Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore detdanai,+##default.groups.name.manager##,+Pages+from+วารสารปีที่+11+เล่ม1-13.compressed

detdanai,+##default.groups.name.manager##,+Pages+from+วารสารปีที่+11+เล่ม1-13.compressed

Published by kawida6, 2023-08-08 07:09:15

Description: detdanai,+##default.groups.name.manager##,+Pages+from+วารสารปีที่+11+เล่ม1-13.compressed

Search

Read the Text Version

135 ผลของแคโรทีนอยด์ชนิดต่างๆ ต่อการเจรญิ เตบิ โตและการเพิม่ สีในปลาการ์ตนู แดง (Premnas biaculeatus Bloch, 1790) Effects of different carotenoids on growth and pigmentation of Spine-cheek anemonefish (Premnas biaculeatus Bloch, 1790) นงลักษณ ์ สำาราญราษฎร1์ , สมถวิล จรติ ควร1, 1* Nonglak Somranrat1, Somtawin Jaritkhuan1, 1* (Received: October 17, 2017; Revised: November 15, 2017; Accepted; November 20, 2017) บทคัดยอ่ ศกึ ษาผลของการเสริมแคโรทีนอยด์สงั เคราะห์ชนดิ ต่างๆ ในอาหารเล้ียงปลาการต์ ูนแดง วางแผนการทดลองแบบ 6×3 Factorial in CRD เพ่อื ศึกษา 2 ปัจจยั คอื 1 ชนิดของแคโรทีนอยด ์ ได้แก ่ เบต้าแคโรทนี แคนทาแซนทนิ แอสตาแซนทนิ ลูทนี และซแี ซนทนิ ตามลำาดบั โดยอาหารไม่เสริมแคโรทีนอยดเ์ ปน็ สตู รควบคมุ และ 2 ระยะเวลาในการเสริม คอื 1, 2 และ 3 เดอื น เลีย้ งปลาดว้ ยอาหารทีเ่ สริมแคโรทีนอยดแ์ ต่ละชนดิ ในอัตรา 100 มิลลกิ รมั ต่อกโิ ลกรัมอาหาร ชนิดละ 3 ซาำ้ แบบให้กนิ จนอิ่มวนั ละ 2 คร้ัง ทดลองเป็นระยะเวลา 3 เดอื น โดยวัดผลการเจรญิ เติบโตและสบี นผวิ หนังปลาเดือนละครั้ง ผลการศกึ ษา พบว่าปลาทีเ่ ล้ียงดว้ ยอาหารทไี่ มเ่ สริมและเสริมแคโรทีนอยด์ชนิดตา่ งๆ มีน้ำาหนกั ทเี่ พม่ิ ข้ึนตอ่ วัน อตั ราการเจริญเตบิ โตจำาเพาะ อตั รารอดตาย และอตั ราแลกเนอื้ ไม่แตกตา่ งกัน (p>0.05) แต่มีผลตอ่ คา่ ความสว่าง (L*) ค่าความเข้มของเฉดสแี ดง (a*) ค่า ความเขม้ ของเฉดสเี หลือง (b*) ปรมิ าณแคโรทีนอยดร์ วม ชนดิ และปรมิ าณแคโรทนี อยด์ที่สะสมบริเวณผิวหนงั ปลา (p<0.05) โดยผิวหนังปลาการ์ตูนแดงที่ได้รับอาหารที่เสริมแอสตาแซนทินสังเคราะห์ มีความเข้มเฉดสีแดงและมีปริมาณแคโรทีนอยด์ รวมสงู สุด และทาำ ใหผ้ ิวหนงั ปลามลี กั ษณะสีแดงสด ขณะทกี่ ารเสริมลทู ีนและซีแซนทินในอาหารมีผลตอ่ การเพิ่มความเขม้ ของ เฉดสีเหลอื ง ส่วนชนิดและปรมิ าณแคโรทนี อยด์ท่สี ะสมบรเิ วณผิวหนงั ปลาสมั พนั ธ์กบั ชนดิ ของแคโรทนี อยด์ทเี่ สรมิ ในอาหาร ผลของระยะเวลาในการเสรมิ แคโรทนี อยด์ในอาหาร พบวา่ อัตราการเจริญเตบิ โตจำาเพาะและอัตรารอดตายของ ปลาท่ไี ดร้ บั อาหารที่เสริมแคโรทีนอยดม์ คี า่ ลดลง และอตั ราแลกเน้ือมคี ่าเพ่มิ ขึ้นตามระยะเวลาในการเสริมที่นานขึ้น (p<0.05) สว่ นค่าความสว่าง พบว่า มีค่าลดลงเช่นกันแต่ค่าในเดือนที่ 2 และ 3 ไม่แตกต่างกัน (p>0.05) ขณะที่ค่าความเข้มเฉด สีแดง และสีเหลือง ปรมิ าณแคโรทนี อยดร์ วม ชนดิ และปรมิ าณแคโรทีนอยดท์ ส่ี ะสมบรเิ วณผวิ หนังปลามคี ่าเพ่มิ ขึ้นตามระยะ เวลาการเสริมที่นานขึน้ แต่ในเดอื นท่ ี 2 และ 3 มคี ่าไมแ่ ตกตา่ งกัน (p>0.05) สรปุ ได้วา่ ปลาการต์ ูนแดงทีไ่ ด้รบั อาหารเสรมิ แอสตาแซนทินสังเคราะห ์ เปน็ เวลา 2 เดอื น ทำาให้มีการเพ่ิมของสีแดงบรเิ วณผวิ หนงั ปลามากที่สดุ คาำ สาำ คญั : ปลาการต์ ูนแดง แคโรทนี อยด์ การเจรญิ เตบิ โต การเพิ่มสี 1, 1* ภาควชิ าวารชิ ศาสตร ์ คณะวิทยาศาสตร ์ มหาวทิ ยาลยั บรู พา 1, 1* Department of Aquatic Science, Faculty of Science, Burapha University 1* ผนู้ พิ นธ์ประสานงาน : [email protected] 1* Corresponding author: [email protected]

