กระทรวง สพฐ.เขตพ้นื ท่ี มาวิเคราะหเ์ พื่อทราบจุดพฒั นา - กาหนดแนวทางการนิเทศของเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา - กาหนดเครื่องมือนิเทศ / กาหนดวิธีการนาเสนอผลการนิเทศ 13. จัดทาแผนปฏบิ ัตกิ ารนเิ ทศ รายบุคคล - กาหนดเป้าหมายการนิเทศ - กาหนดแนวทางการนิเทศ - กาหนดเครื่องมือนิเทศ - กาหนดปฏิทินการนิเทศ และดาเนินการนเิ ทศ - นาเสนอผลการนิเทศต่อคณะกรรรมการนิเทศ - สรุปและรายงานผล 14. การประเมนิ และปรับปรงุ แผนการนิเทศ โดย - นาขอ้ มลู การนเิ ทศมาทา AAR - พจิ ารณาจดุ เด่น จดุ พฒั นาทพ่ี บ - ปรับปรงุ แผนพัฒนาการนิเทศและแผนปฏิบตั กิ ารนเิ ทศรายบคุ คล ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกบั สภาวการณ์ในปจั จบุ ัน 15. จัดทากรอบการนิเทศ/แผนนิเทศ โดยวิเคราะหจ์ ากกรอบการนเิ ทศ ของกลุ่มนเิ ทศ ติดตามฯ และนโยบายอนื่ ๆ ทสี่ าคญั 16. จดั ทารายงานการนเิ ทศกลมุ่ เครอื ขา่ ยโรงเรียนทรี่ บั ผดิ ชอบ เพ่ือเปน็ แนวทางในการแก้ไขปญั หา แนวทางการพฒั นาและต่อยอด การนเิ ทศ ภายในโรงเรยี น 3. ศึกษางานวจิ ัย/ บทความ/ เอกสารท่เี ก่ียวข้องเพ่อื นามาวเิ คราะห์และสังเคราะห์เปน็ แนวทางในการดาเนนิ งานของตนเอง 17. จัดทาสรปุ /รายงาน/บทเรยี นการปฏบิ ัติทด่ี /ี งานวจิ ยั /รายงานผล การจัดการศึกษา/ การปฏิบัติงานในหน้าทีแ่ ละงานนิเทศกลุ่มสาระการ เรยี นร้ทู รี่ บั ผิดชอบ 18. วางแผนการพฒั นาแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของ ครผู ู้สอนในกลุ่มสาระการเรยี นรู้ รว่ มกบั คณะศึกษานิเทศก์และครู เครอื ข่ายท่มี ีความรคู้ วามสามารถทางด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ใน สาระทร่ี ับผิดชอบและการบริหารการจัดการศึกษา เพื่อจดั ทาเป็น แผนพัฒนา/ แผนกลยุทธ์ของกล่มุ สาระฯ และเปน็ แนวทางในการนิเทศ ติดตาม ประเมนิ ผลและรายงานผล

1. สมรรถนะของศึกษานิเทศกท์ ่ปี ฏิบตั จิ ริงในการนาไปประยุกต์ใช้การดาเนนิ การนเิ ทศ ติดตาม และประเมนิ ผลตามประกาศคณะกรรมการครุ ุสภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วิธีการนาส่กู ารประยกุ ต์ใช้ ในการปฏิบตั ิงานหน้าที่ศกึ ษานเิ ทศก์ 19. สง่ เสรมิ สนบั สนุน ใหก้ าลังใจ เสรมิ แรงและให้คาแนะนาแก่ คุณครูทส่ี ามารถจดั กระบวนการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นการสอน และการบรหิ ารการจัดการศกึ ษา เปน็ ไปตามแนวทางทก่ี าหนดและ สอดคล้องกับแผนการพัฒนาของกล่มุ นิเทศ ตดิ ตามฯ - รวบรวมข้อมูลโรงเรียน ผรู้ บั การนเิ ทศ วเิ คราะหผ์ รู้ ับการ นเิ ทศเปน็ รายบคุ คล ปญั หาความตอ้ งการของผูร้ บั การนเิ ทศ นิเทศ บนฐานองค์ความรู้ - ใชส้ ารสนเทศ นโยบาย สพฐ. นโยบายเขตพื้นที่ เปน็ ฐาน ในการนเิ ทศการศึกษาเพ่ือนาสูก่ ารปฏิบัติจริง - ร่วมกับคณะศึกษานเิ ทศก์ในการสร้างเครื่องมอื สอื่ ชว่ ยใน การนิเทศร่วมกัน (กรอบการนเิ ทศ ค่มู อื นเิ ทศ เครอ่ื งมอื นเิ ทศ สื่อสารสนเทศ) 20. รายงานผลการนเิ ทศในท่ีประชมุ ประจาเดือน หลังจากจดั ทา หนังสอื แจ้งสถานศกึ ษาในสงั กดั เปน็ ลายลักษณ์อักษร 21. นาขอ้ มูลท่ไี ดจ้ ากการประชุม รวมทั้งจากผบู้ ริหารและเจา้ ของงาน ของสานักงาน กศน.จังหวดั แล้วนามาวเิ คราะห์เพอ่ื ปรบั แผนนเิ ทศให้ สอดคล้องกับความตอ้ งการของแต่ละกิจกรรม 22. การจัดทารายงานสรุปผลการนิเทศ 23. นาแผนการนเิ ทศไปใช้ 24. วเิ คราะห์ผลทีไ่ ด้จากการนิเทศโดยเปรียบเทียบกับเปา้ หมาย เกณฑ์หรือตัวชี้วดั ที่กาหนดไว้ 25. ผลทไี่ ดจ้ ากการวเิ คราะห์จะประเมินไดว้ ่าแผนการนเิ ทศเป็น อยา่ งไร 26. พัฒนาตอ่ ยอดแผนการนเิ ทศถา้ ผลการวเิ คราะหแ์ สดงใหเ้ ห็นว่า การปฏบิ ตั กิ ารนเิ ทศบรรลุผล ทาการปรับปรงุ ถ้าผลแสดงให้เหน็ ว่าตา่ กว่าเกณฑ์หรอื ตวั ช้ีวดั ที่กาหนดไว้ 27. มีการจดั ประชุมทาแผนการนเิ ทศ ของกลมุ่ นิเทศ ตดิ ตาม และ ประเมนิ ผล เพื่อปรบั เปล่ียนไปตามนโยบายและการจดั กจิ กรรมการ ตามแผนการนเิ ทศและตามงบประมาณ 28. การจัดทาแผนพฒั นาการนิเทศเพ่ือคุณภาพการศึกษา ซึง่ เป็นแผนปฏิบตั ิของกลุม่ นเิ ทศ โดยการ - กาหนดเปา้ หมายโดยนานโยบายการศึกษาท้งั ระดับกระทรวง สพฐ.เขตพน้ื ท่ี มาวเิ คราะหเ์ พื่อทราบจุดพฒั นา - กาหนดแนวทางการนเิ ทศของเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษา - กาหนดเครื่องมือนิเทศ / กาหนดวิธีการนาเสนอผลการนิเทศ

1. สมรรถนะของศึกษานิเทศกท์ ่ปี ฏบิ ัตจิ ริงในการนาไปประยุกต์ใช้การดาเนินการนเิ ทศ ติดตาม และประเมนิ ผลตามประกาศคณะกรรมการคุรสุ ภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วิธีการนาส่กู ารประยกุ ตใ์ ช้ ในการปฏิบัตงิ านหน้าที่ศกึ ษานเิ ทศก์ 29. จดั ทาแผนปฏบิ ตั กิ ารนเิ ทศ รายบคุ คล - กาหนดเปา้ หมายการนเิ ทศ - กาหนดแนวทางการนิเทศ - กาหนดเคร่ืองมือนิเทศ - กาหนดปฏทิ ินการนิเทศ และดาเนินการนิเทศ - นาเสนอผลการนิเทศต่อคณะกรรรมการนเิ ทศ - สรปุ และรายงานผล 30. การประเมินและปรับปรงุ แผนการนเิ ทศ โดย - นาขอ้ มูลการนเิ ทศมาทา AAR - พจิ ารณาจุดเดน่ จุดพัฒนาทีพ่ บ - ปรบั ปรงุ แผนพัฒนาการนิเทศและแผนปฏบิ ัติการนิเทศรายบุคคล ให้มคี วามเหมาะสมและสอดคลอ้ งกับสภาวการณ์ในปัจจุบนั 2. ประเมินและปรับปรุงแผนการนเิ ทศ 1. นาผลจากการรายงานผล สกู่ ารปฏบิ ัติ โดยสามารถวเิ คราะห์ข้อมูล สารสนเทศและนามาคาอธบิ าย เพ่ือแนะนา/ หาแนวทาง/ วิธีการ ปฏบิ ัติ ให้กับผทู้ ่ีมาขอรับคาปรึกษา โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ สาหรับ โรงเรยี นท่รี บั ผดิ ชอบ 2. ศึกษาข้อมลู การกาหนดนโยบายและการวางแผนดาเนนิ งาน รวมถงึ การประเมนิ คณุ ภาพการจดั การศกึ ษา ของกระทรวงศึกษาธิการ/ เขต พ้ืนท่ี/ กลมุ่ นเิ ทศ ตดิ ตามฯ โดยวเิ คราะห์ความสอดคล้องและความแตกตา่ ง เพอื่ เปน็ ข้อมูลในการใหค้ าแนะนา ปรึกษาแก่ผูท้ ี่มาขอรบั คาปรกึ ษา 3. ศกึ ษาข้อมลู เก่ยี วกบั แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา สังคมและ สิ่งแวดลอ้ ม ของกระทรวงศึกษาธิการ/ เขตพน้ื ท่/ี กลุ่มนเิ ทศ ติดตามฯ รวมถึงการกาหนดระดับค่าเป้าหมายการพฒั นาของระดบั กระทรวง/ เขตพื้นท่ี / โรงเรยี น เพื่อใหค้ าแนะนา ปรกึ ษาในการจัดทา แผนพฒั นาฯ แก่ผู้ทีม่ าขอรับคาปรกึ ษา นาบทเรยี นการนเิ ทศที่ ดาเนินการแลว้ นามาพดู คยุ สอ่ื สาร แลกเปล่ียนเรียนรู้ ปรบั ปรุงและ พัฒนารว่ มกับคณะศึกษานิเทศก์ เพ่ือวางแผนปรบั ปรุงแผนการนิเทศ รว่ มกันในการพฒั นา

ขอ้ คาถามตอ่ เนื่อง คณะทางานขับเคล่ือนภารกจิ ดา้ นการนิเทศการจัดการศกึ ษา การประชุมเมอื่ วนั ท่ี 28 พฤษภาคม 2563 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ---------------------------------- คาชี้แจง ให้ขีดเครอ่ื งหมาย  ในช่อง  ตามหวั ขอ้ ท่ีตอ้ งการ 1. สมรรถนะของศึกษานิเทศก์ทีป่ ฏบิ ตั จิ ริงในการนาไปประยุกต์ใช้การดาเนินการนเิ ทศ ติดตาม และประเมนิ ผล ตามประกาศคณะกรรมการคุรสุ ภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วิธีการนาส่กู ารประยกุ ต์ใช้ ในการปฏบิ ัตงิ านหนา้ ท่ีศกึ ษานเิ ทศก์ การพัฒนาวิชาชพี 1. สร้างศรัทธาผู้รบั การนเิ ทศเพ่ือให้ตระหนักและ 1. พัฒนาตนเองให้เป็นผู้นาทางวิชาการ มีความรู้ มองเหน็ ประโยชนข์ องการนิเทศ เ ช่ี ย ว ช า ญ ใ น ง า น วิ ช า ก า ร แ ล ะ ค ว า ม รู้ ร อ บ ด้ า น ทั น ส มั ย อ ยู่ เ ส ม อ เ พ่ื อ ร อ ง รั บ ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง สามารถนาองค์ความรู้มาประยุกต์ใช้ในการนิเทศ ตามบริบทและความแตกต่างของโรงเรียนและผู้รับ การนิเทศ ส่งเสริม สนับสนุนพัฒนาคุณภาพ การศึกษา ครูและผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษาอย่างตอ่ เนื่อง 2. นิเทศ ติดตามให้คาแนะนาช่วยเหลือ เสริมสร้าง กาลงั ใจดว้ ยความเป็นกัลยาณมิตร ยึดผู้รับการนิเทศ เป็นฐาน นิเทศเชิงบวก เชิงสร้างสรรค์ สร้างความ ไวว้ างใจให้ผู้รบั การนเิ ทศ 2. สร้างความกา้ วหน้าและพัฒนาวิชาชีพ 1. ศึกษา ค้นคว้า ริเริ่มความรู้ สร้างสรรค์งานใหม่ อย่างต่อเนอ่ื ง ที่หลากหลายเพื่อพัฒนาตนเองและวิชาชีพ เช่น ศึกษาเอกสารวิชาการ งานวิจัย การถอดบทเรียน การปฏิบัติงาน การเข้าร่วมประชุม อบรม สัมมนา ด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งแบบ face to face และ online ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาตนเอง พัฒนาวิชาชีพ นาองค์ความรู้ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้ ในการทางาน และใช้กระบวนการวิจัยในการพัฒนา งาน 2. พูดคุย สื่อสาร แลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกันโดยใช้ เครอื ข่ายชมุ ชนวิชาชีพในการพฒั นาอยา่ งต่อเนือ่ ง

1. สมรรถนะของศึกษานิเทศก์ทีป่ ฏบิ ัตจิ ริงในการนาไปประยุกต์ใช้การดาเนนิ การนิเทศ ติดตาม และประเมนิ ผล ตามประกาศคณะกรรมการคุรสุ ภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วธิ ีการนาส่กู ารประยุกตใ์ ช้ ในการปฏิบัตงิ านหน้าทศี่ กึ ษานิเทศก์ การพัฒนาหลกั สตู รและการจัดการเรยี นรู้ 1. นเิ ทศเพื่อพฒั นาหลักสตู ร การจัดการเรียนรู้ และ 1. ศึกษาเอกสารแนวทาง วิธีการประเมินหลักสูตร การวัด ประเมินผล และวิธีการที่สถานศึกษา ครูผู้สอนนาหลักสูตรไปใช้ ในชั้นเรียน เริ่มตั้งแต่วิเคราะห์หลักสูตร ตัวช้ีวัด ทต่ี อ้ งรู้ ควรรู้ กจิ กรรมการจัดการเรียนการสอนตาม มาตรฐานและตวั ชีว้ ดั เพอื่ ประเมนิ การนาหลักสูตรไป ใชใ้ นสถานศกึ ษา 2. นิเทศ ติดตาม ส่งเสริม การปรับปรุงและพัฒนา หลกั สตู รสถานศึกษา โครงสรา้ งเวลาเรยี น คาอธบิ าย รายวิชา การออกแบบการเรียนรู้ แผนการจัดการ เรียนรู้ ทั้งด้านความรู้ ทักษะกระบวนการคิดและ เจตคติ รวมทั้งการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย ตามสภาพจริง ตามคู่มือการวัดและประเมินผลของ สถานศึกษาที่สอดคล้องหลักสูตรแกนกลางและปรับ ใช้เขา้ กบั บรบิ ทโรงเรยี น 3. ส่งเสริมการจัดทาคลังข้อสอบ เน้นข้อสอบอัตนัย และการใช้ขอ้ สอบทมี่ ีมาตรฐาน 4. เน้นการจัดการเรียนรู้ท่ีตรงตามมาตรฐานและ ตัวชี้วัด จัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเกิดทักษะ การคิด วิเคราะห์ การแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ การคิด การสร้างนวัตกรรมผ่านการเรียนรู้ รูปแบบ Active Learning ใหผ้ ้เู รียน

ขอ้ คาถามต่อเนื่อง คณะทางานขบั เคลอื่ นภารกิจดา้ นการนิเทศการจดั การศกึ ษา การประชมุ เมื่อวนั ที่ 28 พฤษภาคม 2563 เวลา 09.00 น. ณ หอ้ งประชุมราชวัลลภ กระทรวงศกึ ษาธิการ ---------------------------------- คาชแ้ี จง ให้ขีดเครอ่ื งหมาย  ในช่อง  ตามหัวข้อท่ีตอ้ งการ 1. สมรรถนะของศึกษานิเทศก์ทปี่ ฏิบตั ิจริงในการนาไปประยุกต์ใชก้ ารดาเนนิ การนิเทศ ติดตาม และประเมนิ ผล ตามประกาศคณะกรรมการคุรสุ ภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วธิ กี ารนาส่กู ารประยกุ ตใ์ ช้ ในการปฏิบตั ิงานหน้าท่ศี ึกษานเิ ทศก์ การวิจัยทางการศกึ ษา 1. สามารถดาเนินการวจิ ัยเพ่ือพฒั นาคณุ ภาพ  ไม่เข้าใจ การศึกษา  เขา้ ใจ โปรดระบุ กิจกรรม/วิธีการในการนิเทศฯ 1. รแู้ ละเข้าใจกระบวนการวจิ ัย 2. นากระบวนการวิจยั มาแก้ปญั หาหรอื พัฒนางาน การศกึ ษาตามความถนดั และตามภาระงาน ทีร่ ับผิดชอบ 3. เขยี นรายงานการวจิ ัยในรปู แบบต่าง ๆ ตามกระบวนการวจิ ยั ทน่ี ามาใช้ 4. พัฒนาต่อยอดจากผลการวจิ ัยเปน็ นวัตกรรม โดยดาเนนิ การอยา่ งสม่าเสมอเปน็ ประจาทุกปี 2. สามารถนาผลการวจิ ัยไปใชใ้ นการพัฒนาคุณภาพ 1. วิเคราะห์ ทบทวนผลการวจิ ยั ทท่ี าเพื่อการ การศึกษา แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ เผยแพร่ ต่อยอด กับบรบิ ทอืน่ ๆ 2. นาผลการพัฒนาต่อยอดเชิงสรา้ งสรรค์ ในลักษณะการวิจัยตามกระบวนการของ PDCA เพ่อื ใหเ้ กดิ เป็นนวัตกรรมใหม่ทีย่ กระดับคุณภาพ การศึกษาอย่างแท้จรงิ

ขอ้ คาถามตอ่ เน่ือง คณะทางานขบั เคลอื่ นภารกิจด้านการนเิ ทศการจดั การศกึ ษา การประชมุ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 เวลา 09.00 น. ณ หอ้ งประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ ---------------------------------- คาชแ้ี จง ให้ขดี เคร่ืองหมาย  ในช่อง  ตามหวั ขอ้ ที่ตอ้ งการ 1. สมรรถนะของศึกษานิเทศก์ทปี่ ฏบิ ัตจิ ริงในการนาไปประยกุ ต์ใชก้ ารดาเนนิ การนเิ ทศ ติดตาม และประเมนิ ผลตามประกาศคณะกรรมการครุ สุ ภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วิธกี ารนาสกู่ ารประยุกตใ์ ช้ ในการปฏิบตั งิ านหนา้ ท่ศี ึกษานเิ ทศก์ การพัฒนาหลักสูตรและการจดั การเรยี นรู้ 1. สรา้ ง ใช้ ประเมิน และปรับปรุงหลกั สูตร  ไม่เขา้ ใจ  เขา้ ใจ โปรดระบุ กิจกรรม/วิธกี ารในการนเิ ทศฯ 1. ศึกษาเอกสารเกี่ยวกับการพฒั นาหลกั สูตรและการจดั ทา หลักสตู รของสถานศึกษา ประกอบด้วยโครงสร้างเวลาเรยี น/ รายวิชา/ การกาหนดรหสั วิชา/ นา้ หนัก-หน่วยกิต/ คาอธิบาย รายวิชา/ การจัดทาหนว่ ยการเรียนรู้/ กจิ กรรมการจดั การเรียน การสอน/ การวดั ผลประเมนิ ผล/ ท้ังหลักสูตรกลมุ่ สาระการ เรียนรูแ้ ละหลกั สตู รโรงเรียน เพือ่ เปน็ ขอ้ มูลในการนิเทศ ติดตาม และตรวจสอบการจัดทาหลักสูตรสถานศกึ ษาทมี่ าขอรับ คาปรึกษา และโรงเรียนในกลมุ่ เครอื ขา่ ยทร่ี บั ผิดชอบ 2. ศึกษาเอกสาร แนวทาง งานวจิ ยั เกีย่ วกบั การจดั กิจกรรมการ เรียนการสอนที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั ใหร้ ู้จักคิดวเิ คราะห์ กล้าพดู กล้าแสดงออก และนาเสนองานอย่างสรา้ งสรรค์ เช่น การสอน แบบโครงงาน การทดลอง การแสดงบทบาทสมมติ การแสวงหา ความรดู้ ว้ ยตนเองผา่ นส่ือสงั คมออนไลน์และทางด้านอนื่ ๆ การ ทางานเปน็ ทีม การใชส้ อ่ื กระตุน้ ใหผ้ ้เู รียนเกดิ การเรยี นรู้ได้อย่าง เตม็ ศักยภาพ เพื่อแนะนาและสง่ เสรมิ ให้ครูจัดกจิ กรรม สรา้ งสรรค์ให้กับผู้เรยี น และกระตนุ้ ส่งเสรมิ ให้ผูเ้ รยี นไดเ้ รียนรู้ เต็มศกั ยภาพ พร้อมกบั สง่ เสริมใหค้ รศู ึกษางานวจิ ยั เพ่ือเป็นฐาน ในการพัฒนาการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนอยา่ งมี ประสิทธภิ าพ 3. ร่วมพัฒนาหลกั สตู ร โดยยดึ ตามบรบิ ทของผรู้ ับบริการ 4. การนาหลกั สตู รไปใช้ ศกึ ษานเิ ทศก์ต้องมคี วามเขา้ ใจในการ จดั ทาแผนการจดั การเรยี นรู้การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้และการ วดั และประเมนิ ผลเพอื่ จะได้ให้คาแนะนา ชว่ ยเหลือครแู ละ ผบู้ ริหารโรงเรยี นได้ 5. ศกึ ษาหาและเรยี นรกู้ ารพัฒนาหลักสูตรดว้ ยตนเองและจากผู้มี ประสบการณ์ 6. ใหบ้ รกิ ารส่ือ เครื่องมือการพัฒนาหลักสตู ร

1. สมรรถนะของศึกษานเิ ทศกท์ ่ปี ฏิบัติจรงิ ในการนาไปประยกุ ต์ใช้การดาเนินการนเิ ทศ ติดตาม และประเมินผลตามประกาศคณะกรรมการคุรุสภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วธิ ีการนาสู่การประยุกตใ์ ช้ ในการปฏิบัติงานหนา้ ที่ศกึ ษานิเทศก์ 2. นิเทศเพื่อพฒั นาหลักสูตร การจัดการเรยี นรู้ และการวดั ประเมินผล  ไมเ่ ขา้ ใจ  เข้าใจ โปรดระบุ กิจกรรม/วธิ กี ารในการนเิ ทศฯ 1. กากับ ตดิ ตาม ใหค้ าแนะนาและความชว่ ยเหลอื ในการนา หลักสตู รไปใช้ดว้ ยความเปน็ กัลยาณมิตร 2. เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เพ่อื ประมวลมาใช้ในการปรบั ปรงุ หลักสูตร ใหเ้ หมาะสมกับสภาพปัจจุบันและให้ทนั สมัยมากยิ่งข้ึน 3. กระตุ้นและส่งเสรมิ ใหค้ รเู ขยี นรายงาน/ สรุปงาน/ วิจยั ในช้ัน เรียน/ บทเรียนการปฏบิ ตั ิที่ดี หรือบทความต่างๆ เพื่อเปน็ การ สง่ เสริมกระบวนการการจัดการเรียนรขู้ องตนเองทเ่ี กดิ กบั ผู้เรียน ไดเ้ ป็นอย่างดี 4. นิเทศครผู ู้สอนและสถานศึกษา จัดทาคมู่ ือวดั และประเมินผล เปน็ ของตนเอง โดยให้สอดคล้องกบั หลักสตู รแกนกลาง และปรบั ให้เข้ากับบรบิ ทของตนเอง ทั้งดา้ นรายวชิ าของกลุม่ สาระการ เรียนรู้ และภาพรวมของสถานศกึ ษา 5. นิเทศใหค้ รเู น้นการจดั การเรียนรใู้ ห้ทนั ยุคทนั สมัย ไมย่ ึดตดิ กับ เนอ้ื หา แตใ่ หเ้ นน้ ท่มี าตรฐานและตวั ชว้ี ดั โดยวดั และประเมินผล ตามสภาพจริงในแต่ละชวั่ โมง เพื่อเปน็ การประเมนิ ระหวา่ งเรยี น ไมเ่ น้นการประเมินเพ่ือตัดสนิ ผลปลายภาคเรียน 6. ส่งเสริมให้ครูสอนเนือ้ หาและดาเนนิ การวัดและประเมนิ ผลใน ตวั ช้ีวัดทต่ี อ้ งรู้ สว่ นตัวชวี้ ดั ทีค่ วรรู้ใหเ้ สริมเพอื่ เปน็ ความรู้เพิ่มเตมิ 7. การวดั และประเมินผลการจัดการศกึ ษาจัดให้มกี ารออก ข้อสอบโดยให้สถานศึกษารว่ มกันออกขอ้ สอบกลางภาคและใช้ ข้อสอบชดุ เดียวกนั ท้ังจงั หวัดเป็นมาตรฐานเดียวกนั

ข้อคาถามตอ่ เน่ือง คณะทางานขับเคลื่อนภารกจิ ดา้ นการนเิ ทศการจัดการศกึ ษา การประชุมเม่อื วนั ที่ 28 พฤษภาคม 2563 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ ---------------------------------- คาชแี้ จง ใหข้ ีดเครอื่ งหมาย  ในชอ่ ง  ตามหวั ข้อท่ีตอ้ งการ 1. สมรรถนะของศึกษานิเทศก์ที่ปฏบิ ตั จิ รงิ ในการนาไปประยุกตใ์ ชก้ ารดาเนินการนิเทศ ติดตาม และประเมนิ ผลตามประกาศคณะกรรมการคุรุสภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วิธกี ารนาสูก่ ารประยกุ ต์ใช้ ในการปฏบิ ตั งิ านหนา้ ท่ศี กึ ษานิเทศก์ นวตั กรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา 1. ประยุกต์ใช้ และการประเมนิ สื่อ นวัตกรรม [ ] ไมเ่ ข้าใจ เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ [ ] เขา้ ใจ โปรดระบุ กจิ กรรม/วิธกี ารในการนเิ ทศฯ 1. พฒั นาตนเองใหม้ คี วามสามารถในการใช้ส่ือเทคโนโลยี ประเมินส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยี เพ่ือให้มีความรู้ และ ทักษะเกี่ยวกับการใช้สื่อนวัตกรรม เทคโนโลยี สารสนเทศ นามาใช้มาใช้ในการทางาน และประยุกต์ใช้ ICT ใน กระบวนการนิเทศได้อย่างต่อเน่ือง มีประสิทธิภาพ และ พัฒนาครู บุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อรองรับ ความก้าวหน้าต้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ส่งเสริมการวิจัย และการนาผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้รวมกับการประสาน ความร่วมมือกับองค์กรในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนท์ างการศกึ ษา 2. สามารถเช่ือมโยงความรู้บูรณาการเพ่ือการพัฒนาส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยี สารสนเทศใช้เพื่อการเรียนรู้ นามาใช้ในการปฏิบัติงานในหน้าท่ี และการนิเทศ อย่าง ต่อเน่ืองและปฏิบัติให้เป็นกิจวัตร จนเป็นวิถีชีวิตของการ ทางานจนเกิดความชานาญ 3. จัดสร้างสื่อ/นวัตกรรมการนิเทศ เพ่ือใช้ในการพัฒนา ใหเ้ หมาะสมกับลกั ษณะของงานทจี่ ะพัฒนา เชน่ e-Book เป็นหนังสือหรือเอกสารในรูปแบบของสิ่งพิมพ์ อิเล็กทรอนิกส์เพอื่ ใชใ้ นการเรยี นการสอนผ่าน เครีอข่าย ซ่ึง ผู้เรียนสามารถเข้าไปสู่ระบบเครือข่ายเพ่ือศึกษาบทเรียน เหมอื นเปติ เอกสารอา่ น e-Library ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในเครือข่าย มี ลักษณะเหมือนกับห้องสมุดทั่วไปต่างกันท่ีอยู่ในรูปของ ข้อมูลติจิตอลเท่านั้น ซึ่งสามารถค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ผ่าน เครอื ข่ายได้

1. สมรรถนะของศึกษานิเทศก์ท่ปี ฏิบตั ิจรงิ ในการนาไปประยกุ ตใ์ ชก้ ารดาเนินการนิเทศ ติดตาม และประเมนิ ผลตามประกาศคณะกรรมการคุรุสภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วิธีการนาสู่การประยุกต์ใช้ ในการปฏิบัติงานหน้าทีศ่ กึ ษานิเทศก์ virtual Lab เป็นห้องปฏิบัติการจาลองที่สามารถเข้ามาทา การทดลองตามคาแนะนาที่ให้ไว้หรือการทดลองในรูปแบบ ของ simulation Video เป็นการสร้างเน้ือหาในรูปแบบของวีติโอ หรือการ บั น ทึ ก เ สี ย ง เ พื่ อ ใ ห้ ส า ม า ร ถ เ รี ย น ผ่ า น ไ ด้ ท า ง เ ค รื อ ข่ า ย คอมพิวเตอรโ์ ตยกระจายสัญญาณภาพแบบ streaming Virtual Classroom การสร้างห้องเรียนจาลอง โตยใช้ กระดานขา่ วบนครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่ไปรษณีย์ อิเล็กทรอนิกส์ (e-Mail) เพ่ือประโยชน์ในการเรียนรู้ผ่าน เครือข่าย Web Based Instruction เป็นเว็บเพจที่สร้างขึ้นมาเพ่ือ ใชป้ ระโยชน์ในการเรียนการสอนผ่านเว็บการเรียนการสอน ระบบ E-Learning การสร้างบทเรียนออนไลน์ในการให้ครู เข้าไปศึกษาและเข้าร่วมอบรมออนไลน์ในระบบเพ่ือพัฒนา ตนเอง หรือการจัดทาและพัฒนาระบบสารสนเทศท่ี สามารถใช้ร่วมกันเป็นข้อมูลที่ก่อให้เกิดประโยชน์ในการ แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ เปน็ ต้น 4. สามารถส่งต่อความรู้ให้กับครูเพ่ือให้มีทักษะ การ ประยุกต์ใช้ และการประเมินส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยี สารสนเทศเพ่ือการเรียนรู้ท่ีเป็นประโยชน์กับการพัฒนาการ จัดการเรียนรู้ ใช้สื่อเทคโนโลยีทันสมัยจัดกิจกรรมการ เรียนรู้เพ่ือเป็นต้นแบบให้ครูนาไปใช้ในการจัดกิจกรรมการ เรียนการสอน สนับสนุนให้ครูมีศักยภาพในการผลิตข้อมูล ความรู้ เร่งสร้าง และเผยแพร่ความรู้ออกสู่สาธารณะในวง กว้างอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมการพัฒนาและ ประยุกต์สารสนเทศ (Information) และความรู้ (Knowledge) ที่สนับสนุนการเรียนรู้ที่มีผู้เรียนเป็น ศูนย์กลาง พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ท่ีมีคุณภาพ มีคุณธรรม เ พ่ื อ ล ด ค ว า ม เ ห ล่ื อ ม ล้ า ข อ ง ก า ร เ ข้ า ถึ ง แ ล ะ รั บ บ ริ ก า ร การศกึ ษาและการเรียนรู้ และรองรับการพัฒนาสู่สังคมแห่ง ภูมปิ ัญญาและการเรียนรู้ 5. สามารถประเมินสอ่ื นวัตกรรม เทคโนโลยี สารสนเทศ เพอ่ื การเรยี นรู้ไดถ้ ูกตอ้ งตามคุณลักษณะ ของส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยี สารสนเทศ

1. สมรรถนะของศึกษานิเทศก์ที่ปฏิบตั จิ ริงในการนาไปประยกุ ตใ์ ชก้ ารดาเนนิ การนิเทศ ติดตาม และประเมนิ ผลตามประกาศคณะกรรมการคุรุสภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วธิ ีการนาสกู่ ารประยุกต์ใช้ 2. สามารถใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร ในการปฏบิ ตั ิงานหนา้ ที่ศึกษานิเทศก์ [ ] ไม่เขา้ ใจ [ ] เขา้ ใจ โปรดระบุ กิจกรรม/วิธีการในการนเิ ทศฯ 1. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเพ่ือพัฒนา คุณภาพ ส่งเสริม สนับสนุนให้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี สารสนเทศและหารสื่อสารเพื่อการบริหารจัดการการจัดการ เรียนรู้จากแหส่งและวิธีการที่หลากหลาย การพัฒนาส่ือ อิเล็กทรอนิกส์ การพัฒนาผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษา ก า ร พั ฒ น า ห ลั ก สู ต ร ใ ห้ เ อ้ื อ ต่ อ ก า ร ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ยี สารสนเทศและการส่ือสารเพื่อการจัดการเรียนการสอน การ เพ่ิมประสิทธิภาพการเรียนทางไกล จัดให้มีศูนย์กลางข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ (Data Center) ให้มีการเรียนการสอนผ่าน ระบบอิเล็กทรอนิกส์ การส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ได้ด้วย ตนเองอย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพื่อ นาไปสู่สังคมแห่งคุณธรรมและสังคมแห่งภูมิปัญญาและการ เรยี นรู้ 2. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารพัฒนาการ บริหารจัดการ การให้บริการทางการศึกษา การนิเทศ การศึกษา การพัฒนาระบบงานคอมพิวเตอร์ การจัดระบบ ฐานขอ้ มูล การบริหารจัดการและพัฒนาบุคลากรทุกระดับท่ี เก่ียวข้อง การจัดให้มีศูนย์ปฏิบัติการสารสนเทศ (Operation Center) เชื่อมโยงแลกเปล่ียนข้อมูล รวมท้ังส่งเสริมการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร เพิ่มประสิทธิภาพการ บริหารจัดการ และให้บริการทางการศึกษา ด้วยระบบ อิเล็กทรอนิกส์ท่ีสอดคล้องกับการปฏิรูประบบราชการ มี ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ หลากหลายช่องทางเพ่ือ การสื่อสาร พูดคุยและนิเทศอย่างสร้างสรรค์ เช่น สื่อสาร ผู้บริหาร ครูผ่านระบบ ICT ในการสื่อสารข่าวสาร การ ขับเคลอื่ นวชิ าการการแลกเปลย่ี นเรียนรรู้ ว่ มกนั

ขอ้ คาถามตอ่ เนื่อง คณะทางานขบั เคล่อื นภารกิจด้านการนเิ ทศการจัดการศกึ ษา การประชุมเมอื่ วันท่ี 28 พฤษภาคม 2563 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร คาชี้แจง ให้ขีดเคร่ืองหมาย  ในชอ่ ง  ตามหัวขอ้ ท่ีต้องการ 1. สมรรถนะของศึกษานเิ ทศก์ที่ปฏบิ ตั จิ ริงในการนาไปประยกุ ต์ใช้การดาเนนิ การนเิ ทศ ติดตาม และประเมนิ ผลตามประกาศคณะกรรมการครุ ุสภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วธิ ีการนาสู่การประยกุ ต์ใช้ ในการปฏิบตั งิ านหน้าท่ีศึกษานเิ ทศก์ การประกนั คุณภาพการศึกษา 1. สามารถบริหารจดั การการศึกษา [ ] ไม่เขา้ ใจ [ ] เข้าใจ โปรดระบุ กจิ กรรม/วธิ กี ารในการนิเทศฯ 1. วเิ คราะหแ์ ละประมวลองค์ความรู้ จากการศึกษาเอกสาร รายละเอยี ด และแนวทางการจัดทามาตรฐานและการพัฒนาระบบประกันคุณภาพ ภายในของสถานศึกษา ตาม องค์ประกอบการประกันคณุ ภาพของ สถานศึกษา ให้เป็นไปตามขอ้ กาหนดของกฏกระทรวงว่าด้วยการประกัน คุณภาพการศึกษา 2. วิเคราะหผ์ ลและเช่อื มโยงไปยังการปฏิบัตงิ านและผลท่เี กิดจากการ ปฏิบัติงานของผู้ที่เก่ยี วข้องกับการประกันคุณภาพการศึกษาทกุ ภาคส่วน ผลที่ได้จะวิเคราะห์จดุ เด่นและจดุ พฒั นาของ ผู้เรยี น ครู และผู้บรหิ ารไดต้ รง ประเด็น 3. ดาเนนิ การจัดทาแผนพัฒนาการนเิ ทศเพ่ือคุณภาพการศึกษา ซึ่งเป็น แผนปฏิบัติของกลุ่มนิเทศ โดยการกาหนดเปา้ หมาย นานโยบายการศึกษา ท้ังระดบั กระทรวง สพฐ. เขตพืน้ ที่ ผลการวเิ คราะห์จากผูป้ ฏิบัตปิ ระเดน็ ปญั หาทีเ่ กิดขึน้ ในรอบปที ่ผี ่านมา วเิ คราะห์เพ่อื ทราบจุดพัฒนา กาหนด แนวทางการนเิ ทศของเขตพื้นท่ีการศึกษา กาหนดเครื่องมือนเิ ทศ กาหนด วธิ กี ารนาเสนอผลการนเิ ทศ 4. จดั ทาแผนปฏบิ ัติการนิเทศ รายบุคคล- กาหนดเป้าหมายการนิเทศ กาหนดแนวทางการนเิ ทศ กาหนดเคร่อื งมือนิเทศ กาหนดปฏทิ นิ การนเิ ทศ และดาเนินการนิเทศ การเสนอผลการนเิ ทศต่อคณะกรรรมการนิเทศและ สรุปและรายงานผล 5. การประเมนิ และปรบั ปรงุ แผนการนิเทศ โดยนาข้อมลู การนิเทศมาทา AAR พิจารณาจดุ เดน่ จุดพัฒนาท่ีพบ ปรับปรุงแผนพฒั นาการนเิ ทศและ แผนปฏบิ ตั กิ ารนิเทศรายบุคคลให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับ สภาวการณใ์ นปัจจบุ นั

ข้อคาถามต่อเน่ือง คณะทางานขับเคล่อื นภารกจิ ด้านการนิเทศการจัดการศกึ ษา การประชมุ เมื่อวนั ที่ 28 พฤษภาคม 2563 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 1. สมรรถนะของศึกษานเิ ทศกท์ ีป่ ฏบิ ตั จิ รงิ ในการนาไปประยกุ ตใ์ ชก้ ารดาเนินการนิเทศ ติดตาม และประเมินผลตามประกาศคณะกรรมการครุ ุสภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วิธีการนาสู่การประยุกตใ์ ช้ ในการปฏิบตั ิงานหน้าที่ศกึ ษานิเทศก์ การประกันคุณภาพการศึกษา 1. สามารถบริหารจดั การการศกึ ษา 6. วางแผนจัดประชมุ สอ่ื สารสร้างความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การประกนั คุณภาพ ภายใน เพอ่ื แนะนาผบู้ ริหาร ครใู นการบรหิ ารจัดการศึกษา หลากหลาย ช่องทาง เช่นเอกสาร คูม่ ือทางวิชาการ จัดส่งเสริม สนับสนุน สร้าง เครือข่ายวชิ าการในโรงเรยี น โดยการใช้ชมุ ชนวิชาชพี จัดทาสือ่ สารสนเทศ เครื่องมือการจดั การศึกษาใหโ้ รงเรยี นเป็นแนวทาง เพื่อจะได้มีข้อมลู ในการ ให้คาปรกึ ษาแกผ่ ู้ที่มาขอรับคาปรกึ ษาไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง เชน่ จดั ทาเปน็ เอกสารสรปุ ระบบประกันคณุ ภาพภายในของสถานศึกษา หรอื Info graphic, e-book, สารสนเทศ ใหก้ บั ผทู้ ี่มาขอรับคาปรึกษา 2. นาผลการประกันคุณภาพ 1. นาผลการจัดทารายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา SAR มา การศกึ ษาไปใช้เพื่อพฒั นาสถานศกึ ษา สังเคราะห์ จุดเด่น จุดด้อย ข้อควรพัฒนา ต่อยอด ทั้งเร่ืองคุณภาพการ บริหาร คุณภาพครูและคุณภาพผู้เรียน เพ่ือหาแนวทางแก้ไขและพัฒนา ต่อไปจนกว่าจะบรรลุผลและต่อยอดเป็นรูปแบบที่ดีของสถานศึกษานั้น ๆ ได้ 2. ตดิ ตามผลการดาเนนิ งาน ปรบั ปรงุ และพฒั นาคณุ ภาพของโรงเรยี นตาม ข้อเสนอแนะของสานักงานรับรองมาตรฐานและประเมนิ คุณภาพการศึกษา (สมศ.) เพื่อนาไปสกู่ ารพฒั นาการประกนั คณุ ภาพภายและมาตรฐาน การศกึ ษาของโรงเรียน

ข้อคาถามต่อเน่ือง คณะทางานขบั เคล่อื นภารกจิ ดา้ นการนิเทศการจดั การศกึ ษา การประชุมเมือ่ วนั ท่ี 28 พฤษภาคม 2563 เวลา 09.00 น. ณ หอ้ งประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธกิ าร คาช้ีแจง ใหข้ ดี เครือ่ งหมาย  ในชอ่ ง  ตามหัวข้อที่ตอ้ งการ 1. สมรรถนะของศึกษานเิ ทศกท์ ีป่ ฏบิ ัตจิ ริงในการนาไปประยุกตใ์ ชก้ ารดาเนินการนเิ ทศ ติดตาม และประเมนิ ผลตามประกาศคณะกรรมการครุ ุสภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วิธกี ารนาส่กู ารประยุกตใ์ ช้ ในการปฏบิ ตั งิ านหนา้ ท่ีศกึ ษานเิ ทศก์ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณ 1. ปฏิบัติตนเปน็ แบบอย่างที่ดี มีจิตสานกึ ไม่เข้าใจ สาธารณะและเสียสละให้สังคม  เขา้ ใจ โปรดระบุ กิจกรรม/วิธีการ ในการนิเทศฯ1. ศกึ ษาจรรยาบรรณวชิ าชีพ 2. ปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณวิชาชพี 3. ประพฤตปิ ฏบิ ัติตนใหเ้ ปน็ แบบอยา่ งที่ดีแก่สังคม และวางตวั ให้เหมาะสม 4. ปฏิบัติตามกฎ กติกาขององคก์ รและสังคม 5. ใหค้ วามร่วมมือในการปฏิบัติกจิ กรรมต่าง ๆ ไมท่ าตวั เปน็ ปรปกั ษ์กบั เพื่อนร่วมงานและผรู้ บั การนิเทศ 6. มมี ารยาททางสงั คม รู้กาลเทศะ พดู จาด้วยถ้อยคาสุภาพ มี ความนอบน้อม มีสมั มาคารวะ ให้เกยี รตเิ พอื่ นร่วมงานและผูร้ บั การนิเทศ 7. มนี ้าใจกับทุกคน 8. ไมม่ ักมากและมักง่าย ไมล่ ะเมดิ สทิ ธิของผู้อนื่ พึงระลกึ ถึง ประโยชน์สว่ นร่วมเป็นหลัก 9. ไม่ประพฤติตนที่แสดงถึงความเสือ่ มเสียของตนเองและองคก์ ร 10. ปฏิบตั งิ านดว้ ยจติ บรกิ ารและให้บริการชว่ ยงานสังคมเมอ่ื มี โอกาส 11. เปิดใจเพื่อรับความคิดเห็น โดยการสารวจความคิดเหน็ ของครู ผบู้ ริหารโรงเรียน และผทู้ เี่ กีย่ วข้อง 12. สังเกตผลการปฏิบตั ิตนจากผรู้ ว่ มงาน หรือครูและผทู้ เ่ี กยี่ วขอ้ ง ที่สะท้อนการปฏิบตั ติ นของตัวเราเอง 13. ปรับปรงุ ตนเองใหม้ คี วามเหมาะสมตามผลการสงั เกต หรือ การสารวจ โดยปฏบิ ัตติ นให้เหมาะสมหรือดีกว่าจรรยาบรรณ วิชาชีพกาหนด 14. ปฏบิ ตั ติ นให้คงสภาพและปฏบิ ัติตนให้ดีย่งิ ข้ึนไปเพื่อสร้าง ความรัก ความศรัทธาจากเพื่อนร่วมงานและผ้ทู ่ีเก่ียวข้องทุกคน

1. สมรรถนะของศึกษานเิ ทศกท์ ี่ปฏิบัตจิ รงิ ในการนาไปประยกุ ต์ใช้การดาเนินการนเิ ทศ ติดตาม และประเมนิ ผลตามประกาศคณะกรรมการคุรสุ ภา พ.ศ.2556 สมรรถนะ วธิ กี ารนาสกู่ ารประยกุ ตใ์ ช้ 2. ปฏิบัตติ นตามจรรยาบรรณของวิชาชพี ในการปฏิบตั งิ านหนา้ ท่ีศึกษานิเทศก์ ไมเ่ ขา้ ใจ  เข้าใจ โปรดระบุ กจิ กรรม/วิธกี าร ในการนเิ ทศฯ 1. ปฏบิ ตั ิตนตามกรอบจรรยาบรรณของวิชาชพี ศกึ ษานเิ ทศก์ท่ีกาหนดไว้ ไดแ้ ก่ - จรรยาบรรณต่อตนเอง - จรรยาบรรณต่อวชิ าชีพ - จรรยาบรรณต่อผูร้ บั การบริการ - จรรยาบรรณต่อผู้รว่ มประกอบวชิ าชพี - จรรยาบรรณตอ่ สังคม 2. เปน็ สมาชกิ ท่ดี ีขององค์กรวิชาชีพศกึ ษานิเทศก์ รกั และศรัทธา ในวชิ าชีพศึกษานิเทศก์ คานงึ อย่เู สมอว่าอาชพี ศกึ ษานิเทศก์ คือ อาชพี ท่ีมเี กียรติและเปน็ ผสู้ ร้างบุคลากรทีด่ ี เปน็ อาชพี ท่ี ชว่ ยเหลอื ผ้อู ่ืน โดยตอ้ งระลกึ อยเู่ สมอว่า “ศกึ ษานเิ ทศก์มีใจ พร้อมที่จะให้” 3. ประพฤติปฏบิ ัติตนเปน็ คนดขี องหนว่ ยงาน 4. รับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ีที่ไดร้ บั มอบหมายอยา่ งเต็มกาลัง ความสามารถโดยเครง่ ครัดและคานงึ ถึงคุณภาพของงานที่ไดร้ บั มอบหมายให้เปน็ ไปอยา่ งถกู ต้อง 5. ตงั้ ใจในการนิเทศตดิ ตามงานโดยใช้หลกั ธรรมาภบิ าลในการ ทางาน ไมส่ ร้างความแตกรา้ วใหเ้ กดิ ขึน้ ในหมู่คณะ 6. ไฝ่หาความรู้เพิ่มเตมิ และนาความรู้ไปใชใ้ นการทางานอย่าง ตอ่ เน่ือง 7. รบั ผดิ ชอบตดิ ตามผลการปฏบิ ตั งิ านของตนเองโดยสม่าเสมอ 8. รักษาชือ่ เสยี งขององค์กรไมใ่ หเ้ สอ่ื มเสีย ป้องกันไม่ใหบ้ คุ ลากร สรา้ งความเส่อื มเสียใหเ้ กิดแก่องค์กรตามนโยบาย “องค์กรทม่ี ี ศักด์ศิ รีและสุจริตธรรม” 9. ให้เกยี รติเพื่อนรว่ มงานทุกระดบั

ภาระงานอ่นื ทเ่ี ปน็ ภาระหลักของกลุ่มงานอน่ื ภายในหน่วยงานแต่ใหศ้ กึ ษานเิ ทศก์ช่วยทา (เฉพาะ สพฐ.) ศึกษานิเทศก์ที่ตอบแบบสอบถามมากกว่าร้อย 90 ระบุภาระงานอ่ืน ๆ ที่เป็นภาระงานหลักของกลุ่มงาน อ่นื ๆ ภายในหนว่ ยงาน แตใ่ หศ้ ึกษานิเทศก์ชว่ ยทาจะมี 2 รปู แบบ คือ 1. กรณหี นังสือสั่งการจากหน่วยเหนอื หรอื หน่วยงานอนื่ ๆ กรณที ไี่ มช่ ัดเจนในภาระหน้าทีใ่ นกลุ่มงาน นัน้ ๆ ก็จะอ้างว่าเป็นงานเก่ียวกับวชิ าการขบั เคลื่อนในโรงเรียน ใหก้ ลุ่มนิเทศ ดาเนินการ 2. กรณกี ารขับเคลื่อนงานของกลุ่มต่าง ๆ ในเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษา ศึกษานเิ ทศกจ์ ะถูกแต่งตง้ั ในรูป คณะกรรมการโดยใช้คาส่ังของเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาใหช้ ่วยทางานน้ัน ๆ ตามลาดับคือ กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา กลุ่ม ICT กลุ่มอานวยการ กลุ่มพัฒนาบุคลากร กลุ่มนโยบายและแผน กลุ่มบริหารงานบุคคล ท้ังน้ี ศึกษานิเทศก์จะร่วมเป็นคณะกรรมการ คณะทางาน ทุกกลุ่มงาน แต่การทางานของศึกษานิเทศก์จะแต่งตั้ง คณะทางานจากกลุ่มอื่น ๆ น้อยมาก ทั้งนี้ อาจเน่ืองมาจากศึกษานิเทศก์มีกระบวนการเรียนรู้การพัฒนางาน ดว้ ยกนั มากกว่ากลุ่มอืน่ ๆ ที่ดาเนนิ งานในเรอ่ื งธุรการและประเด็นสาคัญ “กรณีที่งานในกลุ่มงานอ่ืน ๆ ไม่สามารถ ทาได้ผู้อานวยการก็มักจะให้ศึกษานิเทศก์เข้าไปช่วย” อันจะส่งผลให้ศึกษานิเทศก์ไม่สามารถปฏิบัติงานตาม สมรรถนะและมาตรฐานวชิ าชีพได้ 3. การเป็นคณะทางานของ สพฐ. ส่งผลต่อการไม่ได้ปฏบิ ตั ิงานในเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาและการนเิ ทศไม่ เป็นไปตามแผน 4. ภาระงานที่นอกเหนอื จากการบริหารงานวชิ าการผ่าน ก.ต.ป.น. (การเงนิ /บริหารงานบคุ คล) ภาระ งานอ่นื ๆ อันเนอื่ งมาจากหน่วยงานอ่ืน ๆ 1) การเปน็ คณะทางานของศึกษาธิการจังหวดั 2) การเปน็ คณะทางานของหน่วยงานอื่น ๆ ภายในจงั หวัด อาทเิ ช่น สาธารณสุข ส่ิงแวดลอ้ ม พลงั งาน สหกรณ์ ความคิดเห็นต่อการพัฒนาความก้าวหน้าในวิชาชีพโดยใช้งานวิจัยเป็นฐานในการนิเทศ ติดตาม และ ประเมินผลตามสภาพจริง ศกึ ษานิเทศกร์ อ้ ยละ 100 เหน็ ดว้ ยในประเด็น ดงั น้ี (ทุกสงั กดั ) 1. การจัดทาขอ้ ตกลงในการพัฒนาคณุ ภาพโรงเรยี นตามข้อมลู สารสนเทเครือข่ายโรงเรยี นท่ีรบั ผดิ ชอบ (ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน การประกนั คุณภาพภายใน ยุทธศาสตรช์ าติ นโยบายสาคญั ) 2. การขับเคลื่อนคุณภาพโรงเรียนที่รับผิดชอบโดยใช้งานวิจยั เปน็ ฐานในการนิเทศ ติดตาม และประเมนิ ท่สี อดคลอ้ งกบั สมรรถนะวชิ าชพี ศกึ ษานเิ ทศก์ (การดาเนนิ การนิเทศ ติดตาม ประเมินผล โดยใช้งานวิจัยเป็นฐานที่ ได้จัดทาขอ้ ตกลงไว้) 3. การดาเนินการรายงานผลการดาเนนิ งานจากการปฏิบัตจิ ริง ใชง้ านวิจยั เปน็ ฐานการนเิ ทศฯ อย่าง ต่อเน่ือง ตลอดปกี ารศึกษาผ่านระบบ ICT โดยมีการตรวจสอบ ประเมินผลเป็นระยะของผู้เก่ียวข้อง (Application ของกระทรวงศึกษาธกิ าร รายงานความกา้ วหนา้ การวจิ ยั พรอ้ มมีการตรวจสอบสภาพจริงจากผ้เู ก่ยี วขอ้ ง) 4. การนารายงานผลการวิจยั เปน็ ฐานในการนิเทศฯ เม่อื ส้นิ ปีการศกึ ษามาประมวลเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ ตามข้อตกลงการพฒั นาคณุ ภาพโรงเรียนที่ได้จัดทาไว้ (การประเมินสภาพจริง คุณภาพโรงเรียนตามข้อตกลง และ การบ่งบอกสมรรถนะของศึกษานเิ ทศก์ตามมาตรฐานวชิ าชีพ)

ความต้องการการพฒั นา (ทุกสงั กัด) 1. การใช้งานวิจัยเปน็ ฐานการนิเทศ ติดตาม และประเมนิ ผล เพือ่ พฒั นาคณุ ภาพโรงเรียน/สถานศกึ ษา 2. การสร้างและพัฒนาหลักสตู ร หลกั สตู รทเี่ นน้ สมรรถนะ 3. การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการนเิ ทศ ติดตาม และประเมินผล และความก้าวหนา้ ในการพฒั นา วิชาชพี ศึกษานเิ ทศก์ 4. เทคนิค วธิ ีการนิเทศ ท่สี อดคล้องกับการเปล่ยี นแปลงนโยบายและบริบทของโรงเรียน/สถานศึกษาท่ี เป็นนิตบิ คุ คล 5. ภาษาองั กฤษเพือ่ การสอ่ื สารและกลุ่มสาระการเรยี นรู้ตามหลกั สูตร/เน้ือหาตามหลักสตู ร 6. การประกันคณุ ภาพภายในโรงเรียนสถานศึกษา ข้อเสนอแนะ 1. การสง่ เสรมิ สนับสนุนให้ศึกษานิเทศก์ดาเนนิ การนเิ ทศติดตามและประเมนิ ผลโรงเรยี นตามมาตรฐาน วิชาชีพและสมรรถนะ ท้ังน้ี กิจกรรมชุมชนวิชาชีพท่ีก่อให้เกิดการเรียนรู้ในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพ ร่วมกนั อยา่ งตอ่ เน่ือง จนสามารถประกนั คุณภาพการนเิ ทศเพื่อพฒั นาคุณภาพโรงเรยี นและนักเรียน 2. ลดภาระงานทซ่ี า้ ซอ้ นโดยเฉพาะงานในพ้นื ที่ที่รับผดิ ชอบอันเน่ืองมาจากกลุ่มอนื่ ๆ หรือหน่วยงานอื่น โดยเฉพาะงานท่ีกลุ่มอ่ืนทาแล้วเกิดปัญหาก็มักจะให้ศึกษานิเทศก์ดาเนินการ และงานฝากท่ีนอกเหนือจากการ บริหารงานวิชาการ อาทิเช่น การบริหารการเงินและงบประมาณ การบริหารงานบุคคล การบริหารงาน งบประมาณ และการบริหารงานวิชาการทีอ่ ยู่ในความรบั ผิดชอบของกลุม่ อื่น 3. การดาเนนิ การพฒั นาความกา้ วหน้าในวชิ าชพี ตามสภาพจรงิ โดยใช้งานวิจยั เป็นฐานในการนเิ ทศ ติดตาม และประเมินผล ซ่ึงมีการติดตามความก้าวหน้าประเมินเป็นระยะและสามารถนามาเสนอเป็นผลงานทาง วิชาการเพอ่ื เสนอขอกาหนดตาแหน่ง 4. ดาเนินการพัฒนาศึกษานเิ ทศก์อย่างต่อเน่ืองท้งั การพัฒนาจากหน่วยตน้ สงั กดั ทม่ี ีหลกั สตู รการพฒั นา และกระจายการพัฒนาในระดับภาคควบคกู่ ับการพฒั นาเรียนรู้ขณะปฏิบัติงาน