การศึกษาสถานภาพสถานศึกษา กำรศึกษำสถำนภำพเป็นกำร ศึกษำวิเครำะห์ ถึง ปัจจยั ท่ีส่งผลกระทบตอ่ สิ่งน้นั ๆ เพื่อเป็นเคร่ืองมือในกำรประเมิน สภำพว่ำเป็นอยำ่ งไร และควรพฒั นำไปในทิศทำงใด หรือกลำ่ วอกี นยั หน่ึงไดว้ ำ่ เป็นกำรสำรวจหำขีดควำมสำมำรถเพอ่ื ใชใ้ น กำรวำงแผน สำหรับข้นั ตอนกำรศึกษำสถำนภำพ มีดงั น้ี 1. วิเครำะหภ์ ำรกิจและผลผลิตหลกั 2. วิเครำะหส์ ภำพแวดลอ้ ม(ภำยใน,ภำยนอก) 3. ประเมนิ สถำนภำพสถำนศึกษำ 4. ทิศทำงของสถำนศึกษำ 5. กำหนดกลยทุ ธ์ 1. การวิเคราะห์ภารกจิ และผลผลิตหลัก ภำรกิจของสถำนศึกษำ (Assigned mission) คือ จดั กำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำนใหป้ ระชำชนไดร้ ับกำรศึกษำอยำ่ งทว่ั ถึง และมีคณุ ภำพ ผทู้ ี่สำเร็จกำรศึกษำเป็นคนดี คนเก่ง และอยใู่ นสังคมไดอ้ ยำ่ งมีควำมสุข สถำนศึกษำตอ้ งตระหนกั ในภำรกิจ หลกั โดยมุ่งกำหนดเป้ำหมำย วำงแผน และดำเนินกำรสู่ควำมสำเร็จ ซ่ึงกำรกำหนดเป้ำหมำยและกิจกรรมดำเนินงำนตอ้ ง คำนึงถึงกฎหมำย นโยบำย และควำมคำดหวงั ของผทู้ ี่เกี่ยวขอ้ ง เพือ่ ใชใ้ นกำรวำงแผนกลยทุ ธ์ของสถำนศึกษำ ผลผลิตหลกั (Outputs) คือ ส่ิงของหรือบริกำรที่เป็นรูปธรรมหรือรับรู้ไดท้ จี่ ดั ทำโดยหน่วยงำนของรัฐเพื่อให้ บุคคลภำยนอกไดใ้ ชป้ ระโยชน์ ส่งผลใหเ้ กิดผลลพั ธท์ ่ีรัฐบำลคำดหวงั ตำมนโยบำยของรัฐ ซ่ึงกำหนดมำจำกควำมตอ้ งกำร ของประชำชนและสงั คม สำหรับผลผลิตหลกั ของสถำนศึกษำของสำนกั งำนพ้นื ท่ีกำรศึกษำกรุงเทพมหำนคร เขต 1 คือ กำร จดั กำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำนให้กบั เดก็ ในวยั เรียน ประกอบดว้ ย ผจู้ บกำรศึกษำก่อนประถมศึกษำ ผจู้ บกำรศึกษำภำคบงั คบั ผจู้ บ กำรศึกษำมธั ยมศึกษำตอนปลำย เดก็ พกิ ำรไดร้ ับกำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำนและพฒั นำสมรรถภำพ และเด็กดอ้ ยโอกำสไดร้ ับ กำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำน ซ่ึงจะเห็นวำ่ เดก็ ในวยั เรียนเป็นกลุม่ เป้ำหมำยของผลผลิตหลกั และตวั ช้ีวดั ควำมสำเร็จของกำรจดั กำรศึกษำ 2. การวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT Analysis) กำรวเิ ครำะห์สภำพแวดลอ้ มเป็นกำรวเิ ครำะหส์ ภำพองคก์ ำร หรือหน่วยงำนในปัจจบุ นั เพอ่ื คน้ หำจดุ แขง็ จุดจดุ อ่อน โอกำส อุปสรรค หรือสิ่งท่ีอำจเป็นปัญหำสำคญั ในกำรดำเนินงำนสู่สภำพท่ีตอ้ งกำรในอนำคต SWOT เป็นตวั ยอ่ ท่ีมี ควำมหมำยดงั น้ี S ยอ่ มำจำก Strengths หมำยถึง จดุ แขง็ (ขอ้ ไดเ้ ปรียบ) W ยอ่ มำจำก Weaknesses หมำยถึง จุดอ่อน (ขอ้ เสียเปรียบ) O ยอ่ มำจำก Opportunities หมำยถึง โอกำส (ปัจจยั ทจ่ี ะส่งผลใหส้ ำมำรถดำเนินกำรได)้ T ยอ่ มำจำก Threats หมำยถึง อปุ สรรค (ปัจจยั ท่ีคุกคำมกำรดำเนินงำน) หลกั การสาคญั ของการวเิ คราะห์สภาพแวดล้อม หลกั กำรสำคญั คือ กำรวเิ ครำะหโ์ ดยกำรสำรวจจำกสภำพกำรณ์ 2 ดำ้ น คือ สภำพกำรณ์ภำยในและสภำพกำรณ์ ภำยนอก ดงั น้นั กำรวิเครำะห์ SWOT จึงเรียกไดว้ ่ำเป็นกำรวิเครำะห์สภำพกำรณ์ (Situation Analysis) ซ่ึงเป็นกำรวเิ ครำะห์ จดุ แขง็ จดุ ออ่ น เพื่อใหร้ ู้ตนเอง (รู้เรำ) รู้จกั สภำพแวดลอ้ ม (รู้เขำ) ชดั เจน และวเิ ครำะหโ์ อกำส-อปุ สรรค กำรวิเครำะหป์ ัจจยั ต่ำง ๆ ท้งั ภำยนอกและภำยในสถำนศึกษำ ซ่ึงจะช่วยใหผ้ บู้ ริหำรของสถำนศึกษำทรำบถึงกำรเปลีย่ นแปลงตำ่ ง ๆ ที่เกิดข้ึน ภำยนอกสถำนศึกษำ ท้งั สิ่งท่ีไดเ้ กิดข้ึนแลว้ และแนวโนม้ กำรเปล่ียนแปลงในอนำคต รวมท้งั ผลกระทบของกำรเปลี่ยนแปลง จดั ทำโดย นำยผไท อุทมุ สกลุ รัตน์ ปฏิบตั ิหนำ้ ท่ีในตำแหน่งรองผูอ้ ำนวยกำรกลมุ่ นโยบำยและแผนพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ
เหลำ่ น้ีที่มตี ่อสถำนศึกษำธุรกิจ และจดุ แขง็ จดุ อ่อน และควำมสำมำรถดำ้ นต่ำง ๆ ที่สถำนศึกษำมีอยู่ ซ่ึงขอ้ มูลเหล่ำน้ีจะเป็น ประโยชนอ์ ยำ่ งมำกตอ่ กำรกำหนดวสิ ยั ทศั น์ กำรกำหนดกลยทุ ธแ์ ละกำรดำเนินตำมกลยทุ ธข์ องสถำนศึกษำระดบั สถำนศึกษำ ท่ีเหมำะสมตอ่ ไป ประโยชน์ของการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม กำรวเิ ครำะห์สภำวะแวดลอ้ ม เป็นกำรวิเครำะหส์ ภำพแวดลอ้ ม ท้งั ภำยนอกและภำยในสถำนศึกษำ ซ่ึงปัจจยั เหล่ำน้ี แตล่ ะอยำ่ งจะช่วยใหเ้ ขำ้ ใจไดว้ ำ่ มีอทิ ธิพลต่อผลกำรดำเนินงำนของสถำนศึกษำอยำ่ งไร จดุ แขง็ ของสถำนศึกษำจะเป็น ควำมสำมำรถภำยในที่ถกู ใชป้ ระโยชน์เพือ่ กำรบรรลเุ ป้ำหมำย ในขณะทีจ่ ุดอ่อนของสถำนศึกษำจะเป็นคณุ ลกั ษณะภำยใน ท่ี อำจจะทำลำยผลกำรดำเนินงำน โอกำสทำงสภำพแวดลอ้ มจะเป็นสถำนกำรณ์ท่ีใหโ้ อกำสเพ่ือกำรบรรลุเป้ำหมำยสถำนศึกษำ อปุ สรรคทำงสภำพแวดลอ้ มจะเป็นสถำนกำรณ์ท่ีขดั ขวำงกำรบรรลเุ ป้ำหมำยของสถำนศึกษำ ผลจำกกำรวิเครำะหส์ ภำวะ แวดลอ้ มน้ี จะใชเ้ ป็นแนวทำงในกำรพฒั นำไปในทำงที่เหมำะสม ข้นั ตอน / วธิ กี ารดาเนินการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม กำรวเิ ครำะห์สภำวะแวดลอ้ ม จะครอบคลมุ ขอบเขตของปัจจยั ท่ีกวำ้ ง ดว้ ยกำรระบุจุดแขง็ จดุ อ่อน โอกำสและ อุปสรรค ของสถำนศึกษำ ทำให้มีขอ้ มลู ในกำรกำหนดทศิ ทำงหรือเป้ำหมำยทีจ่ ะถกู สร้ำงข้นึ มำบนจดุ แขง็ ของสถำนศึกษำ และแสวงหำประโยชนจ์ ำกโอกำสทำงสภำพแวดลอ้ ม และสำมำรถ กำหนดกลยทุ ธท์ ี่มุ่งเอำชนะอุปสรรคทำงสภำพแวดลอ้ ม หรือลดจดุ ออ่ นของสถำนศึกษำให้มีนอ้ ยที่สุดได้ ภำยใตก้ ำรวเิ ครำะหส์ ภำวะแวดลอ้ ม น้นั จะตอ้ งวเิ ครำะห์ท้งั สภำพแวดลอ้ ม ภำยในและภำยนอก สถำนศึกษำ โดยมีข้นั ตอน ดงั น้ี การประเมนิ สภาพแวดล้อมภายใน (S , W) กำรประเมินสภำพแวดลอ้ มภำยในสถำนศึกษำ จะเกี่ยวกบั กำรวิเครำะห์และพจิ ำรณำทรัพยำกรและควำมสำมำรถ ภำยในสถำนศึกษำ ทุกๆ ดำ้ น เพอ่ื ที่จะระบจุ ุดแขง็ และจุดอ่อนของสถำนศึกษำแหลง่ ท่ีมำเบ้ืองตน้ ของขอ้ มูลเพอ่ื กำรประเมิน สภำพแวดลอ้ มภำยใน คือระบบขอ้ มูลเพ่ือ กำรบริหำรที่ครอบคลมุ ทุกดำ้ น ท้งั ในดำ้ นโครงสร้ำง ระบบ ระเบียบ วธิ ีปฏิบตั ิงำน บรรยำกำศในกำรทำงำนและทรัพยำกรในกำรบริหำร รวมถึงกำรพจิ ำรณำผลกำรดำเนินงำนท่ีผำ่ นมำของสถำนศึกษำดว้ ย จุดแขง็ ของสถำนศึกษำ(S-Strengths) เป็นกำรวิเครำะห์ปัจจยั ภำยในจำกมมุ มองของผทู้ ่อี ยภู่ ำยในสถำนศึกษำน้นั เอง วำ่ ปัจจยั ใดภำยในสถำนศึกษำท่เี ป็นขอ้ ไดเ้ ปรียบหรือจดุ เดน่ ของสถำนศึกษำท่ีสถำนศึกษำควรนำมำใชใ้ นกำรพฒั นำ สถำนศึกษำได้ และควรดำรงไวเ้ พอื่ กำร เสริมสร้ำงควำมเขม็ แขง็ ของสถำนศึกษำ จุดออ่ นของสถำนศึกษำ(W-Weanesses) เป็นกำรวิเครำะหป์ ัจจยั ภำยในจำกมุมมองของผทู้ ่ีอยภู่ ำยในจำกมมุ มอง ของ ผทู้ ่ีอยภู่ ำยในสถำนศึกษำน้นั ๆ เองวำ่ ปัจจยั ภำยในสถำนศึกษำทีเ่ ป็นจดุ ดอ้ ย ขอ้ เสียเปรียบของสถำนศึกษำทีค่ วรปรบั ปรุงใหด้ ี ข้นึ หรือขจดั ใหห้ มดไป อนั จะเป็นประโยชนต์ อ่ สถำนศึกษำ การประเมนิ สภาพแวดล้อมภายนอก (O , T) ภำยใตก้ ำรประเมินสภำพแวดลอ้ มภำยนอกสถำนศึกษำน้นั สำมำรถคน้ หำโอกำสและอปุ สรรคทำงกำรดำเนินงำน ของสถำนศึกษำท่ีไดร้ ับผลกระทบจำกสภำพแวดลอ้ มทำงเศรษฐกิจท้งั ในและระหวำ่ งประเทศท่ีเกี่ยวกบั กำรดำเนินงำนของ สถำนศึกษำ เช่น อตั รำกำรขยำยตวั ทำงเศรษฐกิจ นโยบำย กำรเงิน กำรงบประมำณ สภำพแวดลอ้ มทำงสงั คม เช่น ระดบั กำรศึกษำและอตั รำรู้หนงั สือของประชำชน กำรต้งั ถ่ินฐำนและกำรอพยพของ ประชำชน ลกั ษณะชุมชน ขนบธรรมเนียม ประเพณี คำ่ นิยม ควำมเชื่อและวฒั นธรรม สภำพแวดลอ้ มทำงกำรเมือง เช่น พระรำชบญั ญตั ิ พระรำชกฤษฎีกำ มติ คณะรัฐมนตรี และสภำพแวดลอ้ มทำงเทคโนโลยี หมำยถึง กรรมวธิ ีใหมๆ่ และพฒั นำกำรทำงดำ้ นเคร่ืองมืออุปกรณ์ที่จะช่วย เพ่มิ ประสิทธิภำพในกำรผลิตและใหบ้ ริกำร โอกำสทำงสภำพแวดลอ้ ม(O - Opportunities) เป็นกำรวเิ ครำะห์วำ่ ปัจจยั ภำยนอกสถำนศึกษำ ปัจจยั ใดที่สำมำรถ ส่งผลกระทบประโยชน์ ท้งั ทำงตรงและทำงออ้ มต่อกำรดำเนินกำรของสถำนศึกษำในระดบั มหำภำค และสถำนศึกษำสำมำรถ ฉกฉวยขอ้ ดีเหลำ่ น้ีมำเสริมสร้ำงให้ หน่วยงำนเขม็ แขง็ ข้นึ ได้ จดั ทำโดย นำยผไท อทุ ุมสกลุ รัตน์ ปฏิบตั ิหนำ้ ท่ีในตำแหน่งรองผูอ้ ำนวยกำรกลมุ่ นโยบำยและแผนพฒั นำคณุ ภำพกำรศึกษำ
อุปสรรคทำงสภำพแวดลอ้ ม(T - Threats) เป็นกำรวิเครำะห์วำ่ ปัจจยั ภำยนอกสถำนศึกษำปัจจยั ใดที่สำมำรถส่งผล กระทบในระดบั มหภำคในทำงที่จะก่อใหเ้ กิดควำมเสียหำยท้งั ทำงตรงและทำงออ้ ม ซ่ึงสถำนศึกษำจำตอ้ งหลีกเลี่ยง หรือปรับ สภำพสถำนศึกษำใหม้ ี ควำมแขง็ แกร่งพร้อมที่จะเผชิญแรงกระทบดงั กล่ำวได้ ปัจจยั ของสภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมภายนอก (STEP) สภาพแวดล้อมภายใน (2S-4M) 1. ดำ้ นสงั คมและวฒั นธรรม (Socio-Cultural) 2. ดำ้ นเทคโนโลยี (Technology) 1. โครงสร้ำงของสถำนศึกษำ (Structure) 3. ดำ้ นเศรษฐกิจ (Economics) 2. ระบบบริกำร(Services) 4. ดำ้ นกำรเมืองและกฎหมำย(Political and Legal) 3. บคุ ลำกร(Man) 4. กำรเงิน(Money) วเิ ครำะห์ ระบสุ ถำนกำรณ์ 5. วสั ดุและอุปกรณ์(Materiall) โอกำส(Opportunities) – อุปสรรค (Threats) 6. กำรบริหำรจดั กำร(Management) วเิ ครำะห์ ระบสุ ถำนกำรณ์ จุดอ่อน(Weaknesses) – จุดแขง็ (Strengths) 3. การประเมนิ สถานภาพ กำรวิเครำะห์สภำพแวดลอ้ มภำยในและภำยนอกสถำนศึกษำทำงกำรศึกษำ เพือ่ ศึกษำแนวโนม้ กำรพฒั นำกำรศึกษำ ใหม้ ีควำมเหมำะสม สอดคลอ้ งกบั ควำมตอ้ งกำรของชุมชนทอ้ งถิ่น โดยแนวโนม้ กำรพฒั นำกำรศึกษำของสถำนศึกษำทำง กำรศึกษำตอ้ งมีควำมเป็นไปไดใ้ นกำรพฒั นำตำมเง่ือนไขขอ้ จำกดั และองคป์ ระกอบที่มีอิทธิพลต่อกำรจดั กำรศึกษำ ซ่ึงไดแ้ ก่ นโยบำยในกำรจดั กำรศึกษำของหน่วยงำนตน้ สังกดั รูปแบบกำรบริหำรงำนของสถำนศึกษำทำงกำรศึกษำ และปัจจยั ที เกี่ยวขอ้ งอ่ืน กำรศึกษำควำมตอ้ งกำรของชุมชน เป็นกำรสำรวจควำมตอ้ งกำรของสถำนศึกษำชุมชนที่สถำนศึกษำทำงกำร ศึกษำต้งั อยคู่ วำมตอ้ งกำรของผปู้ กครองนกั เรียนและควำมตอ้ งกำรของชำวบำ้ นในชุมชนสรุปมำเป็นแนวทำงในกำร ดำเนินงำนเพอ่ื ตอบสนองควำมตอ้ งกำรของชุมชนกำรวิเครำะห์สภำพของสถำนศึกษำทำงกำรศึกษำเพ่อื กำหนดแนวทำงใน กำรพฒั นำกำรศึกษำ ดงั น้นั กำรประเมินสถำนภำพสถำนศึกษำจะทำให้เรำทรำบว่ำปัจจุบนั สถำนศึกษำเป็นอยำ่ งไร มีปัจจยั จำกสภำพแวดลอ้ มภำยนอกที่เป็นโอกำส และอปุ สรรค มีปัจจยั จำกสภำพแวดลอ้ มภำยในท่ีเป็นจดุ แขง็ และจุดอ่อนในดำ้ นใด เพ่ือท่ีจะเป็นขอ้ มลู ในกำรจดั วำงทิศทำงสถำนศึกษำ ในกำรประเมินจะใชก้ ระบวนกำรทำงสถิติเป็นเครื่องมือในกำรประเมิน และนำเสนอกำรประเมินสภำพสถำนศึกษำ เป็นกำรเลือกวิธีกำรทำงำนอยำ่ งมี ทิศทำงที่เหมำะสม สอดคลอ้ งกบั สภำพแวดลอ้ มของสถำนศึกษำเพอ่ื ใหส้ ำมำรถดำเนินกำรไดป้ ระสบผลสำเร็จสำมำรถนำไปปฏิบตั ิไดจ้ ริง การระบสุ ถานการณ์จากการประเมนิ สภาพแวดล้อม เมื่อไดข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั จุดแขง็ -จดุ อ่อน โอกำส-อปุ สรรค จำกกำรวิเครำะหป์ ัจจยั ภำยในและปัจจยั ภำยนอกดว้ ยกำร ประเมินสภำพ แวดลอ้ มภำยในและสภำพแวดลอ้ มภำยนอกแลว้ ใหน้ ำจดุ แขง็ -จดุ อ่อนภำยในมำเปรียบเทียบกบั โอกำส- อปุ สรรค จำกภำยนอกเพือ่ ดูวำ่ สถำนศึกษำ กำลงั เผชิญสถำนกำรณ์เช่นใดและภำยใตส้ ถำนกำรณ์ เช่นน้นั สถำนศึกษำควรจะ ทำอยำ่ งไร โดยทว่ั ไป ในกำรวเิ ครำะห์ SWOT สถำนศึกษำจะอยใู่ นสถำนกำรณ์ 4 รูปแบบ ดงั น้ี จดั ทำโดย นำยผไท อุทมุ สกุลรัตน์ ปฏิบตั ิหนำ้ ที่ในตำแหน่งรองผูอ้ ำนวยกำรกลุ่มนโยบำยและแผนพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ
สถานการณ์ที่ 1 (จุดแขง็ -โอกาส) สถำนกำรณ์น้ีเป็นสถำนกำรณ์ที่พ่ึงปรำรถนำท่ีสุด เนื่องจำกสถำนศึกษำค่อนขำ้ งจะมีหลำยอยำ่ ง ดงั น้นั ผบู้ ริหำรของ สถำนศึกษำควรกำหนดกลยทุ ธ์ในเชิงรุก (Aggressive - Stratagy) เพอ่ื ดึงเอำจดุ แขง็ ท่ีมีอยมู่ ำเสริมสรำ้ งและปรับใชแ้ ละฉกฉวย โอกำสต่ำงๆ ที่เปิ ดมำหำประโยชน์อยำ่ งเตม็ ท่ี สถานการณ์ที่ 2 (จดุ อ่อน-ภยั อปุ สรรค) สถำนกำรณ์น้ีเป็นสถำนกำรณ์ที่เลวร้ำยท่ีสุด เน่ืองจำกสถำนศึกษำกำลงั เผชิญอยกู่ บั อปุ สรรคจำกภำยนอกและมี ปัญหำจดุ อ่อนภำยในหลำยประกำร ดงั น้นั ทำงเลือกที่ดีที่สุดคอื กลยทุ ธ์ กำรต้งั รับหรือป้องกนั ตวั (Defensive Strategy) เพื่อ พยำยำมลดหรือหลบหลีกภยั อปุ สรรค ตำ่ งๆทีค่ ำดวำ่ จะเกิดข้ึน ตลอดจนหำมำตรกำรที่จะทำให้สถำนศึกษำเกิดควำมสูญเสียที่ นอ้ ยท่ีสุด สถานการณ์ท่ี 3 (จุดอ่อน-โอกาส) สถำนกำรณ์สถำนศึกษำมีโอกำสเป็นขอ้ ไดเ้ ปรียบดำ้ นกำรแขง่ ขนั อยหู่ ลำยประกำร แต่ติดขดั อยตู่ รงท่ีมีปัญหำ อปุ สรรคทเี่ ป็นจดุ อ่อนอยู่ หลำยอยำ่ งเช่นกนั ดงั น้นั ทำงออกคอื กลยทุ ธก์ ำรพลิกตวั (Turnaround-Oriented Strategy) เพือ่ จดั หรือแกไ้ ขจดุ ออ่ นภำยในต่ำงๆ ใหพ้ ร้อมทีจ่ ะฉกฉวยโอกำสต่ำงๆที่เปิ ดให้ สถานการณ์ท่ี 4 (จุดแขง็ -อุปสรรค) สถำนกำรณ์น้ีเกิดข้นึ จำกกำรที่สภำพแวดลอ้ มไม่เอ้อื อำนวยต่อกำรดำเนินงำน แต่ตวั สถำนศึกษำมขี อ้ ไดเ้ ปรียบที่เป็น จดุ แขง็ หลำยประกำร ดงั น้นั แทนทจ่ี ะรอจนกระทงั่ สภำพแวดลอ้ มเปลี่ยนแปลงไป กส็ ำมำรถท่ีจะเลือกกลยทุ ธก์ ำรแตกตวั หรือขยำยขอบข่ำยกิจกำร(diversification Strategy) เพอ่ื ใชป้ ระโยชนจ์ ำกจุดแขง็ ท่ีมีสร้ำงโอกำสในระยะยำวดำ้ นอื่นๆแทน จดั ทำโดย นำยผไท อทุ มุ สกุลรัตน์ ปฏิบตั ิหนำ้ ที่ในตำแหน่งรองผูอ้ ำนวยกำรกลมุ่ นโยบำยและแผนพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ
แบบสารวจปัจจัยเพ่ือนามาวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT Analysis) สภาพแวดล้อมภายใน (2S-4M) โครงสร้าง (Structure) จุดแขง็ จุดอ่อน ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ระบบบริการ(Services) จดุ แข็ง จดุ อ่อน ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… บคุ ลากร(Man) จดุ แข็ง จดุ อ่อน ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… การเงิน(Money) จดุ แขง็ จุดอ่อน ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… วสั ดแุ ละอุปกรณ์(Material) จุดแขง็ จุดอ่อน ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… การบริหารจัดการ(Management) จดุ แข็ง จุดอ่อน ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… จดั ทำโดย นำยผไท อุทมุ สกุลรัตน์ ปฏิบตั ิหนำ้ ท่ีในตำแหน่งรองผูอ้ ำนวยกำรกลมุ่ นโยบำยและแผนพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ
แบบสารวจปัจจยั เพ่ือนามาวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT Analysis) สภาพแวดล้อมภายนอก (STEP) ด้านสังคมและวฒั นธรรม (Socio-Cultural) โอกาส อปุ สรรค ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ด้านเทคโนโลยี (Technology) โอกาส อุปสรรค ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ด้านเศรษฐกจิ (Economics) โอกาส อุปสรรค ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ด้านการเมืองและกฎหมาย (Political and Legal) โอกาส อุปสรรค ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… จดั ทำโดย นำยผไท อุทุมสกลุ รัตน์ ปฏิบตั ิหนำ้ ท่ีในตำแหน่งรองผูอ้ ำนวยกำรกลุ่มนโยบำยและแผนพฒั นำคณุ ภำพกำรศกึ ษำ
ตารางการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT Analysis) สภาพแวดล้อมภายใน ( 2S 4M ) รายการปัจจัย นา้ หนัก คะแนนเฉลีย่ น้าหนัก X คะแนนเฉลย่ี สรุปผลการวเิ คราะห์ S1 1.00 จดั แข็ง จดุ ออ่ น จดั แขง็ จุดออ่ น S2 M1 M2 M3 M4 รวม สภาพแวดล้อมภายนอก ( STEP ) รายการปัจจัย น้าหนัก คะแนนเฉล่ีย นา้ หนัก X คะแนนเฉลยี่ สรุปผลการวิเคราะห์ S จดั แข็ง จุดอ่อน จดั แขง็ จดุ อ่อน T E 1.00 P รวม จากผลการวเิ คราะห์สรุปว่า สถำนศึกษำมีสภำพแวดลอ้ มภำยในท่ี……………..…. และสภำพแวดลอ้ มภำยนอก ที่………….……… จดั ทำโดย นำยผไท อทุ ุมสกุลรัตน์ ปฏิบตั ิหนำ้ ที่ในตำแหน่งรองผูอ้ ำนวยกำรกลมุ่ นโยบำยและแผนพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ
4. กาหนดทิศทาง โดยทว่ั ไปจะมี 4 ลกั ษณะ คือ 1. เอ้ือและแขง็ คอื ปัจจยั ภำยในมคี วำมเขม้ แขง็ และปัจจยั ภำยนอกสร้ำงโอกำส เอ้ือต่อกำรดำเนินกำร 2. เอ้อื แต่อ่อน คอื ปัจจยั ภำยในมีควำมออ่ นแอ แตป่ ัจจยั ภำยนอกสร้ำงโอกำส เอ้อื ต่อกำรดำเนินกำร 3. ไมเ่ อ้ือแต่แขง็ คือ ปัจจยั ภำยในมีควำมเขม้ แขง็ แตป่ ัจจยั ภำยนอกไม่สร้ำงโอกำส เป็นอุปสรรคตอ่ กำร ดำเนินกำร 4. ไมเ่ อ้อื และออ่ น คอื ปัจจยั ภำยในมีควำมออ่ นแอ และปัจจยั ภำยนอกไมส่ ร้ำงโอกำส เป็นอปุ สรรคต่อกำร ดำเนินกำร O เอ้ือและแขง็ เอ้ือแต่อ่อน SW ไม่เอ้ือแตแ่ ขง็ ไม่เอ้ือและออ่ น 5. กาหนดกลยุทธ์ T โดยทวั่ ไปจะมี 4 ประเภท คอื 1. กลยทุ ธ์สร้ำงกำรเจริญเติบโต เป็นกลยทุ ธ์ที่เอ้ือและแขง็ โดยขยำย กิจกำรหรือดำเนินงำนเพมิ่ เติมข้ึน 2. กลยทุ ธค์ วำมถนดั เป็นกลยทุ ธท์ ่ีเอ้ือแต่ออ่ น โดยเลือกดำเนินงำนเฉพำะที่มีควำมรู้ควำมชำนำญ 3. กลยทุ ธ์รักษำเสถียรภำพ เป็นกลยทุ ธท์ ี่ไมเ่ อ้ือแต่แขง็ โดยเลือกดำเนินงำนที่กำลงั ดำเนินงำนอยไู่ มข่ ยำย 4. กลยทุ ธก์ ำรตดั ทอน เป็นกลยทุ ธท์ ่ีไม่เอ้อื และอ่อน โดยกำรทบทวนภำรกิจในส่วนท่ีทำประโยชน์ได้ จดั ทำโดย นำยผไท อทุ มุ สกุลรัตน์ ปฏิบตั ิหนำ้ ที่ในตำแหน่งรองผูอ้ ำนวยกำรกลุ่มนโยบำยและแผนพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ
O กลยุทธ์ความถนดั กลยุทธ์สร้างความเตบิ โต ขยำย พฒั นำ ส่งเสริม ส่งเสริม ปรับปรุง เร่งรัด W S กลยุทธ์เสถียรภาพ กลยุทธ์การตดั ทอน ชะลอ ปรับปรุง ยบุ เลิก ควบกิจกรรม หลอมรวม T สรุปได้ว่า กำรศึกษำสถำนภำพสถำนศึกษำเป็นกำรเลือกวธิ ีกำรทำงำนอยำ่ งมีทิศทำงทีเ่ หมำะสม สอดคลอ้ งกบั สภำพแวดลอ้ ม ของสถำนศึกษำเพอ่ื ใหส้ ำมำรถดำเนินกำรไดป้ ระสบผลสำเร็จสำมำรถนำไปปฏบิ ตั ิไดจ้ ริง กำรกำหนดทิศทำงของสถำนศึกษำ ช่วยให้กำรดำเนินงำนของสถำนศึกษำมีควำมชดั เจนมำกข้นึ ซ่ึงสถำนศึกษำตอ้ งรู้สถำนภำพของตนเองก่อนว่ำอยใู่ นสถำนภำพ ท่ีตอ้ งปรับขยำย แกไ้ ข หรือพฒั นำอะไรบำ้ ง จดั ทำโดย นำยผไท อทุ มุ สกลุ รัตน์ ปฏิบตั ิหนำ้ ท่ีในตำแหน่งรองผูอ้ ำนวยกำรกลุ่มนโยบำยและแผนพฒั นำคณุ ภำพกำรศึกษำ
ตวั อย่างแบบฟอร์มตารางการวเิ คราะห์สภาพแวดล้อมภายใน ช่ือองคก์ ร :…………………………………………………………………………………………... วนั ท่ีวิเครำะห์ :…………………………… ผวู้ ิเครำะห์ :………………………………………….. ผอู้ นุมตั ิ :…………………………………. วนั ที่อนุมตั ิ :…………………………………………. ปัจจยั สภาพแวดล้อมภายนอก ลกั ษณะ จดุ แขง็ /จุดอ่อน 1. Strategy - กลยทุ ธ์ 1.1 ………………………….. 1.2 ………………………….. 2. Structure - โครงสร้ำง 2.1 ………………………….. 2.2 ………………………….. 3. System - ระบบ 3.1 ………………………….. 3.2 ………………………….. 4. Style - รูปแบบ 4.1 …………………………... 4.2 ………………………….. 5. Staff - บคุ ลำกร 5.1 ………………………….. 5.2 ………………………….. 6. Skill - ทกั ษะ 6.1 ………………………….. 6.2 ………………………….. 7. Share Value - คำ่ นิยมร่วม 7.1 ………………………….. 7.2 ………………………….. จดั ทำโดย นำยผไท อทุ ุมสกุลรัตน์ ปฏิบตั ิหนำ้ ท่ีในตำแหน่งรองผูอ้ ำนวยกำรกลมุ่ นโยบำยและแผนพฒั นำคณุ ภำพกำรศกึ ษำ
ตัวอย่างการวเิ คราะห์สภาพแวดล้อมภายใน 1. โรงเรียนเมืองพทั ยา 3 (วัดสว่างฟ้าพฤฒาราม) การวเิ คราะห์สภาพแวดล้อมภายใน ปัจจยั ภายในของสถานศึกษา ปัจจัยภายในสถานศึกษา จุดแขง็ จุดอ่อน 1. ปัจจยั ด้านโครงสร้างและนโยบาย (S1) 1.1 กำรนิเทศภำยในไมเ่ ป็นไปตำมแผนงำนที่กำหนด 1.1 สถำนศึกษำมีโครงสร้ำงกำรบริหำรงำนท่ี (S1) ชดั เจน มีกำรกระจำยอำนำจกำรบริหำรงำนอยำ่ งเป็น ระบบ โดยใชห้ ลกั กำรมีส่วนร่วม (S1) 1.2 สถำนศึกษำมีอิสระในกำรนำนโยบำยกำร บริหำรงำนร่วมกบั เครือข่ำยผูป้ กครอง และองค์กร ต่ ำง ๆ ใ น ชุ ม ช น จ น ง ำน บ ร ร ลุ ผ ล อ ย่ ำง มี ประสิทธิภำพ (S1) 2. ปัจจัยด้านผลผลติ และการให้บริการ (S2) 2.1 สถำนศึกษำสำมำรถจดั กำรศึกษำได้บรรลุตำม 2.1 ภูมิปัญญำทอ้ งถ่ินของสถำนศึกษำยงั ไม่หลำกหลำย เป้ำหมำยหลกั สูตร สอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรแกนกลำง (S2) ครอบคลุมกบั ควำมตอ้ งกำรของผเู้ รียน ชุมชน 2.2 ทกั ษะกำรคิดวิเครำะห์ คดิ สังเครำะห์และประเมิน และสงั คม (S2) ค่ำของผเู้ รียนยงั ไมบ่ รรลตุ ำมเป้ำหมำย (S2) 2.2 สถำนศึกษำให้บริกำรชุมชน หน่วยงำน และ องค์กรต่ำง ๆ ใช้ประโยชน์จำกอำคำรสถำนท่ี ครุภณั ฑ์ สิ่งอำนวยควำมสะดวกต่ำง ๆ และบุคลำกร ทำใหเ้ กิดควำมสมั พนั ธ์อนั ดีกบั ชุมชน (S2) 2.3 สถำนศึกษำจัดกิจกรรมท่ีหลำกหลำยเป็ นท่ี ยอมรับและไดร้ ับกำรสนบั สนุนจำกชุมชนเป็นอยำ่ งดี (S2) 2.4 สถำนศึกษำมีระบบประกันคุณภำพภำยใน สถำนศึกษำท่ีไดม้ ำตรฐำน (S2) ปัจจัยภายในสถานศึกษา จดั ทำโดย นำยผไท อุทมุ สกลุ รัตน์ ปฏิบตั ิหนำ้ ท่ีในตำแหน่งรองผูอ้ ำนวยกำรกลุ่มนโยบำยและแผนพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ
จดุ แข็ง จดุ อ่อน 3. ด้านบุคลากร (M1) 3.1 ครูมีควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติงำนเป็ นทีม 3.1 ครูผสู้ อนมีภำระงำนท่ีไมเ่ ก่ียวขอ้ งกบั กำรจดั (M1) กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนและใชเ้ วลำในกำรร่วม 3.2 ครูมีกำรพัฒนำตนเองเพ่ิมพูนควำมรู้ เทคนิค กิจกรรมกบั ทอ้ งถ่ินมำก ทำใหค้ รูมีเวลำในกำรจดั วิธีกำรใหม่ ๆ เพ่ือพฒั นำกำรจดั กิจกรรมกำรเรียน กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนไมเ่ ตม็ ท่ี (M1) กำรสอน (M1) 3.2 ขำดแคลนครูในบำงสำขำวชิ ำ (M1) 3.3 ผลจำกกำรวจิ ยั ในช้นั เรียนไมไ่ ดน้ ำไปพฒั นำให้เกิด ประโยชน์กบั ผเู้ รียนอยำ่ งตอ่ เน่ือง (M1) 4. ด้านประสิทธภิ าพทางการเงิน (M2) 4.1 กำรใชจ้ ่ำยเงินของสถำนศึกษำเกิดควำมล่ำชำ้ และ 4.1 สถำนศึกษำมีกำรใช้จ่ำยเงินถูกตอ้ งตำมระเบียบ ไม่คล่องตวั เน่ืองจำกตอ้ งใชจ้ ่ำยเงินตำมระเบียบของทำง ของทำงรำชกำร สำมำรถตรวจสอบได้ (M2) รำชกำร (M2) 5. วสั ดแุ ละอุปกรณ์ทางการศึกษา (M3) 5.1 สถำนศึกษำมีอำคำรเรี ยน อำคำรประกอบ 5.1 สถำนศึกษำมีสื่อเทคโนโลยที ำงกำรศึกษำไม่เพียงพอ ห้องเรียน ห้องพิเศษ และวสั ดุอุปกรณ์ท่ีเอ้ือต่อกำร ต่อกำรใชง้ ำน(M3) จดั กำรศึกษำ 6. การบริหารจัดการ (M4) 6.1 สถำนศึกษำมีกำรบริหำรหลกั สูตรและดำเนินกำร 6.1 กำรจดั กำรขอ้ มลู สำรสนเทศไม่ทนั ตอ่ กำรใชง้ ำน อยำ่ งเป็นระบบ (M4) 6.2 สถำนศึกษำมีกำรบริหำรบุคลำกรอยำ่ งเป็นระบบ ผลการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน ผลการวิเคราะห์สภาพภายในพบวา่ สถานศึกษามีจุดแข็งมากกว่าจุดอ่อน กล่าวคือสถานศึกษามีโครงสร้าง การบริหารงานที่ชดั เจน มีการกระจายอานาจการบริหารงานอย่างเป็ นระบบ โดยใชห้ ลกั การมีส่วนร่วม มีอิสระใน การนานโยบายการบริหารงานร่วมกับเครือข่ายผูป้ กครอง และองค์กรต่าง ๆ ในชุมชน จนงานบรรลุผลอย่างมี ประสิทธิภาพ สามารถจดั การศึกษาไดบ้ รรลุตามเป้าหมายหลกั สูตร สอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรแกนกลางครอบคลุมกบั ความตอ้ งการของผเู้ รียน ชุมชนและสงั คม สถานศึกษามีระบบประกนั คณุ ภาพภายในสถานศึกษาที่ไดม้ าตรฐาน ครูมี ความสามารถในการปฏิบตั ิงานเป็นทีม ครูมีการพฒั นาตนเองเพ่ิมพูนความรู้ เทคนิควิธีการใหม่ ๆ เพื่อพฒั นาการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน สถานศึกษามีอาคารเรียน อาคารประกอบ ห้องเรียน หอ้ งพิเศษ และวสั ดุอุปกรณ์ท่ีเอ้ือต่อ จดั ทำโดย นำยผไท อุทมุ สกุลรัตน์ ปฏิบตั ิหนำ้ ท่ีในตำแหน่งรองผูอ้ ำนวยกำรกลมุ่ นโยบำยและแผนพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ
การจดั การศึกษา สถานศึกษามีการบริหารบุคลากรอย่างเป็ นระบบ สถานศึกษาจึงสามารถพฒั นาการศึกษาอย่าง ต่อเนื่อง นอกจากน้ีสถานศึกษาให้บริการชุมชนด้านอาคารสถานท่ี พัสดุ ครุภณั ฑ์ สิ่งอานวยความสะดวกและ บุคลากรแก่องค์กรและชุมชนต่างๆ ทาให้เกิดความสัมพนั ธ์อนั ดี จนเป็ นท่ียอมรับและให้การสนับสนุนเป็ นอย่างดี จุดอ่อนของสถานศึกษา ไดแ้ ก่ การนาผลการนิเทศภายในมาปรับปรุงแกไ้ ขพฒั นางานยงั ไม่บรรลุผลตามเกณฑ์ท่ี กาหนด การเช่ือมโยงแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินของโรงเรียนยงั ไม่หลากหลาย อีกท้งั ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์และประเมินค่าของผูเ้ รียนยงั ไม่บรรลุตามเป้าหมาย บุคลากรในสถานศึกษาบางคนขาดทกั ษะในการ พฒั นางานอยา่ งต่อเนื่อง ครูผูส้ อนมีภาระงานท่ีไม่เก่ียวขอ้ งกบั การจดั กิจกรรมการเรียนการสอน และใชเ้ วลาในการ ร่วมกิจกรรมของทอ้ งถิ่นมาก ทาให้ครูมีเวลาในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนไม่เต็มที่ การวดั และประเมินผล ตามสภาพจริงไม่หลากหลาย ผลจากการวิจยั ในช้นั เรียนไม่ไดน้ าไปพฒั นาให้เกิดประโยชน์กบั ผูเ้ รียนอยา่ งต่อเนื่อง การใช้จ่ายเงินของสถานศึกษาเกิดความล่าชา้ และไม่คล่องตวั เนื่องจากตอ้ งใช้จ่ายเงินตามระเบียบของทางราชการ สถานศึกษามีสื่อเทคโนโลยที างการศึกษาไม่เพียงพอต่อการใช้งาน รวมไปถึงการจดั การขอ้ มูลสารสนเทศไม่ทนั ต่อ การใชง้ าน จดั ทำโดย นำยผไท อทุ ุมสกลุ รัตน์ ปฏิบตั ิหนำ้ ที่ในตำแหน่งรองผูอ้ ำนวยกำรกล่มุ นโยบำยและแผนพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: