ขนมหวาน

ผลของการพัฒนาผ้าฝ้ ายทอมือทีมีฤทธิยบั ยัง เชือแบคทเี รีย Effect of Development of Hand Woven Fabric with Anti-bacterial Activities ญาณิศา โกมลสริ ิโชค1/ Yanisa Komonsirichok1/ Abstract: The development of anti-bacterial hand woven fabrics aimed to examine the anti-bacterial properties of blended hand-woven fabrics manufactured from cotton and chitin-chitosan. Threads from cotton sourced locally in Lampang province were blended with chitin-chitosan threads as crabyon, with the micronaire of 5.38. The mass ratios of the cotton and crabyon were varied as follows: 100:0, 90:10, 80:20, 70:30, and 0:100, respectively. All these fibers were spun and traded by Medleri Charkha machine. The threads obtained Ne 5.62 – 5.94, were then woven by local loom using the structure of plain weave 1 - 1. Industrial cotton threads sized Ne 40/2 were used as filling yarn and the weaving required 40 filling yarns/inch. After the weaving process was completed, the fabric was subjected to an anti-bacterial test against Staphylococcus aureus. The unwashed and washed (for 5 times) blended woven fabric samples were tested against this bacteria for the duration of 0 and 24 hr. It was found that the blended woven fabric of all ratios showed no anti- bacterial properties. This may be due to the low quantity of crabyon in the blended woven fabric. Keywords: Anti-bacteria, yarn-blend, fabric-blend, chitin-chitosan, crabyon 1/คณะศิลปกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนาเชียงใหม่ จ. เชียงใหม่ 50300 1/Faculty of Arts and Architecture, Rajamangala University of Technology Lanna, Chiang Mai 50300, Thailand 23

วารสารการพฒั นาชุมชนและคุณภาพชวี ติ 1(1): 23-29 (2556) บทคัดย่อ: การพฒั นาผ้าฝ้ ายทอมือพืนเมืองทีมีฤทธิ ยบั ยงั เชือแบคทีเรีย มีวตั ถุประสงค์เพือ ศกึ ษาสมบตั ิของผ้าทอมือ พืนเมืองใยผสมทีผลิตจากเส้นด้ายใยผสมระหว่างเส้นใยฝ้ ายและเส้นใยไคติน-ไคโตซาน ทีมีความสามารถในการต่อต้าน และยบั ยงั เชือแบคทเี รีย โดยนาํ เส้นใยฝ้ ายพนั ธ์ุพืนเมืองของจังหวัดลําปางมาผสมกับเส้นใยไคติน-ไคโตซาน ทีมีชือการค้า ว่าแครปยอน มีค่าความละเอียดอ่อนที 5.38 โดยมีอตั ราสว่ นผสมของเส้นใยฝ้ าย : เส้นใยแครปยอน = 100 : 0, 90 : 10, 80 : 20, 70 : 30 และ 0 : 100 โดยนําหนัก ปันเป็ นเส้นด้ายด้วยเครืองเมเดลรีจักรา ได้เส้นด้ายขนาด Ne 5.62 – 5.94 เพือ ใช้เป็ นเส้นด้ายพุ่งในผ้าทอ จากนันนําไปทอด้วยกีพืนเมือง ด้วยโครงสร้างลายทอแบบลายขัด 1 - 1 ใช้เส้นด้ายฝ้ าย อตุ สาหกรรมขนาด Ne 40/2 เป็ นเส้นด้ายยืน จํานวนเส้นด้ายยืน 40 เส้นต่อนิว เมือทําการทอเป็ นผืนผ้าแล้วจงึ นําไป ทดสอบความสามารถในการยบั ยังเชือแบคทีเรีย ด้วยเชือ Staphylococcus aureus ทังผ้าทอใยผสมทีไม่ผ่านการซักล้าง และผ้าทอใยผสมทีผา่ นการซกั ล้างเป็ นจํานวน 5 ครัง เวลาทีใช้ในการทดสอบ คือ 0 และ 24 ชวั โมง พบว่าผ้าทอใยผสมทุก อตั ราสว่ นผสมไมส่ ามารถยบั ยงั เชือแบคทีเรียได้ ทงั นีอาจเนืองจากในผ้าทอมปี ริมาณเส้นใยแครปยอนทนี ้อยเกนิ ไป คาํ สําคญั : ยบั ยงั เชือแบคทีเรีย เส้นด้ายใยผสม ผ้าทอใยผสม ไคติน-ไคโตซาน แครปยอน คาํ นาํ จงึ นําเส้นใยไคติน-ไคโตซาน (chitin-chitosan) มาทําผสม กับเส้นใยฝ้ าย เพือให้เป็ นผ้าทอมือพืนเมืองทีสามารถ เส้ นใยฝ้ ายเป็ นเส้ นใยทีมีการนํามาใช้ เป็ น ยบั ยงั เชือแบคทีเรียได้ ซงึ เยาวภา (2555) จฑุ าทิพย์ และ วัตถุดิบหลักในการผลิตเป็ นเส้ นด้ ายเพือใช้ ในงาน สวุ บญุ (2552) และศนู ย์พฒั นาผลิตภัณฑ์สิงทอ รายงาน หัตถกรรมสิงทอของทางภาคเหนือเป็ นจํานวนมาก ว่า ไคโตซาน เป็ นสารโพลิเมอร์ธรรมชาติทีมีมากเป็ น เนืองจากมีคุณสมบัติในการดูดซมึ ความชืนและระบาย อนั ดับ 2 รองจากเซลลโู ลสและเป็ นอนุพนั ธ์ของไคตินที อากาศได้ดีประกอบกับมีความอ่อนน่มุ สงู ส่งผลให้ผ้สู วม สกัดได้จากเปลือกแข็งของสัตว์จําพวกกุ้ง ปู และแกน ใสร่ ู้สกึ สบาย (นวลแข, 2542; มณฑา, 2541; ลลิ ี, 2541) ปลาหมึก เป็ นต้น ซึงไคตินเป็ นโพลิเมอร์ทีเป็ นสายยาว ในปัจจุบนั วงการอุตสาหกรรมสงิ ทอได้มีการคิดค้นผ้าทอ ประกอบด้วยหน่วยย่อยทีเรียกว่าโมโนเมอร์ (monomer) ชนิดใหม่ ๆ ขึนเพือตอบสนองความต้องการของผ้บู ริโภค องค์ประกอบของหน่วยย่อยเป็ นอนุพันธ์ของนําตาล และสร้ างมูลค่าเพิมให้แก่สินค้า โดยให้สินค้าของตนมี กลโู คสทีมีชือว่า N-acetyl glucosamine ในธรรมชาติมี ความแตกต่างและโดดเด่นกว่าของผู้ผลิตรายอืน หนงึ ใน ไคตนิ และไคโตซานประกอบอยู่ในโพลิเมอร์ทีเป็ นสายยาว การสร้างความแตกต่างให้แก่สนิ ค้านันคือ การผลติ ผืนผ้า ในสัดส่วนต่าง ๆ กัน ถ้ ามีปริมาณของ glucosamine เพื อต่ อต้ านและยับยังเชื อแบคที เรี ย โดยการใช้ มากกว่า 60% ขึนไป โพลิเมอร์นันจะละลายได้ ในกรด กระบวนการตกแต่งสาํ เร็จ (finishing process) ด้วยการ อินทรีย์ ดังนันการเปลียนแปลงทางเคมีทีทําให้ ไคติน นําโลหะเงินขนาดเลก็ ทีอนภุ าคขนาดนาโน (silver nano) เปลียนเป็ นไคโตซาน คือ การลดลงของหมู่อะซิติลหรือ มาเคลอื บเส้นใย ซงึ เป็ นการตกแตง่ ผืนผ้าด้วยกระบวนการ เรียกว่า deacetylation โดยเมือมีการลดลงของหน่วยย่อย ทางเคมสี งิ ทอ ซงึ เป็ นกระบวนการทีนิยมกนั อย่างมากและ N-acetyl glucosamine ก็จะทําให้ glucosamine เพิมขนึ ใน แพร่หลาย แต่การกระทําโดยกระบวนการดังกลา่ วนีเมือ ปริมาณทีเท่ากนั ซึงก็คือการเปลียนไคตินให้เป็ นไคโตซาน ผืนผ้าผ่านการซักทําความสะอาดหลาย ๆ ครัง ผืนผ้าจะ โดยธรรมชาติไคตินไม่ละลายในนําและกรดอินทรีย์ทวั ไป ลดการต่อต้านและยบั ยงั เชือแบคทีเรียลงและไม่เหมาะกับ สว่ นไคโตซานสามารถละลายได้ในกรดอินทรีย์หลายชนิด การผลติ ในระบบหัตถกรรมซึงใช้เส้นใยฝ้ ายเป็ น และสามารถเปลยี นกลบั คนื สภาพเดมิ ได้ เป็ นโพลเิ มอร์ทีมี วตั ถดุ ิบหลกั ในการผลติ เป็ นเส้นด้ายและผืนผ้า ดงั นัน ประจุบวก และเป็ นสารละลายมีลกั ษณะเหนียวสามารถ แนวทางในการผลติ ผ้าฝ้ ายทอมือให้มีความแปลกใหม่ ขนึ รูปได้หลายรูปแบบ เช่น เป็ นเม็ด แผ่นฟิ ล์ม สารละลาย และสามารถทาํ ได้เองในระบบการผลติ แบบหัตถกรรม เส้นใย เป็ นต้น ซึงจากคุณสมบัติดังกล่าวสามารถนํา 24

ผลของการพัฒนาผ้าฝ้ ายทอมอื ทีมีฤทธยิ ับยังเชอื แบคทเี รีย ไคโตซานมาประยุกต์ใช้ได้หลากหลายด้าน เช่น ด้านสงิ ทอ วัตถปุ ระสงค์การวจิ ยั โดยในรูปของสารละลาย สามารถนํามาเคลอื บเส้นใยเพือ 1. เพือศึกษาสมบัติของผ้ าทอมือพืนเมือง เพิมคณุ สมบัติในการต้านจุลชีพ ทังจุลนิ ทรีย์ ไวรัส ยีสต์ และเชือรา รวมถึงทําให้เส้นใยติด สีย้อมได้ดีกว่าเส้นใย ใยผสมทีผลติ จากเส้นด้ายใยผสมระหว่างเส้นใยฝ้ ายและ ทวั ไป ในขณะทีหากอย่ใู นรูปของเส้นใยนนั สามารถนํามา เส้นใยไคติน-ไคโตซาน ทีมีประสทิ ธิภาพในการยับยงั เชือ ปันรวมกับเส้นใยโพลิเอสเทอร์ ซงึ จะทําให้มีสมบตั ิพิเศษ แบคทีเรีย ในการยับยังการเจริญเติบโตของเชือแบคทีเรีย ทําให้ลด กลินอับบนเสือผ้าได้ โดยกลไกการยับยังจุลินทรีย์ของ 2. เพือทดสอบหาความสามารถในการยับยัง ไคโตซานอาจเกดิ จากหลายกลไก เชน่ เชือแบคทีเรียของผ้าทอมอื ใยผสม - หมู่อะมิโนของไคโตซานสามารถดูดซับ วธิ ีดาํ เนนิ การวจิ ัย สารอาหารและอิออนของโลหะทีเป็ นประโยชน์ต่อการ เจริญของจุลินทรีย์ จึงสามารถลดอัตราการเจริญหรือ 1. ผลติ เส้นด้ายใยผสมเพือใช้เป็ นเส้นด้ายพุ่ง ยบั ยงั การเจริญของจลุ นิ ทรีย์ได้ โดยมีอตั ราสว่ นผสมระหว่างเส้นใยฝ้ ายและเส้นใยไคติน- ไคโตซาน ทีมีชือการค้าว่า “แครปยอน” ในอตั ราส่วนผสม - ไคโตซานสามารถเกิดเป็ นสารประกอบที ดังนี No.1 = 100 : 0, No. 2 = 90 : 10, No. 3 = 80 : 20, ซบั ซ้อนบริเวณผิวหน้าของผนงั เซลล์จุลินทรีย์ โดยก่อตัว No. 4 = 70 : 30 และ No. 5 = 0 : 100 โดยนาํ หนกั เป็ นชันบาง ๆ รอบเซลล์ ขดั ขวางการสง่ ผ่านสารอาหารที จาํ เป็ นต่อการเจริญของจลุ ินทรีย์เข้าส่ภู ายในเซลล์ ทําให้ 2. ผสมเส้นใยด้วยเครืองตีฟูเส้นใยฝ้ ายระดับ คณุ สมบตั ิการเลอื กผา่ นของเซลลส์ ญู เสยี ไป ครวั เรือน - โพลเิ มอร์ประจุบวกของไคโตซานสามารถเกิด 3. ปั นเส้ นด้ ายด้ วยกรรมวิธีการปั นมือด้ วย แรงกระทํากบั ประจลุ บของผนังเซลล์จุลินทรีย์ ทําให้เกิด เครืองเมเดลรีจกั รา การเปลยี นโครงสร้างของผนงั เซลล์จุลินทรีย์ สง่ ผลให้ผนัง เซลล์เกิดความเสยี หาย 4. ทดสอบหาขนาดของเส้นด้ายในระบบด้าย ฝ้ ายองั กฤษ (English cotton count) - ไคโตซานสามารถเข้ าไปรบกวนระบบและ กลไกการทาํ งานของเอนไซม์ภายในผนงั เซลล์จลุ นิ ทรีย์ให้ 5. ทอเป็ นผืนผ้าด้วยกีพืนเมือง จํานวน 5 ผืน ผดิ ปกติ โดยใช้เส้นด้ายยืนเป็ นเส้นด้ายฝ้ ายอุตสาหกรรมขนาด 40/2 โครงสร้างผ้าทอลายขดั 1-1 ฟันหวีเบอร์ 40 จํานวน เส้นด้ายยนื 40 เส้น/นวิ เส้นด้ายพุ่งเป็ นเส้นด้ายใยผสมใน แตล่ ะอตั ราสว่ นผสมดงั ในตารางที 1 Tabel 1 The ratios of mixed yarn between cotton : crabyon for weft yarn Sample The ratios of mixed yarn between cotton : crabyon for weft yarn No. 1 100 : 0 No. 2 90 : 10 No. 3 80 : 20 No. 4 70 : 30 No. 5 0 : 100 25

วารสารการพฒั นาชมุ ชนและคุณภาพชวี ติ 1(1): 23-29 (2556) 6. ทดสอบหาอัตราสว่ นผสมของผ้าทอใยผสม B = the number of bacteria recovered from ระหว่างเส้นใยฝ้ ายและเส้นใยแครปยอน ตามมาตรฐาน the inoculated treated test specimen JIS L 1030-2 : 2005 (mixture ratio based on corrected swab on the agar immediately after mass) inoculation (at “0” contact time) 7. ทดสอบการยบั ยงั เชือแบคทีเรียของผ้าทอใย ผลการวจิ ยั ผสมก่อนการซักล้างและหลังการซักล้างจํานวน 5 ครัง ตามมาตรฐาน AATCC Test Method 100-2004 : 1. การทดสอบหาขนาดของเส้นด้ ายใยผสม Assessment of Antibacterial Finishes on Textile ด้วยระบบเบอร์ด้ายฝ้ ายขององั กฤษ ให้ผลตามตารางที 2 Materials ซึงเป็ นการทดสอบเชิงปริมาณเพือประเมิน อตั ราการเจริญเติบโตของเชือแบคทีเรียบนผืนผ้าขนาด จากตารางที 2 พบว่าการปั นเส้ นด้ ายด้ วย เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 48 ± 1 มิลลเิ มตร ที 0 และ 24 กรรมวิธี ปั นมือด้ วยเครื องเมเดลรี จักราสามารถควบคุม ชวั โมง ทีอณุ หภูมิ 37 ± 2 องศาเซลเซียส โดยเชือทีใช้ คือ ขนาดของเส้นด้ายให้มีขนาดทีใกล้เคียงกันได้ คือ มีขนาด Staphylococcus aureus, American Type Culture ระหวา่ ง Ne 5.62 - Ne 5.94 Collection No.6538 (ATCC 6538) ซึงเป็ น gram positive organism (เนืองจากเชือ S. aureus จะเป็ นเชือที 2. ผลการทดสอบหาอตั ราส่วนผสมของผ้าทอ พบอยู่ตามทางเดินหายใจ ลาํ คอ เส้นผมและผิวหนังถึง ใยผสมระหว่างเส้นใยฝ้ ายและเส้นใยแคลปยอน ตาม ร้ อยละ 50 หรือมากกว่า) จากนันทดสอบโดยวางชิน มาตรฐาน JIS L 1030-2 : 2005 ให้ผลตามตารางที 3 ทดสอบบนจานเพาะเชือทีผ่านการฆ่าเชือแล้วให้ดดู ซับ สารละลายทมี เี ชอื แบคทเี รียจากชินทดสอบและหาจํานวน จากตารางที 3 พบว่าผ้าทอ No. 3 มีอัตราสว่ น โคโลนีของแบคทีเรียโดยการคํานวณเป็ นค่าร้อยละจาก ของเส้นใยแครปยอนใกล้เคียงกับผ้าทอ No. 2 สาเหตุที สตู ร เป็ นเช่นนีเนอื งจากในขนั ตอนการผสมเส้นใยเพือให้เส้นใย ฝ้ ายและเส้นใยแครปยอนเข้ากนั นนั เส้นใยทงั 2 ชนิดยัง 100 (B-A) = R ไม่กระจายตวั เข้ากนั ได้ดีกอ่ นทจี ะนํามาปันเป็ นเส้นด้าย เมอื R = % reduction 3. การทดสอบความสามารถในการยับยังเชือ A = the number of bacteria recovered from แบคทีเรีย ด้วยเชือ S. aureus โดยทําการเปรียบเทียบ the inoculated treated test specimen ระหว่างผ้าทอทีไม่ผ่านการซกั ล้างกับผ้าทอทีผ่านการซัก swab on the agar incubated over the ล้างจํานวน 5 ครัง ให้ผลตามภาพที 1 และตารางที 4 desired contact period SD CV Table 2 Results for number of yarns 0.624 0.389 0.439 0.193 Sample Number of yarns (Ne) 0.503 0.253 No.1 5.94 0.603 0.363 No.2 5.86 0.478 0.229 No.3 5.62 No.4 5.74 No.5 5.74 26

ผลของการพฒั นาผ้าฝ้ ายทอมอื ทีมีฤทธยิ ับยังเชอื แบคทเี รีย Table 3 Result of the ratios of mixed fabric between cotton : crabyon Sample The ratios of mixed yarn between The ratios of mixed fabric between cotton : crabyon cotton : crabyon No. 1 100 : 0 100 : 0 No. 2 90 : 10 88.66 : 11.34 ~ 89 : 11 No. 3 80 : 20 87.75 : 12.25 ~ 88 : 12 No. 4 70 : 30 78.80 : 21.20 ~79 : 21 No. 5 0 : 100 54.81 45.19 ~ 55 : 45 Sample The number of bacteria on unwashed fabric The number of bacteria on washed fabric No. 1 No. 2 No. 3 No. 4 No. 5 Figure 1 The number of bacteria for mixed fabric on unwashed and on washed fabrics at 24 hours 27

วารสารการพัฒนาชมุ ชนและคุณภาพชีวติ 1(1): 23-29 (2556) Table 4 Result of anti-bacteria activities Test The number of The number of % bacteria bacteria CFU/Sample Reduction Microorganisms Sample CFU/Sample (0 h) (24 h) 0 Staphylococcus No.1 before washed 1.9 x 106 >3.0 x 106 0 aureus No.2 before washed 1.9 x 106 >3.0 x 106 0 No.3 before washed 1.9 x 106 >3.0 x 106 0 No.4 before washed 1.9 x 106 >3.0 x 106 0 No.5 before washed 1.9 x 106 >3.0 x 106 0 No.1 after washed 2.1 x 106 >3.0 x 106 0 No.2 after washed 2.1 x 106 >3.0 x 106 0 No.3 after washed 2.1 x 106 2.6 x 106 19.04 No.4 after washed 2.1 x 106 1.7 x 106 0 No.5 after washed 2.1 x 106 >3.0 x 106 จากภาพที 1 และตารางที 4 พบว่า ผ้าทอทีไม่ มวี ตั ถุประสงค์ เพือศึกษาสมบัติของผ้าทอมือพืนเมืองใย ผ่านการซักล้าง No. 1 - No. 5 ทีเวลาในการทดสอบ 0 ผสมทีผลิตจากเส้นด้ายใยผสมระหว่างเส้นใยฝ้ ายและ ชวั โมง มีจํานวนเชือแบคทีเรียจํานวน 1.9 x 106 และเมือ เส้นใยไคตนิ -ไคโตซาน ทีมีความสามารถในการยบั ยังเชือ ทดสอบเป็ นเวลา 24 ชัวโมง มีจํานวนเชือแบคทีเรีย แบคทเี รีย โดยนําเส้นใยฝ้ ายพนั ธ์ุพนื เมืองทีปลกู ในจงั หวัด มากกว่า 3.0 x 106 สว่ นผ้าทอทีผ่านการซักล้าง No. 1 - ลาํ ปางมาผสมกบั เส้นใยไคติน-ไคโตซาน ทีมีชือการค้าว่า No. 5 ทีเวลาในการทดสอบ 0 ชัวโมง มีจํานวนเชือ แครปยอน โดยเส้นใยฝ้ ายมีค่าความละเอียดอ่อนที 5.92 แบคทีเรียจํานวน 2.1 x 106 และเมือทดสอบเป็ นเวลา 24 สว่ นเส้นใยแครปยอนมีค่าความละเอียดอ่อนที 5.38 ซึง ชัวโมง ผ้าทอ No. 1, No. 2 และ No. 5 มีจํานวนเชือ วิจารณ์ (2545) รายงานว่าเป็ นค่าความละเอียดอ่อนที มากกว่า 3.0 x 106 ผ้าทอ No. 3 มีจํานวนเชือแบคทีเรีย หยาบ ใกล้เคยี งกนั แล้วปันเป็ นเส้นด้ายด้วยเครืองสําหรับ 2.6 x 106 และผ้าทอ No. 4 มีจํานวนเชือแบคทีเรีย 1.7 x ใช้เป็ นเส้นด้ายพ่งุ ในผ้าทอ โดยมีอัตราส่วนผสมของเส้น 106 โดยที % Reduction ของผ้าทอใยผสมทุกผืนไม่ ใยฝ้ าย : เส้นใยแครปยอน = 100 : 0, 90 : 10, 80 : 20, สามารถยับยังเชือแบคทีเรียได้ เนืองจากเมือผ่านการ 70 : 30 และ 0 : 100 โดยนาํ หนกั เมือปันเป็ นเส้นด้ายแล้ว ทดสอบเป็ นเวลา 24 ชวั โมง จํานวนเชือแบคทีเรียจะเพิม ทําการทดสอบหาขนาดของเส้นด้ าย โดยขนาดของ มากขนึ ยกเว้นผ้าทอ No. 4 ทมี ีจาํ นวนเชือแบคทีเรียลดลง เส้นด้ายใยผสมทงั 5 อัตราสว่ น มีขนาด Ne 5.62-5.94 ซึง 19.04% จดั เป็ นขนาดของเส้นด้ายทีใกล้เคียงกัน จากนันนําไปทอ ด้วยกีพืนเมือง โครงสร้ างผ้าทอลายขัด 1-1 ใช้เส้นด้าย สรุปและอภปิ รายผลการวจิ ยั ฝ้ ายอุตสาหกรรมขนาด Ne 40/2 เป็ นเส้นด้ายยืน จํานวน เส้นด้ายยืน 40 เส้น/นวิ เมือทําการทอเป็ นผืนผ้าเรียบร้อย การดําเนินโครงการวิจัย เรือง การพัฒนาผ้ า จึงนําไปทดสอบหาจํานวนเส้นด้ายยืนและเส้นด้ายพ่งุ ใน ฝ้ ายททออมมอื ือพพนื ืนเมเมอื ืองเงพเพือตืออ่ตต่อ้าตน้าแนลแะลยะบั ยยับงั เยชังือเแชบือคแทบเี ครียทีเมรียี 1 นิว ทดสอบหาอัตราส่วนผสมของผ้าทอใยผสม ตาม . 28

ผลของการพัฒนาผ้าฝ้ ายทอมอื ทีมีฤทธยิ ับยังเชือแบคทเี รีย มาตรฐาน JIS L 1030-2 : 2005 และทดสอบ คณุ สิทธิโชติ วงศ์คณุ านนั ต์ ทีสนบั สนุนเส้นใยแครปยอน ความสามารถในการต่อต้ านและยับยังเชือแบคทีเรีย เพือใช้ ในการวิจัย ขอขอบคุณกลุ่มทอผ้ าบ้ านนาเดา ด้วยเชือ S. aureus ตามมาตรฐาน AATCC Test จังหวัดลําปาง ทีให้ ความอนุเคราะห์ในการผลิตผืนผ้ า Method 100-2004: Assessment of Antibacterial ขอขอบคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์ปิ ยนุช จริงจิตร และ Finishes on Textile Materials โดยเป็ นการทดสอบเชิง คณุ สราวธุ อินสวุ รรณ ทใี ห้คําแนะนาํ ทเี ป็ นประโยชน์อย่าง ปริมาณ เพือประเมินอัตราการเจริญเติบโตของเชือ ยิงในการดําเนินโครงการจนกระทังสามารถดําเนิน แบคทีเรียที 0 และที 24 ชัวโมง พบว่าผ้าทอใยผสมทุก โครงการจนสาํ เร็จลลุ ว่ งด้วยดี อตั ราสว่ นผสมไมส่ ามารถยบั ยงั เชือแบคทีเรียได้ เนืองจาก เมือนําผ้ าทอใยผสมไปทําการทดสอบความสามารถใน เอกสารอ้างองิ การยับยงั เชือแบคทีเรีย ทังผ้าทอใยผสมทีไม่ผ่านการซัก ล้างและผ้าทอใยผสมทีผ่านการซักล้างเป็ นจํานวน 5 ครัง จฑุ าทิพย์ ฟังกงั วานวงศ์ และ สวุ บญุ จิรชาญชยั . 2552. ที 0 และ 24 ชัวโมง จํานวนเชือแบคทีเรียทีพบมีแนวโน้ม การทาํ เส้นใยไคติน-ไคโตซาน. (ระบบออนไลน์). ในการเจริ ญเติบโตเพิมมากขึนบนผ้ าทอใยผสมทุกผื น แหลง่ ข้อมลู : http://www.material.chula.ac.th/ ดังนัน ผ้ าฝ้ ายทอมือพืนเมืองทีมีส่วนผสมของเส้นใย RADIO47/May/radio5-3.htm (20 เมษายน แครปยอนจงึ ไม่สามารถยบั ยงั เชือแบคทีเรียได้ เนืองจาก 2555). อตั ราส่วนผสมของเส้นใยแครปยอนมีจํานวนน้อยเกินไป ถงึ แม้ว่าผ้าทอ No. 4 ทีผ่านการซักล้างจะมีจํานวนเชือ นวลแข ปาลิวนิช. 2542. ความรู้เรืองผ้าและเส้นใย. เม็ดทราย แบคทีเรียลดลง 19.04% ก็เป็ นการลดลงเพียงเล็กน้อย พรินติง,กรุงเทพฯ.350หน้า. เท่านัน ซึงจากรายงานการศึกษาของสิทธิโชติ (2551) เรื อง การศึกษาผ้ าถักทีมีคุณสมบัติยับยังการเกิด มณฑา จนั ทร์เกตเุ ลยี ด. 2541. วิทยาศาสตร์สงิ ทอเบอื งต้น. แบคทีเรียได้รายงานว่า สามารถผลิตผ้าถกั จากเส้นใยฝ้ าย หอรตั นชยั การพิมพ์, กรุงเทพฯ. 330 หน้า. ทียบั ยงั เชือแบคทเี รียได้โดยมีเส้นใย แครปยอนผสมอยู่ใน ปริมาณ 73% แต่ในการวิจัยครังนีมีเส้นใยแครปยอนผสม เยาวภา สวุ ตั ถิ. 2555. ไคโตซานกบั การยบั ยังเชือจุลนิ ทรีย์. อย่ใู นผ้าฝ้ ายทอมือพนื เมืองสงู สดุ เพียง 45% เท่านนั หาก (ระบบออนไลน์).แหล่งข้อมลู : http://www. gpo.or.th/ เพิมปริมาณของเส้นใยแครปยอนเป็ น 73% จะทําให้ rdi/html/RDINewsYr19No4/1.pdf (20 พฤษภาคม คุณลักษณะเฉพาะของผ้ าฝ้ ายทอมือพืนเมืองหายไป 2556). ประกอบกับเมือปริ มาณของเส้ นใยแครปยอนมีน้ อยจึง สง่ ผลให้ประจบุ วกของเส้นใยแครปยอนมีจํานวนน้อยตาม ลิลี โกศัยยานนท์. 2541. คู่มือวิชาการสิงทอ. สถาบัน ไปด้วย ทําให้ไม่สามารถเกิดแรงกระทํากบั ประจุลบของ พฒั นาอตุ สาหกรรมสงิ ทอ, กรุงเทพฯ. 333 หน้า. ผนงั เซลล์แบคทีเรียจนถึงจุดทีทําให้เกิดการเปลยี นแปลง ของผนังเซลล์แบคทีเรีย ส่งผลให้ ผนังเซลล์ไม่เกิดการ วิจารณ์ โภชนกุล. 2545. วิจัยคุณภาพฝ้ ายไทย. ส่วน เสยี หายจงึ ไม่สามรถยบั ยงั เชอื แบคทเี รียได้ อุตสาหกรรมสิงทอ สํานักพฒั นาอตุ สาหกรรม รายสาขา กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวง กิตตกิ รรมประกาศ อตุ สาหกรรม, กรุงเทพฯ. 126 หน้า. ขอขอบคุณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์สงิ ทอ. ต้านแบคทีเรียร้ายไม่ให้มา ล้านนา ภาคพายัพ เชียงใหม่ ทีให้ การสนับสนุนงบ กวนใจ. (ระบบออนไลน์). แหลง่ ข้อมลู : http://www. ประมาณในการดําเนินงานวิจัยในครังนี ขอขอบคุณ Thaitextile.org/tdc/?page_id=661 (20 พฤษภาคม 2556). สทิ ธิโชติ วงศ์คณุ านนั ต์.2551. การศึกษาผ้าถักทีมีคณุ สมบตั ิ ยับยังการเกิดแบคทีเรีย. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร มหาบัณฑิต. มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล กรุงเทพ, กรุงเทพฯ. 80 หน้ า. 29