136 Abstract This study aimed to examine the effects of dietary supplementation with various synthetic carotenoid type in spine-cheek anemone fish. A 6x3 factorial experiment was conducted to determine two factors. First factor was 5 different carotenoid types: carotene, canthaxanthin, astaxanthin, lutein, and zeaxanthin. A non-carotenoid supplemented diet was assigned as control. Second factor was supplementation time, which consisted in 1, 2 and 3 months of diet time. Fish diet contained each 100 mg/kg of carotenoid with 3 replications, to satiation, twice a day. Experiment was carried out for 3 months, in which growth and skin color were evaluated monthly. Results revealed the following. Non-significant differences were observed in: a) average daily gain, b) specific growth rate, c) survival rate, and d) feed conversion ratio between fish fed with non-carotenoid supplemented diet and fish fed with each carotenoid (p>0.05). However, brightness (L*), redness (a*), yellowness (b*), total carotenoid, type and content of carotenoid accumulated in fish skin were significantly affected (p<0.05). Skin of fish fed with supplemented astaxanthin diet showed the highest redness and total carotenoids. Meanwhile, dietary supplementation with lutein and zeaxanthin increased yellowness values. Types and contents of carotenoid accumulated in fish skin were related to type of carotenoid supplement in diet. Values in supplementation time had shown significantly lower specific growth rate, survival rate, and higher feed conversion ratio when supplemented time increased (p<0.05). Brightness also showed a decreasing trend, but non-significant difference was observed between month 2 and 3 (p>0.05). Meanwhile, redness, yellowness, total carotenoids, types and contents of carotenoid accumulated in fish skin showed an increasing trend in time, but non-significant differences were observed between month 2 and 3 (p>0.05). Synthetic astaxanthin was mostly an efficient carotenoid source for enhancing redness of spine-cheek anemone fish skin in a 2-month supplementation period of time as it made redness of skin the highest. Keywords: Spine-cheek anemonefish, Carotenoid, Growth, Pigmentation บทนาำ ปลาการต์ ูนแดงเป็นปลาทะเลสวยงามที่นิยมเลยี้ งอย่างแพร่หลาย มสี ีท่ีหลากหลาย ปลาขนาดเล็กมีสีแดงสดจนถงึ แดงก่ำา (Fenner, 2005) ปลาการต์ นู แดงมคี วามคล้ายกบั ปลาการ์ตูนทองมาก ต่างกนั ท่บี รเิ วณแถบพาดขวางลาำ ตวั มสี ขี าวและ เป็นแถบเล็กๆ และมสี ่วนของสแี ดงสดกวา่ ปลาการ์ตนู ทอง จากการเพาะเล้ยี งปลาการต์ นู พบวา่ ปลามีสซี ีดลง หรอื มีสสี นั ไมต่ รง ตามความต้องการของตลาด การเปลย่ี นแปลงดังกล่าวเกดิ จากการทำางานของเซลล์ผวิ หนังทม่ี ีแคโรทีนอยด์เปน็ องค์ประกอบ ซึ่งปลาเปลย่ี นสสี นั เพอ่ื ปรับให้เขา้ กับสภาพแวดลอ้ ม และตอบสนองตอ่ สง่ิ เร้าเมื่อมีอาการตืน่ เตน้ หรือขณะเก้ยี วพาราส ี (Hoar & Randall, 1989) เน่ืองจากปลาไม่สามารถสังเคราะห์แคโรทนี อยด์ไดเ้ องจาำ เป็นตอ้ งได้รับจากอาหารโดยตรง (Goodwin, 1951) การเสรมิ แคโรทีนอยด์ในอาหารจึงเป็นแนวทางสำาคญั ท่ชี ่วยใหป้ ลาการ์ตนู แดงมีสสี ันตรงกับความตอ้ งการของตลาดโดย เฉพาะสีเหลือง สสี ้ม และสีแดง อย่างไรก็ตาม แคโรทนี อยดแ์ ต่ละชนดิ มปี ระสิทธภิ าพการใช้งานในสตั ว์นาำ้ (bioavailability) แตกต่างกนั (Yeum & Russell, 2002) ปลาสามารถเก็บเม็ดสที ไ่ี ด้รบั จากอาหารไวภ้ ายในตัวหรือเปล่ียนเป็นแคโรทีนอยดใ์ น รปู สอี น่ื ๆ ขน้ึ อยกู่ บั กระบวนการเมทาบอลซิ มึ ภายในตวั ของปลาชนดิ นน้ั ๆ แคโรทนี อยด ์ มบี ทบาทสาำ คญั ตอ่ ขบวนการเมทาบอลซิ มึ

137 ของปลา เนอ่ื งจากสามารถเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการใชป้ ระโยชนจ์ ากสารอาหารและอาจสง่ ผลทาำ ใหก้ ารเจรญิ เตบิ โตของปลาเพม่ิ สงู ขน้ึ (Amar., Kiron, Satoh & Watanabe, 2001) และสาำ คญั ตอ่ ระบบการสบื พนั ธอ์ุ กี ดว้ ย (Miki, 1991) นอกจากนแ้ี คโรทนี อยด์ สงั เคราะห์ต่างชนดิ กันอาจใหส้ ใี นสัตว์น้าำ ต่างกัน ขน้ึ อยกู่ ับชนิดของสัตวน์ า้ำ การศกึ ษาชนดิ ของแคโรทนี อยด์ท่ีมีผลต่อการเพิ่ม สบี รเิ วณผิวหนังของปลา red porgy พบวา่ เกิดจากการใชแ้ อสตาแซนทินในรูปของเอสเตอร ์ และรปู อิสระจากแหลง่ ตา่ งๆ (Chatzifotis, Pavlidis, Jimeno, Vardanis, Sterioti & Divanach, 2005) การศึกษาของ Kanokrung, Watanadilok, Muthuwan, & Santawanpas (2013) ศกึ ษาผลการสะสมสารสแี คโรทนี อยดใ์ นปลาการต์ นู สม้ ขาว พบวา่ เสรมิ แอสตาแซนทนิ ที ่ 35 มลิ ลิกรมั ตอ่ กิโลกรัม มีผลต่อการสะสมเบตา้ แคโรทีน ลูทีน และเซียแซนทิน ปจั จุบนั มกี ารจาำ หนา่ ยอาหารสำาเร็จรปู สำาหรับ ปลาทะเลสวยงาม แต่เนอ่ื งจากปลาการต์ นู แต่ละชนดิ มสี ีสนั แตกตา่ งกัน ดังน้นั ความต้องการสารอาหารเพอ่ื เพม่ิ สจี งึ แตกต่างกนั สาำ หรบั ปลาการต์ นู แดงยงั ไมม่ ขี อ้ มลู รายงานถงึ ชนดิ อาหาร และระยะเวลาการเลย้ี งทเ่ี หมาะสม รวมถงึ สารสที เ่ี หมาะสมในการเสรมิ ในอาหารเพ่อื ใหไ้ ดส้ ีปลาตรงตามความต้องการของผเู้ ล้ียง การศึกษาครั้งนี้จึงมุ่งให้ทราบถึงชนิดของแคโรทีนอยด์สังเคราะห์และระยะเวลาที่ปลาได้รับแคโรทีนอยด์ต่อการ เจริญเติบโต อัตรารอด อัตราแลกเนือ้ และการเพมิ่ สีของปลาการต์ นู แดง เพื่อใหป้ ลามีสสี วยงามตรงกับความต้องการของ ตลาด ถือเป็นการปรับปรงุ คณุ ภาพผลผลิต และเพิ่มมูลค่าปลาการต์ ูนแดงเพ่อื การสง่ ออก และเป็นข้อมลู พนื้ ฐานในการผลิต อาหารท่ชี ว่ ยเพิม่ สใี นปลาทะเลสวยงามต่อไปในอนาคต วตั ถุประสงคก์ ารวจิ ัย เพอ่ื ทราบถึงชนิดของแคโรทนี อยดส์ ังเคราะหแ์ ละระยะเวลาทปี่ ลาไดร้ บั แคโรทนี อยด์ต่อการเจรญิ เติบโต อตั รารอด อัตราแลกเนือ้ และการเพิ่มสีของปลาการ์ตนู แดง ระเบียบวิธีวิจัย การเตรยี มอาหาร อาหารทีใ่ ช้ในการทดลอง ม ี 6 สตู ร ประกอบด้วย สูตรที ่ 1 คืออาหารเม็ดท่ไี ม่เสริมแคโรทีนอย์ (สตู รควบคุม) สตู รท่ ี 2 ถงึ สูตรท่ ี 6 คอื อาหารเม็ดที่เสริมแคโรทีนอยดส์ งั เคราะห์ต่างชนิดกนั ทค่ี วามเข้มขน้ 100 มิลลิกรัมตอ่ กโิ ลกรัมอาหาร ไดแ้ ก่ เบต้าแคโรทีน (สูตรท ี่ 2) แคนทาแซนทิน (สูตรที่ 3) แอสตาแซนทิน (สตู รท่ ี 4) ลทู นี (สูตรท่ี 5) และซีแซนทนี (สูตรที่ 6) ดัง ตารางท ี่ 1 อาหารถกู อัดเม็ดด้วยเครอื่ งบดอาหารความเร็วรอบ 146 รอบต่อนาที เสน้ ผ่านศูนย์กลางขนาดเมด็ อาหารประมาณ 1 มลิ ลิเมตร ทำาให้แหง้ ด้วยเครือ่ งทาำ แห้งเยอื กแขง็ สญู ญากาศ (Freeze dryer : ยี่หอ้ Help รุน่ LyoPro 6000-55.) จากนนั้ นาำ มาคดั แยกขนาดผ่านตะแกรงร่อนขนาด 1000 ไมครอน จงึ นาำ อาหารเกบ็ ไวท้ ่อี ุณหภูม ิ –20 องศาเซลเซยี ส อาหารสว่ นหน่ึงนำา ไปวิเคราะหอ์ งค์ประกอบทางเคม ี ไดแ้ ก ่ วิเคราะห์โปรตนี ด้วยเทคนิค Combustion method (TruSpec Carbon/Nitrogen Determination) ยีห่ ้อ LECO ไขมนั โดยใช้เทคนิค Supercritical Fluid Extraction (SFE) ด้วยเครอ่ื ง Fat Extractor TFE2000 ยห่ี อ้ LECO ความชน้ื และเยื่อใย ตามวิธขี อง AOAC (2005) ชนิดและปริมาณแคโรทีนอยด์ดว้ ยเครือ่ ง HPLC ยห่ี ้อ Alliance ร่นุ Waters 2695 ซ่ึงองค์ประกอบทางเคมขี องอาหารแสดงในตารางท่ี 2

138 ตารางท่ี 1 สว่ นประกอบของอาหารทดลองแต่ละสตู ร (กรัม/ 100 กรัมอาหาร) วัตถดุ บิ (กรัม) สูตรอาหาร 123456 ปลาปน่ 60 60 60 60 60 60 กากถ่ัวเหลือง 11.5 11.4 11.4 11.4 11.3 11.3 หวดี กลเู ท่น 555555 แปง้ สาลี 15 15 15 15 15 15 นำ้ามนั ปลาทูนา่ 555555 วิตามนิ ผสม 1 222222 แร่ธาตผุ สม 2 วติ ามินซี 80 % 111111 เบต้าแคโรทีน 10 % (BASF) 3 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5 แคนทาแซนทนิ 10 % (BASF) 4 แอสตาแซนทนิ 10 % (BASF) 5 0.1 ลทู นี 5 % (BASF) 6 0.1 ซแี ซนทีน 5 % (BASF) 7 0.1 0.2 0.2 รวม 100 100 100 100 100 100 หมายเหต:ุ 1 วติ ามินผสมประกอบด้วยวติ ามิน (ปรมิ าณกรัมต่อกโิ ลกรมั วติ ามนิ ผสม) ดงั ตอ่ ไปนี ้ thiamine (B1) 23.47; Ribo- flavin (B2) 25; Niacin 37.07; Vitamin E 50% 80; Pyridoxine HCl 54.55; Ca-D-Pantothenate (B5) 25; Inositol 98; Biotin 25; Folic Acid 2.1; Cyanocobalamin (B12) 0.6; Menadione (K 50 %) 26; Vitamin C 80 % 85.71; Oholine Chloride 50 % 300; Vitamin A/D3 2.3 และ Cellulose 215.20 FeSO4 : Z23n เSแบOรต่ธ4า้ าแ:ต คCุผโuสรSมทO นี ปส4 รงั: ะเMคกรอnาบSะดหO้ว ์ 4ปย =รเก ะ1ลก.อือ0แ:บ ร1ดใ่.้ว0นย:อ เ1ัตบ.ร5ตา:้า สแ0ว่ .ค5นโ:ด ร0ทงั .ต0นี 0่อ 61ไ30ป: น เ0ป ้ี .Kอ0ร0H์เ7ซ24P็น:O ต04์ .:0 ช0Cื่อ1ทa3Hา:ง P0กO.า0ร40.ค25า้H5 L2Ou:c aNroatHin2P@O 14.02 H%2O fe :e dK Cจาl ก: บริษทั BASF 4 แคนทาแซนทนิ สงั เคราะห์ ประกอบด้วยแคนทาแซนทนิ 10 เปอรเ์ ซน็ ต์ ช่ือทางการคา้ Lucantin@ Red จากบรษิ ัท BASF 5 แอสตาแซนทนิ สงั เคราะห ์ ประกอบดว้ ยแอสตาแซนทนิ 10 เปอรเ์ ซน็ ต ์ ชื่อทางการคา้ Lucantin@ Pink จาก บรษิ ัท BASF 6 ลทู ีนสังเคราะห ์ ประกอบดว้ ยลูทีน 5 เปอร์เซ็นต ์ ชอ่ื ทางการคา้ Lutein 5 % DC จากบริษัท BASF 7 ซีแซนทีน สงั เคราะห์ ประกอบด้วยซีแซนทีน 5 เปอรเ์ ซน็ ต ์ ชอื่ ทางการคา้ Zeaxanthin 5 % DC จากบริษทั BASF

139 ตารางท่ี 2 องคป์ ระกอบทางเคมขี องอาหารทดลอง (% นาำ้ หนกั แหง้ ) และปรมิ าณแคโรทนี อยดท์ ว่ี ดั ไดใ้ นอาหารทดลองแตล่ ะสตู ร (มก./1 กก. อาหาร) วตั ถดุ บิ (กรัม) สูตรอาหาร 123456 โปรตีนรวม 53.94 53.93 53.30 53.69 54.06 53.66 ไขมันรวม 12.30 12.70 12.45 12.76 12.57 12.93 คารโ์ บไฮเดรต 14.61 14.59 14.96 14.64 14.69 14.66 เยอ่ื ใย 1.06 1.13 0.95 1.08 1.10 1.11 เถ้า 18.09 17.65 18.35 17.83 17.59 17.64 ความชน้ื (%) 7.26 7.24 7.13 7.20 7.21 7.39 เบต้าแคโรทนี (มก./กก.) แคนทาแซนทิน (มก./กก.) 112 แอสตาแซนทิน (มก./กก.) 108 ลทู นี (มก./กก.) 110 ซแี ซนทีน (มก./กก.) 110 108 การดำาเนนิ การทดลอง นาำ ลกู ปลาการต์ นู แดงนำ้าหนกั เฉลยี่ ประมาณ 0.15 กรมั ความยาวเฉลีย่ (Total length) ประมาณ 2 เซนติเมตร อายุ ประมาณ 1 เดอื น จาำ นวน 540 ตัว ทดลองในตกู้ ระจกความจุน้าำ 50 ลติ ร นำา้ ทะเลทม่ี คี วามเค็ม 30 พีพีที จำานวน 54 ตู ้ ๆ ละ 10 ตัว แต่ละตู้มีหัวทราย 2 จดุ เพอื่ ให้อากาศ กอ่ นเริม่ การทดลองนาำ ลูกปลามาอนุบาลด้วยอาหารสำาเรจ็ รปู สตู รพ้ืนฐานเปน็ เวลา 15 วัน และก่อนทดลองทาำ การวัดสีปลาทุกตวั วางแผนการทดลองแบบสมุ่ ตลอด (Completely Randomized Design; CRD) แบ่งการทดลองเปน็ 6 ทรตี เมนต ์ ๆ ละ 3 ซ้ำา ระหวา่ งทดลองใหอ้ าหารจนอ่ิมวนั ละ 3 ม้ือ ในเวลาประมาณ 09.00 น. 11.00 น. และ 15.00 น. ท่รี ะยะเวลา 1, 2 และ 3 เดือน จะเกบ็ ตวั อยา่ งปลาทุกตัวภายในตู้ทดลอง มาชัง่ นาำ้ หนกั และวัดการเปล่ียนแปลง ของสี กอ่ นทจี่ ะทำาการชัง่ น้าำ หนกั และวดั สบี รเิ วณตวั ปลา มกี ารวางยาสลบทาำ ให้ปลาเกดิ อาการสูญเสียความรู้สึกบางส่วนหรอื ทงั้ หมดดว้ ยยาสลบ Quinaldine (2-Methylquinoline) ที่ความเขม้ ข้น 100 พีพีเอม็ และวัดการเปลีย่ นแปลงของสบี ริเวณ ผวิ หนังปลาด้วยเคร่ืองวัดสี (Colorimeter) ย่หี ้อ Minolta color reader รนุ่ CR-10 โดยวัดสบี ริเวณกลางลำาตวั อ่านค่าใน ระบบ CIE (L*a*b*) โดยค่า L* คือคา่ ความสวา่ ง ค่า a* คอื ความเขม้ เฉดสแี ดง และค่า b* คือความเขม้ เฉดสีเหลอื ง ตาม วธิ ีการของ Choubert & Luquet (1983) นำาปลาทุกตวั ทีส่ ลบแล้วมาแช่ทตี่ ู ้ -80 องศาเซลเซียสเพอื่ รอการวิเคราะหห์ าปริมาณ แคโรทนี อยดร์ วม และชนดิ แคโรทีนอยด์ ตามวิธกี ารดดั แปลงของ Britton, Liaaen-Jensen and Pfander (1995) ตรวจ วเิ คราะห์คุณภาพน้าำ สปั ดาห์ละครง้ั ในตเู้ ลี้ยงปลา วดั ค่าความเปน็ กรดเป็นเบส ด้วยเคร่อื งpH meter ย่ีห้อHACH วิเคราะห์ ความเป็นดา่ ง ตามวิธีของ APHA, AWWA and WPCF (1985) ปรมิ าณออกซิเจนทลี่ ะลายในน้ำาโดยใชเ้ ครื่อง DO meter ยหี่ อ้ YSI 58 วดั ปริมาณไนไตรท์ และแอมโมเนยี รวม ตามวธิ ขี อง Strickland and Parsons (1972) อุณหภูมวิ ัดโดยใช้เคร่อื ง Thermometer และ ความเคม็ ด้วยเครือ่ ง Salinometer วิเคราะห์หาความแปรปรวนขอ้ มูลทางสถติ แิ บบสองทาง (Two–way ANOVA) ปัจจยั ท่ี 1 คอื ชนดิ ของแคโรทีนอยด์ ปจั จยั ท ่ี 2 คอื ระยะเวลาทป่ี ลาไดร้ บั แคโรทนี อยด ์ และเปรยี บเทยี บความแตกตา่ งระหวา่ งสตู รอาหารดว้ ยวธิ ี Tukey’s HSD test

140 ทรี่ ะดับความเชือ่ ม่นั ที่ 95 % ของขอ้ มลู อตั ราการเพ่ิมนำา้ หนกั ต่อวัน อัตราการเจรญิ เติบโตจำาเพาะ อัตรารอด อตั ราแลกเน้อื ค่า ความสวา่ ง คา่ ความเข้มเฉดสแี ดง คา่ ความเขม้ เฉดสีเหลือง ปรมิ าณแคโรทนี อยด์รวม และชนิดแคโรทีนอยด์ท่ีสะสมบริเวณ ผิวหนังปลา ด้วยโปรแกรมสำาเร็จรูปทางสถติ ิ ผลการทดลองและอภปิ รายผลการทดลอง 1. การเจริญเติบโต อตั รารอด และอตั ราการแลกเนอ้ื จากการเลย้ี งปลาด้วยอาหารท้ัง 6 สตู ร โดยแบ่งระยะเวลาการเล้ียง คอื 1, 2 และ 3 เดอื น พบว่าอาหารท้งั 6 สูตร และระยะเวลาการเลย้ี งไม่มีอทิ ธพิ ลรว่ ม (interaction) ต่ออัตราการเพมิ่ น้ำาหนักตอ่ วนั อัตราการเจรญิ เติบโตจาำ เพาะ อัตรารอด และอัตราแลกเน้ือ (p>0.05) โดยพบวา่ ปลาท่เี ลย้ี งดว้ ยอาหารท้งั 6 สตู รมคี ่าอตั ราการเพมิ่ นาำ้ หนักตอ่ วัน อัตราการเจริญเติบโต จาำ เพาะ อัตรารอด และอัตราแลกเน้อื มีค่าอยู่ในชว่ ง 9.06-10.18 มลิ ลกิ รัมตอ่ วนั , 1.66–1.85 เปอร์เซน็ ตต์ อ่ วัน, 93.33–96.66 % และ 2.50–2.76 ตามลำาดับ เม่อื วิเคราะหท์ างสถติ ิพบวา่ ไม่มีความแตกตา่ งกนั (p>0.05) (ตารางท ี่ 3) เมอ่ื พิจารณาระยะเวลา ของการเลย้ี งปลาด้วยอาหารแตล่ ะสตู รในเดือนที ่ 1, 2 และ 3 พบว่าอัตราการเพ่มิ น้ำาหนักต่อวันไมแ่ ตกตา่ งกันตามระยะเวลา ของอาหารแตล่ ะสูตร ในขณะที่ปลาการ์ตูนแดงท่เี ลยี้ งด้วยอาหารเสริมแคโรทนี อยด์สังเคราะห์ชนดิ ตา่ ง ๆ และชดุ ควบคมุ ใน เดอื นที่ 1 มีอัตราการเจริญเติบโตจาำ เพาะดที สี่ ุด เชน่ เดยี วกับอตั ราแลกเนื้อ สว่ นอตั รารอดในเดือนท่ี 1 และ 2 มอี ัตรารอด ดีที่สดุ เนอ่ื งจากเมอื่ เพิ่มระยะเวลาการเลยี้ งสง่ ผลให้อัตราการเจริญเตบิ โตของปลาค่อย ๆ ลดลง และสง่ ผลต่ออตั รารอดทาำ ให้ อัตราแลกเน้ือสงู ขึน้ ตามระยะเวลาเล้ยี งในอาหารแตล่ ะสูตร (ภาพท่ ี 1) เม่อื พิจารณาชนิดของแคโรทนี อยด์สงั เคราะห์ พบว่า ไม่มผี ลต่ออัตราการเพ่มิ นา้ำ หนักต่อวนั อตั ราการเจริญเตบิ โตจาำ เพาะ, อตั รารอดตาย และอตั ราแลกเน้ือ เนื่องจากแคโรทีนอยด์ สงั เคราะหม์ คี ณุ คา่ ทางโภชนาการในสตู รอาหารไมแ่ ตกตา่ งกนั มโี ปรตนี 54% และไขมนั 12% สอดคลอ้ งกบั Seyedi, Sharifpour, Ramin, & Jamili (2013) ทีศ่ กึ ษาการเสรมิ แอสตาแซนทนิ สงั เคราะห์ในอาหารด้วยความเข้มข้น 180 และ 270 มลิ ลิกรมั ต่อ กโิ ลกรัมอาหาร พบว่าอาหารทเี่ สรมิ สารดงั กลา่ วไมม่ ผี ลต่อการเจริญเติบโตของปลาการ์ตนู สม้ ขาว และ Boonyaratpalin, Thongrod, Supamattaya, Britton & Schlipalius (2001) พบว่าอาหารเสริมสาหรา่ ยดนู าเอลลา่ และแอสตาแซนทนี สงั เคราะห ์ ไมม่ ผี ลตอ่ นำา้ หนกั เฉลย่ี อัตรารอด และเปอร์เซ็นต์นา้ำ หนักเพ่มิ ของกงุ้ กุลาดำา ในขณะท่ ี Lakehi, Ahmadi, Safi, Ytrestoyl & Bjerkeng (2010) พบว่าอาหารท่เี สริมแอสตาแซนทินสงั เคราะห์มีผลตอ่ อตั ราการเจรญิ เตบิ โตของแม่พันธ์ปุ ลา เรนโบว์เทร้า แต่ไมม่ ีผลตอ่ อัตรารอด และอาหารผสมสารสีสังเคราะห์ Astaxanthin และ Canthaxanthin ไม่ส่งผลตอ่ การ เจริญเติบโตและอตั ราการรอดตายในปลาแซลมอล Atlantic ขนาดเลก็ และวัยรนุ่ (Christiansen & Torrissen, 1996) และ ไมม่ ผี ลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตในปลาเตรทตรา้ Hyphessobrycon callistus (Yi-Juan Wang, Yew-Hu Chien & Chih-Hung Pan, 2006)

141 ตารางที่ 3 อตั ราการเพมิ่ นา้ำ หนกั ต่อวัน (DWG) อตั ราการเจริญเตบิ โตจำาเพาะ (SGR) อตั รารอด (Survival) และ อัตราแลกเน้ือ (FCR) ของปลาการต์ นู แดงท่ีเลีย้ งดว้ ยอาหารสูตรต่างๆ เป็นเวลา 3 เดือน Parameter DWG (mg/day) SGR (%/day) Survival (%) FCR Reared period (Factor A) 9.37±0.66a 2.08±0.17a 100.00±0.00a 1.96±0.19c 1 month 9.47±0.56a 1.68±0.09b 97.22±4.60a 2.79±0.23b 10.01±1.85a 1.46±0.17c 88.33±7.07b 3.14±0.51a 2 month 3 month Diet (Factor B) 9.06±0.85a 1.66±0.33a 95.55±5.27a 2.76±0.689a Basal diet 9.98±0.99a 1.85±0.36a 95.55±7.26a 2.50±0.60a Basal diet + beta-carotene 9.68±1.66a 1.69±0.24a 96.66±5.00a 2.60±0.61a Basal diet + canthaxanthin 9.33±1.30a 1.70±0.30a 95.55±5.27a 2.71±0.70a Basal diet + astaxanthin 9.46±1.10a 1.71±0.28a 93.33±11.18a 2.71±0.63a Basal diet + lutein 10.18±1.01a 1.81±0.27a 94.44±7.26a 2.50±0.46a Basal diet + zeaxanthin P value Two-way ANOVA 0.261 0.000 0.000 0.000 Factor A Factor B 0.429 0.083 0.750 0.510 Factor A * Factor B 0.879 0.909 0.151 0.882 ค่าเฉลี่ยที่มตี ัวอักษรเหมอื นกนั กำากับไม่มคี วามแตกต่างกนั ทางสถิติทรี่ ะดับความเชือ่ มัน่ 95 % (P>0.05) ภาพท่ี 1 อัตราการเจริญเตบิ โตจาำ เพาะ (SGR) อตั รารอด (Survival) และ อัตราแลกเนื้อ (FCR) ท่เี ลย้ี งด้วยอาหารชุดควบคุม (A) อาหารท่เี สริมเบตา้ แคโรทนี สงั เคราะห์ (B) อาหารที่เสริมแคนทาแซนทนิ สังเคราะห์ (C) อาหารทเี่ สริมแอสตาแซนทินสังเคราะห ์ (D) อาหารที่เสรมิ ลูทีนสังเคราะห์ (E) และอาหารที่เสริมซแี ซนทนิ สังเคราะห์ (F) ระยะเวลา 3 เดอื น

142 2. ผลของแคโรทีนอยด์ชนดิ ต่างๆ และระยะเวลาที่ปลาได้รบั ตอ่ การเปลย่ี นแปลงสบี ริเวณผิวหนงั จากการเล้ยี งปลาด้วยอาหารทั้ง 6 สตู ร โดยแบ่งระยะเวลาการเลยี้ ง คือ 1, 2 และ 3 เดอื น พบวา่ สตู รอาหารและระยะ เวลาการเลี้ยงมีอิทธพิ ลร่วม (interaction) ตอ่ คา่ ความสวา่ ง (L*) คา่ ความเข้มเฉดสแี ดง (a*) คา่ ความเขม้ เฉดสเี หลือง (b*) และปรมิ าณแคโรทีนอยด์รวม (p<0.05) โดยค่าความสวา่ งอยู่ในช่วง 35.24– 38.85 เมอ่ื วิเคราะหท์ างสถิติพบวา่ มีความแตก ตา่ งกัน (p<0.05) โดยระยะเวลาการเลยี้ งทเ่ี พมิ่ ข้ึน คา่ ความสวา่ งมีแนวโนม้ ลดลง แตม่ ีค่าใกลเ้ คยี งกนั ในเดือนที่ 2 และ 3 สว่ น คา่ ความเข้มเฉดสแี ดง คา่ ความเข้มเฉดสีเหลอื ง และปรมิ าณแคโรทีนอยด์รวม พบอยู่ในชว่ ง 11.26–13.93, 15.10–16.50 และ 51.08–80.68 มลิ ลิกรัมตอ่ กิโลกรมั ตามลำาดับ โดยมีแนวโน้มเพ่มิ ขึ้นตามระยะเวลาการเลยี้ ง และในเดือนท ี่ 2 และ 3 มคี ่าไม่ แตกตา่ งกัน (p>0.05) (ตารางท่ี 4) สอดคล้องกับ Doolan, Booth, Jones & Allan (2008) ที่รายงานว่าการเสริมแอสตาแซนทนิ สงั เคราะหใ์ หป้ ลา Australian snapper (Pagrus auratus) ทาำ ใหค้ วามเขม้ ของเฉดสแี ดงมีค่าเพิม่ ข้ึน ส่วนความเข้มของเฉด สเี หลอื งมคี ่าเพมิ่ ขน้ึ ในทางเดยี วกนั แต่ต่าำ กว่าคา่ ความเข้มของเฉดสีแดงเม่ือเล้ยี งเป็นเวลา 21 วนั และความเข้มของเฉดสแี ดง และสเี หลอื ง มีค่าเพม่ิ ขนึ้ ปริมาณมากภายใน 42 วัน และหลังจาก 63 วนั พบวา่ การเพม่ิ ข้นึ ของสีไม่แตกต่างกัน Ho, Shea & Pomeroy (2013) ศกึ ษาผลของแอสตาแซนทนิ ในอาหารตอ่ การเกดิ ส ี และการสะสมของแคโรทนี อยดข์ องลกู ปลาการต์ นู สม้ ขาว พบ วา่ ปลาทใ่ี หอ้ าหารเสรมิ แอสตาแซนทนิ สงั เคราะห ์ 80 และ 160 มลิ ลกิ รมั ตอ่ กโิ ลกรมั อาหารชว่ ยปรบั ปรงุ สสี นั ปลาไดด้ ี การเพม่ิ ความ เขม้ ขน้ ของแอสตาแซนทนิ และระยะเวลาใหอ้ าหารทเ่ี พม่ิ ขน้ึ สง่ ผลใหค้ วามเขม้ ขน้ ของแคโรทนี อยดใ์ นผวิ หนงั เพม่ิ ขน้ึ ดว้ ย จากการทดลองครง้ั น ้ี พบวา่ ปลาที่เล้ียงด้วยอาหารท้งั 6 สูตรมคี า่ ความสว่าง ค่าความเข้มเฉดสีแดง คา่ ความเข้มเฉด สีเหลอื ง และปริมาณแคโรทีนอยดร์ วม แตกต่างกัน (p<0.05) โดยค่าความสว่าง พบอยู่ในชว่ ง 31.0–45.80 อาหารชดุ ควบคมุ มคี า่ มากทีส่ ดุ และอาหารท่เี สรมิ แอสตาแซนทินสังเคราะหม์ คี า่ น้อยที่สุด คา่ ความเข้มเฉดสีแดง พบอยใู่ นช่วง 8.23–17.04 โดย อาหารเสรมิ แอสตาแซนทินสังเคราะห์มคี า่ มากท่ีสดุ สว่ นคา่ ความเข้มเฉดสีเหลือง พบอยู่ในช่วง 11.59–18.31 โดยอาหารที่เสริม ลทู นี สังเคราะห์มีคา่ มากทส่ี ดุ สว่ นปริมาณแคโรทนี อยดร์ วม พบอยใู่ นช่วง 41.80–110.64 มิลลกิ รมั ต่อกิโลกรัม พบว่าสตู ร อาหารเสริมแอสตาแซนทนิ สงั เคราะห์มีคา่ มากทส่ี ุด สตู รอาหารชุดควบคุมมคี า่ น้อยที่สดุ (ตารางท่ ี 4) สอดคลอ้ งกับ Lakehi, Ahmadi, Safi, Ytrestoyl & Bjerkeng (2010) ที่ศึกษาการเสรมิ แอสตาแซนทินสังเคราะหใ์ นอาหารแมพ่ ันธ์ปุ ลาเรนโบวเ์ ทรา้ พบวา่ อาหารทเ่ี สรมิ แอสตาแซนทินมีผลต่อแคโรทีนอยด์รวม และจากการทดลองครงั้ นพี้ บว่าปลาการต์ นู แดงท่ีได้รับอาหารเสริม แอสตาแซนทนิ สังเคราะห์ มผี ลทำาใหค้ วามเข้มเฉดสแี ดงบริเวณผิวหนังปลาเพ่ิมมากที่สดุ โดยทค่ี า่ ความสวา่ งลดลง สว่ นปลาท่ี ไดร้ ับอาหารเสริมลูทีน และซีแซนทิน พบว่าค่าความเข้มของสเี หลอื งมากกว่าชดุ การทดลองอ่ืน (ภาพที่ 2) ทาำ ใหผ้ ิวหนงั ปลามี ลกั ษณะสเี หลอื งและสสี ้ม (ภาพท ี่ 3) สำาหรับปริมาณแคโรทีนอยดร์ วม พบวา่ ปลาการต์ ูนแดงทไี่ ด้รับอาหารเสรมิ แอสตาแซนทนิ สังเคราะห์มีปริมาณแคโรทีนอยด์รวมสูงสุด สอดคล้อง Idahah & Jian (2010) พบวา่ การเสรมิ แอสตาแซนทินในอาหารทาำ ให้ ปลาการต์ ูนสม้ ขาวมีสีแดงบริเวณผิวหนงั เพม่ิ ข้ึน โดยในสปั ดาหท์ ี่ 1 พบแอสตาแซนทนิ แต่สปั ดาห์ที่ 5 พบซีแซนทินสะสมบริเวณ ผิวหนงั ซงึ่ ผลท่ไี ด้แตกตา่ งจากการศกึ ษาในคร้งั นีท้ ่ีพบวา่ เม่ือเสริมแอสตาแซนทนิ ในอาหารจะไม่พบการเพ่มิ ขนึ้ ของซีแซนทนิ สะสมบริเวณผิวหนงั (ตารางที่ 4)

143 ตารางท่ี 4 คา่ ความสว่าง (L*) คา่ ความเขม้ เฉดสแี ดง (a*) คา่ ความเขม้ เฉดสีเหลือง (b*) และปรมิ าณแคโรทนี อยด์รวม ของ ปลาการ์ตูนแดงท่เี ลยี้ งด้วยอาหารสูตรต่างๆ เปน็ เวลา 3 เดือน Parameter Lihgtness Redness Yellowness Totalcarotenoid (mg/kg) Reared period (Factor A) 38.85±2.77a 11.26±1.80b 15.10±1.62b 51.08±5.53b 1 month 35.24±2.68b 13.77±3.49a 16.16±2.31a 79.35±3.84a 35.25±3.42b 13.93±3.96a 16.50±3.07a 80.68±5.25a 2 month 3 month Diet (Factor B) 45.80±2.27a 8.23±0.68f 11.59±0.97e 41.80±2.24e Basal diet 37.99±2.27b 11.19±1.34e 16.53±1.59b 50.98±2.41d Basal diet + beta-carotene 35.44±2.92c 15.64±2.81b 15.94±0.77c 63.83±2.48c Basal diet + canthaxanthin 31.00±3.87e 17.04±2.36a 15.33±0.95d 110.64±4.93a Basal diet + astaxanthin 34.47±2.03cd 11.98±0.63d 18.31±0.78a 65.10±3.02c Basal diet + lutein 33.78±2.71d 13.83±1.61c 17.81±1.23a 89.87±4.51b Basal diet + zeaxanthin P value Two-way ANOVA Factor A 0.000 0.000 0.000 0.000 Factor B 0.000 0.000 0.000 0.000 Factor A * Factor B 0.000 0.000 0.000 0.000 คา่ เฉลยี่ ท่มี ีตวั อกั ษรเหมอื นกนั กาำ กบั ไมม่ ีความแตกต่างกนั ทางสถิตทิ ่รี ะดบั ความเช่ือมัน่ 95 % (P>0.05) 3. ชนดิ และปริมาณแคโรทนี อยด์ที่สะสมบริเวณผิวหนงั ปลา จากการเลีย้ งปลาด้วยอาหารทงั้ 6 สตู ร โดยแบ่งระยะเวลาการเลีย้ ง คือ 1, 2 และ 3 เดือน พบวา่ สตู รอาหารและระยะ เวลาการเลยี้ งมอี ิทธพิ ลร่วม (interaction) ตอ่ การสะสมแอสตาแซนทนิ แคนทาแซนทิน เบตา้ แคโรทนี ลูทนี และซีแซนทนิ บรเิ วณ ผวิ หนงั ปลา (p<0.05) ดังตารางท ี่ 5 โดยพบว่าระยะเวลาการเลี้ยงระหว่างเดอื นท ่ี 1, 2 และ 3 มีความแตกตา่ งกัน (p<0.05) การ สะสมแอสตาแซนทนิ แคนทาแซนทิน เบต้าแคโรทนี ลทู นี และซีแซนทนิ มีแนวโน้มเพมิ่ ขน้ึ ตามระยะเวลาเล้ียง โดยมคี า่ อยูใ่ น ช่วง 3.47–8.64, 5.05–6.53, 1.32–1.55, 5.86–10.86 และ 14.25–19.71 มลิ ลกิ รัมตอ่ กโิ ลกรมั ตามลาำ ดับ เมอื่ วิเคราะหท์ างสถติ ิ พบว่าปลาที่เลีย้ งดว้ ยอาหารสูตรตา่ งกันมคี ่าสารสบี รเิ วณผิวหนังแตกตา่ งกัน (p<0.05) (ตารางท ี่ 5) สอดคลอ้ งกบั งานวจิ ยั ของ Torrisen, Hardy & Shearer (1989) ทศี่ กึ ษาเมทาบอลิซมึ ของแคโรทนี อยด์ในปลาแซลมอน พบวา่ แอสตาแซนทินและแคนตา แซนทินเปน็ องค์ประกอบทาำ ใหเ้ กดิ การเปลีย่ นแปลงสบี ริเวณผวิ หนงั เนอ้ื และครีบเปน็ สีแดงสม้ เปน็ ผลมาจากแอสตาแซนทนิ และการศกึ ษาในปลา gilthead seabeam (Sparus aurata) พบว่าหลงั จากให้อาหารเสรมิ แอสตาแซนทนิ แล้ว พบลทู ีนสะสม บริเวณผวิ หนังปลา แสดงวา่ ปลาชนดิ น้ีสามารถเปลย่ี นแอสตาแซนทนิ ไปเปน็ ลทู ีนได้ (Gomes, Dias & Silva, et al, 2002) ส่วน Katayama, Shintani & Chichester (1973) พบว่าการแสดงออกของสีแดงในปลาคาร์ฟเป็นแคโรทนี อยด์ชนิดแอสตา แซนทิน เนื่องจากปลาคาร์ฟสามารถเปลี่ยนลูทีนและซีแซนทินเป็นแอสตาแซนทินเช่นเดียวกับปลาทอง และ Yuangsoi, Jintasataporn, Tabthipwon & Kamel (2010) พบว่าปลาคาร์ฟมกี ารดูดซมึ แอสตาแซนทินได้รวดเร็วกวา่ ลทู นี และเบต้า แคโรทีน และปลาคารฟ์ สามารถเปลย่ี นลทู ีนและเบตา้ แคโรทีนไปเปน็ แอสตาแซนทินได้ อยา่ งไรก็ตาม การศึกษาครงั้ น้พี บว่า

144 สารสีที่มปี รมิ าณมากบรเิ วณผวิ หนังปลาแปรผันตามอาหารที่เสรมิ สารสนี ัน้ ๆ ไดแ้ ก่การสะสมแอสตาแซนทนิ ท่ผี ิวหนังปลามคี ่า มากทีส่ ุดเม่ือเลีย้ งดว้ ยอาหารท่เี สรมิ แอสตาแซนทินสงั เคราะห ์ (37.70 มิลลกิ รัมตอ่ กิโลกรัม) เปน็ ต้น (ภาพท ี่ 4) ภาพท่ี 2 คา่ ความสวา่ งของส ี (L*), คา่ เฉดสแี ดง (a*), คา่ เฉดสเี หลอื ง (b*) และ ปรมิ าณแคโรทนี อยดร์ วม (Total carotenoid) ที่ เล้ียงด้วยอาหารชุดควบคมุ (A) อาหารทเี่ สริมเบต้าแคโรทนี สังเคราะห ์ (B) อาหารที่เสริมแคนทาแซนทนิ สังเคราะห์ (C) อาหารที่เสรมิ แอสตาแซนทินสังเคราะห ์ (D) อาหารทเ่ี สรมิ ลูทีนสังเคราะห์ (E) และอาหารท่ีเสรมิ ซแี ซนทนิ สงั เคราะห์ (F) ระยะเวลา 3 เดอื น ภาพท่ี 3 การแสดงออกของสบี รเิ วณผิวหนังของปลาการต์ นู แดงทีเ่ ล้ียงดว้ ยอาหารชุดควบคมุ (A) อาหารทเี่ สรมิ เบต้าแคโรทีน สงั เคราะห ์ (B) อาหารทเ่ี สรมิ แคนทาแซนทนิ สงั เคราะห ์ (C) อาหารทเ่ี สรมิ แอสตาแซนทนิ สงั เคราะห ์ (D) อาหารทเ่ี สรมิ ลทู นี สังเคราะห์ (E) และอาหารที่เสริมซแี ซนทินสงั เคราะห ์ (F) เดอื นท่ ี 3

145 ตารางที่ 5 ชนดิ และปริมาณแคโรทีนอยด์ที่สะสมบริเวณผิวหนังปลาการ์ตูนแดงท่ีเล้ียงด้วยอาหารสตู รตา่ งๆ เปน็ เวลา 3 เดอื น Parameter Astaxanthin Canthaxanthin Beta-carotene Lutein Zeaxanthin (mg/kg) (mg/kg) (mg/kg) (mg/kg) (mg/kg) Reared period (Factor A) 3.47±1.89b 5.05±1.48b 1.32±0.55b 5.86±1.78b 14.25±1.67b 1 month 7.68±1.77a 6.03±1.73a 1.48±0.97a 9.35±1.11a 19.05±2.26a 8.64±1.42a 6.53±1.08a 1.55±1.44a 10.86±2.46a 19.71±2.51a 2 month 3 month Diet (Factor B) 0.32±0.27b 1.26±0.35b 1.22±0.19c 1.89±0.64b 7.41±2.44c Basal diet 0.32±0.22b 1.24±0.65b 3.29±1.17a 1.76±0.43b 10.07±2.64b Basal diet + beta-carotene 0.31±0.08b 28.51±2.10a 0.53±0.02e 1.30±0.13c 7.18±0.53c Basal diet + canthaxanthin 37.70±2.11a 1.41±0.65b 0.84±0.33d 0.93±0.39cd 5.97±1.69c Basal diet + astaxanthin 0.31±0.03b 1.25±0.57b 1.10±0.11c 43.36±2.11a 6.92±1.77c Basal diet + lutein 0.64±0.10b 1.56±0.46b 1.73±0.36b 0.87±0.23d 68.47±3.65a Basal diet + zeaxanthin P value Two-way ANOVA 0.000 0.000 0.008 0.000 0.000 Factor A Factor B 0.000 0.000 0.000 0.000 0.000 Factor A * Factor B 0.000 0.000 0.000 0.000 0.000 คา่ เฉลย่ี ทีม่ ีตวั อักษรเหมือนกันกาำ กับไมม่ คี วามแตกตา่ งกนั ทางสถติ ทิ ีร่ ะดบั ความเช่ือมัน่ 95 % (P>0.05) ภาพที่ 4 ปรมิ าณแคโรทีนอยดช์ นดิ ตา่ งๆ ไดแ้ ก ่ แอสตาแซนทนิ (A), แคนทาแซนทิน (B), เบต้าแคโรทนี (C), ลทู ีน (D) และ ซีแซนทนี (E) ท่ีสะสมบรเิ วณผวิ หนงั ปลาทเี่ ลีย้ งดว้ ยอาหารชุดควบคมุ (1) อาหารที่เสรมิ เบตา้ แคโรทีนสังเคราะห์ (2) แคนทาแซนทินสังเคราะห ์ (3) แอสตาแซนทนิ สังเคราะห ์ (4) ลทู นี สังเคราะห ์ (5) และซแี ซนทินสงั เคราะห ์ (6) ระยะเวลา 3 เดอื น

146 คุณภาพนาำ้ คณุ ภาพนาำ้ ในตเู้ ลย้ี งปลามคี า่ อณุ หภมู อิ ยใู่ นชว่ ง 25-28 องศาเซลเซยี ส ออกซเิ จนละลายนาำ้ 6.27-6.50 mg/l ความเคม็ 26-30 พีพีท ี ความเป็นกรดเปน็ ดา่ ง 7.8-8.0 ความเป็นด่าง 89-110 mgCaCO3/l แอมโมเนยี รวม 0.11-0.15 mg/l และไนไตรท์ 0.055-0.088 mg/l สรุป การเสรมิ แคโรทนี อยดส์ งั เคราะห์ชนดิ ต่างๆ ในอาหารปลาการ์ตนู แดง พบว่าไม่มผี ลตอ่ การเจรญิ เตบิ โต อัตรารอด และอตั ราแลกเนอื้ แต่มผี ลตอ่ การเปลยี่ นแปลงของสีบริเวณผิวหนังปลา การเสริมแอสตาแซนทินสังเคราะห์ชว่ ยเพ่มิ สีของปลา การ์ตนู แดงได้ดีทส่ี ดุ เพราะเม่ือเสริมแอสตาแซนทนิ ในอาหารทาำ ให้ความเข้มของสีแดง บรเิ วณผวิ หนงั ปลามคี ่ามากกวา่ ทกุ ชุด การทดลอง และมีการสะสมของแอสตาแซนทินบรเิ วณผวิ หนงั ปลาเพมิ่ มากที่สุดด้วยเชน่ กัน และเม่อื พจิ ารณาถงึ ผลของระยะ เวลาในการเสริมแคโรทีนอยด์ในอาหารพบว่าอตั ราการเจริญเติบโตจาำ เพาะและอตั รารอดตายของปลาทไ่ี ด้รับอาหารท่ีเสรมิ แคโร ทนี อยด์มีค่าลดลง และอัตราแลกเน้ือมีคา่ เพมิ่ ขน้ึ ตามระยะเวลาในการเสรมิ ท่นี านขึน้ สว่ นคา่ ความสวา่ งพบวา่ มีค่าลดลงเช่นกนั แตค่ ่าในเดือนที่ 2 และ 3 ไมแ่ ตกตา่ งกนั ขณะทคี่ ่าความเข้มเฉดสแี ดง ความเข้มเฉดสเี หลือง ปริมาณแคโรทีนอยดร์ วม ชนิด และปริมาณแคโรทนี อยดท์ สี่ ะสมบรเิ วณผวิ หนังปลามีค่าเพม่ิ ข้นึ ตามระยะเวลาการเสรมิ ที่นานขึ้น แตใ่ นเดอื นที่ 2 และ 3 มีคา่ ไม่แตกต่างกนั การทดลองน้สี รปุ ได้วา่ ปลาการต์ นู แดงท่ไี ดร้ ับอาหารเสรมิ แอสตาแซนทินสงั เคราะห ์ เป็นเวลา 2 เดอื น ทาำ ให้มี การเพ่มิ ของสแี ดงบริเวณผิวหนงั ปลามากท่สี ุด เมือ่ ทราบว่าปลาการต์ ูนแดงสามารถใชแ้ หลง่ แคโรทีนอยด์จากแอสตาแซนทนิ แนวทางการศกึ ษานา่ จะหาแหล่งสารสจี ากธรรมชาตมิ าทดแทนสารสสี งั เคราะห์ เพอื่ ประหยัดตน้ ทนุ การผลิตอาหารปลาเพ่อื เพ่มิ สีต่อไปในอนาคต ขอ้ เสนอแนะ เม่ือทราบว่าปลาการต์ ูนแดงสามารถใชแ้ หล่งแคโรทีนอยดจ์ ากแอสตาแซนทิน แนวทางการศึกษาตอ่ ไปน่าจะหาแหลง่ สารสจี ากธรรมชาติมาทดแทนสารสีสังเคราะห ์ เพื่อประหยดั ตน้ ทนุ การผลติ อาหารปลาเพ่ือเพมิ่ สตี อ่ ไปในอนาคต และศกึ ษา ความเข้มข้นและระยะเวลาท่ีเหมาะสมของการเสริมแอสตาแซนทินสังเคราะห์ในปลาการ์ตูนแดงเพ่ือประหยัดเวลาในการเลี้ยง และประหยดั ต้นทนุ ได้อกี ทางหนง่ึ ดว้ ย กติ ติกรรมประกาศ งานวจิ ยั นไ้ี ดร้ บั การสนบั สนนุ ทนุ วทิ ยานพิ นธน์ สิ ติ ระดบั บณั ฑติ ศกึ ษา คณะวทิ ยาศาสตร ์ มหาวทิ ยาลยั บรู พา ผวู้ จิ ยั ขอขอบคณุ มา ณ ทน่ี ้ี ขอขอบคณุ ศนู ยว์ จิ ยั และพฒั นาเทคโนโลยอี าหารสตั วน์ าำ้ ชลบรุ ี และภาควชิ าวารชิ ศาสตร ์ คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั บูรพา ทอ่ี ำานวยสถานท่ีในการทดลอง รายการอ้างองิ (References) Amar, E.C., Kiron, V., Satoh, S. & Watanabe, T. (2001). Influence of various dietary synthetic carotenoids on bio-defence mechanisms in rainbow trout, Oncorhynchus mykiss (Walbaum). Aquaculture Research, 32, 162–163. APHA, AWWA & WPCF. (1985). Standard Methods for the Examination of Water and Wastewater. (16th ed.). Washington, D.C.: American Public Health Association.

147 Association of Official Analytical Chemists (AOAC). (2005). Animal feed. In: Horwitz, W.(Ed.), Official Methods of Analysis of AOAC International, (18th ed.) AOAC International, Maryland, 1-48. Boonyaratpalin, M., Thongrod, S., Supamattaya, K., Britton, G. & Schlipalius, L. E. (2001). Effects of B-carotene source, Dunaliella salina, and astaxanthin on pigmentation, growth, survival and health of Penaeus monodon. Aquaculture Research, 31, 182-190. Britton, G., Liaaen-Jensen, S. & Pfander, H. (1995). Carotenoids Vol.1B. Spectroscopy. Birkhauser Verlag, 360. Chatzifotis, S., Pavlidis, M., Jimeno, C., Vardanis, G., Sterioti A. & Divanach, P. (2005). The effect of different carotenoid sources on skin coloration of cultured red porgy (Pagrus pagrus). Aquaculture Research, 36, 1517–1525. Choubert, G. & Luquet, P. (1983). Utilization of shrimp shell meal for rainbow trout (Salmo gairdneri Rich.) pigmentation. Influence fat content of the diet. Aquaculture, 32, 19–26. Christiansen, R. & Torrissen, O.J. (1996). Growth and survival of Atlantic salmon, Salmo salar L. fed different dietary levels of astaxanthin. Juveniles. Aquaculture Nutrition, 2, 55–62. Doolan, B. J., Booth, M. A., Jones, P. L., & Allan, G. L. (2008). Effects of dietary astaxanthin concentration and feeding period on the skin pigmentation of Australian snapper (Pagrus auratus) (Bloch & Schneider, 1801). Aquaculture Research, 40, 60 – 68. Fenner, B. (2005). Premnas biaculeatus - The Maroon Clownfish. SeaScope, Aquarium Systems, Inc., 22(1), 1-3. Gomes, E., Dias, J., Silva, P., Valente, L., Empis, J., Gouveia, L., et al. (2002). Utilization of natural and synthetic source of carotenoids in the skin pigmentation of gilthead seabeam (Sparus aurata). European Food Research and Technology, 214, 287-293. Goodwin, T.W. (1951). Carotenoids in fish. New York: Chen. Publ. Co. Inc. Ho, A. L. F. C., Shea, O. S. K. & Pomeroy, H. F. (2013). Dietary esterified astaxanthin effects on color, carotenoid concentrations, and compositions of clown anemonefish, Amphiprion ocellaris, skin. Aquaculture International, 21, 361-374. Hoar, W.S. & Randall, D. J. (1989). Fish Physiology III. New York: Academic Press. Idahah, Y. & Jian, G. Q. (2010). Effect of Dietary Carotenoids on Skin Color and Pigments of False Clownfish, Amphiprion ocellaris, Cuvier. World Aquaculture Society, 41, 308-318. Kanokrung, A., Watanadilok, R., Muthuwan, V. & Santawanpas, S. (2013). Effects of dietary protein, lipid and astaxanthin levels on growth and carotenoid accumulation in anemone fish, (Amphiprion ocellaris). Journal of Science, Technology, and Humanities, 11(2), 95-103 Katayama, T., Shintani, K. & Chichester, C.O. (1973). The biosynthesis of astaxanthin. Comparative Biochemistry and Physiology, 448, 253 – 257. Lakehi, A. B., Ahmadi, M. R., Safi, S., Ytrestoyl, T. & Bjerkeng, B. (2010). Growth performance, mortality and carotenoid pigmentation of fry offspring as affected by dietary supplementation of astaxanthin to female rainbow trout (Oncorhynchus mykiss) broodstock. Applied Ichthyology, 26, 35–39.

148 Miki W. (1991). Biological functions and activities of animal carotenoids. Pure and Applied Chemistry, 63, 141-146. Seyedi, S.M., Sharifpour, I., Ramin, M. & Jamili, S.H. (2013). Effect of Dietary Astaxanthin on Survival, Growth, Pigmentation Clownfish, Amphiprion ocellaris, Cuvier. Indian Journal of Fundamental and Applied Life Sciences, 3(3), 391-395. Strickland, J. D. H. & Parsons, T. R. (1972). A Practical Handbook of Seawater Analysis. (2nd ed.). Ottawa: Fisheries Research Board of Canada. Torrisen, O. J., Hardy, R. W. & Shearer, K. D. (1989). Pigmentation of salmonids-carotenoid deposition and metabolism. Reviews in Aquatic Science, 1, 209-225. Yeum, K. J. & Russell, R. M. (2002). Carotenoid bioavailability and bioconversion. Annual Review of Nutrition, 22, 483-504. Yi-Juan Wang, Yew-Hu Chien & Chih-Hung Pan. (2006). Effects of dietary supplementation of carotenoids on survival, growth, pigmentation, and antioxidant capacity of characins, Hyphessobrycon callistus. Aquaculture, 261, 641–648. Yuangsoi, B., Jintasataporn, O., Tabthipwon, P. & Kamel, C. (2010). Utilization of Carotenoids in Fancy Carp (Cyprinus carpio): Astaxanthin, Lutein and ß-carotene. World Applied Sciences, 11(5), 590-598.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook