Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore จังหวัดนครปฐม

จังหวัดนครปฐม

Published by Wisrut Layban, 2020-03-15 23:10:45

Description: จังหวัดนครปฐม

Search

Read the Text Version

สารบัญ -วัดพระปฐมเจดยี ์ ราชวรมหาวหิ าร -พระราชวังสนามจันทร์ -วัดสามพราน -พิพิธภณั ฑ์หนุ่ ขี้ผึง้ ไทย -พิพิธภณั ฑ์ภาพยนตรไ์ ทย -วดั ไรข่ ิง -วดั ศรษี ะทอง

วดั พระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวหิ าร พระปฐมเจดยี  หรอื เดมิ เรยี กวา พระธมเจดยี  เปนพระอารามหลวงช้นั เอก ชนดิ ราชวรมหาวหิ าร ตัง้ อยูท่ี ตําบลพระปฐมเจดีย อาํ เภอเมอื งนครปฐม จงั หวัด นครปฐม มีจดุ เดน ทสี่ ําคญั คือ พระปฐมเจดยี ห รือพระธมเจดีย ซึ่งเปน เจดยี ท ใ่ี หญ และสงู ท่ีสุดแหงหน่ึงในประเทศไทย องคพระปฐมเจดียป จ จบุ ันน้ี เปน พระเจดีย ทรงลังกาแบบสโุ ขทยั สรา งขึ้นในสมัยพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา เจาอยหู ัว ซึ่ง สรางครอบเจดยี เดมิ ถึงสององค ไดแก เจดียท รงสถูปสาญจีตามแบบอนิ เดียยคุ พระเจา อโศกมหาราช และเจดยี ท รงขอมโบราณ นอกจากองคพ ระปฐมเจดยี แลว ในลานชัน้ ลดดานทศิ ใตองคพ ระปฐมเจดียและพระอโุ บสถมพี ระประธาน พระพทุ ธ รูปศิลาขาว ซง่ึ เปน สองในส่พี ระพทุ ธรูปประทบั นง่ั หอยพระบาท ปางแสดงธรรม ที่ สรางขนึ้ ในยุคทวารวดี

พระราชวังสนามจันทร์ พระราชวังสนามจันทร ตง้ั อยูที่ตาํ บลพระปฐมเจดีย อาํ เภอเมืองนครปฐม จงั หวัด นครปฐม หางจากพระปฐมเจดีย2กโิ ลเมตร มเี นื้อท่ี ประมาณ888ไร3งาน24ตารางวา สรางข้ึนโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกลา เจาอยู หัว รชั กาลที่6 หลังจากพระองคส วรรคต พระราชวังสนามจนั ทรไดใ ชเปน ทท่ี ําการ ของสวนตางๆในงานราชการของจังหวดั นครปฐม รวมทั้งเปนวทิ ยาเขจหน่งึ ของ วทิ ยาลัยศิลปากร

วัดสามพราน วัดสามพราน(พทุ โธภาวนา)ตั้งอยบู นเน้ือที่39ไร 3งาน52ตารางวา ปจจบุ นั มพี ระครูปฐมวรวฒั น(ดร.พระมหาทองศรี เอกวังโส)ดาํ รงตาํ แหนง เจาอาวาส ต้ังอยูในเขตตําบลสามพราน อําเภอสามพราน จังหวัด นครปฐม เหตทุ ่ีทําวดั นี้ข้นึ มาจากแนวคิดของ นางสาวสดุ าภรณ ชุน สาม พราน ซ่ึงเปนผูมน่ั คงในศาสนา

พิพิธภัณฑ์หนุ่ ขี้ผึง้ ไทย เกิดจากแรงบนั ดาลใจของผสู้ ร้างสรรคก์ ลุ่มหน่ึงนาํ โดย อาจารยด์ วงแกว้ พทิ ยากร ศิลป์ ท่ีสนใจการสร้างหุ่นข้ีผ้งึ และศึกษา คน้ ควา้ ทดลองเป็นเวลานานกวา่ 10 ปี จึงประสบความสาํ เร็จ สามารถสร้างหุ่น ข้ีผ้งึ ยคุ ใหม่จากไฟเบอร์กลาสท่ีมีความคงทน ประณีต งดงาม เหมือนคนจริงที่สุด จนคณะผรู้ ่วมงานเห็นสมควรท่ี จะสนบั สนุนใหก้ า้ วหนา้ ต่อไป เพอื่ สร้างชื่อเสียงใหแ้ ก่ ประเทศชาติและศิลปิ นไทย จึงเริ่มโครงการก่อต้งั พิพิธ ภณั ฑห์ ุ่นข้ีผ้งึ ไทย ไทยในปี พ.ศ. 2525 สาํ หรับเป็นสถานท่ีสร้างและจดั แสดงหุ่นข้ีผ้งึ ไฟเบอร์กลาส เพ่อื การ อนุรักษ์ ส่งเสริม เผยแพร่ ศิลปะ วฒั นธรรม ประเพณีไทย อนั จะเป็นประโยชนใ์ นการ ศึกษาคน้ ควา้ ของเยาวชน โดยปัจจุบนั มีหุ่นไฟเบอร์กลาสท้งั หมด 120 รูปอาคารพิพิธภณั ฑห์ ุ่นข้ีผ้งึ ไทยน้ีเป็นอาคารสองช้นั โดย มีการจดั แสดง ดว้ ยกนั สองช้นั คือ ช้นั ล่าง จดั แสดงหุ่นชุดต่างๆ เช่น ชุดพระบรมรูปอดีตพระมหากษตั ริยร์ าชวงคจ์ กั รี, พระบรม รูปสมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี, ชุดพระอริยสงฆ,์ ชุดมุมหน่ึงของชีวติ เป็นตน้

พิพิธภณั ฑ์ภาพยนตรไ์ ทย ภาพยนตรก าํ เนิดขึ้นในโลก เม่ือป พ.ศ. ๒๔๓๘ โดยนบั เมื่อนกั ประดิษฐช าวฝรั่งเศสนําภาพยนตรช นดิ ฉายข้นึ จอออกฉายเกบ็ คา ดูจากสาธารณชนเปน ครัง้ แรกท่ี กรงุ ปารีสและหลงั จากนัน้ ไดแ พรกระจายไปทั่วโลกอยางรวดเร็วและโดยทีไ่ มมใี ครคาดคิด ภาพยนตรไดเ ตบิ โตกลายเปน \"มหรสพยอดนิยมของชาวโลกประจํา คริสตศตวรรษท่ี๒๐\"กจิ การผลิตและจําหนายภาพยนตรกลายเปนธรุ กิจอุตสาหกรรมทใ่ี หญโ ตท่สี ดุ อยา งหนึง่ ของโลก เม่อื เรมิ่ มีภาพยนตรเ กิดข้นึ น้ัน ไดมีผูม อง เห็นความสําคัญและคุณคาของภาพยนตรนอกเหนอื ไปจากเปนสนิ คาขายความบนั เทงิ คือ เหน็ วามีคา เสมือนเปนเอกสารสําคญั ทาํ นองเดยี วกับเอกสารประวตั ิ ศาสตร หรอื เอกสารจดหมายเหตุ ซึง่ ควรจะมีหนวยงานทาํ หนาท่รี วบรวมจัดเกบ็ เพือ่ รักษาไวใหเปนมรดกของมนษุ ยชาติเชนเดียวกับการมหี อสมดุ เก็บรกั ษา หนังสือหอจดหมายเหตเุ ก็บรักษาเอกสาร หรือพพิ ธิ ภัณฑสถานเก็บรกั ษาศลิ ปวัตถุและโบราณวตั ถุ ผมู สี ายตายาวไกลผหู น่ึงคอื \"เบเลสลอว มาตุสซวิ สกี\" ชา งถา ยภาพชาวโปแลนดซ งึ่ ลงทุนตีพิมพส มุดเลมเล็ก ๆ เพ่ือเสนอขอ เรยี กรองดังกลา วน้ี เมื่อป พ.ศ. ๒๔๔๑ แตป รากฏวา เวลาผานเลยไปถึง ๓๕ ป จึงมีการจัดต้งั หนวยงานข้นึ ทาํ หนาท่ีเกบ็ รกั ษาภาพยนตรขึน้ เปน แหงแรกในโลก คอื การตงั้ หนวยงานท่ีเรยี กวา \"หอภาพยนตร (FILMARCHIVE)\" ข้นึ เปน แหง แรกท่กี รุงสตอคโฮลม ประเทศสวีเดน เม่อื ป พ.ศ. ๒๔๗๖ ซง่ึ เปน เวลาที่เกดิ ความตระหนักกันขึ้นแลว วา ฟล ม ภาพยนตรอ นั เปนสื่อวัสดุทบี่ อบบางท่ีสุดในบรรดาสื่อตาง ๆ ท่มี นษุ ยคดิ ประดิษฐขน้ึ มา ไดส ญู หายไปเปนอนั มากแลวเนอ่ื งจากการเส่อื มสภาพของฟลม เอง เพราะไมไดร ับการดแู ลรักษาการทาํ ลายหรอื ทอดทิง้ เพราะไมเ หน็ คณุ คาโดยเจา ของเองโดยเฉพาะเมอ่ื เกดิ ภาพยนตรเ สยี งขนึ้ ในป พ.ศ. ๒๔๗๐ เปนเหตใุ หม กี าร ทาํ ลายทง้ิ ฟล ม ภาพยนตรเ งยี บไปเปนจาํ นวนมากรวมท้งั การนําไปรไี ซเคิลใชเ ปนวตั ถดุ บิ ผลติ สินคา อ่ืนๆ หลงั จากนั้นไดม ีการจัดต้งั หอภาพยนตรทั้งที่เปนหนวยงานของรฐั และของเอกชนข้นึ มาทลี ะรายสองรายเปน ลาํ ดับคอื พ.ศ. ๒๔๗๗ มกี ารจดั ต้งั \"หอภาพยนตร แหงชาติ (REICHSFILMARCHIV)\" กรงุ เบอรล นิ ประเทศเยอรมัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มกี ารจัดตั้ง \"หอสมดุ ภาพยนตรแ หงชาติ (NATIONAL FILM LIBRARY)\" ที่ กรงุ ลอนดอน ประเทศอังกฤษและ \"หอสมุดภาพยนตร แหงพพิ ธิ ภณั ฑศ ิลปสมยั ใหม\" นวิ ยอรค สหรฐั อเมริกาและ เร่ิมมีการเกบ็ สะสมฟล ม ภาพยนตรในมลิ าน อติ าลี ซงึ่ ตอ มากลายเปน \"หอภาพยนตรแหง ชาติ อิตาลี (CINETECA ITALIANA)\" พ.ศ. ๒๔๗๙ มกี ารกอ ตั้ง \"หอภาพยนตรห รือภาพยนตรสถานแหงฝรัง่ เศส (CINEMATHEQUE FRANCAISE)\" ท่กี รงุ ปารีส ตอ มา ที่กรุงปารีส ในป พ.ศ. ๒๔๘๑ บรรดาหอภาพยนตรร ุนบุกเบกิ จาก ๔ เมืองคือ นวิ ยอรค เบอรล นิ ลอนดอน และปารสี ไดร ว มมือกันจดั ต้ัง \"สมาพนั ธห อภาพยนตรระหวางชาติ\" ขึ้น

วดั ไรข่ ิง วดั ไรข ิง พระอารามหลวง ต้ังอยูท่รี ิมแมนาํ้ ทา จีนหรอื เรยี กอกี ช่ือวา แมน า้ํ นครชยั ศรี ตาํ บลไรขิง อาํ เภอสามพราน จงั หวดั นครปฐม สงั กัดคณะสงฆ ฝายมหานิกาย สรางโดย \"สมเด็จพระพุทธฒาจารย (พุก)\" มหี ลวงพอวดั ไรขงิ ซ่ึงเปนพระพทุ ธรปู ปางมารวิชัยเปน พระประธาน ทช่ี าวนครปฐมเคารพ นับถือ ระหวา งวนั ขึ้น 13 ค่าํ ถงึ แรม 3 คํ่า เดือน 5 และชวงเทศการตรษุ จนี ทุกปจ ะมีงานเทศกาลนมัสการปด ทองหลวงพอ วัดไรข ิงประจาํ ป ซึง่ เปนงาน ใหญข องชาวนครปฐม เดมิ เปน วดั ราษฏร ตอมาจงึ ยกฐานะข้นึ เปนพระอารามหลวงช้นั ตรี ชนดิ สามัญ เมอ่ื วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 วัดไรขิง พระอารามหลวง หรือ วดั มงคลจินดาราม ต้ังอยูท ีอ่ าํ เภอสามพรานหางจากกรงุ เทพฯ 32 กม. มีทางเขา 3 ทาง คอื ทางแยกหนาสถานี ตาํ รวจโพธแ์ิ กว ทางแยกหนา สวนสามพราน และทางแยกพุทธมณฑลสาย 5 วดั ไรข งิ เปนวัดราษฎร สรา งเมอื่ พ.ศ. 2334 โดยสมเด็จพระพุฒาจารย (พุก) เรยี กชื่อวดั ตามช่ือตาํ บล เมือ่ สรา งเสรจ็ แลว ไดอัญเชญิ พระพทุ ธรปู จากวัดศาลาปนู มาประดษิ ฐานไวที่วัดไรขิงดว ย ปจจุบันชาวบา นเรียกกนั วา หลวงพอวดั ไรข ิง เปน พระพทุ ธรปู ปางมารวชิ ัย หนาตักกวาง 4 ศอก 2 น้วิ เศษ สงู 4 ศอก 16 น้ิวเศษ พุทธลักษณะเปน สมยั เชียงแสน สันนษิ ฐานวาเปน ฝมือชางสมัยไทยลา นนา และลานชา ง ตามตาํ นาน เลา วาลอยนาํ้ มา และอัญเชญิ ขึ้นไวท ี่วดั ศาลาปนู วัดไรข ิงนี้ สมเดจ็ พระมหาสมณเจากรมพระยาวชริ ญาณวโรรส พระราชทานนามใหว า วัดมงคลจนิ ดาราม (ไรขงิ ) แตชาวบานเรียกกันเต็ม ๆ วา วดั มงคลจินดารามไรขิง จนกระท่ังเหลือแตชอ่ื วดั ไรข ิงไป ในท่ีสุด

วัดศรีษะทอง ‘วัดศรี ษะทอง’ นับวาเปน วัดเกาแกแหง หน่งึ ในอาํ เภอนครชยั ศรี สรา งขนึ้ สมยั กรุงรตั นโกสนิ ทรต อนตน เม่ือ พ.ศ. 2358 และวดั แหง นีถ้ อื เปนศูนยร วมของชาวลาวเวียงจนั ทนแ ละชมุ ชนใกลเ คียง เนื่องจากบรเิ วณวัดศรี ษะทองเดิมเปนปารกรา งไร ผูคนอาศัย เพราะอยหู างจากแหลง นาํ้ จนในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟาจฬุ าโลกมหาราช รชั กาลท่ี 1 ไดม ีชาว ลาวจากเวยี งจันทรอ พยพมาตั้งถน่ิ ฐาน มกี ารถางปาสรางชมุ ชนขน้ึ เมือ่ มนั่ คงแลว จงึ สรา งวดั และไดพ บเศียรพระพทุ ธรูป ทองจมดินอยู จงึ ตง้ั ชอ่ื วา ‘วัดหวั ทอง’ ภายหลังมีการขดุ คลองจากแมน าํ้ ทาจีน ท่ตี ลาดตน สน เพื่อเปน ทาง เสดจ็ พระราชดําเนนิ ไปนมัสการองคพระปฐมเจดีย ประชาชนจึงยา ยมาอยูร ิมคลองเจดียบ ชู า ในการน้ไี ดยา ยวัดมาดว ยเพอ่ื สะดวกตอ การสญั จร และเปล่ยี นชอ่ื เปนวดั ศีรษะทองจนถึงปจ จบุ ันดว ยเปน วดั ท่ีมปี ระวตั ิศาสตรย าวนาน จึงมที ั้งโบราณวัตถุ และโบราณสถานสําคญั ๆ ทัง้ มกี ารศึกษาเกยี่ วกบั เร่ืองราวของดาราศาสตร โหราศาสตร และสมนุ ไพรมาต้ังแตอ ดตี หากท่ี โดง ดงั มากๆ คอื เรื่องของพระราหู ซ่ึงทางเจาอาวาส หลวงพอนอย นาวารัตน ทานเปนพระท่ฟี น ฟเู ร่อื งพระราหูขนึ้ มา จนมี ผคู นจากทวั่ ทุกสารทิศตางเขา มากราบไหวบ ชู าพระราหกู นั อยตู ลอด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook