บท5ท1ี่ 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทท่ี 2 คอมพิวเตอรใ์ นชวี ิตประจาวนั ในสงั คมเศรษฐกิจฐำนควำมรู้ (knowledge-based society) เทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรส่อื สำร (Information Communication and Technology: ICT) ได้เขำ้ มำเกย่ี วข้องกบั กำรดำเนินกจิ กรรมตำ่ งๆในชีวิตประจำวันของมนุษย์อย่ำงมำกเช่น กำรใช้บัตร ATM ฝำก-ถอนเงินสดจำกตฝู้ ำก-ถอนเงินอตั โนมตั ิกำร ชำระสนิ ค้ำและคำ่ บรกิ ำรด้วยบตั รเครดิตและกำรจองตั๋วชม ภำพยนตรผ์ ่ำนทำงมือถือหรืออนิ เทอรเ์ นต็ เป็นตน้ เน่ืองมำจำก คณุ สมบตั ิของคอมพวิ เตอร์และกำรส่ือสำรทีม่ ปี ระสิทธิภำพเพิ่มมำก ขึน้ แต่รำคำกลับลดลงทำใหป้ ริมำณกำรใช้โทรศัพทม์ ือถือและ คอมพวิ เตอร์เพ่ิมมำกขน้ึ และรัฐบำลเองกม็ นี โยบำยสง่ เสรมิ ให้ ประชำชนได้มีคอมพิวเตอรใ์ ช้งำนกนั มำกขน้ึ จะเหน็ ได้จำกโครงกำร “ คอมพิวเตอรเ์ อ้ืออำทร” ท่รี ัฐร่วมกบั ภำคเอกชนจัดทำเครื่อง คอมพวิ เตอร์ทัง้ แบบต้ังโตะ๊ และพกพำทใ่ี ชช้ ่อื “ คอมพวิ เตอรส์ นิ สมุทร” และ“ คอมพวิ เตอร์สุดสำคร” ในรำคำถูกให้ประชำชนได้ เปน็ เจำ้ ของไดง้ ่ำยขึ้นในสงั คมแห่งกำรเรยี นรนู้ อกจำกคอมพิวเตอร์ จะเป็นเคร่ืองมือในกำรเรยี นรู้สง่ิ ต่ำงๆแลว้ ในกำรทำงำนก็ เชน่ เดียวกันแต่ละคนจำเป็นต้องมีควำมรพู้ ้นื ฐำนดำ้ นคอมพิวเตอร์ก ลำ่ วคอื ร้วู ธิ ีกำรใช้คอมพิวเตอรไ์ ดอ้ ยำ่ งเหมำะสมเชน่ กำรใช้ 51 51
บทท่ี 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 52 อินเทอร์เน็ตและโปรแกรมสำเรจ็ รูปสำนักงำน Microsoft Office เปน็ ต้นอย่ำงไรก็ตำมโลกปัจจุบนั ซ่งึ เปน็ โลกของเทคโนโลยี สำรสนเทศหรอื ที่มกั เรียกกนั ว่ำเป็นยุคของข้อมูลข่ำวสำรและ ควำมรู้น้ันกำรมีควำมรคู้ วำมสำมำรถในกำรใชง้ ำนคอมพิวเตอร์ เพียงอย่ำงเดียวนั้นถือวำ่ ไม่เป็นทเ่ี พยี งพอตอ่ ไปแล้วบุคคลจำเป็นท่ี จะต้องเรยี นรกู้ ำรบรโิ ภคข้อมูลขำ่ วสำรและสำมำรถวิเครำะห์ ข่ำวสำรทม่ี ีอย่เู ป็นจำนวนมำกใหเ้ ปน็ ควำมรแู้ ละนำไปใชใ้ ห้เกิด ประโยชนไ์ ด้ วงจรการทางานของคอมพิวเตอร์ ในกำรทำงำนของคอมพิวเตอรจ์ ะมขี น้ั ตอนกำรทำงำนพืน้ ฐำน 4 ขน้ั ตอนซึ่งประกอบด้วยกำรรับข้อมลู กำรประมวลผลกำรแสดงผล และกำรจัดเกบ็ ข้อมูลหรือที่เรียกยอ่ ๆ ว่ำ IPos cycle 1. รับข้อมูล (Input) คอมพวิ เตอรจ์ ะทำหน้ำที่รบั ข้อมูลเพ่ือนำไป ประมวลผลอปุ กรณท์ ีท่ ำหน้ำทร่ี บั ขอ้ มูลที่นิยมใช้ในปจั จบุ นั เชน่ แป้นพิมพ์ (keyboard) เมำส์ (mouse) สแกนเนอร์ (scanner) ไมโครโฟน (microphone) และกลอ้ งดจิ ทิ ลั (digital camera) เปน็ ต้น 52
บท5ท3ี่ 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทที่ 2 2. ประมวลผล (Process) เมื่อคอมพวิ เตอร์รับข้อมูลเข้ำสู่ระบบ แล้วจะทำกำรประมวลผลตำมโปรแกรมหรอื คำสั่งที่กำหนดเชน่ กำร คำนวณภำษีกำรคำนวณเกรดเฉลีย่ เปน็ ตน้ 3. แสดงผล (Output) คอมพิวเตอร์จะแสดงผลลัพธท์ ่ีไดจ้ ำกกำร ประมวลผลไปยังหนว่ ยแสดงผลซงึ่ มอี ุปกรณท์ ำหนำ้ ที่แสดงผลที่ใช้ แพร่หลำยในปัจจบุ ัน ได้แก่ จอภำพ (monitor) ลำโพง (Speaker) และเคร่ืองพิมพ์ (printer) เป็นต้น 4. จดั เก็บขอ้ มูล (Storage) คอมพิวเตอร์จะทำกำรจดั เก็บข้อมูลลง ในอุปกรณเ์ กบ็ ข้อมลู (storage medium เช่นฮำร์ดดสิ ก์ (hard disk) แผน่ ฟลอปปีดิสก์ (floppy disk) เปน็ ต้น คุณสมบตั ิของคอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์มีคุณสมบัติท่ีสำคญั 5 ประกำรดังน้ี 1 กำรทำงำนดว้ ยระบบอิเล็กทรอนกิ ส์ (Electronic Machine) จำกคำจำกดั ควำมของคอมพิวเตอร์ทวี่ ่ำคอมพวิ เตอร์เป็นอุปกรณ์ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ในกำรบันทึกข้อมูลประมวลผลและแสดงผลลพั ธน์ ัน้ จะเหน็ ได้วำ่ กำรจัดเกบ็ ขอ้ มลู ท่ีบนั ทกึ ผำ่ นทำงแป้นพมิ พ์หรือ อุปกรณ์อ่นื ๆข้อมูลเหลำ่ นจี้ ะถูกแปลงให้เปน็ สัญญำณไฟฟ้ำเพือ่ ให้ คอมพิวเตอรเ์ ข้ำใจคำสัง่ และเม่ือคอมพวิ เตอรป์ ระมวลผลเรียบร้อย 53 53
บทที่ 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 54 แลว้ สญั ญำณไฟฟำ้ จะถูกแปลงกลบั ให้เปน็ อักขระท่ีมนุษยส์ ำมำรถ เขำ้ ใจได้ 2. กำรทำงำนด้วยควำมเร็วสูง (Speed) เตอร์เปน็ ระบบ อิเลก็ ทรอนกิ ส์องั นน้ั กำรดำเนินงำนต่ำงๆซึ่งสำมำรถกระทำ เนือ่ งจำกกำรทำงำนของคอมพิวเตอรเ์ ป็นระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ ดงั นน้ั กำรตำ้ นพงได้อยำ่ งรวดเร็ว 3. ควำมถกู ต้องแม่นย่ำเช่ือถือได้ (Accuracy and Reliability) คอมพวิ เตอร์จะทำงำนตำมคำส่งั ทม่ี นษุ ย์เขียนโปรแกรมหรือคำส่ัง ไว้ถำ้ ผใู้ ชป้ ้อนข้อมลู และชุดคำส่งถกู ต้องผลลพั ธ์ท่ีได้จำกกำร ประมวลผลกจ็ ะมีควำมถูกต้องเชื่อถือได้เสมอดงั วลีที่ว่ำ“ garbage in, garbage 9น (999) ซ่งึ แสดงให้เห็นวำ่ ควำมถูกต้องของผลลพั ธ์ ที่ไดจ้ ำกกำรประมวลผลดว้ ยคอมพิวเตอรจ์ ะขึน้ อยกู่ ับควำมถูกต้อง ของกำรนำข้อมลู เขำ้ 4. กำรเกบ็ ข้อมลู ไดใ้ นปริมำณมำก (Storage) คอมพิวเตอร์มี หนว่ ยควำมจำทท่ี ำหนำ้ ท่ีเกบ็ ขอ้ มูลท่ีบันทกึ เข้ำไปควำมสำมำรถใน กำรจัดเกบ็ ขอ้ มลู นีจ้ ะข้นึ อยกู่ ับขนำดของคอมพวิ เตอร์เช่นเครอ่ื ง ไมโครคอมพวิ เตอร์ในปัจจบุ ันจะมหี นว่ ยเกบ็ ข้อมลู สำรองท่ีสำมำรถ เก็บข้อมลู ได้มำกกวำ่ หมนื่ ล้ำนตัวอกั ษร 54
บท5ท5่ี 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทท่ี 2 5. กำรสอื่ สำรเชือ่ มโยงข้อมลู (Communication) คอมพวิ เตอร์ สำมำรถตดิ ต่อกบั เครื่องคอมพิวเตอร์เคร่ืองอ่นื ๆและสำมำรถทำงำน ทหี่ ลำกหลำยมำกข้นึ กวำ่ กำรใชค้ อมพิวเตอร์แบบระบบเดียว ตวั อย่ำงเชน่ กำรนำคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อระบบอินเทอรเ์ นต็ เพือ่ กำร สบื ค้นข้อมลู จำกเครื่องคอมพิวเตอรอ์ ่นื (remote computer) ประเภทของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์สำมำรถจำแนกไดห้ ลำยประเภทขึน้ อย่กู บั ควำม แตกตำ่ งของขนำดเครือ่ งควำมเร็วในกำรประมวลผลและรำคำเป็น ขอ้ พจิ ำรณำหลักโดยท่ัวไปนยิ มจำแนกประเภทคอมพวิ เตอรเ์ ป็น 7 ประเภทดงั นีค้ ือซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (supercomputer) คอมพิวเตอร์เมนเฟรม (mainframe computer) มนิ คิ อมพวิ เตอร์ (minicomputer) คอมพวิ เตอร์ตงั้ โต๊ะ (desktop computer) โน้ตบุ๊คคอมพิวเตอร์ (notebook computer) คอมพิวเตอร์พกพำ ขนำดฝ่ำมือ (hand-held personal commuter) และ คอมพิวเตอร์แบบฝัง (พำbedded computer) ซึ่งมรี ำยละเอยี ด ดงั น้ี ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer) เปน็ คอมพวิ เตอรท์ มี่ ี ประสิทธภิ ำพในกำรทำงำนสูงสดุ จึงมรี ำคำแพงมำกควำมสำมำรถใน 55 55
บทที่ 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 56 กำรประมวลผลที่ทำได้ถึงพนั ลำ้ นคำสั่งต่อวนิ ำทีตวั อยำ่ งกำรใชง้ ำน คอมพิวเตอร์ประเภทน้ีเช่นกำรพยำกรณ์อำกำศกำรทดสอบทำง อวกำศและงำนอ่นื ๆท่ีมีกำรคำนวณทซ่ี บั ซ้อนปจั จุบนั มกี ำรนำ ซเู ปอร์คอมพิวเตอร์ไปใชก้ บั งำนออกแบบช้นิ ส่วนรถยนตง์ ำน วิเครำะห์ สนิ ค้ำคงคลงั หรือแม้แต่กำรออกแบบงำนด้ำนศิลปะหนว่ ยงำนทม่ี ี กำรใชซ้ เปอร์คอมพวิ เตอร์ ได้แก่ องคก์ ำรนำซำ (NASA) และ หน่วยงำนธุรกิจขนำดใหญเ่ ช่น บรษิ ัท General Motors และ AT & T เปน็ ต้น คอมพิวเตอรเ์ มนเฟรมหรือคอมพิวเตอรข์ นาดใหญ่ (Mainframe Computer) เปน็ คอมพิวเตอร์ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ ำพรอง จำกซูเปอร์คอมพวิ เตอร์สำมำรถรองรบั กำรทำงำนจำกผู้ใช้ได้หลำย รอ้ ยคนในเวลำเดียวกนั ประมวลผลด้วยควำมเร็วสงู มีหน่วยควำมจำ หลกั ขนำดใหญต่ ลอดจนกำรจัดเก็บข้อมูลไดเ้ ปน็ จำนวนมำก คอมพิวเตอร์เมนเฟรมนิยมใช้กบั องคก์ ำรขนำดใหญ่ทีม่ ีกำรเข้ำถงึ ขอ้ มูลของผใู้ ช้จำนวนมำกในเวลำเดยี วกัน (multiple users) เชน่ งำนธนำคำรกำรจองตั๋วเครื่องบินกำรลงทะเบยี นและกำรตรวจสอบ ผลกำรเรยี นของนักศึกษำบริษัทประกนั เป็นตน้ 56
บท5ท7่ี 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทท่ี 2 -มินิคอมพวิ เตอรห์ รือคอมพิวเตอรข์ นานกลาง (Minicomputer) หรือเรียกว่ำ mid-range computer / server เป็นคอมพวิ เตอรท์ มี่ ปี ระสิทธิภำพในกำรทำงำนด้ำนควำมเรว็ และ ควำมสำมำรถในกำรจดั เกบ็ ข้อมลู นอ้ ยกว่ำเมนเฟรมแตส่ ูงกว่ำ คอมพวิ เตอร์ตั้งโต๊ะ (desktop computer) และสำมำรถรองรับ กำรทำงำนจำกผู้ใชไ้ ดห้ ลำยคนในกำรทำงำนทแ่ี ตกตำ่ งกนั จำก จุดเร่ิมต้นในกำรพัฒนำที่ต้องกำรให้คอมพวิ เตอร์ประเภทน้ีทำงำน เฉพำะอยำ่ งเช่นกำรคำนวณทำงด้ำนวศิ วกรรมทำใหก้ ำรพัฒนำ มินคิ อมพิวเตอร์เติบโตอยำ่ งรวดเรว็ ปัจจบุ นั ธรุ กิจขนำดกลำงและ องค์กำรหลำยประเภทรวมทง้ั สถำบนั กำรศึกษำนยิ มนำ มนิ ิคอมพิวเตอร์มำใชใ้ นกำรให้บรกิ ำรข้อมูลแกล่ ูกค้ำเช่นกำรจอง ห้องพักของโรงแรมกำรทำงำนด้ำนบัญชีขององค์กำรธุรกิจเปน็ ต้น 57 57
บทท่ี 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 58 คอมพวิ เตอรโ์ ต๊ะ (Desktop Computer) เปน็ คอมพวิ เตอร์ส่วน บุคคล (09 / 5411al wateur หรอื PC) ท่มี ีขนำดเล็กเหมำะกบั โต๊ะทำงำนในสำนักงำนสถำนศึกษำและทีบ่ ้ำนรูปทรงของตัวเครอ่ื ง คอมพิวเตอร์จะมีทง้ั แบบวำงนอนและแบบแนวตั้งที่เรยี กวำ่ ทำว เวอร์ (tower) เพอ่ื ประหยดั เนอ้ื ทีใ่ นกำรวำงทงั้ บนโต๊ะและท่ีพ้นื โตะ๊ กำรแบ่งประเภทของคอมพิวเตอรต์ ้ังโตะ๊ ยังจำแนกได้ดังนี้ -All-in-one computer เปน็ คอมพวิ เตอร์ตั้งโต๊ะทร่ี วมจอภำพและ หนว่ ยประมวลผลอย่ใู นอปุ กรณเ์ ดยี วกัน 58
บท5ท9ี่ 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทท่ี 2 -Workstation เปน็ คอมพิวเตอรต์ ง้ั โตะ๊ ที่มีควำมสำมำรถและรำคำ สูงกว่ำคอมพวิ เตอรต์ ้งั โตะ๊ ทัว่ ไปออกแบบมำเพื่อใชง้ ำนด้ำนกำร คำนวณและกรำฟิกผ้ใู ชส้ ว่ นใหญจ่ ะเป็นสถำปนิกวศิ วกรและนัก ออกแบบภำพกรำฟกิ Stand-alone computer หรือคอมพิวเตอร์ระบบเดย่ี วเป็นเคร่ือง คอมพิวเตอร์ทสี่ ำมำรถทำงำนทเ่ี รยี กว่ำ IPos cycle โดยท่ีไมไ่ ด้ เช่ือมต่อกบั ระบบเครือข่ำยคอมพิวเตอร์แตใ่ นปจั จบุ นั คอมพิวเตอร์ ประเภทน้มี คี วำมสำมำรถในกำรเช่อื มต่อเครอื ขำ่ ยได้ Server computer เปน็ คอมพิวเตอร์ต้ังโต๊ะทม่ี ีควำมสำมำรถเช่นเดียวกัน ใกล้เคียงกับเครื่องคอมพวิ เตอร์เซริ ฟ์ เวอร์ (เคร่ืองคอมพิวเตอรท์ ี่ทำ หน้ำทใ่ี ห้บริกำรตำ่ งๆเชน่ ข้อมูลโปรแกรมจดั สรรงำนพมิ พเ์ ป็นต้น) •คอมพวิ เตอรโ์ น้ตบ๊คุ (Notebook Computer) หรอื บำงคร้ังเรยี กวำ่ แลปท็อปคอมพิวเตอร์ (laptop computer) เปน็ คอมพวิ เตอรส์ ่วนบคุ คลท่ีมีขนำดเลก็ บำงและนำ้ หนกั เบำเหมำะแก่ กำรพกพำไปใชใ้ นสถำนทต่ี ำ่ งๆคอมพวิ เตอรโ์ นต้ บุ๊คสำมำรถใช้กับ ไฟฟ้ำมำตรฐำนทัว่ ไปและแบตเตอรี่ปจั จบุ นั คอมพวิ เตอรโ์ น้ตบ๊คุ จะ มีอุปกรณ์ครบครนั และสำมำรถใช้งำนเช่นเดียวกับคอมพวิ เตอร์ แบบตั้งโตะ๊ จึงทำให้เป็นท่นี ยิ มใชก้ นั อย่ำงแพร่หลำยทั้งนักธุรกิจท่ี ต้องเดินทำงเปน็ ประจำและบุคคลทท่ี ำงำนนอกสถำนท่นี อกจำก 59 59
บทที่ 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 60 โน้ตบุค๊ คอมพวิ เตอร์ท่เี ห็นและใชง้ ำนกนั ท่วั ไปแลว้ ยงั มีคอมพิวเตอร์ พกพำที่เร่มิ ไดร้ ับควำมนยิ มมำกขึน้ นนั่ คือ tablet PC ซึ่งเป็น คอมพวิ เตอร์ท่ีมีขนำดกำลงั เหมำะนำ้ หนักเบำหมุนได้ 180 องศำมี ท้ังแบบมีแป้นพิมพใ์ นตัวและแบบไม่มีแปน้ พมิ พ์ในตวั แต่มี แปน้ พิมพ์แยกตำ่ งหำกกำรรับขอ้ มูล (input) สำมำรถใช้ทงั้ แบบ สัมผสั และใช้ปำกกำพิเศษ (stylus) เขยี นบนจอภำพได้หรอื แม้กระทง่ั เสียงพดู ระบบเช่อื มต่อเครือข่ำยท้ังแบบแลน (LAN) และ แบบเครอื ข่ำยไรส้ ำย (wireless LAN) Hand-held personal computer หรือ palmtop computer ปัจจบุ นั คอมพิวเตอร์พกพำที่มขี นำดเลก็ ท่ีสุดไมใ่ ช่ เครือ่ งคอมพวิ เตอร์โนต้ บ๊คุ อีกต่อไปแล้วแต่เป็นอุปกรณ์ท่ีเรียกกนั ท่ัวไปวำ่ พดี เี อ (PDA) ซงึ่ ยอ่ มำจำกคำว่ำ personal digital assistant ซงึ่ เปน็ อุปกรณ์ท่ีสำมำรถจดั กำรข้อมลู สว่ นบุคคล | จด บันทึกปฏิทินนดั หมำยเคร่ืองคิดเลขตลอดจนกำรใชง้ ำนอินเทอร์เนต็ Personal digital assistant บำงครัง้ กเ็ รยี กวำ่ pen-based computer เนอ่ื งจำกเปน็ คอมพิวเตอร์แบบพกพำท่ีใช้ปำกกำที่ เรียกว่ำสไตลัส (stylus) เปน็ อปุ กรณ์ในกำรบันทกึ ข้อมูลในบำงคร้ัง กจ็ ะใชป้ ำกกำในกำรเขียนข้อมลู ดว้ ยลำยมอื ลงบนหน้ำจอและใน บำงคร้งั อำจจะใช้ปำกกำน้สี ำหรับเป็นอปุ กรณ์เพ่ือเลือกกำรทำงำน 60
บท6ท1ี่ 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทที่ 2 บนจอภำพซึง่ PDA ในปจั จบุ ันนอกจำกจะทำหนำ้ ที่พ้นื ฐำนท่ัวไป แลว้ ยังสำมำรถรับ-ส่งอีเมลและสง่ โทรสำร (Fax) ได้ด้วยตัวอย่ำง ของ PDA ท่ีนิยมใชใ้ นปจั จบุ ันเช่น Pocket PC และ Palm คอมพิวเตอรแ์ บบฟงั (Embedded computer) เป็น คอมพิวเตอร์ทฝี่ ังในอุปกรณ์ต่ำงๆนยิ มนำมำใชท้ ำงำนเฉพำะดำ้ น พจิ ำรณำจำกภำยนอกจะไม่เห็นวำ่ เปน็ คอมพวิ เตอร์แต่จะทำหนำ้ ท่ี ควบคุมกำรทำงำนบำงอย่ำงของอปุ กรณ์นัน้ ๆคอมพิวเตอร์ประเภท นี้เชน่ เคร่อื งเล่นเกมระบบเติมน้ำมันอตั โนมตั ิโทรศพั ทม์ อื ถือและ เพจเจอรเ์ ปน็ ต้น องคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศคอมพวิ เตอร์ DUระกอบขอบระบบสำรสนเทศคอมพิวเตอรร์ ะบบสำรสนเทศ คอมพิวเตอรป์ ระกอบดว้ ยสว่ นประกอบหลกั 6 ส่วนคอื 1. ฮารด์ แวร์ (Hardware) หมำยถงึ เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์และ อปุ กรณ์ตอ่ พ่วงเชน่ แปน้ พิมพ์เมำส์หน่วยประมวลผลกลำงจอภำพ เครอ่ื งพิมพ์และอปุ กรณ์อืน่ ๆ ฮำรด์แวร์จะทำงำนตำมโปรแกรม หรอื ซอฟต์แวรท์ ีเ่ ขียนขน้ึ 2. ซอฟตแ์ วร์ (Software) บำงคร้ังเรยี กว่ำโปรแกรม (program) หรอื ชดุ คำสั่งวตั ถุประสงคห์ ลกั ของซอฟตแ์ วรท์ ่ีสัง่ ให้ 61 61
บทที่ 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 62 ฮำรด์ แวรท์ ำงำนคือกำรประมวลผลขอ้ มูล (data) ใหเ้ ปน็ สำรสนเทศ (information) 3. ขอ้ มลู และสารสนเทศ (Data and Information) ในกำรประมวลผลขอ้ มลู คอมพิวเตอรจ์ ะประมวลผลตำมข้อมลู ที่ ป้อนเขำ้ ส่หู น่วยรบั ข้อมูลดงั นั้นขอ้ มลู จงึ เปน็ ส่วนสำคัญอย่ำงหนง่ึ ใน กำรประมวลผลเพื่อให้ได้สำรสนเทศเพ่ือกำรตัดสนิ ใจถ้ำข้อมูลท่ี ปอ้ นเขำ้ ไปมีควำมถูกต้องผลลัพธ์ท่ีได้ก็จะมคี วำมถูกต้องเชื่อถอื ได้ ขอ้ มูล (Data) หมำยถึงสิง่ ทไี่ ดจ้ ำกกำรรวบรวมซ่ึงอำจจะเป็น ตวั เลขขอ้ ควำมรูปภำพหรือเสยี งเพอื่ ใหร้ ะบบคอมพวิ เตอร์ทำกำร ประมวลให้ได้สำรสนเทศ สารสนเทศ (Information) หมำยถงึ สงิ่ ที่ไดจ้ ำกกำร ประมวลผลแลว้ ซ่งึ ในบำงคร้ังสำรสนเทศอำจจะเปน็ ข้อมลู เพ่ือกำร ประมวลผลให้ได้ข้อสนเทศอีกอย่ำงหนึง่ กไ็ ดเ้ ช่นคะแนนสอบของ นักศึกษำเป็นข้อมลู เม่ือผ่ำนกระบวนกำรตัดเกรดจะได้เกรดเปน็ สำรสนเทศและเมอื่ นำเกรดนักศึกษำไปคำนวณหำคำ่ เฉลย่ี เกรดของ นกั ศกึ ษำจะเป็นข้อมลู และสำรสนเทศทีไ่ ดค้ ือเกรดเฉลีย่ (GPA) 62
บท6ท3่ี 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทที่ 2 4. ผ้ใู ช้ (User) กำรทำงำนของคอมพิวเตอร์จำเปน็ ต้องใหผ้ ู้ใช้ สงั่ งำนแต่ปัจจุบนั มีคอมพวิ เตอร์บำงชนิดท่ีสำมำรถทำงำนได้ อัตโนมตั อิ ย่ำงไรก็ตำมกำรใช้งำนคอมพวิ เตอรโ์ ดยส่วนใหญแ่ ลว้ ยงั ตอ้ งกำรใหม้ นุษย์เป็นผสู้ ง่ั งำนเสมอ 5. กระบวนการทางาน (Procedure) เปน็ ขนั้ ตอนกำร ทำงำนเพ่ือให้ไดผ้ ลลัพธห์ รือข้อสนเทศจำกคอมพิวเตอร์ในกำร ทำงำนกบั คอมพิวเตอร์จำเป็นทผ่ี ้ใู ชจ้ ะต้องเขำ้ ใจขัน้ ตอนกำรทำงำน เพอื่ ใหไ้ ด้งำนท่ถี ูกตอ้ งและมีประสิทธิภำพตวั อย่ำงขน้ั ตอนกำร ทำงำนเช่นกำรถอนเงนิ ดว้ ยเครือ่ งฝำกถอนเงนิ อัตโนมัติ (ATM) จะตอ้ งมีขน้ั ตอนหรือกระบวนกำรทำงำนดังน้ี (วำสนำสุขกระสำนติ, 2541) 1. จอภำพแสดงควำมพรอ้ มเพ่ือกำรทำงำน 2. สอดบัตรและ ปอ้ นรหสั ผูใ้ ช.้ เลอื กรำยกำรทำงำน 4. ใสจ่ ำนวนเงนิ 5. รับเงิน 6. รบั บัตรคนื และใบบนั ทกึ รำยกำรในกำรทำงำนที่เกีย่ วข้องกับ คอมพิวเตอรป์ กตจิ ะมีขนั้ ตอนท่ีสลบั ซับซ้อนดังน้นั จึงจำเปน็ ต้องมี คู่มอื ปฏบิ ัตงิ ำนทีช่ ัดเจนเชน่ คู่มอื ผู้ใช้ (user manual) คูม่ อื ผู้ดูแล ระบบ (operation manual) เป็นต้น 63 63
บทที่ 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 64 6. บคุ ลากรทาบสารสนเทศ (Information Systems Personnel) เปน็ สว่ นทสี่ ำคัญของระบบสำรสนเทศคอมพวิ เตอร์ เพอื่ จดั กำรให้คอมพิวเตอรท์ ำงำนได้อย่ำงมปี ระสิทธิภำพตลอดจน ทำงำนร่วมกับผใู้ ช้ (user) อยำ่ งใกล้ชดิ เพ่ือกำรพฒั นำระบบใหต้ รง ควำมต้องกำรของผู้ใช้ อินเทอร์เนต็ ปจั จุบนั อำจกล่ำวได้ว่ำกำรเช่ือมต่อเครือขำ่ ยอินเทอรเ์ นต็ (Internet) เปน็ เหตผุ ลหนง่ึ ในกำรซือ้ เคร่ืองคอมพวิ เตอรม์ ำใช้ท่ีบำ้ น หรอื ท่ีทำงำนดว้ ยประสทิ ธิภำพของเครือขำ่ ยอนิ เทอร์เน็ตผใู้ ช้ สำมำรถทีจ่ ะเข้ำถงึ ข้อมลู และสำรสนเทศท่ีมีอยอู่ ย่ำงมำกมำยในโลก ของไซเบอรก์ ำรอ่ำนข่ำวประจำวันพยำกรณ์อำกำศรำคำหุ้นรำคำ สินคำ้ หรอื แม้แต่กำรเรียนรู้เรื่องรำวตำ่ งๆก็สำมำรถกระทำไดเ้ พียง ปลำยนิ้วสัมผสั ผใู้ ชส้ ำมำรถสง่ ข้อควำมพบปะกบั เพ่ือนดูหนังฟัง เพลงเลน่ เกมซ้อื ห้นุ ประมูลสินคำ้ ตอบคำถำมชงิ รำงวัลกำรจอง ห้องพักโรงแรมตัวเครื่องบินและชำระภำษเี งนิ ไดผ้ ่ำนเครือข่ำย อนิ เทอรเ์ น็ตได้อย่ำงสะดวกและรวดเร็วอนิ เทอรเ์ น็ตจงึ นับไดว้ ่ำเป็น เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ทม่ี กี ำรเจริญเตบิ โตรวดเร็วทส่ี ุดจำนวนของ 64
บท6ท5่ี 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทที่ 2 ผใู้ ชแ้ ละจำนวนของเวบ็ ไซต์ (Web sites) ที่นับว่ำเป็นสว่ นสำคัญ ของอนิ เทอรเ์ น็ตซึ่งสำมำรถนำเสนอข้อมลู ในรปู ของส่ือประสม (multimedia ก็มีอัตรำกำรเพิ่มขนึ้ อย่ำงรวดเรว็ เชน่ กัน ความหมายของอินเทอร์เน็ต อินเทอรเ์ นต็ เปน็ เครือขำ่ ยคอมพวิ เตอร์ (computer networks) ท่ี ใหญท่ ่สี ดุ ในโลกซงึ่ เครอื ข่ำยคอมพวิ เตอรห์ มำยถึงกลุ่มของเครื่อง คอมพวิ เตอร์และอุปกรณต์ ำ่ งๆท่ีเช่อื มต่อสื่อสำรดว้ ยฮำร์ดแวรแ์ ละ ซอฟต์แวร์เครือขำ่ ยคอมพิวเตอรต์ ้งั แต่สองเครือข่ำยข้ึนไปที่เชอื่ มต่อ กนั จะเรยี กว่ำ internetwork หรอื internet (สังเกตว่ำจะใชต้ วั เล็ก) แต่ในภำษำองั กฤษคำวำ่ the Internet (ตวั ใหญ่) หรอื เรียก ยอ่ ๆว่ำเนต็ (Net) จะหมำยถึงกลุ่มของเครือขำ่ ยคอมพิวเตอร์ท่ัว โลกทีเ่ ชอื่ มต่อเขำ้ ด้วยกนั และอนญุ ำติให้มีกำรเข้ำถึงสำรสนเทศและ กำรบรกิ ำรในรูปแบบของสำธำรณะ (public access) 65 65
บทที่ 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 66 ความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต 36 เทคโนโลยคี อมพวิ เตอรแ์ ละสำรสนเทศควำมเปน็ มำของ อนิ เทอร์เนต็ คอมพวิ เตอร์แตล่ ะระบบสว่ นใหญจ่ ะแยกทำงำนกัน โดยอิสระมีเพยี งระบบคอมพิวเตอร์ทต่ี ง้ั อย่ใู กล้กนั 14นำดำมำรถ สอื่ สำรกันดว้ ยควำมเรว็ ตำ่ งจำกปัญหำและอปุ สรรคในกำรสอื่ สำร ระหว่ำงเคร่อื งคอมพวิ เตอรแ์ ละควำมต้องกำรในกำรแลกเปลีย่ น ข้อมูลข่ำวสำรกันจึงทำให้เกิดโครงกำรอำร์พำเน็ต (ARPA. Net) โครงกำรอำร์พำเนต็ อยู่ในควำมควบคมุ ดูแลของอำร์พำ (Advanced Research Projects Agency หรอื ARPA ซง่ึ เป็น หนว่ ยงำนย่อยในสงั กดั กระทรวงกลำโหมของสหรัฐอเมริกำอำรพ์ ำ ทำหนำ้ ท่ีสนับสนนุ พื้นฐำนท้ังทำงด้ำนวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี โดยให้ทนุ สนบั สนุนแกห่ น่วยงำนอ่ืน ๆ เชน่ มหำวิทยำลยั และ บรษิ ัทเอกชนทท่ี ำกำรวจิ ัยและพัฒนำในเดือนกันยำยนพ. ศ. 2512 (ค. ศ. 1969) โครงกำรอำร์พำเน็ตไดร้ ิเรมิ่ ข้นึ โดยเช่อื มคือเครือ่ ง คอมพวิ เตอร์ระหว่ำงสถำบนั 4 แหง่ คอื มหำวิทยำลัยแคลิฟอรเ์ นียท่ี ลอสแอนเจลสิ . มหำวทิ ยำแคลฟิ อร์เนียที่ซำนตำบำร์บำรำ มหำวทิ ยำลยั ยูทำหแ์ ละสถำบันวิจัยสแตนฟอร์ดซ่ึงเคร่ือง คอมพิวเตอรจ์ ำกสถำบนั ท้งั 4 แห่งนีเ้ ป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ตำ่ ง ชนดิ กันและใช้ระบบปฏิบัตกิ ำรท่แี ตกตำ่ งกนั ในปีพ. ศ. 2528 (ค. ศ. 66
บท6ท7่ี 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทท่ี 2 1985) มูลนธิ ิวิทยำศำสตรแ์ ห่งชำตอิ เมริกำ (National Science Foundation หรือ NSF) ได้ให้เงนิ ทุนสร้ำงศนู ยซ์ เู ปอร์คอมพิวเตอร์ 6 แหง่ และใชช้ อื่ วำ่ NSFnet ตอ่ มำในปีพ. ศ. 2533 (ค. ศ. 1990) อำร์พำเน็ตไม่สำมำรถท่ีจะรองรับภำระท่เี ป็นโครงข่ำยหลกั (backbone) ของระบบได้อำร์พำเนต็ จงึ ไดย้ ตุ ลิ งและเปล่ียนไปใช้ NSFnet และเครือขำ่ ยอืน่ ๆ แทนมำจนเป็นเครือขำ่ ยขนำดใหญ่ จนกระท่ังในปัจจบุ นั โดยเรียกเครอื ข่ำยวำ่ อินเทอร์เน็ต (http: / / www. skn. ac. th / a cd / internet / history. html) ปจั จบุ นั มหี นว่ ยงำนและบริษัทธุรกิจจำนวนมำกท่ีให้บริกำรดำ้ นเครือขำ่ ย อนิ เทอร์เน็ตซงึ่ ประกอบไปด้วยบรษิ ทั เครือขำ่ ยโทรศพั ทเ์ ครือข่ำย กำรสอ่ื สำรดำวเทยี มและหนว่ ยงำนรัฐบำลต่ำงก็ให้ควำมร่วมมือใน กำรพฒั นำโครงสร้ำงเครอื ข่ำยอินเทอร์เน็ตและทั้งๆทเ่ี ครือข่ำย อนิ เทอร์เนต็ เตบิ โตอย่ำงรวดเร็วกต็ ำมอนิ เทอร์เนต็ ก็ยังคงเปน็ เครอื ข่ำยสำธำรณะและเครือข่ำยของควำมรว่ มมือไม่มบี ุคคลนิติ บุคคลหรือองค์กำรหนว่ ยงำนรฐั บำลใดเป็นเจำ้ ของแตเ่ พียงผ้เู ดยี ว อย่ำงไรกต็ ำมไดม้ ีองคก์ ำรทท่ี ำหน้ำทีใ่ นกำรกำหนดมำตรฐำนและ ดแู ลกำรใชง้ ำนเครือข่ำยอินเทอรเ์ น็ตรว่ มกนั หนว่ ยงำนน้นั คือ World Wide Web Consortium หรอื เรียกย่อๆ W3C นอกจำก เครือข่ำยอนิ เทอรเ์ น็ตทเี่ ปน็ ท่ีรู้จกั กนั โดยทว่ั ไปแลว้ ยงั มีเครือข่ำยที่ เรยี กว่ำอินเทอรเ์ นต็ ทู (Intermet2 หรอื 12) ซ่งึ เป็นเครอื ขำ่ ยท่ี 67 67
บทท่ี 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 68 ดำเนินกำรโดยไม่หวังผลกำไรแตม่ ีวตั ถุประสงคด์ ้ำนกำรวิจยั และ พฒั นำทำงเทคโนโลยแี ละกำรเรียนกำรสอนสมำชิกของ 12 ประกอบด้วยมหำวิทยำลัยในสหรัฐอเมรกิ ำมำกกวำ่ 180 แหง่ และ บริษทั เอกชนมำกกวำ่ 60 บรษิ ัท (Shelly et al., 2002) อินเทอรเ์ น็ตในประเทศไทย ประเทศไทยไดต้ ดิ ต่อกับอนิ เทอร์เนต็ ในลกั ษณะกำรใช้บริกำร ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) โดยในปีพ. ศ. 2530 มหำวิทยำลัยสงขลำนครนิ ทร์วทิ ยำเขตหำดใหญ่และสถำบัน เทคโนโลยแี ห่งเอเชีย (Asian Institute of Technology หรอื AIT) ไดต้ ิดต่อขอใช้บริกำรจดหมำยอิเล็กทรอนิกส์ไปยังมหำวิทยำลัย เมลเบิรน์ โดยควำมรว่ มมอื ระหวำ่ งไทยและออสเตรเลยี ตำม โครงกำร IDP ซึ่งกำรเชื่อมโยงในขณะน้นั จะใช้สำยโทรศัพท์ซ่ึงส่ง ข้อมูลได้ช้ำและไม่เปน็ กำรถำวรตอ่ มำในปีพ. ศ. 2535 จฬุ ำลงกรณ์ มหำวทิ ยำลัยไดจ้ ัดต้ังเครือข่ำยเพือ่ เช่ือมโยงเขำ้ กบั เครือขำ่ ยยยเู นต็ 68
บท6ท9ี่ 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทท่ี 2 (บUNET) ของบริษัทยยเู น็ตเทคโนโลยี จำกดั (บบNET Technologies Co., Ltd.) ซ่ึงตง้ั อย่ทู ี่รฐั เวอร์จเิ นยี ประเทศ สหรัฐอเมริกำและในปีเดียวกันน้ีสถำบนั กำรศึกษำหลำยแหง่ เชน่ สถำบนั เทคโนโลยีแห่งเอเชียมหำวทิ ยำลยั มหิดล มหำวทิ ยำลยั เชียงใหมส่ ถำบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้ำเจ้ำคุณทหำร ลำดกระบงั และมหำวทิ ยำลยั อสั สมั ชญั ได้ขอเช่อื มต่อเข้ำกับ เครอื ข่ำยของจฬุ ำลงกรณ์มหำวิทยำลยั เรียกเครอื ขำ่ ยน้ีวำ่ เครอื ข่ำย ไทยเนต็ (THAINET) ในปีเดยี วกันศนู ยเ์ ทคโนโลยอี เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชำติ (National Electronics and Computer Technology Center หรอื NECTEC) ไดจ้ ัดต้งั เครือข่ำยไทยสำร (Thai Social / Scientific, Academic and Research Network หรือ ThaiSARN) ซึ่งต่อมำไดต้ ่อกบั เครอื ขำ่ ย ของยูยูเน็ตและในปัจจบุ ันไทยสำรไดเ้ ช่อื มโยงกับสถำบันต่ำงๆแสดง ต่อมำในปีพ. ศ. 2537 ควำมตอ้ งกำรในกำรใช้อนิ เทอรเ์ นต็ จำก ภำคเอกชนมีมำกขึ้นกำรส่ือสำรแหง่ ประเทศไทย (กสท.) จงึ ได้ ร่วมมือกบั บริษทั เอกชนเปิดบริกำรอินเทอร์เนต็ ใหแ้ กบ่ ุคคลและ ผู้สนใจทวั่ ไปไดส้ มัครเป็นสมำชิกตงั้ ข้นึ ในรูปแบบบริษัทผู้ให้บริกำร เครอื ข่ำยอินเทอร์เนต็ เชงิ พำณชิ ย์ท่เี รียกกันโดยทัว่ ไปว่ำไอเอสพี (Internet service provider: ISP) 69 69
บทท่ี 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 70 การประยุกตใ์ ช้อนิ เทอร์เน็ต ในแต่ละวนั มีผใู้ ช้อนิ เทอร์เน็ตจำนวนมำกจำกทุกมุมโลกและจะใช้ อินเทอรเ์ นต็ ในกำรทำกจิ กรรมต่ำงๆซ่ึงกำรประยกุ ต์ใช้อนิ เทอรเ์ นต็ ในแตล่ ะวันมีผ้ใู ช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมำกจำกทุกมุมโลกพอจะสรุป กิจกรรมหลัก ๆ ได้ดังนี้ •การติดตอ่ สือ่ สาร ไปรษณยี ์อเิ ล็กทรอนิกส์ (e-mail) เปน็ กิจกรรมท่ีไดร้ บั ควำมนยิ ม มำกที่สุดผูใ้ ช้สำมำรถรับและส่งจดหมำยผำ่ นเครือขำ่ ยอินเทอรเ์ น็ต ถึงเพื่อนและครอบครวั ได้จำกทกุ มมุ โลกนอกจำกน้ีผู้ใช้ยงั สำมำรถ 70
บท7ท1ี่ 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทท่ี 2 เขำ้ กลุม่ สนทนำแลกเปลย่ี นควำมคิดเห็นในหัวข้อต่ำงๆและในทำง กำรศึกษำกส็ ำมำรถใช้อินเทอรเ์ น็ตในกำรสง่ กำรบำ้ นหรือรำยงำนได้ อีกดว้ ย •การทาธรุ กิจออนไลน์ ปจั จบุ ันหน่วยงำนธุรกจิ หลำกหลำยประเภทได้นำอนิ เทอรเ์ น็ตมำใช้ ในกำรใหบ้ ริกำรและกำรทำธรุ กจิ โดยเฉพำะกำรซือ้ -ขำยสนิ คำ้ เชน่ หนงั สือคอมพวิ เตอร์อุปกรณ์แต่งบำ้ นเป็นต้นกำรทำธรุ กิจบน อินเทอร์เนต็ จะใช้ระบบกำรชำระเงนิ ในรูปแบบที่แตกตำ่ งกันขึน้ อยู่ กับควำมพรอ้ มของแต่ละประเทศเชน่ กำรชำระดว้ ยเชค็ บตั รเครดติ และกำรหักเงินผำ่ นบัญชธี นำคำร •การศึกษาและวิจยั สถำบันกำรศึกษำทัง้ ไทยและตำ่ งประเทศได้นำเสนอบทเรียนผำ่ น ทำงเวบ็ ไซต์และบำงสถำบนั ได้ใชอ้ ินเทอร์เนต็ เปน็ รปู แบบหนึ่งของ กำรเรยี นกำรสอนทเี่ รียกว่ำกำรเรยี นกำรสอนทำงไกล (distance learning) มีกำรทำห้องสมดุ เสมือน (virtual Library) เพอื่ ให้ ผ้เู รียนเข้ำถึงข้อมลู ต่ำงๆโดยผ่ำนทำงเครือขำ่ ยอนิ เทอร์เนต็ ตลอดจนกำรเผยแพรบ่ ทควำมและงำนวิจยั ตำ่ งๆ 71 71
บทท่ี 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 72 •ขอ้ มูลข่าวสาร สำนกั ขำวและหนงั สือพิมพจ์ ำนวนมำกได้นำเสนอขำ่ วสำรท้ังรำยวนั และรำยสปั ดำหผ์ ำ่ นทำงส่ืออินเทอร์เนต็ ทำใหผ้ ู้ใช้มีควำมสะดวกใน กำรติดตำมข่ำวสำรและควำมเคลอื่ นไหวตำ่ ง ๆ •การหางานและสมัครงาน เปน็ วธิ กี ำรค้นหำงำนและสมัครงำนทีไ่ ดร้ ับควำมนยิ มมำกข้ึนเรือ่ ยๆ ปจั จบุ ันบรษิ ัททเี่ ปดิ บริกำรเว็บไซต์สำหรับผู้ท่ตี ้องกำรบคุ ลำกรไป ทำงำนและผู้ทต่ี ้องกำรงำนทำมีจำนวนเพิ่มมำกข้นึ กำรใช้บริกำร ของผตู้ ้องกำรงำนทำท่ีแพร่หลำยและเป็นทีน่ ิยมมำกข้ึนเช่นกนั •ความบนั เทิง ผู้ใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตสำมำรถฟงั เพลงดูภำพยนตรอ์ ำ่ นหนังสือหรือ นวนิยำยหรือแม้แตเ่ ล่มเกมผำ่ นระบบเครือข่ำยอนิ เทอร์เน็ตได้ การเชอื่ มต่อเข้าระบบอนิ เทอรเ์ น็ต กำรเชอ่ื มต่อเพอื่ ใช้ระบบอนิ เทอรเ์ นต็ โดยท่ัวไปแล้วหน่วยงำนของ รัฐและสถำบันกำรศกึ ษำท้ังของรัฐและเอกชนจะให้บริกำรแก่ผ้ใู ช้ โดยเฉพำะบุคลำกรของหนว่ ยงำนนั้นๆนอกจำกหนว่ ยงำนดังกล่ำว 72
บท7ท3ี่ 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทที่ 2 แลว้ ผใู้ ช้ยงั สำมำรถเช่ือมต่อระบบอินเทอร์เน็ตโดยใช้บริกำรของ องค์กำรที่เรียกวำ่ ผูใ้ ห้บริกำรอนิ เทอรเ์ นต็ (Internet service provider: ISP) ซ่งึ ปัจจบุ ันในประเทศไทยมจี ำนวน 17 รำย (ขอ้ มลู ปัจจุบันศกึ ษำไดจ้ ำก http: / / nl. nectec. or. th / internet index. html) ในทีน่ ี้จะกลำ่ วถงึ วธิ กี ำรเช่ือมต่อเข้ำระบบ อนิ เทอร์เนต็ 2 วธิ กี ำรหลกั คอื กำรเชอื่ มต่อโดยตรง (direct Internet access) และกำรเช่ือมต่อโดยผ่ำนโทรศพั ทแ์ ละโมเดม็ (dial-up access) 1. การเชือ่ มตอ่ อนิ เทอรเ์ น็ตโดยตรง (Direct Internet Access) กำรเชอ่ื มต่อกับอินเทอรเ์ นต็ โดยตรงผใู้ ชจ้ ะตอ้ งมี คอมพวิ เตอร์เครอื ขำ่ ยท่เี ช่ือมตอ่ กบั โครงข่ำยหลกั หรือแบ็กโบน (backbone) โดยตอ้ งมีอุปกรณท์ ที่ ำหนำ้ ที่เป็นเกตเวย์ (gateway) ในกำรเช่ือมตอ่ ซ่ึงได้แกเ่ รำเตอร์ (router) โดยปกติแลว้ กำรเชอ่ื มต่อ ในลกั ษณะนี้มักเปน็ องค์กำรของรัฐสถำบนั กำรศึกษำที่อนญุ ำตให้ หนว่ ยงำนอน่ื ใช้เครือข่ำยร่วมกนั หรือผทู้ ี่ให้บริกำรอนิ เทอรเ์ นต็ กำร เช่ือมตอ่ อนิ เทอร์เนต็ โดยตรงเปน็ กำรเช่อื มต่อแบบตลอดเวลำจะ เสยี ค่ำใช้จำ่ ยในกำรติดตัง้ ค่อนขำ้ งสงู แต่ขอ้ ดีก็คือกำรรบั -ส่งขอ้ มลู จะสำมำรถทำไดโ้ ดยตรงทำให้รับ-ส่งขอ้ มลู ได้เร็วและมีควำม น่ำเชื่อถอื 73 73
บทท่ี 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 74 2. การเชือ่ มตอ่ ผ่านโทรศัพท์และโมเด็ม (Diatup Access) กำรเชอ่ื มต่ออินเทอรเ์ นต็ ประเภทนีจ้ ะใชส้ ำยโทรศัพท์ (telephone line) ทใ่ี ช้กนั ตำมบำ้ นหรือที่ทำงำนทว่ั ไปโดยจะให้ เครือ่ งคอมพวิ เตอรต์ ดิ ต่อเครื่องคอมพวิ เตอร์เครือขำ่ ยโดยใช้ อปุ กรณ์แปลงสัญญำณท่เี รียกวำ่ โมเดม็ Modulator / DEModulator หรอื modem) เมื่อเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์เชื่อมต่อกับ คอมพวิ เตอร์เครือข่ำยที่ให้บรกิ ำรเช่น ISP แล้วคอมพวิ เตอร์เครอื่ ง นัน้ ก็สำมำรถใช้บริกำรอนิ เทอร์เนต็ เสมอื นกบั กำรต่อเชือ่ มโดยตรง ข้อดีของกำรเชอ่ื มตอ่ ประเภทนี้คือคำใช้จำ่ ยจะถกู กวำ่ กำรเชื่อมต่อ โดยตรงเนอ่ื งมำจำกมีกำรเฉล่ียคำ่ ใชจ้ ่ำยในกำรเช่ำคู่สำยโทรศพั ท์ ไปยงั ตำ่ งประเทศ เวลิ ด์ไวด์เวบ็ (World Wide Web หรอื WWW) ในชว่ งแรกๆกำรบริกำรข้อมูลขำ่ วสำรจะสง่ ถงึ กันดว้ ย Telnet และ จะใช้ FTP (file transfer protocol) เพือ่ กำรแลกเปลยี่ นส่งไฟล์ ตอ่ มำในปคี . ศ. 1991 Tim Berners-Lee นักเขยี นโปรแกรมที่ ทำงำนในสถำบัน CERN ซ่งึ เป็นหอ้ งปฏิบตั กิ ำรฟสิ กิ สแ์ หง่ ยุโรป (European Particle Physics Laboratory) ทปี่ ระเทศ สวติ เซอรแ์ ลนด์ได้พัฒนำโปรแกรมเพ่ือให้อินเทอร์เน็ตใช้งำนได้งำ่ ย ข้ึนและช่วยให้ผูใ้ ชส้ ำมำรถสร้ำงเอกสำรบนอินเทอรเ์ นต็ ท่เี รียกว่ำ 74
บท7ท5่ี 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทท่ี 2 เวบ็ เพจ (Web pages) ที่สำมำรถเชื่อมโยง (link) ไปยงั เอกสำรที่ เกยี่ วข้องกนั ได้กำรเชือ่ มโยงเอกสำรนีเ้ รียกว่ำไฮเปอร์ลงิ ก์ (hyperlinks) ผู้ใช้สำมำรถเชือ่ มโยงเอกสำรหน่ึงไปยงั อีกเอกสำร หน่ึงท่ีอย่ใู นคอมพวิ เตอรเ์ คร่ืองเดียวกันหรือ ต่ำงเคร่อื งกันท่ีอยู่คนละประเทศได้อยำ่ งรวดเร็วกลมุ่ ของเอกสำรท่ี เปน็ ไฮเปอร์ลงิ ก์นี้รูจ้ ักกันโดยทว่ั ไปวำ่ World Wide Web หรือ W3 หรอื Web และตำแหนง่ ของอินเทอรเ์ น็ตที่ประกอบไปดว้ ย เอกสำรทเ่ี ปน็ ไฮเปอร์ลิงก์ตำ่ งเครอื่ งกนั ท่ีอย่คู นละประเทศได้อยำ่ ง รวดเรว็ กลุม่ ของเอกสำรทเ่ี ปน็ ไฮเปอรล์ ังกัน Wide Web (www) หรอื W3 หรอื Web และตำแหน่งของอนิ เทอรเ์ นต็ ท่ีประกอบไป ด้วยเอกสำรเรยี กวำ่ เว็บไซต์ (Web sites) เว็บเพจ (Web pages) คือเอกสำรทเ่ี ปน็ ไขเปอร์เท็กซ์ (hypertext) หรอื ไฮเปอรม์ ีเดยี (hypermedia) ซึ่งไฮเปอร์มีเดียเปน็ สอ่ื ประสมต่ำงๆท่ีใชใ้ นกำร เช่ือมโยงข้อมูลอำจอยู่ในรปู ของข้อควำม ภำพกรำฟิก ภำพเคล่อื นไหวหรอื เสียง 75 75
บทที่ 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 76 คอมพิวเตอร์ฮารด์ แวร์ ฮำรด์ แวร์ของคอมพิวเตอร์เป็นสว่ นประกอบหนึ่งของระบบ สำรสนเทศคอมพวิ เตอร์ฮำรด์ แวร์คอมพิวเตอรห์ มำยถึงตัวเครือ่ ง คอมพิวเตอร์และอปุ กรณอ์ เิ ล็กทรอนิกส์อ่ืนๆท่ีเกยี่ วข้อง ประกอบด้วยอปุ กรณ์รับข้อมูล (input devices) อุปกรณแ์ สดงผล (output devices) อุปกรณ์กำรสือ่ สำร (Communication devices) หน่วยประมวลผลกลำง (central processing unit) หน่วยควำมจำหลกั (main memory) และอุปกรณ์เก็บข้อมูล สำรอง (secondary storage devices) หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ซีพียู (CPU) เป็นคำยอ่ ของ central processing unit ซ่งึ เปน็ ชิป ซิลกิ อน (silicon chip) หรือวงจรรวม (integrated circuit หรอื IC) ประกอบด้วยสว่ นสำคัญ 2 สว่ นคอื หน่วยควบคมุ (Control unit) และหนว่ ยคำนวณและตรรกะ (arithmetic / logic unit หรือ ALU) ดงั มรี ำยละเอยี ดดังน้หี นว่ ยควบคมุ ทำหน้ำท่คี วบคุมกำร ทำงำนของคอมพิวเตอร์ทกุ สว่ นเชน่ ส่วนรับขอ้ มลู ประมวลผล แสดงผลกำรจดั เกบ็ ขอ้ มลู ดังนั้นกำรทำงำนของหน่วยควบคุมจงึ ถือ เป็นหวั ใจหลกั ของระบบคอมพิวเตอรห์ นว่ ยคำนวณและตรรกะทำ 76
บท7ท7่ี 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทท่ี 2 หน้ำทคี่ ำนวณทำงคณติ ศำสตร์ (เชน่ บวกลบคูณหำร) และ เปรยี บเทยี บทำงตรรกะของข้อมูล (เช่นมำกกว่ำน้อยกวำ่ หรือ เทำ่ กับ) กำรทำงำนของหนว่ ยประมวลผลกลำง (ทงั้ หนว่ ยควบคมุ และ ALU) จะมรี ีจสี เตอร์ (register) ซึง่ เป็นแหลง่ เก็บข้อมูล ชวั่ ครำวทีช่ ว่ ยใหซ้ ีพยี ูสำมำรถดงึ ข้อมูลไปประมวลผลไดเ้ รว็ กว่ำ หน่วยควำมจำธรรมดำ ความเร็วของซีพียู เครอ่ื งคอมพิวเตอรแ์ ต่ละประเภทจะมีควำมเรว็ ในกำรประมวลผล ของซีพยี ูที่แตกต่ำงกันกำรวัดควำมเรว็ ซีพียขู องเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ส่วนบุคคลโดยทั่วไปจะวัดเปน็ เมกะเฮริ ตซ์ (megahertz: MHz หรอื millions of clock cycles) และกิกะเฮิรตซ์ (gigahertz: GHz หรือ billions of clock cycles) ซ่งึ เป็นควำมสำมำรถในกำร ประมวลผลคำสั่งวำ่ ทำไดก้ ่ีครั้งในรอบสัญญำณนำฬิกำหนง่ึ วนิ ำที เชน่ ซพี ียทู ี่มีควำมเร็ว 933 MHz จะหมำยถงึ “ ซีพียูทส่ี ำมำรถ ประมวลผลได้ 933 ลำ้ นครงั้ ในหนงึ่ วินำทีและซีพียูท่ีมีควำมเรว็ 1. 7 GHz จะสำมำรถประมวลผลคำสัง่ ได้ 1, 700 พันลำ้ นครงั้ ในหนึง่ วินำทีซพี ยี ูท่ีมอี ตั รำควำมถี่ของสัญญำณนำฬกิ ำต่อวินำทที ่สี ูงกวำ่ จะ มคี วำมสำมำรถในกำรประมวลผลคำส่ังตอ่ วินำทีเร็วกวำ่ เช่นซพี ียูท่ี มคี วำมเรว็ 1. 7 GHz จะสำมำรถประมวลผลคำสงั่ ในหน่ึงวินำทีได้ 77 77
บทท่ี 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 78 เร็วกว่ำซพี ยี ขู นำด 933 MHz เป็นต้นซพี ยี บู ำงคร้งั เรยี กว่ำ โปรเซสเซอร์ processor) และสำหรบั เครื่องคอมพวิ เตอรส์ ่วน บคุ คลจะเรียกวำ่ ชิปไมโครโปรเซสเซอรซ์ ่ึงปจั จุบันโปรเซสเซอรท์ ี่ นิยมใช้กันอยำ่ งแพร่หลำยเชน่ Pentium, Celeron และ AMD เป็นต้น หนว่ ยความจาหลัก (Main Memory) เปน็ วงจรรวมหรอื ชปิ ที่ใชบ้ นั ทกึ โปรแกรมและข้อมูลหน่วยควำมจำ หลกั จะบรรจุอยบู่ นเมนบอร์ดหรือแผงวงจรหลักหน่วยควำมจำบำง ประเภทก็ถูกออกแบบให้อยใู่ นชิปซพี ียเู ลยหนว่ ยของข้อมูลที่จดั เก็บ ในหนว่ ยควำมจำเรียกว่ำไบต์ (byte) ซง่ึ 1 ไบต์จะประกอบไปดว้ ย 8 บติ นอกจำกน้ียังมหี นว่ ยเป็นกโิ ลไบต์ (kilobyte หรือ KB) ซ่ึงมีค่ำ เทำ่ กบั 2 หรอื 1, 024 ไบต์, เมกะไบต์ (megabyte หรือ MB) มีคำ่ โดยประมำณหนงึ่ ลำ้ นไบต์หรือ 1, 024 KB, กิกะไบต์ (gigabyte หรอื GB) มคี ำ่ ประมำณหน่งึ พันลำ้ นไบตห์ รือหนง่ึ ลำ้ นกิโลไบตแ์ ละ เทรำไบต์ (terabyte หรือ TB) มคี ำ่ ประมำณหน่ึงลำ้ นลำ้ นไบต์ หน่วยควำมจุของขอ้ มลู ในหน่วยควำมจ้ำสรปุ ได้ดังนี้ 8 bits = 1 byte 78
บท7ท9ี่ 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทที่ 2 1024 bytes = 1 kilobyte (KB) หรือ 2 bytes 1024 KB = 1 megabyte (MB) หรอื 2 bytes 1024 MB = 1 gigabyte (GB) หรอื 2 bytes 1024 GB = 1 terabyte (TB) หรือ 219 bytes หนว่ ยควำมจำหลกั ทเ่ี ปน็ ท่รี ู้จักกนั อย่ำงกว้ำงขวำงมี 3 ประเภทคือ แรม (RAM) รอม (ROM) และซมี อส (CMOS) •แรม (RAM) random access memory หรือ RAM เป็นอุปกรณ์หรือแผงวงจร ท่ีทำหน้ำที่เก็บข้อมลู และโปรแกรมคอมพวิ เตอร์หนว่ ยควำมจำแรม บำงคร้ังเรยี กวำ่ หน่วยควำมจำชั่วครำว (volatile) ทง้ั น้ีเนอื่ งจำก โปรแกรมและขอ้ มูลท่ีถูกเก็บในหนว่ ยควำมจำแรมจะถกู ลบหำยไป เม่อื ปิดเครือ่ งคอมพวิ เตอรด์ ังนน้ั ถำ้ ต้องกำรเกบ็ ข้อมูลและโปรแกรม ทีอ่ ยใู่ นแรมไว้ใชง้ ำนในอนำคตจะตอ้ งบนั ทึกข้อมลู เหล่ำนนั้ ลงใน หน่วยควำมจำสำรอง (secondary storage) กอ่ นท่จี ะปดิ เครือ่ ง คอมพิวเตอร์ทุกครง้ั เคร่ืองคอมพิวเตอร์พกพำบำงประเภทจะใช้ หน่วยควำมจำทเ่ี รียกวำ่ flash ROM หรือ flash memory ซง่ึ สำมำรถจัดเกบ็ ขอ้ มูลและโปรแกรมไว้ได้ถงึ แม้วำ่ จะปดิ เครื่อง 79 79
บทที่ 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 80 คอมพิวเตอร์แลว้ ก็ตำม RAM ท่ีนิยมใชใ้ นปจั จบุ ันน้แี บ่งเป็น 2 ประเภทคือ static RAM (SRAM) และ dynamic RAM (DRAM) Static RAM เป็นหนว่ ยควำมจำทีน่ ยิ มใชเ้ ปน็ หน่วยควำมจำแคช (cache memory) เพรำะเอสแรม (SRAM) มคี วำมเร็วสงู กวำ่ DRAM รวมทั้งรำคำก็สูงกว่ำด้วยหน่วยควำมจำแคชคอื หนว่ ยควำมจำแรมท่ชี ่วยเพม่ิ ควำมเรว็ ใหก้ บั อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เช่นเครื่องพมิ พ์ Dynamic RAM หนว่ ยควำมจำท่ีนำมำใชง้ ำนกันในปัจจุบนั ส่วนใหญจ่ ะเปน็ DRAM (อ่ำนว่ำดแี รม) เปน็ หน่วยควำมจำท่มี ีรำคำ ตำ่ กวำ่ SRAM ซึง่ ชนดิ ของ DRAM เชน่ SDRAM (synchronous DRAM) และ DDR SDRAM (double data rate SDRAM) รอม (ROM) read-only memory หรือ ROM เปน็ หน่วยควำมจำทบี่ ันทกึ ข้อมูลและคำสง่ั เริ่มตน้ (start-up) ของ ระบบคุณสมบัติเดน่ ของรอมคือข้อมูลและคำสั่งจะไม่ถูกลบหำยไป ถงึ แม้ว่ำจะปิดเคร่ืองคอมพิวเตอรห์ รือไม่มีกระแสไฟฟำ้ หล่อเลี้ยง แลว้ กต็ ำม ขอ้ มลู หรือคำส่งั ท่ีจัดเกบ็ ในหน่วยควำมจำรอมส่วนใหญจ่ ะถกู บันทึก มำจำกโรงงำนผู้ผลติ เครื่องคอมพวิ เตอร์และข้อมลู เหลำ่ นี้จะไม่ 80
บท8ท1่ี 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทที่ 2 สำมำรถลบหรือแก้ไขได้แตส่ ำมำรถอ่ำนไดเ้ รียกวำ่ PROM (programmable read-only memory) หนว่ ยความจา CMOS CMOS (อำ่ นว่ำซีมอส) ยอ่ มำจำก complementary metal- oxide semiconductor เป็นหนว่ ยควำมจำทใี่ ช้เกบ็ ข้อมูลและ สำรสนเทศทใ่ี ช้เปน็ ประจำของระบบคอมพวิ เตอรเ์ ชน่ ประเภทของ แปน้ พิมพ์เมำส์จอภำพและเครื่องอำ่ นแผน่ ดสิ ก์ (disk drive) CMOs ใช้กระแสไฟจำกแบตเตอรีด่ งั นั้นเมื่อปิดเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ข้อมูลและสำรสนเทศใน CMOS จึงไม่สูญหำยลกั ษณะเดน่ ของ CMOS อีกอย่ำงหน่งึ คือข้อมลู และสำรสนเทศทีบ่ ันทกึ ใน CMOS สำมำรถเปล่ยี นแปลงได้เมื่อมีกำรเปล่ียนแปลงอุปกรณ์ให้กับเครือ่ ง คอมพิวเตอร์เช่นกำรเพิ่ม RAM และฮำรด์ แวร์อ่ืนๆนอกจำก หน่วยควำมจำทงั้ สำมประเภททก่ี ลำ่ วมำขำ้ งตน้ แลว้ ปัจจบุ ันยงั มี กำรใช้หน่วยควำมจำแฟลช (flash memory) ซง่ึ เป็น หน่วยควำมจำทข่ี ้อมูลและคำสัง่ จะไม่ถูกลบหำยไปถึงแม้ว่ำจะปดิ เคร่ืองคอมพวิ เตอรห์ รือไมม่ ีกระแสไฟฟำ้ หล่อเลยี้ งแลว้ ก็ตำมข้อมูล ทีจ่ ดั เกบ็ ในหนว่ ยควำมจำ flash สำมำรถนำมำแกไ้ ขและบันทึกใหม่ ได้หนว่ ยควำมจำประเภทนน้ี ิยมมำใชก้ บั อุปกรณพ์ กพำเช่น คอมพวิ เตอร์พกพำเป็นตน้ 81 81
บทที่ 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 82 หนว่ ยรบั ข้อมลู (Input Unit) กำรรับข้อมลู (Input) หมำยถึงกระบวนกำรป้อนขอ้ มูลคำส่ัง โปรแกรมเข้ำสูเ่ ครื่องคอมพิวเตอรต์ ลอดจนกำรโต้ตอบของผใู้ ช้ โปรแกรมกบั เครอ่ื งคอมพวิ เตอรน์ อกจำกน้ีคำว่ำ input ยงั หมำยถงึ อุปกรณ์ซึง่ สำมำรถป้อนข้อมลู และคำสั่งหรือโปรแกรมเข้ำสเู่ คร่อื ง คอมพวิ เตอร์ไดห้ น่วยรับข้อมูลในระบบคอมพิวเตอรท์ ำหน้ำท่รี บั ขอ้ มูลและโปรแกรมเข้ำสรู่ ะบบโดยผ่ำนทำงอุปกรณร์ บั ข้อมูล อุปกรณ์รบั ขอ้ มลู 1.อุปกรณ์แบบกด – แปน้ อกั ขระ แป้นตวั เลข แป้นฟังก์ชั่น แป้นลูกศร แปน้ ควบคมุ 2.อุปกรณ์ชี้ตาแหนง่ และวาดรปู – เมำส์ ลกู ศรควบคุม แท่งช้ี ควบคุม แผ่นสมั ผสั จอยสติก ระบบปำกกำ เครื่องอ่ำนพิกดั จอภำพสมั ผสั สมุดบนั ทึกดิจิทลั 3.อุปกรณ์วาดข้อมลู – สแกนเนอร์ เครอ่ื งอ่ำนรหสั บำร์โคด้ เครื่องอ่ำนเคร่ืองหมำยดว้ ยแสง เครื่องอ่ำนอักขระด้วยแสง เอ็มไอซีอำร์ อุปกรณ์อ่ำนลำยมือ 82
บท8ท3่ี 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทท่ี 2 4.อุปกรณ์รับขอ้ มลู มัลตมิ เี ดยี – อุปกรณ์รบั ข้อมูลเสยี ง อุปกรณ์รับขอ้ มูลประเภทเสยี งพดู กล้องดิจทิ ัล อปุ กรณร์ ับข้อมูลจำกวดี ิโอ หน่วยแสดงผล (Output Unit) หนว่ ยแสดงผลทำหนำ้ ทแี่ สดงผลลพั ธ์ท่ไี ดจ้ ำกกำรประมวลขอ้ มูล (data) ใหอ้ ยู่ในรปู แบบทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ กำรนำไปใชง้ ำนลกั ษณะ กำรแสดงผลสำมำรถแสดงในรูปแบบของรำยงำนและกรำฟิกซึ่ง สำมำรถพิมพ์ด้วยเคร่ืองพิมพ์หรือแสดงผลผำ่ นทำงจอภำพผลลัพธท์ ี่ อยใู่ นรปู ของส่งิ พมิ พเ์ รียกวำ่ hard copy และแฟ้มขอ้ มลู เรียกว่ำ soft copy นอกจำกนี้ยงั มีกำรแสดงผลในรูปแบบอ่นื ๆอีกเช่นระบบ เสยี ง (audio) และภำพวดิ ีโอ (Video) •รายงาน (Reports) รำยงำนเป็นกำรนำเสนอข้อสนเทศตำม รปู แบบรำยงำนขององค์กำรซ่ึงกำรรำยงำนอำจอยู่ในรปู ของ เอกสำรส่ิงพิมพห์ รอื แสดงผลทำงจอภำพข้อสนเทศ (Information) ทพี่ ิมพ์ในแบบฟอร์มใบส่ังของ (invoice) ก็ถอื วำ่ เป็นรำยงำน เช่นเดยี วกนั รำยงำนสำมำรถจำแนกประเภทตำมลกั ษณะของผใู้ ช้ รำยงำนได้เป็น 2 ประเภทคือ \"รำยงำนสำหรับใช้ภำยในองคก์ ำร (Internal Report) เปน็ รำยงำนท่ีใชส้ ำหรบั พัฒนำคุณภำพกำร 83 83
บทที่ 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 84 ดำเนนิ งำนในองค์กำรเชน่ รำยงำนยอดขำยรำยงำนสินค้ำคงคลัง 1 รำยงำนสำหรบั ใชภ้ ำยนอกองค์กำร (External Report) เป็น รำยงำนท่จี ัดทำเพ่ือใช้กบั บุคคลหรอื หน่วยงำนภำยนอกเช่นใบสง่ั ซ้อื ใบเรยี กเก็บเงนิ ใบเสรจ็ รับเงนิ กราฟกิ (Graphics) คอมพวิ เตอรก์ รำฟิกคือข้อสนเทศทีไ่ ม่อยู่ ในรูปของขอ้ ควำมแต่เปน็ รปู ภำพ (non-text pictorial information) ในระยะแรกๆจะใช้กรำฟ (charts) เพอื่ แสดงผลกำร วิเครำะห์ข้อมลู แต่ปัจจุบันคอมพิวเตอร์กรำฟิกได้พัฒนำอย่ำง รวดเรว็ โปรแกรมสำหรบั งำนด้ำนกรำฟิกไดร้ บั ควำมนยิ มอย่ำง แพร่หลำยในกำรนำมำประยุกต์ใชง้ ำนตกแต่งและออกแบบกำรทำ โฆษณำซงึ่ ภำพคลิปอำร์ต (clip art) กถ็ อื ว่ำเปน็ ภำพกรำฟิก ประเภทหนง่ึ ได้เชน่ กนั ระบบเสียง (Audio) กำรแสดงผลในรปู ของระบบเสียง (audio) หมำยรวมถงึ เสียงทเ่ี ป็นเสียงและดนตรีซง่ึ ผลิตด้วยคอมพวิ เตอร์ อปุ กรณ์ทใ่ี ช้สำหรับแสดงผลในรปู ของเสยี งคือลำโพง (speaker) ซง่ึ จะรบั สัญญำณจำกกำร์ดเสยี ง (sound card) และโปรแกรมดำ้ น เสียง 84
บท8ท5่ี 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทที่ 2 วิดโี อ (Video Output) กำรแสดงผลในรปู ของวดิ โี อจะ ประกอบด้วยภำพที่บนั ทึกด้วยอปุ กรณ์บนั ทกึ ภำพวดิ โี อ (video input device) เช่น VCR หรือกลอ้ งดิจทิ ลั วดิ โี อโดยจะส่งผลไปยัง อปุ กรณ์แสดงผลเช่นจอภำพคอมพิวเตอร์ลักษณะทนี่ ำภำพวดิ โี อมำ ใช้งำน เชน่ กำรประชมุ ทำงไกล อปุ กรณ์แสดงผล 1.จอภำพคอมพวิ เตอร์ – จอภำพสีเดยี ว จอภำพสี จอภำพชนิด แบน 2.เทอร์มินัล – Dumb Terminnal Intellingent Terminnal Special-Purpose Terminnal 3.เครอ่ื งฉำยภำพ 4.ลำโพงและหฟู ัง 5.เครือ่ งพิมพ์ – เครือ่ งพมิ พ์แบบกระทบ เครอื่ งพิมพแ์ บบไมก่ ระทบ 6.เครือ่ งพล็อตเตอร์ 7.อปุ กรณ์แสดงผลไดห้ ลำยหน้ำท่ี 85 85
บทที่ 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 86 หนว่ ยเก็บข้อมลู สารอบ (Secondary Storage Unit) จำกทไ่ี ดอ้ ธบิ ำยมำตอนตน้ แล้ววำ่ แรม (RAM) เป็นหนว่ ยท่เี กบ็ ขอ้ มูลและโปรแกรมภำยใน (Internal storage) หรือเปน็ หน่วยเก็บ ขอ้ มลู และโปรแกรมชั่วครำว (temporary storage) เมอื่ ปิดเครือ่ ง คอมพวิ เตอร์ข้อมลู หรอื โปรแกรมทุกอยำ่ งที่เก็บในแรมจะหำยไป เนือ่ งจำกไม่มกี ระแสไฟฟ้ำหล่อเลี้ยงหน่วยเกบ็ ข้อมลู ประเภทน้จี งึ เรยี กว่ำ volatile ดงั นั้นกำรจัดเกบ็ ข้อมลู อย่ำงถำวรไว้ใชง้ ำนใน ภำยหลงั จงึ จำเปน็ จะต้องมหี น่วยเกบ็ ขอ้ มภำยนอกท่เี รยี กวำ่ external storage หรือ secondary storage หรือ auxiliary storage ซึง่ สำมำรถจัดเก็บข้อมูลสำหรับกำรประมวลผลไวได้ ถงึ แม้วำ่ จะไม่มีกระแสไฟฟำ้ หลอ่ เล้ยี ง (non-volatile) กต็ ำม กระบวนกำรในกำรจัดเกบ็ ข้อมลู เรยี กว่ำกำรเขยี นหรือกำรบนั ทกึ ขอ้ มลู (writing หรอื recording data) เนอื่ งจำกว่ำอุปกรณ์เกบ็ ข้อมลู สำรองจะบันทกึ ขอ้ มลู ในรูปของสื่อตำ่ งๆที่สำมำรถนำมำ เรยี กใชภ้ ำยหลงั ได้กระบวนกำรดงึ ขอ้ มูลมำใช้เรียกว่ำ retrieving data และถ้ำเป็นกำรอ่ำนข้อมูลจะเรยี กว่ำ reading data เพรำะ อปุ กรณ์เกบ็ ข้อมูลสำรองจะอ่ำนข้อมูลและถ่ำยโอนไปยัง หน่วยควำมจำหลกั เพ่ือกำรประมวลผลตอ่ ไปกำรใช้งำน คอมพิวเตอร์ในหนว่ ยงำนต่ำงๆจะมีควำมต้องกำรอุปกรณใ์ นกำร 86
บท8ท7่ี 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทที่ 2 จัดเกบ็ ข้อมูลทแ่ี ตกตำ่ งกันออกไปเชน่ บริษัทประกนั และธนำคำร อำจมคี วำมตอ้ งกำรอุปกรณ์ท่ีสำมำรถจดั เกบ็ ขอ้ มลู ของลกู ค้ำได้ จำนวนมำกในขณะทธี่ ุรกจิ ขนำดกลำงและขนำดย่อมอำจต้องกำร อุปกรณ์ในกำรจัดเกบ็ ข้อมูลไม่มำกนัก ตวั อย่างอุปกรณ์จัดเกบ็ ขอ้ มลู zip High-Capacity Disk Hard Disk Floppy Disk Removable Hard Disk Mobile Storage Meda Compact Disk and DVD Magnetic Tape 87 87
บทท่ี 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 88 คอมพวิ เตอร์ซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์ (Software) หมำยถงึ โปรแกรมหรือชุดคำส่ังท่ี ควบคมุ ใหเ้ ครือ่ งคอมพิวเตอร์ทำงำนให้ได้ผลลพั ธ์ตำมที่ต้องกำร ซอฟตแ์ วรห์ รอื โปรแกรมเขียนขึน้ ด้วยภำษำตำ่ งๆทีม่ นุษย์สร้ำงขน้ึ เชน่ ภำษำเบสกิ (BASIC) ภำษำโคบอล (COBOL) ภำษำปำสคำล (PASCAL) ภำษำ HTML (Hypertext Markup Language) เป็น ตน้ ซอฟต์แวร์แบง่ เปน็ 2 ประเภทคือซอฟตแ์ วรร์ ะบบ (system software) และซอฟตแ์ วรป์ ระยุกต์ (application software ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ (System Software) ซอฟตแ์ วรร์ ะบบหมำยถงึ โปรแกรมหรือคำส่งั ที่ทำหนำ้ ท่ีควบคมุ กำร ปฏิบัตงิ ำนของส่วนประกอบต่ำงๆของคอมพิวเตอร์ฮำรด์ แวร์ ตลอดจนควบคุมกำรส่อื สำรข้อมลู ในระบบเครือข่ำยคอมพิวเตอร์ แบง่ เป็น 2 ประเภท 1. ระบบปฏบิ ัตกิ ำร (Operating System หรือ Os) เป็นชุดคำสง่ั ท่ที ำหน้ำทีเ่ ป็นสื่อกลำงระหว่ำงโปรแกรม ประยุกต์และอุปกรณ์คอมพิวเตอรต์ ัวอย่ำงระบบปฏบิ ัติกำรท่ใี ชใ้ น ปจั จบุ นั เช่นระบบปฏิบัตกิ ำรดอส (Disk Operating System หรอื DOS), Windows 98, Windows 2000, Windows XP, Linux และ UNIX เปน็ ต้น 88
บท8ท9่ี 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทที่ 2 ระบบปฏบิ ตั กิ ำรสำมำรถแบง่ ออกตำมลักษณะกำรทำงำนไดด้ ังน้ี •ระบบปฏิบัติกำรเอม็ เอสดอส (Microsoft Disk Operating Systern หรือ เอ็มเอสดอสเป็นระบบกำรปฏบิ ตั ิกำรทท่ี ำหนำ้ ทด่ี แู ล กำรทำงำนต่ำง ๆ ของระบบเชน่ ควบคุมหนว่ ยควำมจำจอภำพ เครือ่ งพิมพ์และอปุ กรณต์ ่อพว่ งอ่ืนๆโปรยจะทำหน้ำที่ประสำนงำน ใหโ้ ปรแกรมประยุกต์ต่ำงๆทำหน้ำทไ่ี ด้เหมำะสมตำมแรกของระบบ คอมพิวเตอร์เยโปรแกรม FA55 1 M., ไดเ้ หมำะสมตำมคุณสมบตั ิ ของเพลงระบบจะมีลักษณะเดยี วกนั ตดิ ตอ่ กบั ผใู้ ชใ้ นลกั ษณะของ โปรแกรมนั้นๆ •ไมโครซอฟตว์ ินโดวส์ (Microsoft Windows) เปน็ ระบบปฏบิ ัติกำรที่ผลิตโดยบริษัทไมโครซอฟท์กำรทำงำนของระบบ จะมีนัยนำระบบดอสแต่ตำ่ งกันทร่ี ะบบปฏบิ ัติกำรไมโครซอฟต์ วนิ โดวส์จะตดิ ต่อกบั ผู้ใชใ้ นภำพกรำฟกิ ทส่ี วยงำมทเ่ี รียกวำ่ graphical user interface หรือ GUI ผใู้ ชจ้ ะติดต่อกับระบบ วนิ โดวส์ผ่ำนเมนูคำส่ัง (menu) และรปู ภำพทเ่ี ปน็ สญั ลักษณท์ ใี่ ช้ แทนคำสัง่ ซึ่งเรียกว่ำผมสง่ั ซ่งึ เรยี กวำ่ ไอตอน (icon) ไมโครซอฟต์ วินโดวสไ์ ดพ้ ัฒนำประสทิ ธิภำพอยำ่ งต่อเน่ืองและเป็น ระบบปฏิบตั กิ ำรท่มี ีใชม้ ำกท่ีสุดปจั จุบนั ไมโครซอฟต์วนิ โดวส์ท่ใี ช้ งำนอยู่ ได้แก่ Windows 98, Windows SM6. Windows XP, Windows 2000 และ Windows 2003 89 89
บทที่ 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 90 ระบบปฏิบตั กิ ารแบบเปดิ (Open Operating System) บนระบบพฒั นำจำกแนวคิดท่ีตอ้ งกำรใชร้ ะบบปฏิบตั ิกำรกับเคร่อื ง คอมพิวเตอรต์ ่ำงๆไดซ้ งึ่ แต่เดิมกำรใชร้ ะบบปฏบิ ตั ิกำรไม่วำ่ จะเป็น เคร่ืองคอมพิวเตอร์ขนำดใดมักจะยดึ ติดกับระบบปฏบิ ตั พิ ัฒนำขนึ้ สำหรับเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ของบรษิ ัทนน้ั ๆแต่ปจั จบุ นั แนวโนม้ กำร พฒั นำใหร้ ะบบ4สำมำรถใช้งำนรว่ มกับฮำร์ดแวรท์ ี่แตกต่ำงกันได้ แพร่หลำยมำกข้ึนตวั อย่ำงระบบปฏิบัตกิ ำรประเมนิ \"เชน่ ระบบปฏบิ ัตกิ ำรยูนิกซ์ (UNIX) และลีนุกซ์ (Linux) เปน็ ตน้ ตวั แปลภาษาคอมพิวเตอร์ (Translator) กำรพฒั นำ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ผเู้ ขยี นโปรแกรมหรือที่เรยี กวำ่ โปรแกรมเมอร์นน้ั จะเลือกใช้ภำษำให้เหมำะสมกบั ลักษณะงำนและ ควำมถนดั ของผเู้ ขยี นโปรแกรมโปรแกรมทเ่ี ขยี นขึ้นหรือทีเ่ รียกวำ่ โปรแกรมตน้ ฉบับ (source code) จงึ มีลกั ษณะโครงสรำ้ งของ ภำษำท่แี ตกตำ่ งกันออกไปในกำรทำงำนของคอมพิวเตอรน์ ้ัน คอมพวิ เตอร์จะไม่สำมำรถเขำ้ ใจภำษำท่ใี กลเ้ คียงกับภำษำมนษุ ยท์ ี่ เรยี กวำ่ ภำษำระดับสงู เน่ืองจำกคอมพิวเตอรจ์ ะรบั ข้อมลู ทเ่ี ปน็ สัญญำณไฟฟ้ำซ่ึงแทนดว้ ยเลขฐำนสอง (0 หรอื 1) หรือที่เรยี กวำ่ ภำษำเครื่อง (machine language) เทำ่ นน้ั ดงั นน้ั ในกำรส่งั ให้ คอมพิวเตอร์ทำงำนจึงจำเปน็ จะต้องมตี ัวกลำงทีท่ ำหน้ำที่เสมอื น 90
บท9ท1ี่ 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทที่ 2 เป็นนกั แปลภำษำโปรแกรมท่ีนำมำใชเ้ รยี กวำ่ โปรแกรมแปลภำษำ คอมพวิ เตอร์ (translator) ซ่งึ จะทำหน้ำที่แปลภำษำระดับสูงท่เี ปน็ โปรแกรมตน้ ฉบับให้อยู่ในรูปของโปรแกรมเรียกใช้งำนท่เี คร่อื ง คอมพวิ เตอร์เข้ำใจและสำมำรถทำงำนได้ตวั แปลภำษำสำมำรถแบง่ ตำมลักษณะกำรทำงำนได้เป็น 3 ประเภทดงั นี้ คอมไพลอร์ (Compiler) เปน็ ตัวแปลภำษำระดบั สูงเชน่ ภำษำปำสคำลภำษำโค บอลและภำษำฟอรแ์ ทรนให้เปน็ ภำษำเครื่องกำรทำงำนจะใช้ หลักกำรแปลโปรแกรมต้นฉบับทงั้ โปรแกรมให้เปน็ โปรแกรมเรียกใช้ งำน (executable program) ซึง่ จะถูกบันทึกไว้ในลกั ษณะของ แฟม้ ขอ้ มูลหรือไฟล์เม่ือต้องกำรเรียกใชง้ ำนโปรแกรมก็สำมำรถ เรยี กจำกไฟลเ์ รียกใช้งำนโดยไมต่ ้องทำกำรแปลหรอื คอมไพล์อีกทำ ให้กำรทำงำนเปน็ ไปอย่ำงรวดเรว็ ขณะท่ีคอมไพล์โปรแกรมต้นฉบับ ที่เขยี นข้นึ ด้วยภำษำระดบั สูงคอมไพเลอร์จะตรวจสอบโครงสรำ้ ง ไวยำกรณ์ของคำส่ังและข้อมูลท่จี ะใช้ในกำรคำนวณและ เปรียบเทยี บต่อจำกนัน้ คอมไพเลอรจ์ ะสร้ำงรำยกำรขอ้ ผดิ พลำด ของโปรแกรม (program listing) เพอื่ ใชเ้ ก็บโปรแกรมตน้ ฉบับและ คำสั่งที่เขยี นไม่ถูกต้องตำมกฎหรือโครงสร้ำงของภำษำนน้ั ๆไฟลน์ ัน้ มีประโยชนใ์ นกำรช่วยโปรแกรมเมอรใ์ นกำรแกไ้ ขโปรแกรม (debug) 91 91
บทท่ี 2 คอมพิควเอตมอรพ์ใิวนเชตีวอิตรป์ใรนะชจำ�ีววิตันประจำ�วัน 92 อนิ เตอรพ์ รีเตอร์ (Interpreter) เป็นตัวแปลภำษำระดบั สูง เช่นเดยี วกับคอมไพเลอรแ์ ต่จะแปลพร้อมกบั ทำงำนตำมคำส่ังทลี ะ คำสั่งตลอดไปท้ังโปรแกรมทำให้กำรแก้ไขโปรแกรมกระทำไดง้ ำ่ ย และรวดเรว็ กำรแปลโดยใชอ้ นิ เตอรพ์ รเี ตอรจ์ ะไม่สรำ้ งโปรแกรม เรยี กใชง้ ำนดงั นน้ั จะต้องทำกำรแปลใหม่ทุกคร้ังท่ีมีกำรเรยี กใช้งำน ตวั อย่ำงภำษำท่ีใช้ตัวแปลอินเตอรพ์ รีเตอร์เช่นภำษำเบสิก (BASIC) แอสแซมเบลอ (Assembler) เป็นตัวแปลภำษำแอสแซมบลี (assembly) ซ่งึ เปน็ ภำษำระดบั ตำ่ ใหเ้ ป็นภำษำเครอ่ื ง ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ (Application Software) ซอฟต์แวร์ ประยกุ ต์เป็นโปรแกรมท่ีพัฒนำขึ้นเพ่ือให้คอมพวิ เตอร์ทำงำนดำ้ น ต่ำงๆตำมควำมต้องกำรของผูใ้ ช้ซงึ่ ถำ้ โปรแกรมพฒั นำข้ึนเพ่ือควำม ต้องกำรเฉพำะขององค์กำรใดองค์กำรหนงึ่ จะเรยี กซอฟต์แวร์ ประเภทน้วี ำ่ ซอฟต์แวร์เฉพำะงำน (custom program หรอื tailor-made software) ซง่ึ ข้อดีคอื โปรแกรมสำมำรถใช้งำนได้ อย่ำงมีประสทิ ธิภำพตำมควำมประสงค์ของหน่วยงำนแตข่ ้อเสียคือ ซอฟตแ์ วร์ประเภทนีจ้ ะใช้เวลำในกำรพัฒนำนำนและค่ำใช้จ่ำย ค่อนข้ำงสงู ดว้ ยเหตผุ ลดงั กลำ่ วจงึ ไดม้ ีกำรพฒั นำโปรแกรมท่ีใช้ สำหรับงำนทวั่ ๆไปท่เี รยี กวำ่ general-purpose software หรือ 92
บท9ท3่ี 2 คอมพิวเตอครอ์ในมคพชอิวีวมเิตตพอปิวรรเ์ใตะนอจชรีวำ�์ใิตวนปันชระีวจิตำ�ปวันระจำ�วัน บทท่ี 2 บำงคร้ังเรียกวำ่ โปรแกรมสำเรจ็ รูป (packan afare) เป็นซอฟต์แวร์ เชิงพำณชิ ย์ (commercial software) ท่ผี ใู้ ชส้ ำมำรถซอ้ื ไป ประยกุ ตใ์ ช้งำนได้ทนั ทซี อฟต์แวรป์ ระยกุ ตท์ ีน่ ิยมใชส้ ำหรบั งำน ทัว่ ไปสำมำรถแบง่ ตำมประเภทของงำนได้ดังน้.ี 93 93
บทที่ 3 พาณิชอิเลก็ ทรอนกิ ส
บทที่ 3 พาณิชอิเลก็ ทรอนกิ ส
บทที่ 2 พาณิชคออิเมลพ็กิวทเรตออนริก์ใสน์ ชีวิตประจำ�วัน 96 โปรแกรมประมวลผลคา (Word Processor) เป็น โปรแกรมด้ำนกำรจดั ทำเอกสำรนยิ มเรียกสั้นๆวำ่ word ซึ่งเปน็ โปรแกรมที่ไดร้ ับควำมนิยมอยำ่ งแพรห่ ลำยเพ่ือกำรผลิตเอกสำรใน รปู แบบตำ่ งๆเช่นรำยงำนจดหมำยบันทึกขอ้ ควำมหนังสือและ สง่ิ พิมพท์ ่ัวไปโปรแกรมประมวลผลคำในปจั จุบนั มคี วำมสำมำรถใน กำรใสร่ ปู ภำพตำรำงอักษรศิลป์ตำ่ งๆรวมทง้ั ยงั มเี คร่ืองมือช่วยใน กำรทำงำนได้อยำ่ งสะดวกเช่นระบบกำรตรวจตัวสะกดและ ไวยำกรณเ์ ป็นตน้ โปรแกรมประมวลผลคำทีน่ ยิ มใช้ในปจั จุบัน ไดแ้ ก่ โปรแกรม Microsoft Word, WordPerfect และ Lotus Word Pro เป็นต้น •โปรแกรมด้านการคานวณ (Spreadsheet) เปน็ โปรแกรมทม่ี ลี ักษณะตำรำงทำกำร (worksheet) เหมำะสำหรบั งำนกำรคำนวณตัวเลขในรูปแบบตำ่ งๆตำรำงทำกำรประกอบดว้ ย ช่องตำรำงหรอื เซลล์ (cell) ทเ่ี รียงเป็นแถวและคอลัมนส์ ำมำรถ ป้อนข้อมลู ตัวอักษรตวั เลขและสูตรกำรคำนวณได้นอกจำกน้ยี งั สำมำรถใส่รปู ภำพและจดั ทำกรำฟสถติ ิได้อยำ่ งสวยงำมลักษณะงำน ที่ใชซ้ อฟต์แวร์ประเภทน้ีเชน่ กำรทำบญั ชงี บกำไร-ขำดทุนรำยงำน กำรขำยกำรบันทึกคะแนนของนกั ศึกษำตวั อย่ำงซอฟต์แวร์ สำเรจ็ รปู ด้ำนกำรคำนวณ ได้แก่ Microsoft Excel Lotus 1-2-3 และ Quattro Pro เปน็ ต้น 96
บ9ท7ที่ 2 คอมพิวเตอรพ์ใานคณชอิชีวมอิตพิเปลิว็รเกตะทอจรรอำ�์ในวนัินกชสีว์ ิตประจำ�วัน บทท่ี 2 ภาษาคอมพิวเตอร์ (Computer Programming Languages) มนุษยท์ ุกวันนีส้ อื่ สำรกนั ด้วยภำษำทแ่ี ตกต่ำงกันข้ึนอยูก่ ับควำม เป็นมำและสภำพแวดลอ้ มของแต่ละชำตภิ ำษำท่นี ิยมใชส้ ่ือสำรกัน ในปัจจบุ ันนเี้ ชน่ ภำษำองั กฤษภำษำฝรงั่ เศสภำษำสเปน ภำษำเยอรมันภำษำญีป่ ุ่นภำษำจีนและอนื่ ๆกำรส่ือสำรของ คอมพิวเตอร์ทม่ี ีลกั ษณะเช่นเดียวกับกำรส่อื สำรของมนษุ ย์กล่ำวคอื มภี ำษำท่แี ตกตำ่ งกนั จำนวนมำกทส่ี ำมำรถสงั่ ใหค้ อมพวิ เตอรท์ ำงำน ไดเ้ ชน่ ภำษำเบสกิ (BASIC) ภำษำปำสคำล (PASCAL) ภำษำโคบอล (COBOL) และภำษำซี (C) เป็นต้นถึงแม้วำ่ คอมพิวเตอรจ์ ะรับคำสั่ง จำกภำษำคอมพิวเตอร์ทม่ี ีโครงสรำ้ งแตกตำ่ งกนั ไดแ้ ตเ่ น่ืองจำก คอมพวิ เตอร์เป็นอปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกสด์ ังนน้ั กำรรบั คำสั่งในกำร ทำงำนคอมพิวเตอรจ์ ะรบั เป็นสัญญำณไฟฟ้ำทเี่ รียกว่ำ“ ภำษำเคร่ือง” หรือ machine language นัน่ เอง 97 97
บทที่ 2 พาณิชคออิเมลพ็กิวทเรตออนริก์ใสน์ ชีวิตประจำ�วัน 98 ประเภทของภาษาคอมพิวเตอร์ ภำษำเครอ่ื ง ภำษำแอสแซมบลี ภำษำระดับสูง ภำษำระดบั สงู มำก ภำษำธรรมชำติ การเลือกใช้ภาษาคอมพวิ เตอร์ ภำษำทใ่ี ช้ในกำรเขียนคำสงั่ คอมพิวเตอร์มลี ักษณะและ คุณสมบัติเฉพำะของแตล่ ะภำษำดังนนั้ ในกำรทดสนใจเลือกใช้ภำษำ จึงจำเปน็ ท่ีจะต้องคำนึงถึงปจั จยั หลำยประกำรท่ีเก่ียวเนอ่ื งกันโดย ในกำรพิจำรณำน้ันควรจะคำนึงถึงสิง่ ต่อไปน้ี 1. ภำษำมำตรฐำนทใี่ ชใ้ นองค์กำรในแตล่ ะหน่วยงำนจะมี ภำษำคอมพิวเตอรท์ ่ใี ช้พฒั นำโปรแกรมเปน็ มำตรฐำนเพื่อควำม สะดวกในกำรดแู ลระบบและกำรบริหำรงำน 2. ควำมเหมำะสมและคณุ สมบตั ขิ องกำษำนั้นๆแต่ละภำษำได้ถูก ออกแบบมำเพื่องำนเฉพำะอย่ำงเชน่ งำนด้ำนธุรกจิ งำนด้ำน 98
บ9ท9ท่ี 2 คอมพิวเตอรพ์ใานคณชอิชีวมอิตพิเปลิว็รเกตะทอจรรอำ�์ในวนัินกชสีว์ ิตประจำ�วัน บทที่ 2 วทิ ยำศำสตรจ์ ึงควรพิจำรณำถึงลักษณะงำนและคุณสมบตั ิเฉพำะ ของภำษำทน่ี ำมำใช้ด้วย 3. กำรทำงำนรว่ มกับโปรแกรมอ่ืนถ้ำโปรแกรมที่จะพฒั นำจะต้อง นำไปทำงำนร่วมกบั โปรแกรมอ่นื ๆด้วยก่อนลงมือเขียนโปรแกรม ควรเลือกภำษำทเ่ี ขยี นดว้ ยภำษำเดยี วกันหรอื มลี กั ษณะท่ีใกล้เคยี ง กนั เพ่ือใหโ้ ปรแกรมสำมำรถทำงำนรว่ มกนั ได้อยำ่ งมีประสิทธภิ ำพ 4. กำรทำงำนร่วมกับระบบอื่นๆถำ้ โปรแกรมทพ่ี ัฒนำจะต้องทำงำน บนเครอื่ งคอมพิวเตอร์และโปรแกรมที่คณุ สมบัติแตกต่ำงกันควรจะ เลอื กใช้ภำษำทเี่ ป็นภำษำพื้นฐำนเช่นภำษำปำสคำลหรือภำษำจำวำ จริยธรรมและความปลอดภยั คอมพิวเตอร์จะเข้ำมำมีบทบำทต่อกำรดำรงชีวติ ประจำวัน ควำมสำมำรถในกำรจัดเกบ็ ข้อมลู ประมวลผลสำรสนเทศและเป็น เครอื่ งมอื จะเขำ้ มำมีบทบำทต่อกำรดำรงชวี ติ ประจำวนั ของมนษุ ย์ มำกย่งิ ขึ้นเน่ืองจำกคอมพิวเตอรม์ ีกิจกรรมต่ำงๆทงั้ ท่บี ำ้ นท่ีทำงำน โรงเรียนและหนว่ ยงำนธุรกิจมีประสทิ ธภิ ำพสงู ขอมลู ประมวลผล สำรสนเทศและเป็นเครอ่ื งมือกำรสอื่ สำรที่รวดเร็วส่งผลให้กำร ดำเนิน 2-3 ปีข้ำงหน้ำควำมก้ำวหน้ำดำ้ นเทคโนโลกทำงำนโรงเรยี น และหน่วยงำนธรุ กจิ มปี ระสิทธภิ ำพสงู ขน้ึ คำดกำรณ์กนั ไว้ว่ำใน 99 99
บทท่ี 2 พาณิชคออิเมลพ็กิวทเรตออนริก์ใสน์ ชีวิตประจำ�วัน 100 ตำมยำวหนำด้ำนเทคโนโลยคี อมพวิ เตอรจ์ ะมกี ำรพัฒนำใน หลำกหลำยรปู แบบไมว่ ่ำจะเป็นชำวต์แวร์ซอฟต์แวรก์ ำรส่อื สำรและ เครอื ข่ำยแบบไรส้ ำยและเครอื ขำ่ ยเคล่ือนทีต่ ลอดจนเทคโนโลยีดำ้ น หุ่นยนต์มนุษยไ์ ด้คดิ คน้ และพัฒนำเทคโนโลยีอยำ่ งต่อเน่อื งท้ังน้ีเพ่ือ จะไดน้ ำอปุ กรณ์ทำงเทคโนโลยีเหลำ่ นัน้ มำรวยสำนวยควำมสะดวก ลดขั้นตอนกำรทำงำนชว่ ยเพ่ิมคุณภำพชวี ติ หรอื แมแ้ ต่กำรช่วยชวี ิต มนษุ ย์เช่นกำรใชห้ ุ่นยนต์ในกำรเก็บกูร้ ะเบดิ และผำ่ ตัดรกั ษำโรค ถึงแม้ว่ำเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์จะมีประโยชน์มำกเพียงไรกต็ ำม หำกพิจำรณำอีกด้ำนหนึง่ แลว้ คอมพวิ เตอร์ก็อำจจะเปน็ ภยั ได้ เชน่ กนั หำกผู้ใชไ้ ม่ระมดั ระวงั หรือนำไปใชใ้ นทำงที่ไม่ถกู ต้องดังน้นั ในกำรใชง้ ำนคอมพวิ เตอร์รว่ มกนั ในสังคมในแตล่ ะประเทศจึงไดม้ ี กำรกำหนดระเบียบกฎเกณฑ์รวมถงึ กฎหมำยที่ใชเ้ ปน็ แนวทำงใน กำรปฏบิ ตั ิเพื่อใหเ้ กิดคณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในกำรใชเ้ ทคโนโลยี สำรสนเทศ 100
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128